บ้านพักอลเวง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านพักอลเวง  (อ่าน 399503 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #210 เมื่อ09-12-2006 19:19:37 »

 หลายๆคนคงสมหวังแล้วนะครับ  :myeye:

*********************************************************************************************************



.
“ พี่ๆ ทำไมวันนี้ร้านเปิดน้อยจัง ” ผมยืนเลือก RAM ตัวนึงอยู่ พลางมองไปรอบๆห้าง
เห็นปิดหลายร้านเลยทีเดียว ไอ้ร้านที่มาประจำก็ดันไม่เปิดอีก


“อ้อน้อง ... วันนี้ส่วนมากเค้าก็อยู่กับครอบครัวกันทั้งนั้นล่ะ เดี๋ยวเย็นๆน่ะ น้อยกว่านี้อีก” พี่เค้าว่า
ไม่รู้ว่าที่พูดนี่ เพราะต้องการกั๊กให้ผมรีบซื้อร้านของแกเหรอเปล่า


“อืม ก็เจง ผมพูดเบาๆ - - ว่าแต่ตัวนี้ลดอีกไม่ได้เหรอพี่”


พี่แกส่ายหัวทำหน้าบูด จนผมต้องรีบถอยห่างจากร้านด้วยความไว


ไรว้า ของก็ไม่ได้ แล้วงี้จะไปเดินไหนดีวะ - - เดินคนเดียวซะด้วย ผมคิดในใจเดินคอตกจากพันทิพย์
เรื่อยมาจนถึงหน้าเวิร์ดเทรด ถ้าให้ทายกันเล่นๆ ผมจะมองอะไรก็คงรู้ๆกันอยู่ใช่มั้ย (อะไรนะ ไม่รู้เหรอ !
แง่งงง )


ผมมาที่นี่ทีไร ก็มักจะหยุดยืนดูพระตรีมูรติทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ พอผมเดินผ่าน กลับคิดถึงไอ้โค้กขึ้นมา
อย่างจับใจ .... ทั้งๆที่เมื่อก่อนรู้สึกอึดอัดจะตาย เวลาจะไปไหนมาไหนที มันก็มักจะตามต้อยๆไปด้วย
บอกว่าอยากมาเดินคนเดียวมั่ง มันก็ยังอุตสาห์ตามมาทุกที


.... เป็นไงล่ะ ได้มาคนเดียวสมใจนึกบางลำพูแล้วนี่มึง... ไอ้ปริ้น


ผมเดินเรื่อยเปื่อยเข้าไปในเวิร์ดเทรด ซื้อของจุกจิกนิดหน่อย แล้วก็เดินต่อมาโดยที่นึกได้ว่ายังไม่ได้
หาอะไรกระแทกปากมื้อกลางวันเลย ดูนาฬิกาข้อมือ เกือบจะบ่ายสามแล้ว ขาก็หยุดก้าวตรงข้างหน้า
ที่ก่อสร้างสยามพาราเกย์พอดี ฝุ่นฟุ้งชิบเป๋ง บอกว่าจะเปิดปลายปีหน้า จะทันเหรอวะเนี่ย
ผมคิดแล้วก็มองข้ามไปฝั่งสยาม


MK (คิดอะไรไม่ออกก็เอ็มเค)


พอผมก้าวเข้าไปในร้านปุ๊บ ก็แทบอยากจะเดินออกนอกร้านกันเลยทีเดียว เพราะว่าวันนี้มีคู่พ่อลูก
ทั้งพ่อแม่ลูก บลาๆ มากันแทบแน่นร้าน พอดีกับที่พนักงานสาวเดินมาถามพอดี


“สวัสดีค่ะ ... มากี่ที่คะ” เธอถาม


ผมหันกลับไปมองข้างหลังสองสามวิฯเพื่อให้แน่ใจว่า ตัวเองมาคนเดียว แล้วก็ยกนิ้วขึ้นมา หนึ่งนิ้ว


“อ่อ คะ รอซักครู่นะคะ ” เธอบอก ซักพัก ก็มีกลุ่มพ่อแม่ลูกเดินกันมาต่อข้างหลังผม หัวเราะกันดูชื่นมื่น
น่าอิจฉากันไปมา


“ขอโทษคะ พี่คะ ” เสียงพนักงานสาวทำเอาผมที่ยืนมองครอบครัวข้างหลังสะดุ้งเล็กน้อย


“ครับ”


“คือ.. ขออภัยนะคะ ขอรบกวนรอซักครู่นะคะ พอดีทางด้านนี้มาเป็นครอบครัวนะคะ” เธอบอกกับผมหน้าเจือนๆ

ผมก็หันไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง


“อ่อ .. ไม่เป็นไรครับ เชิญก่อนเลย ” ผมพูดพลางยิ้มให้ ครอบครัวที่มาทีหลังแต่ได้เข้าไปกินก่อน กล่าวขอบคุณผมแล้วก็เดินเข้าไปข้างใน


ผมยิ้มขำๆให้กับตัวเอง ..... ช่วยไม่ได้นี่นา ถ้าผมมากับป๊า ก็คงได้เข้าไปนั่งแล้ว ...ใช่มั้ย แต่ทางร้านก็ไม่ปล่อย
ให้ผมยืนรออยู่นานหรอก ซักพัก ผมก็ได้เข้าไปนั่งอยู่ริมในสุดของชั้นสอง อาจเป็นเพราะว่ามานั่งกินคนเดียว
เลยรู้สึกเหมือนมีสายตามองผมแปลกๆ (ซึ่งก็คงคิดไปเอง) นั่งปุ๊บ ก็สั่งอาหารจานเดียวตามปกติ ผมเปิดเมนูไป
เรื่อยๆ


โอ้ว .. มีเมนูพิเศษสำหรับคุณพ่อด้วย ..... แล้วก็ได้แต่เปิดข้ามไป เพราะว่าผมสั่งก็คงกินไม่หมดอยู่ดี


ติ้ด ตี้ดดดด ตี้ดดด ติ้ด ตี้ดดดด ตี้ดดด (จริงๆเสียงเรียกเข้าหรูกว่านี้ แต่ไม่รู้จะพิมพ์ไงดี :D)


“โหล..”


“คับผม - - อยู่ไหนเนี่ย” ไอ้โค้กโทรมาหาผมคับ ดีจัง อย่างน้อย ผมก็ไม่ต้องนั่งรอเป็ดย่างเฉยๆอยู่คนเดียว


“แถวสยามกะลังจะกินข้าวกลางวันอ่ะ” ผมตอบเสียงเนือยๆ


“อ้าว แล้วกินกะใคร” มันถามเสียงติดไม่ค่อยพอใจเล็กๆ


“คนเดียว”


“ห่ะ .. คนเดียว”


“อืม คนเดียว”


“กินเอ็มเคอ่ะดิ”


“ห่ะ ห่ะ รู้ได้ไง ” ผมรู้สึกดีใจเล็กๆ ที่มันเดาถูก


“ก็ไม่เห็นปริ้นจะเปลี่ยนไปกินอย่างอื่นบ้างนี่นา ไปสยามทีไรก็กินเอ็มเคๆ แถมสั่งแต่เป็ดย่างๆ
จนหน้าจะเป็นเป็ดอยู่แระ” มันหัวเราะ


