Title : จอมไตรซีรี่ส์-คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ
Chapter : 27"กลอน นั่งเหม่อเชียว"
พี่เอนี่เองครับ มาทำอะไรที่นี้ล่ะเนี่ย อ้อ คงมาหาคุณไม้
"คุณไม้อยู่ข้างในครับ"
"อืม"
พี่เอเดินผ่านเข้าไป แต่เข้าไปได้ไม่ถึงนาทีก็ออกมา
"นี่กลอน มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทะเลาะกันหรือ"
ผมก้มหน้า จะเรียกว่าทะเลาะได้ไหมนะ ผมไม่ได้โวยวาย คุณไม้ก็ไม่ได้โวยวาย ก็แค่ ไม่ลงรอยกันนิดหน่อย
"มานี่เลย"
พี่เอดึงแขนผมให้ลุกออกจากเก้าอี้
"แต่...งานผม"
"ช่างมันเถอะมานี่"
อ่า พี่เอนี่ก็เป็นคนในตระกูลจอมไตรรึเปล่านะ ที่ลากผมออกมาในเวลางานแล้วพูดว่าช่างมันได้เนี่ย
ที่ๆพี่เอพามาคือร้านกาแฟไม่ไกลจากบริษัทนัก
"ไหนบอกมาสิว่ามีเรื่องอะไรกัน"
ผมก้มหน้านิ่ง ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
"พี่เอมาหาคุณไม้ มีอะไรรึเปล่าครับ"
ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง
"ว่าจะมาชวนไปกินข้าวเย็น แต่ช่างมันก่อน"
แต่พี่เอเขาไม่หลงกลผมหรอกครับ พอผมไม่พูด พี่เอก็ไม่พูด ต่างคนก็ต่างเงียบ ผมกำลังเรียบเรียงคำพูด พี่เอเขาก็นิ่งรอฟัง ไม่ได้เร่งอะไร
"คือคุณนรี กับพ่อเขามา"
ผมค่อยๆพูด กำลังนึกว่าปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้นมันอยู่ตรงไหน เริ่มจากที่ไหน
"เหมือนจะมาขอร้องเรื่องบริษัทกับคดีความ"
พี่เอวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะอย่างแรง
"จะมากไปแล้ว"
ผมได้แต่นิ่ง ตกใจครับ ยังไม่ทันได้เล่าอะไรให้ฟังเลย ทำไมพี่เอถึงโมโหแล้วล่ะ
"กล้ามากเลยนะ ใครจะไปยอมกัน นึกว่าจะยอมจบง่ายๆงั้นหรือ"
อ้าว นี่ก็พลอยเป็นไปกับเขาด้วย เห็นทีผมคงต้องไปเช็คชื่อกับนามสกุลพี่เอดูสักทีแล้ว่า เป็นจอมไตรรึเปล่า
"บริษัทน่ะ ก็เห็นใจอยู่หรอก เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจะเดือดร้อนกันหลายคน แต่ว่าเรื่องคดี ไม่มีทาง ........อ๊ะ!?"
ดูเหมือนพี่เอจะเริ่มคิดได้ ว่าอยู่ๆก็โวยวายขึ้นมา ในขณะที่ผมยังพูดไม่จบ
"โทษทีโมโหไปหน่อย แล้วมันเกี่ยวอะไรกันล่ะ"
ผมชักหวั่นๆ จะเล่าให้เขาฟังดีไหม ก็ถ้าพูดไป พี่เอคงเข้าข้างคุณไม้อยู่แล้ว แต่พอเห็นว่าพี่เอสงบลง กลับสู่การควบคุมตัวเองได้เหมือนปกติ ผมก็เอ่ยช้าๆ
"คือ คุณไม้เขาก็ว่าเหมือนพี่เอเนี่ยแหละครับ"
"อืม"
ขานรับด้วยท่าทางสบายๆ ต่างจากตอนโมโหเมื่อครู่ลิบลับ ผมชักสงสัยว่าปุ่มเปลี่ยนอารมณ์พี่เขาอยู่ตรงไหน ทำไมมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาง่ายจัง
"แต่ผมคิดว่ามันเกินไป เลยทำท่าทางให้รู้ว่าผมไม่เห็นด้วย คุณไม้เลยอารมณ์เสียน่ะครับ"
"หา!"
"ก็เขาน่าสงสารเขาออกนะครับ"
พี่เอส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
"คำว่าน่าสงสารเราใช้กับคนที่สำนึกได้เท่านั้นนะกลอน"
"แต่...."
"นรีเขาไม่ได้สำนึกเลยนะ ก่อนที่จอมไตรจะเข้าซื้อหุ้นของธราลัย หุ้นราคาตกมากใช่ไหมล่ะ ทางโน้นก็รู้ว่าเป็นเพราะจอมไตรปั่นหุ้น แต่สิ่งที่นรีทำไม่ใช่การเข้ามาขอโทษ เขากลับโทรไปบอกให้มือปืนมาทำร้ายกลอนอีก นี่เป็นเหตุผลที่ไม่มีใครคัดค้านตอนที่นายไม้ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นธราลัยทั้งหมด แล้วกลอนยังคิดว่าไม้ทำเกินไปอยู่หรือ "
ไม่จริงน่า ทั้งๆที่รู้ถึงผลการกระทำของตัวเองว่ามันทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนไปด้วยตั้งมากมาย แทนที่จะสำนึกได้ กลับคิดจะทำผิดอีกงั้นหรือ ผมนึกถึงแววตาที่ยายนรีมองผมตอนพูดขอโทษ ใช่....มันไม่ใช่แววตาของคนที่สำนึกแล้ว แต่เป็นแววตาของคนที่ยังคิดแค้น เมื่อก่อนผมเองก็เคยคิดบ่อยๆว่าถ้าแค่ขอโทษก็ได้รับการให้อภัย แล้วกฎหมายจะมีไว้ทำไม มีคนที่เอ่ยคำว่าขอโทษทั้งที่ไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆอยู่ และคิดที่จะทำผิดซ้ำอีก จึงต้องมีกฎหมายเพื่อลงโทษคนเหล่านั้นให้หลาบจำ จะได้เกรงกลัว ไม่ทำผิดอีก
แล้วผมล่ะทำอะไรลงไป ผมต่อว่าคนที่เขาทำเพื่อผม ถึงแม้เขาจะทำไปเพราะความรับผิดชอบหรืออะไรก็ตาม เขาก็คอยปกป้องผม เรียกร้องความยุติธรรมให้ผม ผมที่ต่อว่าเขาไปแบบนั้นมันเหมือนกับพอเขาทำดีด้วยหน่อยก็ชักเหลิง ไม่สนใจความดีนั้น แล้วยังได้เที่ยวไปเห็นใจคนอื่น ปกติผมไม่ใช่คนแบบนี้ ชักจะเหมือนนางเอกละครไปทุกทีล่ะผม พอคิดได้ผมก็ชักเริ่มรู้สึกผิด
"เรื่องบริษัทน่ะ ไฟเขาจัดการแล้ว ก็คงไม่ทำอะไรร้ายแรงหรอก เพราะไฟเขานับถือพ่อของนรีอยู่มากเชียว"
พี่เอพูดแล้วส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้ผม
"พี่รู้ว่าเราสองคนชอบเถียงกัน ทะเลาะกัน"
อ้าว พี่เอพูดผิดแล้วครับ ผมไม่ได้ชอบสักหน่อย
“มีเรื่องอะไรก็ผิดใจกันได้ตลอด แต่ว่านะกลอน ไม้เขาไม่ได้เกลียดกลอนหรอกนะ"
ผมนิ่งไป เรื่องนั้นผมก็รู้ ทำไมผมจะไม่รู้ คุณไม้ชอบดุว่าผม ชอบพูดแรงๆ ชอบใช้กำลังกับผมก็จริงแต่ก็ไม่เคยหวังร้าย ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะผมไปทำอะไรยั่วโมโหเขาเข้า ถึงบางทีจะดูไม่มีเหตุผล บางทีดูเหมือนคุณไม้ทำเกินไป ถึงคุณไม้จะไม่ได้รักผม อาจจะไม่ชอบหน้าด้วยซ้ำ แต่ผมก็มั่นใจว่าเขาไม่ได้เกลียดผมแน่ๆ
.....................
.....TBC............--------------------------------------------------------
ที่มาอัพตอนกลางวันได้ เพราะวันนี้ไม่มีเรียนค่ะ
มาอัพก่อนไปทำบุญ เผื่อจะได้บุญเพิ่ง