มาต่อรอบบ่ายตามสัญญาครับ
**********************************************************
เอ็มนั่งรอรถเมล์อย่างเบื่อหน่ายในความช้า เขาจึงตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆผ่านเส้นทางที่เขาเคยเดินกับต่อ เด็กหนุ่มก็อดที่จะยืนมองและคิดถึงวันเก่าๆไม่ได้ เสียงแตรรถทางด้านหลังทำเอ็มสะดุ้งก่อนที่เก๋งสีบร์อนจะเข้ามาจอดเทียบเขา กระจกรถถูกเลื่อนลงเอ็มแปลกใจเมื่อเห็นเตยนั่งอยู่ข้างใน
“ไปด้วยกันมั๊ย”
เตยถามทั้งๆที่ยังไว้เชิงถึงเอ็มจะงง แต่เพราะขาที่เริ่มเมื่อยทำให้เด็กหนุ่มเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่คนขับ
เตยเคลื่อนรถออกเมื่อเอ็มตอบคำถามเธอว่าพักอยู่แถวไหน ภายในรถเงียบเมื่อต่างคนต่างก็ไม่พูดอะไรเอ็มก็ไม่รู้ว่าเตยจะหาเรื่องว่าอะไรเขาอีกเขาเลยนิ่งมาตลอดทางจนเตยทนไม่ได้เสียเองจึงเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
“เห็นต่อบอกไม่ค่อยได้คุยกับเธอ”
เอ็มมองหน้าเตยก่อนจะถามกลับ
“มันบอกพี่เหรอ”
“ฉันคงไม่ไปแส่เรื่องของพวกเธอทุกเรื่องหรอกนะ ต่อไม่บอกแล้วฉันจะรู้ได้ไง”
เตยยังเขินๆที่จะพูดดีๆกับเอ็ม หลังจากที่เคยสาดเสียเทเสียเอ็มมาหลายครั้งจึงทำน้ำเสียงที่ขัดกับความรู้สึก
“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับมันก็เรียนผมก็เรียนจ ะให้คุยอะไรกันเหรอครับ”
เอ็มบอก
“แน่ใจเหรอว่าไม่มีอะไร”
เตยเผลอหลุดปากถามเอ็มยิ้มขำๆที่มุมปาก
“จะให้มีอะไรล่ะครับผมไม่กล้าไปมีอะไรกับน้องพี่หรอก ผมมันเด็กมีปัญหา”
“นี่เธออย่ามารวนฉันนะ ที่ถามเพราะต่อมันทำเสียงไม่ดีมากลัวว่านายจะไปทำอะไรให้มันคิดมาก เดี๋ยวไม่เป็นอันเรียนกันพอดี”
“ผมไม่มีอิทธิพลในชีวิตมันมากขนาดนั้นหรอกครับ อย่ากลัวเลยมันไม่เคยแคร์ผมด้วยซ้ำ”
ถึงตอนนี้เอ็มอดที่จะเจ็บขึ้นมาที่ใจไม่ได้ เตยหันไปมองอย่างนึกรู้อะไร
“นี่พวกนายทะเลาะกันมาหรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่า บอกแล้วไงครับว่าผมกับน้องพี่ไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่หลายคนคิด เราจะทะเลาะกันได้ไง”
“อย่ามาโกหกฉันต่อมันน้องฉัน พฤติกรรมมันที่มีต่อเพื่อนมันทุกคนมีเหรอจะรอดพ้นสายตาพี่สาวที่เลี้ยงมันมาตั้งแต่เด็ก”
“สอดรู้ว่างั้นเหอะ”
เอ็มหลุดปากบอกตามนิสัยตรงๆจนเตยสะอึกในคำพูด
“นายนี่มันปากร้ายจริงๆจะไม่ให้ฉันด่าได้ไงไหว”
“รีบด่าเหอะครับ เพราะผมกับน้องพี่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ต่อไปพี่เตยคงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาว่าผมเสียๆหายๆแล้วลามไปถึงที่บ้านผมถ้าผมจะสวนกลับก็อย่าว่ากันนะครับ”
เตยหลบวูบกับสายตาคมวาวของเอ็ม ไม่เคยมีใครกร้าวร้าวกับเธอขนาดนี้มาก่อนอุตส่าห์จะคุยด้วยดีๆ แต่กลับมาเจอแบบนี้เตยได้แต่อึ้งคิดว่าเอ็มคงจะโกรธเธอแน่ๆที่เคยต่อว่าลามปามเขาไปถึงครอบครัว
“ฉันเคยด่าว่าเธอแรงๆไปก็ขอโทษด้วยละกัน แต่ตอนนี้ต่อมันกำลังมีปัญหาถ้าเกิดเธอไม่ได้จงเกลียดจงชังเราสองพี่น้องจนเข้าเส้นเลือดไปแล้วมันโทรมาก็คุยๆกับมันบ้างก็ได้นะ”
“ปัญหาอะไรของมัน”
เอ็มนึกห่วงเขาตัดสายต่อทิ้งตลอดแม้แต่ข้อความที่ต่อส่งมาให้ เขาก็ไม่อยากที่จะอ่าน ทุกข้อความโดนลบตั้งแต่เห็นชื่อคนส่งจนเขาไม่รู้ความเป็นไปของต่อเลย
“ก็ตั้มยังตามเกาะแกะมันอยู่ที่โน่น”
เตยบอกอย่างอึกอัก หญิงสาวลองคิดดูแล้วเอ็มน่าที่จะไว้ใจในการที่จะคบกับน้องชายเธอแล้วไม่ทำให้เสียการเรียนได้ ดีกว่าตั้มที่วันๆเอาแต่เที่ยวไม่เคยสนใจที่จะกลับมาเรียน
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม”
เอ็มบอกในเมื่อต่อเป็นคนผูกปมทุกอย่าง ถ้าไม่มีปัญญาที่จะแก้เองเขาก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้
“ก็เธอสองคนสนิทกัน แล้วฉันก็ดูแล้วว่านายน่าจะเอาถ่านมากกว่าตั้ม”
เอ็มยิ้มหยันๆ
“ถ้ามันโทรมาก็บอกมันแล้วกันว่าเรื่องแค่นี้ไม่มีปัญญาที่จะจัดการ ผมก็เลือกถูกแล้วล่ะที่จะเลิกยุ่งกับมัน”
เตยไม่อยากจะเชื่อว่าเอ็มจะเด็ดเดี่ยวได้ขนาดนี้ นึกอายที่น้องชายตัวเองดูอ่อนแอกับปํญหาที่มันดูจะเป็นแค่เศษผงในสายตาของเอ็ม
“จอดตรงนี้แหละครับ”
เอ็มบอกเมื่อเตยขับรถพามาถึงหน้าปากซอย เด็กหนุ่มเอ่ยขอบคุณพลางจะก้าวลงจากรถแต่ก็ต้องชงักกับคำพูดเตย
“พี่จะเสียใจมากเลยนะเอ็มถ้าพี่เป็นต้นเหตุให้ต่อต้องเสียเพื่อนที่ดูเข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่อย่างนายไป น้องพี่มันยังอ่อนโลกอยู่ พี่ฝากมันด้วยละกัน”
เตยทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก่อนจะขับรถออกไปปล่อยให้เอ็มยืนพูดตามหลัง
“มันต้องรู้จักโตด้วยตัวเองให้เป็นแล้วล่ะพี่เตย”
.
.
“เลิกตามตอแยเราซะทีเถอะตั้มบอกว่าจะนอน เหนื่อย ไม่ไปไหนทั้งนั้น”
ต่อตะคอกตั้มที่ตามวุ่นวายกับเขาไม่เลิก เพื่อที่จะลากให้ไปเที่ยวเป็นเพื่อนให้ได้โดยที่มาตามเขาถึงที่หอ
“ทำไมล่ะต่อรังเกียจอะไรเรานักหนา”
ตั้มเดินไปนั่งลงแนบชิดต่อที่เตียงนอนต่อจะขยับลุกหนีแต่โดนฉุดรั้งเอาไว้
“อย่าเดินหนีเราแบบนี้อีกนะ วันนี้เป็นไงเป็นกันเราทนให้นายปฎิเสธเรามาหลายครั้งแล้ว”
ตั้มผลักต่อลงที่เตียงก่อนจะขึ้นคร่อมร่างเอาไว้พยายามที่จะแกะกระดุมเสื้อต่อออก ในขณะที่ต่อยื้อเอาไว้พลางตะคอก
“นี่นายอย่าบ้านะตั้มขืนนายยุ่งไม่เลิกเราจะไม่เกรงใจนะ”
“เอาสิจะทำอะไรเราก็เชิญเราพร้อมอยู่แล้ว”
ตั้มดูเหมือนคนที่คุมสติไม่อยู่ต่อเริ่มโมโหเมื่อมือตั้มเลื่อนไปที่จะปลดเข็มขัดเขา
“พอเลยตั้มนายมันบ้า”
ต่อออกแรงผลักตั้มออกจากตัวจนพ้นก่อนที่เขาจะรีบลุกขึ้นติดกระดุมเสื้อและเข็มขัดตัวเองที่หลุดลงมานิดหน่อยตามแรงของตั้มที่กำลังจะโผเข้าหาเขาอีกรอบจนเขาต้องชี้หน้าให้หยุดอารมณ์บ้าๆนี้
“นายเลิกบ้านะตั้มถ้าไม่ เรื่องนี้ถึงหูแม่นายแน่”
“นึกว่ากลัวเหรอแม่จะทำอะไรเราได้ ดีซะอีกทุกคนจะได้รู้ว่าเราคบกันในแบบไหน”
“คบอะไรยังไง นายก็เป็นได้แค่เพื่อนในสายตาเราไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้หรอก”
ต่อหันหลังจะเดินออกจากห้องจะปล่อยให้ตั้มบ้าอยู่คนเดียว แต่แล้วเขาก็ต้องโมโหขึ้นมาอีกเมื่อตั้มโผกอดเขาไว้ทางด้านหลัง
“โธ่โว้ยมันอะไรกันนักกันหนาวะ”
ต่อหันมาผลักตั้มออกสุดแรงจนตั้มล้มกองลงไปที่พื้นห้องจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง
“นายเล่นกะเราแบบนี้ใช่มั๊ยต่อจำไว้เราได้เห็นดีกันแน่”
ตั้มลุกขึ้นเค้นเสียงบอกต่อก่อนจะเปิดประตูห้องออกไปอย่างนึกแค้นกับสิ่งที่โดนกระทำ ต่อเดินไปทรุดนั่งที่เตียงอย่างเหนื่อยอ่อนในใจอยากที่จะโทรหาเอ็มแต่เอ็มก็คงที่จะตัดสายเขาทิ้งเหมือนอย่างที่เคยผ่านมา
“มึงจะใจร้ายกะกูไปถึงไหนไอ้เอ็มกูอยากคุยกับมึง”
ต่อบอกกับตัวเองขอเพียงเขาได้คุยกับเอ็มสักครั้งเขาคงไม่เหนื่อยใจได้ขนาดนี้
.
.
.
.
“มึงเหรอไอ้เอ็ม”
ชายวัยรุ่นสามคนเดินมาดักทางเอ็มในขณะที่เขาเดินเข้าซอยในตอนค่ำหลังจากที่มัวเล่นบาสกับเพื่อนๆจนลืมเวลา
“รู้จักกันเหรอวะ”
เอ็มถามเมื่อเห็นสีหน้ากวนๆของคนทัก
“กูไม่รู้จักหรอกแต่เพื่อนพวกกู รู้จักโทษทีว่ะพวก”
สิ้นเสียงคนพูดผลักเอ็มเข้าไปชนกำแพงในมุมมืดก่อนที่จะชกเอ็มเข้าที่ใบหน้าขณะที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว เอ็มรู้สึกชาที่ปากและงงกับเหตุการณ์แต่สัญชาตญาณบอกให้เด็กหนุ่มรู้ตัวว่าเขาคงต้องโดนรุมเป็นแน่ ก่อนที่สองคนที่เหลือจะกรูเข้ามาหาเขาเอ็มตั้งสติจัดการสวนหมัดเข้าไปที่คนที่ชกเขาคนแรกสุดแรงจนร่างนั้นถลาล้มไปตามแรงหมัด สองคนที่เหลือที่กรูเข้ามาเอ็มไม่มีเวลาคิดนอกจากที่จะใช้เท้าถีบกันเอาไว้ แต่ก็ยังไม่วายที่เขาจะโดนสวนด้วยหมัดกลับคืนมาจนตั้งตัวแทบจะไม่ติด ด้วยความเป็นลูกชาวไร่อย่างเขา ความเร็วและความอึดก็ต้องเหนือกว่าพวกอันธพาลพวกนี้ เมื่อเลือดขึ้นหน้าใครก็เอาเขาไม่อยู่ เอ็มกระชากคอเสื้อคนที่เดินเข้ามาคิดจะซ้ำเขา เด็กหนุ่มประเคนหมัดใส่แบบไม่ยั้งจนเพื่อนสองคนยืนอึ้งก่อนที่เอ็มจะถีบส่งไปให้ เมื่อคนที่เขาชกเริ่มสะบักสะบอมท่อนไม้ใกล้มือถูกหยิบมาชี้หน้าคนทั้งสามพร้อมเสียงตะคอก
“อยากสมองไหลพวกมึง มึงเข้ามาดิกูอัดไม่เลี้ยงแน่ สัตว์กูไปทำอะไรให้พวกมึง”
เอ็มเงื้อมือจะฟาดจริงๆพวกนั้นจึงถอยกรูด
“วันหลังมึงโดนแน่”
หนึ่งในกลุ่มชี้หน้าเอ็มแต่โดนเขาสวนกลับ
“ใครใช้พวกมึงมาหาเรื่องกู คิดว่ากูง่ายเหรอ สัตว์ พวกมึงรีบไปเลยนะก่อนที่กูจะเหลืออด”
เอ็มเดินเข้าหา สองคนจึงพยุงร่างที่โชกด้วยเลือดของคนที่โดนเอ็มจัดการหนีไป เอ็มเช็ดเลือดที่ซึมตรงมุมปากมองตามก่อนจะทิ้งท่อนไม้ก้มเก็บหนังสือเดินเข้าซอยอย่างนึกสงสัยว่าพวกนี้หาเรื่องเขาทำไมแถมรู้จักเขาอีก