“เออหว่ะ เซ็งเป็ดเลย 555” ผมทำเป็นหัวเราะตาม แต่ในใจคิดกูม่ะขำวุ้ย


“แล้วนี่ไหว้พ่อเหรอยังเนี่ย” ผมยังอดถามไม่ได้


“เรียบร้อยแล้วค๊าบ ตั้งแต่ไก่โห่แระ ”มันว่าดูทำเสียงภูมิใจจนอดหมั่นไส้ไม่ได้


ติ้ด ติ้ด ตี้ด


“เฮ้ย แบตจะหมดหว่ะ โค้ก” ผมพูดยังไม่ทันขาดคำ มือถือก็ดับไปในทันที ผมกะว่าจะเปลี่ยนแบต
มาหลายทีแล้วนะเนี่ย เหมือนแบตมันจะเสื่อมแล้ว ผมถอนหายใจ แล้วก็วางมือถือลง พร้อมๆกับ
ถาดหมี่หยกเป็ดย่างมาวางเสิร์ฟที่ด้านหน้า


“จะรับน้ำอะไรมั้ยคะ”


“อ่อ ยังคับ” ผมพูดเสร็จ ก็ค่อยๆเริ่มคีบบะหมี่ลงถ้วยเล็ก แล้วก็คนมันอยู่นั่นแหละ รู้สึกจิตใจไม่อยู่
กับเนื้อกับตัวเลยจริงๆ มองไปรอบด้านก็รู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยก


ตอนนี้ ผมอยากกลับบ้านจัง... ถึงบ้านจะยังไม่มีป๊าอยู่ แต่ที่บ้านก็มีคนที่เข้าใจผม - - ทำไมผมถึง
เลือกมาอยู่ที่นี่นะ ที่ๆมองไปรอบด้านก็ไม่มีใคร .... มีแต่ภาพที่คอยตอกย้ำให้รู้สึกเจ็บปวด


แดกให้หมดๆ จะได้รีบกลับ ตอนนั้นผมคิดแบบนั้นจริงๆ ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า เรื่องแค่นี้
มันเป็นแค่เรื่องขี้ปะติ๋วสำหรับตัวเองเหลือเกิน ไม่มีวันหรอกที่ผมจะมาคิดเล็กคิดน้อยทำให้ตัวเอง
รู้สึกมีปมด้อยที่ขาดป๊า


แต่พอเมื่อถึงเวลาจุดๆหนึ่ง ผมก็อธิบายไม่ได้ ว่าทำไม .... ถึงรู้สึกแบบนี้


1 ชั่วโมงผ่านไป ทำไมของกินมันถึงไม่พร่องเท่าไรเลยวะ ผมขมวดคิ้ว แล้วก็ทำท่าจะคีบเป็ด
มาใส่จานอีกสามชิ้นใหญ่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเด็กตัวเล็กๆส่งเสียงคุยอยู่ที่โต๊ะด้านหลัง


“ป้อคับ ป้อ .... ไหนป้อจะพาต้นไปทะเลงายยยย” เสียงเด็กตัดพ้อพ่อตัวเอง


“... ต้นม่ายยอยากกินแล้ว จาไปทะเล จาไปทะเล” ไอ้เด็กเวนนั่นเริ่มงอแง


ผมรู้สึกว่ามือตัวเองกำตะเกียบแน่น ... ยะ หยุดนะว้อย ไอ้เด็กบ้า เลิกเอาแต่ใจตัวเองซะที


“จาไปทะเล จาไปทะเล .... ” ตุ๊บ ตุ๊บ - -


“น้องต้น อย่าไปทุบพ่อแบบนั้นซิคับ” เสียงแม่เด็กบ่นให้ได้ยิน


“- - ม่ายยกิน ต้นม่ายยกินแล้ว” ตุ๊บ ตุ๊บ


มือที่กำตะเกือบผมเริ่มสั่นน้อยๆ


ไอ้เด็กบ้า ... หยุดทุบซะที หยุดทุบพ่อเมิงเด๋วนี้นะ - - หยุด ทุบพ่อเด๋วนี้นะ ไม่คิดว่าพ่อเมิงจะ
เจ็บมั่งเหรอไง หัวใจผมรู้สึกปั่นป่วนไปหมด


“น้องต้น อย่าดื้อซิครับ .. เอานะ กินก่อน แล้วเดี๋ยวพ่อจะพาไปทะเลน้า” เสียงพ่อที่ตอบไอ้เด็กนั่น
อ่อนโยน โดยไม่มีท่าทีจะโกรธเคืองใดๆ


“มาม่ะ กินอีกคำเดียว พ่อสัญญาว่าจะพาไปเที่ยวทะเลนะ”


ตึ๊ก ตึก .... ตึ๊ก ตึก ..... ตึ๊ก ตึก


ผมรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างอุ่นๆที่ขอบตาของตัวเอง


“จริงน้า ... ป้อจาไปทะเลแล้ว เย้ เย้ ” เสียงไอ้เด็กคนนั้นพูดอย่างดีใจ “- - ป้อสานยาแล้วน้า ต้นรักป้อค๊าบ ”


“ครับ พ่อสัญญาครับ เราจะไปเที่ยวทะเลกันนะ น้องต้น แม่น้องต้น แล้วก็พ่อน้องต้นด้วย” ผู้เป็นพ่อพูดด้วย
เสียงสนุกสนาน


“ ไหนป๊าบอกว่า เราสามคนจะไปเที่ยวทะเลกันไง - - นะ - - ไหนป๊าบอกว่า อยากจะพาแม่ กับปริ้นไป
เล่นน้ำกันไง - -”


“ป๊าคับ ... - -” ผมพูดได้แค่นั้น น้ำตาก็หยดลงมาเป็นสาย ฮึก ฮึก ... ไม่ไหว โตเป็นควายแล้ว โตแล้วแท้ๆ
ยังมานั่งร้องไห้คิดถึงพ่อเป็นเด็กอยู่ได้


“ฮึก ฮึก....”


ถ้าผมรู้ว่าเวลาที่เหลืออยู่ของเราสามคนมันน้อยขนาดนี้ ผมคงไปเรียนที่ป๊ากับแม่ทำงานอยู่ช่วง
ม.ปลายแล้ว .... แต่ตอนนี้ มันคงไม่มีประโยชน์แม้แต่จะคิดแล้ว


เพลงที่เปิดบรรเลงภายในร้านในยามนี้ มันคงน่าฟังสำหรับหลายๆคน แต่คงไม่ใช่สำหรับผม
ที่ดูช่างแผกแยกไปจากคนอื่นๆ


ผมแอบปาดน้ำตาที่ไหลลงไปในชามที่ใส่เป็ดย่างซะหลายหยดให้หมดไปก่อนที่จะมีใครสังเกต
เห็น ไม่ไหวแล้วอ่ะ กินไม่ไหวแล้ว


“น้ำส้มปั่นที่สั่งได้แล้วคะ” พนักงานสาววางแก้วน้ำส้มปั่นไว้ที่คำหน้า ทำเอาผมรีบท้วงแทบไม่ทัน


“เออ ผมไม่ได้สั่งนะครับ” รู้สึกอายหน่อยๆเพราะว่าเสียงที่พูดออกไปมันแหบๆเหมือนกำลังร้องไห้


“ปกติก็เห็นสั่งด้วยม่ะใช่เหรอคับ” เสียงใครคนนึงพูดขึ้นมา พร้อมกับมืออุ่นๆมาวางบนหัวผม
มือไวเท่าความคิด ผมรีบคว้าไปที่กล่องทิชชู่แล้วรีบทำเนียนเป็นซับเหงื่อ (แต่จริงๆมาเช็ดน้ำตา)


“เด๋วขอหมี่หยกอีกสองก้อนนะพี่ แล้วก็ขอน้ำเป็ดเพิ่มด้วยคับ” มันสั่งของกินพนักงานเพิ่มแล้วก็
เดินมานั่งฝั่งตรงกันข้าม


“บอกให้กลับบ้านด้วยกันก็ไม่เชื่อ ... มานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่คนเดียว” มันพูดตอกย้ำจริงนะ


“พูดไปเรื่อย - - ใครที่ไหนร้องไห้วะ ” พูดไปผมก็ไม่ได้ดูสารรูปตัวเองเล้ย ไม่มีน้ำตาก็จริง
แต่ตาแดงเถือกขนาดนั้น


“ล... แล้วเมิงมาได้ไงเนี่ย ม่ะตอนเช้ายังอยู่ เออ ยังอยู่บ้านอยู่เลยนี่นา” ผมออกจะตกใจอยู่


“ก็ตอนเช้าอยู่บ้าน แต่รู้สึกว่าคนบ้างคนจะอยากให้มากินเอ็มเคเป็นเพื่อนไง - - ก็เลยรีบมา ” มันพูดทำ
เป็นเรื่องปกติไปได้


“ตอนโทรมาก็เลยถามไงว่าอยู่ไหน” มันว่า “- - ตอนนั้นอ่ะอยู่สายใต้แล้ว”


“ละ แล้วทำไมไม่บอกฟ่ะ” ผมทำเป็นม่ะโหกลบเกลื่อน


“อ้าว ก็ถามมั้ย - - กะมาสะใภ้ด้วยหล่ะ (เซอร์ไพรส์) ” มันพูดแล้วก็หยิบตะเกียบมาเคาะหัวผมทีนึง


“โอ้ย...”


“มันน่าเคาะปากด้วยมั้ย นอกจากหัวแข็งแล้วยังปากแข็งอีก” ดูมันว่าได้ว่าดี


“เออ... มาเพื่อว่ากันโดยเฉพาะเลยใช่เป่า งั้นก็กินๆๆไปเลย กูกลับแล้ว ” ผมพูดเสร็จ มันก็รีบ
เอื้อมมาคว้าข้อมือผมไว้เลย กูยังไม่ทันได้ลุกไปไหนเลยนะ ไอ้นี่


“เฮ้ย ยังงงง..”


“อย่างอนพร่ำเพรื่อน่า มากินด้วยกันก่อน” ไอ้โค้กบอกแล้วจ้องมองตาแดงๆของผมจนต้องหลบตา
ถึงรู้สึกว่าตัวเองค่อยสงบไปได้


ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งกันเงียบๆ โดยมีไอ้โค้กนั่งกินไป ผมก็นั่งดูดน้ำส้มไป (ถึงน้ำนางเอกแต่กูเป็นพระเอกนะ)


“คิดถึงพ่อเหรอ ”อยู่ๆมันก็ถาม


“นิดหน่อย” ผมว่าแบบรักษาฟอร์ม พลางดูดน้ำส้มเข้าไปเฮือกใหญ่แก้เขิน


“แค่ก แค่ก”


มันเงยหน้าจากชามเป็ดมามองผม หน้าตามันดูจริงจังกว่าตอนแรก แล้วก็ค่อยๆเอื้อมมือมาจับมือผมไว้อย่าง
ระมัดระวัง(คนเห็น) เพลงที่เปิดในร้านสลับเป็นเพลงใหม่


..............................


.................


.......


มอง..ออกไป ในความคุ้นเคย ท้องฟ้าดูครึ้มมืดมัวไม่เคยจางไป
ไม่เคยมองเห็น .. สายลมที่อ่อนไหว ไม่เคยมีดวงไฟซักดวงที่คอยส่องทาง


“ปริ้นยังมีผมอยู่นะ ” โค้กพูดกับผมเบาๆ ดูหน้ามันแดงหน่อยๆ แต่สายก็ยังจับจ้องอย่างมุ่งมั่น


เจอหมอกควัน ... จนชินสายตา เหมือนโลกใบนี้ไม่เคยพบเจอ ตะวัน
มองไปทางไหน มืดหม่นและอ้างว้าง ได้แต่ยืนคนเดียวลำพังไม่มีจุดหมาย


โค้กเปลี่ยนจากที่จับมือผมเบาๆมาเป็นเกาะกุมไว้อย่างแน่นหนา


“อย่าคิดว่าตัวเองขาดอะไรเลยนะ ปริ้นยังมีแม่ มียาย แล้ว - - ก็มีผมนะ จะไม่มีวันทิ้งปริ้นไปไหน”


ไอ้โค้กยิ้มน้อยๆให้ แต่สำหรับผม คนที่อยู่เบื้องหน้า ในเวลาที่ไม่มีใคร ก็มีแต่มันคนเดียว ที่คอยอยู่
เคียงข้างมาตลอด ไอ้โค้กคนเดียว...


“ผ...ผมก็เหมือนกัน - - ” ผมรู้สึกว่าตัวเองคงหน้าแดงไปหมดที่จะพูดประโยคต่อไปนี้ แต่ก็อยากจะมีซักครั้ง
ที่อยากจะพูดอะไรออกไปตามใจตัวเอง


“เอ๋ ”


“- - ผมก็ยังมีแม่ มียาย ล..แล้วผมก็มีโค้ก ผมก็จะอยู่ข้างๆโค้กตลอดไปนะ”


แต่พอมีลำแสงหนึ่ง..ที่ทอแสงมา เมฆฝนบนฟ้าก็ดูคลี่คลายออกไป
เริ่มมีความรู้สึก ที่เป็นด้านใหม่ ... ยังมีชีวิตอยู่ภายใต้แสง....ตะวัน

สองมือที่เกาะอยู่ข้างๆจานเป็ดย่างที่ร้านเอ็มเค ยังคงกุมอยู่อย่างเนิ่นนาน(แบบแอบๆ) จากสยาม เรื่อยมายังโบ๊เบ๊
ถึงผ่านฟ้า ไล่มาอนุเสารีย์ประชาธิปไตย แล้วผมกะไอ้โค้กสองคนก็เดินลงรถแท็กซี่มายังท้องสนามหลวง


ยิ่งใกล้เวลาหนึ่งทุ่มแล้ว บริเวณสนามหลวงแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ถึงแม้จะร้อน ถึงแม้จะเหนื่อย
แต่บรรดาคนเหล่านั้น ก็มีรอยยิ้ม


“พี่คับผมขอเทียนสองเล่ม ”


ผมกะโค้กแบ่งกันถือคนล่ะเล่ม ยิ่งใกล้เวลาอันสำคัญ แสงไฟจากแสงเทียนก็ยิ่งค่อยๆสว่างไสวไปรอบทิศ
ถึงแม้ว่าอากาศที่จะเริ่มหนาวในต้นเดือนธันวาคมจะพอมีอยู่บ้าง แต่ความอบอุ่นจากแสงเทียนที่ส่องสว่าง
ก็มีมากพอที่จะทำให้ทุกหัวใจไม่เหน็บหนาว


ผมกะไอ้โค้กมองหน้ากัน พร้อมๆกับมองไปรอบๆตัว มือที่ถือเทียนอยู่เล่มนึง ส่วนอีกมือที่ว่างอยู่ ผม
ค่อยๆเอามาสัมผัสไว้กับที่หน้าอกของตัวเอง


ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก


ผมสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นอยู่อย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่โค้กพูดให้กำลังใจผมตอนที่เรานั่งอยู่ที่ร้านเอ็มเค
ก็ผุดขึ้นมา


“คิดถึงพ่อเหรอ”


“นิดหน่อย”


โค้กค่อยๆเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ แล้วก็เลื่อนไปวางไว้ที่หน้าอกของผม


“ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองมั้ย” มันถาม


“อือ”


“พ่อของปริ้นไม่ได้ไปไหนไกลหรอก” โค้กปล่อยมือที่กุมมือผมไว้


“เสียงหัวใจที่เต้น .... เลือดที่ไหลอยู่ของพ่อปริ้น มันไหลวนเวียน แล้วก็ทำหน้าที่ของมันอยู่
ในตัวของปริ้น ถ้าปริ้นอยากกอดพ่อ ปริ้นก็กอดตัวเองให้แน่นๆ ถ้าปริ้นรักพ่อ ปริ้นต้อง
รักตัวเองให้มากๆรู้มั้ย”


ผมปล่อยมือของตัวเองที่สัมผัสหน้าอก เลื่อนช้าๆไปกอดคอไอ้โค้กแทน


“หนาวมั้ย” ผมถาม


“ไม่เห็นหนาวเลย” มันตอบ


“โค้ก...”


“ฮะ”


“ปลายเดือนนี้ .... ไปเชียงใหม่ด้วยกันนะ” ผมบอกมันพลางเลื่อนมือที่กอดคอมันอยู่เปลี่ยนมา
จับที่มือแทน


.

.

.

.

.

.

.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2007 20:25:53 โดย b|ueBoYhUb »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #211 เมื่อ09-12-2006 20:24:55 »

หุหุ  :like2: และแล้วก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาจนได้   :yeb:


ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #212 เมื่อ10-12-2006 12:12:58 »

เหอๆๆ ลุ้นคับลุ้น คับลุ้นอยู่นะคับ  (สับสนกะชื่อตัวเองจัง   :kikkik: )

ตอนนี้โค้กได้ใจไปเต็มๆๆ

อยากมีอย่างนี้มั่งอ่ะ  :serius2:


อ่านแล้วก็ ม่ายอยากกิน MK คนเดียวอีกต่อไป  :impress:
กิน MK คนเดียวอ่ะ มันเหงานะ  :sad4:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #213 เมื่อ10-12-2006 13:53:27 »

ได้ใจมากโค้กเอ๋ย (ที่จิงได้นานแล้วล่ะ :myeye:)

ทำไมถึงน่ารักกันอย่างนี้น้อ...เฮ้อ เมื่อไหร่จะเกิดกับเราบ้างเนี่ย

มาต่อไวๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณผู้เขียนกะคุณผู้โพสต์ สู้ๆๆ :yeb:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #214 เมื่อ11-12-2006 16:46:52 »

โค้กน่ารัก  โค้กน่ารัก  โค้กน่ารัก  ไม่ไหวละ  น่ารักเกิน  อิอิ   :monkeylove2:

ต่อเลยค๊าบบบบบบบ  คุณบลู  น่ารักเหมือนกัน  :yeb:

mokung

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #215 เมื่อ11-12-2006 21:12:03 »

 :impress2: รักโค้กที่สุดเลย
 :impress2:รักๆๆๆๆๆ :like6:

between

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #216 เมื่อ12-12-2006 05:11:18 »

                       
                     :laugh:สะจายเจงๆ  อ่านรวดเดียวจบ 2 ตอนเรยหุหุ

                               ได้ใจคับได้ใจมักๆ

                                        รีบๆมาต่อนะคับ.... :teach:

                    มาช้ายังดีกว่าไม่มาชิมิคับคุณบลู......รักเรื่องนี่มากคับผม
                                     

pandaba

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #217 เมื่อ12-12-2006 12:35:37 »

โห เพิ่งตามอ่านมาครับ กว่าจะตามจนจบเล่นเอาตาลายกันเลยทีเดียวครับ


แต่ว่ายังไงก็อ่านละเอียดทุกตอนครับ

ตอนอ่านไปแรกๆเราก็คิดว่าเฮ่ย เป็นเรื่องจริงๆรึป่าวฟระนี่ ข้อมูลทุกอย่างงี้แน่น ตรงกับความจริงเลยครับ

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ต่างๆอะไรงี้ครับ

ส่วนเรื่องตัวละครงี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเข้าไปใหญ่เลยครับ

เพราะว่าชอบมากๆครับ   ดูเป็นอะไรที่เหมือนจริงจัง สงสัยเพราะว่าเราคงคิดว่าตัวละครพวกนี้เป็นกลุ่มที่มีอยู่จริงๆมั้ง

แต่พอมาเห็นเรื่องเบื้องหลังสถานที่ถ่ายทำก็นะ อ้าวสร้างจากสถานที่จริงๆที่เอง   ฮ่าๆๆๆ



จริงๆแล้วแอบเชียร์โค้กมานานแระครับ

เฮ้อ แต่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เนาะ มีพบมีจาก มีคบมีเลิก มีดีมีไม่ดี ว้าๆๆ   เครียดๆ

ขอบคุณ คุณ Staying power นะครับที่เขียนเรื่องดีๆให้ได้อ่านกันครับ

ขอบคุณผู้โพสต์ด้วยนะครับ  :haun5: :haun5:

ออฟไลน์ pajaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-5
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #218 เมื่อ13-12-2006 23:45:31 »

ในที่สุดกระผมก็อ่านทันจนด้าย(แบบเน้น ๆ)....รวดเดียว 8 ชั่วโมง กับอีก 22 นาที   :try2:  5555+++
ขอบคุณมากๆๆๆๆคับ.....  :haun6:  ชอบคับ หนุกมากมาย (ชอบอีกล่ะ มีไม่ชอบมั่งมะเนี่ย)
เดี๋ยวพรุ่งนี้อ่านเก็บรายละเอียดอีกซักรอบดีก่า  :like6:


ปล1. ภาพตัดโคมไฟหัวเตียง (คุ้นๆ แฮะ)ทรมานจิง ๆเร้ยยยย :sad4:
ปล2. ปวดตาชิปเป๋ง พรุ่งนี้ต้องกินผักบุ้งอีกหล่ะ

Vasabi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #219 เมื่อ17-12-2006 20:54:14 »

 :like2: รออ่านตอนต่อไป  :kikkik:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
« ตอบ #219 เมื่อ: 17-12-2006 20:54:14 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






between

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #220 เมื่อ18-12-2006 15:48:29 »


                 ใกล้มาอ๊ะยางน้อ.....รีบปั่นเข้านะคับ


                                สู้เค้านะทาเคชิ

wee

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #221 เมื่อ21-12-2006 22:38:28 »

รอ....จนป่านนี้....โอ๊ต คงรับปริญญาเสร็จไปแล้วมั๊ง....55555
 :impress: :impress: :impress:

mokung

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #222 เมื่อ23-12-2006 01:36:22 »

เมื่อไหร่จามาต่ออะ  ปีนี้อากาศหนาวจัง ทำให้คิดถึงหลายๆฉากในเรื่องนี้อะ  แถมเรายังเผลอไปคิดถึงวันคืนเก่าๆอีก เฮ้ออีกแล้วนะเรา  เมื่อไหร่จะลืมเค้าได้ซะที  ว่ากันว่าเราใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาทีสำหรับการตกหลุมรักใครบางคน แต่การจะลืมใครคนนั้นอาต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ทั้งหมดของชีวิต  หน้าหนาวปีนี้ทำไมเรารู้สึกว่ามันหนาวกว่าทุกๆปีนะ แถมมันยังกรีดลึกลงไปในใจเราอีก  เฮ้อ  เมื่อไหร่นะ......... :monkeysad:

อย่าด่าผมเลยนะมันไม่ไหวจิงๆขอยืมเปนที่ระบายหน่อย :monkeysad2:

box_breathe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #223 เมื่อ28-12-2006 02:26:10 »

อ่านจบแล้วคับ !!

ชอบมากๆเลยอ่า..สนุกดี

แต่อยากให้เรื่องราวจบแบบ Happy Ending กว่านี้หน่อยอ่า

แล้วก็อยากให้พูดถึงตัวละครแต่ละตัวด้วยว่า..

มีการดำเนินชีวิตกันต่อไปอย่างไร

*******************************

ปล. ผมไม่ชอบตอนที่พี่ม่อนถูกฆ่าแล้วเอาไปแขวนเลยอ่ะ

อ่านแล้วน่ากัวมากเลย  กัวผีอ่ะ   :pigscare2:




box_breathe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #224 เมื่อ28-12-2006 21:41:59 »

เมื่อไหร่จะมาเขียนต่ออ่าค้าบ

อยากอ่านต่อมากๆๆๆเลย

อยากรู้ว่าเมื่อโอ๊ตรู้ว่า..ปริ้นกับโค้กคบกัน

โอ๊ตมันจะทำน่ายังไง   :laugh:

*******************
มาเขียนเร็วๆนะ

รออยู่ค้าบบ... :monkeysad:




tongsan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #225 เมื่อ28-12-2006 21:57:58 »

เข้ามาช่วยตามอีกคน... รออยู่นะค้าบบบ   :impress2: หายเงียบไปเรย

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #226 เมื่อ29-12-2006 22:27:40 »

กะลังตามอ่านอยู่อ่าครับ สนุกดีครับ
เพิ่งอ่านได้หน้าแรกหน้าเดียวเอง แฮะ ๆ  :try2:
ตามอ่าน ๆ คืนนี้จะตามอ่านทันมะเนี่ย ^^"...  :yeb:

pandaba

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #227 เมื่อ01-01-2007 02:23:58 »

รอครับ  :really2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #228 เมื่อ03-01-2007 07:13:56 »

หวัดดีปีใหม่แทน staying power ด้วยนะครับ ช่วงนี้คงยุ่งๆอยู่อ่ะครับ
เอาของขวัญปีใหม่มาให้ด้วยครับ
****************************************************************************************
“โค้ก … ปลายปีไปเชียงใหม่ด้วยกันนะ”
ผมนอนเอามือก่ายหน้าผากมีนหัวตึบ ทำไมตอนนั้นถึงพลั้งปากไปชวนไอ้โค้กไปด้วยนะ
ไม่น่าเลยจริงๆ เมื่อรู้สึกสัมผัสได้ถึงความยุ่งยากที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่า โค้กรู้เพียงว่าผมกะโอ้ตมีความสัมพันธ์เป็นเสมือนญาติอยู่บ้านเดียวกันเท่านั้น
เพราะตั้งแต่เริ่มคบกัน โค้กมันไม่เคยถามเรื่องแฟนเก่า รักครั้งแรก หรือว่าอะไรก็ตามที่ทำนองนี้
กับผมซักครั้ง

แต่….. มันจะเป็นอะไรไปล่ะ ในเมื่อตอนนี้ผมกะโอ้ตก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่นา ผมจะไปกังวล
ทำบ้าอะไรกับเรื่องนี้

ใช่ ตูจะกังวลไปทำไม จะตีตนไปก่อนไข้ทำไม ดีซะอีก มีไอ้โค้กไปด้วย จะได้ไม่ต้องเซ็ง เวลาที่
ต้องเจอกะโอ้ต แล้วก็แฟนมัน อีกอย่าง ถ้าถึงเวลาที่โค้กมันจะรู้จริงๆเรื่องอดีตความรักของผม
มันก็คงจะเข้าใจแล้วก็เชื่อใจผมล่ะมั้ง ว่าถึงตอนนี้ ไม่มีทางที่จะหวนกลับไปเป็นแบบเก่าได้อีกแล้ว


“จัดข้าวของเรียบร้อยแล้วเหรอยังปริ้น” เสียงแม่กรอกมาตามสายโทรศัพท์คืนก่อนวันเดินทาง

“เรียบร้อยแล้วค๊าบ” ผมบอก แต่จริงๆคือยังไม่ได้แม้แต่เอาเป้ออกมาปัดฝุ่น

“แล้วคิดยังไงล่ะจะไปรถไฟ ลำบากลำบน ไม่ยอมนั่งเครื่อง ”

“ก็อยากจะนั่งไรแปลกๆดูบ้างอ่ะ” ผมบอกไป ทั้งที่ใจจริงอยากไปเครื่องบินมากกกก แต่เพราะ
ต้องไปกะไอ้โค้กไง เลยต้องประหยัดๆ

“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ยังเป็นตู้นอน คงไม่ลำบากอะไรมากหรอกครับ” แต่ความจริงคือ ได้ที่นั่งแบบ
เบาะเอนได้ เพราะตู้นอนเต็ม

“แล้วนี่โทรบอกโอ้ตเค้ายังว่า จะมีเพื่อนไปด้วยน่ะ ”

“บอกแล้วครับ” แต่จริงๆคือไม่ได้บอก ว้อย ตายไปตูตกนรกแน่ๆ พูดความจริง 1 ตอแหลซะ 9

“ยังไงพวกแม่ก็รีบตามขึ้นไปเร็วๆล่ะกัน - - ได้ข่าวว่าเห่ออยากรับบัณฑิตใหม่กันจะแย่อยู่แล้วนี่นา”

“ย่ะ แล้วก็รีบๆเข้านอนแล้วกัน อย่าตื่นสายล่ะ”

“ครับ แต่สายหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก รถออกตั้งบ่ายสามนะ ”

รุ่งขึ้นผมตื่นเช้ากว่าปกติ (สิบเอ็ดโมง) เพราะต้องรีบจัดของใส่กระเป๋า ค้นตู้ไปมา ปรากฏว่า
เสื้อกันหนาวที่กะว่าจะใส่ไปดันตะเข็บขาดซะงั้น เลยต้องเขวี้ยงใส่ตู้กลับ เอาไงดีวะ แต่ช่วงนี้
ก็ไม่เห็นจะหนาวเท่าไร ไปที่โน่นก็คงไม่หนาวไรมากมั้ง เอาแค่เสื้อแขนยาวไปก็พอ

เกือบบ่ายสามผมก็มายืนรอไอ้โค้กอยู่ที่หน้าหัวลำโพง ที่ไม่อยู่รอมันมาพร้อมกันเพราะว่าโค้กมัน
มีเรียนช่วงเช้า แล้วผมก็ไม่อยากไปรอมันในมหาลัยด้วย ขี้เกียจแก้ตัวกับเพื่อนเรื่องที่จะไม่มาเรียน
เกือบสัปดาห์ ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดู พร้อมๆกับปาดเหงื่อที่ไหลย้อยข้างแก้ม

คิดถูกแล้วที่ไม่ขนเสื้อกันหนาวมาด้วย

“ร้อนเหรอ …กินโค้กมั้ย”

“เฮ้ยยย … มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

“เมื่อกี้”

“ชอบโผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงนะมึงเนี่ย - - ว่าแต่ไหนอ่ะโค้ก” ผมถาม เพราะเห็นไอ้ตัวดี
แบกแต่เป้ใบใหญ่มาเท่านั้น

“นี่ไง” มันพูดเสร็จก็จับมือผมข้างนึงไปทำเป็นวางไว้ที่หน้าขามัน

“ดูดเบาๆนะคับ รับรองหวานอร่อย ” มันพูดแล้วก็ยิ้มหน้าทะเล้น แต่ผมนี่ดิ ไอ้สาดดด คิดได้ไง
ไอ้ทะลึ่งบ่อง ว่าแล้วก็เลยเอามือข้างนั้นกระแทกไปที่เป้ามันทีนึง

“อุ๊กกกก …”มันร้องเสียงหลง

“ดี .. สม”

พอรถไฟมาจอดเทียบชานชรา ผมสองคนก็ค่อยๆเดินหาตู้ไปเรื่อยๆ แบบว่าชีวิตนี้ไม่เคยขึ้น
รถไฟสายยาวแบบนี้มาก่อน กว่าจะหาตู้ได้ก็ล่อไปเกือบท้ายสุด เปิดไปก็มีคนนั่งกันเต็มอยู่
แล้ว แต่ก็แปลกที่มีแต่แถวที่ผมกะโค้กนั่งว่างอยู่แถวเดียว (แถวหนึ่งมีเก้าอี้ 4 ตัว)

“ปริ้นที่นั่งเบอร์ไร”

“นั่นไง ที่ว่างอยู่นั่นอ่ะ ” ผมชี้บอก “- - ว่าแต่ไมคนมันเยอะแบบนี้วะ อุตสาห์มาวันธรรมดา
แล้วนะ”

“สิ้นปีก็งี้แหละ ” มันพูดเสร็จก็ลงไปนั่งรีบปรับเบาะเอนนอนทันที

“ง่วงมาจากไหนเนี่ย”

“วันนี้มีเทส เมื่อคืนอ่านหนังสือทั้งคืน ไม่ได้นอนเลยคับ - - ว่าแต่ปริ้นเอาของมาแค่นี้เองเหรอ ? ”
มันถามเมื่อเห็นเป้ผมชัดๆ

“อือ ”

“ผ้าห่มไม่ได้เอามาเหรอ”

“อ้าว บนรถไม่ได้มีผ้าห่มให้เหรอ ? ”

“ไม่มี ไม่ใช่ตู้นอนหนิ”

“เออ … ไม่เป็นไรมั้ง คงไม่หนาวหรอก ร้อนตับแทบแตก” ผมว่า

“ถ้าหนาวก็มาห่มกับผมก็ได้” มันพูดยิ้มแฉ่ง

“ไม่เป็นไรวะ กูแข็งแรง” ผมพูดเสร็จก็นั่งลงข้างๆ มัน

“สวัสดีครับ ไปเที่ยวเชียงใหม่เหรอครับ” มีเสียงทักมาจากเบาะอีกด้าน จนต้องเหลียวไปหา
ก็เจอน้องผู้ชายคนนึง ดูท่ายังเรียนมัธยมอยู่เลย หน้าตาน่ารักใช่ได้ (ต่อมรักเด็กกำเริบ)

ว่าแต่มันมาตั้งกะม่ะไรวะ ?

“อ่อ ครับ ไปงานรับปริญญาพี่นะครับ” ผมตอบแบบงงๆนิดหน่อย ที่อยู่ดีๆก็มีคนมาทักเฉยเลย

“พี่ของพี่เรียนมช เหรอครับ”

“ใช่ครับ - - แล้วน้องกลับบ้านที่เชียงใหม่เหรอ”

“ครับ ผมเกิดที่เชียงใหม่น่ะครับ - - แต่กลับคราวนี้ไม่มีเพื่อนกลับด้วยเลย”

“อ่อ ฮะ” ผมยิ้มแห้งๆกลับไป

ปู้นนนนนนนนน

เสียงหวูดรถไฟเป็นสัญญาณให้รับทราบว่า รถกำลังจะเคลื่อนตัวในไม่ช้า ตัวขบวนเริ่ม
ส่งเสียงกึกกัก

“มากับเพื่อนเหรอครับ”

“อ่อ ฮะ” ผมหันไปทางไอ้โค้กซึ่งตอนนี้นอนหลับอุตุไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไอ้เด็กคนนี้ยิ้มแปลกๆ แล้วก็ชวนผมคุยโน่นนี่ไปเรื่อย แปลกแฮะ ทำไมผมถึงรู้สึกไม่รู้สึก
อึดอัด หรือว่าตะขิดตะขวงใจที่ได้คุยกับน้องเค้าเลย ทั้งที่พึ่งได้รู้จักกันเมื่อตะกี้นี้เอง

“ปกติกลับบ้านคนเดียวบ่อยเหรอครับ” ผมถามต่อ

“ไม่หรอกครับ จริงๆผมไม่ค่อยได้ไปเชียงใหม่หรอกครับ - - ครั้งก่อนก็มีเพื่อนไปด้วย
เหมือนกับพี่นี่แหละ ” น้องน่ารักบอก

ผมกะน้องเค้าคุยเรื่อยเปื่อยทั้งเรื่องเรียน เรื่องอะไรต่ออะไรจิปาถะ จนลืมเวลาไปเลยคับ
รู้ตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงไอ้โค้กคราง อือ อ่า แล้วก็บิดขี้เกียจ แสดงว่าไอ้ตัวขี้เซาได้เวลา
ตื่นนอนแล้ว

“ไงมึง หัวถึงหมอนก็หลับเลยนะ ” ผมหันไปกัดมันเล็กน้อย

“เงอ …. กี่โมงแล้วอ่ะ”

“เกือบจะหกโมงแล้วอ่ะ หิวป่าว ” ผมถามมันเพราะว่าจะได้เอาข้าวกล่องที่ซื้อไว้มาแกะ

“อือ … ก็ดีอ่า” แล้วมันก็ปรับเบาะ บิดขี้เกียจอีกรอบ - - มืดเร็ววะ พึ่งจะหกโมงเอง มันว่า
แล้วก็รับข้าวกล่องไปสวาปาม

“เออ ใช่เกือบลืม - - ” ผมหันมาคุยกะไอ้โค้กเพลินจนลืมน้องเค้าไปเลย แต่พอหันกลับมาอีกที
ก็ไม่เห็นซะแล้ว ไปไหนหว่า ?

ผมเกาหัวแกร่กๆ

“ลืมไรเหรอ” ไอ้โค้กเคี้ยวข้าวทำหน้าสงสัย

“ม่ะกี้มีน้องเค้ามาชวนคุยด้วยอ่ะ ตอนที่มึงหลับอยู่ไง - - คุยหนุกดีนะ แถมน่ารักด้วย” ผมชื่นชม
จนไม่ทันได้มองสีหน้าไอ้โค้ก

“อะไร คุยกะใคร ”

“อ๋า … ทำไมต้องทำเสียงงั้นด้วยฟ่ะ”

“ก็ไมล่ะ แค่ผมหลับไปแป็บเดียว แอบไปคุยกะใครวะ” มันทำท่าวางช้อนแล้วก็ปิดกล่องข้าว
ทำเป็นงอนซะงั้น

“เฮ้ย … บ้าเป่า คิดไรเนี่ย เด็กนะเมิง” ผมชักจะฉุน

“ไม่รู้ว้อย หึง เข้าใจเปล่า หวงด้วย” มันไม่พูดเปล่า แม่ม เอามือมาจับหน้าให้หันไปหามันด้วย

“ถ้าปริ้นทำให้ผมเสียใจนะ ผมจะไปบวชไม่สึกเลยจริงๆด้วย” มันว่า เฮ้ยๆ อยากเลียนแบบใคร
เป่าวะ

“เอ้ย ..กูเจ็บ - - มึงพูดเบาๆได้เป่า” ผมชักเริ่มเห็นคนด้านหน้าๆหันมามองคนสองคน

“เดี๋ยวให้ถึงก่อนเหอะ คิดบัญชีแน่” มันพูดเสียงโหด แม่ง ช่วงหลังๆนี่ลมเพชรหึงพัดผ่านบ่อย
เหลือเกินนะวะ จะคุยนิดคุยหน่อยกะใคร ก็ไม่ได้ พ่อหวงไปหมด หลังจากที่ยอมคบกับมัน
เป็นแฟนจริงๆจังๆเนี่ย ปีกว่าผมแทบกระดิกไปไหนมาไหนไม่ได้เลย

“ปริ้นเจ้าชู้ ปล่อยไม่ได้หรอก”

นี่คือคำที่มันว่าผม จนทำเอาตูโมโหไปพักใหญ่เลยทีเดียว แต่คิดไปคิดมา อืม ก็เจงของมันวะ
ยิ่งพักหลังๆ พอรู้ตัวว่าเริ่มแก่ ต่อมหื่นก็เหมือนจะเริ่มทำงานหนัก

“ตกลงจะเป็นพ่อกูเลยใช่ม่ะ ” ผมพูดประชด

“เออ เป็นแน่ …” ดูมันตอบ

หลังจากนั้นตลอดเวลาที่รถไฟค่อยๆเคลื่อนขบวนไปเรื่อย ผมก็ไม่เจอไอ้เด็กนั่นเลย แถมไอ้ที่นั่ง
ข้างๆที่คิดว่าเป็นน้องนั่น ก็เป็นที่ของคนอื่นที่จองไว้แล้ว สงสัยมันอยู่ตู้อื่นมั้ง แต่จะว่าไปการนั่ง
รถไฟแบบไม่ได้เป็นตู้นอนแบบนี้ ทรมานโคตรๆ ทั้งเมื่อย ทั้งเหม็นห้องน้ำ คนนอนกรนอีก
ตะหาก

“อยู่กับคนหมู่มากก็เงี้ยแหละ ขี้บ่นจัง ” ดูมันว่าผม แทนที่จะเข้าข้าง เดี๋ยวนี้ไม่มีอ่ะ

พอผ่านเที่ยงคืนไปได้ไม่เท่าไร ลมหนาวก็เลยโชยมาแล้วครับ เออ ไม่ใช่โชยซิ พัดเข้ามาแบบ
กระพรืดกระพรือเลยล่ะ ผมถึงกะตัวสั่นระริก หันไปมองทางไอ้โค้ก แม่ม นอนห่มผ้าสบายใจ
เฉิบเชียว พอมันเห็นผมมองมันก็หลิ่วตาเป็นเชิงประมาณว่า ไง แข็งแรงม่ะใช่เหรอ ?

ผมนึกได้ว่า ยังพอมีเสื้อแขนยาวอยู่ในเป้นี่หว่า ก็เลยรีบคว้ามาใส่ทับโดยพลัน พอเหลือบไปมอง
ด้านหน้าๆ ก็พบว่า แต่ละคนก็มีผ้าห่มเป็นของตัวเองทั้งนั้น พอสวมเสร็จก็พออุ่นขึ้นมาได้หน่อย
มองเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว ชักจะเริ่มง่วงแล้วดิ ตาผมค่อยปรือแล้วก็ปิดลงไปอย่างช้าๆ ท่ามกลาง
แสงไฟสีขาวที่เปิดจ้าอยู่บนขบวนรถไฟ

คึกคึกกก - - - -

“อึก”

คึก คึกกกกก คึกกก คึกก - - - -

ผมรู้สึกว่าขบวนรถไฟค่อยแล่นช้าลงเรื่อยๆ จนกระทั่งจอดสงบนิ่งลง แต่ดูท่าทางจะจอดนาน
ผิดสังเกต เสียงคนในขบวนเริ่มพูดคุยกันไปมา จนน่ารำคาญนอนต่อไปไม่ได้แล้วว้อยย

“ตื่นแล้วเหรอ” ไอ้โค้กถามผม ตัวยังคลุมผ้าห่มอยู่

“อือ ทำไมรถหยุดอ่ะ”

“เห็นเค้าบอกว่าหัวรถจักรเสียอ่ะ ตอนนี้กะลังลงไปซ่อมอยู่

“ห่ะ เสียกลางป่าแบบนี้เนี่ยนะ” ผมสบถพร้อมๆกับเห็นควันออกจากปากบางๆ พร้อมกับยกมือ
ดูนาฬิกา ตีสามแล้ว จริงๆต้องถึงสถานีตีห้าครึ่งนะเนี่ย

“สงสัยรถเลทแน่เลย ” มันว่า

อากาศภายในตู้รถไฟหนาวเย็นอย่างที่ผมไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต ดูเหมือนว่ารถไฟจะมาจอดอยู่
ที่แถวๆสถานีในจังหวัดลำปางซักอย่าง ตอนนี้ปากผมสั่นจนฟันขบกันแล้วล่ะ หนาวทั้งมือทั้งเท้าเลย

“ร่างกายแข็งแรง…” เสียงไอ้โค้กลอยมาเบาๆตามลม ผมหันหน้าสั่นๆไปหามันทำตาขวาง

“ไหนมาใกล้ๆดิ๊ ” มันว่า

“ไรเมิง” ผมยังทำปากแข็งทั้งที่ตัวแข็งไปทั้งตัวแย้ว

“มาเหอะน่า” มันเห็นว่าผมยังไม่ยอมเลยยื่นมือมาดึงแขนเข้าไป แล้วก็เอามืออุ่นๆมากุมมือผมไว้

“โห มือโคตรเย็น” มันพูดไป นิ้วมันก็ไล้มือผมไป ทำเอาสยิวกิ้ว

“ตกลงจาห่มผ้าห่มมั้ย” มันพูดยั่ว

ผมพยักหน้าเล็กๆแทนคำตอบ

“อะไรนะ”

“เอา ”

“ไรนะ” มันทำยื่นหูมาใกล้ๆ

“มึงเอาผ้ามานี่เลยม่ะ” ผมว่าพลางกระชากมาทั้งผืน แล้วก็เอามาห่มคนเดียวเลย แกล้งกูดีนัก

“เฮ้ย เล่นงี้เลยเหรอ” มันพูดเสร็จ ก็โถมตัวเข้ามากอดกูซะงั้น ไอ้หน้าด้านคนอยู่เยอะแยะ

“โค้กมึงเล่นไรวะ ไม่ใช่เด็กๆแล้วน่ะ”

“ก็ชอบเด็กๆไม่ใช่เหรอไงฮะ - - ผมจะเป็นเด็กให้ไง ”

“หึหึ ไอ้เด็กโข่ง ” ผมพูดเสร็จ ก็แบ่งผ้าให้มันครึ่งหนึ่ง ภายใต้ผ้าผมนอนตะแคงหันหลังให้
ไอ้โค้กกอด ความหนาวเย็นที่มีเมื่อกี้ค่อยผ่อนคลายลงไปได้บ้าง

“แล้วนี่เมื่อไรเค้าจะซ่อมเสร็จวะ”

“เอาน่า คงไม่ถึงเช้าหรอก ” โค้กพึมพำแล้วก็เอาหัวมุดลงไปใต้ผ้า ผมรู้สึกว่ามันเอาหน้ามา
ซบที่หลัง เอ้ย… รู้สึกว่าใช่แค่หน้านี่นา มือมันค่อยๆเลื้อยสอดผ่านเสื้อเข้ามาจากด้านหลัง

“ม.. มึงจะทำไรอ่ะ” ผมหันคอไปว่ามันเสียงสั่น ไอ้โค้กมันอู้อี้อยู่ใต้ผ้าอยู่อย่างงั้น แล้วผมก็รู้สึก
ว่ามันเอามือลูบผ่านหน้าอก

“ไอ้เชี่ยย” ผมแอ่นตัวหลบมัน ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก

“เสียวเหรอ …” มันโผล่หน้าออกมา แต่มือมันยังเลื้อยอยู่ใต้ผ้า

“มึงโรคจิตป่ะเนี่ย .. ”

“ไม่รู้จักผีผ้าห่มเหรอ หุหุ” มันพูดเสร็จก็เปลี่ยนมากอดผมใต้ร่มผ้า แล้วก็เอาหน้ามาซบที่ไหล่

“นอนเถอะปริ้น เดี๋ยวจะตื่นไม่ไหว”

“อือ”

ตอนนี้ผมรู้สึกว่า คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ชวนมันมาด้วย อ่า… โค้ก กูรักมึงจัง

ผมรู้สึกตัวตื่นมาอีกที รถไฟก็วิ่งฉึกฉักเป็นปกติแล้ว เริ่มได้ยินเสียงคนคุยกันจ้อกแจ้กจอแจ
มองไปนอกหน้าต่างก็พบว่าเริ่มมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านมาแล้ว ไหล่ข้างที่โค้กมันซบหลับอยู่
เปียกชื้น

“ไอ้ห่า นอนน้ำลายไหลอีกแล้วนะมึง ” แล้วก็จัดแจงล้วงไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับปากมัน แล้วก็
ยกหัวไปพิงไว้กับพนัก กูปวดฉี่ว้อย

อุ๊บ แค่เปิดประตูเข้าไป แทบเป็นลม เหม็นชิบหายยยยยยยยยย….. กลั้นหายใจปั๊บ
ล้วงหนอนชาเขียวออกมาพ่นปุ๊บ เผ่นออกมาปั๊บ โหยยย กูหายง่วงเลย

“มาฉี่เหรอพี่ ”

“คับ” ผมยิ้มให้เมื่อได้เจอน้องที่ได้คุยเมื่อเย็นที่หน้าห้องน้ำพอดี

“ห้องน้ำเหม็นชิบเป๋งเลยวะ เข้าดีๆนะ” ผมเตือนแล้วก็ทำท่าจะเดินกลับไปนั่งที่ แต่ก็นึกอะไรได้
เลยยืนรอน้องเค้าแถวนั้นก่อน

“อ้าว… พี่รอผมเหรอ”

“อะครับ คือพี่ลืมแนะนำตัวไปเลย คุยกันตั้งนาน” ผมยิ้มเขินๆ “- - พี่ชื่อปริ้นนะครับ ส่วนเพื่อนที่
มาด้วยชื่อโค้ก ถ้าได้เจอกันอีกก็ทักได้นะ”

“ครับพี่ เราคงได้เจอกันอีกล่ะ” มันว่า

“- - ผมปิงครับ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

น้องปิงยิ้มให้ผมก่อนที่จะค่อยๆเดินข้ามตู้ไปอีกตู้นึง ทิ้งความรู้สึกสงสัยบางๆที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ไว้ที่ส่วนลึกในใจ

“เอ… อืมมมม…. ทำไมมันคุ้นๆ น้า แต่นึกไงก็นึกไม่ออก”


.

.

.

.

.
โปรดติดตาม บ้านพักอลเวง(ภาคพิเศษ) – HolyNight
ตอนต่อไป -------------------------------------------------------------------------------------->
http://stpstory.exteen.com/

โดย staying power


ออฟไลน์ GoneOn

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #229 เมื่อ03-01-2007 08:37:25 »

เหอ เหอ ผีพี่ปิง แน่เลย   :sad5:

สวัสดีปีใหม่นะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
« ตอบ #229 เมื่อ: 03-01-2007 08:37:25 »





ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #230 เมื่อ03-01-2007 08:49:25 »

คิดเหมือนกันเลย ปิงแน่ ๆ  :sad5:

มาทำให้ปริ้นเข้าใจโอ๊ตหรือไงน้า   :serius2:

รอลุ้นต่อไป

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #231 เมื่อ03-01-2007 11:41:54 »

ปิง รีเทิร์นส์.........................

แถมเปงเวอร์ชั่นผีเด็ก

ลุ้นเจงๆๆๆๆ


พูห์ :laugh:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #232 เมื่อ03-01-2007 12:26:06 »

เย้ย...  ผีปิงจริงๆ ดิ  กลัวผีอ่า  ผีเด็กก็เหอะ มากลางวันแสก ๆ  :try2:

รออ่านต่อคับ  เรื่องที่รอคอย   :impress:

ผีตาโบ๋

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #233 เมื่อ03-01-2007 13:23:46 »

 :like2: :like2: มาแล้ว.....ดีใจจังเลย  แล้วมาต่อตอนต่อไปเร็วน้า

จะมีการรีเทิร์น ปริ๊นกะโอ๊ต มั๊ยอ่ะ อุตส่าห์มีผีเป็นพ่อสื่ออ่ะ :haun2:

 :pigscare2: เดี๋ยวตาโบ๋เป็นแม่สื่อช่วยอีกแรง  :pigha2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #234 เมื่อ03-01-2007 14:06:25 »

ง่ะ มีผีเด็กด้วยอ่ะ อย่าบอกนะว่าจะมาทำให้โอ๊ตกะปรินซ์กลับมารักกันเหมือนเดิม
ไม่ยอมนะ ผมปลื้มโค้กกะปริ๊นซ์แล้ว ไม่เอาโอ๊ตอ่ะ :serius2: :serius2: :serius2:

dokebi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #235 เมื่อ03-01-2007 14:30:20 »

 :sad5: :sad4: :sad5: :sad4: ง่ะปิงเป็นน้องใครหว่า................หรือว่า...... :o เด็กหอ!!!!!!!!!

box_breathe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #236 เมื่อ03-01-2007 19:48:28 »

ตกลงว่า " ปิง " ที่โผล่มานี่ เป็นผีหรือคนอ่ะ?   :confuse:

อยากรู้ๆ..รีบๆมาต่อเร็วๆนะค้าบบ...รออยู่นะ

 **************************************
ปล. ไม่อยากให้โอ๊ตกับปริ้นกลับมาคบกันอีกเลยอ่า
       เพราะว่าเราสงสารน้องโค้กอ่ะ

                           :impress:

wee

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #237 เมื่อ03-01-2007 22:55:29 »

ส่วนเราน่ะคิดถึงพี่ชายที่อบอุ่นที่ชื่อโอ๊ต....น่ะ ไม่รู้ยังอุ่นเหมือนเดิมหรือเปล่าน่ะ
 :try2: :confuse: :teach:

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #238 เมื่อ04-01-2007 03:31:08 »

 :o ผี หรือ คนหว่า???
ปิงกลับมาเกิดใหม่ป่ะเนี่ย หยอง... :sad5:

รออ่านต่อครับ ^^

between

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] บ้านพักอลเวง โดย staying power
«ตอบ #239 เมื่อ04-01-2007 22:01:07 »


         :teach:
                           รักครั้งแรกมักไม่สมหวัง จิงป่ะคับคุณบลู

                             ให้รู้ปายว่าคบกันมาหลายปี กะคบปีเดียว
                     
                                           เจ้าชายจะเลือกใคร....
                                    ( อินมักๆเลยป๋มเนี่ย ) :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด