คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 169156 ครั้ง)

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #390 เมื่อ08-08-2007 12:43:02 »


อย่าลืมนะ ฉากหวีตๆ อ่ะ   :m13: :m13:

อืม...ว่าแต่จะมีหรือเปล่าหว่า    :m17: :m17:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #391 เมื่อ08-08-2007 13:43:39 »

คิดแต่เรื่องพวกนี้นี่นะ.........สัปดน

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #392 เมื่อ08-08-2007 16:28:45 »


อาเย้ยยยย.....ผมไม่ได้คิดอายายยยยยยยยย....      :a6:  :a6:   o22

ผมหมายถึง นั่งคุยกันจุ๋งจิ๋งๆอ่ะ  แบบว่าโรแมนติกอ่ะอยากรู้ว่านัทเค้าน่ารักยังไงบ้าง ประมาณเนี้ย เจงๆ  :m23: :m23:

แต่ไหนๆก้อไหนๆแย้ว  แบบที่ว่าสักตอนก้อดี เหอๆๆๆๆ :m14: :m14:

ไปดู Emo นะมันมีอยู่ตัวนึงอ่ะ ... ผมล่ะอยากใช๊ อยากใช้ แต่เกรงจายยยยย  แห่ะ แห่ะ

นี่ก้อจะแข่งกีฬาแล้วไม่ใช่เหรอ  อย่าลืมนะ  ( แอบทวง ฮ่าๆๆๆ )





ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #393 เมื่อ09-08-2007 18:54:20 »

สองคนนี้เล่นอะไรกันเนี้ย  คุยกันแค่สองคน  :m12:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #394 เมื่อ09-08-2007 22:55:25 »


แห่ะๆๆ  เจ๊ครับ  ก้อส่วนใหญ่มาอัพกันตอนมืดๆ ผมติดทำโปรเจคอ่ะครับ  ( แก้ตัว ) :m29: :m29:

พอดีคุณกั้ง เค้ามาอัพตอนเช้าอ่ะครับ ตอนที่ผมอู้งานก้อเข้ามาอ่านอ่ะครับ (แอบหัวหน้าอ่าน แห่ะๆ   :m22:)

ว่าแล้วทวงซะเลย....   กลับไปต่อทู้ตัวเองด้วยนะคร๊าบ  ติดอู้ซินโดรม มาจากรอยเหยอ...หุ หุ

เด๋วรอผมทำโปรเจค 2 ตัวนี้เสร็จ ผมจะบุกทู้เจ๊อ่ะ   :a2: :a2: :a2:

    o14       o14       o14

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #395 เมื่อ10-08-2007 09:22:39 »

วันนี้ไปรับเสด็จวันวิทย์อ่ะ อาทิตย์หน้าไปเป็นวิทยากรที่ ตจว. ขอมาต่อวันพฤหัสนะครับ .............ขอโทษนะ ผิดคำพูดจนได้......เฮ้อ........

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #396 เมื่อ10-08-2007 16:42:04 »

รอจ๊ะ  :undecided:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #397 เมื่อ10-08-2007 21:12:49 »


จะรอนะครับ     :m19:

ไป ตจว ขับรถดีๆนะครับ  ทางที่ดีควรพักผ่อนให้เต็มที่ เตรียมรถ

เตรียมตัวให้ดีเพราะว่าแวะพักที่ปั๊มก้อ ไม่ค่อยปลอดภัยนะครับ     :bye2:



ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #398 เมื่อ11-08-2007 05:09:20 »

รับทราบจ้า  :m12:  :m12:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #399 เมื่อ13-08-2007 22:44:38 »

นัทก็ยังห่วงอนาคต ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป
 :a11: :a11: :a11:

ส่วนตุ้ยก้อดีแล้ว เด่วจะมาลำบากใจทีหลัง
 :a9:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #399 เมื่อ: 13-08-2007 22:44:38 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #400 เมื่อ15-08-2007 12:27:47 »

อ๊ะ  :o

หายหัวไปไหนไม่ยักกะรู้เรื่องเลย

สู้ๆ


yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #401 เมื่อ17-08-2007 09:45:53 »

                         “ตุ้ยจะขี้นมาเชียงใหม่อาทิตย์หน้า” ............ผมบอกนัทในระหว่างที่เราสองคนกำลังนั่งทานข้าวเย็นด้วยกันที่ห้อง................ตั้งแต่นัทไม่มีเรียนและไม่ได้ทำงานพิเศษอย่างที่เคยตั้งความหวังเอาไว้ในตอนแรก.............เราสองคนก็เลยมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน...........ในบางครั้งนัทจะมาค้างที่ห้องของผมติดกันหลายๆวัน โดยที่ไม่ออกไปไหนเลย.........ผมรู้สึกทั้งมีความสุขระคนกับพะวงเรื่องงานที่ยังคั่งค้างรอการสะสางอยู่............อย่างนี้เองกระมังที่เค้าเรียกว่าหลงแฟนจนยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง.............จะเรื่องสำคัญแค่ไหนก็เถอะ.............แฟนย่อมมาก่อนเสมอ.............

                       “อ๋อคนที่พี่กั้งเคยเล่าให้ฟังว่าเป็นแฟนพี่เดียวน่ะเหรอ” .............ผมผยักหน้ารับ ก่อนจะทำเป็นยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยด้วยความจงใจ..............นัทเคยได้ยินเรื่องตุ้ยจากผมมาบ้างแล้ว.............ข้อมูลของตุ้ยสำหรับนัทคือแฟนของเพื่อนที่แอบบมากิ๊กกับผม แต่ผมอาจจะเล่นด้วยหรือไม่เล่นด้วยนั้น.......ยังไม่เป็นที่ชัดเจนในตอนนี้..............

                       “พามาให้เจอบ้างสิ...........นัทอยากเห็น”............หุ...........อยากไปเป็นก้างขวางคอมากกว่าล่ะไม่ว่า.............แม้ว่าในตอนนี้ผมจะสบายใจในเรื่องพฤติกรรมของนัทขึ้นกว่าแต่ก่อน..............แต่ผมก็ยังมองว่านัทแสดงความรู้สึกต่อภายในใจที่มีต่อผม ออกมาไม่ถึงที่สุดอย่างที่ผมอยากจะเห็น.............โอกาสดีเหลือเกินที่ตุ้ยมาในคราวนี้.............ผมจะใช้เค้าเป็นเครื่องมือเพื่อกระตุ้นนัทอีกคำรบคงจะเข้าท่าไม่น้อย.........ฟังดูแล้วเหมือนผมเป็นคนร้ายกาจร้อยเล่ห์เจ้ามารยายังไงพิกล.............แต่ทั้งหมดนั้นก็ล้วนมาจากเพราะนัทนั่นแหล่ะที่ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้.........ก็มันไม่ง่ายเลย กับการที่จะต้องมารักกับคนที่มีความซับซ้อนในความรู้สึกอย่างเค้า..................เพราะฉะนั้นผมจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เค้าแสดงมันออกมา............ซึ่งแม้ว่าบางครั้ง มันอาจจะเป็นวิธีที่ไม่ยุติธรรมกับคนอื่นไปบ้างก็ตาม............

                        “เรื่องอะไร.........เค้าจะไปกันสองคน คนอื่นไม่เกี่ยว”...........ผมทำเป็นเบะปากเยาะเย้ย..........ก่อนจะยกถ้วยชามอาหารไปเก็บ...........นัทไม่ได้แสดงอาการหึงออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง.........แต่ผมรู้ว่าเค้ากำลังวิตกกับเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยแหล่ะ................


                        “แล้วเค้าพักที่ไหนล่ะ”...............นัทยังไม่วายถามเรื่องตุ้ยต่อหลังจากที่ผมจัดการเก็บกวาดโต๊ะกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว.................
 
                      “ก็พักกับเพื่อนๆเค้าน่ะสิ ถามได้”...........ผมตัดบท ทำเป็นใส่ใจอยู่กับการเจียนมังคุดใส่จาน..........

                       “แถวไหนเหรอ”............นัทไม่ยอมหยุดคุยเรื่องนี้ง่ายๆอย่างที่คิด..............ผมเงยหน้าขึ้นมา หรี่ตามองไปที่นัท.........ได้ผลเกินคาดแฮะ............
                     
                      “ก็แถวมหาลัยนั่นแหล่ะ.............เอ.........ว่าแต่ว่าถ้าเค้าขอให้พี่นอนเป็นเพื่อนจะทำยังไงดีน๊า”............. ก็รู้อยู่หรอกว่าเค้าไม่ใช่เด็กๆที่จะไม่รู้ว่านี่เป็นการแกล้งยั่วให้โมโห...............แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ......คนเราเมื่อโมโหซะแล้ว ต่อให้รู้ว่าโดนแกล้งยั่วยังไง สุดท้ายแล้วก็ยังคงติดกับมีอารมณ์โมโหอยู่ดี................

                       “ก็ไปซะสิ ไปนอนกับเค้าเลย”.........นัททำเสียงประชด............


                         ผมวางมือจากการเจียนผลไม้ขึ้นไปนอนเล่นบนเตียงโดยที่ไม่ใส่ใจกับนัทอีก................เค้าจะรักผมหรือเปล่าผมไม่รู้...........แต่พฤติกรรมในตอนนี้มันแสดงออกถึงการเป็นเจ้าของ.............

                         “ถ้าพี่ไปอยู่กรุงเทพแล้ว พี่อาจจะลองคบกับตุ้ยดูก็ได้”…………ผมยังคงเดินหมากต่อ........เมื่อเห็นว่านัทกำลังจะหลุดความสนใจเรื่องนี้ไปมุ่งอยู่กับการกินผลไม้แทน............สงครามจิตวิทยานี่ช่างสนุกดีแท้...........

                          “คงมีคนเค้าเอาหรอก...........กลวงซะขนาดนี้แล้ว”...........นัททำเสียงเย้ยไม่ยอมลดราวาศอก.........ดูเหมือนคราวนี้เค้าจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นต่อขึ้นมาบ้างแล้ว............เชอะ...........เรื่องอะไรผมจะยอมแพ้ง่ายๆ...............

                          “ของอย่างนี้พอไม่ได้ใช้งาน มันก็กลับเข้าสู่สภาพเดิมของมันเองได้..............อีกอย่างถ้าพี่บอกใครต่อใครว่ายังบริสุทธิ์อยู่ เค้าก็ต้องเชื่ออยู่แล้ว........เพราะพี่ก็ดูเหมือนคนที่ยังบริสุทธิ์อยู่จริงๆ”...........ผมยักไหล่ .............ใครเค้าจะมานั่งสนใจว่าผมเคยผ่านใครมากี่คนบ้างแล้ว.............ก็ในเมื่อทุกวันนี้ใครๆเค้าก็เปลี่ยนแฟนกันอยู่โครมๆกันทั้งนั้น.........

                         “ก็ลองดูสิ.........นัทจะตามไปแฉให้หมดเลย”.............เชอะ............ทำยังกะจะมีปัญญา...........แค่จะให้ยอมรับว่าเป็นเกย์ยังไม่กล้าเลย................ที่ไหนจะกล้าไปบอกใครต่อใครว่าเคยมีอะไรกับผมมาก่อน............

                         “นัทจะมาสนใจทำไม............เดี๋ยวนัทก็จะไปทำงานแล้ว.............ถึงตอนนั้นเราก็ต้องเลิกกัน..............พี่ก็ต้องมีแฟนใหม่อยู่ดี”............ผมพูดไปตามที่คิดแบบนั้นจริงๆ.............แม้ว่าในใจจะยังมองไม่เห็นทางว่าจะมีโอกาสเจอแฟนใหม่อย่างที่โม้เอาไว้หรือเปล่า............

                        นัทพุ่งพรวดขึ้นมาบนเตียงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย.............แล้วหันไปดึงผ้าห่มมาห่อตัวผมเอาไว้.................

                       “โอ้ย......อย่านะ จะบ้าเหรอ”.............ผมร้องห้ามพลางหัวเราะ
                      “ถ้ารู้ว่าพี่กั้งมีแฟนใหม่........นัทจะขึ้นมาฆ่าให้ตาย” นัทพูดขู่..............แต่ผมไม่เชื่อว่าเค้าจะรู้สึกหวงผมแบบนี้ไปตลอดเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ..............

                       “ปล่อยยยยยย..........พี่หายใจไม่ออก”............ผมโอดครวญ.............แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ.............นัทหันไปคว้าสายไฟมามัดผมเหมือนห่อศพ................

                        “นี่ไง.............ปากดีนัก”...........นัทพูดพลางรัดเชือกให้แน่นยิ่งขึ้น................ผมพยายามดิ้นแต่เพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธี..................ก็จะให้ทำอะไรได้มากไปกว่านี้ล่ะ............หรือจะทำเป็นนอนเฉยๆเหมือนศพให้เค้ามัดเล่นๆ...........

                         นัทขึ้นมานั่งทับตัวผมเอาไว้ จ้องหน้าอย่างผู้มีชัย..............ตัวหนักเป็นบ้า.............ความรู้สึกบางอย่างภายในของผมเริ่งพลุ่งพล่าน............เค้ากำลังจะทำให้ผมมีอารมณ์ปรารถนาขึ้นมาอย่างรุนแรง................

                           บางครั้งผมก็เคยถวิลหาเซ็กส์ในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากแบบเดิมๆ............แต่ก็ยังไม่เคยคิดเลยเถิดไปถึงขั้นจะมีความสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนหรือการมีเซ็กส์หมู่อย่างที่เกย์บางคนต้องการเพื่อเติมสีสันสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ชีวิต...........

                           ผมเพียงแค่อยากมีเซ็กส์กับแฟนของผมเพียงคนเดียว..............เพราะผมเชื่อว่า การมีเซ็กส์ที่เกิดจากความรัก มันเป็นสิ่งที่สวยงามและอบอุ่น...........แต่ถึงยังไงก็ตาม ความตื่นเต้นก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการจากคู่รักด้วยเช่นกัน............และตอนนี้ผมรู้สึกว่านัทกระตุ้นมันได้ถูกจุดของผมโดยที่เค้าไม่รู้ตัว........ผมคิดว่าผมอาจจะชอบความรุนแรงอยู่หน่อยๆ...............ใครบางคนเมื่อนานมาแล้วเคยทำเช่นเดียวกันนี้กับผม..........และมันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขลึกๆ.............

                          เค้าไม่ใช่แฟน..........และเราก็ไม่เคยมีอะไรกัน.............สถานะของเราเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมชั้นในสมัยปริญญาตรีเท่านั้น...............ในตอนนั้นผมคิดว่าเค้าชอบผม แต่การเป็นเกย์เป็นสิ่งที่ไม่น่าภาคภูมิใจและลี้ลับสำหรับคนในยุคนั้น.............

                         ทุกครั้งที่เจอกัน เราสองคนมักจะชอบหาเรื่องมาต่อปากต่อคำกันอยู่เสมอๆ...............และผมก็จะชอบพูดยั่วให้เค้าโมโห (งานถนัด) ด้วยการใช้วาจาเหน็บแนมเชือดเฉือนตามแนวถนัด .............ดังนั้นเค้าจึงตอบแทนผมด้วยการทำอะไรกับผมแรงๆ อย่างเช่นการบีบต้นแขนให้เจ็บจนเป็นรอยช้ำ หรือการกดด้วยหมอนและผ้าห่ม เป็นต้น...............แต่ผมกลับรู้สึกมีความสุขอยู่ลึกๆ...........และเค้าก็รู้ว่าผมชอบให้ทำแบบนั้น............

                         แน่นอนว่าผมก็เหมือนคนอื่นๆที่ไม่ชอบให้ใครมาทำอะไรให้เจ็บๆ.............แต่สิ่งที่เค้าทำนั้นมันไม่ใช่การทำร้ายร่างกาย............มันเป็นการกระทำที่พอดีๆ...........เจ็บไม่มาก.........แต่ก็เจ็บ....และรู้สึกดีพิลึก............ผมชอบที่ความเจ็บนี้เกิดมาจากการที่เค้าทนผมยั่วยุไม่ไหว..........เกิดมาจากความหมั่นเขี้ยวผสมกับความปรารถนาของตัวเค้าเอง.............

                         มีอยู่ครั้งหนึ่งเค้าเคยเปรยกับผมเล่นๆว่า “เราไม่ไปห้องนายสองต่อสองหรอก............กลัวห้ามใจไม่ไหว”.............เค้าจะห้ามใจเรื่องอะไร............งง..............ก็ตอนนั้นผมยังไม่รู้ประสานี่..............อิอิ…………..

                         จนผมมาเรียนต่อปริญญาโทที่กรุงเทพฯ จึงได้รู้ข่าวว่าเค้าจะแต่งงาน.................และผมได้เดินทางไปร่วมงานแต่งงานของเค้าพร้อมกับเพื่อนๆคนอื่นๆ.................

                         เมื่อผมไปถึงที่งานแต่ง ซึ่งจัดที่บ้านของเจ้าสาวในตอนกลางคืน..............ผมก็พบเค้าอยู่ในสภาพเมามายเหมือนคนไม่เต็มใจจะแต่งงาน.............ทันทีที่ผมไปถึง เค้าก็ลากตัวผมขึ้นไปบนห้องต่อหน้าเพื่อนคนอื่นๆอย่างไม่ฟังอีร้าคร่าอีลมใดๆ................

                          ผมโดนลากถูลู่ถูกังมาที่ห้องของเค้า ก่อนจะถูกกดลงไปนอนบนเตียง และกอดถุมเอาไว้ไม่ยอมให้กระดุกกระดิกไปไหน...............อ้อมกอดของเค้ายังคงแข็งแรงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง............มันทำให้ผมรู้สึกอ่อนระทวยอย่างช่วยไม่ได้...........เค้าชอบใช้กำลังบังคับกับผมแบบนี้เสมอๆ..........น่าโมโหจริงๆ.........

                          จนเวลาล่วงเลยไปได้สักพัก..............เจ้าสาวก็เข้ามายืนทำหน้าเขียวอยู่ที่ประตู...............เราสองคนจึงเป็นอิสระออกจากกันโดยอัตโนมัติ..........ผมยิ้มแห้งๆให้เธอก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาสมทบกับเพื่อนๆที่อยู่ข้างล่าง...............

                           หลังงานเลี้ยงเลิก...........ระหว่างที่เพื่อนๆคนอื่นๆกำลังล่ำลากัน เค้าจึงถือโอกาสแอบเดินเข้ามากระซิบเบาๆกับผมว่า
                           “ถึงเราจะแต่งงานไปแล้ว................แต่ระหว่างเราสองคนก็ยังเป็นเหมือนเดิมนะ”.........ผมอึ้งไปกับคำพูดนั้นชั่วขณะ.............หมายความว่ายังไง.............เป็นเหมือนเดิม..........ผมไม่อยากจะคิดว่านี่คือการบอกรัก เพราะว่าเราไม่เคยเป็นแฟนกัน.................แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่านี่คือการบอกรัก..............ที่ผ่านมาผมคิดแต่เพียงว่าเค้าคงคิดกับผมเหมือนเพื่อนทั่วๆไป............แม้ผมจะแอบชอบ (ความรุนแรง) เค้าอยู่ลึกๆก็ตาม...............แต่จะมาบอกเอาตอนนี้ ก็คงจะสายไปเสียแล้ว...........เพราะผมคงไม่พาเค้าหนีงานแต่งงานเหมือนอย่างละครในทีวีหรอกนะ............

                            แน่นอนว่าเมื่อโดนนัทกระทำในแบบคล้ายๆกันนั้น ..............ผมจึงเกิดอารมณ์ปรารถนาขึ้นมาเป็นสิบเท่าอย่างช่วยไม่ได้................

                             “มานี่.............เก่งนักใช่มั้ย”..............ผมเข้าไปกอดปล้ำกับนัทหลังจากที่ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว...............เราสองคนต่อสู้กันอยู่บนเตียงสักพัก..............ก่อนที่อะไรๆมันเป็นไปตามครรลองที่ควรจะเป็น.............

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #402 เมื่อ17-08-2007 11:08:38 »


มาแว้ว............ :m4: :m4:

แว้บ.................ฟิ้ว................

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #403 เมื่อ17-08-2007 11:34:03 »

แว้บ.................ฟิ้ว................

แปลว่าอะไรเหรอ..........งง

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #404 เมื่อ17-08-2007 19:21:03 »

แล้วทำไมคุณกั้งไม่บรรยายบทหื่น  ขัดจายยย  :a6:  :a6:
เกริ่นมาซะตบจูบๆ  หง่ะ

คิกๆ รออ่านต่อจ้า  เป็นกำลังใจให้น้า   :a2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #405 เมื่อ17-08-2007 20:28:08 »

อยากอ่านบทหื่นเหมือนกัน รองคุณกั้งบรรยาย  :a4:  :a4:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #406 เมื่อ18-08-2007 11:42:31 »

เหอ เหอ มีแต่คนอยากอ่านบทบรรยายเพิ่มเติมอ่ะ  :m26: เราก็อยากอ่านน้า  :a9:  :a9:  :a9:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #407 เมื่อ19-08-2007 11:08:18 »

 :o :o :o
หาความแปลกใหม่ในชีวิตเหยอ
 :m18: :m18:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #408 เมื่อ20-08-2007 08:46:12 »


อือ แล้วครรลองที่ควรจะเป็น............. มันเป็นยังไงน้อ... :m28: :m28:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #409 เมื่อ21-08-2007 09:51:39 »

ช่วงนี้ศึกษาธรรมะมากไปหน่อย ใจคอเลยโน้มเอียงไปในทางสร้างกุศลกรรม...........เพราะฉะนั้นงดบทหวือหวานะจ้ะ..........เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลงต่อครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2007 09:54:32 โดย moody »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #409 เมื่อ: 21-08-2007 09:51:39 »





yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #410 เมื่อ22-08-2007 10:10:40 »

                         ตอนนี้ตุ้ยคงมาถึงเชียงใหม่แล้วกระมัง..............เค้าไม่ได้ติดต่อมาหาผมเหมือนอย่างที่ได้คาดคะเนเหตุการณ์เอาไว้แต่แรก...........แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังแอบเอาเค้ามาใช้ประโยชน์ในการกดดันนัทบ้างเล็กน้อย..........นัทจะได้รู้ซะบ้างว่าผมเองก็ยังมีคนเห็นคุณค่าบ้างอยู่............ไม่ใช่ของตายที่เค้าจะทำอย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจ...............

                        “ตุ้ยยังไม่ติดต่อมาอีกเหรอ โฮะๆ” นัทถามพลางทำเสียงเยาะเย้ยอยู่ในลำคอ............ผมจ้องมองทำหน้าถมึงทึง...........เชิญพูดไปเถอะ ถ้าเค้ามาเมื่อไหร่อย่าหึงจนควันออกหูก็แล้วกัน..........หัวเราะทีหลังย่อมดังกว่า เป็นสัจธรรม.............

                       “ออกไปซื้อสตรอเบอรี่กันเถอะ อยากกินไม่ใช่เหรอ”............ป่วยการต่อปากต่อคำกันให้เสียเวลาไปเปล่าๆ........สู้หาสิ่งมาบำรุงบำเรอซึ่งกันและกันจะไม่เกิดประโยชน์กว่าหรืออย่างไร..........

                     
                      นัทชอบกินทุกๆอย่างยกเว้นหมู (อิอิ) ...........ช่วงต้นมีนาคมแบบนี้เป็นช่วงปลายฤดูกาลของสตรอเบอรี่................สองฝากฝั่งถนนจึงดารดาษไปด้วยเพิงไม้เล็กๆที่ประกอบขึ้นจากไม้ไผ่มุงหญ้าแฝกเอาไว้อย่างหยาบๆ......................เมื่อมองเข้าไปด้านในก็จะเจอบรรดาลูกสตรอเบอรี่สีแดงฉ่ำถูกกองเอาไว้ล่อตาล่อใจแก่ผู้ที่ผ่านไปมา...............

                 
                      ปกติเมื่อซื้อสตรอเบอรี่มาแล้ว ผมจะนำมาล้างและคลุกด้วยน้ำตาลใส่ชามใบโตๆแช่เย็นเอาไว้.........รอจนน้ำตาลจับตัวเป็นเกล็ดและซึมเข้าไปในเนื้อสตรอเบอรี่ดีแล้ว จึงยกมาเสิร์ฟ.........เป็นเมนูที่นัทชอบมากอย่างหนึ่ง............ต่อเมื่อเค้ากินแล้ว ผมจึงค่อยกินส่วนที่เหลือ..........รอให้เค้าอิ่มก่อนจะดีกว่า.......

                        เราสองคนมาจอดรถที่ร้านสตรอเบอรี่ใกล้ที่พัก..............ระหว่างที่ผมยืนเลือกสตรอเบอรี่อยู่จำนวนหนึ่งนั้น..........นัทเองก็ง่วนอยู่กับการหยิบนั่นชิมนี่ตามคำเชิญชวนของแม่ค้า..............พลันเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังลอดออกมาจากกระเป๋า............เราสองคนหันมาสบตากันโดยอัตโนมัติ....

                       “ฮัลโหลพี่กั้งเหรอครับ..........ตอนนี้ผมอยู่เชียงใหม่แล้วนะ............เย็นนี้พี่กั้งว่างหรือเปล่า.......ออกมากินข้าวด้วยกันหน่อย”.............เสียงตุ้ยเจื้อยแจ้วมาตามสาย...........ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน........เค้าก็ยังคงช่างจำนรรจาเช่นเดิม.............ได้ยินมาว่าตุ้ยเลิกกับเดียวอย่างเด็ดขาดแล้ว และตอนนี้กำลังคั่วเด็กคนหนึ่งอยู่ที่นครปฐม.............

                       “ฉันจะบอกให้ลูกศิษย์ฉันไปสืบว่ามันเป็นใคร............ถ้ารู้ตัวเมื่อไหร่จะตบล้างน้ำเสียให้เข็ด”
เดียวทำท่าเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเมื่อผมถามถึงเรื่องนี้.............

                       “แกจะไปทำเค้าทำไม..........คนเค้าไม่ได้ชอบเราแล้วก็ควรจะปล่อยเค้าไป”...........ผมชี้ช่องทางเพื่อให้หล่อนรู้จักปลงตกเสียบ้าง.............แต่ในใจนั้นรู้ดีว่าเดียวไม่ใช่คนแบบนั้น...........หล่อนก็แค่พูดไปตามแรงแค้นเพื่อความสะใจเล่นๆ ก็เท่านั้นเอง..........

                         “ในเมื่อฉันไม่ได้.........คนอื่นก็อย่าหวังจะว่าได้” .............แหม........พูดอย่างกะในละครหลังข่าวเชียวนะแก..........ผมแอบหัวเราะในใจ...........ใครที่ยึดหลักแก้ปัญหาตามวิถีนี้.............ไม่เห็นจะลงเอยด้วยดีเลยสักราย........ตัวอย่างในละครก็มีให้เห็นๆกันอยู่............


                         ผมทำทีคุยเสียงดังเพื่อให้นัทรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังคุยกับตุ้ยอยู่..............นัทหยุดสนใจกับการชิมและหันมาฟังอย่างตั้งใจ...............

                        หนแรกที่ผมหันไปมอง เห็นทำทีจดๆจ้องๆไม่ยอมเข้ามาใกล้นัก............แต่ก็ยังจัดอยู่ในระยะที่พอจะได้ยินว่าผมกำลังสนทนาอะไรกันอยู่............ผมจึงหลิ่วตาไปมองเพื่อให้เค้ารู้ตัวว่า ไม่ดีเลยถ้าจะมาแอบยืนฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์กันแบบนี้.............แต่มันกลับได้ผลในทางตรงกันข้าม............

                       “ใครโทรมา”.........นัทเดินเอาหูมาแนบเพื่อฟังเสียงของอีกฝ่าย................ผมเอี้ยวตัวหลบไปอีกทาง.........ก่อนจะทำสายตาตำหนิอย่างโจ่งแจ้ง.........แล้วเดินนำไปที่รถ.............

                     “งั้นแค่นี้ก่อนนะ เย็นนี้ค่อยเจอกัน แล้วพี่จะไปรับ”..............ผมวางสายไปในที่สุด...........นัทเดินเข้ามานั่งที่เบาะด้านข้างคนขับ พลางเอ่ยถาม.............

                        “ตุ้ยนัดกินข้าวเหรอ”..........ทำท่าอยากรู้ขึ้นมาเชียวนะ..........ผมนึกหมั่นไส้อยู่หน่อยๆ.........แต่ก็ตอบไปแต่โดยดี
                       “อือ”.........
                      “ที่ไหนอ่ะ..........ไปด้วย”..............ถึงนัทไม่ขอ ผมก็ตั้งใจจะให้เค้าไปอยู่แล้ว............ผมอยากเอาแฟนที่ไม่ค่อยได้เรื่องคนนี้ไปอวดตุ้ยอยู่เหมือนกัน.............จะว่าไปแล้วนัทก็เป็นแฟนจริงๆคนแรกของผม...........เพราะฉะนั้นผมถึงได้ภูมิใจกับตัวเค้านักหนายังไงล่ะ..............อยากจะไปบอกตุ้ยว่า ดูไว้ซะ.......นี่แหล่ะแฟนฉัน.........อิอิ

                      “ไปสิ พี่ต้องให้นัทไปเป็นเพื่อนอยู่แล้ว”............นัทเองก็คงอยากจะเห็นหน้าตุ้ยชู้รักที่ผมเคยเล่าให้ฟังอยู่เหมือนกัน..............นี่ถ้าเค้าไปเจอแล้วเกิดชอบกันเองขึ้นมาผมจะทำไงเนี่ย........บรึ๋ยยยยยย........แค่คิดก็สยองแล้ว.............

                       เหตุผลที่ผมต้องการให้นัทไปด้วยเพราะผมอยากให้นัทรู้ว่าระหว่างผมกับตุ้ยนั้นไม่มีอะไร.........ความจริงแล้ว ผมทั้งรักและซื่อสัตย์ต่อนัทมากเพียงไหน...........นัทคงจะได้ประจักษ์แก่สายตาและประจักษ์แก่ใจของเค้าเองในคืนนี้..........ที่ผ่านมา ผมก็เพียงแค่พูดไปเพราะอยากเรียกร้องความรักความสนใจจากเค้าบ้าง ก็เท่านั้นเอง.................


                     
                      “แฟนพี่กั้งเหรอครับ”..............ตุ้ยเข้ามากระซิบถามเมื่อสบโอกาส ระหว่างที่เราสามคนนั่งทานข้าวอยู่ที่ร้านอาหาร...............ผมพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงยอมรับ..............ผมรับเค้าเป็นแฟแล้ว น่ะใช่..............แต่เค้าน่ะสิจะรับผมเป็นแฟนหรือเปล่ายังสงสัยอยู่

                        ดูท่าทางนัทจะค่อนข้างเบาใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพบว่าผมไม่ได้แสดงความพิเศษต่อตุ้ยอย่างที่เคยขู่เค้าเอาไว้ในตอนแรก................ไม่ใช่เพราะว่าผมเกรงใจนัทแต่อย่างใด..............แต่เพราะใจผมไม่ได้รู้สึกยินดีในตัวตุ้ยต่างหาก................มันเป็นธรรมชาติของตัวผมเอง ที่เมื่อปักใจว่าจะรักใครสักคนหนึ่งแล้ว........ผมไม่มีวันเปลี่ยนใจง่ายๆหรอก.............เว้นเสียแต่ว่าเค้าจะไม่ต้องการตัวผมแล้ว..............เมื่อถึงตอนนั้นผมจะเลิกรักเค้าเอง...............เพราะผมไม่เสียเวลารักคนที่ไม่ได้รักและต้องการในตัวผม..................

                      “ได้ข่าวว่ามีแฟนใหม่แล้วเหรอ” ............ผมแกล้งหลอกถามเพื่อสืบข่าวไปแจ้งกับเพื่อนสาว..........เพื่อที่ว่าหล่อนจะได้ตัดใจจากผู้ชายคนนี้ซะที...............

                      “ มีแล้วครับ............ผมรักเค้ามาก...........ตอนนี้ผมกำลังพยายามทำตัวเป็นคนดีเพื่อเค้าอยู่”...........สาธุ............ประเสริฐแท้...............ผมนึกอนุโมทนาอยู่ในใจ...............แต่ก็นึกโกรธแทนเพื่อนอยู่หน่อยๆ

                        ระหว่างที่เราสองคนนั่งสนทนากันอยู่นั้น........นัทไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมแต่อย่างใด............เพียงแต่นิ่งฟังอยู่เฉยๆเท่านั้น............

                         “แล้วเค้าเป็นใครมาจากไหนล่ะ”..........ผมพยายามล้วงข้อมูลต่อไปอีก........ทั้งยังเป็นการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันกลายๆ..............ตอนนี้ความรู้สึกเชิงพิสวาสระหว่างผมกับตุ้ยไม่เหลือหลอแล้ว.........คงเหลือแต่เพียงความปรารถนาดีในฐานเพื่อนตามสมควร.............

                       “เค้าเรียนที่ศิลปากร ผมเจอเค้าตอนที่กำลังจะเข้าบ้าน............เห็นเค้าขับมอร์เตอร์ไซด์ผ่านมาแล้วยิ้มให้............ผมก็เลยยิ้มตอบ............เค้าก็เลยชวนไปกินข้าว ”..................ช่างง่ายดายดีแท้หนอ............ผมแอบส่งยิ้มให้นัท.............เรื่องพรรณนี้ถ้าจะทำให้ง่ายก็ง่าย.........แต่ถ้าจะทำให้ยากก็ยาก..........

                          “แบบนี้เพื่อนพี่ก็อกหักน่ะสิ”............ผมแกล้งกระเซ้า.............ตุ้ยยิ้มรับก่อนจะบอกว่า......

                         “ผมเลิกกับเค้ามาเกือบสองปีแล้วพี่.........ตอนนี้เจอกันก็เจอแบบพี่น้องไม่ได้เกี่ยวข้องกัน”.........โธ่เอ๋ย นังเดียว............แกตามรักตามหวงเค้าปานแก้วตาดวงใจ.............แต่เค้ากลับไม่ใยดีแกเลยสักนิดเดียว............ไม่คุ้มค่าคุ้มราคาที่แกรำพึงรำพันถึงเลยสักนิด..............ผมนึกทอดถอนอยู่ในใจ.............

                        “ผมมีรูปเค้าในมือถือด้วยนะ.........พี่กั้งอยากดูมั้ย”...........ตุ้ยว่าพลางยื่นรูปถ่ายในมือถือมาให้ดู.............ผมรับเอามาพิจารณา

                        คนในรูปนั้นดูเด็ก...........ออกสาวหน่อยๆ...........แต่ก็ถือว่าดูดีไม่เลว..........เมื่อเทียบกับเดียวแล้วก็คงให้ความรู้สึกในคนละแบบ.........คนหนึ่งเป็นสาวน้อยดูสดใสร่าเริง มีชีวิตชีวา.........อีกทั้งสังขารเนื้อหนังยังเคร่งครัด............คงกระตุ้นกำหนัดแก่คู่รักได้ดีไม่น้อย............ส่วนเดียวนั้นอยู่วัยที่กำลังบานสะพรั่งเต็มที่............คงขาดความสดใสเมื่อเทียบกับวัยแรกรุ่นเช่นคนในรูป..........แต่ความถึงพร้อมแล้วด้วยวัยและประสบการณ์......คงจะเป็นเพื่อนคู่คิดและให้ความอบอุ่นใจได้ดีกว่า........

                        “อ่ะ........ดูสิ”..........ผมยื่นรูปให้นัทดูเพราะเห็นทำท่าชะเง้อชะแง้อยากเห็นเสียเต็มที่...........ตุ้ยยิ้มน้อยๆ..............ดูท่าเค้าภูมิใจกับแฟนคนนี้ไม่น้อยเลย.............เดียวเอ๋ย แกคงจะหมดหวังเสียแล้ว................ผมนึกสงสารเพื่อนขึ้นมาอยู่ครามครัน.............แต่อีกใจก็อยากให้รู้ความจริงซักทีว่าเค้าพูดถึงหล่อนว่าอย่างไรบ้าง.........จะได้เลิกละเมอเพ้อพก และก็ทำท่าหวงก้างบ้าๆบอๆอย่างที่เคยทำกับผมอยู่เสมอๆ..............

                        เราแวะไปส่งตุ้ยที่โรงแรมก่อนจะร่ำลากันพอหอมปากหอมคอ...............การมาของตุ้ยคราวนี้ไม่ได้เกิดเรื่องโกลาหลอย่างที่คาด..........แต่อย่างน้อยๆผมเชื่อว่ามันทำให้ความสัมพันธ์ของผมและนัทแน่นแฟ้นขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง.............การที่นัทได้มาเห็นว่าไม่ว่าใครหน้าไหน ก็ไม่มีทางดีไปกว่านัทของผมหรอก คงจะทำให้เค้ารู้สึกมั่นใจในความรักและซื่อสัตย์ที่ผมมีต่อเค้าบ้าง ไม่มากก็น้อย...........นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกนัทมาตลอด...........หากแต่การบอกด้วยวาจานั้นไม่ได้มีน้ำหนักเท่ากับการกระทำ.............ซ้ำร้ายอาจจะถูกมองว่าเป็นคนพูดจาเพ้อเจ้อหาความจริงไม่ได้......จากเหตุการณ์วันนี้ไป นัทคงได้รู้จักผมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน........แม้ว่าเค้าจะไม่พูดวิจารณ์ ชื่นชมอะไรออกมาก็เถอะ........คนอะไร ไม่โรแมนติกเอาซะเลย.......เฮอะ

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #411 เมื่อ22-08-2007 11:03:27 »


นัทคร๊าบ  อย่าไปหลงผิด ขอบอก    :m26:

ไม่ใช่ พี่กั้ง ไม่สนใจเค้า   แต่เค้าอ่ะไม่สนใจพี่กั้งเองตะหาก อิ อิ   :m30:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #412 เมื่อ22-08-2007 11:59:18 »


 :a5:

เพิ่งรู้เรื่องไอ้ตุ้ยเต็มๆ ก็คราวนี้เอง

ปิดเงียบเลยนะเคอะ

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #413 เมื่อ22-08-2007 13:03:41 »

ไม่ได้ปิดนะ.........มันไม่สำคัญตะหาก...........ส่วนคุณ blanch อ่ะ......จะหยามกันมากไปม้าง หุหุ.....................

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #414 เมื่อ22-08-2007 19:29:33 »

เหอ เหอ ลองเชิงลองใจ  :m12:  :m12:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #415 เมื่อ22-08-2007 21:00:21 »

เห็นด้วยกับคุณ blach กร๊ากกกกกกกกกกกกกก  :m14:
รักกันด้วยมันสมองเลยนะเนี่ย 555 ต้องมีการเล่นชั้นเล่นเชิง ลองใจกัน  อิอิ
รักกันนานๆ เน้อ
 :a2:  :a2:  :a2:  :a2:  :a2:

ปล คุณกั้งหื่นหลบในอะดิ คึคึ ไม่กล้าบรรยายบทนั้น :m12:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #416 เมื่อ23-08-2007 00:11:27 »

บริสุทธิ์ใจอ่ะ พาไปเจอเพื่อนก็ดี จะได้ไม่ตามหึงจนมากเกินไป
 :a4: :a4: :a4:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #417 เมื่อ23-08-2007 02:34:00 »

รอลุ้นต่อจ้า   :m3:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #418 เมื่อ23-08-2007 09:46:22 »

แต่ผมว่า คนบางคนก็ไม่ชอบพาแฟนมาเจอเพื่อนหรอก........หุหุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2007 09:52:44 โดย moody »

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #419 เมื่อ23-08-2007 18:56:54 »

                         ในบรรดาเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน ส่วนใหญ่ต่างก็แต่งงานแต่งการมีลูกมีเต้ากันไปหมดแล้ว................จะเหลืออยู่เป็นหนุ่มแก่ สาวเทื้อคาบ้านก็มีอยู่ไม่กี่มากน้อย...............และผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยความไม่สมัครใจ..........มันคงไม่ใช่ความน่าภาคภูมิใจอะไรนักหนา หากจะต้องบอกใครต่อใครว่า ฉันยังโสดอยู่นะจ้ะ ทั้งๆที่อายุก็จวนจะสามสิบในอีกวันสองวันข้างหน้านี้แล้ว................

                         คำว่า ไม่โสด สำหรับคนที่เป็นเกย์คงไม่ได้หมายถึงการแต่งงานกับผู้หญิง หรือการแต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน...............เพียงแค่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน นั่นก็น่าจะเพียงพอแล้วกระมัง.........ซึ่งก็หาได้ยากนักในสังคมปัจจุบัน.........ในกรณีของผมจะเรียกว่าโสดหรือไม่โสด ผมเองก็ไม่กล้าฟันธงลงไปให้แน่ชัด............ไม่ใช่เพราะว่าหวงแหนความโสดหรืออะไร.........แต่การไปตู่เอาว่าใครเป็นแฟนโดยเจ้าตัวเค้าไม่ได้เอ่ยปากยืนยันออกมาเอง.........คงไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจอะไรนักหนา........

                         การใช้ชีวิตเสมือนคนโสดนั่นก็ดีอยู่หรอก.............แต่การใช้ชีวิตทวนกระแสของสังคมจะมีความสุขได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิดของแต่ละคน............หากไม่มีเรื่องมาตอกย้ำกระทบจิตใจก็ยังพอจะทำหน้าชื่นตาบานเอาตัวรอดได้ไปวันๆ..........แต่ในบางครั้งบางคราวก็มักจะมีเหตุให้ต้องได้รู้สึกสะท้อนสะท้านใจบ้าง.............โดยเฉพาะเจ้าการ์ดสีชมพูตัวร้าย............คนโสดทั้งหลายต่างก็กลัวที่จะได้เห็นมันพอๆกับกลัวใบแจ้งหนี้ฉันใดฉันนั้น................

                         แม้จะไม่อยากพบเจอ แต่ผมก็ได้เจอกับมันเข้าอีกจนได้............เจ้าการ์ดนรกสีชมพูหวานแหวว...........แถมมันยังถูกส่งมาจากเพื่อนสาวสุดเลิฟ ที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า ชีวิตนี้หล่อนจะมีโอกาสได้มีวันมงคลสมรสกับเค้าบ้าง.............เฮ้อ...........อิจฉาก็อิจฉา............แต่จะทำนิ่งเฉยไม่ร่วมอนุโมทนากับเพื่อนก็รังแต่จะก่ออกุศลกรรมให้ตัวเราต้องมัวหมองทั้งในชาตินี้และชาติหน้าเสียเปล่าๆ.........โดยเฉพาะเพื่อนสนิทแบบนี้แล้ว..........ผมควรจะต้องไปด้วยตัวเองจึงจะไม่น่าเกลียด........

                        “แกจะแต่งที่ไหนล่ะ............กรุงเทพหรือที่บ้าน”...........กรุงเทพคือที่ๆหล่อนทำงาน.........ที่บ้านหมายถึงขอนแก่น.............เจ้าบ่าวของหล่อนเป็นใครผมเองก็ยังไม่เคยพบหน้า............จะมีหูมีตาครบสามสิบสองหรือเปล่านะ..........

                         “ที่บ้าน.......จัดแบบง่ายๆ.......แกต้องมาด้วยนะ”.........หล่อนคะยั้นคะยอ...........
                         “เออ..........ฉันต้องไปแน่...........เพื่อนแต่งงานทั้งที..........ไม่ไปแสดงความยินดีได้ยังไง”........ผมรับปาก..........ในใจนึกวางแผนเอาไว้คร่าวๆ............จะต้องชวนนังเดียวไปด้วยเพราะเราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน.............ให้หล่อนขึ้นมาหาผมที่เชียงใหม่ แล้วขับรถลงไปขอนแก่นด้วยกัน.........แบบนี้น่าจะดี..........

                        “เอาเป็นว่าฉันจะขับรถไปเองกะนังเดียว........แกก็จองที่พักให้หน่อยแล้วกัน........เอาไว้ใกล้วันจะโทรไปบอกอีกที”............ผมตกปากรับคำ ก่อนจะวางสายไป...........

                        เชียงใหม่ - ขอนแก่นไม่ใช่ใกล้ๆ............คงต้องขับรถไม่น้อยกว่าสิบห้าชั่วโมงแน่ๆ............เสร็จจากงานแต่งแล้วจะชวนนังเดียวกลับมาที่เชียงใหม่อีกครั้ง แล้วค่อยให้หล่อนนั่งรถกลับกรุงเทพ หล่อนจะยอมมั้ยนะ...............ว่าแล้วก็โทรไปถามดูจะดีกว่า..............


                      “เดียวเหรอแก............นังปิ๋มจะแต่งงานแกรู้ข่าวยัง”..............ผมรีบรวบรัดเข้าเรื่องทันทีเมื่อหล่อนรับสาย................
                     
                       “รู้แล้ว”..........หล่อนไม่แสดงอาการตื่นเต้นอย่างที่ผมคาดเอาไว้.............คงเป็นเพราะว่าหล่อนไม่สนิทกับปิ๋มมากเท่าที่ผมสนิทกระมัง............บางครั้งเดียวก็มักจะบ่นน้อยใจในตัวผมเรื่องรักเพื่อนไม่เท่ากันให้ได้ยิน..........
                     
                       “แกรักนังปิ๋มมากกว่าฉัน”.............ผมนึกขำความคิดแบบนี้ของหล่อน.............ทำตัวเป็นเด็กขาดความอบอุ่นไปได้...........
                 
                        “ฉันก็รักเหมือนๆกัน เพียงแต่นังปิ๋มมันน่าสงสาร..........แกก็เป็นผู้ชาย ยังไงก็ดูแลตัวเองได้”.......ผมให้เหตุผลข้างๆคูๆ เพราะคร้านจะต่อความยาวสาวความยืดกับเรื่องไร้สาระ...........


                      “แล้วแกจะไปมั้ยล่ะ”..........นี่ไม่ใช่ประโยคคำถาม..............แต่ผมหมายถึงหล่อนจะต้องไปกับผม.......ซึ่งเดียวก็รู้ข้อนี้ดี...............

                     “ไปสิ...........แล้วแกจะขับรถไปเองเหรอ..............”หล่อนถามจี้จุดที่ผมคิดเอาไว้อยู่แล้วพอดี...........

                    “อืม.........เดี๋ยวแกนั่งรถขึ้นมาเชียงใหม่ แล้วเราขับรถไปด้วยกันนะ”.............ผมจัดการออกคำสั่งเสร็จสรรพตามความเคยชิน..................
                     “ได้.............ใกล้วันแล้วฉันจะโทรไปหาอีกที”...................เดียวรับปากแล้ววางสายไป......


                       สองสามวันต่อมา.....ผมยังไม่ได้บอกนัทเรื่องที่จะเดินทางไปขอนแก่นเลย............คิดเอาไว้ว่าใกล้วันแล้วค่อยบอกดีกว่า................อันที่จริงก็อยากจะชวนไปด้วยกันอยู่หรอก............แต่ถ้านัทไปด้วย คงเป็นภาระมากกว่าจะคล่องตัว..............อีกทั้งผมอยากมีเวลาคุยกับเพื่อนๆสมัยปริญญาตรีที่ไม่ได้เจอกันมานานมากกว่าจะมานั่งห่วงแฟน.................

                       “ฮัลโหลกั้ง...........ฉันจะพาแฟนไปด้วยนะ...........ตอนขากลับจะนั่งรถจากขอนแก่นกลับกรุงเทพเลย”..............เดียวโทรมายืนยันกำหนดการณ์และการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเล็กน้อย...........ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสำหรับผมเลยสักนิด................แล้วใครจะนั่งรถกลับมาเป็นเพื่อนผมล่ะคราวนี้........สิบหน้าชั่วโมงไม่ใช่ของหมูๆ.........ถ้ามีคนนั่งกลับมาเป็นเพื่อน คอยคุยนั่นคุยนี่ระหว่างทาง ก็คงจะพอแก้ง่วงไปได้บ้าง.............
 
                       “แล้วฉันจะกลับมากับใครล่ะ”............ผมปรารภขึ้นมาลอยๆ..............ในใจนั้นคิดถึงนัทเป็นคนแรก................เค้าไม่ได้เรียนแล้ว อยู่ว่างๆคงไปเป็นเพื่อนผมได้.............แต่ผมคงไม่สามารถบังคับเค้าได้หรอก..............ไม่อยากจะเสียฟอร์ม..............

                        “ก็แฟนแกไง..........ไอ้นัทน่ะ........ตอนนี้มันอยู่เฉยๆไม่ใช่เหรอ”.............เดียวจัดการแนะทางออกให้เสร็จสรรพ...............แกนะแก จะเอาแฟนไปด้วยก็ไม่บอก............ผมนึกก่นด่าหล่อนอยู่ในใจ..........

                        “เออ...........เดี๋ยวฉันจะลองถามเค้าดูก็แล้วกัน”.........ผมตัดบท ทั้งที่ในใจนึกหวั่นอยู่ลึกๆว่านัทจะเห็นดีเห็นงามกับการเดินทางไปในครั้งนี้ด้วยหรือไม่........
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2007 17:13:43 โดย moody »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด