โพสต้อนรับคุณบอยค๊าบบบ รวมเล่มเมื่อไหร่ ชาวเล้าซื้อกันแน่ๆ
แต่ตอนนี้ มาอ่านต่อกันก่อนเลย
**********************************************************
“เฮ้ยเข้ามานอนได้แล้วต่อ ไปยืนตากลมทำไมวะ”
เอ็มตะโกนเรียกต่อที่กำลังยืนเปลือยท่อนบนรับสายลมอยู่ด้านนอก หลังจากที่ผ่านการกอดรัดอยู่กับเขาบนที่นอนเมื่อซักชั่วโมงที่ผ่านไป
“อากาศมันเย็นดีว่ะ”
ต่อหันมาบอกพลางมองร่างเปลือยของเอ็มที่มีเพียงผ้าห่มคลุมท่อนล่างเอาไว้
“ชอบอ่ะดิมึงกูว่าแล้ว”
เอ็มบอกยิ้มๆ
“อืมมันน่าอยู่ดี”
“อยู่กะกูมั๊ยล่ะ”
“ตลกล่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้กูก็ต้องไปหาแม่กูอีกไ ปเป็นไกด์จำเป็น”
“เฮ้ยเรื่องนำเที่ยวกูถนัดให้กูช่วยป่าว”
เอ็มอาสาเพราะเขาเกิดที่นี่ เขาก็ย่อมรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวดีกว่าต่อแน่นอน
“มึงอยากไปเจอพี่เตยเหรอ”
ต่อบอกทำเอาเอ็มหงอย
“เออว่ะแล้วมึงจะพาเขาเที่ยวไงมึงก็ไม่ใช่เด็กที่นี่”
“กูก็พอรู้บ้าง”
“กูว่ากูไปช่วยมึงดีกกว่า แค่พี่สาวมึงกูรับมือไหว”
“อย่าเลย”
ต่อปฎิเสธเพราะเชื่อว่าเอ็มคงไม่ได้เจอแค่แม่กับพี่สาวเขา ยังมีอีกคนที่เขาไม่อยากให้เอ็มเจอ
“ทำไมวะ”
“เออนะกูบอกว่าไม่ก็ไม่อย่าถามเลยน่า”
“ไอ้นี่แปลกมึงเบื่อกูหรือไง”
ต่อมองเอ็มยิ้มๆที่เห็นท่าทางเอ็มเคืองๆ
“มึงนี่ชักงอนเป็นแล้วว่ะ”
“มึงอย่ามาคิดบ้าๆกะกูนะไอ้ตี๋ ยังไงกูก็เป็นผู้ชายโว้ย กูไม่ได้งอนกูเคือง”
“อ่ะครับคุณเอ็มผมก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย”
“พูดมากถ้าจะนั่งตากลมก็ใส่เสื้อซะเดี๋ยวไม่สบาย”
เอ็มบอกอย่างห่วงใยเพราะรู้ว่าดึกๆอากาศจะเย็นมาก
“ใส่ทำไมเดี๋ยวก็ได้ถอดอีก”
ต่อมองเอ็มเจ้าเล่ห์จนเอ็มทำอะไรไม่ถูก
“หอกแน่ะมึงกูจะนอนแล้วง่วง”
เอ็มควานหาเสื้อมาใส่ แต่ก็ช้ากว่าที่ต่อพุ่งมาหาที่ตัวพร้อมๆกับแย่งเสื้อออกจากมือ
“ได้ไงวะกว่าที่จะได้อยู่กันเงียบๆสองคนมันไม่ได้ง่ายนะ”
“แล้วมึงจะเอาไง”
เอ็มถามทั้งๆที่หน้าต่อเข้ามาชิดจนได้สัมผัสถึงลมหายใจแทนคำตอบ ต่อโน้มตัวเข้ากอดเอ็มก่อนจะดันร่างให้นอนลงบนที่นอนแล้วทิ้งตัวเองลงไปกอดรัดตามแรงปราถนาของหัวใจที่เอ็มไม่อาจที่จะขัดขืนได้ ต้องยอมปล่อยให้ร่างกายเกร็งสั่นเคลิ้มไปกับสัมผัสที่อ่อนโยนของต่ออีกครั้ง………..
แสงแดดลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ทั้งคืน ต่อพลิกกายขยับเมื่อเสียงนกร้องได้ปลุกเขาให้ตื่นขึ้น คนข้างๆยังคงหลับสนิทเขามองภาพนั่นยิ้มๆก่อนจะลุกขึ้นเข้าห้องน้ำแล้วเดินออกไปสูดอากาศข้างนอก คนงานเริ่มที่จะทยอยกันเข้ามาในไร่ผลไม้ที่ปลูกเรียงเป็นแถวยาวดูเป็นระเบียบไกลออกไป เหนือไร่มีฉากหลังเป็นเนินเขาสูงเตี้ยสลับกันที่เอ็มเคยบอกว่าเป็นจุดแรกที่ดวงอาทิตย์จะทอแสงขึ้น ต่อนึกเสียดายที่ไม่ได้เห็นแสงแรกของวันแต่แสงสีทองที่สาดส่องจากเนินเขาเข้ามาสู่ไร่ก็เป็นภาพที่งดงาม เด็กหนุ่มเผลอยืนกอดอกมองทิวทัศน์ที่สวยงามนั่นจนคนที่อยู่บนที่นอนเริ่มพลิกกาย
เอ็มลืมตาขึ้นก่อนจะงัวเงียลุกนั่งมองหาคนที่นอนกอดเขาไว้ทั้งคืน
“เฮ้ย..ไปยืนโชว์หุ่นทำไมตรงนั้นนี่มันเช้าแล้วนะ เดี๋ยวคนงานไร่กูก็ตาถลนกันพอดี”
เอ็มร้องทักเมื่อเห็นว่าต่อยืนนุ่งแค่กางเกงขาสั้นของเขาตัวเดียวและกำลังเหม่อไปข้างนอก
“ทำไมมึงจะเก็บกูไว้ดูคนเดียวหรือไง”
ต่อหันมาแซวแล้วเดินมานั่งลงข้างๆ
“ตื่นก็ดีแล้วไปล้างหน้าเลยไปกูจะต้องไปหาแม่กู”
“โหนี่มึงพอเช้าแล้วก็จะไปจากกูเลยนะ”
“แหงล่ะมึงมันเป็นได้แค่นี้”
ต่อแกล้งพูดจนเอ็มนึกเคือง
“ทำเป็นปากดีเดี๋ยวเหอะมึง ถึงเวลาต้องแยกกันจริงๆมึงอย่าร้องไห้ให้กูเห็นนะ”
“กลัวตายล่ะ มึงจะไปไหนพ้นถ้ากูไม่ให้มึงไปซะอย่างไอ้เอ็ม”
ต่อยักคิ้วบอกก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ เอ็มนอนแผ่หราลงบนที่นอนอีกครั้ง มันถึงเวลาอีกแล้วเหรอที่เขาจะต้องแยกกันกับต่อ เด็กหนุ่มหลับตาลงนึกถึงความอบอุ่นเมื่อคืนที่เพิ่งผ่านไป…….
.
.
.
.
.
“พี่เอ็มล่ะพ่อ”
อิมถามหาพี่ชายเมื่อไม่เห็นลงมานั่งร่วมโต๊ะทานขาวเช้า
“หลับอยู่มั้งเห็นเมื่อคืนออกไปกับเพื่อนคงกลับมาดึก”
“หลับหรือไม่ได้กลับกันแน่”
อิมเดาไปตามความรู้สึก
“อย่ายุ่งกะพี่เขามากเลยน่ายัยอิม รีบๆกินเข้าพ่อเขาสายแล้วนะ ไหนจะไปส่งเราแล้วยังจะเข้าไร่ต่ออีก”
แม่ติงอิมจึงก้มหน้าก้มตาจัดการกับชามข้าวต้มตรงหน้าโดยไม่สนใจว่าพ่อกับแม่กำลังมองสบตากันอยู่เสมือนกำลังคิดอะไรกันอยู่ในใจ
.
.
.
อยู่ไหนอ่ะต่อ ทำไมเสียงลมมันดังจัง”
เตยเอ่ยถามต่อที่ปลายสายเมื่อต่อยอมรับโทรศัพท์หลังจากที่เธอกดโทรหาหลายรอบ
“นั่งมอไซค์อยู่พี่เตยจะถึงแล้วแป็บนึง”
ต่อบอกแข่งกับเสียงลมที่พัดมากระทบร่าง ดีที่ได้ร่างของเอ็มช่วยบังเอาไว้เขาจึงพอคุยโทรศัพท์ได้บ้าง
“อืม…เร็วๆหน่อยก็ดีนะอย่าให้ผู้ใหญ่ต้องรอนาน”
เตยติงต่อได้แต่รับคำก่อนจะวางสายเมื่อแรงลมมันเริ่มพัดเข้ามาจนไม่ได้ยินเสียงอีกฝ่าย
“ไอ้เอ็มมึงจะรีบอะไรกันนักหนาวะ”
ต่อตะโกนแข่งกับเสียงลมบอกเอ็มที่กำลังเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ตะโกนตอบต่อ
“ก็เดี๋ยวมึงสายไง”
“สายแล้วไงกูไม่ได้ไปสอบนะไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น”
“ก็กูกลัวมึงโดนว่าอ่ะดิ”
“ไม่ต้องห่วงกูหรอก ป่านนี้ที่บ้านมึงก็คงกำลังรอมึงอยู่เหมือนกันแหละ”
เอ็มหยุดคิดเขาลืมไปเสียสนิทว่าเขาไม่ได้บอกใครว่าเขาเข้าไปค้างที่ไร่
“เออว่ะกูลืมไป งั้นกูต้องรีบแล้วล่ะมึงจับดีๆนะ”
เอ็มเร่งความเร็วขึ้นอีกจนต่อต้องกอดเอวเขาไว้แน่นพลางก้มหน้าซุกลงตรงแผ่นหลังเพื่อหลบแรงลม โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจรถที่กำลังวิ่งสวนมาว่าคนในรถกำลังมองภาพที่เห็น
“พ่อ…นั่นพี่เอ็มนิ”
อิมบอกพ่อที่กำลังขับรถอยู่ก่อนจะมองไปตามสายตาลูกสาว จังหวะเดียวกับที่เอ็มขับรถสวนในระดับสายตาที่มองเห็นชัดเจนว่าต่อกำลังกอดเอวและซุกแผ่นหลังเขาไว้แน่น
“อะไรจะกอดกันขนาดนั้นอ่ะ”
อิมพูดพลางเอี้ยวตัวมองหลังเมื่อรถสวนกันไปแล้ว
“เมื่อคืนเอ็มมันไปไร่มาแน่ๆ”
อิมหันกลับมามองพ่อที่พูดลอยๆออกมา โดยสังเกตเห็นว่าพ่อตัวเองก็กำลังมองผ่านกระจกมองหลังไปยังภาพที่พี่ชายเขาโดนเพื่อนชายกอดเอวแน่น
“ถ้าพ่อเห็นผมพาใครมาบ้านไม้ของผมคนนั่นแหละแฟนผม”
ชายสูงวัยนึกถึงคำพูดของลูกชายในวันหนึ่งที่เคยพูดคุยกันภายในไร่บนสีหน้าเรียบเฉยนั่น อิมไม่สามารถเดาได้เลยว่าพ่อตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่
“ไปไหนมาเรา”
แม่ถามเสียงนิ่งเมื่อเห็นเอ็มเดินเข้าบ้านมา
“ก็ไปข้างนอกมาพ่อไม่ได้บอกแม่เหรอครับ”
เอ็มตอบทั้งๆที่รู้ว่าแม่กำลังโกรธ
“พ่อไม่ได้บอกว่าเราจะไม่กลับบ้าน”
“ก็ผมเห็นมันดึกก็เลยนอนที่ห้องเพื่อน”
“จะค้างกะใครแม่ก็ไม่ได้ว่าหรอกนะเพราะเราน่ะโตแล้ว แต่โทรมาบอกให้ที่บ้านรู้บ้างไม่ใช่หายไปแบบนี้”
“ผมขอโทษครับ”
เอ็มบอกอย่างรู้สึกผิด
“อืมช่างมันเหอะแล้วกินข้าวมายังรีบไปอาบน้ำแล้วก็มากินข้าวซะแม่จัดไว้ให้ที่โต๊ะ”
เอ็มมองตามร่างแม่ที่แยกตัวออกไปเขาถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกไม่ดีที่ต้องโกหก แต่ถ้าจะให้บอกความจริงแม่เขาก็คงจะอดแปลกใจไม่ได้ขนาดพีที่ว่าเป็นเพื่อนเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาก็ยังไม่เคยพาไปที่บ้านไม้ของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียวหรือขนาดอิมน้องสาวเขาแท้ๆก็ยังไม่เคยที่จะได้รับอณุญาติเลยสักครั้ง
.
.
“ก็คุณเอ็มบอกผมว่าแจ้งนายแล้วนิครับ”
ลุงชีพบอกกับเจ้านายเสียงอ่อยเมื่อโดนซักถามเรื่องเมื่อคืน
“แล้วเอ็มมากับใคร”
“กับเพื่อนมั้งครับเห็นซ้อนท้ายกันมา ทำไมหรือครับนายเกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
“เปล่าหรอกครับลุงผมก็แค่อยากรู้”
ลุงชีพเกาหัวด้วยความงงกับอาการของเจ้านายที่ซักถามเหมือนมีอะไรเกิดขึ้นแต่สุดท้ายก็เดินจากไปเฉยๆ
.
.
“เล่นน้ำกันป่ะต่อ”
ตั้มเข้ามาชวนต่อที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มหลังจากที่เหนื่อยกับการพาครอบครัวและญาติๆเที่ยวมาทั้งวันตามสถานที่ต่างๆที่เขาพอที่จะคุ้นเคยและแนะนำได้ แล้วก็มาหยุดอยู่น้ำตกบนดอยแห่งหนึ่งเพื่อที่จะได้พักผ่อนสูดบรรยากาศที่สดชื่นกัน
“ไม่อ่ะนายไปเล่นเหอะขอนั่งพักก่อน”
ต่อปฎิเสธ
“อะไรท่าทางก็แข็งแรงแค่นี้เหนื่อยเหรอ”
ตั้มแหย่ยิ้มๆทั้งๆที่ต่อไม่มีอารมณ์ที่จะเล่นด้วย เด็กหนุ่มมองคนที่พยายามจะเกาะแกะเขาแต่พี่สาวกลับไม่เข้ามาวุ่นวายต่างจากเอ็มที่โดนว่าสารพัดที่จะว่าทันทีที่เขาเอ่ยชื่อขึ้นมา
“ขอนั่งคนเดียวแป็บนะ”
ต่อบอกเสียงเรียบแต่ตั้มก็ยังยิ้มรื่น
“นั่งคนเดียวมันเหงานะให้เรานั่งเป็นเพื่อนแหละดีแล้ว”
ไม่พูดเปล่าตั้มยังเลือกที่จะนั่งชิดกับต่อ พร้อมๆกับเลื่อนมือไปจับที่หน้าขาแข็งแรงนั่น
“ทำไรวะ”
ต่อถาม
“เหนื่อยไม่ใช่เหรอเดี๋ยวเรานวดให้”
ตั้มบอกต่อลอบถอนหายใจ
“ไม่ต้องหรอกนายเองก็คงเหนื่อยมาเหมือนกัน”
“แค่นี้ไม่เหนื่อยหรอกนั่งนิ่งๆละกัน”
ต่อขี้เกียจว่าอะไรจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยยอมรับว่ารู้สึกดีอยู่เหมือนกันเมื่อตั้มเริ่มออกแรงกด
“นายไปเรียนนวดมาเหรอ”
ต่อถาม ตั้มยิ้มอย่างดีใจที่ต่อเริ่มที่จะมีน้ำเสียงดีขึ้น
“ก็พอเป็นไม่ได้ไปเรียนอะไรหรอกสบายป่าวล่ะ”
“ก็ดี”
“ให้เรานวดให้บ่อยๆก็ได้นะ”
“เราไม่ได้เจอกันบ่อยขนาดนั้น”
“ก็ทำให้ได้เจอสิ”
“ยังไง”
“แค่นายโทรหา เราก็พร้อมที่จะไปหานายแล้วล่ะ”
ต่อมองสบตาตั้มที่ต่างกันสุดขั้วกับเอ็ม รายนั้นถึงจะไม่ได้มองเขาเยิ้มเหมือนตั้มแต่มันก็มีแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาอดใจไม่ได้ที่จะเข้าไปใกล้ชิดทุกครั้ง ต่างจากตั้มที่เด็กหนุ่มเริ่มขยับหนีนิดหน่อยเมื่อตั้มไล่มือสูงขึ้นเรื่อยๆ
“พอแล้วล่ะไปรวมกลุ่มกะพวกเขาดีกว่า”
ต่อหมายถึงกลุ่มที่มาด้วยกันพลางจะยันกายลุกขึ้น แต่ตั้มกลับคว้ามือเขาไว้จนเขาทรงตัวไม่ได้ล้มคร่อมร่างตั้มเอาไว้ซึ่งเตยได้เดินมาเห็นเข้าพอดี หญิงสาวอึ้งนิดหน่อยก่อนจะกระแอมเสียงให้สองคนรู้ตัว
“พี่เตย”
ต่อครางชื่อพี่สาวเบาๆก่อนจะรีบยันกายลุกขึ้นปัดไม้ปัดมือ
“อุบัติเหตุน่ะครับ”
ตั้มแก้ต่างทั้งๆที่ตัวเองจงใจให้มันเป็นแบบนี้
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร”
เตยบอกนิ่งๆมองน้องชายอย่างตำหนิ
“นึกว่าหายไปไหนแอบมาหลบมุมอยู่นี่นะเรา”
“ก็มานั่งพักเหนื่อยพี่เตยมีไรป่าว”
“เปล่าพี่ก็แค่เดินเที่ยวตามประสาไม่คิดว่าจะมาเจอ……..”
เตยหันไปมองตั้มที่นั่งทำหน้าไม่รู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำไม่ได้น่าเกลียดอะไร
“ตั้มแวะมาคุยกับผมก็เท่านั้นแหละครับ”
ต่ออธิบายทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเพื่ออะไร
“ก็คุยกันต่อสิพี่จะไปเดินเล่นฝั่งโน้น”
ต่อนึกฉุนพี่สาวที่แทนที่จะกันท่าอย่างที่เคยทำกับเอ็ม กลับทิ้งให้เขาอยู่กับตั้มสองต่อสองหน้าตาเฉย
“ท่าทางพี่เตยจะชอบที่นี่นะ”
ตั้มบอกเมื่อลับหลังเตย
“งานเขาหนักนานๆเขาจะได้พักผ่อนก็น่าเห็นใจ”
ต่อนึกสงสารพี่สาวเมื่อคิดว่าภาระทั้งหมดตั้งแต่พ่อเขาไม่อยู่ก็ตกไปที่เตยคนเดียว ถ้าเขาสามารถเรียนจบภายในปีหน้าก็คงดีซึ่งตอนนี้เขาก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะได้แบ่งเบาภาระพี่สาว
“คิดอะไรเหรอต่อ”
ตั้มถามเมื่อเห็นต่อซึมไป
“เปล่า”
“มีอะไรให้ช่วยก็บอกเราได้นะ”
ต่อมองหน้าคนพูดตั้มคงจะชินกับการมีครบทุกอย่าง ถึงได้ไม่ค่อยที่จะซีเรียสกับชีวิตนอกจากที่ออกเที่ยวทุกคืนอย่างที่เขาเคยสัมผัสมา