We are...คือ เรารักกัน ตอนพิเศษ ด้วยความคิดถึง100%... 16/12/13 [P.314]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: We are...คือ เรารักกัน ตอนพิเศษ ด้วยความคิดถึง100%... 16/12/13 [P.314]  (อ่าน 3328067 ครั้ง)

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #30 เมื่อ30-08-2010 00:24:46 »

อิภูมิ  :z6:

แกจะแกล้งพีมไปถึงไหน  :angry2:

พีมน่าสงสารง่ะ  :m15:


ต่อตอน 5 อย่างด่วนค่ะ
 :กอด1:

Testsu

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #31 เมื่อ30-08-2010 02:43:25 »

อ่านแล้วชอบ เนื้อเรื่องสนุกดี รีบมาต่ออีกนะไรท์เตอร์ แต่ว่าหน้าแรกตอนที่ 4 ซ้ำกันนะคะ

lonelyboy

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #32 เมื่อ30-08-2010 08:43:03 »

หนูพีมสู้ๆ พวกเราไม่กลัว อุตส่าห์หนีผัวมาเชียร์หนูพีม อิอิอิ

อย่าไปยอมอีตาภูมินะ หนูพีมสู้ๆ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #33 เมื่อ30-08-2010 21:52:09 »

ภูมิใจร้ายกับพีมอะ ทิ้งให้น้องพีมรอตั้งห้าชั่วโมง แอบร้ายอะ สงสารน้องพีมอะ
เป็นเลดี้ รอใครไม่เกินสองชั่วโมงหลังจากนั้นทางใครทางมันเถอะ ตรูไม่รอ
เพราะไม่ชอบรอใครนานยิ่ง ผิดเวลามา แม่ด่าเปิง แต่น้องพีมรอได้นับถือมากๆๆๆ

tantalize

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #34 เมื่อ31-08-2010 00:31:00 »

เเต่ละตอนยาวสะใจดี เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากกกกอ่า  :sad4:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #35 เมื่อ31-08-2010 07:52:37 »

ปัด ๆ ๆ  ที่นั่ง รอ..................

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #36 เมื่อ31-08-2010 18:33:13 »

บวกหนึ่งและรออ่านอะนะ

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 5
«ตอบ #37 เมื่อ25-09-2010 00:07:01 »

ตอนที่ 5
 

ผมเดินหอบหิ้วของออกมาเพราะพี่ยามบอกว่าห้างกำลังจะปิดแล้ว จากเมื่อตอนกลางวันที่ผู้คนเดินพลุกพล่าน ตอนนี้แทบจะไม่มีคนเลย

ผมเม้มริมฝีปากแน่น ผมโกรธ ผมโมโห ไอ้นั่นมันเป็นใคร มันใหญ่มาจากไหนถึงได้กล้าทำกับผมแบบนี้ผมโกรธมัน โกรธไอ้ภูมิ โกรธที่มันให้ผมนั่งรอ แต่ที่ผมโกรธยิ่งกว่าคือตัวเองที่โง่นั่งรอมัน

พอโกรธก็พาลพอพาลก็อารมณ์เสีย พออารมณ์เสียก็อยากจะเขวี้ยงของที่อยู่ในมือทิ้งยิ่งพอนึกได้ว่าเป็นของไอ้ภูมิผมก็อยากจะกระทืบให้พังคาตีนแต่ถ้าผมทำแบบนั้นมันก็อาจจะมากระทืบผมให้ตายคาตีนมันเช่นกัน เฮ้ออ สุดท้ายชีวิตไอ้พีมก็ต้องตกเป็นเบี้ยล่างคนอย่างไอ้ภูมิจริงๆหรอเนี่ย

นี่เพิ่งวันแรกผมก็ร่อแร่ ต่อไปกูจะรอดมั้ยวะ ~_~


"อ่อนนุชครับพี่" ผมบอกพี่แท็กซี่หลังจากตะเกียกตะกายเอาถุงช้อปและตัวเองเข้ามาในรถได้เป็นผลสำเร็จ โอยยย ตัวไม่อยู่ยังอุตส่าห์ทิ้งของไว้รังควาญกูเนาะ เชี่ยภูมิ

"โหน้อง เป็นผู้ชาย ซื้อของเก่งเหมือนกันนิ" พี่แท็กยิ้มพร้อมกับเอ่ยแซวผมผ่านกระจกมองหลัง

"ไม่ใช่ของผมหรอกพี่ แหะๆ"

"อ๋อ ของแฟนล่ะสิ" ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง ของแฟน??เหอๆ ยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย ไม่ใช่ของผมแล้วก็ไม่ใช่ของแฟนผมคร้าบบเพ่

"สงสัยจะรักแฟนมากใช่มั้ยน้อง ซื้อให้แถมเอากลับบ้านให้ รักกันใหม่ๆก็งี้แหละ สมัยที่พี่ยังหนุ่มยังหล่อเหมือนน้องพี่ก็แบบนี้" หืม?? หล่อเหมือนผม เอ่อ ก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองอ่ะนะ แต่หน้าผมกับหน้าพี่แท๊กมีสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือตาดำ

ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ขี้เกียจปฏิเสธพี่แก ผมทั้งเพลียทั้งง่วงแถมต้องมาเจอพี่แท็กที่อารมณ์ดีสีฟ้าใส กูอยากงีบอย่าชวนคุยจะได้ม้ายยคร้าบบบ ผมสลึมสลือบอกทางมาบ้านถูกได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ผมรีบจ่ายเงินแล้วรีบปีนออกมาทันที ผมว่าพี่แท็กคนนี้เลิกขับแท็กซี่แล้วไปจัดเดี่ยวแข่งพี่โน๊ตท่าจะรุ่ง คนไรวะฝอยไม่มีพัก


"กลับมาแล้วคร้าบบบ" ผมตะโกนบอกเบาๆพอเป็นพิธี ดึกป่านนี้จะมีใครอยู่อีกละ อาปุ้ยคงเข้านอนตั้งแต่สองทุ่มแล้วมั้ง ผมลากสังขารขึ้นห้องตัวเอง เดินไปก็แทบจะหลับไปครับ

"เฮ้ยยย!!!" ผมกระโดดหลบผีสังขยาหน้าเขียวที่โผล่มาจากห้องน้ำ  จากที่ผมง่วงๆตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ


"อะไรกันจ๊ะหลานชายสุดหล่อ นี่อาปุ้ยคนสวยเอง ตกใจไปได้" ผมมองคน เอ่อ ไม่แน่ใจนะว่าคน เอาเป็นว่าอะไรซักอย่างที่มีโคลนเขียวๆทาเต็มหน้าเหลือเพียงลูกกะตาเวลาพูดก็เหมือนจะขยับปากได้แค่นิดหน่อย ร่างนั้นแอบอ้างว่าเป็นอาของผม

"อาจริงดิ" ผมยังไม่ปักใจเชื่อครับ


"ก็ใช่นะสิย๊ะ แกอย่าทำเหมือนกลัวชั้นจะได้มั้ย แล้วนี่ไปไหนมาถึงกลับบ้านเอาซะป่านนี้ ถ้าแม่แกรู้นะคงเหาะมาฉีกอกชั้นแน่ๆ"

อาปุ้ยทำสะบัดสะบิ้งให้เหมือนกับสตรีเพศมากที่สุด บอกแค่นี้คงพอจะรู้ใช่มั้ยครับว่าคุณอาของผมเพศไหน แต่อาผมจะเป็นอะไรหรือเพศไหนก็ช่างแต่อาปุ้ยเป็นคนดี คนดีมากด้วย^^แถมความรั่วก็ไม่ได้น้อยกว่าความดีเลย ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวผม เอาไว้ว่างๆจะเล่าให้ฟังนะครับ^__^


"พีมไปกินข้าวกับเพื่อนมา" อาปุ้ยเหล่มองผมอย่างสำรวจ

"แล้วหอบหิ้วอะไรมาซะเยอะ"

"เอ่อ ของเพื่อนพีมน่ะ มันฝากไว้" ไหลไปพีม ไหลต่อไป ผู้หญิงอย่าหยุดสวยผู้ชายก็อย่าหยุดไหลและแถ  แต่จะรอดมั้ยก็ต้องลุ้นครับ


"แหมๆเพื่อนจริงหรอจ๊ะ หื้ม แฟนก็บอกมาเห้อ อาไม่แซวหรอก" แล้วที่ยืนส่งสายตาล้อเลียนอยู่นี่ไม่เรียกแซวหรอครับคุณอา แล้วทำไมใครๆต้องคิดว่าของนี่เป็นของแฟนผมด้วยวะ


"เพื่อนจริงๆคร้าบ โห่อาแฟนเฟินอะไรพีมไม่มีหรอก" อาปุ้ยทำหน้าทำตาเหมือนไม่เชื่อเชื่อเถอะครับเพราะนี่ถือเป็นความจริงเพียงเรื่องเดียวที่ผมพูดออกไป เรื่องไม่มีแฟน จริงแท้ที่สุด

"แน่นะ ไม่ใช่ซื้อฝากสาวหรอกนะจ๊ะพ่อหนุ่มน้อย" อาปุ้ยจีบปากจีบคอพูดแล้วหัวเราะคิกคัก

"โหยยอา ไม่มีจริงๆ พีมง่วงแล้ว ไปนอนแล้วนะ ฝันดีครับคนสวย"

"แน่จริงอย่าหนีสิย๊ะ" ผมหันหลังมายักคิ้วให้อาปุ้ยแล้วรีบเปิดประตูเข้าห้องอย่างรวดเร็ว



เฮ้อออออออออ



ผมทิ้งของลงกับพื้นห้องแล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียง ทั้งที่เพลียและเหนื่อยมาทั้งวันแต่เอาเข้าจริงๆตาผมกลับหลับไม่ลง

เอาแต่คิดเคียดแค้นไอ้ภูมิไม่หาย ผมเป็นคนนะมีความรู้สึก เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยต้องรอใครนานขนาดนี้ คิดแล้วอยากซัดปากแม่ง ไอ้สัดหมา

ฟึดฟัดอยู่ได้ซักพักสังขารก็ชักไม่ไหว ตาเริ่มปรือๆแต่ก่อนที่ผมจะหลับผมก็มีบางเรื่องที่จะสารภาพ คือว่าผมนายพีมสุดหล่อ จะ จะ จะไม่อาบน้ำครับ กร๊ากกก ก็เหนื่อยอ่ะนอนเลยละกันเนอะ ฝันดีครับ^_^
 
~~แหละยังคิดถึง นะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ~~

อ๊ากกก ใครแม่งโทรมาตอนนี้เนี่ยผมที่เพิ่งหลับก็ถึงกับสะดุ้ง ควานหาโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว กูเหนื่อยกูอยากนอน


"ฮาโหลลล คราย"ใจจริงอยากด่าออกไป  ครวยเอ๊ยโทรมาทำส้นตีนไรวะ

(กูเอง)

"กูไหน ไม่มีเพื่อนชื่อกู"

(สัดพีมอย่ากวนตีน กูคิวเว้ย)อ่อ ไอ้คิวนี่เอง ผมลุกขึ้นพิงหัวเตียงแล้วสบัดหัวไล่อาการง่วง

"ฮ้าววว มีไรมึง กูง่วงจะตายห่า "

(มึงไปไหนมา) ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำถาม

"ไปไหน อะไรของมึงวะ"

(ก็ที่อยู่ๆมึงวิ่งออกจากห้องไงไอ่ควาย กูตกใจหมดนึกว่าเกิดเรื่องอะไร แถมโทรไปมึงก็ไม่รับ)

"อ๋อออออออ" ที่อ๋อยาวคือเพิ่งเข้าใจว่าไอ้คิวมันสื่อถึงเรื่องอะไรแต่อีกเหตุผลคือผมอ๋อเพื่อถ่วงเวลาคิดหาคำโกหก อ่า หลังๆมานี่ผมโกหกเพื่อนบ่อยเกินไปรึเปล่านะ

"ไม่มีไรหรอกมึง คือว่า เอ่อ พอดีว่าเพื่อนอาปุ้ยเพิ่งกลับจากปาปัวนิวกินีนะ" ชิบ -หาย ออกทะเลแล้วกู :a5: ผมคิดไม่ออกเว้ย ยิ่งดึกๆง่วงๆแรมผมยิ่งต่ำจะประมวลผลอะไรแต่ละทีก็ช้า

(ปาปัวนิวกินี?แล้ว?) เสียงไอ้คิวแบบว่าไร้เยื่อใยมาก ประมาณ เพื่อนอาปุ้ยมาแล้วเกี่ยวเหี้ยไรกับมึง

"แล้ว กูก็ต้องไปรับเค้าไง" น่าจะรอดนะ"กูขอโทษนะเว้ยคิว ที่ไม่ทันได้บอกมึง คือกูรีบมากเลย กลัวว่าเพื่อนอาปุ้ยจะรอนาน" พอเห็นมันเงียบผมก็รีบพูดเลยครับ

(เออๆ กูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกละกัน ห่า ตกใจหมดนึกว่าญาติเสีย)

"พ่องมึงดิ"ผมยิ้มแม้กำลังจะด่ามัน ยิ่งรู้ว่าไอ้คิวเป็นห่วงผมก็ยิ่งรู้สึกผิดที่โกหกมัน "คิว กูขอโทษนะ" ขอโทษที่โกหก ให้ตายสิผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย

(เฮ้ย ขอโทษไมวะกูไม่ได้โกรธกูก็แค่เป็นห่วง ไอ้แทนแม่งก็โทรมาด่ากูว่าไม่ดูแลมึง มันจะชวนมึงกับกูไปแดกข้าวเย็นไง แล้วพอมันถามว่ามึงไปไหน กูบอกไม่รู้มันก็ด่ากูใหญ่)โหหห เพื่อนผมแม่งซึ้ง


"พวกมึงรักกูขนาดนี้เลยหรอวะ"ผมถามออกไปด้วยหัวใจที่พองโต ก๊าก สำนวนนิยายได้อีกผม

(รักดิ ก็มันจะให้มึงเลี้ยง ฮ่าฮ่า)


"พ่อ มึงตายไอ้คิว แค่นี้นะ กูจะนอน" ไอ้เพื่อนเวร หัวใจผมแฟ่บลงในบัดดล ไอ้คิวมันยังหัวเราะไม่เลิกไม่รา ห่า พูดซะผมประทับใจที่ไหนได้จะหลอกแดก ฮึ๋ย บอกลากันอีกไม่กี่คำ ผมก็ตัดสายมันไปตอนแรกว่าจะไม่อาบน้ำแต่ไหนๆก็ตื่นแล้ว อาบให้สบายตัวหน่อยละกัน


คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ผมหลับฝันดีมาก ผมฝันว่าได้จระเข้ฟาดหางฟาดใส่ปากไอ้ภูมิ หึหึ แม่รงสะใจเหี้ยๆและนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมอยากจะทำฝันให้เป็นจริง

 
^________^



..........................................
 

จากที่สาบานตนไว้ว่าถ้าเจอหน้าไอ้ภูมิผมจะซัดปากมันเอาให้เลือดกบปาก ผมจะขย้ำคอมันให้หายแค้น แต่ตอนนี้ผมต้องชักรอกความคิดนั้นลงไปให้ลึกที่สุด เพราะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าผมในตอนนี้

ไอ้ภูมิมันบอกให้ผมมาหาที่โรงยิมเก่าหลังภาคโยธา ผมมาถึงได้ซักพักแล้วแต่ไม่กล้าเดินเข้าไปได้แต่แอบดูอยู่ไกลๆ โผล่แค่หัวส่วนตัวแอบอยู่หลังประตู


ไอ้ภูมิยืนดูดบุหรี่ดูลูกสมุนมันกระทืบคนอยู่เห็นหน้ามันแล้วของขึ้นวะ โมโห แต่พอเห็นสิ่งที่มันกำลังทำอยู่ ถ้าผมฉลาดก็ควรจะอยู่เฉยๆน่ะนะ แล้วพวกห่านี่ก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรเล้ยนี่มันในมหาวิทยาลัยนะ ยังกล้ามีเรื่องทะเลาะวิวาท


"เฮ้ย พอๆเดี๋ยวแม่รงตายเร็ว มันไม่สะใจกู" มันใช้ปลายตีนขยี้บุหรี่ที่มันเพิ่งทิ้งลงพื้นก่อนจะเดินเข้าไปเอาเท้าข้างเดียวกันเหยียบหน้าอกไอ้คนโชคร้ายคนนั้นที่นอนเลือดอาบหมดสภาพ

จากการคาดคะเน ผมว่าแม้แต่น้ำข้าวต้มไอ้นั่นก็ไม่มีปัญญาแดกอ่ะปางตายเลยนะนั่นน่ะ ไอ้ภูมินั่งยองๆลงข้างๆไอ้คนนั้นโดยมีไอ้แทน ไอ้หัวทองแล้วก็ไอ้รูปหล่อเมื่อคราวก่อนที่ผมเคยเจอพวกมันยืนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ


"จำใส่หัวเน่าๆของมึงไว้ว่าอย่ามาซ่าส์กับกู และฝากบอกพี่สาวมึงด้วย ว่าเลิกตอแยกูซักทีก่อนที่กูจะ-ทน-ไม่-ไหว" น้ำเสียงเย็นๆนิ่งๆของไอ้ภูมิเป็นอะไรที่ชวนสยองมากผมได้ยินแบบนั้นก็ขนหัวลุกชันอย่างพร้อมเพรียง ถ้าเกิดมันทำกับผมเหมือนที่ทำกับไอ้นั่นผมต้องตายแน่ๆ


ต่อไปกูจะทำหน้าที่เบ๊ให้ดีที่สุดกูสัญญานะภูมินะ  เอาวะเป็นเบ๊สองเดือนก็ดีกว่าต้องตายใต้ตีนมันภายในสองชั่วโมง
Y_Y   !__!

พูดจบมันก็ให้ลูกสมุนหิ้วปีกไอ้เด็กนั่นออกไป


"มิค กี่โมงแล้ว" มันหันไปถามไอ้หัวทอง อ่อไอ่นี่ที่เรียกผมว่าเปี๊ยกเมื่อคราวก่อนมันชื่อมิคนี่เอง

"สี่โมงสี่นาทีเวลาดีมีคนคิดถึงวะมึง คิกคิก" ไอ้คนที่ชื่อมิคตอบพร้อมกับทำหน้าทำตาแช่มชื่น ไอ้นี่ดูท่าทางกะล่อน ขี้เล่นเหมือนไอ้ปันเลยแฮะ

"กูก็นึกว่ามีอะไรๆสนุกให้ดู ห่า มีแค่เนี๊ยะ" ไอ้แทนทำหน้าเบื่อๆเซ็งๆ เห็นไอ้แทนกับไอ้ภูมิอยู่ด้วยกัน มันก็ชวนให้ผมหายใจไม่ทั่วท้อง

"ทำเป็นเซ็ง เมื่อกี้กูนึกว่ามึงจะเข้าไปรุมไอ้เด็กนั่นอีกคน"ไอ้รูปหล่อมาดคุณชายยิ้มเลวให้ไอ้แทน

"มึงก็ไม่ต่างจากมันร้อก เบียร์" ไอ้หล่อมาดคุณชายชื่อเบียร์สินะ ห่านเอ๊ยหน้าก็หล่อชื่อก็เพราะ อยุติธรรมไปมั้ยชีวิตมนุษย์โลก

"พอๆเลิกกัดกันแล้วก็กลับไปได้แล้ว"ไอ้ภูมิมันโบกไม้โบกมือไล่เพื่อน

"อ้าว แล้วมึงอ่ะ"

"กูมีนัด" เฮือกกกกกก อย่านะอย่าพูดนะมึง อย่าบอกใครว่ามึงนัดกูไว้น๊า แค่นี้ผมก็ทำตัวลีบเล็กจนจะแทรกเป็นเนื้อเดียวกับผนังแล้ว

"นัดใครวะ" แทนเอ๊ย ได้โปรดรีบๆไปเหอะขอร้องและสาบานได้ผมไม่ได้คิดไปเองด้วยว่าไอ้ภูมิมันเหลือบมามองตรงที่ผมยืนอยู่แต่ก็แค่แวบเดียวแค่นั้น


"เออน่า นัดใครก็เรื่องของกู พวกมึงไปได้แล้วไป"

“โห่ สาดดด เปลี่ยนบรรยากาศหรอมึง อืมจะว่าไปที่แบบนี้มันก็น่าตื่นเต้วดีเหมียนกาน" ตกลงว่าไอ้คนชื่อมิคมันลิ้นไก่สั้นหรือเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ถึงได้พูดไม่ชัดเนี่ย ไอ้เบียร์ไอ้แทนยิ้มเลวอมก้อนเลศนัยไว้เต็มปาก ก่อนจะผลักไหล่ไอ้ภูมิ อะไรของพวกมันเนี่ย

ไอ้มิคเบ่งหน้าอกแล้วยกกำปั้นไอ้ภูมิมาทุบลงหน้าอกตัวเอง มันพูดว่า เพื่อนกูๆ ไม่นานไอ้สามตัวนั้นก็เดินกอดคอกันออกไป จนเมื่อแผ่นหลังไอ้แทนหายไปจากสายตาผมถึงกับเป่าปากรู้สึกโล่งไปทั้งอก


"มึงมาช้า"


"เฮ้ย!!! สัด ตกใจ" ไอ้ภูมิมายืนข้างหลังผมตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ พอเห็นว่าผมตกใจมันก็ทำหน้าสะใจซะเต็มสตรีม

"หน้าซีดๆ เป็นไตวายหรอ " คือไอ้ที่หน้ากูซีดเนี่ยเพราะตกใจมึงแหละ แต่อีกสาเหตุคือภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ไอ้ภูมิมันทำกับเด็กคนนั้น ก็ชวนให้ผมตัวสั่นได้เหมือนกัน


ผมชักสงสัยว่าทำไมมันถึงไม่กระทืบผมแบบไอ้คนนั้น ทำไมเอาผมมาเป็นเบ๊ หรือเป็นเพราะผมเป็นเพื่อนไอ้แทนมันเลยเกรงใจ โหยยยเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคบไอ้แทนก็มีประโยชน์เหมือนกันหรือการที่มันได้แกล้งผมอาจจะสะใจกว่า ฮึ๋ย ผมว่าเพราะเหตุผลนี้แหละ



"เมื่อวานกูบอกให้รอ แล้วเป็นส้นตีนอะไรถึงไม่รอกู" ผมหันขวับ เงยหน้าขึ้นมองไอ้เชี่ยภูมิจนคอแทบเคล็ด มันว่าไงนะ ไอ่เหี้ยเอ๊ย ผมฟิวขาดแล้ว



"สัด พูดมาได้ว่ากูไม่รอ กูนั่งรอมึงสี่ชั่วโมงรอจนห้างปิด เหี้ย ทีหลังจะไปปี้กันก็ไม่ต้องเสือกบอกให้กูรอ ของของมึงก็ไม่ใช่น้อยๆกูทั้งหอบทั้งหิ้ว ทั้งเพลียทั้งหิว แล้วยังกล้าพูดอีกหรอว่ากูไม่รอ แม่งเอ๊ย"

ชุดใหญ่ไม่แถมเป๊ปซี่มีแต่น้ำลายล้วนๆกว่าจะนึกได้ ความเย็นก็แล่นผ่านกระดูกสันหลังผมเรียบร้อย นี่ผมทำอะไรลงไปปากจะพาซวยไหมเนี่ยอุตส่าห์ไม่วีนแล้วเชียว คราวนี้ตายแน่กู ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ไม่กล้ามองหน้ามันแต่รับรู้ได้ว่ามันแผ่รัศมีออกมา

"หึหึ" หือ? หัวเราะ ใครมาหัวเราะแถวนี้วะตรงนี้มีผมกับไอ้นรกภูมิ อารมณ์ผมตอนนี้ห่างไกลคำว่าหัวเราะมากเพราะงั้นก็ต้องเป็นไอ้ภูมิ ผมเงยหน้ามองมันอีกรอบ ใช่จริงๆด้วย


"ขะ ขำไรวะ" หรือมันโดนด่าจนบ้าไปแล้ว ผมคิดว่ามันจะประเคนตีนใส่หน้าผมหรือไม่ก็ตบบ้องหูซักฉาดหรืออาจจกไส้มาฉีกเล่น แต่ผมก็ไม่เข้าใจอารมณ์มันสักเท่าไร พูดง่ายๆคือผมตามอารมณ์มันไม่ทัน

"ขำหมาในปากมึง" จบคำพูดมัน ทั้งกระเป๋า เสื้อแจคเก็ต หนังสือก็ถูกไอ้ภูมิโยนมา สัด กูไม่ใช่ตระกร้านะเว้ยโยนมาได้แต่เดชะบุญว่าผมรับของของมันไว้ได้ทุกอย่าง นี่ถ้าผมทำของมันร่วงแม้แต่ชิ้นเดียวนะ ผมคงกลายสภาพเป็นเหมือนเด็กที่ถูกมันซ้อมเมื่อกี้แน่นอน


ไอ้ภูมิมันเดินตัวปลิวลิ่วไปหารถแต่ผมนี่เดินเอียงเซแถ่ดๆแล้ว สงสารกูบ้างมั้ยเนี่ย หึ ถ้าคนอย่างมันสะกดคำว่าสงสารเป็นคงไม่ทำกับผมแบบนี้หรอก


"ไอ้เตี้ย เดินให้มันเร็วๆหน่อยแมร่งขาคนหรือขาหอยทากวะ สั้นได้ใจกูจริงๆ" สัดหมา ด่ากูอีกแล้ว พวกคุณดูดิไอ้ภูมิมันด่าผม มันว่าผมอ่ะ คับข้องหมองใจไม่มีใครให้ฟ้องฟ้องคนอ่านนี่แหละวะ

"เชี่ยถ้ามึงรีบมากนักทำไมไม่ไปตั้งแต่เมื่อวานวะ"

"บ่นไรกู"

"เปล๊า แฮ่ๆ" ผมส่งยิ้มตอแหลให้มันแต่ใจยังแอบด่าต่อไป หูดียังกับหูหมา หุหุ

"อย่าให้รู้นะมึง กูเอาเลือดหัวออกแน่" โอยยย ไอ้โหด ไอ้ซาดิส ไอ้ชั่วช้า สามาน สามหาว

"มึงขับรถเป็นมั้ยเตี้ย" พอเดินมาถึงเมอร์ซิเดสคันงามคันเดิมที่เคยพาผมไปแอ่วแถวสมุทรปราการ อึ๋ย คิดแล้วขนลุก ผมยืนมองมันงงๆ ก่อนสมองที่บรรจุเมมน้อยๆของผมจะเริ่มทำงาน ถามแบบนี้แสดงว่ามันต้องให้ผมทำหน้าที่คนขับรถแน่นอน เพราะงั้น


"ฮื่อ ขับไม่เป็น" ส่ายหน้าจนคอแทบหลุดแต่จริงๆผมขับเป็นครับ ฮ่า แต่เรื่องไรต้องขับรถให้มันอ่ะ สู้นั่งเชิดหน้าสบายๆเป็ยคุณนายเอ๊ยคุณชายดีกว่าเยอะ

"กูน่าจะรู้ว่าสมองกุ้งอย่างมึงคงขับไม่เป็น แล้วจะยืนเซ่อทำซากอ้อยไร ขึ้นรถเด้!!" ไรวะแค่นี้ก็ต้องตะคอกด้วย แต่ผมไม่แคร์แค่นี้ไม่เป็นไร ถูกมันด่าเพื่อแลกกับการไม่ต้องขับรถก็ถือว่าคุ้มละนะ


 ^_^

................................




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2011 20:46:39 โดย ทะเลหัวใจ »

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 5
«ตอบ #38 เมื่อ25-09-2010 00:15:58 »

ค่ายมวย
 
OoO

ไอ้ภูมิเลี้ยวรถเข้ามาในสถานที่ๆที่มีป้ายเบ้อเริ่มเทิ่มว่า ค่ายมวยส.สักยิม ผมก็ตาเหลือกแทบจะทันทีจากที่นั่งเงียบกันมาตลอดทาง ผมหันไปมองมันแต่มันยังหน้านิ่งเหมือนเดิม


"ขนเป้กับน้ำที่อยู่ท้ายรถมาให้กูด้วย" มันดับเครื่อง สั่งเสร็จคุณชายท่านก็โยนกุญแจรถให้ผม พร้อมกับกำชับให้ล็อคให้เรียบร้อยแล้วให้รีบตามคุณชายไป ผมได้แต่นั่งเอ๋อ ยังไม่ทันได้ถามมันเลยว่าพาผมมาที่นี่ทำไม มันก็เดินเข้ายิมไปแล้ว คงไม่ใช่ อ๊ากกกก ไม่จริงๆๆๆ มันคงไม่ได้เอาผมมาเป็นคู่ซ้อมใช่ม๊ายยยยยย :serius2:

 >o<


"ช้า"

ไอ้ภูมิหันมาทำตาเหวี่ยงๆใส่ผมทันทีที่เงาหัวผมโผล่เข้ามาในยิม โอย มึงก็ดูของที่กูหอบมาก่อนเหอะ ทั้งเยอะทั้งหนัก ใช่ซี้ก็ตัวเองเดินแกว่งไข่ตัวเปล่าสบายชิลล์ๆนิ ผมรีบวางของทั้งหมดลงม้านั่งข้างๆมันแล้วจะรีบถาม


"มึงพากูมาค่ายมวยทำไม"มันเงยหน้าขึ้นมามองผมซึ่งยืนค้ำหัวมันอยู่ สายตามันหมือนรำคาญผมสุดๆ

"อย่าสำคัญตัวผิด กูไม่ได้พามึงมา กูมาออกกำลังกายมึงเป็นเบ๊มีหน้าที่ต้องคอยรับใช้กู ลืมไปแล้วแหงะ" หางเสียงกระแดะมากภูมิขอบอก อ่อ เอากูมาเป็นเด็กให้น้ำ

"อีกอย่าง มาค่ายมวยคงไม่ได้มาดูหมีแพนด้าหรอก" แน๊ะ มีเหน็บมีแนม


"เหรอ กูนึกว่ามึงมาดูบุญบั้งไฟ" ผมก็ประชดกลับบ้างดิ มันเลยผลักหัวผมไม่รู้ว่ามันตั้งใจหรือกะเอาให้ตายแม่รงมือหนักหัวแทบจะทิ่มลงพื้น พอมันกระทำชำเราร่างกายผมจนสาแก่ใจก็คว้าเป้เดินไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมสังเกตว่านักมวยคนอื่นๆที่กำลังซ้อมหรือแม้แต่พวกพี่เลี้ยงพวกครูฝึกก็แสดงท่าทีเคารพมัน  อะไรกันวะ


ระหว่างรอมันผมก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อย โหหห มีเวทีมวยเกือบสิบแนะ กว้างเว่อ ได้ยินเสียงเตะเสียงต่อยก็รู้สึกมันส์ดี โอ๊ะ เด็กตัวเล็กๆก็มี เด็กผู้หญิงด้วยเว้ยเท่ห์ดีแฮะ

จริงๆผมก็ชอบดูมวยนะ มวยไทย มวยสากล มวยโลก มวยปล้ำดูได้หมด แต่ถ้าชอบจริงๆก็มวยไทยนั่นแหละทั้งได้ออกกำลังกาย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แถมเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยด้วย เจ๋งสุดๆไปเลยน้องสาว

แต่รายของเชี่ยภูมิผมจะจัดมันไว้อีกกลุ่ม จะถือซะว่าที่มันมาชกมวยเป็นเพราะมันชอบความรุนแรง อิยะฮะฮ่า กร๊ากๆ :laugh:

"ตกลงมึงสติไม่สมประกอบจริงๆสินะเตี้ย" นั่นไงแค่คิดนิมิตถึง มันก็มา


"ไร ก็ กู..." ผมหันไปกะด่าแต่ว่าอึ้งไปสามสิบวิครับ ไอ้ภูมิในชุดเสื้อยืดคอวีสีเขียวเข้มเนื้อบาง กับกางเกงขาสั้นสีกรม แค่ชุดออกกำลังกายยังแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดตีน เท่ห์สัดๆ

แต่เฮ้ย อย่าชื่นชมมัน ก็งั้นๆแหละว๊า แค่สูง แค่ขาว แค่หล่อ ไม่เห็นมีไรเลย เฮอะ  จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยเลยนะครับว่าไอ้ภูมิเป็นนักมวยที่หล่อที่สุดในโลกา มันขมวดคิ้วนิดๆที่อยู่ๆผมก็อึ้งแล้วเปลี่ยนเป็นหน้าบึ้ง คงงงกับผมมั้ง กูก็งงตัวเองวะมึง

"กูจะไปซ้อม มึงนั่งเฝ้าของอยู่นี่ เข้าใจ๊"

"เออ แม่งสั่งกูอยู่ได้ เฮ้ย!!" สั่งจบมันก็โยน ย้ำว่ามันโยนไอโฟนกับลาคอสจระเข้แท้ ที่ในนั้นบรรจุเงินไว้อย่างมากมายมหาสารมาให้ผม หัวใจแทบหลุดไปกองกับพื้น

สาดดด เกิดกูรับไอโฟนมึงไม่ได้ มึงยินดีรับบีบีกูไปใช้แทนมั้ย โอยย ขวัยเอ๊ยขวัญมาขวัญอุษามณีจงเป็นของพี่พีม คริคริ มึงเห็นไอโฟนเป็นขนมครกรึไงถึงคิดจะโยนก็โยน ห่า หลายหมื่นนะนั่น

วันนี้ผมก็ได้รู้อะไรใหม่ๆเกี่ยวกับไอ้ภูมิ นอกจากมันจะเอาแต่ใจ เอาใจยาก ขี้รำคาญ ขี้โมโห มันยังชอบโยนของด้วย อยู่กับมันคงช่วยเพิ่มทักษะในด้านต่างๆให้ผมได้อ่ะนะ


มันสั่งเสร็จก็เสด็จไปซ้อมมวย มันใส่นวมสีดำ  มันไม่มีคู่ซ้อมหรอกครับซ้อมกับกระสอบทรายก็เตะก็ต่อยกันไป แต่ดูท่าตีนกับมือมันหนักไม่ใช่เล่นนะนั่นโดนเข้าไปแต่ละที บรื่อ น่ากลัวๆ 

ผมก็แปลกใจเหมือนกันที่คนอย่างมันจะสนใจกีฬาหรือการออกกำลังอย่างการชกมวย คิดว่าหล่อๆไฮโซๆอย่างมันจะชอบกีฬาประมานออกรอบไดฟ์กอล์ฟ ไม่ก็ตีเทนนิส เล่นสคอส ไรงี้  แสดงว่ามันก็คนไทยหัวใจช้างเหมือนกันนี่หว่า


ระหว่างที่รอคุณชายภูมิมันโชว์พาวว์ผมก็ฆ่าไอ้เวลาด้วยการนั่งกดบีบีคุยกับเพื่อน  ไอ้เชนแมร่งตั้งสถานะบีบีได้กากมาก “ไม่สั้นไม่น้อยแถมซอยถี่ยิบ” เสื่อมได้อีกเพื่อนกู เล่นได้ซักพักก็ชักเบื่อแฮะ หันซ้ายหันขวาเจอไอโฟนไอ้ภูมิ วะวะว้าว หึหึ คลิปผมอยู่ในนี้สินะ เสร็จกูละ

ผมชะเง้อมองมันเห็นตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะกับกระสอบทรายไม่ได้สนใจอย่างอื่น ดีทางสะดวก ผมรีบคว้าไอโฟนมันขึ้นมากดแต่ปรากฏว่า เหี้ย มันตั้งล็อคเครื่องไว้ต้องใส่รหัสก่อน หึ๋ยรอบคอบจังนะไอ่ชั่ว

อะไรวะ เซ็งโว๊ย ไปเดินเล่นระงับบำบัดอารมณ์เสียๆหน่อยละกัน ไหนๆก็มีวาสนาได้มาค่ายมวยเป็นครั้งแรกขอไปชื่นชมให้เป็นบุญตาหน่อยเถอะว่ามันมีอะไรบ้างแต่ถ้าจะไปเดินเล่นก็ต้องหอบโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถของไอ้ภูมิใส่เป้ผมไปด้วย ชิ วุ่นวายๆ


ผมก็เดินดูคนอื่นซ้อมอะไรไปเรื่อย ปล่อยไอ้ภูมิมันชกลมชกแล้งไปคนเดียวได้ยินเสียงตุบตับ ตุบตับแล้วรู้สึกเสียวไส้ เกิดวันดีคืนดีมันผีเข้าหมั่นไส้ผมขึ้นมา เตะป๊าปเข้าซี่โครงผม คงอ๊าก จุกๆเจ็บๆนี่แค่คิดนะเนี่ยยังสัมผัสได้ถึงความทรมานเลยครับ


"ไอ้หนู มาใหม่เหรอ ลุงไม่เคยเห็นหน้า"ผมสะดุ้งนิดๆที่มีคนเรียกก็กำลังลุ้นพี่กล้ามโตกับพี่ลายสักรูปมังกรว่าใครจะสอยใครร่วง หันมาเจอคุณลุงที่ดูจะห้าสิบปลายๆแต่ยังดูแข็งแรงยืนหน้าโหดอยู่

"อ่อ ครับ"

"มาซ้อมมวยหรอ"

"เอ่อ เปล่าครับ เพื่อนชวนมาเป็นเพื่อนน่ะครับ" เหอๆ ไม่ใช่เพื่อนครับ อีกอย่างมันก็ไม่ได้ชวนด้วยแต่มันบังคับแล้วลากคอผมมา

"ก็ว่า ดูท่าทางหน่วยก้านอย่างเอ็งตีปิงปองยังจะไม่รอด" ผมแทบสะดุดตีนตัวเองล้ม

"อ้าวลุง ทำไมพูดงี้อ่ะครับ อย่ามาดูถูกผมนะ ลองหมัดสะท้านโลกของผมปะล๊า ลองป่าว" ผมตั้งการ์ด เตรียมแย๊บซ้ายแย๊บขวา แต่คุณลุงมองผมยิ้มๆปนทุเรศลูกตาแต่ผมยังตั้งหมัด ขยับเท้าไปมาคือเตรียมพร้อมเต็มที่ว่างั้น

"ไอ้เตี้ย!!! มึงไปเชิดหุ่นกระบอกอะไรตรงนั้น มานี่ดิ๊" o_O ผมเกือบสำลักน้ำลายตัวเองผมหยุดการกระทำทุกอย่าง มุมปากผมกระตุกๆ แล้วกัดฟันหันไปหาไอ้ภูมิที่ยืนเท้าเอวมองผมเอือมๆ เชิดหุ่นกระบอกพ่องมึง สาดด กูจะโชว์พลังหมัดเว้ย เสียหมดเลย


"เพื่อนผมเรียกแล้ว ถือว่าลุงโชคดีไปละกัน ไปแระ" ลุงแม่รงขำไรวะ ผมเปล่าชิ่งนะ ก็ไอ้ภูมิมันเรียก ให้คนรอนานมันไม่ดี(เหรอออออออ)

"มีไร" ผมเดินหน้าเป็นตูดไปหาไอ้ภูมิ

"น้ำกูละ" หือ?น้ำมึง ผมแอบอมยิ้มคิดทะลึ่ง น้ำมึงก็อยู่กับมึงดิ ก๊าก

"มึงคิดเหี้ยไรเนี่ย กูหมายถึงน้ำดื่มไปเอามา" นี่มันรู้ความคิดผมด้วยหรอเนี่ย อ่า ไอ้นี่น่ากลัว แต่ผมว่าผมกลัวตัวเองมากกว่า ฮ่าฮ่า ก๊ากๆ

"เออๆ" ผมเดินไปหยิบน้ำเปล่าและสปอนเซอร์มา ประสบการณ์สอนให้รู้ว่าอย่าเดาใจไอ้ภูมิว่ามันจะเอาอะไรทางที่ดีควรจะเตรียมของมาให้มันเลือกแดกเองจะดีกว่า

"มึงไปคุยอะไรกับลุงสัก" มันกระเดือกน้ำด้วยท่าทางสุดเท่ห์ มันคงไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองกินน้ำได้เท่ห์แค่ไหน อิจฉาเว้ยยย แล้วมันถามว่าอะไรนะ ลุงสัก ?

"ลุงสัก ใครวะ"

"ก็คนที่มึงคุยด้วยเมื่อกี้ไงลุงสักเจ้าของค่าย"

"ห๊า!!!เจ้าของค่าย!! ">o<เหี้ยมั้ยละมึงไอ้พีม เกือบมีเรื่องกับเจ้าของค่ายมวย เกือบกลายเป็นศพแล้วมั้ยล๊า ไอ้ภูมิมองผมงงๆมันส่ายหน้าเอือมๆ แล้วกลับไปซ้อมต่อผ่านไปเกือบๆชั่วโมง มันก็เลิกแล้วก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

ก่อนกลับลุงสักแวะมาคุยกับมันแถมเดินมาส่งด้วย ผมละอายแทบไม่กล้ามองหน้าแกแต่ก็ถือโอกาสขอโทษลุงสัก ลุงแกใจดีผิดกับหน้าโหดๆมากครับแกบอกว่าผมตลก น่ารักดี จะไม่ปลื้มก็ตรงนี้แหละ   -_-

"เพื่อนคุณภูมิตลกดีนะครับ"

"หึ มันไม่ค่อยเต็มน่ะ" ถึงผมจะเก็บของอยู่หลังรถผมก็ได้ยินนะครับเชี่ยภูมิครับ

"คุณท่าานสบายดีมั้ยครับ" ทำไมต้องนอบน้อมถ่อมตนกับไอ้เด็กโหดอย่างไอ้ภูมิด้วยลุง

"ก็ดีครับ ลุงสักก็ไปหาพ่อบ้างสิ บ่นอยากเจอเหมือนกัน" ผมเบะปากเลียนเสียงไอ้ภูมิ ก็ดีครับ ได้ครับ แหยะๆๆ

"ลุงก็อยากไปครับ แต่ช่วงนี้เด็กในค่ายเดินสายแข่งเยอะ ลุงเลยยุ่งๆยังไงก็ฝากสวัสดีคุณพ่อด้วยนะครับ"
"ครับ งั้นผมกลับแล้วนะ"

"ครับ ว่างๆก็มาอีกนะครับคุณภูมิ"

"ครับ  เฮ้ยไอ้เตี้ย เสร็จยัง ชักช้า"

"เออๆเสร็จแล้วๆ แม่รงดุจังวะ แฮ่ๆผมกลับแล้วนะคร้าบ ขอโทษอีกครั้งนะครับคุณลุง"ผมรีบวิ่งมาหามันก่อนที่ระเบิดอารมณ์มันจะลงใส่กบาลผม

"อุบะ ไอ้หนูนิ บอกว่าไม่เป็นไร ว่างๆก็มาได้นะเดี๋ยวลุงฝึกมวยให้"

"คร้าบบ งั้นกลับนะครับ สวัสดีครับ" ไอ้ภูมิกับผมไหว้ลาลุงสัก แล้วขึ้นรถกลับบ้าน ฮ้าาา เพิ่งเคยมาค่ายมวยครั้งแรก สนุกดีแฮะเกือบชกกับเจ้าของค่าย เหอๆ แรงตลอดนะมึงไอ้พีม





"มึงๆ"นั่งรถมาได้ซักพัก กระเพาะผมก็ยื่นอุทธรณ์ร้องขอความเป็นธรรม หิวๆๆๆๆ

"มีไร" มันขานรับสั้นๆโดยไม่หันมามองผม

"หิวข้าว" คราวนี้มันยอมหันหน้ามามองผมแล้ว แต่ถ้ามองดุๆอย่างนี้ก็หันไปมองถนนต่อเหอะ ก็ผมหิวอ่ะ นี่มันจะสองทุ่มแล้วนะ ผมกำลังกินกำลังโตนิ(แต่คงจะไม่โตไปกว่านี้แล้วมั้ง)


"เรื่องมาก"

"ก็กูหิว งั้นมึงก็จอดเดี๋ยวกูกลับเอง"

"นี่มึงคิดว่ากูจะไปส่งหรอ"

"อ้าว" ผมเหวอเลยครับ ใช่ครับผมคิดว่ามันจะไปส่ง แต่รู้แล้วหล่ะว่ากำลังคิดผิด คิดผิดก็คิดใหม่ มันจะไปยากอะไรกลับเองก็ได้เว้ย


"จะกินไร"  ผมหันไปมองมันอีกครั้งด้วยความงงและมึน ผมก็ขอยืนยันคำเดิมนะครับว่าตามอารมณ์คุณชายแกไม่ทันจริงๆ

"บะหมีเกี๊ยว นั่นๆ ร้านตรงนั้น" ผมมองไปเห็นคล้ายๆจะเป็นโต้รุ่งขนาดย่อมๆอยู่ริมถนน

"สกปรก" จี๊ด คำๆนี้จี๊ด

"เออ!! ของข้างทางมันสกปรกสำหรับคุณชายอย่างมึง งั้นจอดรถกูจะลง"


"กูหมายถึงมึงต่างหากสกปรก น้ำยังไม่อาบกล้าลงไปกินข้าวท่ามกลางผู้คนอีกหรอ"

“อ้าว เอ่อ ก็… ก็ไม่เห็นเป็นไรนิ" บทสนทนาจบลงพร้อมๆกับไอ้ภูมิตบไฟเลี้ยวเข้าจอดริมฟุตบาทและหน้าผมที่แหกและชาไม่รู้ว่าควรโกรธมันที่ด่าผมสกปรกหรือควรอายหรือควรดีใจที่จะได้กินข้าวหลากหลายอารมณ์จริงๆอยู่กับไอ้บ้านี่เนี่ย


และก็อย่างที่คิดครับพอเดินลงมาคนที่นั่งอยู่ก็มอง แม้แต่คนที่นั่งอยู่ร้านข้าวมันไก่ข้าวขาหมูที่อยู่ถัดไปยังมีสะกิดบอกกันมองด้วย เอ่อ ผมกับมันไม่ใช่คนเหล็กสามนะครับ

ร้านนี้มีแค่สี่ห้าโต๊ะเอง ก็นะบะหมี่เกี๊ยวริมถนนจะให้มีอะไรเยอะแยะผมเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่ด้านใน กลัวว่าถ้าเลือกนั่งติดถนนไอ้ภูมิจะไม่กล้าแดก

"เอาไรพ่อหนุ่ม"


"บะหมี่เกี๊ยวต้มยำเพิ่มเกี๊ยวด้วยนะป้า"ผมตะโกนสั่งเสร็จก็หันมาถามไอ้ภูมิ ที่เอาแต่เงียบ

"มึงกินไร"


"......"ก็ยังเงียบ

"เฮ้ยมึง ป้าเค้ารอ"


"กูสั่งไม่เป็น"
มันพูดเสียงเบา แล้วเสหน้าไปมองถนน เฮ้ย ไอ่ห่านี่ใครวะมันแอบแดกไอ้ภูมิเข้าไปใช่มั้ย คายไอ้โหดออกมานะเว้ย


"ห๊ะ??"

^_^

>_<

"กูสั่งไม่เป็น!!" คราวนี้มันทำหน้าเหมือนโกรธๆผมที่หลุดขำเลยรีบกลั้นยิ้ม

"เอาเหมือนกันอีกชามครับป้า แล้วก็เป๊ปซี่สองขวดน้ำแข็งสองแก้วครับ" ผมมองหน้ามัน ทั้งอยากจะหัวเราะแต่ไม่กล้ากลัวมันต่อยฟันร่วง เลยได้แต่ยิ้มกลั้นหัวเราะจนท้องแข็ง ไอ้ภูมิชูกำปั้นใส่ผมแล้วถลึงตาโหดๆใส่อีก ปกติผมก็คงจะหงอกับท่าทางแบบนี้ของมัน แต่ตอนนี้ดูยังไงก็เหมือนเด็กเอาแต่ใจแค่นั้น


"มันไม่มีเมนู กูไม่รู้ว่าต้องสั่งยังไง" มันเก๊กเสียงเย็นชา โห่ ไอ้ฟอร์มจัด ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย

"แสดงว่ามึงไม่เคยกินบะหมี่เกี๊ยว" นาทีทองครับเมื่อมีโอกาสผมเลยต้องคว้าไว้ ผมรีบทำตัวเป็นบอใบไม้ ทับทม หึหึ
"
ควาย กูเคยกินเหอะแต่ไม่เคยนั่ง เอ่อ ร้านแบบนี้หรือถ้าอยากกินก็บอกให้คนใช้ที่บ้านไปซื้อให้" โหหห มันคุณชายกว่าที่ผมคิดอีกนะเนี่ย เออเว้ยไอ้เราก็นึกว่าจะมีแต่ในหนังในละคร สงสัยที่เขาว่ากันว่าชีวิตจริงยิ่งกว่าละครจะจริง หึหึ

"เออๆก็แค่บอกว่าสั่งไม่เป็นก็จบไม่เห็นต้องโวยวาย" ผมยิ้มขำมัน ผมไม่ได้ขำเยาะเย้ยมันที่สั่งไม่เป็น แต่แค่คิดว่า


มันก็เป็นอะไรที่น่ารักดี


"อ่ะ ได้แล้วพ่อหนุ่ม "

"ขอบคุณครับ เอ่อป้าขอน้ำซุปด้วยนะ" คุณป้ายิ้มใจดีแล้วก็กลับไปตั้งน้ำซุปชามโตมาให้ ไอ้ภูมินั่งจ้องชามบะหมี่ตาปริบๆ

"อ่ะ" ผมยื่นช้อนกับตะเกียบให้มัน "มานี่กูปรุงให้" แค่สั่งมันยังไม่เป็น ก็ไม่ต้องหวังว่ามันจะปรุงเป็น

"กูทำเป็นน่า ไม่ต้องยุ่ง" เมื่อมันยืนยันแบบนั้นผมก็ปล่อยมันทำไป แต่ผมแอบเห็นนะว่ามันจะตักตามที่ผมตัก หึหึ ไอ้ฟอร์มจัดเอ๊ย จริงๆผมไม่ค่อยชอบปรุงหรอกเพราะบะหมี่เกี๊ยวมันอร่อยอยู่แล้ว ก็เลยจัดการโซ้ยให้ว่องส่วนไอ้ภูมิมันก็กินของมันไป


"อะอ่อยอั๊ยอึง" ผมพยายามเงยหน้าขึ้นคุยกับไอ้ภูมิทั้งที่เส้นคาปากและอีกส่วนอยู่ในชาม ไอ้ภูมิมองผมเหมือนรับไม่ได้ ผมยักไหล่ไม่แคร์ ผมไม่ใช่สาวน้อยขี้อายที่ต้องมานั่งดัดจริตจกร้าน กินคำเล็กคำน้อยเรียบร้อยต่อหน้าชายหนุ่มนะ ก็เป็นของผมแบบนี้ ไม่สนเว้ย ผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินไม่ได้สนใจไอ้ภูมิเท่าไร


"เผ็ด!!!"

"หืม" ผมก็งงสิครับเลยเงยหน้าขึ้นมอง เฮ้ย!! สภาพไอ้ภูมิแบบว่าปากมันแดงเจ่อ  แก้มก็แดง หูยิ่งแดง เหงื่อก็ออกซะเต็มหน้า ผมอยากจะปล่อยก๊าก ไอ้ภูมิกินเผ็ดไม่ได้

"มึงกินเผ็ดไม่ได้หรอ"

"ไม่ใช่ !!!กู แค่ แค่ กูแค่ไม่ชอบ" ทั้งที่จริงผมอยากระเบิดเสียงหัวเราะ(เยาะเย้ย)และอยากจะสมน้ำหน้ามันนะ แต่ก็อดสงสารไม่ได้ มันเหมือนเด็กเลย ผมเอามือไปแตะก้อนน้ำแข็งที่ป้าเอามาเสิร์ฟเกิน จนรู้สึกว่ามือชาแล้วยื่นไปแตะปากไอ้ภูมิ


อาจเป็นเพราะผมไม่ทันได้คิดอะไร อาจเป็นเพราะผมแค่อยากจะช่วยมันให้หายเผ็ด แต่เหมือนใครกดปุ่มอะไรซักอย่างให้หยุดทุกสิ่งรอบๆตัวของผม ความรู้สึกบางอย่างตอนที่ผมสบตากับดวงตาคมสีดำขลับของมัน ความรู้สึกบางอย่างวิ่งชนผม มันรวดเร็วมาก อะไรกัน อะไรที่ทำให้หัวใจผมกระตุกจนรู้สึกอุ่นๆในอกแบบนี้


"เอ่อ คือ โทษที คือ" ผมรีบชักมือกลับทันทีที่ตื่นจากภวังค์บ้าๆนั่น มันจะซัดปากผมรึเปล่านะที่บังอาจไปแตะต้องร่างกายมันแต่ดูเหมือนไอ้ภูมิเองก็มึนๆกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มันสบัดๆหัวแต่หลังจากนั้นมันก็


"แหวะ มือเค็มวะ หึหึ" มันพูดทั้งที่พยายามมเป่าปากไล่ความเผ็ด


^__^

"เหี้ย คราวหลังกูไม่ช่วยแล้ว แมร่งบรรยากาศเสียหมด" ไอ้ประโยคแรกอะด่ามัน แต่ประโยคหลังผมพึมพำกับตัวเอง แต่!!! เมื่อกี้นี้มันยิ้ม ไอ้ภูมิยิ้ม OoOผมอยากได้กล้องซักแปดล้านพิกเซลเพื่อเก็บชอตหายากแห่งปี


ผมเพิ่งเคยเห็นมันยิ้มแบบเต็มปากเต็มแก้มครั้งแรก จะพูดให้ถูกต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นมันยิ้ม อาจเป็นเพราะรอยยิ้มของมันหรือเพราะอะไรผมก็ไม่อาจรู้ได้ที่ทำให้ผมนิ่งค้างอีกรอบ



แต่สิ่งที่ผมรู้ในตอนนี้คือรอยยิ้มของไอ้ภูมิก็สวยดีแฮะ^___^
 

 
 TBC>>>>>>>>>>>>>>>


 
...........................................
 
 
เชิญด่าและสาปแช่งที่ข้าพเจ้าหายไปได้ตามใจชอบคะ หึหึ แต่ยาวสะใจใช้ได้ทีเดียวเนอะ หรือจะเอายาวกว่านี้ เค้าสามารถนะเออ^_^
ปล.1 ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและทุกๆกำลังใจนะคะ ขอบคุณคร๊า อิอิ
ปล .2 นายเอกกรุณาครองสติให้มั่น อย่าเป๋นะพีม หึหึ เจอกันหลังสอบเสร็จคะ
 





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2011 20:55:17 โดย ทะเลหัวใจ »

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #39 เมื่อ25-09-2010 03:11:12 »

สับสนแทน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
« ตอบ #39 เมื่อ: 25-09-2010 03:11:12 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #40 เมื่อ25-09-2010 03:52:57 »

หึหึ หายไปนานนะเนี่ย

มีใจกันเเล้วสินะ >..<

4life

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #41 เมื่อ25-09-2010 04:08:43 »

พระเอกเฮงซวย  :z6:

doomare

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #42 เมื่อ25-09-2010 04:49:19 »

สงสารพีม อยากให้พีมแรงมั่ง

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #43 เมื่อ25-09-2010 07:05:14 »

มาต่อเรื่อยๆดิเรื่องกำลังสนุก

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #44 เมื่อ25-09-2010 08:03:58 »

เริ่มมีตอนหัวใจเริ่มหวิวๆอย่างประหลาดของน้องภูมิกะน้องพีมแล้ว แต่น้องภูมคะช่วยนิดได้ไหม
น้องช่วยอย่าใช้งานเบ้อย่างน้องพีมมากไป สงสารอะ แค่นี้ก็จะตายแล้ว แต่อยากรู้อะ ไงให้พีมรอนานน และยังบอกว่าไม่รอ
หรือว่านายน้องภูมิวงกลับไปอะ แต่อย่างว่ามาดคุณชายมากอะ แต่ตอนนี้รอยยิ้มนี้อาจบอกอะไรหลายอย่างจะเปลี่ยนไป

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #45 เมื่อ25-09-2010 08:07:02 »

มาจิ้มจุ่มเรื่องใหม่

ออฟไลน์ akera

  • I love him anymore. but he love him.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #46 เมื่อ25-09-2010 09:43:47 »

เย้ๆ มาต่อแล้ว

yun

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #47 เมื่อ25-09-2010 10:09:53 »

สนุกมาก
พีมตลกดี จะรอต่อไปว่าภารกิจเบ้ของนายพีมจะทำให้นายภูมิก็ขี้เก็ก หลุดมาดเจ้าพ่ออย่างไรบ้าง

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #48 เมื่อ25-09-2010 11:25:40 »

มาอ่านต่อ ไม่รู้เลยว่าแอบมาอัพ ><

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #49 เมื่อ25-09-2010 12:49:05 »

นู๋พีม รั่ว ตลอด ตลอด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
« ตอบ #49 เมื่อ: 25-09-2010 12:49:05 »





ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #50 เมื่อ25-09-2010 16:07:48 »

มารออ่านต่อค่ะ สนุกดี
พระเอกร้ายมาก นายเอกก็กวนสุดๆ น่ารักดีค่ะ

KM

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #51 เมื่อ25-09-2010 16:30:03 »

เกลียดพระเอก

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #52 เมื่อ25-09-2010 18:38:21 »

อิอิ ชอบจังเลยอ่ะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #53 เมื่อ25-09-2010 19:55:40 »

น้องพีมน่ารักจัง
สงสัยคงมีอะไรซักอย่างไปกระตุกหัวใจภูมิจี๊ดๆแล้วมั้ง

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #54 เมื่อ25-09-2010 20:48:47 »

แปะไว้ก่อน
ยังไม่ได้อ่าน
   :pig4:

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 6
«ตอบ #55 เมื่อ04-10-2010 16:38:00 »

ตอนที่ 6

 
เผลอแปบเดียวเทศกาลสอบไฟนอลก็เข้ามาเซไฮ อะไรกันเนี่ย หนังสือยังไม่ได้อ่านซักตัว ผ่านมาเทอมนึงแต่รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรลงไปในสมองเลยครับ ทว่าผมก็ไม่ซีเรียสกับการสอบอยู่แล้ว

เพราะเรียนศิลปกรรมเอกทัศนศิลป์งานปฏิบัติก็ถือเป็นแหล่งสะสมคะแนนชั้นยอด บางวิชาทำโปรเจคท์พรีเซนต์ก็ถือเป็นการสอบ ไม่ต้องท่องหนังสือมาก(เหรออออ) เฮ้ยโปรเจคท์!!!งาน!!! ตายห่าละกู ลายเส้นก็ยังไม่ส่ง เขียนแบบก็ยังไม่เสร็จ ตาย ตาย Y__Y  T_T :m31:
 

"พีมกูยืมคัตเตอร์หน่อยดิ๊" ผมเงยจากการร่างภาพมามองหน้าไอ้คิว มันเดินอ้อมสระน้ำข้างตึกวิทยาศาสตร์มาหาผมที่อยู่อีกฝั่งเพื่อจะมายืมคัตเตอร์เนี่ยนะ โหย ไอ่โง่ จะถ่อมาไกลเพื่อ ผมส่ายหน้าหน่ายๆแล้วยื่นคัตเตอร์สีขาวให้มัน
 

"กะอีแค่คัตเตอร์มึงยืมใครก็ได้นิหว่า เดินมาซะไกล"

"ทำมะ ก็กูอยากยืมมึง มีปัญหาหรอไอ่งก" มันตั้งอกตั้งใจเหลาดินสอและต่อว่าผมไปด้วย ผมยักไหล่แล้วก้มลงเขียนภาพต่อ ซักพักก็ได้กลิ่นบุหรี่  ผมเงยหน้ามองหาที่มาของกลิ่นก็เจอไอ้คิวยักคิ้วกวนตีน มือมันกำลังคีบบุหรี่ส่วนปากมันก็พ่นควันสีขาว ว่าแล้วไง แม่รงเดินหาที่อัดบุหรี่นี่เอง
 

"เอามั้ยมึง" มีรึจะปฏิเสธ ผมรับซองบุหรี่กับไฟแช็คมาอย่างว่อง ซองบุหรี่ไอ้คิวเป็นอะไรที่กิ๊บเก๋มาก เคยเห็นใช่มั้ยครับข้างซองที่มันจะมีรูปชวนสยอง แต่เพื่อนผมคิดใหม่ทำใหม่ ใช้ความรู้ด้านศิลปะที่ร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์ มันตัดกระดาษแข็งทำเป็นซองขนาดมาตฐานซองบุหรี่ แต่มีคำว่าลดโลกร้อน อีกด้านเป็นนางแบบปฏิทินเบียร์ข้างล่างเขียนว่า ควันมหาเสน่ห์ สร้างสรรค์จริงๆ

ผมจัดการจุดและอัดมะเร็งเข้าปอด ไม่เป็นไรหรอกน่าพวกผมไม่ได้ติด สูบแค่ตอนกินเหล้ากับตอนเครียดๆหรือเวลาเขียนรูปสร้างอารมณ์ติสให้สมอง ไม่นานเท่าไรก็เหมือนแมลงวันได้กลิ่นขี้ ไอ้เพื่อนทั้งหลายที่ได้กลิ่นนิโคตินหลอนนาสิกประสาท ก็เดินมาหลบมุมสูบกันยกคลาส 

สรุปคือผมได้มุมนั่งที่อับเหมาะแก่การซ่องสุม ปกติพวกผมไม่ค่อยแคร์หรอกครับ อยากสูบก็สูบแต่วันนี้มานั่งเขียนรูปนอกสถานที่ ก็ต้องให้เกียรติคณะอื่นเขาบ้าง
 

"ไงมึงถึงไหนแล้ว โหสวยดีนี่หว่า มุมกูต้นไม้บังวะ" ไอ้โจเพื่อนร่วมคลาสของผม มันยืนจ้องกระดาษของผมนิ่ง ไอ้นี่มันอาร์ตตัวพ่อหนุ่มศิลปกรรมตัวจริง ผมยาวมาเลย

 
"ต้นไม้บังมึงก็บอกมันหลบดิวะ"ไอ้หนึ่งที่นั่งยองๆอัดบุหรี่เอาเป็นเอาตายเงยหน้าขึ้นมายิ้มตอแหลใส่ไอ้โจ

"เออว่ะ กูก็นั่งโง่ตั้งนานคนจะเขียนรูปเสรือกมายืนบังอยู่ได้ ถุยเหี้ยหนึ่ง" พวกผมขำเอิ้กอ้ากกันตามประสา ไอ้หนึ่งมันเป็นพวกกวนตีน

จริงๆแล้วเพื่อนรุ่นผมก็แบบนี้กันหมดแหละ แม้แต่ผู้หญิงยังเป็นเลย หรือจะพูดให้ถูกคือเป็นกันทั้งเอก คนอื่นมักมองว่าพวกผมแปลก คิดอะไรทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน ติส สกปรก ซกมก พูดจาไม่รู้เรื่อง

หารู้ไม่พวกผมนี่แหละบรรพบุรุษแห่งความเป็นมนุษย์ผู้เข้าใจในธรรมชาติ สิ่งที่เที่ยงแท้และเป็นจริง???การอยู่ร่วมกันของสรรพสิ่งความสมดุลของหยินหยาง???ท้องฟ้ากับทะเล?? ความเวิ้งว้างไร้แก่นสารของจักรวาล???(ปกติมาก)
 

"ไอ้คิว ได้ข่าวแดกเด็กทันตะหรอมึง" ไอ้โจหันไปถามไอ้คิวที่ทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วเอาปลายเท้าขยี้ มันหันมายิ้มมุมปากเลวๆอวดความแน่ให้เพื่อนๆอิจฉา ห่า อย่าให้กูมีบ้างแล้วกัน
 

"กูว่าไอ้เชี่ยคิวจะกินครบทุกคณะแล้ววะ แบ่งๆพวกกูบ้างเหอะไอ้หล่อ"

"หึ คือคนมันหน้าตาดีอ่ะครับเพื่อน ไม่ได้หาด้วยครับ มาเองครับมึง" พวกผมโห่มันเลย ไอ้หนึ่งทนไม่ไหวเตะขาไอ้คิวด้วยความหมั่นไส้

"ห่าเตะมาได้เดี๋ยวกางเกงกูเปื้อนเมียซักรีดให้นะเฟ้ย"

“เมียคนไหนวะ สงสัยคงแบ่งรีดคนสองเซนถึงจะครบ”

"หมั่นไส้ว่ะแม่รง รวยแต่ไม่หล่ออย่างกูเมื่อไรจะได้ซั่มสาวสวยๆบ้างวะ" คราวนี้ไอ้หนึ่งโดนโห่ยิ่งกว่าไอ้คิวอีกครับ

"พูดมาได้ไม่อายปาก แล้วเมื่อวานวรนุชที่ไหนมันหิ้วเด็กขึ้นคอนโดวะ" พอไอ้โจพูดจบพวกผมก็หันมาไล่บี้ไอ้หนึ่งทันที ไอ้หนึ่งตีหน้าโหดยังกับจะจกไส้ไอ้โจมาแดก ถึงไอ้หนึ่งมันจะไม่หล่อจนคนเหลียวหลัง แต่เงินมันถึงแถมคารมณ์ดีอีกต่างหาก ไอ้ที่มันบอกว่าไม่เคยซั่มอ่ะมันตอแหลครับ
 
"อุบอิบพวกกูหรอมึง"

"อิ๊บห่าไร กูแค่ชวนน้องเค้าไปศึกษาสไตล์การตกแต่งห้องแล้วก็ลายกระเบื้องโว้ย"

"ส้นตีน" ผมด่าแล้วผลักหัวไอ้หนึ่งขำๆ ห่า คิดได้นะมึง

"แล้วเป็นไง ลายลูกไม้หรือจีสติง"

"ลูกไม้สีขาววะ หึหึ"

"สาดดดดดดดดด" ทุกคนร่วมลงแขกด่ามันครับ

"เด็กมันสวยมั้ยวะโจ"ไอ้คิวนี่ก็เสรือกเหลือเกิน

"สวยห่าไรละผู้ชายเว้ย แต่ก็น่ารักดีอ่ะนะกูว่าไม่ม.5ก็ม.6ใช่มั้ยหนึ่ง"

"เหี้ย กินเด็ก" กินเด็กมันจะคล้ายๆอินเดกครับศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุด กร๊ากกก ไม่เกี่ยวแระๆพวกผมไม่แปลกใจหรอกครับที่ไอ้โจบอกว่าไอ้หนึ่งพาผู้ชายขึ้นห้อง เพราะไอ้หนึ่งมันประกาศอย่างแมนๆ(?)เลยว่ามันบริโภคได้ทั้งชายและหญิง ใช่ครับมันเป็นไบ

"ระวังจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์นะมึง หึหึ”ไอ้คิวเตือนสติไอ้หนึ่งในฐานะที่มันเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการการซั่มเด็ก

“แหมมึง ขาวๆซิงๆเป็นมึง มึงทนได้หรอวะ อีกอย่างกูว่าจะลองคบน้องเขาดู นิสัยน่ารักดีกูชอบ” เออเว้ยบทจะลงหลักปักฐาน ก็มาแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้าเลยเพื่อนผม แถมเป็นเด็กผู้ชายอีกต่างหาก แน่มาก

พวกผมก็เฮฮา ฝอยแตกจนลืมไปว่ามาเขียนรูป เหอๆ มัวแต่เล่นจะมีงานกลับไปส่งอาจารย์มั้ยเนี่ย ภาพสระน้ำที่มีฉากหลังเป็นตึกคณะวิทย์ของผมเพิ่งได้แค่30เปอร์เซนต์เอง สงสัยวันเสาร์อาทิตย์นี้ต้องมามอซะแล้ว ไม่งั้นไม่มีงานส่งแน่ๆ
 

"มึงๆนั่นไอ้ภูมิเดือนวิศวะป่ะ" แกร๊ก ดินสอแทบร่วง

ผมหันมองตามวิถีปลายนิ้วที่ไอ้โป้งมันชี้ไป เวร ใช่มันจริงๆด้วย โลกกลมหรือผมซวยวะเนี่ย อุตส่าห์รอดมาได้ตั้งหลายวัน ตั้งแต่วันที่ไปค่ายมวย และหลังจากกินหมี่เกี๊ยวเสร็จมันก็ไปส่งผมที่บ้าน ไม่ต้องตาโตหลงผิด คิดว่ามันพิศวาสอะไรผมหรอกนะ มันแค่ไปเอาของมันที่ผมหอบกลับบ้านเมื่อคราวก่อน


แต่คุณชายท่านก็ไม่ยอมเสด็จลงจากรถนะครับ ต้องให้กระผมเอาลงมาถวายให้ถึงรถกันเลยทีเดียว แต่ดีหน่อยที่มันเริ่มมีวิวัฒนาการเข้าใกล้ความเป็นคน เพราะรู้จักขอบใจ ถึงจะห้วนและสั้นแต่ก็สมเป็นมัน

ก็อย่างที่บอกหล่ะครับ ว่าหลังจากวันนั้นมันก็ยังเรียกผมไปสนองปากสนองมือเหมือนเดิม แต่ก็มีบางครั้งที่ผมตอแหลรอดไปได้อย่างสวยงาม จนหลังๆมันไม่ค่อยเรียกใช้แล้ว คงเพราะช่วงนี้ใกล้สอบด้วยมั้ง มันเลยเอาเวลาไปท่องหนังสือ วิศวะนะครับไม่ใช่ศิลปกรรมถึงจะมาชิลล์แบบผมได้

ผมเองดีใจจนน้ำตาแทบไหลที่ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ แล้วทำไมเวลาแห่งอิสรภาพมันช่างน้อยนิดเหลือเกิน ว่าแล้วผมก็ทำการหลบครับ เอาหลังไอ้ต๊ะเป็นป้อมปราการด่านสุดท้ายในการรักษาชีวิต
 
"คนอะไรจะเพอร์เฟคขนาดนี้วะ หล่อเหี้ย แถมรวยอีกต่างหาก ถ้ากูได้ซักเซี้ยวมันนะกูจะฟันหญิงแล้วทิ้งวันละสามคนเลย" ผมเบ้ปากทำท่าสำรอก หมั่นไส้เว้ย ทำไมไอ้ภูมิมันดังขนาดนี้วะเนี่ย

ขนาดพวกชนบทหลังเขาเต่ามะเฟืองแห่งเกาะกาลาปากลอสอย่างไอ้โจยังรู้จัก แล้วคนอื่นในมหาลัยไม่รู้ไปถึงเจ้าคุณปู่คุณหลวงของไอ้ภูมิเลยหรอ
 

"มันเป็นเพื่อนมึงนิ ใช่มั้ยคิว"

"อืม"

"เขาร่ำลือกันหนักหนาว่ามันโหด จริงหรอวะ หน้าใสๆแบบนั้นอ่ะนะ" อึหือออออ อย่าให้เซด พรรณาสามวันยังไม่หมดไอ้ความเชี่ยโหดเลวทรามของมันเนี่ย กูเจ็บกูเจอมาเยอะ


"หึ กูไม่รู้ว่ะ แต่มีคนไปพิสูจน์มาแล้ว มึงลองถามดูดิ" ห่าคิว มันยักคิ้วแล้วพยักหน้ามาทางผม ไอ้สันขวานเอ๊ย พอมันทิ้งระเบิดไว้ให้ผมเสร็จแม่งก็เดินเข้าไปหาไอ้ภูมิเฉยเลย สาดดดดดดดดด กูหลบมันอยู่เนี่ย
 

"ไอ้พีม มึงไปพิสูจน์อะไรไอ้ภูมิวะ เงียบเชียวนะมึง"

"พิสงพิสูจน์เหี้ยไร เชื่อไอ้คิวก็หมาแล้ว ไอ้หนึ่งมึงมานี่ดิ๊ แสงเข้ากูแรเงาไม่ถูก" บ้าแล้วมึงไอ้พีมวาดยังไม่เสร็จแรเงาแมร่งเลยแล้วกันแถมใช้ไอ้หนึ่งบังแสงอีกต่างหาก ไอ้ภูมิจะได้มองไม่เห็นผม ส่วนไอ้หนึ่งมันก็บ่นอุบอิบตามประสา คนอื่นๆก็กลับไปเขียนรูปต่อกันหมด
 

"มึงจะแรเงาทำส้นตีนไรเนี่ย ป๋าให้ลงแค่ลายเส้น”

“อ้าว เหรอๆ กูแค่ลองดู เออน่าบังให้กูแปบเดียว”

“แต่กูจะไปทำงานของกูต่อ"

"เออๆแปบๆ" ผมแอบเหล่ไอ้ภูมิกับไอ้คิว โอย เมื่อไรจะไปวะ คุยห่าอะไรกันนักหนา ข้างๆไอ้ภูมิมีสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ ดูจากโหงวเฮ้งคงเรียนหมอชัวร์ เพราะขาวสวยสะอาดบริสุทธิ์ซะขนาดนั้น

ไอ้ภูมิตบไหล่ไอ้คิวสองสามที ในที่สุดพวกมันก็ได้ฤกษ์ร่ำลากัน แต่มิวายไอ้ภูมิเสือกหันกลับมามองทางนี้ซะงั้น ผมเสียวเยี่ยวแทบราด ลุ้นยิ่งกว่าบอลโลกตอนเยอรมันแข่งกับสเปนอีก
 

"มึงเป็นไรวะพีม ทำหน้าทำตาตอแหล"

"หน้ามึงดิตอแหล จะไปไหนก็ไปเลยไป"

"อ้าวไอ่ห่านี่ เมื่อกี้ละขอกูยิกๆ" โดนไอ้หนึ่งโบกกบาลผมอีกรอบ แต่ก็ถือว่าคุ้มเพราะรอดจากไอ้ภูมิ เฮ้อ จะรอดไปได้ซักกี่น้ำวะไอ้พีมเอ๊ย เมื่อไรจะสองเดือนแว๊ ปวดจิตโว้ยยยยยยยยยยย
 
 
 
 
…………………………………………………
 
 

 
วันนี้เป็นวันศุกร์วันปล่อยผีของพวกผมครับ ลืมไปเลยว่าอยู่ในช่วงสอบ หึหึ ชิลล์ไปมั้ยชีวิตเยาวชนไทย วันนี้ผมจะเมาจะเอาให้ลืมเรื่องเครียดๆไปเลยวันนี้ไม่เมาไม่ต้องเรียกผมว่าไอ้พีม แล้วเรียกไรฟระ ฮ่าฮ่า

ผับเดิมที่พวกผมมาจนสนิทกับพี่เจ้าของร้านแต่จริงๆพี่แกเป็นญาติไอ้ปันด้วยแหละพอก้าวเข้ามาก็เจอกับแสงสีเสียงและบรรดาผีกลางคืนทั้งหลายทำเอาผมเริ่มยิ้มออก อยากดิ้นอยากดริ้งเว้ย
 


"พี่ไนล์!!! พี่ไนล์!!! หวัดดีพี่!!!"พวกผมตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่ดั่งฮึ่มๆ

"อ้าว ไอ้เด็กเวรเพิ่งมาหรอกูนึกว่าโต๊ะพวกมึงจะเป็นหมันซะอีก" ทั้งที่อยู่ใกล้ๆแต่ก็ต้องตะโกนอยู่ดีพี่ไนล์หนุ่มฮิพฮอพเจ้าของผับถึงจะได้ยินเสียงเรียกของไอ้ปัน


"รถติดนะพี่ ฮั่นแน่คนใหม่หรอพี่ไนล์ แม่รงแจ่มวะ" ไอ้ปันแซวพี่ไนล์ถึงสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ เฮียแกก็ยักคิ้วเจ้าเล่ห์ตามสไตล์หนุ่มเพล์บอย

"เออๆ แก้วแตกได้ ล้มโต๊ะได้ แต่อย่าให้แขกคนอื่นเจ็บ โอเค๊"

"รับทราบครับผม"

"เออ ขอให้สนุกมีไรก็บอกเด็กๆละกัน"พูดเสร็จพี่ไนล์ก็โอบเอวสาวสวยหุ่นอึ๋มไปนอกผับ พวกผมก็เดินไปนั่งโต๊ะประจำ
 
แต่พอมาถึงโต๊ะ ผมแทบเก็บความคิดทั้งหมดที่จะมันส์ที่จะเมา เอาพับเก็บกลับบ้านทันที นรกเหอะ ไอ้ภูมิตัวหล่อๆนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของพวกผม


ทั้งที่ผมหลบมันทั้งวัน อุตส่าห์ดีใจที่ไม่มีโทรศัพท์มันเข้ามาก่อกวน สุดท้ายก็ต้องมาเจอจนได้ มิน่าตาขวากระตุกยังกับรัวกลองยาว ไอ้ภูมิมันเงยหน้ามามองผมนิ่งๆแต่แค่เสี้ยววินาที สาบานให้ไอ้คิวจู๋เล็กผมเห็นมันเหยียดยิ้มชั่วร้าย คืนนี้ความลับของผมจะแตกมั้ยครับคุณๆทั้งหลาย
 

"ไงพวกมึง มานานยังวะ" ไอ้เชนทักไอ้ภูมิกับเพื่อนมันอีกสองคน ผมจำได้มันคือไอ้เบียร์กับไอ้มิค

"ก็ซักพัก ว่าแต่พวกมึงมัวทำไรอยู่วะ มาช้าโคตร" ไอ้มิคหันมาถามไอ้เชน ไอ้เชนนั่งข้างไอ้หล่อคุณชายที่ชื่อเบียร์ ไอ้คิวนั่งข้างไอ้ภูมิ ผมกับไอ้ปันนั่งตรงข้ามกับพวกมัน  แจ๊คพอต ผมได้นั่งตรงกับไอ้ภูมิ แล้วพวกมันก็ไม่พูดพร่ำทำสากกระเบือจัดการเรียกหาแก้วเหล้าทันทีทำเหมือนไปตายอดตายอยากมางั้นแหละทั้งที่แดกกันวันเว้นวัน
 

"จะไม่ช้าได้ไงก็รอคุณชายพีมแต่งตัวกว่าจะออกจากบ้านได้นานเป็นชาติ" ไอ้คิวกระแทกแก้วเปล่าลงเพราะมันเพิ่งกระเดือกเหล้าเพียวๆลงท้องไปก่อนจะหัดมาทำหน้าง๊องแง๊งใส่ผม ช่างกล้านะมึง กูไม่ใช่หรอที่รอมึงเซตผมน่ะ

"อ้าว ตัวเธอคนนั้นนิ" ไอ้มิคหันมามองผมตาโตแล้วหันไปมองไอ้ภูมิ ประมานจะถาม ใช่ไอ้ที่อัดมึงวันนั้นป่าวไอ้ภูมิมันทำหน้าเอือมๆเซ็งๆ หึหึ อายละซี้มึง
 

"พวกมึงยังไม่รู้จักกันใช่มั้ย มาๆเดี๋ยวป๋าแนะนำนี่ไอ้พีมเพื่อนพวกกู พีมนี่ไอ้มิคกับไอ้เบียร์เพื่อนกูเหมือนกันและพวกมึงก็เป็นเพื่อนกันซะ ส่วนไอ้ภูมิมึงสองคนคงรู้จักกันดีแล้ว…ใช่มั้ย"พวกมันห้าตัวหัวเราะลั่น ผมอยากเอาขวดโซดายัดปากไอ้คิวจริงๆแมร่ง
 

“หวัดดีๆ กูชื่อมิค มึงคงเห็นใช่มั้ยว่ากูหล่อแค่ไหน ไม่ต้องเสียใจนะที่หล่อสู้กูไม่ได้ กูไม่อยากรู้สึกผิด” เอ่อ สีหน้ามันจริงจังมากจนผมด่าไม่เป็นเลยครับ ไม่อยากบอกว่ากูรู้จักมึงเคยเจอมึงแล้ว ตอนที่มึงยืนดูลูกน้องซ้อมคนน่ะ


“หวัดดี กูเบียร์” ไอ้รูปหล่อมาดคุณชายหันมายิ้มทักทายผมอย่างเป็นมิตรดูใกล้ๆยิ่งหล่อ ผู้ชายเหี้ยไรวะทำให้ผู้ชายด้วยกันประหม่าเขินได้เนี่ย มันยิ้มให้ผมยิ้มทั้งปากยิ้มทั้งตายิ้มแมร่งทั้งหน้า ถึงผมจะแมนทั้งลำแต่มาทำตาเยิ้มตาหวานใส่ก็เขินนะเว้ยเฮ้ย

“อืม หวัดดี กูพีม”

“ดีๆๆเป็นเพื่อนกันไว้ ไอ้พีมมันเป็นเพื่อนสนิทพวกกูนี่แหละ แต่มันเป็นคนแคระท่ามกลางเทพบุตร พวกกูเลยไม่พกมันไปที่ๆอันตรายๆไม่งั้นพวกมึงคงรู้จักกันนานแล้ว” ไอ้ปันพูดด้วยความชื่นมื่นแต่มันคือประโยคบอกเล่า หยามเหยียด ดูถูก หรืออะไรวะปัน ผมควรโกรธมันมั้ยเนี่ย
 

“นั่นน่ะสิ กูก็นึกว่ามีพวกมึงแค่สี่คน ที่แท้ก็แอบซุกไข่ไว้ด้วยอีกฟอง” ภาษามึงห่างไกลคำว่าปกติมากเลยมิค มิน่าถึงคบกับไอ้ปันได้

ผมได้แต่นั่งฟังพวกมันฝอย พยายามไม่สนใจสายตาดุๆของไอ้ภูมิ บรรยากาศแบบนี้ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูกเลยให้ตาย ตอนนี้ผมกับมันคงเหมือน เหมือนอะไรนะ อ๋อ คนแปลกหน้าที่รู้จักกันดีหรือไม่ก็ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ
 

"เออ พูดถึงเรื่องไข่ มึงรู้มั้ยภูมิกูโคตรเซอไพร์เลยว่ะ ที่มึงไม่เอาเรื่องไอ้พีม มึงนี่คนดีจริงๆเลยเพื่อนรัก" ไอ้ปันปั้นยิ้มชื่นชมไอ้ภูมิยกใหญ่ ห่า ใครบอกว่ามันไม่ทำอะไรกู แล้วมึงเอาโคโมโซมตัวที่เท่าไรคิดถึงได้เห็นว่ามันเป็นคนดีอ่ะ


แล้วทำไมพูดเรื่องไข่แล้วต้องคิดถึงไอ้ภูมิด้วยวะ โว๊ย ตอนนี้ผมโคตรเซ็งจิตเลยอยากกลับบ้านมากๆไม่มีอารมณ์กินเหล้าแม่รงแล้ว ขืนอยู่ต่อไปคาดว่าผมอาจจะฆ่าล้างโคตรเพื่อนตัวเองได้ไม่ยาก
 

"หึ มึงเพิ่งรู้หรอ "ไอ้นั่นก็ยื่นหน้ามารับคำชมแถมยังตวัดสายตามาที่ผมอีก ฟวยยย ดีตายแหละมึงอ่ะ

"กูว่าถ้าเป็นคนอื่นไอ้ภูมิเอาตาย ดีนะที่ตัวเทอเป็นเพื่อนไอ้พวกนี้ จริงๆกูเคยฟังเรื่องตัวเทอจากไอ้พวกนี้นะ ตัวจริงไม่หล่อเท่าที่คิดไว้ แต่น่ารักกว่าที่คิดเยอะเลย ตัวเทอ…"

 
"สัด เลิกเรียกกูตัวเทอซักที" ไอ้มิคเอ๋อแดกเลยครับ มันเหวอเลยที่โดดผมด่า ก็ตั้งแต่มามันก็เอาแต่เรียกผม ตัวเธอๆ ช่วยเบิ่งตาได้มั้ยว่ากูใส่กางเกง กูระเบิดหู กูมีลูกกระเดือก กูมีดุ้น


"ไงละมึง เพื่อนกูปากหวานอย่างที่กูเคยบอกไว้มั้ย หึหึ" ไอ้เชนยิ้มๆแล้วยกแก้วเหล้ากรอกปาก ไอ้มิคแลบลิ้นใส่ผม ไอ้นี่ท่าทางจะติงต๊องกว่าที่คิดแฮะ

จากนั้นพวกมันก็ดื่มก็คุยกันไป ผมก็ดื่มบ้าง คือมันไม่มีอารมณ์ ถึงแม้ว่าโต๊ะของพวกผมจะกลายเป็นจุดสนใจของสาวแท้สาวเทียมก็ตาม ก็ดูหนังหน้าแต่ละคนดิ จะถูกปล้ำทางสายตาอยู่แล้ว
 

"เป็นไรมึง ทำหน้าเหมือนเมนไม่มา"ไอ้ปันหันมาถาม

"เมนหน้ามึงดิ กูเบื่อ อยากกลับ"เหวี่ยงครับเหวี่ยง

"อ้าว ไหนบอกวันนี้ไม่เมาไม่กลับไง เป็นไรของมึงเนี่ย"

"ไม่รู้ กูอยากกลับ ปันมึงไปส่งกูหน่อยดิ"

"มึงหงุดหงิดที่ถูกผู้ชายจีบหรอ ฮ่าๆยังไม่ชินอีกแหงะ เอาน่าๆอย่าไปสนใจ ชนแก้วกับกูนี่มา" มันจับแก้วยัดใส่มือผมแล้วเอามาชนกัน ผมเลยยกรวดเดียวหมดแก้ว

เรื่องที่ถูกผู้ชายจีบก็ส่วนนึง คือว่ามีผู้ชายเข้ามาขอเบอร์ผม ดูออกเลยว่าเก้งตัวแม่ แต่ประเด็นที่ทำให้ผมนอยส์แด๊กคือไอ้หน้าหล่อที่นั่งหน้านิ่งตรงข้ามต่างหาก


ถึงมันจะหันไปยิ้มให้กับสาวสวยที่เดินมาชนแก้วบ้าง แต่บางครั้งผมกับมันก็เผลอจ้องตากัน มันมองเหมือนผมทำความผิดอะไรซักอย่างบอกตามตรงผมไม่ชอบแล้วก็อึดอัดมากๆด้วย แต่จะให้โวยวายคงดูไม่ดีเดี๋ยวจะพาลทำให้เพื่อนเสียบรรยากาศเปล่าๆ เอาวะ ทนๆหน่อยไอ้พีม
 

"ห่าแทน มันไปมุดหัวอยู่ไหนวะ เมื่อไรจะมา"ไอ้เชนเริ่มเอะอะ เออจริงสิมัวแต่อารมณ์เสียลืมเลยว่าเพื่อนหายไปหนึ่งชีวิตไอ้แทนไปไหนวะ


"เดี๋ยวมันก็มา"ไอ้เบียร์บอกแล้วหันไปโปรยยิ้มหวานต่อไอ้นี่ก็เซอราวคอตัวเองแจกยิ้มทั่วผับ เอาเข้าไปบ้ากันซะให้พอนะพวกมึง
 

"ห่าเบียร์ หล่อนะมึง ยิ้มมั่วๆเดี๋ยวก็ติดกลับบ้านเป็นฝูงหรอกมึง" ไอ้คิวบอกแล้วชงเหล้าให้ไอ้เบียร์ อี๋ มันเอานิ้วคนเหล้าอ่ะครับ แต่ไอ้เบียร์มันก็ยกซด เพราะกำลังเมายิ้มตัวเอง เลยไม่ดูว่าไอ้คิวได้กระทำการอุบาทว์ลงในแก้วของมัน

และระหว่างที่ไอ้เชนกำลังวิจัยก้อนน้ำแข็งว่าจะทำปฏิกิริยากับฟันซี่ไหนมากที่สุด ไอ้เบียร์ที่โปรโมทโฆษนายาสีฟันตรายิ้ม ไอ้มิคที่ทดลองประสิทธิภาพของโซดา ด้วยการแหย่นิ้วลงไปในขวดแล้วเอาขึ้นมาจิบ

ไอ้คิวที่แอบเอานิ้วจุ่มแก้วชาวบ้าน ไอ้ปันที่กำลังจะอภิปรายการเปิดสมัยประชุมและไอ้ภูมิที่กำลังจะประสาทแดกเพราะถูกไอ้ปันบังคับให้เป็นฝ่ายค้าน มันก็มีเหตการณ์นี้เกิดขึ้นครับ

 
"มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดนะฟ่าง" เสียงคุ้นๆเหมือนต้นเสียงจะอยู่ใกล้ๆพวกผมหันไปมอง บิงโกไอ้แทนมาแล้วแต่ว่ามากับใครก็ไม่รู้เหมือนกำลังทะเลาะกันอยู่


"มึงรู้หรอ ว่ากูคิดอะไร" คนคนนั้นพูดแบบเหวี่ยงๆ

"โธ่~ฟ่าง~" เฮ้ย ทำไมต้องจับมือวะ แล้วทำไมไอ้แทนต้องทำเสียงอ่อนเสียงหวานกับผู้ชายด้วย
ตอนนี้ทั้งโต๊ะเงียบครับeverybodyกำลังเพ่งกระแสจิต วิญญานและสายตาไปที่ไอ้แทนและผู้ชายคนหนึ่งซึ่ง ขาวมาก ในผับมืดๆ

แต่ผู้ชายคนนั้นเหมือนมีแสงออกมาจากตัว ขาวเว่อร์ที่สำคัญหล่อลาก สูงแต่เตี้ยกว่าไอ้แทนนิดหน่อย มันสองตัวยืนจ้องหน้ากัน แต่สีหน้าต่างกันมากคือผู้ชายคนนั้นมองไอ้แทนนิ่งๆส่วนไอ้แทนทำเหมือนจะลงไปกราบตีนเค้าอยู่ทุกวินาที
 


"ฟังแทนก่อนดิฟ่าง"

"เงียบเหอะแทน กูไม่อยากฟัง"

"ข้าวฟ่างครับ"

"กูบอกว่าหุบปากไง แม่ง สัดคิวหลบดิ" พวกผมได้แต่มองไอ้แทนตาปริบๆไม่ใช่สิต้องบอกว่ามีแค่ไอ้เชน ไอ้ปัน ไอ้คิว แล้วก็ผมที่ดูจะงงๆ ไอ้สามตัวนั้นก็ยังปกติดี

ผู้ชายคนนั้นเข้าไปนั่งแทรกระหว่างไอ้คิวกับไอ้เบียร์ ส่วนไอ้แทนก็เดินหน้าหงอยๆมานั่งข้างๆผม ระหว่างที่พวกผมกำลังมึนว่าเกิดอะไรขึ้น ประโยคเด็ดของไอ้มิคก็ช่วยให้อะไรๆมันชัดเจน จนแจ่มแจ้งแดงแจ๋แบ๋ไต๋ไก่แจ้แก้ (เฮ้ย พอ เอาฮาไปไหนวะ)

 
"สม ถูกเมียเมินละสิมึง หึหึ สมไอ้แทน"


"เมีย!!???!" พวกผมแหกปากตะโกนพร้อมกัน


"สัดมิค ไอ้ผีเจาะปากมาพูด" ไอ้คนที่พวกผมกำลังเข้าใจว่าเป็นเมียไอ้แทนเขวี้ยงน้ำแข็งใส่ไอ้มิค เฮ้ย โหดไปป่ะโดนขึ้นมาจริงๆเจ็บใช่เล่นนะนั่น

แต่ดีที่ไอ้มิคมันหลบทันแล้วหัวเราะคิกคัก พวกผมเลิกสนใจไอ้มิคแล้วหันมาจ้องหน้าไอ้แทน มันก็หันมามองพวกผมด้วยสีหน้าแบบอยากขอลาตาย
 

"พวกมึง กู คือ กู…"

"มึงไม่ต้องพูดเลย สัดแทน!!" ไอ้ปันชิงพูดก่อน ไอ้นี่มันจะอ่อนไหวกับเรื่องเพื่อนมาก แล้วอยู่ๆมารู้ว่าไอ้แทน เอ่อ คบผู้ชายผมก็ไม่แน่ใจน่ะนะ แต่มันก็น่าจะเป็นอย่างที่คิดแหละ

ไอ้ปันมันก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา ผมเองยังงงๆเลย แล้วบรรยากาศฮาเฮเมื่อครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที ไอ้ปันชะโงกหน้าข้ามผมไปจ้องหน้าไอ้แทนอย่างเอาเป็นเอาตาย

ไอ้คิวก็ก้มหน้าคนน้ำแข็งในแก้วเล่น ส่วนไอ้เชนมันกอดอกแล้วแสร้งมองไปทางอื่น ผมก็ไม่รู้จะเอาสายตาไปวางไว้ตรงไหน ยอมรับว่าตกใจมาก จะหันไปมองไอ้แทนที่นั่งข้างๆก็ไม่กล้า มองไปที่ไอ้เบียร์ไอ้มิคพวกมันก็ดูปกติดี ส่วนคนที่เป็นชนวนก็เหมือนไม่สนใจโลกนั่งซดเหล้าอย่างเดียว สุดท้ายผมก็เผลอไปสบตากับไอ้ภูมิ หน้ามันยังคงนิ่งแต่เสรือกแลบลิ้นใส่ผม ห่า ใช่เวลามั้ย

"ปัน กู กูขอโทษ คือ"

"ขอโทษ? ขอโทษทำไม มึงทำไรผิด" ไอ้นี่ก็เหลือเกิน ฟังมันก่อนเหอะ ไอ้คิวเอื้อมมือมาผลักหัวไอ้ปัน แล้วพยักหน้าให้ไอ้แทนพูดต่อ

ไอ้แทนกับไอ้คิวเป็นดูโอ้ที่ซ่าส์พอกัน พวกมันแค่มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร ไอ้ปันมันขี้โวยวายเป็นเด็กๆ ไอ้เชนก็จะออกแนวนิ่งซะมากกว่า ส่วนผมนะเหรอบางครั้งก็ยอมรับนะว่าเอ๋อๆตามพวกมันไม่ค่อยทันอาศัยว่าปากหมาเลยพอจะข่มพวกมันได้บ้าง ผมไม่ได้โกรธที่ไอ้แทนมีแฟนเป็นผู้ชาย(แต่ตกใจมากกว่า)

ผู้ชายที่เรียกได้ว่าเพอร์เฟก มีสาวล้อมหน้าล้อมหลังไม่เคยเว้น แล้วอยู่ๆมาบอกว่าคบผู้ชาย อีกอย่างมันก็บอกผมว่าเพิ่งจะพาคนที่มันจริงจังเข้าบ้าน เฮ้ย อย่าบอกนะว่าคนๆนั้นคือผู้ชายหน้าหล่อผิวโอโม่คนนี้

ผมไม่โกรธมันก็จริง แต่ที่ผมไม่พอใจเพราะมันไม่ยอมบอกว่าคบใคร ทั้งที่พวกเราจะคุยกันทุกเรื่อง ไม่เคยมีความลับต่อกัน (แต่ผมกำลังทำอยู่ งามไส้จริงๆ) ถึงแม้จะเป็นเรื่องขี้เล็บเล็กแค่ไหนพวกผมก็จะปรึกษากันตลอด แล้วนี่ไอ้แทนมันคิดส้นตีนไรอยู่ถึงมาปิด
 

"ที่กูไม่บอก เพราะ…กูกลัว" มันก้มหน้า แต่สุดท้ายก็ยอมเงยขึ้นมาสบตา

"กลัวเหี้ยไร" คราวนี้เป็นผมที่ดีดหน้าผากไอ้ปัน จะสอดทำซากไรวะ ไอ้ปันลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆแล้วก็ยื่นหน้าไปจ้องหน้าไอ้แทนอีกครั้ง ไอ้แทนมันถอนหายใจแล้วหันไปมองหน้าไอ้คนที่นั่งไขว่ห้างกอดอกมองหน้ามันนิ่งเช่นกัน
 

"กลัวว่าพวกมึงจะรับไม่ได้ ที่กู…กูคบผู้ชาย กูกลัวว่าพวกมึงจะเลิกเป็นเพื่อนกับกู"เสียงเพลงในผับยังคงครึกครื้นบีบจังหวะหัวใจแต่ภายในโต๊ะกลับเงียบ นานทีเดียวที่ไม่มีใครพูดอะไรเหมือนกำลังอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง
 

"คิดได้แค่นี้ใช่มั้ย" ไอ้คิวพูดโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามองไอ้แทน


"แต่กูไม่ได้คิดจะปิดบังนะเว้ย ก็รอให้พร้อมก่อน กูตั้งใจว่าจะบอกพวกมึง จริงๆวันนั้นกูจะพามาให้ไอ้พีมรู้จัก แต่ก็เกิดเรื่องไอ้ภูมิซะก่อน"

ไอ้แทนมันพูดเสียงอ่อนไม่เหลือน้ำเสียงที่ชอบกวนประสาทฟังแล้วขัดหูแปลกๆผมไม่ชอบเลย แล้วโต๊ะก็เงียบอีกครั้งจนน่าอึดอัด หวังว่ามิตรภาพที่พวกผมบูชารักษากันมาหลายปีคงไม่จบลงเพราะไอ้แทนมีแฟนเป็นผู้ชายหรอกนะ
 

"มึงดูถูกพวกกูมากนะแทน กะอีแค่มึงมีแฟนเป็นผู้ชายที่หล่อสูสีกับกู ทำไมกูจะรับไม่ได้" อยู่ๆไอ้ปันก็พูดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มทำเอาหัวใจผมโล่งเบาไปทั้งอก


"กูจะรับไม่ได้ก็ตรงนี้แหละ" ไอ้เชนส่ายหน้าขำๆพวกผมรุมเล่นหัวไอ้ปัน มันหัวเราะคิกคักแล้วโต๊ะเราก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง ผมหมั่นไส้ไอ้แทนเลยหันไปตบหลังมันแรงๆโทษฐานปิดบังมาได้ตั้งนาน มันกอดคอผมล็อกซะแน่น แล้วก็เริ่มยิ้มได้
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2011 21:21:24 โดย ทะเลหัวใจ »

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 6
«ตอบ #56 เมื่อ04-10-2010 16:52:50 »



"พวกมึงไม่โกรธกูแล้วใช่ป่ะ" น้ำเสียงสดใสของมันเริ่มกลับมาแล้ว

"ถ้าโกรธ แล้วมึงจะยอมเลิกกับไอ้ฟ่างมั้ย"พวกผมหันพรึ่บไปมองหน้าไอ้เชน

"สัด ปากหมา" ไม่ใช่เสียงไอ้แทนครับ แต่เป็นเสียงของผู้ชายหน้าหล่อพ่วงตำแหน่งแฟนไอ้แทน เพื่อนผมก็ยิ้มร่าเลย สงสัยจะลืมมั้งว่ายังทะเลาะกันอยู่ แต่ไอ้เชนนี่ลงไปนอนขำ

“หน้ามึงฮามากฟ่าง เสร็จไอ้แทนแล้วดิ”

“จะเหลือไว้ทำพ่อหรอ” เป็นเสียงไอ้มิคครับ เลยโดนตีนไอ้ฟ่างซะหนึ่งดอก
 

"ถ้าพวกมึงโกรธกู กูก็จะง้อจนหาย แต่จะไม่ยอมเลิกกับไอ้ฟ่างเด็ดขาดเพราะกูรักมัน" พวกผมโห่เลยครับ แต่ผมก็แอบจั๊กจี๋นิดหน่อยเพราะคนที่ไอ้แทนพูดคำว่ารักด้วย มีทุกอย่างเหมือนผม หมายถึงเป็นผู้ชายเหมือนกันน่ะครับ แต่แววตาและน้ำเสียงไอ้แทนจริงจังซะจนผมต้องยิ้มออกมา คนคนนี้คงใช่สำหรับมึงแล้วสินะเพื่อน
 

"เออๆ คราวหน้าคราวหลังมีอะไรก็หัดง้างปากบอกพวกกูซะบ้าง รู้ทีหลังแม่งอดแซว" พอไอ้คิวพูดจบไอ้แทนก็กระโดดกอดทุกคน ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วยิ้มให้แทน


เหตุผลเดียวที่ผมไม่โกรธมันเพราะเราเป็นเพื่อนกัน แค่นี้พอมั้ยครับ^______^


"คร้าบบเพื่อน กูรักพวกมึงนะ พวกมึงด้วย แต่รักข้าวฟ่างมากกว่า" มันบอกพวกผม พวกไอ้ภูมิแล้วก็ไปจบที่สุดที่รักมัน ยิ่งดูหน้าไอ้ฟ่าง จริงๆมันชื่อข้าวฟ่างแต่เพื่อนชอบเรียกฟ่างเฉยๆ มันหล่อมากเลยนะครับ

ไอ้แทนนี่บอกไปหลายรอบแล้วว่าหล่อแค่ไหน แล้วแบบมันมาคบกันเองอ่ะ แม่ง


พระเจ้าจอชช่วยทอดกล้วย ทรัพยากรชายที่น่าหวงแหนและน่าเสียดายที่สุดมาแดกกันเอง ผมอยากจะบ้า เฮ้อ แต่ไอ้แทนมันบอกว่ามันไม่ได้มีอารมณ์กับผู้ชายคนอื่น คือถ้าไม่ใช่ไอ้ฟ่างมันบอกว่ามันเอาไม่ลง

แล้วมันก็พร้อมที่จะเอาผู้หญิงเหมือนเดิม แต่ต้องรอให้ไอ้ฟ่างเผลอ ซึ่งผมคิดว่าถ้าไอ้แทนแอบไปมีหญิงตอนไอ้ฟ่างไม่เผลอละก็อาจมีการตายเกิดขึ้นได้ครับ
 

"กูว่าผู้ชายคนสุดท้ายที่จะเป็นเกย์คือมึงเลยนะฟ่าง" ไอ้เชนพูดขึ้น ผมก็เพิ่งรู้ว่าไอ้ฟ่างมันเป็นเพื่อนอีกคนในกลุ่มไอ้ภูมิแต่ที่ผมไม่เคยเห็นเพราะมันเพิ่งกลับจากงานศพญาติที่อิตาลี

"หึ แล้วไง แสดงว่ากูไม่ใช่คนสุดท้ายใครจะเป็นก็รีบๆนะมึงเดี๋ยวโลกแม่งแตกก่อน" ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรที่บรรยายยากมากมันเป็นคนที่นั่งอยู่เฉยๆก็ทำให้คนรู้สึกกลัวได้ ยิ่งตาโตๆคู่นั้นมองแต่ละที ยังกับรู้ทุกอย่าง

"ห่าเอ๊ย ผู้ชายหล่อๆสองคนมาเอากันเอง ไม่สงสารผู้หญิงบ้างหรอมึง"

"ให้กูเอาผู้หญิงตอนนี้ก็ได้นะ"

“น้อยๆหน่อย เห็นหัวกูบ้างไอ่สัด” ไอ้ฟ่างเอาเสื้อแจ๊คเก็ตที่ถอดออกก่อนหน้านี้อุดปากไอ้แทนแล้วก็หันไปสนใจเหล้าต่อ

"แล้วแบบพวกมึงเค้าเรียกอะไร เพราะเกย์คือผู้ชายที่ชอบผู้ชายรู้สึกกับผู้ชายด้วยกัน"

"เรียกอะไรก็ช่างแม่รงเหอะ สนทำไม กูรักไอ้ฟ่างไอ้ฟ่างรักกูรู้แค่นี้พอ" ซึ้งเหี้ย เท่ห์โคตรวะแทน

"มึงเปลี่ยนไปเยอะเลยว่ะแทน มิน่าหลังๆมานี่ก็ชวนไปติดอ่าง ชิ่งกูตลอด" ไอ้แทนไหวไหล่ แล้วโอบไหล่ไอ้ฟ่างแทน มันเนียนไปนั่งข้างกันตอนไหนเนี่ย แต่จะว่าไปไอ้แทนก็เปลี่ยนไปเยอะ ไปในทางที่ดี ไอ่แทนยิ้มแป้น ส่วนไอ้ฟ่างก็เบนสายตามาที่ผม ตามันสวยมาก แต่ดุไปหน่อย แต่ดูคุ้นๆวะ
"

นี่ใคร"

"อ๋อ กูลืมแนะนำ พีมนี่ไอ่ฟ่างเป็นเพื่อนพวกเราแต่เป็นแฟนกู ฟ่างนี่พีมเพื่อนกูที่เคยเล่าให้ฟัง"

"พีม? คนนี้ใช่มั้ยที่สอยไอ้ภูมิร่วง ฮ่าฮ่า” อืม กูสอยมันร่วง เลยถูกมันด้นถอยหลังอยู่นี่ไง ไอ้ภูมิหันมองไอ้ฟ่างตาขวางแล้วเอาแต่ฟึดฟัด ซึ่งผมค่อนข้างจะแปลกใจเพราะถ้าเป็นปกติมันต้องประเคนตีนไปให้แล้ว
 
“กูพีม ยินดีที่รู้จัก”

“กูฟ่าง มึงนี่เจ๋งดีวะ หึหึ แต่หน้าหวานไปนิด ไม่งั้นกูจะยัดเมียไอ้ภูมิให้มึงเลย" มาว่ากู หน้ามึงนี่ไม่หวานเลยเนอะฟ่าง จากนั้นพวกผมก็กินก็คุยกันไป จนผมเริ่มสนิทกับเพื่อนใหม่อีกสามคน ก็ผู้ชายน่ะนะเหล้าเข้าปาก คุยถูกคอแปบเดียวก็จูนกันติด

และแม้ว่าผมจะสนิทกับไอ้มิค ไอ้เบียร์ ไอ้ฟ่างภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ผมกับไอ้ภูมิกลับไม่ได้คุยกันแม้แต่คำเดียว ไม่รู้จะมีใครสังเกตเห็นรังสีมาคุระหว่างผมกับมันรึเปล่า บรรยากาศระหว่างผมกับมันเป็นอะไรที่อึดอัดมาก

หรือบางทีอาจจะมีผมคนเดียวก็ได้ที่รู้สึกแบบนั้น เพราะไอ้ภูมิก็ดูปกติดี ถึงจะอย่างงั้นก็เหอะจะให้ผมคิดน้อยได้ไงละ ผมกลัวความลับแตกนิ เกิดมันบ้าเลือดขึ้นมาสั่งผมตอนนี้ไม่จบหรอชีวิต

พอพวกผมเริ่มกึ่มได้ที่ไอ้มิคไอ้คิวไอ้เชนก็ออกล่าเหยื่อ ทั้งที่มีเหยื่อเดินมาหาถึงที่แต่ไม่เสือกแดก บอกไม่ใช่แนว ชอบออกหาเอง

เหลือไอ้เบียร์ที่นั่งตาหวานโปรยเสน่ห์หายาแฝดบ้าบอของมันไป ปกติตามันก็หวานน่าหลงอยู่หรอก แต่พอมีแอลกอร์ฮอลเข้าร่าง ตามันเชื่อมยังกับดูดเนื้อมา หวั่นว่ามดจะกัดตามันได้

ส่วนไอ้ปันก็อ้อแอ้ชวนไอ้ภูมิถกปัญหายุบสภา ไอ่นี่เมาทีไรวิญญานนักปกครองออก ส่วนไอ้ฟ่างกับไอ้แทนจะสิงกันแล้วครับ ผู้หญิงครึ่งผับนั่งซับน้ำตากันเป็นแถวดูผู้ชายหล่อลากสองคนไซร้กัน
 
"อื้อ แทนอย่ากัด ไอ่แทนกูเจ็บ เหี้ยแทน!!" ไอ้ฟ่างถีบไอ้แทนออกจากคอ ฟ่างมันดุจริงเว้ยมิน่าถึงเอาไอ้แทนอยู่ ไอ่ฟ่างมองไอ่แทนตาขวางแต่ไอ้แทนมองไอ้ฟ่างตาเยิ้มเริ่มเมาแล้วมั้งมัน
 
"เพื่อนมึงเป็นหมา มึงรู้มั้ย" ไอ่ฟ่างหันมายักคิ้วให้ผม

"กูรู้มานานแล้ว แต่เพิ่งรู้ว่าเป็นหมาบ้าเซกส์"ไอ้แทนไม่ได้สนใจที่เพื่อนกับแฟนรุมด่าเพราะมันมัวแต่เอาหัวไปซุกคอไอ่ฟ่าง รอบนี้อาจจะไม่ใช่แค่ถีบแต่อาจเจอเตะก้านคอด้วยก็ได้นะเพื่อนแทน

ผมเลิกสนใจฉากเรทเบาๆของมันสองตัว มองสาวๆโยกย้ายส่ายสะโพกแจ่มลูกตากว่ากันเยอะ แอบเห็นไอ้คิวป้อสาวอยู่มุมใกล้ๆด้วย

"พีม" ไอ้เบียร์เรียกผมเสียงหวานพอๆกับตามัน นี่ถ้าผมเป็นผู้หญิงนะคงอ่อนระทวยยอมเป็นเมียมันแม้มันจะไม่เอ่ยปากขอ ไม่แปลกใจเลยที่พี่ท่านจะได้เบอร์สาวๆทั้งที่นั่งอยู่กับที่

"ไรมึง อยากได้แซมบัคทาตาหรอ"

"เชี่ย กูจะถามมึงว่าผู้หญิงโต๊ะนั้นมองกูหรือมองไอ้ฟ่าง"

"ไหนวะ โต๊ะไหนๆ"ผมก็มองตามพิกัดที่ไอ้เบียร์มันบอก

"นั่นไง ที่นั่งกันอยู่สามคน เห็นมั้ยคนที่ใส่เสื้อกล้ามน่ะ"

"อ๋อออ อืมกูว่ามองทั้งคู่มองไอ้ฟ่างแบบเสียดาย แต่มองมึงแบบอยากเสียตัว" สาวสวยผมยาวเป็นลอนคลื่น หุ่นดีแต่หน้าอกไซส์ประถมกำลังนั่งทอดสะพานจนเหลืองเกรียมไว้รอไอ้เบียร์ข้ามไปแดก

"หึหึ ตาถึงๆ นั่นเมียเก่าไอ้ภูมิ" น้ำแข็งเกือบติดคอผมครับ ไอ้เจ้าของชื่อก็เลิกมองโต๊ะที่ไอ้ปันใช้เป็นศาลเตี้ยพิณาร่างรัฐธรรมนูญ มันหันมามองไอ้เบียร์

"เรียกกูหรอ"
 
"เปล่า กูแค่ชี้เมียเก่ามึงให้ไอ้พีมดู พี่ไอซ์ดาวบัญชีปีสาม คุ้นมะ" ไอ้ภูมิขำหึในคอ มันมองผ่านไปยังผู้หญิงโต๊ะนั้น แล้วหันมามองหน้าผม ผมอ่านสายตามันไม่ออกเลยจริงๆคงจะอวดมั้งว่าเมียเก่าเด็ด เฮอะ ไม่เห็นแคร์

และแล้วราตรีแห่งสีสันก็ผ่านพ้นไปช้าๆทว่าเต็มไปด้วยความสุขสนุกสุดเหวี่ยง ยิ่งดึกก็ยิ่งมันส์ ยิ่งมันส์ก็ยิ่งมั่ว จนเข็มนาฬิกาชี้มาที่เลขหนึ่งแล้ว ได้เวลาบอกลาน้ำเมาและสาวสวยแล้วสิ
 

"เฮ้ยคิว มึงขับรถไหวมั้ยวะ" ไอ้เชนหิ้วปีกไอ้ปันที่ชี้ไม้ชีมือพยายามพูดกับกระเป๋าเสื้อตัวเองหมดสภาพมาก ไอ่คออ่อนเอ๊ย ส่วนไอ้มิคลงไปนอนเกาะขาไอ้ฟ่าง มันท่องสูตรแคลห่าไรไม่รู้ ผมกับไอ้เบียร์ต้องดึงมันขึ้นมายืน 

ไอ้คิวมันไม่เมาเท่าไรแต่ก็ไม่น่าจะขับรถไหว เพราะมันกำลังโก่งคออ้วกอยู่ข้างๆล้อบีเอ็มคันงามของตัวเอง มีอย่างเดียวที่ทำให้มันไม่เหมือนหมาคือการยกมือขึ้นมาสบัดกลางอากาศ เป็นสัญญานว่ากูไม่ไหว
 
“เอาไงดีวะพวกมึง” ไอ่ฟ่างที่พยุงไอ้แทนและต้องแกะไอ้มิคออกจากขามองหน้าคนที่ยังเหลือสติอยู่อย่างขอความเห็น

“มึงพาไอ้ปันกลับคอนโดนะเชน ส่วนไอ้คิวกับไอ้มิคเดี๋ยวกูจะพากลับเอง ส่วนพวกมึงสองผัวเมียก็กลับไปได้แล้วไป ห่าแทนจะตายแล้ว” ไอ้เบียร์เสนอ ปกติไอ้แทนไม่ใช่คนที่จะเมาง่ายๆ แต่วันนี้มันดีใจที่ได้เปิดตัวแฟนให้เพื่อนรับรู้แถมเพื่อนยังเข้าใจอีก มันเลยฉลองให้ตัวเองยังกับอาบเหล้าความซวยเลยมาตกที่ไอ้ฟ่าง

"อ้าว แล้วกูละ" คือผมมากับไอ้คิว ไอ้ปันมากับไอ้เชนแล้วแบบนี้ผมจะกลับยังไง

“มึงก็กลับกับไอ้เบียร์ดิ เบียร์มึงไปส่งไอ้พีมด้วยนะ”

 
"เดี๋ยวกูไปส่งมันเอง" อยู่ๆคนที่เพิ่งกลับจากการเคลียร์บิลล์ก็ออกมาพูดประโยคเด็ดทำเอาทุกสายตาจับจ้องไปที่มันอย่างไม่อยากจะเชื่อ โดยเฉพาะผม มันเมาหรือเปล่าวะ

“ทำไม มองไร” ไอ้ภูมิมองกราด มันรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าตัวเองพูดอะไรออกมา

“เออๆงั้นเอาตามนี้ ไอ้พีมมึงกลับกับไอ้ภูมินะ ปัน ไอ้ปันลุกเว้ย” ไม่นะเชน มึงอย่าปล่อยกูไว้กับปีศาจนะเพื่อน ผมพยายามส่งสายตาอ้อนวอนขอความเมตตาไปให้ไอ้เชน แต่มันก็ไม่สนใจเพราะมัวแต่จะแงะไอ้ปันออกจากประตูผับ ไอ้ฟ่างกับไอ้แทนก็ขึ้นรถขับออกไปแล้ว ตัดช่องน้อยแต่พอตัวจริงๆไอ้คู่นี้ 

ไอ้เบียร์ก็ต้องรับศึกหนักทั้งหิ้วไอ้มิคไหนจะต้องลากไอ้คิวขึ้นรถอย่างทุลักทุเล ผมเลยต้องเข้าไปช่วยยัดเพื่อนใส่ในรถ ลากันสองสามคำไอ้เบียร์ก็ต้องรีบออกรถ เพราะไอ้มิคจะกระโดดลงมาเตะบอล เฮ้อ กูเหนื่อยแล้วนะไอ้พวกเพื่อนเวร แต่ผมยังไม่ได้กลับง่ายๆหรอกครับเหลือไอ้ปันที่ยังไม่ยอมพรากจากประตูผับง่ายๆ ผมกับไอ้เชนอายคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจนอยากกระทืบไอ้ปันให้มันนอนตายอยู่ตรงนี้

“ปัน ไอ้ปันเว้ย ลุกดิวะ เร็วๆกลับบ้าน”ผมคุกเข่าลงข้างๆมันแล้วตบแก้มมันแรงๆ

“อือออออ”

“ปันลุก ไม่งั้นกูปล่อยไว้นี่จริงๆนะ” ไอ้เชนใช้เท้าเขี่ย สารพัดวิธีที่พวกผมใช้ปลุกไอ้ปันแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่ามันจะลืมตาขึ้นมาแต่อย่างใด

“เออ ไม่ตื่นใช่มั้ยมึง พีมหลบ” คราวนี้ไอ้เชนถีบเลยครับ แต่ไอ้ปันก็ยังไม่หลุดจากประตูผับไอ้ภูมิที่เพิ่งไปเอารถมาเลยต้องมาช่วยอีกแรงแต่ก็ไม่เป็นผล พวกเราสามคนถึงกับหอบแดกกันเลย นี่หรอที่เค้าเรียกว่าฤทธิ์คนเมา พวกผมเลยได้แต่ยืนดูไอ้ปันทำปฏิกิริยากับประตู จนปัญญากับมันจริงๆ

“ปัน ไอ้ปัน …อ่าวเฮ้ย” ไอ้เชนมันเหนื่อยเลยเอานิ้วชี้จิ้มไหล่ไอ่ปันแต่มันเสืรอกหลุดจากประตูซะงั้น ไอ่ควายยยยยยยยยยย ทีตอนถีบตอนดึงละไม่สะดุ้งสะเทือนหรอกแต่พอถูกสะกิดดันหลุดซะได้ หรรษาดีจริงๆชีวิต เพื่อนกูแต่ละคน หรือจะจริงที่มันไม่นิยมความรุนแรง

แต่กว่าจะพามันขึ้นรถได้ผมสามคนก็เพลียไปตามๆกัน ไอ้เชนโบกมือให้ผมกับไอ้ภูมิแล้วขับรถออกไป ผมก็ได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง แต่พอคิดได้ผมกลับรู้สึกห่วงตัวเองมากกว่า ให้ผมกลับด้วยก็ได้นิหว่า ทำไมทิ้งกันแบบนี้วะ
 
“จะกลับได้หรือยัง ยืนเป็นกุมารทองขวางทางชาวบ้านอยู่ได้” ไอ้ภูมิยืนเท่ห์กอดอกพิงรถ เฮอะถ้าผมเป็นกุมารทองจริงๆผมจะสิงมันคนแรกเลย

“เออ”

“พี่ครับ ซื้อดอกกุหลาบให้แฟนมั้ยครับ” ก่อนที่เรา แหวะ เปลี่ยนๆ ก่อนที่ผมกับมันจะก้าวขึ้นรถก็มีน้องผู้ชายตัวเล็กหอบกุหลาบมายื่นขาย เล่นเอาผมกับไอ้ภูมิงง คิ้วไอ้ภูมิเริ่มขมวดนิดๆผมละสงสารน้องตัวเล็กนี่จริงๆ

ไอ้ภูมิมันต้องตะเพิดเด็กแน่ ผมกำลังจะอ้าปากบอกให้น้องรีบไปก่อนจะถูกไอ้ภูมิแดกหัว แต่อยู่ๆมันก็ยกมือขึ้นลูบหัวน้อง เฮ้ย ผมเมาจนตาลายป่ะวะ

“พี่ไม่มีแฟนหรอก”

“ก็พี่คนนั้นไง” เฮ้ย!!!น้องแมร่งชี้มือมาที่ผมเว้ย OoO

“เฮ้ย ไม่ใช่ๆ พี่เป็นผู้ชายครับน้องพี่ไม่ใช่แฟนมัน” ผมรีบโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน เชี่ยภูมิมันเหยียดยิ้มแล้วควักตังแบงค์พันเพื่อแลกกับดอกกุหลาบสิบกว่าดอก

“พี่เหมาหมดเลยแล้วกัน”

“หมดนี่แค่สองร้อยครับพี่”

“ไม่เป็นไร วันนี้พี่ถูกหวย” น้องยื่นดอกกุหลาบให้ไอ้ภูมิ แถมยังยกมือไหว้ก่อนรับเงินพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ ผมมองน้องด้วยความสงสารและชื่นชมตัวเล็กแค่นี้แต่ต้องมาทำงานหาเงินดึกๆดื่นๆ เห็นแล้วก็นึกถึงตัวเองโตเป็นควายขนาดนี้ยังไม่เคยหาตังเองเลยซักบาท แต่ภาพไอ่ภูมิกับเด็กก็น่ามองไปอีกแบบแฮะ น้องไหว้ไอ้ภูมิอีกครั้งก่อนจะวิ่งจากไป อยากให้น้องเจอลูกค้าแบบไอ้ภูมิทุกวันจัง

“อ่ะ” อยู่ๆมันก็ยื่นดอกกุหลาบมาตรงหน้าผม งงสิครับ

“อะไร”

“ดอกกุหลาบไง มึงไม่รู้จักหรอ”

“รู้จักโว้ย แต่มึงเอามาให้กูทำไม”

“ขี้เกียจเดินไปทิ้งขยะ หรือไม่เอาจะได้ทิ้ง”ปากกับมือมันไวพอกันเลยครับ ไอ้ภูมิทำท่าจะเขวี้ยงดอกกุหลาบลงพื้นผมคว้าไว้แทบไม่ทัน

“เฮ้ยๆเอาๆทิ้งได้ไงวะสงสาร”ผมรีบตะครุบดอกไม้กำนั้นมาไว้ในกำมือ มันยิ้มมุมปากเลวๆแบบที่มันชอบทำก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ



.............................................



ตลอดทางกลับบ้านไอ้ภูมิก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกับผมเลยซักคำ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าจริงๆแล้วมันเป็นคนยังไงกันแน่ แต่ถ้าพวกไอ้คิวไอ้แทนคบมันเป็นเพื่อนได้ ก็แสดงว่ามันก็น่าจะดีพอตัว ซึ่งบางครั้งผมเองก็พอจะสัมผัสได้แหละนะ

อย่างตอนที่มันซื้อดอกกุหลาบจากน้องคนนั้น ทั้งแววตาที่ดูอ่อนโยนและการลูบหัวเหมือนเอ็นดูที่ทำเอาผมอึ้งไปสามสิบแปดวินาที แต่บางทีมันก็เย็นชา บางครั้งก็กวนตีน หรือบางทีมันก็น่ากลัวจนแทบคาดไม่ถึง เฮ้อ แล้วทำไมผมต้องมาทำความเข้าใจมันด้วยละเนี่ย

หรือเป็นเพราะดอกกุหลาบสิบดอกในมือนี่แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ผมอยากเข้าใจภูมิผมว่ามันก็คงไม่สำคัญมากไปกว่าดอกกุหลาบในมือที่ทำให้ผมยิ้มได้และยอมรับตรงๆเลยว่าผมกำลังปลื้มใจมากๆ
 

"มองไร"

"หา?"

"กูถามว่ามองกูทำไม"

"กูเปล่ามองเหอะ อย่าหลงตัวเอง"

"หึ หลงความหล่อกูแล้วละสิ" ผมหันไปจ้องหน้ามัน ที่ทำหน้ายียวนกวนตีนอยู่

"อื้มมมม หล่อมาก หล่อที่สุด สุดจะหล่อแล้วมึงน่ะ" มันยักไหล่ผมเลยหันออกไปมองนอกรถ ไม่มองก็ได้ ชริส์แค่นี้ทำเป็นหวง

"เฮ้ย ไม่ใช่ทางกลับบ้านกูนิ"

"ใช่ก็แปลกเพราะกูจะกลับคอนโดกู"
 

"งั้นมึงจอดเลยๆ กูจะกลับบ้าน ไอ่เวรแล้วก็ไม่บอก กูจะได้ลงตั้งแต่ราชเทวีแม่รงเลยมาซะไกล อ่าวเฮ้ยจอดดิวะ"ผมโวยวายลั่นรถที่ไอ้ภูมิไม่ยอมจอดให้ผมลง มันขับเลยมาตั้งไกลกว่าผมจะหารถกลับได้คงถึงบ้านตอนหกโมงเช้า

"กูบอกตอนไหนว่าจะให้มึงกลับ"

"อ่าว"ผมงงมากเลยตอนนี้ แรมอืดแล้ว ไม่ให้ผมกลับแล้วจะให้ผมไปไหน
 

"คืนนี้ไปนอนคอนโดกู" OoO เย้ดเข้ ผมถูกผู้ชายหิ้วขึ้นคอนโด กูว่าแล้วทำมาเป็นให้ผมเป็นเบ๊งั้นงี้ ที่จริงมันแอบชอบผมแล้วหวังฟันผมแหง แสรดดดดดดดดดดดดด เลว


"เลิกทำหน้าบ้าเหมือนพวกเมากัญชาซะที ที่กูให้มึงไปนอนคอนโดกูเพราะวันหลังจะได้มาถูก มึงต้องมาทำความสะอาดห้อง อย่าบอกนะว่าลืม"

ผมกัดฟัดกรอดๆอายสิครับงานนี้คิดอารายออกไปไอ้พีม ห่าภูมิก็นะยังกับมันนั่งทางใน แม่งรู้ไปซะทุกเรื่อง ก็ในเมื่อมันต้องการแบบนี้ผมจะค้านอะไรได้ละครับ เลยต้องโทรไปบอกอาปุ้ยว่าจะนอนห้องเพื่อนเพราะต้องอยู่ทำรายงานตอนเช้า หึหึ โกหกอีกแล้ว แถมผมยังเลือกใช้topicยอดฮิต ติดทำรายงาน อาครับพีมขอโทษ Y__Y

ไม่นานเมอร์ซีเดสคันงามก็เข้ามาจอดในลานจอดรถของคอนโดหรูใจกลางย่านธุรกิจ ผมพาร่างกายที่มึนๆอึนๆเดินตามไอ้ภูมิขึ้นลิฟต์ ดีว่ามีผู้หญิงสองคนเข้ามาด้วยผมเลยไม่ต้องทนอึดอัดเท่าไร พี่ผู้หญิงสองคนกดชั้นหกแต่ผมเห็นไอ้ภูมิกดชั้นสิบห้า ว้าว อยู่ชั้นสูงสุดเลยนะมึง
 
 ติ้ง~~

 แล้วลิฟต์อันไฮโซโก้หรูก็เปิดออกให้เท้าของผมได้สัมผัสกับพื้นคอนโดชั้นสิบห้า


"ออกมาดิ หรือจะนอนในลิฟต์" ไรวะก็คนมันง่วงขอพักสายตาบ้างสิ คือผมไม่เมาก็จริงครับ แต่รู้สึกมึนเวียนหัวและง่วงชิบหาย เลยเดินตามคุณชายภูมิไปแบบงงๆจนมาถึงห้องที่มีตัวเลข1501 แกะสลักไว้กลางประตูบานใหญ่
 
"โหหหหหห หรูเหี้ย" ทันทีที่มันเปิดประตูเข้ามาผมก็ต้องตะลึง คือรู้แหละว่าไอ้ภูมิรวยแต่ไม่รู้ว่าจะขนาดนี้ นี่มันอะไรกัน มันห้องอะไรทำไมทั้งหรูทั้งกว้างขนาดนี้ ผมแอบทุบหัวมันแล้วยกเค้าคงรวยไปสิบชาติ ฮี่ฮี่ มัวแต่ยืนชื่นชมความหะหรูหะหรา อยู่ๆก็มีอะไรซักอย่างลอยมาปิดหน้า ชะรอยว่าจะเป็นผ้าเช็ดตัวและแล้วผมก็เดาถูก มันใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นอะไรวะหอมอ่ะ
 

"ยืนเอ๋ออยู่ได้ ไปอาบน้ำดิ นั่นเสื้อผ้า"ผมเบะปากใส่มัน แล้วเดินไปหาแจกันปักดอกกุหลาบ ก่อนจะหยิบชุดนอนซึ่งน่าจะเป็นของมันเข้าห้องน้ำ โอ้วว ผมว่าห้องน้ำไอ้ภูมิใช้เป็นที่จัดงานกาล่าดินเนอร์ได้สบายๆเลยนะเนี่ย

ที่ขี้ของคนรวยมันสวยอย่างนี้เลยหรอวะ เมื่อชื่นชมความงามของห้องน้ำจนสาแก่ใจผมจึงจัดการเปลื้องผ้า อิอิ เลือกใช้คำได้แหล่มมากมึงไอ่พีม กรั่กๆ^o^


ผมใช้เวลาอาบน้ำเกือบๆยี่สิบนาที น้ำอุ่นๆช่วยคลายอาการแฮ้งค์สุราได้ดีมากเลยครับ รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ อาบเสร็จก็ขอยืนชื่นชมความหล่อของตัวเองหน้ากระจกอีกนิดหน่อยละกัน ผมมองตัวเองในคราบชุดนอนที่สะท้อนอยู่ในกระจก โคร่งมากต้องพับแขนเสื้อกับขากางเกงสามสี่ทบ ทำไมผมต้องตาโตด้วยวะ ทำไมต้องปากสีแดงๆส้มๆด้วย ทำไมต้องตัวขาวด้วย ทำไมต้องเตี้ยด้วย ทำไมกูไม่หล่อ ทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆ อ๊ากกกกกกก :serius2:

ปัง ปัง

“เฮ้ย ไอ้เตี้ยตายยังวะ” ก่อนที่ผมจะบ้าก็มีเสียงมารมาขัด ฮึ๋ย

“เออๆเสร็จแล้ว”ผมตะโกนตอบพร้อมกระชากประตูออกมา ไอ้ภูมิก็อยู่ในคราบชุดนอนเหมือนกัน มันก้มลงมองผมดุๆ

“นาน”

“กูขี้อยู่ แล้วนี่มึงเปลี่ยนชุดนอนอาบน้ำยังวะ ยี้ ซกมกน้ำไม่อาบแต่เปลี่ยนชุด โอ๊ย ตีกูทำไม”ไอ่ภูมิดีดหน้าผากผม แรงไปแล้วนะเฟ้ย

“กูอาบแล้วเหอะ ห้องน้ำในห้องนอนกูมี บ้านนอก”

"เออกูมันบ้านนอกแล้วไม่ทราบว่าคุณชายจะให้ไอ้บ้านนอกอย่างกูนอนไหนครับ" นิ้วชี้ยาวๆขาวๆเรียวๆของเชี่ยภูมิเลยผ่านหน้าผมไปในระดับสายตาผมค่อยๆหันมองตามนิ้วมันอย่างสโลโมชั่น เพื่อ??

รู้มั้ยครับว่านิ้วชี้กระแดะๆของมันไปหยุดไว้ตำแหน่งไหนของห้องสุดหรูแห่งนี้ โซฟาครับพี่น้อง ตามที่ผมคิดไว้เปะ ก็ยังดีละว๊า โซฟามันออกจะนุ่มจะกว้าง ผมนอนได้สบายๆอยู่แล้ว

 
“งั้น บ๊ายบายราตรีสวัสดิ์” ผมตบหน้าอกมันสองสามทีประกอบกับทำหน้ากวนตีนอีกเล็กน้อย แล้วค่อยลอยละล่องมาปิดไฟแต่เสือก กดผิดสวิชต์กลายเป็นเปิดไฟห้องครัวซะงั้น แอบได้ยินเสียงหมามันหัวเราะเยาะด้วย ทำไมละ ก็ไม่ใช่ห้องผมอ่ะ หน้าแตกอีกแล้วกู  งั้นไม่ปิดแล้ว แม่ง

ผมล้มตัวลงนอน อายครับอาย ไม่นานนักไฟห้องนั่งเล่นก็ดับลงพร้อมๆกับเสียงปิดประตูไอ่ภูมิมันคงเข้าห้องนอนไปแล้ว ทั้งที่ง่วงแต่ผมกลับนอนไม่ค่อยหลับอาจเพราะมันแปลกที่มั้งครับอีกอย่างคือหนาวด้วย ผมเป็นพวกความดันต่ำขี้หนาวแล้วห่าภูมิแม่รงเปิดแอร์ยังกับมันเป็นนกแพนกวิน สาดด มึงจะบิ้วว่าอยู่ขั้วโลกเหนือรึไง


ผมปรับสายตาให้ชินกับความมืด ซึ่งจริงๆก็ไม่มืดเท่าไรเพราะมีแสงเหลืองนวลจากโคมไฟตรงบาร์ห้องครัวพอทำให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร ผมเดินไปปรับแอร์แล้วกลับมานอนก็ยังนอนไม่หลับ หมาภูมิ ใจคอมึงจะไม่เอาผ้าห่มให้กูเลยใช่มั้ย ตอนแรกผมแค่หนาวซักพักผมเริ่มหนาวสั่น จนต้องโอบกอดตัวเอง รู้สึกว่าตัวผมเย็นเฉียบ
 
~ฟลุ่บ ~

อยู่ๆก็มีผ้านวมผืนนุ่มลอยมากองบนตัวผม ผมลุกขึ้นมองเห็นไอ้ภูมิยืนกอดอกพิงประตูอยู่
 

"เดี๋ยวมาตายในห้องกู"

"เพิ่งคิดได้นะมึง ไอ้คนใจดำ ใจร้าย"


"มึงกล้าด่า..."

" เฮ้ย!!!/เฮ้ย!!!" ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือไอ้ภูมิมันเดินเข้ามา จะเอาเรื่องผมแล้วจากนั้นก็มีอะไรนิ่มๆมาโดนแก้มผม แว้ก ปากไอ้ภูมิ หัวใจผมเต้นจนแทบระเบิด มันสูบฉีดยังกับไปวิ่งรอบสนามมาสิบแปดรอบ

แล้วต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไม่รู้รู้ แต่ตอนนี้ไอ้ภูมิล้มมาคร่อมอยู่บนตัวผม แล้วปากหรือไม่ก็จมูกมันทิ่มแก้มผมเต็มๆ จากนั้นก็เหมือนฉากในละครน้ำเน่าหลังข่าวทั่วไป คือเราสบตากัน ผมสบตาคมโตสีดำขลับคู่นั้นแล้ว เหมือนใจมันเต้นแปลกๆ มันเต้นแรงมากและที่สำคัญผมละสายตาไปไหนไม่ได้เลย

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรที่หัวใจผมยังเต้นคร่อมจังหวะ นานเท่าไรที่ผมกับภูมิไม่คิดจะผละออกจากกัน มัน นาน เกิน ไปแล้วโว้ยยยยยยยย

 
"ละ ละ ลุกดิสัด กูหนัก แมร่งทับมาได้" พอได้สติผมก็ผลักมันออกทันทีดีนะที่มีผ้านวมผืนโตกั้นเราเอาไว้ ไม่อย่างนั้นละก็ไอ้พีมเอ๊ย ตัวต่อตัว

 
ห๊ะ? เมื่อกี้ผมคิดอะไรนะ ผมรู้สึกอะไรวะ
 

 
เวรแล้วไง ผมใจเต้นกับผู้ชายด้วยกัน ผมใจเต้นกับไอ้ภูมิ โอ้ก๊อด เกิดอะไรขึ้นกับโผ้มมมมมมมมมมY __Y
 
 
 TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
 
 
...............................
 
อ่านกันตาแหกเลยทีเดียว ยาวยิ่งกว่ารางรถไฟแม่สาย-สุไหงโกลกอีกนะคะพี่น้อง :laugh:
ตอนนี้นายพีมของเราชักจะยังไงๆแล้วสิคะ ส่วนตอนที่แล้วแอบฮามีแต่คนด่าพระเอก ไอ้คุณภูมิมันเครียดนะนั่นเห็นบ่นๆว่ากลัวรีดเดอร์จะเอาเปลือกทุเรียนดักปาหัวแล้วลากไปข่มขืน ฮ่าฮ่า แต่คงไม่ใช่ใช่มั้ยคะ เพราะคนอ่านเค้าออกจะเรียบร้อย มาแบบนิ่งๆกันทุกคนหรือซุ่มวะคะ หึหึ
สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยอ่านไปก็ฮาไปแต่ละคนใส่อารมณ์ยิ่งกว่าคนแต่งซะอีก แล้วพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการนะคะ ^__________^
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2011 21:39:02 โดย ทะเลหัวใจ »

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #57 เมื่อ04-10-2010 17:40:36 »

รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ
อย่้าลืมแก้เลขตอนที่หัวกระทู้ด้วย อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2010 19:37:28 โดย PandP »

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #58 เมื่อ04-10-2010 17:59:59 »

ภูมิ กับ พีม อิอิ

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
Re: We are...คือ เรารักกัน ตอนที่ 4
«ตอบ #59 เมื่อ04-10-2010 18:16:48 »

เค้าจะรักกันเมื่อไหร่อะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด