[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 526111 ครั้ง)

ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
สำหรับผม เรื่องนี้ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลยสักนิดครับ

อ่านตอนนี้แล้ว ผมกลับไม่สะเทือนใจมากเหมือนคนอื่นๆ
อาจเพราะเนื้อเรื่องมันต้องมาแนวๆ นี้อยู่แล้วมั้ง
แต่ผมแอบฮาคุณหลวงในหลายๆ ครั้งมากกว่า เหมือนเด็กเอาแต่ใจเลยครับ ยิ่งตอนอยู่กับเส็งนะ... หึยยย หมั่นเขี้ยวเลย

เรื่องคู่ พระ - นาย
คู่หลัก  ผมให้  คุณหลวง - เส็ง  ครับ
คู่รอง  ขอเป็น  พาทิศ - นัฎ  นะครับ   :man1:

ส่วนเรื่องที่ถาม  พาทิศคือใครในอดีต  
ตอบ  เทิดครับผม

deva

  • บุคคลทั่วไป

พึ่งได้อ่านเรื่องนี้ครับ  ตอนนี้อ่านยังไม่ทันเลย
ถึงตอนที่ 13 แล้ว  (รู้สึกแย่กับตัวเองที่มาติดนิยายเอาตอนจะช่วงสอบแบบนี้)
แต่ดีใจมากจริงๆ และคงเสียดายมากถ้าหากพลาดไม่ได้อ่านเรื่องนี้ไป
(ที่เสียดายไปแล้วคือ น่าจะรู้จักเรื่องนี้ก่อนโหวตเซ็งเป็ดอวอร์ดเพราะจะโหวตให้อย่างแน่นอน
รอบหน้าก็ไม่มีสิทธิโหวดให้เรื่องนี้แล้วเีสียดายจริงจัง)

ตอนอ่านช่วงแรกๆ ที่คุณ Purple_Sky ออกมาพูดเกี่ยวกับพล็อตบ้าง
การวางตัวละครบ้าง อย่างเช่นตัวพาทิศ ที่ผิดปกติทางจิต ทางเพศ
เรานึกว่าสงสัยเรียนมาสาขาเดียวกับคุณแน่ๆเลย  ยิ่งมีช่วงหนึ่ง
ที่บอกว่าทำวิจัยเกี่ยวกับรักร่วมเพศด้วย (ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ยินดี)
แนววิจัยๆแบบนี้ยิ่งคิดว่าเราน่าจะเรียนคณะเดียวกันด้วยซ้ำ
(เริ่มสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นผลงานเขียนของเพื่อนในคณะหรือเปล่า)

แต่หลังจากอ่านเรื่องต่อไปอีกหลายๆบทก็รับรู้ได้ถึง
ความรู้ที่กว้างขวางมากของคุณ  จนตอนนี้เดาไม่ถูกแล้วว่า
จริงๆคุณเรียนมาทางสาขาไหนกันแน่  แต่เดาว่าน่าจะอยู่คณะ
ด้านสังคมศาสตร์   หรือถ้าไม่ใช่เลยคุณก็ต้องเป็นคน
ที่ขยันค้นคว้า เรียนรู้เอาข้อมูลมาใช้ได้อย่างเหมาะเจาะ

หลายตอนที่เอ่ยถึงวรรณคดี ยกกลอนมาเป็นบท
หรือเรื่องสังคม การบ้านการเมือง ประวัติศาสตร์ก็ดี
ทุกอย่าง เท่าที่อ่านมาไม่มีตอนไหนที่รู้สึกว่าหลุด
ไม่สัมพันธ์กัน  ยิ่งอ่านก็ยิ่งเชื่อ  จนตอนนี้อยากจะเชื่อ
ไปแล้วว่าคุณหลวงพินิจราชอักษรมีตัวตนจริงๆ
หรือบางทีคุณอาจเป็นเส็งกลับชาติมาเกิดแล้วระลึกชาติได้

ล่าสุดพึ่งอ่านตอนที่คุณหลวงฯเขียนกลอนบอกรักเส็ง
เฮ้ย ปลื้มคนเขียนจัง  คุณเก่ง  เก่งมากๆ

พล็อตคุณก็เหมาะเจาะดีจัง  อ่านไปก็เหมือนโดนดูด
หลงใหลอยากอ่านรวดเดียวให้จบถึงตอนล่าสุด
ไม่มีตอนไหนน่าเบื่อ  ชวนติดตามทุกตอน 
เพราะเราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าอะไรซ่อนตัวอยู่
แล้วเหตุการณ์ในเรื่องจะพลิกผันไปในทิศทางใด
ยากจะคาดเดาจริงๆ  แม้ในใจลึกๆจะแอบเดาไปบ้างแล้ว
 ตอนนี้เชื่อว่า พาทิศคือคุณหลวง
เพราะตอนมาซื้อบ้าน ผีเส็งบอกประมาณว่าการรอคอย
ของเขาสิ้นสุดลงแล้ว  สิ้นสุดเมื่อพาทิศมาซื้อบ้านจะมาอยู่
ทำให้้สรุปไปเองเบื้องต้นว่า  พาทิศนี่แหละคือคุณหลวง
แต่ข้องใจบ้างที่ทำไมเวลานิมิตร พาทิศไม่ได้เห็นผ่านมุมมองคุณหลวง
แล้วคืนหนึ่งที่พาทิศขับรถไปดูบ้าน ยังเห็นผีคุณหลวงอยู่เลย

แล้วก็คือว่า คุณบรรยายถึง ณัฐได้เหมือนกับบรรยายถึงเส็ง
จนอดไม่ได้ที่จะคิดว่าณัฐคือเส็งในชาตินี้ แต่อีกใจหนึ่ง
มันก็แย้งว่าวิญญาณเส็งยังล่องลอยอยู่เลย ณัฐคงไม่ใช่

และที่สำคัญจะรู้สึกว่าต้องอ่านแบบประณีต
ระมัดระวังด้วย  เพราะไม่อยากตกหล่นไปสักตัวอักษรเดียว
อยากจินตนาการไปด้วยให้เต็มที่  เราไม่เจอ
นิยายแบบนี้ที่ให้เราได้หลายๆสัมผัสขนาดนี้มานานแล้ว
ขอบคุณ คุณPurple_Sky จริงๆ เราปลื้มคุณ ปลื้มงานเขียน
ของคุณมากจริงๆ ณ ตอนนี้

สุดท้ายถามจริงเหอะ คุณเป็นนักเขียนที่มีผลงานกับสำนักพิมพ์มาบ้างแล้วใช่มั้ย
หรือว่าเป็นนักเขียนอาชีพ  ผลงานคุณมืออาชีพมากจริงๆ 
ถ้ารวมเล่มจะซื้อแบบไม่ต้องคิดเลย สำหรับเรื่องนี้


รักผู้เขียน รักคุณหลวงฯ รักเส็ง รักพาทิศ รักณัฐ  รักตัวละครทุกตัว  (รวมไปถึงหยาดและแก้วด้วย อย่านอยไปเลย)




Miku

  • บุคคลทั่วไป
อ่านรวดเดียวมาจนถึงตอนนี้เลยค่ะ เหมือนดูละครไทยภาคที่ไม่อาจฉายในทีวีได้
แอบฮาตรงคอมเม้นนึงที่เอามาทำเป็นละครหลังข่าวซะจริง
อ่านแล้วรู้สึกสงสารปนไม่สบายใจ(เฮ้ยเราเกี่ยวไรด้วยเนี่ย) เพราะเอาตามหลักผิดชอบชั่วดีที่เส็งคิดมันก็ถูก
แต่จะเอาตามความรักของคุณหลวงมันจะเป็นไปได้แค่ไหน
ดูแล้วทางที่เลือกมันมืดมนมองไม่เห็นทางออก แต่ก็เลือกที่จะทำ
ช่วยลุ้นอยู่ว่า เมื่อไหร่ การรอคอยจะสิ้นสุดลงซักที

อยากบอกว่าฉากอัศจรรย์แต่งได้น่ารักมาก อย่างเช่นตอนขอหอมเนี่ย อ่านแล้วจั๊กจี้หัวใจ  :-[


MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
หวานปนเศร้า...
แต่ก็ใกล้จะคลายปมที่สงสัยแล้วใช่มั้ยคะ

ชอบจังที่มีสอดแทรกประเพณีโบราณด้วย
ยิ่งงานแต่งงาน .... อลังการมากเลยค่ะ

ขอบคุณผู้แต่งนะคะ ชอบเรื่องนี้มากเลย
รอตอนต่อไปด้วยค่ะ

ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
 :o12: เกิดเป็นเส็งชีวิตมันน่าเศร้า

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
สงสารเส็ง
แล้วจะเป็นไงต่อไปล่ะเนี๊ย

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
ตอบคุณ deva ครับ
ขอบคุณมากๆนะครับที่อุตส่าห์ชอบปางบรรพ์ และชมผมเสียเยอะเลย ไม่รู้เคยบอกหรือเปล่า แต่จะบอกไว้ตรงนี้ว่า เรื่องนี้ผมได้พล็อตมาจากในฝันของผมเองครับ!!! ฉากที่คุณหลวงฝันครั้งแรกนั่นแหละ เป็นฉากที่ผมเคยฝันจริงๆ ในฝันของผม หยาดเอาเส็งมาฝากคุณหลวง คุณหลวงก็ถูกชะตา แล้วก็ไปหาเส็งที่เรือนบ่าว มีแค่นั้นเอง ผมเลยได้แรงบันดาลใจอยากเอาตัวละครที่ผมฝันถึง ให้มีชีวิตจริงๆอยู่ในนิยายสักเรื่อง เลยเอาความฝันนั้นแหละมายืดเรื่องออก กลายเป็นเรื่องราวต่างๆที่อ่านๆกันอ่ะครับ ผมใช้เวลาหาข้อมูลต่างๆ ให้ฉากที่ผมจะเขียนนั้น เหมือนจริงที่สุด ผมหาข้อมูลทั้งด้านประวัติศาสตร์ ขนบประเพณี การเมืองการปกครองเท่าที่มีในสมัยนั้นอยู่ถึง 7 เดือน เพื่อสร้างเรื่องให้เหมือนจริงที่สุด กระนั้น ผมก็ไม่ใช่มืออาชีพ เขียนไปแบบเริ่มครั้งแรกจริงๆ ผมไม่เคยเขียนนิยายแนวย้อนยุคแบบนี้ แล้วก็ไม่ได้เรียนมาทางประวัติศาสตร์ ฉะนั้นอาจมีช่องโหว่อะไรบ้างถ้าใครเป็นผู้รู้ หรือเรียนมาโดยเฉพาะอาจจะเห็นข้อบกพร่องเหล่านั้นก็ขอโทษด้วยนะครับ

ผมไม่ใช่นักเขียนอาชีพอย่างที่คุณ deva คิด (คิดอย่างนั้นจริงๆหรอครับ? 555+) แล้วเรื่องเรียนของผม ผมต้องขออุบไว้นะครับ ไม่อยากบอกเลย ถ้าบอกทุกคนจะตกใจ 555

ยังไงก็ฝากปางบรรพ์ไว้ด้วยนะครับผม :)


ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
๒๒
[/color]

    วันรุ่งขึ้น เส็งก็ย้ายกลับขึ้นมาบนเรือน วิถีชีวิตของเขาแทบไม่ต่างอะไรจากเดิมที่เคยเป็นอยู่เลย หากจะมีอะไรแปลกไป ก็เพียงว่ามีนายเก่าของเขามาอยู่ร่วมหลังคาเรือนเดียวกันเท่านั้น เกือบครึ่งปีแล้วซี ที่เขามาอยู่กับหลวงพินิจ ครึ่งปีแล้วที่เสียพ่อเสียแม่ และพี่ชายทั้งสองไป บัดนี้เขากำลังอยู่ในสภาพ บ่าว คนหนึ่งที่มีอภิสิทธิ์เหนือบ่าวอื่นๆ ตรงที่ได้นอนบนเรือนใหญ่ มีอาหารเตรียมมาให้ตลอด และได้นอนกับนายของตนทุกวันเท่านั้น
    แต่ให้เรียกตัวเองว่าเป็น “คนรัก” ของหลวงพินิจอีก เขาก็ทำไม่ได้ ในเมื่อห้องข้างๆมี “ภรรยา” ของคุณหลวงอยู่ด้วยแล้วทั้งคน เรื่องอภิสิทธิ์ของเขาสามข้อนี้เป็นเรื่องที่คุณหยาดไม่เข้าใจ ตั้งแต่เช้าวันแรกในฐานะ ภรรยาหลวงพินิจราชอักษร
    ตื่นเช้ามาหล่อนลุกขึ้นจากเตียง อาบน้ำเปลี่ยนผ้า พอโผล่ออกมาจากห้องก็เห็นประตูห้องนอนห้องข้างๆเปิดไว้เสียแล้ว หล่อนเดินไปเข้าห้องนั้นก็เห็นสภาพเตียงที่มีผ้าคลุมยับยู่เป็นหลักฐานว่ามีคนมานอนอยู่ที่นี่ทั้งคืนจริงๆ หากแต่ตอนนี้คนคนนั้นตื่นก่อนหล่อน และไม่ได้อยู่ที่เตียงแล้ว
    หลวงพินิจราชอักษรสามีของหล่อนไปอยู่ที่ใดเสียล่ะ
    หยาดเดินลงบันไดมาก็เห็นหลวงพินิจนั่งอยู่ในห้องอาหาร นั่งกินข้าวกับเส็ง บนโต๊ะอาหารอย่างสนิทสนม! เพียงแวบแรกที่หล่อนเห็นก็ตกใจ ที่บ่าวขึ้นมานั่งกินข้าวอยู่กับนายแบบตีเสมออย่างนี้ ใครช่างสั่งช่างสอน อยู่บ้านหล่อน หล่อนก็ไม่ได้สอนให้เป็นอย่างนี้เสียหน่อย
    “เอ พ่อเส็ง นี่นั่งกินบนโต๊ะ เท่ากันกับคุณหลวงเลยหรือ”
    “ก็อย่างนั้นซีแม่หยาด” หลวงพินิจว่า “เรากินแบบนี้กับเส็งมาตลอด บอกตรงๆว่าอยู่คนเดียวมานานไม่มีเพื่อน ก็ได้เส็งนี่ละคุยภาษาเดียวกันรู้เรื่องหน่อย”
    หยาดงง พูดอะไรไม่ถูกทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนอยู่ที่เดิม
    “ไม่รับเช้าหรือ แม่หยาด”
    “เอ้อ รับค่ะ” หล่อนว่า แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าหล่อนคงดูโง่เง่าเสียเหลือเกินที่มายืนค้ำหัวคุณหลวงอยู่อย่างนี้ จึงเดินเข้ามาร่วมโต๊ะ พอเห็นว่าบนโต๊ะนั้นมีขนมปัง เนย นมโค และไข่ลวก เห็นแล้วก็อยากจะอาเจียนออกมาเดี๋ยวนั้น
    “ลืมไปว่าแม่หยาดไม่รับอาหารฝรั่ง” หลวงพินิจหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เอ้ามะลิ ที่เรือนครัวมีอะไร ยกมาให้คุณหยาดเธอซี”
    กลายเป็นว่าเมียกินกับข้าวบ่าว ส่วนบ่าวมากินกับข้าวแบบเดียวกับผัวเสียแล้ว หยาดเอ๋ยหล่อนยังต้องปรับตัวอีกมากทีเดียว

    อภิสิทธิ์ข้อที่สองก็คือ เส็งเป็นคนเดียวในเรือนเทาที่สามารถเข้าไปอยู่กับคุณหลวงในห้องทำงานได้ เพราะบ่าวหนุ่มอ่านออกเขียนได้ หลวงพินิจมักใช้ให้เขาคัดลอกหนังสือ เป็นอาลักษณ์ส่วนตัวเสมอ คนที่เขียนหนังสือคล่อง อย่างคุณหลวงจะเขียนหวัด จนอ่านไม่รู้เรื่องเพราะชินกับวิธีเขียนหัวสะบัดหางอะไรอยู่แล้ว แต่กับเส็ง ที่ต่อให้เขียนเป็นก็ไม่ได้เรียนมาแต่เกิด จะถนัดเขียนอักษรจีนมากกว่า เวลาเขียนหนังสือไทย จึงต้องบรรจงเขียนอย่างตั้งอก ตั้งใจ จนตัวหนังสือออกมาสวยราวกับพิมพ์ทุกครั้ง เวลาคุณหลวงเอาหนังสือไปส่งคนที่กระทรวงจะมีแต่คนชมว่า
    “นี่คุณหลวงพินิจมีเครื่องพิมพ์อยู่ที่บ้านหรือ”    
    “กระผมมีมือดีคอยช่วยขอรับ” หลวงพินิจอดชมเส็งให้ใครต่อใครฟังไม่ได้ คนที่เขาชมให้ฟังมากที่สุด ก็เมียเขาที่อยู่ร่วมเรือนกันอย่างไร
    “เส็งมันเก่ง มีแต่คนชมว่าเขียนสวยเหมือนพิมพ์”
    หลวงพินิจหายไปในห้องทำงานกับเส็งแทบทั้งวัน จึงกลายเป็นว่า หยาดไม่มีอะไรทำเสียแล้ว ได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่ในบ้าน ออกมาเดินรอบสระบัว นั่งในศาลา นั่งที่ท่าน้ำ ฆ่าเวลาจนกินข้าวกลางวัน แล้วก็เป็นอย่างนี้ จนถึงเวลากินข้าวเย็น แล้วเข้านอน หล่อนเป็นอย่างนี้อยู่หลายวัน จนเริ่มเบื่อชีวิตในเรือนเทาเสียแล้ว
     ที่หยาดพอจะเข้าใจได้มากที่สุดคือการที่เส็งได้มานอนอยู่บนเรือนเทา ทั้งที่บ่าวไพร่คนอื่นไม่มีสิทธิ์แม้ย่างกรายมาในเวลากลางคืน เพราะ หลวงพินิจเคยอ้างกับหล่อนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า
    “เอาไว้ใกล้ๆ ได้เรียกใช้ ตอนกลางค่ำกลางคืนเกิดเป็นอะไรขึ้นมา จะได้ช่วยกันได้ เส็งมันฉลาด ตัดสินใจทำอะไรหลายๆอย่างได้”
    ที่หล่อนไม่รู้คือคำว่า “เอาไว้ใกล้ๆ” ของคุณหลวงนั้นคือ นอนก่ายกันหลับไปทุกคืนต่างหาก หล่อนคิดว่านอนเฝ้าอยู่ที่ตั่งหน้าห้องเท่านั้น เพราะทุกเช้า เส็งจะคอยเอามุ้งสีขาวสะอาด และผ้าห่มสีตุ่นๆ มาวางหลอกไว้บนตั่งไม้หน้าห้อง พอหยาดตื่นมาเมื่อใดก็เห็นว่าเส็งตื่นแล้วเมื่อนั้น จึงไม่ได้รู้เลยตลอดสัปดาห์แรกว่า “ผัว” ของหล่อนโดยนามจะต้องไปเป็น “ผัว” ของบ่าวโดยกายและใจแทบทุกคืน
    
    นับแต่หยาดเข้ามาอยู่ในฐานะเมียคุณหลวง แก้วก็ดูเหมือนจะหย่อนพิษสงลงไปบ้าง หล่อนพบกับหยาดในวันที่สองของการมาอยู่เรือนเทา เพราะเป็นคนยกสำรับอาหารมาให้หยาดรับอยู่คนเดียวในห้องอาหาร
    คุณหลวงและเส็งออกจากบ้านกันไปแต่เช้า
    ในสายตาหยาด แก้วเป็นผู้หญิงที่สวย ไม่ได้สวยแบบไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง แต่สวยแบบชาวบ้าน มีขมิ้น มีสมุนไพรเป็นตัวขับให้ยิ่งสวยขึ้นเท่านั้น หล่อนผิวเหลืองแบบคนสยามทั่วไปแต่ดูผุดผ่องกว่าเล็กน้อย หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มแถมช่างเอาอกเอาใจ ก็แน่นอนอยู่แล้วที่แก้วจะต้องนอบน้อมโอนอ่อนให้คุณหยาด หล่อนเคยคุยกับเพื่อนบ่าวสองสามคนว่า
    “คุณหลวงมีเมียแล้ว ไม่ได้หมายความว่าข้าจะเป็นเมียน้อยไม่ได้โว้ย” และถ้าหล่อนจะเป็นเมียน้อยจริงๆแล้วละก็ “ผูกมิตรกับเมียหลวงไว้ก่อนแต่แรกได้ไม่มีปัญหาทีหลังอย่างไรล่ะ”
    พอยกข้าวสวยร้อนๆ พร้อมผัดผัก ปลาเค็ม แกงมะระมาให้คุณหยาด นายสาวสวยก็เอ่ยทักหล่อนขึ้นก่อน
    “ชื่ออะไรน่ะเรา”
    “ชื่อแก้วเจ้าค่ะ” เจ้าของชื่อนั่งก้มหน้ายิ้มที่มุมปากอย่างมีจริต พับเพียบอยู่แทบเท้าของนายสาว
    “สวยน่ารักสมชื่อ นะ ตัวเล็ก จุ๋มจิ๋มเหมือนดอกแก้วจริงๆเสียด้วย”
    “คุณต่างหากล่ะคะที่สวย” หล่อนว่าอย่างประจบประแจง “เห็นเพียงครั้งแรกก็คิดว่านางสวรรค์หยาดฟ้ามาดินเจ้าค่ะ เป็นบุญของอีแก้ว ได้มารับใช้รองบาท คนสวยอย่างคุณ”
    หยาดหัวเราะชอบใจ
    “ช่างประจบนะเรา อยากได้อัฐเป็นรางวัล ไม่มีให้ดอกนะ คุณหลวงไม่ทิ้งไว้สักสตางค์แดงเดียว” หยาดยิ้มอย่างอารมณ์ดี
    “แหมคุณละก็ อีแก้วมันคนซื่อเจ้าค่ะ เห็นอะไรอย่างไรก็ว่าไปตามที่เห็นเจ้าค่ะ” บ่าวสาว ยิ้มเล็กยิ้มน้อยเป็นเชิงประจบประแจงแต่พองาม ส่วนนายสาวต่อให้ดูออกว่าประจบ ก็ยังชอบใจเออออตามน้ำ ทำเป็นไม่รู้ไปอย่างนั้นจึงไม่แปลกเลยที่หลายๆวันต่อมานางแก้วจะคอยมารับใช้อยู่ใกล้ๆเป็นคนสนิทหยาดไปในที่สุด
    
