ตอนที่ 2 คู่ปรับ
เนไรว่า โปรดักชั่น
ตัวอักษรขนาดใหญ่หน้าตึกสูงใหญ่ระฟ้า เพื่อบอกชื่อของบริษัทผู้เป็นเจ้าของมัน เนไรว่า โปรดักชั่น เป็นบริษัทนายวุฒิพลเจ้าพ่อแห่งวงการบันเทิง ไม่มีเรื่องใดในวงการจะลอดพ้นสายตาเขาไปได้ ทำให้ค่ายเล็ก ๆ ต่างไม่อยากมีเรื่องด้วย เพราะกิจการที่มีอยู่ทั้งหมดอาจถูกทำลายลงได้เพียงชั่วข้ามคืน ด้วยอำนาจและอิทธิพลของนายวุฒิพล
ปลายฟ้าถูกสั่งให้เขามาที่บริษัทแต่เช้า เพื่อถ่ายแบบคู่กับนักแสดงหนุ่มอีกคน เพราะปลายฟ้าติดงานแถลงข่าวของหม่อมเอียดในช่วงบ่าย ทำให้ต้องเสริมตารางงานเพิ่มขึ้นมา ส่วนคนที่ถ่ายแบบคู่เขาก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ทางบริษัทไม่ได้บอกมา ความสงสัยถึงจะมีอยู่แต่ก็ไม่เป็นผลต่อเขา เพราะงานก็คืองานถึงจะถ่ายคู่กับใคร เขาก็ต้องทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดอยู่แล้ว
ห้องสตูดิโอขนาดใหญ่ที่ชั้น 10 ถูกจัดตกแต่งไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ขาดเพียงนายแบบที่ยังเดินทางมาไม่ถึงเท่านั้น
“สวัสดีครับพี่เพชร พี่โอ ลำบากต้องตื่นแต่เช้าเพราะผมเลยนะครับ”
ปลายฟ้ายกมือไหว้ทักทายช่างภาพกับฝ่ายกราฟฟิคที่มาเซ็ตสถานที่รออยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกครับปลายฟ้า ปลายฟ้าต่างหากที่ลำบากต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่เช้า”
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็ไม่เหนื่อยเท่าพวกพี่หรอกมั้ง ผมซื้อขนมกับกาแฟมาฝาก เดี๋ยวพี่สายลมคงตามเอามาให้นะครับ ผมขอตัวไปแต่งหน้าก่อนดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลาพวกพี่ ๆ” ปลายฟ้ายิ้มอย่างสดใสให้ทั้งสองคน
ระหว่างทางปลายฟ้าเดินทักทีมงานเกือบทุกคน เพราะส่วนมากเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว จากการร่วมงานกันบ่อย ๆ
สายลมตามหลังเข้ามาพร้อมกับหิ้วตะกร้าที่มีแก้วกาแฟร้อนอัดอยู่จนเต็ม ขนมปังหลากหลายชนิดถูกหิ้วใส่ถุงอยู่อีกข้าง
“พี่เพชรพี่โอกาแฟกับขนมครับ”
สายลมหยิบกาแฟกับขนมส่งให้ทั้งสองคนที่กำลังคุยเรื่องงานอยู่ ก่อนที่จะเรียกทีมงานคนอื่น ๆ มากิน
“สายลมพี่ว่าเอ็งโชคดีว่ะที่ได้ดูแลปลายฟ้า เด็กอะไรหน้าตาดีไม่พอนิสัยยังดีมากอีกด้วย ขนาดดังแบบนี้ยังไม่จุกจิกเรื่องมากให้เห็นเลย” เพชรตากล้องมืออันดับต้น ๆ ของบริษัทเอยชมปลายฟ้าอย่างพอใจ
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่เพชร” สายลมยิ้มอย่างภูมิใจกับภาพลักษณ์ของปลายฟ้าในสายตาคนอื่น
“แต่ว่าวันนี้ปลายฟ้าต้องถ่ายแบบกับใครครับพี่ ไม่มีใครบอกผมเลยตอนโทรมาสั่งเมื่อวานนี้”
“อ๋อ!! ก็ถ่ายกับไนท์ วริศรินทร์ สายลมก็พอจะรู้จักไม่ใช่เหรอ”
“ครับ ครับ รู้จักครับ”
คำบอกของเพชรทำเอาสายลมถึงกับแปลกใจ ไนท์เป็นนักแสดงคิวบู๊ที่มีชื่อเสียงพอสมควร แต่ด้วยบุคลิกที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ทำให้งานของเขาน้อยตามไปด้วย ถึงหน้าตาจะดูหล่อเหลาพอใช้ได้ แต่ถ้าเทียบกับปลายฟ้าก็ถือว่ายังห่างชั้น แถมการทำให้เขายิ้มให้ได้นั้นยากยิ่งกว่าสิ่งใด
ขณะที่กำลังคิดเรื่องไนท์อยู่ชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งเดินเข้ามา สายลมหันไปมองชายหนุ่มผู้มีใบหน้าราบเรียบนั้น แต่เขาก็ยังสังเกตเห็นบางอย่างในแววตาของเด็กคนนี้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกแตกต่างจากปลายฟ้า
“ไนท์มาทางนี้เลยค่ะ” ช่างแต่งหน้าตะโกนเรียกเมื่อมองเห็นนายแบบมาถึงแล้ว
ไนท์เดินผ่านทุกคนเข้าไปด้านในโดยแค่หันมองหน้าเท่านั้น
“นิสัยไม่เปลี่ยนเลย ไม่รู้ท่านประธานนึกยังไงให้มาถ่ายแบบคู่กับปลายฟ้า” โอฝ่ายกราฟฟิคกระซิบคุยกับเพชร
“คงต้องการให้ความสดใสของปลายฟ้าช่วยดึงไนท์ขึ้นมาล่ะมั้ง” เพชรตอบก่อนเดินไปตรวจอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับถ่ายรูป
“อ่าวไนท์นายเองเหรอ ผมก็นึกว่าให่มาถ่ายแบบคู่กับใครเสียอีก” ปลายฟ้ายิ้มอย่างสดใสให้เพื่อนนายแบบ
..........
ไนท์ไม่ตอบ ทำเพียงหันมามองหน้าคนที่ทักตัวเองก่อนเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ว่างเพื่อแต่งหน้า
ปลายฟ้ากับไนท์ถือว่าเป็นนักแสดงที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกัน และเข้ามาอยู่ที่บริษัทนี้ใกล้ ๆ กัน และเคยร่วมงานกันมาบ้างประปราย ทั้งสองคนเหมือนเป็นขั้วต่างกันของบริษัท คนหนึ่งสดใสร่างเริ่งเป็นที่รู้จักของทุกคน กับอีกคนเก็บตัวเงียบขรึมแทบจะไม่คุยกับใครเลย
“นายนี่ยังเหมือนเดิมเลยนะไนท์ ไม่คุยกับคนอื่นถ้าไม่จำเป็น” ปลายฟ้ายิ้มให้ฝ่ายตรงข้ามแม่จะไม่ได้รับการตอบรับกลับมาก็ตาม
“น้องปลายฟ้านี่ดีนะค่ะกล้าทักกับน้องไนท์ด้วย เป็นพี่ไม่กล้าหรอกกลัวเขาไม่ทักตอบหน้าแตกแย่เลย” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองจีบปากพูดเบา ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็ผมรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนยังไง แต่พี่เจอเขาบ่อย ๆ ก็ชวนเขาคุยเยอะสิครับ ไนท์เขาก็คงอยากมีเพื่อนคุยเหมือนกัน แต่เขาคงทำตัวไม่ถูกไงครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้คนที่พูดด้วยอย่างสดใส จนฝ่ายที่เห็นอดเขินขึ้นมาไม่ได้
“น้องปลายฟ้านี่ช่างใจดีเหลือเกินนะค่ะ อ่ะ เสร็จแล้วค่ะเดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดนะค่ะจะได้เริ่มถ่ายได้เลย ช่วงบ่ายมีงานแถลงข่าวต่อนี่นา”
“ครับ ขอบคุณมากครับ” รอยยิ้มไม่เคยเลือนหายไปจากใบหน้าของปลายฟ้าเลยแม้แต่น้อย
การถ่ายแบบเป็นไปอย่างราบรื่น ไนท์ก็ไม่ได้ทำให้การทำงานของปลายฟ้าล่าช้าแต่อย่างใด
“ไนท์ถ่ายแบบออกมาดูดีมากเลยนะ” ปลายฟ้าชมขณะกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากงานเสร็จ
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเหมือนเดิม ไนท์เพียงหันมามองหน้านิดหน่อยก่อนเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวกลับคืน
ปลายฟ้าออกมาก่อนเพราะว่ามีงานแถลงข่าวรออยู่ ปลายฟ้าทักทายพูดคุยกับประธานบริษัทเล็กน้อย เหมือนท่านจะแนะนำใครบางคนให้รู้จัก แต่เขาก็ไม่มีเวลามากพอจึงขอตัวออกมาก่อน
ปึ้ง!!
“แม่ง หยิ่งฉิบหายเลย พูดด้วยไม่คิดจะตอบสักคำ มันคิดว่าบ้านมันรวยมาจากไหนกัน”
ปลายฟ้าเตะเบาะรถด้านหน้าอย่างไม่พอใจเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถตู้ส่วนตัว
“ใจเย็น ๆ สิฟ้า ฟ้าก็รู้นี่ว่าไนท์มันเป็นเด็กมีปัญหา อย่าไปถือสาเลย” สายลมรู้อยู่แล้วว่าต้องมีเหตุแบบนี้
“แต่พี่สายลมคิดดูสิครับ ผมพูดด้วยตั้งเยอะ จะตอบผมสักครั้งยังไม่มีเลย คนอื่นไม่มองผมเป็นตัวตลกแย่แล้วเหรอป่านนี้” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่พอใจอยู่มาก
“ไม่หรอกครับ ดีแล้วแบบนี้คนอื่นเขาคิดว่าฟ้าใจกว้างเข้าใจคนแบบไนท์ได้ไงครับ”
“ผมนะหรอเข้าใจ ตอนนี้แค่นึกถึงหน้ามันผมก็โมโหแล้ว”
“เอาน่าฟ้า ฟ้าต้องทำใจให้ได้นะครับ เพราะอีกหน่อยต้องร่วมงานกันอีกเยอะ”
คำพูดของสายลมทำเอาปลายฟ้าแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ได้ถามต่อเพราะว่ายังไม่อยากรู้รายละเอียดตอนนี้
ตรืดดดดดดด ตรืดดดดดด
โทรศัพท์มือถือส่วนตัวของปลายฟ้าสั่นขณะกำลังนั่งหลับตาสงบสติอารมณ์อยู่ ปลายฟ้าหยิบขึ้นมาดูก่อนยิ้มออกมาพร้อมกดรับสาย
“ฮัลโหล พี่ก้องมีอะไรหรือเปล่าครับ โทรมาแต่เช้าเลย” ปลายฟ้าปรับเสียงปรับอารมณ์ทันที
“เช้าที่ไหนใกล้เที่ยงแล้ว ถ่ายแบบเช้าเป็นยังไงบ้างครับเหนื่อยไหม” เสียงถามไถ่ด้วยความห่วงใยทำให้ปลายฟ้าอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“ก็เรียบร้อยดีครับ ว่าแต่พี่เถอะ ที่กองถ่ายเป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ พี่ห่วงแต่ปลายฟ้านั่นแหละ เดี๋ยวมีแถลงข่าวหนังหม่อมเอียดอีกไม่ใช่หรือครับ”
“ครับ กำลังเดินทางไปสักพักคงถึงแล้วครับ”
“งั้นตั้งใจให้เต็มที่นะครับ พี่เอาใจช่วย”
“ขอบคุณครับ พี่ก็ตั้งใจทำงานนะครับ”
“ครับ แค่นี้ก่อนนะพี่ต้องไปถ่ายต่อแล้ว เดี๋ยวพี่โทรหาใหม่”
“ครับ” ปลายฟ้าเริ่มมีรอยยิ้มกลับมาอีกครั้ง
การสนทนาของทั้งสองคนไม่พ้นการรับรู้ของสายลม ถึงเขาจะไม่เห็นด้วยกับการที่ทั้งสองคนคบกัน แต่มันก็ทำให้ปลายฟ้าพอจะมีความสุขขึ้นมาได้บ้างเขาก็เลยจำใจยอม แม่ว่าจะรู้สึกเจ็บในใจทุกครั้งที่ต้องอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้
========> โปรดติดตามตอนต่อไป