มาต่อให้แล้วค๊าบ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
19...
นับจากวันที่ ภานุ กลับมาเมืองไทยก็แทบจะมาขลุกอยู่แต่ที่บ้านของธวัฒน์ เกือบทุกวัน ด้วยเหตุผลที่ ภานุ อ้างว่า เพื่อมาติวหนังสือกับนัท ... ซึ่งทั้งคุณแม่ของธวัฒน์ และภานุ ต่างก็เห็นดีด้วย ... ธวัฒน์เองก็ไม่สามารถขัดอะไรได้ ถึงจะดูไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ก็ตาม ... ที่เห็นเด็กสองคนสนิทกันมากขึ้นทุกวัน ...
“นี่ ภานุ ทำไมแกไม่กลับบ้านกลับช่องบ้างหา ... มาขลุกอยู่นี่จะเป็นเดือนอยู่แล้วนะ คุณแม่ไม่ว่าบ้างหรือไงที่มาค้างบ่อยๆ เนี่ย”
เย็นวันหนึ่งที่โต๊ะอาหาร ธวัฒน์อดที่จะถามไม่ได้ ... ทั้งๆ ที่ก็เคยถามมาหลายครั้งแล้ว และคำตอบก็คงจะไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ...
“ไม่เห็นท่านว่าอะไรนี่ครับ ... ก็ผมบอกว่ามาให้นัทติวหนังสือให้ ... ท่านก็บอกว่าดีด้วยซ้ำไป จริงป่ะนัท...”
ภานุหันไปถามความเห็นจากนัทอีกคน ... แต่นัทได้แต่พยักหน้ารับน้อยๆ และก้มหน้าก้มตาทานต่อไป ... นี่ก็เกือบเดือนแล้วนะที่แทบไม่ได้คุยกะธวัฒน์ ... ก็ไม่ได้กัดกันเหมือนเคย ... มันก็แปลกอยู่ๆ เหมือนกัน เพราะตั้งแต่ ภานุ มาขลุกอยู่ด้วยก็แทบไม่มีโอกาสอยู่กันตามลำพังเลย ... ซึ่งนัทก็คิดว่า ก็ดี ... จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย ... แต่ทุกครั้งที่ธวัฒน์พา นภัทรมาที่บ้าน นัทก็จะดูอารมณ์ไม่ปกติ จนภานุสังเกตได้ และนัทจะพยายามเลี่ยงๆ ไม่เข้าใกล้ เหมือนไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ ยังไงยังงั้น ...
“แล้วนี่ติวกันไปถึงไหนแล้วล่ะ ...”
“เอ...ผมว่าคำถามพี่มันออกจะส่อๆ พิกลนะ ... ถ้าหมายถึงติวหนังสือล่ะก็จบไปหลายรอบแล้วล่ะ ก็มันใกล้จะสอบแล้วนิ แต่ถ้าหมายถึงเรื่องอื่น .... ล่ะก็ ...”
ภานุ หันไปสบตากับนัท ... นัทเองก็รู้ว่า ภานุ หมายถึงอะไร ก็เลยหน้าแดง และศอกเข้าให้ทีนึง เพราะตั้งแต่ได้รู้จักกันมาเกือบเดือน ก็ทำให้นัท รู้ว่าภานุนั้น ทะลึ่งขนาดไหน ...
“พอเลย พอเลย ... อย่ามาทำอะไรแปลกๆ ในบ้านพี่นะ ถ้าจะทำล่ะก็ไปทำที่อื่น ...”
ท้ายประโยคนั้นเหมือนจะจงใจพูดกับ นัทมากกว่าภานุ ... ก่อนที่จะลุกจากโต๊ะและเดินขึ้นไปบนห้อง ... นัทที่สังเกตเห็นก็ได้แต่แสร้งมองไปทางอื่น ... เพราะไม่อยากสนใจกับคำพูดแดกดัน ...
“พี่วัฒน์นี่พูดแปลกๆ เนอะ ยังกะกำลังหึงอยู่งั้นแหละ นัทว่าม่ะ ... ถ้าเราจะรักกันก็ไม่เห็นจะต้องอารมณ์เสียสักหน่อย...”
นัทที่ได้ยินที่ ภานุ พูดถึงกลับหันขวับมามอง ...
“นี่ให้มันน้อยๆ หน่อย ภานุ พี่วัฒน์เค้าจะมาหึงอะไร เค้าน่ะมีแฟนอยู่แล้วนะ แล้วอีกอย่างไอ้ที่ว่าเรารักกันเนี่ย มันหมายความามว่าไงอ่ะ อย่ามามั่วนิ่มนะ”
“อ้าว...นึกว่าเราเป็นแฟนกันซะอีก ... หว๊า... แย่จัง ... อุตส่าห์ดีใจ...”
“มั่วล่ะ ... ไปหาที่อื่นเลยไป ... อย่าให้นัทเป็นโชคร้ายเลย”
“โห ไรหว้า ... เป็นแฟนกะภานุ นี่มันโชคร้ายมากเลยหรอ ...”
ภานุ ดูจะหน้าเศร้าลงไป ... พอนัทหันไปเห็นก็เริ่มรู้สึกผิดว่า พูดแรงไปหรือเปล่านะ ... ก็เลยเข้าไปกอดคอเพื่อนและปลอบใจสักหน่อย ...
“เฮ้ย... พูดเล่นน่า ... ภานุ ...”
“ฮาๆๆๆ ... นัทนี่หลอกง่ายดีเนอะ ... เป็นคนใจอ่อนมันก็ดีหรอกนะ แต่ระวังจะเสียเปรียบพวกเจ้าเล่ห์นะ...”
ภานุเปลี่ยนสีหน้า มาแลบลิ้นปลิ้นตาให้นัท ... จนทำให้นัทชักจะฉุนๆ ที่โดนหลอก ...
“หลอกนักใช่ม่ะ ... นี่ นี่ นี่ ... อย่างนี้ต้องสั่งสอน ...”
นัทที่กอดคอเพื่อน หันไปรัดคอแทน โดยรัดแน่นขึ้น กะให้ขาดใจตายไปเลย ...
“!!!โอ๊ย...โอ๊ย...!!! เจ็บ เจ็บ ... ปล่อยอ่ะ ปล่อยซินัท ยอมแล้วคร้าบบบ ... ยอมแล้ว...”
นัทเห็น ภานุ เจ็บจนน้ำตาเล็ดแล้ว ก็เริ่มใจอ่อน ก็เลยคลายเขนที่รัดออก ...
“แล้วทีหน้าที่หลัง อย่ามาแกล้งแบบนี้อีกนะ ... จำไว้ล่ะ…”
แต่แทนที่ภานุที่โดนนัทรัดคอจากด้านหลัง จะสำนึกผิด พอเห็นว่าแขนเริ่มคลายออกแล้ว จึงหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับนัท และจับแขนของนัทที่รัดคอตัวเองเมื่อครู่นี้ไปไขว้ไว้ข้างหลังของนัทเอง ... (คิดดูนะ...จะเหมือนภานุกอดนัทอยู่อ่ะ อิอิ...) ...
“เฮ้ย ภานุเล่นไรว่ะ ปล่อยนะ...”
นัทไม่กล้าดิ้นมาก เพราะตอนนี้แขนถูกล็อคไว้ด้านหลังของตัวเอง ภานุขยับมาชิดตัวเพื่อให้ล็อคแขนได้ถนัด แล้ว...แล้วอะไรต่อมิอะไร ... มันก็ต้องชนกันอ่ะจิ ... (อะ..อะ...ตัวครับ ลำตัว...คิดไปไกลล่ะ หุหุ...) หน้าก็อยู่ใกล้กันนิดเดียวจนหายใจรดกันได้เลย...
“ก็นัทบอก ไม่ให้แกล้งแบบนั้นอีก งั้นคราวนี้ก็แกล้งแบบนี้บ้างไง ...”
“ไอ้...ปล่อยซิว่ะ...”
แล้วนัทก็ต้องถึงกับอึ้ง...อึ้ง...ไปเฉยๆ เพราะอยู่ๆ ภานุก็หอมเค้าฟอดนึง แล้วก็วิ่งจู๊ด...ไปที่รถพร้อมกับตะโกนมาบอก...
“พรุ่งนี้เจอกันนะ...กลับบ้านล่ะ บาย...”
“ดู ดูมันทำ ... เล่นแผลงๆ แล้วยังมาทำหน้าระรื่นอีก อย่างนี้จะโกรธมันลงไหมเนี่ย...”
นัทได้แต่ลูบแก้มตัวเอง ... ยิ้มหน่อยๆ กับความทะลึ่งทะเล้นของเพื่อน ... โดยไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เลย ... แต่พอหันกลับไปจะขึ้นไปนอนก็ต้อง เจอกับหน้าตาบูดบึ้งของใครอีกคน ...
“พ...พี่วัฒน์ ยังไม่นอนเหรอครับ”
“ถ้านอนแล้ว ... คงไม่ได้เห็นอะไรดีๆ หรอก จริงไหม ...”
“เห็น ... พี่เห็นอะไรครับ ...”
“ก็เห็นเด็กวัยรุ่น พลอดรักกันไงล่ะ ... ก็รู้หรอกนะว่าเดี๋ยวนี้มันเยอะ แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องน่าอับอาย น่าสมเพชแบบนี้มันจะมาเกิดกับคนในบ้านนี้...”
“นี่...นี่พี่วัฒน์ไปกินเหล้ามาตอนไหนครับครับ ... กลิ่นออกเชียว ผมว่าพี่เมาแล้วก็ไปนอนดีกว่านะ... พี่ชักจะพูดไม่รู้เรื่องแล้ว”
“ใช่ซินะ พี่มันน่ารังเกียจ ... ไม่เหมือนไอ้ภานุ หรือไอ้แทนมันหรอก ... พวกมันน่ะแสนดี ...”
“พี่แทนกับ ภานุ มาเกี่ยวอะไรครับ ... ผมว่าพี่เมาแล้วนะ ผมไม่ได้เป็นอย่างที่พี่วัฒน์คิดนะครับ ... ผมไปนอนดีกว่า...”
นัทเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแล้ว โดยมีธวัฒน์เดินตามขึ้นมา ... แต่นัทก็ทำเป็นไม่สนใจ พยายามรีบเดิน ... นัทที่กำลังจะเข้าห้องของตัวเอง ต้องรีบวิ่งกลับมาดูธวัฒน์ที่ตอนนี้ล้มอยู่ที่ทางเดิน ...
“พี่...พี่วัฒน์เป็นอะไรครับ เมาแล้วก็ไม่น่าจะออกมาจากห้องเลยน๊า ...”
เหลียวซ้ายแลขวา ก็ไม่เห็นใคร จึงพยายามจับธวัฒน์ลุกขึ้นและประคองไปที่ห้องของชายหนุ่ม ... อย่างยากลำบาก
“ตัวหนักชะมัด ... ดันทุรังไม่เข้าเรื่อง ...”
นัทเปิดประตูห้องเข้าไปแล้ว ... ปิดประตูห้องแง้มไว้นิดหน่อย ... พยายามจะแบกพยุงธวัฒน์ไปที่เตียง .... เมื่อได้ยินเสียงล็อคประตู ก็ต้องหันไปมองตามเสียง ... และต้องสลัดคนที่พยุงมาออกจากตัวทันที เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ...
“นี่..นี่พี่วัฒน์แกล้งล้มเหรอครับ ...”
“ช่ายยย ... ถึงพี่จากินเหล้า... แต่ก็ไม่ได้มาว จนไม่รู้เรื่องหรอกนะ...”
“งั้นก็ไปนอนเถอะครับ ... ผมจะกลับห้องแล้ว...”
นัทกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ก็ต้องโดนธวัฒน์จับข้อมือเอาไว้ ...
“เดี๋ยวซิ จารีบปายไหน ... เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ ...”
“แต่ผมไม่มีเรื่องจะพูดแล้วครับ แล้วก็ถ้าจะพูดผมว่า ... เอาไว้ตอนพี่สร่างเมาจะดีกว่านะ...”
“ทำไม ... พี่กับผู้ชายคนอื่นๆ มันต่างกันยังไงฮ๊ะ... ถึงได้รังเกียจพี่นัก ... พี่บอกแล้วใช่ไหม ว่าถ้าจะทำเรื่องเสื่อมเสียให้ออกไปทำที่อื่น อย่ามาทำในบ้านหลังนี้ !!”
“ผมทำอะไรครับ ผมว่าพี่ชักจะเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะ...”
“แล้วไอ้ที่ไปยืนกอด ยืนจูบกันนั่นน่ะ มันไม่เรียกว่าเสื่อมเสียหรือไงกัน ฮ๊ะ ... มันเป็นธรรมดาใช่ไหม สำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ ที่จะชอบพวกเดียวกัน... ถ้างั้นกับผู้ชายคนไหนมันคงจะไม่ต่างกันหรอก... ใช่ม่ะ”
“พ...พี่วัฒน์พูดอะไรครับ ... ผมไม่เข้าใจ แล้วก็ปล่อยผมเถอะ ผมจะไปนอน ...”
ธวัฒน์ที่อารมณ์ขึ้นหน้าแล้ว ... คว้าแขนทั้งสองข้างของนัทไขว้มาข้างหลังพร้อมรวบไว้ด้วยมือเดียว ... แม้นัทจะมีแรงแค่ไหนก็ดูจะไม่สามารถต้านทานกำลังของอีกฝ่ายได้ ... ส่วนมืออีกข้างของธวัฒนถลกเสื้อของนัทออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะดึงมารัดที่ข้อมือของนัทให้ติดกันอย่างดิ้นไม่หลุด ...
“พี่วัฒน์!! ปล่อย... ปล่อยผมนะครับ จะ...จะทำอะไรครับ…”
“ทำอะไรน่ะเหรอ ... ก็จะสนองความต้องการให้ไง ... ชอบไม่ใช่หรอไง แบบนี้น่ะ!!”
“ไม่นะครับ ... ปล่อยผม ... ผมไม่ชอบ และไม่ต้องการแบบนี้นะครับ พี่วัฒน์ปล่อย...”
นัทที่พยายามดิ้นรน แต่ธวัฒน์ก็ไม่มีท่าทีสนใจกลับแบกนัทไปที่เตียง เด็กหนุ่มโดนโยนลงบนเตียง พยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อลุกขึ้นมา แต่มันก็ลำบากยากเย็นที่จะทำได้ เมื่อแขนทั้งสองข้างโดนมัดไขว้หลังอยู่ แถมโดนธวัฒน์กดให้นอนคว้ำหน้า ... แผ่นหลังขาวเนียน มันกลับทำให้อารมณ์ของธวัฒน์ลุกโพลง ... กางเกงของนัทนั้นหลุดไปแล้ว ธวัฒน์ก็เหลือเพียงกางเกงขายาวตัวเดียว ...
ถึงแม้น้ำตาจะไหลออกมา แต่จิตใจที่เข้มแข็ง ก็ยังไม่ยอมลดละที่จะดิ้นรน ... เพื่อให้รอดพ้นจากอารมณ์ปรารถนารุนแรงของอีกฝ่าย ... ตอนนี้นัทซึ่งอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ถูกจับให้นอนหงายทับแขนทั้งสองข้างของตัวเองที่โดยมัดไว้ด้านหลัง ... สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของอีกคนอย่างไม่วางตา ...
“ทำไม ... ทำไมพี่วัฒน์ต้องทำกับผมแบบนี้ ... พี่วัฒน์เกลียดผมขนาดนี้เลยเหรอครับ ... ถ้า ถ้าพี่วัฒน์ไม่อยากให้ผมอยู่ในบ้านหลังนี้ ผมจะออกไปนะครับ ... อย่าทำกับผมแบบนี้เลย...”
“หึ หึ ... มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ ...คิดว่ามาทำเรื่องเอาไว้มากมายแล้วจะได้ออกไปอย่างสบายๆ หรือไงกัน ... ไหนๆ ก็คิดจะชอบพวกเดียวกันแล้ว งั้นถ้าพี่จะเป็นคนแรกมันคงไม่เป็นไรหรอก ใช่ไหม...”
สองขาที่โดนจับแยกออก ทำให้นัทรับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ... จนปัญญาที่จะต้านทานอารมณ์ที่บ้าคลั่งได้ ...
“โอ๊ย !!! เจ็บ เจ็บ ... ได้โปรดเถอะครับพี่วัฒน์...เอาออกไป ผม ผมเจ็บ !!!”
ความเจ็บปวดมันแล่น ผ่านจากด้านล่างขึ้นมาถึงสมอง ประหนึ่งร่างกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ... ฟันที่ขบกันแน่น ... หูสองข้างที่อื้ออึง ... ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดมันช่างยาวนานเหมือนคงอยู่ชั่วกัปกัลป์ ... ได้ยินเสียงก็เหมือนมันแว่วมาจากที่ไกลแสนไกล เพราะสมองที่ดับวูบ ไม่มีสติ ... ไม่สามารถรับรู้ได้อีกต่อไป มีเพียงความมืดมิด ... ไม่สามารถแยกออกระหว่างความฝันหรือความจริง ...
“พี่รักนัทนะครับ ... พี่ขอโทษ แต่พี่จะไม่ยอมให้นัทเป็นของอื่น ... เด็ดขาด...”