รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62  (อ่าน 515336 ครั้ง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ด่านช้าง   จะผ่านได้ไหมเนี่ย

naiyana

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วสงสารโจ้กับเป๊บจังเลย ตอนนั้นคงจะเสียใจกันมาก
แต่ก็เข้าใจคุณพ่อของเป๊บนะคะ เพราะพ่อแม่ทุกคน
ก็รักลูกมากและหวังอยากให้ลูกเป็นอย่างที่ตนตั้งความหวังไว้
เพราะฉะนั้นคุณพ่อและคุณแม่ของเป๊บก็ไม่ผิดหรอกคะ

แต่เชื่อว่าด้วยความน่ารักและความจริงใจของโจ้ก็คงจะทำให้
คุณพ่อกับคุณแม่ของเป๊บรัก เห็นใจและยอมรับได้ในที่สุด ใช่ไหมคะ
และสิ่งที่สำคัญที่สุด สุดท้ายแล้วพ่อกับแม่ก็อยากเห็นลูกของตัวเองมีความสุข
อยู่แล้วละ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2: :L2:






ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6
ชอบอะ
เป็นกำลังใจให้

สู้สู้

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีคร้าบบบบ FC ทุกท่าน คืนนี้รีบปั่นต้นฉบับมาลงคร้าบบบ ฮ่าๆๆ สำหรับตอนนี้แอบลึกลับน่ากลัวด้วยละ จะยังไงอย่างไร ลองติดตามไปอ่านนะคร้าบบบ

tawan : รออ่านได้เลยค้าบว่าเป๊บจะทำยังไงอะ อิอิ

yayee2 : ใช่เลยคับ ตอนแรกสุขใจมาก พอโดนพ่อเป๊บด่า หงอยเลยอะ แงๆๆ

thejaoil : ตอนนั้นโหดมากเลยคับ แต่ตอนนี้รักผมแล้วละ อ้อนเก่งงะ ฮ่าๆๆๆ

เฉาก๊วย : ใช่ค้าบ แรกๆ พ่อเป๊บรับไม่ได้เลยละคับ แต่พอเข้าใจเราสองคน ก็รับได้แล้ว ไม่มีปัญหาละคับ ขอบคุณค้าบบบ

DE SaiKuNee : ขอบคุณคร้าบบบบ

โจ๊กกุ้ง : มันผ่านมาหลายปีแล้วครับ แต่นึกทีไรยังน่ากลัวเลยนะ อิอิ

pepperpro : ใจเย็นๆ ค้าบบบ เป็นธรรมดาที่พ่อจะโกรธคับ เป๊บเป็นลูกคนสุดท้อง เลยรักมากๆ นะคับ นิสัยจริงๆ ของพ่อเป๊บน่ารักมากๆ เลยนะคับ

yeyong : ผ่านมาแล้วเรียบร้อยคร้าบบ โชกโชนเลยละ ฮ่าๆๆ

naiyana : ขอบคุณคร้าบที่เป็นกำลังใจให้คับบบ

anukul : สนุกก็มาอ่านเรื่อยๆ นะค้าบบบ

IöLIKE : ขอบคุณคร้าบบบที่มอบกำลังใจให้ครับบ

         ขอบคุณทุกคนมากๆ คร้าบบบ  :pig4: :pig4:
โจ้กับเป๊บ


ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Chapter 19 การสอบแสนเครียด คำทำนายที่น่ากลัว

“อื้อ...อืมมมม” ผมรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนบนเตียงในห้องเรียบร้อยแล้วครับ มองไปรอบๆ ตัวก็พบความมืด หือ อะไรหว่า จำได้ว่าฉัตรมารับ แล้วเผลอหลับ ทำไมมานอนบนเตียงเนี่ย โอยยยย คิดมากไปก็มึนๆ ครับ รู้สึกหัวมันหนักๆ ยังไงก็ไม่รู้ซิ ผมเหลือบตามองลงไปข้างเตียง เจอเจ้าจิมนอนบนฟูก
   อ้าวทำไมเจ้าจิมมานอนข้างเตียงละเนี่ย งง จัง ผมเคลื่อนไหวดังมั้งครับ เจ้าจิมเลยลืมตาขึ้นพอดี
“เฮีย เป็นไงบ้าง ยังตัวร้อนอีกมั้ยเนี่ย” เจ้าจิมแสดงอาการเป็นห่วงผมมาก เอามือมาอังที่หน้าผากผมด้วยนะ
“ก็..ดีขึ้นแล้วละจิม” ผมตอบจิมด้วยเสียงแหบๆ เวรกรรม เจ็บคออีกกรู ยังไม่ทันที่เจ้าจิมจะถาม ผมชิงขึ้นถามก่อน
“แล้วพี่มานอนบนห้องได้ยังไงเนี่ย แค๊กๆๆ”
“อ๋อ คือ พี่ฉัตร พี่เบิด พี่ทราย มาส่งพี่ที่บ้าน ผมกับพ่อและแม่กำลังนั่งทานข้าว พี่ฉัตรพยายามเขย่าตัวพี่ แต่พี่ไม่ตื่นแถมตัวร้อนมีไข้ขึ้น พี่เบิดเลยอุ้มขึ้นมานอนบนเตียงเนี่ยละ พ่อกับแม่ตกใจมากเหมือนพี่ไปเจออะไรมาจนอิดโรย พ่อกับแม่เลยถามเพื่อนๆ ของพี่ จับใจความได้ว่า มีเรื่องกับทางบ้านพี่เป๊บนิดหน่อย เลยทำให้พี่ไม่สบาย” เจ้าจิมร่ายยาว
   ผมฟังเจ้าจิมเล่าเสร็จ ก็ไม่ได้ตอบอะไรอีก ราวกับว่าสมองมันตื้อๆ ไม่อยากจะพูดอะไร
“พี่ ผมห่วงพี่นะ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องระหว่างพี่กับครอบครัวพี่เป๊บ การที่ผมเข้าไปยุ่งอาจจะดูไม่เหมาะสม แต่มากไปกว่านั้นคุณพ่อกับคุณแม่เป็นห่วงพี่มากๆ ตอนพี่ตัวร้อนไม่ได้สติแม่เข้ามานั่งเฝ้าพี่พักใหญ่เลย จนพ่อต้องบังคับให้แม่ไปนอน และผมก็มาเฝ้าพี่แทนแม่นะแหละ” เจ้าจิมร่ายยาว
   ได้ฟังที่เจ้าจิมเล่า ผมรู้สึกแย่มากๆ น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัวเลยครับ รู้สึกเสียใจกับเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเป๊บ ยิ่งไปกว่านั้นเสียใจมากๆ ที่ทำให้พ่อกับแม่เป็นห่วง ผมทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในช่วงเสี้ยววินาที เลยตัดสินใจตั้งสติเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ผมพลางบอกกับตัวเองว่า ต้องเข้มแข็งและจะจัดการเรื่องนี้ให้ได้
“พี่ อะ ทิชชู่ ซับน้ำตาก่อน อย่าร้องไห้เลยนะ ผมว่าทุกอย่างมันต้องดีขึ้นนะ ใจเย็นๆ นะครับ” เจ้าจิมปลอบผมเสร็จก็เข้ามากอดผม ผมกอดเจ้าจิมพร้อมร้องไห้ปล่อยโฮเลยละครับ ราวกับว่าเป็นการระบายความอัดอั้นที่ค้างคาในใจ
   หลังจากที่ร้องไห้ ทบทวนเรื่องราวทั้งหมด ด้วยความเพลียและพิษของไข้ ผมผล็อยหลับไปอีกครั้ง จนกระทั่งแสงแดดส่องหน้า ผมลืมตาตื่นขึ้นมา มองไปข้างเตียงไม่เห็นเจ้าจิมซะแล้ว สงสัยคงตื่นลงไปข้างล่างแล้วละ ผมเรียกกำลังใจกับความมั่นใจกลับมา อาจจะรู้สึกแย่บ้าง แต่ก็ต้องเข้มแข็งครับ นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนไม่ได้โทรบอกเป๊บ แอบตกใจเล็กน้อย รีบควานหาโทรศัพท์ กดดูหน้าจอ โห เป๊บโทรมาไม่ได้รับ 49 สาย ผมรีบกดโทรศัพท์หาเป๊บ เสียงเรียกปลายทางดังเพียงแค่ครั้งเดียว ก็ได้ยินเสียงเป๊บแล้วละครับ
“ที่รักๆๆ เป็นยังไงบ้างครับ หายป่วยหรือยัง เป๊บเป็นห่วงมากเลยนะ หายหรือยัง เป็นยังไงบ้าง” เป๊บรัวคำถามกระหน่ำด้วยอาการลนลานเลยละครับ
“ดีขึ้นแล้วครับเป๊บ เมื่อคืนโจ้ขอโทษนะ หลับบนรถฉัตรแบบไม่รู้ตัวเลย สงสัยเป็นเพราะพิษไข้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ประมาณตีสองแล้วละครับ
“ไม่เป็นไรครับที่รัก เป๊บโทรไปไม่รับสาย เลยโทรหาฉัตร ฉัตรบอกว่าที่รักพักผ่อนปลอดภัยแล้ว เป๊บเลยหายกังวลนะครับ”
“ครับเป๊บ ไม่ต้องห่วงนะ โจ้อาการดีขึ้นมากแล้วละ” เป๊บเงียบไปครู่นึง แล้วพูดขึ้นมาว่า
“โจ้ครับ เรื่องเมื่อคืน......เป๊บขอโทษนะ....เป๊บรักโจ้นะครับ ยังไงเราสองคนจะต้องสู้ด้วยกันนะ” เป๊บเสียงเครือๆ ครับ
“เป๊บ..โจ้ให้สัญญา เราสองคนจะสู้ด้วยกัน โจ้เชื่อว่าวันนึงคุณพ่อของเป๊บต้องเห็นคุณค่าความรักของเราสองคน เพียงแค่เราเชื่อมั่นในสัญญาที่ให้ไว้แก่กัน ทุกอย่างต้องผ่านพ้นไปได้นะครับเป๊บ
“ฮึกๆๆ..ขอบคุณครับโจ้ เป๊บรักโจ้นะ” เสียงเป๊บแอบร้องเบาๆ ทำให้ผมใจหายเลยละครับ แต่ยังไงก็ไม่มีทางร้องไห้เด็ดขาด กลัวเป๊บเสียกำลังใจ
“ครับเป๊บ โจ้รักเป๊บเช่นกันนะ อย่าร้องนะ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสนะเป๊บ”
   เพื่อไม่ให้บรรยากาศมันดูเศร้าไปอะครับ ผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุยเน้นไปที่การสอบปลายภาคในอีกสี่วันข้างหน้า ผมกระตุ้นให้เป๊บมีกำลังใจในการอ่านหนังสือ ตั้งใจทบทวนเนื้อหาเตรียมความพร้อมกับการสอบปลายภาคครั้งนี้ ผมเองก็เช่นกันครับ สลัดความคิดเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านเป๊บออกให้หมด ตั้งใจอ่านหนังสือสุดๆ
   เป๊บบอกกับผมว่า คุณพ่อสั่งลูกน้องคอยเฝ้าเป๊บไม่ให้ออกจากบ้าน เป๊บเลยออกไปไหนไม่ได้เลยละครับ ผมเลยปลอบเป๊บไปว่า สี่วันข้างหน้าเป็นวันสอบปลายภาค ยังไงก็ได้เจอกันอยู่แล้ว ตั้งใจอ่านหนังสือดีกว่า หลังสอบค่อยว่ากันอีกที เป๊บตอบรับคำที่ผมแนะนำไป เสียงของเป๊บดีขึ้นนะครับ ผมเชื่อในอานุภาพของความรักนะครับ คนเรารักกันต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อุปสรรคทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปได้
   ผมวางสายเป๊บ ลุกขึ้นไปแปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัวชุดสบายๆ แล้วเดินลงไปห้องอาหารเพื่อทานข้าวเช้า พ่อ แม่ และเจ้าจิม กำลังทานกันอยู่พอดีเลย
“โจ้ ลูก มาทานข้าวต้ม” พ่อผมเอ่ยชวนพร้อมกวักมือเรียก แม่ผมหันมามองพร้อมลุกขึ้นเดินมาเอามืออังหน้าผาก
“ไข้ลดหรือยังลูก ไปหาหมอมั้ย” แม่ผมแสดงอาการเป็นห่วงมากครับ
“ไม่เป็นไรครับแม่ โจ้ดีขึ้นมากแล้วละ ว่าแต่หิวข้าวจังเลยอะ เมื่อคืนแทบไม่ได้กินอะไรเลย” ผมกอดแม่ ออดๆ อ้อนๆ แหะๆ
“งั้นมาทานข้าวดีกว่านะ แล้วเดี๋ยวทานยาก็ไปพักผ่อนด้วยนะจ๊ะ”
“ครับแม่ ทานละคร้าบบบ” ผมก็เริ่มทานข้าวเช้า
   ระหว่างทานข้าว พ่อผมก็ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมก็เล่าไปเท่าที่จำได้ครับ พ่อกับแม่ดูตกใจกับคำที่คุณพ่อเป๊บด่าผมว่าพวกผิดเพศ ทำเอาพ่อกับแม่ฉุนเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีอะไรมากครับ พ่อกับแม่บอกว่าน่าจะเป็นเพราะตกใจที่ลูกชายคนสุดท้องที่รักมากที่สุด ชอบผู้ชาย พ่อผมแนะนำว่า ช่วงนี้ก็จัดการเรื่องเรียนให้เสร็จก่อน หลังสอบค่อยว่ากันอีกที แม่ผมก็แสดงอาการไม่ค่อยพอใจ จะออกแนวประมาณว่าจะไปคุยให้รู้เรื่อง ผมละกลัวๆ แม่ผมเหมือนกันนะเนี่ย เวลาโกรธน่ากลัวงะ ผมก็บอกท่านทั้งสองว่า เรื่องนี้ผมน่าจะแก้ปัญหาได้ ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ผมว่านะ คนที่เดือดร้อนน่าจะเป็นเจ้าจิมนะ ฮ่าๆๆ ปกติใครมาแกล้งผมเจ้าจิมจะตามไปจัดการ แต่นี่เป็นคุณพ่อเป๊บไงครับ เจ้าจิมเลยทำได้แค่ นั่งหงุดหงิดเท่านั้นเอง
   หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมขึ้นมาบนห้อง ตั้งใจทบทวนหนังสือ อ่านเต็มที่เลยละครับ ฉัตรก็โทรมาถามอาการป่วย ทรายก็โทรมา เบิดก็โทรมา ที่น่าขำที่สุดคือ โอ๊ตกับตั๋มก็โทรมา คงจะทราบข่าวจากพวกนี้แหละครับ ผมตั้งใจอ่านหนังสือเรื่อย ประมาณช่วงเที่ยงเป๊บก็โทรมาถามอาการป่วย ก็มีคุยๆ เรื่องเนื้อหาในหนังสือส่วนที่ไม่เข้าใจบ้าง บางทีก็แอบทรมานนะครับ คนเราเคยคุยๆ แบบเห็นหน้าหยอกล้อกัน แต่ต้องมาเปลี่ยนเป็นการคุยทางโทรศัพท์แทน ดูหงอยๆ เหมือนกันนะครับ (ในยุคนั้นเน็ตไฮสปีดยังไม่นิยมเลย สกงสไก้ ก็ลำบาก ถ้าเป็นตอนนี้ได้ส่องกล้องกันละคร้าบบบ ฮ่าๆๆๆ) ผมก็ลงไปทานข้าวเที่ยง ขึ้นมาอ่านหนังสือ ทานข้าวเย็น ขึ้นมาอ่านหนังสือต่อ โทรหาเป๊บก่อนนอน ตื่นขึ้นมาแปรงฟันอาบน้ำ ทานข้าวเช้า อ่านหนังสือ ทำกิจกรรมในลักษณะนี้ตลอดทั้งสี่วันเลยละครับ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย จนกระทั่งวันที่ห้า เป็นวันแรกของการสอบกลางภาค

“ลูก วันนี้ไปมหาวิทยาลัยหรือ” พ่อผมถามในระหว่างที่ทานข้าวเช้าครับ
“ครับพ่อ วันนี้สอบวันแรกซะด้วย แอบตื่นเต้นกลัวจะสอบไม่ผ่านจังเลยอะครับ”
“พ่อว่าผ่านแหละ อ่านหนังสือเต็มที่แล้วนี่” พ่อผมให้กำลังใจ ผมรู้สึกมั่นใจจังเลยครับ
“ขับรถไหวมั้ยลูก ให้จิมไปส่งมั้ย” แม่ผมถามครับ
“ใช่ๆ เฮีย จิมไปส่งได้นะ ตอนนี้ปิดเทอมแล้ว ว๊างงงว่างงง” เจ้าจิมเสนอตัวทันที
“ไม่เป็นไรครับแม่ ผมขับได้สบายมาก เจ้าจิมแกก็ไปนอนพักผ่อนโน่น พี่ซิ่งเอง” ผมยิ้มตอบไป
“จ้า พ่อคนเก่งงงง ขับดีๆ ละ อย่าเร็วเกินนะลูก” แม่ผมแซว
“คร้าบบบ”

   ทานข้าวเสร็จผมก็เดินมาที่โรงรถ เจ้าสีทองจอดแววอยู่ สงสัยเจ้าจิมเอาไปล้างให้แน่ ฮิฮิ ผมขับรถมาเรื่อยๆ ระหว่างทางเป๊บก็โทรมาเข้ามาครับ
“ที่รัก ถึงไหนแล้วครับ”
“ทางยกระดับหน้ารามครับเป๊บ เป๊บละถึงไหนแล้ว”
“ถึงมหา’ลัยแล้วครับ เป๊บจอดรอชั้นเดิมนะ”
“ได้ครับเป๊บ ไม่เกินสิบห้านาทีน่าจะถึง รถไม่ติดมากครับ”
“เป๊บรอได้ ขับดีๆ นะที่รัก เดี่ยวเจอกันครับ”
   เป๊บวางสายไป ผมดีใจจังเลย ไม่ได้เจอเป๊บตั้งสี่วันแนะ ผมเลี้ยวรถเข้ามหาวิทยาลัย ขึ้นไปลานจอดรถชั้นสาม เห็นเป๊บยืนพิงเจ้าสีหมอก ผมกดแตรทีนึง เป๊บหันหน้ามามอง พร้อมยิ้มกว้างเลยละครับ หลังจากนำเจ้าสีทองจอดรถข้างๆ สีหมอกเสร็จ ผมรีบลงจากรถ
“หมับบบบบ...คิดถึงจังเลยที่รัก” เป๊บสวมกอดผม กอดแน่นมากเลยครับ
“ครับเป๊บ คิดถึงเป๊บเช่นกันนะ” ผมก็กอดตอบเป๊บแน่นมากเหมือนกันครับ
   ผมชายสายตามองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ในชั้นสามเลย ฮิฮิ ก็แน่นอนละ เช้าขนาดนี้ใครจะมากันละคร้าบบบ
“จุ๊บ.....” ผมจูบเป๊บให้หายคิดถึงครับ
“จุ๊บ....” เป๊บจูบตอบเช่นกัน ไม่เร่าร้อน ไม่รุนแรง แต่อารมณ์ตอนนั้นบ่งบอกเลยว่า เป็นจูบที่คิดถึงกันมากที่สุด
“เป๊บดูผอมไปนะ ทำไม่ไม่ดูแลตัวเองเลยครับ”
“แหะๆ ที่รัก เป๊บทานอะไรไม่ค่อยลงนะครับ แต่ที่รักยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ ไม่ซิ มากกว่าเดิมอีก ตัวนิ่มและหอมเหมือนเดิมเลยนะ คิดถึงจังเลยครับ” เป๊บพูดเสร็จก็กอดผมแน่นๆ อีกที
“เป๊บก็เว่อร์ไปค้าบบบบ” ผมยิ้มกว้างตอบเป๊บไป
“ฮ่าๆๆ ปะที่รัก นั่งหน้าห้องสอบดีกว่าครับ เผื่อเจอเพื่อนๆ จะได้ทบทวนกันอีกรอบ”
“คร้าบ”
   ผมกับเป๊บเดินไปอาคารเอนกประสงค์ กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 10 กะว่าจะไปนั่งรอบริเวณโต๊ะอ่านหนังสือ เมื่อไปถึงก็เจอเพื่อนๆ หลายคนนั่งอ่านหนังสืออย่างขะมักขะเม้น ผมกับเป๊บก็ทักทายเพื่อนๆ ไปทั่วอะครับ เดินไปมุมโต๊ะว่าง พบฉัตร เบิด โอ๊ต ทราย นั่งอ่านหนังสือหน้าตาเคร่งเครียด ผมเดินปรี่เข้าไปทักทาย
“ฮัลโหล เพื่อนๆ สบายกันดีป่าวววว” ผมทักทายเพื่อนทั้งกลุ่ม
“เอ้าอีหอยยยย สบายดีๆ เมิงเป็นไงมั่ง” ฉัตรทักทายด้วยสีหน้า แววตาดีใจมากๆ
   หลังจากนั้นทุกคนแทบไม่ได้อ่านหนังสือแล้วละครับ ระดมคำถามสารพัดใส่ผมกับเป๊บ จนตอบไม่ทันเลยอะ จนใกล้เวลาเก้าโมงเช้า เจ้าหน้าที่ประกาศให้เข้าห้องสอบครับ ผมกับเป๊บและเพื่อนๆ จึงเดินทยอยเข้าไปนั่งประจำที่ บรรยากาศดูเครียดมากครับ เจ้าหน้าที่เริ่มแจกข้อสอบ ผมก็พยายามตั้งสมาธิมากที่สุด และเริ่มลงมือทำข้อสอบครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2011 09:45:08 โดย jonathan2624 »

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
เวลาแห่งความเครียดตลอด 3 ชั่วโมงได้ผ่านพ้นไป เจ้าหน้าที่เดินเก็บข้อสอบพร้อมกับให้ลงลายมือชื่อเพื่อยืนยันการส่งข้อสอบ ผมเดินออกมาจากห้องสอบพร้อมเพื่อนๆ ทุกคน
“ไงที่รัก ทำข้อสอบได้มั้ยครับ” เป๊บถามพร้อมกับเอามือมาโอบเอวผมไว้
“คิดว่าน่าจะได้นะเป๊บ แอบมั่นใจนะ แต่ไม่ชัวร์ ฮ่าๆๆ”
“ฉัตรแล้วเมิงทำได้ปะเนี่ย” ผมหันไปถามฉัตรครับ
“ยากจะตายเมิง กรูยิ่งเบลอๆ อยู่ ฮ่าๆๆ แต่คิดว่าน่าจะเอาตัวรอดได้นะ” ฉัตรตอบผสมขำๆ
“เมิงละเบิด” ผมหันไปถามเบิด
“กรูแม่นวะโจ้ ฮ่าๆๆ” หนอยทำข่ม ลืมไปเลยละค้าบว่าเบิดมันเรียนเก่งมากกกก
   ทรายกับโอ๊ต ก็เปรยๆ ว่าทำได้บ้าง ดูเหมือนไม่ค่อยมั่นใจกันเลยแฮะ ฮ่าๆๆ วิชาแรกของการสอบปลายภาคได้ผ่านพ้นไป ทานข้าวเที่ยงเสร็จ ประมาณบ่ายโมงครึ่งก็ต้องเข้าสอบอีกวิชาครับ ดูแล้วทรมาน สุดๆ  3 ชั่วโมงของการสอบช่วงบ่ายได้ผ่านพ้นไป ทุกคนเดินออกจากห้องสอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพอสมควรครับ ผมกับเป๊บลองชวนเพื่อนๆ ไปทานข้าวเพื่อแก้เครียด ไม่มีแนวร่วมสักคนะเลยอะครับ ต่างคนต่างอยากกลับไปพักผ่อนกันหมด ผมเองก็เหนื่อยๆ นะ เพราะเหลือการสอบในวันพรุ่งนี้อีกหนึ่งวิชา หลังจากพรุ่งนี้ไปก็จะเข้าสู่การปิดเทอมที่สมบูรณ์แบบแล้ว เย้ๆๆ

   เมื่อไม่มีแนวร่วมผมกับเป๊บก็ล่ำลาเพื่อนๆ แล้วเดินแยกตัวไปยังอาคารจอดรถชั้นสามเพื่อกลับบ้านครับ เดินคุยระหว่างทางมาเรื่อยๆ จนมาถึงสีหมอกกับสีทอง
“ที่รัก...ระยะนี้เป๊บคงไม่ได้ไปค้างบ้านที่รักนะครับ...” เป๊บพูดไม่ทันจบก็ดูเงียบๆ ไป
“ครับเป๊บ...โจ้เข้าใจเป๊บนะ...เราต้องสู้ด้วยกันนะครับ...วันนึงฟ้าต้องสดใส..เชื่อโจ้นะเป๊บ”
“ครับที่รัก” เป๊บยิ้มกว้าง เราสองคนกอดกัน ถ่ายทอดความรักให้แก่กัน
“ขับรถกลับบ้านดีๆ นะที่รัก อย่าโมโหปาดใครละ” เป๊บแซว
“โหยยย....เป๊บนะแหละที่ชอบโมโห โจ้ขับรถคุณหนูจะตาย...แบร่ๆ” ผมตอบเป๊บแลบลิ้นใส่
“ฮ่าๆๆๆ คร้าบๆ” ถึงบ้านแล้วโทรหาเป๊บด้วยนะ
“ได้คร้าบบบบ...รักนะค้าบบบ” หอมแก้มเป๊บก่อนจากทีนึง ว๊ากกกเขินนนน
   ผมกับเป๊บขับรถลงจากอาคารจอดรถไล่ตามหลังกันมาครับ จนมาแยกกันตรงถนนหน้ามหาวิทยาลัย ระหว่างทางผมก็ขับรถไป คิดอะไรไปเรื่อยๆ กำลังหาวิธีการที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องของคุณพ่อเป๊บ ขับมาได้กลางทางเป๊บก็โทรเข้ามาถามว่าถึงไหนแล้ว อย่าขับเร็ว แบบนั้นแบบนี้ น่ารักจริงๆ เลยน้าแฟนใครเนี่ย เป๊บไม่เคยบกพร่องต่อหน้าที่เลยนะครับ ดูแลผมดีมากๆ จนบางครั้งผมยังรู้สึกผิดเลยว่าดูแลเป๊บได้ดีไม่เท่ากับที่เป๊บดูแลผมอะ ประมาณหนึ่งชั่วโมง ผมก็ขับรถถึงบ้านละครับ พ่อกับแม่ยังไม่กลับ เจ้าจิมก็แอบนอนงีบบนโซฟา ไม่อยากกวนมันเท่าไหร่ เลยเดินขึ้นไปบนห้อง ทบทวนหนังสือเพื่อเตรียมสอบในวันรุ่งขึ้น
   จนกระทั่งช่วงเย็นพ่อกับแม่กลับมา ป้าศรีก็เตรียมกับข้าวมื้อเย็น ผมลงไปทานข้าว คุยเรื่องสอบ เรื่องเฮฮาทั่วๆ ไป ทานข้าวเสร็จพ่อก็ไล่ให้ไปอ่านหนังสือ เจ้าจิมก็อาสาจะช่วยเก็บจาน ผมเดินขึ้นบนห้องทบทวนหนังสือ เป๊บก็โทรมาหา คุยเรื่องทั่วๆ ไป พร้อมกับบอกคิดถึงครับ คุยกันสักพักก็วางสายกันไป ผมเหลือบมองนาฬิกาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง เลยตัดสินใจรีบนอน พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าเพื่อไปสอบ
   ในช่วงเช้าก็ไม่มีอะไรมากครับ กิจกรรมเดิมๆ ทานข้าวเช้าเสร็จก็ขับรถไปมหาวิทยาลัย จอดรถชั้นเดิม แต่มาไม่ทันเป๊บซักกะที เห็นมายืนคอยก่อนแล้ว กอด จูบ ลูบ คลำ ทักทายตามประสา ฮ่าๆๆๆ แล้วเดินขึ้นอาคารสอบชั้นเดิมห้องเดิมครับ
“วันสุดท้ายแล้วเนอะที่รัก จะได้หายเครียดซักที”
“ใช่อะเป๊บ สอบแต่ละครั้งจะตายให้ได้ อ่านหนังสือเยอะมากอะ”
“ใช่เลยครับ...ว่าแต่ช่วงบ่ายเราไปไหนกันดีอะ”
“นั่นซิเป๊บ เดี๋ยวสอบก่อน ออกมาค่อยคิดเนอะ”
“ครับๆ”
   เวลาประมาณ 9.00 น. เจ้าหน้าที่ก็ประกาศเรียกเข้าห้องสอบครับ เพื่อนๆ หลายคนสีหน้าเคร่งเครียดกันจัง ฉัตรเองก็เงียบไม่พูดไม่จาไปซะงั้น สามชั่วโมงแห่งความทรมานสมองได้ผ่านพ้นไป เจ้าหน้าที่ประกาศเวลาหมด ทุกคนหยุดการเขียนเตรียมตัวตรวจสอบความถูกต้องเพื่อส่งสมุดคำตอบ ผมกับเป๊บและเพื่อนเดินทยอยออกจากห้องสอบ บรรยากาศแตกต่างจากเมื่อวานและตอนเช้ามาก มีเสียงเฮอากรีดกร๊าด ราวกับว่าได้ถูกปลดปล่อยจากความทุกข์ซะงั้นอะ ฮ่าๆๆ
   ผมเดินเข้าไปถามเพื่อนๆ ว่าจะไปเที่ยวแก้เครียดที่ไหน ทั้งฉัตร ทราย เบิด โอ๊ต ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอตัวกลับไปนอนกลิ้งดีกว่าเมื่อคืนอ่านหนังสือเกือบเช้าแทบไม่ได้นอน ฉัตรพูดประมาณว่า อีกไม่กี่วันก็จะไปเที่ยวเกาะเสม็ดกันแล้ว เอาไว้ค่อยสนุกสุดๆ ช่วงนั้นก็ได้ จริงด้วยนะ ผมเกือบลืมทริปเสม็ดไปเลยอะ ร่ำลาเพื่อนๆ เสร็จ ผมกับเป๊บก็เดินไปที่อาคารจอดรถครับ
“เป๊บค้าบบบ ไปเที่ยวแก้เครียดกันเถอะ”
“ได้ๆ ที่รัก ไปแถวไหนดีละ”
“ไปที่ไม่ต้องไกลมากก็ดีนะค้าบ...แล้วเป๊บต้องกลับไปนอนที่บ้านอีกมั้ย”
“กลับครับที่รัก...คุณพ่อสั่งไว้...เป๊บไม่กล้าขัดนะครับ” เป๊บตอบหน้าตาดูจ๋อยๆ ไป
“ค้าบๆ งั้นไปเที่ยวแถวนี้เนอะ”
“ไปไหนดีๆ”
“โจ้อยากไปพัทยาอะ นั่งริมทะเลผ่อนคลาย หาของอร่อยๆ กินอะคับ เป๊บสนใจมั้ย”
“ได้เลยที่รัก ไม่ไกลมาก เดินทางกันเลยครับ”
   ผมกับเป๊บนั่งสีหมอกซิ่งไปพัทยาครับ ระหว่างทางก็คุยกันไปเรื่อยๆ สวีทบ้าง ขำบ้าง ตามประสานะครับ ตอนแรกเป๊บจะขึ้นมอเตอร์เวย์ แต่ผมเห็นว่าไม่ต้องรีบขนาดนั้นเลยให้เป๊บขับถนนเส้นหลักตามปกติครับ บังเอิญระหว่างทางเห็นป้ายงานวัด คงเคยเห็นป้ายที่ปักทิ้งระยะห่างไว้ใช่มั้ยครับ ปิด....ทอง....ฝัง.....ลูก.....นิ.....มิต.... ประมาณนี้อะครับ ผมอ่านป้ายแล้วรู้สึกอยากเข้าไปทำบุญมากๆ ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้นมาก่อนเลยนะครับ เลยตัดสินใจบอกเป๊บ
“เป๊บค้าบ แวะทำบุญปิดทองลูกนิมิตที่วัด....นะ”
“หือ...เอาจริงหรือครับ...ได้ครับที่รัก...นานๆ ทีทำบุญก็ดีเหมือนกันนะ”
   เป๊บเลี้ยวซ้ายเข้าไปปากทางวัดครับ ผมรู้สึกประหลาดใจจัง ทำไมถึงอยากเข้ามาทำบุญวัดนี้นักนะ สีหมอกมาจอดอยู่หน้าโบสถ์ มีงานวัดด้วยครับ ร้านค้าเยอะแยะมากมาย แต่คนมาเที่ยวยังไม่มากครับ คงเป็นเพราะกลางวันแถมอากาศร้อนด้วย สีหมอกจอดสนิท เราสองคนเดินลงจากรถไปทำบุญธูป เทียน เข้าไปไหว้พระ ถวายเงินซื้อกระเบื้อง ทำบุญหลายอย่างเลยละครับ
   เหลือบไปเห็นชุดสังฆทาน ผมชวนเป๊บไปทำบุญทอนสังฆทานเพื่อถวายพระ ทำบุญทอนสังฆทานเสร็จ ปรากฏว่าไม่มีพระอยู่ในบริเวณนั้นเลย จู่ๆ ก็มีแม่ชีโผล่มาด้านหลัง พร้อมแนะนำว่าให้ไปถวายที่กุฏิหลวงตา ผมหันมองไปตามที่แม่ชีชี้นิ้ว เลยชวนเป๊บไปที่กุฏิหลวงตาครับ เดินไปถึงหน้ากุฏิหลวงตา
“นมัสการคร้าบหลวงตา ผมมาถวายสังฆทานคร้าบ” ผมตะโกนไม่ดังมาก เผื่อว่าหลวงตาจะได้ยิน
“เปิดประตูเข้ามาเลยโยม” หลวงตาเชื้อเชิญครับ
   ผมกับเป๊บเปิดประตูเข้าไปในกุฏิ พบหลวงตานั่งรออยู่ ในแว๊บแรกที่ผมเห็น ผมรู้สึกศรัทธาหลวงตาเป็นอย่างมาก เพราะท่านดูมีเมตตา สำรวม และเคร่งขรึม
“เราสองคนมาถวายสังฆทานครับหลวงตา” เป๊บกราบหลวงตา พนมมือบอกความตั้งใจ
“ขอให้โยมตั้งใจถวายสังฆานเถิด”
   ผมกับเป๊บก็ท่องคำถวายสังฆทาน หลวงตาท่านก็นั่งหลับตาประนมมือ ท่านดูสงบเป็นอย่างมาก ผมรู้สึกประหลาดใจจัง ทำไมถูกชะตาศรัทธาขนาดนี้
   หลังจากกล่าวคำถวายสังฑทานพร้อมยกประเคนหลวงตาเสร็จ ผมตกใจในสิ่งที่หลวงตาพูดกับเราสองคน
“โยมทั้งสอง ในที่สุดก็มาพบหลวงตาแล้ว เราทั้งหมดทำกรรมร่วมกันมาตั้งแต่อดีตชาติ จึงได้มาเจอกัน” หลวงตาเอ่ยขึ้นมาจนผมกับเป๊บตกใจเลยละครับ
“โยม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีคุณอันประเสริฐ เป็นผู้ที่เจริญสูงสุดในสามโลก ได้ตรัสสอนไว้ว่า สัพเพ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา สรรพสิ่งทั้งปวงล้วนเป็นทุกข์ สรรพสิ่งทั้งปวงไม่เที่ยงย่อมมีการแตกดับไปเป็นธรรมดา โยมทั้งสองได้ทำกรรมร่วมกันมาหลายภพชาติ จนในภพนี้ได้มาเป็นคนรักกัน และผลกรรมในอดีตชาติก็ส่งผลให้เกิดความทุกข์” ผมตกใจมากๆ เป๊บเองก็ทำหน้าประหลาดใจ คือ ไม่คิดว่าหลวงตาจะดูออกว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน ผมเองก็ไม่ได้แสดงออกอะไรนี่น่า แล้วหลวงตารู้ได้ไงเนี่ย
“โยม ความรักของโยมทั้งสองนั้นถูกกีดกันจากบิดา โยมรู้สึกเป็นทุกข์ไม่รู้จะแก้ไขปัญหายังไงดี” เฮ้ยยยย ผมกับเป๊บตะลึงเลยละครับ คือ เป็นไปไม่ได้ที่หลวงตาจะทราบเพราะไม่เคยรู้จักมาก่อนแน่นอนครับ
“โยมไม่ต้องห่วงหรอกนะ ปัญหาในครั้งนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่จะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นกับโยมคนนี้ (หลวงตาบอกเป๊บแล้วชี้มาที่ผม...ว๊ากกกก) หลังจากเหตุการณ์ร้ายแรงนั้นผ่านพ้นไป ความรักของโยมทั้งสองจะปราศจากอุปสรรคอย่างแน่นอน”
“หลวงตาครับ...จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรกับแฟนผมหรือครับ” สีหน้าเป๊บกังวลมาก เลยถามหลวงตาออกไป
“มันเป็นกฎแห่งกรรม ที่แฟนโยมต้องเจอ หลวงตาไม่สามารถบอกได้ แต่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิตหรอก”
“ถึงขั้นเจ็บหนักมั้ยครับ” เป๊บถามต่อ
   หลวงตาไม่ตอบ แต่พยักหน้าแทน ตอนนั้นผมหน้าซีดไปแล้ว หลังจากที่หลวงตาพยักหน้า ท่านก็ล้วงไปในย่ามหยิบของบางอย่างออกมา
“โยม มานั่งใกล้ๆ หลวงตา” หลวงตาเรียกผมไปนั่งใกล้ๆ ครับ ผมก็ขยับตัวไปนั่งใกล้ๆ หลวงตา
“แบมือโยมออกมา” ผมก็แบมือตามคำสั่ง
   หลวงตานำสิ่งที่หยิบขึ้นมาไปใกล้ปากและบริกรรมคาถา บริกรรมคาถาเสร็จก็หย่อนลงในมือผม
“โยม นี่คือหลวงปู่ทวดที่ผ่านพิธีการปลุกเสกจากบรรดาพระอาจารย์เกจิสายอาคมชื่อดังทั่วทั้งประเทศ หลวงตาให้โยมไว้นะ นับจากวันนี้อีกไม่นานเหตุการณ์ร้ายแรงนั้นจะเกิดขึ้นกับโยม ขอให้โยมได้นำหลวงปู่ทวดติดตัวไว้ตลอดเวลา เหตุการณ์นั้นจะเบาลงและผ่านพ้นไปได้”
“หลวงตาครับ ผมทำพิธีสะเดาะเคราะห์ไม่ได้หรือครับ” ผมถามหลวงตา
“โยม กรรมนั้นได้ลิขิตไว้แล้ว โยมต้องชดใช้มันนะ เชื่อมั่นในความดีที่โยมได้ทำเถิด เหตุการณ์เลวร้ายจะผ่านพ้นไปได้
   ผมกับเป๊บสนทนากับหลวงตาสักพักนึง เห็นว่าเวลาผ่านล่วงเลยไปมากเลยกราบลาหลวงตา หลวงตาท่านก็อวยพรให้โชคดี
   ระหว่างทางที่ผมกับเป๊บขับรถออกมาจากวัดเพื่อมุ่งสู่พัทยา
“เป๊บ สิ่งที่หลวงตาท่านบอก มันจะเกิดอะไรขึ้นอะ”
“นั่นซิครับที่รัก เป๊บกังวลเหมือนกันนะ ที่รักระวังตัวเองด้วยนะ อย่าลืมนำหลวงปู่ทวดติดตัวตลอดเวลานะ”
“ครับๆ” ผมตอบรับคำเป๊บเสร็จ เลยตัดสินใจเปิดกล่องและหยิบหลวงปู่ทวดมาร้อยใส่สร้อยคอรูปจี้หัวใจ จะได้ติดตัวตลอดเลย
“ที่รักเยี่ยมเลย อย่าถอดเด็ดขาดเลยนะ ทำตามที่หลวงตาท่านสั่งเลยนะครับ
“ครับๆ เวลาอาบน้ำจะใส่ตลอดเลยละ” เป๊บยิ้มตอบเป๊บไป สีหน้าเป๊บคลายความกังวล
   แต่ผมก็ยังคิดตลอดเวลาเลยน้าว่า จะมีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นกับตัวผมอะคร้าบบบบ

ต่อตอนหน้าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2011 09:49:49 โดย jonathan2624 »

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
เรื่องของโจ้กับเป๊บเริ่มดราม่าขึ้นเรื่อยๆ แฮะ  :z3:

 :pig4: คนเขียนมากๆ จ้า

4life

  • บุคคลทั่วไป


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tegonata

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • ~~เมื่อผมหลงเข้ามาใน...ร้านนั่งเล่นของสาววาย~~
เครียดหนักเลย ไม่ได้เข้าแป้ปเดียวอ่านตั้ง2ตอนเครียดค

ออฟไลน์ iamao12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อยากอ่านตอนต่อไปมากค่ะ
อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
และผ่านด่านพ่อเป๊บมาได้อย่างไร

tawan

  • บุคคลทั่วไป
หลวงพ่อบอกว่ายังไงก็คู่กัน..ดีใจ :mc4:

นึกว่าต้องพรากจากกัน

 :call:

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีคร้าบบบบ วันนี้เอามาฝากให้อีกตอนนะค้าบบบ ฮ่าๆๆ รีบๆ ขยันปั่นมากๆ กลัวว่าถ้าติดงานจะหายไปยาวอะครับ อ่านตอนนี้จบหลายคนค้างแน่ แต่จะรีบปั่นๆ มาอย่างต่อเนื่องเลยนะค้้าบบบบบ ขอบคุณคร้าบบบบ

เฉาก๊วย : ฮ่าๆๆ ดราม่าเป็นบางช่วงเองน้าคับบบ

DE SaiKuNee : ใจเย็นค้าบบ มาต่อให้แล้ว

tegonata : แอะ อ่านขำๆ พอค้าบบบ อย่าเครียดจิ

iamao12 : ขอบคุณที่รอค้าบบบ มาต่อให้แล้วนะคับบบ

yeyong : มาต่อให้แล้วค้าบบ ติดตามอ่านเรื่อยๆ นะว่า ฝ่าด่านได้ยังไงอะครับ

tawan : ฮ่าๆๆ หลวงตาว่าเป็นคู่กันคับบบ ณ ตอนนี้ก็คู่กัน แต่เป๊บหื่นมากอะ เสียเปรียบตลอดเลยยยย  :m31:

ขอบคุณทุกคนมากคร้าบบบ เข้ามาอ่านแล้วเม้นๆ บ้างน้า  :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Chapter 20 เงื่อนไขของพ่อเป๊บ อุบัติเหตุร้ายแรงที่ไม่คาดฝัน

   ขับรถออกจากวัดมาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงพัทยาละครับ ผมกับเป๊บแวะทานร้านอาหารริมชายหาดชื่อดังร้านนึง เป๊บสั่งอาหารทะเลมาเพียบเลย จนผมอดดุเป๊บไม่ได้ว่า มากันสองคนสั่งยังกะมาสักสิบคนอะ เป๊บตอบมาว่าก็หิวนี่น่า ถ้าไม่หมดก็ห่อกลับบ้านก็ได้ เราสองคนทานไปคุยกันไป ชมวิวไปเรื่อยๆ ก็เพลิดเพลินสนุกดีครับ ลืมความทุกข์ได้ช่วงขณะนึง รสชาติอาหารอร่อยมากครับ แอบคิดในใจว่าวันไหนว่างๆ พาพ่อ แม่ และเจ้าจิม มาแฮพดีกว่า ฮ่าๆๆ คุยกับเป๊บไปเรื่อยๆ ก็ย้อนกลับมาเรื่องคำทำนายของหลวงตา ซึ่งผมกังวลลึกๆ ในใจว่าเหตุการณ์ร้ายแรงนั้น คืออะไร
“เป๊บค้าบ ถ้าคำทำนายของหลวงตาเป็นจริง แล้วโจ้พิการ เป๊บไปมีแฟนใหม่ได้เลยนะ” ผมพูดกับเป๊บ สีหน้าเป๊บดูตกใจ
“อะไรกันที่รัก...พิกงพิการอะไร พูดไม่เป็นมงคลเลยนะ ถึงแม้ที่รักจะพิการ เป๊บจะดูแลเอง เราสองคนจะดูแลกันตลอดชีวิต จำที่สัญญากันไม่ได้หรือ” เป๊บตอบด้วยน้ำเสียงปนดุๆ และจริงจังมากๆ ครับ
“โหๆๆ โจ้แซวเล่นเองน้า เป๊บอย่าเครียดซิ จำได้แหละค้าบที่เราสัญญากันไว้อะ” ผมแซวจริงๆ นี่น่า
“ไม่เอาครับที่รัก เปลี่ยนเรื่องๆ อย่าแซวแบบนี้ซิ เป๊บไม่ชอบเลยอะ”
“ได้ครับๆ ฮ่าๆๆ” ขำเป๊บอะ
“ที่รัก แต่เป๊บเชื่อคำทำนายหลวงตานะ ถ้าที่รักนำหลวงปู่ทวดติดตัวไว้ตลอดเวลา เหตุการณ์ร้ายๆ จะเบาลงนะ ดังนั้นอย่าลืมเด็ดขาดนะ”
“ค้าบๆๆๆ” ผมยิ้มตอบเป๊บไป
   และแล้วอาหารบนโต๊ะก็หายวับไปกับตา ผมตกใจเลยอะ คือ สั่งมาเยอะมากเลยนะครับ ทำไมคนแค่สองคนจัดการซะเรียบๆ ฮ่าๆๆ เป๊บทำท่าลูบท้อง แล้วบ่นว่าอิ่มท้องป่องเกือบแตก ผมก็เลยเอื้อมมือไปจับท้องดูว่าป่องจริงป่าวอะ แต่เป๊บทะลึ่งงงงมาก ดันจับมือผมไปวางที่มังกรเป๊บอะ บ้าแล้วววว หื่นได้ตลอดดดด แฟนใครเนี่ยยยยย ฮ่าๆๆ
   เรียกพนักงานมาเก็บเงินค่าอาหาร จ่ายเงินเสร็จผมกับเป๊บก็มุ่งหน้ากลับเข้ากรุงเทพฯ ครับ ตลอดทางก็คุยมาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ก็จะแนวๆ ว่าจะทำยังไงเรื่องคุณพ่อเป๊บ คิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาไม่ออกเลยนะครับ เฮ้ออ... จนสีหมอกมาจอดที่หน้าบ้าน ผมลงจากรถ เป๊บก็ลงมาด้วย ผมมองเข้าไปในบ้าน เห็นรถพ่อกับแม่ จอดอยู่ กลับมาจากที่ทำงานแล้ว เลยชวนเป๊บเข้าบ้านครับ
“พ่อครับ แม่ครับ สวัสดีครับ” เป๊บกล่าวสวัสดีพร้อมยกมือไหว้ครับ
“เอ้า สวัสดีลูกเป๊บ มาๆ นั่งก่อนๆ” พ่อผมยิ้มหันมามองพร้อมรับไหว้
“นั่งก่อนลูกๆ” แม่ผมชวนด้วยครับ
   เป๊บก็นั่งลงตรงโซฟา ผมเองก็นั่งข้างๆ เป๊บ พ่อกับแม่คงสงสัยเรื่องราวในคืนนั้น
“ลูกเป๊บ อย่าหาว่าพ่อยุ่งเรื่องส่วนตัวเลยนะ อยากให้ลูกเล่าเหตุการณ์คืนนั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้น” พ่อผมยิงคำถามทันที
“ใช่จ๊ะลูก เผื่อพ่อกับแม่จะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้บ้าง” แม่ผมยิงคำถามช่วยพ่ออีกแรง
   เป๊บเริ่มเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด เรื่องราวยังไง อย่างไร ผมเองก็นั่งฟังไป น้ำตาพาลจะไหลไป จนเป๊บเล่าจบ
“คุณพ่อของลูกอาจจะรับไม่ได้ไง เลยพลั้งปากไปแบบนั้น”
“เท่าที่ดูคุณแม่ของลูกเป๊บก็ไม่ได้ต่อนต้านนะคะคุณ” แม่ผมหันไปพูดกับพ่อ
“ใช่แล้วแม่ แต่ยังไงถ้ามีโอกาสเราน่าจะไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของลูกเป๊บ” พ่อผมหันไปพูดกับแม่
“ดีคะคุณ”
   ผมเห็นว่าพ่อกับแม่อาจจะหันหน้าไปคุยกันแล้วครับ เลยสะกิดเป๊บให้ลุกขึ้นออกจากห้องรับแขก เป๊บบอกว่าจะขออยู่ต่ออีกนิด เดี๋ยวค่อยกลับบ้าน ผมเดินขึ้นบนห้องกะเปลี่ยนเสื้อผ้าอะครับ เป๊บก็เดินตามขึ้นไป พอเข้าห้องเป๊บก็กดล๊อก ผมหันมามอง ทำสายตาประมาณว่า ล๊อกทำไมอะ
“เป๊บล็อกทำไมอะครับ” ผมถามด้วยความสงสัยไม่รู้จริงๆ น้า
“ก็..ที่รัก..หลายวันมายังไม่ได้....เลยอะ” สายตาเป๊บเริ่มหื่นๆ นั่นกรูว่าแล้ว งานเข้า
“บ้าแล้ววววว..ทะลึ่งงงงง..อะ หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ยังจะมาหื่นอีกกก” ผมพูดเสียงกึ่งดังดุเป๊บครับ
“นะ..ครับ..ที่รักนะ...” เป๊บเข้ามากอด หอมแก้ม อ้อนๆ พร้อมไซร้ซอกคอ งานกรูเข้าเจงๆ
   เอ...แต่ว่า...เนอะ...where where is a where where (ไหนๆ ก็ไหนๆ) ฮ่าๆๆ ไม่ได้ทำหลายวันก็ซักทีก็ได้ ว๊ากกกกก เขินนนนนนน
   ผมพลักเป๊บให้ตัวติดกำแพง จูบปากแลกลิ้น ไซร้ซอกคอไล่ลงมาหน้าท้องซิกแพค ปลดตะขอกางเกง ใช้ปากจัดการมังกรยักษ์ซะเลย ฮ่าๆๆ เป๊บแอ่นกายด้วยความเสียว มังกรยักษ์ผลุบเข้าออกในปากผมนี่ละค้าบ ว่าไปหน้าตาเป๊บตอนเสียวนี่เซ็กซี่ชะมัด อ๊ากกก เขินนนน ในที่สุด มังกรก็พ่นพิษชุดใหญ่ แทบสำลักเลยงะ ฮ่าๆๆๆ
“สุดยอด....เลยครับ...ที่รัก...” เป๊บชมผมไม่ขาดปาก แต่ตัวเองยืนหอบแฮกๆ พิงกำแพง
“รอบเดียวพอนะเป๊บ...อย่าหื่นมากอะ”
“ที่รักขออีกรอบๆ” เป๊บแหย่ผมเล่น
“ทะลึ่งงงง พอแล้วววว คราวหลังอย่าครางดัง กลัวพ่อกับแม่ได้ยิน”
“อ้าวก็มันเสียวนี่น่า...ที่รักทำเก่งอะ” เป๊บชมยิ้มเจ้าเล่ห์ทำสายตาหื่นๆ อีก
   ผมเขินหน้าแดงเลยอะครับ จริงๆ เล้ย ทำไมพวกผู้ชายหน้าตาดีถึงชอบหื่นกันนักเนี่ย เป๊บก็เข้าไปอาบน้ำ แต่งตัวชุดเดิมเตรียมกลับบ้าน ผมเดินไปส่งเป๊บที่หน้าบ้าน จุ๊บแก้มร่ำลากัน สีหมอกเคลื่อนตัวออกไป ผมก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน จังหวะเดียวกับที่เจ้าจิมกลับมาพอดี ผมกับเจ้าจิมเลยเดินเข้าบ้าน
“เฮีย เมื่อกี้เหมือนกับขับรถสวนกับรถพี่เป๊บนะ”
“อ๋อ ใช่ เป๊บแวะมาส่งพี่ที่บ้าน เพิ่งกลับไปนี่ละ”
“แล้วคุยอะไรกับพ่อแม่บ้างมั้ยพี่”
“คุยเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นแหละ พ่อกับแม่ก็โอเคนะ ไม่ได้ต่อว่าหรือดุด่าเป๊บ”
“สู้ๆ นะพี่ ลองแก้ปัญหาดูถ้าไม่ได้ค่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่” เจ้าจิมพูดก็เดินมาโอบกอดผม
   น่ารักจริงๆ เลยไอ้น้องชายคนนี้   เข้ามาในบ้านป้าศรีกำลังตั้งโต๊ะอาหารเย็นพอดีครับ เราทั้งสี่คนเริ่มลงมือทานข้าว คุยเรื่องเฮฮาทั่วไป วกมาเรื่องผมบ้าง ไปเรื่องเจ้าจิมบ้าง เรื่องไร้สาระบ้าง จนกระทั่งทานข้าวเสร็จ ผมก็ช่วยแม่กับป้าศรีเก็บกวาดล้างจาน ทุกอย่างครบถ้วนเดินขึ้นบนห้องเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำพักผ่อนครับ กำลังจะผลัดผ้า เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ผมดูหน้าจอโทรศัพท์ พลางนึกสงสัย เบอร์ไม่คุ้นเลย แถมเป็นตัวเลขเบอร์โทรที่สวยมาก เลยกดรับสายครับ
“สวัสดีครับ”
“สักครู่นะคะ คุณท่านจะเรียนสายด้วยคะ” ปลายสายมีเสียงผู้หญิงใสๆ ตอบมา สงสัยจัง ใครหว่า
“สวัสดี ชั้นเอง พ่อของเป๊บ” เฮ้ยยยย ผมตกใจมากกกก คุณพ่อของเป๊บรู้เบอร์มือถือผมได้ยังไงเนี่ย
“สะ..สวัสดีครับคุณพ่อ” ผมกล่าวทักทายด้วยเสียงสั่นๆ
“เธอสะดวกคุยใช่มั้ย”
“ครับ”
“เรื่องในวันนั้นชั้นอยากเคลียร์ให้จบ พรุ่งนี้ประมาณ 6 โมงเย็น เธอสะดวกมาคุยที่บ้านชั้นมั้ย”
   ผมตกใจ อึ้งไปเหมือนกันครับ ถึงเวลาที่ผมต้องเผชิญหน้ากับคุณพ่อของเป๊บแล้วหรือนี่ ลังเลไม่ถึงห้าวินาที ผมตัดสินใจ
“ได้ครับคุณพ่อ พรุ่งนี้ผมจะไปเจอตามเวลาที่นัดครับ”
“ดีมาก เข้าใจอะไรง่ายดีนี่ อย่าบอกเจ้าเป๊บมันละ แล้วเจอกันตามเวลานัด สวัสดี”
“ครับ สวัสดีครับ” ผมยังกล่าวสวัสดีไม่ทันจบคุณพ่อของเป๊บตัดสายทิ้งไป
   เครียดจังเลย ทำยังไงดี ผมครุ่นคิดไปเรื่อยครับ สักพักเป๊บก็โทรเข้ามา ผมคุยกับเป๊บไปเรื่อยๆ ด้วยสัญชาตญานมั้งครับ เป๊บถามผมว่ากำลังกังวลอะไรอยู่หรือเปล่า นึกถึงคำที่คุณพ่อเป๊บขอไว้ ผมเลยไม่บอกดีกว่า ปฏิเสธไปว่าอาจจะเหนื่อย เลยขอตัวไปพักผ่อน เป๊บบอกรักแล้วก็วางสายไปครับ
   ตลอดทั้งคืนผมนอนหลับไปตื่นไป อาจจะเป็นเพราะจิตใต้สำนึกกังวลเรื่องการนัดหมาย จนกระทั่งเช้า แปรงฟัน อาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินลงมาทานข้าวเช้า แล้วก็เล่าเรื่องที่คุณพ่อเป๊บนัดไปที่บ้านให้กับพ่อและแม่รวมถึงเจ้าจิมฟัง ทั้งสามคนว่าจะตามไปด้วย แต่ผมห้ามปรามไว้ เพราะอยากจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองก่อนนะครับ เวลาผ่านไปเรื่อย เข็มนาฬิกาชี้ไป 4 โมงเย็น ผมลุกขึ้นแต่งตัว เพื่อเดินทางไปยังบ้านเป๊บตามที่ได้นัดหมายไว้
   ตลอดการเดินทางรถติดพอสมควรครับ พ่อกับแม่และเจ้าจิมโทรหาผมเป็นระยะๆ คงจะเป็นห่วงมากๆ แต่เพื่อความสบายใจ ผมก็ตอบไปด้วยอารมณ์แจ่มใส ป้องกันไม่ให้ทั้งสามคนเค้ากังวล ประมาณห้าโมงครึ่ง ผมเลี้ยวปากซอยบ้านเป๊บ ขับรถเข้าไปในซอยย่อยโดยใช้เวลาไม่นาน ก็ถึงคฤหาสน์ ขนาดใหญ่ บ่งบอกถึงฐานะอันมีจะกินของคนบางคน แต่ทำไมหาความสุขที่แท้จริงในบ้านหลังนี้ไม่ได้เลยนะ
   ผมหักพวงมาลัยเลี้ยวไปที่ประตูบ้านเป๊บ ประตูก็เปิดออกทันที ผมนึกในใจว่าคงจะกำลังคอยอยู่แน่ บอกตรงๆ นะครับ ณ เวลานั้น ผมตื่นเต้นและใจสั่นมาก กลัวคุณพ่อเป๊บด้วย และหวาดกลัวรับไม่ได้กับผลในการตัดสินของคุณพ่อเป๊บ
   ผมจอดรถบริเวณโรงจอด เปิดประตูลงมาเพื่อเดินไปทางหน้าบ้าน
“ครืนนน....เปรี้ยงงงงงงง” ผมแหงนหน้ามองฟ้า อ้าวเมฆฝนดำเชียว เวรกรรมจริงๆ สถานการณ์ตื่นเต้นแถมฝนกำลังจะตกอีก ลมเริ่มพัดแรงแล้วครับ ผมจึงรีบเดินไปที่ตัวบ้าน
“เฮ้ยยย ที่รักมาได้ไงครับบบบ” เป๊บเดินออกมาหน้าบ้านพอดี เจอกับผมจังๆ เลยครับ
“อุ้ยยยย....ก็....เอ่อ....” ผมกำลังจะตอบเป๊บ
“ชั้นนัดมาเองแหละ จะคุยเรื่องของแกกับคนคนนี้ให้รู้เรื่อง” พ่อเป๊บที่เดินตามหลังพูดสวนขึ้นมา
“อะไรนะครับพ่อ นัดโจ้มาคุยเรื่องของเป๊บ ทำไมพ่อไม่บอกเป๊บก่อน”
“ชั้นไม่จำเป็นต้องบอกแก มันเป็นเรื่องระหว่างคนคนนี้กับชั้น”
   ผมหน้าซีดเลยอะครับ คุณพ่อเป๊บดูน่ากลัวมากอะ ผมกับเป๊บสบตากัน สื่อถึงเป๊บด้วยความหมายว่า ให้เป๊บเงียบไม่ต้องเถียงพ่อ เป๊บเข้าใจเลยยอมเงียบครับ
“เป๊บ มัมว่าลูกใจเย็นๆ นะ ปล่อยให้แด๊ดคุยกับโจ้นะลูก” คุณแม่ของเป๊บเข้ามาลูบหลังครับ
“ชั้นจะคุยกับคนคนนี้ลำพังสองคน คนที่ไม่เกี่ยวอยู่ห่างๆ ไอ้ศักดิ์ เมิงดูแลไม่ให้คุณหนูเล็กเข้ามายุ่ง” คุณพ่อเป๊บสั่งให้ลูกน้องห้ามเป๊บไว้อะครับ ผมละเครียดแล้วอะ
   ในสมองรู้สึกปั่นป่วนไปหมดเลยละครับ ด้วยความเครียดวิตก ผมเอามือจับหลวงปู่ทวดที่ใส่สร้อยห้อยคอ อฐิษฐานถึงหลวงปู่ทวดให้เหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านพ้นและจบลงด้วยดี
“เธอ เชิญที่ซุ้มศาลาเล็กข้างสวนกล้วยไม้” พ่อเป๊บสั่งผมครับ
“คะ...ครับ” ผมเดินตามอย่างว่าง่าย
   ครืนนน.....เปรี้ยงงงงงงงง....ครืนนนน.......ระหว่างที่ผมเดินตามหลังพ่อเป๊บ ฝนที่กำลังใกล้จะตกท้องฟ้าส่งเสียงคำรามตลอดเวลา ช่างเข้ากับบรรยากาศจริงๆ เล้ยยยย จนกระทั่งคุณพ่อเป๊บกับผมเดินขึ้นศาลาเล็กข้างซุ้มกล้วยไม้ครับ
“ชั้นไม่อยากอ้อมค้อมนะ แต่เธอก็รู้ว่า ชั้นเป็นคนที่มีเกียรติยศชื่อเสียง มีหน้ามีตาในสังคม การที่ลูกชายของชั้นมีแฟนเป็นคนเพศเดียวกัน ชั้นว่ามันไม่เหมาะ” พ่อเป๊บเริ่มเรื่องทันทีครับ
“ครับ ผมเข้าใจครับ” น้ำตาผมเริ่มปริ่มๆ แล้วอะค้าบบบ
“เข้าใจง่ายดีนี่ ดังนั้นถ้าเธอรักลูกชายชั้น เธอก็ควรจะปล่อยให้ลูกชายชั้นเป็นอิสระ ให้เค้าได้ใช้ชีวิตปกติตามแบบที่ผู้ชายดำเนินชีวิตกัน”
“ครับ”
“ดังนั้น เธอควรเลิกกับเป๊บ ไม่ต้องมายุ่งกับลูกชายชั้นอีก” พ่อเป๊บสั่งแบบตวาดผมครับ พร้อมจ้องหน้าแบบโกรธมากด้วย
   ผมได้ยินประโยคที่พ่อเป๊บบอกให้เลิก น้ำตาไหลทันทีเลยครับ แต่ไม่มีเสียงร้องไห้โฮๆ นะ มันเจ็บเกินกว่าที่จะร้องฟูมฟายแล้วละครับ
“คุณลุงครับ ขอให้ผมได้อธิบายบ้าง จริงอยู่ครับว่าสังคมไทยไม่มีทางยอมรับความรักของเพศที่สาม แต่คุณลุงครับ ผมกับเป๊บ เราสองคนรักกันมาก จนผมคิดว่าความรักของเราสองคนไม่มีเพศ ไม่มีชนชั้นวรรณะ ไม่มีการเสแสร้ง มีเพียงแค่ความจริงใจที่มอบให้แก่กันเท่านั้น คุณลุงครับ ผมอยากขอโอกาสให้คุณลุงให้เวลาผมได้พิสูจน์ความรักของเราสองคนบ้างนะครับ” ผมพูดยาวยืด อาจจะไม่ได้ใจความเพราะความกลัวและตื่นเต้น ผมชายสายตามองไปที่บ้านใหญ่ เห็นเป๊บกับคุณแม่ ยืนดูคุณพ่อกับผมอยู่ ผมจ้องไปที่หน้าเป๊บ อาจจะเห็นไม่ชัด แต่ผมเชื่อว่าเป๊บคงทรมานไม่ต่างจากผม
“โธ่โว้ยยย อะไรวะเนี่ย ชั้นนึกว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่ชั้นพูด ความรักแบบวิปริตผิดเพศจะต้องมีพิสูจน์อะไรกัน ไร้สาระมากกก เอาแบบนี้ เธออยากได้อะไร เงิน บ้าน รถ บอกมา” เปรี้ยงงง....ครืนนนนนน.....พ่อเป๊บตะคอกใส่ผมดังมาก แต่ด้วยเสียงคำรามฟ้าร้อง จึงกลบเสียงตะคอกไปจนหมดสิ้น
   น้ำตาผมไหลอีกครั้ง ผมนึกไม่ถึงว่า คุณพ่อเป๊บจะตีค่าความรักของเราทั้งสองคนด้วยทรัพย์สินเงินทอง
“คุณลุงครับ ของพวกนั้นผมไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าครอบครัวของผมอาจจะไม่มีทรัพย์สินเงินทองมากมายเท่ากับคุณลุง ของพวกนั้นซื้อความรักของผมไม่ได้หรอกครับ” ผมพูดด้วยความทรมาน น้ำตาไหลตลอดเวลา หันหน้าไปมองเป๊บ เป๊บพยายามจะเดินมาหาผมแต่ถูกลูกน้องของพ่อดักไว้ บวกกับคุณแม่ก็พยายามรั้งไว้
“เฮ้ออออ....ชั้นว่าเธอคงไม่เข้าใจในสิ่งที่ชั้นพูด ถ้างั้นวันนี้คุยแค่นี้เถอะ แต่ชั้นขอบอกเธอเลยนะว่า ยังไงเธอก็ต้องเลิกกับลูกชายชั้น” คุณพ่อพูดเน้นย้ำเสียงเข้มกับประโยคที่ว่าเธอต้องเลิกกับลูกชายชั้น
“ลุกขึ้น กลับไปได้ละ วันหลังค่อยมาคุยกัน” พูดจบพ่อเป๊บก็เดินลงจากศาลาเล็ก ผมก็ลุกขึ้นเดินตามมา
   ฟูมมมมมมมมมม....เปรี้ยงงงง........ครืนนนนนน.......หวิ้ววว......... ทั้งเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และลมพัดแรงมากๆ ครับ ลมพัดแรงมาก จนพ่อเป๊บต้องหยุดเดิน ผมก็หยุดเดินด้วย เพราะลมมันแรงสุดๆ เสื้อผ้าแนบแน่นสะบัดปลิวตามแรงลมเลยละครับ ผมเองก็เอามือบังตาไว้ กันฝุ่นเข้าตาครับ
   ในช่วงจังหวะที่ลมพัดแรงมากๆ ทันใดนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

   ต้นสนขนาดกลางที่ปลูกไว้ในกระถางขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างศาลาเล็ก ถูกลมพัดจนกระถางไม่สามารถพยุงน้ำหนักไว้ได้ จึงเอนล้มมาตามความแรงของลม ผมตกใจมาก เพราะต้นสนที่กำลังจะล้มนั้น มันเอนตัวไปในจังหวะที่คุณพ่อเป๊บกำลังเดินกลับพอดี
“คุณพ่อครับบบบบบบระวังงงงงงงงงงงงงงงงงง” ผมตะโกนบอกคุณพ่อเป๊บ ในช่วงเสี้ยววินาที ผมวิ่งไปผลักคุณพ่อเป๊บให้พ้นจากบริเวรณนั้น
“พลั๊กกกกกกกกกกกกกกกก.....เฮ้ยยยย อะไรเนี่ยยยยย” คุณพ่อเป๊บกลิ้งล้มไปตามแรงที่ผมผลัก เมื่อล้มลงกับพื้น คุณพ่อหันหน้ากลับมาดู คงสงสัยว่าผมผลักทำไม ความสงสัยนั้นกลับกลายเป็นความตกใจแทน
   โครมมมมมมมมมมมมมม.....เพล้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ต้นสนล้มทับฟาดตัวผมแรงมากและปลายของต้นสนล้มไปฟาดหลังคาเรือนกล้วยไม้อีกด้วย ในช่วงเวลานั้น ภาพที่ผมจำในสมองคือ คุณพ่อเป๊บกระเด็นไปตามแรงผลักของผม ผมรู้ตัวเองดีครับว่า ต้นสนที่กำลังจะล้มนั้นมันต้องทับตัวผมอย่างแน่นอน ช่วงเสี้ยววินาทีผมคิดถึงพ่อ แม่ และจิมมาก ในใจคิดว่าคงไม่มีโอกาสที่จะกลับไปหาอีกแล้ว ที่ผมทำแบบนี้เป็นเพราะผมคงไม่สามารถทนเห็นคุณพ่อของคนที่ผมรักมากๆ บาดเจ็บหรือเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา ผมยอมตายแทนซะดีกว่า (อันนี้ผมขอเล่าด้วยความสัตย์จริงเลยนะครับ ผมตาไม่ฝาดแน่นอน อย่าว่าผมไร้สาระนะครับ) ต้นสนล้มลงมาเร็วและแรงมาก ผมคิดว่าไม่รอดแน่ ในช่วงจังหวะนั้นเอง ผมเห็นสร้อยคอที่ห้อยพระหลวงปู่ทวดที่หลวงตาให้มา เปล่งแสงสีเหลืองทองออกมาครับ ผมตาไม่ฝาดอย่างแน่นอน มีสติครบถ้วนทุกอย่าง
“ปึ๊กกกกกกกกก.....ตุ๊บบบบบบ....อั๊กกกกกกกกกกกก....” ต้นสนล้มฟาดตัวผมแรงมาก เลือดพุ่งออกทางจมูกและปาก หลังจากนั้น ผมก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย............

ต่อตอนหน้าคร้าบบบบบบ

4life

  • บุคคลทั่วไป

G_U_I_N

  • บุคคลทั่วไป
รีบมาต่อไวๆนะค้าบบบบ....ติดตามๆๆๆๆ ลุ้นมากๆๆๆ o13

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE







ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
โอยยยยย  ลุ้นๆๆๆ   :really2:
เป็นกำลังใจให้โจ้กับเป๊บนะคะ   :L2:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อุบัติเหตุแบบนี้เอง
ตอนนั้นคงเป็นอะไรที่ทุกคนในบ้านเป๊บคงช็อค
คนเขียนมาต่อ คนอ่านยิ่งค้างงงง

ออฟไลน์ thejaoil

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
โจ้จะเป็นไรมากป่าว พ่อเป๊บน่าจะใจอ่อนบ้างอะนะ

Ilesa

  • บุคคลทั่วไป

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ iamao12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

tawan

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด