จิ้มไข่เด๊ะใหม่ดังโพล๊ะ!! 
แล้วตามกอดรวบทุกคนอีกรอบ 
มาช้าบ้างอะไรบ้าง เนื่องจากปั่นไปหลับไป 5555
พอเสร็จแล้วก็รีบเอามาลงทันทีทันใด อย่าได้รีรอ=====================
บทที่ 26.
หลังจากทำใจได้ว่าคงต้องออกไปกินข้าวไม่งั้นอาจอดตายอยู่ในห้อง พอเปิดประตูออกไปก็พบว่าไอ้เด็กโย่งไวไวมันยังเดินวนไปวนมาในบ้านด้วยกางเกงที่ขโมยคนอื่นมาเพียงตัวเดียว แถมเปลือยท่อนบนโชว์แผ่นอก มันจะไม่มีอะไรมากกว่านั้น ถ้าสายตาไม่ได้เหลือบไปเห็นรอยฟันของตัวเองที่หัวไหล่
ชัดเจน!!! มันตอกย้ำให้คนทำร้อนตัวอย่างชัดเจน ว่าได้ทำเรื่องอะไรลงไป....ใครไม่อายแต่ไอ้ตุลอายเว้ย!!
"ไปใส่เสื้อซะให้เรียบร้อยเลยป่ะ อุจาดตา!!" เสียงตวาดอย่างหงุดหงิดของใครบางคนดังขึ้นทันทีที่เปิดประตูห้องออกมา ทำเอาคนที่กำลังเดินหยิบโน่นเตรียมนี่หันกลับมามองอย่างแปลกใจ
"อะไรกัน...ผมนะหุ่นนายแบบเชียวนะ ดูซิกล้ามเป็นมัดๆ" ยิ่งเห็นแววหงุดหงิดบนใบหน้าไอ้คุณเฮีย วายุก็ยิ่งอยากแกล้งให้หนัก ให้สมกับที่ไม่ได้เจอหน้ามาหลายวัน แค่เห็นแล้วหมั่นเขี้ยว...เฮียของไอ้ไวไวน่ารักที่สุดอ่ะ(ถ้าตัดความโหดออกไปบ้างซักเล็กน้อยอ่ะนะ)
"หลงตัวเองว่ะ!!" นายตุลผลักหัวฟูๆของไอ้หมีที่ทำท่าจะเข้ามาคลุกวงในให้ออกห่างจากตัว ขืนปล่อยให้มันทำตามใจชอบอีกซิ ไอ้นี่มันไว้ใจได้ที่ไหน ไม่รู้ว่าคิดผิด หรือพลาดพลั้งไปแล้วที่ตัดสินใจไปรับมันกลับมาอยู่ด้วยกัน
"ถูกครึ่งหนึ่งนะคร้าบบบบ" ดูมันทำท่าเลียนแบบคุณตา(ปัญญา) พิธีกรชื่อดังได้พิกลพิการมาก
"เพี้ยน หรือว่าขาดสารอาหารอีกล่ะ ไปหากล้วยกินในป่าซะไป!!" ดูมันเหอะ!! โดนด่าเป็นลิงยังมาทำยิ้มกริ่มจนน่าหมั่นไส้
"หลงตัวเอง แล้วก็หลงเฮียด้วยไง ถอนตัวไม่ขึ้นเลยอ่ะ..ทำไงดี..?" พอได้ยินคำหยอดแบบไม่ทันตั้งตัว ที่มาพร้อมกับออพชั่นเสริมเป็นสายตาหวานเชื่อมด้วยแล้ว ทำเอาคนฟังถึงกับยืนอึ้งแบบว่าใบ้รับประทาน หนีไม่ได้ไปต่อก็ไม่เป็น
"อะ..ไอ้เด็กเวรนี่!! ถ้าไม่อยากตายก็หุบปากแล้วกินข้าวไปซะ" วายุแกล้งทำหน้าบูดที่โดนข่มขู่
"ก็ผมอ่ะ รอให้เฮียมาอ้อนบ้างอะไรบ้าง แต่เฮียก็ใจแข็งเกิ๊น" คนที่ถูกว่ากำลังจะอ้าปากด่ากลับ แต่ก็นึกคำไม่ออกซะอย่างงั้น.. รู้สึกเหมือนหน้าตัวเองมันร้อนฉ่า อยากยกมือตบกะโหลกไอ้คนพูดซักทีเพื่อกลบเกลื่อนอาการเหมือนจะเขินของตัวเอง
"ใครอ้อนใคร ทำตัวเป็นเด็ก!!" เสียงตวาดกลบเกลื่อนพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้นั่งลง ไม่ยอมหันไปสบสายตาแวววาวของไอ้หมีโย่งตรงหน้า
"ก็ผมเด็กจริงๆอ่ะ เฮียแหละชอบทำตัวสูงวัย" คำประชดของวายุ ได้รับของรางวัลเป็นช้อนส้อมที่เตรียมไว้สำหรับกินข้าว..ดีนะว่าเคยเป็นผู้รักษาประตูทีมฟุตบอลมาก่อน ก็เลยได้ทักษะการกระโดดรับได้อย่างแม่นยำ หึหึ
"เป็นแค่ไอ้ไวไว!!! อย่าพูดเอาแต่ใจนะเว้ย" ผู้สูงวัย(กว่า)ทางนี้ก็ยังไม่เลิกโหด ทำท่าจะปาช้อนในมือตามไปอีกรอบ แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าของแค่นั้นมันไม่มีประโยชน์ ทำอะไรไอ้หมีหน้าทะเล้นไม่ได้
"ผิดแล้วเฮีย!! ..เพราะเป็นไอ้ไวไว เฮียถึงยอมให้เอาแต่ใจต่างหากเหอะ!!" ประโยคเถียงกลับพร้อมกับจ้องมองมาตรงๆ แล้วฉีกยิ้มกว้าง ทำเอาไอ้คุณเฮียถึงกับปั้นหน้าตั้งรับไม่ถูก ไม่รู้ว่าไอ้เด็กโย่งตรงหน้ามันไปกินยาผิดที่ไหนมาถึงได้กล้าทำ กล้าพูดขนาดนี้
"ไอ้....!! กินๆ เข้าไปเลย พูดมากอยู่ได้!!" เปล่าประโยชน์จะหาเรื่องมาเถียง ทำยังไงก็ไม่ชนะมันซักที เหมือนว่ายิ่งพูดจะยิ่งเข้าตัวเพราะงั้นตอนนี้เงียบไว้อาจจะดีกว่า
วายุย่อตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามไอ้เฮียหน้าบูด ด้วยสีหน้าเป็นสุขสุดขั้ว หากตอนนี้จะมีอะไรซัดเข้ามาในชีวิตให้เซเป๋ไปมาอีกรอบก็คุ้มแล้วที่ได้เกิดมา...ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง...ความทรมานใจที่ผ่านมาหลายวัน สามารถบรรเทาลงได้ด้วยรอยยิ้มของคนที่เรารักเพียงแวบเดียว
"พรุ่งนี้ไปหานายแม่กัน เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"
"อุ๊บ!! แค่กๆ ฮะ...เฮีย..ว่าไงนะ" คนที่กำลังเคลิ้มฝันหวาน มือกำลังตักต้มจืดไข่ใส่ปากซดถึงกับสำลักน้ำซุปพุ่งออกจมูก แค่ได้ยินนัดหมายสยองที่หลุดออกมาจากปากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"จะพาไปมอบตัว หึหึ" เสียงหัวเราะเยือกเย็น และคนฟังก็เย็นเยือกไปถึงสันหลัง ยิ่งเห็นสายตาเย็นชาเจ้าเล่ห์ที่เหล่มองมาด้วยแล้ว ทำให้นึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณน้า 'ถ้าแค่ 3 เดือนยังทำไม่ได้ แล้วจะมั่นใจได้ยังไงว่าต่อไปจะมั่นคง!!' คำประกาศก้องที่ทำเอาไอ้หมีจอมกวนถึงกับจ๋อยจนต้องถอยไปตั้งหลักทรมานตัวเองอยู่หลายวัน
"ผม..ผมไปไม่ได้ ถ้า..."...ถ้าไม่ได้เจอกันอีก...ไอ้เด็กหน้าทะเล้นทำตัวเจ้าเล่ห์อยู่เมื่อครู่กลัวที่จะพูดคำๆนั้นออกมา หากมันเป็นแบบนั้นจริงก็ขอกลับไปทรมานตัวเองแบบมีกำหนดเวลา ดีกว่าต้องมาทนถูกแยกจากกันแบบไม่มีวันได้พบกันอีก
"อะไร!!? ทีงี้ทำมาเป็นกลัว!!" นายตุลแกล้งเหล่มองด้วยหางตา เห็นไอ้หมีมันทำหน้าซีดสลดเกินความจำเป็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้..
“กลัวซิ!! กลัวมากด้วย” เสียงตวาดที่คนขี้แกล้งเองยังตกใจ แต่ไอ้ไวไวก็ทำเสียงอ่อนลงในตอนท้าย มาพร้อมกับใบหน้าและแววตาอ้อนๆ เหมือนหมาหงอยเช่นเคย
“จริงซิ!! ยังไม่ได้เล่าให้ฟังเลยใช่ไหม เรื่องที่ไป’ตกลง’อะไร’ไว้กับนายแม่น่ะ!!” ยึ้ยยยย...วายุสะดุ้งทั้งที่ยังกลุ้ม ทางโน้นก็นายแม่ที่แสนน่ากลัว ส่วนทางนี้ก็ไอ้คุณเฮียสุดโหด ไอ้ไวไวจะรอดไปถึงพรุ่งนี้ไหมล่ะ...โธ่!!...เกิดมามีกรรม(ถึง)ต้อยต่ำ แต่ดันหน้าตาดี!!!...ไม่ใช่ตอนนี้ซิโว้ย!!
“เอ่อ..คือว่า...” จะให้บอกได้ไง... ยังไม่ถึงครึ่งเดือนที่ทำสัญญา ไอ้ไวไวคนนี้ก็เหมือนหมีง่อยได้อีก...เสียฟอร์มตายซิ!!
“จะบอกดีๆ หรือจะให้ไปถามนายแม่เอง!!”
วายุสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเหมือนจะรวบรวมความกล้า นี่ก็ขู่เก่งเหลือเกิน รู้งี้ไม่คืนช้อนส้อมที่โยนมาให้ไปก็ดีหรอก ดูดิ!! เอาไปทำเป็นอาวุธเฉยเลยเหอะคนเรา แบบนี้ไอ้ไวไวคงต้องใช้วิชามารขั้นเซียนที่อุตส่าห์ฝึกปรือมาเป็นอย่างดี..เอาไว้ใช้รับมือในกรณีฉุกเฉินเช่นนี้..
“อ๊ะ!! เฮียดูนั่น...!!”
นายตุลหันขวับไปตามปลายนิ้วที่ชี้ไปทางข้างหลังทันทีตามสัญชาตญาณ แต่แทนที่จะได้เห็นความเคลื่อนไหว หรืออะไรก็ตามที่น่าจะเป็นที่น่าสนใจหรือไม่ก็น่าหวาดกลัวอย่างที่คิดเอาไว้ แต่...
ปัง!!!
“ไอ้ไวไว!!!!!”
ต่อให้ตะโกนแหกปากเรียกมันลั่นบ้าน ก็ไร้ประโยชน์เพราะไอ้หมีโย่งมันวิ่งหายเข้าไปกบดานอยู่ในห้องเรียบร้อย ตามมาด้วยเสียง’กริ๊ก’กดล็อคประตูอีกต่างหาก ไอ้หมีเลี้ยงไม่เชื่อง!!!
“ขอโทษครับเฮีย..แต่ผม...ผม’อาย’อ่ะ”
“หือ...!!? อุ๊บ!!” คนที่ถูกหลอกให้โมโหอยู่นอกห้องแทบจะหลุดขำพรืดออกมาทันทีที่ได้ยินคำแก้ตัวของไอ้คนที่อยู่ข้างใน ตอนแรกก็ว่าจะโกรธแต่พอมาได้ยินแบบนั้นถึงกับโกรธไม่ลง ยื่นกลั้นหัวเราะจะเป็นจะตายอยู่ที่หน้าประตู
“ขอฉายรอบเดียวพรุ่งนี้เลยแล้วกัน ฝันดีนะครับเฮีย” ไอ้หมีหน้าทะเล้นมันทำเสียงจุ๊บๆ ผ่านประตูมาให้ได้ยินแต่ไม่ยอมเปิดออกมา เดาเอาว่ามันคงจะอายจริงอย่างที่พูด คนฟังยืนส่ายหน้ากับตัวเองพร้อมกับเสียงถอนหายใจอย่างปลงๆ แค่มันกลับมายังไม่ถึงครึ่งวัน บ้านทั้งหลังก็ไม่น่าเบื่อเหมือนที่แล้วมาจริงๆ
.
.
.
ณ เวลาตอนสายของวัน ตามเวลาเป็นทางการที่ได้นัดหมายเอาไว้ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การออกศึก เคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจ แต่...ดูสภาพนักรบ แล้ว..น่าส่งมันกลับไปยังถิ่นฐานซะจริง ยิ่งรถเลี้ยวมาจอดนิ่งอยู่หน้าบ้านไอ้หมีมันก็หันมาทำตาปริบๆ เหมือนเวลาที่อ้อนขอเอาอะไร
“ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวก็ทิ้งไว้ในนี้ซะเลย!!”
“เฮีย....” วายุเอื้อมมือไปรั้งชายเสื้อไอ้คุณเฮียเอาไว้ได้ทันก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดประตูรถลงไปข้างล่าง เสียงถอนหายใจดังออกมาให้ได้ยินยาวเหยียด
“ลงไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ไม่เชื่อเฮียรึไง!!” เฮียตุนใช้น้ำเสียงเหมือนดุเด็กดื้อซักคน อยากจะบอกเหลือเกินว่าถ้าเป็นเฮียล่ะก็ ไอ้ไวไวคนนี้พร้อมจะเชื่อหมดใจ แต่...กับนายแม่ที่อยู่ข้างในบ้าน ...เกรงใจอ่ะคร้าบบบบ
...เอาวะ!! งานนี้เพื่อให้ได้ตัวเฮียสุดที่รักมาเชยชม ไอ้ไวไวขอสู้ตาย!!!!“ขอกำลังใจหน่อยได้ไหมอ่า แบบว่าจุ๊บๆ โอ๊ย!!!” แทนที่จะได้อย่างที่ขอ ดันได้มะเหงกมากลางกบาลแทนนะซิ
“ไอ้เด็กทะลึ่ง!! นี่มันหน้าบ้านนายแม่ เดี๋ยวก็อีกซักทีเอาไหม!!?” วายุเอี้ยวตัวหลบพร้อมกับส่ายหัวอย่างหวาดๆ ตอนที่เห็นหน้าโหดเหี้ยมของไอ้คุณเฮีย ...แต่ก็นะ...ที่โหดก็เพราะเฮียเขินใช่ไหมเล่า!! ดูออกหรอกนะ!!
“ทำร้ายร่างกายกันตลอดๆ” เสียงบ่นพึมพำก่อนจะเปิดประตูลงไปจากรถ บ้านหลังใหญ่ที่เคยมาจนชิน ไม่เคยหนักใจเท่าครั้งนี้มาก่อน เพิ่งเข้าใจอารมณ์ของคุณพจมาน ณ บ้านทรายทอง ก็วันนี้นี่เอง!!
เจ้าของบ้าน...นายแม่นั่งกอดอกด้วยใบหน้าราบเรียบเหมือนกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่างอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก สายตาที่มองมาดูเย็นชาไม่เหมือนทุกครั้ง แน่นอนว่าคนที่ถูกจับจ้องกำลังรู้สึกผิดอย่างแรงจนต้องก้มหน้าลงมองพื้นเพื่อหลบหลีก เมื่อนายแม่เป็นทั้งผู้มีพระคุณเคารพเหมือนแม่คนที่สอง ไอ้เด็กคนนี้ยังมาอกตัญญูตีท้ายครัวงาบเอาลูกชายคนโตของท่านไปซะ
“ไหน!! ไม่เห็นจะเหมือนกับที่พูดตกลงกันไว้” วายุสะดุ้ง มือเอื้อมไปจับชายเสื้อของคนที่เดินนำหน้าตัวเองโดยอัตโนมัติเหมือนตอนเด็กที่มักจะโดนดุด้วยเสียงแบบนี้ประจำเวลาไปแอบเล่นซนที่ไหนมา
เหงื่อตก!! รู้สึกไม่ต่างจากตัวเองเป็นนักโทษที่โดนจับได้ แล้วโดนลากเข้ามาในค่ายกักกันของฝ่ายตรงข้าม กำลังจะเข้ารับการพิจารณาโทษ ทั้งห้องเงียบกริบ พี่สาวคนสวยที่คอยช่วยก็ไม่อยู่ ไอ้คุณเฮียที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ดันทำตัวเหมือนผู้คุม ยืนนิ่งไม่ยอมพูดช่วยอะไรเลยซักอย่าง
“คุณน้าครับ...ผมขอโทษที่ทำแบบนี้ ขอโทษที่ผิดคำสัญญา ไม่มีความอดทนพอ...” วายุคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ ก่อนจะคลานเข้าไปหาผู้มีพระคุณตรงหน้าอย่างนอบน้อม แล้วทำในสิ่งที่ทุกคนดาดไม่ถึง ก็คือก้มลงกราบแทบเท้าของนายแม่
“วายุ!!!” จากน้ำเสียงเย็นชา กลายเป็นว่าคุณนายสุชาดาอุทานด้วยความตกใจ จะดึงเท้ากลับก็ไม่ได้ จนกระทั่งเจ้าหลานชายคนโปรดเงยหน้าขึ้น
“ได้โปรด...อนุญาตให้ผมได้อยู่กับเฮียเถอะนะครับ” คำขอร้องซื่อตรงและชัดเจน ทำเอาทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสนิทไร้ความเคลื่อนไหว แม้แต่เสียงลมหายใจยังได้ยิน
“ไอ้หมีบ้านี่!!” นายตุลตวาดเสียงดังลั่นบ้าน ที่จริงอยากจะเดินไปตบกะโหลกไอ้หมีบ้าหน้าด้านมันซักที ถ้าไม่ติดว่าโดนสายตาโหดๆ ของนายแม่ปรายมองมาอยู่ก่อน ...พูดออกมาได้ประโยคแบบนั้น มันก็เหมือนกับพาไอ้หมีมันมาสู้ขอตัวเองเลยน่ะสิโว้ย!!
“ว่าไงตุล น้องมันพูดขนาดนี้แล้ว เรายังจะมัวมาอ้ำอึ้งอยู่อีก” คำพูดของนายแม่ที่ได้ยินทำเอาวายุขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างมึนจัด นึกว่างานจะเข้าตัว...ที่ไหนได้กลับกลายเป็นพุ่งชนไปทางอีกคนโครมใหญ่ แถมสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มยินดีต่างกับไอ้คุณเฮียเยี่ยงสนทนากันคนละเรื่องเดียวกัน...มันยังไงกันล่ะหว่า...ไอ้ไวไวงงครับท่าน
“ผมไม่ได้จะพามันมาให้แม่ถาม แค่อยากรู้ว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่ แล้วก็จะบอกว่ามันไม่สำเร็จ แค่นั้น!!” นายตุลหันไปตอบกลับแม่ของตัวเองอย่างหงุดหงิด พร้อมกับปรายตามองไปทางไอ้หมีสำนึกผิดอย่างอาฆาต
“แผน!!? แม่ไปวางแผนอะไรไม่มีซักหน่อย” เสียงสูงปรี๊ดขนาดนี้...ปิดยังไงก็ไม่มิด คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลางระหว่างสองแม่ลูกเริ่มมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจ จากตัวหลักกลายเป็นคนนอกสายตาไปซะอย่างงั้น!!
“เอ่อ..คือ....ผมไม่โดนโกรธแล้วใช่ไหมครับ” วายุยกมือขึ้นเหมือนจะขออนุญาตแทรกพูด ในระหว่างที่สองแม่ลูกกำลังสบสายตากัน คล้ายกับมีกระแสไฟแล่นเปรี้ยะๆ เหมือนในหนัง
“ก็หลานไม่ได้ทำผิดสัญญาอะไรนี่จ๊ะ ลองถามคนที่ไปพาตัวเรากลับมาสิ” เอ่อ!!! อันนี้กระผมคิดว่าไม่สมควรหันไปถามอย่างยิ่ง ตอนก่อนจะเข้ามาในบ้านกลัวแทบตาย แต่ตอนนี้ไอ้ไวไวกลัวตอนที่จะกลับออกไปแล้วล่ะครับท่าน ดูหน้าไอ้คุณเฮียซิคร้าบบบ!!
“แม่ให้ไอ้ไวไวไปไหน มีข้อตกลงอะไรกันที่ผมไม่รู้อีก!!” บรรยากาศเริ่มคุกรุ่นอุณหภูมิในห้องเริ่มเดือด เมื่อไอ้คุณเฮียขึ้นเสียงแข็งใส่นายแม่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น แล้วสาเหตุส่วนหนึ่งมันก็มาจากไวไวคนนี้นี่เอง
“คุณน้าแค่บอกให้ผมไม่เจอเฮียเป็นเวลา 3 เดือน ถ้าทนได้จะยอมรับความรู้สึกของผมที่มีให้เฮีย..”
“แค่นั้น...!!?” วายุพยักหน้าหงึกๆ ทันที กลัวเฮียแกจะของขึ้น
“แล้วลูกก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว ไปรับวายุกลับมาเอง เรื่องนี้ถือว่าไม่ผิดกติกา แต่มันอยู่ที่ใจลูกต่างหากนายตุล!!” งานเข้า!!!กลายเป็นว่างานนี้งานเข้าไอ้คุณเฮียเต็มๆ สองแม่ลูกคู่นี้เค้าเล่นอะไรกัน ไอ้ไวไวอยากจะกลายร่างเป็นนินจาแล้วหายตัววับไปซะบัดเดี๋ยวนี้
แต่...เดี๋ยวนะ!! เฮียไปรับกลับ = เฮียก็มีใจคิดถึงผมอ่ะดิ!!“จะ..จริงเหรอ เฮียก็คิดเหมือนผมใช่ไหมอ่ะ เย้ย!!” กระโดดหลบฝ่าเท้าไอ้คุณเฮียที่ลอยมาแทบไม่ทัน ดีนะว่ายึดขาของนายแม่เอาไว้ได้
“วายุ..รู้ใช่ไหมว่าลูกชายน้า มันเอาแต่ใจ ขี้โมโห ชอบลงไม้ลงมือ แล้วหลานยังจะเต็มใจอยู่ด้วยงั้นรึ” วายุเหลือบมองไปทางลูกชายคนที่ว่าอย่างหวาดกลัว ฝ่ามือของคุณน้าที่ลูบอยู่บนหัวยังคงอ่อนโยนเหมือนแต่ก่อน
ที่จริงคุณนายสุชาดาเริ่มสงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว ในสายตาของผู้สูงอายุเคยผ่านมาหมดแล้วทั้งความรู้สึกยินดีมีรักหรือแม้กระทั่งแอบรัก แล้วทำไมจะไม่รู้ถึงความเปลี่ยนไปของลูกชายคนโตที่เริ่มสดใสขึ้น เริ่มสนใจสิ่งต่างๆรอบตัว ไม่ใช่แค่ขังตัวเองอยู่ในห้องอยู่ในบ้านเหมือนอย่างเคย แล้วไหนจะสายตาที่ไล่ตามมองเจ้าหลานชายคนโปรดโดยไม่รู้ตัวนั่นอีก ที่น่าห่วงคือ..นิสัยปากไม่ตรงกับใจ
“แม่!!!” นายตุลตวาดขึ้นมาอีกรอบ คราวนี้รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนไปจนถึงใบหู ทั้งที่ตอนแรกเรื่องไม่ใช่ของตัวเองแท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมงานนี้เหมือนหาเรื่องใส่ตัวแบบเต็มๆ
“ผมทนได้ครับ ต่อให้เฮียตุนใจร้ายกว่านี้ ชอบตีผม แต่ถ้า....ถ้าตราบใดที่เฮียรู้สึกแบบเดียวกับผมล่ะก็ ไอ้ไวไวเต็มใจครับ!!”
“ไอ้ไวไว!! หุบปากไปเลย!!”
“ต๊ายยยยย นี่ฉันได้ลูกชายมาเพิ่มอีกหนึ่งคนแล้วซิ”
นายตุลยกมือตบหน้าผากตัวเองพร้อมกับนวดขมับต่อ เมื่อสองน้าหลานสุดรักสุดหวงเริ่มสร้างโลกส่วนตัวคุยกันเองโดยไม่สนใจ ว่าหนึ่งคนในหัวข้อสนทนายังยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ แล้วไอ้หมีโย่งที่ตอนแรกทำหน้าเหมือนจะโดนลากมาโรงเชือด ทีตอนนี้กลับมาทำหน้าระรื่นได้รวดเร็วจนน่าหมั่นไส้ รู้งี้ปล่อยให้มันหงอยเป็นหมีง่อยอยู่กับบ้านอีกซักสองสามวันค่อยพามาเคลียร์ก็ดีหรอก
แล้วนี่สรุปว่า....งานเข้าใคร!!? ดวงตกจริงๆปีนี้ ไอ้ตุลเสียรู้คนเค้าไปทั่วเลยเว้ย!!!========================
ตอนสุดท้ายของปีนี้แล้วนะ
หลังจากนี้จะแบกเป้เข้าป่า วันทีี 4 ถึงจะออกมาเจอหน้าทุกคนอีกครา
ยังไงก็ฝากดูแลบ้านเฮียให้ด้วย เผื่อมีใครย่องเข้าบ้านจับหมีไปเชือด 555
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม
ปีหน้าฟ้าใหม่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยขอรับ


ปล. ช่วงแปะโฆษณา
"เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนพิเศษ : วันหยุดประจำปี" มาแล้วนะ
น่าร้ากกกกมิมีเปลี่ยนแปลงอย่าลืมเข้าไปติดตามชม 