   ถึงหยาดจะได้คนรู้ใจเป็นนางแก้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าฟังมันบ่นนินทาเพื่อนบ่าวคนโน้นคนนี้ แม่นี่ก็รักกับพ่อนั่น พ่อนั้นก็หนีเที่ยวไปหาแม่นี้ที่ตลาดอะไรวุ่นวายไปหมด อยู่ไปได้สิบกว่าวัน หยาดก็เบื่อ ขอลาหลวงพินิจไปเยี่ยมแม่ที่บ้านเดิมของหล่อน ขอกลับไปข้างคืนสองคืน ตัวสามีก็ไม่คัดค้านอะไร ซ้ำยังสนับสนุนให้ไปเสียให้พ้นๆอีกต่างหาก
    หยาดจึงได้กลับไปเยี่ยมบ้านอย่างง่ายดายราวกับว่าต่อให้ไม่ได้ขอก็คงให้ไปได้ และแน่ละหล่อนเอาแก้วไปด้วย
    “ขอแม่แก้วไปเถิดนะคะคุณพี่ ถ้าไปอยู่บ้านกับคุณแม่คนเดียวจะเหงา น้องติดแม่แก้วนี่ ช่างพูดช่างจาเหมือนนกแก้วนกขุนทอง คุยด้วยแล้วเพลินดี”
    “เอาไปเถิด ฉันไม่ว่าอะไร”
     แก้วออกอาการวี๊ดว๊ายเมื่อขึ้นเรือจ้าง ออกจากคลองไปถึงปากแม่น้ำ แล่นเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา หยาดต้องหัวเราะกับท่าทางที่เกินจริงจนเกือบเป็นแสร้งทำของแก้ว เมื่อเรือโคลงไปโคลงมา ก็กรีดร้องอย่างมีจริต ทั้งนายทั้งบ่าว หัวเราะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
    “พระนครสวยขนาดนี้ อีแก้วไม่เคยได้มาเห็นเลยเจ้าค่ะ”
   หล่อนเห็นความงามของวัดวาอาราม ปราสาทราชวัง เรือจ้าง เรือสินค้า อะไรมากมายเต็มไปหมด ก็ชี้โน่นชี้นี่ ด้วยความตื่นเต้น
    “นี่หล่อนเป็นคนพระนครจริงหรือยะ”
    “แหมคุณละก็” แก้วส่งค้อนแบบทีเล่นทีจริง “อีแก้วเกิดในเรือนเจ้าคุณไพรัชกิจ อยู่มาสิบกว่าปีก็ย้ายมาอยู่เรือนคุณหลวง ชีวิตมันก็มีอยู่เท่านี้ล่ะเจ้าค่ะ”
    หยาดหัวเราะกับคำพูดคำจาของบ่าวคนสนิทไปตลอดทางจนถึงเรือนของหล่อน เรือนไทยขนาดใหญ่มีหมู่เรือนของญาติพี่น้องมากมายเชื่อมกันเป็นบริเวณเดียว แก้วเดินตามหยาดอย่างประจบประแจง ตกตะลึงในความใหญ่โตของบริเวณบ้าน กระทั่งหยาดเข้าไปพบคุณหญิงแม่ของหล่อน แก้วจึงได้แต่นั่งรออยู่นอกชาน
    แม่เห็นหน้าลูกสาวก็ตกใจ
    “เอ้า แม่หยาด กลับมาทำไม มีอะไรกับคุณหลวงหรือ”
    “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ” หล่อนตอบ ร่างกายที่ดูท้วมขึ้นมากเพราะท้องมาเกือบสามเดือน ทำให้แม่ผิดสังเกต แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรหล่อนจึงไม่บอก เดี๋ยวซักไปซักมาจะรู้เสียว่าท้องตั้งแต่ก่อนแต่งแล้ว “คิดถึงคุณแม่ก็มาหา”
    “ต้องมีอะไรซี ไม่อย่างนั้นจะถ่อมาถึงคลองสานรึ”
    “คุณแม่ละก็รู้ใจลูกทุกเรื่องเลยนะเจ้าคะ” หล่อนหัวเราะ “ลูกเบื่อเต็มทนเจ้าค่ะ วันๆคุณหลวงมัวแต่ขลุกอยู่แต่ในห้อง อยู่กับพ่อเส็งทำงานอะไรกันทั้งวัน ลูกไม่มีอะไรทำเลยเจ้าค่ะ”
    “แล้วกันซี” คุณหญิงไพศาลเสนีย์ เดินเข้ามาหาลูก “อย่างนี้เมื่อไหร่แม่จะได้อุ้มหลานละเนี่ย”
    “คุณแม่”แก้วหลบตา “เรื่องอย่างนี้เดี๋ยวก็มาเจ้าค่ะ”
   มาตั้งนานแล้วเจ้าค่ะ แต่คุณแม่อย่าเพิ่งรู้เลยนะเจ้าคะ หล่อนแอบแย้งในใจ คนแม่ไม่อาจล่วงรู้ได้ จึงไม่ได้ว่าอะไร
    “รีบๆ เข้าเถอะเราน่ะ ได้ข่าวว่าใครจะไปเมืองนอกเมืองนา จะเอาคุณหลวงผัวหล่อน ไปด้วยอีกแล้ว”
    “เอ ไม่เห็นคุณหลวงบอกนี่เจ้าคะ” หยาดขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ
    “เจ้าคุณพ่อยังคุยกันอยู่ในกระทรวง ไม่ได้ไปเป็นคณะทูตใหญ่อะไรดอก เพียงเอาสินค้าไปส่ง ทีนี้ล่ามเกิดมาป่วยหนักกลัวว่าจะไปไม่ได้เขาก็คุยๆกันว่าจะให้ใครไปแทน ก็เห็นว่าหลวงพินิจก็แกร่งกล้าดี แต่ก็ไม่แน่ คุณพระสนิทอะไรสักคนก็เก่งพอกันยังไม่รู้ดอกว่าจะให้ใครไป” คุณหญิงวรรคหายใจ “รีบมีลูกเข้าเถิด”
    “เจ้าค่ะ แต่คุณหลวงก็ดูไม่ค่อยรักลูกอยู่ดีนะเจ้าคะ”
    “เอ้อ” คุณหญิงไพศาลค้อน ลูกสาว “ไม่รักก็ไม่เกี่ยวใครเขาแต่งงานเพราะรัก มีแต่แต่งงานเพราะเหมาะสม”
    หยาดฟังเรื่องทำนองนี้จากแม่มาเกือบสิบร้อยครั้งเสียแล้ว
    “มีลูกเขาได้หนีเราไม่พ้น เลี้ยงดูเราไปจนตาย แม่หยาดได้สุขสบายไปตลอดชาติ” คุณหญิงส่งสายตาแบบ แม่รู้ดีน่า ให้ลูกสาว “เราก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเจ้าคุณพ่อชอบไปเล่นไพ่เล่นพนันอะไรกับพวกฝรั่ง เป็นหนี้ท่วมหัว หมดตัวมาวันไหนใครจะรู้ จริงไหม”
    หยาดพยักหน้า หล่อนไม่ชอบให้แม่ย้ำนิสัยนี้ของพ่อ แต่พูดกันอย่างนี้ก็ดีได้ไม่ต้องมีอะไรปิดบังกัน
    “ลูกจะทำอย่างไรดี” พูดไปอย่างนั้นแหละ ก็หล่อนท้องอยู่แล้วนี่... กระนั้นหยาดก็ยังวิตกอยู่ลึกๆในใจ เด็กคนนี้... เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณหลวงด้วยความเต็มใจ... พอดีคนแม่พูดออกมาอีกประโยคหนึ่ง หล่อนก็เลยหยุดความคิดอยู่แค่นั้น
    “ก็เอาใจเข้าซี ปรนนิบัติพัดวี ทำสำรับกับข้าวเลี้ยงเข้า... ไม่เคยได้ยินหรือ เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนวันตายน่ะ”
    
    ที่นอกชาน แก้วนั่งเอาหูแนบประตูด้วยความอยากรู้ แต่ประตูไม้สักทองคงจะหนาเกินไป หล่อนจึงไม่ได้ยินอะไรที่คนข้างในพูดเลย และเพราะแนบหูอยู่อย่างนั้น  หล่อนจึงได้ยินเสียงฝีเท้าคนสะท้อนดังอยู่ในไม้เสียเต็มหู หันไปก็พบว่าคนที่เข้ามาเยือนไม่ใช่ใครอื่น คือทนายหน้าหอของหลวงพินิจนั่นเอง
    ชายหนุ่มขึ้นมาบนชานเห็นแก้วก็ตกใจ เกือบสะดุดขั้นบันไดล้ม
    “แก้ว มานี่ได้อย่างไร”
    หญิงสาวไม่ได้ตกใจ หล่อนประหลาดใจที่เห็นเทิดก็จริงแต่หล่อนก็รู้ว่าควรทำอะไรอย่างไร ไม่เหมือนชายหนุ่มที่อะไรๆก็กลัว อะไรๆก็ไม่กล้าไปหมด
    “เอ้าพี่เทิด” หล่อนลุกขึ้น แกล้งโน้มตัวให้หน้าอกหน้าใจเหลืองนวลรัดเต่งด้วยผ้าคาดโผล่วับๆ แวมๆให้ ชายหนุ่มที่ยืนกลืนน้ำลายเอื๊อกอย่างพวกไก่อ่อน เห็น ก่อนจะเดินเข้าไปหา “ฉันก็มากับคุณหยาดนายใหม่ฉันอย่างไรเล่าจ๊ะ”
    “คุณหยาดมาหรือ” เทิดมีแววฉงนอยู่ในตา หากแต่ท่าทางดูจะควบคุมไว้ดี ไม่เหมือนว่าตกใจสักเท่าใด
    “ก็แหงซี ไม่อย่างนั้นฉันก็ต้องมากับคุณหลวง” หยาดเห็นเหงื่อเริ่มซึมตามไรผมของชายหนุ่มก็ส่งสายตายั่วยวนที่หางตา เพราะเข้าใจไปว่าชายหนุ่มประหม่าเมื่อได้อยู่ใกล้หล่อน “พี่เทิดเล่า มาทำอะไรไม่ไปหาฉันที่เรือนบ้างเลยนะ ตั้งแต่หายไปหัวหินกับอีจัน”
    หล่อนทำหน้าท้าทาย เดินเข้าไปเอาไหล่เปลือยเปล่า สีผ่านตัวชายหนุ่มเดินสวนไปโอบเข้าจากด้านหลัง “ได้ใหม่แล้วลืมเก่าหรือไงจ๊ะ”
    “แก้ว เดี๋ยวใครมาเห็น”
    “ทีอย่างนี้ละกลัว” หล่อนถอนตัวออกมาปรายมองเขาด้วยหางตา “ทีเวลาไปทำเสียงเป็นนกฮูก นกเค้าแมวเรียกฉันลงจากเรือนละไม่กลัว เอ หรือพี่เทิดกลัวอีจัน มากกว่ากลัวคุณหลวง”
    “ไม่คุยด้วยละ ถ้าเอ็งพูดแบบนี้”
    แก้วหัวเราะ ลงลูกคอ
    “ไม่พูดก็ได้ ว่าแต่อีจันคงไม่อยู่บนเรือนนี้ดอกนะ ถ้าจะหาคงต้องไปหาเรือนบ่าวกระมัง”
    “พี่ไม่ได้มาหาจัน พี่มีธุระ มาแทนพ่อ พอดีเจ้าคุณไพรัชใช้มาหาเจ้าคุณบ้านนี้”     พูดได้เท่านั้นหยาดก็โผล่ออกมาจากห้อง หล่อนชะงักไปอย่างตกใจ แล้วเอ่ยขึ้นว่า
    “อุ๊ยฟ้ามืดอย่างนี้ ฝนตกแน่ละ” หล่อนปรายตามองแก้ว ที่บัดนี้ แกล้งทำเป็นยืนไม่รู้ไม่ชี้อยู่ห่างจากทนายหนุ่ม ทั้งที่เมื่อครู่นี้ไม่ถึงนาที หล่อนเบียดเขาเสียจะปืนขึ้นไปอยู่บนตัวเสียแล้ว “แม่แก้วขนข้าวของเก็บเถิด”
    แก้วรับคำแล้วก็ยกข้าวของเตรียมเดินไปเก็บตามที่คุณหยาดว่า
    “พ่อเทิดมาทำอะไร” หยาดทักในที่สุด
    “เจ้าคุณไพรัชกิจ ให้มาหาเจ้าคุณไพศาลขอรับ”
    “เจ้าคุณพ่อไม่อยู่” ป่านนี้คงแอบไปเล่นไพ่ เล่นพนันบ้านใครไปแล้วหล่อนก็ไม่รู้ และไม่อยากบอกจึงได้แต่พูดสั่งกลายๆว่า “คุยกับคุณแม่แล้วกัน”
    แล้วนายบ่าวสองสาว ก็เดินไปเข้าห้อง เทิดกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาคุณหญิงไพศาลเสนีย์ อยากจะคุยธุระให้เสร็จๆ รีบออกจากบ้านนี้ไปเสียเดี๋ยวนั้น

    

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
หยาดเรียกแก้วมาหาเช้าวันหนึ่ง ชวนให้มาเย็บปักถักร้อยกันประสาผู้หญิง ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่นายและบ่าวทำได้ตรงกัน และทำได้ดีทั้งคู่ เอาเข้าจริงก็เป็นเรื่องหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เส็งเองก็ทำไม่ได้ด้วย
    “คุณเจ้าขา ดิ้นพวกนี้ไปหาจากไหนเจ้าคะ สวยทีเดียวบ่าวไม่เคยเห็นสวยเท่านี้เลยเจ้าค่ะ”  แก้วว่าอย่างประจบ ทั้งๆที่มันก็เป็นเพียงดิ้นทองธรรมดา ไม่ได้งดงามถึงขนาดต้องทำตาโตเพียงนั้น
    “แม่แก้ว ตาโตเป็นไข่ห่านแล้ว” หล่อนหัวเราะ คิกคัก “ฉันสะสมของพวกนี้จ้ะ ที่เรือนเก่ามีเยอะมาก นี่ขนมาส่วนหนึ่งเท่านั้น จะปักให้เป็นลาย แม่แก้วมาช่วยกัน”
    ธรรมชาติของหญิงสาว เมื่อมีเวลาว่างได้อยู่ด้วยกันแล้ว ถ้าไม่นินทาผู้หญิงคนอื่น ก็จะต้องคุยเรื่องผู้ชายกันเสียไปหมดทุกครั้ง อย่างแก้วและหยาดในวันนี้ก็เหมือนกัน ผู้เปิดประเด็นก็คือหยาด หล่อนเอ่ยเป็นเชิงระบายด้วยความน้อยใจว่า หลวงพินิจราชอักษรไม่ค่อยสนใจหล่อนเลยเท่าที่ควร
    “คุณหลวงนะ คุณหลวง วันๆขลุกอยู่แต่กับบ่าวไพร่ เห็นว่าจะแลกหน้าที่กันเสียแล้ว เมียมาเป็นบ่าว บ่าวไปเป็นเมียแทน” หล่อนค้อนอากาศอยู่ขวับๆ
    “แหม...” แก้วชายตาแบบมีจริต มีแววประชดเจืออยู่ในน้ำเสียงเช่นทุกครั้งที่พูดถึงเส็ง “บ่าวไพร่ที่ไหนล่ะคะคุณ ถ้าจะพูดให้เจาะจงต้องบอกว่า อยู่กับพ่อเส็งเขาทั้งวันจึงจะถูก”
    หยาดหัวเราะ
    “ไม่รู้มีอะไรดีหนักหนา ถึงได้ชอบใจเหลือเกิน อะไรๆก็เส็งๆ สงสัยเราจะดีสู้บ่าวไม่ได้กระมัง”
    “ก็แน่ซีคะ” หล่อนว่า จีบปากพูดแบบสนุกปาก “พ่อเส็งน่ะเก่งไปหมดทุกอย่าง กับข้าวกับปลาก็ทำได้ถูกปาก อาหารฝรั่งก็ทำได้กินได้ อ่านหนังสือก็ออก เขียนหนังสือก็ได้นะเจ้าคะ จะไม่ให้โปรดได้อย่างไร”
    “นั่นซี” หยาด มองตาลอยๆ “เด็กๆน่าจะตั้งใจเรียนหนังสือที่เจ้าคุณพ่อสอน”
    “คุณหยาดเจ้าขา...” นางแก้วลากเสียงเป็นเชิงประชด “ประทานโทษเถอะเจ้าค่ะ แต่ต่อให้คุณหยาดแต่งรามเกียรติ์ฉบับใหม่ได้คุณหลวงเธอก็ยังโปรดพ่อเส็งอยู่เหมือนเดิมนั่นละเจ้าค่ะ”
    “เอ แม่แก้วพูดแปลกๆ พูดอย่างกับว่า ทำอย่างไรคุณหลวงก็คงไม่รักฉัน นี่ฉันมันแย่ถึงขนาดให้บ่าวมาดูถูกหรือนี่”
    “อุ๊ย ไม่ใช่อย่างนั้นเจ้าค่ะ” แก้วรีบ คลานเข้าไปทำประจบสอพลอ “อีแก้วตั้งใจจะบอกว่า ...แหมเหมือนนินทาเจ้านาย แต่จะบอกเจ้าค่ะ ว่าคุณหลวงเธอไม่สนใจผู้หญิงเจ้าค่ะ”
    บ่าวสาวกระแทกเสียงที่ท้ายประโยค จนหยาดสะดุ้ง แทบจะหล่อนยกมือขึ้นทาบอก ตกใจน้ำเสียงนั่นเรื่องหนึ่ง แต่ตกใจเนื้อความนี่อีกเรื่อง แถมยังเป็นเรื่องใหญ่อีกด้วย
    “ว่าอย่างไรนางแก้ว ทำไมหล่อนพูดอย่างนั้น”
    “คุณหยาดรู้แล้วอย่าไปบอกคุณหลวงนะเจ้าคะ บ่าวไม่อยากเดือดร้อน” หล่อนพูดเบาเกือบจะกระซิบ “ก็คุณหลวงนะซีเจ้าคะ ชอบปิดห้องอยู่กับอ้ายเส็งมันสองคน อยู่กันทั้งวันนะเจ้าคะ ตอนรับกับข้าวนะเจ้าคะ คนอื่นต้องออกเรือนหมด ให้อยู่กับเส็งได้แค่สองคน แถมให้จัดอาหารให้เส็งด้วย ขนาดพ่อเทิดนะเจ้าคะ เป็นทนายแท้ๆ ต้องเดินมาหาข้าวกินเองเลยเจ้าค่ะ”
    “เอ็งจะบอกว่าคุณหลวง เป็น... พวกลักเพศหรือ”
    “อุ๊ย บ่าวไม่มีหน้าไปปักปรำนายดอกเจ้าค่ะ แต่อ้ายเส็งเนี่ยไม่แน่ บ่าวเคยเห็นนะเจ้าคะ มันมองคุณหลวงแปลกๆ ประจบเอาใจเกินไปด้วยเจ้าค่ะ”
    “แต่ที่เอ็งพูดนั่นมันก็ไม่มากไปหรือ เขาอาจชอบ ถูกใจกันเฉยๆก็ได้ คุณหลวงก็ไม่มีน้อง ส่วนเส็งเองพี่เขาก็เพิ่งตาย...”
    “คุณละก็ ถ้ามีเท่านี้บ่าวจะกล้าพูดหรือเจ้าคะ เนี่ยวันนั้นอีมะลิมันได้ยินเต็มสองหูเลยเจ้าค่ะ ปิดห้องกันตอนกลางวันแสกๆ มีขอหงขอหอมอะไรกันด้วยนะเจ้าคะ”
    “คุณพระ” หยาดอุทาน
    “เจ้าค่ะ ที่แย่ไปกว่านั้นเคยมีบ่าวเดินผ่านตึกใหญ่ตอนกลางคืน ได้ยินเสียงนะเจ้าคะ อ้ายเส็ง กับคุณหลวงหัวเราะกันคึกคัก อ้ายเส็งร้องอย่านะขอรับ อย่านะ แล้วก็หัวเราะกันอย่างนี้ คุณหยาดไม่คิดแบบบ่าวหรือเจ้าคะ”
    “ไม่คิดว่าคุณหลวงจะเป็นแบบนี้” แม่หยาดทำหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก อึดอัดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร หล่อนเคยได้ยินเรื่องพวกนี้ก็ได้แต่ขนลุกขยะแขยง ไม่คิดว่าจะมาเจอเข้ากับตัว
    “แต่คุณหลวงเขาก็แต่งงานกับคุณนี่เจ้าคะ”
    “โธ่ แต่งก็แต่ในพิธี กลับมานอนกับฉันสักคืน เขายังไม่ทำเลย หรือฉันจะต้องเลิกกับคุณหลวงแล้วหนีกลับไปอยู่บ้านคุณหญิงแม่”
    “ว้าย” แก้วร้อง “ไม่ได้เจ้าค่ะคุณหยาด ถึงบ่าวจะคุยอะไรให้ฟังก็ตาม แต่เราก็ไม่เคยเห็นกับตาแล้วก็ไม่เคยถามกันให้รู้ไปตรงๆด้วย ดังนั้นคุณหยาดยังมีโอกาสนะเจ้าคะ ช่วงนี้คุณก็ลองสังเกตไปก่อนซีเจ้าคะว่าเขามีอะไรกันหรือเปล่า ถ้ายังไม่แน่ใจก็แสดงว่าคุณยังมีหวังนะเจ้าคะ รีบผูกใจคุณหลวงเข้าเจ้าค่ะ”
    หยาดมองหน้าบ่าวคนสนิทอย่างไม่แน่ใจนักว่าจะเชื่อดีหรือไม่
    “เอาเถิดเจ้าค่ะ อย่างไรเสียผู้ชายก็เกิดมาคู่กับผู้หญิง อ้ายเส็งมันสำรวยอ้อนแอ้นอย่างนั้นก็จริง แต่จะสู้กับคุณหยาดของบ่าวได้หรือเจ้าคะ” หล่อนมองหยาดอย่างเจ้าเล่ห์ อย่างคนมีแผนในใจ “เชื่อบ่าวเจ้าค่ะ คุณหยาดจะต้องเปลี่ยนใจคุณหลวงได้แน่ ได้ชื่อว่าแมวยังไงก็ต้องกินปลาเจ้าค่ะ จะหลงไปกินผัก กินหญ้าบ้างมื้อสองมื้อเพราะไม่ตั้งใจ แต่สุดท้ายแล้วเกิดเป็นแมวยังไงมันก็ต้องกินปลา”
    
   วันสองวันต่อมา หยาดก็เริ่มปฏิบัติการ “เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนวันตาย” ในที่สุด
     หล่อนทำอาหารง่ายๆ หากแต่มั่นใจว่าทำได้รสอร่อย กว่าใคร มีแก้วเป็นคนแนะนำว่าครัวอยู่ตรงไหน อุปกรณ์อะไรต่อมิอะไรอยู่ที่ใดบ้าง สุดท้ายอาหารมื้อนั้นจึงออกมาเป็นมื้อหนึ่งที่หล่อนมั่นใจว่า รสเลิศที่สุดเท่าที่หล่อนคยทำมาในชีวิต
    หยาดและแก้ว ยกสำรับไปให้หลวงพินิจราชอักษรก็พบว่า นั่งกินอาหารเช้ากับเส็งอยู่ก่อนแล้ว หยาดหยุดชะงัก เพราะเส็งและคุณหลวงนั่งฝั่งเดียวกัน กินข้าวข้างกันอย่างสนิทสนม แก้วหันมามองหน้าหล่อนทำนองว่า “เห็นไหมเจ้าคะ”
    แต่หยาดก็ไม่ยอมแพ้ หล่อนเดินเข้าไปจนถึงตัวคุณหลวง นั่งลงที่พื้นข้างๆตัวคุณหลวงหนุ่ม ที่ก้มหน้าลงมาพูดกับหล่อน
    “เอ้าแม่หยาด วันนี้ทำกับข้าวกินเองหรือ”
    หน้าแตก หน้าแตกยับ แค่คำแรกคุณหลวงก็ประกาศออกมาแล้วเสียขนาดนั้น ว่าเขาจะไม่กินอาหารของหล่อน... แต่หล่อนก็ยังไม่ยอมแพ้อีก
    “น้องทำมาให้คุณพี่รับเจ้าค่ะ”หล่อนอุตส่าห์พูดเบาๆ ยกสำรับขึ้นวางบนโต๊ะให้หลวงพินิจราชอักษรรับ แต่คุณหลวงหนุ่มก็ยกมือขึ้นห้าม
    “แม่หยาดรับเถิด ฉันอิ่มเสียแล้ว กับข้าวของเส็งอร่อยเหลือเกิน” เขาว่าหันไปยิ้มให้บ่าวหนุ่ม “ถ้ายังเป็นอย่างนี้อยู่อีกคงอ้วนละ วันนี้จะไปทำธุระฝั่งขะโน้น พาเส็งไปด้วย มันไม่เคยข้ามไปฝั่งโน้นเลย”
    ฝั่งโน้นที่คุณหลวงว่าก็คือ กรุงธนบุรีนั่นเอง
    เป็นอันว่าความพยายามในวันแรกของแม่หยาดล้มเหลวไม่เป็นท่า
     หลวงพินิจราชอักษร นั่งชิดกับเส็งมือข้างขวากุมมือเส็งเอาไว้หลวมๆ วางหมวกทับเอาไว้ไม่ให้ใครคนขับเรือรู้ว่าแอบจับมือกัน หลวงพินิจถามตัวเองว่าทำไมต้องปิดบังเมื่อเขาก็รักเส็งด้วยใจบริสุทธิ์ทั้งใจ  ก็ได้คำตอบ จากตัวเองนี่แหละไม่ต้องเป็นคำตอบจากคนอื่นเลยว่า คนส่วนใหญ่รับไม่ได้ในสิ่งที่เขาทำ แล้วทำไมถึงรับไม่ได้ ในเมื่อมันก็ไม่ผิดอะไรสักหน่อยมิใช่หรือ
    แต่เขาก็รู้คำตอบได้ด้วยตัวเองว่าอีกนั่นละว่า... มันไม่ผิด ไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่ถูกหรือผิด มีแต่ แตกต่าง กันเท่านั้น เมื่อสิ่งหนึ่งต่างจากสิ่งหนึ่ง สิ่งใดที่คนส่วนใหญ่ยึดถือปฏิบัติหรือชอบพอถูกใจแล้ว เราก็ตั้งชื่อมันว่า “สิ่งถูก” อะไรที่ต่างไปแล้วตนไม่ชอบไม่ยอมรับละก็ผู้คนก็จะตีตราว่าเป็น “สิ่งผิด” เสมอไป ทั้งที่สิ่งที่ใครบางคนไม่ชอบและเห็นว่าเป็นสิ่งผิด อาจจะเป็นสิ่งที่คนอีกพวกยึดถือว่าถูกก็ได้ หลวงพินิจได้แต่ถอนใจ คิดเอาเองในใจว่า ในอนาคต เมื่อสยามพัฒนาไปมากแล้ว เรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องความเท่าเทียมกันในสังคม ก็คงต้องพัฒนาขึ้นบ้าง
    ตอนนี้ได้แต่รักแบบหลบๆซ่อนๆ ก็รักไปก่อนเถิด ดีกว่าเกิดมาชาติหนึ่งแล้วไม่ได้รู้จักเลยว่ารักนั้นเป็นอย่างไร
    กระนั้น เส็งก็ยังรู้สึกผิดต่อหยาด จนไม่ยอมพูดอะไรกับเขาสักคำเดียวตั้งแต่ออกจากเรือนเทามา เส็งเคยเปรยๆกับเขาหลายครั้งว่า สิ่งที่เขาทำอยู่มันไม่ดี ไม่ถูก และไม่เหมาะกับหยาด แต่หลวงพินิจก็ย้อนทุกครั้งว่า
    “เรารักกันก่อนนะเส็ง แม่หยาดเขามาแต่งทีหลัง อีกอย่างเราก็ไม่ได้รักเขาอย่างนี้ใครเป็นฝ่ายผิดกันแน่เส็ง” แม้บ่าวหนุ่มอยากจะย้อนกลับบ้างเหลือเกินว่า
    “แต่จริงๆแล้วบ่าวมาทีหลังนะขอรับ แล้วคนที่พาบ่าวมารู้จักกับคุณหลวงก็คุณหยาดนี่ไม่ใช่หรือขอรับ” แต่เส็งก็ไม่ย้อนไปจนแล้วจนรอด ทั้งคู่ก็เลยไม่เคยทะเลาะกัน สักครั้ง
    คุณหลวงอาจจะใจร้อนมากขนาดที่ใครๆก็กลัวอารมณ์ที่รุนแรงของเขา แต่คุณหลวงก็เย็นลงได้ทุกครั้งที่อยู่กับเส็ง เขาจะทำร้ายคนคนนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเขารัก ทะนุถนอมเสียสุดหัวใจขนาดนี้ ดังนั้นไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น หลวงพินิจราชอักษรจะชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ด้วยเหตุผลและอารมณ์ที่ยึดเอาความรักต่อเส็งเป็นใหญ่เสมอ จะตะโกนใส่หน้ากันราวกับจ้องจะทำร้ายกันนั้นไม่เคยมี
    “เส็ง” หลวงพินิจทักขึ้น เมื่อเรือพายมาถึงฝั่งธนบุรี กำลังจะเข้าคลองเล็กๆที่นำไปสู่ปลายทางที่เขาตั้งใจจะมา “จะไม่พูดกับเราเลยหรือ”
    บ่าวหนุ่มหันหน้ามามองคนรัก กล่าวเบาๆอย่างเสียไม่ได้
    “คุณหลวงมีเรื่องอะไรพูดกับบ่าวเล่าขอรับ”
    “เส็ง” หลวงพินิจบีบมือเส็งแน่น “จะโกรธเราจริงๆหรืออย่างไร”
    “บ่าวไม่ได้โกรธนะขอรับ แต่บ่าวอึดอัด” เขาว่า พูดเบาแทบจะเป็นกระซิบ “ทุกวันนี้มันไม่เหมือนกับแต่ก่อน บ่าวเห็นหน้าคุณหยาดทีไร บ่าวก็ต้องรู้สึกผิดทุกที มันเหมือนบ่าวกำลังทำบาปอะไรอยู่ เหมือนกำลังทำให้คุณหยาดเธอ... เสียใจ”
    หลวงพินิจไม่ว่าอะไร เพราะรู้ดีว่าถ้าพูดไปแล้วคงต้องพูดกันยาว เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ ต้องขุดต้องรื้อมาคุยกันแล้วคุยกันอีกอย่างนี้ไม่จบ ความเงียบเป็นอะไรที่รักษาน้ำใจกันได้ดี เส็งกับหลวงพินิจจึงมาถึงที่หมายโดยไม่ทันได้ทะเลาะกัน
    
    เส็งรู้แต่ว่าคุณพระคนนี้ชื่อ พระสนิท แต่ไม่รู้ว่าสนิทอะไรเพราะคุณหลวงไม่บอก ทั้งคู่เดินเข้าบริเวณบ้านทรงไทยที่ปลูกไว้ในสวนต้นไม้ขึ้นครึ้มไปหมด ก่อนที่จะเดินขึ้นเรือ หลวงพินิจหันมาหาเส็ง เห็นใบไม้ร่วงอยู่บนผมของบ่าวหนุ่มก็หยิบออกให้อย่างอ่อนโยนส่งสายตาที่หวานซึ้ง แฝงด้วยความรักให้
    “เส็ง เรายังอยู่ด้วยกันก็ดีแล้วนะ อะไรอย่างอื่นที่มองข้ามได้ก็มองข้ามไปเถิดนะ” เขาว่าเบาๆ “อุปสรรคมันเยอะแยะไปหมด เราก็ฝ่าฟันมันมาได้เรื่อยๆแล้ว เราเชื่อว่าสุดท้ายเรื่องนี้คงมีทางออกเช่นกัน”
    เส็งหยุดนิ่ง เหมือนน้ำตาจะเอ่อออกมาอีกครั้ง
    “กว่าเราจะได้เจอกัน กว่าเราจะได้รักกัน กว่าเราจะได้รู้ใจกันมันก็นานใช่ไหม ยากลำบากใช่หรือเปล่า”
    บ่าวหนุ่มพยักหน้า
    “เราจะทิ้งเวลาดีๆ ทิ้งสิ่งที่เราผ่านมาด้วยกันไปง่ายๆเพราะคนคนเดียวเทียวหรือ” คุณหลวงหนุ่มกระซิบ “เราได้รักกันก็ดีแค่ไหนแล้ว ใครคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างเถิดนะ”
    “ขอรับ”
    “คนดี” หลวงพินิจยิ้มกว้าง “เข้าไปคุยธุระแล้ว เส็งรอข้างนอกนะจ๊ะ ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นละ”

    ประเดี๋ยวเดียวของคุณหลวงหนุ่มคือเกือบครึ่งชั่วโมง แต่เส็งก็รอได้โดยไม่รู้สึกว่านานอะไรนัก พอคุณหลวงเดินกลับออกมา เส็งก็เห็นว่าสีหน้าของคนรัก ดูเจื่อนลงกว่าตอนก่อนเข้าไปข้างในเล็กน้อย กระนั้นพอเห็นเส็งเขาก็ยิ้มออกมาให้บ่าวหนุ่มอย่างคนพยายามสงบอารมณ์ให้ได้
    เส็งไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะถามว่าหลวงพินิจเข้าไปทำอะไรมา เขาวางตนให้เป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น แต่คุณหลวงไม่เคยเห็นคนรักเป็นบ่าวอยู่แล้ว จึงพูดออกมาเองทันทีที่ก้าวลงเรือ ไม่ได้รอให้บ่าวหนุ่มถามก่อน
    “เส็ง ศุกร์นี้เราไปเพชรบุรีกันนะ”
    “ว่าอย่างไรนะขอรับ” เส็งตาโต อย่างเด็กที่รู้ว่าจะได้ของเล่นอย่างไรอย่างนั้น “ไปเพชรบุรีหรือขอรับ ไปทะเลหรือเปล่าขอรับ”
    “ไปทะเลซี” เขาหัวเราะ
    “คุณหลวงไปทำงานหรือขอรับ”
    “เปล่าไม่ได้ไปทำงาน เอางานมาส่งคุณพระ คุณพระเห็นว่าเรียบร้อยดีเลยอนุญาตให้ไปเที่ยวหัวเมืองได้”
    “ดีจริงขอรับ”
    “ก็เพราะเส็งช่วยงานนั่นแหละถึงออกมาถูกใจคุณพระอย่างนี้” ทั้งคู่มีความสุขจนลืมคิดเล็กคิดน้อยไปเลย คุณหลวงพูดโน่นพูดนี่ให้เส็งฟังอย่างสนุกปาก เส็งเองก็ฟังไป ยิ้มไป หัวเราะบ้างตามโอกาส เพราะมีความสุขเหลือเกินที่จะได้ไปเห็นทะเล
    ไม่รู้หรอกว่าเรื่องที่คุณหลวงบอกนั้น เป็นเพียงครึ่งเดียวของเรื่องทั้งหมด ที่เขาได้เข้าไปคุยกับคุณพระสนิทมา

    คืนนั้นทั้งสองคนกลับบ้านด้วยกันก็ตรงเข้าไปอาบน้ำ ยืนกอดจูบกันใต้สายน้ำอย่างคิดถึงคะนึงหา ไม่ได้ระวังตัวเพราะได้อยู่กันเพียงสองคนในที่รโหฐาน ในที่สุด โดยหารู้ไม่เลยว่าเขาสองคนกำลังถูกจับตามองอยู่โดยสายตาคู่หนึ่งที่ตื่นตระหนกเกินกว่าจะรับความจริงที่เห็นได้
    หยาดถอนตาออกจากรูเล็กๆที่ผนังห้องนอนของหล่อน ด้วยความตกใจ
     หล่อนนึกไม่ถึงว่า รูเล็กๆที่หล่อนใช้คนเจาะไว้แอบดูคุณหลวงและเส็ง จะทำให้หล่อนได้เห็นความจริงได้กระจ่างชัดเต็มตาถึงเพียงนี้ ชัดเจนจนไม่อาจลบภาพออกได้แม้ยามข่มตาหลับ... ข่มตาหลับทั้งน้ำตาด้วยความแค้นใจที่แพ้ให้ใครไม่แพ้ มาแพ้ให้เส็งบ่าวลูกเจ๊กตัวเล็กๆที่ไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับ ลูกพระยาไพศาลเสนีย์ อย่างหล่อน

sornvat

  • บุคคลทั่วไป
จากฝันเหรอครับ แล้วนำมาต่อร้อยเรียงเป็นเรื่องราวขนาดนี้
ยิ่งอึ้งนะครับ แรงบันดาลใจบรรเจิดมาก หุหุ
ขอชมอีกคนว่า คุณศึกษาข้อมูลมาประพันธ์+จินตนาการมาได้กลืนกันมาก

ว่าแต่ รอคุณมาต่ออยู่นะครับ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
งานเริ่มเข้าอย่างจริงจังแล้วสิทีนี้ >.<

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
สรุป คนเจาะรูห้องน้ำไว้แอบส่องดูคือ แม่หยาดนี่เอง  :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
มันใกล้เข้ามาแล้วใช่ไหมคะความจริง!

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :monkeysad:สงสารเส็งและคุณหลวงงงงงงงงงงงงงงงงง  ไม่ได้มีความสุขกันอะๆๆๆๆๆๆ



เกียจนางหยาดและนางแก้วววววววและทุกคนที่ทำร้ายเส็งและคุณหลวงงงงงงงงงงง :angry2:

tawan

  • บุคคลทั่วไป
หยาดจะร้าหรือเปล่าอะ

อย่านะสงสารเส็ง

 :call:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ต๊าย clip ค่ะ คุณหยาด post ด่วนเลยค่ะ อิอิ
๑๑๔ + ๑ = ๑๑๕
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งรับรู้ที่มาของนิยาย ยิ่งภูมิใจในตัวผู้แต่งนะคะ
เก่งมากทีเดียว จากความฝัน มาสู่เรื่องราวในนิยาย
แถมมีหาข้อมูลประกอบอีก ขอชื่นชมจริงๆค่ะ

 o13

มารอต่อว่าเส็งจะได้ไปเพชรบุรีรึเปล่า

V_we

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านรวดเดียวตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ
ตื่นมาก็มาต่อ อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลย
ชอบสำนวนมากเลยค่ะ มันละมุนละไม
อ่อนหวาน แล้วก็บรรยากาศในเรื่องด้วย
แม้ว่าจะอ่านไปจะมีคำถามมากมายผลุดตามมา
โดยเฉพาะแล้วเรื่องอดีตมันจะโยงเข้ากับปัจจุบันได้อย่างไร

ตอนที่คุณหลวงรักกับเส็งแรกๆ อ่านไปก็บิดตัวไป
เขินแทนเส็งอ่ะ ฮ่าฮ่า
คุณหลวงช่างอบอุ่นและอ่อนหวานอะไรขนาดนั้น

ส่วนตอนล่าสุดเป็นอะไรที่กลั้นใจอ่านมาก
สงสารคนที่รักกัน ทำไมต้องมีคนคอยขัดขวางด้วย

(แอบแซวเล่น) รูนั่นเป็นของคุณหยาดเองหรือนี่
แหมๆๆๆ เป็นผู้หญิงไปเจาะรูดูผู้ชายอาบน้ำน้อ
 :z1:

+1 และเป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณทีแต่งนิยายสนุกๆ มาให้อ่านค่ะ
 :pig4:



ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ถ้าคุณหลวงไม่อยู่เส็งก็โดยเมียหลวงรังแกแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ปัญหารักของคุณหลวง+เส็ง+คุณหยาด

จะบานปลายไปเช่นไรหนอ.....

anata9

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มมีพูดถึงเมืองเพชรบุรีแล้ว เส็งจะเป็นยังไงน้อ รอวันที่คุณหลวงจะพาไปเพชรบุรี  :m15:

ออฟไลน์ Lady-Rabbit

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
บางทีก็แิอบสงสารคุณหยาดนะคะ
ถ้าเกิดเธอเลือกได้ก็คงจะไม่อยากแต่งกับคนที่ไม่ได้รักเธอหรอก เฮ้อออ

ออฟไลน์ BiGgYDrIb

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
คุณหลวงน่าจะไปทำคุณไสยให้หยาดกับนังแก้วรักกันไปเลยนะจ๊ะ
เป็นเพื่อน เล่นเพื่อนกัน จะได้ไม่มีอุปสรรค

ถ้าคุณหยาดเป็นสาววายก็ดีสินะ โฮะๆๆๆ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
มันใกล้ความจริงเข้ามาทุกที

สงสารเส็ง  :m15:

ปล.รูนั้น แม่หยาดเจาะไว้เองหรอเนี่ย

bellity

  • บุคคลทั่วไป
รูพิศวงนั้นเป็นรูคุณหยาดนั้นเอง

รอมาม่าชามใหญ่บิ๊ก :serius2: :serius2:

ltahset

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านจนทันแล้วค่ะ
เรื่องสนุกแล้วก็ดูสมจริงมากๆ
อ่านไปก็เอาใจช่วยไป
รอลุ้นตอนต่อไปนะคะ

^^
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
โอ้วว ความลับไม่มีในโลกจริงๆ :z3:
แล้วทีนี้จะทำไงดีอ่า หายนะเริ่มส่อเค้ามาเยือนแล้วเส็งน้อย :monkeysad:


ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อ้อ  รูแม่หยาดนี่เอง

ยิ่งอ่านยิ่งชอบค่ะเรื่องนี้


จนหน่าไปแนะนำเพื่อนซึ่งปกติไม่อ่านแนวนี้ให้ลองอ่านดู


แต่แค่เห็นบทนำเพื่อนก็กรี๊ดเลยบอกภาษาสวยมาก


เป็นนักเขียนมืออาชีพรึเปล่า


แต่หน่านับถือนะที่เขียนเป็นครั้งแรกแต่ภาษาดีมาก


ยิ่งตอนกลอนเพลงยาวที่ถึงขั้นเอาไปเพ้อให้เพื่อนฟังเลย

พี่สุดยอดมากอ่ะ

เหตุการณ์ต่างๆก็ดูมีมิติสมจริง


ตัวละครก็สมเหตุสมผล


มีเหตุที่เหมาะแก่การกระทำนั้นๆ


ตัวละครไม่ดีเกินไปไม่เลวเกินไปสมจริงสุดๆ

อย่างตัวเอกก็ไม่ได้ดีเวอร์  มีความเห็นแก่ตัวบ้าง

เพราะคนจริงๆมันก้เป็นอย่างนี้

ไม่เคยแสดงความคิดเห็นยาวๆอย่างนี้สักที


หวังว่าพี่คนแต่งคงไม่ว่าอะไรนะคะ


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด