Part 65
ความเชื่อใจ.
.
.
.
.
.
สรุปสีกูเป็นจ้าวสปอร์ตเกมส์ คว้าแชมป์ถ้วยรวมได้ในที่สุด
เอาชนะสีเหลืองไปด้วยเหรียญทองสุดท้ายที่ได้จากขบวนพาเหรด ห่างกันเหรียญเดียว
ถ้วยรางวัลรวมไอ้พี่บอยประธานสีขึ้นรับจากผอ. น้ำตาคลอตอนพูดแสดงความรู้สึกออกไมค์เสียงสั่น
คงดีใจมากเพราะพี่เค้าม.5 ครั้งนี้ครั้งแรกที่ได้เป็นประธานสี
ผลงานออกมาดีขนาดนี้..ทำให้พี่แกและพวกพี่สต๊าฟทุกคนต่างน้ำตาคลอกันหมด
ยิ่งพี่กิ๊ปแล้วใหญ่ กอดกูร้องไห้ ดีใจที่ชนะเลิศขบวนพาเหรด และได้ถ้วยรวมมาครอง
ถึงจะพลาดถ้วยเชียร์ก็ตาม แต่รวม ๆ แล้วสีกูดีที่สุด ก่อนแยกย้ายกันกลับ
ไอ้พี่บอยประกาศนัดเลี้ยงพรุ่งนี้เย็นที่บ้านมัน โดยจัดกลางสนามหน้าบ้าน
สมาชิกสีกูกว่าห้าร้อยจุได้สบายมาก สนามบ้านมันกว้างมาก บอกเลี้ยงแบบค๊อกเทลอาหารบุฟเฟ่ต์
สั่งจากโรงแรมไอ้พี่บอมย์มัน ครอบครัวมันทำธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทระดับห้าดาวหลายสาขา
นัดไว้หกโมงเย็น แล้วพวกกูก็แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน สิ้นสุดภารกิจตลอดหนึ่งเดือน
จากนี้โรงเรียนหยุดอ่านหนังสือสอบ 1 อาทิตย์เปิดมาสอบกลางภาคเลย...........
.
.
.
หลังอาบน้ำทานข้าวเสร็จ พวกกูขอตัวพ่อสิงห์แม่อร ขึ้นห้องนอนเลย
ไม่อยู่ดูข่าวเหมือนทุกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าวันนี้เหนื่อยจากงานกีฬา ขอพักเลยดีกว่า
ท่านทั้งสองก็ไม่ว่าอะไร แถมไล่ให้มานอนอีก เข้ามาถึงห้องกูตรงเข้าห้องน้ำแปรงฟันก่อนนอน
กำลังยืนแปรงอยู่ มันเดินเข้ามาหยิบแปรงบีบยาสีฟันเสร็จยืนแปรงข้างกูเฉยซะงั้น ปกติไม่เคยทำ
กูมองมันในกระจก เสือกเลิกคิ้วใส่กูประมาณมีอะไร กูขี้เกียจใส่ใจเลยแปรงฟันต่อ
บ้วนปากเสร็จกำลังจะก้าวออกไป มันรั้งแขนไว้ ก่อนจะก้มบ้วนปากเรียบร้อยพูดว่า
“ไหนมาดูหน่อย แปรงสะอาดหรือเปล่า” พูดจบกูยังไม่ทันเข้าใจ ว่ามันจะทำอะไร
ก้มเอาปากประกบปากกู..อ้าปากถาม เลยได้โอกาสลิ้นมันสอดเข้าปากทันที
“อื้อ..ๆๆ!.” กวาดดุนต้อนลิ้นกู..สลับดูดเม้มคว้านจนทั่ว จนหายใจหายคอไม่ทันมือทุบไหล่มัน
ถึงค่อย ๆ ถอนปากออก
“เฮือก!..” สูดหายใจเกือบตาย
“เป็นบ้าไรพี่เนี๊ยะ?” เหวี่ยงแม่งล่ะ
“ก็บอกแล้วไง..พิสูจน์ก่อน แปรงฟันสะอาดเปล่า..อืม..โอเคสะอาด หอมหวานด้วย”
มีหน้ามากวนตรีนกูอีก...เดี๋ยวปัด!!
“อย่ามาเยอะพี่โต๋..คดียังไม่เคลียร์ จะสามทุ่มแล้วเหลืออีกยี่สิบนาที
หมดเวลาไม่ต้องพูดกันเลยจะบอกให้” พูดเสร็จกูหันหลังเดินหนีแม่งออกมาแหล่ะ..
ทำเป็นเนียนกะแกล้งให้กูลืมดิ อย่าหวัง..กูไม่มีทางหลงกลแม่งหรอก มันรีบเดินตามกูมา
ก่อนจะรวบตัวกูอุ้มขึ้นเฉยเลย
“เห้ย!..ปล่อย..เล่นบ้าไรเนี๊ยะ” กูแม่งเสียงแข็งให้มันปล่อยกูลง มันไม่ปล่อยกับพากูมาที่เตียง
ก่อนจะช้อนกูนั่งลงบนตัก ตอนนี้มันนั่งหอยขาตรงขอบเตียง กอดเอวกูไว้แน่นอีกตะหาก
“ก็นี่ไง...มาเคลียร์กัน..เอาล่ะ..เริ่มเลยดีกว่า จริง ๆ แล้วพี่คงไม่ต้องถามหรอกน่ะว่าตะเกียงเห็นอะไรมา
แล้วเกิดอะไรขึ้น ถึงมึน ๆตึง ๆกับพี่ ถ้าหากเข้าใจว่าพี่กับริต้าทำอะไรกันในคืน
ที่ค้างบ้านไอ้บอยแล้วล่ะก็ พี่จะบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น
จริงอยู่ริต้าแสดงออกชัดเจนว่าสนใจตัวพี่ แต่คืนนั้น..พวกพี่นั่งเล่นไพ่สลาฟกัน
แล้วริต้าเค้าเกิดปวดฉี่..แต่กลับกลัวผี เค้าชวนใครไปเป็นเพื่อนก็ไม่มีใครไปด้วย
เพราะติดลุ้นไพ่กันอยู่ จังหวะพี่ว่างนั่งดูไอ้บอมย์มันเล่นเฉย ๆ เค้าเลยขอร้องให้พี่ไปเป็นเพื่อนก็แค่นั้น
พี่อาจจะไม่อะไรมาก เลยทำให้ตะเกียงเข้าใจผิดได้ สบายใจยัง.” เอาว่ะ!..เมื่อมันไม่พูด
เรื่องที่ยิม..กูยอมถามก็ได้
“เรื่องนี้ก็หนึ่งเรื่อง แต่ไม่หนักเท่าเรื่องวันที่ชิงตะกร้อ..พี่ออกไปทำอะไรกับริต้ามา
ถือว่าตะเกียงพูดแล้วนะ” มันทำหน้าตาไหววูบแป๊ปหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ตะเกียงเห็น” ถามกูซะงั้น ถึงขนาดนี้แล้วก็นะ
“ใช่!..ตะเกียงตามไปดู เห็นกับตาตัวเอง..มีอะไรจะพูดไหม?” มันหลบตาเฉมองทางอื่น
ก่อนจะตอบกูว่า
“เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว...พี่คงจนปัญญาที่จะปฏิเสธ.........................................
ไปต่างจังหวัดก่อนนะค๊ะ...กลับวันที่ห้าค่ะ...ตอนนี้ชิ่งหนีนักอ่านทุกท่าน
คาดว่าอ่านตอนนี้ คงพากันยกเท้าเตรียมตืบคนเขียนกันแล้ว...แต่..จะอยู่ให้โดนเร่อะ!
โอ๊ะ..โอ....ใจรุ่มๆ อนุญาตให้แค่รุมด่านะเค่อะ....อิอิอิอิ....
Luk.