86
#
“........................”
“เพราะอิฐเหรอ?” มันตั้งท่าจะโทษตัวเองอีกแล้ว... กูเก็กซิม
“ให้อิฐไปคุยกับลุงธีใหม่นะ ไปบอกลุงธีว่าอิฐไม่ได้คบเพราะเงินพี่อ่ะ ตอนนี้อิฐกับแม่ก็กำลังรวบรวมเงินคืนให้อยู่ ไม่ได้ชักดาบ แล้วก็......”
“เออ กูเข้าใจ” ต้องยกมือเบรคว่ะ เดี๋ยวยาว พูดแล้วมันจะยิ่งรู้สึกแย่ไปกันใหญ่
“อย่าไปคุย พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก อย่างพ่อกูอ่ะ ต้องเห็นเป็นรูปธรรมเท่านั้น... กูตัดสินใจแล้ว ในเมื่อเค้าไม่เชื่อว่าเรารักกัน กูก็ขี้เกียจอธิบาย จะทำอะไรก็เรื่องของเค้า ไม่มีอะไรติดค้าง ไม่ต้องอาศัยใบบุญพ่อ เนี่ยล่ะ แฮปปี้เอนดิ้ง” ไม่มีอะไรจะจบสวยไปกว่ากูได้อยู่กับอิฐแบบไม่มีมารผจญอีกแล้ว เหอะๆ
“.....แล้วพี่ จะทำยังไงต่อไป?”
“กูก็หางานใหม่ดิ” ต้องรีบหา รีบทำ ไม่งั้น ไม่มีกิน...
“งั้น... อิฐทำงานเพิ่มด้วยดีป่ะ?” ตอนนี้มันทำพาร์ททามเกี่ยวกับเรื่องวาดๆ เขียนๆ อยู่ แต่งานไม่ได้มีบ่อย กูเลยให้ทำได้ (บ้าง)
“ไม่ต้องหรอก ทำตัวปกติอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว”
“แต่...”
“อย่าทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนเพราะคนอื่น ถ้ามึงทำอย่างนั้น แสดงว่ากูห่วย ไม่เอาไหน เรื่องมันเล็กแค่นี้เองอิฐ เหมือนเจอมดกัดแหล่ะว่ะ แสบๆ คันๆ นิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย...” เปรียบพ่อกูเป็นมดไปซะงั้น มดที่วันๆ ทำแต่งาน บ้าอุดมการณ์ แถมยังนับถือฮีทเล่ออีกต่างหาก
กูพูดไปอย่างงั้น แต่หน้าอิฐยังติดเศร้าเยอะเกิน แมร่งจ๋อยได้อีกว่ะ
“ยิ้มเร็ว.... กูไม่มีกำลังใจนะเว้ย”
“.....................” อิฐฉีกปากแต่ได้แค่เส้นตรงแบบฝืนๆ
“ได้แค่นี้เหรอวะ?” กูเลิกคิ้วถามเบื่อๆ อิฐมันเลยฉีกยิ้มจริงๆ ละคราวนี้
“ดีมาก” กูขยี้หัวมัน แล้วดึงมือให้ลุกขึ้น “ปะ กลับกัน”
#
ขากลับนั่งยูโรว่ะ... ค่อยยังชั่วได้แป้บนึง ก็ต้องต่อรถเมล์แอร์...pollution แล้วก็มอไซต์รับจ้าง...
แม่งเอ๊ย กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ปาไปทุ่มกว่า นรกสัสๆ... ไม่มีรถทำไมมันลำบากหยั่งงี้วะเนี่ย
“เดี๋ยวอิฐหุงข้าวก่อนนะ พี่ต้านไปอาบน้ำก่อนดิ”
“อืม เดี๋ยวกูมาช่วย” ไม่ไหวว่ะ เจอความเหนื่อยกับความร้อนดูดพลังชีวิตเกือบทั้งวัน ไม่อยากจะนึกสภาพถ้าตัวกูต้องเจออะไรแบบนี้ต่อไปเลยว่ะ
เออ ช่างแมร่ง.... ต้องรอดดิวะ
กูอาบน้ำแบบเร็วๆ เสร็จก็มาช่วยอิฐทำกับข้าว
“ไม่ต้องก็ได้พี่ เดี๋ยวอิฐทำเอง” มันคงเห็นความอนาถของผักที่กูหั่นแล้ว เลยต้องไล่ทางอ้อมแบบนี้
“ก็กูจะทำ..” กูไม่อยากให้มันเหนื่อยคนเดียว ถึงเรื่องทำกับข้าวกูจะกินแรงมาตลอด แต่คราวนี้กูจะไม่อู้อีกแล้ว
“........อ่า ก็ได้ เดี๋ยวค่อยๆ หั่นไปคงดีขึ้น”
อาหารเย็นมื้อนี้โคตรอร่อยเลยว่ะ ไม่ใช่เพราะกูช่วยอิฐทำหรอก แต่กูหิวสัสส
กินเสร็จกูก็ขออิฐล้างจาน เรื่องเล็กๆ แบบนี้ ถ้ากูทำไม่ได้ อย่างอื่นแม่งก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรกันแล้ว
RRRRR
“พี่เนตรโทรมา” อิฐเดินไปหยิบมือถือมายื่นให้กู.... เหอะ ได้ยินชื่อคนโทรก็ฟันธงได้เลยว่ามันจะต้องวีน
“อะไร?” กูรับสายเบื่อๆ
“ทำแบบนี้ทำไมต้าน?”
“แบบนี้แล้วไง ถ้าจะด่า ไปด่าต้นไม้โน่น ขี้เกียจฟัง”
“แกทำแบบนี้แม่ไม่สบายใจนะ”
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปหางานใหม่ทำ บ้านมีอยู่ ข้าวมีกิน เมียก็ดูแลอยู่ ไม่เห็นมีอะไรต้องเครียด”
“นี่ฟังนะ ชั้นรู้เรื่องหมดแล้ว ทำไมแกถึงไม่ยอมๆ พ่อไปก่อน ไม่เห็นต้องประชดด้วยการทำแบบนี้ มันไม่ฉลาดเลยนะไอ้ต้าน..” เออ กูโง่ และกูก็ไม่ได้ประชดเว้ย พ่อรู้นิสัยกู เค้าเลยบีบให้กูเป็นแบบนี้
“... จะยังไงก็ช่างเถอะ ต้านหาเลี้ยงตัวเองได้ ฝากบอกพ่อด้วยว่าขอบคุณสำหรับทุกเรื่อง ถ้ามีโอกาส ซักวันพ่อคงเห็นว่าต้านกับอิฐไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิด”
กูเข้าใจและไม่โกรธที่พ่อหวังดี ผู้ใหญ่จะระแวงไม่ใช่เรื่องแปลก อิฐมันเคยเป็นเด็กขาย แถมกูยังเคยให้เงินมันใช้หนี้ตั้งห้าล้าน... เอาจริงๆ คงไม่มีไอ้บ้าที่ไหนเค้าทำกัน .............ยกเว้นกู... แต่ถ้ากูไม่ทำ อิฐมันก็จะอยู่ในชีวิตแบบนั้นไปเรื่อยๆ
พ่อกับแม่กูเค้าไม่ได้มารับรู้เรื่องนี้ กูไม่ได้เล่า... ครอบครัวกูจริงๆ แล้วต่างคนต่างอยู่มาแต่ไหนแต่ไร
แต่พอเวลามีเรื่องที่ใครสักคนทำอะไรขัดใจกัน ก็ไม่เคยจะยอมกันดีๆ สักที
กูได้ยินเสียงเนตรมันถอนหายใจแรง ก่อนบอกกูว่า...
“....แกมันบ้าจริงๆ”
#
วางสายแบบมีคำว่าบ้าหล่นอยู่กลางหัว
หึ ปากดีชิบหายเลยกู ตอนนี้หางานทำให้ได้ก่อนเหอะแมร่ง...
“มองไร?” อิฐมันยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหนตั้งแต่เมื่อกี้ละ
“เปล่า” ดูท่ามันจะคิดมากเรื่องที่กูพูดเมื่อกี้ว่ะ
“กูจะไป search หางานหน่อยว่ะ กาแฟแก้วดิ”
“อยากกินสูตรไหนอ่ะ?”
“เขาช่อง ดอยตุง อะไรก็ทำมาเหอะ จังหวะนี้ไม่เรื่องมากละ” ปกติจะกินกาแฟที กูชอบให้อิฐเปลี่ยนวิธีชงใหม่ๆ หรือไม่ก็เปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อย แต่ตอนนี้กูจะดำเนินชีวิตแบบ เศรษฐกิจพอเพียง
ฉะนั้น... แดกเท่าที่มี และใช้เงินเท่าที่จำเป็น ....พอ
เปิดอินเตอร์เนต... เข้าเวบหางาน
ที่จริงอาชีพอย่างกู หางานง่ายนะเว้ย แป้บเดียวก็ได้แล้ว กูเจอที่นึงใกล้บ้านอิฐพอดี... จดที่อยู่เดี๋ยวพรุ่งนี้ walk in ลุยเลย
กูหาเผื่อๆ ไว้ อีกสี่ห้าที่ ก็เลิก
“หาได้แล้วเหรอ?” อิฐเอากาแฟมาให้ แล้วมันก็นั่งลุ้นกูอยู่เงียบๆ ห่างๆ มาพักนึงละ
“ได้แล้ว งานหาไม่ยากหรอก แต่จะหาเพื่อนร่วมงานดีๆ น่ะ ยาก” ว่าแล้วก็คิดถึงไอ้กล้ากับพี่ธันเหมือนกันว่ะ ทำงานไม่สนุกแน่เลยกู ไม่มีคนคอยจิกคอยกัดอีกแล้ว
“กูจะไปเซเว่น เอาไรป่ะ?” คือกูเจอ ATM แล้ว และกูจะไปกดตังค์
“ไปด้วย”
เซเว่นหน้าปากซอยมันไกลพอสมควร เลยต้องใช้ยานพาหนะว่ะ
อิฐมันมีจักรยานอยู่คันนึง เป็นแบบซื้ออะไหล่มาประกอบ นน.เบากว่า LA และจักรยานคุณป้าเยอะ
“จะซ้อนไปยังไงวะ?” มันมีอานเดียว...
“แป้บพี่ หาแอสเซสซอรี่ก่อน” มันไปค้นกล่องที่เก็บไว้ตู้ข้างๆ ลานจอดรถ เจอแท่งทรงกระบอกสองอัน มันคือ... ที่เหยียบข้างล้อหลังว่ะ
อิฐมันเอาไปประกอบกับน็อตที่ติดอยู่หมุนๆ สักพักก็เข้าใจแล้วว่ามันจะซ้อนจักรยานแบบหนังเรื่องแฟนฉัน
กูขี่ อิฐซ้อนจนมาถึงเซเว่น กูกดตังค์ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วก็ส่งกระเป๋าให้มันไป “ฝากซื้อหมากฝรั่งสามแพค” จะดูดบุหรี่รอข้างนอก เครียดด
กูเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้อย่างว่ะ...... ไปสมัครงานต้องมีพอร์ตโฟลิโอ
ประเด็นคือ... กูยังไม่มี....
ชิบหาย งั้นคืนนี้ก็ต้องทำพอร์ตอีกสิวะ
“น้ำผลไม้มั้ย?” อิฐซื้อของเสร็จแล้ว ยื่นกระป๋องน้ำพร้อมกระเป๋าตังค์คืนกู
“หึ กินเถอะ” อิฐหน้าจ๋อย เปิดฝากระดกเอง
“ทำหน้าดุ เห็นไหม หมายังเผ่น” อิฐว่า แล้วพยักหน้าไปทางหมาสีน้ำตาล ขากะเผลกตัวนึงที่เพิ่งกระโดดแบบจิงโจ้ผ่านหน้ากูไป
“ช่างหัวหมาดิ ซื้อไรอีกป่ะ?”
“ไม่อ่ะ ประหยัด”
“อยากกินไรก็ซื้อดิ ของกิน อย่างก” กูเพิ่งสังเกตมันซื้อของมาไม่กี่อย่าง
“อ่ะ....ช่วยหน่อย อิฐจะกินไอติม” กูคว้ากระป๋องน้ำผลไม้ขึ้นดื่มแทน แม่งกินเหลือละให้กูเป็นปลาเทศบาลแดกต่อตลอด
“กลับเลยป่ะ?” ไม่ซื้อไรแล้ว กูจะรีบกลับไปทำพอร์ต
“กลับๆ”
ตอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มแล้ว ซอยเงียบ ย่านพักอาศัยก็สงบแบบนี้แหล่ะว่ะ
ผ่านไปครึ่งทาง กูรู้สึกเย็นๆ ที่หลัง......พร้อมเสียงร้องอย่างตกใจของเมียกู
“อ๊ากก ไอติมหก” กูว่าแล้ว....
“ขอโทษๆ เช็ดให้”
“เช็ดไงก็ไม่ออกหรอก ช่างมัน ยืนเฉยๆ” จักรยานส่ายเว้ย
จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน
อิฐก็ถอดเอาเสื้อกูไปแช่ให้ กูกลับขึ้นมาบนห้องทำพอร์ตโชคดีเก็บไฟล์เดิมไว้อยู่ เพิ่มนิดหน่อยก็พอแล้ว
#
02.12 AM
เชี้ย นิดหน่อยของกูปาเข้าไปตีสองแล้ว... อะไรนักหนาวะนี่
“เมื่อไหร่จะนอนอ่ะ?” เสียงอิฐลอยมาจากเตียง
“แล้วมึงอ่ะเมื่อไหร่จะนอน” กูหันไปถามมันกลับ
“นอนเลย ดึกแล้ว มัวแต่อ่านอะไรอยู่” ตั้งแต่ขึ้นมากูเห็นมันนอนอ่านหนังสือเล่มเดิมมานานแล้ว
“ช่วยทำมั้ย?” มันถามสามคำนี้กับกูมารอบที่แปดได้
“ไม่ต้อง ถ้ามึงไม่นอนกูจะไปทำข้างล่าง” กูเก็บแลปท้อป ปิดไฟตั้งโต๊ะ ขืนนั่งอยู่แบบนี้ มันก็ถ่างตารอกูไม่เลิกสักที
“โห... อิฐก็แต่งช้อปได้นะ ไม่เชื่อมือเลยเหรอ?” มันลุกนั่งโวยวาย
“นอนไปๆ อย่าเรื่องมาก” กูวางของแล้วเดินไปปิดโคมไฟตรงหัวเตียง ห้องมืดสนิททันทีเพราะสายตายังปรับไม่ทัน
“พี่ต้าน”
“อะไร?” อิฐดึงเสื้อกูไว้
“คืนนี้ไม่ถามเหรอว่าจะลดแอร์หรือจะให้กอด?”
“.....................” กูค้างไปนิดนึง
“พี่ต้องทำงาน” กูจับมืออิฐไว้ รู้สึกแย่ๆ ไงไม่รู้ว่ะ
“ขอโทษ” อิฐพูดเสียงเบาแล้วดึงมือออก
มันนอนตะแคงซุกตัวอยู่ในผ้าห่มโดยไม่พูดอะไรอีก
กูรู้มันไม่ได้งอนหรอก แต่คงจะน้อยใจ... “เดี๋ยวพี่ขึ้นมากอดนะ” ตอนนี้คงต้องลดแอร์ก่อนว่ะ
กูยกมือลูบผมอิฐ แล้วก้มลงจูบแก้มมันไปทีนึง ก่อนลงมาทำงานต่อข้างล่าง
กว่าจะทำกว่าจะปริ๊นท์เสร็จก็ตีสาม... ถือว่าทำเวลาดีสุดๆ แล้วว่ะ กูตบซองสี่เหลี่ยมเล็กข้างตัว... แต่ว่าไม่มีอะไรออกมา
“เวร... หมดสต็อค” บุหรี่ตัวสุดท้าย จากที่เพื่อนซื้อมาฝากเป็นโหลเผาไหม้ไปหมดเมื่อกี้แล้ว... เฮ้อ... สงสัยหมากฝรั่งที่ซื้อมาคงได้บดขยี้ในปากกูต่อจากนี้
ที่จริงกูกะว่าสูบหมดกล่องสุดท้ายแล้วจะเลิกจริงๆ
เพราะกูก็ลดได้จนแทบไม่ได้แตะ จะดูดก็เฉพาะเวลาเสี้ยนกับเครียดขึ้นมาเท่านั้น
เฮ้อ... ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี อย่างแรกในชีวิตกู จากที่มันสุกๆ ดิบๆ มาตลอดแล้วกัน
#
กูขึ้นมาบนห้องนอนอีกที อิฐก็หลับปุ๋ยไปแล้ว
กูค่อยๆ ช้อนตัวมันมาไว้กับอก... กอดมันไว้ทั้งตัว
ตัวอิฐอุ่นดี คงเป็นเพราะตัวกูเย็น...... บอกตรงๆ ตอนนี้กูกลัวว่ะ กูเลือกมัน แล้วยอมให้พ่อโยนออกมาอย่างนี้ แต่ถ้าอยู่ดีๆ มันมีเรื่องเหวๆ ทำให้กูต้องเสียมันไป แล้วกูจะทำยังไงวะ
“...........................”
เฮ้ย!!
รู้สึกคุ้นๆ ยังไงไม่รู้ว่ะ
กูก้มลงมองหน้าอิฐ
ภาพเก่าๆ ค่อยรีเพลย์ออกมาเป็นฉากๆ ความรู้สึกนี้ของกู.... อิฐมันก็เคยเจอมาแล้วนี่หว่า จำได้ป่าววะ
ที่ตอนนั้นมันคิดว่า จะเลือกกูหรือเลือกปัญหาของแม่มัน
แล้วตอนนี้...กูก็ต้องเลือกเหมือนกัน ว่าจะยืนอยู่ข้างครอบครัว หรือคนที่ตัวเองรัก
แม้ว่าวิธีการแสดงออกจะต่างกัน
แต่ความรู้สึกคงไม่หนีกันสักเท่าไหร่ กูก็เลือกมันแล้วนี่ไง
แล้วก็มาบรรจบลงตรงที่ ตอนนี้ เราก็ยังอยู่ด้วยกัน…
ชีวิตกูต่อจากนี้ ก็แค่ยอมรับความจริงให้ได้... เท่านั้นล่ะว่ะH
ต้านยังปรับตัวไม่ได้ คงอีกสักพัก..
บอกไม่ถูกเหมือนกัน ถ้าอิฐจะไปเมืองนอก ก็ทำได้... แต่ต้องไม่อยู่ในสถานการณ์ที่พ่อต้านเป็นคนสร้าง ตัวแปรมันเยอะเกิน
ที่คิดไว้ อยากให้ทั้งสองคนตัดสินใจเองมากกว่า...
ปล. ข้าพเจ้าเบื่อดราม่าแล้วคับ ชีวิตตัวเองก็ดราม่าพอและ ฮึ่ยฮึ่ย
ปล.2 กำลังเครียด อ้วกกระจายกับ structure ซึ่งไม่เข้ากับอารมณ์ของเรื่องเลยจอร์ชช

thank you!!

ไม่อยากดราม่าไปอ่านเรื่องของน้ำพุ ที่กระผมลงไว้อีก topic ก็ได้นะคับ ชิวๆ
กระผมขอลาไปนอยด์กับ system bla bla ในภายภาคหน้า... เดี๋ยวให้โบมาแทน
