รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62  (อ่าน 514768 ครั้ง)

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
rule : ขอบคุณค้าบบบ แก้ไขให้แล้วค้าบบ

ปล.วันนี้ติดงานทั้งวันเพิ่งเข้ามาในเล้าคับ ศัพท์ทางการแพทย์นี่เขียนยากจังน่อ ไม่ถนัดเลยอะคับ กว่าจะเขียนตอนนี้ได้ต้องแอบไปถามคนรอบตัวเลย จนเป๊บทำหน้าสงสัยว่าจะถามไปเพื่ออะไรอะค้าบ ก็ไม่กล้าบอกว่าจะเอามาเขียนนิยาย ฮ่าๆๆ

                 ยังไงช่วงนี้ขอตัวหายไปสักระยะนะค้าบบบ คือเขียนตอนต่อไปเสร็จแล้ว มันมีศัพท์แพทย์เยอะ ขอตัวไปตรวจสอบให้ถูกต้องก่อนนะคับบ แล้วค่อยเอามาลงตอนต่อไปน้าาา รักษาสุขภาพกันด้วยค้าบบบ  :pig4: :pig4: :bye2:

โจ้ ค้าบบบ  :pig4:

naiyana

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอน้องโจ้คะ รีบมาต่อนะคะ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
ชอบมากๆครับ   จะติดตามเรื่องนี้ไปนานนะครับ   ถ้าให้เมล์ไว้คุยได้ก็ยิ่งดีอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆแล้วแต่จะโปรดครับ

fullmoon217

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
หูยน่ากลัวจังเลยอะครับ เป็นหนักมากเลยนะเนี่ย ดีที่ไปหาหลวงตาก่อนแค่ไม่กี่วันเท่านั้น

ออฟไลน์ iamao12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รีบมาต่อน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :mc4:

fullmoon217

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกก อยากอ่านจะบ้าแล้ววววววว

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีคร้าบบบบ FC ทุกท่าน กว่าจะเขียนตอนนี้ได้เรียบเรียงข้อมูลสุดๆ เลยค้าบบบ ดัดแปลงห้าเปอร์เซ็นต์เอง ที่เหลือของจริงหมดเลยค้าบบบ ตัดตอนรักษาบางส่วนออกไปศัพท์แพทย์เยอะครับ เขียนไปงงไป แถมมีหลังไมค์มาว่า พอแล้วสงสารโจ้ ประมาณนี้อะครับ สำหรับตอนนี้ลองอ่านดูนะครับ ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ขอบคุณค้าบบบบ  :pig4:

โจ้กับเป๊บ  :pig4: :pig4:


Chapter 23 พบคุณยาย ปาฎิหาริย์ที่เกิดขึ้นในชีวิต

   “ผู้ป่วยเกิดสภาวะหัวใจหยุดเต้นคะ คุณรีบออกไปก่อนนะคะ เดี๋ยวทางเราจะพยายามปั๊มหัวใจก่อนคะ ไปตามคุณหมอมาเร็ว เตรียม CPR” พยาบาลตอบเป๊บ พร้อมหันไปสั่งพยาบาลผู้ช่วยให้วิ่งไปตามหมอ สั่งให้พยาบาลอีกคนเตรียมปั๊มหัวใจ พร้อมกันเป๊บออกจากบริเวณเตียงผู้ป่วย
   เป๊บตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ไม่คิดว่าอาการของผมจะทรุดหนักลงเรื่อยๆ ครับ พยาบาลเชิญเป๊บออกจากบริเวณเตียงผู้ป่วย คือ ห้องไอซียูที่ผมนอนอยู่อะครับ มันเป็นห้องขนาดใหญ่แบ่งเป็นสัดส่วน พยาบาลกันเป๊บออกไปอยู่อีกห้องนึง แต่ก็สามารถมองเห็นผมได้จากกระจกที่กั้นอยู่นะครับ พยาบาลทำ CPR เบื้องต้น ประมาณสามนาที คณะแพทย์ที่รับผิดชอบในการรักษาผม รีบวิ่งกึ่งเดินเข้ามาในห้องไอซียู พยาบาลปิดม่าน ทำให้เป๊บไม่เห็นผมแล้วละครับ เป๊บเลยออกไปนอกห้อง นั่งก้มหน้าบนเก้าอี้ตรงริมทางเดิน จนกระทั่งฉัตรและเพื่อนๆ มาเยี่ยม
“อ้าวไอ้เป๊บ...มานั่งทำอะไรตรงนี้...ไม่ไปเฝ้าอีโจ้ในห้องวะ” ฉัตรแตะไหล่ถามเป๊บ เป๊บเงยหน้าขึ้นมามอง ก็พบเบิด ทราย มาด้วยครับ
“ฉัตร...โจ้หัวใจหยุดเต้น...หมอกำลังช่วยอยู่..ฮึกๆๆๆ..ฮือๆๆๆ” เป๊บบอกฉัตร
“หา....จริงอะ...” ฉัตรไม่โวยวาย แต่เสียงตกใจมาก จนนิ่งเย็นชาไปเลยครับ
   ไม่มีคำพูดออกจากปากของเบิดและทราย แต่ทั้งสองคนหน้าซีด กับคำบอกเล่าของเป๊บ ฉัตรนั่งลงข้างเป๊บพร้อมโอบกอดเพื่อให้กำลังใจ ทรายกับเบิดก็เช่นกัน
“เป๊บ...ใจเย็นๆ นะเมิง...กรูเชื่อว่าอีโจ้มันต้องผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ นี้ไปได้...มันเป็นคนดี..เชื่อกรู” ฉัตรปลอบเป๊บครับ
“ใช่เป๊บ...อย่าเพิ่งด่วนสรุปนะ...ใจเย็นๆ” ทรายปลอบเสริมขึ้นมา ส่วนเบิดกอดเป๊บเพื่อให้หายกังวลครับ
   ประมาณสิบห้านาที ประตูห้องไอซียูที่ผมนอนพักเปิดขึ้นครับ คณะแพทย์กับพยาบาลเดินออกมา เป๊บกับเพื่อนๆ ลุกขึ้นไปถามอาการของผม
“คุณหมอครับ แฟนผมอาการเป็นยังไงบ้างครับ” เป๊บยิงคำถามก่อนเลยครับ
“ไม่ต้องกังวลนะครับ ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว โชคดีมากๆ ที่คนไข้ตอบสนองต่อการปั๊มหัวใจนะครับ อัตราความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพียงแต่อัตราการตอบสนองของม่านตาไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก รวมถึงสมองมีอาการบวมขึ้น น่าจะเป็นเพราะเลือดที่คั่งไปเบียดเนื้อสมองครับ ตอนนี้หมอฉีดยาลดอาการสมองบวมให้แล้ว ในช่วงเย็นถ้าอาการสมองบวมไม่ลดลง ทางคณะแพทย์อาจจะตัดสินใจผ่าตัดสมองเพื่อดูดเลือดที่คั่งออกครับ”
   เมื่อคุณหมอพูดจบ เป๊บกับเพื่อนๆ หน้าซีดเลยครับ ฟังดูอาการผมเหมือนดี แต่โดยรวมแล้วน่าเป็นห่วง ระหว่างที่คุณหมอพูดจบพอดี คุณพ่อคุณแม่ของผมและของเป๊บ เดินมาที่หน้าห้องพอดี คณะแพทย์เห็นคุณพ่อคุณแม่ของพวกเรามา ก็เชิญไปคุยที่ห้องวีไอพีเพื่อสรุปสถานการณ์ของผมทันทีครับ เป๊บและเพื่อนๆ ทุกคนจึงเข้าไปในห้องเพื่อดูอาการผม
“โถ....อีโจ้เอ้ย...นี่มันเวรกรรมอะไรของมึงวะเนี่ย...ทำไมเป็นถึงขนาดนี้วะ” ฉัตรบ่นออกมาพร้อมกับน้ำตาไหล คือ ร่างกายของผมเต็มไปด้วยอุปกรณ์ระโยงระยาง เต็มไปหมด ฉัตรมันสงสารผมจับใจเลยละครับ
“เมิงอดทนไว้นะเว้ย....กรูสงสารเป๊บมัน....รีบๆ ตื่นมาคุยกะพวกกรูได้แล้ว...”เบิดจับมือผมและพูดข้างๆ หูครับ
   ส่วนทรายเธอน้ำตาแตกไปแล้วครับ เธอตกใจกับภาพที่เห็นและสงสารผมมากๆ ฮ่าๆๆ (ว่าไปตอนนี้ผมหายออกมาอยู่บ้านแล้ว เจ้าจิมเอารูปมาให้ดู ยังตกใจเลยว่า กรูเจ็บหนักนะนั่น)
“ที่รัก....อดทนนะ....อย่าเป็นอะไรไปนะ...เป๊บจะอยู่ยังไง...ฮือๆๆๆ” เป๊บเริ่มคร่ำครวญอีกแล้วครับฉัตร ทราย เบิด พยายามเข้ามาปลอบ

   เล่ามาถึงตอนนี้คิดว่าจะพอแล้วละครับ ยอมรับเลยว่าเขียนยากมากๆ เพราะต้องไปรื้อฟื้นข้อมูลบางอย่างมาประกอบในการเขียน ในส่วนของอาการบาดเจ็บทั้งหมด ผมถ่ายทอดให้ทุกท่านอ่านน่าจะสมบูรณ์แบบแล้วละครับ ในส่วนของการเล่าช่วงต่อไปเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหลือเชื่อ ผมจะเรียกมันว่าปาฏิหาริย์ นะคร้าบบบ เชิญติดตามเลยคร้าบบบ

“อือ.....อื้อ.....โอยยยย....อะไรวะเนี่ย....เจ็บต้นคอกับช่วงหน้าอกชะมัดเลย” ผมบ่นออดแอดเลยครับ ก็มันเจ็บจริงนี่น่า ผมพลิกตัวเองจากการนอนคว่ำ หงายหน้าตัวเองขึ้นมา ในขณะที่มือยังจับหน้าอกกับต้นคอ
“เกิดอะไรขึ้นกับกรูวะเนี่ย” ผมพลางบ่นกับตัวเอง พยายามนึกว่าก่อนจะมานอนเจ็บโอดโอยเนี่ย กำลังทำอะไรอยู่
   พยายามคิดทบทวนความจำไปเรื่อยๆ จนผมนึกออกได้ว่า เมื่อกี้ ต้นสนจะล้มทับคุณพ่อเป๊บนี่ เออใช่ เราวิ่งไปผลักแล้วตอนนี้คุณพ่อเป๊บจะเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยมั้ย เมื่อผมได้สติสมบูรณ์ จึงมองไปรอบๆ ตัว ก็พบกับ
“อ้าว...เฮ้ย...นี่มันที่ไหนอะ...ไม่ใช่บ้านเป๊บนี่” ผมตกใจมากครับ มองไปรอบๆ ตัว คือทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ว่างเปล่า ไม่มีต้นไม้ ไม่มีผู้คน ไกลสุดลูกหูลูกตา
“นี่มันที่ไหนเนี่ย...แล้วเรามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง...แล้วเป๊บหายไปไหน” ผมบ่นพร่ำเพ้อกับตัวเองครับ พร้อมกับงงมากๆ ว่า ตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
   หลังจากเริ่มคุ้นเคยกับอาการงงของตัวเอง และเรียกสติกลับคืนมาผมตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆ เผื่อว่าอาจจะเจอใครสักคนที่รู้จักจะได้ขอความช่วยเหลือครับ เดินมาได้สักระยะนึง ก็เจอกับถนนสองเลนเส้นนึง จริงๆ จะเรียกมันว่าถนนก็ไม่ได้ครับ ลักษณะของมันเหมือนทางลูกรัง แต่พื้นผิวถนนเรียบนะครับ ออกสีน้ำตาลๆ ถนนเส้นนี้ยาวไปสุดลูกหูลูกตาเลยละครับ ผมก็เดินไปตามถนนโดยไม่รู้เลยว่ากำลังเดินไปทางทิศใด
“เป๊บคร้าบบบ....อยู่ไหนคร้าบบบบ....เป๊บ.....ได้ยินโจ้มั้ย.....” ผมเดินไปตะโกนเรียกเป๊บไปตลอดทางเลยครับ
“พ่อคร้าบบบ....แม่คร้าบบบบบ....จิมมมม.......” ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วครับ เดินมาตั้งนานแล้วไม่เจอใครเดินสวนมากสักคนนึงเลย
“เป๊บคร้าบบบบ.....อยู่ไหนอะ...ช่วยโจ้ด้วย.....ฮึกๆๆ...ฮือ.....” ผมเริ่มขวัญเสียแล้วครับ เดินไปร้องไห้ไปซะแล้ว

“ไอ้หนู...ยังขี้แยเหมือนเดิมเลยนะหลาน” มีเสียงเรียกทักมาจากด้านหลังผมครับ เสียงคุ้นหูมากๆ ผมจึงหันกลับไปดู
“คุณยายยยยยยยยย...คุณยายยยยยยยยจริงๆ ด้วยยยยยยยยย” ผมตกใจมากๆ ที่เห็นคุณยายครับ คุณยายยืนด้านหลังผม มีรัศมีสีขาวล้อมรอบ ราวกับว่ามีผนังแก้วใสบางๆ ห่อตัวคุณยายเลยละครับ หน้าตาคุณยายเป็นผู้สูงอายุที่ดูเปล่งปลั่งมากครับ คุณยายผมเสียไปตั้งแต่ผมอยู่ ม. 1 ตอนนั้นจำได้ว่านั่งร้องไห้สามชั่วโมงโดยไม่หยุด ผมรักและผูกพันกับคุณยายมากๆ ครับ ผมวิ่งเข้าไปกอดคุณยาย
“คุณยายยยยย....ฮึกๆๆๆ....ฮือๆๆๆ.... คิดถึงจังเลยครับ” ผมสวมกอดคุณยาย
“โอ๋ๆๆ...อย่างร้องหลานเอ้ย...ยายก็คิดถึงไอ้หนูขี้แยเหมือนกันนะ” คุณยายสวมกอดผม ลูบหัว รู้สึกอบอุ่นมากๆ เลยครับ หลังจากผมหายสะอื้นก็เริ่มถามคุณยาย
“คุณยายครับ ที่นี่ที่ไหน แล้วทำไมคุณยายมาเจอผมที่นี่ครับ”
“ที่นี่หรือหลาน จะเรียกว่าอะไรดีละ....เอาเป็นว่าที่นี่คือ ถนนทางสองแพร่งที่จะไปนรกกับสวรรค์นะหลาน”
“หา....อะไรนะครับบบ....ถนนทางสองแพร่ง...คุณยาย หมายความว่า ผมตายแล้วหรือครับ”
“ยังหรอกหลาน....ยังไม่ถึงเวลาของหลานหรอกจ๊ะ...”
“แล้วผมมาที่นี่ได้ยังไงครับคุณยาย” ผมถามคุณยายด้วยความงงๆ ครับ คือไม่ถึงเวลาแต่มาได้ยังไงหว่า
“มันเป็นวิบากกรรมของหลานนะจ๊ะ...หลานต้องชดใช้มันให้หมด แต่ไม่เป็นไรนะ การมาของยายครั้งนี้ ยายจะมาบอกว่า หลานได้ชดใช้วิบากกรรมนั้นตามสมควรแล้ว
“เอ๋...แล้วผมจะยังไงต่ออะครับคุณยาย” ผมถามคุณยายเพราะไม่เข้าใจว่าถ้าหมดวิบากกรมแล้วผมจะกลับไปได้ยังไงอะ ยังไม่ทันหายสงสัยครับ ด้านหลังผมอีกฝากนึงก็มีแสงสีเหลือทอง จนผมต้องหันไปดูครับ
   เมื่อผมหันไปดูแสงสีเหลืองทองนั้น ผมตกใจมาก เพราะสิ่งที่ผมเห็นคือ หลวงตา ที่ผมกับเป๊บเคยเจอท่านที่วัดในการแวะระหว่างทางของตอนที่ไปพัทยานะครับ
   หลวงตาท่านใส่จีวรเต็มชุด มีแสงสีเหลือทองเปล่งรัศมีออกมาสว่างมากๆ เท้าของหลวงตาทุกย่างก้าวเดินมา มีดอกไม้สวยๆ ผุดขึ้นมารองรับเท้าไว้ หลวงตาท่านยิ้มด้วยความเมตตา เดินเข้ามาหาผมกับคุณยาย
   คุณยายนั่งพับเพียบลงกับพื้น ผมเองก็ตกใจ เลยนั่งคุกเข่าลงพร้อมคุณยายครับ เมื่อหลวงตาเดินเข้ามาจนหยุดอยู่ตรงหน้าผมกับคุณยาย
“กราบนมัสการหลวงตาคะ” คุณยายก้มลงกราบหลวงตา ผมเห็นก็รีบทำตามครับ
“กราบนมัสการหลวงตาครับ” ผมก้มลงกราบหลวงตาด้วยครับ
“โยมช่วง(ชื่อคุณยายผมครับ) ไม่ได้เจอกันตั้งนานสบายดีนะโยม” หลวงตาทักทายคุณยาย ผมประหลาดใจราวกับว่า ท่านรู้จักสนิทสนมกันมาก่อน
“สบายดีเจ้าคะ แล้วหลวงตาเป็นอย่างไรบ้างคะ สบายดีนะคะ”
“ตามปกติแหละโยม ไม่มีความสบายใดเท่ากับความสบายใจที่เงียบสงบหรอกโยม” หลวงตาทักทายกับคุณยายเสร็จ ก็หันมาทักทายผมครับ
“โยมหลาน เป็นอย่างไรบ้าง”
“ก็...งงๆ ครับหลวงตา ยังสับสนว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงอะครับ ยังเรียบเรียงไม่ถูกเลยครับ จำได้ว่าเหมือนต้นสนล้มทับ แล้วก็มาอยู่ที่นี่ครับ” ผมพูดจบหลวงตาก็ยิ้มออกมาครับ
“จำที่หลวงตาบอกได้ใช่มั้ย ว่าโยมหลานจะต้องเจอวิบากกรรมครั้งใหญ่ในชีวิต”
“จำได้ครับหลวงตา ผมห้อยพระหลวงปู่ทวดตลอดตามที่หลวงตาแนะนำเลยนะครับ” ผมพยักหน้าพร้อมบอกหลวงตาครับ
“กรรมดีได้ดลใจให้โยมหลานเชื่อตามคำแนะนำของหลวงตา”
   ผมก้มกราบแทบเท้าหลวงตา
“ขอบพระคุณหลวงตามากครับ”
“โยมหลาน ที่หลวงตามาพบโยมหลานกับโยมช่วงที่นี่ หลวงตามาช่วยโยมหลานตามคำสัญญาในอดีตชาติที่เคยผูกพันกันไว้” หลวงตาพูดจบ ผมก็ทำหน้าตกใจครับ คือ ตกใจว่าไปสัญญาตอนไหนงะ
“โยมหลาน จงตั้งใจฟังในสิ่งที่หลวงตากำลังบอกเถิด ในอดีตหลายภพชาติ โยมหลานเป็นผู้ที่สั่งสมบุญบารมีมาเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ การสร้างพระพุทธรูปเพื่อเป็นเครื่องอามิสบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การสร้างวัด การสร้างศาสนวัตถุ แต่ด้วยแรงกรรมในอดีตชาติที่โยมหลานเคยผิดศีลข้อที่สามทำให้ภพชาตินี้โยมหลานเกิดมาร่างกายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง เจ้ากรรมนายเวรตามอาฆาตหมายมั่นจะเอาชีวิต แต่โยมหลานเป็นผู้ที่สั่งสมบุญไว้มาก ดวงชะตาจึงยังไม่ถึงฆาต”
   ผมฟังในสิ่งที่หลวงตากล่าวมาทั้งหมด ตกใจและอึ้งครับ
“คะ..ครับ...หลวงตา...แล้วผมกับหลวงตาทำอะไรร่วมกันมาหรือครับ”
“โยมหลาน ในอดีตชาติหลวงตากับโยมหลานและโยมช่วง สามคนเป็นเพื่อนรักกัน สร้างอานิสงฆ์ผลบุญมาด้วยกัน แต่หลวงตาตั้งจิตอฐิษฐานให้ภพใดภพหนึ่งได้เป็นพระภิกษุสงฆ์จนบรรลุเป็นพระอรหันต์ เราทั้งสามคนต่างเคยสัญญาว่ากันว่า ภพใพชาติใดหากเกิดสิ่งไม่ดี จะตามไปช่วยเหลือกัน”
   ผมฟังที่หลวงตาท่านเล่า น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวเลยครับ ไม่เข้าใจอารมณ์นั้นเหมือนกัน
   ในช่วงจังหวะที่ผมก้มกราบพร้อมกับน้ำตาไหล หลวงตาท่านได้ยกมือขึ้น และมีแสงสีเหลืองเปล่งประกายออกจากร่างหลวงตา ราวกับว่าแสงสีเหลืองนั้นสว่างไปทั่วทุ่งหญ้าเลยละครับ
“โยมหลาน โยมช่วง จงตั้งใจฟังพระธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถิด” ผมกับคุณยายนั่งพับเพียบพนมมือ รอการฟังพระธรรมเทศนาครับ
“ดูก่อน โยมหลานโยมช่วง อวิชชาและตัณหาทำให้สรรพสัตว์เกิด จิตของสัตว์เหล่านั้นย่อมวิ่งผล่านไปยังวัฏสงสาร เมื่อขันธ์ทั้งหลายก็ยังมีอยู่ สมมติว่าสัตว์ก็ยังมีอยู่ ความจริงแล้วกองสังขารเหล่านั้นไม่ได้เรียกว่าสัตว์ มีแต่กองทุกข์เท่านั้นที่มีเกิดขึ้น มีแต่กองทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ มีแต่กองทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไรดับ นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไรเลย”
   ผมน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวเลยครับ เข้าใจรสพระธรรมแจ่มแจ้ง คนเราเกิดมาพร้อมความทุกข์จริงๆ เลยนะ
“ขอให้โยมหลานเป็นผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในความดี ละเว้นจากความชั่ว รักษาศีล และสะสมผลบุญไปทุกภพชาตินะ”
“สาธุ ขอบคุณครับหลวงตา” ผมยกมือไหว้จรดหน้าผากพร้อมก้มกราบหลวงตาครับ
“โยมช่วง อาตมาได้ทำตามสัญญาแล้วนะ การมาช่วยครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของอาตมาแล้ว”
“เจ้าคะหลวงตา ขออนุโมทนาหลวงตาสู่อรหันต์ผลคะ” คุณยายผมก็ก้มกราบหลวงตาครับ
“ฮึกๆๆ....ฮือๆๆๆ...หลวงตาจะไม่กลับมาแล้วหรือครับ” ผมร้องไห้อีกแล้วครับ ขี้แยจังอะ
“โยมหลาน หลวงตาได้สำเร็จมรรคผลตามแนวทางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว การมาพบครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย โยมหลานจำคำสั่งสอนของหลวงตาไว้นะ ประกอบแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใสนะ”
“ครับ..หลวงตา”
“ถึงเวลาที่โยมหลานต้องกลับแล้ว ลาโยมช่วงเถิด” ผมงงว่ากลับไปไหน แต่ก็หันไปหาคุณยายครับ
“ไอ้หนู...การกลับไปครั้งนี้ หนูต้องเป็นคนดีตามที่หลวงตาสอนนะหลาน” ยายพูดจบก็กอดผมครับ
“คุณยาย..ผมไม่อยากกลับอะ ....กลัวไม่ได้เจอคุณยายอีก” ผมกอดอ้อนคุณยายครับ
“ไอ้หนูเอ้ย...คนเรามีพบต้องมีจากนะหลาน วันนึงเราจะได้เจอกันอีกนะ” คุณยายกอดและลูบหัวผมไปด้วยครับ
“ครับคุณยาย..ผมรักคุณยายนะครับ..” ผมก้มกราบคุณยายที่ตัก
“จ้า ยายก็รักหลานนะ...ไปหาหลวงตาได้แล้วหลาน”
“ครับ” ผมเดินคุกเข่าไปหาหลวงตา ก้มกราบสามครั้ง
“โยมช่วง อาตมาทำตามสัญญาแล้วนะ ขอให้โยมช่วงประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดกาลนาน เทอญ”
“ขอบพระคุณมากคะหลวงตาที่ช่วยหลานดิชั้น” คุณยายก้มกราบหลวงตาครับ
“โยมหลาน คุกเข่ามาใกล้ๆ หลวงตา” ผมก็รีบคุกเข่าเข้าไปใกล้ๆ ครับ
   หลวงตาท่านก็เอามือขวามาแตะศรีษะผมครับ
“โยมหลาน การกลับไปครั้งนี้ ชีวิตของโยมหลานจะประสบแต่ความสุขความเจริญ ผู้ชายที่เป็นคนรักของโยมหลานคือ คู่แท้ตั้งแต่อดีตชาติ ที่ได้สั่งสมบุญมาด้วยกัน จะสามารถดูแลโยมหลานให้มีความสุขได้ตลอดอายุขัย ขอให้ตั้งใจประกอบคุณงามความดีร่วมกันนะ” หลวงตาพูดจบก็บริกรรมคาถาบางอย่างซึ่งผมไม่รู้จักอะครับ จำได้แค่คาถาที่คุ้นเคยคือ สัพพีติโย.....
   ตลอดระยะเวลาที่หลวงตาเอามือมาแตะที่ศรีษะ ผมรู้สึกมีกระแสแสงสีเหลืองอุ่นๆ ไหลผ่านตั้งหัวจรดปลายเท้า อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ มันสบายตัว ผมหลับตาเรื่อยๆ จนกระทั่งลืมตาขึ้นมา

“อือ.....อื้อ.....จะ....เจ็บ.....” ผมรู้สึกตัวค่อยๆ ลืมตาขึ้น พร้อมกับรู้สึกเจ็บไปทั่วตัวเลยครับ อะไรกันเนี่ย ติ๊ดๆๆๆๆๆ......เสียงอะไรเนี่ย ผมหันไปทางขวามือเห็นเป๊บกำลังลืมตาขึ้นมามอง
“เฮ้ย....โจจจจจจจจจจจจจจจ้...โจจจจจจจจจจจจจจจจจ้ฟื้นแล้วววววววววว..หมอคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ แฟนผมฟื้นแล้ววววววววว” เป๊บตะโกนออกมาสีหน้าตกใจและดีใจมากๆ ครับ วิ่งออกไปที่หน้าประตูและตะโกนเรียกหมอ ผมละงง จะดีใจอะไรขนาดนั้นเนี่ย เว่อร์แล้ววววว


ต่อตอนหน้าคร้าบบบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2011 10:22:43 โดย jonathan2624 »

fullmoon217

  • บุคคลทั่วไป

fullmoon217

  • บุคคลทั่วไป
เราเชื่อนะ เพราะเราก็ปฎิบัติอยู่เรื่อยๆ
อยากรู้ค่ะว่า หลวงตารูปนั้นชื่ออะไร และ อยู่ที่วัดไหนค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
ติดตามต่อไปว่าคุณพ่อของเป๊บจะเปลี่ยนความคิดไปยังไงบ้าง
สงสัยจะโอ๋จะรักมากกว่าเป๊บล่ะมั้งเนี่ย   :L2:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่โจ้ได้ชดใช้และผ่านวิบากกรรมนั้นมาแล้ว

ป.ล.โจ้จ๊ะ "ปาฏิหารณ์" ไม่ได้เขียนแบบนี้นะจ๊ะ
"ปาฏิหาริย์" เขียนแบบนี้จ้ะ


Jeeo

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้เหมือนกันครับว่า หลวงตารูปนั้นชื่ออะไร และ อยู่ที่วัดไหนค่ะ และตอนนี้ท่านยังอยู่หรือเปล่า คงจะเป็นบุญถ้าได้ไปพบซักครั้งนะครับ ขอให้คุณโจ้แข็งแรง มีความสุขมากๆ นะครับ

clubjets

  • บุคคลทั่วไป
ผมชอบเรื่อง ของพวกพี่ๆ มาก เลย นะ ครับ ผมยังไม่เคยมีความ รัก อาจจะยังไม่ถึงเวลาของผมก็ได้ แต่ ถ้าผมได้มีความรักสักครั้งก็ขอ ให้ผมได้เจอแบบ พี่เป๊บ กับ พี่โจ้  ด้วยเถอะ สาธุ  :call: ยังไง ผมก็จะคอยอ่านเรื่อง ของพวกพี่ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้พี่ๆรักกันตลอด นะครับ   :bye2:

tawan

  • บุคคลทั่วไป

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
แอบขนลุก ในที่สุดโจ้ก็ฟื้นมาได้นะนี่ ทำเอาคนเครียดไปกันหมด แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเท่าไหร่ อิอิ

Ilesa

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วขนลุก

ไม่เป็นไรดีแล้ว (แต่ขนลุกจริงๆนะ)

samuchii

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆๆๆ  พี่โจ้ฟื้นแล้ว

เชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริงๆนะครับ

เป็นคนดีคุณพระคุ้มครองอยู่แล้วครับ ฟื้นแล้วก็หายไวๆๆ และต่อไปคงมีความสุข

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
เพิ่งเข้ามาอ่านครังแรกครับ
แอบน้ำตาซึมเลยอ่ะ
มาต่อบ่อยๆ นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iamao12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เย่ๆๆๆ

โจ้ฟื้นแล้ว



อย่าลืมมาต่อน้าาาา

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เรื่องบางอย่างก็ต้องประสบพบเจอด้วยตัวเอง
ดีใจแทนเป๊บที่โจ้ฟื้นแล้ว

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

l3lackkiss

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เคยกล้าพูดเต็มร้อยเลยว่า ปาฏิหาริย์มีจริง
แต่พอมาอ่านเรื่องนี้แล้ว
ทำให้เชื่อจริงๆว่า ปาฏิหาริย์มีจริงๆด้วย
 :L2:

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อยากมารออ่านต่อแล้วอะครับอย่าหายไปนานนะครับ
สงสารโจ้จัง แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมแต่เมื่อเราชดใช้กรรมนั้นแล้วทุกอย่างก็คงจะดีขึ้นนะครับ

เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงนิยายหรือเรื่องเล่าที่อ่านเอาสนุก แต่เป็นเรื่องที่มีคติสอนใจมากๆเลยจริงๆ :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ thejaoil

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีคร้าบบบบ FC ทุกท่าน ตอนล่าสุดที่ลงไปมีคนส่งข้อความมาหลังไมค์เต็มเลยคร้าบบบ ขอบคุณมากๆ นะครัาบบบ สำหรับคนที่ถามว่า หลวงตาอยู่วัดไหน ยังไง อย่างไร ลองติดตามอ่านไปเรื่อยๆ ก็จะมีคำตอบคร้าบบบ สำหรับตอนนี้เป็นชีวิตหลังอุบัติเหตุแล้วละคร้าบบบ เป๊บน่ารักมากอะ ดูแลผมเป็นอย่างดีเลย แต่ยังไงก็สไตล์เป๊บอะ แอบปนหื่นด้วย ลองติดตามอ่านค้าบบบ :pig4:


Chapter 24 การฟื้นตัวที่ดีขึ้น การดูแลแบบทะลึ่งที่น่ารักของเป๊บ

“อือ.....อื้อ.....จะ....เจ็บ.....” ผมรู้สึกตัวค่อยๆ ลืมตาขึ้น พร้อมกับรู้สึกเจ็บไปทั่วตัวเลยครับ อะไรกันเนี่ย ติ๊ดๆๆๆๆๆ......เสียงอะไรเนี่ย ผมหันไปทางขวามือเห็นเป๊บกำลังลืมตาขึ้นมามอง
“เฮ้ย....โจจจจจจจจจจจจจจจ้...โจจจจจจจจจจจจจจจจจ้ฟื้นแล้วววววววววว..หมอคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ แฟนผมฟื้นแล้ววววววววว” ผมตะโกนออกมาสีหน้าตกใจและดีใจมากๆ ครับ วิ่งออกไปที่หน้าประตูและตะโกนเรียกหมอ ผมละงง จะดีใจอะไรขนาดนั้นเนี่ย เว่อร์แล้ววววว
   เป๊บตะโกนเรียกหมอเสร็จ ก็รีบวิ่งกลับมาที่เตียง
“ที่รัก....ที่รักฟื้นแล้ว....ฮือๆๆๆ..ฮึกๆ.....” ผมละตกใจที่เป๊บร้องไห้ นี่อาการผมหนักขนาดนี้เลยหรือ ผมอยากจะตอบและปลอบเป๊บเหลือเกิน แต่คอมันแห้งมากอะครับ จะเปล่งเสียงก็ทำไม่ได้
“ปะ...เป๊บบบ...นะ.....น้ำ.....” ผมพยายามบอกเป๊บว่าหิวน้ำอะครับ
“อะไรนะครับที่รัก” เป๊บคงได้ยินไม่ถนัดครับ เลยเอียงหูเข้ามาใกล้ๆ ปากผม
“นะ.....น้ำ.....”
“อ๋อออ..ครับๆๆ...เดี๋ยวเป๊บเอาน้ำให้นะ” พอเป๊บรู้ว่าผมหิวน้ำครับ รีบวิ่งไปตู้เย็นหยิบน้ำและแก้ว เสียงดังโคร้งเคร้งไปหมด เห็นเป๊บรินน้ำใส่แก้วแบบมือสั่นเลยอะครับ ฮ่าๆๆๆ อยากจะบอกว่าไม่ต้องรีบขนาดนั้นคร้าบบบบ
“ที่รักๆๆๆ....น้ำครับน้ำ...ได้แล้วครับ” เป๊บวิ่งกลับมาที่เตียงเร็วมากครับ พร้อมเอาหลอดมาจ่อที่ปากผม ผมก็เลยได้ดูดน้ำสมใจอะ อิอิ ดื่มน้ำไปเยอะมากเลยละครับ
   ประมาณไม่ถึงนาที คณะแพทย์กับพยาบาลที่รับผิดชอบดูแลรักษาผมก็เดินเข้ามาในห้องครับ
“สวัสดีครับหลานโจ้ ไหนๆ ของลุงหมอตรวจร่างกายนะ” มีลุงหมอคนนึงในทีมคณะแพทย์ น่าจะเป็นหัวหน้าทีมมั้งครับ ยิ้มแย้มเป็นมิตรมากเลย ขอตรวจร่างกายผมครับ
“อ้าปากซิครับ....ดีมาก....ยกแขนได้มั้ย....ยังเจ็บหรือครับ....ดีมาก...ลุงหมอขอดูม่านตาหน่อยนะ....โอเคใช้ได้...ฯลฯ แล้วก็ตรวจนั่นนี่อีกเพียบครับ”
“โทรไปบอกทางคุณพ่อคุณแม่หรือยังคะ” มีหมอผู้หญิงคนนึงหันไปถามเป๊บครับ
“อ๊ะ..อ๋อ...ยังเลยครับ มัวดีใจที่โจ้เค้าฟื้นนะครับ เดี๋ยวผมจะโทรไปบอกก่อนนะครับ” เป๊บหันมายิ้มให้ผมทีนึงแล้วก็ขอตัวออกไปนอกห้องครับ
“หนูโจ้ อาหมอขอตรวจช่วงหน้าอกหน่อยนะครับ” มีหมออีกคนครับ หนุ่มกว่า แอบหล่อ อิอิ เอามือมากดกระดูกช่วงหน้าอก
“ถ้าอาหมอกดแล้วเจ็บ ส่งเสียงนะครับ....ตรงนี้เจ็บมั้ย...โอเคไม่เจ็บนะ....ตรงนี้เจ็บมั้ย....โอเคไม่เจ็บนะ....ตรงนี้เจ็บมั้ย...”
“อื้อ...โอ้ยยย..” ผมเผลอส่งเสียงออกมา มันเจ็บนี่ครับ
“โอเคๆ ครับ...เจ็บตรงนี้นะ” แล้วอาหมอก็จดอะไรในกระดาษยุกยิกๆ อะครับ
“อาหมอขอตรวจต้นคอหน่อยนะคะ” หมอหญิงคนที่ถามเป๊บว่าโทรบอกคุณพ่อคุณแม่หรือยัง ขอตรวจต้นคอผมครับ
“อาหมอจะลองหันคอช้าๆ นะคะ ถ้าเจ็บช่วงไหน ส่งเสียงด้วยนะ...เจ็บมั้ยคะ...ไม่เจ็บนะ....เจ็บมั้ยคะ....ไม่เจ็บนะ..โอเคคะ” อาหมอหญิงตรวจเสร็จก็จดยุกยิกๆ เหมือนกันครับ
   สำหรับพยาบาลที่ตามเข้ามาก็เข้ามาตรวจความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ นั่นนี่โน่นนู้น สารพัดเลยละครับ จนกระทั่งเป๊บเดินเข้ามาในห้อง
“โทรบอกทางบ้านหมดแล้วครับคุณหมอ..ตกลงแฟนผมเป็นยังไงบ้างครับ” เป๊บเข้ามาก็โพล่งถาม ผมตกใจมากกกก เฮ้ยยยยย ไปบอกว่าแฟนได้ไงเนี่ยยยยย เขินนนนนนนง่า บ้าแล้ววววว
“อาการโดยรวมเป็นที่น่าพอใจเลยละครับ นี่หมอก็แปลกใจว่าเมื่อวานตอนเย็นยังอาการวิกฤติ ทำไมเช้าวันนี้อาการดีขึ้นมากๆ ถือว่าโชคดีจริงๆ นะครับ” ลุงหมอตอบยาวเลยครับ
“แต่เพื่อความมั่นใจ ทางคณะแพทย์จะพาไปตรวจสแกนคลื่นแม่เหล็กอีกทีนะคะ” อาหมอหญิงบอกเป๊บครับ แล้วหันไปสั่งให้พยาบาลเคลื่อนย้ายผมไปตรวจคลื่นแม่เหล็กอะไรนั่นอะ
   ผมทำหน้าเหรอหรา ตกใจอะครับ แม่ลงแม่เหล็กอะไรง่า กลัวอะ หันหน้าไปมองเป๊บ เป๊บเหมือนรู้เลยครับ เลยตอบคณะแพทย์ไปว่า
“ได้ครับคุณหมอ เริ่มดำเนินการได้เลยครับ” อ้าวไอ้เป๊บ คือ กรูไม่อยากสแกนโว้ยยยย ไม่ได้เข้าใจกรูเล้ยยยย แฟนใครเนี่ยยยยย อ๊ากกกกก
   พยาบาลก็เริ่มเคลื่อนย้ายผมไปยังห้องแม่เหล็กอะไรนั่นละครับ เป๊บก็น่ารักนะ พูดให้กำลังใจผมตลอดทางเลยว่า ไม่ต้องกลัวนะ จะได้หายเร็วๆ แถมเดินจับมือผมไปตลอดทางจนถึงหน้าห้องสแกนเลยละครับ
   จนกระทั่งคุณพ่อคุณแม่ของผม รวมถึงจิมและกลุ่มเพื่อนๆ (เป๊บบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านจะมาช่วงเย็นอะครับ) เดินทางมาถึงโรงพยาบาล ต่างก็มาคอยที่หน้าห้องตรวจคลื่นแม่เหล็ก การตรวจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พยาบาลเข็นเตียงผมออกมาจากห้องตรวจพร้อมกับคณะแพทย์ทั้งหมดเดินออกมาด้วยครับ เตียงของผมพ้นห้องตรวจมา ผมเห็นคุณพ่อคุณแม่และจิมวิ่งเข้ามาถึงขอบเตียงเลย
“โจ้ลูกกกกก.....เป็นยังไงบ้างเจ็บมั้ยลูก” แม่ผมเข้ามาจับแขน ลูบหน้า เสียงเครือๆ สั่นๆเลยละครับ
“เดี๋ยวก็หายแล้วนะลูก...พ่อดีใจมากที่ลูกปลอดภัยนะ” พ่อผมเข้ามาจับแขนด้วย ตาพ่อแดงๆ เหมือนจะร้องไห้เลยครับ
“พี่ๆๆ ดีใจจังที่อาการดีขึ้น” เจ้าจิมวิ่งเข้ามากอดบนเตียงเลย น้ำตาไหลเป็นทางเลยครับ
   ผมดีใจน้ำตาไหลเหมือนกัน แต่ด้วยอาการที่ไม่มีแรง เลยขยับเขยื้อนอะไรไม่ได้มากครับ พยาบาลเข็นเตียงของผมกลับไปยังห้องพักฟื้นเดิม ทุกคนรวมถึงคณะแพทย์ต่างก็เดินตามไปที่ห้องด้วยครับ
   พยาบาลจัดเตียงของผมเข้าประจำที่เดิม อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เคยรุงรัง เหลือเพียงแค่ขวดน้ำเกลือเพียงขวดเดียวแล้วครับ
“คุณหมอครับ ลูกผมอาการเป็นยังไงบ้าง” คุณพ่อผมเริ่มประเด็นก่อนเลยครับ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องรวมทั้งผมเองหันหน้ามาฟังคำตอบจากปากคุณหมอเลยครับ
“อาการโดยรวมดีขึ้นมากเลยครับ จนทางคณะแพทย์แปลกใจมากๆ ว่าอาการเมื่อวานตอนเย็นกับวันนี้ตอนเช้าทำไมแตกต่างกันมาก เท่าที่ดูผลจากการสแกนด้วยคลื่นแม่เหล็ก พบว่าก้อนเลือดคั่งในสมองลดลงจนเหลือเพียงแค่จุดดำเล็กๆ ครับ ซึ่งถ้าถามหมอว่าลดลงได้ยังไง หมอตอบไม่ได้จริงๆ ครับ อาจจะเป็นความโชคดีหนึ่งในแสนเลยก็ได้ ส่วนอาการกระดูกซี่โครงร้าว พบว่ากระดูกประสานตัวได้ค่อนข้างดี แต่ถ้ากดตรงจุดสำคัญอาจจะมีการเจ็บบ้าง กระดูกต้นคอปกติ ระบบการไหลเวียนเลือดปกติ ระบบการหายใจปกติ ทางคณะแพทย์ให้ผลสรุปว่า พักฟื้นอีกประมาณห้าวันน่าจะหายเป็นปกติครับ”
“จริงหรือคะคุณหมอ เป็นความโชคดีของลูกดิชั้นจริงๆ นะคะ” คุณแม่ผมหน้าตาสดใสขึ้นมาทันทีครับ
“เฮียๆๆ จะหายแล้ววววว ดีใจจัง” เจ้าจิมกระโดดมากอดบนเตียง
“ว๊ากกกกกกก....เจ็บๆๆๆ..ไอ้น้องบ้า” เจ้าจิมกระโดดมาแรงกระแทกซี่โครงผมอะ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” คนในห้องทั้งหมดขำพร้อมกันเลยครับ
“เห็นมั้ยคะ ร้องดังได้ขนาดนี้ หมอว่าคงจะหายเป็นปกติเร็วๆนี้แน่นอนคะ” อาหมอหญิงแซวผมงะ
   หลังจากนั้นทางคณะแพทย์ก็พูดคุยพอสมควร คุณพ่อคุณแม่และทุกๆ คนต่างไหว้ขอบคุณทางคณะแพทย์ที่ช่วยเหลือผมอย่างเต็มที่ครับ ทางคณะแพทย์ก็ขอตัวไปทำงานต่อ ในห้องก็เหลือคุณพ่อคุณแม่ เจ้าจิม เป๊บ ฉัตร เบิด ทราย ครับ
   เป๊บลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงด้านขวามือผม เป๊บเอามือมากุมมือผมไว้
“ที่รัก เป๊บดีใจมากเลยนะครับ ที่อาการเจ็บดีขึ้น...รู้ตัวมั้ยว่าสลบไปตั้งสองคืนเต็มๆ”
“จริงหรือเป๊บ โหยยย ทำไมสลบนานขนาดนั้นอะ โจ้ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยอะคับ”
“จริงซิครับ...เป๊บตกใจ..เป็นห่วง..สารพัดเลยนะ..แต่ช่างมันเถอะตอนนี้ที่รักหายแล้วละ” เป๊บยิ้มให้ผมครับ เป็นยิ้มที่มาจากใจจริงเลยนะ รักเป๊บจังเลยอะ
“ต้ายยยยยยยย....ตายยยยยยยยยยยย.....จะหวานกันไปถึงสวรรค์วิมานไหนยะ นี่อีโจ้ววว เมิงช่วยหันพระเนตรมาคุยกะกรู อีเบิด อีทรายมั่งเห้ออออออ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” พ่อ แม่ เจ้าจิม ขำพร้อมกันเลยอะ อีฉัตรนี่มันตัวทำลายบรรยากาศเจงๆ แง่ง
“อีนี่นิ กรูนอนเจ็บอยู่นะ เมิงก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ กรูเนี่ย” ผมแขวะฉัตรไป
“ฮ่าๆๆๆ คร่าคุณชายยยย” ฉัตรก็ลากเก้าอี้เข้ามานั่งข้างๆ ครับ แล้วก็เริ่มแหกปากทันที
“อีโจ้ว ตอนเมิงสลบนะ ไอ้เป๊บมันจะตายวันละสามรอบ ร้องไห้น้ำตาแทบท่วมโรงพยาบาล มันเป็นห่วงเมิงโคตรๆ เมิงหายแล้วก็อย่าซ่ามาก นึกถึงเป๊บมันบ้าง” ฉัตรจิกผมเลยอะครับ
“ที่ฉัตรพูดมา จริงป่าวคับเป๊บ” ผมหันไปถามเป๊บ เป๊บไม่ตอบแต่พยักหน้าเขินๆ
“ยิ่งกว่าจริงอีกยะ ชั้นอยู่ในเหตุการณ์ร้องโฮกๆๆ  ฮ่าๆๆ” ทรายพูดยืนยันขึ้นมา
“ส่วนกรูกอดปลอบมันเนี่ย กอดจนแทบได้เสียเป็นผัวเมียกัน ฮ่าๆๆๆ” เบิดเสริมด้วยอีกคนครับ
“ฮ่าๆๆๆ เมิงก็เกินไปไอ้เบิด” เป๊บขำพร้อมแขวะเบิดครับ
“นี่จ๊ะผลไม้ ทานกันก่อนนะลูก” แม่ผมไปปอกผลไม้มาจานใหญ่เลยครับ ส่งให้พวกเพื่อนๆ ได้ทานกัน
“แม่ค้าบบบ อยากหม่ำบ้างง่า” ผมเริ่มอ้อนแม่แล้วครับ
“ไม่ได้จ๊ะลูก ป้ายเขียนนี่ว่าอาหารอ่อนทางการแพทย์ ดังนั้นรอข้าวของโรงพยาบาลจ๊ะ” แม่พูดจบก็เดินไปห้องครัวเลยอะ
“ฮ่าๆๆๆ อีหอย อดแดก มามะกรูแดกแทน” อีฉัตรมันก็งาบๆ ผลไม้ต่อหน้าผมเลยอะ ว๊ากกก หมั่นไส้
“ที่รักอย่าเพิ่งทานเลยนะครับ ทำตามที่คุณหมอสั่งดีกว่านะ” เป๊บปลอบผมครับ แต่ตัวเองเอาผลไม้มานั่งเคี้ยวงับๆๆๆ ต่อหน้าอะนะ แฟนใครเนี่ยยยย เช้อออออออ
   ผมก็นั่งเฮฮาไปขำไป จนเข้าสู่ช่วงเที่ยง เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนำอาหารมาส่งครับ ผมก็เริ่มหิวๆ แล้วอะ อยากหม่ำๆ แล้ว
   อาหารมาส่งเบิดก็รีบไปหยิบโต๊ะอาหารที่มันหมุนๆ ปรับระดับได้อะครับ(คงพอนึกออกนะครับ) แต่โรงพยาบาลที่ผมนอนรักษามันทันสมัยมากๆ เป็นแบบกดไฟฟ้าเลยครับ เบิดก็เอามาเสียบไว้ที่เตียง เป๊บยกถาดอาหารมาวาง ฉัตรกดสวิตช์ปรับเตียงส่วนศรีษะให้ยกขึ้น จะได้ทานอาหารได้ง่ายครับ ส่วนทรายเธอก็รีบไปรินน้ำมาประเคนผม โหยยยย มีแต่คนเอาใจ ดีจังง่า คิคิ
“อาหารมาแล้วละลูก กินเยอะๆ ละ เดี๋ยวพ่อ แม่ กับเจ้าจิมจะลงไปทานข้าวข้างล่าง”
“อ้าวววว พ่อค้าบแม่ค้าบ ทำไมไม่อยู่ป้อนผมก่อนอะ” โหมดอ้อนมาแล้วครับบบบ ฮิฮิ
“ถามอะไรแปลกๆ ลูกคนนี้ ลูกเป๊บอยู่ทั้งคน ก็ให้แฟนป้อนซิจ๊ะ” แม่ผมพูดหน้าตาเฉยเลยอะ โห แม่ใครเนี่ยยยย เช้ออออ ฮ่าๆๆ
“ฮ่าๆๆๆ” ฉัตร ทราย เบิด หัวเราะพร้อมกันครับ
“ได้ครับ คุณพ่อคุณแม่ไปทานข้าวก่อน ทางนี้ผมจัดการเองครับ” เป๊บรับปากดูแลผมแทนอะ
“มามะที่รัก ดูซิว่ามีอะไรกินบ้าง” เป๊บเปิดชามแต่ละชาม
“อีหอย มีของเด็ดๆ ทั้งนั้นเลย แกงจืดตำลึง เต้าหู้ไข่หมูสับ ไข่ตุ๋น ปลากะพงนึ่งซีอิ้ว น่าแดกทั้งนั้น”
“โหยยยย ไม่เอาอะ อยากกินพิซซ่า” ผมงอแงครับ
“อ้าวอีนี่ แหกตาดูสังขารนิดนึง จะแดกพิซซ่าหาห่าอะไร เดี๋ยวได้ตายคาเตียง กับข้าวโรงพยาบาลนี่แหละแดกๆ ไป เมิงจะให้กรูยัดเข้าปากหรือให้เป๊บป้อน” ฉัตรแอบด่าผมเลยอะ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” เบิดกับทรายขำพร้อมกันเลยอะ
“โหยยยย กินก็ได้ อีโหดดดดดด” ผมแลบลิ้นใส่ฉัตร
“งั้นก็มามะที่รัก เป๊บป้อนให้นะครับบบ อะ..อ้ามมม..อ้าปาก...” เป๊บป้อนให้จริงๆ ด้วยละ อิอิ
“อ้ามมมม...อร่อยดีจังอะเป๊บ” ผมเคี้ยวไปชมไป รสชาติดีอะครับ
“ต้ายยยยย...หวานจริงๆ นะยะ” ฉัตรแซวครับ
“นิดนึงโว้ย...เมียกรูอุตส่าหายเจ็บ” เป๊บตอบแซวฉัตร
“ฮ่าๆๆๆ...เอองั้นไอ้เป๊บ อีโจ้ว พวกกรูกลับก่อนนะเว้ย”
“อ้าวทำไมรีบกลับจังอะ...” ผมถามฉัตรครับ
“เมิงจะได้พักผ่อนด้วย...เดี๋ยวค่ำๆ พวกกรูมาอีกนะ” ฉัตรตอบผมครับ
“ได้ๆๆ ขอบใจมากนะเมิง ขอบใจทุกๆ คนด้วยนะ” ผมขอบคุณฉัตรและเพื่อนๆ ครับ
“ไม่เป็นไรเว้ย หายเร็วๆ นะเมิง ทริปเสม็ดดีเลย์แต่ไม่แคนเซิ่ลนะ” เบิดตอบผมครับ
“โอเคๆ ไว้เมียกรูหายดีค่อยว่ากัน” เป๊บตอบเบิดครับ คำก็เมียสองคำก็เมีย กำลังสงสัยว่า กรูได้เสียกับคิงคองตอนไหนเนี่ย ชิ เชอะ แชะ
   เพื่อนๆ ก็กลับบ้านกันหมด ในห้องก็เหลือผมกับเป๊บสองคนครับ เป๊บก็ป้อนข้าวผมไปเรื่อย จนข้าวหมดผมก็อิ่มพอดีครับ
“ที่รักดื่มน้ำส้มมั้ยครับ..คุณแม่น่าจะซื้อมาเห็นแช่ในตู้เย็น”
“ก็ดีค้าบเป๊บ เย็นๆ ชื่นใจดี”
   เป๊บเอาน้ำส้มใส่แก้ว เดินมาที่เตียง เอาหลอดจ่อที่ปากผมครับ ผมก็ดูดๆๆ จนหมดแก้วเลยละ
“ที่รักทานเก่งจัง เป๊บรู้สึกดีครับ จะได้หายเร็วๆ แปลกใจมากๆ ตรงที่อาการเจ็บของที่รักช่วงฟื้นตอนเช้ากับตอนเที่ยงมันผิดกันเลยนะ อาการฟื้นตัวเร็วมากๆ”
“นั่นซิเป๊บโจ้ยังแปลกใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงฟื้นตัวเร็วมาก..แถมยังอยากกินเยอะแยะเลย เหมือนกับว่าไม่ได้กินอะไรหลายวันอะครับ” ผมตอบเป๊บไป แต่ในใจพลางคิดว่า คงเป็นเพราะอำนาจพุทธบารมีของหลวงตาแน่เลยครับ ที่ทำให้ผมฟื้นตัวเร็วมาก
นอนคุยกับเป๊บไปสักพักจนเริ่มรู้สึกปวดฉี่ อยากเข้าห้องน้ำครับ
“เป๊บคร้าบบบ ปวดฉี่อะ อยากเข้าห้องน้ำ”
“ครับๆ ที่รักค่อยๆ ก้าวลงจากเตียงนะ” เป๊บรีบพยุงผมลงจากเตียง รู้สึกขายังอ่อนแรงเลยครับ แต่พอเดินได้เพราะเป๊บออกแรงพยุงตัวผมไว้ เป๊บนี่แข็งแรงจริงๆ เลยน้า คิคิ
   ผมค่อยๆ เดินโดยมีเป๊บพยุงและลากเสาที่แขวนขวดน้ำเกลือไปเดินตามไปด้วยครับ จนเข้าไปในห้องน้ำ ยืนอยู่หน้าโถฉี่ จนผมนึกขึ้นได้
“แอะ เป๊บ ออกไปคอยข้างนอกซิ” ผมไล่เป๊บออกไป เพราะอะไรนะหรือครับ มันต้องควักมังกรออกมาฉี่นะเซ่ แล้วเป๊บมายืนมันต้องเห็นอะ อายค้าบบบบบ
“อ้าวที่รัก ถ้าเป๊บออกไปแล้วใครจะพยุงละครับ ที่รักยังยืนไม่แข็งแรงเลยนะ” เป๊บถามด้วยสีหน้าอินโนเซ้นมาก
“ก็...โจ้จะฉี่อะ...เป๊บยืนข้างๆ อายนี่ค้าบบ”
“อ๋อ...ฮ่าๆๆ อายอะไรครับที่รัก มังกรที่รักเป๊บก็เอาเข้าปากแล้ว เห็นหมดทั้งตัวแล้ว จะอายไปทำไมเนี่ย” เป๊บตอบมาผมเหวอเลยอะ พูดอ้อมๆ บ้างก็ได้ เข้าปงเข้าปากอะไรกันเนี่ย ทะลึ่งงงงง
   ด้วยความที่ปวดฉี่มากครับ ผมเลยตัดความอายออก ถ้าคิดให้ดีๆ มันก็จริงเหมือนที่เป๊บพูดอะนะ เห็นกันหมดแล้วจะอายอะไรกัน ดังนั้นผมก็ดึงกางเกงลงนิดนึง แล้วงัดมังกรน้อยออกมาฉี่
“มังกรที่รักตอนฉี่ดูใหญ่เหมือนกันนะ” เป๊บแซวครับ
“บ้าแล้ว..ทะลึ่งงงง ใหญ่ยังไงก็เล็กกว่าของเป๊บอะ” ผมตอบยิ้มๆ ไปครับ หน้าแดงโคตรรรรร
“ฮ่าๆๆๆ จริงหรือครับ งั้นเป๊บควักออกมาวัดดีกว่าว่าใครใหญ่กว่า” เป๊บพูดจบทำท่าควัก
“บ้าแล้วววววว ไม่ต้องมาทะลึ่งเลยนะ จะมาวัดอะไรกันอะ ทะลึ่งงงงง” ผมหน้าแดงแปร๊ดดด แฟนใครเนี่ย หื่นได้ทั้งวันนนนน ชิ

ต่อตอนหน้าคร้าบบบบบบ :pig4:

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ thejaoil

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
พอโจ้ฟื้นขึ้นมานี่เป๊ปลั้นลามากมายเลยเนอะ ฮ่าๆๆ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เป๊บน่ารักจังอะโจ้ ดูแลโจ้ดีมากเลย
อาการเจ็บหายได้ภายในเวลาอันสั้น และร่างกายของโจ้ฟื้นตัวได้เร็วแบบนี้
นอกจากจะด้วยบารมีพุทธคุณและบารมีของหลวงพ่อได้ช่วยแล้ว ดิฉันว่าเป็นผลจากกรรมดีของโจ้ด้วยแหละ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด