(เรื่องเล่า)"อดีตเด็กพาณิชย์กลับมาเล่าต่อครับ" โดย COMMERCIAL COLLEGE STUDENT
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องเล่า)"อดีตเด็กพาณิชย์กลับมาเล่าต่อครับ" โดย COMMERCIAL COLLEGE STUDENT  (อ่าน 315970 ครั้ง)

papae

  • บุคคลทั่วไป
:o8: ค่อย ๆ ขยับนะวุธ เดี๋ยวเอ้จะตกใจ อิอิ :m10:

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
แหะๆ...ไม่ได้เข้ามานานเลยง่า

แต่ยังไงก้ออ่านแล้วนะฮะ

แล้วแบบนี้จะเปงยังไงต่อไปละฮะ

ขออย่าให้มีเรื่องร้ายๆเกิดก่ะพี่เอ้แล้วก้อพี่วุธ เลยนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะอะ

จะรอต่อไปเหมือนเดิมนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ :m17: :m17:

niph

  • บุคคลทั่วไป
มะอยากจะบอกว่าตอนนี้แหละ ที่เค้าหาอ่านไม่ได้ และได้อ่านเหตุการณ์ที่เลยช่วงนี้ไปแล้ว  :m26:

มะอยากสปอย เพราะตัวเองก็เซ็งไปหลายวันเหมือนกัน

ยังไงก็ยังติดตามอยู่นะ จนกว่าจะจบจริง ๆ แหละ
(ถึงอ่านแล้วก็ยังอยากอ่านอีก มันรู้สึกดี ๆ กับความจริงใจที่เค้ามีให้กันอ่ะ)

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: (เรื่องเล่า)"อด$
«ตอบ #545 เมื่อ22-10-2007 17:30:58 »

สนุกมากๆ เลยครับ  อ่านแล้วรู้สึกดีมากครับ

คุณเอ้ก็โชคดีมากที่มีวุธอยู่ข้างๆ

ขอให้มีความสุขกันเยอะๆ นะคร้าบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2007 17:32:52 โดย Just let it be »

a22a

  • บุคคลทั่วไป
คู่ของคุณเอ้น่ารักมากๆคับ ขอให้รักกันนานๆนะคับ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มารอนะฮะ

อยากรุเรื่องราวของพี่เอ้ต่อมากมายนะฮะ

ยังไงก้อจะรอต่อไปนะฮะ

เปงกำลังให้นะ สู้ๆนะ :m13: :m13:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
2. Ain’t it funny?
.....เนื่องจากเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องทั้งสองคนอายุห่างจากผมแค่ปีกว่า ๆ เราไม่เคยทำงานกะเดียวกันมาก่อน เพราะผมจะขึ้นมาทำงานรอบเช้าได้ก็คือวันที่สองคนนี้หยุด และมันก็ได้วันหยุดวันเดียวกันอีกด้วย....ตอนที่สองคนนี้เข้ามาใหม่ ๆ ต่างคนต่างเก๊กใส่กัน เจอหน้ากันก็แค่สวัสดีทักทาย แต่พอมันเริ่มเข้าขากัน ทีนี้ฟร้อนท์แทบแตก ก็พวกหล่อนไม่เก็บอาการเลย....ยอมรับครับว่า ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยจะถูกชะตากับพวกมันซักเท่าไหร่ เพราะเราอยากให้เด็กใหม่ตั้งใจทำงานไม่ใช่มาแค่ยืนฉีกยิ้มเซย์ไฮกับแขก งานโรงแรมมันมีอะไรให้ทำมากกว่านั้นนะครับ.....
.....เรื่องเล่นจนลืมทำงานของพวกมันเข้าหูผมบ่อย ๆ แต่ระยะหลังมานี่ดีขึ้นเยอะ คงเริ่มรู้แล้วว่างานโรงแรมมันหนักขนาดไหน ยิ่งเด็กใหม่ต้องเข้างานรอบเช้า เป็นรอบที่วุ่นที่สุด แต่เวลาก็ผ่านไปเร็วที่สุดเช่นกัน...ผมเองก็กลัวที่ต้องมาทำงานกับเด็กใหม่ เพราะลำพังงานตัวเองก็ยุ่งแล้ว ถ้าต้องมาตามแก้งานคนอื่นอีก คงต้องทำงานควงรอบกลับบ้าน 5 ทุ่มพร้อมรอบบ่ายแน่.....
*
*
*
“...เอ้...เบส...ธี...ก่อนกลับแวะมาหาพี่ด้วยนะ...” เอฟโอ (Front Office Manager) เรียกพวกผมขณะที่กำลังฝากงานรอบบ่าย เตรียมตัวกลับบ้าน เอ๊ะ ไม่ใช่ เตรียมตัวไปเดินเล่นที่ห้างใกล้ ๆ หลังเลิกงานกับน้องใหม่ทั้งสอง
“...ตายห่า...จะเรียกกูไปด่าอะไรอีกเนี่ย...” ผมบ่นเบา ๆ กับเพื่อนร่วมงาน
“...เรื่องอีสองตัวนี่หรือเปล่า...” พี่ซุปรอบเช้าพูดให้ผมกังวล
“...อะไรพี่...วันนี้ทุกอย่างโอเคไม่ใช่เหรอ...” ธีแย้ง
“...อืม...อยู่กับพี่เอ้ไม่เห็นวุ่นวายเหมือนวันอื่นเลย...” นังเบสพยักเพยิด
“...ไม่มีอะไรหรอกแก...เรื่องห้อง...เอ้มันก็ Assign ไว้ดีจะตาย วันนี้มีแขกคอมเพลนปะล่ะ...” เพื่อนรอบบ่ายพูดขึ้นมาบ้าง
“...ไม่มีอ่ะพี่...มีแต่ชมว่าพนักงานที่นี่หน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น...” เบสหยุดพูดปรายตามาทางผมให้รับมุข
“...แต่ถ้ามาเห็นรอบบ่ายเค้าอาจจะเปลี่ยนคำพูดก็ได้นะ...” ผมพูดขำ ๆ แต่ก็ทำให้วงแตกกระเจิง เพราะพวกรอบบ่ายไล่ให้กลับบ้านก่อนที่จะโดนตบเรียงตัว
*
*
.....จริง ๆ แล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ทำงานสนุกมากอีกวันนึง ตั้งแต่ก้าวเท้าออกมาออนฟลอร์ผมก็จัดระบบแบ่งงานกันทำ เอาใจเขามาใส่ใจเรา เนื่องจากทำงานมาตั้งแต่เด็กทำให้เข้าใจความรู้สึกของน้อง ๆ ที่ไม่เคยร่วมงานกัน...แน่นอน ผมต้องทำให้พวกเค้าลดความเกร็ง ทำตัวให้เข้ากับพวกเค้าได้อย่างสนิทใจ ซึ่งมันไม่ยากเลย โชคดีด้วยที่น้อง ๆ พวกนี้ไม่ปีนเกลียว หรือว่าพวกมันรู้ว่าตอนที่ผมโหดเป็นยังไง.....
.....พอเรารวมตัวกันครบ ผมบล็อกห้อง น้องเบสทำรีพอร์ท น้องธีคอยรับแขกเช็คอิน เฃ็คเอ้าท์ ซึ่งผมจะต้องคอยมองตลอดไม่ให้มันทำพลาด โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ...พอแขกเริ่มออกอาการวีน ผมก็จะเดินไปรับหน้าแทน...เป็นการสอนงานในตัว ให้พวกมันดูไว้ว่าเราต้องทำยังไง แต่ของอย่างนี้มัน case by case ผมก็จะบอกว่าอีกหน่อยน้อง ๆ ก็ทำได้ พยายามอย่าหนีปัญหา....และช่วงบ่าย ผมก็ยืนดูน้องทำงานเฉย ๆ ไม่ช่วยดีลแขกถ้าไม่จำเป็น แต่ผมจะยืนประกบทีละคนคอยบอกว่าอะไรดี และไม่ดี (สอนแต่เรื่องงานนะครับ...ส่วนเรื่องอื่นน้องเค้าโอเคเลย).....
*
*
“...มาแล้วครับ...” ทันทีที่เข้าไปในห้องผู้จัดการผมก็เริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังจะเจอนี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่
“...นั่งสิ...” ผมนำน้อง ๆ นั่ง อีสองคนนั่นนั่งตัวลีบดูเรียบร้อยเป็นคนละคนกับที่เห็นข้างนอก “...วันนี้ทำงานเป็นไงมั่ง...เราน่ะ...” พี่เอฟโอหันไปถามเบส
“...ก็ดีครับ...”
“...แล้วเราล่ะ...”
“...ไม่มีปัญหาอะไรนี่ครับ...พี่เอ้ใจดี...สอนงานผมตั้งเยอะ...”
“...น้องใหม่ทำงานเป็นไงมั่งเอ้...” เอฟโอถามผมเสียงเรียบ
“...โดยรวมแล้ว...ก็ดีนะครับพี่...น้องเค้าอาจจะยังเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังไม่คล่อง แต่เดี๋ยวทำ ๆ ไปก็ดีกว่านี้เองแหละ...ตอนเอ้มาใหม่ ๆ ก็มึนไปนานเหมือนกัน...”
“...อะไร...ทำงานมาสองเดือนแล้ว...ยังไม่คล่องอีก...แล้วจะผ่านโปรมั๊ยเนี่ย...” ผมเห็นสองคนนั่นนั่งหน้าเหี่ยว พี่เอฟโอคงได้ยินใครบ่นเรื่องพวกมันเล่นกันมากเกินไป
“...ผมจะพยายามให้มากขึ้นครับ...” เบสพูดเสียงอ่อย ๆ
“...ที่เรียกมาเนี่ย...จะบอกว่าวันนี้งานคอมพลีทกว่าทุกวัน...ทั้ง ๆ ที่มีเด็กใหม่ถึงสองคน...พี่ให้คนคอยจับตาดูไว้ว่าวันนี้จะพากันล่มหรือเปล่า...ปรากฏว่าทุกอย่างดีเกินคาด...”
“...วันนี้ห้องไม่ล้น...แขกก็ไม่ค่อยวีนเท่าไหร่...มันก็เลยไม่มีปัญหามั้งพี่...” ผมถ่อมตัว
“...ไม่หรอก...พี่คิดว่าเอ้คุมเจ้าสองคนนี้อยู่...บางทีเค้าอาจจะอยากได้เอ้มาคอยสอนงาน...ใช่มั๊ย...” เอฟโอหันไปถามน้องใหม่ อีพวกนั้นยิ้มระรื่นพยักหน้ากันหงึกหงัก
“...พี่เอ้สอนรู้เรื่องกว่าทุกคนเลยนะครับ...ใจดีด้วย...เวลาผมทำผิดก็ไม่บ่น...” ธีชม
“...พี่ไม่บ่น...แต่พี่ด่าเลยนะ...” ผมพูดขำ ๆ
“...ก็นั่นแหละ...ไม่รู้สิ...ผมว่าเราพูดจาภาษาเดียวกัน...ทั้ง ๆ ที่งานที่ทำมันก็เหมือนกันทุกวัน แต่วันนี้ผมเก็ตที่พี่เอ้สอนอ่ะครับ...”
“...เอางี้...พี่ให้เอ้เทรนน้องจนพ้นโปร...ถ้าพวกเธอไม่ผ่านโปรก็โทษเอ้ละกันนะ...”
“...อ้าวพี่...ของอย่างนี้จะให้ใส่ฝ่ายเดียวได้ไงอ่ะ...ถ้าน้องมันไม่รับเอ้ก็ซวยดิ...”
“...โหพี่เอ้...พวกหนูสัญญาว่าจะตั้งใจทำงาน...จะเชื่อฟังคำสั่งสอนของพี่เอ้ทุกอย่าง...ดูสิ...วันนี้สนุกจะตาย...พี่เอ้เทรนให้หนูนะ...” นังเบสอ้อน ผมคิดในใจ ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเทรนเด็กใหม่เราก็ได้เข้างานรอบเช้าทุกวัน ได้กินข้าวเย็นกับที่รักด้วย...ผมเผลอยิ้มกับตัวเอง
“...ที่ยิ้มนี่โอเคแล้วใช่มั๊ย...” เอฟโอถาม ผมหุบยิ้มทำหน้าขรึมทันที
“...เอ้จะพยายามทำให้ดีที่สุดละกันพี่...” ผมตอบรับแล้วหันไปมองนังสองคนนั่นที่ยิ้มระรื่นข้าง ๆ “...พวกหล่อนก็ตั้งใจทำงานนะยะ...อย่ามัวแต่ชวนกันจิกแขก...” บรรยากาศในห้องผู้จัดการเริ่มดีขึ้น
“...อ้อ...พี่ลืมบอกไปว่าเดือนหน้าเทรนน้องมันรอบบ่ายนะ...จะได้เช็คอินเก่ง ๆ แล้วเอ้ก็สแตนบายรอบบ่ายไปตลอดเลย...”
“...หา...” ผมร้องเสียงสูง “...จะฝังบ่ายเอ้เหรอ...” ฝังบ่ายหมายถึงอยู่รอบบ่ายไปตลอดชีวิตการทำงาน หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทีหลัง ซึ่งยากมาก นอกจากจะมีเพื่อนร่วมงานลาออกหรือหยุดแล้วเราไปแทน
“...อืม...พี่กะว่าจะเปลี่ยนระบบ...ให้อยู่รอบไหนรอบนั้นไปจะได้ไม่โทรมเป็นผีดิบมาทำงาน...”
“...เอ้ขออยู่รอบเช้าไม่ได้เหรอ...”
“...อ้าว...ก็เมื่อก่อนเห็นชอบอยู่บ่าย...เลิกงานก็ไประรื่นแถวสีลม...แถวข้าวสาร...อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ...”
“...ก็นั่นมันเมื่อก่อน...ตอนนี้เอ้อยากอยู่รอบเช้าอ่ะพี่...” ผมงอแง
“...ทำไม...กลัวแฟนพากิ๊กเข้าบ้านเหรอ...” เอฟโอแหย่ผมก่อนทำเสียงจริงจัง “...พี่ตัดสินใจแล้วว่าจะจัดให้ผู้ชายเข้ารอบบ่าย...สมัยนี้ให้ผู้หญิงกลับบ้านดึก ๆ มันอันตราย...”
*
*
*
.....เครียดเลยกู...ถ้าวุธรู้ว่าเราโดนฝังกะบ่ายมันจะว่ายังไงเนี่ย...ทุกวันนี้ก็แทบไม่ได้เจอหน้ากันอยู่แล้ว...ถ้าเข้ารอบบ่ายก็คงเหมือนเมื่อก่อนที่มันต้องนอนรอผมบนโซฟา...ส่วนผมก็ต้องทรมานสังขารหาเวลากินข้าวกลางวันกันโดยนัดเจอที่ร้านประจำคนละครึ่งทาง...ที่สำคัญ...รอบบ่ายนี่เลิกงานผมแวะไปแรด ๆ ที่ไหนไม่ได้เลย เพราะรู้ว่ามีคนรอ และวุธก็ไม่ชอบให้ผมกลับบ้านไม่ตรงเวลาซะด้วย.....
“...เป็นอะไรพี่เอ้...ปวดอึเหรอ...” เบสมันคงเห็นผมนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“...พี่เอ้ไม่อยากทำงานกับพวกหนูเหรอ...” ธีพูดเสียงเบา
“...เปล่า...พี่แค่เครียดเรื่องที่บ้านนิดหน่อย...”
“...กลัวแฟนจะเอากิ๊กเข้าบ้านอ่ะดิ...” นังเบสแซวเรื่องเดิม
“...อู๊ยยยย...คุณน้อง...ที่รักของคุณพี่ไม่กล้าหรอก...” อันนี้มั่นใจ..ก็บ้านเรา..ไอ้วุธจะพาใครเข้ามาได้ไง...ที่ผ่านมาก็ไม่เคย
“...เออ...ลืมไป...ได้ข่าวว่าโหด...ถ้าพวกหนูทำอะไรให้พี่เอ้ไม่พอใจ...พี่เอ้บอกตรง ๆ ได้เลยนะ...หนูไม่โกรธหรอก...”
“...แน่นอน...” ผมทำตาดุใส่พวกมัน แต่มันกลับหัวเราะซะนี่...เราเดินเล่นซื้อของ...แล้วแยกย้ายกันขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน พวกมันอยู่ทางเดียวกัน ผมก็เลยต้องกลับคนเดียว
*
*
.....วันนี้วุธถึงบ้านก่อนผมแน่นอน เพราะผมมัวแต่เดินดูของซะเพลิน รู้ตัวอีกทีก็ทุ่มกว่าแล้ว เดินซะเมื่อยแต่ก็สนุก นาน ๆ ได้เข้ารอบเช้าซะที เอ๊ะ แต่เราก็เข้ารอบเช้าสัปดาห์ละครั้งนี่...อ๋อ...วันนี้มีเพื่อนที่เข้าขาชวนกันเดินดูของ...ดูผู้ชาย...โดยเฉพาะนังเบส...มันสะกิดให้ผมดูคนนั้นทีคนนี้ที...หนูธีก็ใช่ย่อย...หล่อนไม่สะกิด...แต่สายตาเธอเยิ้มมาก...แล้วเธอจะมีเสียงครางในลำคอแปลก ๆ ที่ทำให้ผมต้องหันไปตามสายตานั้น.....ครั้งสุดท้ายที่ผมเดินห้างแล้วสนุกอย่างนี้ก็ตอนที่เพื่อนสมัยมหาลัยผมรวมตัวกันในวันเกิดอีเต็ม...ผมใช้คำว่าเข้าขา คือเรารู้ว่าเพื่อนเราต้องการอะไร และเราก็ต้องการสิ่งเดียวกัน มีเพื่อนไม่กี่คนหรอกที่ผมจะเดินห้างด้วย เพราะมัวแต่ห่วงหน้าพะวงหลัง.....
“...กลับมานานยัง...” ผมทักวุธที่ยืนหน้าบอกบุญไม่รับ ขัดกับเสื้อผ้าที่มันใส่ ถ้ามันทำหน้าปกติมันจะดูหล่อมาก ๆ ในชุดนี้
“...นานแล้ว...” ไม่น่าถามเลยกู นี่มันก็เกือบสองทุ่มเข้าไปแล้ว งานเลิก 4 โมงเอง “...เอ้ไปไหนทำไมไม่บอกอ่ะ...” วุธพูดเสียงเครียด
“...ไปเดินดูของกับน้องที่ทำงาน...เพลินไปหน่อย...” ผมพูดเสียงอ่อย ๆ ก่อนเดินตัวลีบเข้าบ้าน
“...อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดิ...เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินกัน...” ผมชะงัก มันมาอารมณ์ไหนวะ
“...ไปถึงไหนเนี่ย...” ผมหันมาถามจุดหมายปลายทาง จะได้แต่งตัวถูก
“...เออน่า...เร็วเข้า...” มันไม่ตอบแต่กลับเร่งผม ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติผมคงด่ามันแล้ว แต่นี่มีความผิดติดตัว คราวนี้ยอมก็ได้วะ
*
*
.....มันจะรีบไปไหนของมัน...ก่อนออกจากบ้านผมก็ต้องตรวจดูประตูหน้าต่างทุกครั้งเป็นปกติ มันก็เร่งอยู่ได้...จนผมเริ่มหงุดหงิด หันขวับไปมองหน้ามัน...แค่นั้นแหละ...วุธมันเดินไปรอผมที่รถเลย...คิดในใจถ้ามันเร่งผมอีกคำเดียว ผมจะกลับขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนขี่จักรยานไปหาก๋วยเตี๋ยวกินเอง.....
.....ทันทีที่ผมขึ้นรถปิดประตูยังไม่สนิท วุธก็ออกตัวเหมือนกลัวว่าถ้าไปช้าแค่นาทีเดียวร้านมันจะปิดหนี.....ไม่เป็นไร...ถ้าวุธพาเราออกมากินข้าวข้างนอกนี่คงมีอะไรพิเศษ...อดทนไว้...อย่าเพิ่งหาเรื่อง...ผมข่มใจ.....
“...ไปไหนมา...ยังไม่บอกเลยนะ...” วุธทำลายความเงียบบนรถ
“...ไปเดิน XXXXX...ดูเสื้อผ้าอ่ะ...” มีห้างไม่กี่แห่งหรอกที่ผมจะเดิน เน้นใกล้กับของที่ขายราคาไม่แพงเกินไปนัก
“...จะกลับช้าทำไมไม่โทรบอก...” เสียงวุธอ่อนลง
“...ก็มันเพลินอ่ะ...นาน ๆ ได้เดินที...พอจะกลับถึงได้รู้ว่ามันมืดแล้ว...ตอนนั้นก็ว่าจะโทรอยู่หรอก แต่คิดว่าอีกแป๊บเดียวก็ถึงบ้าน...เออ...แล้วทำไมวุธไม่โทรตามล่ะ...”
“...ถ้าโทรตาม...เอ้ก็หาว่าวุ่นวายอีก...” เออเนอะ เราไม่ชอบให้ใครโทรจิกนี่หว่า
“...เออ...ขอโทษ...ถ้าวันหลังกลับช้าแล้วจะโทรบอกตั้งแต่อยู่โรงแรมเลย...” ขนาดเอ่ยปากขอโทษแล้วยังอดประชดไม่ได้ “...ขอเที่ยวทิ้งทวนหน่อยเหอะ...เดือนหน้าต้องเข้าบ่ายแล้ว...” วุธเหลือบตามองผม
“...แต่ก่อนไม่เห็นต้องเที่ยวเลย...โรงแรมเอ้เปลี่ยนรอบทุกเดือนไม่ใช่เหรอ...” ผมอึ้ง
“...ก็...ก็...เข้ารอบบ่ายแล้วเที่ยวไม่ได้นี่...หรือว่าวุธจะให้เราไปเที่ยวหลังเลิกงานอ่ะ...” ผมตัดสินใจไม่บอกวุธเรื่องโดนฝังบ่าย ไม่อยากให้มันไม่สบายใจ
“...อยากไปก็ไปดิ...” วุธทำหน้างอ
“...ไปแน่...ไม่ต้องห่วง...แต่แกจะให้ชั้นไปจริง ๆ หรือเปล่าหรอก...” ผมแกล้งมันต่อ
“...ไปได้...ถ้าเราไปด้วย...”
“...อ้าว...งั้นไม่ไปก็ได้...ทำงานเสร็จแล้วกลับมาหาที่รักดีกว่า...เนอะ...” ผมเอนตัวไปซบไหล่วุธ ได้ยินมันหัวเราะเบา ๆ บรรยากาศรอบตัวก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

.....ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นเหมือนเดิม...ขอบคุณที่ให้กำลังใจ...ขอบคุณที่คิดถึงกัน...ขอบคุณที่รอ.....อากาศเริ่มเย็นแล้วนะครับ รู้สึกเหมือนเมื่อปีที่แล้วยังไงก็ไม่รู้...อากาศเดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน...ผมต้องดูแลสุขภาพให้ดีกว่าเดิมกลัวไม่มีแรงมาเขียนเรื่องต่อ...ยังไงก็ขอฝากให้ผู้อ่านของผมรักษาสุขภาพตัวเองและคนข้าง ๆ ด้วยนะครับ.....
.....แล้วเจอกันใหม่เร็ว ๆ นี้....
...เอ้...

nartch

  • บุคคลทั่วไป
3. Top (secret) of the world

.....สองทุ่มกว่าแล้ว...การจราจรเริ่มคล่องตัว...แต่ก็ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่สี่แยกที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดแยกหนึ่งในกรุงเทพฯ...รถติด ๆ อย่างนี้ทำให้ผมเล่นกับวุธได้สะดวกขึ้นโดยไม่กลัวว่ามันจะเสียสมาธิ และไม่กลัวว่าคนข้างนอกจะเห็นเพราะรถคันนี้ติดฟิล์มทึบกว่ารถผมซะอีก...กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เสียงโทรศัพท์มือถือของวุธดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน...มันหันมามองหน้าผมนิดนึงก่อนรับสาย...แล้วพูดเสียงเบากว่าปกติ แต่ผมก็ยังได้ยินอยู่ดี...

“...ฮัลโหล...ครับพี่...ใกล้จะถึงแล้วครับ...ครับ...รถติดมากเลยพี่...เดี๋ยวผ่านแยกนี้ไปได้ก็ไม่เกิน 10 นาทีถึงร้านครับ...” วุธรีบพูดรีบวาง แล้วมันก็ขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด
“...นัดเพื่อนไว้เหรอ...” ผมตัดสินใจถาม วุธพยักหน้าเบา ๆ “...แล้วเอาเรามาทำไมอ่ะ...”
“...มีคนเค้าอยากรู้จัก...” วุธพูดห้วน ๆ เหมือนไม่อยากตอบ
“...ใครอ่ะ...” ผมเซ้าซี้
“...เดี๋ยวก็รู้...” อยู่ด้วยกันมานานทำให้ผมรู้ว่าอาการแบบนี้ ถามเท่าไหร่ก็ไม่ตอบแน่นอน
*
*
.....วุธเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ...ถ้าให้ผมมาเองก็คงไม่กล้ามาหรอก...แต่ก็เคยมีบุญได้กินอยู่ 2 ครั้ง เนื่องจากอาหารทุกชนิดราคาแพงมากกกกกกกกกกกกกกก...ที่ผมได้มากินร้านนี้ก็เพราะแขกบอกให้พาไปกิน...ผมเตือนแล้วว่าของแพง ถ้าจะกินซีฟู้ด ไปแถวไชน่าทาวน์ก็ได้...แขกผมชี้ให้ดูในหนังสือว่า ต้องการไปที่นี่เท่านั้น...ผมก็เลยสนอง Need เขาด้วยการพาเพื่อนที่ทำงานไปอีก 2 คน เพื่อนของเขาอีก 3 คน ทั้งหมด 6 คน...อาหารทั้งหมดแขกสั่งนะครับ พวกผมกลัวโดนหาร ก็เลยไม่กล้าสั่ง...อิ่มจัง...ตังค์อยู่ครบ...มีความสุข...แต่คนที่จ่ายเงินเห็นบิลแล้วแทบตกเก้าอี้...เอาเป็นว่าหลักหมื่นอ่ะครับ...ราคานี้เขาสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านได้เลย.....ส่วนอีกครั้งนึงไปกินบรรยากาศ...แขกคนนี้ดี...สั่งอาหารนิดหน่อย...แต่ก็ยังแพงอยู่ดี....
“...ใครเลี้ยงอ่ะ...ถูกหวยเหรอ...” ผมกระดี้กระด้า ดีนะว่าแต่งตัวพอเข้าร้านเขาได้
“...ฮัลโหล...ถึงแล้วครับ...พี่นั่งโต๊ะไหนอ่ะครับ...” วุธไม่ตอบ แต่หยิบโทรศัพท์ โทรไปหาคนที่รอ ผมก็ไม่สนใจอะไรมาก เปิดไฟในรถ ดึงที่บังแดดด้านหน้าออกมา อีกด้านเป็นกระจกเล็ก ๆ ผมหันซ้ายขวาสำรวจความเรียบร้อยบนใบหน้า
“...ไอหยา...ขอบตาคล้ำอ่ะ...ช่วงนี้นอนน้อยแน่ ๆ เลย...” ผมบ่นกับตัวเองไปตามเรื่องตามราว
“...เอ้...” วุธเรียกชื่อผมเสียงเครียด
“...หือ...” ผมตอบรับในคอ
“...เข้าไปข้างในแล้ว...ทำตัวดี ๆ นะ...” ผมชะงัก แล้วหันไปมองหน้ามันช้า ๆ
“...หมายความว่าไง...”
“...ก็...เอ่อ...ก็...อย่าให้เค้ารู้ว่าเราเป็นมากกว่าเพื่อนกัน...”
“...ทุกทีที่เจอเพื่อนแก...ชั้นเคยหลุด...หรือว่าแสดงออกอะไรมากเกินไปเหรอ...” ผมถามเสียงแข็ง
“...ไม่นี่...” วุธเริ่มเสียงอ่อนลง “...แต่คราวนี้ขอแบบ...เอ้เป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุด...พูดกูมึงเลยก็ได้นะ...”
“...ได้...เอางี้...ถ้าลำบากนักมึงก็เข้าไปแดกคนเดียวเลยละกัน...กูจะกลับบ้าน...” ตอนนั้นผมโกรธมาก หยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ ลงจากรถ ปิดประตูดังโครม เดินกึ่งวิ่งให้พ้นจากลานจอดรถ...ได้ยินเสียงวุธวิ่งตาม ผมก็ยิ่งเดินเร็วขึ้น
“...เอ้...เดี๋ยวดิ...ขอโทษ...มีคนสงสัยเราทั้งคู่...เอ้ช่วยเข้าไปเคลียร์หน่อย...ผมต้องทำงาน ต้องมีสังคมของผมเหมือนกันนะ...” วุธพูดไล่หลังผม ทำให้ผมได้คิด
“...แล้วเค้าจะเชื่อเหรอ...” ผมหยุดเดินแล้วหันไปพูดกับมัน
“...ลองดูก่อน...ก็ทุกครั้งไม่เห็นมีใครสงสัยอะไรเลยนี่...”
“...ไม่ใช่ว่า...ผีกับผี...ดูกันออกนะ...” ผมอดกังวลไม่ได้.
“...เออน่า...ไม่เป็นไรหรอก...จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของเค้าแล้วหละ...” วุธจูงมือผมเดินกลับเข้าไปข้างใน...ตรงลานจอดรถมันมืดไงครับ...ก็เลยจับไม้จับมือกันได้
*
*
“...กลัวเพื่อนหลงหรือครับวุธ...” เสียงลึกลับที่สำเนียงแปลก ๆ ดังออกมาจากหลังรถคันหนึ่ง
“...อ้าว...พี่...ทำไมไม่รอที่โต๊ะล่ะครับ...” วุธสะบัดมือผมออกทันที
“...วุธโทรมาบอกว่าถึงแล้ว...แต่ยังไม่เห็นเข้ามาซักที...พี่ก็เลยออกมาตาม...” ผมมัวแต่ตะลึงมองพี่ผู้ชายในรูปที่ไปตีกอล์ฟกับวุธเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา...ตอนนี้เขายืนตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้าผม
“...เอ้...นี่พี่พีท...” “...พี่พีทครับ...นี่เอ้...เพื่อนผม...” ผมหายตะลึงแล้ว แต่ยังสับสนอยู่ว่าจะยกมือไหว้ หรือว่าแค่สวัสดีปากเปล่าดี...ที่ไหนได้...พี่เขายื่นมือมาให้ผม เออ ลืมไปเขาเกิดและโตที่เมืองนอกนี่หว่า...ผมจับมือกับเขาแบบที่เคยเชคแฮนด์กับแขกต่างชาติ...แต่ขอบอกว่า...มือเขานิ่มมาก
“...เข้าไปข้างในกันเถอะ...” เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ พวกผมสองคนพยักหน้า เขายิ้มนิด ๆ ก่อนเดินนำเราเข้าไปในร้าน มาดเค้าอลังการจังเลย ผมคิดในใจ
*
*
“...วุธเล่าให้ฟังว่าเอ้ทำงานโรงแรม...เป็นไงมั่งครับ...สนุกมั๊ย...”
“...ก็ดีอ่ะครับ...แต่มันเหนื่อยมาก...พักผ่อนไม่เป็นเวลาด้วย...”
“...ทำงานเป็น Shift อย่างนี้แล้วจะได้เจอวุธบ่อยเหรอ...” เอาแล้วไงเริ่มเข้าเรื่อง
“...ไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่อ่ะครับ...เวลาไม่ตรงกัน...มีวันนี้ที่เข้า Morning Shift ก็เลยมากับวุธได้...” ผมตอบตามความจริง
“...กูบอกแล้วให้ทำงานออฟฟิศ...เลิกงานจะได้ไปกินเหล้ากัน...แต่มึงทำงานที่นั้นก็ดีเหมือนกัน...เพื่อนเอ้ที่โรงแรมมีแต่คนสวย ๆ ทั้งนั้นเลยนะพี่พีท...สนใจปะ...” วุธพูดกูมึงแสดงความสนิทสนมตามที่เตรียมกันไว้ แถมเบี่ยงประเด็นไปเรื่องสาว ๆ
“...เอ้ทำงานที่ไหนอะครับ...” เขาถามผมเสียงจริงจัง
“...แถว ๆ สุขุมวิทอ่ะครับ...”
“...ที่ไหนล่ะ...เผื่อพี่จะไปพักบ้าง...”
“...ช่วงนี้มัน High Season ห้องเต็มยาวเลยครับ...”
“...ห้องสวีท (ออกเสียงสั้น ๆ เหมือนสูทนะ) ก็เต็มเหรอ...” พี่พีทซักไซ้
“...ต้มยำกุ้งของแท้มาแล้ว...” วุธเห็นผมอึดอัด ก็พยายามช่วย มันหยิบถ้วยของผมเพื่อตักแบ่งให้ แต่มันก็วางลงเหมือนเดิม แล้วเอื้อมไปหยิบถ้วยของพี่พีทแทน “...นี่ครับ...ต้มยำกุ้ง...ไม่จืดชืดเหมือนที่อเมริกาแน่นอน...” วุธวางถ้วยของพี่พีทลงตรงหน้า พี่เขาพูดขอบคุณเบา ๆ แล้วยิ้ม
“...เอ้า...บริการตัวเองโว้ยเอ้...” วุธให้ผมตักต้มยำกุ้งเอง ส่วนตัวมันก็เอื้อมไปตักอย่างอื่นกิน ถ้ามากันสองคนมันก็คงตักให้ แต่นี่ไม่ได้ บริการมากไปมันเกินเพื่อน
“...วุธกับเอ้รู้จักกันมานานยังครับ...” ผมแทบสำลักน้ำต้มยำ วุธหันมามองผมนิดนึงก่อนตอบ
“...ตั้งแต่เรียน ปวช. อ่ะครับ...” พี่พีททำหน้างง ๆ
“...ตอนจบมาได้เป็น Vocational Certificate เทียบเท่า ม. 6 อ่ะครับ เราเรียนสายอาชีพ...ผมเรียนพาณิชย์...วุธเรียนช่าง...” ผมอธิบาย
“...อ้าว...แล้วมารู้จักกันได้ไงล่ะครับ...” คราวนี้วุธเป็นฝ่ายสำลักบ้าง ผมอดไม่ได้ที่จะยื่นกระดาษทิชชู่ให้ ก่อนตอบพี่พีท
“...วุธมันชอบเพื่อนผม...ตอนเด็ก ๆ เราไปเที่ยว...ไปเมากันบ่อยครับ...” พยายามตอบให้แมนที่สุดแล้วนะเนี่ย
“...น่ารักดีเนอะ...เด็กพาณิชย์กับเด็กช่าง...แต่วุธเค้าไม่เห็นเล่าเรื่องแฟนเขาให้ฟังบ้างเลย...”
“...โหพี่...ผมก็กำลังดู ๆ กันอยู่...ถ้าคนอื่นรู้ว่าผมมีแฟนแล้ว...เรทติ้งผมก็ตกหมดดิ...” วุธพูดยิ้ม ๆ หน้าตาอย่างมัน พวกสาวโรงงานชอบกันนัก ปีใหม่ วาเลนไทน์ มันได้ของเยอะกว่าผมอีก
“...แต่ถ้าไม่รีบเปิดตัว...คนเค้าจะคิดว่าวุธไม่ชอบผู้หญิงนะ...” ผมกับวุธหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้ตั้งใจ
“...ไม่หรอกพี่...ไอ้วุธมันหม้อจะตาย...” ผมแก้ตัวให้ วุธได้โอกาสตบหัวผมหนึ่งที
“...อ้าว...ไอ้เวร...กูเสียหายนะโว้ย...” วุธแกล้งโวยวาย ผมตั้งท่าจะเถียงมัน แต่พี่พีททำให้ผมกับวุธอึ้ง
“...พี่ว่าวุธกับเอ้...ไม่ค่อยเหมือนเพื่อนกันนะ...” เราสองคนหันไปมองหน้าพี่พีททันที
“...ทำไมอ่ะพี่...” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน
“...ไม่มีผู้ชายที่ไหนเค้าพกรูปผู้ชายด้วยกันไว้ในกระเป๋าหรอก...” ผมหันไปมองหน้าวุธ
“...อ๋อ...ก็พี่เค้าถือกระเป๋าให้วันนั้นอ่ะ แล้วกระเป๋ามันหล่นของข้างในมันก็เลยกระจายออกมา...” วุธพูดเสียงเบา
“...โธ่พี่...อย่าคิดมากดิ...ผมยังมีรูปมันในกระเป๋าเลย...จะดูปะ...ไม่ได้มีรูปมันคนเดียวด้วย...มีทั้งกลุ่มเลย...” ผมแก้ตัวให้อีก
“...แต่วุธเค้ามีรูปเอ้คนเดียวเลยนะ...”
“...ก็วันนั้นผมบอกพี่ไปแล้วไงว่าลืมเอาออก...เฮ้ย...หรือว่า...เอ้...มึงแกล้งเอารูปมาใส่กระเป๋ากูอีก...” วุธหาเรื่องผมเพื่อเบี่ยงประเด็น ผมได้ทีตบหัวมันเอาคืน
“...จะบ้าเหรอ...กูก็เสียหายเหมือนกันนะโว้ย...”
“...พอครับพอ...ทานกันต่อเหอะ...พี่ก็ถามไปเล่น ๆ อย่างนั้นแหละ...ต้องขอโทษจริง ๆ ...ไม่ต้องคิดมากนะครับ...พี่ติดสังคมที่อเมริกา...เรื่องพวกนี้เค้าไม่ค่อยปกปิดกันเท่าไหร่อ่ะครับ...” พี่พีทพูดจบก็ก้มหน้าก้มตากิน...วุธขยับตัวจะถามให้เคลียร์ว่าพี่เค้าหมายความว่ายังไง แต่ผมสะกิดให้มันหยุด
*
*
*
.....เป็นการกินของแพงฟรี ๆ ที่น่าอึดอัดที่สุด...หลายคำถามที่ไม่ได้เล่าทำให้ทั้งผมและวุธอึ้ง หาคำตอบไม่ได้...พี่พีทก็เล่าเรื่องของเค้าให้ฟังบ้าง ยิ่งผมบอกว่าอยากไปเมืองนอก เค้าก็พูดว่าอเมริกาดีอย่างโน้นดีอย่างนี้...ในความคิดผม เค้าคงไม่ค่อยอยากอยู่เมืองไทยซักเท่าไหร่หรอก...และผีกับผีก็ดูกันออก...ยอมรับเลยครับว่าเขาแมนมาก ตั้งแต่ผมรู้จักเกย์มาเนี่ย ผมว่าเค้าแมนกว่าทุกคนเลย ไม่นับไอ้วุธนะครับ เพราะอย่างมันเรียกว่าเถื่อนจนคนนึกไม่ถึงว่ามันจะไม่ชอบผู้หญิง.....
“...เป็นไง...พี่พีทหล่อมั๊ยล่ะ...” วุธถามผมในรถขณะจะกลับบ้านกัน
“...หล่อว่ะ...แต่...” ผมว่าเค้าแปลก ๆ อันนี้ผมไม่ได้พูด ไม่อยากให้วุธไปสังเกตุเขา
“...แต่อะไร...”
“...ชอบถามอะไรให้ตอบไม่ได้...”
“...เค้าเรียบเรียงประโยคภาษาไทยไม่เก่งมั้ง...” วุธพูดขำ ๆ ก็จริงนะ เค้าชอบพูดไทยคำอังกฤษคำ เหมือนเค้านึกภาษาไทยไม่ออกว่าจะพูดอะไร เวลาเค้าพูดเร็ว ๆ บางทีฟังไม่รู้เรื่องเลยก็มี
“...ไม่ใช่...เหมือนเค้ารู้ว่าเราเป็นอะไรกัน...”
“...ไม่ต้องซีเรียสแล้วหละ...สังคมอเมริกันเค้าไม่แคร์กับเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหรอ...ถ้าเค้ารู้...มันก็ไม่เป็นไรหรอก...แต่ถ้าเพื่อนคนอื่นรู้ท่าทางจะเป็นเรื่องใหญ่...”
“...แล้วเค้าจะบอกคนอื่นหรือเปล่าอ่ะ...”
“...ผมว่าไม่นะ...”
“...ถ้าเค้าบอกล่ะ...”
“...ถ้าคนอื่นรู้เรื่องของเราปุ๊บ...เราก็แต่งงานกันเลยไง...ชิงสุกก่อนห่ามมาตั้งนาน...” วุธพูดขำ ๆ
“...ไอ้บ้า...” ผมหยิกต้นขามันแก้เขิน
“...โอ๊ย...” วุธร้องดังลั่นรถ กางเกงยีนส์ผ้าหนาขนาดนั้น โดนหยิกนิดเดียวไม่เจ็บซักหน่อย “...ดีนะว่าหยิกขา...ถ้าสูงกว่านี้...น้องผมใช้งานไม่ได้อย่ามาร้องทีหลังนะ...” วุธหันมาทำตาเชื่อมใส่ผม
.....วุธกลับมาเป็นคนเดิม คนที่ทำให้ผมหายเครียดได้ทุกครั้ง ต่างจากเมื่อตอนหัวค่ำที่เล่นเอาผมหัวหมุนไปหลายรอบ และถึงแม้จะเพลียค้างจากเมื่อวาน จากการทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า จากการออกไปตะลอนเมื่อช่วงค่ำ...แต่คืนนี้เราก็ได้ชิงสุกก่อนห่ามกันอีกครั้ง.....ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เราก็ได้เข้ารอบบ่ายแล้ว....เฮ้อ...เข้ารอบบ่ายตลอดไปต่างหาก.....
.
Such a feelin's comin' over me
There is wonder in most everything I see
Not a cloud in the sky
Got the sun in my eyes
And I won't be surprised if it's a dream
Everything I want the world to be
Is now coming true especially for me
And the reason is clear
It's because you are here
You're the nearest thing to heaven that I've seen
I'm on the top of the world lookin' down on creation
And the only explanation I can find
Is the love that I've found ever since you've been around
Your love's put me at the top of the world
Something in the wind has learned my name
And it's tellin' me that things are not the same
In the leaves on the trees and the touch of the breeze
There's a pleasin' sense of happiness for me
There is only one wish on my mind
When this day is through I hope that I will find
That tomorrow will be just the same for you and me
All I need will be mine if you are here

***********************************************************************************************

.....ขอบคุณทุกรีพลายที่ให้กำลังใจนะครับ ต้นเดือนงานยุ่งมาก แต่อีกหน่อยก็ดีขึ้น แล้วจะอัพให้เร็วกว่าเดิม และที่สำคัญ จะไปรีพลายที่เรื่องคนอื่นบ้าง...บอกตรง ๆ ว่าบอร์ดเข้ายากมาก เวลาโพสท์ทุกครั้งก็มีลุ้นทุกครั้งว่าจะติดมั๊ย...ขอบคุณสำหรับความพยายามที่เข้ามาช่วยดันเรื่องของผม...ขอบคุณที่ติดตาม...และรับรองได้ว่าผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง.....
.....น้องที่ถามเรื่องโรงแรมหรือเรื่องอื่น ๆ ที่คิดว่าผมพอจะช่วยได้ ส่งเมล์มาถามได้เลยนะครับ วันอังคารไปทำงานแล้วจะตอบให้.....
...เอ้...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

ยังน่ารักเหมือนเดิม ทั้งเอ้ และ วุธเลย

เป็นกำลังใจให้นะครับ รักกันนาน ๆ นะ

 o15

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เมฆฝนเริ่มก่อเค้าขึ้นมาอีกแล้ววว

ยังงายก็สู้ๆ ต่อไปนะคร้าบบบ

 :m5:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มีการแทคทีมกันโพสด้วยวุ้ยเรื่องนี้
สู้ต่อไปไอ้มดแดง อิอิ
 :a2:

คนโพสยังหมดแรง คนเขียนนี่ก็อึดนะ อิอิ
 :m4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้อ...สงสารพี่เอ้จัง

เปงแฟนกานแต่ก้อต้องนั่งช่วยกานปกปิด

แต่ยังไงก้อรักไปแล้วนิช่ายมั้ยฮะ

รักแล้วก้ต้องทนบ้างกับบางสิ่งบางอย่าง

ทนได้ก้อทนไปเนอะฮะพี่เอ้

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อย่าลืมนะฮะ

แล้วจะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
พี่พีท ต้องมีอะไรแน่ๆ  :try2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7

nartch

  • บุคคลทั่วไป
4. Take it easy
.....เวลาหนึ่งเดือนสำหรับรอบบ่ายในคราวนี้ผ่านไปเร็วมาก...น้องใหม่ทั้งสองคนผ่านโปรเรียบร้อย...ไม่ใช่เพราะผมเทรนดี...แต่เป็นเพราะน้อง ๆ ได้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง Learn right from wrong ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะกลัวน้องใหม่ทำงานผิด แล้วต้องตามแก้ไข...แต่ผมให้พวกมันลงมือทำ ส่วนผมจะยืนดูห่าง ๆ ผิดไม่ว่า แต่ต้องจำ และไม่ทำผิดซ้ำอีก.....
.....บรรยากาศในการทำงานสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ...พอพวกเรารวมตัวกันได้ก็มีเรื่องเม้าธ์ตั้งแต่ข่าวสารบ้านเมือง...หนัง...หรือแม้แต่เพลงลูกทุ่งที่มักจะเปิดกันตอนดึก ๆ ซึ่งตอนนั้นไม่มีอะไรดูเลย...ผมโชคดีที่มีเคเบิ้ลทีวีดู แต่ห้องของสองคนนั่นไม่มีดู พวกมันจะโทรมาบอกให้ผมเปลี่ยนไปดูช่องโน้น ช่องนี้ เวลามีพระเอกมิวสิคเพลงลูกทุ่งหล่อ ๆ ทำเอาผมต้องดูกับพวกมันไปด้วยจนเกือบจะร้องได้ทุกเพลงอยู่แล้ว.....
.....ก่อนไปทำงาน ถ้าวันไหนนัดกินข้าวกลางวันกับวุธที่แวบออกมาตอนพัก ส่วนผมก็ต้องแหกตาตื่นตั้งแต่ 10 โมงกว่า (ปกติตื่นเที่ยง) กินข้าวเสร็จ เหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมงถึงจะเข้างาน...ก็มีพวกมันนี่แหละที่เป็นเพื่อนเดินเล่นตามห้าง...ไปร้องคาราโอเกะซักชั่วโมงนึง...ซื้อขนมแอบใส่กระเป๋าเข้าไปกินหลังฟร้อนท์ตอนมืด ๆ.....
.....ทุกวันตอนเย็น ๆ แขกยังไม่เยอะเท่าไหร่ พวกเราจะแปลงร่างเป็นเดสทินี่ส์ ชายด์ บ้าง เป็นชาลีส์ แองเจิ้ล บ้าง ไม่เว้นแม่แต่คุณกาละแมร์และเพื่อนผู้หญิงถึงผู้หญิง...ผู้จัดการของผมถึงกับเอามือกุมหัว...คิดว่าพากันเล่นจนไม่เป็นอันทำงานแน่ ๆ.....แต่ผลงานของพวกผมกลับดีกว่ารอบอื่น...แขกชมในความ Friendly ถึงขนาดขอชื่อไปเขียนลงในใบแสดงความเห็น...พวกเราดูแลแขกเป็นอย่างดี (โดยเฉพาะผู้ชาย)...ผมเหมือนเป็นพี่ใหญ่คอยดึงพวกมันเอาไว้ เวลาเริ่มเล่นกันจนเกินขอบเขต.....
.....เลิกงานน่ะ...ไม่เที่ยวก็ได้ แต่ขอหากินอะไรหน่อยละกัน...ตรงไหนมีอะไรอร่อย ๆ กินตอนกลางคืน พวกผมไปหมด...ยิ่งวันไหนมีแขกให้ช่วยพาไปเที่ยว...วันนั้นจะยิ่งสนุก...ก็มีข้ออ้างในการไปเที่ยวอ่ะดิ...แต่ผมจะโทรบอกวุธทุกครั้งนะครับ...ไม่อยากให้มันนอนรอที่โซฟาชั้นล่าง.....
“...ตกลงเดือนหน้าอยู่รอบไหน...ตารางออกยัง...” วุธงัวเงียถามผมทันทีที่ลืมตาในเวลาเกือบตี 1 ที่ผมเพิ่งกลับถึงบ้าน...ผมอึ้งไม่รู้จะตอบยังไง
“...อ๋อ...อยู่รอบบ่ายอีกเดือนนึง...” ผมพูดปัด ๆ แล้วเดินหนีเข้าครัว...ไม่บอกให้มันรู้ว่าจะได้อยู่รอบบ่ายตลอดไป
“...ทำไมเขาให้อยู่รอบบ่ายสองเดือนติดกันเลยล่ะ...” วุธเดินตามมา ผมรินน้ำใส่แก้วเผื่อ
“...ต้องอยู่คุมเด็กใหม่อ่ะ...” ผมพยายามโกหกมันให้น้อยที่สุด
“...เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ...” วุธพูดเสียงเรียบ
“...โห...เจอกันทุกวันก็เบื่อตายสิ...” ผมดึงแก้มมันทั้งสองข้างเพื่อให้มันรู้ว่าผมพูดเล่น แต่มันนิ่ง ไม่เล่นด้วย “...เอางี้...เดือนหน้าจะรีเควสหยุดวันเสาร์หรือไม่ก็วันอาทิตย์...ดีมั๊ย...” ผมพูดไปก่อนทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้หยุดหรือเปล่า
“...เสาร์...อาทิตย์...ผมก็ออกไปตีกอล์ฟ...แล้วจะได้เจอกันเหรอ...”
“...ก็ไปด้วยกันไง...”
“...งั้นวันเสาร์นี้...ไปกับผมนะ...”
“...จะบ้าเหรอ...ยังไม่ได้ลาเลย...” เรื่องหยุดงานสำหรับผมนี่ยากมาก ต้องลาล่วงหน้านาน ๆ แต่นี่อีก 2 วันก็จะถึงวันเสาร์แล้ว
“...ไปแค่ชลบุรีเอง...ไม่ต้องค้างด้วย...ทริปนี้คนไม่เยอะ...ไม่วุ่นวาย...เอ้น่าจะชอบนะ...” วุธทำหน้าหงอย ๆ ถึงจะไม่ชอบตีกอล์ฟ แต่เห็นวุธแล้วสงสารจัง
“...มีใครไปมั่งอ่ะ...”
“...มี......................................แล้วก็พี่พีท...” ผมเผลอทำตาโต....ไม่ให้หยุด กูก็จะหยุด เพราะชื่อคนสุดท้าย ผมตัดสินใจหาเรื่องลางานทันที
*
*
*
.....กว่าจะได้รับอนุญาตให้หยุด ผมต้องอ้อนวอนพี่เอฟโอตั้งนาน...เบสกับธี ห่วงอยู่อย่างเดียวคือ ของฝาก.....
“...พี่หยุดสองวัน...หวังว่ากลับมาคงไม่ได้ยินใครด่าพวกแกว่าทำงานห่วยแตกนะ...”
“...แหม...พี่เอ้อ่ะ...ไปเที่ยวให้สนุกเถอะ ไม่ต้องห่วงหนู...พี่เอ้ไม่อยู่เนี่ย ผู้ชายจะได้ตกถึงท้องหนูบ้าง...”
“...เค้าไปฮันนีมูนย่ะ...ไม่ใช่ไปเที่ยว...ยังไงก็อย่าหักโหมนะคะคุณพี่...” นังเบสแซว พวกนี้รู้ว่าผมมีแฟนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าถึงขนาดอยู่ด้วยกัน
“...อีนี่...ไปเที่ยวเฉย ๆ ไม่ได้ค้างด้วย...วันอาทิตย์พักผ่อนโว้ย...” ผมแย้ง
“...ไปเที่ยวก็ได้พักผ่อนนี่นา...อ๋อ...จะเปลี่ยนสถานที่...เปลี่ยนบรรยากาศเมคเลิฟแน่ ๆ เลย...”
“...แหม...คุณพี่ไปชลบุรี...ไปทะเลหรือเปล่า...อย่าทำอะไรกันที่หาดทรายนะ...มันแสบ...”
“...อีเบส...มึงก็คิดซะว่าใช้ถุงยางชนิดผิวขรุขระสิ...โอ๊ย...แค่คิดก็หอยฟูแล้ว...” พวกมันรวมหัวกันแซวผม
“...พอ ๆ อีพวกนี้...ไปดูสิ แขกจะเอาอะไร...” ผมไล่มันออกไปรับแขกที่มองมาทางพวกเรา
*
*
.....ทรมานสังขารมาก....คืนก่อนหน้าวันเดินทาง...กว่าจะเคลียร์งานเสร็จ...หาข้าวกิน...เดินทางกลับ...ถึงบ้านเที่ยงคืนกว่า...อาบน้ำ...ทำโน่นทำนี่ เตรียมของใช้สำหรับวันพรุ่งนี้...จัดกระเป๋าเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังออกรอบ...วุธลุกขึ้นจะเข้ามาช่วย แต่ผมไล่มันไปนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องขับรถ และเราต้องออกจากบ้านตอนตี 5.....
.....หมายความว่าผมต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 ...คืนนั้นได้นอนไม่ถึง 3 ชั่วโมง...นี่เป็นเหตุผลที่ผมต้องขอหยุดเบิ้ล 2 วัน เพราะวันเสาร์ผมต้องตื่นแต่เช้า ตากแดดทั้งวัน จะกลับกี่โมงยังไม่รู้....วันอาทิตย์จึงเป็นวันพักผ่อนของผม ไม่งั้นวันจันทร์แย่แน่ ๆ .....
“...เอ้...ไหวมั๊ยเนี่ย...ดูหน้าดิ...ย่นเชียว...” วุธพูดขำ ๆ เมื่อเห็นผมขึ้นรถด้วยท่าทางเหมือนคนละเมอ
“...ไหวดิ...เมื่อก่อนกลับบ้านตี 4 ยังไปเรียนต่อตอน 7 โมงเช้าได้เลย...”
“...แล้วตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ...” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่มัน หาว่าผมแก่อ่ะดิ
“...กว่าจะถึงชลบุรี...เราก็นอนได้พักนึง...ตื่นมาอีกที....หน้าตาก็ดีเหมือนเดิมเฟ้ย...” ผมชมตัวเอง เพื่อกลบเกลื่อนความกังวล เรื่องที่ต้องเผชิญหน้ากับพี่พีทในสภาพเยินแบบนี้
“...ไปข้างหลังสิจะได้นอนสบาย ๆ ...” วุธลงไปจัดเบาะที่เอนได้เกือบสุด ค่อยดูน่านอนขึ้นมาหน่อย
“...ก่อนถึงปลุกด้วยนะ...จะแวะปั๊ม...เข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาซักหน่อย...” ผมพูดกับวุธทั้งที่หลับตา......และหลังจากนั้นก็หลับไม่รู้เรื่องเลยครับ
*
*
*
.....แอร์เย็น ๆ ผ้าห่มเนื้อบางแต่นุ่ม...หอมกลิ่นแดดที่ผมตากไว้ก่อนวันเดินทาง...หมอนหนุนหัวรูปแตงโมผ่าครึ่งใบใหญ่...กับตุ๊กตาโดราเอมอนที่ผมชอบกอดเล่นเวลานั่งรถวุธ ตอนนี้มันเป็นเหมือนหมอนข้าง...เพลงเพราะ ๆ ที่ดังแผ่ว จนบางครั้งรู้สึกว่าเสียงเครื่องยนต์จะดังกว่าด้วยซ้ำ...แต่ก็เพลินดี...วุธไม่ปลุก แสดงว่ายังไม่ใกล้จะถึงที่หมาย...นอนต่ออีกหน่อยดีกว่า.....
.....เอ๊ะ...เสียงคนคุยกัน...โฆษณาในวิทยุมั้ง...แต่ที่ได้ยินมันเสียงวุธนี่หว่า...แล้วมันคุยกับใครอ่ะ...ผมกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อให้ชินกับแสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องเข้ามาในรถ.....
“...ตื่นแล้วเหรอ...” วุธทัก แต่ผมสนใจคนที่นั่งข้าง ๆ มากกว่า คนนั้นหันมาช้า ๆ
“...Good Morning ครับ...” ผมเหวอ เหมือนเห็นผี สะบัดหน้าแรง ๆ สองที
“...สวัสดีครับพี่พีท...” ผมพยายามเก็บความอับอาย ที่ต้องมานอนสลบไสลบนเบาะหลัง ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าพี่พีทขึ้นรถมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“...ตื่นก็ดีแล้ว...กำลังจะปลุกเลย...เดี๋ยวหาปั๊มให้...” วุธพูดกับผมโดยมองผ่านกระจก
“...หิวมั๊ยครับ...พี่ทำแซนด์วิชมาเผื่อด้วย...” ผมยิ่งเหวอ นี่แสดงว่าวุธรู้ล่วงหน้าว่าพี่พีทจะมารถคนเดียวกันกับผม แต่ไม่ยอมบอก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครเห็นสภาพโทรม ๆ แบบนี้
“...ตอนนี้ยังไม่หิวอ่ะครับ...จริง ๆ แล้วเอ้ก็เตรียมของมากินเหมือนกัน...แต่ถ้ารู้ว่าพี่พีทมาด้วยคงจะเอามาเยอะกว่านี้...” ผมแอบกัดไอ้วุธ ทั้งที่ขนมของผมสามารถกินได้ 4-5 คนเลยด้วยซ้ำ
“...งั้นเรามาแลกกันทานนะครับ...อยากลองชิมฝีมือเอ้จัง...”
“...ไม่ได้ทำเองครับ...ซื้อมาตั้งแต่เมื่อคืน...” ผมเริ่มหงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผล พูดจบก็มองไปข้างทาง ตอนนี้เงียบทั้งคันรถ ได้ยินแต่เสียงเพลงเบา ๆ
*
*
*
.....ไม่นานนัก วุธก็แวะปั๊มให้ผม...ทันทีที่รถจอด ผมก็หยิบกระเป๋าใบเล็ก พร้อมทั้งถุงขนมปังของโรงแรม อุตสาห์แอบหัวหน้า...ทิ้งน้องไปยืนกำกับเชฟที่ครัวเบเกอรี่ในโรงแรม เพื่อให้แน่ใจว่าขนมปังของเราใหม่จริง ๆ และที่สำคัญคุ้มเกินราคามาก อาศัยความสนิทสนมส่วนตัว พี่แกเลยแถมใส้ เพิ่มน้ำตาล ใส่ทุกอย่างที่พอจะแถมได้ให้ผม.....
.....โมโหวุธมากที่ไม่บอกว่าพี่พีทจะมาด้วยกัน ไม่งั้นผมก็ไม่นอนอืดแบบนี้ให้อุจาดหรอก...สภาพคนเพิ่งตื่นน่ะดูได้ที่ไหน หัวฟู หน้าเยิ้ม แถมท่านอนอย่างมีความสุขของผมอีก...เบาะหลังของมันยิ่งกว้าง ๆ อยู่ เรานอนกางแข้งกางขายังไงมั่งก็ไม่รู้ ภาพพจน์เสียหายหมด....ยิ่งคิดยิ่งโมโห...นัดแนะกันมาดีนัก ถึงขนาดเตรียมแซนด์วิชมาเผื่อ...งั้นขนมนี่ก็ไม่ต้องกินแม่งแล้ว...ขนมปังลูกเกดของชอบของมัน...โดนัทน้ำตาลชิ้นโต...คุกกี้ชอคโกแลตชิพถุงใหญ่...และขนมแบบอื่นอีก 2-3 อย่าง....ผมกำลังจะโยนของทั้งหมดทิ้งให้หมาจรจัดแถวนั้น มองรอบ ๆ ไม่เห็นมีหมาโผล่มาซักตัว งั้นกองไว้ข้างถังขยะตรงนี้แหละ ถุงจะหลุดจากมือแล้ว แต่ต้องชะงักเพราะเสียงวุธ.....
“...เอ้...เป็นอะไรอ่ะ...”
“...เป็นอะไร...หมายความว่าไง...” ผมหาเรื่อง
“...เมื่อเช้ายังดี ๆ อยู่เลย...ทำไมหงุดหงิดอ่ะ...”
“...แล้วทำไมไม่บอกว่าพี่พีทจะมาด้วย...” ผมเห็นหลังพี่พีทกำลังเดินเข้ามินิมาร์ทในปั๊ม ถึงได้กล้าพูดเสียงดัง
“...ก็บอกตั้งแต่วันนั้นแล้วไงว่าทริปนี้มีพี่พีทด้วย...”
“...ชั้นหมายถึง...ทำไมเค้าต้องมารถคันเดียวกับเรา...แล้วไอ้รถสปอร์ตคันละเกือบสิบล้านนั่นไปไหนซะล่ะ...” ผมเริ่มพาล
“...พี่เค้ากลัว...” วุธพูดเสียงจริงจัง
“...กลัวอะไร...”
“...ก็ผมเผลอไปเล่าเรื่อง...สมัยก่อนดาราคนนึงใช้รถแบบเดียวกับเค้าแล้วรถคว่ำอ่ะ...ออกจากรถไม่ได้เลยโดนไฟคลอก...ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเส้นทางเดียวกันกับที่เรากำลังจะไป...”
“...เหรอ...” เสียงผมอ่อนลง แต่ก็ยังเคืองมันอยู่ “...ทีหลังก็บอกก่อนนะ...เรานอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว...ละเมอพูดอะไรออกไปบ้างหรือเปล่าเนี่ย...และที่สำคัญ...รับไม่ได้...ให้เค้าเห็นสภาพอุบาทว์ของเราอ่ะ...” ผมยิ้มได้แล้ว
“...ไม่ต้องเก๊กหรอก...ตอนเอ้อยู่บ้านโทรม ๆ ผมว่าน่ารักกว่าตอนใส่สูททำงานซะอีก...”
“...ไอ้บ้า...” ผมเขิน ลืมตัวเอาถุงขนมฟาดไหล่มัน
“...โห...ของดี ๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะ...อย่าทิ้งเลยนะ...ผมหิวแล้ว...เดี๋ยวเข้าไปซื้อนมก่อน...” วุธแย่งถุงขนมไปจากมือผม ซึ่งจริง ๆ แล้วผมก็ให้มันนั่นแหละ ได้ยินเสียงวุธตะโกนมาว่าให้รีบ ๆ เข้าห้องน้ำ แล้วมันจะซื้อนมเผื่อผมด้วย
*
*
.....ล้างหน้าล้างตา...โปะครีมกันแดด...ซับส่วนที่เยิ้มออก...ทาแป้งเด็กทับนิดหน่อย...ริ้วรอยความอ่อนล้าหายไปบ้าง...แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวพอแดดแรงขึ้น เราก็ใส่แว่นกันแดด ใส่หมวก แค่นี้ก็ไม่มีใครเห็นหน้าจริงของเราเต็ม ๆ...เฮ้อ...อยู่ใกล้ ๆ พี่พีทแล้วหมดความมั่นใจ...อดสงสัยไม่ได้ว่าพ่อแม่ของพี่เค้าหน้าตาเป็นยังไง ลูกถึงได้เกิดมาหล่อซะขนาดนี้.....
.....ผมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกสดชื่นขึ้น...มองไปที่ซุ้มสำหรับนั่งพักที่ทางปั๊มจัดไว้ให้ เห็นวุธกับพี่พีทนั่งกินแซนด์วิฃ มืออีกข้างถือนมคนละขวด และที่วางบนโต๊ะคือถุงขนมของผม ซี่งโดนวุธเปิดหมดแล้ว....ตายห่า....ป่านนี้พี่พีทรู้แล้วแน่ ๆ ว่าผมทำงานที่ไหน ก็ชื่อโรงแรมกับโลโก้บนถุงนั่นชัดแจ๋วซะ ขนาดผมยังเดินไปไม่ถึงโต๊ะ ยังเห็นเลย.....แต่ไม่เป็นไรหรอก...ผมแค่ไม่อยากให้เขารู้เรื่องส่วนตัวของผมมากเกินไป...ไม่ได้คิดจะสนิทอะไรด้วยขนาดนั้น...เราเหมือนกับอยู่คนละโลกด้วยซ้ำ.....
“...ขอบคุณครับ...” ผมอารมณ์ดีขึ้นมานิดนึงจึงได้ยอมรับแซนด์วิชจากพี่พีทมากิน “...พี่พีททำเองเลยเหรอ...”
“...ครับ...ตอนที่อยู่โน่น...พี่ชอบทำอาหารง่าย ๆ กิน...ยิ่งตอนอากาศหนาว ๆ พี่ซื้อของมาเก็บไว้ทำกินได้ทั้งวีคเลย...”
“...นี่เอ้มันก็ชอบทำกับข้าวนะพี่...ไข่พะโล้...แกงส้ม...ต้มจับฉ่ายของมันกินได้เป็นวีคเหมือนกัน...” วุธได้ทีกัดผม พี่พีทยิ้มนิด ๆ ในใจผมอยากเถียงจะตาย ตัวมันนั่นแหละชอบกิน ผมจะเททิ้งตั้งแต่วันที่สองแล้ว แต่วุธมันห้ามไว้ มันบอกว่าผักเปื่อยดี ยิ่งหลายวันยิ่งอร่อย
“...ไม่ได้หรอกพี่...ต้องประหยัดนิดนึง...เก็บเงินไว้แต่งงาน...ชิงสุกก่อนห่ามมาตั้งหลายทีแล้ว...” ไอ้วุธหน้าแดง
“...เอ้มีแฟนแล้วเหรอ...” พี่พีทถามโพล่งขึ้นมา ผมกับวุธมองหน้ากันแวบนึง
“...ก็ดู ๆ กันอยู่อ่ะครับ...” ผมตอบเลี่ยง ๆ
“...ทำไมไม่พามาเที่ยวด้วยล่ะ...” ผมอึ้ง อยากจะบอกเหลือเกินว่า ก็มันนั่งอยู่ตรงหน้านี่ไง แฟนผม
“...เค้าไม่ค่อยมีเวลาน่ะพี่...”
“...เค้าหรือเอ้ที่ไม่มีเวลา...พี่เคยได้ยินใครซักคนพูดว่า...คนที่ทำงานไม่เป็นเวลาอย่างพวกพนักงานโรงแรม หรือพวกสายการบิน ชีวิตรักมักจะไม่ยืดนะ...เอ้ว่าจริงหรือเปล่า...” ไม่ได้คิดไปเองนะครับ สายตาที่พี่พีทมองมา มันดูแล้วแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ และเสียงที่พี่เค้าถามฟังดูจริงจังซะจนผมงงว่าแกมาอารมณ์ไหน
“...เรื่องเวลามันก็มีส่วนนะพี่...แต่ผมว่ามันขึ้นอยู่ที่ใจของแต่ละคนมากกว่า...คนเราถ้าไม่ซื่อสัตย์กับคนรัก...ต่อให้ทำงาน 9 to 5 หรือบางคนทำงานที่เดียวกัน มันก็หาทางนอกใจได้...ผมไม่กลัวเรื่องเวลาหรอก...แต่ผมกังวลกับพวกมือที่สามมากกว่า...ถ้าผมเลิกกับแฟนเพราะเรื่องเวลา...เพราะผมไม่มีเวลาให้...เลิกกันด้วยความเข้าใจ...ผมก็จะยังรักและรอให้เขากลับมา...แต่ถ้าเราเลิกกันเพราะมือที่สาม...แถมแอบมาสวมเขาให้ผมล่ะก็...ต่อให้ตายก็ไม่ไปเผาผี...” ผมเน้นที่ประโยคหลัง...พี่พีททำหน้างง ๆ คงไม่เข้าใจความหมายในคำพูดที่ผมพยายามใช้ศัพท์ภาษาไทยยาก ๆ ซึ่งเป็นการขู่ไอ้วุธไปในตัว มันก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ เพราะรู้ว่าผมพูดจริงทำจริง

nartch

  • บุคคลทั่วไป
5. Again ?
.....สำหรับเรื่องความรักแล้ว ผมว่าทุกคนน่าจะมีสัญชาตญาณที่จะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง หรือเริ่มรู้สึกว่าความรักของเรามีอะไรไม่ชอบมาพากล.....ผมก็เช่นกันที่สังเกตเห็นความผิดปกติ.....ถึงแม้ว่าวุธยังดูเป็นไอ้วุธคนเก่า น่ารัก ขี้เล่น กวนตีนบ้างบางครั้ง แต่ผมรู้สึกได้ว่าวุธมีอะไรปิดบังอยู่ และเนื่องด้วยเวลาที่อยู่ด้วยกันมีไม่มาก...ช่วงนั้นแทบไม่ได้คุยกันแบบ Face to face เลย ขนาดวันหยุดแท้ ๆ ยังไม่ค่อยได้เจอต่างคนต่างมีธุระต้องทำ แถมยังไม่ได้หยุดวันเดียวกันอีกด้วย ถ้าจะคุยยาว ๆ ก็ต้องเป็นทางโทรศัพท์เท่านั้น.....
.....กว่าผมจะเลิกงานในรอบบ่าย...กว่าจะถึงบ้าน เกือบเที่ยงคืน ถ้าหาอะไรกินกันไกลหน่อย ก็ถึงบ้านตี 1 วุธเข้าใจว่าเลิกงานเวลานั้น มันหาข้าวกินยากมาก...ดึก ๆ แถวบ้านก็ไม่มีอะไรขาย ถ้าไม่แวะซื้อก็อด...วุธเคยลองซื้อข้าวแกงถุง ๆ หรือไม่ก็ก๋วยเตี๋ยวเก็บไว้ในตู้เย็น เวลาผมกลับมาก็เวฟกินได้เลย...แต่ไอ้วุธมันก็ชอบตื่นมานั่งสะลึมสะลือเป็นเพื่อนผม....ทำได้ไม่กี่วัน ผมต้องสั่งให้วุธหยุดซื้อเพื่อไม่ให้ทรมานทั้งตัวมันและผม...วุธไม่ต้องตื่นมากลางดึก ส่วนผมก็ไม่ต้องทนกินอะไรที่บางทีไม่อยากกินแต่ก็ต้องกินเพราะกลัววุธเสียความรู้สึก (เคยเป็นกันมั๊ย...บางวันอยากกินข้าว บางวันอยากกินพวกเส้น ๆ บางวันก็อยากกินจืด ๆ บางวันก็อยากกินเผ็ด ตอนวุธโทรถามเวลาจะซื้อว่าอยากกินอะไร ผมก็ตอบไม่ได้หรอกครับ ต้องรอให้หิวก่อน).....
.....ทำงานรอบบ่ายติดกันมาเกือบสองเดือนแล้ว...ตอนนี้ผมให้วุธไปนอนบนห้อง แทนที่จะมานอนรอที่โซฟาเหมือนแต่ก่อน แปลกจัง วุธมันไม่ดื้อ ยอมขึ้นไปนอนแต่โดยดี ทั้งที่เมื่อก่อนมันไม่ยอมง่ายอย่างนี้หรอก มันบอกว่าผมกลับมากี่โมงมันจะได้รู้เวลาที่แน่นอน เป็นการคุมไปในตัว กลัวผมจะแอบเที่ยวอ่ะดิ.....
*
*
*
“...ฮัลโหล...วุธ...คืนนี้ไม่ต้องรอนะ...” ผมโทรหามันตอนสองทุ่มกว่า ๆ ของคืนวันศุกร์ ซึ่งมันมักจะนั่งเล่นเกมส์รอ หรือถ้าเป็นเมื่อก่อนมันก็จะอาสามารับที่โรงแรม เพราะวันรุ่งขึ้นไม่ต้องไปทำงาน
“...ทำไมอ่ะ...ไปเที่ยวไหน...” วุธถามเสียงเข้ม
“...เปล่า...ไม่ได้ไปเที่ยว...แต่ต้องควงกะ...คนทำรอบดึกไม่สบาย เราต้องทำงานต่อถึงเจ็ดโมงครึ่ง...”
“...เฮ้ย...แล้วเอ้จะไหวเหรอ...”
“...ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละ...ทำไงได้อ่ะ...ไม่มีใครอยู่ให้เลย...แต่พรุ่งนี้ได้หยุดนะ...”
“...งั้นพรุ่งนี้เช้าผมไปรับนะ...”
“...เออดีเหมือนกัน...ไม่งั้นต้องคลานไปเรียกแท็กซี่กลับบ้านแน่ ๆ...” ผมได้ยินเสียงวุธหัวเราะเบา ๆ “...ปิดบ้านใส่กลอนไปเลยนะ...ก่อนนอนดูปลั๊กไฟ ดูน้ำในห้องน้ำ ดูแก็สด้วย...” ผมสั่งให้มันทำหน้าที่แทนผม
“...ครับคุณนาย...” วุธทำเสียงล้อเลียน
“...ดีมาก...งั้นแค่นี้นะ...”
“...เดี๋ยว...”
“...อะไร...” ผมต้องรีบพูดเพราะเห็นแขกเดินตรงเข้ามาหาแล้ว
“...ถ้าง่วงก็นอนซะนะ....อย่าไปทะเลาะกับแขกล่ะ...” วุธเตือนเพราะรู้ดีว่าเวลาผมง่วงหรือหิวนี่อารมณ์จะขึ้นง่ายมาก แต่นั่นมันเมื่อก่อนนะ
“...จ้า...Goodnight นะจ๊ะ...” ผมรีบวางหูโทรศัพท์เพื่อรับแขกที่เข้ามาเช็คอิน ส่วนอีกะเทยเด็กทั้งสองคน นั่งกินขนมอยู่หลังฟร้อนท์ ฃ่วงเวลานั้นแขกไม่ค่อยเยอะก็เลยอู้กันได้
*
*
“...พี่เอ้...ไปนอนเอาแรงเถอะ...คืนนี้ต้องควงรอบไม่ใช่เหรอ...”
“...ไม่ต้องห่วงข้างหน้าหรอกพี่...เดี๋ยวโฟร์กับมดดูแลเอง...” วันนี้อีสองคนนี่อยากเป็นโฟร์-มด
“...ไม่เอา...พี่ไม่ชอบให้ใครเห็นสภาพตอนนอน...ขนาดอยู่ดึกพี่ยังไม่เคยนอนเลย...”
“...อีเบสมันก็ไม่อยากให้ใครเห็นตอนมันนอนเหมือนกันนะพี่เอ้...มันก็เลยชอบไปนอนในโลง...” นังธีพูดเสียงเบา แต่ก็ดังพอให้เพื่อนได้ยิน
“...อีเหี้ย...กัดกูอีกแล้ว...ใครจะเหมือนมึงล่ะ...อีธี...ชอบนอนอวดชาวบ้านที่ข้างถนนเนี่ย...คนเค้าไม่อยากเห็นภาพอนาจก็เลยหาหนังสือพิมพ์มาห่มให้มึงซะงั้น...”
“...อีดอก...กูยังไม่ตาย...”
“...เอ้า...กัดกันอีกแล้ว...กินข้าวกะละมังเดียวกันแท้ ๆ...ถ้าไม่เลิกกัดกันเดี๋ยวชั้นจะเอาน้ำร้อนมาสาด...”
“...หนูไม่ใช่หมานะ...” อีสองคนนี่พูดพร้อมกันได้
“...อ้าว ก็เห็นสุมหัวแดกลอดช่องกะละมังเดียวกันเมื่อกี้แหม็บ ๆ กัดกันซะแล้ว...”
“...แหม...พี่เอ้อ่ะ...ถ้าพวกหนูไม่กัดกันสิแปลก...”
*
*
“...เอ้...” เสียงเรียกนั้นดังจนทำให้ผมสะดุ้ง
“...เฮ้ย...มาได้ไงวะ...ป่วยไม่ใช่เหรอ...” ผมหันไปตามเสียง เจอกับเพื่อนรอบดึกคนที่โทรมาลา แล้วผมต้องควงรอบให้
“...มึงไม่ต้องควงแล้ว...ดีใจปะ...”
“...อ้าว...ทำไมอ่ะ...”
“...ก็กูหายแล้ว...” มันลอยหน้าลอยตาพูด
“...เมาค้างสิมึง...ถ้าไม่ไหวกูควงให้ได้นะ...”
“...ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจเว้ย...”
.....พออีสองคนนั่นรู้ว่าผมไม่ต้องควงรอบ มันก็หาเรื่องชวนผมเที่ยวเลย...ตอนแรกว่าจะกลับบ้าน แต่คิดอีกที ไปเที่ยวดีกว่า ไหน ๆ วุธมันได้นอนแบบไม่ต้องกังวลว่าผมจะกลับดึกแค่ไหนซะที...อย่างมากก็โดนบ่นตอนโทรไปปลุกให้มันลุกมาเปิดประตูให้...แต่เราก็อ้างว่า พาแขกไปเที่ยวก็ได้นี่ แถมมีน้องสาวไปอีกสองคนไว้เป็นไม้กันหมา ถ่ายรูปเป็นหลักฐานเหมือนทุกครั้งมันก็ไม่ว่าอะไรมากหรอก ผมคิดเข้าข้างตัวเอง ถ้ามันจะด่าก็เพราะผมไม่บอกล่วงหน้า แต่ผมก็บอกได้ว่ามันดึกเกินไปที่จะบอกแล้ว ไม่อยากให้วุธเป็นห่วง.....
.....เลิกงานห้าทุ่ม...พวกผมล้างหน้าล้างตารอตั้งแต่สี่ทุ่มครึ่ง อีสองคนแต่งหน้าฉ่ำโบ๊ะ เตรียมตัวเดินทาง แค่เปลี่ยนชุดก็ไปแรดได้แล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา...คืนวันศุกร์อย่างนี้ ไปช้าอาจเข้าร้านไม่ได้....แต่นาทีนั้นก็ยังตกลงกันไม่ได้อยู่ดีว่าจะไปไหน...อีเบสอยากไปแถว อ.ต.ก. อีธีอยากไปหลังสวน เราเลือกไปในย่านเกย์ เพราะคืนนี้มีเราแค่ 3 คน ขอไปที่ชาวเราหน่อยละกัน.....ไม่ได้ไปแดนซ์ในสถานที่แบบนี้มานาน ก็ถ้าพาแขกไปเที่ยว เราคงไม่กล้าพาไปที่ที่เราชอบหรอก.....
.....อีสองคนนั้นยังเลือกไม่ได้ว่าจะไปไหน เดินเถียงกันตั้งแต่หลังฟร้อนท์ ห้องล็อกเกอร์ จนมาถึงข้างถนนเพื่อเรียกแท็กซี่หน้าโรงแรม.....
“...นับหนึ่งถึงสิบ ถ้ายังตกลงกันไม่ได้....ชั้นจะพาพวกหล่อนไปเอง...” ผมเริ่มนับช้า ๆ มันก็ยังเถียงกันไม่จบ....พอนับครบ ผมก็โบกมือเรียกแท็กซี่ ก้าวขึ้นรถแบบไม่รอพวกมันเลย
“...ไปสีลมครับ...” ผมบอกโชเฟอร์ อีสองคนหน้าเหวอ ไม่คิดว่าผมจะพาไปสีลม
“...พี่เอ้...หยาบคายอ่ะ...คืนนี้หนูไม่เริ่ด...อุตส่าห์ตัด Choice สีลมออกไปแล้วยังจะไปอีก...”
“...ก็เพราะไม่มีช้อยส์สีลมไงชั้นถึงได้พาหล่อนมา...” ผมหัวเราะเบา ๆ อีพวกนั้นสามัคคีสำรวจความงานให้กันและกัน โชเฟอร์ได้แต่มอง แกคงประหลาดใจ ก็ก่อนขึ้นรถยังดูเป็นแมนกัน ไป ๆ มา ๆ ตอนนี้สาวแตกนั่งเบียดกันเป็นปลากระป๋องอยู่เบาะหลัง ช่วยกันจับผมสั้น ๆ เซ็ตให้เข้าที่เข้าทาง
*
*
*
....คืนวันศุกร์...ถนนสีลมซอย 2 ร้านไหน ไม่บอกนะครับ...แต่ทุกคนก็คงรู้อยู่ว่าซอยนั้นคนเยอะมาก...เคยไปแล้วเข้าไม่ได้ก็มี...คืนนี้คนแน่นตั้งแต่หน้าประตู...พวกเราค่อย ๆ เดินเบียดผู้คนเพื่อขึ้นไปที่ชั้นบน และไปแลกดริ้งค์...เสียงเพลงดังชวนให้เต้นทั้ง ๆ ที่เพลงที่เปิดไม่ได้น่าเต้นเลย แต่บรรยากาศพาไป...ขอทำตัวเป็นคนโสดซักคืนเถอะ....
.....ไม่ได้มาร้านนี้นานจนลืมไปแล้วว่ามาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ บรรยากาศเดิม ๆ คนเที่ยวอลังการเหมือนเดิม...และผมก็อยู่มุมเดิมที่มองเวทีข้างล่างได้ชัดเจน...ยิ่งดึกคนก็ยิ่งแน่น...อยากจะเอาบัตรค่าเข้าไปแลกดริ้งค์ที่เหลืออีกอันนึงยังไม่กล้าเดินไปเลย...คนเบียดกันมาก คิดอยู่ว่าเบียดกันขนาดนี้...ถ้ามีมดลูกคงท้องไปแล้ว.....
.....ไม่เหมือนอีสองคนนั่น...เดินถือขวดเบียร์ร่อนไปทั่ว ทิ้งให้ผมยืนอยู่คนเดียว แต่ไม่นานผมก็เดินเบียดผู้คนเพื่อลงไปชั้นล่าง มองดูคนที่กำลังเต้นกันอย่างเมามัน...บางคนก็ขึ้นไปเต้นบนเวที...บางคนก็ขึ้นไปเต้นบนโต๊ะ...ทุกอย่างรอบตัวกระตุ้นให้ผมยิ่งรู้สึกสนุกขึ้นทุกที...กวาดตามองผ่านควันจาง ๆ หาตัวน้องสาวทั้งสองคนจะได้ลงไปแจมกันให้เต็มที่...แต่ผมก็ต้องตะลึง จ้องมองให้ชัด ๆ มั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาด...กลุ่มคนรูปร่างหน้าตาดีทั้งโต๊ะประมาณ 4-5 คน กำลังกระดกแก้วเหล้า เต้นกันสนุกสนาน แต่มีอยู่คนนึงที่ผมเห็นกำลังใช้แขนล่ำ ๆ ขาว ๆ โอบกอดผู้ชายหน้าคุ้น ที่ถึงแม้จะหันหลังให้ผมก็จำได้ว่าเขาเป็นใคร.....
.....ผมยืนนิ่งอยู่กับที่...รอให้คนคนนั้นหันด้านข้างมาให้เห็นชัด ๆ เพื่อให้มั่นใจเต็มร้อยว่าเป็นคนที่ผมไว้ใจ...คิดว่าป่านนี้คงนอนอยู่บ้านหลับสบายไปแล้ว....ไม่นานนัก เขาก็หันมา แต่ไม่เห็นผมหรอก...ผมอึ้ง...มันยิ้มตาเยิ้มเพราะฤทธิ์เหล้า หรือว่าเพราะอย่างอื่นกับคนที่ผมกลัวที่สุด...กลัวมากกว่าใครทุกคนที่เคยผ่านมาทำให้ผมระแคะระคาย.....
.....แปลกนะครับ ที่ตอนนั้นผมไม่มีความรู้สึกอยากจะร้องไห้เลยสักนิด...รู้สึกอย่างเดียวคือโกรธ...โกรธที่ไว้ใจ...โกรธที่มันมาเที่ยวในที่แบบนี้...โกรธที่มันมากับพี่พีท...โกรธที่มันปฏิเสธจะมาเที่ยวสถานที่แบบนี้กับผม...โกรธที่ห้าม...ไม่ชอบให้ผมเที่ยว...แต่ตัวเองมาได้...โกรธที่ทิ้งบ้าน...โกรธที่ปล่อยให้น้องหมาของผมต้องอยู่เฝ้าบ้านตัวเดียว...ผมพาลโกรธไปหมด.....
*
*
“...ฮัลโหล...อ้าวพี่เอ้...” นังเบสเดินออกมารับโทรศัพท์ที่ผมโทรหามันด้านหน้าร้าน แต่ต้องชะงักเพราะเห็นผมยืนหน้าบึ้งอยู่ มันกดสายทิ้ง
“...เป็นอะไรพี่...ไม่สนุกเหรอ...”
“...พี่จะกลับแล้ว...” ผมไม่ตอบ แต่พูดสั้น ๆ แค่นั้น
“...ทำไมอ่ะ...”
“...จะกลับด้วยกันหรือเปล่า...” ผมไม่ตอบอีก
“...มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิ...เดี๋ยวหนูไปตามอีธีแป๊บนึงนะพี่...”
“...พี่รอตรงโรบินสันนะ...” ผมพูดจบก็หันหลังเดินออกมาเลย
.....โชคดีแค่ไหนแล้วที่สองคนนั่นไม่รู้ว่าวุธหน้าตาเป็นยังไง พวกมันรู้แค่ว่าแฟนผมชื่อวุธ เพื่อนร่วมงานที่เคยเห็นไอ้วุธบรรยายรูปร่างหน้าตาซะเวอร์ จนนังสองคนกระสันอยากจะเจอมั่ง แต่ยังไม่มีโอกาส....ถ้ามันรู้จักไอ้วุธ และเห็นว่ามันหนีผมมาเที่ยวแบบนี้ ผมคงอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน...ถ้าตามอ่านกันมาคงรู้ว่าเรื่องเสียใจน่ะ ไม่เท่าไหร่...แต่เสียหน้านี่ ผมไม่ยอม....
.....ตลอดทางกลับบ้าน ผมนั่งเงียบ ไม่ล้อเล่นเหมือนขามา...จากการทำงานร่วมกันมาสักพัก...สองคนนั่นก็รู้ใจผม ปกติผมเป็นคนที่อารมณ์ดีตลอดเวลา ขนาดแขกด่ายังยิ้มได้...แต่ถ้าผมเงียบแบบนี้คงมีเรื่องร้ายแรงจริง ๆ .....
.....ทันทีที่ลงจากแท็กซี่หน้าบ้าน...ผมมองเข้าไปเห็นรถวุธยังจอดนิ่งอยู่...ไฟนีออนในบ้านทุกดวงดับสนิท เหลือไว้แต่ไฟดวงเล็ก ๆ ที่เปิดประจำตามจุดต่าง ๆ....ถ้าผมกลับมาจากทำงานตามปกติ ก็คงไม่คิดอะไร เพราะทุกอย่างเป็นเหมือนทุกวัน...เข้าไปในรั้วบ้าน น้องหมาของผมวิ่งเขามาตะกุย กระดิกหางดีใจที่เห็นเจ้าของ...มันกระโดดดึ๋ง ๆ ตามผมเข้ามา เกาะประตูบ้านรอผมไขกุญแจ.....
.....เปิดไฟ...มองไปรอบ ๆ ห้องรับแขก...เห็นโซฟาที่วุธมันเคยนอนรอทุกวัน...ผมนั่งลงด้วยความอ่อนล้า...น้องหมานอนหมอบข้าง ๆ ผมเอามือไปลูบหัวมันเบา ๆ ความรู้สึกต่าง ๆ ที่อัดอั้นมาตลอดทางกลับบ้าน ค่อย ๆ ถูกระบายออกมาด้วยน้ำตาหยดแล้วหยดเล่า ทั้ง ๆ ที่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเพิ่งจะบอกตัวเองว่า คราวนี้เราจะต้องไม่ร้องไห้...ผมยอมให้น้ำตาหยดแรกไหลออกมา เพราะความเหนื่อยจากการทุ่มเทเวลาให้งาน ความน้อยใจ คิดเลยเถิดไปถึงยอมให้วุธไปเจอคนที่ดีกว่า พี่พีทไม่มีอะไรเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว จะว่าไปเขาดีกว่าผมในทุก ๆ เรื่องด้วยซ้ำ....
.....นั่งเงียบ ๆ ได้ซักพัก ผมเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าว หิวตงิด ๆ มองนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนกว่าเกือบจะตี 1 แล้ว...ผมขึ้นห้องไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และลงมาหาอะไรกิน ซึ่งก็ไม่พ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่โชคดีที่มีอาหารทะเลแช่แข็งเหลือติดตู้เย็นไว้....นั่งกินข้าวคนเดียว ตามองโทรทัศน์ แต่ใจกลับคิดเรื่องที่เพิ่งเจอ...ถ้าวุธกลับมาเราจะทำยังไงดี.....
.....แต่ตอนนี้...ผมทำทุกอย่างให้เหมือนปกติ...ให้มันคิดว่าผมยังควงรอบทำงานต่อถึงเจ็ดโมงเช้า...ไฟทุกดวงถูกปิดเหมือนเดิม...เก็บรองเท้าซ่อนมิดชิด...ผมขึ้นไปนอนที่ห้องแม่...ลืมตามองฝ้าเพดานในความมืด วิธีแก้แค้น...คำพูดเจ็บ ๆ วนเวียนในหัว รอเวลาแค่ไอ้วุธกลับมาเท่านั้น.....
*
*
*
....ตีสองกว่า...เสียงรถจอดหน้าบ้าน...น้องหมาส่งเสียงงี๊ด ๆ ตามด้วยเสียงเห่ากรรโชกคนแปลกหน้า...เสียงเปิดประตูรั้ว...เสียงเปิดปิดประตูบ้าน...หรือแม้แต่เสียงคุย...เสียงหัวเราะดังขึ้นมาให้ผมได้ยิน...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดึกมากแล้ว ไม่มีเสียงอื่นรบกวน หรือผมตั้งใจฟังความเคลื่อนไหวของไอ้วุธกันแน่....
.....ผมยืนมือไม้สั่นด้วยความโกรธอยุ่หลังประตูห้องแม่ เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา เสียงเปิดประตูห้องนอนผม ตามด้วยเสียงพูดคุยสนุกสนานแต่จับใจความไม่ได้ เพราะเสียงนั้นมันยาน ๆ ยังไงไม่รู้...กล้ามากนะมึงที่พาคนอื่นเข้าบ้านกู...กล้ามากที่เอาคนอื่นมานอนเตียงกู...กล้ามากที่กินเหล้า ทั้ง ๆ ที่เคยบอกมันแล้วว่าไม่ชอบคนกินเหล้า...กล้านักใช่มั๊ย...เดี๋ยวมึงเจอกู.....
.....ผมเปิดประตูห้องแม่ให้เบาที่สุด...แสงไฟลอดออกมาจากห้องผม...มันไม่ปิดประตูซะด้วย...คงรีบมากอ่ะดิ...ทันทีที่ผมผลักประตูเข้าไป ร่างของคนที่ผมชื่นชมในความเพียบพร้อม และร่างของคนที่ผมรักที่สุดก็ผละออกจากกัน วุธถึงกับเซไปนั่งบนเตียง...แวบแรกที่เห็นหน้ามัน ผมรู้เลยว่ามันต้องกินเหล้าเข้าไปเยอะพอควร เพราะหน้ามันแดงก่ำ ตาเยิ้ม แต่ตอนนี้หน้ามันซีดจนเห็นได้ชัด.....
“...เอ้...” วุธครางเบา ๆ
“...อ้าว...ไม่ได้ทำงานรอบดึกเหรอ...” พี่พีททำหน้าตายถามผม
“...เปล่า...โชคดีที่รอบดึกมาทำงานได้...โชคดีจริง ๆ ที่ไม่ได้ควงกะ...” ผมพูดเสียงรอดไรฟันนิด ๆ อาจจะเป็นเพราะโตขึ้น จากตอนแรกที่คิดว่าจะวีนแตก แต่พอเห็นภาพตรงหน้าทำให้ผมปลงกับชีวิตรักของชาวเราที่ใครต่อใครตราหน้าไว้ว่ามันไม่มีทางยั่งยืน
“...เอ้...” วุธเรียก ผมได้แต่ตวัดสายตามองผ่าน แล้วหันไปพูดกับพี่พีทต่อ
“...ดึกมากแล้ว...ขอบคุณที่มาส่งวุธนะครับ...” ผมไล่เขาทางอ้อม ซึ่งก็ได้ผล
“...งั้นพี่กลับก่อนนะ...วุธ...เอ้...”
“...เดี๋ยวเอ้ไปส่ง...” วุธลุกขึ้นยืนทำท่าจะลงไปด้วย แต่โดนผมเบรกซะก่อน
“...ไปอาบน้ำซะ...” ผมไม่ได้พูดกับวุธด้วยเสียงหนัก ๆ อย่างนี้มานาน วุธชะงักแต่ก็เดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย...พี่พีทมองผมอึ้ง ๆ
“...เอ้ไม่ต้องไปส่งพี่หรอก...พี่เดินลงไปเองได้...”
“...ไม่เป็นไรหรอกพี่...เดี๋ยวเอ้จะได้จับหมาไว้...จริง ๆ แล้วมันไม่ค่อยได้กัดคนหรอก...มันเลือกกัดจะตาย...” ผมพูดขำ ๆ
*
*
*
.....หลังจากที่ส่งพี่พีทกลับบ้าน...ผมเดินขึ้นห้องช้า ๆ คิดทบทวนว่าจะทำยังไงกับวุธดี...เปิดประตูห้องเข้าไปวุธมันก็ยังอาบน้ำไม่เสร็จ รู้สึกว่าจะอาบนานผิดปกตินะ ผมเคาะประตู ได้ยินเสียงมันตอบกลับมา แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามันจงใจหลบหน้าผม...ก็ดี...ตอนนี้ยังไม่รู้จะพูดอะไรกับมัน...เอาไว้พร้อมก่อนดีกว่า....

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress: :impress:

ทำไมมันเป็นแบบนี้ว่ะ

 :เฮ้อ:  สองครั้งแล้วนะไอ้วุธ

มันก็เป็นอย่างงี้ อยู่คนเดียวต่อไปดีฝ่า

 o15 o15

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ทำไมวุธถึงทำแบบนี้ล่ะ ..........................เลว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
ผุ้ชาย มันก้เหมือนกันทุกคน

หรือจะให้ถูกก้คือ พวกรุกแม่งก้แบบนี้แหละ

เลวทุกคน เกลียดแทนพี่เอ้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

a22a

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมวุธเป็นคนแบบนี้ เสียแรงที่เชียร์ สงสารคุณเอ้ใจเย็นสุดๆ

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
นั่นสินะครับ  ทำไมวุธถึงทำแบบนี้

โดนเต็มๆ เลย   :m15:

"ผิดที่ฉันยอมยกใจให้เธอไป  ผิดที่ฉันยอมให้เธอเก็บไว้"

ออฟไลน์ slmzaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
:เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: สามครั้งที่วุธทำไห้เอ้เสียใจ      มันน่า...............ไห้ตาย:เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:

papae

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2:     เห็นมั้ยเอ้  มันทำให้เราเจ็บอีกแล้ว 

ฆ่ามัน ๆๆ ๆๆๆ   :เตะ1:

niph

  • บุคคลทั่วไป
ชนวนเหตุเป็นเช่นนี้เอง
 :เฮ้อ:
ถ้าพี่เอ้ควงรอบนี่ ......... ไม่อยากจะคิด

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มันเพราะอารายการนะ ทามัม้ยพี่เอ้ถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้วนะ

ยังไงก้อเข็มแข็งไว้นะฮะ

สักวันนะฮะพี่เอ้ที่มานจะเปงของเรา

ถ้าคิดว่าตัวเองทามถูก และคิดถูกแย้วก้อสุ้ต่อไปนะฮะ

เนมคิดว่าถึงจะเหงาสักหน่อยถ้าอยุ่คนเดียว แต่ไม่ต้องทรมานมากนัก

เนมก้อขออยุ๋คนเดียวนะฮะ  ไม่อยากอยุ่ให้ใครเหงว่าเราโง่เหมือนกานนะฮะ

ถึงชีวิตไม่มีรักกับใครสักคน  แต่ก้อยังมีคนที่เรารุ้ว่าเค้ารักเราอยู่นะฮะ

พ่อก่ะแม่เราไงฮะ

ยังไงก้อสุ้ต่อไปนะฮะพี่เอ้

แล้วมาต่ออีกนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะฮะ :m17: :m17:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
มันเพราะอารายการนะ ทามัม้ยพี่เอ้ถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้วนะ

ยังไงก้อเข็มแข็งไว้นะฮะ

สักวันนะฮะพี่เอ้ที่มานจะเปงของเรา

ถ้าคิดว่าตัวเองทามถูก และคิดถูกแย้วก้อสุ้ต่อไปนะฮะ

เนมคิดว่าถึงจะเหงาสักหน่อยถ้าอยุ่คนเดียว แต่ไม่ต้องทรมานมากนัก

เนมก้อขออยุ๋คนเดียวนะฮะ  ไม่อยากอยุ่ให้ใครเหงว่าเราโง่เหมือนกานนะฮะ

ถึงชีวิตไม่มีรักกับใครสักคน  แต่ก้อยังมีคนที่เรารุ้ว่าเค้ารักเราอยู่นะฮะ

พ่อก่ะแม่เราไงฮะ

ยังไงก้อสุ้ต่อไปนะฮะพี่เอ้

แล้วมาต่ออีกนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะฮะ :m17: :m17:

ซึ้ง ๆ คิดได้นะเนี่ย

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมวุธทำแบบนี้เนี่ย ไม่เข้าใจ เลยอ่ะ  :angry2: :angry2: :angry2: เซง  o9 o9

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

สงสัยเคลียร์กะวุธอยู่แน่ ๆ เลย

เคลียร์ไว ๆ นะ

 o15

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด