เรื่องสั้นชุดเมียหรือหมา:(ห้าเรื่อง) เปิดรีปรินซ์ !!!!! หน้า 1 29/12/54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นชุดเมียหรือหมา:(ห้าเรื่อง) เปิดรีปรินซ์ !!!!! หน้า 1 29/12/54  (อ่าน 155157 ครั้ง)

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
อ๋อคือเป็นเวอร์ชั่นเต็มเหรอคะ ยังไงหว่า งง(แล้วจะอ๋อเพื่อ)
ทุกคู่จะมาเกี่ยวโยงกันแบบรวมห้าเรื่องเป็นเรื่องเดียวเหรอ หรือยังไง อะไร งง??


ในซีรีส์ชุดนี้อย่างที่ทุกคนทราบว่าลงแยกกระทู้ไปแล้วแต่ที่ลงแยกไปมันไม่ใช่เนื้อหาทั้งหมดค่ะ ในทู้นี้จะเป็นเนื้อหาเต็มๆที่ถูกตัดไปในบางส่วน แต่ก็จะมีเนื้อหาเดิมอยู่ด้วย แล้วก็อาจจะมีจุดเชื่อมด้วยอันนี้ต้องลุ้นกันต่อไปค่ะ  เรียกว่าเป็นฉบับเต็มรอพิมพ์ก็ว่าได้  แต่แบมไม่อยากให้มันออกแนวจะขายหนังสือที่มีบางส่วนตัดไป เลยเอามาลงให้ครบในทู้นี้ค่ะ แล้วสำหรับคนที่อาจจะอยากสั่งซื้อก็จะได้ทราบไปเลยว่าเนื้อหามีอะไรบ้าง  แต่ในซีรีส์ชุดนี้ขออนุญาตเก็บตอนพิเศษไว้ลงในหนังสือเท่านั้นค่ะ     ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Ryojung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-1
กู้ภัย-ไฟไหม้ รับไม่ได้กับที่โดนข่มขืนจังเลยยยย  :m15:

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
จะลงต่อให้เลยนะคะ เพราะเป็นเนื้อหาเดิม แต่จะแบ่งเป็นช่วงๆให้ค่ะ

ตอนที่สอง

ผมตื่นมาตอนเช้าอีกวัน เรียกว่าหลับลึกหลับยาวบนโต๊ะตัวเล็กมีโจ๊กชามหนึ่งวางไว้ ใส่หมูใส่ไข่สุกไม่ผัก ผมยิ้มกับชามโจ๊กก่อนจะรีบกินจะได้ไปทรหดกับการรับน้องต่อ อย่างน้อยก็ได้กำลังใจเป็นโจ๊กชามใหญ่ล่ะนะ วันนี้ก็เป็นอีกวันอันสุดแสนทรหดอดทนรับน้องยังโหดเหมือนเดิมทั้งสั่งบูมร้องเพลง วิ่งหาของ หรือ อะไรมากมายที่เหนื่อยสายตัวแทบขาด มิน่าแผนกโยธาแม่งมีแต่ผู้ชาย ตอนเดินผ่านไอ้พวกช่างยนตร์นี่โคตรสบายนั่งในร่มร้องเพลง ทีพวกผมนี่เสียงแหบเสียงแห้ง ยืนกลางแดดตะโกนแหกปากกลิ้งไปกับพื้นร้อนๆ
“พวกมึงร้องให้ดังสิวะ มีปัญญาแค่นี้หรือไง กูบอกให้ร้องดังๆ วันที่ปีสามมาดูมึงอยากให้พี่เค้าอายใช่มั้ย” เสียงตะคอกของไอ้พี่กู้และพี่ว๊ากทั้งหลายด่ามาเป็นระยะๆ คอกูจะแหบตายอยู่แล้วครับพี่ หูหนวกไม่ได้ยินกันหรอวะสุดท้ายผมเริ่มเซ็ง ค่อยๆเอนตัวลง ล้มลงไปเลย หลับตา
“เฮ้ยไฟไหม้เป็นลม”
“เฮ้ยไอ้ไหม้ๆ”
“ไหม้ๆ เฮ้ยๆ แบกน้องไปห้องพยาบาล” ผมรู้สึกว่าโดนคนสองสามคนแบกไปที่ซักที่ แม้จะรู้สึกแปลกๆแต่ผมร้อนแล้วนี่หว่า ด้วยน้ำหนักที่สัมพันธ์กับความสูง 180 ของผมคงสร้างความลำบากให้ชาวบ้านอยู่เหมือนกัน
“ไหม้ .. ” เสียงคนคุ้นเคยดังขึ้นข้างๆ ผมค่อยๆลืมตาก่อนจะยิ้มกว้างๆเอาใจคนน้ำตาคลอ
“ร้องไห้ทำไมปกติออกจะดุ”
“มึงไม่เป็นไรใช่มั้ย” มือเรียวจับหน้าผมไปมา น้ำตาคลอหน่วยค่อยๆไหลลงมา
“โอ๋ๆไม่ร้อง ไม่เอาๆ ไม่ได้เป็นอะไร วืดนิดหน่อย” ผมคว้าแขนอีกคนดึงมานอนข้างๆกัน ว้า รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำให้ร้องไห้แฮะ
“คราวหลังไม่ไหวก็บอกกูนะ ฮึก ..” เสียงสะอื้นพร้อมความแฉะที่ไหล่ทำผมรู้สึกผิดหนักกว่าเก่า แต่ก็ดีใจที่มันเป็นห่วง
“อืม ไม่ร้องๆ ถ้าพี่กู้ยังไม่เลิกงอแงผมไม่สบายใจนะเนี่ย”
“ก็ กูกลัวมึงเป็นอะไรขึ้นมา” ร่างของคนที่นอนเกยอกผมกอดผมแน่นๆ เอาหัวถูไถกับอกผม จากอารมณ์ซึ้งมันจะมีอารมณ์อื่นเข้ามาแทนนี่สิ
“หงอยเป็นแมวเชียว ปกติดุอย่างกับหมา”
“ก็มันตามหน้าที่ กูอยากตะคอกตายล่ะเสียงแหบเสียงแห้ง”
“ผมเห็นพี่มันส์มากเลยนะน่ะ”
“ร้อนชิบหาย กูนึกว่าอยู่กลางซาฮาร่า แต่ทำไงได้กูไม่อยากให้พวกไอ้โตมากระทืบพวกมึงนี่หว่า”
“ใครครับ”
“ไอ้พี่ว๊ากปีสาม วันรวมรุ่นแม่งจะหาเรื่องกระทืบรุ่นน้องเป็นการรับน้องไง กูเลยต้องเข้มหน่อย”
“นอนพักสักครู่กับผมแล้วกันนะ พี่เครียดมากไปแล้ว” ผมลุกขึ้นเดินไปล็อคประตูห้องพยาบาล เดินไปปิดม่าน เหลือแต่ห้องที่สลัวๆกับ ผมและพี่กู้ที่นอนอยู่บนเตียง
“ป่วยอยู่ยังทำซ่านะ .. อื้อออ” ผมขึ้นคร่อมคนตัวเล็กประกบจูบลงไปบนปากบาง ที่เจ้าของยกแขนขึ้นโอบคอผมข้างหนึ้งอีกข้างก็ไล้ไปตามแก้มผม แล้วล้วงเข้าไปในเสื้อลูบไปทั้งหน้าท้องซิกแพค เลิกเสื้อผมขึ้นเอานิ้วบี้หัวนมผมแรงๆ
“ซี้ดดด … ซนนะครับ” ผมดึงเสื้อช็อปของพี่กู้ออกตามติดๆไปด้วยเสื้อสีขาวด้านใน ผมดันหลังพี่กู้ให้แอ่นตัวขึ้นแล้วก้มลงใช้ลิ้นเลียหยอกเย้าหัวนมสีชมพูที่เริ่มแข็งขัน
“อ้ะ .. มะ ไหม้ ..”
“สีสวยเชียว เห็นแล้วอยากดูดทุกวัน”
“ทะลึ่ง  อ้ะ  อ้า” ผมเลื่อนมือลงไปใต้กางเกงยีนต์กดย้ำผ่านเนื้อผ้าบางชั้นในที่กั้นระหว่างมือผมกับแก่นกายที่เริ่มแข็ง กดย้ำแรงๆบีบขยี้เบาๆในส่วนยอด ความชุ่มช้ำที่ชื้นผ่านเนื้อผ้าจนถึงมือผม
“เยิ้มแล้วนะครับ” พี่กู้เงยหน้าหอบแรงๆ ผมอดไม่ได้ที่จะจูบลงไปบนหากสีสดนั่น ผมลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและสะโพกของเขาแล้วดึงรั้งกางเกงยีนต์ออก เรียวขาขาวนวลนุ่มนิ่มเผยออกมาให้เห็น แต่คนๆนี้ก็ขี้อายเหลือเกินพยายามเอื้อมมือไปหยิบกางมาบังเรียวขา ผมรีบโยนกางเกงลงไปข้างเตียง พี่กู้ส่งสายตาตัดพ้อมาให้ผม เวลาอื่นผมคงรู้สึกผิด แต่เวลานี้ ขอผมเถอะนะครับที่รัก ผมรวบข้อมือบางไว้ในมือเดียว พี่กู้ตัวเล็กมากครับไม่ค่อยจะมีแรงเอาซะเลย ผมเลื่อนขอขึ้นทับขาพี่กู้ เอาล่ะติดบ่วงผมแล้วล่ะนะ ซอกคอขาวๆนั่นกลายเป็นจุดแรกที่ผมลงไปลิ้มลอง กลิ่นสบู่จางๆที่ผมซื้อ กลิ่นแชมพูบนผมนุ่มๆที่ผมซื้อ  ทำให้พี่กู้หอมและน่ากินเป็นที่สุด ผมจัดการกับตัวเองทันที ใช้นิ้วเกี่ยวชั้นในของคนด้านล่างแก่นกายที่แข็งขันของเราชูชันเสียดสีกันไปมา
“ซี้ดดดด ขอผมเข้าไปเลยได้มั้ย”
“ถะ .. ถามอะไร” พี่กู้เอียงหน้าหนีผมอายๆ ก็เล่นหน้าแดงขนาดนี้ไม่อายก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ผมชันเข่าของพี่กู้ขึ้นแต่ผมก็ทนไม่ไหวเมื่อเห็นช่องทางสีสดนั่น ผมขยับกระแทกแรงๆลงไปทันที
“โอ้ยยยยย ไหม้ ทะ ทำอะไร เจ็บ โอ้ย” น้ำตาของคนข้างล่างไหลพรากออกมาทันที
“ผมขอโทษนะพี่แต่ผมไม่ไหวแล้ว” มือของผมเริ่มรูดทำงานกับแก่นกายพี่กู้ทันที ซักพักช่องทางด้านหลังก็เริ่มผ่อนคลายลง ผมเริ่มจังหวะของตัวเองอีกครั้ง ส่วนตัวไม่ใช่คนหยาบกระด้างนะครับ แต่กับพี่กู้นี่อยากกระแทกแรงๆทุกทีสิ ดังนั้นแต่ละครั้งที่กระแทกลงไปผมจึงจัดเต็มไม่ยั้ง กระแทกกระทั้น ออกจนสุดเข้าจนสุด เตียงพยาบาลสั่นไหวรุนแรงดึง คึกคึกคึก เสียงครางดังลั่นของพี่กู้เป็นตัวปลุกอารมณ์ของผมให้ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก มือผมรัวเร็วตามจังหวะกระแทกกระทั้นจนเราสองคนปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน ผมล้มตัวลงนอนข้างๆคนตัวเล็กดึงเขาขึ้นมานอนเกยบนอก เสียงหอบเบาๆของพี่กู้ ทำผมอดยิ้มไม่ได้
“เฮ้ยไอ้ไหม้ พวกกูมาเยี่ยมแล้วววว” เสียงดังจากด้านนอกห้องพยาบาลขัดเวลาของเราจริงๆ พี่กู้รีบลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ทรุดลงลงกับพื้นข้างเตียงนั่นแหละ ทั้งคราบสีขุ่นไหลลงมาตามขาขาวๆที่เลอะพื้นเป็นที่เรียบร้อย บนเตียงนี่ก็อีก เรียกได้ว่าทุกสถานการณ์เป็นใจให้ชาวบ้านรู้ว่าทำอะไรกัน แต่หน้าพี่กู้ที่ดูเหมือนจะเครียดจัดทำให้ผมต้องรีบหาเสื้อผ้ามาให้พี่กู้ใส่ ที่แม้จะเดินไม่ไหวก็รีบปีนหน้าต่างห้องพยาบาลลงไป ดีที่อยู่ชั้น 1 ไม่งั้นตาย คราบบนเตียงผมจัดการโดยการกระตุกออกซับคราบที่เปื้อนตามพื้นโยนลงไปบนถังขยะทันที จัดการใส่เสื้อผ้า แกล้งงัวเงียไปเปิดประตูห้อง สามเกลอ เจ ฟี เอ็ม ก็พุ่งเข้ามากอดผมทันที
“กูนึกว่ามึงจะตายแล้วนะเนี่ย” ขอบคุณที่แช่งกูนะฟี
“ไอ้สัสบอกบางชิบหายตัวอย่างกับควายเสือกเป็นลม” เอ่อ แค่อารมณ์อยากกดเมียว่ะอาร์ม
“พี่กู้แม่งก็หายไปเลย มาเฝ้ามึงเปล่าวะ” ไอ้เอ็มมองซ้ายมองขวาไปมา
“เปล่าๆ” เขาไม่ได้มาเฝ้า แต่มาให้กูเอาต่างหาก ผมแอบยิ้มกับคำตอบของตัวเองในใจ มึงอย่าหวังจะได้เชยชมเมียกูเลยเพื่อน
“ป่ะๆพวกกูไปส่งบ้าน มึงไม่สบายอยู่เร็วๆ อย่าโอ้เอ้” พวกมันลากผมกลับไปด้วย ผมเหลือบมองไปที่หลังหน้าต่างที่มีคนสำคัญของผมนั่งหลบอยู่ และยิ่งเดินไม่ไหวแบบนั้นผมทิ้งเขาไปไม่ได้หรอก
“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวแม่กูมารับ กูโทรไปบอกแล้ว”
“อ้าวมึงอยู่หอไม่ใช่หรอ” สัสเจเสือกมาความจำดีเหิ้ยไรตอนนี้วะ
“แม่กูมาหากูพอดีไง เนี่ยเดี๋ยวก็มาแล้วพวกมึงกลับไปก่อนเลย”
“เออๆ พรุ่งนี้เจอกันเว่ย ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนนะ พวกกูเป็นห่วง”
“อืมๆ ขอบใจมากมึง” ผมโบกมือลาเพื่อนๆที่เดินออกจากตัวอาคารไป ขาผมก้าวยาวๆไปที่หน้าต่างทันที พี่กู้ตัวน้อยนั่งทรุดลงพิงกำแพง ตากลมโตมองผมเคืองๆ
“นึกว่าจะทิ้งกูแล้วไง พอได้กูแล้วก็ทิ้งกู” มีการสะบัดหน้างอนตุ้บป่องๆซะด้วย เดี๋ยวนี้พัฒนา
“จะทิ้งได้ยังไงครับ หัวใจผมนอนนิ่งแนบสนิทอยู่แทบเท้าคนตรงนี้นี่ ป่ะกลับหอเราดีกันดีกว่า” ผมช้อนตัวพี่กู้ชื่อโหดแต่บอบบางไว้ในอ้อมแขนเดินออกมาจากตึก แต่เมียผมคนนี้เขาขี้อายครับ รีบซุกหน้าลงกับอกผมไม่ใครเห็น สองแขนก็ยกขึ้นโอบคอผมแน่น
“อายหรอครับ”
“ก็เป็นใครใครก็อาย หรือมึงไม่อาย”
“ไม่อาย คนอื่นจะได้รู้ว่าเมียผมน่ารัก”
“ไอ้บ้า” เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังงุมงัมแผ่วเบา พี่กู้น่ารักใช่มั้ยล่ะ ตลอดทางที่จะถึงประตูโรงเรียนผมเดินยิ้มร่าสบตาสายตาสงสัยของชาวบ้านทุกคน ให้มันรู้กันไปว่ามีเจ้าของแล้วโว้ย แต่คนเรานี่ก็แปลกแค่คนอุ้มเมียจะมองอะไรนักหนาวะ ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าหอของตัวเองที่อยู่ถัดจากโรงเรียนไปสองซอย จัดการล้างเนื้อล้างตัวให้ภรรเมียสุดที่รัก แล้วเราก็หลับไปพร้อมกันเหมือนเดิม ..

Ver. M
     ผมวิ่งย้อนกลับมาที่ตึกเดิม โธ่เว่ยไม่น่าลืมชีทที่รุ่นพี่ฝากมาให้ไอ้ไหม้เลย เสียเวลาย้อนกลับมาชิบหาย ผมวิ่งด้วยความรวดเร็วไปที่หน้าตึก แต่เท้ากับต้องชะงักลงทันที ไอ้ไหม้ที่ปกติจะนิ่งๆ กว่าเพื่อนในกลุ่มกำลังเดินออกมาจากตึก ผมรีบหันหลบอยู่หลังต้นไม้ทันที
ไม่จริง .. ไอ้ไหม้กับพี่กู้ .. ออกมาจากห้องพยาบาล .. ไอ้ไหม้ไม่ใช่หรอที่ไม่สบาย แต่ทำไมต้องอุ้มพี่กู้ ..
“ก็เป็นใครใครก็อาย หรือมึงไม่อาย” เสียงของพี่กู้ที่ปกติจะแข็ง กระด้าง ห้าวๆตลอด กับอ่อนลงเหมือนจะตัดพ้อไอ้ไหม้
“ไม่อาย คนอื่นจะได้รู้ว่าเมียผมน่ารัก” เสียงของไอ้ไหม้ที่อ่อนลงก็ว่าน่าแปลกแล้ว แต่คำว่าเมียที่หลุดออกมาทำผมตัวชาสนิท คนสองคนนี้ไม่ได้แค่เพิ่งรู้จักกัน แต่สนิทสนมกันถึงกระทั่งสามารถใช้คำว่า ‘เมีย’ แล้วทำไมต้องปิดบังกันด้วย ผมเป็นตัวตลกหรือไง ถึงจะอ้างด้วยเหตุผลว่ากลัวพี่กู้อาย แต่กับเพื่อน ทำไมทำแบบนี้ ยิ่งผมประกาศตรงๆว่าจะจีบพี่กู้ นี่ไม่แอบไปขำกันสองคนแล้วหรอ ผมเดินตามหลังพวกเขาสองคนอยู่ห่างๆ จนกระทั่งมาถึงหอของไอ้ไหม้ หึ โกหกทั้งเพ บอกว่าแม่จะมารับแม่มึงชื่อกู้ภัยหรือไงแม่ลูกกันเขาไม่อุ้มกันแบบนี้หรอกโว้ย มือผมกำชีทที่จะเอามาให้มันแน่น อารมณ์โกรธพุ่งขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ ไม่ได้โกรธที่พี่กู้กับไอ้ไหม้เป็นแฟนกันเพราะไม่ได้ชอบพี่กู้ขนาดนั้นแต่ความรู้สึกเสียหน้าเหมือนโดนตบหน้าจนชาไปทั้งแถบต่างหากที่ทำผมแค้นอยู่ข้างใน
     วันนี้พี่กู้ไข้ขึ้นสูงสงสัยผมจะหนักไปหน่อย ผมตื่นแต่เช้าไปซื้อโจ๊กด้านล่างตึกมาป้อนคนป่วย ที่ตาปรือปรอย หน้าขาวๆแดงระเรื่อด้วยพิษไข้ แถมยังงอแงไม่ยอมให้เช็ดตัวอีกต่างหาก จนต้องใช้กำลังไปเล็กน้อยจับรวบข้อมือไว้แน่นๆ เช็ดไปตามเนื้อตามตัว ยอมรับว่าแอบภูมิใจเล็กๆที่เห็นรอยสีแดงแสดงความเป็นเจ้าของตามตัวของพี่กู้ ยิ่งตอนจับชันเข่าเช็ดช่องทางด้านหลังคนตัวเล็กก็อายแสนอาย เอียงหน้าหนีทันที หน้าแดงก่ำก็ยิ่งแดงเข้าไปอีก ถ้าไม่ติดว่าไม่สบายอยู่นะ เสร็จผมไปแล้วนะครับที่รัก ปิดท้ายการดูแลคนป่วยด้วยการหอมหน้าผากฟอดใหญ่ ผมก็เดินออกมาจากหอไปสู่โรงเรียนอาชีวะเดิมๆ กับการแหกปากร้องเพลงเดิมๆ วันนี้มันไม่น่าสนใจที่พี่ว๊ากกลายเป็นคนอื่น ไม่ใช่คนหน้าหวานๆของผม วันนี้ไอ้เอ็มมันแปลกๆไป มันมองผมแบบห่างเหิน บางทีก็ไม่พอใจ มันเป็นอะไรของมันวะ
“เฮ้ย ไหม้มึงไปทำไรไอ้เอ็มวะ แม่งเคืองมึงสัสอ่ะ”
“กูยังไม่รู้เลย กูก็ งงๆเนี่ย”
“เออๆลองคุยกันดู อย่าค้างคานะมึงเดี๋ยวมันจะนาน” ไอ้เจกับไอ้ฟีตบบ่าให้กำลังใจผม ตอนพักหลังกินข้าวที่บรรยากาศมาคุสุดตีนผมก็เดินไปขอเคลียกับไอ้เอ็ม เราเดินกันมาถึงหลังโรงเรียนโดยมีไอ้ฟีกับไอ้เจเดินตามมาห่างๆ พอถึงบริเวณลับตาคนมันก็หันมาผลักไหล่ผมแรงๆ
“มึงมีไรเหิ้ยไร”
“กูอยากเคลียกับมึง”
“กูไม่มีอะไรจะพูด”
“เฮ้ย ไอ้เหิ้ยมึงเป็นไรวะ มีไรไม่คุยตรงๆ”
“มึงนั่นแหล่ะ ที่ไม่คุยตรงๆไอ้สัสไหม้ มึงอย่ามาพูดดีเลย” มันชี้หน้าผม สายตาโกรธเกรี้ยวไม่พอใจ จนผม งง
“เฮ้ยไอ้เอ็มมึงใจเย็นๆดิ๊ เพื่อนกันนะเว่ย” ไอ้ฟีรับมาคั่นระหว่างผมสองคน
“ไอ้เหิ้ยมึงมีไรก็พูดไปเลย โตๆกันแล้ว” ไอ้เจอีกคนก็รีบพูดไกล่เกลี่ย
“เมื่อวานมึงจำได้มั้ยว่าไอ้ไหม้บอกมันจะกลับกับแม่” ผมนิ่งไปทันทีที่มันพูดเรื่องนี้ หรือว่า ..
“เออแล้วไงวะ แค่เรื่องนี้มึงงอนที่มันไม่กลับกับพวกเราหรือไง”
“ไม่ใช่ มึงรู้มั้ยว่ามันโกหก มันไม่ได้กลับกับแม่ มันกลับกับพี่กู้ แค่นั้นไม่พอมันออกมาจากห้องพยาบาลในสภาพที่พี่กู้เดินไม่ไหวจนมันต้องอุ้มกันออกมา มึงจะให้กูคิดว่ามันกับพี่กู้ไปทำอะไรกันในห้องพยาบาลนอกจากเรื่องอย่างว่า” ผมเงียบไปทันที  ไอ้ฟีกับไอ้เจหันหน้ามามองผม แต่ผมกลับหลบตาพวกมัน
“แต่ .. ก็ไอ้ไหม้มันอาจจะเป็นแฟนกับพี่กู้อยู่แล้วไง มึงใจเย็นดิเอ็ม”
“กูเคยพูดไว้แล้วใช่มั้ยว่ากูชอบพี่กู้ แล้วตอนนั้นทำไมมันไม่พูดว่ามันกับพี่กู้เป็นอะไรกัน ! มันจะให้กูหวังทำไม”
“ไอ้ไหม้ มึงทำเพื่ออะไรวะ” ไอ้ฟีถามผม สายตามันตัดพ้อเต็มที่
“กูว่ามึงมีเหตุผลนะ ไหนว่ามา .. ”
“พวกมึงคิดว่ากูไม่อยากพูดหรอ กูอยากจะตายห่าแล้ว เมียกูกูก็หวง แต่กูพูดไม่ได้มึงเข้าใจมั้ย เพราะพี่กู้ขอไว้ พี่กู้บอกอย่าบอกใคร พี่กู้เค้าอาย มึงเข้าใจปะ ว่าพี่กู้เค้าอายที่คบกับกู เค้าอายที่จะคบกับผู้ชาย เค้ารับสายตาคนอื่นไม่ได้ เค้าขอให้กูแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก เค้าขอให้กูทำเหมือนว่าเราเป็นคนอื่น พวกมึงคิดว่ากูชอบสภาพแบบนี้หรือไงล่ะ” หลังจากที่ผมได้ระบายบ้างคราวนี้พวกมันเป็นฝ่ายเงียบ แต่ไอ้เอ็มกลับจ้องผมตาวาว
“มึงคิดว่าพวกกูเป็นใคร ทำไมจะบอกเพื่อนไม่ได้  มึงเห็นพวกกูปากหมาชอบโพนทะนาหรอวะไอ้สัส มึงรู้มั้ยว่ากูรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกที่ให้มึงหลอก ขนาดกูบอกว่าชอบเมียมึงมึงยังไม่คิดจะบอกกูสักครั้ง กูโง่มากใช่มั้ย”
“ไอ้สัสก็กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างงี้ ไอ้เหิ้ยเอ้ยมึงจะเอาไงวะ”
“กูขอต่อยมึงล้างอายหน่อยเหอะ” ไอ้เอ็มกระโจนเข้ามาฟาดหมัดใส่ผมแรงๆ มีหรือจะยอม ผมก็ซัดกลับ พวกเราสองคนนัวเนียกันไปมา ไอ้ฟีกับไอ้เจก็ไม่ห้าม
“ต่อยกันให้ตายไปเลยพวกมึง เสร็จแล้วกลับมาดีกันด้วย ไอ้สัส ทำตัวเป็นเด็กงอนกันไปได้” เราฟาดหมัดใส่กันไปได้ซักพักจนเหนื่อย ผมกับมันล้มตัวลงนั่งจ้องหน้ากัน ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น นี่แหละเพื่อน ยังไงก็เป็นเพื่อน
“ลุกได้แล้วพวกมึง เคลียกันแล้วก็ไปรับน้องต่อ”
“เอออย่าช้า น่ะไม่ลุกอีก”
“กูลุกไม่ไหว” ผมบอกมันเพลียๆ
“กูด้วย”
“เฮ้อ ไอ้พวกเหิ้ยเอ้ย” ไอ้ฟีเดินขึ้นมาฉุดผมขึ้น กับไอ้เจที่เดินไปฉุดไอ้เอ็ม สุดท้ายผมกับไอ้เอ็มกันหันมากอดคอกัน เราสี่คนก็เดินกอดคอกันไปจนถึงแผนกโยธาอีกครั้ง แม้สภาพจะยับเยินแต่ก็สบายใจสุดๆ นี่แหละสุดยอดของคำว่าเพื่อนล่ะ

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
ตอนที่ สาม

ตอนเย็นผมรีบกลับหอทันที เป็นห่วงครับพี่กู้ไม่สบายไม่รู้ได้กินข้าวหรือเปล่า ทำไมห้องไม่ล็อค ?
“กลับมาแล้วครับ   … พี่กู้” ร่างของคนที่นอนอยู่บนเตียงหายไป รอบห้องมีร่องรอยการรื้อค้น ข้าวของกระจัดกระจาย มันเกิดอะไรขึ้น ผมรีบโทรหาพี่กู้ทันที
“ไง เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” เสียงคนที่รับโทรศัพท์กำลังหาเรื่องผม
“พี่กู้อยู่ไหน”
“หึ กำลังนอนครวญครางอยู่ข้างๆกูนี่ไง ไม่เชื่อก็ฟังดู” สักพักผมได้ยินเสียงพี่กู้จริงๆ
‘อย่า .. ปล่อยกูไป ไอ้โต มะ มึง ..’
“ไงล่ะ อึ้งอ่ะสิมึง จำไว้อย่าเสือกมายุ่งกับเด็กในสต็อกของกู” แล้วสายก็ตัดไป กราผมขบกันจนขึ้นสัน มึงจะมากไปแล้วบังอาจมาเอาพี่กู้กูไป แต่ไอ้โตมึงก็พลาดนะ .. โทรศัพท์พี่กู้กูเป็นคนซื้อให้ แล้วกูก็หวงพอจะเปิด GPS ผมรีบเช็คที่อยู่ของพี่กู้ทันที หึ โรงอ็อกเหล็กของโรงเรียน ผมกดโทรศัพท์อีกรอบโทรหาไอ้เอ็ม
“เอ็มมึงไปโรงอ็อกเหล็กกับกูหน่อย พี่กู้โดนฉุดฝากเรียกไอ้ฟีไอ้เจด้วยกูจะไปก่อน” เสร็จสิ้นการคุยขาผมก็วิ่งสุดชีวิต
รอก่อนนะพี่กู้ ..
รอไหม้ก่อนนะ ..
อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ ..
ผมวิ่งจนเหงื่อโชกไปทั้งตัว หยาดเหงื่อชุ่มฉ่ำด้วยความร้อน แต่มันไม่เท่ากับความร้อนที่อยู่ในใจตอนนี้หรอก
“เฮ้ยกูมาแล้ว” เสียงของไอ้เอ็ม ตามด้วยไอ้ฟี ไอ้เจ วิ่งตามกันมา พวกเรามาหยุดที่โรงอ็อกเหล็ก ผมถีบประตูเข้าไปทันที เจอผู้ชาย 3-4 คนยืนอยู่มุมหนึ่งกำลังล้อมอะไรซักอย่าง
“ไอ้สัส เอาเมียกูคืนมา” ผมกระโดดถีบพวกมันที่ยืนอยู่ แล้วเราก็ตะลุมบอนกัน แน่นอนว่าผมชนะ บ้านเป็นค่ายมวยครับ ส่วนไอ้เอ็มเคยถามมันมันก็เล่นคาราเต้ตั้งแต่เด็ก ไอ้ฟีไอ้เจก็เรียนยูโดมา จับทุ่มท่าเดียว ผมมองไปที่ผู้ชายตัวใหญ่ที่น่าจะชื่อโตกำลังพยายามหนีทั้งที่ยังใส่กางเกงไม่เสร็จ สภาพของพี่กู้ตอนนี้นอนสลบอยู่ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยแต่ที่แค้นที่สุดคือหยาดน้ำกามที่ไหลเลอะขาขาวๆ ตากลมโตที่ปิดอยู่ปรากฏรอยน้ำตา
“อย่าอยู่เลยมึง” ผมกระโจนเข้าไปกระทืบมันทั้งทีทั้งต่อย ทั้งเตะ เท่าที่มือสองมือตีนสองตีนจะทำได้
“เฮ้ยๆ ไอ้ไหม้หยุดก่อน เดี๋ยวมันตาย” ไอ้ฟีกับไอ้เจล็อคแขนผมดึงออกจากไอ้เลวระยำนั่น
“ไอ้สัสกูจะฆ่ามันนนนนนนน”
“เฮ้ยๆ มึงอย่าพึ่งดูเมียมึงก่อนเร็วๆ” ไอ้เอ็มจัดการกระทืบกล้องจนเละ เอาแผ่นซีดีข้างในหักทิ้งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผมพยายามควบคุมอารมณ์จับเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของพี่กู้ใส่ให้เรียบร้อย
“กูแจ้งตำรวจแล้ว เดี๋ยวถ้าเค้าจะให้มึงไปให้ปากคำยังไงเดี๋ยวกูโทรบอก พาพี่กู้กลับไปก่อนไป”
“เออๆ ขอบใจพวกมึงมาก”
ผมพาร่างของคนที่รักกลับหอด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็เช็ดตัว ตามใบหน้า ตามคอที่มันมีรอยจูบที่ไม่ใช่ของผมเพิ่มเข้ามา แขนมีรอยช้ำที่ถูกบีบ ไอ้สัสนั่นมันทำพี่กู้ได้ยังไง ผมยังไม่เคยใช้กำลังขัดขืน ช่องทางด้านหลังที่ช้ำอยู่แล้วจากผม ปริแตกมีเลือดไหลซิบออกมา ผมใช้ผ้าอุ่นชุบให้ หยิบยามาทาให้เรียบร้อย ตอนนี้พี่กู้สะอาดไปทั้งตัวแล้ว
“ฮึก .. มะ อย่า นะ ไหม้กู ด้วย … อยะ อย่า” เสียงละเมอที่มาพร้อมน้ำตาของคนตัวเล็ก ทำผมเจ็บใจที่สุด เวลาที่พี่กู้กำลังร้องไห้อยู่ เรียกให้ผมช่วย ผมกลับไปช่วยไม่ทัน ..
“พี่กู้ไม่เป็นไรนะครับ ผมอยู่นี่แล้ว อยู่ตรงนี้” ผมล้มตัวลงนอนรวบร่างบางมากอดไว้แน่นๆ น้ำตาของผมเริ่มคลอและไหลลงมาไปพร้อมๆกับพี่กู้
“ผมขอโทษนะพี่กู้ ..”
“ไหม้ …” เสียงคุ้นเคยที่ใกล้หูปลุกผมให้ตื่นเหมือนทุกๆวัน ผิดกับที่วันนี้คนปลุกกำลังร้องไห้
“พี่กู้ อย่าร้อง ..”
“ฮึก .. กูขอโทษ กูสปรก” ร่างบอบบางสะอื้นจนตัวสั่นเทิ้ม ผมกอดพี่กู้แนบอก ร้องไห้ไปพร้อมๆกัน
“ไม่ เลย พี่กู้ สะ .. อาด เสมอ ฮึก .. ฮืออ ผมขอโทษ .. ที่ไปช่วยไม่ทัน” เราร้องไห้ไปด้วยกันตลอดเช้า
“ตาบวมแล้วพี่กู้หยุดร้องเลยเป็นนกฮูกแล้วเนี่ย” ผมจิ้มเปลือกตาของคนตัวเล็ก ยิ้มเย้าแหย่
“มึงก็เหมือนกับกูนั่นแหละน่า ไอ้ตาโปนเอ้ย”
“โหย พี่กู้นั่นแหละตาปูด”
“ไอ้ไหม้ตาโปน”
“พี่กู้ตาปูด”
“ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง หวังว่าเรื่องเลวร้ายนี้จะถูกลืมเลือนไปสักวัน

ช่วงบ่ายไอ้เอ็มโทรมาบอกให้ไปสอบปากคำที่โรงพัก ผมก็อุ้มพี่กูเดินลงมาจากหอครับ พี่กู้เดินไม่ไหวแล้ว เรามาด้วยแทกซี่จนถึงโรงพักเจ้าหน้าที่พาเราไปสอบปากคำทีละคน จากนั้นก็พาเราไปที่ห้องประชุมห้องหนึ่งที่มีพวกไอ้เลวเมื่อวานนั่งอยู่กันครบ มี ผอ.โรงเรียน อาจาร์ปกครอง แล้วก็พวกเพื่อนๆผม และเพื่อนๆพี่กู้  ผมวางร่างพี่กู้บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง
“คุณตำรวจคะลูกชายฉันล่ะคะ” เสียงของผู้หญิงที่ผมคุ้นเคยคนหนึ่งนำพาร่างบอบบางที่เหมือนพี่กู้ไปซะทุกอย่างเข้ามาในห้องประชุม
“แม่ ..”
“กู้ กู้ลูกแม่ โธ่ ไม่เป็นไรนะลูก”
“แม่ ฮึก ..” ผมถอยหลังออกมาให้แม่ลูกปลอบใจกัน แล้วผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดินตามเข้ามา
“ไหม้ กู้มันโอเคมั้ย”
“ครับคุณลุง ขอโทษที่ผมไปช่วยพี่กู้ไม่ทัน”
“ไม่เป็นไรลุงรู้ว่าเราไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก”
     ผมกับทางบ้านพี่กู้สนิทกันครับ พ่อแม่พี่กู้และพ่อแม่ผมรู้ว่าเราคบกัน และสองครอบครัวก็เข้ากันได้ดีซะด้วย เจ้าหน้าที่เชิญให้พวกเรานั่งลง จากนั้นก็สรุปคดีไปตามเรื่องพวกไอ้โตก็โดนคดีกันไปตามระเบียบสาสมกับสิ่งที่พวกมันทำ พ่อแม่พวกมันที่ตามมาทีหลังก็ยินยอมให้ตำรวจจำคุก และไม่ยื่นประกันตัวเพราะรับพฤติกรรมความเลวของลูกตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างจบลงด้วยดี ผอ. ก็เลยจัดการติดกล้องวงจรเพิ่มในโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยไม่เว้นแม้แต่ในห้องพยาบาล

“เฮ้ยไหม้”
“ไรวะเอ็ม”
“สมหน้าอดสวีทเมียในห้องพยาบาล”
“ไอ้สัส !” ผมวิ่งไล่เตะไอ้เอ็มโดยมีไอ้เจกับไอ้ฟียืนเดินขำผมสองคน .. แต่ตอนนี้ผมคิดได้แล้วล่ะ ในเมื่อห้องพยาบาลมันไม่ปลอดภัย ไปทำในห้องน้ำแล้วกัน ! อาจจะลำบากไปบ้าง แต่เพื่อจะสวีทกับพี่กู้แล้ว ไหม้ทำได้ !! แต่ช่วงนี้คงต้องปลอบให้พี่กู้หายคิดมากก่อนล่ะนะ เฮ้อออ อดไปอีกนานเลยตู จะเฉาตายก่อนมั้ยวะ ?

----

ต่อไปในตอนที่ 4 และ 5 จะเป็นฉบับจริงนะคะที่ยังไม่ได้ลง

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :serius2:

ขนาดอ่านไปแล้วรอบนึงมาอ่านอีกยังรับมิได้ๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: เรื่องสั้นชุดŬ
«ตอบ #247 เมื่อ05-06-2011 15:54:32 »

ถึงจะเคยอ่านไปแล้ว มาอ่านอีกก็เครียดนะเนี่ย
ยังคงแอบเคืองคนเขียนมาทำร้ายตัวละครของเค้าทำไม? T_T
((กล้าพูดนะ ตัวละครของเค้า แหะๆๆ))

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
เฮ้อออ
ชีวิตแค่โดนทำร้าย
นอยด์อ่ะ

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ฉบับเต็มนี่อ่านเลื่อนกว่าฉบับแรกนะคะ ส่วนที่ีเหลือต้องติดตามตอนต่อไป เย้ๆ  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Rhythm

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nco1236

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4

ออฟไลน์ pupuzaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รอฉบับเต็มของพี่กู้ค่ะ^^

 :pig4: :pig4: :pig4::pig4: :pig4:

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
ลงเลยดีมั้ยนะ ดีมั้ยนะ ฮิฮิ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ตอนพี่กู้ภัยกับไฟไหม้ เป็นตอนที่อ่านแล้วปวดใจที่สุด

sakuri

  • บุคคลทั่วไป
ฉบับเต็มรออยู่นะคะ อิอิ

ออฟไลน์ tartar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

Badmiffy

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกก!! พี่กู้น่าสงสารจังเลย แงงงงงงงง~

ไอ้เลวโต ขอให้แกพินาศๆๆๆๆๆ

V

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:

อ่านตอนนี้กี่ครรั้งก็ยังทำให้จี๊ดได้ทุกครั้งจิงๆอ่ะ :m15:

จะรอตอนต่อไปนะค่ะ

ขอให้พี่กู้มีความสุขมากๆน้าาา :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
เฮ้อนะ คิดถึงตอนพี่กู้....แล้วเจ็บแปล็บๆทุกครั้งเลยจริงๆ  :เฮ้อ:
มารอ ร้อ รอ นะเจ้าคะ  :bye2:

yotaka

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทามไมต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ด้วย

เหมือนจะไม่อยากหายใจอีกแล้ว
 :m15: :m15:

ฟ้าหลังฝน  ย่อมดีกว่าเสมอเนอะ

ออฟไลน์ hikikomori

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-4
อิอิ มารอฉบับเต็มจ่ะ
แล้วแต่ศรัทธาผู้เขียนเลยอยากจะลงต่อเลยก็ได้นะ 555

พี่กู้น่าสงสารจังงง

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
สนุกจัง รอลุ้นฉบับเต็มนะ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojobuffy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-4

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
สภาพจิตใจของกู้จะเป็นยังไง ไหม้ต้องดูแลดีๆ นะ

fayala

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
ตอนที่ 4


3 ปีผ่านไป

      ในวันที่เหมือนเดิมเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ผมกำลังเดินไปที่ท่ารถแต่มือกลับหยิบไดอารี่ของตัวเองที่ไม่คิดว่าจะขยันเขียนมาด้วยซะงั้น ผมมองซ้ายมองขวาคนที่ผมรอก็ยังไม่มา ไหนๆก็เอาไดอารี่มาแล้วอ่านหน่อยแล้วกัน ผมตัดสินใจยืนพิงเสาร์ที่ใกล้ที่สุดแล้วเปิดไดอารี่เล่มเก่าที่ไม่ได้เปิดอ่านมานานแล้ว เหตุการณ์ในชีวิตที่ผ่านมามีทั้งตลกและเศร้าดราม่าอารมณ์เสียปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษเก่าๆบางเรื่องผมก็ลืมเลือนไปจนกระทั่งมันมาหยุดอยู่ที่หน้าหนึ่งที่เอ่ยถึงเหตุการณ์ที่ผมโดนข่มขืน ..  เป็นเหตุการณ์อันเลวร้ายนั่นที่ชีวิตนี้ผมคงไม่มีวันลืม จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ผ่านมาเกือบสามปีแล้ว ในตอนนี้ผมกำลังเรียนปริญญาตรีอยู่คณะวิศวะโยธาของมหาลัยแห่งหนึ่ง ที่เรียกว่าทุรกันดารไกลปืนเที่ยง บ้านนอกคอกนาก็ว่าได้ แถมยังเถื่อนโคตรเถื่อนของโคตรๆเถื่อน มีอิทธิพลมืดนำโดยไอ้เด็กสถาปัตย์กวนตีนชื่อไอ้เม่น ชาวบ้านเรียกมันเฮียเม่น คณะผมกับคณะมันก็ตีกันบ่อยเหลือเกิน จนผมยังรำคาญเอง เดินไปไหนนี่ต้องปิดๆชื่อคณะบนปกหนังสือเดี๋ยวโดนหางเลขไปด้วย คนดีๆมันก็มีเยอะ แต่พวกเถื่อนดันเยอะกว่า
“เฮ้ยมึงอ่ะ ไอ้ฟ่าโยธาอยู่ไหนมันกระทืบไอ้หมอของพวกกูอีกแล้วนะ” ไม่ต้องสงสัยเลยครับมันจะมีตีกันระหว่างสองคณะในบริเวณใกล้ๆกับที่ผมยืนอยู่อีกแล้วของสองพรรคการเมือง เอ้ย พรรคเถื่อนแดนประจิมนามสถาปัตย์ กับ พรรคมารแดนบูรพานามวิศวะโยธา
“หมอมึงอ่อนเองนี่สัส อยู่ดีๆเอาหน้ามันมารองมือรองตีนพวกกู”
“ไอ้เหิ้ยอย่าอยู่เลย” แล้วก็กระทืบกันอีกรอบ มีเรื่องกันจนอธิการมหาลัยยังต้องย้ายคณะแพทย์ไปเรียนในโรงบาลประจำจังหวัดซะงั้น ซวยจริงๆเลยผม ดันอยู่ใกล้ซะด้วยกลัวโดนหางเลขชะมัดไปหลบมุมดีกว่า แต่ยามก็มาไล่พวกนั้นไปซะก่อนผมเลยไม่ต้องหลบ เสียงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมรีบรับทันที
“ถึงไหนแล้ว”
“โหหห พี่กู้รับโทรศัพท์ผมช้าตั้งสองวินาทีอ้ะ นอกใจผมไปหาใครเนี่ยยย” ไอ้ไหม้คนเดิมนั่นเอง
“มั่วละมึง ช้าสองวิทำมาปากดี”
“ปากดีและอร่อยด้วยนะครับ ไม่เชื่อมาชิม มาม้ะ อ้ะ อ้ะ ม๊วฟๆ” มันส่งเสียงปัญญาอ่อนมาตามสาย อนาถใจอย่างรุนแรง แต่ทำไงได้ก็รักไปแล้ว เราคุยกันอีกสักพักมันก็บอกใกล้ถึงแล้วก็วางสายไป แม้เดือนหนึ่งจะได้เจอกันครั้งเดียวแต่ผมก็คิดว่าผมรักมันเหมือนเดิม และผมก็คิดว่ามันก็เหมือนกันล่ะน่า ในท่ารถมีทีวีติดอยู่ตามกำแพงไปทั่วและมันกำลังฉายข่าวรอบเย็นพอดี ผมฟังข่าวไปเรื่อยๆจนมาหยุดที่คดีข่มขืนผู้หญิงมหาลัย .. คดีพวกนี้ทำผมรับไม่ได้ทุกครั้ง มันทำให้นึกถึงตัวเอง .. ผมไม่น่าเลย ไม่น่าพลาดเลย รอยตำหนิที่แปดเปื้อนอาจจะหมดไปจากตัวแต่ไม่อาจจะหมดไปจากใจ มันเหมือนเป็นแผลที่ไม่มีวันหายของผม
ไอ้โต .. หรือ พี่โตในตอนนั้นมันเป็นพี่รหัสผม ..
และยิ่งผมเข้ามา ปวช. ปีแรก อะไรๆก็ต้องพึ่งรุ่นพี่ตลอด ก็ได้ไอ้พี่โตนี่แหละช่วย แม้มันจะกร่างทะเลาะต่อยตีกับชาวบ้านไปทั่วแต่กับผมมันก็ดี แต่ชาวบ้านชาวเมืองเขาไม่มีใครชอบพี่โตเลย ข่าวแว่วมาว่ามันเล่นยาบ้าง นั่นนี่นู่น แต่ผมก็ไม่เชื่อ เพื่อนๆก็มาเตือนว่าอย่าไว้ใจมาก แต่ผมก็คิดว่าเขาเป็นพี่ที่ดีคนหนึ่งเลยนะ .. แต่สายตาพี่เขาที่มองผมมันเริ่มเปลี่ยนไปจนผมรู้สึกได้ แต่ผมก็ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกนั่น เพราะผมมีไอ้ไหม้แล้ว ผมเคยเล่าเรื่องไอ้ไหม้ให้พี่โตฟังอยู่หลายครั้ง ทั้งรูปคู่ ของขวัญวันเกิดที่ไอ้ไหม้ให้ ผมแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่โตเกินคำว่าพี่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจ  หรือเข้าใจแต่ทำเป็นไม่รับรู้
       วันหนึ่งในขณะที่ผมเดินอยู่กับเพื่อนสมัยมัธยมต้นในศูนย์การค้าแล้วเจอพวกพี่โต มันก็ยกพวกกระทืบเพื่อนผมทันทีเพียงเพราะคิดว่าเป็นไอ้ไหม้ แม้แต่เพื่อนต่างแผนกที่พี่แกไม่รู้จักก็กระทืบไปทั่ว จนผมเริ่มขยาด ความเลวร้ายที่ผมเคยได้ยินมากำลังจะปรากฏตรงหน้าผม พร้อมกันที่หลายๆคนเริ่มมองผมเป็น ‘เด็กพี่โต’
     วันหนึ่งพี่โตกระชากผมไปที่คอนโดของเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่ง จับผมนั่งลงข้างๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร .. เพื่อนเขาเริ่มมากันเยอะขึ้นๆ จากนั้นสิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็เริ่มขึ้น พวกเขาเริ่มสูบฝิ่น .. พ่นควันสีขาวออกมาจากปาก ใบหน้าเริ่มเคลิบเคลิ้ม หนึ่งในนั่นเอาหลอดฉีดยาที่มีสารบางอย่างฉีดเข้าที่แขน บางคนเริ่มหัวเราะ บางคนเคลิ้มๆเหมือนจะหลับ ผมนั่งตัวลีบอยู่มุมโซฟา พยายามทำเป็นไม่สนใจ จนเกือบรุ่งเช้าที่พวกเขาพากันหลับหมดผมรีบพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นทันที และหลีกเลี่ยงที่จะเจอพี่โตมาตลอด พยายามอยู่ในกลุ่มเพื่อน ย้ายไปนอนหอเพื่อน ทุกรูปแบบ แม้ตอนประชุมแผนกโยธาผมก็รีบๆเดินหนีตอนประชุมเสร็จ และในวันหนึ่งพี่เขาก็เลิกยุ่งกับผม ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือต่อไปนี้เราไม่รู้จักกัน .. แต่ผมรู้ว่าเขามองผมตลอดเพราะไม่ว่าผมจะไปที่ไหนต้องได้เห็นพวกเพื่อนเขาที่พยายามมองมา แต่ก็แค่มอง ..
     จนวันหนึ่งไอ้ไหม้โทรมาว่ามันสอบติดที่นี่ .. ลางร้ายเริ่มมาเยือน แม้จะดีใจที่จะได้เรียนด้วยกันแต่ผมก็ตัดใจบอกไอ้ไหม้ไปว่าอย่าทำเป็นรู้จักกัน เพราะผมอายที่จะบอกเพื่อนว่าคบผู้ชาย ตอนนั้นเราทะเลาะกันใหญ่โตผมเลยบอกว่างั้นนอนห้องเดียวกัน หอเดียวกัน เป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งนั่นก็โอเค .. แต่สุดท้ายเรื่องมันก็เกิดขึ้น พวกไอ้โตรู้จนได้ .. และรู้ไวซะด้วย ผมไม่น่าประมาทให้ไอ้ไหม้อุ้มกลับหอวันนั้นเลยจริงๆ .. คนที่เสียใจที่สุดกลายเป็นผม .. แต่ไอ้ไหม้ก็คงไม่แพ้กัน .. ไหนจะพ่อกับแม่ ..ผมกลัวมากว่าจะไม่มีใครรับได้ .. แต่ผม … มองคนไม่ผิด ไอ้ไหม้ร้องไห้ไปกับผม กอดปลอบผม .. และอยู่ข้างๆผมไม่เคยไปไหน
คู่เราอาจจะไม่ได้หวานปานมดขึ้นน้ำตาล อาจจะไม่ได้ดูแลเทคแคร์กันเหมือนคู่อื่น แต่สิ่งที่ผมมั่นใจก็คือ .. เราได้ผ่านพ้นคำว่าคู่รักมาแล้ว .. ตอนนี้มันคงเป็นคำว่า

‘คู่ชีวิต’

  ผมจมอยู่ในความคิดตัวเองไปเรื่อยๆ ก่อนสายตาจะไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนหนึ่ง รอยยิ้มของผมที่เป็นของเขากำลังทำหน้าที่ต้อนรับเขาอย่างดี
 “พี่กู้ไหม้มาหาแว้ววววววว” เสียงที่ผมคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมผู้ชายมาดเซอร์ที่ผมยาวระต้นคอวิ่งกระหืดกระหอบลงจากรถประจำทางวิ่งแบกกระเป๋าเก่าๆมาทางผม รอยยิ้มสดใสกับลักยิ้มบนมุมปากของเขายังคงประดับอยู่เช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป
“เป็นไงบ้าง”
“สวดๆเลยทริปนี้ อาม่านั่งข้างๆชวนผมคุยเรื่องเพลงลูกทุ่งเก่าๆกึ้กๆ ผมงี้งงเลยอ่ะ ขนาดว่าฟังลูกทุ่งมาบ้างนะยังเอาซะหัวหมุนติ้วแข่งกับโยโย่เลย”
“เวอร์ละๆ”
“โหยจริงๆนะเนี่ย แถมอาม่าแกยังโชว์โอเปร่าลูกกรุงอีก คนหันมามองกันทั้งรถ คิดถึงเสียงหวานๆของพี่กู้จะตายอยู่แล้วคร้าบบบ” ไอ้ไหม้วางกระเป๋าลงกระโดดกอดผมแรงๆ อ้อมกอดของไหม้ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมผมก็กอดตอบมันแน่นๆ
“คิดถึงนะครับพี่กู้”
“คิดถึงมึงเหมือนกันนะ” เรากอดกันสักพักแล้วมันก็ผละออก ทำสีหน้าสงสัยมาทางผม
“เดี๋ยวนี้ใส่แว่นแล้วหรอ สายตาไม่ได้สั้นนี่หว่า” ไอ้ไหม้ดึงแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมอันใหญ่ของผมไปลองใส่ แหมมาอยู่ดงเถื่อนแบบผมก็ต้องแกล้งเนิร์ดหน่อยสิครับ หน้ากวนประสาทมีแววโดนกระทืบซะขนาดนี้
“อ่อ กูอยากให้ดูเด็กเรียนนิดหน่อย”
“โหย แฟนใครว้าขยันจริง จบไปทำงานหาเลี้ยงผมด้วยนะครับ จุ้บๆ” ไอ้ไหม้ทำหน้าอ้อนๆที่ไม่เข้ากับหน้าคมๆของมันเลยสักนิด เฮ้อมีแฟนเด็กก็ต้องทำใจกับเรื่องแบบนี้ใช่มั้ย ?
“ป่ะๆ ไปเหอะ หออยู่ข้างๆมหาลัยนี่เอง”
“คร้าบบบบบ” เราสองคนเดินคู่กันมาตามถนนเลียบมหาลัย แต่ไม่กล้าจับมือกันครับ คนกรุงเทพอาจจะชินเรื่องรักระหว่างเพศเดียวกันแต่ต่างจังหวัดบางครั้งก็ยังคงมองเป็นเรื่องแปลกประหลาดอยู่ เราเลยเลือกที่จะเดินช้าๆเอื่อยๆกันมากกว่า
“เฮ้ย ไอ้สัสโยธา มึงอ่ะๆ กูเรียกมึง” เสียงหาเรื่องที่แสนคุ้นเคยสำหรับชาวคณะผม ไอ้เฮียเม่นนั่นเอง
“เอ่อ เราหรอ”
“เออมึงอ่ะ กูจะถามว่า .. เฮ้ย ไอ้สัสไหม้”
“เฮ้ย พี่เม่น !!” เฮียเม่นเถื่อนระดับเทพกับไอ้ไหม้ดันรู้จักกัน !
“มาได้ไงวะเนี่ย”
“มาหาเมียไงพี่ นี่ไงที่ผมบอกว่าแฟนผม พี่กู้ๆนี่พี่เม่นพี่ชายผม”
“หะ ? พี่ชาย” เอาแล้วไง งานจะมามั้ยวะ
“เยสเซอร์ ! ก็ที่เคยบอกมีพี่ชายคนนึงไง พ่อกับแม่หย่ากัน ผมอยู่กับแม่พี่เม่นอยู่กับพ่อ”
“อ่า เอ่อ … สวัสดี”
“เฮ้ย แฟนน้องกูอยู่โยธาหรอวะ แต่ไม่คุ้นหน้ามึงว่ะ”
“เอ่อ เราไม่ค่อยมีเรื่องน่ะ”
“โหย อย่าไปเชื่อ พี่กู้นี่แหละตัวเอ้ แต่แอ๊บเด็กเรียน”  อื้อหือไอ้สัสไหม้มึงเป็นแฟนที่ดีมาก หางานให้กูอีกละ
“เออๆ แค่ไม่ใช่พวกไอ้ฟ่ากูก็เฉยๆละ เอาเป็นว่าพวกกูจะดูแลมึงเป็นพิเศษนะน้องสะใภ้ หึหึ” เสียงหัวเราะพร้อมรอยยิ้มแสยะทำผมรู้สึกเสียวแปลกๆ
“แล้วพี่เรียกแฟนผมมีไรอ่ะ”
“กูแค่จะถามว่าพวกไอ้ฟ่าลากไอ้หมอกูไปกระทืบอีกเปล่า หมอกูหายอีกละ ไอ้สัสพวกนี้แม่งชอบยุ่งหมอกูจริง” อืม .. ที่เขาหมายถึงคงจะเป็นหมอหนึ่งเดียวในดงมารที่พวกโยธาชอบกระซิบกระซาบคุยกัน น่าสงสารไอ้หมอคนนั้นจริงๆ
“เอ่อ ไม่เห็นหรอก เราไม่ค่อยได้สนใจพวกไอ้ฟ่าอ่ะ”
“เออๆ แล้วนี่มึงนอนไหนวะเม่น”
“นอนกับเมียดิ แล้วพี่อ่ะ”
“นอนคนเดียวๆ มาอยู่หอไง”
“บ้านอยู่กรุงเทพไหงมาเอนท์นี่วะ”
“กูขี้เกียจสอนดาบแทนพ่อไง แต่อยู่นี่ดันได้ใช้มีเรื่อง แล้วเมียมึงนี่ก็มาไกลเนอะ ไหนตอนแรกบอกกูเรียนกรุงเทพ” เอาแล้วไง พวกมึงคุยกันประสาพี่น้องไม่ได้หรอวะ เสือกเรื่องกูทำไมเนี่ย
“อ่อ เราเรียนไม่เก่งน่ะ เลยมาเอนท์ติดไกล”
“เออๆ กูไปละ ไว้เจอกันเว่ย ไว้กูพาไปแดกข้าวนะไหม้ไปละ ไปหาไอ้หมอก่อน”
“เออๆบาย” ฟู่ววว รอดตัวนึกว่าจะโดนมันกระทืบซะแล้ว
“ที่นี่พี่เม่นแกดุหรอ ไมพี่กู้ทำหน้ากลัวๆมันแบบนั้นอ่ะ”
“เอ่อ .. ก็นิดหน่อยล่ะมั้ง” ไอ้นี่มันไม่ได้รับรู้เลยหรือไงวะว่าพี่มึงนี่แหละมาเฟียทำสถาบันดำมืดมนหม่นหมองชิบหาย
“งี้แหละ จริงๆขี้อ้อนนะตอนเด็กๆผมยังโดนอ้อนประจำทั้งๆที่เป็นน้อง แต่พ่อเปิดสำนักสอนฟันดาบไงเลยโหดหน่อย ผมยังเรียนมาเลยนะเนี่ย” มิน่าล่ะมึงถึงมีเรื่องกับอาชีวะข้างเคียงบ่อยแท้
“อืม” อื้อหือขนาดโหดหน่อยมันยังดำทะมึนขนาดนี้มันโหดมากไม่ยึดมหาลัยเลยหรอวะ
“ป่ะๆเลิกคุยเรื่องคนอื่น ไปสวีทกันดีกว่า” มันลากผมขึ้นหอทันทีที่เดินมาถึง ไม่น่าเล่าให้มันฟังเลยว่าห้องไหนเนี่ย สุดท้ายผมก็เลยต้องเหนื่อยแทบตายอยู่ในอ้อมกอดมันตั้งแต่หัววัน ! หลังจากนั้นสองวันไอ้ไหม้ก็กลับกรุงเทพไป แต่กว่าจะกลับไปได้ต้องให้แม่โทรมาตาม และผมกับไอ้เม่นที่มันก็นิสัยเฮฮาดีกว่าที่คิดช่วยกันถีบส่งผลักไสสุดแรงตีน หลังจากที่ผมไปส่งมันขึ้นรถแล้วก็กลับมาที่หอโทรมๆของตัวเองที่ดูเงียบเหงาลงทันที แต่บางอย่างกับสะดุดตาผม ซีดีแผ่นหนึ่งถูกวางอยู่บนเตียง ซีดีเปล่าๆที่มีข้อความเขียนแค่ว่า ‘จากไหม้’ ผมรีบเปิดโน้ตบุคของตัวเองแล้วใส่แผ่นเข้าไป และแล้วความลับที่อยู่ในซีดีก็ทำผมน้ำตาคลอ ภาพผู้ชายคนหนึ่งที่ผมคุ้นเคยยิ้มเขินๆให้กล้องพร้อมกับกีต้าร์โปร่งในมือก่อนจะเริ่มลีดกีต้าร์

คนเคยเหงา เคยรู้สึกเหว่ว้า
เคยมองหาความรักนั้นมันอยู่ที่ใด
โลกใบใหญ่เหลือเกิน
มีผู้คนอยู่มากมาย
แต่หัวใจมันกลับเหงาขึ้นทุกที
แต่เมื่อฉันได้พบกับเธอ
สิ่งที่เธอให้ฉันไม่รู้มันคืออะไร
โลกใบใหญ่ใบเดิม
กลับไม่เคยต้องเหงาใจ
แค่ฉันนั้นยังมีเธออยู่ตรงนี้

เธอเป็นมากกว่ารัก
เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต
ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา
และรอคอยเธอมาแสนนาน
และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง
ที่เติมเต็มหัวใจ
จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ

‘พี่กู้ครับ ไหม้ก็อาจจะไม่ได้เป็นคนโรแมนติก ไม่ได้หล่อ ไม่ได้รวย ออกจะโง่ๆบื้อๆ เอ๋อๆไปบ้าง แต่ไหม้ก็อยากทำอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้ตัวเองดีขึ้น อยากเป็นแฟนที่พี่กู้ภูมิใจ อยากเป็นที่ปรึกษา อยากเป็นหลายๆอย่าง ในตอนนี้ไหม้อาจจะดีไม่พอ แต่ไหม้จะพยายาม และไหม้ก็คิดว่าไหม้อยากเป็นเหมือนในเพลงที่ไหม้ร้องเมื่อกี๊ ไหม้อยากเป็น คู่ชีวิต ของพี่กู้ครับ เขินว่ะ ฮ่าๆๆๆ กำลังขำอยู่ปะเนี่ยยยย เขินๆๆ’
และภาพก็ตัดไป .. มือผมรีบคว้าโทรศัพท์กดเบอร์ที่คุ้นเคย ที่ผมเมมชื่อไว้มานานหลายปีแล้ว

‘Calling to My Soulmate’


----

บังเอิญกะผิด นึกว่าจะได้ห้าตอน อิอิ ตอนต่อไป จะลง  เม่น-จ๋าย นะคะ ><

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด