ตอนที่ 25 (ใกล้จบแล้วนะ อิอิ ><)
วันนี้ผมมาเรียนเป็นวันแรกครับ ต่างจากนักศึกษาคนอื่นที่แม่งเรียนกันเทอมสองละ ดีที่สาขาผมเรียนเน้นฝึกงานเลยชิว ไม่ค่อยมีปัญหามาตามพวกรายงานเฉยๆก็พอไหว แต่ที่ไม่ไหวคือผมฟังจารย์ไม่รู้เรื่องสักคำ
“Hay ! $#@#%%#%^ ???” เพื่อนร่วมห้องที่คงทนเห็นผมนั่งหน้าอึนไม่ไหวเลยเข้ามาทัก แต่ขอโทษกูฟังมึงไม่รู้เรื่องว่ะ
“Sorry . I can’t speak Japanese”
“really ? Don’t worry I can speak a few of English 55” few มันใช้แบบนี้หรอวะ เออผมแปลออกก็พอ แกรมม่าอย่าไปเอ่ยถึง !!
“It’s good for me so much . I’m Poiiz but you can say Hikaru and you ??”
“Wasari Kyoishi you can say Kyo nice to meet you Hikaru” ไอ้หมอนี่ชื่อเท่เหมือนพระเอกการ์ตูนเลย หน้าตามันก็ให้นะ สูงๆผมสั้นๆ กวนๆหน่อยๆ ผมเลยได้เพื่อนคนแรก ภาษางูๆปลาๆก็เอามาคุยกัน จนผมเริ่มรู้ละว่าตัวเองเรียนไรอยู่
“check ya later !!”
“see yah !”
มันเป็นแสลงครับ 55 ไม่น่าเชื่ออ่ะดิคนอ่อนแกรมม่ามาบอกลากันด้วยแสลงอเมริกา หลังจากบอกลาเรียบร้อยผมก็มานั่งจ๋องๆอยู่หน้ามหาลัยรอรถมารับ แต่ผ่านมาสามชาติก็ยังไม่มา พวกมันลืมปะวะว่าผมเลิกเรียนเวลานี้ เดินมาก็เดินไป เดินไปก็เดินมาจนผ่านไปสองชั่วโมงนั่นแหละก็ไม่มีใครมารับผม มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยยยย ทุกคนลืมผมแล้วหรอ ! คนไม่สำคัญใช่ป้ะ ใช่ป้ะ ฮึ่ยๆๆๆ ผมเดินแบบอารมณ์เสียมากมายมาขึ้นรถไฟฟ้าเบียดเสียดเป็นปลากระป๋องตราพอยท์หล่อให้สาวๆแทะโลมทางสายตาเล่น ดีนะขึ้นเป็นเลยกลับบ้านถูก
“กลับมาแล้วครับบ” ผมเริ่มติดวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาแล้วไง แต่ทำไมบ้านมันเงียบๆ ปกติมีเมดเดินกันให้ว่อน พ่อบ้านอีก วันนี้กลับเงียบเหงา มืดมิด อึมครึม
ผมเดินไปที่ห้องครัวที่เชฟประจำบ้านจะคอยสแตนบายอยู่ตลอดปรากฏว่ากลับเงียบเหงา ไม่มีใครเลย มันเกิดอะไรขึ้นกัน ? ทุกคนหายไปไหน ผมหันหลังกลับออกมาขึ้นไปชั้นสองวางกระเป๋าไว้ในห้องนอน แต่ความสนใจผมกลับถูกดึงไปที่ห้องตรงข้ามที่ผมไม่เคยเข้าไป และถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าไป ผมก็ไม่คิดจะอยากรู้เรื่องชาวบ้านมาตลอดก็ไม่คิดจะเข้าไปอยู่แล้ว แต่วันนี้ที่ผมโดนทิ้งไว้มันทำให้ผมโกรธมากกกกกก ดังนั้นถ้าไปแอบดูคงไม่เป็นไรมั้ง
“หึหึ มีความลับอยู่แน่ๆ เดี๋ยวเอามาแฉให้หมด วะฮะฮ่า”
ผมเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูบานนั้นซึ่งผมไม่เคยสนใจแต่วันนี้กลับมีแรงดึงดูดประหลาดให้ผมลองเปิดดูว่าภายในนั้นมีอะไร ผมยืนชั่งใจอยู่สักพักก็ตัดสินใจเปิดมันออกมา
คลิก !
เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบและแล้วสิ่งที่อยู่หลังประตูก็เปิดเผยออกมา มันเป็นเหมือนห้องเก็บของแต่ได้รับการจัดระเบียบอย่างดี
มือผมไล้ไปตามชั้นไม้ที่มีกล่องหลายใบวางอยู่ มีรูปภาพเก่าๆอยู่ในกรอบตั้งโชว์อย่าง
ดี แต่ทำไมรูปพวกนี้ถึงไม่ได้รับการโชว์ในส่วนอื่นของบ้านล่ะ ผมมองเข้าไปที่รูปหนึ่ง เป็นรูปครอบครัวที่มีสมาชิกห้าคนซึ่งน่าจะเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลากำลังอุ้มเด็กผู้หญิงตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนข้างๆกันนั้นมีร่างหญิงสาวบอบบางกำลังจูงมือเด็กชายสองคน ที่คนหนึ่งยิ้มกว้างกับอีกคนยืนนิ่ง นี่คงเป็นภาพครอบครัวของโนโนะและโอโอะกับเจ้าหญิงน้อย ผมไม่เคยถามว่าพ่อแม่เขาหายไปไหนแต่คงไม่อยู่แล้วรูปถึงได้นำมาเก็บในห้องนี้ ผมค่อยๆวางกรอบรูปไว้ที่เดิมเดินผ่านชั้นที่เต็มไปด้วยรูปครอบครัวมากมายจวบจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่รูปๆหนึ่ง มันเป็นรูปเด็กผู้ชายที่ผมรู้จักดี มันคือตัวผมเอง แต่เป็นสมัยยังเด็ก แต่ผมกำลังกุมมือคนสองคนพวกเขาเป็นใคร ? ผู้ชายที่มีรอยยิ้มนิ่งๆแต่อบอุ่นกับผู้หญิงสวยใบหน้ายิ้มแย้ม มันไม่ได้มีแค่รูปเดียว กลับมีรูปเราสามคนในอิริยาบถต่างๆ พวกเขาเป็นใคร ? แล้วทำไมถึงมาถ่ายรูปกับผมได้ ความจริงมันควรจะเป็นพ่อแม่ผมสิ พ่อกับแม่ที่เลิกกันแล้วของผม ไม่ใช่พวกเขา ผมรู้สึกปวดหัวขึ้นมาภาพบางอย่างกำลังพยายามฉายขึ้นมาในหัวผม
“ไม่ … โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ผมยกมือกุมหัวตัวเองพยายามกดลงที่ขมับเพื่อให้มันหายปวด การทรงตัวของผมแย่ลงจนเผลอชนชั้นอย่างแรง รูปมากมายหล่นลงมาผ่านหน้าผม ร่างผมค่อยๆล้มลงกับพื้นห้องและสิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนสติจะขาดหายไป คือรูปใบเล็กๆของเราสามคนตรงหน้าที่มีข้อความเขียนไว้เป็นภาษาไทยสั้นๆ
‘พ่อแม่ลูก’