ตอนสุดท้าย บทสรุปของน้องโยกเยก“ยายจ๋า....เดย์ไปคราวนี้คงอีกหลายวันกว่าจะกลับ ยายต้องกินให้มาก ๆ นะจ๊ะยายจ๋า...” แม่นางโยกเยกในชุดหนังสูทสีดำเข้ารูปกับสัมภาระ เอ่ยล่ำลาหญิงชราที่นั่งอยู่บนรถเข็น....
หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้น เวลาก็ล่วงเลยผ่านไป จนเกือบจะครบรอบสองปี ในวันที่หญิงชราถูกทำร้าย...
ยายของเดย์ไม่ได้อยู่ที่แฟลตหลังนั้นอีกแล้ว สองยายหลานย้ายนิวาสถานมาอยู่กับสาวโสดสุดเปรี้ยว เลดี้แอล....เลดี้แอลเลิกรากับคุณปู่ของนายตี๋เมื่อต้นปีนี้เอง ทั้งคู่ตกลงเป็นแค่เพื่อนกัน และไปมาหาสู่กันเป็นบางครั้งในฐานะเพื่อน
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนังหนู ฉันกับเพื่อน ๆ จะคอยดูแลแม่ฉวีเอง เต็มที่กับทัวร์คอนเสิร์ตเถอะจ้ะ พวกฉันจะนั่งดูดีวีดีของพวกเธอไปพลาง ๆ ระหว่างที่เธอไม่อยู่....แม่ฉวี หลานของเราโตเป็นสาวแล้วนะ สวยแล้ว หลานกำลังจะไปร้องเพลง โบกมือลาหลานก่อนสิ”
เลดี้จับมือของคุณยายฉวีโบกไปมา เดย์มองเห็นหยาดน้ำตาในแววตาของหญิงชรา เด็กหนุ่มหมุนตัวกลับแล้วตัดใจเดินออกมาจากห้องนั้น ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ได้ออกเดินทางกันเสียที....
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น....หญิงชราฟื้นจากนิทรา แต่ก็ไม่สามารถเดินเหิน หรือพูดคุยได้เหมือนเก่า สมองได้รับความกระทบกระเทือน และร่างกายของหญิงชราก็บอบช้ำเกินไป การฟื้นคืนจากหลับใหลได้ในครั้งนั้น แพทย์เองก็ยังบอกว่าเป็นปาฏิหาริย์
“ไป.....ไอ้น้องเดย์”
“ไม่ร้องนะครับไอ้โยกเยกของพี่”
ทั้งสองหนุ่มในชุดสูทเหมือนกัน ยืนรออยู่ด้านนอก วงของพวกเขาเริ่มจะมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จัก จนทำให้ค่ายเพลงอินดี้เล็ก ๆ นั้น มีนักร้อง ศิลปิน นักแต่งเพลงหัวใจรักอิสระแวะเวียนเข้ามาออดิชั่นกันไม่ขาดสาย แต่ทางค่ายก็ยังคงบริหารงานแบบตามใจศิลปินอยู่ดี แผ่นตัดของพวกเขาจากอัลบั้มชุดแรก กลายเป็นของหายากที่นักฟังต่างก็เพลงควานหา....
เดย์เองก็ไม่ใช่เด็กผู้ชายขี้อายเก็บกดอีกต่อไป คนขี้แพ้ในวันวาน ลุกขึ้นมายืนหยัดต่อสู้ด้วยหัวใจที่เข็มแข็ง และด้วยกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้ดักแด้แสนอัปลักษณ์ กำลังเติบโตเป็นผีเสื้อแสนสวย....
รถตู้ของวงค่อย ๆ ขับเคลื่อนออกจากคอนโดของเลดี้แอล....พวกเขายังคงต้องตะเวนทัวร์ เพื่อโปรโมทเพลงจากอัลบั้มชุดใหม่....อันที่จริงยอดขายที่ค่อนข้างมากจากชุดที่แล้ว มากพอที่จะทำให้วงของพวกเขาได้ถ่ายทำเอ็มวีดี ๆ สักตัวหนึ่ง แต่พวกเขายังคงเน้นที่เนื้องานเพลงมากกว่าภาพลักษณ์ หรือผลกำไรเหมือนอย่างแต่ก่อนอยู่ดี เอ็มวีก็ออกมาสวยสมใจด้วยทุนสร้างที่น้อยกว่าที่คาดเอาไว้....
ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งกำลังฟังเพลงของเดย์ ขณะกำลังนั่งพักอยู่ด้านหลังแคทวอล์ค.....มุมปากของเขายกยิ้มให้กับผีพรายสุดหลอนในมิวสิควิดีโอ ที่กำลังร่ายรำไปกับจังหวะเพลงบีทเต้นรำหลอน ๆ.....ชายหนุ่มกำลังไปได้สวยกับอาชีพถ่ายแบบ หน้าตาแบบแบดบอย และมัดกล้ามทรมานใจสาว ทำให้เขาผู้นี้ถูกทาบทามจากผู้จัดละคร ให้ไปรับบทเป็นตัวร้าย แต่ชายหนุ่มก็ยังขอคิดดูก่อน....
“คิดถึงมึงจัง.....ตุ๊ด......จะได้เจอกันอีกมั้ยนี่”
.
.
.
.
.
[สองปีก่อน]
คนคลั่งลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจด้วยร่างกายที่ปวดร้าวอย่างหนัก ค่ำคืนที่ผ่านมา....แม่เสือสาวนอนหลับเป็นตายอย่างไม่ได้สติ เดย์หยีตาให้กับแดดในยามเช้า ความเจ็บปวดที่ส้นเท้า อันเกิดจากถูกของมีคมบาดลึก ทำให้กะเทยสาวตาสว่าง....
“แย้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
โป๊!!!......คนสวยของเรากำลังโป๊ ร่างขาว ๆ ไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น นึกอายมัดกล้ามอ่อน ๆ ของตัวเองอยู่เหมือนกัน ถ้าจับโกนผมเผ้าให้เหี้ยนเตียนแล้วล่ะก็ เธอก็ไม่ได้ต่างจากเด็กผู้ชายปกติธรรมดาคนหนึ่งสักเท่าไหร่นัก
“ตื่นซะทีนะมึง หลับไม่รู้เรื่อง....”
“ทำไมชั้นโป๊ยะ”
“เอ้า....ก็มึงน่ะตัวเปียก ขืนให้นอนทั้งเปียก ๆ ที่นอนกูก็ขึ้นราสิเฮ้ย”
เดย์ขยับตัวเพื่อจะลุก แต่ก็ถูกร่างกำยำของชายหนุ่มโถมทับ
“ไอ้เจ....ปล่อย”
“เรื่อง....เมื่อคืนมึงหลับ กูต้องสะกดใจเอาไว้ตั้งไม่รู้กี่ครั้ง เพื่อไม่ให้ปล้ำมึงน่ะ ตอนนี้มึงตื่นแล้ว ตกเป็นของกูซะเถอะ”
“อีเหี้ยยยยยย”
หน้าผากของเดย์โขกเข้าอย่างจังกลางใบหน้าของไอ้หนุ่มเลือดร้อน จอมหื่น....เลือดกำเดาไหลทะลัก และชายหนุ่มก็ต้องกุมใบหน้าของตนเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด เปิดโอกาสให้ลูกแมวเหมียวตัวยาว ได้สวมเสื้อผ้าของตนที่กองอยู่ที่พื้น
“เจ็บนะเฮ้ย กูอุตส่าห์ช่วยมึงนะตุ๊ด จะไม่ตอบแทนกันบ้างเลยรึไง”
“ฝันเถอะย่ะ ยี๋....เสื้อชั้นยังเปียกอยู่เลย แกมีให้ยืมมั้ย”
“มีในตู้....กางเกงผูกเชือกกับเสื้อมาม่า....”
“ชั้นขออาบน้ำได้รึเปล่า”
“เออ”
“ลงไปซื้อกางเกงในกระดาษเบอร์เอ็มกับแปรงสีฟันให้ด้วยสิ”
ชายหนุ่มยัดรูจมูกของตนด้วยกระดาษทิชชู่เพื่อห้ามเลือด ก่อนจะออกไปจากห้องอย่างหัวเสีย เดย์ยืนมองจนกระทั่งได้ยินเสียงกระแทกอย่างแรงของประตูห้อง ก่อนจะถอนใจอย่างโล่งอก
“อีบ้าเอ๊ย....ไหนว่าไปบำบัดมาแล้ว....ยังเหี้ยเหมือนเดิมจริง ๆ”
.
.
.
.
“เอ้ากินนี่ซะ กูมันตัวคนเดียว มีปัญญาหาให้มึงได้แค่นี้แหละ”
“ขอบใจนะ”
ชามมาม่าส่งกลิ่นต้มยำกุ้งหอมฟุ้งไปทั่วห้อง มืออันสั่นเทาของกะเทยสาวเลื่อนชามร้อน ๆ นั้นมาตรงหน้า แล้วจัดการอย่างหิวโหย
“จะเอายังไงต่อล่ะ”
“กลับไปเฝ้ายาย”
“เสียใจด้วยนะ”
“เสียใจเรื่องแฟนเก่าแกด้วยเหมือนกัน”
“เดี๋ยวกูต่อยเลยอีนี่”
ชายหนุ่มมองแม่นางโยกเยกโซ้ยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างหิวโหย มือก็คอยเกลี่ย...คอยทัดเส้นผมเปียก ๆ ที่ตกลงมาปรกหน้า รบกวนการกินของเจ้าหล่อน
“กูหวีผมให้นะ มึงกินไปเหอะ”
“อื้อ”
“เดย์”
“อะไร”
“กูชอบมึงนะ คบกับกูไม่ได้เหรอ....มึงบอกว่ามึงยกโทษให้กูแล้วใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้น ก็รับกูไว้พิจารณาบ้างดิ กูก็หล่อนะเว้ยยยย หล่อกว่าไอ้ดำของมึงอีก....เหี้ย ๆ อย่างกูเนี่ย ตัวผู้ตัวเมียติดตรึม!!!!”
“เจ”
“ตกลงใช่มั้ย”
“ให้เป็นเพื่อนอ่ะจะเป็นมั้ย ให้ได้แค่นี้อ่ะ มากกว่านี้คงไม่ได้แล้ว”
“หึ.....กะแล้วเชียวว่ามึงจะใจแข็ง”
มือใหญ่ ๆ โบกกะเทยถึกไปหนึ่งครั้ง หัวของเดย์เหย่แทบจะทิ่มลงไปในชามบะหมี่ แล้วเดย์ก็หัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่หัวเราะเยาะ หรือแค่นหัวเราะแบบที่เคยทำกับเขา คน ๆ นี้หัวเราะให้เขาเป็นครั้งแรก หลังจากที่ถูกเขาทำร้ายอย่างแสนสาหัส....
“เจแกจำสมุดที่แกให้ชั้นได้มั้ย”
“เออ”
“ชั้นจดนะ....เรื่องเลวร้ายที่แกเคยทำกับชั้นน่ะ แต่พอเอาเรื่องดี ๆ ที่แกเคยทำมาหักกลบลบกันแล้ว อย่างน้อย ๆ ชั้นว่าชั้นก็ได้กำไรนะ”
“งั้นเหรอ”
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะเจ.....”
“กูก็ขอโทษมึงอีกครั้งก็แล้วกัน กิน ๆ เข้าไปซะ อย่าพูดมาก เดี๋ยวจะพากลับไปส่งที่โรงบาล....”
ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเจ้าเล่ห์บนใบหน้าหล่อร้าย จ้อมมองแผ่นหลังผอม ๆ อย่างน้อย ๆ ก็ได้เป็นเพื่อน ได้แค่นี้เขาก็ควรจะพอใจแล้วมิใช่หรือ ถ้านึกถึงสิ่งที่เคยทำเอาไว้ ชายหนุ่มเคยคิดด้วยซ้ำไป ว่าชาตินี้ทั้งชาติ แม่คนนี้ก็คงจะไม่ยอมญาติดีด้วย....
“หล่อ ๆ อย่างกูน่ะ หาได้งามกว่ามึงอีกร้อยเท่าก็ยังได้ อีตุ๊ด....พลาดของดีแล้วมึงอ่ะ”
.
.
.
.
หากเวลาสองปีของเด็กหนุ่มนามว่าเดย์ เป็นช่วงเวลาแห่งการปรับสภาพฟื้นฟูจิตใจ สองปีของใครอีกคนคือการรอคอยอย่างยาวนานไร้ที่สิ้นสุด หากแต่ความทรมานจากการรอคอยของใครคนนั้น คงเทียบไม่ได้กับนรกทั้งเป็นของใครอีกคนหนึ่ง
“นายไปเจอเค้าที่ไหน” เสียงสั่นเครือเอ่ยกับคู่สนทนาซึ่งสวมชุดสูทตัดเย็บอย่างหยาบ ๆ ชายหนุ่มวัยกลางคนผู้นี้ยังคงหล่อเหลา แม้จะดูเศร้าเสียจนใบหน้านั้นหมองคล้ำเกินวัย ดวงตาของหนุ่มใหญ่จ้องมองบุคคลที่สามที่ถูกพาตัวเข้ามาอย่างเวทนา
“ซ่องที่มาเลย์....โดนสารพัด ทั้งซ้อมทั้งถูกบังคับให้ขายตัว แถมยังเจอลูกค้าชั้นเลวทั้งขี้ยา พวกวิปริต...เชื่อมั้ย ว่าซื้อตัวเด็กคนนี้มาด้วยราคาถูกกว่าที่คิดเอาไว้อีก...”
“อิอิอิอิอิ”
แก้มขาว ๆ ถูกกรีดเป็นแผล เห็นเป็นรอยบากจาง ๆ แต่กระนั้น ความน่ารัก น่าทะนุถนอมในสายตาของชายวัยกลางคนก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มหัวเราะ และจ้องมองอย่างเลื่อนลอย ตุ๊กตากระต่ายสีชมพูตัวใหญ่ถูกสวมกอดเอาไว้แน่น ราวกับจะถ่ายทอดความรู้สึกของตนลงไปในนั้น
“ขอบใจนายมาก ค่าเสียเวลาของนายชั้นเซ็นต์เช็คเตรียมเอาไว้ให้แล้ว นายไปเถอะ ชั้นอยากใช้เวลาอยู่กับเค้าน่ะ”
“อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง มีแต่สภาพจิตใจที่บอบช้ำ เอาเถอะเพื่อน มันจะต้องดีขึ้น....”
ในที่สุดเวลาแห่งการรอคอยก็สิ้นสุด ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยคราบน้ำตา มือเล็ก ๆ นั้นเกลี่ยออกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะส่งมอบรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ไร้เดียงสาส่งให้....
“ไม่ร้องนะ.......มามีความสุขกันนะครับ ผมจะทำให้คุณพอใจ ผมจะใช้ปากให้คุณ.....อิอิอิอิ”
“เริ่มต้นกันใหม่นะลูกนะ พ่อจะไม่ทิ้งหนูอีกแล้ว พ่ออภัยให้หนูทุกอย่าง เรากลับมาอยู่เป็นครอบครัวเหมือนเดิมเถอะนะ แค่เราสองคนนะลูกนะ”
เด็กหนุ่มไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ในถ้อยคำเหล่านั้น เขารู้แค่เพียงว่าคน ๆ นี้กำลังเศร้า แล้วสิ่งที่เขาทำได้....เพื่อรักษาชีวิตของเขาให้รอดพ้นไปแต่ละวันนั้นก็มีเพียงแค่.....ทำให้ลูกค้าพึงพอใจ...
เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ซ้ำ ๆ โดยมีเพียงเศษอาหารประทังชีวิต และยาเสพติดสำหรับใช้แทนแบตเตอร์รี่....
“พ่อรักหนูนะลูก.....พีท.....หนูคือเทวดาของพ่อ”
.
.
.
.
.
“มึง ๆ ๆ ๆ ๆ.....มึงอีกแล้วเหรอวะ กูไม่ได้นัดมึงมานะเฮ้ย....”
นายแบบดาวรุ่งส่งเสียงสบถใส่เจ้ามือเบสส์ที่เคี้ยวตุ้ย ๆ พ่อคุณเขมือบอาหารทุกอย่างที่ขวางหน้า อาหารที่ถูกสั่งขึ้นมาสำหรับฉลองวันเกิด
“หย่อย ๆ.....เออนี่ เดย์เค้าฝากของขวัญมาให้มึงด้วยนะเจ.....แล้วก็ฝากสุขสันต์วันเกิดมึงด้วย เอาน่า น้องมันไม่ว่างจริง ๆ กว่าจะเคลียร์คิวได้อ่ะนะ ตารางงานแน่นโครต ๆ มันก็อยากจะพาคุณยายท่านไปพักผ่อนต่างจังหวัดนิ.....กูก็มาแทนมันนี่ไง กูรับผิดชอบทุกอย่างเอง”
“อีตุ๊ดนะอีตุ๊ด ทำกันได้....อันที่จริงมึงไม่ต้องมาก็ได้นะ แค่มันโทรมาบอกกู กูก็เข้าใจ.....หาเรื่องกินฟรีใช่มั้ยมึงน่ะ”
พ่อหนุ่มหน้าตี๋ทิ้งช้อนลงบนจานกระเบื้อง ส่งเสียงดังเคล้ง.....สายตานั้นสั่นระริกอย่างออดอ้อน
“เค้าโดนทิ้ง....เค้าเป็นหมาหัวเน่า ทั้งเพื่อนทั้งน้อง พอพวกมันเริ่มคบกันจริงจัง ตี๋คนนี้ก็ถูกเมิน จะเสนอหน้าไปไหนกันสามคน ตี๋ก็เป็นส่วนเกิน แล้วนี่เจเจ้ยังจะมารังเกียจรังงอนตี๋อีก....ณ จุดนี้ ตี๋เสียใจเป็นที่สุด”
“เหี้ยนี่ อย่ามาดราม่า....เป็นพี่กูจริงรึเปล่าเนี่ย เด็กโครตเลยมึงอ่ะ”
“สองหนุ่มโสดเพลย์บอย คาสโนว่าอย่างเรา ๆ หม่ำของหวานเสร็จแล้ว ออกไปท่องราตรีกันดีฝ่า ตี๋เตรียมแผนการสำหรับเราเอาไว้แล้น เราสองคนน่ะ....ร่วมหัวจมท้ายกันแล้วนาน้องเจเจ้นา....เรามาสร้างแก๊งค์ของเรากันดีฝ่า
นายแบบมาดกวน....มาเจอกับคนที่กวนเข้าเส้นของจริงเข้าให้แล้ว เจรู้สึกปวดหัวตุ่บ ๆ ล่วงหน้าอย่างไม่ต้องมีใครสั่ง ขณะที่หนุ่มหน้าตี๋ยังคงอร่อยกับเค้กช๊อคโกแล็ตของเจ้าของงานวันเกิด(แบบส่วนตัวสองต่อสอง)
จะเป็นข่าวลงหนังสือซุบซิบบันเทิงมั้ยล่ะนั่น!!!!
.
.
.
.
“หนาวมั้ยจ๊ะยาย พันอีกชั้นนะ”
ผ้าพันคอสีสวยบรรจงพันคล้องลงไปบนคอและบ่าของหญิงชราอย่างรักใคร่ แก้มของนางฉวีแดงเนื่องจากอากาศที่ค่อนข้างเย็นจัดในยามเช้า แต่ก็สุดแสนจะสดชื่น ป่านนี้เลดี้แอลคงกำลังคั่วกับหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเธอเป็นสิบปีอยู่ที่บางกอก ขณะที่คุณยายวันเพ็ญก็กำลังจะออกงานเขียนเล่มที่สอง ส่วนคุณยายวันใหม่นั้น หลังจากถูกรับเชิญให้มาร้องเพลงร่วมกับเดย์ในอัลบั้มชุดล่าสุดแล้ว เธอก็กำลังจะออกงานเฉพาะกิจกับนักร้องวัยดึกอย่างสวีทนุช
“คนเก่ง ออกมาเดินเล่นแต่เช้าเลยนะเรา”
“อ้าวพี่ต้น.....น้องเห็นพี่หลับสบายอยู่ก็เลยไม่ได้ปลุก หิวข้าวรึยังอ่ะ”
“รอกินพร้อมสาว ๆ ไง....คุณยายครับ วันนี้หลานคุณยายน่ารักอีกแล้ว ดูสิ เดี๋ยวนี้เริ่มจะแต่งตัวมีสีสันกับคนอื่นเค้าบ้างแล้ว”
“เขินนะเฮ้ย....หยอดกันตลอด”
หญิงชราจ้องมองคนทั้งคู่ สลับกันไปมาอย่างช้า ๆ ด้วยสายตาที่ยังคงเลื่อนลอยดู เดย์เสยผมขาว ๆ ที่ถูกลมพัดปลิวจนยุ่งเหยิงของหญิงชรา ก่อนจะค่อย ๆ เสียบกิ๊ฟสีดำลงไป
“อยากให้ยายคุยกับเดย์เหมือนเมื่อก่อน ยายเป็นแบบนี้ ยังไงเดย์ก็ไม่ชินว่ะพี่”
“เราดูแลท่านดีแบบนี้ ไม่ช้าท่านก็อาจจะกลับมาเป็นปกติก็ได้นะ”
“อื้อ”
“กลับไปคราวนี้ไปหาพ่อกับแม่ของพี่ด้วยนะไอ้โยกเยก”
“ทำไมอ่ะ”
“ไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในฐานะแฟนคนแรกของพี่ไง”
“ห๊ะ.....นี่พี่เวอร์จิ้นอย่างที่พี่ตี๋เคยบอกเอาไว้จริง ๆ ด้วยสินะ บร๊ะเจ้า.....นี่ชั้นคบกับหนุ่มพรหมจรรย์หรือนี่”
“เดี๋ยวซัดเลยไอ้เด็กนี่”
ทั้งคู่เริ่มหยอกเย้า กระเซ้าเย้าแหย่กันอีกครั้ง ทำให้เดย์ลืมความเศร้าเกี่ยวกับยายลงไปได้ชั่วคราวก่อน คนสวยของเราดีขึ้นเยอะแล้ว แต่ก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี ที่คนที่ตัวเองรักยังต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ไหล่กว้างของแฟนหนุ่มนักดนตรีกระแทกเธอจนเซ และเธอก็กระแทกตอบด้วยแรงที่มากกว่ากว่าเป็นสองเท่า แต่กลับเป็นร่างผอม ๆ ของเธออยู่ดี ที่เป็นฝ่ายเซออกไปอีกครั้ง ทั้งคู่หัวเราะร่าอย่างมีความสุข เวลาแห่งการพักผ่อนที่แท้จริง หลังจากตรากตรำกันมาเป็นเวลานาน ทั้งเรื่องเรียน และก็เรื่องงานดนตรี เดย์หันกลับไปมองยาย แล้วลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ เพลงโปรดที่เคยร้องกับยายตอนเด็ก ๆ เดย์กำลังร้องมันอีกครั้งหนึ่ง
When I was just a little girl
I asked my mother what will I be
Will I be pretty
Will I be rich
Here's what she said to me
Que sera sera
Whatever will be will be
The future's not ours to see
Que sera seraหญิงชราจ้องเธอ จ้องมองหลานของตนด้วยสายตาว่างเปล่าเหมือนอย่างเคย เดย์ร้องเพลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดดวงตาคู่นั้นก็ส่งกระแสวูบไหวบางอย่างออกมา....
น้ำตา....
“พี่ต้นยายร้องไห้....พี่ต้น!!!”
“ร้องไปเรื่อย ๆ เดย์ ร้องไป”
Que sera sera
Whatever will be will be
The future's not ours to see
Que sera sera
ริมฝีปากซีดนั้นกระตุกและสั่นระริก เดย์ร้องเพลงด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม แต่หาใช่น้ำตาแห่งความเศร้า....
แต่มันคือน้ำตาแห่งความสุข เมื่อเสียงแผ่วเบานั้น รอดผ่านออกมาจากปากของหญิงชรา....บางอย่างที่ทำเอาคนฟังถึงกับน้ำตาไหล ทั้งเดย์และต้น ต่างก็ไม่อาจระงับความรู้สึกปิติยินดีนั้นได้
คำแรกในรอบสองปี....
“เดย์....”
.
.
.
.
.
END
จบแล้วนะ เป็นอย่างที่ทุกคนคิดรึเปล่าเอ่ย แบบว่าบางฉากแต่งไปก็แอบอินเอง บ้าเนอะ.....ไม่รับปากนะว่าจะมีตอนพิเศษมั้ย อาจจะมีหรืออาจจะไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่ว่าคนแต่งจะตันมั้ย แต่ยังก็ถือว่านิยายเรื่องนี้จบลงแล้วอย่างสมบูรณ์ ติดตามผลงานของเราได้นะคะ กับฟิคชั่นอีกสองเรื่องที่ยังค้างอยู่ น้องบิ๊กกับพี่บู้(แนวแฝดกดแฝด) แล้วก็รักต้องสูบ(แนวกะเทยอีกเรื่องที่ต่างจากเรื่องนี้)
โฆษณาฟิคของตัวเอง ในกระทู้นิยายตัวเอง หวังว่าคงจะไม่น่าเกลียดไปนะ 555 แบบว่าถ้าอ่านแล้วชอบก็เม้นท์กันหน่อย เพราะเรตติ้งไม่ค่อยดีเท่าเรื่องนี้อ่ะ แหะ ๆ ฝากด้วยครับผม...
ลิงค์น้องบิ๊กกับพี่บู้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30388.0รักต้องสูบ
www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31502.0