>>เพราะ "รัก" คำเดียว<< บทสรุป UP!!! 26/11/53
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>เพราะ "รัก" คำเดียว<< บทสรุป UP!!! 26/11/53  (อ่าน 86807 ครั้ง)

tonight

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> เพราะ "รัก" คำ
«ตอบ #60 เมื่อ15-10-2010 12:25:14 »

อะไรที่จะเปลี่ยนไปน้า...วัตรจะเปลี่ยนใจไปชอบอิงฟ้าเหรอ เห็นด้วยค่ะน้องมินทร์ควรงอนแล้วให้ง้อยากๆหน่อย อยากไม่สนใจดีนัก ชิ!!!
ส่วนวีกับดล ที่วีไม่เข้าใจนั้นเราเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแหละ

PS. ไรท์เตอร์คะ ตกลงว่าดลเนี่ยชื่อ นภดล หรือภูวดลกันแน่


ขอบคุณนะคับที่ท้วงติง ไรท์เตอร์เบลอไปหน่อยคับ ชื่อ นภดลคับ ขอโทษที Ps ตอนที่ 3 ผิดเต็มๆคับ ขออภัยอย่างสูง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2010 12:30:27 โดย tonight »

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แบบนี้ น้องมินทร์ จะสู้กะอิงฟ้า ได้เหรอ ดูท่าฝีมือคุณเธอใช่ย่อยนะนั่น

แล้ว ดล กับ วี เขามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรกัน

tonight

  • บุคคลทั่วไป
-5-   

หลังจากมื้อค่ำที่ได้ผู้ร่วมโต๊ะอาหารมาเพิ่มอีก 3 คนแล้วนั้นก็ได้เวลาส่งแขกกลับบ้านเสียที เรวัตรยืนคุยกับศิลาและอิงฟ้า แต่หลังจากที่ชายวัยกลางคนขึ้นรถไปแล้วนั้นหญิงสาวก็ได้พูดคุยกับชายหนุ่มต่ออีก

“แวะมาที่ไร่อิงดาวบ้างนะคะ วัตร”

เธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

“ได้ครับ ไว้ผมจะแวะไปรบกวนนะครับ คุณอิงฟ้า”

“เรียกฟ้าก็ได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ”

เสียงอ่อนหวานเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาให้จนกระทั่งขึ้นไปนั่งบนรถคันหรู

“แล้วเจอกันนะมินทร์”

อิงธารเอ่ยบอกเพื่อนรักก่อนจะรั้งร่างโปร่งเข้ามากอด

“แล้วเจอกัน อ่อ…อย่าลืมที่พูดไว้นะว่าจะแนะนำครูสอนขี่ม้าให้รู้จักน่ะ”

ภูมินทร์เอ่ยแซวทิ้งท้าย

หลังจากที่รถคันหรูแล่นออกไปนอกบริเวณ เรวัตรก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก ชายหนุ่มหันไปมองหลานชายตัวเองที่ทำหน้างอง้ำ เมื่อเขาสะกิดให้อีกฝ่ายหันมาสบตากลับโดนเมินใส่

“งอนอะไรอาอีกล่ะ หืม…”

“เปล่างอนอะไรสักหน่อย”

ภูมินทร์เอ่ยก่อนจะหมุนตัวเพื่อจะเดินเข้าบ้านแต่มือใหญ่กลับคว้าท่อนแขนเรียวไว้เสียก่อน

“บอกอามาก่อนว่างอนเรื่องอะไร”

“ก็มินทร์บอกแล้วว่าไม่ได้งอน”

“ไม่งอนได้ยังไง ดูสิ ปากจะติดกับจมูกอยู่แล้ว”

“อาวัตร…”

“นั่น…ขึ้นเสียงเรียกอาอย่างนี้แสดงว่าไม่พอใจ”

“ช่างเถอะ มินทร์คงง่วงนอน”

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มเมื่อเห็นหลานชายตัวดีหน้าตาบึ้งตึง อาการแบบนี้คงเพราะไม่อยากจะเห็นว่าเขาให้ความสนใจหรือให้ความสำคัญกับใครคนอื่นนอกเหนือจากเจ้าตัวสินะ

“อาวัตร ปล่อยมินทร์ลงเดี๋ยวนี้นะ…”

เด็กหนุ่มตะโกนลั่นก่อนจะใช้มือทุบตีแผ่นหลังกว้างเมื่อเรวัตรจับตัวขึ้นพาดบ่าปล่อยให้หัวทิ่มลงดิน

“อาวัตร…มินทร์จะฟ้องอาวีกับอาดล”

เด็กหนุ่มดิ้นไปมาอย่างไม่ยอมแพ้ทำให้ชายหนุ่มหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ

“อาวีกับอาดลของเราหายต๋อมไปตั้งแต่หัวค่ำแล้วคงไม่มีใครให้ฟ้องแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ…”

ในที่สุดเรวัตรก็อุ้มเด็กหนุ่มมาส่งถึงห้องนอนจนได้

“ถึงห้องแล้ว ปล่อยมินทร์ลงนะ”

“ก็มินทร์ง่วงนี่นา เดี๋ยวอาจะส่งถึงเตียงเลย”

ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า มือใหญ่อีกข้างที่ว่างก็บิดลูกบิดประตูเปิดออกก่อนควานหาสวิตช์ไฟ ทันทีที่แสงไฟส่องสว่างก็พบกับห้องกว้างที่ดูสะอาดสะอ้านและจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นระเบียบ มุมห้องด้านหนึ่งเป็นเตียงสี่เสาขนาดคิงไซต์ เมื่อเจอเป้าหมายเรวัตรจึงวางร่างโปร่งลงก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟ

มุ้งบางๆที่ถูกมัดอยู่ที่เสาเตียงถูกจัดให้คลุมรอบเตียงอย่างดีก่อนชายหนุ่มจะเปิดด้านหนึ่งเพื่อเข้าไปนั่งเคียงข้างกับร่างที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง

“ตกลงจะไม่บอกอาจริงๆเหรอว่างอนเรื่องอะไร”

“มินทร์ไม่ชอบคุณอิงฟ้า”

“ทำไมล่ะ ฟ้าก็ดูเป็นคนดีนี่นา”

“รู้จักกันไม่เกินสองชั่วโมงก็เรียกชื่อสนิทสนมกันซะแล้ว อาวัตรชอบล่ะสิ”

ชายหนุ่มทำแค่เพียงยักไหล่อย่างสบายๆโดยไม่ตอบคำถามใดๆยิ่งทำให้เด็กหนุ่มน้อยใจจนล้มตัวลงนอนก่อนจะดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมซะจนเกือบมิดร่าง

เรวัตรโน้มตัวเข้าไปใกล้พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่ภูมินทร์ไม่ได้เห็น ใบหน้าคมก้มลงเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของตัวเองที่สะท้อนมาจากผิวแก้มนุ่มแต่ริมฝีปากบางจรดลงบนตำแหน่งหน้าผากมน

“ไม่มีใครแย่งอาไปจากมินทร์ได้หรอกนะ ฝันดีครับ”

ชายหนุ่มร่ายเวทมนต์ขับกล่อมเด็กหนุ่มแสนงอนเป็นที่เรียบร้อยก็เดินมาที่ประตูก่อนจะปิดไฟและเดินออกจากห้องไป

ใครบางคนที่ทำตัวแสนงอนก็ค่อยๆลดผืนผ้านวมมาไว้ที่หน้าอกก่อนจะอมยิ้มพร้อมทั้งใช้ฝ่ามือสัมผัสลงบนไออุ่นจางๆของใครบางคนที่ทิ้งไว้บนหน้าผาก พวงแก้มที่สะท้อนกับแสงไฟขึ้นสีระเรื่อ

ภูมินทร์ลืมเรื่องที่ไม่พอใจไปเสียสิ้นเพียงแค่การกระทำที่แสนอบอุ่นอ่อนโยนจากบุคคลสำคัญ

“ไม่มีใครแย่งอาไปจากมินทร์ได้หรอกนะ”

คำพูดนั้นยังก้องอยู่ในหูและเด็กหนุ่มก็หลับไปพร้อมกับประโยคที่ราวกับคำมั่นสัญญาว่าจะไม่มีใครพรากอาวัตรคนที่เปรียบเสมือนลมหายใจไปจากเขาได้

เมื่อเรวัตรออกมาจากห้องของภูมินทร์ก็พบกับนภดลเข้าพอดี

“ไง…พูดจากวนอวัยวะเบื้องล่างกลางโต๊ะอาหาร ไม่ไว้หน้าเพื่อนเลยนะ”

“โทษทีว่ะ…”

“ก้างติดคอ อ้างมาได้ ก้างบ้านญาติแกดิ บนโต๊ะไม่มีอาหารอะไรทำจากปลาซะหน่อย แกคิดอะไรอยู่กันแน่วะไอ้ดล”

“ช่างเถอะว่ะ ข้าขอโทษก็แล้วกัน”

“ไอ้ดล…” เรวัตรเอ่ยเรียกรั้งเพื่อนไว้

“จะไม่บอกข้าจริงๆใช่ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างแกกับวี”

“ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่มีอะไร จะเซ๊าซี๊ถามไปทำไมวะ แกห่วงไอ้วีมันมากนักเหรอไง”

“เอ่อ…ข้าห่วงวี”

“ไม่ต้องห่วงมันหรอก อีกไม่นานมันคงจะได้อยู่สุขสบายกับคนกระเป๋าหนัก”

“พูดอะไรของแกน่ะไอ้ดล”

“แกคงไม่รู้สินะไอ้วัตร ว่าคุณศิลาอะไรนั่นจ้องไอ้วีตาเป็นมัน คงจะอยากได้ไม่น้อย”

“ไอ้ดล…กลับกรุงเทพฯไปคราวนี้ช่วยไปผ่าหมาออกจากปากด้วยนะ พูดอะไรหัดคิดถึงใจคนอื่นซะบ้าง”

“ก็ข้าไม่ได้ประเสริฐเลิศล้ำเหมือนแกนี่”

“ข้าเบื่อที่จะพูดกับแกแล้ว ทีหลังจะพูดอะไรก็คิดถึงใจวีบ้าง วีแคร์แกมากนะเว้ย…”

นภดลเหยียดยิ้มมุมปากราวกับชื่อได้ที่ยินเป็นของแสลง กิริยาท่าทางหยิ่งยโสที่เผยออกมานั้นทำให้เรวัตรรู้ได้ในทันทีว่าสองคนนี้ต้องมีเรื่องบาดหมางกันอย่างแน่นอน

“เอ่อ…”

ปฐวีเอ่ยขึ้นมาราวกับเกรงใจเมื่อตัวเองเดินเข้ามาและทำให้บุคคลทั้งสองที่คุยกันก่อนหน้านี้ต้องหยุดบทสนทนาลงกลางคัน

“วีคงไม่ได้เข้ามาขัดหรอกนะ”

“ไม่หรอกวี”

เรวัตรเอ่ยก่อนจะเดินไปโดยปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง

“ก้างหายติดคอหรือยังดล”

“ฉันแค่คิดไปเองว่ามันติดน่ะ”

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

“รู้สึกยังไงบ้างล่ะ เป็นที่หมายตาของเจ้าของไร่ชาเชียวนะคราวนี้”

“ดล…คุณศิลาเขาแต่งงานแล้วนะแถมยังมีลูกอีกตั้งสองคน อย่าพูดแบบนี้เลยนะ”

“ไม…พ่อหม้ายลูกติดอีกแค่สอง รับไม่ได้เหรอไง ปฐวี”

“หยุดพูดเถอะดล วีรู้ตัวดีว่าดลคงไม่มีวันเห็นค่าอะไรในตัววี แต่วีขออยู่ข้างๆดลต่อไปแบบนี้ก็พอแล้ว อย่ายัดเยียดวีให้คนอื่นเลยนะ”

“หึ…ฉันชังน้ำหน้านายจริงๆ ปฐวี”

“ดล…เรื่องวันนั้นวีขอโทษ”

นภดลฮึดฮัด ในใจนึกอยากจะซัดอีกฝ่ายสักโครมแต่ชายหนุ่มแต่งตัวดีกลับเดินหนี

ปฐวีได้แต่มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายจับลับสายตาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาพร้อมทั้งถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยล้า

ปฐวีเป็นเพื่อนสนิทของนภดลตอนที่อยู่กรุงเทพฯ ทั้งคู่ไปไหนมาไหนกันไม่ต่างจากเงาตามตัว ด้วยความสนิทสนมและใกล้ชิดทำให้ปฐวีผูกหัวใจฝากไว้กับคนที่เป็นเพื่อนรัก

เมื่อก่อนนั้นปฐวีรู้ดีว่านภดลนั้นหลงรักผู้มีศักดิ์เป็นหลานของเรวัตรแต่เรวัตรนั้นไม่ยินยอมทำให้เพื่อนของเขาเสียอกเสียใจจนต้องปลอบเป็นการใหญ่

“ดล…พอได้แล้ว”

ปฐวีเอ่ยห้ามเมื่อผู้เป็นเพื่อนยกแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันขึ้นดื่ม

“ปล่อยฉัน…วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะเศร้า เพราะหลังจากนี้ฉันจะกลับไปเป็นอาที่ดีของน้องมินทร์”

นภดลดื่มจนหลับคาเค้าท์เตอร์ที่ร้านทำให้ปฐวีต้องแบกคนเมาจนหลับกลับอพาร์ทเม้นต์ที่ทั้งคู่แชร์ค่าห้องกัน

คนสติครบถ้วนประคองคนเมาไม่ได้สติก่อนจะทิ้งตัวอีกฝ่ายให้นอนลงบนเตียงและคลายปมเนคไทพร้อมกับปลดกระดุมลงสองสามเม็ดเพื่อให้อีกฝ่ายหายใจได้สะดวก

ไอเย็นของผืนผ้าที่ไล้ไปตามผิวเนื้อทำให้นภดลต้องรั้งแขนอีกฝ่ายให้หยุด

“เช็ดตัวหน่อยนะดล จะได้สบายตัวขึ้น”

ปฐวีเอ่ยบอกเพื่อนก่อนทำท่าจะลุกไปเปลี่ยนน้ำแต่มือใหญ่กลับรั้งท่อนแขนไว้

“น้องมินทร์ อย่าจากอาดลไปนะครับ”

ร่างโปร่งเปลี่ยนมากุมมืออีกฝ่ายไว้ก่อนจะนั่งลงข้างๆเตียง

“นี่วีเอง…ดลก็รู้ว่าวีจะไม่มีวันทิ้งดลไปไหน วีจะอยู่ข้างๆดลตลอดไป”

ปฐวีสบตากับนัยน์ตาพราวระยับจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์อย่างมีความหมายแต่กลับเป็นนภดลที่ฉุดร่างอีกฝ่ายขึ้นมาสวมกอด พรมจูบไปทั่วดวงหน้าและในเมื่อมันก็เป็นสิ่งที่ปฐวีปรารถนาฉะไหนเลยจะต้องปฏิเสธ

และตั้งแต่เช้าวันที่นภดลตื่นขึ้นมาเจอปฐวีนอนเคียงข้างในสภาพที่รู้ได้ตั้งแต่แรกเห็นว่าเกิดสิ่งใดขึ้นก่อนหน้า ดวงตาที่เคยมอง รอยยิ้มที่เคยมีให้ คำพูดที่เคยได้ยิน การกระทำที่เคยทำ ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าของนภดลคนเดิมอีกเลย

ปฐวีหยุดคิดเพียงเท่านั้นก่อนจะกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ร่างโปร่งเดินไปยังหน้าห้องที่มีคนที่เปรียบเสมือนหัวใจของตัวเองอยู่ภายใน มือเรียววางแนบลงบนบานประตูไม้เนื้อหนาราวกับอยากจะสัมผัสคนที่อยู่ด้านใน

“วีขอโทษ…”

เขาคงมีสิทธิ์พูดได้แค่คำนี้เพราะถ้อยคำอื่นๆนภดลคงไม่ต้องการที่จะฟัง เพราะเขาเป็นแค่เพียงคนที่ไร้ค่าในสายตา และต่อให้เขาพูดด้วยคำสวยหรูสักเพียงใดสุดท้ายมันก็เป็นได้เพียงแค่คำพูดที่
“ไร้ความหมาย” ของคน “ไร้ค่า”

ชื่อนภดลคือผืนฟ้า ชื่อปฐวีคือผืนดิน

มันก็บ่งบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าระหว่าง “เรา” แม้จะอยู่เคียงข้างกันแต่ความรู้สึกคงเป็นได้แค่เพียง…

เส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ… 

2BCon…

(ติดตามตอนต่อไปด้วยนะคับ หุหุ อย่าเพิ่งเบื่อกันน๊า...ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ที่เป็นกำลังใจให้นะคับ เจอกันตอนหน้าคับ o18

ปล พรุ่งนี้วันเกิดไนท์นะคับ :mc4: ถ้าไม่มีโปรแกรมไปเลี้ยงที่ไหนไนท์จะเอานิยายมาลงต่อให้อีกตอนนะคับ แต่ถ้าออกไปที่อื่นก็เจอกันวันต่อไปเหมือนเดิมนะคับ ขอบคุณคร๊าบ... :call:)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อาวัตรอ่ะ อย่าใจวอกแวกเชียวนา
ยิ่งยัยอิงฟ้าทอดสะพานพระราม8 สะพานพระราม9 ให้ซะ
ขืนอาวัตรทำให้หลานมินทร์เสียใจนะ ระวังแฟนคลับน้องมินทร์ถล่มยับแน่

นายนภดล ทำไมนายไม่รับผิดชอบการกระทำของนายเลยล่ะ
ฮึ..ทีหลังอย่ามาเผลอใจหลงรักวีเข้าเชียวนะ

จะรอตอนต่อไปจ้ะ

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
สนุกดี...ชอบบบบ
แต่ไม่ชอบดราม่าเลยอ่ะ

ขอหวานๆ แต่ไม่ดราม่าได้มะ :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2010 13:11:58 โดย mutoo »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
+1 จ้า สำหรับอาหลานที่น่ารัก

แล้วก้รู้ถึงสาเหตุแล้วว่าทำไม นภดลถึงได้พูดไม่ดีกับปฐวีเลย


ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อ่าว นภดล เมาเอง แล้วหมางเมินคนอื่นเรอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
โอเค เรื่องของวีกับดลก็เป็นอย่างนี้เอง แต่เราว่ามันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่แหละ โอ๊ย!! ไม่รู้ไม่รู้ ดลอย่ามาหวงและห่วงวีภายหลังละกัน ชิ! 
 
   มินทร์กับอาวัตร เป็นอะไรที่น่ารักอบอุ่นอย่างมากมาย  อิงฟ้าก็แค่สีสันต์เท่านั้นเอง

PS. Happy birthday ค่ะไรท์เตอร์ มีความสุขมากๆ สมหวังในทุกๆเรื่อง

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
เมาเอง จับคนอื่นกดเองแล้วเสือกทำงี้ได้วะเนี่ย
เซงคุณอาจริงจัง


ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
อะไรของมันฟระ แกเมาแล้วจับเค้ากด

แล้วยังมาทำหมางเมินใส่

ว่าเค้าเสีย ๆ หาย สรุปนี่ วีผิดใช่มั้ยอิตาคุณดล  :angry2:

 :a: สุขสันต์วันเกิดจ้าน้องไนท์ มีความสุขมากๆ นะจ๊ะ :L1:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
สักวันผืนฟ้าจะลงมาเคีียงผืนดิน....

tonight

  • บุคคลทั่วไป
-6-

   เช้าวันนี้อากาศดีเป็นพิเศษจึงทำให้ภูมินทร์ถือโอกาสชวนปฐวี อาคนสนิทไปขี่จักยานเล่นและเผื่อบางทีเขาอาจจะได้ล่วงรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นระหว่างอาดลและอาวีของเขากันแน่

“อาวี เดี๋ยวเราขี่จักรยานไปบนเนินนั้นดีกว่าครับ”

เมื่อทั้งคู่มาจอดจักรยานบนเนินเขาก็มองเห็นวิวทิวทัศน์ของไร่ได้ทั่วทุกบริเวณและรวมไปถึงบางส่วนของไร่อิงดาวที่มีพื้นที่ติดกัน

“วิวสวยมากเลยนะที่นี่ อาชักเริ่มไม่อยากกลับกรุงเทพฯซะแล้วสิ”

“แล้วอาวีจะปล่อยให้อาดลกลับไปคนเดียวเหรอครับ”

“อาจจะใกล้ถึงเวลาที่อาจะต้องปล่อยดลไปแล้วมั้ง”

เด็กหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ชายร่างโปร่งก่อนจะวางมือลงบนมือของอีกฝ่าย

“อาไม่เป็นไรหรอกมินทร์ เพื่อนก็แบบนี้แหละอยู่เคียงข้างได้แต่วันใดที่เขาไม่ต้องการ เราก็ต้องเดินออกไปจากชีวิตของเขา มันไม่เหมือนกับคนรักหรอกนะ”

“ผมไม่อยากเห็นอาวีเศร้า”

ปฐวีหันมายิ้มบางๆก่อนจะมองไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้า

“เวลามันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น อาไม่เป็นไรหรอก”

ชายหนุ่มหันมาวางมือลงบนเส้นผมนุ่มและออกแรงขยี้เบาๆอย่างเอ็นดู

“เดี๋ยวอาไปถ่ายรูปวิวทางด้านโน้นแป๊บนะ เดี๋ยวจะรีบกลับมา”

ปฐวีเอ่ยบอกก่อนจะรีบเดินไป

อากาศที่เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวทำให้เด็กหนุ่มยืดแขนขึ้นเหนือศีรษะและสูดหายใจเอาออกซิเจนเข้าเต็มปอด สายลมหอบใหญ่พัดผ่านก่อนจะมีหมวกโคบาลสีน้ำตาลเข้มลอยตามมาด้วยและมาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม เจ้าตัวจึงก้มลงเก็บ

ภูมินทร์มองซ้ายมองขวาแต่แล้วสายตาก็ต้องไปสะดุดเข้ากับร่างสูงใหญ่ที่สวมเสื้อเชิ้ตลายตารางสีแดงชายเสื้อยัดในกางเกงยีนส์ยี่ห้อดี

“เอ่อ…คุณครับ หมวกใบนี้ของคุณหรือเปล่า”

เด็กหนุ่มตะโกนถาม

“ใช่ครับ”

เสียงทุ้มนุ่มตอบกลับและรีบเดินเข้ามาหา ภูมินทร์ส่งหมวกโคบาลคืนให้เจ้าของก่อนจะส่งรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพไปให้เพราะคนแถวๆนี้ล้วนเป็นเพื่อนบ้านที่ดีทั้งสิ้น

“ขอบคุณนะครับ คุณ…”

“มินทร์ครับ”

“ตะวันครับ ผมต้องรีบไปตรวจไร่ต่อ แล้วเจอกันอีกนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับเจ้านี่นะครับ”

ชายหนุ่มนามว่า “ตะวัน” เอ่ยรวดเดียวจบก่อนจะสวมหมวกและมุ่งหน้าไปยังทุ่งหญ้ากว้างที่มีคนขี่ม้ารออยู่ ร่างสูงใหญ่ขึ้นควบม้าสีดำด้วยท่วงท่าสง่างามจนภูมินทร์อดชื่นชมไม่ได้

กลุ่มคนเหล่านั้นคงจะเป็นคนของไร่อิงดาวเพราะแถวนี้มีที่ไร่อิงดาวเท่านั้นที่มีคอกม้า แต่จะว่าไปแล้วที่ไร่ของเขาเองอีกไม่นานก็คงจะมีคอกม้าเหมือนกันล่ะมั้ง

“รอนานไหมครับ น้องมินทร์”

“ไม่นานเลยครับ อาวี”

“เรากลับกันเลยดีไหม อาชักเริ่มหิวข้าวแล้ว”

เมื่อกลับมาถึงส่วนที่เป็นที่พักอาศัย อาหารเช้าก็ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว

“ไง…อากับหลานออกไปไหนกันแต่เช้า”

“มินทร์พาอาวีไปบนเนินชมวิวมา”

“ไม่ชวนอาดลเลยนะครับ อาน้อยใจนะ”

“ก็ผมเคาะเรียกตั้งหลายครั้งอาดลไม่ยอมตื่นเองนี่นา ไว้คราวหน้านะครับ”

นภดลยิ้มให้อย่างเอ็นดู ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกันที่ความรักแบบปรารถนาจะครอบครองที่มีให้ภูมินทร์จะแปรสภาพเป็นเพียงความรักแบบห่วงหาอาทร

“มากันแล้วเหรอทั้งสองคน นึกว่าจะต้องออกไปตามซะอีก”

“มินทร์ไม่พาอาวีหลงหรอกน่า อาวัตรก็…”

ภูมินทร์เอ่ยแต่เมื่อสายตาคู่คมของผู้เป็นอามองมาตรงๆก็ทำให้เด็กหนุ่มหลบตาทันที แก้มรู้สึกเหมือนจะร้อนผ่าว อาการแบบนี้ภูมินทร์เองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ แต่รู้เพียงแค่ว่าอาการเหล่านี้มักจะเป็นเฉพาะเวลาอยู่กับอาวัตรเท่านั้น

“เดี๋ยวเรากินกันเสร็จ จะพาทัวร์นอกพื้นที่นะ”

“เย่…อาวัตรจะพาเที่ยว”

ภูมินทร์เอ่ยด้วยความดีใจ

“ไปที่ไหนล่ะ ต้องแพคกระเป๋าไหม”

“ไปไร่อิงดาวน่ะ”

เด็กหนุ่มหุบยิ้มลงซึ่งใบหน้าก็ไม่ต่างจากนภดลสักเท่าไหร่

“ข้าไม่ไปได้ไหม”

“อย่าเสียมารยาทสิ คุณศิลาชวนทุกคนไปด้วยกัน”

“ใจจริงคงอยากจะให้ใครบางคนไปคนเดียวมากกว่า นอกนั้นน่ะตัวแถมทั้งนั้น”

นภดลเอ่ยก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปากซึ่งอาการเหล่านี้ก็ทำให้ใครบางคนคนนั้นถึงกับเศร้าซึม

“มินทร์ ธารเขาจะชวนเราไปขี่ม้าน่ะ”

“จริงเหรอครับ อาวัตร”

แต่เด็กหนุ่มก็เปลี่ยนอารมณ์ได้รวดเร็วเมื่อได้ยินชื่อเพื่อนรักและกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ

“ถ้าไม่รีบ เดี๋ยววีจะอบเค้กส้มให้วัตรเอาไปฝาก”

“ได้เลย”

เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยเรวัตรขับรถกระบะ 4 ประตูคันใหญ่มุ่งหน้าสู่ไร่อิงดาวซึ่งโดยทั่วไปแล้วลักษณะของไร่จะคล้ายๆกันแต่ที่ไร่อิงดาวนั้นส่วนใหญ่จะมองเห็นภาพแนวสีเขียวขจีของต้นชา

ส่วนที่พักอาศัยเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังโตตั้งตระหง่านบนเนินหญ้าและมีสวนดอกไม้ที่กำลังออกดอกหลากสีสันบานสะพรั่ง

ทันทีที่เรวัตรจอดรถก็ได้เห็นอิงธารมารอต้อนรับก่อนแล้วแต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะให้ความสนใจก็เฉพาะแต่ภูมินทร์ เพราะทันทีที่มาถึงก็พากันไปเที่ยวเล่นตามประสาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน

“มากันแล้วเหรอคะ เดี๋ยวเราไปนั่งทางด้านนั้นกันค่ะ”

อิงฟ้าเอ่ยเสียงหวานก่อนจะเดินเคียงคู่กับเรวัตรเพื่อพาไปยังส่วนที่เป็นระเบียงต้อนรับแขก โต๊ะไม้และเก้าอี้เข้าชุดถูกจัดวางอย่างสวยงามซึ่งบนโต๊ะมีถ้วยชาที่แกะสลักอย่างสวยงามวางอยู่

“ยินดีต้อนรับสู่ไร่อิงดาวครับ”

ศิลาเอ่ยอย่างสุภาพก่อนจะเชิญทุกคนนั่งลงก่อนจะพยักหน้าให้กับผู้เป็นลูกสาว ร่างโปร่งระหงของหญิงสาวเดินถือกาน้ำชาด้วยท่าทางคล่องแคล่วราวกับถูกฝึกมาอย่างดีก่อนจะรินให้ผู้มาเยือนทุกคน

“คือ…ปฐวีเพื่อนผมทำเค้กส้มมาฝากน่ะครับ”

เรวัตรเอ่ยก่อนจะวางกล่องเค้กลงบนโต๊ะ

“ดีเลยครับ ขอบคุณนะครับคุณปฐวี”

ศิลาเอ่ยก่อนจะมองอีกฝ่ายอย่างมีความหมายพร้อมทั้งเปิดกล่องกระดาษออกก็พบกับเค้กส้มหน้าตาน่าทาน อิงฟ้าส่งมีดให้ผู้เป็นพ่อก่อนที่ชายวัยกลางคนจะตัดแบ่ง

“ไม่ต้องเผื่อดลเขานะครับ ดลเขาไม่ชอบของหวาน”

ปฐวีรีบเอ่ยบอก

“คุณวีใส่ใจคนอื่นดีจังเลยนะครับ”

ศิลาเอ่ยตรงๆซึ่งนั่นก็ทำให้ปฐวีต้องเอ่ยตอบรับอย่างคนถ่อมตัว

“ทำไมคุณดลไม่ชอบของหวานล่ะคะ”

อิงฟ้าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“ผมเลี่ยนน่ะครับ”

นภดลเอ่ยออกมาพร้อมกับทำหน้าตาท่าทางพะอืดพะอมทำให้ศิลาคลี่ยิ้มอย่างมีเลศนัย

“แต่ผมชอบของหวานนะครับ ยิ่งเค้กส้มเนี่ยถูกใจที่สุด”

นภดลลุกขึ้นพรวดแต่ก็ต้องนั่งลงและพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองด้วยความที่เขาไม่อยากจะหักหน้าเรวัตรอีก

ถ้อยคำประโยคเหล่านั้นมีเพียงแค่คนสองคนที่รู้ถึงความนัยน์ที่ซ่อนอยู่ สงครามประสาทค่อยๆก่อตัวขึ้นช้าๆซึ่งไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าวันใดที่จะก่อตัวขึ้นเป็นสงครามที่ต้องฟาดฟัน ช่วงชิง

   ทางด้านเด็กหนุ่มทั้งสองคนก็เดินชมบรรยากาศรอบๆบริเวณบ้านไปเรื่อยๆพร้อมทั้งพูดคุยกันตามประสาจนกระทั่งมาถึงน้ำตกใสที่ไหลผ่านทางด้านหลังของบ้านพักซึ่งน้ำตกนี้ได้ไหลผ่านไร่ของภูมินทร์ด้วย

อิงธารนั่งลงบนรากไม้ขนาดใหญ่ที่ยื่นลงไปในน้ำใสเย็นก่อนจะยื่นเท้าลงไปแช่

“มานั่งด้วยกันสิ มินทร์”

คนผิวขาวใสเอ่ยชวนก่อนจะขยับที่ให้เพื่อนสนิทนั่งด้วย อิงธารนั่งอมยิ้มกับตัวเองและเมื่อผู้ที่เฝ้าสังเกตเห็นเข้าก็เลยแกล้งกระแอมไอ

“คิดถึงใครอยู่ล่ะสิ มินทร์ว่าที่นี่ต้องมีความทรงจำดีๆแน่นอน ใช่ไหม”

“มินทร์เป็นคนเดียวที่ธารปิดไม่ได้จริงๆ”

“ก็เราเป็นเพื่อนรักกันนี่ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับธารแล้วมินทร์ไม่รู้นี่ จริงไหม”

“คือ…ธาร…แอบรักคนๆหนึ่งอยู่”

“อืม…แอบรัก…ฮะ…เพื่อนของมินทร์มีความรัก”

ภูมินทร์อุทานซะดังลั่นทำให้อิงธารต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากห้ามเสียงอีกฝ่ายไว้

“ชู่ว์…เบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวคนอื่นเขารู้กันหมด”

“เล่าให้มินทร์ฟังหน่อยสิ”

“สัญญาก่อนนะว่าจะไม่หัวเราะ”

ภูมินทร์พยักหน้า อิงธารหน้าแดงก่ำก่อนจะค่อยๆเอ่ยเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง

“ตอนเด็กๆธารเกือบจมน้ำที่นี่แหละ พอดีเดินไม่ดูทางจึงลื่นตกลงไป น้ำเย็นมากก็เลยทำให้เป็นตะคริว กินน้ำไปหลายอึกจนคิดว่าตัวเองจะต้องตายแน่ๆ วินาทีที่จมลงก็มีมือหนึ่งฉุดร่างของธารขึ้นมา มินทร์รู้ไหม…มือของเขาอุ่นมากแม้ว่าน้ำจะเย็นก็ตาม เขาอุ้มธารไปส่งที่บ้านเสื้อผ้าของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นของไอแดด นั่นแหละ…รักแรกและจะเป็นรักเดียวของธาร”

“ว้าว…”

ภูมินทร์อุทานพลางคิดจินตนาการถึงความรักของตัวเองบ้าง แม้ว่าจะยังไม่เห็นความรักเป็นรูปเป็นร่างแบบอิงธารแต่เขาก็มั่นใจว่าความรักของเขาคงจะมีหน้าตาคล้ายๆกับอาวัตรล่ะมั้ง

“แนะนำให้มินทร์รู้จักหน่อยสิ”

“เดี๋ยวมินทร์ก็ได้เจอเขาอย่างแน่นอน เนี่ย…ธารแนะนำให้มินทร์รู้จักคนแรกเลยนะ”

“อ่า…ชักอยากเจอเร็วๆแล้วสิ”

เด็กหนุ่มสองคนเย้าแหย่พลางหัวเราะกันอย่างมีความสุข

ช่วงเวลานี้คือเวลาที่จะตักตวงความสุขเอาไว้เพราะไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอนาคตข้างหน้า

โดยเฉพาะกับ…

 “ความรัก”

2BCon…

(ติดตามตอนต่อไปด้วยนะคับ วันนี้ไนท์จะลงให้ 2 ตอนเลยแล้วกันนะคับเพราะพรุ่งนี้ไนท์จะต้องไปเฝ้าอาม่าที่โรงพยาบาลอาจจะไม่มีเวลาเอามาลง แต่รับรองว่าหายไปไม่นานคับ กลับมาแล้วจะรีบเอามาลงต่อทันที

ไนท์ยังไม่เคยตอบคอมเม้นต์เลย วันนี้จะถือโอกาสตอบหน่อยแล้วกันนะคับ หุหุ)

PEENAT1972 - -> คุณพี่นัทไนท์จะเอามาลงเรื่อยๆคับ ขอบคุณนะคับ
yayee2 - - >คุณพี่แก้วคับ ได้ใจไนท์มากตรงทอดสะพาน มาหมดเลยคับ ส่วนเรื่องดล เขากำลังสับสน
Églantier - - > ไว้ไนท์จะแต่งหวานๆสักตอนให้คับ ^^
padigree - -> อาดลอยู่ในช่วงสับสนคับ ฮ่าๆๆ
mutoo - - > ไว้จะจัดหวานๆให้คับ
samsoon@doll - - > เหตุเกิดจากความเมาคับ
silverspoon - - > งานนี้อาดลโดนยับคับ ฮ่าๆๆ
berlyn - - > ขอบคุณนะคับ อาหลานรักกันดีคับ ให้เวลานภดลอีกนิดนะคับ ^^
jivetea - - > ไนท์ว่าถ้าอาดลอกหักคงมีคนรอตอกย้ำเพียบ ฮ่าๆๆ
heefever - - > ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคับ ไนท์เห้นพี่เม้นต์ทุกตอนเลย ^^ ปล อาดลโดนอีก ฮ่าๆๆ
iamnan - - > คับ ไนท์ชอบคำนี้มาก ผืนฟ้าลงมาเคียงข้างผืนดิน

tonight

  • บุคคลทั่วไป
-7-

   ยามค่ำคืนที่ท้องท้องฟ้าพร่างพราวด้วยแสงสว่างจุดเล็กๆกระจายไปทั่วราวกับเม็ดอัญมณีสูงค่าดาษดื่นอยู่บนผืนผ้ากำมะหยี่

ทำนองเสียงสูงๆต่ำๆของฮาร์โมนิก้าหรือเม้าส์ออแกนดังคลอไปกับเสียงของธรรมชาติ คนที่ได้ยินค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆก่อนจะยืนอมยิ้มเมื่อจับโทนเสียงได้ว่าเป็นเพลงรักหวานซึ้ง

เมื่อเสียงดนตรีเงียบลงก็เห็นริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอ่อนละมุนและใบหน้าคมเข้มก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าทำให้คนที่ลอบมองอยู่นั้นสงสัยเหลือเกินว่าอีกฝ่ายกำลังคิดถึงใครหรืออะไรอยู่กันแน่

“ขอนั่งด้วยนะฮะ”

“ได้สิธาร”

เสียงทุ้มนุ่มเอ่ย

“เพลงเมื่อกี๊เพราะจังเลยนะฮะ”

อีกฝ่ายไม่ยอมตอบแต่กลับส่งยิ้มให้และใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลเข้มของอิงธารขึ้นทัดหู

“พี่มีความสุขนะที่ได้อยู่ที่นี่”

“ธารก็มีความสุขฮะ ที่มีพี่อยู่ตรงนี้”

“ที่นี่ทำให้พี่ได้พบกับคนๆหนึ่ง เพียงแค่ครั้งแรกที่ได้สบตากันเขาก็ทำให้พี่ได้รู้ว่าเขาคือคนที่ใช่สำหรับพี่”

อิงธารอมยิ้มก่อนจะสบตากับอีกฝ่าย สายลมเย็นพัดผ่านแต่เด็กหนุ่มกลับไม่รู้สึกเหน็บหนาว แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้เอ่ยบอกออกมาตรงๆว่าเป็นอิงธาร แต่เด็กหนุ่มก็เชื่อว่าคนที่อีกฝ่ายกำลังพูดถึงคือตนเอง

   เช้าวันใหม่เป็นเช้าที่อากาศค่อนข้างจะหนาวเย็นแต่ท้องฟ้ากลับปลอดโปร่ง ทันทีที่ร่างสูงของเรวัตรเดินออกมาจากห้องนอนก็โดนเด็กหนุ่มรวบตัวกอดทันที

“มากอดอาแต่เช้าแบบนี้จะอ้อนเอาอะไร หืม…”

“อาวัตรอ่ะ…มินทร์ไม่ใช่คนเห็นแก่ได้ขนาดนั้นซะหน่อย”

“อาก็แค่ถามดู เห็นเช้าวันอื่นๆก็ไม่เคยมากอดอานี่นา”

“คนแก่ขึ้นอีกปีก็แบบนี้ สุขสันต์วันเกิดนะครับอาวัตรของมินทร์”

เรวัตรทำหน้าเหวอก่อนจะนึกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ตัวเองลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว

“อาลืมสนิทเลย”

“ไปอาบน้ำแต่งตัวเลยครับ เดี๋ยวมินทร์จะไปปลุกอาวีกับอาดล วันเกิดอาวัตรทั้งทีต้องไปทำบุญตักบาตรเสียหน่อย”

เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะดันหลังผู้เป็นอาให้กลับเข้าห้องไป

เมื่อผู้เป็นอาทั้งสามออกมาพร้อมหน้าพร้อมตา เด็กหนุ่มก็ยิ้มแฉ่ง เรวัตรพาทั้งคู่ไปยังตลาดในเมืองเพื่อเลือกซื้อกับข้าวและดอกไม้ เมื่อพระสงฆ์เดินผ่านก็นิมนต์มา

“จับต่อๆกันสิ ชาติหน้าจะได้เกิดมาเจอกันอีก”

เรวัตรเอ่ยติดตลกก่อนจะหันมาบอก เด็กหนุ่มวางมือบนมือของผู้เป็นอาก่อนจะใส่ของคาว ของหวาน เมื่อพระสงฆ์ปิดบาตรทั้งคู่ก็วางดอกกล้วยไม้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ปฐวีกับนภดลได้แต่มองก่อนจะอมยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งคู่

บอกว่าอาหลานคนอื่นคงจะเชื่อหรอกเพราะดูยังไงๆออร่าของคนรักกันมันแผ่ออกมาชัดๆ

“เดี๋ยวเข้าไปในตลาดสดซื้อปลาไปปล่อยกันเถอะครับ”

“อาเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเราก็ธรรมะธรรมโมเหมือนกัน”

“อาดลก็…มินทร์แค่อยากให้อาวัตรทำบุญวันเกิดนี่ครับ ปีอื่นๆอาวัตรไม่ค่อยจะอยู่ ปีนี้เลยถือว่าเป็นกรณีพิเศษ”

“อาวีครับ…อาวีปล่อยปลาบ้างก็ดีนะ มินทร์ว่า”

“อาจะปล่อยปลาอะไรดีล่ะ ปลาไหลทำอะไรจะได้ลื่นไหล ปล่อยเต่าอายุจะยืนขึ้น เอ่อ…อารู้แล้ว ปล่อยหอยขมท่าจะดีสุด ความขื่นขมจะได้หมดไป”

“อาวีกะจะเหมาหมดเลยเหรอครับ ฮ่าๆๆ…แล้วอาดลล่ะครับ”

“มีนกขายไหม ปล่อยนกเผื่อจะได้มีอิสระกับเขาบ้าง”

ภูมินทร์ยิ้มแห้งๆก่อนจะหันไปหาเรวัตรเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาอีกครา

“อาว่าเราแค่ตักบาตรก็โอเคแล้วล่ะมินทร์ เดี๋ยวกลับไปกรวดน้ำที่บ้าน”

“อาวัตร เย็นนี้เราจัดปาร์ตี้ฉลองงานวันเกิดที่บ้านกันนะครับ”

เรวัตรส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มก่อนจะเดินเข้าไปกอดคอเด็กหนุ่ม ระหว่างที่กำลังจะกลับนั้นก็เจอเข้ากับศิลาและอิงฟ้า

“สวัสดีครับ คุณศิลา ฟ้า”

เรวัตรเอ่ยทักทายทั้งคู่

“มาซื้อของกันเหรอครับ”

ศิลาเอ่ยถาม

“มินทร์พาอาวัตรมาตักบาตรน่ะครับ พอดีวันนี้เป็นวัน…”

ภูมินทร์รีบหุบปากทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มทำท่าทีสนอกสนใจ

“วันอะไรเหรอหนูมินทร์”

เด็กหนุ่มแค่นยิ้ม เขาไม่น่าพลาดหลุดปากไปเลย

“วันเกิดผมน่ะครับ”

เรวัตรตอบเมื่อเห็นภูมินทร์เอาแต่อ้ำอึ้ง

“สุขสันต์วันเกิดนะคะวัตร เย็นนี้คงมีปาร์ตี้ฉลองกันสินะคะ ขอฟ้าไปด้วยคนนะคะ”

เธอเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานก่อนเดินเข้ามาหยุดเคียงข้างชายหนุ่ม

“เอ่อ…ครับ”

ชายหนุ่มต้องเอ่ยตอบรับเพราะถ้าปฏิเสธก็คงจะเป็นการเสียมารยาทและอีกอย่างเขาก็เกรงใจผู้เป็นพ่อของหญิงสาวด้วย

“เชิญคุณศิลา แล้วก็ฝากเชิญน้องธารด้วยนะครับ”

เมื่อตบปากรับคำกันเป็นที่เรียบร้อยต่างฝ่ายต่างก็แยกกันไปโดยนัดหมายกันว่าเย็นนี้จะมารวมตัวกันที่บ้านของเรวัตร

“เป็นอะไรไปครับน้องมินทร์ หน้าบูดเชียว”

ปฐวีเอ่ยถามเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์งอง้ำบึ้งตึง

“มินทร์ไม่น่าหลุดปากเรื่องวันเกิดอาวัตรต่อหน้าคุณอิงฟ้าอะไรนั่นเลย”

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวเด็กหนุ่ม

“ทำไมล่ะ”

“มินทร์รู้ว่าคุณอิงฟ้าอะไรนั่นสนใจอาวัตรอยู่ มินทร์ไม่ชอบ ไม่อยากให้อาวัตรสนใจเธอ ไม่อยากให้อาวัตรยิ้มให้ ไม่อยากให้อาวัตรพูดคุยด้วย มินทร์กลัวจะเสียอาวัตรไป”

“อาวัตรเขาให้ความสำคัญกับมินทร์มาเป็นอันดับแรกเสมอ อย่าคิดมากไปเลยนะ เอางี๊…เย็นนี้อาจะสอนเราทำเค้ก เป็นการเซอร์ไพร์วันเกิดดีไหม”

“ดีครับ อาวี”

เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะกอดแขนของปฐวีแน่น

“มินทร์กับวีหายไปไหนกันนะ ปล่อยให้ข้ากับแกมาจัดสถานที่กันสองคน”

เรวัตรเอ่ยก่อนจะขยับโต๊ะและลากเก้าอี้มาจัดเรียงให้พอดีกับจำนวนคน ซึ่งนภดลก็ปีนเก้าอี้เพื่อเดินสายไฟประดับ

“น้องมินทร์คงซุ่มทำเซอร์ไพร์แกมั้ง เมื่อเช้าข้าเห็นนะ รู้ไหมเขาว่ากันว่ามือใครวางอยู่เหนือกว่าตอนใส่บาตรหรือตอนตัดเค้กแต่งงานล่ะก็คนนั้นจะเป็นใหญ่นะเว้ย ฮ่าๆๆ…”

“ไอ้พวกคิดอกุศล”

“หรือแกไม่คิด กล้าสาบานไหมล่ะไอ้วัตร”

เจออย่างนี้เข้าไปชายหนุ่มถึงกับน้ำท่วมปาก

ไม่นานทางแขกทางฝั่งของไร่อิงดาวก็มาถึง เรวัตรเชื้อเชิญให้ทุกคนนั่งลงทำตัวตามสบายก่อนจะที่แม่บ้านจะเริ่มเสิร์ฟอาหาร

“มินทร์ไปไหนล่ะครับ อาวัตร”

“อาเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่คิดว่าอีกเดี๋ยวก็คงจะมา”

“วัตรคะ ฟ้ามีของขวัญมาให้คุณด้วยค่ะ”

อิงฟ้าเอ่ยก่อนจะส่งกล่องที่ห่อด้วยกระดาษสีฟ้าน้ำทะเลและริบบิ้นสีขาวส่งให้ เรวัตรก็รับมาพร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณ แต่ดูเหมือนว่ามือของหญิงสาวจะจงใจสัมผัสลงมือของชายหนุ่มก่อนเธอจะโปรยยิ้มหวานให้

“อ่อ…ผมเอาไวน์มาฝากคุณน่ะ ถ้าไม่รังเกียจเปิดดื่มกันเลยดีกว่า”

ไม่นานเกินรออยู่ๆไฟทั่วทั้งบริเวณก็ดับลงก่อนแสงสว่างจากเทียนเล่มเล็กๆที่ถูกจุดขึ้นจะใกล้เข้ามาก่อนจะปรากฏเงาของผู้ที่เป็นคนถือ

ทันทีที่เห็นเรวัตรก็ต้องนิ่งอึ้ง เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่เคยยาวประบ่าถูกมัดรวบเป็นหางม้า ปอยผมปลิวไปตามสายลมคลอเคลียกับแก้มใสซึ่งเมื่อต้องกับแสงไฟยิ่งกลับดูระเรื่อ ริมฝีปากที่แย้มยิ้ม ทุกอย่างที่สรรค์สร้างขึ้นเป็นภูมินทร์ช่างคล้ายคลึงกับศศิเหลือเกิน

สายลมที่พัดผ่านโชยกลิ่นน้ำหอมจากตัวเด็กหนุ่มมาทำให้เรวัตรเบิกตากว้าง…ภูมินทร์ไปเอาน้ำหอมกลิ่นนี้มาจากไหน

“อาวัตร…อาวัตรครับ อธิษฐานแล้วเป่าเทียนสิครับ”

เสียงใสๆเรียกให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ก่อนที่เรวัตรจะเป่าเทียนจนดับครบทุกเล่ม

เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของทุกๆคนแทบไม่ได้เข้าหูเรวัตรเลยแม้แต่น้อย เมื่อโสตประสาทของเขารับรู้ได้แค่เพียงกลิ่นน้ำหอมกลิ่นนั้น

“วัตรคะ คิดอะไรอยู่คะเหม่อเชียว”

หญิงสาวเอ่ยก่อนจะวางมือลงบนไหล่ของชายหนุ่มแต่แล้วเธอก็ใช้ปลายนิ้วเรียวปาดครีมและแตะเข้าที่แก้มของเรวัตร

“อุ๊ย…ขอโทษนะคะ พอดีตอนอยู่อเมริกา เพื่อนๆเขาทำอย่างนี้กันน่ะค่ะ ฟ้าเลยเคยชิน”

ชายหนุ่มไม่โต้ตอบอะไรแต่กลับส่งยิ้มให้ เพียงแค่นั้นก็แทบจะทำให้เส้นความอดทนของภูมินทร์ขาดผึง

“อาวัตร…”

เด็กหนุ่มเผลอขึ้นเสียงดังก่อนจะกระแทกฝ่ามือลงกับโต๊ะจนทุกคนถึงกับตกตะลึงด้วยความไม่คิดว่าภูมินทร์จะทำได้ถึงเพียงนี้ เมื่อรู้ตัวเด็กหนุ่มจึงกระแทกตัวลงกลับมานั่งที่เดิมและพยายามอดทนอดกลั้นเมื่อเห็นอิงฟ้าทำเป็นเนียนแต๊ะอั๋งผู้เป็นอาอีกหลายต่อหลายครั้ง

เมื่อแขกทางฝั่งของไร่อิงดาวกลับไปปฐวีกับนภดลเมื่อช่วยเคลียร์สถานที่เป็นที่เรียบร้อยที่แยกย้ายกันไปตามห้องพักเหลือก็เพียงเด็กหนุ่มกับผู้เป็นอา

“ทำไมมินทร์ทำกิริยาอย่างนั้น ไม่อายคุณศิลา ฟ้าแล้วก็ธารเลยใช่ไหม”

“มินทร์ไม่ผิดนะอาวัตร มินทร์ไม่ชอบยัยอิงฟ้าอะไรนั่น”

“มินทร์เดี๋ยวนี้ก้าวร้าวใหญ่แล้วนะ”

“อาวัตร…”

“อย่ามาขึ้นเสียงกับอา อีกอย่างไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ อาไม่ชอบกลิ่นน้ำหอม”

“มินทร์ไม่เปลี่ยนและจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นด้วย อาวัตรไม่ชอบก็เรื่องของอา”

“อาบอกให้ไปอาบน้ำซะ”

“ไม่…”

สิ้นคำของเด็กหนุ่มชายหนุ่มก็คว้าข้อมือเล็กก่อนจะฉุดร่างโปร่งบางเข้ามาในห้องน้ำและเปิดฝักบัวสุดความแรงของน้ำและสาดไปที่เด็กหนุ่ม ภูมินทร์ทั้งดิ้นทั้งผลักไสฝักบัวจนเรวัตรเองก็เปียกไม่แพ้กัน

“ที่อาวัตรไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมเพราะมันเป็นกลิ่นที่แม่ชอบใช้ใช่ไหม”

“ภูมินทร์”

เด็กหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงใหญ่ก่อนจะเสยผมที่เปียกน้ำขึ้นทัดหูไว้และใช้ท่อนแขนเรียวทั้งสองข้างคล้องคอชายหนุ่มไว้และโน้มลงมาใกล้

“มินทร์ไม่ใช่แม่และมินทร์ก็ไม่ชอบยัยอิงฟ้าอะไรนั่น เพราะมินทร์หวงอาวัตร”

เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะแนบสัมผัสร้อนลงบนริมฝีปากบางก่อนร่างโปร่งบางจะทรุดฮวบเข้าสู่อ้อมกอดของเรวัตร

ภูมินทร์คงทำไปเพราะฤทธิ์ไวน์ที่ใครสักคนคงเอาให้ดื่มและก็ไม่ต่างจากเขาที่โดนแอลกอฮอลล์เข้าครอบงำจนเผลอทำเรื่องบ้าๆลงไป

หรือเขาจะคิดอกุศลอย่างที่นภดลเคยบอกไว้จริงๆ

2BCon…

(อาจจะยาวไปสักหน่อยนะคับ เพราะไนท์จะไม่อยู่ เผื่อทุกๆคนคิดถึง ^^ ปล อย่าเพิ่งกันไปไหนนะคับ จะรีบกลับมาปั่นต่อ...
ขอบคุณนะคับสำหรับทุกคอมเม้นต์  :call:)

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้อาวัตรยังเห็นเงาของคุณศศิแม่ของมินทร์ ซ้อนทับอยู่ที่ตัวมินทร์อยู่ อาวัตรยังสับสนอยู่ น้องมินทร์ใจเย็นอีกนิดนะลูก

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
ชักจะรำคาญศิลาแล้วก็อิงฟ้าขึ้นเรื่อยๆ
(อารมณ์ว่าอยากจะมุดเข้าไปในเรื่องแล้วก็ทำให้สองคนนี้หายไป 5555)

น้องมินทร์ ><
น้อยใจสิเนอะ อาวัตรเหมือนเห็นเป็นเงาเรื่อยเลย

นภดล  :angry2: ไม่มีเค้าแล้วจะรู้สึก เหอะๆ
ดูท่าวีก็คงเหนื่อยแล้วเหมือนกัน ..

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
น้องมินทร์ เริ่มรุกแล้วอะ :z2:

แอบเชียร์คุณศิลา หมั่นตับดล รู้ว่าวีแคร์ตัวเองก็เล่นตัวอิ๊บอ๋าย

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
วัตรคงลบศศิออกไปจากใจได้ทั้งหมด ยังคงมีเงาทาบทับอยู่ให้เห็นเสมอ ๆ  มินทร์ สู้ ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






greenoak

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งอ่านจบไปตอนนึงละครับ

อยากจะบอกว่า...


ขอเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ด้วยอีกคนนะ





“โอ๋ๆๆ…อย่างอนนะครับ มามะ…ให้มินทร์ง้อเร็ว”
ู^
^
^
ชอบประโยคนี้จังครับ น้องมินทร์น่ารักชะมัด




ขอบคุณนะครับที่ตามไปอ่านเรื่องโน้นนนนนนนของผม  :pig4: :กอด1:

ปล. ภาษาสวยมากครับผม

......................
เอ็มครับ :bye2:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
ตะวันคือคนที่น้องธารชอบใช่มะ
แต่ว่าตะวันต้องชอบหนูมินทร์แน่ๆเลย



เบื่ออาดล
ชิส์
 :m31:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
หึหึ หนูมินทร์นี่ขี้หวงสุด 55555
ว่าแต่ดลเหอะ
เสียวีปายแล้วจะรู้สึกทำเป็นผลักไสสสเค้าดีนัก

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ลางดราม่าเริ่มมา ไม่ว่าจะจบลงแบบไหนก็ต้องมีผู้คนที่เสียใจแน่นอน
เรื่องหน้าขอผืนฟ้ากับผืนดินนะคะไนท์

ขอบคุณที่ชอบคำนี้ และขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่านเช่นกันค่ะ

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
อาวัตรอ่ะ ไม่เข้าใจหลานเล้ยยยย

อิอิอิ ชอบอาวี อาดล คุณศิลาอ่ะ น่าสนุกๆๆ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
จะเกิดเหตุอะไรอีกไหมหละหนอ  แอร๊ยยยยยยยยยยยยค้างงงงงงงงงง

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งอ่านตอนที่ 2 จบไปครับ



“อาวัตรรู้นี่ ว่าเวลาง้อต้องทำยังไง”
^
^
^
ชอบประโยคนี้ครับ

ตอนนี้น้องมินทร์น่ารักอีกแล้ว (คิดถึงใครบางคนขึ้นมาเลยทีเดียว)




คุณไนท์รีบแต่งให้จบๆ แล้วรีบส่งสำนักพิมพ์นะครับ ผมจะรอซื้อเป็นคนแรกเลย


ปล. เพิ่งอ่านจบไป 2 ตอน แต่ชอบเรื่องนี้มาก (อาจได้เป็นนิยายในดวงใจของผมเร็วๆ นี้)
ปล. อีกครั้ง ผมอ่านได้ทีละตอนนะครับ เพราะงานผมยุ่งมากกกกกกกกกกกก หวังว่าคงไม่ว่ากันนะครับ

................................
อยากกดพลัสให้ แต่ยังทำไม่ได้ เหอๆ

เอ็มครับ

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
โค-ตะ-ระ   สนุก
อันวังวนแห่งความรักช่างซับซ้อนยิ่งนัก
เหมือนเขาวงกตที่ยากแท้จะหยั่งถึง
ย่อมมีผู้ผิดหวัง เสียใจเป็นธรรมดา
ดราม่า ชัวร์ อย่าดราม่านัก  แงๆ

 :3123:

รักคนแต่ง

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
มินทร์ทำอะไรน่ะ!  น่าตกใจนิดๆละมั้ง ตะวันนี่คือครูสอนขี่ม้าที่เพื่อนของมินปลื้มหรือเปล่า

เบื่ออาดลค่ะ

b27072010

  • บุคคลทั่วไป
งานอารมณ์หวงล้วน ๆ เลย

แบบนี้อาวัตรจะทำยังไงหละ

ก็ในเมื่อมินทร์เค้าบอกแล้วว่าเค้าไม่ใช่แม่

และไม่ชอบอิงฟ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด