ตอนที่ 26 (ปกมาแล้วนะคะหน้า 52)
ขณะนี้มุมลับตามุมหนึ่งในคฤหาสน์เรนงะกลายเป็นศูนย์รวมของคนทั้งบ้านเนื่องจากวางแผนจะเซอร์ไพรส์วันเกิดคุณพอยท์โดยการแกล้งให้ตกใจเล่นว่าทุกคนหายไปกันหมด แล้วจะโผล่เข้าไปทีเดียวร่วมกันร้องเพลงพร้อมมอบของขวัญ
“พี่แน่ใจหรอว่าแผนนี้ได้ผล พอยท์ไม่ยอมออกมาจากบ้านเลยอ่ะ จริงๆมันต้องออกมาตามหาไม่ใช่หรอ”
“อาจจะยังวิ่งไม่ครบทั้งบ้าน”
“เออเนอะ รอก่อนแล้วกันๆ แต่ผมกลัวหลงทางในบ้านนี่ดิ อิโตะซังเปิดกล้องวงจรหน่อยๆ”
“ครับคุณชาย” ร่างพ่อบ้านวัยกลางคนเลื่อนแลปท็อปที่ฉายภาพทุกส่วนทุกมุมของบ้าน
“นี่ไงๆวิ่งถึงห้องนอนแล้ว ฮ่าๆ หน้าตาตื่นเลย”
“อืม คงใกล้เวลาแล้ว” ร่างสูงของนาซึโนะถือกล่องของขวัญกล่องเล็กที่บรรจงเลือกนอนกว่าสามวันไว้แน่น ไม่ต่างกับทัตสึโอะที่กล่องใหญ่หน่อย
“เดี๋ยว เฮ้ยพอยท์เข้าไปในห้องนั่น !” สิ้งเสียงตกใจของผู้อ่อนวัยกว่า สายตาคมของนาซึโนะเลื่อนไปมองที่จอภาพก่อนจะขมวดคิ้วแน่น
“ไปเร็ว” ร่างสองร่างวิ่งกันเข้าไปในตัวคฤหาสน์ทันทีและนั่นเป็นครั้งแรกที่รูสึกอยากให้บ้านเล็กเท่ารังหนู ด้านหลังทั้งสองตามด้วยบรรดาพ่อบ้านเมดพ่อครัวและ รปภ. วิ่งตามกันมาเป็นขบวนกว่าห้าสิบคน
และแล้วร่างสูงของทั้งสองก็มาถึงแต่ทว่าพวกเขามาช้าไป .. ร่างของพอยท์ล้มลงกองกับพื้นพร้อมๆกับรูปถ่ายหลายใบที่ตกกระจายอยู่ทั่วห้อง
“พอยท์ !” ทัตสึโอะวิ่งเข้าไปช้อนตัวร่างบางขึ้นมาพร้อมกับสั่งให้พ่อบ้านเตรียมรถไปโรงพยาบาล นาซึโนะกวาดตามองรอบห้องอีกครั้งแล้วเดินตามออกไป
ตอนนี้ทุกๆคนได้แต่หวังให้พอยท์ปลอดภัย ไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่คิด หวังว่าทุกอย่างจะโอเค ขอให้เป็นแบบนั้นทีเถอะอย่าให้อะไรๆต้องแย่ลงหรืออย่าให้ใครต้องเสียใจไปมากกว่านี้เลย
โรงพยาบาล
ร่างสูงกลับมานั่งหน้าหมอจิตแพทย์คนเดิมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว
“อันนี้หมอยังบอกไม่ได้นะครับ ว่าความทรงจำคนไข้ฟื้นคืนมาหรือเปล่า เรายังตัดสินใจอะไรไม่ได้จนกว่าคนไข้จะฟื้น”
“แล้วถ้ามันกลับมาล่ะครับ” ทัตสึโอะถามพร้อมน้ำเสียงกังวล
“อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจคนไข้แล้วครับ ว่าจะรับได้แค่ไหน หมอคงตอบอะไรใน
ส่วนนี้ไม่ได้”
“ไม่เป็นอะไรหนักใช่มั้ย” นาซึโนะพูดออกมาเบาๆ
“ด้านร่างกายถือว่าไม่ได้เป็นอะไรเลยครับ แค่ล้มธรรมดา แต่สภาพจิตใจอันนี้หมอให้คำตอบไม่ได้จริงๆ”
“ขอบคุณครับหมอ”
ทั้งสองออกมาจากห้องหมอด้วยอารมณ์หนักอึ้ง ต่างคนต่างจมอยู่ภวังค์ของตัวเอง ระหว่างทางเดินไปห้องพิเศษที่คนสำคัญนอนอยู่ราวกับเป็นทางที่แสนอันตราย แต่ละก้าวหนักอึ้ง แต่แล้วก็มาถึงหน้าห้องจนได้
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”
“ครับพี่” ทั้งสองคนสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆเปิดประตูเข้าไป บนเตียงปรากฏร่างของพอยท์ที่ฟื้นแล้วกำลังนั้งพิงหมอนเหม่อมองออกไปที่ระเบียง
“ฟื้นแล้วหรอพอยท์”
“อืม .. แย่เนอะ” ร่างบางแค่นเสียงออกมา ค่อยๆหันหน้ามามองผู้ชายสองคนที่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก
“คิดว่าโอเคมั้ย” ทัตสึโอะเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเตียง
“แย่กว่าที่คิดนะ”
“พอยท์ ..” นาซึโนะเดินตามมายืนข้างๆเตียงสีหน้าของทั้งสองคนลำบากใจอย่างเห็ดได้ชัด
“ลืมได้ยังไง พ่อแม่ตัวเองแท้ๆ ตลกดีจัง ฮึก … ทะ … ทำไมลืมนะ ฮืออออ”
ร่างบางค่อยๆสะอื้นจากเบาๆก็เริ่มหอบจนตัวโยน ผวากอดทั้งสองคนแน่น
“ทะ … ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ ฮืออออออออ ทำไมวันนั้นไม่ตายไปด้วยกันนะ เหลืออยู่คนเดียวบนโลกทำไม ทำไมมมมมมมมมมม”
ร่างบางเริ่มตะโกนก่อนจะกรีดร้องออกมาดังลั่น นาซึโนะทำอะไรไม่ถูกได้แต่กอดร่างบางไว้แน่นจนเสียงกรีดร้องค่อยๆเบาลงกลายเป็นเสียงสะอื้น
“เดี๋ยวมันจะดีขึ้นเองนะพอยท์” ทัตสึโอะที่ทำอะไรไม่ถูกทำได้แค่ลูบหลังบางเบาๆ แต่พอยท์กลับสะบัดหน้าแรงๆพร้อมสายตาโกรธจัด
“ดีหรอ ? ดีเพราะลืมหรอ ดีเพราะจำไม่ได้ใช่มั้ยว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นใคร ! ลืมเพราะจะได้มีชีวิตใหม่กับพ่อแม่ปลอมๆ ใช่มั้ย มันไม่จริงหรอก ไม่จริงงงงงงงงงงงง ได้ยินไหมว่ามันไม่จริงงงงงงงงง ออกไปเลยนะ ออกไป ! ออกไปให้หมดบอกให้ออกไปไง ฮืออออ”
พอยท์เริ่มโวยวายอีกรอบขว้างหมอนบนเตียงใส่นาซึโนะและทัตสึโอะในหัวขาวโพลนเต็มไปด้วยความสับสนลำดับเหตุการณ์อะไรไม่ถูก รู้แต่ว่าอยากจะโวยวาย อยากจะตะโกน หัวเริ่มปวดเบาๆด้วยการตีกลับของภาพความทรงจำที่ห่างหายไป ทั้งจากครอบครัวที่แท้จริง และครอบครัวใหม่ที่อบอุ่นไม่แพ้กัน สุดท้ายร่างของพอยท์ก็ค่อยๆล้มลงหงายหลังกับเตียงสลบไปอีกครั้งพร้อมน้ำตา
-------------------------------------------
สั้นๆนิดนึงนะคะพอดีรีบไปข้างนอกแฮ่