ยังแต่งไม่เสร็จ แต่ขอเอามาลงก่อนครึ่งนึง.......ดังนั้นเนื้อหาในตอนหน้าจะเป็นพาร์ท 2 ที่ต่อเนื่องกันนะคะ.....555+ พอดีเสาร์นี้กลับบ้าน จะมีเวลาแต่งต่อก็กลางสัปดาห์หน้า.....ไงก็เป็นกำลังใจด้วยนะคะ....งิงิ ตอน : สเน่ห์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (part 1)"ชั้นจะถามแกเป็นครั้งสุดท้ายนะ........................"
เสียงแหลมเล็กที่แฝงความเอาแต่ใจ.....เอ่ยขึ้นกับเพื่อนซี้อย่างสุดทนในค่ำคืนหนึ่ง.......บนเตียงขนาดสองคนในห้องพักที่เช่าอยู่ร่วมกัน
"แกเองก็ชอบพี่เค้าใช่มั้ย"
"บ้าเหรอ..........แกไปเอามาจากไหน นายเตี้ยนั่นอ่ะนะ ไม่มีทาง" เป็ดส่ายหน้าบื๋อ พลอยหันตะแคงข้างยื่นหน้าเข้าไปจนแทบจะแนบชิดใบหน้าของเพื่อน คิ้วได้รูปขมวดกันเป็นเลขแปด
"ก็แก...............ละเมอ"
"ห๊ะ...."
"ไม่ต้องมาห๊ะเลย.....แกอ่ะ ละเมอ ละเมอเรียกชื่อพี่เค้า หลายคืนแล้วด้วย สารภาพมานะยะว่าแกน่ะชอบพี่บู้"
เป็ดมองเพื่อนรักอย่างชั่งใจ ก่อนจะเบนสายตาไปยังฝ้าเพดาน.......ไอ้เพื่อนคนนี้ ลองได้มาเค้นเอาคำตอบตรง ๆแบบนี้.......เจ้าหล่อนคงนึกหวังถึงคำตอบที่ตัวเองพึงพอใจเอาไว้ในใจอยู่แล้วสินะ...แม้จะยังลังเลเรื่องรุ่นพี่ร่างเล็ก แต่สาวผิวแทนก็รีบปฏิเสธออกมาโดยเร็ว
"ละเมอ.....แค่ละเมอเนี่ยนะ แกก็เก็บเอาไปคิดเป็นตุเป็นตะ บอกตรง ๆ นะยะ ว่าชั้นไปฝันถึงนายนั่นเมื่อไหร่ ชั้นยังจำไม่ได้เล้ย.....คนเรามันก็ฝันไปได้เรื่อย ๆ แหละ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องที่อยู่ในใจหรอก คืนนี้ฝัน....คืนพรุ่งนี้ก็ฝันอีกเรื่อง แล้วฝันคืนนี้มันก็ถูกลืม ก๊ะแค่นั้นแหละ"
"ชั้นงง.......สรุปว่าแกชอบพี่บู้ใช่มั้ย"
เอ้า....อีนี่ โง่อีก......ให้ชั้นพูดซะยาว....
"เปล่า"
"ดีแล้ว............เพราะแกไม่มีสิทธิ........แกจะชอบใครนั่นมันก็เรื่องของแก.....แต่ผู้ชายคนนี้ชั้น............ห้าม.......ดำ ๆ ล่ำ ๆ อย่างแก ไม่เหมาะกับผู้ชายที่มีมาดอย่างพี่บู้ของช้าน"
อ้าวอีนี่.....พูดแบบนี้ก็สวยสิยะ......รู้จักนังเป็ดร้อยศพน้อยไปซะแล้ว......หล่อนเองก็ใช่ว่าจะตัวเล็ก ๆ......แล้วก็ถุยเหอะ ผู้ชายมีมาด ไอ้หมอนั่นอ่ะนะมีมาด ทั้งผอม ทั้งซีด แถมยัง..........อาาาาา หน้าท้องขาวเนียนของพี่บู้ อ๊ากกกก นังเป็ด โน ๆ ๆ ๆ ๆ
"เป็ดง่า....................นี่พี่เค้าก็หายหน้าหายตาไปเกือบๆ จะสองอาทิตย์แล้วน๊า ชั้นคิดถึง โทรไปก็บอกว่าป่วย จะไปเยี่ยมก็ไม่ยอม ทำท่าทางมีพิรุธชะมัด......." พลอยส่งเสียงง๊องแง๊งออกมาจนเพื่อนสาวต้องเอาหมอนปิดหูด้วยความรำคาญ
"ชั้นว่าชั้นแอบไปเฝ้าสังเกตุการณ์ที่อพาร์ทเม้นท์พี่เค้าดีมั้ย......ว่าพี่บู้แอบไปติดสาวที่ไหน แต่อ๊ะเค้าอยู่กับพี่บิ๊กนี่ แต่มันก็น่าสงสัยอยู่ดี แกว่าชั้นควรจะไปม๊ะ"
"เชิญ........"
"มันจะไม่น่าเกลียดเหรอ ก็ชั้นไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เค้าซักหน่อย แล้วไปทำละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของพี่เค้า"
"น่าเกลียดสิ"
"หึย.....ไอ้เพื่อนบ้า ช่วยได้เยอะเลยนะยะ"
พลอยว่าพร้อมกับงอนตุ๊บป่อง ฉวยหมอนข้างที่เพื่อนกอดก่ายอยู่เอาไปครอบครองซะเอง แถมยังหันหลังให้เป็ดแล้วซักพักก็................คร่อกกกกกกก
ขณะที่อีกสาวหนึ่งยังคงแอบเป็นห่วงนายบู้อยู่เงียบ ๆ
'มาเรียนได้แล้วอิตาพี่บู้......ขืนนายทำเพื่อนชั้นนอยด์ไปมากกว่านี้ ชั้นตามไปอัดนายให้เละถึงห้องแน่'
เป็ดพลิกตัวไปมาอย่างสับสน......ก็ไม่ได้อะไรกับพวกแกสองคนหรอกนะ ก็แค่รำคาญน่ะ!!!!!
.......................................................
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พี่บู๊....................พี่บู้จริง ๆ ด้วย ผมทรงนี้น่ารักอ่ะ เค้า....like.........มาให้หอมซักฟอดดิ๊ คิดถึง"
เสียงกรี๊ดลั่นซุ้มที่ห่างหายไปนานหวนกลับมาอีกครั้งด้วยเดซิเบลที่มากขึ้น และสายตางุนงงปนประนามที่เพิ่มจำนวนคู่ขึ้น
สาวร่างสูงฝังจมูกลงบนแก้มนิ่ม ๆ หยุ่น ๆ ซ้ายทีขวาที จับร่างเล็ก ๆ นั่นพลิกไปมาจนรุ่นพี่เวียนหัว มือเล็ก ๆ ดันตัวเองออกมาอย่างมึน ๆ
ก่อนจะเก๊กมาดนักเลง......
"ไรฟะน้องพลอย น่ารงน่ารักอ่ะไร พี่ออกจะเป็น.....................หึหึ แบดบอยซะขนาดนี้ ทักใหม่เดี๋ยวนี้เฟ้ย....นังหนูนมโต!!!!" (คนตัวเล็กตั้งแต่ได้ผมทรงนี้มาก็เริ่มทำเท่ห์เรี่ยราด.....เอะอะถ่มน้ำลายลงพื้น เอามือล้วงกระเป๋า จนโดนน้องบ้องไปหลายที พร้อมกับกำชับว่าถ้ายังไม่เลิกถ่มจะโดน......(เติมคำในช่องว่าง)....แบบคราวนั้นอีก ก็ได้ผลในระดับที่พอยอมรับได้)
"กรี๊ดดดด แบดบอย งั้นเค้าขอเป็นแบดเกิร์ลด้วยได้มั้ยอ่า......" สาวเจ้าว่าพลางเอาดูม ๆ ไปเบียดร่างผอม ๆ ของหนุ่มรุ่นพี่อย่างไม่ถือตัว แต่นั่นทำให้สิ่งมีชีวิตตัวดำ ๆทั้งสองคนถือสาขึ้นมาในทันที
“อึ๋มจัง.......ขอ Touch ได้มั้ยจ๊ะคนสวย”
“อ๊างงงงง....เอาสิเคอะพี่รูปหล่อ...จับเล้ย ๆ”
"ไอ้เชี่ยบู้/ไอ้บ้าพลอย" เป็ดและบิ๊กประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน "หยุด"
นายบิ๊กรู้สึกหงุดหงิดปนรำคาญใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกับไอ้ทรงผมทรงใหม่ของพี่ชาย ที่ไม่ว่าจะเยื้องย่างไปทางไหนก็มักจะถูกมองด้วยสายตาแปลก ๆ
ไอ้สายตาผู้หญิงที่มองมาน่ะ.....พอเข้าใจ
แต่ไอ้สายตาแบบนั้นที่ถูกส่งมาจากมนุษย์โครโมโซมเอ็กซ์วายที่เจอมาตลอดเช้านั่นน่ะ มันอาร๊ายยยยยยยย
ส่วนสาวดำอีกคนนั้นก็ชักจะทนพฤติกรรมเพี้ยน ๆ ของเพื่อนซี้ที่ชักจะหนักขึ้น ๆ จนเกือบ ๆ จะเรียกได้ว่า ‘ดื้อยา’ ของสาวพลอยไม่ได้เหมือนกัน
"แก ชั้นรู้ว่านมแกใหญ่ ใหญ่มาก แต่ช่วยเก็บให้มันเป็นที่เป็นทางเหอะ ชั้นขอ!!!!!!"
"หูย เซ็งว่ะ เพื่อนหรือแม่วะเนี่ย"
สองสาวเริ่มทุ่มเถียง(กันแบบไม่จริงจังแต่ว่าเสียงดัง) พอหันมาอีกที พี่ชายฝาแฝดตัวเล็กก็โดนน้องลากหนีไปไหนต่อไหนแล้ว
................
"บู้ เปิดหน้าเปิดตาแบบนี้ก็ดูน่ารักดีนี่" เสียงเพื่อน ๆ ที่รวมตัวกันอยู่หน้าห้องสอบ(ตอนนี้เป็นช่วงสอบกลางภาค) เข้ามารุมล้อมและทักทายสองคนพี่น้องอย่างไม่ขาดสาย
"บิ๊กนี่ท่าทางหวงพี่เหมือนกันเนาะ จับมือพี่ชายซะแน่นเลย" พวกผู้หญิงหัวเราะคิก ๆ แต่ทำให้บิ๊กเริ่มคิดไปไกล เฮ้ย ไม่นะ......นี่เรากับพี่ดูไม่เหมือนพี่น้องปกติธรรมดางั้นเหรอ.....หรือว่าทุกคนจะรู้แล้วว่าเรา....................โจ๊ะพรึม ๆกับไอ้หมา...
"พวกมึงซั่มกันยัง หายไปเป็นอาทิตย์ มาโผล่อีกทีเอาตอนสอบ" พวกเพื่อนผู้ชายปากหมา....เข้ามาแจม ก็จะใครซะอีก ถ้าไม่ใช่นายปากหมาคนเดิมที่เคยโดนสายตาอำมหิตของนายคิงคอง
“ไม่ตอบ.....แสดงว่าซั่มกันแล้วแหง พี่น้องท้องชนกันนี่เว๊ยเฮ้ย!!!! ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
"ซั่มเหี้ยอะไรมึง....เพ้อเจ้อแล้ว พี่สอบเสร็จแล้วรอเค้าอยู่ข้างหน้าห้องสอบนะ......รอให้เป็นที่นะพี่นะ"
"โหยเค้า.......เลี่ยนว่ะไอ้บิ๊ก"
บิ๊กชักฉุน ๆ........ก็พูดกับไอ้หมาแบบนี้มาตลอด......ก็เรียกมันพี่บ้าง ไอ้บู้บ้าง มึงบ้าง แต่ก็ใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า 'เค้า' มาตั้งแต่จำความได้ อะไรวะ ผู้ชายจะเรียกตัวเองว่า 'เค้า' ไม่ได้รึไง
"เออ......พวกมึงเลิกเพ้อได้ละ เอาเวลาไปสนใจเรื่องสอบเหอะ ไปไปเข้าห้อง" มือหนาดันหลังเพื่อน ๆ เข้าห้องสอบ เนื่องจากในวิชานี้ เลขทะเบียนของทั้งคู่อยู่ในจุดที่แบ่งห้องสอบออกพอดี ก็เลยไม่ได้นั่งใกล้ ๆ กันในห้องเดียวกัน แต่พี่ชายกลับหลุดไปนั่งสอบอีกห้อง
พี่ชายเองก็หงุดหงิด.............แล้วงี้จะแอบกระซิบถามใครฟะ......
.
.....
...............
“กระผมขอฝากตัวเป็นข้ารับใช้คุณชาคริต......ได้โปรดรับกระผมเป็นลิ่วล้อด้วยเถอะนะครับ”
หลังจากซอมบี้(สมอง)น้อยของนายราเชนทร์สอบเสร็จภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ออกมาเดินเต็ดเตร่ วนไปวนมาอยู่ที่ลานหน้าตึก.....(โดนอาจารย์ที่คุมห้องสอบเนรเทศออกมา)
หนุ่มตี๋หน้าตายไม่รอช้ารีบพุ่งตัวเข้าจู่โจมเป้าหมายแทบจะทันที
บู้มองผู้ชายที่กำลังคุกเข่ากุมมือวิงวอนอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกงง ๆ.....
งงแรก......ไอ้เชี่ยนี่รู้จักชื่อจริงกูด้วย
งงที่สอง..............ลิ่วล้อนี่มันแปลว่าอะไรฟะ
คล้าย ๆ กับเบ๊หรือขี้ข้าทำนองนั้นรึเปล่า
“ไอ้ตี๋นั่นมันคิดจะทำอะไรของมันอ่ะเป็ด” พลอยที่แอบยืนสังเกตุการณ์อยู่ห่าง ๆ เอาศอกกระทุ้งสีข้างเพื่อนรัก แล้วอีกไม่กี่อึดใจมะเหงกของเป็ดก็เขกป๊อกลงกลางกระหม่อม
“แกจะลากชั้นมาด้วยทำไมฟะ ไอ้สโตรกเกอร์เกิร์ล!!!!”
“บ้า ชั้นก็แค่มาซุ่มดู ว่าแต่ไอ้บ้านั่นเป็นใครนะ ไม่ได้อยู่ในสารบบเลยให้ตายดิ”
“แกเองก็ไม่ได้อยู่ในสารบบของนายบู้เหมือนกันแหละย่ะ”
“ว๊ายยยย พูดผิดพูดใหม่ได้นะเพื่อน ชั้นกับพี่บู้น่ะ จูจุ๊บกันอย่างดูดดื่มท่ามกลางแสงจันทร์อันร้อนแรงมาแล้วนะยะ”
“......”
บู้ยืนมองไอ้ตี๋ท่าทางเหมือนคนเพี้ยน ๆ อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง......จะลิ่วล้อ หรือขี้ข้า หรือว่าทาสรับใช้ อะไรก็ช่างเหอะ แต่ว่าคิดจะเป็นนักเลงมีมาดทั้งมีมันก็จำเป็นต้องมีพวกลูกกะจ๊อกคอยติดตาม......อย่างน้อยซัก..................อืม
ต้องเริ่มจากหนึ่งก่อนสินะ แล้วค่อย ๆ ขยายบารมี ขยายอาณาเขตการปกครอง แล้วต่อจากนี้ไปแก๊งค์ของบู้......แก๊งพญาเสือโคร่ง ไม่เอา....โหล!!! เอาเป็น..... แก๊งค์อสรพิษเขี้ยวน้ำเงิน......อ่า......เสร่อชิบ.......เอาเหอะ เรื่องชื่อแก๊งค์แล้วค่อยว่ากันทีหลัง…..
“ฮะแฮ่ม ยืนขึ้นเถอะ อาโซ๊ยตี๋” คนตัวเล็กเก๊กเสียงที่แหบห้าวอยู่แล้วให้ดูน่าเกรงขามเข้าไปอีก
“ผมชื่อเชนครับ ชื่อจริงชื่อนายราเชนทร์ ตกลงคุณชาคริตรับผมเป็นลูกสมุน.....ไม่สิ รับผมเป็นลิ่วล้อคอยติดตามรับใช้แล้วไหมขอรับ”
บู้เงยหน้ามองคนตรงหน้าทำท่าทางกระตือรือร้น.......ท่าทางไอ้หมอนี่มันน่ากลั่นแกล้งดีจริง ๆ
“เราหิวอ่ะเชนนี่ หาอะไรให้ลูกพี่กินหน่อยได้ม๊ะ”
“คุณชาคริตจะทานอะไรละครับ เดี๋ยวกระผมจะไปหามาให้ถึงที่เลยนะขอรับ”
“หอยเป๋าฮื้อ”
“อ่ะ...............อะไรนะขอรับ”
“หูฉลามน้ำแดง.........สเต๊คเนื้อสันสุกปานกลาง......สปาเกตตี้คาโบนาร่า........ไข่ปลาคาเวียร์กับไวน์ขาว..........ล้อเล่นน่า.......ดูทำหน้าเข้าดิ ดูหน้านายก็รู้แล้วว่าจนโครต เอางี้ เดี๋ยวลูกพี่คนนี้จะพาเชนนี่ไปเลี้ยงบะหมี่หมูทอดหน้ามอเราละกันเนาะ”
ร่างเล็กเดินนำหน้าลูกสมุนไปอย่างองอาจ หนุ่มตี๋หน้ามึนกระหยิ่มยิ้ม......แทบจะไม่ต้องใช้แผนการอะไรที่มันซับซ้อนเลยแฮะ เพราะพี่คือซอมบี้น้อยที่แสนซื่อของผม......ซื่อเกินกว่าจะตามใครทัน
ผมคนนี้ยอมเป็นทาสของพี่จริง ๆ ขอแค่ได้พี่มาเป็นของผม.....
“เป็ด.......แกจะไม่ทำอะไรซักหน่อยเหรอยะ ไอ้หมอนั่นน่ะ มันกำลังจะทำอะไรซักอย่างกับพี่บู้ของช้านนะเว้ยเฮ้ย”
“แล้วไงยะ”
“แกจะมายืนนิ่งไม่รู้ทุกข์รู้ร้อนแบบนี้ไม่ได้น๊า โน่น เค้าพากันไปไหนต่อไหนแล้ววววว”
“ก็แค่พวกเพี้ยนมาเจอกัน แล้วนายบู้มากกว่านะที่เป็นฝ่ายเดินนำหน้าเค้าลิ่ว ๆ น่ะ”
“ใจร้าย”
สาวผิวแทนทำท่าไม่สนใจรุ่นพี่ร่างเล็กได้ไม่นาน ความเป็นห่วงอยู่ในอกแบบลับ ๆ ก็แทบจะระเบิดออกมา ยิ่งได้เชื้อไฟชั้นดีจากความตื่นตูมของพลอยแล้ว ทำให้เป็ดแสร้งทำทีท่าตัดความรำคาญ ทั้งที่ใจเต้นระทึก
“เอ้า ก็ตามไปสิยะ ไม่ตามแล้วจะรู้มั้ยว่าเค้าไปไหนกัน”
“กรี๊ดดดด รักแกว่ะเป็ด”
..................................................................
ร่างสูงหงุดหงิด หลังจากเครียดกับการทำข้อสอบ
พักนี้มีเรื่องให้เครียดเยอะ ไหนจะติวพี่ชาย ไหนจะติวตัวเอง ไหนจะติวรุ่นน้อง ไปรับจ้างเป็นติวเตอร์ก็คงดี.........แล้วก็หงุดหงิดกับพี่ที่ชักจะเหลิงขึ้นกว่าเดิมอีกสองเท่า
แล้วนี่ไอ้หมามันไปไหนนะ บิ๊กหงุดหงิดที่ออกมาแล้วไม่พบพี่ชายตามที่นัดกันไว้ มือกดมือถือจะโทรหาพี่......แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ...
แบบนี้ก็ดีแล้ว มันอยากไปไหนก็ปล่อยมันไปสิ..................อีกอย่างคนอย่างไอ้หมาเคยรับโทรศัทพ์ใคร ตั้งสั่นเอาไว้แล้วก็ปล่อยให้มันนอนแอ้งแม้งอยู่ที่ก้นกระเป๋านั่นแหละ.....หนุ่มผิวเข้มบอกกับตัวเองในใจ แต่สุดท้ายก็หยิบขึ้นมากดโทรอีกจนได้
ตู๊ดดดดดดดดด.............................ตู๊ดดดดดดดดดดดด
ไม่มีคนรับ
ใจนึงอยากจะรีบกลับไปดูน้องห้องตรงข้ามที่วันนี้หยุดอ่านหนังสือ เพราะพักหลังดูจะซึม ๆ ไปเนื่องจากกำลังมีปัญหาอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังแอบเป็นห่วงพี่เล็ก ๆ
ไอ้ผมไถข้างนี่พวกเกย์ชอบตัดกันสินะ มิน่าเล่าถึงได้มีสายตาแปลก ๆ จากพวกกลิ่นตุ ๆ นี่ไอ้หมากลายเป็นสเปคในฝันของเก้งกวางไปแล้ว ไม่จริงใช่มั้ยยยย
พี่ไม่ได้น่ารักขนาดนั้น หน้าตาแบบนั้นใครชอบเข้าไปลงก็บ้าแล้ว ไอ้เด็กผีโทชิโอะนั่นมันควรจะเป็นของเค้า......
ของเค้าคนเดียวเท่านั้น
พี่คือของเล่น.....คู่ซ้อมของผม หมอนข้างของผม ตุ๊กตาของผม
อย่าเข้าใจผิด นี่ไม่ใช่เพราะมีใจรักใคร่ เพียงแต่หนี้ของเราที่ติดค้างกัน......พี่ยังใช้มันไม่ถึงสองเปอร์เซ็นต์เลยด้วยซ้ำ
ในนาทีสุดท้ายที่เปลี่ยนใจจะกดวาง พี่ชายก็รับสายเค้าด้วยน้ำเสียงระรื่น
ในนาทีสุดท้ายที่เปลี่ยนใจจะกดวาง พี่ชายก็รับสายเค้าด้วยน้ำเสียงระรื่น
“พี่อยู่ร้านบะหมี่หน้ามอ บุ๊กบิ๊กมาดิ”
To be Con……
...................................................................................................
หมายเลขสาม
ตัวประหลาดสุดรั่วอีกคนหนึ่งรองจากนายบู้ และน้องพลอยที่คนแต่งตั้งใจให้เป็นหนุ่มมาดหนุ่ม แต่ ๆ ไป ๆ มา ๆ กลายเป็น.....แบบที่เห็นเนี่ยแหละกร๊ากกกกก
นายเชน
ชื่อจริงว่าราเชนทร์ เดชดำรงค์กุล
สูง : 176 หนัก 57
ที่มาของชื่อ : แม่ของเชนเป็นคนชอบดูละครหลังข่าวแนวตบจูบมาก ๆ ส่วนใหญ่ที่ดูเพราะตกหลุมรักกับพระเอกของเรื่องที่มักจะหล่อและรวย ทั้งยังมีชื่อแซ่ที่ดูไฮโซ ท้องท้องจึงหมายมั่นปั้นมือว่าหากได้ลูกสาวจะตั้งชื่อว่าละอองดาว
หากมีลูกชายจะให้ชื่อราเชนทร์
นิสัย : เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยสูงสิงกับใคร แต่ก็เป็นคนติดพ่อและแม่ เป็นลูกแหง่เพราะถูกเลี้ยงมาแบบเอาใจ...........ช่างคิดช่างจินตนาการ และจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโลกที่ตัวเองสร้างขึ้น หมกมุ่นกับหนังเอวีชาย-ชาย มีสะสมเป็นคอลเลคชั่น รู้ตัวว่าชอบผู้ชายด้วยกันตอน ม.4 แต่ปัจจุบันยังไม่มีประสบการณ์ บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์
สเปคที่ชอบ : แนวโลลิคอน - เนโกะมิมิ ตัวเล็ก ผิวขาวและดูเหมือนเด็กประถม.....ประกอบกับคลั่งไคล้หนังประเภทผีดิบ ซอมบี้ เลยตกหลุมรักพี่บู้ตั้งแต่แรกเห็น
................