-9-
เรวัตรกลับบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน ภาพของเด็กหนุ่มถูกโอบกอดโดยคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานตามเขาไปทุกหนทุกแห่งไม่ว่าจะมองอะไรก็จะเห็นภาพนั้นเสมอทำให้ชายหนุ่มยืนทึ้งผมของตัวเองและเดินวนไปวนมาจนตัวการที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้เดินเข้ามาหา
“ว่าที่นายหญิงไม่ขอติดสอยห้อยตามมาด้วยเหรอครับ อาวัตร”
“แล้วคนของไร่อิงดาวที่อาสาขี่ม้ามาส่งล่ะ ไม่ตามมาด้วยเหรอ”
เรวัตรไม่ตอบแต่กลับใช้บทสนทนาในทำนองเดียวกันสวนกลับทำให้เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มด้วยความสะใจเล็กๆที่อย่างน้อยผู้เป็นอาก็มีความรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนอยู่บ้าง
“ความจริงมินทร์ก็ชวนพี่ตะวันเข้ามาล่ะครับ แต่บังเอิญว่าพี่เขาต้องไปตรวจไร่ต่อ น่าเสียดาย…”
เด็กหนุ่มตีหน้าเศร้าทำท่าเสียอกเสียใจเสียเต็มประดานั่นยิ่งเป็นการสาดน้ำมันเข้าใส่กองเพลิงให้ลุกโชติช่วงขึ้น
“เจอกันไม่ทันไรก็หลงซะแล้ว เด็กสมัยนี้ใจง่ายชะมัด”
“อาวัตร…”
ภูมินทร์แว๊ดใส่ทันที
“ทำไม…หรือว่าที่อาพูดไม่จริง”
“อาวัตรหวงมินทร์ล่ะสิถึงได้อารมณ์เสียแบบนี้”
“ใช่…อาหวงแล้วจะทำไม”
เรวัตรตอบโดยไม่ทันคิดแต่นั่นกลับทำให้เด็กหนุ่มยิ้มด้วยความพึงพอใจ
“มินทร์ก็หวงอาวัตรเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าอาวัตรไปยุ่งกับยัยฟ้านั่นเมื่อไหร่ มินทร์ก็จะไปหาพี่ตะวันเมื่อนั้น”
“แต่ฟ้าเป็นเพื่อนอา”
“พี่ตะวันก็เป็นเพื่อนของผมเหมือนกัน”
“เพื่อนที่ไหนเขาโอบกอดกันขนาดนั้นกัน”
“แล้วทีอาวัตรล่ะ เพื่อนที่ไหนแอบไปยืนกอดกันแบบนั้น”
“ฟ้าเขาจะล้มอาเลยช่วยพยุง”
“มินทร์ขี่ม้าไม่เป็นพี่ตะวันก็เลยต้องใช้วิธีนั้น”
“ไม่รู้แหละ มินทร์ต้องชดใช้โทษฐานที่ทำให้อาหงุดหงิดแล้วก็โทษฐานที่มินทร์ยอมให้คนอื่นกอดสุ่มสี่สุ่มห้า”
“อาวัตรก็ต้องชดใช้โทษฐานที่ทำให้มินทร์หงุดหงิดแล้วก็โทษฐานที่ยอมให้คนอื่นแตะเนื้อต้องตัวด้วย”
ทั้งเสียงกันไปมาราวกับเด็กๆก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา
“เด็กอะไรเถียงคำไม่ตกฟาก”
“ผู้ใหญ่อะไรนิสัยเหมือนเด็ก”
“ว่าอานิสัยเหมือนเด็กเหรอ นี่แน่ะๆๆ…”
เรวัตรเอ่ยก่อนจะจี้เอวเด็กหนุ่มจนร่างโปร่งดิ้นเร่าและหัวเราะออกมาเสียยกใหญ่
“พอแล้วอาวัตร ฮ่าๆๆ…”
ภูมินทร์เอ่ยเมื่อหัวเราะจนเริ่มหมดแรง เด็กหนุ่มหอบหายใจก่อนจะยกมือปัดป้องไม่ยอมให้อีกฝ่ายถูกจุดอ่อนแต่เมื่อไม่ทันได้ระวังตัวก็ถอยหลังไปชนกับโซฟาจนล้มหงายหลังลงไปนอนแต่ผู้เป็นอาก็ยังไม่ละความพยายามตามลงไปกลั่นแกล้ง
“อาวัตร…”
เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อร่างที่คร่อมอยู่ด้านบนด้วยระยะที่ประชิดเพียงแค่ปลายจมูกชนกันก็ทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ร้อนผ่าว ริ้วสีระเรื่อระบายบนแก้มใสแต่ก็ยิ่งขึ้นสีจัดเมื่อเรวัตรกดปลายจมูกลงสัมผัสเสียฟอดใหญ่
ภูมินทร์ใช้ฝ่ามือแนบลงบนผิวแก้มก่อนจะอมยิ้ม ดวงตาคู่สวยมองริมฝีปากบางสีจัดของผู้เป็นอาซึ่งดูเหมือนเวลานี้ช่างดูน่าสัมผัสเสียเหลือเกิน
สิ้นความคิดเด็กหนุ่มก็โอบแขนทั้งสองข้างรอบคอเรวัตรและโน้มให้ใบหน้าคมเข้มลงมาใกล้
“เมื่อกี๊อาวัตรง้อมินทร์ไปแล้ว คราวนี้ให้มินทร์ง้ออาวัตรบ้างนะครับ”
จบประโยคที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบภูมินทร์ก็หยัดตัวขึ้นแนบริมฝีปากลงบนเรียวปากของร่างด้านบน ออกแรงกดเพียงแผ่วเบาก่อนจะผละออกมาแต่เรวัตรกลับไม่ยอม
“จะผิดไหมถ้าอาอยากให้มินทร์ง้อต่อ”
ภูมินทร์หน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยระยะประชิด ไม่มีอิดออดแต่อย่างใดเด็กหนุ่มไม่รอช้าแต่จะค่อยๆปรือตาลงและแนบริมฝีปากสัมผัสอีกครั้ง ภายในใจเต้นระรัวอบอุ่นซาบซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย
ไม่อยากจะละจากริมฝีปากนี้
ไม่อยากจะละจากอ้อมแขนที่อบอุ่นเช่นกัน
นี่คือ…ความรักใช่หรือเปล่า?
ค่ำมืดดึกดื่นที่อากาศค่อนข้างหนาวปฐวีคลำหาสวิตช์ไฟตรงบริเวณห้องครัวทันทีที่แสงไฟสว่างก็เห็นนภดลนั่งจิบบรั่นดีอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งรู้ว่าอีกฝ่ายคงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ มิเช่นนั้น…คงไม่มีทางจะมานั่งลิ้มรสน้ำสีอำพันอยู่ในความมืดเพียงลำพัง
ปฐวีเดินเลี่ยงออกมากดน้ำอุ่นใส่แก้วก่อนจะถูมือทั้งสองข้างไปมาและเป่าลมอุ่นใส่ฝ่ามือ ชายเสื้อแขนยาวที่เลยมาเกือบปิดมือไม่ได้ให้อุ่นขึ้นมา เขารู้สึกได้ว่าลำคอแห้งผาก ดวงตาทั้งสองข้างก็ร้อนผ่าวคล้ายจะโดนไข้หวัดรุมเร้า
ชายหนุ่มกระแอมไอแห้งๆออกมาก่อนจะเริ่มเดินเซเมื่อรู้สึกว่าพื้นผิวโลกเริ่มลาดเอียงระหว่างที่กำลังจะเซล้มอีกครั้งนั้นอ้อมแขนกว้างก็โอบประคองไว้ได้เสียก่อน
ปฐวีตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นใบหน้าของเจ้าของอ้อมแขนก่อนจะผละตัวออกมาและพยายามประคองตัวเองไว้
“ทีฉันทำมาเป็นขืนตัวหนี คงอยากจะให้แค่ไอ้หมอนั่นมันสัมผัสสินะ”
นภดลเอ่ยตีรวนชวนทะเลาะ นัยน์ตาวาวระยับไม่รู้จากโทสะหรือฤทธิ์แอลกอฮอลล์กันแน่ เมื่อปฐวีดูอาการคนตรงไม่ออกจึงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยบวกกับอาการวิงเวียนทำให้ต้องรีบเดินหนีออกมาแต่มือใหญ่กลับคว้าท่อนแขนไว้เสียแน่น
“นายทำให้ฉันเป็นแบบนี้”
ชายหนุ่มหุ่นนายแบบเอ่ยก่อนจะผลักอีกฝ่ายไปชิดกับฝาผนังและกางแขนทั้งสองข้างคร่อมร่างของปฐวีไว้
“ดลเมามากแล้วนะ”
“เพราะนายไงเล่า…ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะนาย ชีวิตฉันสับสนวุ่นวายก็เพราะนาย เพราะนายคนเดียวปฐวี”
“วีขอโทษ”
เอ่ยได้เพียงสั้นๆเพราะตอนนี้สติเริ่มเรือนลาง มือที่ไม่เคยสักครั้งที่คิดจะผลักไสเจ้าของหัวใจแต่วันนี้กลับผลักแผ่นอกกว้างให้ออกห่างเนื่องจากกลิ่นแอลกอออลล์ยิ่งทำให้เกิดอาการคลื่นเหียน
“ดล วีขอล่ะวีไม่ไหวจริงๆ วีรู้สึกไม่ค่อยสบาย”
“ข้ออ้างสิไม่ว่า…เรามันคนเคยๆกันแล้วนายคงอยากจะลองของใหม่มากกว่าสินะ”
ปฐวีไม่มีเรี่ยวแรงโต้เถียง แต่กลับต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อริมฝีปากของนภดลแนบลงบนผิวเนื้ออ่อนที่ซอกคอแต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านี้และจะต้องมาเสียใจในภายหลังอีกครั้งชายหนุ่มร่างโปร่งจึงตัดสินใจผลักนภดลออกไปจนสุดแรงเท่าที่มีก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งกองกับพื้น
นภดลเอะใจกับท่าทางของปฐวีจึงเข้าไปใช้หลังฝ่ามืออังหน้าผากก่อนจะชะงักมือหนีเมื่อสัมผัสได้ถึงไอร้อน
“เฮ้…”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อเห็นอีกฝ่ายนอนหลับตาพร้อมหอบหายใจ ใบหน้าหมดจดแดงก่ำด้วยพิษไข้นภดลอยากจะปล่อยให้นอนเสียตรงนี้แต่ลึกๆภายในใจกลับห่วงแสนห่วงจึงจำต้องอุ้มประคองพาไปยังห้องนอน
เมื่อร่างของปฐวีถูกจัดแจงให้นอนอยู่ในท่าที่สบายคนที่แบกเข้ามาก็ถอนหายใจยาว ด้วยความที่เป็นคนทิฐิสูง แข็งกระด้างและมั่นใจในตัวเองมากเกินไปทำให้นภดลอยากจะละเลยคนที่นอนซมอยู่
แต่มนุษย์เราย่อมมีสองด้านเสมอด้านดีสั่งให้เขาหาผ้ามาเช็ดตัวเพื่อบรรเทาความร้อนจากพิษไข้ที่กำลังรุมเร้า ด้านมืดและด้านสว่างในตัวถกเถียงกันอยู่นานก่อนด้านดีจะมีชัยเหนือกว่า
และนี่…เป็นครั้งแรกที่นภดลแสดงความห่วงใยและใส่ใจต่อปฐวี
มือใหญ่ค่อยๆบิดผ้าขนหนูเนื้อนุ่มที่ชุบน้ำจนหมาดก่อนจะนั่งลงบนฟูกข้างๆคนที่หลับใหลและบรรจงเช็ดหน้าตาและเนื้อตัวของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
เสียงครางอือในลำคอก่อนจะพลิกตัวหนีความเย็นทำให้นภดลจำต้องเอ่ยปราม
“นอนนิ่งๆสิ นายตัวร้อนฉันเลยต้องเช็ดตัวให้”
เพียงแค่เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอีกฝ่ายกลับนอนนิ่งๆยอมแต่โดยดี ใบหน้าที่ถึงแม้จะดูเซียวลงแต่กลับมีรอยยิ้มละมุนแต่งแต้มราวกับกำลังฝันดี
และก็น่าแปลกที่บนใบหน้าของนภดลจะมีรอยยิ้มอบอุ่นราวกับกำลังเป็นสุขในหัวใจ
บางทีถ้าหากเขาลดทิฐิในตัวลงเขาอาจจะพบว่าตัวเองมีของล้ำค่าอยู่ในมืออยู่แล้วก็เป็นได้
ดวงจันทร์ที่ฉายแสงสีเงินสว่างจนกลบแสงน้อยนิดของดวงดาวเปรียบเสมือนตัวเขากำลังค่อยๆหมดความสำคัญลง อิงธารเงยหน้ามองท้องฟ้าสีรัตติกาลด้วยดวงตาที่คลอด้วยหยาดน้ำใส
แต่แล้วเสียงฮาร์โมนิก้าที่ดังแว่วเป็นท่วงทำนองเพลงรักดังขึ้นกลับทำให้ทำนบน้ำตาพังทลาย เด็กหนุ่มใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างปาดน้ำตาแต่อยู่ๆทำยองเพลงก็เงียบลงตามมาด้วยไออุ่นจากด้านหลัง
“ใครกันหนอทำให้เด็กน้อยของพี่ร้องไห้”
เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนพลางใช้ฝ่ามืออบอุ่นลูบไปตามแผ่นหลังเป็นการปลอบประโลม
“คนใจร้ายที่ไม่เคยรู้อะไรบ้างเลย”
อิงธารเอ่ยตรงๆอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกแต่ดูเหมืออีกฝ่ายจะยังไม่รู้อะไรถึงทำเพียงแค่ลูบเส้นผมนุ่มเล่นไปมา
“เดี๋ยวพี่ตะวันคนนี้จะไปจัดการให้ดีไหม หืม…”
“อย่าเลยฮะ เพราะยังไงพี่ก็จัดการให้ธารไม่ได้”
ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะเดินอ้อมมาและนั่งลงต่อหน้าเด็กหนุ่ม เมื่อดวงตาคู่คมมองมาตรงๆก็ทำให้เด็กหนุ่มหันหน้าหนีไปทางอื่น
“ทำไมล่ะครับ หืม…”
ตะวันเอ่ยถามก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยร่องรอยแห่งความเศร้าให้พ้นไป เด็กหนุ่มไม่ยอมเอ่ยต่อแต่กลับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแทน
“ในเมื่อคืนวันเพ็ญผู้คนเอาแต่เฝ้ามองเห็นดวงจันทร์ที่ส่องสว่างแล้วถ้าเราเป็นเพียงแค่เศษก้อนหินบนท้องฟ้าจะไปมีความสำคัญอะไร”
เด็กหนุ่มเอ่ยเปรียบเทียบโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจในความหมายที่ต้องการจะสื่อไหม ตะวันทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะรั้งตัวเด็กหนุ่มเข้ามาโอบกอดหลวมๆและลูบเรือนผมนุ่มอย่างแผ่วเบา
“ดาวบางดวงก็สามารถนำทางให้กลับมายังจุดหมายปลายทางได้ ดวงดาวอยู่สูงมีค่าเสมออย่าไปเฝ้าคิดเลยว่าตัวเองเป็นเพียงแค่เศษก้อนหินเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคนที่รอนแรมมาไกลจะเจอกับที่พักใจได้อย่างไร”
ตะวันละอ้อมแขนออกจากเด็กหนุ่มก่อนจะหยิบเครื่องดนตรีขึ้นจรดริมฝีปากและเริ่มบรรเลงเพลงรักบทใหม่ซึ่งเป็นเพลงโปรดที่สุดของอิงธารก่อนจะปล่อยให้สายลมเย็นและเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
บางทีบางครั้งเราอาจจะหลงใหลแสงจันทร์เพียงเพราะความสวยงามและเด่นสะดุดตาโดยหารู้ไม่ว่าในคืนเดือนมืดนั้นดวงดาวมีความสำคัญมากเพียงไหน
บางทีสำหรับเขาแล้วนั้น…อาจจะมีดวงดาวที่ส่องสว่างนำทางหัวใจอยู่แล้วก็เป็นได้
2BCon…
(มาแล้วคับตอนที่หวานซึ้ง ^^ :-[ไม่มีมาม่าซักซองหรือแม้แต่เส้นเดียวหวังว่าทุกๆคนจะถูกใจกันนะคับ ต้องขอโทษด้วยที่มาอัพช้าช่วงนี้ญาติๆมาคับเลยไม่ค่อยมีเวลา อีกอย่างไนท์เพิ่งกลับจากไปกินข้าวแถวราชวัตร ใครอยู่แถวนั้นบอกด้วยนะคับไนท์ไปบ่อย
เดี๋ยวตอบคอมเม้นต์คับ
)
Nus@nT@R@ - - > ตอนนี้จัดหวานชดเชยให้เลยคับ ^^
samsoon@doll - - > ไนท์เอาขนมหวานมาแจกแทนมาม่าแล้วนะคับ ^3^
Églantier✿ - - > ขอเป็นกำลังใจให้นะคับ ไม่เป็นไรคับเม้นต์มาเลยไนท์รับได้เสมอ ขอบคุณที่ติดตามอ่านคับ
padigree - - > ด้วยความที่ธารและมินทร์เป็นเพื่อนรักกันไนท์เลยไม่อยากให้ยาดหมางกันคับ สงสาร
yayee2 - - > ขอบคุณคับพี่แก้ว ดลกำลังลดทิฐิตัวเองอยู่คับ หุหุ
King_Arthur - -> คุณเอ็มคับดลขอวางมาดนิดนึง เก๊กไปงั้นแหละคับพวกทิฐิสูง ปล ไนท์ไม่ให้ธารโกรธน้องมินทร์หรอกคับสบายใจได้ ขอบคุณนะคับที่ติดตามอ่าน ^^
heefever - - > หวังว่าตอนนี้คงพอทดแทนได้นะคับ แล้วก็ขอบคุณนะคับสำหรับคำอวยพรให้อาม่า
silverspoon - -> วีกะดลก็ตามสไตล์คับ อาวัตรกะน้องมินทร์ตอนนี้ทดแทนให้แล้วนะคับ หุหุ
berlyn - - > อาวัตรกะน้องมินทร์ก็ตามสไตล์อ่ะนะคับ ตอนนี้ไนท์เองก็กำลังคิดว่าจะไปไงต่อ ฮ่าๆๆ
b27072010 - - > ตอนแรกไนท์กะให้มีแค่คู่อาวัตรกับน้องมินทร์แต่อยากใส่สีสันเพิ่มเลยขอ 3 คู่เลยคับ ^^