-10-
เช้าวันนี้ภูมินทร์ตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี เด็กหนุ่มฮัมเพลงตลอดตั้งแต่ออกจากห้องน้ำ แต่งตัวและเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องนอนของเรวัตร เพียงแค่เปิดประตูแง้มไปนิดก็ได้ยินเสียงน้ำแสดงว่าผู้เป็นอาคงตื่นแล้วและกำลังอาบน้ำอยู่
เด็กหนุ่มค่อยๆปิดประตูลงและยืนรออยู่ห้องเพราะไม่เคยสักครั้งที่เขาจะเข้าไปในห้องนอนของผู้เป็นอาและดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่เขาจะเข้าไปก้าวก่ายในอาณาเขตส่วนตัว
ภูมินทร์ยืนมองปลายผมของตัวเองที่ตอนนี้ยาวประบ่าแล้วยังดีที่เขาเรียนโรงเรียนเอกชนเพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็คงโดนสั่งตัดไปนานแล้ว เด็กหนุ่มเดินไปเดินมาจนผ่านไปสักพักผู้เป็นอาก็ยังไม่ยอมออกจากห้องอีก
ไหนๆก็ไหนๆ…ขอเข้าไปดูห้องของชายโสดสักครั้ง เขาเชื่อมั่นว่าไม่เห็นน่าจะมีอะไรที่เรวัตรจะต้องปิดบัง ครั้งนี้อาจจะโดนบ่นบ้างแต่ถ้าได้เห็นสักครั้งอาจจะคุ้มค่าก็ได้เพราะมั่นใจว่าคงไม่มีทางที่ผู้เป็นอาจะโกรธเพราะเรื่องแค่นี้
มือเรียวบิดลูกบิดก่อนจะค่อยๆแง้มประตูเปิดเข้าไป ห้องนอนที่ไม่ต่างจากห้องของเขามากนักเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกวางอย่างมีระเบียบเตียงสี่เสาขนาดคิงไซต์และที่หัวเตียงอยู่กรอบรูปถูกวางคว่ำหน้าอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มกำลังจะจับตั้งขึ้นแต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า
ผืนผ้าสีขาวสะอาดตาคลุมอยู่บนอะไรบางอย่างที่เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ประมาณกรอบรูปติดฝาผนัง ภูมินทร์มองด้วยความสงสัยอยากจะมีตาทิพย์เพื่อมองให้ทะลุเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน มือเรียวค่อยๆลูบสัมผัสผ่านเนื้อผ้าก่อนที่ปลายนิ้วจะจับตรงมุมก่อนจะออกแรงดึง
ภาพวาดสีน้ำมันปรากฏให้เห็นหากดูผิวเผินใบหน้าละม้ายคล้ายกับเด็กหนุ่มหากแต่หวานกว่ามากและทรวดทรงองค์เอวก็ทำให้รู้ว่าคนที่อยู่ในภาพเป็นแม่ของตัวเอง ภูมินทร์ยืนนิ่งมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งรักทั้งโกรธ
รักเพราะท่านเป็นคนให้กำเนิดและเลี้ยงดูมาอย่างดีแม้ว่าจะจดจำไม่ค่อยได้ก็ตามและที่โกรธก็เพราะว่าขนาดจากไปแล้วยังพันธนาการหัวใจของคนสำคัญของเขาไว้
“ผมรู้ว่าเขารักแม่ แต่ผมคือคนที่อยู่ข้างเขาตอนนี้ ผมขอหัวใจของเขาคืนจากแม่นะครับ”
เมื่อพูดจบภูมินทร์หันตัวกลับอยากจะออกไปจากที่แห่งนี้แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าไปไหนร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้ามาเสียก่อน
“มินทร์เข้ามาในห้องอาโดนพลการ”
เด็กหนุ่มไม่พร้อมจะเอ่ยบนสนทนาด้วยจึงพยายามจะเดินเลี่ยงไปอีกทางแต่มือใหญ่กลับคว้าท่อนแขนเรียวไว้และดึงให้อีกฝ่ายมายืนต่อหน้า
“ขอโทษ”
ชายหนุ่มถอนหายใจยาวก่อนจะเดินไปยังรูปภาพและหยิบผ้าสีขาวคลุมปิดไว้ตามเดิมแต่มือของเด็กหนุ่มกลับกระชากผ้าผืนนั้นให้ลงมากองที่พื้น
“ถ้ารักขนาดนั้นทำไมต้องปิดไว้ล่ะ”
“มินทร์…ออกไปจากห้องของอา”
“อาวัตรว่ามินทร์คล้ายแม่มากใช่ไหมครับ แล้วยิ่งเทียบกันแบบนี้ล่ะ”
ภูมินทร์เดินมายืนเคียงข้างรูป เรวัตรไม่อยากจะเงยหน้าขึ้นมองเพราะเขารู้ว่าสองคนนี้คล้ายคลึงกันมากทั้งดวงตาและเส้นผมที่ยาวจนเกือบจะกลายเป็นทรงเดียวกัน
“มินทร์…อาบอกว่าให้ออกไปจากห้องของอา”
เด็กหนุ่มแค่นยิ้ม
“คงเหมือนกันมากสินะครับ อาถึงไล่ผมแบบนี้”
ภูมินทร์เอ่ยก่อนจะขยับกายเข้าไปหาเรวัตรซึ่งเจ้าตัวก็ถอยหนีจนไปชิดกับกำแพง
“ถ้าเหมือนกันมากนัก มินทร์…”
เด็กหนุ่มไม่เอ่ยต่อแต่สายตากลับมองหาบางอย่างจนพบ ไม่รอช้ารีบเดินไปคว้ามาไว้ในมือ ปลายแหลมคมส่องสว่างสะท้อนกับแสงแดดยามเช้า
“ทำอะไรน่ะภูมินทร์”
เรวัตรตรงเข้าไปจับมือเรียวไว้แน่นก่อนจะพยายามดึงของมีคมออกให้ห่างแต่เด็กหนุ่มกลับปัดมือใหญ่ทิ้งอย่างไม่ไยดี
“ตอนแรกมินทร์อยากไว้ผมยาวเพราะอาวัตรชอบลูบผมมินทร์เล่น แต่ตอนนี้ผมไม่ต้องการมันแล้ว”
เด็กหนุ่มเอ่ยจบประโยคก่อนจะใช้กรรไกรคมกริบตัดฉับลงบนเรือนผมจนสั้นเท่าติ่งหู เศษปอยผมสีอ่อนร่วงหล่นลงสู่พื้นก่อนจะตามด้วยหยดน้ำตา
“มินทร์ขอหัวใจของอาคืนจากแม่เพราะมินทร์อยากจะได้หัวใจของอา มินทร์รักอาวัตร”
ภูมินทร์เอ่ยตรงๆด้วยความไม่อยากปิดบังอีกต่อไป เด็กหนุ่มยืนสั่นเทาก่อนจะค่อยๆทรุดลงไปนั่งบนพื้นซึ่งเรวัตรได้แต่นิ่งอึ้งกับคำสารภาพ ร่างสูงค่อยๆนั่งลงข้างๆก่อนจะยกมือขึ้นค้างกลางอากาศหมายจะลูบเรือนผมปลอบประโลมแต่กลับต้องกำหมัดแน่นและผละตัวออกมา
“ออกไปจากห้องของอา”
เรวัตรเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาแต่กลับดังกึกก้องสำหรับอีกฝ่าย เด็กหนุ่มมองด้วยแววตาตัดพ้อก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไป
ชายหนุ่มได้แต่กำมือแน่นก่อนยืนหลับตาลงเพื่อประมวลความคิดก่อนจะยืนมองรูปของคนที่เขารักมากที่สุดก่อนเขาจะก้มหัวให้ราวกับขอโทษ
“พี่ศิ…ผมขอโทษ ผม…ขอหัวใจผมคืนจากพี่นะครับ”
เสียงทุ้มของเรวัตรดังขึ้น เมื่อลืมตาเขาก็เดินไปหยิบผ้าสีสะอาดมาคลุมปิดรูปไว้ดังเดิม เพราะเขาทำใจเรื่องของศศิได้นานแล้วจึงสามารถคลุมผ้าปิดภาพนั้นไว้ได้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนกับเมื่อก่อนเพราะตอนนี้…เขาสามารถเอ่ยขอคืนสิ่งที่เขาเคยให้หญิงสาวไว้ได้อย่างเต็มปาก
ภาพวาดที่คลุมไว้แล้วถูกปลดลงจากผนังก่อนจะพิงไว้กับขอบหน้าต่าง ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่หัวเตียงก่อนจะจับกรอบรูปที่เคยคว่ำหน้าอยู่ขึ้นมาตั้ง
ภายในกรอบรูปนั้นเป็นเมื่อครั้งที่เคยไปเที่ยวที่ดอยขุนแม่ยะ ทิวทัศน์เบื้องหลังเป็นต้นพญาเสือโคร่งที่ออกดอกสีชมพูหวานบานสะพรั่งและภูมินทร์ยืนควงแขนเขาพร้อมรอยยิ้มแสนน่ารัก
เขาอมยิ้มระหว่างที่ลากปลายนิ้วลงบนใบหน้าเยาว์วัย เรวัตรรู้ว่าเมื่อครู่คงทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายมากเกินไปแต่เขากำลังอยู่ในช่วงสับสนและต้องการใช้ความคิดเพียงลำพัง
ขอให้แน่ใจ ขอให้ทุกอย่างในตัวเขาชัดเจนขึ้นแล้วเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะไม่มีวันปล่อยมือคู่นั้นไป
แสงแดดของวันใหม่แยงตาทำให้ปฐวีจำต้องค่อยๆยกมือขึ้นมาป้องก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นแต่ก็ต้องสะดุ้งลุกขึ้นมานั่งเมื่อเห็นนภดลนอนฟุบหน้าอยู่ข้างๆและที่สำคัญมือใหญ่กอบกุมมือเขาไว้แน่น
แรงขยับตัวทำให้ชายหนุ่มหุ่นนายแบบค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อเห็นมือของตัวเองกำลังจับมือของอีกคนอยู่ก็รีบสะบัดออกทันที
“ขอบคุณนะ”
ปฐวีเอ่ยบอกแต่อีกฝ่ายกลับดูเหมือนจะไม่ใส่ใจอะไร
“ไม่ต้องขอบคุณ ฉันก็แค่ยังไม่อยากจะกินข้าวต้มฟรี”
“นั่นแหละไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตามแต่วีก็ควรจะขอบคุณดลอยู่ดี”
ปฐวีเอ่ยและส่งยิ้มให้ นภดลมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะรีบเมินหน้าหนี
“หายแล้วก็ดี ไม่อย่างนั้นนายศิลาอะไรนั่นคงลงแดงตาย”
“นั่นสินะ วันนี้นัดกับคุณศิลาไว้นี่นา”
ชายหนุ่มร่างโปร่งทำท่าคิดขึ้นได้ก่อนจะรีบหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าเดินข้าไปในห้องน้ำทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งหน้าบึ้งตึงก่อนจะกำมือแน่นด้วยความโมโหก่อนจะทุบกำปั้นลงบนฟูกที่นอน
“โถ่เว๊ย…อุตส่าห์อดหลับอดนอนทั้งคืนเพื่อเช็ดตัวให้เพราะกลัวไข้ขึ้น เช้ามาไข้หายก็รีบแล่นไปหาคนอื่น รู้งี๊ปล่อยให้นอนซมอยู่ซะก็ดี”
นภดลเอ่ยด้วยความโมโห ไอ้หัวใจบ้าก็ดันมารู้สึกเจ็บแปลบ เขาไม่เคยทำเพื่อใครขนาดนี้มาก่อน ความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นในตอนนี้หากอะไรมาขวางหูขวางตาล่ะก็รับรองได้เลยว่าพังเป็นหน้ากลองแน่
ทำให้ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นความดี มันน่า…จริงๆ
คนที่ยืนอยู่ในห้องน้ำแอบอมยิ้ม เขารู้สึกปลื้มใจไม่น้อยที่นภดลทำเพื่อเขามากถึงขนาดนี้เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องไม่มีสักครั้งที่จะได้รับความห่วงใยและเขาก็รู้ด้วยว่าลูกคุณหนูอย่างนภดลไม่เคยทำอะไรให้ใครหน้าไหน แต่เขากลับได้รับ
ทั้งปลื้มใจทั้งยินดี แต่สุดท้ายแล้ว…ก็คงไม่มีวันนั้น วันที่เส้นขนานจะขีดมาบรรจบกันเพราะนภดลนั้นไม่เคยคิดและคงไม่มีวันจะคิดกับเขาเกินคำว่า “คนที่มีชีวิตอยู่ร่วมโลกใบเดียวกัน”
“ทำใจได้แล้วนะปฐวี”
ชายหนุ่มเอ่ยบอกกับตัวเองก่อนจะรีบอาบน้ำและแต่งตัวเพื่อไปตามนัด แต่เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็ยังเห็นนภดลนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับตัวไปไหน
“ดลอย่าลืมอาบน้ำแล้วก็หาอะไรกินนะ วีไปก่อนล่ะ”
ในใจนภดลอยากจะเอ่ยรั้งไว้แต่ก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมแต่ปากกลับไวกว่าความคิด
“อยากจะไปไหนก็ไปสิ”
ปฐวีคลี่ยิ้มบางๆอย่างเข้าใจและเหมือนจะคาดเดาได้ล่วงหน้าแล้วว่าจะได้รับคำตอบอย่างนี้ก่อนจะเดินจากไป
“โธ่เว๊ย…”
นภดลโมโหตัวเองก่อนจะเหวี่ยงกำปั้นไปกลางอากาศเป็นการระบายอารมณ์ เห็นทีไม่นานจากนี้เขาจะต้องย้ำให้ปฐวีรู้ตัวอีกสักทีว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ต้องย้ำอีกสักทีให้ชัดเจนว่าเป็น “ของเขา” ไม่ใช่ของคนที่เพิ่งรู้จักได้แค่ไม่กี่วัน
จุดชมวิวที่เชื่อมระหว่างไร่สองไร่กำลังเป็นที่พักรับประทานอาหารกลางวันของตะวันและอิงธาร วันนี้เป็นวันที่ทั้งคู่ออกมาตรวจไร่ด้วยกันและได้พาม้าคู่กายทั้งสองตัวมาวิ่งออกกำลังกาย ระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ร่างหนึ่งก็วิ่งตรงมาพร้อมด้วยน้ำตานองหน้า
“น้องมินทร์/มินทร์ เป็นอะไร”
ตะวันและอิงธารเอ่ยถามพร้อมกัน ภูมินทร์เอาแต่ส่ายหน้าเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่น้ำตาที่พร่างพรูออกมาก็ทำให้รู้ว่าคงมีเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร
อิงธารตรงเข้าไปกอดปลอบประโลมเพื่อนรักแต่กลับรู้สึกว่าอ้อมแขนของตัวเองใหญ่ไม่พอ ไม่เหมือนกับตะวันที่รับเอาภูมินทร์เข้าไปกอดไว้แนบอกแทน ท่อนแขนที่ใหญ่และแข็งแรงโอบอีกฝ่ายจนเหลือเพียงแค่ตัวนิดเดียว
เด็กหนุ่มผิวขาวแก้มใสของไร่อิงดาวได้แต่มองดูภาพนั้นและทอดถอนใจ จะบอกว่าไม่อิจฉาคงเป็นไปไม่ได้เพราะเขาไม่ใช่คนดีขนาดนั้นแต่หากเมื่อวันที่เขาจำต้องยอมรับในความรักของทั้งคู่มาถึงล่ะก็เขาก็คงจะต้องอวยพรให้กับคนที่เขารักทั้งคู่
อิงธารกำลังจะเดินแยกตัวออกมาแต่ตะวันกลับคว้ามือของเด็กหนุ่มไว้ทั้งๆที่ยังมีอีกคนอยู่ในอ้อมแขน
“อยู่ช่วยกันปลอบมินทร์ก่อนเถอะ มินทร์คงอยากได้กำลังใจจากธารด้วย”
แต่เมื่อเวลาผ่านไปมือคู่เรียวของภูมินทร์ยังคงกำเสื้อของตะวันไว้แน่นราวกับเด็กต้องการที่พึ่ง อิงธารยังแอบคิดในใจด้วยว่า…ตะวันต้องการให้เขายังคงยืนอยู่ตรงนี้เพื่อทนมองเห็นภาพบาดตาบาดใจนี้ไปเพื่ออะไร
“ขอบคุณนะครับพี่ตะวัน ธารด้วยนะ”
สักพักภูมินทร์ก็ดีขึ้นแต่ก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรทำให้ระหว่างทั้งสามคนตกอยู่ในเงียบ
“ให้พี่ไปส่งไหม”
ภูมินทร์ส่ายหน้าช้าๆ
“งั้นไปที่ไร่อิงดาว โอเคไหมครับ”
“ธาร มินทร์ขอไปที่ไร่ด้วยคนนะ มินทร์ยังไม่อยากกลับบ้าน”
อิงธารพยักหน้าก่อนจะคลี่ยิ้มให้เพื่อนสบายใจ
“พี่ขออนุญาตให้มินทร์นั่งซ้อนพี่ไปกับเจ้าฟ้าลั่นได้ไหม”
ตะวันเอ่ยถามขอความเห็นจากอิงธาร ในเมื่อคนสำคัญเอ่ยขอขนาดนี้มีเหรอที่เขาจะไม่ให้อิงธารจำต้องพยักหน้าตกลงทั้งๆที่ในใจกลับเอ่ยค้าน
“ที่พี่ต้องเอ่ยขออนุญาตธารก่อนเพราะพี่แคร์ธารนะครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยอีกครั้งก่อนจะพาภูมินทร์ขึ้นนั่งบนเจ้าฟ้าลั่นซึ่งดูเหมือนแรกๆเจ้าม้าดูจะพยศแต่เมื่ออิงธารเดินเข้าไปและลูบแผงคอมันก็สงบลง
เด็กหนุ่มเงยหน้าสบตากับคนที่อยู่บนหลังม้าก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้ เขาไม่อยากให้ทั้งตะวันและภูมินทร์ไม่สบายใจที่ต้องมาเห็นเขาเศร้าซึม ทุกอย่างมันเป็นเพราะความชัดเจนของตะวัน ชายหนุ่มคนนั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นห่วงเพื่อนรักของเขามากแค่ไหน
แต่เขาก็อยากโทษใคร…นอกจากหัวใจของตัวเอง
เห็นทีว่าดาวดวงนี้คงไม่อาจสุกสกาวเปล่งรัศมีเทียบเคียงดวงจันทร์ดวงนั้นได้ ในเมื่อตะวันไม่เคยส่องแสงลงมากระทบที่เขาเลย…
2BCon…
(มาต่อแล้วคับทุกๆคน
อ่า…ไนท์จะพยายามเคลียร์ปมทุกอย่างนะคับ จากนี้ก็จะเริ่มคลายปมของตัวละครแต่ละตัวและจะเริ่มนับถอยหลังปิดเรื่อง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเหลืออีกกี่ตอนนะคับ จะพยายามทำให้ดีที่สุดนะคับ
ขอบคุณทุกการติดตามคับ ^^
ตอบคอมเม้นต์คับ)
iamnan - - > อย่าเครียดไปคับ เดี๋ยวจะหวานให้นะคับ
samsoon@doll - - > ขอบคุณนะคับสำหรับการติดตาม น้องมินทร์ต้องรุกก่อนทุกทีคับเพราะอาวัตรไม่กล้า ^^
roseen - - > นั่นเป็นประเด็นในเรื่องความรักคับ แอบรักเนี่ยมีมากจริงๆ
heefever - - > ชะอุ้ย! นายดลต้องดูแลวีดีๆ ไม่งั้นสงสัยโดนจัดการ หุหุ
King_Arthur - - > ดีใจนะคับที่นิยายเรื่องนี้ทำให้คุณเอ็มยิ้มได้ ตอนนี้อาจจะมาม่าไปนิดแต่เดี๋ยวก็หวานแล้วคับ ปล พระจันทร์สวยมากเลยคับ
bud-sob - - > ขอบคุณเช่นกันนะคับ
padigree - - > ขอบคุณนะคับที่ชื่นชอบตัวละครตะวัน แล้วก็รักษาสุขภาพเช่นกันนะคับ ^^
silverspoon - - > ไนท์จะคลายปมเรื่องแล้ว ตอนนี้อาจจะมาม่าไปนิดแต่จะเริ่มหวานแล้วล่ะคับ ^^
yayee2 - - > คุณพี่แก้วคับ คนเราเนี่ยบางคนมักจะใกล้เกลือกินด่างไม่เห็นความสำคัญของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวแต่อีกเดี๋ยวดลจะรู้แล้วล่ะคับ
Églantier✿ - - > อีกไม่นานแล้วล่ะคับ รออ่านได้เลย ไนท์จะเคลียร์ให้ ^^
warin - - > ขอบคุณนะคับสำหรับการติดตาม
Nus@nT@R@ - - > คับผม เดี๋ยวไนท์จะจัดหวานๆให้อีกนะคับ
b27072010 - - > อีกนิดคับ ไนท์จะให้ดลง้อวี ฮ่าๆๆ ส่วนคู่อาหลานอาจจะมาม่าไปหน่อยแต่เดี๋ยวจะจัดหวานตามไปคับ
kokikung - - > เดี๋ยวตะวันกับน้องธารก็จะเคลียร์กันได้ล่ะคับ แต่ตอนนี้ขอเจ็บปวดไปก่อน
kinjikung - - > ต้องทำใจกับพี่ตะวันนิดนึงนะคับ ฮ่าๆๆ
PEENAT1972 - - > ขอบคุณนะคับคุณพี่นัทที่ติดตามอ่าน
WhatLoveIs - - > เกือบแล้วคับ อีกนิดนึง
tawan - - > ส่วนใหญ่สงสารน้องธาร น้องโดนมาม่าชามใหญ่ไปนิดคับ แต่เดี๋ยวจะได้หวานเย็นแล้ว อดใจรอนะคับ