หลังจากที่ทนฟังคำรบเร้าของแมคไม่ไหว ผมจึงต้องทำทีเป็นจำใจ (ที่จริงรออยู่แล้ว) เข้าไปนั่งร่วมโต๊ะด้วยในที่สุด............ยิ่งดึก วงสนทนาก็ยิ่งสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ...............และตอนนี้ผมก็ชักจะรู้สึกตึงๆขึ้นมาหน่อยๆแล้ว............แมคเป็นคนคุยเก่งไม่เบา ชอบทำทีเป็นหมาหยอกไก่ แต่ถึงยังไงเค้าก็ทำได้ไม่มากไปกว่านี้หรอก เพราะว่าผมวางตัวดีพอสมควร ถ้าขืนเค้ามาทำรุ่มร่าม ผมก็ไม่เล่นด้วยหรอกนะ ใครจะว่าผมเล่นตัว ทั้งที่ไม่มีดีจะให้เล่นก็ตาม แต่ผมก็เป็นแบบนี้ล่ะ ถ้าคิดจะคบกันต้องรู้จักให้เกียรติกัน อย่าคิดว่ามีไอ้นั่น แล้วเกย์ทุกคนจะต้องถลาเข้าไปศิโรราบ คนอื่นจะยังไงนั้นไม่รู้ แต่ยกเว้นผมคนหนึ่งก็แล้วกัน.............
ระหว่างการสนทนา และดื่มกิน ผมคอยสังเกตพฤติกรรมของแมคไปพลางๆ ..........ผมจึงได้ข้อสรุปว่า เค้าไม่กล้าเอาจริงหรอก.................ก็จะให้เอาจริงได้ยังไงล่ะ ก็นี่มันวงเหล้าของทหารเรือนี่นา.............ขืนมาทำท่าจิ๊จ้ะจนออกนอกหน้า คงไม่แคล้วโดนเพื่อนๆหาว่าเป็นเกย์เป็นแต๋วไปแน่ๆ............พลอยจะทำให้เสื่อมเสียเกียติภูมิของชายชาติทหารกันพอดี...........
แต่โดยรวมก็ถือว่าเค้าเทคแคร์ผมได้ค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว............คอยรินเหล้า เติมน้ำแข็ง..........ชวนคุยนั่นนี่..............แต่เนื่องจากผมได้ปวารณาตัวที่จะช่วยจิกแมคให้ลิลลี่ตั้งแต่แรกแล้ว..........จึงจำเป็นต้องเก็บงำความพึงพอใจเอาไว้ไม่ให้บานทะโร่ออกมาทางสีหน้า............ขืนมากลับคำเปลี่ยนใจตอนนี้ มีหวังได้โดนหล่อนประนามไม่จบสิ้น............
“อยากไปดูหมอลำจัง ได้ข่าวว่าเค้ามาแสดงที่หมู่บ้านข้างๆนี้เอง”...........ลิลลี่ว่าพลางกระพือขนตาถี่ๆ........กวาดสายตาทอดสะพานแก่บรรดาหนุ่มๆ เผื่อจะมีใครอาสาพาหล่อนไปดูหมอลำอย่างที่ปรารภเอาไว้บ้าง...............
“น่าสนุกดีเหมือนกันนะครับ แต่ว่าไปรถคุณกั้งได้ป่าว”................แมคหลิ่วตาล้อเลียนมาทางผม โดยใช้คำพูดเชิงหมาหยอกไก่เหมือนเดิม..........คิดจะเอาเราเป็นกันชนล่ะสิ...............ผมแอบคิดในใจ.............ไม่มีวันจะหลงกลเสียล่ะ.............
“ก็ซ้อนมอเตอร์ไซด์กันไปเองสิ ใกล้ๆแค่นี้เอง”............ผมเสนอทางออกให้ทั้งสองคน..............เมื่อพูดถึงการเดินทาง ในใจผมก็เริ่มจะพะวงถึงนัทมากขึ้นเรื่อยๆ..............ป่านนี้จะหิวหรือเปล่าก็ไม่รู้..............ถึงแม้ว่าแมคจะดูน่าสนใจเนื่องจากเป็นของเล่นชิ้นใหม่ แต่สำหรับคนที่มีโอกาสได้รู้จักกันแค่ชั่วข้ามคืนแบบนี้ คงจะหาความแน่นอนอะไรได้ยาก...........พรุ่งนี้ผมกับเค้าก็ต้องไปกันคนละทางแล้ว.............ผมไม่นิยมความสัมพันธ์ชั่วคราวแบบนั้น..............อีกทั้งธรรมชาติคนเรา พอเหล้าได้เข้าปากไปแล้ว อะไรๆก็ดูเหมือนจะดีจะง่ายไปเสียหมด.............ถ้าอยากรู้ว่า ที่เค้าทำท่าชื่นชมในคืนนี้เป็นจริงอย่างที่พูดหรือไม่ ก็ลองรอให้ถึงพรุ่งนี้ดูก่อนสิ...............พอเจอหน้ากันอีกที ขี้คร้านแต่จะทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น............ผู้ชายก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นแหล่ะ................พอเหล้าเข้าปากความยากก็ไม่มี.........
“แก.........ฉันต้องกลับแล้วนะ........แฟนฉันรอกินข้าวอยู่”...............ผมสะกิดบอกลิลลี่.........ตอนนี้พวกเราก็ช่วยให้หล่อนได้มีโอกาสมานั่งร่วมโต๊ะกับพวกผู้ชายแล้ว..............ถึงเวลาที่หล่อนจะต้องดำเนินการต่อเอาเองบ้าง............ผมจะกลับไปหานัทที่ห้องดีกว่า............คุยกะผู้ชายพวกนี้ไปทั้งคืน ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะก็รู้ๆกันอยู่ว่า มันก็แค่ขำขำ...............
“แกจะรีบไปไหน อยู่ช่วยฉันก่อนซี่”...............ลิลลี่หันมาหยิกผมที่ต้นขา............พลางถลึงตาทำเสียงขู่รอดไรฟัน...............
“ไม่ได้แฟนฉันรออยู่ ป่านนี้หิวข้าวแย่แล้ว”................ผมให้เหตุผลกับหล่อน.........อีกทั้งวันนี้ก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว.............ผมอยากพักผ่อนมากกว่า...............ต่อให้เอาผู้ชายหล่อกว่าแมคเป็นสิบเท่ามายืนอยู่ตรงหน้า ผมก็ไม่ยอมอดนอนอยู่ต่อหรอก...............
“ไม่รู้ว่าจะเอามาด้วยทำไม.........ยุ่งยาก”.......ลิลลี่บ่นอุบ ทำท่าทางกระฟัดกระเฟียด................แต่ใจผมไม่อยู่แล้ว................หล่อนต้องจัดการต่อเอาเอง...................
ในที่สุดลิลลี่ก็ยอมให้พวกเรากลับจนได้........เราสามคนจึงร่ำลาบรรดาเพื่อนเจ้าบ่าว รวมถึงลิลลี่และปิ๋ม ก่อนที่จะรีบบึ่งรถออกมาอย่างรวดเร็ว.............รู้สึกมึนๆแฮะ.............แต่ไม่เป็นไร แบบก็ดีเหมือนกัน .............ทำให้รู้สึกเซ็กซี่ขึ้นมาเป็นกองเลย........อิอิ...........
หากเดินทางได้เร็วอย่างใจคิด ป่านนี้ผมคงกลับถึงห้องไปนานนมแล้ว................เหลืออีกแค่โค้งหน้าก็จะถึงที่พักแล้ว............ผมเหลือบมองนาฬิกา...........เข็มของมันชี้บอกเวลาห้าทุ่มกว่า..............นัทต้องโกรธแน่ๆเลย......................แต่แปลกที่ไม่ยักกะโทรมาตามแฮะ..........เป็นไปได้ยังไง....................
ยังไม่ทันที่ความคิดของผมจะจบลง............เสียงโทรศัพท์ก็ดังแว่วมาจากกระเป๋ากางเกง............ผมควานมือเข้าไปล้วงออกมาอย่างทุลักทุเล................ตายยากจริงๆเพิ่งนึกถึงเมื่อกี้เอง............
“ฮะโหล ถึงไหนแล้ว...........” ..............น้ำเสียงของนัทไม่ได้ดูโมโหแต่อย่างใด ทำเอาใจผมชื้นขึ้นมาเป็นกอง.............
“เลี้ยวโค้งหน้าก็ถึงแล้ว...........หิวข้าวหรือเปล่า”............ผมถามกลบเกลื่อนความผิดที่มาช้า อีกทั้งในใจก็รู้ดีว่าช้าเพราะเหตุผลอื่นด้วย.............
“นัทกินขนมอิ่มแล้ว งั้นแค่นี้นะ”...........นัทตัดบทวางสายไป...............เฮ้อ...........โล่งอกไปที..........บทจะทำตัวดีไม่เรื่องมาก ก็ดีเกินคาด...........ผมซะอีกที่มัวแต่เถลไถลไม่รู้จักเวล่ำเวลา.........
เดียวกับพี่แดนแยกเข้าห้องนอนไปแล้ว.............ผมจึงเดินโซเซมาเคาะประตูห้อง..........นัทยิ้มร่า ถลาออกมาเปิดประตูท่าทางดีใจ..............คงเหงาล่ะซี..........ผมแอบนึกขำอยู่ในใจ........รู้สึกผิดหน่อยๆที่ทิ้งเค้าไว้คนเดียวตั้งนาน............
“อ่ะ..........เอาของกินมาฝาก”.............ผมยื่นถุงของกินให้ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อที่จะไปอาบน้ำ...........นัทเปิดถุงออกดู แล้ววางไว้ที่โต๊ะ..............ก่อนจะกลับไปนั่งดูทีวีต่อเหมือนเดิม..............สงสัยจะไม่หิวจริงๆ............ผมรู้สึกผิดน้อยลงหน่อยหนึ่ง..........
ขณะที่ผมกำลังฮัมเพลง อาบน้ำอย่างสบายอารมณ์อยู่นั้น นัทก็เปิดประตูผลัวะเข้ามาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เล่นเอาผมตกใจสะดุ้งโหยง................
“มีอะไร ปิดประตูสิ คนกำลังอาบน้ำไม่เห็นเหรอ”..............พิลึกคนจริงๆ........บางทีก็ชอบมาแอบดูผมฉี่...............คราวนี้ก็มาแอบดูผมอาบน้ำ...............ท่าทางจะโรคจิต............
นัทยิ้มแป้นไม่ว่าอะไร ก่อนจะเดินกลับออกไป...............ผมมีลางสังหรณ์แปลกๆ..............ท่าทางคึกคักแบบนี้ สงสัยจะมีอารมณ์ขึ้นมาล่ะสิ...........นานๆจะเห็นนัทมีความต้องการแบบนี้ที........ปกติต้องให้ผมคอยเป็นฝ่ายกระตุ้นอยู่เรื่อย จนพักหลังมาผมชักเริ่มเบื่อ อยากทำก็ทำไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ...........
ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ คว้ากางเกงขาสั้นมาใส่ลวกๆแล้ว ล้มตัวลงนอน.........นัทหันมามองท่าทางกระดี๊กระด๊าผิดสังเกตุ..........
“จะนอนแล้วเหรอ งั้นปิดไปนะ”...........นัทหันมาถาม.........ผมจึงพยักหน้า แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม
นัทเดินไปปิดไปแล้วกลับขึ้นมานอนบนเตียง............ผมพลิกตัวหันไปมองเห็นเค้านอนจ้องอยู่ท่าทางแปลกๆ.............
“อะไร”.............ยังไม่ทันที่จะพูดจบนัทก็โถมตัวเข้ามาจูบอย่างรวดเร็ว..................เป็นไรไปเนี่ย วันนี้ดูเร่าร้อนผิดปกติ สงสัยจะผิดที่กระมัง...............ผมจูบตอบทั้งที่ ยังงงๆอยู่..................
นัทขึ้นมานั่งคร่อมบนลำตัวแล้วลงมือถอดกางเกงผมออกอย่างรวดเร็ว..............ผมแปลกใจกับพฤติกรรมของเค้าจนตั้งรับแทบไม่ทัน...............แต่อีกใจก็รู้สึกสนุกขึ้นมาหน่อยๆ............เค้าคึกแบบนี้แล้วทำให้ผมพลอยรู้สึกคึกคักตามไปด้วย..............
จวบจนเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง หลังจากเสร็จกิจ นัทก็ลงไปนอนแผ่หมดเรี่ยวแรงอยู่ข้างๆ........ก่อนหน้านี้เค้าพยายามจะช่วยให้ผมสำเร็จตามไปด้วย แต่ไม่สำเร็จจึงยอมแพ้ไป...............และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเป็นแบบนี้.................และทุกครั้งผมมักจะพูดว่า ช่างเถอะ............ไม่เป็นไร.............ผมถือว่าผมแค่ทำตามหน้าที่ก็พอ...........เนื่องจากผมรู้ดีว่าอารมณ์ปรารถนาของผมนั้นอยู่ลึกมาก จนใครก็เข้ามาไม่ถึง..............เนื่องจากผมยังก้าวข้ามความละอายออกมาไม่ได้............ผมรู้สึกว่าความต้องการทางเพศเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ไม่สามารถแชร์กับใครได้...........แต่ผมก็ยินดีที่จะช่วยให้คนรักมีความสุข.................ส่วนความต้องการของผมนั้น ขอเก็บเอาไว้ในมุมส่วนตัวคนเดียวดีกว่า................บางทีผมอาจจะยังไม่พบคนที่จะสามารถไขกุญแจเข้ามาสู่ห้องแห่งความลับนี้ก็ได้.............
นัทหันหลังกลับไปนอน โดยทิ้งผมเอาไว้ในสภาพเปลือยเปล่าเช่นเดิม................คืนนี้ผมมีความต้องการที่จะถึงจุดสุดยอด เนื่องจากมีแรงขับบางอย่างอยู่ภายในใจมาตั้งแต่ตอนหัวค่ำ.......................ผมจึงละทิ้งความอาย เพื่อพาตัวเองไปให้ถึงจุดแห่งความสุขต่อตามลำพัง...............ในขณะที่ผมกำลังหลับตาปล่อยใจให้ล่องลอยไปนั้น....................ผมจินตนาการไปถึงแมค.............คิดถึงแววตาคู่นั้น......... และก็รอยยิ้มที่แสนหวานของเค้า.................คืนนี้ผมก็จะขอมีความสุขโดยมีแมคเป็นผู้นำทาง..............สักครั้ง..........ผมไม่รู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น............เพราะระหว่างผมกับแมคไม่มีทางเป็นไปได้ในชีวิตจริงอยู่แล้ว.............แมคไม่ใช่ในผู้ชายในแบบที่ผมต้องการ...........ไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่ผมอยากจะรัก.............แต่เค้าสามารถกระตุ้นความอยากในกามราคะของผมขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์.............ผมจึงแค่อยากมีเซ็กส์กับเค้าในจินตนาการ..............ก็เท่านั้นเอง.......................
เป็นอย่างที่ผมคาดเอาไว้ไม่มีผิด..............พอหมดฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้ว รุ่งเช้าขึ้นมา นายแมคก็กลายเป็นแมวเซื่องๆที่ไม่มีพิษสงตัวหนึ่ง.................................
“เป็นไงบ้างล่ะเมื่อคืน”..............ผมแอบกระซิบถามลิลลี่เมื่อเรามานั่งล้อมวงรอบๆพานบายศรีพร้อมกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว และแขกคนอื่นๆ.................
“จะมีอะไร............พอพวกแกกลับ ฉันก็นั่งต่อกับพวกเค้าจนดึกดื่น...........พอเมาแล้วเค้าก็แยกกันไปนอน ไม่เห็นจะมีใครเก่งอย่างปากว่าสักคน”..............ลิลลี่เบะปาก แสดงท่าขัดใจ.................ก็บอกแล้ว ว่าพวกผู้ชายพวกนี้ เค้าไม่กล้าเอาจริงหรอก.............เสียเวลาเปล่า............
“แต่แมคเค้าก็น่ารักดีนะ ฉันเองก็อยากได้อยู่เหมือนกัน”.............ผมเผยความในใจทีเล่นทีจริงกับลิลลี่..........หล่อนจึงทำท่าค้อนปะหลับปะเหลือก............ระหว่างที่เราสองคนหัวเราะกันนั้น.........พลันสายตาผมก็หันไปปะทะเข้ากับพี่แดนอย่างจัง.........อีตาปลาบู่นี่มาแอบนั่งฟังเราคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย............เค้ายิ่งมองผมในแง่ลบอยู่ด้วย.............เวรกรรม...........
หลังจากผูกแขนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราจึงมานั่งล้อมวงกินข้าวคุยเรื่องสัพเพเหระกันต่อ.............เดียวถือถาดของกินเข้ามานั่งใกล้ๆ..................
“พี่แดนเค้านินทาแกว่า ทำเป็นบอกว่าจะจีบให้เพื่อน ที่แท้ก็จะเอาเอง............เมื่อคืนแฟนตัวเองนอนรออยู่ที่ห้องแทนที่จะรีบกลับ.............มัวแต่มานั่งคุยกะผู้ชายจนดึกดื่น”...............ผมนึกขำในคำพูดของหล่อน.........กะแล้วไม่มีผิด..............อีตานี่เค้าชอบมองผมในแง่ร้ายอยู่แล้วนี่.........อยากจะคิดยังไงก็เชิญ ผมไม่สนหรอก................
“เหรอ............แล้วเค้าเป็นอะไรไปล่ะ เห็นทำหน้าบึ้งอยู่ได้”...............ผมหยักไหล่............ก่อนจะถามไถ่ไปเรื่อยเปื่อยตัดรำคาญ................
“ก็จะเป็นอะไรล่ะ..........เมื่อคืนฉันไม่ยอมมีอะไรกะเค้าน่ะสิ เค้าถึงได้อารมณ์บูดไงล่ะ”...........อ๋อ........เป็นแบบนี้นี่เอง..............เมื่อคืนเมียไม่ให้เอา เลยพาลมาจับผิดชาวบ้านเค้าไปทั่ว.............ท่าจะประสาท.........
“แกนี่ก็เหลือเกิน..........ไม่รักไม่ชอบแล้วพาเค้ามาทำไม”............ผมต่อว่าหล่อน.............พลางนึกในใจว่า..............แกอย่ามามุสากับฉันเลย...............พอคล้อยหลังเข้าห้องนอนปิดประตูไปแล้ว กลัวแต่จะอ้าขาผวาปีกใส่เค้าแทบไม่ทันละมากกว่า..............นี่คงเห็นว่าเพื่อนติว่าเค้าไม่หล่อน่ะสิ ถึงได้ทำท่าไม่มีเยื่อใยกับเค้าแบบนั้น..................ก็นังเดียวน่ะ ขึ้นชื่อเรื่องชอบหาแฟนมาอวดเพื่อนๆจะตาย.............ถ้าทำให้เพื่อนอิจฉาได้ล่ะก็ หล่อนจะหน้าบานเท่ากระด้งไปอีกหลายวันเลยทีเดียว..............บางทีหายไปกับผู้ชายทั้งคืน พอกลับมาถึง ก็จะมาคุยโวถึงความร่ำรวยของเค้าเป็นคุ้งเป็นแคว..............
“รวยแล้วไง.............มันเอามาแบ่งให้แกใช้ด้วยหรือยังไง”................ผมมักจะเบรกหล่อนแบบนี้เสมอๆ..............อย่าว่าแต่รวยเล้ย............ขอแค่หาคนจริงใจให้ได้สักคนเถอะ............เพราะสมัยนี้มันหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก..............ผมไม่ชอบเลยที่เพื่อนชอบไปหลงใหลกับเปลือกนอกของคนอื่นแบบนั้น..............
ตะวันลอยโด่งขึ้นเหนือยอดไม้ล่วงไปนานพอสมควรแล้ว................แดดเริ่มทวีความร้อนขึ้นเรื่อยๆ.............แขกในงานทยอยกันกลับจนหมดเกลี้ยงแล้ว...............เหลือแต่กลุ่มเรา และหนุ่มๆทหารเรือเป็นกลุ่มสุดท้ายเท่านั้น...............ผมไม่ได้สนทนากับแมคอีกเลย...........เนื่องจากการอยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก จำเป็นต้องสงวนท่าที...............จึงได้แต่เพียงคอยสังเกตอยู่เงียบๆ...........ความประทับใจแค่ชั่วข้ามคืนของผมจึงจบสิ้นลงพร้อมกับการจากไปของกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าว............ทีนี้ก็เหลือแต่ผมกับนัทซึ่งตอนนี้กำลังเก็บของรออยู่ที่ห้องพักเท่านั้นที่จะเดินทางต่อเพื่อกลับไปยังเชียงใหม่..............ระยะเวลาอีกสิบห้าชั่วโมงที่เหลือนี้............เราจะได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันบนรถเพียงลำพังสองคนโดยที่ไม่มีใครสามารถเดินหนีใครได้...........ปกตินัทมักจะเปิดความในในกับผมเวลานั่งรถไปไหนด้วยกันไกลๆเสมอ.............การเดินทางกลับในครั้งนี้ ผมจะได้เรียนรู้ตัวตนของเค้ามากขึ้นหรือเปล่าหนอ..............