คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 197258 ครั้ง)

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #360 เมื่อ31-07-2007 13:45:26 »


หยุดยาวแบบนี้ ต้องไปหาคุณหมอมาแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆ   :m10: :m10:

แห่ะๆๆ เดาเอาอ่ะ  เจงป่ะครับ       :m12: :m12:

ปล่อยให้เรามานั่งรอ     :m16: :m16:

หายเหนื่อยแล้ว แวะมาทักทายหน่อยนะครับ คถ คถ  :m13: :m13:

tor13

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #361 เมื่อ31-07-2007 16:10:20 »

เค้าฉีดกันยังไม่เสร็จเหรอไม่เห็นมาต่อซักที :a4: :a4: :a4:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #362 เมื่อ01-08-2007 09:29:16 »

                          บรรยากาศภายในโรงพยาบาลค่อนข้างจะเงียบเชียบกว่าที่คิดเอาไว้..............มีคนไข้นั่งรอพบแพทย์เพียงสองสามคนเท่านั้น............สีหน้าแต่ละคนดูเรียบเฉย ไม่ได้แสดงถึงอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเลยสักนิด...............เหมือนมานั่งแต่งตัวประชันกัน มากกว่าที่จะเป็นผู้ป่วยจริงๆ..............

                           ผมกวาดตามองดูรอบๆ ระหว่างที่เดินผ่านประตูเข้ามายังลอบบี้.........ที่นี่จัดได้ว่าค่อนข้างหรูหราทีเดียว.............ดูไม่เหมาะกับนัทเลยสักนิด.............นัทปอนจะตาย...........

                          พนักงานต้อนรับกำลังนั่งก้มๆเงยๆอยู่ตรงเคาเตอร์.............พวกเธอกำลังสาละวนอยู่กับงานที่ได้รับมอบหมายจนไม่รับรู้ถึงการมาของผมเลยสักคน.....................ผมเดินเลี่ยงมานั่งตรงบริเวณที่เข้าใจว่าจัดเอาไว้ให้สำหรับผู้ที่มานั่งรอญาติ.............รู้สึกแปลกๆอยู่บ้างตรงที่ว่า ผมไม่สัมผัสถึงความเป็นสถานบริการทางสุขภาพของที่นี่เลย.............บรรยากาศดูไม่ต้อนรับผู้คนเหมือนโรงพยาบาลทั่วๆไปที่เคยพบเห็น............ตรงกันข้าม...........ผมรู้สึกถึงความหยิ่งและเย็นชาของสถานที่แห่งนี้ จนต้องพยายามทำตัวให้ลีบเล็กที่สุด เท่าที่จะทำได้..............

                        หลังจากสำรวจดูรอบๆ ไม่มีวี่แววของนัทในบริเวณนี้เลย...........ผมจึงหยิบหนังสือขึ้นมานั่งอ่านฆ่าเวลาเล่น............ไม่นานก็แว่วเสียงคนสนทนากัน ดังลอยมาแต่ไกล............ผมหันไปมองตามที่มาของเสียงโดยอัตโนมัติ............นัทนั่นเอง...........เค้ากำลังเดินตามชายแก่ท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งมายังทิศที่ผมนั่งอยู่..............ท่าทางนัทดูพินอบพิเทาอย่างไม่น่าเชื่อ..........ผมนั่งจ้องมองด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น.........ปกติเคยเห็นแต่นัทคนที่ชอบทำท่าอวดดีอยู่ร่ำไป............ไม่นึกว่าวันนี้จะมีโอกาสได้มาเห็นอะไรที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงแบบนี้............

                         คนทั้งสองเดินผ่านหน้าผมเข้าไปยังอีกห้องที่อยู่ใกล้ๆ.............ผมชำเลืองมองแวบหนึ่ง ก่อนหันมาทำทีว่ากำลังสนใจอยู่กับการอ่านหนังสือเสียเต็มประดา.............ในขณะที่หูก็คอยฟังสิ่งที่ทั้งคู่คุยกัน...........จากบทสนทนาที่ได้ยิน เข้าใจว่าคุณลุงคนนั้นคงเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุดหรูแห่งนี้..........เค้าคุยกับนัทภายในห้องนั้นด้วยเสียงที่ดังในระดับที่พอจะจับใจความได้............ผมเงี่ยหูฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่ด้วยความตั้งใจ...........แม้ว่าฟังดูค่อนข้างจะเยิ่นเย้อ..............แต่รวมความแล้วก็คือ เค้าปฏิเสธที่จะรับนัทเข้าทำงาน............นี่ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายของผม.............ใครจะบ้ารับคนเข้าทำงานเพียงแค่เดือนเดียว............ไม่ใช่พนักงานเสิร์ฟอาหารนี่ จะได้รับเข้าทำงานตอนเช้า ตกเย็นก็ให้ทำงานได้เลย................

                         หลังการสนทนาสิ้นสุดลง.........ทั้งคู่ก็เดินกลับออกมาที่ลอบบี้อีกครั้ง............นัทกล่าวลาเบาๆ แล้วหันมาพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ผมเดินตามไป..........ผมหันไปมองคุณลุงคนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามนัทออกมา..........เมื่อครู่สีหน้านัทดูไม่ดีเลย.........ผมเห็นความผิดหวังและอับอายปรากฏอยู่บนใบหน้าของเค้าอย่างชัดเจน...........เค้าคงจะตั้งความหวังกับที่นี่ค่อนข้างมาก............แต่เค้าก็ควรจะรู้จักที่จะยอมรับความจริง............ไม่มีใครสมหวังในทุกๆอย่างหรอก.............

                        เราสองคนเดินกลับมาที่รถ..........ผมไม่พูดอะไรนอกจากเดินตามมาเงียบๆ..........ผมสงสารนัท.........แม้จะไม่เห็นด้วยกับโครงการที่นัทอยากจะทำงานในช่วงเดือนมีนาคมตั้งแต่แรก...........แต่ผมก็ไม่อยากจะให้เค้าต้องผิดหวัง............ผมอยากให้เค้าได้ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ............แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ก็ตาม..........

                        “เค้าว่ายังไงบ้าง” ผมเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากลำบาก.........เพราะกลัวจะกลายเป็นว่าไปซ้ำเติมคนกำลังผิดหวังเข้า.............แต่หากจะไม่พูดอะไรออกมา ก็ดูจะเหมือนไม่ห่วงใยถามไถ่กันเสียเลย.........ซ้ำยิ่งจะทำให้บรรยากาศอึดอัดมากไปกว่าเดิม..............
                       “เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากมาเสียเวลาฝึกงานให้ใหม่..........อีกอย่างนัทก็ทำงานกับเค้าได้แค่เดือนเดียวเอง.........” .........สีหน้านัทยังดูเจื่อนอยู่เมื่อเล่าย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ แม้จะผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้วก็ตาม....
“นัทกลับไปขอหลักฐานที่ใช้สมัครคือดีมั้ยพี่กั้ง”........นัทยังอาลัยอาวรณ์กับเอกสารที่ได้นำมายื่นเอาไว้ในตอนแรก..........
“ช่างมันเถอะ..........เดี๋ยวเค้าก็เอาไปทิ้งเองนั่นแหล่ะ.......อย่าไปสนใจเลย”..........ผมตัดบท........ไม่อยากให้นัทต้องไปวุ่นวายกับไอ้โรงพยาบาลนั่นอีก...........แค่นี้ก็หน้าแตกจนหมอไม่รับเย็บมากพออยู่แล้ว.........อย่าบากหน้ากลับไปขอหลักฐานพวกนั้นคืนเลย.............อายเค้าเปล่าๆ......


                         ผมขับรถพานัทออกมาจากโรงพยาบาลมุ่งหน้ากลับเข้าเมืองอีกครั้ง..........ท่าทางนัทจะยังคงไม่หมดหวังกับเรื่องหางานเอาง่ายๆ.........เค้ายังมีรายชื่อคลินิกในใจเหลืออีกแห่ง.........
                        “พี่กั้งพานัทไปถามที่นั่นดูได้ป่าว”..........นัทเอ่ยชื่อคลินิกชื่อดังแถวย่านนิมมานเหมินทร์....ผมอยากบอกให้เค้าเลิกล้มความตั้งใจ แล้วเอาเวลาที่เหลือมาพักผ่อนเพื่อรอเวลาไปทำงานจะดีกว่า.........แต่ทำไงได้........ก็ผมมันเป็นฝ่ายสนับสนุนอยู่แล้วนี่..........
                        “เอาสิ.......ลองไปถามดูจะเสียหายอะไร”..........ผมพยายามพูดให้กำลังใจ.........ทั้งๆที่รู้ว่าความหวังนั้นแสนจะริบรี่เต็มทน...........


                           “พี่กั้ง.....ถ้าเค้าไม่รับจะทำยังไงดีล่ะ” นัทหันมาถามความเห็นผมอีกครั้ง เมื่อเรามาถึงคลินิกที่ว่า........เค้าคงเสียความมั่นใจจากโรงพยาบาลเอกชนเมื่อครู่ไปไม่น้อย........
                          “เออน่า.........เข้าไปถามดูเฉยๆไม่เสียหายอะไรหรอก ไหนๆเราก็มากันแล้ว”...........ผมพยายามให้กำลังใจอีกครั้ง..........อยากให้เค้าได้ลองให้สุดๆไปเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายในภายหลัง..........

                          นัทหายเข้าไปที่คลินิกดังกล่าวพักใหญ่...........สักพักจึงกลับออกมาพร้อมนามบัตร..........
                          “เค้าบอกให้นัทโทรไปถามกับหมอที่เป็นเจ้าของเอง..........วันนี้เค้ามาที่คลินิก”..........นัทชูนามบัตรที่ว่าให้ผมดู...........แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดตามหมายเลขที่อยู่บนบัตรดังกล่าว.........

                         การสนทนาดำเนินไปได้สักครู่.............คำตอบที่ได้คือไม่............แต่ผมไม่ทราบในรายละเอียดจากการนั่งจับใจความอยู่ข้างๆ.............
                        “เค้าว่าไงบ้าง”............ผมรีบถามเมื่อนัทวางสาย............สีหน้านัทดูไม่ดีเอาเสียเลย.........
                       “เค้าบอกว่าเค้าไม่รับหมอที่ไม่มีใบรับรองวิชาชีพ..........เดี๋ยวจะมีปัญหา...........ส่วนใหญ่เค้าจะรับพวกที่ทำงานโรงพยาบาลชุมชนมาแล้วสองสามปี”.............อืม..........คุณสมบัติยังห่างไกลจากที่นัทเป็นอยู่ในตอนนี้..............


                         ออกจากคลินิกแห่งนั้น.................เราสองคนขับรถไปเรื่อยๆจนถึงแม่เหียะด้วยไม่รู้จะทำอะไรต่อกันดี..............หลังจากที่ขับรถวนได้สองสามรอบ ผมจึงแวะเข้าไปจอดรถใต้ต้นมะม่วง............เปิดประตูออกมาเดินเล่นตามสนามหญ้า ปล่อยให้นัทเอนเบาะนอนอยู่ในรถคนเดียว...............เค้าคงได้เรียนรู้แล้วว่า ไม่มีอะไรง่ายดายเหมือนฝัน.............ความผิดหวังกับความสมหวังนั้นอยู่ใกล้กันนิดเดียว.............จากอาการของนัทในตอนนี้ผมค่อนข้างจะเป็นห่วงเค้าพอดู..............เค้าคงไม่อยากเป็นภาระที่บ้านอีกต่อไป.................การอยู่ที่นี่ต่อคือการที่ต้องยืดเวลาสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายของทางบ้านออกไป................ผมอยากจะขอให้เค้าอยู่...........แต่ผมก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเค้า...............ถ้าเค้าเลือกที่จะไปผมก็คงห้ามไม่ได้..............เรื่องของเราสองคนคงจะจบลงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้.................

                         ผมเดินกลับมาที่รถ.........เห็นนัทนั่งรออยู่แล้ว.............ท่าทางเค้ามีเรื่องต้องให้ขบคิดมากมาย...........ดูไม่เหมือนนัทคนเดิมที่ผมเคยรู้จัก............

                        “พี่กั้งกลับกันเถอะ............นัทจะไปเตรียมตัวเก็บของกลับบ้าน”.........นัทเอ่ยออกมาในที่สุด............ผมรู้สึกชาไปทั้งตัว................แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...........นี่เค้าจะจากผมไปแล้ว.............ทำไมมันเร็วอย่างนี้...........แล้วเรื่องของเราล่ะ..............จะปล่อยให้มันจบลงไปทั้งๆแบบนี้น่ะเหรอ................เค้าควรจะปรึกษาเรื่องนี้กับผมก่อนที่จะตัดสินใจ............ผมควรจะมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ความเป็นไปของเราแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่เค้านึกจะทำอะไรก็ทำตามอำเภอใจ โดยที่ไม่นึกถึงความรู้สึกกันแบบนี้..............แต่ผมก็หยิ่งในศักดิ์ศรีเกินกว่าที่จะร้องขอหรืออุทรณ์ใดๆออกมา...............
                       “งั้นก็กลับกันเถอะ”.............ผมกลั้นใจพูดออกมาอย่างยากลำบาก..............แล้วเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ...............สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยหัวใจที่เลื่อนลอย..............

                       ระหว่างทางจนกระทั่งถึงหอของนัท ผมแทบไม่พูดอะไรออกมาเลย.............ผมรู้สึกว่านี่คือการทรยศ.............เค้าไม่ปรึกษาผมมาก่อนเลยว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไป.............นี่เค้าเห็นผมเป็นแฟนเค้าหรือเปล่า.................ผมไม่สามารถฝืนซ่อนอาการเสียใจเอาไว้ได้อีกต่อไป...............นัทคงรู้และเข้าใจว่าผมช็อคกับการตัดสินใจของเค้ามากแค่ไหน...............ผมส่งเค้าลงที่หอและจากมา............ไม่มีคำร่ำลาใดๆระหว่างเราสองคน...................

                       ผมกลับมานอนซมที่ห้องเหมือนคนหัวใจสลาย.............นี่ผมจะเสียเค้าไปจริงๆหรือ...............ผมจะเสียเค้าไปทั้งๆที่ไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวแบบนี้หรือ................

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #363 เมื่อ01-08-2007 09:30:30 »

เลิกเดาได้แล้วนะจ้ะ ที่หายไปเพราะไปเข้าฌาณมาตะหาก..........หุหุ

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #364 เมื่อ01-08-2007 10:25:10 »


มาแว้ว ดีใจจัง   :m18: :m18:


แต่รู้สึกว่าจะค้างอีกแล้วอ่ะครับ   :m17: :m17:


ไปเข้าฌาณมา ไม่กล้าแซวเลยอ่ะ   :m14: :m14:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #365 เมื่อ01-08-2007 11:01:26 »

ค้างสิ ก็มันยังไม่จบนี่นา........ยังมีอีกยาวเรย..........ว่าแต่คุณ blanch นี่ เป็นพวกที่ชอบแอบพลิกไปอ่านตอนจบก่อนอยู่เรื่อยเลยใช่ป่ะ.......ทำตัวเป็นวัยรุ่นใจร้อน.........อุอุ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #366 เมื่อ01-08-2007 12:53:09 »

ไม่เห็นมีอะไรน่าห่วงนิ  กลับบ้านไปพัก  แล้วค่อยกลับมาหางานใหม่

หรือเราพลาดฉากไหนไปหวา

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #367 เมื่อ01-08-2007 17:05:46 »

ห่วงตรงที่ว่า เค้าจะหอบเสื้อผ้ากลับบ้านไปแล้วไม่กลับมาอีกอ่ะจิ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #368 เมื่อ01-08-2007 17:25:10 »

คนเราคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอก โบราณท่านว่าไว้   :a2:  :a2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #369 เมื่อ01-08-2007 20:07:15 »

เอาน่าแค่เดือนเดียวไม่ใช่เหรอ  :a10:  :a10:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #369 เมื่อ: 01-08-2007 20:07:15 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #370 เมื่อ02-08-2007 12:02:46 »


 :a10: :a10:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #371 เมื่อ02-08-2007 12:11:02 »

ขอโทษนะครับที่มาๆหายๆ พอดีช่วงนี้งานยุ้งยุ่ง.........เอาไว้ช่วงกีฬามหาลัยโลกจะมาเขียนให้อ่านเยอะๆนะจ้ะ

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #372 เมื่อ02-08-2007 12:55:45 »


ช่วงนั้นจะว่างจริงเหร๊อ ????   

พอเห็นนักกีฬาหนุ่มๆ เด่ะๆ  ครั้นก้อจะไม่มีเวลามา อัพเดท  :m26: :m26:

เห็นว่าชอบเล่นแบตมินตัน  แต่ไหงไปนั่งข้างสระว่ายน้ำล่ะนั่น    :m10: :m25:


yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #373 เมื่อ02-08-2007 13:46:11 »

นี่..............รุ่นนี้ไม่กินเด็ก (ที่ไม่บรรลุนิติภาวะ)..........อิอิ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #374 เมื่อ02-08-2007 17:43:12 »

รอจ๊ะ  :a1:  :a1:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #375 เมื่อ02-08-2007 18:36:39 »

ที่แท้คนเขียนก็อู่นี้หว่า  งั้นศุกร์นี้งดเที่ยวเพื่อให้มาต่อนิยาย อิอิ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #376 เมื่อ02-08-2007 19:34:53 »

รอค่ะรอ  :m18:  :m18:  :m18:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #377 เมื่อ03-08-2007 05:30:02 »

เราว่ามีหลายคนแน่ๆ เลยที่คิดแบบคุณกั้งอะ 
ว่าอาจจะต้องเลิกกันตอนเรียนจบ 
ถ้าอยากเลิกกันนะ  ตอนจับฉลากใช้ทุนนี้แหละ  เป็นโอกาสดีที่สุด เหอ เหอ
ไม่เจอกัน  บอกเลิกกันตอนนั้นก็ไม่สาย  จะได้ไปเจอคนที่แต่ละคนคิดว่าใช่

นี่น้องนัท  เค้าไม่ได้งาน อยากกลับบ้านเองนา  ถ้าเป็นเรา เราก็กลับอะ
แต่น้องเค้าไม่ได้ปรึกษาคุณกั้งแค่นั้นเองอะ  อิอิ 

รออ่านอยู่น้า  อย่าอู้ๆ รออยู่  :a1:  :a1:  :a1:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #378 เมื่อ03-08-2007 11:32:56 »


เข้ามารอเผื่อจะฟลุ๊ค   :impress: :impress: :impress:

tor13

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #379 เมื่อ03-08-2007 12:46:19 »

โห่อุสาห์ไปเที่ยวมาตั้งหลายวันกลับมาอ่านมีแค่ตอนเดียว :a4: :a4: :a4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #379 เมื่อ: 03-08-2007 12:46:19 »





blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #380 เมื่อ06-08-2007 08:35:53 »


 :a4: :a4: :a4:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #381 เมื่อ06-08-2007 08:58:01 »

                         นี่มันเป็นฝันร้ายชัดๆ............เมื่อตอนกลางวันเราสองคนยังไปไหนมาไหนด้วยกันดีๆอยู่แท้ๆ.......พอตกบ่ายนัทกลับมาบอกว่าจะเก็บข้าวของกลับบ้านเสียแล้ว..........ผมสังหรณ์ใจว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันก็ได้..................ครั้งนี้ผมคงจะต้องเสียเค้าไปจริงๆแล้วเป็นแน่...........แม้ไม่ได้ตายจากกันก็เหมือนตายจากกันอยู่ดี..........

                        นัทเคยพูดกับผมเอาไว้เมื่อนานมาแล้วว่า.............

                        “ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า เราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว นัทยังอยากจะคบกับพี่กั้งเป็นพี่น้องต่อไป ถึงตอนนั้นนัทจะแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ตาม เราก็ยังติดต่อกัน ถ้ามีโอกาสก็ไปกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม”

                       ในตอนนั้นผมไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกไป..........นอกจากนั่งฟังอยู่เงียบๆ..........แต่ในใจผมรู้ดีว่า ผมไม่มีทางทำใจได้แน่นอน.......ใช่..........ผมไม่ได้เป็นคนใจกว้างมากขนาดนั้นหรอก.............อย่าเจอกันเลยจะดีกว่า..............ถ้าไม่ใช่ในสถานะของคนรักแล้ว...........พี่ไม่มีที่ว่างอื่นให้กับเธอ............ไม่มีแม้แต่คำว่าเพื่อนหรือพี่น้อง............เราคงเป็นได้แค่คนรู้จักกันเท่านั้น.........

                       ถึงแม้ว่าตลอดระยะเวลาที่เราคบกันมา..........ผมจะเตรียมใจเอาไว้มาตลอดว่า เราจะต้องจากกันเมื่อเวลานั้นมาถึง...........แต่ลึกๆแล้วผมไม่ได้อยากจะเสียเค้าไปเลยสักนิด...........แม้ว่าเค้าจะมีส่วนแย่ๆอยู่บ้าง แต่ผมก็รักเค้าและรับในข้อเสียของเค้าได้...........อีกทั้ง เค้าเป็นคนแรกของผม และถ้าเลือกได้ ผมไม่อยากจะมีความรักหลายๆครั้ง..........เมื่อเราเจอกับคนที่คิดว่าใช่แล้ว.........มันก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่เราจะต้องนึกอยากจะเปลี่ยนหรือมองหาคนใหม่มาแทนที่............เพื่อนผมหลายคนมองว่านัทยังไม่คู่ควรกับผมด้วยวัย และสถานะทางสังคม...........ถึงเค้าจะไม่ได้เหมาะสมกับผมมากที่สุด........แต่ผมคิดว่าคนแบบเค้าไม่ได้หาได้ง่ายนัก...........และเค้าก็ดีที่สุดแล้วสำหรับผม.........ต่อให้มีคนที่ดีกว่านัทมาให้เลือกในตอนนี้...............ผมก็จะยังคงเลือกนัทอยู่ดี.............

                         แล้วทำไมเรื่องของเรามันต้องลงเอยแบบนี้ด้วยนะ...........แถมยังเป็นการลงเอยที่รวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ติด..............ผมเคยคาดการณ์เอาไว้ว่า อย่างน้อยๆเราน่าจะเลิกกันตอนที่นัทไปทำงานในช่วงเดือนพฤษภาคม............แต่นี่มันเพิ่งจะปลายเดือนกุมภาพันธุ์เท่านั้น......เวลาของความสุขมันมักจะสั้นเสมอจริงๆ..........


                          แสงจากภายนอกหน้าต่างค่อยๆสลัวลงเรื่อยๆ.............ผมผงกหัวขึ้นจากหมอน หันมองดูสิ่งต่างๆรอบตัว..........นี่เผลอหลับไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้...............สมองของผมไม่รับรู้แม้กระทั่งความหิวหรือเวลาที่ล่วงเลยไป................ไม่คิดถึงนัท.............ไม่คิดถึงใครๆ................ภายในใจมีแต่ความว่างเปล่า............สลับกับการหมกมุ่นและจดจ่ออยู่แต่กับความทุกข์ของตัวเอง...................ผมไม่ได้รอโทรศัพท์จากนัท............ไม่ได้คิดคาดเดาอะไรทั้งสิ้น ว่าตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่...............เพราะผมคิดแต่เพียงว่า...........ทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว.............ป่วยการที่จะมานั่งรอคอยความหวัง............เพราะฉะนั้นจึงปล่อยให้ใจจมดิ่งไปสู่ภวังค์แห่งความทุกข์แต่ถ่ายเดียว..............


                         ผมสลัดผ้าห่มออกจากตัว ก่อนจะยันกายลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อรินน้ำมาดื่ม..............น้ำเย็นจากแก้วถูกเทไหลผ่านลำคอที่แห้งผาก............ผมพยายามกลืนมันลงไปด้วยความยากลำบาก..........ก่อนจะเดินโซเซกลับมานอนที่เตียงต่อ................

                        ตั๊บแก๊ๆๆ..........เสียงโทรศัพท์จากหัวเตียงดังกระชากผมให้สะดุ้งขึ้นมาจากที่นอนอีกครั้ง.............ผมค่อยๆเลื้อยตัวไปตามที่นอนเพื่อหยิบโทรศัพท์มาดูว่าใครจะเป็นเหยื่อผู้โชคร้ายในค่ำวันนี้ของผม...........มาได้เวลาเหมาะเหม็งจริงๆ..........กำลังอยากหาที่ระบายอยู่พอดี...........

                        “ฮัลโหล พี่กั้งทำอะไร”..............เป็นนัทนั่นเอง.............เค้าคงจะคิดห่วงกระมังว่าผมอาจจะคิดสั้นฆ่าตัวตายเหมือนในละครทีวี..................
                       
                        “ไม่ได้ทำอะไร นอนเพิ่งตื่น......... เก็บของเสร็จแล้วเหรอ”..............ผมยังมีแก่ใจถามไถ่เรื่องเก็บของ............บางทีนัทคงจะกลับบ้านพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้...............แต่จะกลับวันไหนก็มีค่าเท่ากัน............เพราะถึงยังไงก็กลับอยู่ดี...............

                         “ไม่ได้เก็บแล้ว.........ไม่กลับแล้ว”..............ผมสบัดหัวสองสามทีเพื่อเรียกสติที่เงื่องหงอยกลับคืนมาอีกครั้ง...............นี่ผมคงไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ยเนี่ย...........ตกลงว่านัทไม่ได้กลับแล้ว.............ดีใจที่สุดในโลกเลย...........เย๊...............คิคิ..............

                       “อ้าว ทำไมล่ะ”...........ถึงยังไงก็ยังทำเป็นข่มน้ำเสียงเอาไว้ ไม่ให้สั่นระริกจนออกนอกหน้า............ถึงเค้าจะทำความดีไถ่โทษไปแล้ว...............แต่ผมก็ยังโกรธเค้าอยู่ดี โทษฐานที่ทำให้ตกใจจนแทบสิ้นสติเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมานี้.......

                        “ขี้เกียจขนของหลายที...........อยู่นี่ดีกว่า.........ค่อยขนทีเดียวตอนไปทำงานเลย”...........เห็นมั้ย บอกแล้วก็ไม่เชื่อ............มันน่าตีนัก...........ผมไม่รู้ว่านี่เป็นการตัดสินใจของนัทเองโดยที่เค้าเอาผมไปชั่งน้ำหนักรวมกับเหตุผลอื่นๆด้วยหรือไม่...............หรืออาจจะเป็นความเห็นของที่บ้านของนัทก็ได้.................แต่จะยังไงก็ตาม............สรุปแล้วก็คือไม่กลับ...........เป็นอันแฮปปี้..........

                       “แล้วเรื่องงานล่ะ..........ยังจะหาอีกมั้ย”............ผมยังไม่นอนใจเรื่องนี้..........บางทีนัทอาจจะยังแน่วแน่กับเรื่องที่จะหางานอีกก็ได้............แต่เจอตั้งสองยกทั้งที่โรงพยาบาลกับที่คลินิก......น่าจะถอดใจไปแล้วมั้ง.............

                        “ไม่หาแล้ว...........อยู่เฉยๆให้พี่กั้งเลี้ยงดีกว่า”..........นัทไม่วายพูดติดตลก............แต่ถึงจะจริงผมก็ไม่เห็นจะสน.........แฟนคนเดียวทำไมจะเลี้ยงไม่ได้ (ถึงนัทจะกินจุเท่าคนปกติสองคนก็เถอะ).....

                         “ได้สิทำไมจะไม่ได้ล่ะ”.........ผมเออ ออ ด้วยความดีใจ..............นัทคงไม่รู้หรอกว่า.....ผมทำเพื่อเค้าได้ทุกอย่าง.........บางครั้งเรื่องผมจัดลำดับให้เรื่องของนัทมาก่อนของของผมเองด้วยซ้ำ.........นัทเคยถามผมเล่นๆว่า......

                        “พี่กั้งมาคบกับนัทแล้ว...ชีวิตพี่กั้งเปลี่ยนไปยังไงบ้าง”.............ผมทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนจะบอกว่า...........

                       “ก็ใช้เงินเปลืองขึ้น.........และก็มีเวลาทำงานน้อยลง”
                       “แป่ว” นัททำเสียงล้อเลียน..........อิอิ..........ความจริงก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก.........ถ้าเป็นเรื่องเงิน.........นัทไม่เคยขอผมใช้สักบาทเดียว...........และผมก็ไม่เคยให้เค้าด้วย.........โดยมากผมก็จะช่วยออกค่ากิน ค่าเที่ยวให้บ้างตามสมควร...........เพราะเค้ายังเด็กอยู่ ไม่มีเงินทองมาจับจ่ายอะไรมากมาย..........และผมมองแล้วว่าเค้าไม่ใช่คนที่จะอยากได้ใคร่ดีในของๆคนอื่น.........

                        ส่วนเรื่องเวลาการทำงานที่มีน้อยลง..........มันก็มาจากความปรารถนาของผมเอง.......ที่พยายามจะทำตัวว่างสำหรับนัทเสมอ..........ผมแทบจะไม่มีคำว่าไม่.............สำหรับนัท...........และด้วยทั้งสองเรื่องนี้ ผมก็ไม่เคยเอามาทวงเป็นบุญเป็นคุณอะไรกับนัททั้งสิ้น.............เพราะมันมาจากความสมัครใจของผมเองทั้งนั้น.........ตรงกันข้าม ถ้านัทไม่รับความปรารถนาดีจากผม..........ผมคงจะเสียใจมากกว่า............

                        แม้เค้าอาจจะไม่รู้ใจผมว่า คิดต่อเค้าอย่างไร..............แต่ผมก็อยากให้เค้ารู้สึกด้วยใจเองว่า เค้าเป็นทุกๆอย่างที่ผมมีในชีวิตตอนนี้............ขอเพียงแต่เค้าทำตัวดีๆให้ผมได้สบายใจบ้างก็พอ.............
                        “นัทหิวข้าวแล้ว พี่กั้งมารับหน่อย”...........สงสัยจังว่าผมมีลูกหรือแฟนกันแน่เนี่ย...........
                        “รอก่อนนะ..........เดี๋ยวพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บเดียว แล้วจะรีบออกไปรับ............เออ....แล้ววันนี้จะมานอนนี่ป่าว”........ผมยังไม่วายถามเรื่องสำคัญ.............ไม่ใช่ว่าอยากจะชวนมาทำอะไรๆหรอกนะ.........แต่อยากจะอยู่ด้วยอ่ะ........หุหุ..........ก็นอนคนเดียวมันหนาวจะตายนี่นา...........เวลาที่มีนัทมานอนด้วย.......หากผมตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วหันไปมองเห็นนัท.............ผมจะรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก..........จริงๆแล้วผมอยากให้นัทอยู่ในสายตาตลอดเวลาด้วยซ้ำไป............แต่ก็ทำไม่ได้อย่างว่า.........ดังนั้นก็ขอแค่เพียงมีเค้าในเวลานอนก็พอ.............

                          “อืม” นัทรับคำ.............ผมจึงรีบวางสายแล้วเดินไปเลือกเสื้อผ้าในตู้ออกมาลอง..........วันนี้อยากจะดูดีเป็นพิเศษหน่อยนึง............เพื่อฉลองให้กับความสมหวัง ที่ตามมากอบกู้สถานการณ์ได้ทันเวลาพอดิบพอดี...............ความรักนี้ก็แปลก มันช่างมีพลังเหลือหลาย...........จะทำให้คนเป็นก็ได้ จะทำให้คนตายก็ได้...........ที่แน่ๆ มันทำให้คนที่นอนซมอยู่เมื่อสักครู่นี้ กลับกลายเป็นคนกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ราวกับเป็นคนละคน..............แต่ถึงยังไงผมก็ยังรู้สึกดีที่ได้รักเค้า.............รู้สึกดีจริงๆ.............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2007 08:59:52 โดย moody »

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #382 เมื่อ06-08-2007 09:02:37 »

ขอโทษนะครับที่มาๆหายๆ ลักปิดลักเปิด..............เขียนทุกวันบางทีความคิดมันตัน............รู้สึกเหมือนมันขาดรายละเอียดยังไงก็ไม่รู้...............ยังไงจะพยายามมาลงให้ถี่ขึ้นนะจ้ะ...........

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #383 เมื่อ06-08-2007 09:11:35 »


ช่างเป็นเช้าวันจันทร์ที่สดใสที่สุด  วันนี้ทำงานสู้ตายยยยยยย


นัทเอ๊ย ชื่นใจจริงๆๆๆๆๆว่ะ


o13 o13 o13

 :o8: :o8: :o8:

 :m9: :m9: :m9:


yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #384 เมื่อ06-08-2007 09:23:28 »

ลุ้นโอเวอร์...............อุอุ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #385 เมื่อ06-08-2007 16:01:56 »

แล้วพี่กั๊งก็ไม่ต้องนอนหนาวคนเดียว  :a2:  :a2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #386 เมื่อ06-08-2007 19:30:00 »

ทำไมนัทเปลี่ยนใจหว่า รึจะมีวาระซ่อนเร้น  :a5:  :a5:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #387 เมื่อ07-08-2007 10:36:53 »

                         “แก..............ไอ้ตุ้ยมันจะขึ้นไปเชียงใหม่อาทิตย์หน้า..........ฉันฝากแกเทคแคร์มันหน่อยนะ”..........เดียว.......เพื่อน(เกย์)สุดที่รักของผมโทรมาฝากฝังคนที่หล่อนชอบประกาศต่อใครๆว่ารักนักรักหนา...........แม้ปากจะว่ารัก แต่ผมก็ยังเห็นหล่อนเที่ยวตลอนๆไปกับผู้ชายคนอื่นไม่เคยขาด...........ก็ไม่รู้ว่าความรักของหล่อนเป็นความรักประเภทไหนกันแน่............ไม่เข้าใจเลยจริงๆ........

                         “ถึงฉันจะไปกับคนอื่น แต่ฉันก็รักมันที่สุด”...........นี่คือเหตุผลที่เดียวยกมาแก้ต่างในยามที่ผมหาเรื่องตำหนิในนิยามคำว่ารักตุ้ยของหล่อน.............

                        “แล้วมันจะมาทำอะไรล่ะ”.....ผมถามกลับ.....อันที่จริงตุ้ยเคยขึ้นมาเชียงใหม่หนหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว..........ตอนนั้นผมไม่ได้ไปเทคแคร์อะไรมากมาย เพราะเค้ามากับเพื่อนๆ เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยซึ่งจัดโดยบัณฑิตวิทยาลัยแห่งประเทศไทย................ตกเย็น...เค้านัดผมไปทานข้าวที่ร้านแห่งหนึ่งไม่ไกลจากโรงแรมที่พักมากนัก...............ในครั้งนั้นผมพาน้องพรไปเป็นเพื่อนด้วย (เหมือนเดิมอีกแล้ว).............จึงไม่วายโดนตุ้ยค่อนขอด.............
 
                         “พามาเป็นไม้กันหมาล่ะสิ”...........หึ.........ก็แล้วยังไงล่ะ............ใครจะไปสน................


                         “เห็นว่าจะไปกับที่ทำงาน........ถ้ามันโทรหาแก.....แกก็พามันไปเที่ยวหน่อยละกัน”.........ตอนนี้ตุ้ยจบปริญญาโทแล้ว และก็ทำงานเป็นนักวิจัยต่อที่มหาวิทยาลัย...........ดูท่าทางเดียวจะเป็นห่วงเป็นใยผู้ชายคนนี้ซะเหลือเกิน.............ทั้งๆที่ความจริงหล่อนก็เลิกรากับเขามาตั้งนมนานเป็นแรมปีแล้ว...........

                         “ได้สิ.......ฉันจะคอยเทคแคร์ให้ถึงใจเลยทีเดียว”..........ผมแกล้งเน้นเสียงตรงคำว่าถึงใจเพื่อตอกย้ำถึงความลึกซึ้งในความหมาย เพราะรู้ว่าเดียวระแวงเรื่องผมกับตุ้ยมาโดยตลอดตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน.............ทั้งๆที่ความจริงนั้นไม่มีอะไรในกอไผ่อย่างที่หล่อนคอยระแวงเลยแม้เพียงกระผีกเดียว.............

                          “ก็ลองดูซิ ฉันจะได้ขึ้นไปยิงให้ตายด้วยกันทั้งคู่........ฉันไม่มีความสุขแกก็อย่าหวังว่าจะได้มีความสุข”...........หล่อนกระแทกเสียง ทำท่าเง้างอน.............ความจริงเราสองคนชอบพูดเล่นกันแบบนี้เสมอๆ...........และผมก็มองว่าเป็นเรื่องขบขันมากกว่าจะคิดจริงจัง...........ด้วยผมรู้ว่าเพื่อนย่อมต้องมาก่อนผู้ชายอยู่แล้ว...............

                         “ถ้ามันโทรมา ฉันถึงจะไป.........ถ้ามันไม่โทรก็คงแล้วแต่”..........ผมกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะวางสายไป................

                         แปลกเหลือเกินที่คราวนี้เดียวไม่เอ่ยปากขอให้ผมยกเว้นผู้ชายคนนี้อย่างที่เคยทำเหมือนครั้งก่อนๆ.................หล่อนคงเหนื่อยหน่ายที่จะพูดแล้วกระมัง..................และผมเองก็ชอบทำเป็นเล่นซะจนติดนิสัยเสียด้วยสิ...............

                          ตุ้ยเข้ามาในสารบบของผมเมื่อนานมาแล้ว..............นับตั้งแต่สมัยที่ผมเรียนปริญญาโทอยู่ที่กรุงเทพฯ..........ในตอนนั้นเดียวทำงานอยู่ที่นครปฐม...................

                         “ฉันมีแฟนแล้ว..........เค้าเรียนปริญญาโทที่ศิลปากรชื่อตุ้ย” ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เดียวจะบอกว่ามีแฟน.............หากหล่อนบอกว่าไม่มีแฟนนี่สิ จึงจะเป็นเรื่องแปลกของจริง...........

                        “ว่างๆแกมาเที่ยวนครปฐมสิ ฉันจะได้แนะนำให้รู้จัก”.............เดียวยังคงสาธยายถึงตุ้ยต่อด้วยความภาคภูมิ............ปกติหล่อนก็มักรำพึงรำพันถึงผู้ชายที่หล่อนคบว่าดีเลิศให้ฟังอยู่เสมอๆ.......เป็นที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือ เดียวจะชอบกล่าวชื่นชมผมให้บรรดาผู้ชายของหล่อนฟัง......จนเค้าอยากจะเห็นตัวจริงของผมไปตามๆกัน (แล้วหล่อนก็มาทำเป็นหึงในภายหลัง เชอะ).......ตอนนี้ผมเองก็ชักอยากจะเห็นหน้าผู้ชายที่ชื่อตุ้ยคนนี้ซะแล้วสิ ว่าจะวิเศษสักแค่ไหนกันเชียว.............ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าไปนครปฐมดีกว่า.................


                          สุดสัปดาห์ต่อมาผมก็ไปโผล่ที่นครปฐมตามที่ได้นัดหมาย (ไม่ได้จะไปแย่งของเพื่อนนะ แค่จะไปดูเฉยๆ หุหุ)...............ตกเย็น เดียวก็นัดให้ตุ้ยพาพวกเราออกไปทานข้าว และฟังเพลงท่องนครปฐมในยามราตรี.................เมื่อแรกที่พบ.........ตุ้ยไม่ใช่ผู้ชายในสเป๊กของผมเลย...........เค้าเป็นคนตัวเล็ก.......รูปร่างผอมดำแบบคนนครปฐมแท้ๆ..........แต่จะว่าไปแล้วหน้าตาของเค้าก็ดูคมคายไม่เลว...........ที่สำคัญ.......ตุ้ยมีวาจาเป็นเลิศอย่างหาตัวจับได้ยาก........จึงไม่แปลกเลยที่เดียวจะหลงจนโงหัวแทบไม่ขึ้น..........ลูกล่อลูกชนจัดว่าแพรวพราวชั้นเซียน.........พูดจาสำบัดสำนวนเชือดเฉือนบาดใจ...........และผมเองก็จัดอยู่ในจำพวกที่ชื่นชอบการต่อปากต่อคำกับผู้ชายเป็นชีวิตจิตใจซะด้วยสิ............เพราะฉะนั้นตุ้ยจึงถูกใจผมแม้จะไม่ใช่สเป็กก็ตาม........

                           ตุ้ยค่อนข้างจะแสดงออกชัดเจนว่าชื่นชอบผม..............แต่ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเพราะความพิเศษเลิศเลอเหนือคนอื่นของผมแต่อย่างใด............เค้าก็คงแค่แสดงออกตามประสาคนกะล่อน เจ้าชู้ไก่แจ้ไปตามเรื่องตามราว........อย่างไรก็ตาม นับแต่บัดนั้น เราสองคนก็ยังคงเล่นหมาหยอกไก่กันเรื่อยมา...........

                           เดียวไม่มีทางรู้ว่าที่แท้แล้วผมคิดยังไงกับตุ้ยกันแน่.............แต่ผมคิดว่าตุ้ยรู้ดีที่สุดว่าผมซื่อสัตย์ต่อเพื่อนมากแค่ไหน............จากเหตุการณ์ในครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน..........ตุ้ยคงจะได้บทเรียนสอนใจว่า........เกย์บางคนก็ไม่ได้ใจง่ายเสมอไปเหมือนอย่างที่เค้าคิด.............และผมก็จะไม่แก้ตัวกับเดียวให้เปลืองน้ำลายถึงเรื่องนี้อีกด้วย..............

                           เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดียวเลี้ยงฉลองรับปริญญามหาบัณฑิตของหล่อน.............ผมลงมาจากเชียงใหม่ (ตอนนั้นนัทยังเป็นลมเป็นแล้งที่ไหนก็ไม่รู้).............และตุ้ยก็มาจากนครปฐม.............

                             พวกเราไปดื่มฉลองกันที่ร้านแถวย่านอตก. เจ้าประจำ..............วันนั้นตุ้ยเมามาก........จากอาการผมมองว่าเค้าคงจะอกหักมาจากใครบางคน............และคิดว่าเดียวก็คงจะรู้............เพราะตอนนี้สถานะของหล่อนกับตุ้ยกลับมาคลุมเครือไม่ชัดเจนเหมือนดังในอดีต................

                           ผมเองก็ยังคงแสดงบทบาทแบบเดิมๆ..........คือเข้าไปคลอเคลียเทคแคร์ตุ้ยต่อหน้าเพื่อนสาว............ซึ่งหล่อนก็ยังคงเก็บอาการเอาไว้ไม่ไหวติง.............น่าแปลกที่เดียวมักจะโดนเพื่อนๆคนอื่นๆแกล้งทำท่าจะแย่งแฟนแบบนี้เสมอๆ..........คงเป็นเพราะหล่อนมีความสามารถกว่าใครๆกระมัง...........หล่อนสามารถจิกผู้ชายได้ไม่เคยซ้ำหน้า...........ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆเรตติ้งร่วงลงเหวไม่เป็นท่า.............การได้แกล้งทำทีว่าจะแย่งของหล่อนจึงเป็นเรื่องสนุกและท้าทายไม่น้อย.............

                          เราโซซัดโซเซกลับมานอนที่ห้องหลังจากที่เมากันจนหัวราน้ำ............เดียวแถไปนอนที่โซฟาทันทีเมื่อมาถึง.............ในขณะที่ผมกลับไปหาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดตัวให้ตุ้ย.................ทำไมผมถึงทำแบบนี้.........เป็นสิ่งที่หาคำตอบไม่ได้.............ผมลืมแม้กระทั่งจะนึกถึงจิตใจของเพื่อน ทั้งๆที่หล่อนประกาศว่ารักเค้าอยู่ปาวๆ............นี่ผมเล่นจนชักจะเลยเถิดไปแล้วหรือไร...........ผมชอบแฟนเพื่อน..........หรือว่าผมทำไปเพราะอะไร................ผมไม่รู้.......


                          เดียวออกไปทำงานแต่เช้าตรู่โดยไม่ได้ร่ำลา.........ตุ้ยไม่ยอมตื่นกลับไปพร้อมกับหล่อน...........ผมจึงถูกทิ้งไว้ที่ห้องกับเค้าเพียงลำพัง...................จวบจนตะวันลอยโด่ง...............ผมตื่นขึ้นมาจึงพบว่าตอนนี้มีแค่ผมกับตุ้ยอยู่ในห้องเพียงสองต่อสอง..........เมื่อเหลือบไปมอง ก็เห็นตุ้ยนอนมองมาที่ผมก่อนอยู่แล้ว.............หัวใจผมหล่นวูบลงทันที................นี่เป็นครั้งแรกที่เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน................หลังจากที่เล่นล่อเอาเถิดกันมาเป็นเวลานาน.............

                          “พี่กั้ง...........” ตุ้ยเรียกผมเบาๆ............บรรยากาศเริ่มชวนอึดอัด................
                          “ทำไมไม่รีบไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน..........หรือว่าจะไม่ไปแล้ว”............ผมแกล้งทำเป็นใจดีสู้เสือ...............
                           “ไม่ไปอ่ะ............ตุ้ยจะอยู่กับพี่กั้ง.............ตอนนี้มีแค่เราเพียงสองคนนะ”............ตุ้ยขยับตัวเข้ามาประชิด............ทำตาหวานเยิ้ม................อีกทั้งพยายามจะยกขามาก่าย............การได้อยู่ด้วยกันในภาวะคับขันแบบนี้ ทำให้ผมได้รู้ว่า..............ผมไม่ได้ชอบเค้าเลย...............ไม่แม้สักนิดเดียว.....

                            “จะทำอะไร............” ผมถามเหมือนคนโง่.............เป็นไงล่ะกั้ง.........เวลาอยู่ข้างนอกอยากจะทำเป็นปากดีกับเค้าดีนัก.............พอเจอของจริงถึงกับสั่นเลยหรือ.............

                           ผมพยายามหาเรื่องคุยเพื่อเรียกสติของตุ้ยคืนมา..................ก่อนที่เค้าจะคิดทำอะไรลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ.............พลันสมองผมก็สั่งงาน............ไม่มีเรื่องไหนจะทำให้เค้าหมดอารมณ์ได้ดีกว่าการแกล้งทำเป็นปรึกษาเรื่องความรัก...............

                           “เมื่อคืนไม่น่าเจอเก้งเลย...........คนเลว..........เค้าหลอกพี่มาตลอด”...........ผมแกล้งทำเป็นพล่ามถึงเก้งแฟนเก่า ที่บังเอิญโคจรมาเจอกันเมื่อคืนโดยไม่ได้นัดหมาย............

                          ได้ผลจริงๆ.............ตุ้ยพลิกตัวกลับไปนอนหงายอีกครั้ง.............ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของเค้าดังมาแผ่วเบา............

                           จากนั้นตุ้ยจึงกลายเป็นศิราณีจำเป็นให้ผมอย่างช่วยไม่ได้..............แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นไปได้เนิ่นนานอย่างที่หวัง..........หลังจากที่ผมหมดมุขจะคุยแล้ว..........ตุ้ยก็ขยับตัวเข้ามาประชิดอีกครั้ง............

                           “เรามาทำอะไรหนุกๆกันเถอะ”............เค้าเอ่ยปากชวน............อะไรที่ว่าหนุกๆ...........จะบ้าเหรอ..............ผมพยายามปัดป้องมือที่เกาะเกี่ยวของเค้าเป็นระวิง....ก่อนจะยื้อยุดค้างเอาไว้กลางอากาศเหมือนคนใช้กำลังภายในต่อสู้กัน.........

                           “ฟังนะ...........ถ้าเรามีอะไรกันแล้วความสัมพันธ์ของเราจะไม่เหมือนเดิม...........ตุ้ยอยากให้เป็นแบบนั้นเหรอ..........พี่ว่าเราเป็นพี่น้องกันก็ดีอยู่แล้วนะ”.............ผมพยายามให้เหตุผล........ไม่ใช่ว่ากลัวจะโดนปล้ำ.............แต่ผมอยากให้มันลงเอยแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นมากกว่า.........


                            เมื่อเห็นเค้านิ่งไป..........ผมจึงได้ทีว่าต่อ.........
                            “พี่อยากให้เราเป็นพี่น้องกัน..........พี่รักตุ้ยเหมือนน้องคนหนึ่ง.......อย่างต้องให้มันเปลี่ยนไปเลยนะ”................ในที่สุดตุ้ยก็ยอมแพ้..............เราจึงนอนคุยต่อกันด้วยเรื่องทั่วไป.......สักพักเค้าก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า..............

                           หลังจากที่ตุ้ยเก็บข้าวของเสร็จแล้วผมจึงเดินตามมาส่งเค้าที่ประตู.............
                           “พี่กั้งหวัดดีครับ”............ตุ้ยยกมือไหว้ผมก่อนจะบอกลา...............มันเป็นการแสดงออกที่เหนือความคาดหมาย............ถึงตอนนี้ตุ้ยคงรู้แล้วว่า แท้ที่จริงแล้วผมเป็นคนอย่างไร.............การที่เค้าไหว้ผมมันเป็นการแสดงออกถึงความยอมรับในฐานะพี่.............ทั้งๆที่เมื่อครู่เค้ายังพยายามจะเปลี่ยนให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นอย่างอื่นอยู่แท้ๆ...............

                         ผมดีใจที่เรื่องระหว่างเราสองคนจบลงอย่างสวยงาม............ความสัมพันธ์แบบพี่น้องยั่งยืนที่สุด........ถ้าเค้าไม่ได้คิดว่าจะรักผมจริงๆ...........ก็อย่าได้ทำลายความสัมพันธ์ที่ดีดังกล่าวลงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบนั่นเลย............ผมปิดประตูด้วยความรู้สึกโล่งใจ............จากวันนี้ไป ระหว่างตุ้ยกับผมถือว่าชัดเจนแล้ว...........แม้เราจะพูดเล่นกันแบบเดิมที่เคยทำ..........แต่เราสองคนต่างรู้ว่า............ระหว่างเราคืออะไร...........

                          ขณะที่ผมกำลังดื่มด่ำกับการเรียนรู้ตัวเองอยู่นั้น............เสียงเรียกจากโทรศัพท์ก็ปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์..............ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกว่าเป็นใคร.........

                         “ฮัลโหล.......ไอ้ตุ้ยกลับไปรึยัง”...........เป็นเดียวนั่นเอง............หล่อนคงไม่สบายใจนักที่ต้องทิ้งให้ผมอยู่กับตุ้ยสองต่อสองแบบนี้..............

                         “กลับไปนานแล้ว ขอบคุณนะที่ปล่อยให้ฉันกับเค้าได้มีเวลาสวีทกัน อิอิ”.......ผมยังไม่วายกระเซ๊า.............ป่านนี้ไม่รู้ว่าหล่อนจะเคืองผมไปถึงไหนต่อไหน............นี่หล่อนจะรู้น้ำใจเพื่อนของหล่อนหรือเปล่านะว่า.........เพื่อนไม่เคยคิดจะทำร้ายเพื่อนจริงๆหรอก..........เพียงแต่ชอบหยอกเล่นเพราะว่ารักเพื่อนก็เท่านั้น...........ถึงแม้จะเลยเถิดไปบ้างก็อโหสิกรรมให้เพื่อนก็แล้วกัน...........ถึงไม่มีฉัน มันก็ไปคว้าคนนั้นคนนี้ให้มั่วไปหมด.............แกอย่าได้ไปเสียดมเสียดายมันเลย...........ตอนแกตายมันก็คงหายไม่เห็นหัว...........ก็จะมีแต่เพื่อนคนนี้นี่ล่ะ ที่จะไปเผาศพแกเป็นคนแรก..........................

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #388 เมื่อ07-08-2007 12:40:37 »


ตุ้ยจะมีเรื่องมาให้ยุ่งยากมั๊ยหน๊อ    o12 o12

วันนี้ไม่มีฉากนัทเลยอ่ะ ฉากหวีตๆอ่ะไม่มีบ้างเหยอ   :m21: :m21:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #389 เมื่อ07-08-2007 19:23:45 »

ตุ้ย  :a5:  :a5: จะมีบทสำคัญมั๊ยเนี่ย  :a1:  :a1:  :a1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด