เธอคือ ... 'คู่ชีวิต'
ตอนที่ 1
“อืมๆ เข้าใจแล้ว”
“อืม เดี๋ยวดูหอไว้ให้”
“ก็กินข้าวกับเพื่อนแหละ แล้วกินยัง”
“หรอ อืมอย่านอนดึกนะ ถึงจะสองติดที่นี่แล้วแต่ก็เหลือสอบปลายภาคนะ”
“อะไร ไม่ได้เหมือนแม่ซะหน่อย เป็นผู้ชายนะจะเหมือนแม่ได้ไง”
“อะ … ไอ้บ้า อย่าลืมอ่านหนังสือล่ะ”
“อืมนี่ก็ฟิตอยู่เหมือนกัน”
“เอ่อ … ถ้าขออะไรบางอย่างจะได้มั้ย”
“คือ .. เราทำเป็นไม่รู้จักกันได้มั้ย”
“มะ .. ไม่ได้มีคนใหม่ แต่ .. รู้สึกแปลกๆถ้าคนอื่นรู้ว่าคบกันผู้ชายทั้งคู่นี่”
“อื้มม … ขอบคุณนะ ขอโทษจริงๆนะ ไม่โกรธใช่มั้ย”
“ขอบคุณมากนะ”
“โอเคคคคค ฝันดีครับ” สิ้นเสียงโทรศัพท์ก็มีเสียงถอนหายใจขึ้นมาทันที คนในสายที่พึ่งวางไปคงไม่รู้ว่าได้สร้างความเครียดเอาไว้กับใครคนหนึ่งที่เริ่มกุมขมับตัวเอง เขาควรจะแก้ปัญหานี้ยังไงกันนะ ? อยากให้อีกคนรู้ว่าเพราะอะไร แต่ทำไมมันถึงพูดออกไปไม่ได้กัน ..
วันเปิดภาคเรียน
“น้องข้างหลังอ่ะนั่งไวๆ ไอ้สัสพวกมึงมารับน้องหรือมาเดินสยาม ลากเท้าอยู่ได้รีบๆดิ๊ อย่าให้กูอารมณ์เสีย รุ่นอ่ะจะเอามั้ย ไม่เอามึงก็ออกไป จะเอาก็ไวๆ”
ผมมองไอ้รุ่นพี่ที่ยืนโวยวายอยู่ ตัวก็นิดเดียวทำเบ่งชิบเลยว่ะ
“มองไร กูบอกให้นั่งไงสัส ฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรอวะ กูเห่าให้มึงฟังไม่ได้ด้วยนะ”
ไอ้รุ่นพี่ยักคิ้วกวนประสาทใส่ผม เออดีอย่าให้ถึงทีผมมั่งนะ ผมหมายมาดในใจก่อนจะนั่งตามเพื่อนๆในชุดเสื้อช็อปสีน้ำเงินนี่แหละ
วันนี้เป็นวันรับน้องของโรงเรียนอาชีวะที่ผมดันเสร่อสอบติด แผนกโยธา แบกหาม งานกรรมกรที่ชาวบ้านเรียกกันนั่นแหละ มีช่างไม้ ห่าเหวไรนั่นด้วย แต่ผมดันไม่ได้อ่านระเบียบการ ติดก็บุญแล้ววว
“เออๆ พวกมึงอ่ะมีหน้าที่ไปตามหาพี่รหัสกันเองนะ ใช้เลขสองตัวท้าย ไปหาเอาเอง ให้เวลาสามวันถ้ามึงหาไม่เจอ โดนทำโทษ” ไอ้พี่ตัวเล็กเสียงโหดก็แพล่มระเบียบนั่นนี่โน่นไปอีกสักพักใหญ่ๆ
“กูเป็นหัวหน้าทีมว๊ากพวกมึง ชื่อ กู้ภัย อย่ามาขำชื่อกูนะสัส พ่อแม่กูตั้งให้กูภูมิใจ” ไอ้พี่กู้ภัยเหมือนจะหัวเสียที่มีเสียงหัวเราะดังออกมาประปราย
“เอ้าพวกมึงแนะนำทีละคน บอกรหัสพร้อมชื่อดังๆ” พวกข้างหน้าก็ยืนแนะนำกันก่อนจนมาถึงผม ผมจ้องตาไอ้พี่กู้ภัยที่ส่งสายตาท้าทายมาให้ผมเรียยบร้อย
“5439027 ไฟไหม้” มันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเหยียดปากออก ยักคิ้วยั่วโมโห รู้สึกเหมือนตีนผมสั่นอยากกระทืบคนชิบเป๋ง หลังจากไปนั่งโดนไอ้กู้ตัวเท่าเมี่ยงว๊ากใส่จนมันคอแตกไปหลายรอบก็ได้เวลากินข้าว
“เหิ้ยกูโคตรหมั่นไส้ไอ้พี่กู้เลย” ไอ้เจเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันมันเริ่มบ่นครับ
“เออโคตรเบ่งอ่ะ ตัวเท่ามดเอง สูงเท่าอกกูเองมั้ง” ไอ้ฟีเพื่อนอีกคนที่สูง 189 โวยวายมั่ง
“แต่กูว่าแม่งน่ารักนะเว่ย” คำพูดของไอ้เอ็มทำผมสะดุดหูเลย
“สัสเอ็มมึงจะเอาพี่เค้ารึไงวะ กูว่านะดุกว่าหมาอีกสัส”
“แบบนี้ไงชีวิตมีรสชาติมึง เมียดุๆนี่แหละดี ตบจูบตบจูบ จริงมั้ยวะไหม้” ไอ้เอ็มกอดคอผม พยักเพยิกหาแนวร่วม ผมก็ยอมรับในใจว่าไอ้พี่กู้นี่มันก็น่ารัก แต่ผมว่าความน่าหมั่นไส้มันมากกว่าเยอะ
“มึงอาจจะได้โทรโข่งแทนเมียนะเอ็ม” ผมยิ้มเย้าๆไอ้เอ็ม ที่ทำหน้าเซ็งทันที
“เออไอ้สัส กูถือว่าพวกมึงไม่จีบนะ อย่ามาแย่งกูทีหลังแล้วกัน” ไอ้เอ็มเอาส้อมชี้หน้ารายตัว
“แล้วมึงถามกูสักคำยังว่าอยากได้มึงเป็นแฟนหรือเปล่าไอ้น้อง” บุคคลนอกวงสนทนานามกู้ภัยตบโต๊ะดังลั่น ส่งสายตาไม่พอใจใส่ไอ้เอ็มที่หน้าหงอเหลือสองนิ้ว
“พวกมึงรีบๆแดกแล้วไปวิ่งรอบสนามสามรอบข้อหาปีนเกลียว ไวๆ” ผมเซ็งไปในทันที เฮ้อ ร้อนอีกแล้วกู
การรับน้องสุดแสนจะทรมาณของวันก็จบลงแบบเหนื่อยทั้งกายและใจ ผมลากตัวเองมาที่หอพักล้มตัวลงนอนในทันที วิ่งสามรอบ ซิตอัพ วิดพื้น สารพัดที่ไอ้พี่กู้สั่งให้ทำ ดุชิบหาย
“หลับยัง” ผมส่งเสียอืมในลำคอตอบรูมเมทร่วมห้อง เขานั่งลงข้างๆผมลูบหัวผมเบาๆ
“ฝันดีนะครับ”