พิมพ์หน้านี้ - ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: VicOSe ที่ 23-04-2007 02:12:56

หัวข้อ: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 23-04-2007 02:12:56
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ



.::.กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่ .::. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)






พอดี ผมไปอ่านเจอเรื่องนี้ จากบอร์ด อื่นมาหนะคับ  อ่านแล้วก็สนุกดี  ผมเลยเอามาลงให้เพื่อนๆอ่านกันนะคับ

เรื่องนี้แต่งโดย คุณ JmAc นะคับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossibel) : บทสรุปของความรัก

1 ... แรกเจอ

นาย เอกรินทร์ พิพัฒนพงษ์ กรุณานำสัมภาระมาพบผู้ปกครองด้วยค่ะ
“ไอ้นัท กูไปก่อนนะโว้ย ... พ่อกะแม่มารับแล้วว่ะ”
เอกรินทร์ เด็กหนุ่มตัวสูงใหญ่ หน้าตาคมคาย หันมาบอกนัท ที่ตอนนี้ตาแดงก่ำ เหมือนกำลังจะร้องไห้

“เฮ้ย อย่าทำขี้แยเป็นเด็กผู้หญิงซิว่ะ เชื่อเหอะ ว่าเดี๋ยวแม่มึงต้องมารับแน่ กูไปก่อนนะ อ่ะ! นี่เบอร์ที่บ้านกูเองแล้วโทรหากันบ้างนะ”
เอกเพื่อนที่สนิทที่สุดของนัทพูดปลอบใจพร้อมกับยื่นเ บอร์โทรศัพท์ใส่มือ และกุมมือเพื่อนที่ตอนนี้มันเย็นเชียบมากๆ ทั้งที่เอกก็ไม่อยากจะทิ้งเพื่อนไว้คนเดียว แต่พ่อกับแม่ของเค้านะซิ นึกแล้วเอกยังหวั่นๆ

“ไปเถอะเอก กูไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวแม่กูก็คงมาแหละ”
นัทมองเอกอย่างเข้าใจ จึงบอกกับเพื่อนทั้งๆ ที่เสียงยังสั่นเครือ นัทมองเพื่อนที่ลากกระเป๋าออกไป ตามเสียงเรียกเป็นครั้งที่สอง นัทสนิทกับเอกมากจนรู้ว่าที่บ้านของเอกเข้มงวดเรื่อง ระเบียบวินัยมากขนาดไหน เพราะพ่อเอกเป็นนายพลของกองทัพอากาศนั่นเอง

“เอาละซิไอ้นัท เป็นคนสุดท้ายจนได้ แม่ครับ…เมื่อไหร่แม่จะมารับนัทสักทีนะ”
นัทมองซ้ายทีขวาที พร้อมกับใจหวิวๆ เพราะตอนนี้ในหอนอนไม่เหลือใครอีกแล้ว หันกลับไปมองเอกอีกทีก็เดินลับตาไปแล้ว ตลอดเวลาที่เรียนด้วยกันมา เอกจะคอยปลอบใจนัทเวลาที่คิดถึงแม่ จริงๆ นัทก็ไม่ใช่คนอ่อนแอเลย เค้าไม่เคยยอมแพ้ใครและไม่เคยให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ เพราะแม่เฝ้าพร่ำสอนเค้าเสมอเวลาที่เจอกันว่าต้องดูแ ลตัวเองให้ดีแม้เวลาที่แม่ไม่ได้อยู่ด้วย และนัทก็ไม่เคยผิดสัญญากับแม่สักครั้ง

แม่ส่งนัทมาอยู่โรงเรียนกินนอนที่เมืองไทยตั้งแต่เข้ า ม.1 แม่ก็แทบไม่เคยจะมาเยี่ยมเค้าเลย เพราะแม่ทำงานอยู่ต่างประเทศ จึงไม่ค่อยมีเวลาว่างกลับมาเมืองไทยสักเท่าไหร่ ทุกครั้งที่เจอกันแม่ของเค้าจะดูโทรมลงเสมอ นัทรู้แค่ว่าแม่ของเค้าหนื่อยเพราะแม่ต้องทำงานหนักน ับตั้งแต่ที่พ่อของเค้าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แม่เลี้ยงเค้ามาเพียงลำพังนับตั้งแต่นั้น นัทจึงรักแม่ของเค้ามากและพยายามตั้งใจเรียนเพื่อให้ แม่ภูมิใจ และเค้าก็ทำได้เสมอ นัทสอบได้ที่ 1 และได้ทุนการศึกษาจากโรงเรียนทุกปี นัทไม่เคยเรียกร้องอะไรจากแม่ เพราะเค้ารู้ว่าแม่ลำบากและทำงานหนักเพื่อเค้า นัทได้เจอหน้าแม่แค่ปีละ 2 ครั้งเท่านั้นในช่วงปิดเทอม เพราะแม่จะบินกลับมาเยี่ยมเค้าได้แค่นั้น

ตอนนี้ นัท จบชั้น ม.6 แล้ว และวันนี้เป็นวันที่ผู้ปกครองจะต้องมารับกลับบ้าน นัทเฝ้ารอวันนี้มานาน เพราะจะเป็นวันที่นัทได้กลับไปอยู่กับแม่ ตอนนี้นัทได้แต่คิดว่าแม่จะได้รับจดหมายของเค้าหรือเ ปล่า เค้าได้เขียนบอกแม่ไหมนะว่าวันนี้เป็นวันที่แม่ต้องม ารับเค้ากลับบ้าน

นัทพยายามนึกทบทวนถึงจดหมายที่เค้าส่งให้แม่ แล้วถ้าเกิดแม่ไม่ได้รับจดหมายเค้าจะทำยังไงดี เพราะเด็กที่ผู้ปกครองยังไม่มารับ ก็ต้องอยู่ที่หอต่อไปจนกว่าจะมีผู้ปกครองมาติดต่อกับ ทางโรงเรียน ตอนนี้น้ำตาที่กลั้นมานานกำลังจะไหลออกมาอยู่แล้ว ก็พอดีกับที่มีเสียงประกาศเรียกจากห้องปกครอง

“นาย ณัฐภูมิ รัตนปัญญา ให้นำกระเป๋าลงมาพบผู้ปกครองด้วยค่ะ”

“แม่มาแล้ว แม่มาแล้ว” เด็กหนุ่มลากกระเป๋าวิ่งไปที่ห้องปกครองทันที เพราะอยากเจอแม่เหลือเกิน นัทอยากกลับไปอยู่อเมริกากับแม่ กลับไปที่บ้านของพ่อ บ้านของพวกเรา นัทพูดกับตัวเองไปตลอดทางที่วิ่งไป และเมื่อไปถึงห้องปกครอง เค้าจึงรีบวางกระเป๋า พร้อมกับเข้าไปในห้องปกครองด้วยความดีใจ

“โอ๊ย…”

ใครกันเนี่ย นัทที่ล้มลงไปกองกับพื้นเหลือบสายตาขึ้นมามอง ร่างสูงเพรียวที่ยืนอยู่หันหลังอยู่ตรงหน้าเค้า
เห้อ … แต่งตัวแบบนี้ ค่อยโล่งอกหน่อยที่ไม่ใช่อาจารย์ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นอาจารย์ที่มองมาเค้าต้องรีบลุกข ึ้นทันที และยกมือไหว้คนตรงหน้า ที่ดูว่าไม่สะทกสะท้านอะไรเลยที่เค้าวิ่งมาชน

“เอ๊อ..ขอโทษครับ คือ ผมรีบน่ะครับไม่ได้ตั้งใจ”

ชายหนุ่มที่นัทวิ่งชน หันมามองเค้าด้วยหางตาพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก แล้วหันกลับไปพูดกับอาจารย์โดยทำเหมือนไม่สนใจคำขอโท ษของเค้าสักนิด
ทำให้นัทยิ่งฉุนกึกขึ้นมาในใจ ยิ้มกวนประสาทชิบเป๋ง หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดี เหมือนลูกคุณหญิงคุณนายแต่มองคนอื่นด้วยหางตาแบบนี้เ สียมารยาทจริงๆ

“โรงเรียนนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องมารยาทของนักเรียนไม่ ใช่หรือครับอาจารย์ ไม่น่าจะมีเด็กวิ่งตึงตัง ไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้นี่ครับ”
นัทรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที ที่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า
ขอโทษไปแล้ว ยังไม่พอใจอีกหรือไงกัน นัทได้แต่ฉุนในใจ เพราะอยู่ต่อหน้าอาจารย์

“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ คือปกติ ณัฐภูมิ เค้าก็เป็นเด็กมารยาทดีคนนึงเลยค่ะ แถมยังเป็นนักเรียนดีเด่นของเราด้วย แกคงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ”

“เนี่ยเหรอครับ… นักเรียนดีเด่น… มารยาทดีอีกด้วย…”

ชายหนุ่มหันมามองนัท อย่างไม่เชื่อสายตา พร้อมกับยิ้มมุมปาก ยิ้มที่นัทไม่ชอบเอามากๆ
ถ้าเป็นเวลาปกตินัทคงคิดว่าคนแปลกหน้าคนนี้ยิ้มมีเสน ่ห์แน่ๆ เพราะเค้ามีลักยิ้ม แถมมีเขี้ยวเล็กๆ น่ารักดี สาวๆที่เห็นคงจะชอบไม่น้อย แต่ตอนนี้นัทไม่มีอารมณ์จะคิดแบบนั้นเลย เมื่อท่าทางของเค้ารวมถึงคำพูดมันดูถูกกันเห็นๆ

“ทำไมเหรอครับ นักเรียนดีเด่นต้องเป็นยังไงเหรอครับ”
นัทพยายามควบคุมอารมณ์พร้อมกับถามออกไป

“ก็ถ้าเป็นนักเรียนดีเด่น ที่มารยาทดีๆ เค้าคงไม่ย้อนผู้ใหญ่แบบนี้หรอกนะ”

ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดพร้อมกับยิ้มเยาะในท่าทางไม่ยอมค นของนัท คงจะปากเก่งไม่น้อยเลยนะเด็กคนนี้ หน้าตาก็น่ารักดี เหมือนคนไทยมากกว่าจนไม่อยากจะเชื่อที่คุณแม่บอกว่า เด็กคนนี้เป็นลูกครึ่ง คนจะมีแต่ผิวที่ขาวมากนั่นละมั้ง ที่พอจะบอกได้ ขาวยังกะตุ๊กตา หึหึ … แปลกดี

ผู้ใหญ่อะไรว่ะ ดูหน้าตาแล้ว อายุก็ไม่น่าจะแก่กว่าเค้าสักกี่ปีหรอก แถมที่หัวเราะในคอนั่นอีก คนอะไรกัน ท่าจะบ้า … ได้แต่บ่นในใจ ในเมื่อนัทไม่อยากเสียมารยาทต่อหน้าอาจารย์
นัทเริ่มนึกได้ว่าเค้ากำลังมาหาแม่นี่นา แล้วเค้าก็มองไปรอบๆ ห้อง เมื่อไม่เห็นใครอีก จึงเอ่ยถามอาจารย์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ …

“อาจารย์ครับ แล้วคุณแม่ของผมล่ะครับ”
“คุณแม่ของเธอ ไม่ได้มารับหรอกนะ ณัฐภูมิ”
“อ้าว … ก็ไหนอาจารย์ประกาศว่า …”
“เธอก็ฟังครูพูดก่อนซิ นายณัฐภูมิ … ใจร้อนจริงเลยนะเรา”

เด็กหนุ่มก้มหน้า พร้อมกับเหลือบไปเห็นว่าใครอีกคน กำลังยิ้มเหมือนจะหัวเราะเค้าอยู่
นัทส่งสายตาท้าทาย เหมือนจะถามว่ายิ้มทำไม... แต่ตอนนี้เค้าไม่อยากจะสนใจแล้ว เพราะตอนนี้เรื่องของแม่สำคัญกว่า

“คุณแม่ของเธอแจ้งทางโรงเรียนไว้แล้วว่า ไม่สามารถมารับเธอได้น่ะ”
“แล้วผมจะต้องอยู่ที่โรงเรียนต่อไปหรือครับอาจา รย์”
“ไม่หรอก … ว่าแต่เธอรู้จัก คุณหญิง ศศิกานต์ หรือเปล่าล่ะ”

แล้วมันเกี่ยวอะไรกันล่ะเนี้ย นัทได้แต่นึกสงสัย แต่ชื่อมันก็คุ้นๆ อยู่นี่นา … พยายามนึกถึงเพื่อนที่คุณแม่มักพูดถึงเสมอ แต่คุณแม่ก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนนี่นา นอกจาก ...

“อ๋อ จำได้แล้วครับ คุณหญิง ศศิกานต์ เป็นเพื่อนรักของคุณแม่ผมน่ะครับ”
“อืม งั้นดีเลยที่เธอจำได้ คุณหญิงศศิกานต์ นอกจากจะเป็นเพื่อนของคุณแม่เธอแล้วนะ ท่านยังเป็นผู้อุปถัมภ์ของโรงเรียนเราด้วย และ คุณแม่ของเธอได้แจ้งกับทางโรงเรียนว่าจะฝากฝังให้เธอ ไปอยู่ที่บ้านคุณหญิง สักระยะหนึ่ง ก่อนที่ท่านจะมารับเธอ”

“อ้าว … ทำไม่ล่ะครับ ทำไมคุณแม่ถึงไม่มารับผม เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณแม่ผมหรือเปล่าครับ”
นัทรู้สึกผิดหวังขึ้นมา เมื่อความตั้งใจที่จะได้เจอ และได้กลับไปอยู่กับแม่ของเค้าต้องพังทลายลง

“ใจเย็นๆ ซิ ณัฐภูมิ คุณแม่ของเธอไม่ได้เป็นอะไรหรอกนะ เพียงแต่ท่านติดธุระสำคัญมากจึงยังมารับเธอตอนนี้ไม่ ได้เท่านั้นเอง”
“งั้นเหรอครับ ถ้าคุณแม่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะครับ”
นัทก้มหน้ารับ แต่ในใจก็ยังมีคำถามมากมาย แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามเซ้าซี่อาจารย์ไปมากกว่านี้อีก

“อาจารย์ครับ … แล้วคุณหญิงท่าน จะมารับผมวันไหนหรือครับอาจารย์”
“อ๋อ คุณหญิงท่านติดงานการกุศลน่ะ นี่ไงจ๊ะ คุณธวัฒน์เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของคุณหญิง ท่านวานให้คุณธวัฒน์มารับแทน”

“เหวอ…เนี่ยเหรอครับอาจารย์ลูกคุณหญิง แล้วผมต้องไป ไป … เอ้อ … ไปกับเค้าหรอครับ”
“ใช่จ๊ะ ทำไมเหรอเธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ณัฐภูมิ”
ธวัฒน์หันมามองท่าทางตกใจของนัท แล้วก็อดขำไม่ได้ สงสัยจะกลัวเค้าเอาไปฆ่าละมั้ง ตกใจซะออกนอกหน้าเชียว

“เอ้อ...เปล่า เปล่า...ครับอาจารย์”
แล้วตูจะตายกลางทางไหมเนี่ย เฮ้อ...แต่เป็นไงเป็นกันว่ะ ในเมื่อแม่ต้องการแบบนี้นี่นา
“ถ้าพร้อม ก็ไปกันได้แล้ว ฉันเสียเวลามามากแล้วนะ”
เสียงธวัฒน์ เหมือนกับกำลังออกคำสั่งให้นัทต้องปฏิบัติตาม
ชิส์ ... พวกลูกคุณหญิงเค้าชอบออกคำสั่งกันนักหรือไง เราไม่ใช่คนใช้สักหน่อย ไม่อยากมารับ ก็ไม่ต้องมาไม่ได้ง้อซะหน่อย
“ว่าไง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปซิ จะให้ฉันอุ้มเธอไปที่รถหรือไง เด็กน้อย”
“เอ้อ...ครับ ครับ ไปครับ”
ใครว่ะเด็กน้อย ตัวเองแก่ตายล่ะมาเรียกเค้าเด็กน้อย ขี้เก็ก หยิ่ง ถือตัว คนอะไรว่ะ นัทไม่ชอบเลยที่จะโดนว่าเป็นเด็ก ก็ในเมื่อเค้าอายุจา 18 แล้วนะ
นัทหันไปสวัสดีและกล่าวลาอาจารย์ พร้อมกับเดินออกไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่หน้าห้อง
เมื่อธวัฒน์เห็นว่านัทเดินออกไปแล้ว จึงกล่าวลาอาจารย์บ้าง
“ยังไงก็ฝากดูแลตา นัท แกด้วยนะค่ะคุณธวัฒน์ แกเป็นเด็กน่าสงสาร และฝากความรำลึกถึงคุณหญิงด้วยนะค่ะ”
“ครับ แล้วผมจะเรียนคุณแม่ให้ แต่ท่าทาง เด็กนัท นั่นคงจะไม่ค่อยน่าห่วงมั้งครับ รู้สึกจะเก่งพอตัว หึหึ”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
อาจารย์ได้แต่มองตามหลัง คนทั้งคู่ที่เดินจากไป โดยไม่รู้เลยว่า อนาคตของนัท กำลังมีอะไรรออยู่ข้างหน้า



*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible)
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 23-04-2007 02:16:46
มาโพสครั้งแรกนะครับมีอะไร ผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยนะคับ ^^     

ว่าแล้วก็โพสต่อเลยดีกว่า

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2 ...
รถเก๋ง คันหรูแล่นฝ่าการจราจร ในกรุงเทพฯ ที่แสนแออัด วุ่นวายสับสน แต่ใจของคนที่อยู่ในรถนี่ซิดูจะอึดอัด และวุ่นวายกว่าการจราจรข้างนอกเสียอีก
เพราะตั้งแต่ออกจากโรงเรียนมายังไม่มีใครยอมเปิดปากพ ูดสักกะคำ เมื่อย้อนกลับไปก่อนจะขึ้นรถมาก็จะเข้าใจเหตุผลได้ดี ...

ธวัฒน์เดินตัวปลิวนำหน้านัท ที่ลากกระเป๋าแสนหนักตามมา อย่างอดทน ...
“คนอะไรกันว่ะ ไม่มีน้ำใจซะเลย…ไม่คิดจะช่วยกันบ้างหรือไงน่ะ” นัทที่เดินตามมาได้แต่บ่อยเบาๆ

แต่ธวัฒน์เองก็เหมือนจะแกล้ง โดยรีบเดินเร็วขึ้นจนทิ้งระยะห่างกันมากขึ้น
“คุณ วัฒน์ จะรีบไปไหนครับ เดินช้าๆ ก็ได้นี่ครับ...”
นัทพยายามใช้คำที่สุภาพที่สุด โดยก้มหน้าก้มตาเดินให้ทันคนข้างหน้า โดยไม่ทันสังเกตว่าคนข้างหน้าได้หยุดเดินแล้ว
“โอ๊ย ! …” อีกแล้ว ชนเข้าอีกแล้ว มันอะไรกันนักนะวันนี้ นัทที่กึ่งนั่งกึ่งกองอยู่บนพื้น แหงนหน้าขึ้นมามองคนข้างหน้า
“คนอะไร หยุดก็ไม่บอก”
ธวัฒน์ยังทำสีหน้าเฉยชา เหมือนเดิม และดูเหมือนจะเย็นชามากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ เมื่อมองนัทที่นั่งอยู่กับพื้น
“เธอ ... ไม่มีสิทธิ์จะเรียกชื่อฉันห้วน ๆ แบบนั้นนะ ฉันขอบอกเธอไว้ก่อนเลย”
“ถ้าจะเรียก เธอต้องเรียก คุณธวัฒน์ อย่าให้ฉันได้ยินอีกเป็นครั้งที่สองนะ ไม่งั้นน่าดู”

“หยิ่ง ไม่มีน้ำใจ แล้วยังถือตัวอีก คนอาไร...ไม่เคยพบเคยเห็น”
นัทก้มหน้าบ่นเบาๆ แต่ก็ไม่พ้นหูเรดาร์ของคนที่มองอยู่ได้
“เธอว่าอะไรนะ เด็กน้อย ... อย่ามาทำล้อเลียนผู้ใหญ่แบบนี้นะ ฉันไม่ชอบ…”

“ขอโทษครับ เอาเป็นว่าผมจะไม่พูดแบบนั้นอีกก็แล้วกัน พอใจไหมครับคุณธวัฒน์”
“แต่คุณ ก็ไม่ควรจะเรียกผมว่าเด็กน้อยอีกน่ะครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
“เหรอนี่ฉันกำลังคุยกะผู้ใหญ่เหรอเนี่ย”
“ผมไม่ใช่ผู้ใหญ่ แต่ผมก็ไม่ใช่เด็กที่คุณจะมาเรียกเด็กน้อยแล้วนะครับ ”
หลายคนที่เดินผ่านไปมาเริ่มมองมาทางคนสองคนที่กำลังพ ูดเหมือนจะทะเลาะกันอยู่
จนธวัฒน์รู้สึกอึดอัด จึงพูดตัดบทให้นัท หิ้วกระเป๋าตามมาที่รถ พร้อมกับเปิดฝากระโปรงหลังรออยู่
นัทจำเป็นต้องหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ ไปใส่ท้ายรถและขึ้นไปนั่งข้างคนขับก่อนที่จะ ธวัฒน์จะขับรถออกไป

นัทที่พยายามรักษาอาการให้เป็นปกติ เพราะรู้สึกไม่ค่อยชอบคนข้างๆ เอามากๆ ทำให้อึดอัดอยู่ไม่น้อยและเพราะไม่เคยเจอกับคุณหญิงเ พื่อนของคุณแม่มาก่อน และต้องไปอยู่ด้วยแบบนี้ จึงยิ่งทำให้คิดมากไปใหญ่
เฮ้อ… นี่เราต้องไปอาศัยบ้านคนอื่นนานเท่าไหร่กันนะ เมื่อกี้ก็ลืมถามอาจารย์ซะด้วย นัทได้แต่ถอนใจเบาๆ กับความคิดของตัวเอง

ธวัฒน์ ที่ขับรถมาเงียบๆ ก็รู้สึกอึดอัดไม่แพ้กันเท่าไหร่ ปกติเค้าไม่ใช่คนถือตัวอะไร ออกจะเป็นสุภาพบุรุษในสายตาสาวๆ ด้วยซ้ำ แต่เพราะความที่เป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่มีน้อง จึงอาจยังไม่รู้จะวางตัวยังไงกับเด็ก (ถึงจะไม่เด็กแล้วก็เถอะ) จะให้มาเล่นหัว สนิทสนมเหมือนเพื่อนๆ ก็คงไม่ได้ จึงต้องวางท่าเฉยๆ ไว้ก่อน

ธวัฒน์สังเกตเห็นนัทแอบถอนหายใจ อยู่หลายครั้ง จึงเอ่ยปากถามเพื่อทำลายความเงียบลงบ้าง
“กลุ้มใจอะไรนักล่ะ เด็กสมัยนี้เค้ามีเรื่องกลุ้มใจกันมากนักเหรอ”
“คุณ ธวัฒน์…”
นัทเอ่ยเสียงเย็น ทำให้ธวัฒน์นึกขึ้นได้
“เออ ลืมไป … ไม่ใช่เด็ก… ดุจริงนะตัวแค่เนี่ย”
ธวัฒน์พูดพร้อมกับทำหน้ามุ้ยเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาที่นัทแอบเห็นเข้าพอดีจากเงาในกร ะจกด้านข้างของนัท

ท่าทางของธวัฒน์ทำให้นัทรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง จึงเอ่ยถามสิ่งที่สงสัยอยู่นานออกมา
“คุณธวัฒน์ ครับ ผมต้องอยู่ที่บ้านของคุณนานเท่าไหร่ครับ คือ…ผมหมายถึงว่า แม่ผมจะมารับผมเมื่อไหร่น่ะครับ”

แววตาของธวัฒน์เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อหันมามองคนข้าง ๆ เค้ารู้สึกเห็นใจนัทอยู่เหมือนกัน ที่อยากเจอแม่ และจำได้ที่คุณแม่ของเค้าบอกว่านัทกำพร้าพ่อตั้งแต่เ ด็ก
“ทำไมเหรอ บ้านฉันมันเป็นยังไงเหรอ เธอถึงไม่อยากจะอยู่น่ะ”
“ก็ถ้าแม่ผมมารับ ผมก็คงไม่อยากไปอยู่หรอก”
ก็เพราะมีคุณนั่นแหละถึงไม่น่าอยู่ไงล่ะ อีกเหตุผลในใจ แต่นัทก็ไม่กล้าพูด กลัวตายซะกลางทางมากกว่า

“โอเค โอเค … จะมีสักครั้งไหมนะ ที่เธอจะไม่เถียงฉันน่ะ คนอาไรเถียงได้เถียงดี ไปหัดมาจากไหนกันนะ”
นัทที่กำลังอ้าปากจาพูด ก็พอดีกับที่ฝ่ามือกว้างของคนข้างๆ เอื่อมมาปิดปากเค้าไว้พอดี …
“หยุด…หยุดเลย…หยุดเถียงสักครั้ง คงไม่ตายหรอกนะ”
นัทพยักหน้ารับ มองคนข้างๆ ตาโต ด้วยความตกใจ ทั้งๆ ที่มือของธวัฒน์ย้งปิดปากอยู่ …
“ฉันจะสติแตกก็เพราะเธอนี่แหละ เฮ้อ…ใครน๊า…ช่างเจาะปาก บทจะเงียบก็เงียบ เวลาพูดเวลาเถียงก็ไม่ลดลาวาศอก ซะเลย”

ธวัฒน์พูดพร้อมกับเอามือที่ปิดปากนัทออก เมื่อเริ่มรู้สึกว่า นัทคงจะหยุดฟังที่เค้าพูดบ้างแล้ว
เค้ากลับไปตั้งสมาธิกับการขับรถต่อไปอีกสักพัก ก่อนจะเอ๊ยออกมา
“เรื่องที่คุณแม่เธอจะมารับเมื่อไหร่น่ะ ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะ เธอต้องถามคุณแม่ของฉันเอง”
“ฉันเพียงแต่ไปรับเธอเพราะท่านขอเท่านั้น ถ้าเจอท่านเธอก็ถามดูล่ะกัน”

ธวัฒน์เหลือบตาไปมองก็เห็นนัทพยักหน้ารับเงียบๆ ถึงจะรู้สึกสงสารอยู่บ้าง แต่เค้าไม่เคยต้องปลอบใจใครเลยสักครั้ง โดยเฉพาะผู้ชายด้วยกัน เพราะด้วยฐานะทางสังคม รูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติมากมายที่พ่อแม่เค้าสร้างมา ทำให้มีแต่คนเข้ามาหาเค้าเสมอทั้งผู้ชายและผู้หญิง ล้วนหวังผลประโยชน์จากเค้าซะส่วนใหญ่ เค้าจึงไม่ค่อยจะเอาอกเอาใจใคร หรือปลอบโยนใครมาก่อน นอกจากคนในครอบครัวเท่านั้น

เมื่อจิตใจอ่อนล้า ร่างกายมักตอบสนองต่อจิตใจเสมอ ประกอบกับนัทที่นั่งรถมานานพอสมควร จึงทำให้หลับไปโดยไม่รู้ตัว
ธวัฒน์เมื่อเห็นนัทหลับอย่างสบาย ก็ยิ้มออกมาแบบที่นัทไม่มีวันเชื่อแน่ๆ ว่าผู้ชายคนนี้จะยิ้มแบบนี้ได้ พร้อมกับที่ปรับเบาะให้ของนัทให้เอนลงจะได้หลับสบายข ึ้น
“หึหึ… เด็กปากดี หลับง่ายจริงๆ พอหลับก็ดูไม่มีพิษสงเอาซะเล้ย...”
ธวัฒน์พูดกับตัวเองเบาๆ และหันมาพิจารณาคนข้างๆ ในบางครั้ง
หน้าคม คิ้วเข้ม ผมดำเหมือนคนไทย ตัดกับผิวขาวมากๆ แบบฝรั่งนั่น ทำให้เด็กคนนี้หน้าตาดีทีเดียว ปากเรียวสีชมพูธรรมชาติ ถ้าเป็นผู้หญิงละก็ …

ธวัฒน์ไม่เคยพลาดเรื่องผู้หญิงเลย เพราะหน้าตาหล่อเหลาแบบเค้า ประกอบกับความรวยที่มีมาตั้งแต่เกิด ทำให้ผู้หญิงทุกคนหมายปอง เข้าแถวมาให้เลือกไม่ขาดสาย แต่เค้าก็ไม่เคยจริงจังกับใคร เพราะเค้ารู้ว่าผู้หญิงเกือบทุกคนต้องการเงินมากกว่า ตัวเค้าซะอีก

ธวัฒน์หันมามองหน้านัทอีก จนรู้สึกว่าตัวเองชักมองบ่อยผิดปกติ
“เป็นไรว่ะเรา ท่าจะบ้า … ผู้ชายนะโว้ย ไม่ใช่ผู้หญิง”
เค้าสะบัดหัวแรงๆ หนึ่งที เพื่อไล่ความคิดแปลกๆ ออกไปจากหัว พร้อมกับที่เลี่ยวรถเข้าไปในซอยข้างหน้า
สองฟากฝั่งของซอยนี่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านของเศรษฐี ไฮโซทั้งหลาย เพราะบ้านแต่ละหลัง ล้วนใหญ่โตโอ่อ่า เพราะเจ้าของล้วนเป็นเศรษฐีเก่าบ้าง ใหม่บ้าง หรือพวกไฮโซ ที่เหมือนจะมาสร้างบ้านแข่งบารมีดีกรีความรวยกัน

เมื่อรถเลี่ยวผ่านเข้าประตูบานใหญ่ ที่มีคนรับใช้มาเปิดให้ นัทก็เริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
มองออกไปด้านหน้า เป็นบ้านสีขาวหลังใหญ่โอ่อ่า สไตล์ยุโรปผสมกับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ถ้าบอกว่าเป็นวังย่อมๆ ก็คงไม่ผิดนัก ถนนที่รถวิ่งผ่าน ตัดผ่านสวนที่ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับมากมาย แสดงว่าเจ้าของคงชอบต้นไม้ไม่น้อยเลย ถึงได้มีต้นไม้ดอกไม้มากมายขนาดนี้ แต่ก็แบ่งได้เป็นSadส่วน อย่างสวยงามลงตัวมาก

“ตื่นแล้วซินะ ฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอน่ะ ถึงได้มานั่งหลับสบายใจแบบนี้”
ธวัฒน์ตั้งใจจะพูดหยอกล้อนัทเล่นสักหน่อย แต่กลายเป็นว่านัท มองค้อนตาเขียวซะแทน
“เอา เอา … มองแบบนี้จะกินฉันหรือไง อุตส่าห์ขับรถไปรับแล้วยังไม่สำนึกบุญคุณอีก”
“ขอบคุณนะครับ ที่อุตส่าห์ไปรับ ทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจ”
นัทพยายามเน้นคำว่า ไม่เต็มใจ ให้ได้ยินชัดที่สุด

“ใครว่าฉันไม่เต็มใจ”
นัทหันขวับ มามองหน้าคนพูดทันที แบบไม่ค่อยจะเชื่อหูนัก ดวงตาเป็นประกายเหมือนรู้สึกดีใจที่ได้ยินคำพูดนั้น นี่เราคิดผิดเหรอเนี่ย เค้าก็มีน้ำใจเหมือนกันนี่นา …
ธวัฒน์ไม่ได้สนใจท่าทีแปลกๆ ของนัท แต่ยังคงพูดต่อ
“ฉันเต็มใจทำตามที่คุณแม่สั่งเสมอล่ะ เข้าใจเอาไว้ด้วยนะ”
“อ้าว…”
“อ้าวทำไม มีอะไรงั้นเหรอ”
“ก็…ที่แท้แค่ทำตามคำสั่งนะซิ เค้าไม่เรียกว่าเต็มใจนักหรอกครับ”

“แล้วเธอมีปัญหาอะไรหรือไง กับการที่ฉันทำตามคำสั่งของคุณแม่เนี่ย หรือว่า…”
ธวัฒน์ทำหน้าตาแบบมีเลศนัย จนนัทเริ่มหนาวๆ ร้อนๆขึ้นมา
“หรือว่าเธอกำลังคิดว่าฉันเต็มใจเสนอตัวไปรับเธอเองง ั้นซิ อย่าฝันเลย เธอคิดผิดแล้วล่ะ”
นัทหน้าร้อนวูบขึ้นมา เมื่อถูกอ่านความคิดได้ ไม่รู้ตัวเลยว่าหน้าแดงเพราะเสียหน้า หรือเพราะสาเหตุอื่น

“อะไร … ใครคิดครับ ใครจะกล้าคิดว่าคนอย่างคุณจะมารับคนอย่างผมล่ะ”
ไม่น่าเลยตู เผลอคิดในแง่ดีซะได้ คนแบบนี้คงไม่สนใจคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนอย่างเราหร อก …
เอ๊ะ แล้ว … ทำไม เราต้องอยากให้มาสนใจด้วย ท่าจะบ้าไปแล้วเรา …

“ไม่ได้คิดก็แล้วไป เอ้า … ลงรถได้แล้วจะนั่งไปถึงเมื่อไหร่”
เมื่อรถจอดสนิท นัทจึงเปิดประตูลงจากรถ และพบกับป้าแก่ๆ ท่าทางใจดีคนนึง เดินมากับเด็กสาวอีกคนที่อายุอานามคงไม่ต่างจากเค้าน ัก ท่าทางร่าเริงแจ่มใส

“อ้าว…นมพริ้ม คุณแม่กลับมาหรือยังครับนม”
ธวัฒน์ที่ออกจากรถมาถามไถ่ผู้สูงวัย ที่เพิ่งรับไหว้นัท และยิ้มให้อย่างเอ็นดูในท่าทางนอบน้อมของนัท
“ยังเลยค่ะคุณวัฒน์ เห็นท่านบอกจะกลับค่ำๆ นะค่ะ แล้วคุณวัฒน์จะให้ตั้งโต๊ะมื้อเที่ยงหรือเปล่าค่ะ”

“อย่าเพิ่งเลยครับนม เพิ่งมาเหนื่อยๆ นะครับ”
“เอ้า…หนูแวว อย่ายืนเฉยๆ ซิ ไปยกกระเป๋าหลังรถขึ้นไปไว้บนห้อง”
หนูแววที่กำลังยิ้มหวานหยดย้อย ให้กับความหล่อเหลาสมวัยของนัท ถึงกับสะดุ้ง เมื่อได้ยินคำสั่ง
“ค่ะ ค่ะ คุณหนู ไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”

“แล้วเธอ...”
ธวัฒน์หันมาทางนัท
“ตามแววไปที่ห้องได้เลย พอจัดของให้เรียบร้อยแล้วลงมาหาฉันที่ห้องรับแขก”
“ครับ”
คนอะไรว่ะเนี่ย ออกคำสั่งเป็นไฟเลย น่าหมั่นไสัจริงๆ สั่งได้สั่งเอา
นัทรีบเดินตามแวว เข้ามาในห้องรับแขก ซึ่งมีเครื่องประดับตกแต่งมากมาย มีบันไดทอดขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน พอขึ้นมาถึงชั้นบนก็จะแบ่งเป็นสองปีก ซ้าย ขวา นัทเดินตามแววไปทางด้านซ้ายพร้อมทั้งเอ่ยถามด้วยความ สงสัย
“แววครับแวว ด้านโน่นเป็นห้องของใครเหรอ”
“อุ๊ย...คุณไม่ต้องพูดเพราะกับแววก็ได้ค่ะ เพราะแววคนรับใช้นะค่ะ ส่วนด้านโน่นเป็นห้องของคุณท่านกับคุณหนู ส่วนปีกด้านนี้จะเป็นห้องรับรองสำหรับแขกเท่านั้นค่ะ ”

แหวะ...คุณหนูเนี่ยน่ะ เมื่อกี้ก็ทีนึงล่ะ โตเป็นควายแล้วยังเป็นคุณหนูอีก ตลกชะมัด
นัทที่แอบขำ รับฟังพร้อมกับเดินตามแววเข้าไปในห้องแรกสุดที่อยู่ด ้านขวา
“โอ้โห... ทำไมมันใหญ่แบบนี้ล่ะ”
ห้องกว้าง ตกแต่งอย่างดี เตียงที่นอนสบายๆ ได้ถึง 2 คน กับโต๊ะเครื่องแป้ง ที่มีของใช้สำหรับผู้ชายวางอยู่
“ทำไม มีของใช้ผู้ชายด้วยล่ะครับ เคยมีคนมาพักห้องนี้เหรอครับแวว”
“อ๋อ เปล่าหรอกค่ะ ของพวกเนี่ย คุณหญิงท่านให้คุณนมจัดเตรียมไว้เมื่อสองสามวันนี้เอ งค่ะ บอกว่าจะมีคนมาพัก แววก็เพิ่งทราบว่าเป็นคุณนัทเนี่ยแหละค่ะ”
“โห ไม่ต้องมีคุณก็ได้ครับ ผมก็แค่มาอาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้นเอง
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณหญิงท่านสั่งไว้ว่าคุณมาอยู่ในฐานะลูกหลานของบ้าน นี้คนนึง แต่เอ...เห็นคุณหญิงว่าคุณจะมาอยู่ที่นี่อีกนานเลยนี ่ค่ะ แปลกจัง”
“เสร็จแล้วค่ะ ถ้าคุณต้องการอะไรอีกก็เรียกแววได้นะค่ะ”
“ครับ ครับ...ขอบคุณนะครับ ที่จัดของให้”
แววที่จัดของเข้าตู้เสร็จ ส่งสายตาหวานซึ้งมาทางนัทก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้นัทที่นั่งอยู่บนเตียง งงกับคำพูดของแววอยู่คนเดียว
“อยู่อีกนาน หมายความว่าไงกัน…”


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible)
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 23-04-2007 02:19:54
ยิ่งเกลียดเธอยิ่งเจอรักป่าวเนี่ย มาตอนแรกเห็นพระเอกนายเอกไม่ชอบขี้หน้ากันทุกเรื่องเยย สุดท้ายก็...  :kikkik:
   VicOSeสู้สู้น๊า  :yeb:


หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 23-04-2007 02:22:44
อิอิ    วันนี้ เอาไป  แค่นี้ก่อนละกันนะคับ  เดี๋ยวจาจบเร็ว    วันนี้ ผมขอตัวไปอาบน้ำ นอน ก่อนนะค๊าบบ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 3…

เมื่อนัทจัดข่าวของส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เค้าจึงรีบลงมาที่ห้องรับแขกทันที กลัวว่าธวัฒน์จะว่าเอาได้
และก็พบกับธวัฒน์ที่งีบหลับอยู่บนโซฟาตัวยาวอย่างสบา ยใจ
“หลับจริงอ่ะเปล่าเนี่ย”
จิ้ม จิ้ม … นัทจิ้มที่แขนของธวัฒน์เพื่อทดสอบให้แน่ใจ
“อิโด่ เอ๊ย … ให้เค้ารีบมาแล้วตัวเองก็นอนอยู่อยากะ คุณหนูหน้ายักษ์เวลาหลับก็เหมือนแมวดีๆ นี่เองล่ะหน๊า”
นัทที่ยื่นหน้าเค้าไปดูใกล้ๆ ถึงกับสะดุ้ง เมื่อจู่ๆ ธวัฒน์ก็ลืมตาขึ้นมาซะเฉยๆ นัทรีบถอยออกมาทันทีแต่ก็ช้ากว่ามือกาวของอีกคน
“เมื่อกี้เธอว่าอะไรฉัน คิดว่าฉันจะหลับจริงๆ หรือไง”
“เปล่าซะหน่อยครับ คุณคิดไปเองหรือเปล่าเนี่ย … ปล่อยผมนะครับ”

นัทที่ยืนอยู่เตรียมจะถอยหนีจึงสะบัดข้อมือให้หลุดจา กมือของอีกคน แต่ธวัฒน์ที่นอนอยู่กลับจับไว้แน่นแล้วดึงให้เข้าหาเ บาๆ กะไม่ให้ผู้ร้ายปากแข็งหนีไปไหน แต่มันกลับทำให้นัทเสียหลักล้มลงบนแผ่นอกกว้างเข้าพอ ดี

ผู้ร้ายปากแข็งตัวเล็กรีบผลักอกของอีกฝ่ายเพื่อพยุงต ัวลุกขึ้นแต่อีกคนก็แกล้งกดเอาไว้ โดยไม่รู้เล๊ย…ว่าตอนนี้หน้าของนัทมันร้อนไปหมดแล้ว
“ปล่อยผมนะครับ คุณธวัฒน์ เล่นแบบนี้ผมไม่ชอบนะ”
“ก็บอกมาก่อนซิ เมื่อกี้เธอว่าอะไรฉัน ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะลุกไปได้เลย”
ยิ่งเห้นนัทหน้าแดงเท่าไหร่ ยิ่งอยากแกล้ง ตัวเล็กยังกะลูกหมาอย่าหวังเลย … ว่าจะหลุดไปได้ แค่นี้ก็หน้าแดงทำยังกะสาวๆ ไปได้ ปากเก่งดีนัก ต้องแกล้งซะให้เข็ด หึหึ … ธวัฒน์ยิ่มกริ่มอย่างอารมณ์ดี

“ก็ … ก็ ผมไม่ได้ว่าอะไรจริงๆ นะครับ คุณธวัฒน์ปล่อยผมก่อนเถอะ…นะครับ”
นัทที่ไม่กล้ามองหน้าของธวัฒน์ พยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการ นัทมีเพื่อนผู้ชายก็มาก แต่ไม่เคยมีใครเล่นถึงตัวใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน มันทำให้นัทรู้สึกแปลกๆ พิกล แล้วไอ้หน้าที่มันร้อนวูบๆ อยู่นี่อีก มันเป็นอะไรกันนะ
“ผมไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณจะมาทำแบบนี้นะครับ”
นัทตะโกนเสียงดัง

เสียงของนัทเหมือนเรียกสติของธวัฒน์กลับมา เค้ารีบปล่อยแขนที่โอบนัทไว้ทันที พร้อมทั้งเอ๊ยเสียงแผ่วเบา โดยไม่กล้ามองหน้าคนที่เค้าเพิ่งปล่อยออกไปจากแผ่นอก แม้แต่นิดเดียว
“เอ้อ ... ฉัน...ฉันขอโทษนะ ที่...ที่...ที่เล่นแรงไปหน่อย”
นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย กอดเด็กผู้ชายเนี่ยนะ คิดแล้วอยากจะบ้า ถึงจะอยากแกล้งคืนที่ปากดีก็เถอะ
ธวัฒน์ผลุนผลันเดินไปที่ประตูทันที โดยมีสายตาของนัทมองตามทั้งๆ ที่หัวใจยังเต้นโครมคราม
“ตามมาซิ เราจะไปซื้อของกัน”
นัทเดินตามหลังธวัฒน์ที่เดินนำไปที่รถแล้ว
“เราไม่ได้ตื่นเต้น เรากำลังโกรธ โกรธมากๆ ที่เค้าทำกับเราเหมือนผู้หญิง เราไม่ชอบ ไม่ชอบ ไม่ชอบ ไม่ชอบ”
นัทพยายามหาสาเหตุให้กับตัวเองที่ หัวใจเต้นแรง หน้าร้อนวูบ ตอนที่โดนธวัฒน์แกล้ง... จนเดินไปถึงรถนั่นแหละ จึงได้แต่ถอนหายใจก่อนที่จะก้าวขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ที่อารมณ์ในใจคงคุกรุ่นไม่แพ้กัน ...

ที่ห้างสรรพสินค้าหรูชื่อดังเพิ่งเปิดใหม่ นัทได้แต่เดินตามธวัฒน์ที่เดินนำอยู่ข้างหน้า โดยที่นัทไม่ได้สนใจจะถามไถ่เลยว่าจะเดินไปถึงไหน ทั้งๆ ที่ขาเริ่มโอดครวญว่ามันสมควรจะหยุดพักได้แล้ว
ธวัฒน์ที่คงจะสังเกตเห็นอาการเดินของนัท ก็เลยหันมาหยุดรออยู่ตรงหน้า และมองดูอาการเดินไม่ดูทางของนัทอย่างขำๆ
“เหวอ...”
โชคดีที่นัทซึ่งเดินชนธวัฒน์จนเซไปด้านหลัง มีมือธวัฒน์มาดึงรั้งแขนทั้งสองข้างเอาไว้ ไม่งั้นคงได้ลงไปกองที่พื้นเป็นรอบที่ 3 ในเวลาเพียง 1 วัน
“คุณธวัฒน์ ทำไมคุณถึงชอบหยุดเดินแล้วไม่บอกไม่กล่าวนักนะ”
นัทที่สะลัดมือธวัฒน์อย่างรวดเร็วเริ่มโวยวาย ... อาการเกร็งตอนแรกเหมือนจะหายไปชั่วคราว
“แล้วเธอก็ช่างไม่เคยมองทางบ้างเลยเหมือนกันนะ นี่มันในห้างนะ ไม่ใช่โรงเรียนที่จะมีแต่เพื่อนๆของเธอ นี่ถ้าไปชนคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันจะเป็นยังไง”

“เธอหิวหรือเปล่า”
นัทตาโตมองหน้าธวัฒน์ที่เปลี่ยนเรื่องได้รวดเร็วเหลื อเกิน ปกติไม่น่าจะหยุดว่าเค้าเร็วขนาดนี้นะ
แปลกแฮะ ตาคุณหนูขี้เก๊กเปลี๊ยนไป๋ ... ไม่อยากจะเชื่อ ...
“ว่าไงล่ะ ยืนเงียบเป็นเป่าสากอยู่ได้ ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง”
“ไม่หิวครับ”
“แต่ฉันหิว...ฉะนั้นเธอก็ต้องไปกินกับฉันด้วย ไม่มีข้อโต้แย้ง เข้าใจ๋…”
นัทที่ฟังธวัฒน์พูด เริ่มหัวเราะเสียงดัง เอามือมากุมท้องของตัวเองพยายามกลั้นหัวเราะเต็มที่ก ับคำพูดของธวัฒน์

“หัวเราะอะไรมิทราบ ที่ฉันพูดมันขำตรงไหน”
นัทที่พยายามกลั้นหัวเราะจนน้ำตาไหล ยังไม่ยอมหยุดจนได้รับมะเหงก 1 ทีจากธวัฒน์นั่นแหละ จึงหยุดหัวเราะได้
“โอ๊ย ...!.”
“มันเจ็บนะ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ ที่คุณจะมาเขกหัวเล่นแบบเนี่ย”
“หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังแบบเนี่ยนะ จะไม่ให้เรียกว่าเด็กแล้วจะเรียกว่าอะไร”
นัทได้แต่ลูบหัวป่อยๆ ที่โดนถวายมะเหงกจากธวัฒน์
“ก็ผมไม่คิดว่าไอ้คำพูดแปลกๆ จาออกมาจากปากคุณได้นี่นา มันขัดกับหน้าตาท่าทางแบบคุณหนูของคุณสุดๆ”
เมื่อนัทเริ่มที่จะหัวเราะอีกรอบ ธวัฒน์จึงเอื้อมมือไปขยี้หัวนัท ด้วยความหมั่นไส้ จนผมหยุ่งเหยิงไปหมด
“เอาล่ะ ไปได้แล้ว ฉันหิวมากจนจะกินเธอได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ”

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 23-04-2007 02:26:53
 :110011: ธวัฒน์เริ่มออกลายแย้ววว  :เชิป2:
อยู่ชมรมกิงเดะเหมือนกันเยย  :kikkik:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 23-04-2007 02:58:26
แบบว่าเพิ่งอาบน้ำเส็ด หายง่วงเลย   ก็เลยแวะเข้ามาดูซักหน่อย  ไม่รู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆ ที่นี่ชอบเรื่องนี้กัน รึเปล่า อิอิ    ขอตัวไปอ่านเรื่องอื่น ต่อก่อนนะค๊าบ  -0-  แล้วพรุ่งนี้จะมาต่อให้ใหม่   นะคับ   ฝันดีคับ ทุกคน

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 23-04-2007 08:48:38
เรื่องใหม่ทยอยมาเรื่อยๆเลยครับดีจัง เเล้วมาลงต่อนะครับจะคอยติดตาม  :impress:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 23-04-2007 14:11:34
แหะๆ  พอดีแบบว่าเพิ่งตื่นอ่ะคับ   นอนกินบ้านกินเมืองจิงๆ - -*        เดี๋ยวคืนนี้ผมมาลงต่อให้นะคับ  ตอนนี้ขอตัว  ออกไปตัดผมก่อนนะคับ   
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 23-04-2007 19:15:41
มาลงเร็วนะครับ  :give2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 23-04-2007 19:29:29

..........ตามมาอ่านคับ.......หนุกดี.....เป็นกะลังใจหั้ยคับ.... :5555:

....................ว่าแต่อย่าค่อยๆลงก็ได้คับ....กลัวอ่านมะทัน.... :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 23-04-2007 20:02:12
สนุกมากๆ เยยน้อง VicOSe (ชื่อเรียกยากชะมัด แหะ แหะ)
มาแนวตบจูบๆ ป่าวเนี่ย  มันส์ๆ น่าติดตาม

รออ่านต่อจ้า  เป็นกำลังใจให้น้า  :loveu:  :loveu:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 23-04-2007 20:20:44
อู้ว..........

นิยายมาเยอะจนไม่รู้จะอ่านอันหนายแร้ว....

คริๆ

เป็นกำลังใจให้นะครับ ต้องรับผิดชอบโพสต์นี่เหนื่อยน้า... ดังนั้น มามะ จุ๊บ 1 ที.....
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 23-04-2007 20:36:17
มาลงต่อให้แล้วค๊าบบบบ     ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะคับ ^^   

ผม ชื่อ หมี นะค๊าบ  เอิ๊กๆ  ลืมแนะนำตัว  - -*

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4...
“สั่งเท่านี้ก่อนนะครับ”
หลังจากที่ธวัฒน์สั่งอาหารเสร็จ ก็หันมามองคนที่นั่งตรงข้ามซึ่งเอาแต่เหลียวมองรอบๆ ร้านไม่ยอมหยุด

“เอ้า…มองเข้าไป ไม่เคยเห็นหรือไงมองอยู่นั่นแหละ อย่าไปจ้องคนอื่นเค้าล่ะมันเสียมารยาท”
“แล้วนี่…เธอแน่ใจน่ะว่าจะสั่งแต่ไอศครีม”
“ครับ…ก็ผมไม่หิวนี่นา”
“อีกอย่างผมไม่ค่อยได้ออกไปไหนหรอกครับ อยู่แต่ที่หอ พอปิดเทอมทีนึงคุณแม่ถึงจะมารับไปเที่ยวบ้าง”
สีหน้าท่าทางตื่นเต้นของนัท เมื่อกี้หายไป เมื่อนัทกลับไปนึกถึงแม่อีกครั้ง …
ธวัฒน์ที่สังเกตท่าทางที่เปลี่ยนไปของนัท เอื้อมมือจะไปสัมผัสมือของนัทที่วางอยู่อย่างลืมตัว… แต่…เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้จึงชักมือกลับอย่างเร็ว
เฮ้อ…เราชักจะแปลกๆ ไปทุกที ไม่เคยปลอบผู้ชายสักกะคน ทำไมกับเด็กคนนี่ มันถึง….เป็นแบบนี้นะ ธวัฒน์ได้แต่บ่นกับตัวเองที่แปลกไป และพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อให้นัทหายคิดถึงแม่แทน แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี
“แล้ว…แล้วนี่เธออยากจะซื้อ… พวกของใช้ส่วนตัวหรือเสื้อผ้าบ้างไหมล่ะ คุณแม่สั่งให้พาเธอออกมาซื้อของที่อยากได้ ฉะนั้นถ้าอยากได้อะไรก็บอก… ไม่ต้องเกรงใจ”
“ไม่เลยครับ ผมไม่อยากได้อะไร…ที่จัดไว้ให้ก็ดีอยู่แล้ว อีกอย่างผมอยากไปหาซื้อหนังสือมากกว่า”
“ก็ตามใจเธอนะ…”
บทสนทนาจบลงพอดีกับที่พนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ
“ข้าวผัดหนึ่งที่ และไอศครีมซันเดย์หนึ่งที่ได้แล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ธวัฒน์เอ่ยกับพนักงาน พร้อมกับทำท่าทางให้นัทลงมือทานได้ตามสบาย โดยไม่รู้สึกถึงสายตาสองคู่ที่มองพวกเค้าอยู่
“นี่ยายอร แกว่าสองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นน่ะ คนนึงใช่…คุณธวัฒน์คู่ควงของยัย ภัทร… หรือเปล่าย่ะ”
“ฉันว่าใช่นะ แต่เอ…ไหงวันนี้มากะเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ล่ะ หน้าตาดีใช้ได้น่ะเธอ หรือว่า คุณวัฒน์เค้าจาเป็น…”
“Stop Stop…เลยเธอ หยุดความคิดอุบาท อุบาทของหล่อนไว้ก่อนย่ะ คุณวัฒน์น่ะแมนจะตาย… รวยก็รวย ใครๆ ก็อยากได้… ไม่งั้นยัยภัทรคงไม่ลงทุนทิ้งลูกชายเจ้าของห้างดังที่คั่วมาเป็นปี ไปตามออดตามอ้อนจนได้เป็นคู่ควงเบอร์หนึ่งหรอกย่ะ”
“เหรอย่ะยัยมล … แต่ฉันว่าแกลองดูก่อนดีกว่าม่ะว่าคุณธวัฒน์สุภาพบุรุษมาดแมนของแกน่ะ กำลังหวานกะเด็กนั้นยังไง”
ธวัฒน์ที่แอบมองการกินไอศครีมของนัทอย่างขำ ๆ จนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นก่อน …
“นี่เธอไม่เคยกินไอศครีมมาก่อนหรือไง ถึงได้รีบกินขนาดนั้นน่ะ ดูซิ…เลอะขอบปากไปหมดแล้ว ทำเป็นเด็กไปได้”
“ก็นานๆ จะได้กินนี่ครับ เลอะเดี๋ยวก็เช็ดได้นี่ครับไม่เห็นเป็นไรเลย…”
“แล้วเธอจะกรุณาเช็ดมันก่อนจะได้ไหมล่ะ เธอไม่เห็นหรือไงว่าคนมันเยอะแค่ไหน อายคนเค้ามั้งซิ”
เชอะ … มารยาทจัดแล้วยังหน้าบางอีก คุณหนูจริงๆ นัทตักไอศครีมคำสุดท้ายเข้าปาก พร้อมกับหยิบกระดาษมาเช็ดปากอย่างหงุดหงิด พยายามจะแกล้งกวนโมโห คนหน้าบางให้อายเล่นซะหน่อย โดยเช็ดยังไง ก็ยังมีไอศครีมติดที่ขอบปากไม่หมดซะที
“เธอจะแกล้งฉันเล่นหรือไงเนี่ย … อ่ะ … เอานี่ …”
ธวัฒน์ที่หยิบกระดาษส่งให้นัทอีก แต่กลับเปลี่ยนใจ เมื่อเห็นนัทโน้มตัวจะมาหยิบกระดาษจากมือเค้า ธวัฒน์จึงลุกและก้มตัวไปเช็ดขอบปากที่ยังเลอะอยู่ของนัทแทน เสร็จแล้วธวัฒน์ก็กลับมานั่งตามปกติยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจกับอาการหน้าตื่นของอีกคน
“นี่…นี่คุณทำอะไรเนี่ย ไม่อายคนบ้างหรือไงอ่ะ คนตั้งเยอะตั้งแยะ”
บ้าที่สุด ทำให้คนอื่นเค้าอับอายขายขี้หน้า คนในร้านเค้าจะคิดยังไง ที่ผู้ชายมาเช็ดปากให้ผู้ชายด้วยกันเนี่ย … อยากจะเอาหน้ามุดลงไปใต้โต๊ะจริงๆ เล๊ย … ไอ้นัทนะไอ้นัท … ทำไมต้องมาเจอคนอย่างนี้นะ
นัทที่ตอนนี้หน้าแดงกร่ำ ก้มหน้าก้มตาโดยไม่หันไปมองรอบๆ เลย เพราะกลัวจะมีใครกำลังหัวเราะหรือซุบซิบกับเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่…
“นี่เธอเพิ่งรู้เหรอว่าร้านนี้มีคนอื่นอยู่ด้วย อายเป็นเหมือนกันเหรอเรา หีหึ … อีกอย่างฉันไม่ได้คิดอะไรแล้วทำไมฉันจะต้องอายด้วย”
ธวัฒน์หัวเราะอย่างพอใจในท่าทางอายสุดขีดของนัท จะอายอะไรกันนักนะกะแค่เช็ดปากเนี่ย…
“ว้าย…ตายแล้ว นี่มันอะไรกันเนี่ย ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่า ว่า … คุณวัฒน์จะเป็นแบบเนี่ย”
กมลวรรณ ที่มองเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ถึงกับตาค้าง เมื่อไม่คิดว่าคู่ควงของเพื่อนสนิทจะเป็นไปได้แบบนี้
“ดูซิแก เด็กนั่นเขินน่าดูเลยล่ะ หน้าตาก็ดีนะ หล่อด้วย ท่าทางก็ไม่น่าจะใช่พวกตุ๊ด พวกแต๋ว แล้วคุณวัฒน์ไปคว้ามาจากไหนกัน”
“นั่นนะซิ ฉันว่า … ฉันโทรไปรายงานยัยภัทรก่อนดีกว่า”
“เอาเลย เอาเลย โทรเลยแก … “ อรปรียา เห็นด้วยกับเพื่อนจนออกนอกหน้า
“แหม…น้อยๆ หน่อยย่ะยัยอร ทำไมยะ ทำให้แฟนเค้าร้าวฉานกัน มันเป็นงานอดิเรกของแกหรือไง … ยังไงๆ ยัยภัทรมันก็เพื่อนของพวกเรานะ”
“เออน๊า … ฉันรู้ว่ามันเป็นเพื่อนพวกเรา ว่าแต่แกจะโทรไม่โทรเนี่ย … ไม่งั้นฉันโทรเองนะ”
“ไม่ต้อง…ไม่ต้อง ฉันโทรเองยะ”
กมลวรรณที่รำคาญ อาการระริกระรี้ของอรเต็มแก่ รีบกดโทรศัพท์มือถือในมือโทรหาเพื่อนรักทันที
เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่นั่งอ่านนิตยสารอยู่อย่างสบายใจหยิบขึ้นมาดูชื่อที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอ
“อร … โทรมาทำไมกันนะ”
หญิงสาวกดรับและแนบหูเพื่อฟังเสียงของเพื่อนรักที่โทรเข้ามา
“ว่าไงยัยอร นึกยังไงถึงโทรมาหาฉันยะ จะชวนฉันไปชอปปิ้งที่ไหนอีกล่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะฉันอยู่บ้านและไม่ว่างจะไปด้วย”
“โอ๊ย … ฉันช๊อปจนเมื่อยแล้วล่ะยะ กำลังหาอะไรกินอยู่กับยัยมล ว่าแต่แกเถอะคุณวัฒน์หวานใจแกไปไหนซะล่ะถึงได้สถิตย์อยู่ที่บ้านได้น่ะวันนี้”
“อ๋อ คุณวัฒน์เค้าไปทำธุระให้คุณแม่เค้าน่ะ แต่เรานัดดินเนอร์กันย็นนี่แหละ ฉันถึงไม่อยากไปไหนไงละ”
“ธุรง ธุระอะไรก๊าน… ธุระพาใครก็ไม่รู้ มากินข้าว เที่ยวห้างงั้นเหรอยะ”
“แกหมายความว่าไง คุณวัฒน์เค้ามีใครนอกจากฉันอีกหรือไง เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ถึงจะมีฉันก็ยังเป็นเบอร์หนึ่งอยู่ดี คุณวัฒน์เค้าไม่จริงจังกับใครหรอกยะ นอกจากฉันคนเดียว…”
“จ๊ะ…แม่คนสวย ฉันแค่โทรมาเตือนด้วยความหวังดีนะ ว่าคุณวัฒน์ของเธอน่ะ เค้าพาเด็กหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้ … แต่ที่รู้คือหล่อไม่แพ้กันเลยล่ะ … มานั่งกินข้าว กระหนุง…กระหนิง กัน … จนมดยังอายเลยแก … ว่าแต่คุณวัฒน์ของแกเนี่ยชายแท้หรือเปล่ายะ พวกฉันชักไม่มั่นใจแล้วซิ”
“เป็นไปไม่ได้ยะ คุณวัฒน์เค้าไม่มีรสนิยมแบบนั้นหรอก เค้าคบกับฉันมาเกือบปีแล้วนะ ไม่เคยจะเห็นเค้าจะมีพฤติกรรมแปลกๆ แบบ … แบบนั้นสักนิด”
“โอเค งั้นก็แล้วแต่แกล่ะกัน ฉันน่ะโทรมาเตือนด้วยความหวังดีน่ะยะ แค่นี้แหละ แล้วเจอกัน”
อรวางสายไปแล้ว … แต่ นภัทร ที่ยังนั่งนิ่งถือโทรศัพท์ไว้ในมืออยู่ ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เพื่อนเล่ามา แต่อรก็เป็นเพื่อนรักของเธอ จึงไม่คิดสักนิดว่าเพื่อนจะโกหก … ได้แต่ถามตัวเองในใจ
“แล้วเด็กนั่น … เป็นใครกัน”
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-04-2007 20:39:05
หุหุ ตามมาอ่านเรื่องใหม่  :kikkik: ดูจากชื่อคงจบแฮปปี้นะ  :call:
เป็นกำลังใจให้คะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 23-04-2007 20:43:39
ต่อเลยดีกว่า เดี๋ยว พี่ๆทั้งหลายอารมค้าง เอิ๊กๆ :yeb:

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

5...
“เอาล่ะ ถ้าอยากได้อะไรก็บอกกับนมพริ้มหรือแววก็ได้นะ เย็นนี้ฉันคงไม่ได้อยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เพราะนัดกับเพื่อนไว้”
“ครับ”
นัทรับหนังสือที่ซื้อมาจากมือธวัฒน์พร้อมกับเดินแยกไปเข้าห้องของตัวเอง ขณะที่ธวัฒน์แยกไปเข้าห้องของเค้าที่อยู่ทางปีกขวาเช่นกัน
นัทวางหนังสือลงบนเตียง มองไปรอบๆ ก่อนที่จะเดินไปหยิบ diary ที่จัดวางไว้บนโต๊ะหนังสือตั้งแต่ก่อนออกไป ขึ้นมาเปิดและพลิกไปยังหน้าที่ยังว่างอยู่ และหยิบปากกากลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่นุ่มสบาย ก่อนจะขีดเขียนตัวหนังสือลงไป...
*******************************************
วันที่ 1 ในบ้านหลังใหญ่ ...
    
แม่ครับ แม่คงมีธุระสำคัญมากถึงไม่สามารถมารับนัทได้ นัทไม่โกรธแม่หรอกนะครับ แต่...นัทอยากลับไปอยู่บ้านของเราจัง บ้านของพ่อที่อเมริกา นัทคิดถึงพ่อครับ พ่อจะรู้ไหมนะว่านัทเรียนจบแล้ว ถึงจะแค่ ม.6 แต่พ่อจะภูมิใจในตัวนัทหรือเปล่าครับแม่
   วันนี้ ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของเพื่อนคุณแม่ เพื่อนคุณแม่จะเป็นคนแบบไหนกันน๊า ... อยากรู้จัง ... แต่ลูกชายของท่านนี่ซิครับ กวนประสาทที่สุดในโลก ขี้เก็กยังไม่พอ ยังหยิ่งถือตัวเอามากๆ นิสัยคุณหนูผู้เอาแต่ใจเหมือนในละครที่เคยดูเลยครับแม่ แกล้งนัทให้ต้องโมโหอยู่บ่อยๆ วันนี้ก็ทำให้นัทต้องล้มไปตั้ง 3 ครั้งแน่ะ ... ไม่ใช่ซิ  2 ครั้งเอง แต่เกือบอีกครั้งนึง ยังดีที่เค้าดึงไว้ทัน ไม่งั้นนัทคงแย่แน่ๆ คงมีแค่ตอนนี้แค่นั้นละครับ ที่นัทจะรู้สึกว่าชอบเค้าขึ้นมานิดนึง
   แม่เชื่อไหมครับ ว่านัทไม่เคยโมโหจนเลือดขึ้นหน้าอย่างนี้มาก่อนเลย นัทรู้สึกร้อนทั้งหน้า ทั้งตัวเลยครับเวลาที่เค้าแกล้งยั่วโมโหนัท น่าแปลกนะครับแม่ทีเวลาเพื่อนแกล้งนัท นัทกลับไม่เคยโมโหแบบนี้เลย นัทเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ใจมันสั่นๆ หน้าร้อนไปหมดเลยครับ หรือเพราะเค้าเป็นคนแปลกหน้ากันนะ ...
   นัทจะอดทนนะครับ จนกว่าแม่จะมารับนัท ... กลับบ้านของเรา ... อยากเจอแม่เร็วๆ จัง ...
*******************************************

นัทปิด diary ลงอย่างช้าๆ diary ที่มักบันทึกความทรงจำต่างๆ ไว้ในช่วงที่นัทไม่ได้อยู่กับแม่ เพราะมันทำให้นัทรู้สึกว่าได้คุยกับแม่เสมอๆ นัทไม่มีโอกาสโทรไปคุยกับแม่เลย เพราะงานของแม่ต้องเดินทางบ่อยๆ และแม่จะเป็นฝ่ายโทรมาหานัทเอง แต่ก็นานๆ ครั้ง นัทพลิกตัวแหงนมองเพดานห้อง เฝ้าแต่นึกถึงว่าจะได้กลับไปอยู่กับแม่เมื่อไรกันนะ และผลอยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

“ฮัลโล คุณภัทรเหรอครับ”
“ค่ะ คุณวัฒน์ ภัทรรออยู่นะค่ะ อย่าให้ภัทรต้องคอยเก้อน๊า... เพราะคุณวัฒน์มัวแต่พาใครๆ ไปเที่ยวหรอกนะค่ะ”
“โถ ... คุณภัทรพูดอะไรแบบนั้นล่ะ คุณภัทรก็รู้ว่าคุณภัทรสำคัญกับผมมากกว่าใครๆนี่ครับ”
“ภัทร เข้าใจค่ะว่าเป็นแค่คนสำคัญ ไม่ใช่คนรัก”
“คุณภัทร อย่าพูดแบบนั้นซิครับ นะครับคนดี อีกไม่เกินสิบนาทีผมก็จะถึงบ้านคุณภัทรแล้วนะครับ แต่งตัวสวยๆ รอผมนะครับ”
“ค่ะ แล้วภัทรจะรอค่ะ”

รถเก๋งคันหรูติดไฟแดงอยู่ ท่ามกลางแสงสีของท้องถนนในยามค่ำคืน ถึงจะเป็นแค่หัวค่ำ แต่แสงสีจากร้านรวงต่างๆ ที่เปิดบริการในตอนกลางคืน ก็มีให้เห็นมากมายเต็มสองฟากฝั่งของท้องถนน
ธวัฒน์เห็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเดินข้ามทางม้าลายผ่านหน้ารถของเค้าไป ก่อนที่หน้าของใครคนนึงจะปรากฏขึ้นในมโนภาพของเค้าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“หึ หึ ... เด็กอะไรยียวนกวนประสาทได้ตลอดเวลาจริงๆ…”
o_O เฮ้ย เฮ้ย ไอ้วัฒน์เอ๊ย ... กำลังไปเดทกะสาวไหงไปนึกถึงเด็กประสาทๆ ได้เนี่ย ชายหนุ่มไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าการที่เด็กหนุ่มที่เพิ่งพบเจอเพียงวันแรกเข้ามาแวะเวียนในจิตใจของเค้าได้อย่างไร เพราะท่ามกลางคนที่คอยเอาอกเอาใจเค้า ไม่เคยมีใครที่จะคอยขัดใจ ทุกคนวางตัวเมื่อยู่ต่อหน้าเค้าทั้งนั้นในสังคมของคนมีเงิน ... นอกจากครอบครัว ก็มีเพียงเพื่อนไม่กี่คนและเด็กคนนี้ละมั้ง ที่ต่างออกไป ...
ธวัฒน์พยายามไล่ความคิดแปลกๆ ออกไปจากหัว ก็พอดีที่ไฟเปลี่ยนเป็นเขียว เค้าจึงรีบขับรถตรงไปยังจุดหมายปลายทางทันที
ผับหรูหรา บนชั้นบนสุดของตึกระฟ้า ใจกลางเมืองหลวง ... ชายหนุ่ม หญิงสาว กำลังเต้นรำกันท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่แอบอิจฉาความเหมาะสมของคู่นี้ ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวย ยังกับกิ่งทองใบหยก ...
“วันนี้ภัทรสวยมากเลยนะครับ”
“แหม...คุณวัฒน์ก็...ชมภัทรตรงๆ แบบนี้ภัทรก็เขินแย่ซิค่ะ”
“ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับ คุณรู้ไหม...ว่าผู้ชายในร้านทุกคนต่างก็มองคุณไม่กระพริบตาเลยน๊า...”
“ผู้หญิงในร้านก็มองคุณเหมือนกันล่ะค่ะ ทำมาเป็นปากหวานกะภัทร คนเสน่ห์แรงอย่างคุณจะหาผู้หญิงสวยขนาดไหนก็ได้”
สายตาหวานซึ้ง ส่งให้ผู้หญิงตรงหน้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้เธอกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ... ผู้หญิงที่เข้ามาหาธวัฒน์มีมากมาย แต่ธวัฒน์ก็เลือกเธอมาเป็นคู่ควงออกงาน มากกว่าคนอื่นๆ ทำไมเธอจะไม่รู้เหตุผลล่ะ นอกจากความสวยแล้ว เสน่ห์ดึงดูดใจของเธอ หรือมารยาร้อยแปดรับรองว่าเธอไม่แพ้ใครเป็นแน่ ...
หญิงสาวซบลงบนไหล่กว้างของชายหนุ่มตรงหน้า เอ่ยเสียงถามเสียงแผ่วเบาเพื่อรักษาบรรยากาศของเสียงดนตรีชวนเคลิบเคลิ้ม ... ไม่ให้เสียไป
“คุณไปทำธุระอะไรให้คุณแม่มาทั้งวันเลยค่ะ รู้ไหมค่ะว่าภัทรคิดถึงคุณม๊ากมาก...”
“ผมไปรับหลานของคุณแม่ออกจากโรงเรียนประจำครับผม”
“คุณหญิงมีหลานที่ไหนด้วยหรือค่ะ”
“จริงๆ เป็นลูกของเพื่อนรักของคุณแม่ครับ ท่านจะให้มาอาศัยอยู่ที่บ้านชั่วคราวน่ะ ผมก็เพิ่งรู้จากท่านเมื่อเช้านี่เอง”
“คุณวัฒน์พาหลานชายคุณแม่ ไปไหนมาบ้างหรือค่ะวันนี้”
“เอ๊ะ...”
ธวัฒน์ผลักนภัทรออกจากไหล่ของเค้า ประคองไหล่หญิงสาวไว้ด้วยสองมือ ... มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ตอนนี้...นภัทรรู้ว่าเธอพลาดไป เธอรุกเค้าเร็วเกินไป จนต้องหลบสายตาคมกริบ คู่นั้นที่กำลังมองเธออย่างค้นหา ...
“คุณทราบได้ยังไงครับว่า...หลานคุณแม่เป็นผู้ชาย...”
“เอ๊อ...คือว่า...ภัทร...”
นภัทรรู้ดีว่า ผู้ชายอย่างธวัฒน์ ไม่ชอบอะไร การผูกมัด แสดงความเป็นเจ้าของ การโกหกและการจับผิด เป็นสิ่งที่เธอพยายามไม่แสดงออก เมื่ออยู่กับผู้ชายคนนี้
“คุณเห็นผม ... แล้ว ... ทำไม ... คุณไม่เข้าไปทักล่ะครับ”
เฮ้อ ... นภัทรแอบถอนใจเล็กๆ เมื่อคำถามของชายหนุ่มไม่ได้แสดงว่า เค้าไม่พอใจในตัวเธอ
“คือ จริงๆแล้ว ... เพื่อนของภัทรค่ะ เค้าโทรมาเล่าให้ฟังว่าเห็นคุณไปทานข้าวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งเมื่อตอนเที่ยง”
“คุณก็ถามผมตรงๆ ได้เลยครับ ผมไม่มีความลับอะไรหรอกนะครับ ก็แค่ไปพาหลานคุณแม่ไปซื้อของ กับทานข้าวเท่านั้นเอง”
“ค่ะ ภัทรทราบค่ะว่าคุณไม่เคยเหลวไหล อีกอย่างภัทรก็ไม่ได้ว่าอะไรน่ะค่ะ เพราะคุณไปกับผู้ชายชาย ไม่ใช่สาวๆ ที่ไหน จริงไหมค่ะ”
ธวัฒน์ดึงตัวหญิงสาวเข้ามาโอบกอด่ เต้นรำไปพร้อมกับเสียงดนตรีที่บรรเลงอย่างต่อเนื่อง ...
“อย่าว่าแต่ผู้ชายเลยครับ สาวๆ ที่ไหนผมก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวหรอกครับ ในเมื่อผมมีคนที่สวยที่สุดอยู่กับผมแบบนี้”
“ค่ะ...ภัทรเชื่อคุณค่ะ”
หลังจากไปส่งนภัทรแล้ว ธวัฒน์ก็ขับรถเก๋งคันงามกลับมาถึงบ้านประมาณสี่ทุ่ม โดยมีบุญส่ง คนขับรถวิ่งมาเปิดประตให้ ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อก้าวลงจากรถ
“บุญส่ง คุณแม่กลับมาหรือยัง”
“ยังเลยครับผม งั้นเดี๋ยวผมเอารถไปเก็บก่อนนะครับ”
"อืมไปเถอะ แล้วดูแลปิดประตูให้ดีล่ะ"
ชายหนุ่มกำลังจะก้าวขึ้นบันไดไปยังประตู ก็พอดีเหลือบไปเห็นคนที่เค้าคิดว่าคงจะนอนหลับไปแล้วนั่งอยู่ในสวนที่มีแสงไฟเพียงสลัวๆ เท่านั้น
“ป่านนี้แล้ว นั่งทำอะไรอยู่อีกนะ”
ธวัฒน์ก้าวผ่านแปลงดอกไม้หลากหลายชนิด เข้าไปหาเด็กหนุ่ม ที่นั่งอยู่คนเดียว แต่คนที่นั่งหันหลังกลับเหม่อลอยจนไม่รู้ถึงการมาของคนที่เค้าไม่ค่อยจะอยากเจอนัก ...

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 23-04-2007 20:57:03
อ่านเรื่องนี้เหมือนบทละครเลยน้องหมี  จินตนาการเป็นละครอยู่อะ
แต่หนุกดี  ชอบๆ ทำให้อยากอ่านต่อแว้วว  เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมจ้า  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-04-2007 21:43:36
 :เฮ้อ: สงสารนัทเนอะ คงอยากอยู่กับแม่มากกว่า  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 24-04-2007 00:38:04
รออ่านต่อไปนะคับ มาติดตามต่อนะคับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-04-2007 08:43:44
เรื่องโปรดยอดเยี่ยมของผมเลย
 :loveu:
มีคนมาโพสแทนแว้วดีใจ
ขอบคุณทั้งคนเขียนคนโพส
 : 222222:

คนเขียนถ้าเข้ามา จุ๊บๆไว้ก่อนสองที
 :laugh5:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 24-04-2007 13:05:08
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 24-04-2007 14:40:14
มาต่อให้แล้วคับ   ขอบคุณทุกคนนะคับที่เป็นกำลังใจให้   และก็ขอบคุณ พี่ๆที่เป็นห่วงนะคับ อิอิ  :yeb:

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

6...
ธวัฒน์เดินเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังนานแล้ว แต่คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็เหมือนจะไม่รู้สึกตัวเอาซะเลย ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาทันใด เค้าจึงก้มลงไปข้างหูเด็กหนุ่ม และ ... และ ... เป่าลมเข้าไปในหูของเด็กหนุ่ม โดยที่นัทไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อหันมาด้วยความตกใจ แก้มขาวๆ เฉี่ยวปลายจมูกโด่งงามกำลังดีของธวัฒน์ไปแค่เสี้ยววินาที

“คุณ ... คุณธวัฒน์ ผมตกใจหมดเลยนะครับ เล่นอะไรก็ไม่รู้เนี่ย”
ด้วยความตกใจหรืออะไรก็ไม่รู้ แต่หน้าขาวๆ กลับเปลี่ยนเป็นแดงจัด นี่ถ้าไฟสว่างกว่านี้ ธวัฒน์คงมองเห็นแน่ๆ

“แล้วเธอทำไมถึงยังไม่นอนล่ะ มานั่งทำซึ้งอะไรแถวนี้ หรืออยากแสดงพระเอก MV”
“พูดอะไรครับ ... ใครมานั่งทำซึ้ง ผมมานั่งเล่นเฉยๆ เท่านั้นเอง”
“อยากบอกนะว่าเธอมานั่งรอฉันน่ะ”
“อันนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย ความจริงผมรอพบคุณหญิงต่างหาก ... งั้นผมไปดีกว่า...”
มือไวกว่าความคิด ธวัฒน์คว้ามือของนัทก่อนที่จะเดินหนีไป
“เดี๋ยว...จะรีบไปไหน ฉันไม่ใช่ผีสางที่ไหนนะ พอเจอปุ๊บก็จะรีบหนีน่ะ”
“ใครว่าผมหนีคุณละครับ ผมแค่...ง่วงนอนเท่านั้นเอง และจาไปนอนแล้วครับ เข้าใจแล้วก็กรุณาปล่อยด้วยครับ”
“อ่ะ เหรอ ... โทษที ปล่อยก็ได้ ... ไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อยทำเป็นหวงตัว”
“ว่าแต่ทานข้าวเรียบร้อยแล้วเหรอ”
“เรียบร้อยแล้วครับ คุณนมจัดให้ผมทานตั้งแต่เย็นแล้วล่ะ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
นัทกลับขึ้นไปบนห้องนานแล้ว แต่ธวัฒน์กลับยังนั่งอยู่ที่ที่นัทเคยนั่ง นึกถึงหญิงสาวที่ไปเดทด้วยกัน นภัทรหญิงสาวที่เพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่นั่นยังไม่ได้ทำให้เค้ารักเธอ หากแต่เธอคือคนที่เหมาะสมที่เค้าจะแต่งงานด้วย และภาพของเด็กหนุ่มอีกคน สมาชิกใหม่ของบ้าน รู้แค่ว่าเป็นลูกของเพื่อนคุณแม่ แต่ทำไมกันล่ะ ถึงต้องมาอยู่ที่นี่ ... เด็กที่ดูจะเศร้าๆ ในบางครั้ง และยียวนกวนประสาทจนเค้าอยากจะแกล้งเล่น ...
นัทยังนอนไม่หลับ เค้ายังคงนึกถึงเหตุการณ์ในห้องครัวเมื่อตอนเย็น ที่นมพริ้มกับหนูแวว เล่าอะไรต่างๆ ในบ้านให้ฟัง
“บ้านนี้เงียบจังนะครับ ปกติก็ไม่ค่อยมีคนอยู่แบบนี้หรือครับนม”
“ใช่ค่ะ คุณหญิงกับคุณท่าน มีงานที่ต้องไปโน้นมานี่บ่อย ๆ ทั้งงานสังคม งานการกุศล ไปค้างที่ต่างจังหวัดก็บ่อยค่ะ”
“คุณธวัฒน์ทำงานที่บริษัท ก็เห็นจะมีแต่วันเสาร์-อาทิตย์ ที่จะอยู่บ้านบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยจะอยู่เหมือนกันแหละค่ะ”
“คุณธวัฒน์เค้าออกไปไหนกันหรือครับ เห็นแต่งตัวซะหรูเชียว ผมว่าคงไปเที่ยวแน่เลยใช่ไหมล่ะครับ”
“คุณหนู เธอไป ....”
เสียงนมพริ้มยังไม่ทันจะพูดจบก็มีเสียง หนูแววขัดขึ้นมาซะก่อน
“คุณธวัฒน์ เธอไปเดทกับหวานใจค๊า.... คุณนภัทรน่ะ ส๊วย...สวย...ยังกะนางแบบเลยค่ะ แววล่ะอิจฉ๊า...อิจฉา”
“ยัยแวว ... เดี๋ยวจะโดน พูดมากนะเรา”
นมพริ้มเอ็ดหนูแวว อย่างขำขำ ในท่าทางของเด็กสาว
“เอ่อ ... คุณธวัฒน์ไป...เที่ยวกับแฟน...หมายถึงคุณนภัทรนะครับ ไปบ่อยเหรอครับคุณนม”
“จะว่าเป็นแฟนก็คงไม่ผิดหรอกค่ะ คุณนัท เพราะไม่เห็นคุณหนูเธอจะควงใครได้นานเท่าคนนี้นะค่ะ”
“ยัยแวว ... ชอบพูดสอดซะจริงนะ”
“ขอ...ขอโทษค๊า...คุณนม”
นัทอดขำในท่าทางของแววที่โดนนมพริ้มดุไม่ได้ เค้ารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อทุกคนในนี้ ให้ความเอ็นดูและความเป็นกันเองกับเค้ามาก
ก่อนที่นัทจะหลับไปก็ อดที่จะคิดถึงแม่กับเพื่อนๆ ไม่ได้ และอีกความคิดถึงที่ผุดขึ้นมาในใจก็คือ พรุ่งนี้เค้าน่าจะได้เจอคุณหญิง และจะได้ถามเกี่ยวกับคุณแม่ให้ได้...
ที่โต๊ะอาหารตอนเช้า วันอาทิตย์ ที่แสนสงบเงียบ ... ธวัฒน์เดินลงมาจากชั้นบนและมานั่งลงด้านข้างของคุณแม่ของเค้า
“คุณแม่กลับดึกจังนะครับ เมื่อคืนผมกลับดึกแล้วแต่คุณแม่ก็ยังไม่กลับมาเลย”
“ใช่จ๊ะ กว่างานจะเลิกก็ดึกมาก แม่กลับมาถึงราวๆ ตี 1 ได้มั้งนะ”
“แล้วนี่คุณพ่อไปไหนแต่เช้าล่ะครับ ผมไม่เห็นรถท่านเลย”
“ท่านนายพลพ่อของลูก ท่านไปตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ น่ะ อีกเดี๋ยวแม่คงต้องตามไปเหมือนกัน ... เพราะนัดกับคุณหญิงภรรยาของเพื่อนๆ คุณพ่อน่ะแหละ”
“คุณแม่ออกจากบ้านทุกวันแบบนี้ไม่กลัวลูกชายขาดความอบอุ่นบ้างเหรอครับ”
ธวัฒน์ทำหน้างอนๆ เหมือนเด็กๆ ที่กำลังอ้อนผู้ใหญ่ให้ตามใจตนเอง ... ก็พอดีที่นัทลงมาเห็นเข้าพอดี เพราะคุณหญิงให้แววขึ้นไปเชิญมาทานข้าวเช้าก่อนที่ธวัฒน์จะลงมาเพียงนิดเดียว และอีกอย่างคือคุณหญิงก็มีเรื่องที่จะคุยก่อนออกไปข้างนอก
“ทำหน้ายังกับเด็กปัญญาอ่อน...”
นัทยิ้มน้อยๆ เพราะอดขำกับภาพที่เห็นไม่ได้ เดินนำแวว มาที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับยกมือไหว้คุณหญิงที่ยิ้มให้อย่างใจดี
ธวัฒน์เองเมื่อเห็นนัทก็ต้องรีบเปลี่ยนสีหน้า เพื่อรักษาคาแรกเตอร์ของตัวเอง จนนัทขำหนักเข้าไปใหญ่ จนธวัฒน์มองเค้าตาเขียว
“นั่งซิจ๊ะ ลูกนัท นั่งข้างๆ แม่นี่แหละ”
“คุณแม่มีผมเป็นลูกคนเดียวนี่ครับ ผมจำไม่ได้เลยว่าเคยมีน้องชาย แต่เอ...ทำไมหน้าไม่เหมือนผมเลยล่ะ”
เด็กหนุ่มหุบยิ้ม แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างของคุณหญิงที่ยังว่างอยู่และอยู่ตรงข้ามกับธวัฒน์พอดี
“ตาวัฒน์ ...”
คุณหญิงส่งตาเขียวให้ลูกชายคนเดียวพร้อมหันมายิ้มให้กับนัทที่นั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“เป็นไงอยู่สะดวก สะบายดีไหมจ๊ะ”
“ดีมากเลยล่ะครับ ทุกคนดีกับผมมากเลยครับ ยกเว้น...” นัทส่งสายตาไปยังฝั่งตรงข้าม ...
“อย่าไปถือสาตาวัฒน์เลยน่ะ คนไม่มีพี่มีน้องก็อย่างนี้แหละ เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย…”
“อ้าว ... คุณแม่... ทำไมไม่เข้าข้างลูกชายเลยล่ะครับ เห็นคนอื่นดีกว่าลูกเหรอครับ”
สีหน้าของนัทดูหมองลงเมื่อคำว่า คนอื่น หลุดออกมาจากปากของธวัฒน์ คุณหญิงคงสังเกตเห็นจึงหันไปทางลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ท่าทางจริงจังไม่น้อย
“นี่ตาวัฒน์ ให้รู้ไว้เลยนะจ๊ะ ว่า ... นัทเค้าจะมาอยู่ในบ้านนี้เหมือนลูกของแม่คนนึง และเราสองคนก็อายุไม่ได้ห่างไกลกันมากนัก แม่จึงอยากให้วัฒน์เป็นพี่ชายที่ดี คอยดูแลน้อง และควรจะสนิทสนมกันไว้ เพราะน้องคงจะต้องอยู่กับเราอีกนาน”
นัทเงยหน้าขึ้นมามองหน้าคุณหญิง เต็มไปด้วยความสงสัย ซึ่งไม่คงไม่ต่างจากธวัฒน์ที่สงสัยเช่นกัน ....

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 24-04-2007 14:42:00
7 ... ความจริง (หรือ…ลวง)
“หมายความว่ายังไงเหรอครับ คุณหญิง…ป้า”
นัทก้มหน้าแดง รู้สึกอายอยู่ไม่น้อยที่เรียกแบบนั้น แต่…เค้าไม่รู้จะเรียกว่าอะไรนี่นา
“ตายแล้ว…ใครสอนให้เรียกแบบนั้นล่ะจ๊ะ…”
คุณหญิงปรายสายตาไปทางธวัฒน์เล็กน้อย แต่ธวัฒน์ส่ายหน้าอย่างแรงเพื่อบอกว่า ไม่ใช่ผมสักหน่อย …
“นัทเรียกว่า คุณป้าก็ได้จ๊ะ หรือจะเรียกว่าคุณแม่ เหมือนตาวัฒน์ก็ได้น๊า… ป้าอยากมีลูกชายเพิ่มอีกสักคน เผื่อเจ้าคนที่มีอยู่เนี่ย มันจะลดความเอาแต่ใจลงหน่อย”
ธวัฒน์ทำจมูกย่นเล็กน้อยเมื่อคุณแม่ดูจะเอาใจเด็กคนนี้น่าดู …
“เอ่อ … งั้นผมขอเรียกคุณป้าแล้วกันนะครับ … แต่คุณป้าครับ แล้วตกลงว่าคุณแม่จะมารับผมเมื่อไหร่หรือครับ”
คุณหญิงมองหน้าเด็กหนุ่มนิ่ง สายตาบ่งบอกถึงความสงสาร รักใคร่ ธวัฒน์ก็แอบสังเกตสีหน้าของคุณแม่ตัวเองอยู่เงียบๆเหมือนกัน
“คือ…คุณแม่ของนัท ท่านอยากให้นัทเข้ามหาวิทยาลัยที่เมืองไทยน่ะจ๊ะ โดยให้นัทอยู่ที่บ้านป้าไปก่อนจนกว่าจะเรียนจบ”
“ทำไมกันละครับ คุณแม่ไปไหนกัน ทำไมไม่ติดต่อมาหาผมเลยล่ะครับ”
“นัทจ๊ะ…คุณแม่ของนัทท่านไม่ว่างในช่วงนี้จริงๆ ท่านต้องติดต่องานหลายประเทศ นัทก็น่าจะรู้อยู่แล้ว และการที่ท่านอยากให้นัทเรียนที่เมืองไทย จิตรา…เอ่อ…แม่ของนัทก็คิดไว้นานแล้ว นัทอย่าขัดใจท่านเลยนะ”
ถึงนัทจะยังสงสัยและอดแปลกใจไม่ได้ที่แม่ไม่ติดต่อมาหาเลย แต่การที่แม่อยากให้นัทเรียนที่เมืองไทย ก็เป็นไปได้เพราะแม่เคยพูดอยู่เสมอๆ หลังจากที่พ่อเสียไปแล้วว่า อยากกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย นี่ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่แม่อยากให้นัทเรียนที่นี่
“ก็…ถ้าคุณป้า บอกว่าเป็น…ความต้องการของคุณแม่ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ”
นัทเหลือบไปมองทางธวัฒน์ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ นิดนึง ก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดออกไป
“แต่ว่า … ถ้าจะให้ผมอยู่ที่นี่ ผมเกรงใจคุณป้านะครับ ถ้ายังไงให้ผมหาหอ…เช่าอยู่…”
“ไม่ได้จ๊ะ…”
คุณหญิงพูดขัดก่อนที่นัท่จะทันพูดจบด้วยซ้ำ
“เพราะคุณแม่อยากให้นัทอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบ และนัทน่าจะรู้ไว้นะว่าป้ากับแม่ของนัท เราเป็นเพื่อนรักกันมาก ฉะนั้นนัทก็เหมือนลูกของป้าคนหนึ่งเหมือนกัน ไม่ว่าใครจะว่ายังไง…”
คุณหญิงหันไปมองทางลูกชายนิดนึง … ก่อนจะพูดต่อ ธวัฒน์เองถึงกับเลิกคิ้วด้วยความสงสัย … ผมโดนอีกแล้วเหรอเนี่ย…
“นัทต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบ … เข้าใจตามนี้นะจ๊ะ และในช่วงนี้ก่อนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยป้าจะให้ตาวัฒน์หาที่เรียนกวดวิชาให้นัทนะจ๊ะ ป้ารู้ว่านัทเรียนดีอยู่แล้ว แต่เรียนไว้ก่อนน่าจะดีกว่า”
“เข้าใจตามนี้นะตาวัฒน์ วันนี้วันอาทิตย์ก็พาน้องออกไปหาที่เรียนด้วย…”
“โห … คุณแม่ครับ … ไม่ถามผมเลยนะว่าผมจะว่างไหมอ่ะ”
“จะว่างหรือไม่ แม่ไม่สน…แต่ต้องทำตามคำสั่งเข้าใจไหม นายธวัฒน์…แม่คงต้องไปแล้วล่ะ เดี๋ยวจะสาย…”
“คุณแม่อ่ะ…ไมทำงี้ละคร้าบบบ…”
หน้าปั้นยากของธวัฒน์ทำให้นัทอดขำไม่ได้ แต่ก็ต้องฝืนหัวเราะเอาไว้
พออยู่ต่อหน้าแม่ล่ะ ทำเป็นเด็กเลยแฮะ…ทีกะคนอื่นละเก็กสุดฤทธิ์…
“คุณป้าครับ…ถ้าคุณธวัฒน์ไม่ว่าง…ผมว่าผมไปเองก็ได้นะครับ”
“หือ…ไม่ได้หรอกนะ นัทก็อยู่โรงเรียนประจำซะส่วนใหญ่ ถนนหนทางก็ยังไม่ค่อยจะรู้ อย่าเพิ่งไปไหนมาไหนคนเดียวเลยจะดีกว่านะ”
“แล้วอีกอย่าง … ใครสอนกันให้นัทเรียกตาวัฒน์ว่า … คุณธวัฒน์เนี่ย”
ธวัฒน์หลบสายตาคุณหญิงทันที ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น …
“เรียกพี่วัฒน์ ดีกว่าไหม ป้าบอกแล้วเราสองคนก็เหมือนพี่น้อง จริงไหมตาวัฒน์”
“จ…จ…จ...จริงก็ได้ครับ”
“งั้นแม่ไปล่ะนะ จัดการตามที่สั่งให้เรียบร้อยนะจ๊ะ” คุณหญิงหันมาสำทับกับลูกชายก่อนจะออกไปขึ้นรถ
ความเงียบบังเกิดขึ้นในระหว่างทานอาหารเช้า … ไม่มีใครเอ่ยขึ้นก่อน จนทานเสร็จนั่นแหละ เสียงแผ่วๆ ถึงได้ออกมาจากปากของชายหนุ่มก่อน
“ไปแต่งตัว เสร็จแล้วลงมารอพี่ข้างล่างนะ”
“หือ…คุณธวัฒน์เรียกพูดว่าอะไรนะครับ”
“ก็…ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ อย่ามาเรื่องมากนะ อีกอย่างจะเรียกฉัน…เอ๊ย…เรียกพี่ยังไงก็ตามใจ ไม่ใช่ว่าชอบหรอกนะ แต่ไม่อยากขัดใจคุณแม่เท่านั้น…”
ธวัฒน์เดินหนีไปแล้ว แต่นัทยังนั่งยิ้มอยู่กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของธวัฒน์ … สงสัยจะกลัวแม่เอามากๆ เลยแหะ … แล้วนัทก็เดินตามขึ้นไป แต่เข้าไปในห้องของตัวเองเพื่อเตรียมตัวตามที่ธวัฒน์บอก
ที่สถาบันกวดวิชาชื่อดังแห่งหนึ่ง รถเก๋งสีดำ สะอาดเอี่ยมเข้ามาจอดด้านหน้า โดยมีชายหนุ่มและเด็กหนุ่มนั่งมาด้วยกัน
“ที่นี่แหละ ลงไปเถอะ”
“จะให้ผมเรียนที่นี่เหรอครับ คุณวัฒน์”
“อย่าโอ้เอ้น่า…พี่ไม่ได้มีเวลาทั้งวันหรอกนะ”
ถึงจะแปลกหูกับคำพูดแทนตัวที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน แต่นัทก็ยังไม่คิดว่าจะเรียกธวัฒน์ว่าพี่ได้ในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้หรอก
“ก็ผมบอกแล้วว่า ผมหาเองได้คุณก็ไม่เชื่อ…”
“อย่าเรื่องมาก ลงไปได้แล้ว … อีกอย่างที่นี่เจ้าของก็เป็นเพื่อนของพี่ด้วย จะได้ฝากฝังได้ง่ายๆ หน่อย”
ภายในสถาบันกว้างขวาง … มีนักเรียนที่มากวดวิชาเต็มทุกห้อง … การันตีได้ถึงชื่อเสียงของสถาบันได้เป็นอย่างดี ธวัฒน์เดินนำหน้านัท เข้าไปที่ประชาสัมพันธ์ตรงเคาเตอร์ด้านหน้า
“สวัสดีค่ะ ถ้าต้องการสมัครเรียน ตอนนี้เต็มหมดแล้วนะค่ะ”
“คือผมมาพบ คุณแทนไท นะครับ”
“อ๋อ … คุณแทนไท อยู่ในห้องค่ะ ตรงเข้าไปผ่านห้องเรียนจะอยู่ตรงสุดทางค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ”
“หล่อเนอะ เธอว่าม่ะ” พนักงานประชาสัมพันธ์หันมาพูดกับเพื่อนข้างๆ
“อืมใช่ๆ  สงสัยเป็นเพื่อนของคุณแทนล่ะ เหมือนจะเคยเห็นหน้ามาก่อนด้วย”
“จริงเหรอ ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลยล่ะ แต่น้องผู้ชายที่มาด้วยก็หล่อไม่แพ้กันนะ ผิวข๊าวขาว ยังกะลูกครึ่งแนะ”
“แหม นี่เธอ น้อยๆ หน่อยก็ได้นะ เรื่องผู้ชายล่ะก็ทำเป็นตาโต”
นัทที่เดินตามหลัง ยังทันที่จะได้ยินสองสาวพูดถึงเค้ากับธวัฒน์ แต่นัทก็ไม่ได้รู้สึกอะไรได้แค่เดินตามธวัฒน์เข้าไปด้านใน สองด้านของทางเดินเป็นห้องเรียน ที่พอมองผ่านกระจกด้านหน้าเข้าไปก็จะเห็นอาจารย์กำลังสอนนักเรียนที่มีอยู่เกือบเต็มห้อง ธวัฒน์ไปหยุดที่หน้าห้องด้านในสุดเปิดเข้าไปโดยเคาะประตูก่อนสองสามที
“เฮ้ย…ไอ้วัฒน์…ลมอะไรหอบมาว่ะ”
คำทักทาย ที่นัทได้ยินเป็นประโยคแรกเมื่อก้าวตามเข้าไปในห้อง
“ไม่ต้องใช้ลมช่วยหรอกโว้ย …  พอดีข้าพาเด็กมาฝากเรียนสักคนน่ะ ได้ไหมว่ะ เห็นประชาสัมพันธ์บอกว่าเต็มแล้ว”
แทนไท ชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดี กำลังมองคนที่ธวัฒน์บอกว่าจะเอามาฝากเรียนอย่างลืมตัว
เด็กอะไร…น่าตาดีทีเดียว ขนาดยังไม่โตเท่าไหร่ ยังน่ารักขนาดนี้ ถ้าโตอีกหน่อยคงน่ารักโคตร
นัทกำลัง งง กับสายตาของ แทนไท ที่มองตนตาไม่กระพริบ ยิ่งทำให้รู้สึกหวั่นๆ ยังไงพิกล จึงเดินเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังของธวัฒน์โดยอัตโนมัติ
“เฮ้ย ไอ้แทนมองน้องข้าซะนานเลยนะเอ็ง มีอะไรหรือไง หรือเคยเจอกันมาก่อน”
“เปล่า … เปล่า หรอก ข้าจะเคยเจอได้ไงล่ะ ก็เพิ่งเห็นหน้าวันนี้แหละว่าแต่เอ็งเถอะ มีน้องตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย”
“เออน่า … ข้าก็มีของข้าก็แล้วกัน ตกลงเอ็งจะรับหรือไม่รับล่ะ”
“รับซิ รับ … หน้าตาแบบนี้ไม่รับได้ไง” ประโยคหลังพูดซะเกือบไม่ได้ยิน …
“เอ็งว่าไรนะ ได้ยินไม่ถนัดว่ะ”
“ก็บอกว่ารับไง ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวข้าจะเพิ่มชื่อให้ ที่นั่งน่ะมีเยอะแยะไป ว่าแต่จะเข้ามหาวิทยาลัยใช่ไหมล่ะครับน้อง เอ่อ … น้อง … น้องชื่ออะไรนะครับ พี่จะได้เพิ่มชื่อให้ไงล่ะ”
ประโยคนี้ดูจะจงใจถามเจ้าตัวสุดๆ เพราะสายตาไม่ได้มองที่เพื่อนของตัวเองเลย …
“ผมชื่อ ณัฐภูมิ ครับ ณัฐภูมิ รัตนปัญญา”
“อ้าว … ไหงพี่น้อง นามสกุลไม่เหมือนกันฟ่ะ หา…ไอ้วัฒน์”
“น้องคนละแม่น่ะ มีไรป่ะ ไอ้นี่อยากรู้มากจริง”
“เฮ้ย ท่านนายพลพ่อเอ็งไปแอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ”
“ไอ้แทน … วอนซะแล้วไหมล่ะ ลามปามถึงพ่อข้าเลยนะเอ็ง”
“เออ เออ … ข้าล้อเล่นน่า ทำเป็นจริงจังไปได้ ไม่ใช่น้องจริงๆ ก็ดี”
“งั้นข้ากลับก่อนล่ะกัน พอดีนัดกับภัทรไว้ด้วย”
“จะรีบกลับไปไหนหว๊า...นานๆ เจอกันที ไปกินข้าวกลางวันกันป่ะ เดี๋ยวข้าเลี้ยงเอง”
ปากคุยกับเพื่อนแต่สายตาของแทนกลับมองอีกคน
“วันนี้มาแปลกนะ ปกติเจอข้าไม่เห็นเอ็งจะคิดเลี้ยงข้าวเลยสักที ... แต่ช่างเถอะ ไว้วันหลังล่ะกัน รีบว่ะ”
“กลัวแฟนจะรอว่างั้นเถอะ เออ...งั้นไว้วันหลังก็ได้ เพราะยังไงน้องนัทมาเรียนที่นี่คงจะได้เจอเอ็งอีกแน่”
“น้องนัทครับ เริ่มเรียนวันศุกร์หน้านะ ถ้าไงอย่าลืมกรอกเอกสารนี้แล้วเอามายื่นที่ประชาสัมพันธ์นะครับ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ พี่แทน”
ธวัฒน์กับนัท ลากลับไปแล้ว แต่แทนไท ที่ใครๆ ต่างคิดว่าเค้าเป็นหนุ่มเพลบอยจีบสาวๆ ไปทั่ว แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าอีกด้านนึงของเค้าก็ชอบผู้ชายด้วยเช่นกัน เค้ายังคงยิ้มกริ่มอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างคนที่ได้เจอของถูกใจ
“นานๆ จะได้เจอเด็กๆ น่ารักสักทีน๊า...น่าขอบใจไอ้วัฒน์จริงๆ หล่อทั้งพี่ทั้งน้องเลย...”
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 24-04-2007 19:02:30
ชอบหง่ะ  นัทกับวัฒน์
เรื่องนี้แต่งสนุกจริงๆ ด้วย  รู้สึกน่าติดตามตลอดเลย  แบบว่าอยากอ่านต่อแล้วอ่า
มาให้ไวนะน้องหมี  รออยู่จ้า  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-04-2007 19:09:18
รออ่านอยู่น้า  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 24-04-2007 22:59:08
 : 222222:  หนุกๆ  เหอๆ ธวัฒน์พาน้องนัทไปให้เพื่อนถึงที่เลยวุ้ย  เวรกรรม  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 24-04-2007 23:32:03
เพิ่งเริ่มอ่านครับ ลงชื่อไว้ก่อนแล้วจะตามมาอ่านให้ทันนะครับ :โหลๆ: :โหลๆ:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 25-04-2007 06:40:35
ผมขอตัวไปนอนก่อนนะค๊าบ เหอะๆๆ     แบบว่า    งานเยอะมากกกกก     แล้วเดี๋ยวบ่ายๆ จะมาต่อให้นะคับ   - -*
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 25-04-2007 07:46:38
พี่เเทนเสือไบหรอนี่ เหอๆ  :fox2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 25-04-2007 13:55:00
มาแล้วคับ  อิอิ   ตื่นมาก็  มาโพสเลย  :laugh5:

ขอโทดทีทำให้รอนะคับ  :really2:
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

8...
“เดี๋ยวรอพี่อยู่นี่สักแป๊บนะ พี่จะเข้าไปดูหนังสือร้านข้างๆ นี่หน่อย หรือจะไปด้วยกันล่ะ”
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่รู้จะซื้ออะไร คุณวัฒน์เข้าไปคนเดียวเถอะ”
“ทีกะไอ้แทนละ ทำเป็นสนิทสนมกันเร็วนักนะ ไม่ทันไรก็พี่แทน ... ซะแล้ว ยังกะรู้จักกันมาก่อนงั้นแหละ”
“ก็พี่เค้าไม่ถือตัวนี่ครับ ไม่เหมือน ....”
“นี่ นัท ว่าใคร ... ว่าพี่ถือตัวงั้นซิ”
นัทออกจะงง กับการเรียกชื่อเค้าตรงๆ ของธวัฒน์ปกติก็ไม่เคยจะเรียก แต่วันนี้แปลกๆ หรืออาจทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีทำตามที่คุณป้าบอก็ได้มั้ง แต่ถ้าคิดว่าเค้าจะญาติดีด้วยง่ายๆ ล่ะก็ฝันไปเถอะ ...
“ผมว่า คุณวัฒน์จะซื้ออะไรก็น่าจะรีบไปนะครับ เพราะเดี๋ยวแฟนคุณจะรอ...นาน นัดกันไว้ไม่ใช่เหรอครับ”
“ใครแฟนใคร ... ว่าแต่รออยู่นี่นะ อย่าไปเพ่นพ่านที่ไหนล่ะ”
“โถ่เอ๊ย...ทำเป็นไม่ยอมรับ ทีเงี่ยรีบไปเชียว”
ธวัฒน์เดินหายเข้าไปในร้านหนังสือขนาดใหญ่ ที่อยู่ด้านข้างของสถาบันของแทนไท ได้สักพัก กำลังดูอะไรเพลินๆ ก็มีคนมาสะกิดด้านหลัง เมื่อนัทหันไปดูก็ต้องดีใจสุดขีด
“เฮ้ย ... เอก ... มาได้ไงว่ะ”
“ไอ้...นัท ใช่จริงๆ ด้วย ... ทีแรกเห็นข้างหลังก็ว่าคุ้นๆ อยู่ เป็นไงมาไงว่ะ ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ข้าคิดว่าเอ็งจะกลับอเมริกากับแม่แล้วซะอีก”
นัทดีใจมาก ที่ได้เจอเอก เพื่อนรักอีกครั้ง แต่ก็ไม่ลืมสังเกต คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เอก อีกคน หน้าตาตี๋ๆ สูงพอๆ กับเอกที่สูงกว่าเค้านิดหน่อย นัทหันไปยิ้มให้ อย่างเป็นมิตร
“คงไม่ได้กลับแล้วว่ะ สงสัยต้องเรียนที่นี่แหละ ว่าแต่...”
“เออ...ลืมไปเลยว่ะ นี่บอล ลูกพี่ลูกน้องข้าเองแหละ รุ่นเดียวกับพวกเราเลย ข้าพามาสมัครเรียนด้วยกันน่ะ”
บอล เด็กหนุ่มหน้าตี๋ หันมายิ้มกับนัทและแนะนำตัวเองอีกที
“ผมบอลนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
โห...ยิ้มได้ใจมากๆ ยิ้มมีเสน่ห์ดีจัง แบบนี้สาวๆ ตรึมแน่เลย ถึงไม่หล่อเท่าไหร่แต่ยิ้มก็กินขาดเลยแฮะ นัทกำลังพิจารณาคนที่เพิ่งได้รู้จัก จนลืมแนะนำตัวเองไป ... ก็พอดีเอก เข้ามากอดคอและแนะนำนัทให้บอล รู้จักบ้าง
“ส่วนนี่ ... นัทเพื่อนข้าเอง เรียนมาด้วยกันสนิทมากเลยแหละ จริงไหมว่ะนัท”
นัทถองเข้าที่สีข้างของเอก ที่รัดคอเค้าอยู่
“เออ ... สนิทก็สนิท แต่ไม่ต้องกอดแน่นนักก็ได้ ข้าเจ็บนะโว้ย...”
“ไมพูดงี้อ่ะ เพื่อนรัก อุตส่าห์คิดถึงนึกว่าจะไม่ได้เจอกานอีกล่ะ...”
“พอเลยว่ะ พูดไรเลี่ยนๆ ข้าอยากจะอ้วก...”
นัทหัวเราะขำกับท่าทางของเอกที่พูดทีเล่นทีจริง ทั้งๆที่เพิ่งจากกันเมื่อวานนี้เอง ทั้งคู่มักจะหยอกเย้าเล่นแหย่ กันแบบนี้เสมอ บอลเองก็พลอยขำไปด้วยกับท่าตลกๆ ของเอก ... แต่สายตาก็มักจะเหลือบมองวงแขนที่เอกโอบรอบคอของนัทอยู่อย่างสนิทสนม...
“เฮ้ย...ว่าแต่ที่ว่ามาสมัครเรียนเนี่ย เรียนอะไรเหรอ”
นัทถามเอก และหันไปทางบอลด้วย เผื่อใครสักคนจะตอบคำถาม ...
“ก็ที่นี่ไง ข้าพาบอลมาสมัครตั้งกะเช้าแล้ว มาถึงก็เกือบเต็มซะล่ะ เนี่ยก็เพิ่งเสร็จว่ะ”
“เฮ้ยจิงดิ งั้นก็จะได้เรียนด้วยกันนะซิ ข้าก็เพิ่งมาสมัครเมื่อกี้เองว่ะเอก...”
นัทบอกท่าทางดีใจ และตื่นเต้นที่จะได้มีเพื่อนเรียนด้วยกัน อย่างน้อยจะได้มีคนรู้จักบ้างก็ยังดี
“อ้าว...นัทก็เพิ่งมาสมัครเหรอ แต่ทำไม บอลกับเอกไม่เห็นนัทในห้องรับสมัครลงทะเบียนเลยล่ะ”
บอลถามอย่างสงสัย เอกก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ...
“ก็...”
นัทไม่รู้จะบอกยังไงดี ก็ในเมื่อธวัฒน์เป็นคนมาฝากเค้ากับเจ้าของโดยตรงเลยนี่นา
“บอลว่า ... นัทต้องมีคนรู้จักในนี้ใช่ม๊า ... ที่เนี่ยมีคนเเรียนเยอะนะ รับสมัครไม่กี่วันก็เต็มแล้วล่ะ ใช่ม่ะเอก”
“เออ...จริง”
“ก็ประมาณนั้นแหละ” นัทรู้สึกว่าให้เพื่อนคิดว่าคนรู้จัก ก็น่าจะดีกว่าให้เพื่อนรู้ว่ารู้จักกับเจ้าของ ล่ะน่า

“มนุษยสัมพันธ์ดีจิงนะ ไม่ทันไรก็รู้จักเค้าไปทั่วเนี่ย”
นัทหันขวับ ไปทางต้นเสียงก็เห็นธวัฒน์ยืนอยู่ข้างหลังเค้าแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะเนี่ย ... นัทถองเอกเบาๆ เป็นเชิงบอกว่าเลิกกอดคอได้แล้ว ...
ธวัฒน์เองก็มองเด็กหนุ่มรูปร่างกำยำที่ยืนกอดคอนัทอยู่เมื่อกี้นี้  และเด็กหน้าตี๋อีกคน และกลับมาจ้องหน้านัทอีกที ...
“ก็...นี่เพื่อนผมที่โรงเรียนเก่าครับ คนนี้เอก และนี่บอลครับ บอลเป็นลูกพี่ลูกน้องของเอก”
เอกกับบอล ยกมือไหว้ และเอกถอยไปยืนอยู่กับบอลด้านหลังนัทเมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มอึมครึม
“มาเจอกันแบบนี้ จะชวนกันไปเที่ยวไหนหรือไง”
“เปล่าหรอกครับ ก็บังเอิญเจอกัน... แล้วเอกกับบอล เค้าก็มาสมัครเรียนที่นี่เหมือนกัน”
“งั้นเหรอ ... คุยกันเสร็จหรือยังล่ะ จะได้กลับซะที”
ธวัฒน์เอาของไว้ในรถ และเข้าไปนั่งประจำที่คนขับแล้ว เหลือแต่นัทที่หันมาล่ำลาเพื่อนๆ ก่อน
“เอก บอล ไปก่อนนะ แล้ววันศุกร์เจอกันใหม่ แล้วจะเล่าให้ฟัง ข้ารู้ว่าเอ็งสงสัยใช่ม่ะล่ะเอก”
“เออ ... ว่าจะถามอยู่เชียว ... ข้าว่าเอ็งรีบไปดีกว่านะ ก่อนระเบิดจะลงอีกลูก ดุชิบ... ฝากขอลูกให้สักตัวดิ”
“ไอ้บ้าเอก ... พูดซะตรงเลยนะเอ็ง เสียดายว่ะยังไม่มีไม่งั้นข้าเอามาให้แน่”
เพื่อนสามคนหัวเราะพร้อมๆ กัน ก่อนหันไปมองธวัฒน์แว่บนึง ก่อนจะหลบวูบเพราะธวัฒน์จ้องอยู่ก่อนแล้ว
ธวัฒน์ที่รู้สึกเหมือนโดนพาดพิง ก็เลยบีบแตร 1 ที เพื่อเร่งให้นัทล่ำลาให้เสร็จๆ ซะที
“เห็นม่ะ ไม่น่าพูดถึงเลย คนอะไรหูทิพย์จริงๆ ถ้าไงไว้เจอกันนะครับบอล ไอ้เอกด้วยแล้วเจอกัน”
“บอลว่านัท รีบไปเถอะแล้วค่อยเจอกันใหม่ครับ”
พอนัทเข้าไปนั่งแล้ว ธวัฒน์ก็ออกรถทันที เหลือไว้แต่เอกกะบอล ที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ก่อนจะเดินไปด้วยกัน ตรงไปที่รถเก๋งอีกคันที่จอดอยู่ ซึ่งพ่อให้เอกมาขับ ... เมื่อทั้งสองเข้าไปนั่งในรถแล้ว เอกจึงพูดขึ้นก่อน
“บอลว่า หน้าของคนที่นัทนั่งรถไปด้วยเนี่ย มันคุ้นๆ ม่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”
“อ้าว เอกก็คิดเหมือนกันเหรอ ... บอลกำลังคิดอยู่เลย”
“ใช่ม่ะ แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกง่ะ ช่างมันเถอะไว้คงนึกออกเองแหละ ว่าแต่ไปเดินเที่ยวกันที่สยามก่อนดีกว่าแล้วค่อยกลับ”
“อืม ก็ได้ บอกแม่ไว้แล้วล่ะว่ากลับเย็นๆ”
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 25-04-2007 13:56:59
ต่อ  กันเลยดีกว่าคับ  วันนี้กะว่าจะลง  3 ตอน อิอิ

ชอบ พี่วัฒน์ จัง อิอิ  :yeb:

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

9...
เด็กหนุ่มสองคนนั่งกินไอศกรีมอยู่ในร้านกลางห้างใหญ่แถวๆ สยามเซ็นเตอร์ ก็พอดีที่เอก หันไปเห็นนายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านกับครอบครัว
“เฮ้ย...เฮ้ย...บอล...จำได้แล้วว่ะ ว่าเคยเห็นหน้าคนที่มากับไอ้นัทวันนี้ได้แล้วว่ะ....”
“เหรอ...แล้วไมถึงนึกออกซะงั้นล่ะ”
“ก็นั่นไงล่ะ เห็นป่ะ” เอกพยักหน้าไปทางโต๊ะที่มีทหารนั่งอยู่ กับลูกๆ
“แล้วไงอ่ะ เค้าเป็นญาติกะคนนั้นเหรอไง”
“ไอ้บ้าบอล... ไม่ใช่โว้ยยย...นี่แกยังนึกไม่ออกอีกเหรอว่ะ”
“ก็นึกไม่ออกง่ะ เอกจะบอกก็บอกมาเลยดีกว่าน่า... นะ นะ นะ ... อย่าอมไว้เลยน่า”

เอกหันไปเคาะหัวบอลเบาๆ หนึ่งที ก่อนจะยอมเฉลย...
“ปกติเรียนก็เก่ง แต่ทำไมวันนี้ความจำสั้นจังว่ะ”
“ก็ไม่รู้จริงๆ อ่ะ เล่นไรว่ะเจ็บนะโว้ย เคาะมาได้” บอลทำหน้าเบ้ เล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้มมีเสน่ห์ในแบบของเค้า
“ไม่ต้องมาสำออยเลย แค่เบาๆ ... ก็บอลจำไม่ได้หรือไง เมื่อช่วงต้นปีที่สโมสรทหารบกน่ะ ที่เราไปงานกับพวกคุณพ่อไง”
“แล้วไงต่อ...”

เฮ้อ... เอกส่ายหัวและถอนใจเบาๆ ก่อนจะเล่าต่อ ...
“แล้วจำใครได้มั้งไหมเนี่ยวันนั้นอ่ะ…”
“ก็คนตั้งเยอะ ตั้งแยะ ใครจะไปนั่งจำอยู่ล่ะ ส่วนใหญ่ก็มีแต่ทหารเหมือนพวกคุณพ่อทั้งนั้น...”
“แต่ไอ้ที่มันเด่นสะดุดตาน่ะ มันก็มีไม่กี่คนหรอกน่า ... อย่างเช่นนายทหารที่พาลูกสาวสวย หรือลูกชายหล่อๆ มาด้วยน่ะ”
เอกพยายามเน้นคำว่าสวยและหล่อให้บอลฟัง เผื่อจะนึกออกบ้าง

“คนสวยจำไม่ค่อยได้อ่ะเพราะไม่สนใจ แต่คนหล่อๆ ก็พอจะนึกออกอยู่น๊า...”
“รู้อยู่หรอกว่าชอบผู้ชาย ไม่ต้องพูดบ่อยๆ ก็ได้ แต่จำได้ยังล่ะ คนเนี่ยเด่นสะดุดตาเลยล่ะ เพราะมีแต่สาวๆ ไปรุมล้อม”
“อ๋อ ... จำได้ จำได้ แล้ว... แหม...บอลลืมไปได้ไงนะ หล่อซะขนาดนั้น...”
“ที่แท้ก็คุณธวัฒน์ ลูกของท่านนายพล รักชาติ สามีคุณหญิงศศิกานต์ นี่เอง ฮอตมากเลยนะในแวดวงไฮโซน่ะ เมื่อกี้ไม่ได้มองหน้าเต็มๆ ก็เลยจำไม่ได้ รู้แต่ว่าหล่อมาก... แต่นัทเองก็หล่อนะ ใช้ได้เลยแหละ”
 บอลพูดถึงนัทและเหล่มองท่าทางของเอกที่ได้ยินเค้าพูดถึงนัท ...
“เฮ้ย...เฮ้ย...เพื่อนข้านะโว้ย อย่าไปยุ่มย่ามกับมันล่ะ อย่าเผลอไปเผยธาตุแท้ให้มันรู้ด้วยล่ะ”
“หวงจังเลยนะ ยิ่งหวงยิ่งน่าสนใจ…”
“ไม่ได้หวงสักหน่อย ถ้าอยากหาผู้ชายก็ไปหาที่อื่น อย่าไปยุ่งกะนัทมันล่ะ ข้าไม่อยากให้มันเบี่ยงเบน”
“ทำไมเหรอ ไม่หวง ... งั้นก็แสดงว่าหึงบอลล่ะซิ”
“จะบ้าหรือไง อย่ามาทะลึ่งนะ ไม่ได้รังเกียจแต่อย่ามาคิดอะไรบ้าๆ นะ ... ไม่งั้นโดนแน่ … ว่าแต่ไอ้นัทไปอยู่กับเค้าได้ยังไงว่ะเนี่ย”
...
ที่บ้านหลังใหญ่ รถของธวัฒน์ เพิ่งเข้ามาจอดก็พบว่า มีรถอีกคันจอดอยู่ก่อนแล้ว นัทอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเป็นรถของใคร

“วัฒน์ขา....กลับมาแล้วเหรอค่ะ”
ทั้งนัทและธวัฒน์ ที่เพิ่งลงจากรถ หันไปมองตามเสียงที่ออกมาจากในห้องรับแขกในบ้าน ....
นัทเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมา ท่าทางดี และสวยมากซะด้วย ....
นี่ละมั้งแฟนของคุณวัฒน์ที่นมพริ้มเคยบอกเค้า .... นัทหันไปมองหน้าของธวัฒน์ที่ตอนนี้ยิ้มหน้าบานให้หญิงสาวที่เดินมาหา

“ภัทรมานานแล้วเหรอครับ ผมรีบมาที่สุดเลยนะครับเนี่ย กลัวว่าคุณจะรอนาน”
แหวะ ... ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบนี้ จะพูดหวานๆ เป็นด้วย .... นัทแอบขำและมองเอก อย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“เพิ่งมาถึงก่อนวัฒน์ได้ไม่นานเองค่ะ แต่ถึงจะนานภัทรก็รอได้ค่ะ ....”
ถึงจะพูดกับธวัฒน์แต่สายตาของนภัทรกำลังสำรวจนัทอยู่ นัทเองก็สังเกตเห็นจึงยังก้มหน้านิ่งเพราะไม่อยากจะเห็นสายตาที่ดูเหมือนจะสำรวจแกมดูถูกของอีก

“เนี่ยเหรอค่ะ หลานคนใหม่ของบ้านนี้ ดูไม่ค่อยจะมีมารยาทกับผู้ใหญ่เลยนะ เห็นผู้ใหญ่แล้วยังเฉยอยู่ได้”
“นี่คุณนภัทรเป็นเพื่อนของพี่ ถึงไม่ได้บอกเธอก็ควรจะให้เกียรติเธอด้วยนะ”
ธวัฒน์พูดเสียงเย็น นัทเงยหน้ามองธวัฒน์นิ่ง ก่อนที่นัทจะหันกลับมายกมือไหว้นภัทร และขอตัวขึ้นไปบนห้อง นัทรู้สึกน้อยใจอยู่ไม่น้อย ทั้งๆ ที่เค้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย กลับโดนว่าอีก แถมคนกลางก็ดูจะเข้าข้างกันซะเหลือเกิน

“นิสัยเหมือนกันอย่างนี่ไงเล่า ถึงไปด้วยกันได้ เชิญไปหวานกันตามสบายเถอะ ขืนอยู่นานกว่านี้ต้องอ้วกแน่ๆ…”
นัทได้แต่บ่นกับตัวเอง ตอนเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง …

นัทไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ... ตั้งแต่ตอนที่แววขึ้นมาเรียกไปทานอาหารกลาง แต่นัทไม่อยากไปขัดจังหวะใครบางคนเพราะ ถามแววจนรู้แล้วว่า คุณณภัทร มาทานกลางวันกับคุณวัฒน์ ... และนัทบอกแววไม่ต้องยกขึ้นมาถึงห้องเพราะไม่อยากให้ธวัฒน์คิดว่าเค้าทำตัวเป็นคุณหนู ต้องมีคนยกขึ้นมาให้ถึงห้อง ...
เหลือบมองนาฬิกาก็บ่ายสามเข้าไปแล้ว ... รู้สึกท้องมันจะโอดครวญขึ้นมาแล้ว ... แต่ก็ไม่แน่ใจว่าคุณนภัทรอะไรนั้นจะกลับไปหรือยัง ... แต่ความหิวไม่เคยปรานีใคร นัทย่องลงบันไดไปด้านล่าง เมื่อชะโงกหน้าเห็นแล้วว่าไม่มีใคร ทั้งในห้องรับแขกและห้องอาหารจึง วิ่งอย่างรวดเร็วเข้าไปในครัว ... เพื่อหวังว่านมพริ้มคงมีอะไรให้ทานบ้าง ...

“เอ...นมพริ้มไปไหนน๊า...”
นัทรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เมื่อเห็นว่านมพริ้มไม่อยู่ และตู้เย็นก็ไม่มีอะไรเลย มีแต่ของสด ไม่มีขนมอะไรที่พอจะทานได้เลย
“แล้วจะกินอะไรล่ะเนี่ย แพรวก็รดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านด้วยซิ...”
กำลังหาของในตู้เย็นเพลินๆ ก็พอดีที่มีคนเข้ามาในห้องครัว เมื่อได้ยินเสียงหยิบจาน จึงคิดว่าเป็นนมพริ้ม...
“นมพริ้มครับ มีอะไรให้ผมทานบ้างไหมครับ หิวจะแย่แล้ว...”
พอเงยหน้ามาจากตู้เย็น หันหลังมามอง นัทลมเกือบจับ หน้าร้อนวูบ รู้สึกทั้งอายทั้งเขิน ... เพราะไม่คิดว่าจะเจอคนที่ยืนอยู่ในห้องครัว

“คุณ...คุณ...คุณวัฒน์…”
“คนนะ ไม่ใช่ผี ตกใจอะไรกันนักหนา ... แล้วนี่เพิ่งหิวหรือไง ทีให้ลงมากินก็ไม่ลง น่าให้อดซะให้เข็ด...”
“ก็ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ คนรักเค้า.....จะ....”
“บอกแล้วไงว่า นภัทร เป็นเพื่อนของพี่ ยังไม่ใช่คนรัก ถ้าใช่แล้วจะบอกล่ะกัน… ทำแก่แดดแก่ลม คิดอะไรไปไกลฮะ”
“แล้วนี่จะกินอะไรล่ะ นมพริ้มไม่อยู่หรอกนะ เพราะไปจ่ายตลาด ถ้าหวังจะรอนมมาทำให้กินละก็ ระวังโรคกระเพาะจะถามหาเอา”

“ก็ ... ก็ผมทำเองไม่เป็นนี่นา งั้นเดี๋ยวให้แววทำให้ก็ได้ครับ”
“อยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวพี่ทำให้กิน...”
“หา...คุณวัฒน์ว่าอะไรนะครับ…” นัทถามอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ....
“ก็จะทำอาหารให้กินไง ได้ยินไม่ผิดหรอก หรือกลัวพี่จะใส่ยาพิษในอาหารหรือไง....”
“เปล่า...เปล่าครับ”
มาไม้ไหนกันว่ะเนี้ย เมื่อกลางวันยังจะกินเลือดกินเนื้อแทนแฟนตัวเองอยู่แท้ๆ ... ไหงจะมาทำอะไรให้กิน แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเป้นลาภปากดีม่ะเนี้ย แล้วจะกินได้เปล่าว่ะ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 25-04-2007 13:59:48
วันนี้  เอาไปแค่นี้ก่อนนะค๊าบ    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามคับ ^^  :yeb: :yeb: :yeb:

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

10...
“คุณวัฒน์ แน่ใจเหรอครับ ว่า...ทำเป็นอ่ะ”
“ดูถูกกันจังนะ แล้วคอยดูแล้วกัน....”
ธวัฒน์นำเนื้อ และผักต่างๆ มาวางบนโต๊ะเต็มไปหมด นัทได้แต่นั่งมองตาปริบๆ เพราะไม่รู้ว่าจะช่วยอะไร จนธวัฒน์หลิ่วตามอง และกระแอมเบาๆ ...
“นี่...ใจคอ จะไม่ช่วยอะไรเลยเหรอ จะรอรับประทานอย่างเดียวใช่ม่ะ”
“ก็ผมบอกแล้วนี่ครับ ว่าผมทำไม่เป็น”
“ก็ไม่ได้จะให้ทำ แค่ช่วยเอาผักพวกเนี้ย ไปล้างและหั่นน่ะ คงไม่ยากไปหรอกนะ”

โห...ไรฟ่ะ ยังชอบสั่งเหมือนเดิม เป็นชุดๆ เชียว ... นัทได้แต่บ่นแค่ในใจ ก็ในเมื่อท้องของนัทมันอยู่ในกำมือของเค้านี่นา จนนัทล้างผักเสร็จ และกำลังหั่นอย่างเก้ๆ กังๆ ... แต่ธวัฒน์ที่หั่นเนื้ออยู่ก็ได้แต่แอบขำ ...
“นี่หันผักให้คนกินนะ ไม่ใช่เอาไปเลี้ยงวัว แต่นัทเป็นคนกินพี่ก้ไม่ว่าอะไรหรอก...”
ธวัฒน์พูดเสร็จก็หันไปเตรียมกระทะวางบนเตา ... โดยไม่สนใจท่าทางที่นัทกำลังบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว มือก็หั่นผักไปแบบไม่สนใจจะให้ออกมาดูดีเท่าไหร่ ...
“โอ้ย ...”
เสียงของนัทที่ร้องเสียงดัง ทำให้ธวัฒน์หันขวับมาดูอย่างตกใจ ...
“เป็น...เป็นอะไรนัท ร้องซะเสียงดังเชียว”
“ก็...ก็...มีดบาดอ่ะครับ ....”
นัทพูดพร้อมกับโชว์ นิ้วที่มีเลือดไหลเป็นทาง ลงมาตามแขนของนัท ที่ตอนนี้หน้าซีดเผือดจนเห็นได้ชัด ธวัฒน์ก็คงพอจะเดาได้ว่านัทคงจะกลัวเลือดไม่น้อยเลย

“อย่ายืนเฉยซิ เอ้า...เอานิ้วมานี่”
นัทยืนอ้าปากค้าง เพราะธวัฒน์ดึงนิ้วที่มีดบาดของเค้า เข้าปากไปซะแล้ว ... เฮ้ย...ทำไรอ่ะ....
“คุณ ... คุณวัฒน์ทำอะไรครับ .... มันสกปรกนะครับ”
ตอนนี้นัทยืนก้มหน้าที่แดงจัด ใจก็สั่นอย่างประหลาด เพราะอะไรไม่รู้ แต่ที่นัทรู้ก็คือ ไม่เคยมีใครมาทำแบบนี้กับเค้า ... ธวัฒน์ที่ดูดเลือดจากนิ้วของนัทได้สักพัก เงยหน้ามามองคนตรงหน้า มือก็ยังกำมือของนัทอยู่ ....

“ปากพี่ไม่สกปรกหรอกน่า ... ไม่ต้องกลัวติดเชื้อหรอก... อีกอย่างเวลาเลือดออกเนี่ย ถ้าใช้ปากดูดเลือดมันจะช่วยให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้นนะ ว่าแต่เมื่อกี้...ยังกลัวจนหน้าซีดอยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้หน้าแดงขนาดนั้นล่ะ...”
“คือ ... ผมหมายถึงนิ้วผมหรอกครับที่มันสกปรก ดูดเข้าไปได้…”
“หึ หึ ... ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่หั่นผักมันก็ไม่ได้สกปรกอะไร เห็นไหมล่ะ เลือดหยุดไหลแล้ว”
“ครับ ... ครับ ขอบคุณครับ”
“อะนะ ... พูดดีๆ ก็เป็นนี่นา นึกว่าจะพูดไม่เป็นซะอีก เอ้า...มานี่ก่อน...”

ธวัฒน์พูดพร้อมกับเดินจูงมือของนัทมาที่ตู้ยา และหยิบพลาสเตอร์มาปิดแผลให้กับนัท เด็กหนุ่มมองหน้าชายหนุ่มสลับกับมือที่กำลังปิดพลาสเตอร์ให้กับเค้าอย่างตั้งใจ ...
เวลาใจดีก็อ่อนโยนจนใจหาย แต่เวลาใจร้ายก็ไม่รักษาน้ำใจเล๊ย ... ยังกับเป็นคนละคนแน่ะ ... เคยไปทำแบบนี้กับใครมาบ้างนะ .... เฮ้ย...เฮ้ย ...บ้าไปแล้วเรา ทำไมต้องไปสนใจด้วยนะ เค้าจะทำอะไรกับใครแล้วมันเกี่ยวกับเราไหมเนี่ย ...
“เอ้า...เสร็จแล้ว พี่ว่านั่งอยู่เฉยๆ ดีกว่านะ ไม่ต้องทำแล้วล่ะ ไม่งั้นอาจจะมีหัวแตก หรืออาจตาบอดตามมาอีก พี่จะซวย”
“ผมทำให้คุณวัฒน์ ลำบากมากเลยเหรอครับ”
นัทก้มหน้าพูดออกไป โดยไม่รู้เหมือนกันว่าจะถามไปทำไม นึกแล้วก็อยากจะตบปากตัวเองที่ปากไวเหลือเกิน...

สายตาธวัฒน์มองนัทนิ่งอยู่สักครู่เหมือนกำลังชั่งใจบางอย่าง ... ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวนัทเบาๆ ทีนึง
“ไม่หรอก .... แค่กลัวคุณแม่จะว่าเอาน่ะ ถ้าเกิดหลานรักของท่านเป็นอะไรไป... เอ้าไปนั่งดูอยู่เฉยๆ เลย อีกแป๊บเดียวก็ได้ทานแล้วล่ะ”

เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียวตามเวลาของนัท ที่มองการทำอาหารของธวัฒน์อยู่จนเพลิน โดยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณหนูผู้หยิ่งทระนง และเอาแต่ใจ จะเป็นมืออาชีพด้านการทำอาหารได้ อาหารสองสามจานทำเสร็จมาวางอยู่ตรงหน้าของนัท กลิ่นหอมจนท้องของนัทร้องออกมาเหมือนอยากจะชิมเต็มที ...
“เอ้า...เช็ดน้ำลายหน่อย...อยากทานก็ทานซิ ไม่ต้องกลัวท้องเสียหรอกน่า....”

นัทหยิบช้อนตักอาหารจานแรกเข้าปาก อย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ความหิวมันมีชัยเหนือ ความกลัว ... กำลังจะเอื้อมมือไปตัก ธวัฒน์ก็พูดขึ้นก่อน ...
“อุตส่าห์มาทำให้แล้วไม่กินเนี่ย ... สงสัย ... ต้องจับป้อนซะละมั้ง ฮะ ...”
“ไม่...ไม่ต้องครับ ผมทานครับ ทานแล้วครับ...ไม่ต้องป้อน ผม...ผมทานได้”
“งั้นก็ทานซิ มองอะไรอยู่ หน้าพี่ไม่ใช่ของกินนะ”

นัทตักอาหารเข้าปาก แล้วต้องรู้สึกทึ่งเมื่อรสชาติไม่ใช่พอทานได้ แต่ต้องบอกว่าอร่อยเลยล่ะ ...โห ไม่อยากจะเชื่อว่าคนแบบนี้จะทำอร่อยแฮะ ... ขัดกับบุคลิกสุดขีด ... นัทกำลังชื่นชมกับธวัฒน์อยู่ในใจ ก็พอดีที่ธวัฒน์ซึ่งนั่งฝั่งตรงข้างยื่นหน้ามาถาม...
“เป็นไงบ้าง...อร่อยหรือเปล่า...”
“ก็...ก็...ใช้ได้ครับ...”
จะชมตรงๆ ก็เขินๆ ยังไงพิกล .... ก็เลยต้องบอกแบบนี้ ...
“แค่ใช้ได้เองหรอ....”
ธวัฒน์ทำคิ้วขมวดเล็กน้อย...อย่างแปลกใจ นี่เค้าฝีมือตกเหรอเนี่ย... ก่อนจะคว้าช้อนจากมือของนัทที่ถืออยู่ มาตักอาหารในจานเข้าปาก ... ก็อร่อยนี่นา ... เด็กเลี้ยงแกะ ... ปากไม่ตรงกับใจ ... ธวัฒน์ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกไป...

“ถ้าไม่อร่อย...ก็อย่ากินเลย เสียชื่อหมด....”
ไม่ได้พูดอย่างเดียว ธวัฒน์ยกจานอาหารเดินไปที่ถังขยะ กำลังทำท่าจะเททิ้ง ....
“คุณวัฒน์ อย่า...อย่าทิ้งครับ ... ไม่เสียดายเหรอครับอุตส่าห์ทำน่ะ”
“ก็มันไม่อร่อย อย่ากินเลยดีกว่านะ เดี๋ยวรอนมพริ้มมาทำให้ดีกว่านะ...”

“อร่อยก็ได้ครับ...”
นัทก้มหน้าพูดเสียงอ่อย ... เมื่อเจอไม้ตายของธวัฒน์เข้า คนอะไรว่ะทีแรกยังดีอยู่เลย กลับมาเอาแต่ใจอีกล่ะ...
“พูดว่าอะไรนะ พี่ไม่ค่อยได้ยินเลย…”
“ผมบอกว่าอร่อยครับ เมื่อกี้ผมพูดเล่นหน่อยเดียวเอง ... อย่าเล่นแบบนี้ซิครับ เสียดายออก ...”
ธวัฒน์ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเดินกลับมาวางจานลงตรงหน้าเด็กหนุ่มเหมือนเดิม ...
“ยอมรับแล้วซินะว่าโกหก... พูดความจริงตั้งแต่แรกก็ได้กินอิ่มไปล่ะ”

นัทมองคนตรงหน้านิดนึงอย่างอายๆ อย่างที่เด็กโดนจับได้ว่าโกหก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารตรงหน้าโดยไม่มองหน้าธวัฒน์อีก .... จนนมพริ้มเดินเข้ามานั่นแหละ นัทถึงโล่งอก ... เพราะใจมันตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะมีคนกำลังจ้องมองตอนที่เค้ากำลังทานอาหารอยู่

“หืม ... คุณวัฒน์มาทำอะไรในครัวค่ะเนี่ย...”
“อ๋อ...ทำอะไรให้คนอดข้าวประท้วง ทานนิดหน่อยครับ”
นมพริ้มมองหน้านัท ยิ้มๆ นั่นยิ่งทำให้นัทอายเพิ่มขึ้นอีก ...
“นี่คุณวัฒน์ของนม ลงมือเองเลยเหรอค่ะ ... คุณนัทโชคดีจัง ได้ทานฝีมือของคุณวัฒน์เนี่ย”
จะเรียกว่าโชคดี ดีไหมเนี่ย นัทเอ๊ย ... คนทำเอาแต่ใจสุดๆ ...
“งั้น ... ผมฝากนมจัดการต่อด้วยนะครับ ผมขอไปเตรียมงานที่ใช้ประชุมพรุ่งนี้หน่อยนะครับ ให้แววยกกาแฟให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ อีกสักครู่นะค่ะ...”

ธวัฒน์เดินออกไปแล้ว .... นัทรีบถามนมพริ้ม ทันทีเพราะอยากรู้เหลือเกิน ...
“นมครับ ... คุณวัฒน์ของนมเนี่ย ไปเรียนทำอาหารมาจากไหนเหรอครับ”
“อ๋อ ... ไม่ได้เรียนที่ไหนหรอกค่ะ ก็นมเนี่ยแหละเป็นคนสอน เป็นไงค่ะ อร่อยสู้นมทำได้เลยใช่ไหมล่ะ…”
“ก็ประมาณนั้นแหละครับ ไม่น่าเชื่อ...”
“สมัยเด็กๆ น่ะคุณวัฒน์ก็อยู่คนเดียวบ่อยๆ เพราะคุณท่านกับคุณหญิงไม่ค่อยอยู่บ้าน คุณวัฒน์ก็จะเกาะนมแจเลยล่ะค่ะ วนเวียนอยู่ในครัวนี่แหละ ช่วยนมทำโน้นทำนี่ จนได้วิชาติดตัวไปโดยปริยาย แถมไปเรียนเมืองนอกก็ยิ่งทำให้ต้องพึ่งตัวเองซะส่วนใหญ่เพราะเธอไม่ค่อยชอบอาหารฝรั่งนัก กลับมายิ่งเก่งเลยล่ะค่ะ…”

“เหรอครับ เพราะส่วนใหญ่อยู่แต่กับนมนี่เอง...”
“ว่าแต่ คุณนัททานเสร็จแล้ว นมวานนิดนึงนะค่ะ”
“ครับ...ได้เลยครับ ให้นัททำอะไรล่ะครับ นัททำได้หมดเลย”
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ จะฝากคุณนัทเอากาแฟขึ้นไปให้คุณวัฒน์ที่ห้องหน่อยน่ะ เพราะหนูแววมันตัวมอมแมมอยู่หน้าบ้านแนะ นมก็จะเตรียมอาหารเย็นด้วย.... นะค่ะ นมวานนิดนึง”

o_O
“หา....ให้...ให้ผมเอากาแฟไปให้คุณวัฒน์เหรอครับ…..”

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 25-04-2007 19:40:59
 :fox2: :fox2: ตกลงนัทเริ่มหวั่นไหวชะมะคับ  :fox2: :fox2:  อย่างกับหนังพิศาลเลยนะครับ  เหลือแต่ตบ-จูบอีกหน่อยก็ใช่แล้วหล่ะครับ  :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-04-2007 19:47:13
หุหุ เอากาแฟไปเสริฟถึงห้อง ต้องมีอะไรแน่ ๆ  :laugh5:  :laugh5:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 25-04-2007 21:29:58
ตั้งหน้าตั้งตาคอย  ตอนนัทไปที่ห้องวัฒน์นะ  ต้องมีอะไรแหง่ๆ จิ้นรอก่อน  :laugh5:

รออ่านต่อจ้า  น้องหมี  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 25-04-2007 23:25:27
น่าสนใจ น่าสนใจ  :รักจัง11: :5555:
สงสัยเราจะติดนิยายอีกเรื่องแล้วคร๊าบบบ....เฮ้อ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 26-04-2007 02:02:13
 :haun1: เสิร์ฟถึงห้องเลยเหรอ.. อิอิ
ติดตามอยู่น้า.. ชอบๆ :จ้อบจัง1:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 26-04-2007 22:03:45
มาต่อให้แล้วคับ  ขอโทษทีให้รอนาน ค๊าบบ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

11...
นัทยืนลังเลอยู่หน้าห้องของธวัฒน์ ในมือถือถ้วยกาแฟที่นมพริ้มฝากให้เอามาให้คนในห้อง ...
“ไม่น่าเลยไอ้นัทเอ๊ย... ดันเผลอไปรับปากซะได้ เข้าถ้ำเสือจะโดนเสือกัดตายไหมเนี่ย…”
กาแฟในมือเริ่มจะเย็นนั่นแหละ ถึงตัดสินใจที่จะเคาะประตูเข้าไป ...
ก๊อก ก๊อก ...
“เข้ามาได้เลยแวว...ไม่ได้ล็อก...”
นัทเปิดประตู้เข้าไป ก็กำลังเห็นธวัฒน์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน มีจอคอมพิวเตอร์อยู่ตรงหน้า และกั้นสายตาที่ธวัฒน์จะมองเห็นเค้า มีโต๊ะนั่งเล่นวางอยู่ตรงกลางห้องสำหรับนั่งพักผ่อนหรือดูทีวี ...
“ทำไมช้าจังล่ะ ... วางไว้ตรงนั้นแหละแวว... ขอบใจมากนะ” ธวัฒน์บอกทั้งๆ ที่สายตายังจ้องอยู่ที่จอ ...

นัทวางถ้วยกาแฟ ลงอย่างช้าๆ พยายามไม่ให้เกิดเสียงดัง และก้าวถอยหลังทีละก้าว ทีละก้าว ... ไปที่ประตู สายตามองคนที่ง้วนอยู่กับการทำงาน เหมือนกลัวว่าเค้าจะโผล่หน้าออกมามอง .... เมื่อก้าวถึงประตู เด็กหนุ่มกลับหลังหัน และบิดเปิดประตูให้เบาที่สุด และค่อยๆ เปิดออก โดยไม่ได้หันกลับไปมองอีกเลย และเมื่อกำลังจะก้าวออกไปนั่นเอง ....
!!! ปัง !!!
ประตูถูกมือของใครคนนึง ดันปิดไว้ตามเดิม แขนยาวยังคงดันประตูอยู่แบบนั้น เหมือนไม่อยากให้คนตรงหน้าเปิดหนีไปก่อน นัทได้แต่ยืนนิ่งเพราะตกใจสุดขีด เพราะตอนนี้ธวัฒน์ประชิดอยู่ด้านหลังของเค้าแล้ว และเด็กหนุ่มอยู่ในหว่างแขนสองข้างที่ธวัฒน์ดันประตูไว้ ...
ผีหรือคนว่ะเนี้ย .... แป๊บเดียวเอง ไมถึงไวงี้อ่ะ .... นัทไม่กล้าหันกลับไปมอง...เพราะลมหายใจของอีกคนมันรดต้นคอเค้าอยู่ ... จนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ... ถ้าหันกลับไปหน้าต้องชนกันแน่ๆ .... ตอนนี้ในใจมันสั่นเป็นกลองเพล ไปแล้ว ....

“ใครอนุญาตให้เข้ามาในห้องของพี่...หะ” ธวัฒน์พูดเบาๆ ใกล้ๆ หูของนัท ... เล่นเอาเด็กหนุ่มขนลุกซู่ ....
“ก็คุณนมให้ผมเอากาแฟมาให้ แล้ว...แล้วเมื่อกี้ผมก็เคาะประตูแล้วนี่ครับ…”
“เมื่อกี้พี่บอกว่า ให้แววเข้ามาได้ ... แต่ไม่ได้บอกว่าให้นัทเข้ามาได้นี่...ถูกไหม...”
เอาแล้วไหมล่ะ ...เจอดีเข้าจนได้ ไอ้นัทเอ๊ย...

“ก็แวว...ไม่ว่างอ่ะ... แล้วผมก็แค่เอามาวางไว้เฉยๆ ไม่ได้กวนอะไรคุณวัฒน์นี่ครับ…”
“แต่พี่ไม่ชอบ... ถ้าพี่ไม่ไว้ใจ ... ใครก็ห้ามเข้ามาทั้งนั้น...เข้าใจไหม...”
“ครับ ครับ ... ผมมันไม่น่าไว้ใจ ... คราวหลังผมจะไม่เข้ามาอีก พอใจหรือยังครับ”
นัท พูดด้วยเสียงน้อยใจ... จนธวัฒน์ที่คิดจะแกล้งน้องเล่น หน้าเริ่มเสีย ... ไม่คิดว่านัทจะจริงจังกับคำพูดของเค้า ...

ไอ้วัฒน์เอ๊ย...ทำเด็กขี้แย น้อยใจอีกแล้วไหมล่ะ... จะขอโทษก็ใช่ที่ เพราะฟอร์มมันเยอะเกินไป ... เลยต้องเล่นต่อ ...
“แค่นี้ยังไม่พอหรอก...” ธวัฒน์พูดเสียงแข็งเล็กน้อย ...
“แล้วจะเอายังไงล่ะครับ แค่นี้มันยังไม่พอหรือครับ”
นัทเริ่มพูดเสียงดังขึ้น ... จนธวัฒน์สัมผัสอารมณ์ของนัทได้ ว่ากำลังครุกรุ่น ....
จากสองแขนที่ยันประตูอยู่ ... แขนสองข้างของธวัฒน์เปลี่ยนมารัดรอบคอของนัทรั้งมาแนบแผ่นอกกว้าง ... เอาล่ะซิ ใจนัทเริ่มสั่นอีกแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะความโกรธ น้อยใจเหมือนเมื่อครู่... อารมณ์นั้นหายไปทันที เมื่อศีรษะสัมผัสแผ่นอกและปลายคางของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง…

“คุณ...คุณวัฒน์...”
นัทพูดด้วยเสียงละล่ำละลัก...
“ไม่อาววว ...”
ธวัฒน์ลากเสียงยาว .... (น่ารักเกินไปล่ะ) แต่ดีที่นัทไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าแบบเด็กๆ ของธวัฒน์ ไม่งั้นคงได้หัวเราะท้องแข็งแน่ๆ ...
“ถ้าอยากให้ยกโทษเรื่องเข้ามาโดยพลการ ต้องเรียก พี่...พี่วัฒน์ไง เรียกพี่เหมือนที่เรียก ไอ้แทนน่ะ…”
O_o
“หา...คุณวัฒน์ว่าไงนะครับ”

แขนที่รัดรอบคอของนัทเริ่มนัทแน่นขึ้น ....
“โอ้ย...คุณวัฒน์....ผมเจ็บนะครับ...ปล่อย...ปล่อยซิครับ”
นัทพยายามดิ้นรนให้หลุดจากวงแขนของธวัฒน์ แต่เหมือนเรี่ยวแรงของเค้าจะสู้ธวัฒน์ไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เค้าก็เป็นนักกีฬาและร่างกายก็แข็งแรงไม่แพ้ใครในรุ่นเดียวกัน...
“ไม่ปล่อย....จนกว่าจะเรียก ... ไม่งั้นจะรัดให้ตายเลย...”
“เรียกครับ ... เรียกแล้วครับ ปล่อยก่อนซิครับ...”
คนอะไรว่ะ เอาแต่ใจสุดๆ โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วเล่นยังกะเด็กๆ
“เรียกก่อนไม่งั้น ก็ไม่ปล่อย ... กลัวโดนหลอก เอ้า...เร็วๆ ซิ พี่ต้องทำงานอีกเยอะเลยนะ”
ธวัฒน์คลายแขนที่รัดอยู่ออกเล็กน้อย เพื่อรอฟังคนตรงหน้า ...

“พี่วัฒน์...”
เสียงเบายิ่งกว่ากระซิบ ...
“ไม่...ได้...ยิน...”
“พี่วัฒน์...”
เริ่มได้ยิน ...แต่ยังไม่สะใจบางคน ...
“ !!!พี่วัฒน์...!!! ดังพอไหมครับ ปล่อยได้แล้ว...ปล่อยซิครับ”
ธวัฒน์ปล่อยแขนออกแล้ว แต่นัทยังไม่กล้าหันไปสู้หน้า ... ก็คนมันอายนี่นา ... แค่สองวัน ต้องเปลี่ยนจาก คุณธวัฒน์ เป็นคุณวัฒน์ แล้วก็เป็น... พี่วัฒน์ เนี่ยนะ ... เอาแต่ใจจริงๆ อยากให้เรียกอะไรก็บังคับขู่เข็ญ (ดีที่ยังไม่ข่มขืน อิอิ...)

“แล้วต่อไป...ก็ยกกาแฟมาให้พี่ด้วยนะ...”
เสียงธวัฒน์แว่วมาจากที่อีกฝั่งของห้อง จนนัทต้องหันกลับมาด้วยความสงสัย... อ้าว...กลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ... ปล่อยให้เกร็งอยู่ได้ ...
“ฮะ...คุณวัฒน์ว่า...”
อะแฮ่ม ... เสียงธวัฒน์กระแอมขัดขึ้นก่อน ... ทำให้นัทนึกขึ้นได้ ...
“เอ่อ... ผมหมายถึง... พี่วัฒน์จะให้ผมยกกาแฟมาให้เนี่ยนะ”

“ก็ใช่ ... เข้าใจถูกแล้วนี่... มีปัญหาเหรอ ...”
“เปล่า เปล่าครับ ไม่มี...”
“ก็ดี ... อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ... คงเคยได้ยินมาบ้างนะ ไปได้แล้วล่ะ พี่จะทำงานต่อ”
โธ่เอ๊ย...ให้ปั้นวัวปั้นควาย ยังจะง่ายกว่ามาเอาใจคนอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอยแบบนี้อีก ... นัทเปิดประตูออกไป แล้วโดยไม่เห็นสายตาของคนที่มองตามจนเด็กหนุ่มปิดประตู รอยยิ้มด้วยความพอใจปรากฏให้เห็นขณะทำงานไปอย่างสบายอารมณ์…
...
นัทเดินลงมาชั้นล่าง และกำลังอ่านหนังสือที่แวะหยิบมาจากห้องอยู่ ... ก็พอดีที่แวว วิ่งเอาโทรศัพท์มาเข้ามาหา ...
“โทรศัพท์ของคุณนัทค่ะ...”
“หา...ของผมเหรอ...แน่ใจเหรอครับ...”
“ค่ะ ... แน่ใจซิค่ะ ก็เค้าบอกว่าคุณนัท และบ้านเราก็มีแค่คุณนัท คนเดียว...”
นัทรับโทรศัพท์มาอย่าง...งง งง .... ใครจะโทรหาเค้ากันนะ โดยเฉพาะเค้ายังไม่เคยให้เบอร์บ้านนี้กับใครเลย เพราะเค้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เบอร์อะไร

“สวัสดีครับ ... ต้องการพูดกับใครครับ” นัทพูดกับปลายสายด้วยไม่แน่ใจว่าจะเป็นเค้าจริงๆ ...
“ก็พูดกับเอ็ง นะแหละไอ้นัท ... จำเพื่อนไม่ได้เหรอไงว่ะ”
“เฮ้ย ... เอกหรอ”
“เออเดะ...”
“แล้วรู้เบอร์ที่นี่ได้ไงอ่ะ ข้าเองยังไม่รู้เลยนะ...”
“ยังบื้อไม่เปลี่ยนเลยนะ ไม่ค่อยจะทันคนแบบนี้น่าห่วงจริงๆ...ก็ถ้ารู้ว่าเป็นบ้านใคร...มันก็ไม่อยากหร๊อก ... ที่จะหาเบอร์....”
“ไอ้บ้า...ก็นั่นแหละ แล้วเอ็งรู้ได้ไงล่ะว่าข้าอยู่บ้านใคร ... ข้ายังไม่ได้บอกเลยนี่”
“เออน่า ...เอาไว้จะเล่าให้ฟัง ....ว่าแต่พรุ่งนี้ว่างป่ะ จะนัดออกมาเที่ยวกันหน่อย”

นัททำหน้าสงสัยไม่หาย เพราะอดแปลกใจไม่ได้ที่เพื่อนรู้ว่าเค้าอยู่กับใคร ...
“เพิ่งเจอกันวันนี้เองนะโว้ย ... ว่าแต่จะไปที่ไหนอ่ะ”
“จะไปแถวๆ ..... มาบุญครองน่ะ มีเรื่องจะคุยเยอะแยะเลย ... ไปเถอะน่า ... บอลก็ไปด้วยนะ”
“อืม...สงสัยต้องขอคุณป้าก่อนว่ะ... ไม่อยากไปไหนตามใจชอบน่ะซิ...”
“ไม่หรอกม้าง ... ก็ลองบอกไปซิว่าไปกับลูกของพลตรี รักเกียรติ ท่านคงไม่ว่าหรอก”
“เฮ้ย...เอก นี่เอ็งรู้อะไรบ้างเนี่ย ...ข้าชักสงสัยแล้วนะ”
“เอาเป็นว่า ลองดูนะ แล้วพรุ่งนี้จะโทรไปถามอีกที แล้วจะไปรับ แค่นี้แหละ...”
“เฮ้ยๆ ... เดี๋ยวซิว่ะ...”

เอกวางสายไปแล้ว ... ปล่อยให้นัทนั่งเครียดอยู่ ... เพราะกลัวว่าคุณป้าจะว่าเอาได้ ก็ในเมื่อเค้ามาอาศัยในบ้านของเค้าแบบนี้ จะทำอะไรตามใจชอบ นัทรู้สึกเกรงใจมากๆ .... แต่ยังไงก็คงต้องลองขอดูก่อนล่ะนะ ....

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 26-04-2007 22:05:36
 :yeb:     :yeb:       :yeb:

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

12...

ธวัฒน์กำลังทำหน้าบูด เพราะนัทมาขอไปหาเพื่อนๆ ... ตอนช่วงเช้าก่อนที่เค้าจะไปทำงาน ...
“มาอยู่ไม่ทันไรก็จะออกเที่ยวแล้วเหรอ…”
“ก็ไม่ได้ไปไหนกันหรอกครับ แค่ไปนั่งๆ คุยกันเท่านั้นเอง แล้วผมจะรีบกลับนะครับ…”
นัทเองก็ทำหน้าไม่ถูก เพราะจริงๆ ก็เกรงใจอยู่ไม่น้อย .... คุณป้าก็ออกไปก่อนที่เค้าจะลงมา จึงเหลือเพียงธวัฒน์คนเดียวที่นัทจะขอออกไปข้างนอก...
“ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบไม่ใช่หรือไง ดังนั้นห้ามไปไหนทั้งนั้น ... ถ้าอยากเจอกันนักละก็ให้มาหาที่นี่ ไม่ให้ไปเที่ยวเล่นข้างนอก จะไปไหนบ้างก็ไม่รู้เพราะไม่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ .... ถ้าเพื่อนนัทมาไม่ได้ก็ไม่ต้องไป เข้าใจแล้วนะ ...”
ธวัฒน์หันไปพูดกับนมพริ้มสักครู่ ก่อนหิ้วกระเป๋าออกไปที่รถเพื่อไปทำงานทันที ... โดยไม่หันมามองทางนัทอีก .... นัทเองก็พอจะรู้ว่า...ธวัฒน์คงกำลังโมโหอยู่ ....
“เฮ้อ ... เรื่องแค่นี้เอง ... บ้าจริงๆ จะให้อ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนหรือไงกันนะ...”

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในช่วงสายของวันนั้น ... เป็นเสียงที่นัทเฝ้ารอคอยอยู่ ... เมื่อปลายสายบอกว่าจะพูดกับนัทแววจึงเดินยิ้มถือโทรศัทพ์เข้ามาให้เพราะเห็นนัทเดินไปเดินมาแถวๆ โทรศัพท์อยู่นานแล้ว ... เมื่อนัทรับมาแล้วแววจึงเดินออกไปทำงานต่อ ...
“โหล...นัทเหรอ ....”
“อืม...ใช่”
“ว่าไงว่ะ ตกลงออกมาเจอได้เปล่า ... ข้าจะได้ไปรับ”
เสียงเอกที่ได้ยินกำลังต้องการคำตอบ ... เด็กหนุ่มถอนใจเฮือกนึง ก่อนจะตอบเพื่อน ...
“สงสัยจะไม่ได้ว่ะ ... เมื่อเช้าขอคุณวัฒน์แล้วอ่ะ เค้าบอกไม่ให้ออกไปเที่ยวข้างนอกให้อ่านหนังสืออยู่กับบ้าน แล้วถ้าอยากเจอให้มาที่นี่นะซิ”
“อ้าว...เหรอว่ะ ดีดี ... งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ”
ตรู๊ด ....... ตรู๊ด .......
O_o
“เฮ้ย...เอก...ไมวางสายไปเงี้ยล่ะ... ตกลงจะมาที่นี่จริงๆ เหรอว่ะเนี่ย....”
นัทกำลัง...งง...เมื่อเอกวางสายไปเฉยๆ ... และที่เอกบอกว่า เดี๋ยวเจอกันอีก... แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง คุณหนูเจ้าอารมณ์เค้าไม่อยู่ ... คงไม่เป็นไรหรอก...

อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ... แววก็เข้ามาบอกกับนัทที่อ่านหนังสืออยู่ในสวนว่า มีแขกมาพบ ... เมื่อหันไปก็เจอกับเอกและ...บอล กำลังเดินตรงมาหาเค้าแล้ว ...
“ขอบคุณครับแวว ... มีงานก็ไปทำเถอะครับ ...”
แววเดินออกไป ก็พอดีกับที่เอกและบอลเดินมาถึง ... เอกยิ้มกว้างเอ่ยทักทายนัทที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ...
“ว่าไงคุณหนู สบายดีไหมครับ ...”
“เดี๋ยวก็โดนถีบหรอกไอ้เอก ... ทีแรกก็สบายหรอก แต่พอเจอหน้าเอ็งก็เริ่มปวดหัวแล้วเนี่ย...”
บอลที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะเอกเสียงดังที่โดนนัทว่าเอา เอกถองสีข้างบอลทีนึง ก่อนที่บอลจะเอ่ยทักทายบ้าง
“ดีครับ...นัท สบายดีนะ ... แต่จริงๆ น่าจะสบายนะเพราะอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้”

นัทยิ้มทักทายบอล แล้วทำท่าทางบอกให้เพื่อนทั้งสองคนนั่งลง ... ก่อนจะตอบคำถาม ...
“มันก็ .... ไม่ได้สบายอย่างที่คิดหรอกนะ .... ว่าแต่เอกกะบอลรู้ได้ไงว่านัทอยู่ที่นี่อ่ะ”
เอกหันหน้าไปหัวเราะกับบอล จนทำให้นัทสงสัย
“ขำไรว่ะ...”
“ก็แค่เดาไว้น่ะว่าเอ็งต้องเริ่มถามอย่างนี้แน่ๆ ... เอ็งน๊า...เป็นพวกไม่ยอมให้มีอะไรค้างคานะซิ สงสัยอะไรก็จะถามให้รู้เรื่องกันไปเลย...รู้เปล่าล่ะ”
“เหรอ...เป็นงั้นจริงๆ เหรอว่ะเนี่ย...”
“ก็ใช่นะซิ ... ว่าแต่เอ็งมาอยู่ที่นี่ได้ไงว่ะนัท แล้วแม่เอ็งล่ะ อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ...”

“เฮ้ย...ข้าถามเอ็งก่อนนะเอก ไหงย้อนมาถามก่อนแบบนี้ล่ะ ...”
“เออน่า...บอกมาก่อนแล้วจะบอก ...”

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้นัทก็ชักจะคิดถึงแม่ขึ้นมาอีก ... หน้าเศร้าลงไปนิดหน่อย แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงจึงพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พอดีกับที่แวว ยกน้ำและขนมเข้ามาเสิร์ฟพอดี นัทจึงยังไม่ได้เล่า ...
“ขอบคุณครับแวว ไม่ต้องลำบากก็ได้นะ ผมว่าจะเข้าไปเอาเองล่ะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนัท ... และคุณนมฝากเรียนว่าเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้แล้วนะค่ะ พอถึงเวลาก็เชิญที่โต๊ะได้เลยค่ะ”
“ทำไมต้องตั้งโต๊ะล่ะครับ ผมเข้าไปในครัวก็ได้ครับ ไม่น่าจะต้องยุ่งยากเลย”
“อ๋อ...มันเป็นคำสั่งคุณธวัฒน์น่ะค่ะ ... งั้นแววขอตัวก่อนนะค่ะ”

แววออกไปแล้ว แต่นัทก็ยังสงสัยอยู่ว่า ... ธวัฒน์คิดยังไงที่สั่งให้ต้อนรับเพื่อนเค้าดีแบบนี้ ... ก็พอดีกับที่เอกสะกิดนั่นแหละนัทถึงได้สติ ...
“เฮ้ย...คิดไรว่ะ ... เหม่อเชียวนะ แล้วตกลงว่าไงล่ะ...ที่ถามน่ะ”
“เออ เออ ... แค่สงสัยอะไรนิดหน่อยไม่มีไรหรอก .... ส่วนที่เอ็งถามก็ ....”
นัทเล่าเรื่องราว หลังจากที่แยกกับเอกที่โรงเรียนให้ฟัง ... ถึงสาเหตุที่ต้องเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และจะต้องเข้ามหาวิทยาลัยที่เมืองไทย ไม่ใช่อเมริกา เหมือนที่ตั้งใจไว้ตอนแรก ...

“อืม...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง” … เอกและบอล พยักหน้ารับรู้ พร้อมๆกัน ระหว่างที่ฟังนัทเล่า และจนกระทั่งเล่าจบ ...
“เอาล่ะ...ทีนี้ก็ตาแกเล่าบ้าง แล้วนะเอก ว่าแกรู้ได้ไงว่าข้าอยู่ที่บ้านนี้อ่ะ”
“หิวแล้วว่ะ เราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่าม่ะ จะเที่ยงแล้วเนี่ย...”
“ไม่ต้องมาทำไก๋ เลยเอ็ง ... เดี๋ยวก็เตะเข้าให้เล่นตัวอีก เล่ามาเร็วๆ เลยไม่งั้นอดนะเอ็ง ไล่กลับเลยไม่ต้องกิน...”
“ไรหว๊า ... เล่นงี้เลยหรอ ...”
เอกทำหน้าเซ็งสุดชีวิต เพราะกลัวอดกินข้าว ... หันหน้าไปทางบอลเพราะต้องการตัวช่วย บอลก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เอาซะเฉยๆ... จนต้องเริ่มเล่าออกมา ...

“ก็คุณธวัฒน์พี่ชายคนละพ่อล่ะแม่ของเอ็งน่ะ เค้าดังออกไม่รู้หรือไง ... ใครๆ เค้าก็รู้จักทั้งนั้นแหละในแวดวงไฮโซ เพราะไปไหนมาไหนก็มีแต่สาวๆ ตอมกันตรึม ...”
“จริงอ่ะ ... ไม่น่าเชื่อปากแบบนั้นอ่ะนะ ...”
“แหมไอ้นัทเอ็งนี่นะ ... ลูกนายพลนะโว้ย ... แถมรูปหล่อ นักเรียนนอกอีกต่างหาก ยังไม่รวมสมบัติเก่าตั้งแต่ต้นตระกูลขุนนางเก่าในวังอีกนะ .... เอ็งคิดว่าคุณสมบัติเพียบพร้อมแบบเนี่ย จะไม่มีใครสนใจหรือไง ...”

“ก็ไม่ได้ว่าหรอกเรื่องนั้นน่ะ ... แต่ไอ้นิสัยหยิ่ง ถือตัว เอาแต่ใจแถมปากไม่รักษาน้ำใจคนแบบนั้นอีก ..... มันไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครสนใจ”
นัทเหลือบเห็นเอก กับบอลกำลังหน้าซีด ปากสั่น เหงื่อออก ... ทำให้สงสัยว่ามันเป็นอะไรกัน อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไรนี่นา ...

“ขอบใจนะที่ชม ... ไม่คิดว่าตัวเองจะมีดีมากขนาดนี้นะเนี่ย...”
เสียงคนคุ้นเคย ดังมาจากข้างหลัง มันทำให้นัทเริ่มเหงื่อแตกอีกคน ... ค่อยๆ หันกลับไปมอง ก็ต้องเห็นธวัฒน์ยืนยิ้มอยู่ด้านหลังซะแล้ว ...
“พี่ ... พี่ ... พี่วัฒน์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่ได้ยินเสียงรถเลยล่ะ ...”
“ก็ถ้ารู้ตัว ... พี่คงไม่มีโอกาสได้ยินคนชมกันหลับหลังน่ะซิ ...”

เอกกับบอลมองหน้ากันเลิ่กลั๊ก... จริงๆ เค้าเห็นธวัฒน์โผล่มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวตั้งแต่ไม่กี้แล้ว พยายามจะบอกเพื่อนให้หยุดพูด แต่ก็เหมือนนัทจะไม่สนใจพวกเค้าเลย จนนัทพูดจบแล้วนั่นแหละ ... มันก็สายไปเสียแล้ว ...
ไอ้เอกเอ๊ย ... สงสัยไม่แค่อดกินข้าว แต่ต้องโดนไล่ออกจากบ้านแน่ๆ เลย ... เอกได้แต่หวั่นใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 26-04-2007 22:08:06
เดี๋ยว  พรุ่งนี้  ผมต้องไป  ชะอำ  3 วันนะคับ   คงไม่ได้มาลงต่อให้  นะค๊าบบบ   อดใจรอนิดนึง  แค่วันอาทิตย์เอง อิอิ

หรือใครที่ว่างๆ  ไปเจอกานได้นะคับที่ชะอำ  อิอิ   :เชิป2: :110011:

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

13...

ธวัฒน์มองสำรวจที่เอกและบอล ที่นั่งก้มหน้าอยู่ทีละคน กลับไปกลับมา และหันมามองที่นัทอีกที ก่อนจะหันไปพูดกับเอกที่นั่งหน้าซีดอยู่ …
“เธอคงเป็น เอกรินทร์ ลูกท่านนายพล รักชาติ ซินะ”
“ค…ค…ครับ ใช่ครับ…”
“แล้วนี่คงเป็น … กำพล ลูกท่านนายพล เกริกเกียรติ”
“ครับ แล้วคุณธวัฒน์รู้จักพวกเราได้ยังไงล่ะครับ…”
“ก็ถ้าเคยไปงานที่สโมสร ก็พอจะจำได้อยู่หรอก โดยเฉพาะลูกๆ ของเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกับคุณพ่อน่ะ”

“เอาล่ะ…ไปทานข้าวกลางวันกันได้แล้ว พี่ต้องกลับไปทำงานอีกนะ…”
คราวนี้ธวัฒน์หันหน้าไปมองทางนัทบ้าง ก่อนจะเดินนำไปก่อน … ทำให้นัทเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก … เมื่อธวัฒน์พ้นสายตาไปแล้วนัทจึงหันไปหาเพื่อนทั้งสองคน …
“พวกเอ็งไม่บอกกันเลยนะ ว่าพี่วัฒน์มาอ่ะ เกือบซวยแล้วไหมล่ะ…”

เอกกับบอล ยิ้มแหยๆ ก่อนที่เอกจะพูดซะเอง
“แหม…พวกข้าก็พยายามจะบอกอ่ะนะ แต่เอ็งก็นินทาเค้าเพลินเลย จนมองไม่เห็นเองนะซิ”
“ไรว่ะ … เออ เออ ไปกินข้าวเหอะ เดี๋ยวไปช้าจะโดนอีกข้อหานึง … ดูท่าแล้วสงสัยจะอารมณ์ไม่ดี … แต่ก็แปลกแฮะที่ไม่ว่าอะไรเท่าไหร่”
“พี่เค้าไม่ว่าอะไรก็ดีแล้วล่ะน่า … นัทก็คิดมากไปเลย …” บอลพูดในขณะที่เดินตามหลังไปติดๆ …

บรรยากาศในการทานอาหารเงียบกริบ … เพราะไม่มีใครจะเอ่ยอะไรออกมาก่อน มีเพียงเสียงช้อนกระทบจานบ้างเป็นบางครั้ง …  จนธวัฒน์ที่ทานเสร็จแล้วหันไปถามเอกกับบอล …
“พวกเธอจะกลับหรือยังล่ะ หรือจะอยู่ต่อ…”
เอกกับบอลที่มองหน้ากัน อย่างรู้กันว่า ไล่กันทางอ้อมนี่หว่า … แล้วเอกสะกิดบอลให้เป็นคนตอบแทน …
“ก็…ก็ว่าจะกลับเลยล่ะครับ…”
“ก็ดี…เพราะช่วงบ่ายนี้ … พี่ว่าจะพานัทไปที่บริษัทด้วย คงไม่มีใครอยู่ที่บ้าน”

นัทเงยหน้ามามองธวัฒน์ อย่าง งง งง … ทำไมต้องพาไปด้วยว่ะ … กลัวว่าเค้าจะออกไปไหนหรือไงกันนะ …
“แล้ว…ทำไม ต้องพาผมไปด้วยล่ะครับ ผมต้อง…ต้องอ่านหนังสือนะครับ …”
“ก็เอาไปอ่านด้วยซิ … ไม่ได้ห้ามให้อ่านสักหน่อย เปลี่ยนที่อ่านซะบ้าง อาจจะมีสมาธิมากขึ้นนะก็ได้”
ท้ายประโยค ธวัฒน์หันมามองเอกกับบอล นิดนึง ทำให้เอกกับมองนึกสงสัยว่า พวกเค้าเป็นตัวทำลายความสงบไปซะแล้ว

หลังจากทานอาหารเสร็จ … นัทก็เดินออกมาส่งเอกและบอลข้างนอก … เอกกระซิบเบาๆ เพื่อไม่ให้ธวัฒน์ที่อยู่ด้านในได้ยิน
“เฮ้ย…นัทไปก่อนนะ แล้ววันหลังจะมาหาใหม่”
“เออ…ถ้าเอ็งยังกล้ามา ก็ตามใจ … เห็นไหมล่ะว่า เค้านะสร้างภาพขนาดไหน…”
“เอกมันไม่สะเทือนหรอกนัท เรื่องแค่เนี่ย … มันหนังหนาจะตาย”
บอลที่พูดแทรกขึ้นบ้าง กลับโดนเอกถองเข้าให้ อีกที … แล้วเอกจึงหันไปพูดกับนัทต่อ …
“เออ … ไว้เจอกันวันศุกร์นะนัท … ระวังตัวด้วยล่ะ ไม่รู้พอพวกข้ากลับไป เอ็งจะโดนจับกินหรือเปล่าก็ไม่รู้ …”
“อืม … ไม่เป็นหรอก ข้าไม่เป็นไรหรอก ขับรถกันดีๆ ล่ะ บาย…”

ขณะที่เอกขับรถออกมาได้สักพัก …
“เป็นห่วงไอ้นัทมันนะเนี่ย อยู่บ้านคนอื่นแบบเนี่ย …”
“เป็นห่วงกันจริงนะ…แต่บอลว่านัทคงไม่เป็นไรหรอก ก็แม่ของนัทเป็นถึงเพื่อนรักของคุณหญิงนี่นา…”
“ลำพังคุณหญิงกับท่านนายพลน่ะ ไม่น่าห่วงหรอก แต่ไอ้พี่ชายนอกไส้นี่ซิ…ท่าทางร้ายไม่เบา…เพิ่งเคยเจอจังๆ ก็คราวนี้แหละ”
“แต่บอลว่า ยิ่งไม่น่าห่วงใหญ่เลย … ก็ดูเค้าเป็นห่วงน้องชายจะตายไป ขนาดออกไปทำงานแล้วยังกลับมากินข้าวกลางวันกับน้องอีก”
“กลับมาจับผิดซิ ไม่ว่า … สงสัยกลัวพวกเราจะพาไอันัทหนีเที่ยวละมั้ง …”
“นั่นก็อาจใช่ … แต่บอลว่าบอลดูออกนะว่าเค้าก็เป็นห่วงนัทอยู่เหมือนกัน…”
“เอ็งนี่…พูดแปลกๆ นะบอล คนที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาก่อนเนี่ยนะ อย่ามาพูดให้ขนลุกนะโว้ย…”
“ถ้าไม่เชื่อ ก็คอยดูไปละกัน…”

ธวัฒน์พานัทมาที่บริษัทซึ่งเค้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ และมีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัทด้วย … ธวัฒน์แนะนำให้นัทได้รู้จักกับหลายๆ คนที่พบระหว่างทางมาที่ห้องทำงาน …
นัทไหว้และยิ้มทักทุกคน ที่พบ ซึ่งธวัฒน์แนะนำว่านัทเป็นน้องคนนึงของเค้า และดูทุกคนจะชื่นชมในตัวนัทไม่น้อยเพราะนัทดูไม่ถือเนื้อถือตัวเลย และโดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างแอบกรี๊ดกร๊าด เพราะได้เจอเด็กหนุ่มหน้าตาดี ยิ่งเดินมากับธวัฒน์ด้วยแล้ว สวรรค์ทรงโปรดจริงๆ ….
เมื่อมาถึงหน้าห้อง ธวัฒน์ก็แนะนำให้รู้จักกับเลขาฯ ของเค้า …
“นี่คุณจูน เป็นเลขาของพี่ ถ้าอยากได้อะไรก็บอกคุณจูนได้”

นัทยิ้มทักทาย และเดินตามธวัฒน์เข้าไปในห้องทำงาน … ภายในห้องมีโต๊ะทำงานตัวใหญ่จัดไว้เป็นระเบียบดี และกรอบรูปของธวัฒน์และครอบครัววางอยู่ด้วย แต่อีกอันนี่ซิ ทำให้นัทหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะมันเป็นรูปของหญิงสาวที่เค้าไม่ชอบขี้หน้าสุดๆ ถึงแม้จะสวยมากก็ตาม นั่นก็คือนภัทร… ในห้องยังมีชุดรับแขกวางอยู่ตรงมุมห้องด้านหนึ่ง คงจะเอาไว้รับรองแขกพิเศษที่มาพบ… ธวัฒน์ชี้ให้เด็กหนุ่มใช้มุมนี้เป็นที่นั่งอ่านหนังสือ …
“ทำไมต้องให้มานั่งอ่านที่นี่ด้วยนะ อึดอัดจะตาย…”
นัทบ่นกับตัวเองเบาๆ … แต่ก็เดินไปนั่งแต่โดยดี เพราะไม่อยากจะมีเรื่องอีก เพราะเท่าที่โดนจับผิดได้ว่านินทาธวัฒน์ที่บ้านก็แย่พอแล้ว ธวัฒน์ก็ไม่พูดถึงอีกเลย ตั้งแต่ออกจากบ้าน มันทำให้นัทคาใจชอบกล …

“นั่งอ่านหนังสือไปล่ะ พี่มีประชุม … ประมาณสามชั่วโมงถึงจะเสร็จ ถ้าอยากได้อะไรก็บอกคุณจูนได้ เธอจะอยู่หน้าห้องตลอด …
“ครับ…”
นัทรับคำสั้นๆ … และธวัฒน์ก็เดินออกไป …
“เฮ้อ … ไปซะที ค่อยหายใจโล่งขึ้นหน่อย … ทำไมมันถึงได้อึดอัดแบบนี้นะ … พี่วัฒน์ไม่รู้ยังโกรธอยู่หรือเปล่าน๊า… แต่ถึงจะโกรธก็ช่าง … ก็พูดเรื่องจริงนี่นา …”
!!!ก๊อก ก๊อก…!!!

นัทสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงเคาะประตู … ก่อนที่จะเห็นคุณจูนเดินเข้าพร้อมกับน้ำและขนม …
“คุณธวัฒน์ให้จูน เอาน้ำส้มกับขนมมาให้คุณนัทนะค่ะ”
“ข…ขอบคุณมากเลยครับ…”
“ค่ะ ไม่เป็นไร … ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็เรียกจูนได้ตลอดเวลาเลยนะค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ…”
หญิงสาวยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินออกไปทำงานต่อ …
“น่ารักจังเลยแฮะ …”
นัทยิ้มกับตัวเอง … เด็กหนุ่มพิจารณาคนหญิงสาวที่เพิ่งเดินออกไป คุณจูนนี่ก็เป็นคนสวย บุคลิกก็ดี ดูอารมณ์ดี มนุษยสัมพันธ์ก็ดี เหมาะกับงานเลขาฯ มาก แต่น่าสงสาร...ที่ต้องมาเป็นเลขาให้คนอารมณ์แปรปรวนอย่างพี่วัฒน์ ...

น้ำกับขนมแสนอร่อย แอร์เย็นๆ กำลังสบาย ... จำไม่ได้ว่าอ่านหนังสือไปได้กี่หน้า แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวยาวไปซะแล้ว ... ในห้วงแห่งนิทราความฝันแสนหวานกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ลางเลือน ... อ้อมกอดของใครคนนึงที่แสนอบอุ่น ... สัมผัสแผ่วเบา ... ของมือแสนอ่อนโยนลูบไล้ใบหน้าอย่างช้าๆ ... ริมฝีปากเรียวบาง อ่อนนุ่มที่สัมผัสแก้มอย่างแผ่วเบาเนิ่นนาน ... ความเขินอายทำให้ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ... ในใจเรียกร้องขอเพียงรักษาเวลาที่มีความสุขนี้ไว้ให้นานเท่านานก็พอ ... จู่ๆ ... คนตรงหน้าก็ผละเดินหนีไป ใจหายหล่นวูบลงทันที จะดึงรั้งไว้ก็ไม่ทันซะแล้ว แม้แต่หน้าก็ไม่มีโอกาสได้เห็น พยายามตะโกนสุดเสียง เพียงหวังให้เค้าหันกลับมา ...

!!!“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน...อย่าเพิ่งไป...”!!!
นัทสะตุ้งตื่นขึ้นมาแล้ว ... เหลียวซ้ายแลขวา ... พยายามเรียกสติกลับคืนมา ... ห้องๆ เดิม ... โซฟาตัวเดิม ... ที่โต๊ะทำงานยังว่างอยู่เหมือนเดิม ... แต่ ...
“แล้วมันเสื้อสูท ใครละเนี่ย...”
นัทกำลังแปลกใจกับ สูทตัวใหญ่ที่ห่มอยู่บนตัว ... ก็พอดีธวัฒน์เดินออกมาจากห้องน้ำส่วนตัวที่มีประตูอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ที่นัทนอนอยู่ ... น้ำหยดยังเกาะพราวอยู่บนใบหน้า และหยดลงจากปลายคางมน ... ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ...

“เอ๊อ ... พี่วัฒน์มานานแล้วหรือครับ...”
“อ้าว ... ตื่นแล้วเหรอ ... เห็นหลับซะสบายเชียว ความรู้มันคงไหลเข้าหัวหรอกนะ นอนหนุนหนังสือแบบนั้นน่ะ…”
กวนอีกแล้วไหมล่ะ...
“ก็แค่พักสายตาแค่แป๊บเดียวเองครับ ... แล้วเสื้อ...เสื้อนี่อ่ะครับ ...”
“เห็นท่าทางจะหนาวน่ะ... พี่...พี่ก็เลยถอดห่มให้นะซิ ................... ในเมื่อตื่นแล้ว ก็เอามาคืนนี่ เดี๋ยวจะยับซะหมด…”
อารมณ์ไหนว่ะเนี่ย ... ไม่น่าตื่นมาเจอคนกวนประสาทเล๊ยยย ... กำลังฝันดี ?????? …. นัทกำลังนึกทบทวนความฝันก่อนที่เค้าจะตื่นขึ้นมา ... มันกลายเป็นเพียงภาพลางๆ ไปซะแล้ว เค้าจำรายละเอียดไม่ได้เลย ... รู้แต่ว่าฝันดีมาก ... ยังรู้สึกถึงความร้อนบนหน้าอยู่เลยด้วยซ้ำ ... เมื่อนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จึงเดินเอาเสื้อไปคืนธวัฒน์ซึ่งนั่งรออยู่โต๊ะ ... นัทส่งเสื้อคืนให้แก่ธวัฒน์ .... ก็มีเสียงโฟน จากคุณจูนที่อยู่หน้าห้องเข้ามา ..

“คุณวัฒน์ค่ะ คุณภัทรมาขอพบค่ะ ... และเธอกำลังเข้าไปแล้วนะค่ะ ...”
“ครับ...ขอบคุณมากครับ”
“เอ้า...นี่ครับเสื้อ งั้นผมขอตัวไปรอข้างนอกนะครับ เผื่อพี่วัฒน์จะมีเรื่องส่วนตัวคุยกัน...”
นัทรีบวางเสื้อไว้บนโต๊ะของธวัฒน์ และกำลังจะหันเดินออกไป แต่โดนธวัฒน์ดึงแขนไว้ซะก่อน ... ก็พอดีกับเสียงเคาะประตูและนภัทรก็ก้าว เข้ามาเห็นภาพนั้นเข้าพอดี ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 26-04-2007 23:13:42
อยากอ่านเยอะๆอ่ะคร๊าบบบบ.... :haun4:
ไม่ง่ายนัก......รักนี้   ชื่อเรื่องมันม่ายเข้ากันเลย ขอเปลี่ยนหน่อย :จ้อบจัง1:
น่าจะใช้ชื่อว่า ง่ายจริงๆ....รักนี้  55555..... :รักจัง11:
ก็พี่ธวัฒน์ของน้องนัท อ่ะ ยังม่ายทันไรเลย ก็หวงน้องนัทออกนอกหน้าซะแล๊ววว ทั้งหวง ทั้งหึง  :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 27-04-2007 00:05:39
มานไม่ง่ายอย่างที่คิดนะคับ อิอิ  แอบ สปอย เล็กๆ :laugh5:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 27-04-2007 00:19:26
สงสัยคนในฝันคือพี่วัฒน์แหงเลย  :kikkik:
จะรักกันยังไงน้อคู่นี้ น่าติตามจริงๆ
รอ 3 วันก็ได้ ไม่เป็นไร  :monkeycry4: แต่ว่ามาแล้วลงเยอะกว่าเดิมหน่อยก็ดีนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-04-2007 20:32:19
หุหุ หายไปสามวันเหรอ อย่างนี้ต้องมีชดเชยนะ  :kikkik:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 28-04-2007 13:47:28
ชอบๆๆๆ  ชอบเรื่องนี้มั่กๆ
ออกแนวรักกันแต่ต้องแอบซ่อนไว้  แล้วมากัดกันแทนนี่สนุกนักละ
พี่วัฒน์ก็น่ารัก  น้องนัทก็น่าทะนุถนอม  เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองเนี่ยยยย

รอน้องหมีเสมอ  สามวันเชียว  กลับมาต้องชดใช้จริงๆ ด้วย  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 29-04-2007 22:43:07
มาต่อให้แล้วค๊าบ  หายไป 3วัน  แหะๆๆ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

14...
ธวัฒน์รีบชักมือกลับทันที ... เมื่อเห็นนภัทรกำลังจ้องมองมาที่มือของเค้าที่กำลังจับแขนของนัทอยู่ ...
“เอ๊อ ... ภัทร ลมอะไรหอบมาถึงนี่หรือครับ”
นภัทรเดินมาถึงโต๊ะทำงานของธวัฒน์โดยสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่นัทไม่วางตา ... พยักหน้ารับเล็กน้อยเมื่อนัทยกมือไหว้ ... จนเมื่อได้ยินที่ธวัฒน์ถามจึงหันมายิ้มแย้มให้ชายหนุ่ม ...
“ก็ภัทรคิดถึงคุณนี่ค่ะ ... และกะว่าจะชวนคุณไปทานข้าวเย็นด้วยกัน ... สองคน ...”
นภัทรชำเลืองมองนัทที่ยืนอยู่ด้านข้าง เพื่อเน้นท้ายประโยคให้ได้ยินอย่างชัดเจน ...

“พอดีภัทรไม่คิดว่า น้องชายคนใหม่ของคุณจะอยู่ด้วย... ยังไงไปทานข้าวเย็นด้วยกันไหมจ๊ะ”
นภัทรหันไปเอ่ยชวนและยิ้มเย็น ...  กับนัท ... สายตาเย็นชาที่มองมา คงมีแต่นัทเท่านั้นที่มองเห็น ...
“ผ...ผมว่า...ผมกลับไปที่บ้านดีกว่าครับ ขอบคุณมากครับ...ที่ชวน...”
“อย่าเหลวไหลซินัท...จะกลับยังไง อย่ามาทำอวดเก่งไม่เข้าเรื่องนะ...”
ธวัฒน์หันไปตวาดเด็กหนุ่ม ... ก่อนจะหันไปพูดกับนภัทรที่แววตามีความพึงพอใจอยู่ลึกๆ ...
“คือ ... เค้ามารถผมน่ะครับ ยังไงก็คงต้องไปด้วยกัน ภัทรคงไม่ว่าอะไรนะครับคนดี ถือซะว่าได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยกันไว้”
“เหรอค่ะ ภัทรไม่ทราบค่ะว่ามาด้วยกัน ... งั้นก็ดีเลยนะค่ะ จะได้สนิทสนมกันไว้ เพราะถ้าแกยังอยู่ที่บ้านวัฒน์ เราคงได้เจอกันบ่อยๆ... จริงไหมจ๊ะ ...”
“ค...ครับ”
ใครจะอยากเจอกับคนหน้าเนื้อใจเสื้อกันล่ะ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนสักหน่อย แต่ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอจริงๆ ... ทั้งสายตา ท่าทาง ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ... นี่เราไปทำอะไรให้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ... นัทอดแปลกใจไม่ได้ ที่นภัทรเหมือนจะไม่ค่อยชอบหน้าเค้าสักเท่าไหร่ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้ว ด้วยซ้ำ ...

สองหนุ่ม หนึ่งสาว นั่งอยู่ในร้านอาหารหรูใจกลางย่านดัง ... ธวัฒน์กับนภัทรสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว ... แต่นัทยังคงจ้องมองรายการในเมนูตาเขม็ง ...
โห ... ทำไมมันแพงงี้ว่ะ ... แต่ละอย่างชื่อเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลย ... ไม่เคยพบเคยเห็นแล้วตูจะกินได้ไหมเนี่ย ...
“แหม...ยังเลือกไม่ถูกเหรอจ๊ะ...หวังว่าคงอ่านออกนะ...หรือจะให้พี่ช่วยไหมล่ะ...”
นภัทรพยายามหยิบยื่นน้ำใจให้ ... ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจนักก็ตาม ...
“ครับ...ผมอ่านออก...ไม่จำเป็นต้องช่วยหรอก...ครับ”
เอาแล้วไหมล่ะ หาว่าตูโง่อ่านหนังสือไม่ออกหรือไงกัน
จริงๆ แล้วภาษาอังกฤษสำหรับนัทมันเรื่องหมูๆ แต่ไอ้ราคาที่เห็นนี่ซิ มันทำให้นัทสั่งไม่ลงเลยจริงๆ ...

“ต๊าย...เก่งนะจ๊ะ ผู้ใหญ่เค้าอุตส่าห์มีน้ำใจ...”
นภัทรพูดอย่างน้อยใจ หันไปมองธวัฒน์ที่นั่งฟังอยู่ ...
“คุณภัทรเค้ามีน้ำใจ ก็พูดให้มันดีๆ หน่อยซิ ... แล้วเอาเมนูมานี่ ... เดี๋ยวพี่สั่งให้ ... ช้าจริงๆ เค้ารอนานแล้วเห็นไหม...”
ธวัฒน์พูดพร้อมกับดึงเมนูจากมือของนัทมาส่งคืนให้บริกร แล้วหันไปกระซิบสั่งอาหารเสียงเบา ... บริกรโค้งให้นิดนึงก่อนจะเดินออกไป ...

เฮ็อออ ... เข้าข้างกันเข้าไป ... พออยู่ต่อหน้าแฟนตัวเองล่ะก็ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเชียวนะ ... นัทที่ได้แต่ทอดถอนใจเพราะตอนนี้เค้าเหมือนเป็นส่วนเกินของคู่นี้ ไม่มีตัวตน ไม่อยู่ในสายตา เหมือนไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำไป ... ยิ่งคิดยิ่งไม่อยากมาอยู่ตรงนี้เลย ... ใจมันหวิวๆ บางอย่างมันแน่นขึ้นมาที่อก เวลาที่เค้าหัวเราะต่อกระซิก จับมือกัน มองตาหวานซึ้ง ... โดยเฉพาะนภัทรที่ดูจะพยายามทำหวานจนออกนอกหน้า ... แต่นี่ละมั้งคงเป็นสิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบ ... แต่สำหรับนัทแล้ว เค้าคิดว่าเค้าไม่มีวันชอบผู้หญิงแบบนี้อย่างแน่นอน ...
“ไอ้นัท...นี่แกกำลังอิจฉาเค้าเหรอ ... เพราะอยากมีใครสักคนเหมือนเค้าหรือไง ... ทำไม...มัน...มันถึงเจ็บในอกแบบนี้นะ...”

เมื่อทานอาหารเสร็จ นัท บอกกับธวัฒน์ว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วจึงเดินตรงไปตามป้ายซึ่งชี้ไปทางด้านในของร้าน โดยไม่รู้ว่ามีใครอีกคนนึงเดินตามมาด้วย ... นัทเลี้ยวไปเข้าห้องทางขวาสำหรับผู้ชาย โดยสังเกตเห็นว่าห้องน้ำหญิงเป็นห้องทางซ้าย ... เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกมานอกห้องก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็น นภัทร ยืนอยู่หน้าห้องน้ำหญิง ...
“คุณภัทร...ม...มาเข้าห้องน้ำเหรอครับ...”

!!! เพี๊ยะ !!!

นัทหน้าหันไปตาม แรงตบของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ... กำลังรวบรวมสติว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน ... เมื่อหันกลับมามองก็เห็นนภัทรที่ต้องนี้ หน้าตาบ่งบอกว่ากำลังสะใจสุดๆ ที่ได้ตบเค้า ... หน้าตาแบบที่ธวัฒน์คงไม่มีโอกาสได้เห็นจากผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน กำลังจ้องมองมาที่เค้า ...
“คุณภัทร ต...ตบผมทำไมครับ...ผมไปทำอะไรคุณ”
“อย่ามาถือดี อวดดีกับฉันอีกนะ ... อย่าคิดว่าแค่การเป็นน้องนอกไส้ของคุณวัฒน์ ... จะทำให้เธอวิเศษวิโสไปกว่าฉัน ...”
“ต...แต่ผมไม่เคยคิดแบบนั้น...”
“ดี๊...คิดได้งั้นก็ดี...ไม่ว่าเธอจะเป็นลูกเต้าของใคร จะเป็นลูกขอทานที่คุณหญิงรับมาเลี้ยงก็ตาม อย่าพยายามมาเทียบกับฉันที่จะแต่งงานกับคุณวัฒน์ และเป็นเจ้าของในอนาคตของบ้านที่เธอซุกหัวนอน…”

นัทที่พยายามอดทนกับการกระทำของผู้หญิงคนนี้ ชักเริ่มหมดความอดทนเมื่อต้องโดนดูถูกว่าเป็นเหมือนลูกไม่มีพ่อมีแม่ เป็นลูกขอทาน ...
“คุณภัทร คุณดูถูกผมได้นะ แต่อย่ามาดูถูกถึงพ่อแม่ของผม... ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจคุณอีก...”
“ทำไม...ไอ้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอจะทำอะไรฉัน และถ้าพ่อแม่มีปัญญาเลี้ยงจริงคงไม่ต้องเอามาฝากไว้ที่นี่หร๊อก”
“คุณภัทร ...”

นัทไม่เคยที่จะทำร้ายผู้หญิงมาก่อน เพราะยังไงผู้หญิงก็เป็นเพศแม่ ... แต่ตอนนี้ นัทเริ่มหมดความอดทนกับคนตรงหน้าที่ดูถูกถึง พ่อแม่ของเค้าเป็นครั้งที่สอง ... นัทตรงเข้าไปหาแล้วผลักคนตรงหน้าล้มลงไปกองกับพื้น ... แค่นี้คงเพียงพอแล้วสำหรับผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายนัทคงต่อยคว่ำไปนานแล้ว ...
“!!! ว้าย !!! นี่แก แกบังอาจทำร้ายฉัน...”
“ก็ผมเตือนคุณแล้ว ว่าอย่ามาดูถูกบุพการีของผม...แค่นี้ผมว่ามันยังไม่สาสมด้วยซ้ำ...”
เสียงโวยวายของนภัทร ก็ไม่ใช่เบาๆ แต่ดีที่บริเวณนี้ยังไม่มีใครผ่านมา ...แต่ก็เจ้าหล่อนนั่นแหละ ที่หาจังหวะช่วงปลอดคนเพื่อมาหาเรื่องกับนัท ... เพื่อหวังว่าถ้าเด็กหนุ่มทนไม่ไหว ก็คงจะออกจากบ้านของธวัฒน์ไปเอง เธอไม่สบายใจเลย ที่จะมีเด็กคนนี้อยู่ในบ้าน ถึงจะไม่ได้เชื่อเรื่องที่เพื่อนๆ กรอกหูมา แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ...

“ !!!คุณภัทร ...!!! ”
นัทสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงของคนที่เค้าไม่อยากได้ยินมากที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้ ... ก็ธวัฒน์นั่นเอง ที่กำลังเดินตรงมาทางเค้ากับนภัทร ที่ยังกองอยู่กับพื้นและดูเหมือนกำลังบีบน้ำตา เรียกคะแนนสงสารอยู่เห็นๆ ... แล้วนี่เค้าจะทำยังไงดี ในเมื่อภาพที่เห็นมันชวนให้คิดได้อย่างเดียวเท่านั้น ... ธวัฒน์จะเชื่อที่เค้าพูดหรือเปล่า ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 29-04-2007 22:45:14
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น …”
ธวัฒน์ที่เดินมาถึงพูดเสียงดัง… ก่อนจะลงไปประคองนภัทรที่ยังกองอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นมา …
“เห็นหายไปตั้งนาน…ก็เลยสงสัยอยู่ … ไม่คิดเลยนะว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้”
“มีอะไรจะอธิบายไหม…นัท…”
ตอนนี้ ธวัฒน์ หันมาหาคำตอบจากนัท ที่ตามสภาพการณ์แล้วน่าจะเป็นคนผิดอย่างไม่ต้องสงสัย …

“อะไรครับ … อย่ามาคาดคั้นเหมือนผมเป็นคนผิดนะ ... ผมน่ะไม่เคยทำใคร ถ้าไม่มีใครมาทำผมก่อน…”
ท้ายประโยคนั้นพยายามหันไปมองนภัทร ยิ้มหลบอยู่ด้านหลังธวัฒน์เหมือนว่ากำลังถือไพ่เหนือกว่าเค้า …
“ดูซิค่ะวัฒน์… น้องของวัฒน์คนเนี่ย ปากแข็งแล้วยังอวดดีด้วยนะค่ะ แบบนี้คงไม่มีใครอบรมสั่งสอนแน่ๆเลยค่ะ”
“แล้ว…ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ…ไหนคุณภัทรลองเล่าให้ผมฟังซิ…”
ธวัฒน์หันไปถามนภัทร ที่ปรับสีหน้าเย้ยหยันให้กลายเป็นน่าสงสาร ออดอ้อนสุดๆ เวลาอยู่ต่อหน้าธวัฒน์ …

นภัทรเริ่มเล่าอย่างคนได้เปรียบ … อย่างน้อยๆ เหตุการณ์มันก็เค้าข้างเธอซะอย่าง มีหรือที่ธวัฒน์จะไปเชื่อไอ้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า ที่เพิ่งเข้ามา

อยู่ในบ้านได้ไม่กี่วัน …
“ก็พอดีภัทรออกมาเจอแกที่หน้าห้องน้ำพอดี ภัทรก็แค่พยายามชวนแกคุยและแนะนำการวางตัวเล็กๆ น้อยๆ นะค่ะ … แต่เหมือนแกจะไม่ชอบใจ

เท่าไหร่ … แต่ภัทรก็ไม่ว่าหรอก ภัทรเข้าใจเด็กสมัยนี้ค่ะว่าไม่ชอบให้ใครมาจู๊จี๊ … แต่หลังจากนั้น ก็…”
ธวัฒน์หันไปมองนัท ที่ไม่หลบสายตาเลย กลับมองกลับมาอย่างท้าทายด้วยซ้ำ และกำลังฟังว่าผู้หญิงตีสองหน้าคนนี้จะพูดอะไรต่อไป …
“ก็…แล้วเป็นไงล่ะครับคุณภัทร ทำไมคุณภัทรถึงล้มลงไปนั่งแบบนั้นล่ะ…”

นภัทรกลับหันไปมองนัทแว่บนึง ก่อนหันกลับมาพูดกับธวัฒน์ … ที่กำลังฟังอย่างใจจดใจจ่อ …
“คือว่า …”

“แหม… อีแค่ลื่นล้ม ไม่เห็นคุณภัทรต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โตเลยนะครับ …”
เสียงของใครคนหนึ่งเดินมาจากหน้าห้องน้ำชาย ทำให้ทั้งสามคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน … และเห็น แทนไท กำลังยืนยิ้มตรงมาที่ธวัฒน์เพื่อน

ของเค้า และไม่ลืมที่จะหันมายิ้มให้กับนัทอีกคน …
“ไอ้แทน …”
“เออ … ข้าเอง ไม่ใช่ผีที่ไหนสักหน่อย …”
“แล้วเอ็งมาอยู่ตรงนี้ได้ไงว่ะ เมื่อกี้ข้าไม่เห็นเลยนี่หว่า … ตอนอยู่ที่โต๊ะข้าก็ไม่เห็นเอ็งในร้าน … มาตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ...”
“ข้ามานั่งกินก่อนที่เอ็งจะโผล่มาอีก ข้าน่ะเห็นแล้วล่ะ แต่ยังไม่ได้เข้าไปทัก … ข้าก็เพิ่งมาเข้าห้องน้ำหลังน้องนัทนิดเดียวละมั้ง แต่เผอิญน้องนัทคง

ไม่ทันเห็นพี่ใช้ไหมครับ …”

“ครับผมไม่เห็นพี่แทนเลย …”
นัทตอบ และทำหน้าแบบงง งง … ถ้าพี่แทนมาเค้าห้องน้ำทีหลังเค้า … ทำไมเค้าไม่รู้ตัวเลยนะ …
พอส่งยิ้มหวานให้นัทแล้ว แทนไทก็ชำเลืองไปมองนภัทร ที่หลบสายตาของเค้า เมื่อได้ยินเรื่องที่ชายหนุ่มบอกแก่ธวัฒน์ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ก็เริ่มผุดออก

มาตามใบหน้าของเธอ … เพราะถ้าหากแทนไท อยู่ในห้องน้ำตั้งแต่แรก เค้าต้องได้ยินตั้งแต่แรกแน่ๆ … และ … และ ถ้าเค้าบอกความจริงกับ

ธวัฒน์ล่ะ … เธอจะทำยังไง …
“อ้าว … คุณภัทร เมื่อกี้ลื่นล้ม ไม่เป็นไรแล้วหรือครับ … ผมว่าจะออกมาช่วยตอนที่คุณภัทร ร้องแล้วล่ะครับ ก็พอดีได้ยินเสียงพระเอกมาช่วยซะ

ก่อนเลยไม่อยากจะขัดคอ …”

“อ๋อ … เอ่อ … ค่ะ ไม่เป็นไรมากแล้วล่ะค่ะ แค่เคล็ดนิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวก็หาย … แหม … คุณแทนนี่ก็ใจร้ายนะค่ะ อยู่ตรงนี้ตั้งนาน ก็ไม่ออก

มาทักกันบ้าง”
นภัทรพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ เพราะดูเหมือนว่าแทนไท พยายามจะทำให้สถานการณ์เป็นเพียงอุบัติเหตุ … ทั้งๆ ที่ยังเจ็บใจที่ไม่สามารถ

จัดการกับนัทได้ แต่ … สถานการณ์ของเธอตอนนี้ … ไม่สมควรที่จะเสี่ยงให้แทนไท บอกความจริงกับธวัฒน์ …

ธวัฒน์กำลัง งง  กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น … ทีแรกเหมือนนภัทรจะบอกอะไรสักอย่างที่น่าจะมีสาเหตุมาจากน้องชายต่างสายเลือดของเค้า แต่ … ผล

สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า … แค่อุบัติเหตุธรรมดาเหรอเนี่ย …
“ก็ไหนคุณภัทร บอกว่า …”
ธวัฒน์ที่ยังสงสัย พยายามถามให้แน่ใจ …
“ก็ … ตามนั้นแหละค่ะ ภัทรแค่มาชวนน้องของวัฒน์คุย แล้วเดินๆ อยู่ก็ลื่นล้มน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก …”
“เหรอครับ … ถ้าไม่มีอะไรก็แล้วไป … งั้น … กลับไปที่โต๊ะกันเถอะ เพราะพวกเรามาอยู่พักใหญ่แล้ว … ทางร้านจะสงสัยเอา …”

นัทรู้สึกขอบคุณแทนไท อยู่ไม่น้อยที่เข้ามาคลี่คลายให้ … เพราะถ้าไม่มีแทนไท นัทเองก็คงไม่ยอมแน่ๆ ที่จะโดนว่า หรือกล่าวหาอยู่ฝ่ายเดียว …

เพียงแต่เค้ารอดูเท่านั้นว่าผู้หญิงคนนี้จะใส่ร้ายอะไรเค้าบ้าง … แต่ก็นั่นแหละ ถึงแม้เค้าจะแก้ตัวยังไง ก็ยังไม่แน่ว่า ธวัฒน์จะเชื่อเค้าหรอก … จบ

ได้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน … อย่างน้อยก็เท่าทุน …
“ขอบคุณน่ะครับพี่แทน ที่ช่วยผม …”
นัทเอ่ยขอบคุณ ระหว่างที่เดินตามธวัฒน์กับนภัทร กลับมาที่โต๊ะ …
“สบม. สบายมากครับ เรื่องแค่นี้เอง สำหรับน้องนัทแล้วพี่ยินดีช่วยเสมอ มากว่านี้พี่ก็ช่วยได้นะ…”

นัทรู้สึกแปลกๆ กับสายตาของแทนไท ถึงจะสำนึกในบุญคุณ แต่ก็ยังไม่น่าไว้ใจอยู่ดี …
“เอ๊อ … มากกว่านี้ ผม … คงไม่กล้ารบกวนหรอกครับ แค่เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนไงเลย”
“อย่าเพิ่งตัดเยื่อใยกัน แบบนี้ซิครับ แต่ถ้าจะตอบแทนละก็ …… มันไม่ยากอย่างที่คิดหรอกครับ”
o_O
“ยังไงเหรอครับ …”
“เอาไว้พี่นึกออก แล้วจะบอกนะ เพราะยังไงเราก็คงยังได้เจอกันอีกนาน พี่ขอตัวไปที่โต๊ะก่อนนะครับ”

เฮ้อ … ทำไมเราต้องมาเจอแต่คนแปลกๆ ด้วยนะเนี่ย … นัทได้แต่บ่นในใจ … แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะซึ่งธวัฒน์กับนภัทรกลับมานั่งอยู่ก่อนแล้ว …

เมื่อธวัฒน์แวะไปส่งนภัทรแล้ว และต้องบ่ายเบี่ยงกับคำออดอ้อนให้ลงไปดื่มกาแฟในบ้านของเธอก่อนอยู่นาน ในที่สุดจึงได้ขับรถออกมา ด้วยข้ออ้างที่

ว่า พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า … จู่ๆ ธวัฒน์ก็หยุดรถเมื่อพ้นออกมาจากบ้านของนภัทรได้สักพัก … นัทที่นั่งอยู่ข้างหลัง และปิดปากเงียบมาตลอดถึงกลับ

แปลกใจ …
เอาแล้วไหมล่ะ กะจะฆ่าตูทิ้งไว้ข้างทางนี่หรือไงนะ … แค่ทะเลาะกับแฟนเค้าหน่อยเดียวเองเนี่ยนะ …

“มานั่งข้างหน้าซิ…”
“เอ๊อ … ทำ … ทำไมหรอครับ”
“พี่ไม่ใช่คนขับรถนะ … ไม่เคยมีใครเค้าบอกหรือไง …”
นัทลงจากรถ และกลับขึ้นไปนั่งข้างหน้าข้างคนขับ … เมื่อรัดเข็มขัดเรียบร้อย ธวัฒน์จึงขับรถต่อไป …
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเหตุการณ์วันนี้ความจริงมันเป็นยังไง … แต่ในเมื่อคุณภัทรเค้าไม่ถือสาหาความก็ดีไป…”
นี่เค้าคิดว่าเราเป็นคนผิดแน่ๆ ซินะ ถึงได้พูดแบบนี้ … ระหว่างคนรักกับเด็กอาศัย คงเทียบกันไม่ได้เลยซินะ …

“คุณ…เอ่อ…พี่วัฒน์คงคิดซินะว่าผมเป็นคนหาเรื่อง และเป็นบุญของผมที่คนรักของพี่…เค้าไม่เอาเรื่องผม … ถ้าเกิดคุณภัทรเธอเอาเรื่องจริงๆ …

พี่จะไล่ผมออกจากบ้านใช่ไหมล่ะครับ…”
น้อยใจนิดหน่อย … แต่ไม่อยากอ่อนแอให้ใครเห็น … ไม่เคยกลัวที่จะโดนดูถูกเหยียดหยาม … แต่ไม่อยากโดนเข้าใจผิด … โดยเฉพาะ …
โว้ยยย … ช่างเค้าซิ … ทำไมจะต้องไปสนใจว่าเค้าจะเข้าใจผิดหรือถูก … อยากคิดอะไรก็คิดไป บื้อต่อไปน่ะดีแล้วล่ะ… แค่นี้ก็มองไม่ออกว่า

ผู้หญิงของตัวเองน่ะ…เป็นยังไง …

ธวัฒน์หันมามองนัทนิ่งครู่หนึ่ง … แววตาของความสับสน … ไม่สามารถบอกใครได้ถึงบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ
“พี่ … พี่ไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก … ตราบใดที่ …”
“ตราบใดที่ คุณป้า ไม่ไล่ผมไปใช่ไหมล่ะครับ…”
“ก็…ก็ใช่ เพราะคุณแม่เป็นคนให้เธอมา ดังนั้นจึงมีเพียงท่านที่มีสิทธิให้เธอไป …”
ไม่รู้จะตอบยังไง … ที่พูดออกไปก็ไม่รู้ว่าตรงกับหัวใจตัวเองหรือเปล่า … นี่เราคิดแบบนี้จริงๆ เหรอเนี่ย … ธวัฒน์ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัว

เองได้ ทำได้เพียงแต่ขับรถไปเงียบๆ จนถึงบ้าน โดยที่นัทก็ไม่พูดอะไรอีกเลย …
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 29-04-2007 22:46:14
15...

วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป ... นับจากวันนั้น ... วันที่ นัท มีเรื่องกับนภัทร ... มันผ่านมาได้สองสัปดาห์แล้วซินะ ...
สองสัปดาห์ ที่นัท แทบไม่ได้เจอกับธวัฒน์เลย ... ต่างคนต่างหลบหน้าซึ่งกันและกัน มีเพียงตอนทานข้าวมื้อเช้าบางครั้งเท่านั้นละมั้ง ... ที่

ได้เห็นหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครยอมเปิดปากพูดขึ้นก่อน ... มันอึดอัด มันปวดในใจอย่างประหลาด ... แต่ก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้

เพราะธวัฒน์แทบจะไม่มองหน้าเค้าด้วยซ้ำ ... แล้วทำไมเค้าจะต้องไปสนใจคนแบบนี้ด้วยล่ะ

ธวัฒน์ที่ยังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ... ไม่กล้าที่จะสู้หน้าน้องชาย ... ได้แต่หลบหน้าไปวันๆ ออกไปทำงานแต่เช้า ทำจนดึกจนดื่น วัน

หยุดก็ออกไปกับ นภัทรแทบอยู่ไม่ติดบ้าน จนวงสังคมต่างเม้ากันหนาหูว่า ... งานวิวาห์แห่งปีคงอีกไม่นานเกินรอ ... แบบนี้อาจจะดีกว่าก็ได้

มันอาจทำให้เค้า กำจัดความรู้สึกแปลกๆ ที่เค้ากำลังกลัว...ออกไปจากหัวใจได้ไม่ช้าก็เร็ว ถ้าเมื่อไรที่เค้าสามารถกำจัดมันออกไปจากใจได้แล้วล่ะก็

เค้าอาจจะกลับไปเป็นพี่ชายของนัทได้อีกครั้ง แค่พี่ชายเท่านั้น ...

“เฮ้อ ....”
ที่สถาบันกวดวิชา ... นัทนั่งถอนใจ ... ขณะที่นั่งรออาจารย์เข้ามาสอนช่วงบ่าย ... จนเอกและบอลมองหน้ากันอีก ตามจำนวนครั้งที่

นัทถอนหายใจ ...
“ไอ้นัท ญาติแกเสียเหรอว่ะ นั่งถอนใจเป็นร้อยรอบแล้วมั้งเนี่ย ตั้งแต่เช้าแล้ว ...”
!!!ผัวะ!!!
เสียงนัทตบหัวเอกดังลั่น ...
“ไอ้เวร... ญาติเอ็งซิ ...อย่ามาเล่นงี้นะโว้ย ข้าไม่ชอบ”
“เออ เออ ... โทษโว้ย ... แต่เล่นตบซะเต็มแรงเลยนะเอ็ง...”

บอลที่เหมือนจะสังเกตอาการของนัทมาตลอดสัปดาห์ กำลังขำเอกที่กำลัง ลูบหัวตัวเองอยู่ จึงหันไปถามนัทบ้าง
“แล้วนัท...มีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าล่ะ ถึงได้นั่งถอนใจทั้งวันแบบเนี่ย ... ถ้าจำไม่ผิดนะ มันน่าจะเกือบสองสัปดาห์แล้วมั้ง ตั้งแต่มาเรียน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนสัปดาห์นี้ก็ยังเป็นอยู่ ...”
นัทถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ... ในความช่างสังเกตของบอล ... ไม่น่าเชื่อว่าบอลจะใส่ใจคนรอบข้างได้มากขนาดนี้ ...
“เฮ้ย ... บอลทำไมเอ็งจำได้ขนาดนั้นเลย สอดรู้สอดเห็นมากไปเปล่าว่ะ ...”
!!!ผัวะ!!!
เสียงบอลตบหัวเอกอีกรอบ ...
“ปากหมาอีกแล้วนะไอ้เอก ... หายเจ็บแล้วใช่ม่ะ งั้นโดนอีกทีคงไม่เป็นไร ... เค้าเรียกว่าเอาใจใส่คนรอบข้างโว้ย ... ไม่เหมือน

เอ็งหรอก วันๆ เอาแต่ตลกจีบหญิง ไม่ก็ปากหมา ...”

“เจ็บนะโว้ย ... โดนสองทีติดเนี่ย ... ไอ้เวงบอล... แล้วเอ็งจามาอะไรกะข้าล่ะ ข้าจะไปจีบหญิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือว่าเอ็ง

หึง...”
บอลก้มหน้านิ่ง ไม่อยากมองหน้าเอก ที่มองมาอย่างท้าทาย ... ก็ในเมื่อมีแต่เอกคนเดียว ที่รู้ว่าเค้าเป็นแบบไหน ... และเอกห้ามเด็ดขาด

ไม่ให้บอลบอกให้นัทรู้ เพราะนัทดูจะใสซื่อเกินไปกับเรื่องพวกนี้ ... นัทที่เห็นท่าว่าเรื่องจะไปกันใหญ่ ... ก็เลยพูดยุติสงครามที่กำลังจะ

เกิดขึ้น ... ถึงแม้จะแปลกใจกับสิ่งที่เอกพูดกับอาการของบอลก็ตามที ...
“พอเถอะน่า กัดกันอยู่ได้ ... อาจารย์เดินมาแล้วว่ะ ...”

หลังเลิกเรียน ... แทนไท มักจะมาดักรอนัท ที่หน้าห้องเรียนเสมอ ... ชวนไปกินโน้น กินนี้เป็นประจำ ... แต่นัทก็ไม่มีอารมณ์จะไป

ไหนเลย ได้แต่เลี่ยงๆ ไปตลอด ...

“น้องนัทครับ ... วันนี้ไปกินข้าวเย็นกับพี่นะ ...”
“เอ๊อ ... คือว่าผม ...”
นัทไม่รู้ว่าวันนี้จะบอกว่าไง ได้แต่หันไปมองหน้าเอกกับบอล ... ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ...
“วันนี้...ห้ามปฏิเสธนะครับ เพราะพี่มาทวงสัญญา...”
“สัญญา ...?”
“ก็สัญญา ... ที่นัทจะตอบแทนพี่ไงล่ะ จำไม่ได้แล้วเหรอ แค่ไปทานข้าวกับพี่เอง นะ น๊า ... นะครับ หรือจะชวนเพื่อนไปด้วยก็ได้นะ”

นัทหันไปมองหน้าเพื่อนๆ ... แต่เอกส่ายหน้า เพราะวันนี้ที่บ้านให้เค้ารีบกลับ ... บอลเองก็เหมือนกัน ไม่งั้นเค้าก็อยากไปเป็นเพื่อน

นัท...
“ไปไม่ได้ว่ะนัท วันนี้ที่บ้านให้รีบกลับว่ะ... ไอ้บอลก็เหมือนกัน ... อีกเดี๋ยวรถที่บ้านคงรับแล้วอ่ะ”
นัทพยักหน้าอย่างเข้าใจ ... และหันไปให้คำตอบกับแทนไท ...
“งั้นไปก็ได้ครับ ... แต่คงไม่ดึกหรอกนะ เพราะผมเกรงใจคุณป้าถ้าต้องกลับดึกๆ ...”
“ไม่ดึกหรอกครับ รับรองว่าไม่เกินสองทุ่ม น้องนัทได้กลับถึงบ้านแน่ๆ ... งั้นไปกันเลยนะรถพี่จอดอยู่ด้านหลังครับ”
“ครับ ...”
นัทหันมาโบกมือให้เพื่อน แล้วจึงเดินตามแทนไท ไปที่ประตูด้านหลังของสถาบัน ...

เอกและบอลที่เดินออกมาด้านหน้าสถาบันเพื่อรอรถ กำลังถูกสายตาคู่หนึ่งมองอยู่โดยไม่รู้ตัว ...
“น่าเป็นห่วงนัทว่ะ ... ไม่รู้เป็นไงมั้ง ...”
“เป็นห่วงไรว่ะบอล ... ก็แค่ไปกินข้าว ...”
“นี่เอก ไม่สังเกตอะไรบ้างเลยหรอ ... บื้อจริงๆ ...”
“ด่ากรูอีก ... แล้วหมายความว่าไง ... ไอ้คนช่างสังเกต”
“ก็ ... อีตาแทนไท เจ้าขอ่งสถาบันน่ะ เค้าจ้องนัทอยู่นะซิ ... หวังว่านัทจะเอาตัวรอดได้นะ”
“เฮ้ย ... จิงดิ แล้วไมเอ็งไม่บอกก่อนหน้านี้ว่ะ ... ไอ้เวง ... ปล่อยเพื่อนเข้าปากเสือแล้วไหมล่ะ”
“ช่าย ... เสือไบด้วยซิ ... เห็นมีข่าวซุบซิบ ว่าควงหญิงไม่ซ้ำหน้า แต่ท่าทางเด็กหนุ่มหน้าตาดีๆ น่ารักๆ คงถูกใจเหมือนกัน...”
“เฮ้ย...บอล...ตามไปด้วยดีกว่าว่ะ ชักไม่ชอบมาพากลซะแล้วซิ...”
“สงสัย...จาไม่ทันซะแล้วว่ะเอก ... ป่านนี้เค้าไปถึงไหนแล้วไม่รู้ อีกอย่างเอกกล้าขัดคำสั่งที่บ้านหรือไง...ทำเป็นปากดี”

เอกทำหน้าสลดลงนิดนึง ใจก็เป็นห่วงเพื่อน...แต่เหมือนว่าจะทำอะไรไม่ได้ซะเลย ...
“หวังว่า...คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน ... ไอ้นัทก็เก่ง ... มันคงเอาตัวรอดได้หรอก ... แต่ถ้าไม่ ... ไอ้คุณแทนไท นั่น

ตายแน่...”
“อืม...คิดเหมือนกัน...นัทน่ะซื่อๆ ไม่ค่อยทันเรื่องพวกนี้หรอก ... แม้แต่ใจตัวเองจะรู้เปล่าก็ไม่รู้...”
“หมายฟามว่าไงว่ะ ... ชอบพูดมีลับลมคมในนะไอ้บอล...”
“เฮ้ย เฮ้ย ... เอก ... ดูนั่นจิ ...”
“ไหนว่ะ...เห็นอะไร...”
“ก็คนที่อยู่ในรถนั่นไง ... แกจำไม่ได้หรอ...”

เอกมองตามสายตาของบอล และต้องแปลกใจเมื่อสายตาไปพบกับคนที่เค้าไม่คิดว่าจะได้เจอในเวลาแบบนี้ ... ธวัฒน์นั่นเองที่นั่งอยู่ในรถที่จอด

อยู่ ไกลออกไปพอสมควร ... เอกกับบอลถึงกับผวา เมื่อคนในรถก้าวลงมาและเดินมาทางพวกเค้า ...
“เฮ้ยเอก ... เค้าเดินมาทางนี้แล้วว่ะ เอาไงดีว่ะ ... รถที่บ้านก็ยังไม่มาเลยอ่ะ”
“ก็เฉยๆ ซิว่ะ อย่าทำเป็นสนใจนักซิ ... คงไม่มีอะไรหรอก...”

“เธอ...สองคน...”
ธวัฒน์ที่เพิ่งมาถึง พูดกับเอกและบอล ที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตา เหมือนไม่อยากให้ใครจำหน้าได้ ... แต่ต้องสะดุ้งเมื่อธวัฒน์มายืนอยู่ข้างหลังและ

กำลังพูดกับพวกเค้า ...
“ค...ค...ครับ ... ม...มีอะไรกับพวกเราเหรอครับ ...”
“นัทไปไหน ... ทำไมวันนี้ไม่ออกมาพร้อมกันล่ะ ...”
“เอ๊อ ... คือว่า ... นัทเค้า ... ป ... ป ... ไปกินข้าวกับคุณแทนไทครับ”
“งั้นเหรอ ... พวกเธอมีเวลาสักครู่ไหม ... พี่มีอะไรจะคุยด้วยสักหน่อย...”
“ได้ครับ...”
เอกและบอลตอบ พร้อมกัน ...

เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ... เมื่อธวัฒน์คุยกับเอกและบอล ...
“หวังว่าพวกเธอคงจะทำตามสัญญานะ...”
“ครับ พวกเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ...” เอกหันไปพยักหน้ากับบอล ที่พยักหน้ารับเหมือนกัน ... และบอลจึงหันไปพูดกับธวัฒน์ ...
“รถที่บ้านมารับพวกเราแล้วล่ะครับ พวกเราคงต้องกลับแล้ว ... แต่ผมว่า ... พี่วัฒน์น่าจะไปตามหานัทนะครับ ...”
“อืม ... ได้ แล้วพี่จะลองโทรไปหาไอ้แทนมันดู...ว่าแต่พวกเธอห้ามบอกเรื่องที่เราคุยกันวันนี้ให้นัทรู้นะ”
“ครับ...ได้ งั้นพวกเราไปก่อนนะครับ...”

ธวัฒน์ดูจะร้อนใจไม่น้อย ... ที่ไม่สามารถติดต่อแทนไทได้ เพราะโทรศัพท์มือถือเหมือนจะถูกปิดมากกว่า ... ทุกครั้งที่นัทมาเรียน เค้าจะ

หาเวลาแวะมารอดูนัทเสมอ ว่าขึ้นรถแท็กซี่ ตรงกลับบ้านหรือไม่ ... ซึ่งทุกครั้ง นัทก็ไม่เคยเหลวไหลไปไหนเลย ... จนวันนี้แหละ ที่

ธวัฒน์อดแปลกใจไม่ได้ที่นัท ไม่ได้เดินออกมาพร้อมกับเพื่อนๆ ... แต่เมื่อรู้ว่าไปกับ แทนไท จึงวางใจว่าไม่เป็นอะไร และหันไปคุยธุระกับเอก

และบอลซะก่อน ... แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ง่ายซะแล้ว ... เมื่อไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ มันยิ่งทำให้ธวัฒน์หงุดหงิดมากขึ้น ...

“ไปไหนกันนะ ... ไอ้แทน ... มือถือก็ไม่เปิด…”
กดจนแทบโทรศัพท์พัง ... แต่ก็ยังไม่ติด จนโทรศัพท์หลุดมือ ... ตกลงไปใต้เบาะ ...
“โธ่โว้ย ...”
ธวัฒน์เอื้อมแขนลงไปเก็บโทรศัพท์ ทำให้เผลอไม่ได้มองทางข้างหน้าไปชั่วครู่ ... แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้น แบบไม่ทันตั้งตัว

...
!!! เอี๊ยด ..... โครม !!!
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 29-04-2007 22:47:49
 :yeb:
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

16…

ที่ร้านอาหารย่านชานเมือง … แทนไท และนัท กำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ … แทนไท นั้นแทบไม่ได้กินเพราะมัวแต่มองหน้าของอีกคนจนนัทเริ่ม

อึดอัด …
“พี่แทน ไม่ทานเหรอครับ มัวแต่มองหน้าผมอยู่นั่นแหละ หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือเปล่าเนี่ย…”
“เปล่าๆ … หน้านัทไม่มีอะไรติดหรอก … เพียงแต่พี่กำลังมองคนน่ารักต่างรัก …”
o_O
“พี่แทนอย่าพูดเล่นแบบนี้ซิครับ … ผมไม่ปลื้มด้วยหรอกนะ…”
“นัทชอบพี่ไหมครับ …”
“ทำไมพี่ถามแบบนี้ล่ะครับ … พี่เป็นคนดีนะครับ นิสัยก็ดี … ผมต้องชอบพี่อยู่แล้วล่ะ…”

ชายหนุ่มช่างใจอยู่ครู่นึง รู้สึกประทับใจที่เด็กคนนี้ซื่อบริสุทธิ์ และเป็นมิตรกับทุกคน ...
“พี่ไม่ได้หมายถึงชอบแบบธรรมดานะ พี่จริงจังนะครับ … นัทรู้ไหมว่าพี่น่ะแอบชอบนัทตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเลยนะครับ…”
“ง่ะ … พี่แทนพูดอะไรแปลกๆ … ผมเป็นผู้ชายนะครับ ….”
“พี่ไม่สนหรอก ว่านัทจะเป็นผู้หญิงหรือชาย พี่รู้แค่ว่าพี่ชอบนัท เท่านั้นเอง …”

นัทที่เห็นแววตาของอีกฝ่ายที่กำลังมองอย่างเอาจริงเอาจัง ถึงกลับต้องกระสับกระส่ายจนเริ่มทำตัวไม่ถูก …
“ม…ม…หมายความว่าพี่แทน … เป็น … เอ๊อ …”
“ใช่ครับ … พี่เป็นเกย์…”
ชายหนุ่มตอบให้แบบไม่อ้อมค้อม …
“แต่พี่เป็นเกย์ที่สามารถชอบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเท่านั้นเอง … และที่ผ่านมาพี่ก็ไม่เคยชอบใครจริงจังมาก่อน จนมาเจอนัทนี่แหละ …”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับพี่แทน ร…เราเป็นผู้ชายเหมือนกัน และอีกอย่างสังคม … ยัง …”
“ช่างสังคมมันซิ … นัทอย่าไปยึดติดกับมันได้ไหมครับ … รู้ไหมว่าเดี๋ยวเนี่ย … คนอย่างพี่ก็มีเยอะแยะไปในสังคม เพียงแต่พวกเค้าไม่กล้าที่จะ

เปิดเผย ก็เพียงเพราะไอ้กฏเกณฑ์บ้าๆ บอๆ ที่ว่า ผู้ชายจะต้องรักกับผู้หญิงและผู้หญิงต้องรักกับผู้ชาย … ทำไมล่ะ หากผู้ชายจะรักผู้ชาย และผู้หญิงจะ

รักผู้หญิงบ้าง … มันผิดเหรอครับที่เราจะแค่ทำตามสิ่งที่เราเกิดมาเพื่อจะเป็น”

“คือ…ผมไม่ได้รังเกียจ พวก…คนที่เป็นแบบนี้หรอกนะครับ … เพียงแต่ ผม … ผมไม่ได้เป็นและคงไม่สามารถจะรับความรู้สึกของพี่ได้ด้วย”
“นัทแน่ใจเหรอครับ ... แต่พี่ว่าพี่มองออกนะว่านัทก็เหมือนพี่ เพียงแต่นัทอาจจะยังไม่แน่ใจตัวเองเท่านั้น ...”
“พ...พี่แทนพูดอะไรน่ะครับ ผมเนี่ยนะ ... พี่จะรู้ได้ยังไง ผมน่าจะรู้ดีที่สุดถึงจะถูกนะครับ...”

แทนไท ส่ายหน้าเล็กน้อย ... ไม่ได้เบื่อคนตรงหน้าแต่เอ็นดูต่างหาก สักวันนัทคงจะเข้าใจในคำพูดของเค้า ... ทั้งๆ ที่กะจะรวบรัดซะวันนี้

เลย ... แต่พอเห็นหน้าใสๆ ซื่อๆ แล้วเค้าก็ต้องยอมถอดใจ เพราะตอนนี้ยังไม่อยากโดนเกลียดไปมากกว่านี้ แค่มาสารภาพตรงๆ แบบนี้ มันก็

อาจทำให้นัท เริ่มไม่ไว้วางใจในตัวเค้าไปแล้ว ...

“พี่อยากให้นัทรู้ไว้นะครับว่า ... หากวันหนึ่งนัทแน่ใจในตัวเองและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นแล้วล่ะก็ พี่...ยังคอยอยู่นะครับ”
“เอ๊อ...ขอบคุณนะครับ ... ที่พี่แทนมีความรู้สึกดีๆ กับผม แต่ถ้าผมจะรักใครสักคน ...”
ภาพใครคะนึงมันผ่านเข้ามาในความคิดของเด็กหนุ่ม ... นัทยังไม่เข้าใจ และพยายามไล่มันออกไปจากสมอง ...
“คงจะเป็นผู้หญิงสักคน ... คนที่ผมรัก ... หวังว่าพี่แทนคงจะเข้าใจนะครับ ...”
“เฮ้อ ... เอาเถอะนะ สักวันนัทอาจจะมาขอให้พี่ช่วยก็ได้ ... สักวัน ... ว่าแต่เรากลับกันเถอะนะ ป่านนี้ที่บ้านคงจะห่วงนัทกันแล้ว

ล่ะ”
“ก็ดีครับ ... แต่คงไม่มีใครอยู่ตามเคยล่ะครับ ... คุณลุงคุณป้า และ ... เอ๊อ ... พี่วัฒน์ ... กลับดึกกันทุกวันเลยล่ะครับ”
“งั้นเหรอครับ ... เค้าคงจะงานยุ่งกันน่ะ…”

……………………………………………………………………………………………………………

“ห๊า ... ว่า ... ว่าไงนะครับนมพริ้ม ... คุณวัฒน์ประสบอุบัติเหตุ ...”
“ค่ะ ... ช ... ใช่ค่ะ ทางโรงพยาบาลเพิ่งโทรมาบอกเมื่อสักครู่นี้เอง ... ก็พอดีคุณนัท กลับมานี่ล่ะค่ะ…”
“แล้วคุณลุงกับคุณป้าล่ะครับ นมโทรบอกท่านหรือยัง ...”
“ยังไม่ได้ติดต่อเลยค่ะ ... เพราะท่านไปต่างประเทศกัน นมยังไม่ทราบเลยค่ะว่าไปที่ไหน คงมีแต่คุณวัฒน์คนเดียวที่ทราบ”
“ค...คุณป้าไปต่างประเทศ ผมไม่ทราบเลยครับนม ...”

“ท่านจะไปกันบ่อยค่ะ บางทีก็ไปแบบปุ๊บปั๊บ ... นี่ก็เพิ่งมาเก็บกระเป๋าและไปสนามบินเมื่อช่วงบ่ายนี่เอง ...”
แทนไท ที่มาส่งนัท ยืนฟังอยู่อย่างสงบ ก่อนจะพูดปลอบใจนัทไม่ให้คิดอะไรมาก ...
“พี่ว่า...เราไปโรงพยาบาลกันก่อนดีกว่านะ ... ส่วนนมช่วยตรวจดูเบอร์โทรศัพท์นะครับ เผื่อท่านนายพลกับคุณหญิงจะทิ้งเบอร์ไว้ให้ติดต่อ

บ้าง...”
“ค่ะ...ด...ได้ค่ะ...”
“ส่วนนัท ... ไปกับพี่ครับ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาล ...”
รถของแทนไท แล่นออกไปแล้ว ... ก็พอดีกับที่นมพริ้มวิ่งออกตามออกมา .... แต่ก็ไม่ทันซะแล้วเมื่อรถแล่นพ้นประตูบ้านออกไปก่อน

....
“อ้าว ... ไปกันซะแล้ว ... ดั๊นลืมบอกซะได้... แต่คงไม่เป็นไรหรอก ...”
บ่นกับตัวเองแล้ว นมพริ้มก็เดินเข้าไปหาเบอร์โทรศัพท์ต่อ ... โดยมีนัทและแทนไท ที่กำลังร้อนใจ ไปตลอดทาง ... ก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล

นัทไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้ ... เพราะอะไรกันนะ นัทไม่คิดว่าเค้าจะเสียใจได้มากขนาดนี้ ... เพราะธวัฒน์ที่เปรียบเหมือนพี่ชาย

คนนึงของเค้า มันอาจเป็นแค่ความผูกพันที่เกิดขึ้น จากการที่เด็กหนุ่มต้องการครอบครัวที่อบอุ่นก็ได้ละมั้ง ... แต่ระยะเวลาแค่สองสัปดาห์ใน

บ้านหลังนี้ ... มันทำให้เค้าเกิดความผูกพันกับธวัฒน์ได้มากขนาดนี้เลยหรือ ... สองสัปดาห์ที่แทบไม่ได้คุยกันเลย ...

แทนไท และนัทขึ้นมาถึงชั้นที่ 10 ของโรงพยาบาลดังในกรุงเทพฯ ตามที่นมพริ้มได้บอกไว้ ...
“เดี๋ยวพี่ไปสอบถามที่เคาเตอร์ก่อนนะครับ ... น้องนัทอย่าเพิ่งไปไหนล่ะ รอพี่อยู่นี่นะ ....”
“ค...ครับ”
นัทตอบรับ แต่ในใจมันก็ร้อนรนและเจ็บปวดอย่างประหลาด น้ำตายังไหลไม่หยุด จนไม่สามารถทนยืนอยู่เฉยๆ ได้ ... เค้ากลัว กลัวว่าจะไม่มีอา

กาสได้ปรับความเข้าใจ ก่อนที่มันจะสายเกินไป ...
ทำไมนะไอ้นัท ทำไมไม่พูดทำไมไม่คุยว่ะ ถึงแม้จะรู้ว่าเค้าไม่อยากพูดด้วยก็เถอะ ...

เหตุการณ์บางอย่างมันย้อนกลับมาในความคิด เหตุการณ์ที่ยากจะลืม ... เหตุการณ์เมื่อตอนที่นัทยังเป็นเด็ก ยังเอาแต่ใจ ...

นัทไม่ยอมพูดกับพ่อเลยตลอดหนึ่งสัปดาห์ เพียงเพราะท่านไม่ยอมซื้อของเล่นที่นัทอยากได้ให้ ของเล่นที่กำลังฮิตมากในหมู่เด็กอเมริกัน และเพื่อนๆ

ของนัททุกคนก็มีกันหมด ... ถึงแม้คุณแม่จะพยายามพูดเกลี่ยกล่อมยังไง นัทก็ยังไม่ยอมอยู่ดี ไม่มองหน้าและไม่พูดด้วยแม้แต่คำเดียว ...

จนวันที่นัทไม่เคยลืมก็มาถึง เมื่อพ่อของเค้าประสบอุบัติเหตุ ... จากไปอย่างไม่มีวันกลับ นัทยังจำได้ ที่โรงพยาบาลศพของคุณพ่อ ... ที่ใน

มือยังถือของเล่นที่เค้าอยากได้อยู่ ... มันมีแต่เลือดเต็มไปหมด ... สิ่งที่เค้าอยากได้ แลกกับชีวติของคนที่รัก ... มันคุ้มแล้วหรือ ?

ตั้งแต่วันนั้น นัทก็ไม่เคยอยากได้อะไรอีกเลย เค้าเสียใจ แต่เสียใจมากที่สุดที่ไม่มีโอกาสพูดกับพ่อดีๆ เหมือนที่เคยทำ พูดกับท่านก่อนที่จะเสียท่านไป

...

นัทหันไปมองเห็นแทนไท ที่อยู่ไกลออกไปกำลังพูดคุยสอบถามกับประชาสัมพันธ์ ... พลันสายตาที่พล่าเลือนก็มองไปที่ทางเดินอีกด้าน ...

นัทอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป มันเหมือนมีบางสิ่งดึงดูดให้สองขาก้าวเข้าไปหามัน ... ทั้งสองฟากของทางเดินเป็นห้องคนไข้จำนวนมาก เงียบสนิท

ดูเปล่าเปลี่ยวจนขนลุก ... เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจชื่อ บนประตูแต่ละห้อง ตลอดทางที่เดินไป ... จนมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องที่อยู่สุด

ทาง

ห้อง ..... 1018
ชื่อคนไข้ ..... ธวัฒน์
อุบัติเหตุ

มือที่ยื่นออกไปผลักประตูสั่นเทา ... ทุกย่างก้าว ... เหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนไปอย่างเชื่องช้า ... สายตามองแต่ที่ปลายเท้าตัวเอง

เพราะยังไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่เตียง ... จนเดินมาถึงที่เตียงนั่นแหละ ... จึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ... ช้า ... เหมือน

กับกลัวว่าจะได้พบสิ่งที่มันเคยติดตาเค้ามาตั้งแต่อดีต ...

ภาพตรงหน้า มันทำให้นัทแทบยืนไม่อยู่ ... ผ้าสีขาวปิดคลุมร่างของชายที่นอนอยู่บนเตียง ... ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ... นอนนิ่ง

ไม่ไหวติง ... ปราศจากสัญญาณแห่งชีวิตอย่างสิ้นเชิง ... มีเพียงแขนข้างเดียวที่โผล่พ้นออกมานอกผ้านั้น ... หน้าของนัทซีดเผือด

เหงื่อเย็นๆ ไหลหยดลงมาจากปลายคางของเด็กหนุ่ม ...
นี่ ... นี่ ... เรามาช้าไปเหรอเนี่ย ... ทำไม ... ทำไมกัน .... ไม่อยากเห็นภาพแบบนี้อีกแล้วนะ พอกันที พอแล้ว ...

มันมากเกินไปแล้ว ...

!!! พี่วัฒน์ !!!
“ลุกขึ้นมาซิ ... ลุกขึ้นมา ... !!! ได้ยินไหม !!! ผมบอกให้ลุกขึ้นมาไง ...”
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 30-04-2007 00:08:29
ค้างคาจัง อยากอ่านต่ออ่ะคับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 30-04-2007 16:06:28
โห....ม่ายง่ายจริงจริง  รักนี้   :110011: :เชิป2:
น้องนัทก็มีความหลังฝังใจ เศร้าๆ กะเค้าด้วย 
แล้วพี่วัฒน์ จะตายไหมเนี่ย  ดี ดี กันซะ
พี่วัฒน์เป็นงี้เพราะน้องนัทแท้ๆเล๊ยยย (ก็หึงซะขนาดดดนั้นน่ะ ) :laugh5:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 30-04-2007 18:50:07
อิอิ  เริ่มจะทนห้ามใจกันต่อไปไม่ไหวแล้วละซิ
พี่วัฒน์นี่เริ่มห่างตั้งแต่ไปหอมแก้มน้องนัทที่ห้องทำงานแล้วรีบไปล้างหน้าป่าวเนี่ย
กลัวใจตัวเองกันซะ  แต่ก็ดีนะ  ทำให้รู้ใจตัวเองมากขึ้น

ตอนนี้วัฒน์คงไม่เป็นไรหรอกม้างง  เด๋วก็มาอยู่ข้างหลังนัทตอนร้องไห้เป็นเผาเต่าอะป่าว
อยากอ่านต่อแย้ววววว  ชอบเรื่องนี้  หนุกดี  เหมือนละคร นางร้ายอิจฉาซะ  น่าตบชะมัด

รออ่านต่อจ้า ให้ไวๆ   :yeb:
ปล  น้องหมีไปเที่ยวหนุกป่าว  อิอิ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-04-2007 22:21:00
อืม พิมวิเคราะห์ได้ดีจริง ๆ เห็นด้วยนะนี่  :laugh3: คู่นี้เริ่มแปลก ๆ ตั้งแต่หอมแก้มกันแย้ว  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 01-05-2007 00:52:25
ไปเที่ยวมาก็สนุกดีคับ  ได้เจอ เพื่อนใหม่เยอะแยะเลย  ฮ่าๆๆ   

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

17...

“โอ๊ย...โอ๊ย...คนเจ็บจะตายอยู่ล่ะ ... มาโวยวายเสียงดังอยู่ด้ายยย ...”
นัทที่กำลังเขย่าตัวของคนที่นอนอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ... ต้องสะดุ้งทั้งน้ำตา ... เมื่อได้ยินเสียงและเห็นแขนที่เอื้อมไปเปิดผ้าที่คลุมหน้าออก ...
“พ...พ...พี่วัฒน์...ยัง...ม...ม...ไม่ตาย...”
“อ้าว...อ้าว...ไหงมาแช่งกันแบบนี้ล่ะ...เจ็บแค่นี้ไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า... หรืออยากให้พี่ตายนักหรือไง ...”

“พี่วัฒน์อย่าพูดแบบนั้นนะครับ ... ผมแค่นึกว่า ...”
นัทหยุดร้องไห้ทันทีแล้วตีสีหน้าขึงขัง ถึงจะยังมีคราบน้ำตาติดอยู่เป็นหลักฐาน นั่นก็ไม่ใช่เพราะโกรธคนป่วยแต่เพราะอายตัวเองที่โวยวายเสียงดัง โดยไม่ดูอะไรให้ดีเสียก่อน ... และยิ่งเขินมากขึ้นเมื่อธวัฒน์มองหน้าเค้าอยู่เหมือนกำลังดีใจอะไรสักอย่าง ... จนต้องรีบหันหน้าหนีและจะเดินออกไปข้างนอก แต่ก็ถูกธวัฒน์ดึงข้อมือไว้ซะก่อน ...
“เดี๋ยวซิ จะรีบไปไหน ... จะทิ้งคนป่วยไว้คนเดียวหรือไง”

นัทที่โดนดึงข้อมือ ... ต้องหันมามองตามแขนยาวที่รั้งเค้าไว้ ... พอมองหน้าคนดึงที่ยิ้มซะแก้มแทบปริ ... ไม่รู้ว่ายิ้มหาอะไร
“ก็ในเมื่อพี่วัฒน์ไม่เป็นไรแล้ว ผมกลับดีกว่า...”
“ไหงใจร้ายแบบนี้อ่ะ ... ทีแรกยังร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่เลย เป็นห่วงพี่ก็บอกมาตรงๆ ดีกว่าน่า...”
“ใคร...ใครร้องไห้ครับ...อย่าเข้าข้างตัวเองมากไปจะดีกว่า ผมไม่ร้องไห้เพราะพี่หรอก ... แล้วก็ปล่อยผมได้แล้ว ...”
นัทสะบัดแขนอย่างแรงเพื่อให้หลุดจากมือที่รั้งข้อมือเค้าไว้ ... จนธวัฒน์ร้องเสียงดัง ... ด้วยความเจ็บ ...
“!!! โอ๊ย !!! ... จ ... เจ็บ ...”

นัทตกใจ และเพิ่งสังเกตเห็นว่าแขนอีกข้างหนึ่งของธวัฒน์ใส่เฝือกอยู่ ... จนต้องรีบเข้าไปดูใกล้ๆ ด้วยความเป็นห่วง ...
“พ...พี่วัฒน์ จ...เจ็บเหรอครับ ผม...ผมขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ....”
“เจ็บซิ ถามได้ ... คืนนี้ต้องรับผิดชอบนอนเฝ้าพี่ด้วย เข้าใจไหม ...”
“หา...ให้ผม น...นอนเฝ้าเหรอครับ ... ผมว่าพี่ให้พยาบาลเฝ้าจาดีกว่านะ ...”
“ไม่อาววว...น๊า...นะ นะ”
“เฮ้ย...คนป่วยอะไรว่ะ อยากให้ผู้ชายเฝ้าไข้ มีแต่เค้าจะอยากให้พยาบาลสาวสวยมานั่งเฝ้านะเอ็ง...ไอ้วัฒน์”
แทนไท ที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่นานพอสมควร ส่งเสียงทักทาย และเดินเข้ามาที่เตียงของเพื่อน ...
“เอ๊อ ...พี่แทน เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ...”
แทนไทหันมายิ้มกับนัท โดยไม่ได้ตอบอะไร และหันไปมองหน้าคนป่วยที่นอนอยู่ ...
“ไง ไอ้แทน...วันนี้พาน้องข้าไปไหนมาล่ะ ...”
แทนไท ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยที่ธวัฒน์รู้ ... คงมีเพียงแต่นัท ที่แปลกใจจนแสดงออกทางสีหน้า แต่ก็รู้สึกผิดอยู่นิดหน่อยที่ไม่ได้โทรไปบอกว่าจะไปไหนหลังเลิกเรียน จึงได้แต่ก้มหน้าฟังอยู่นิ่งๆ ... แต่ก็ไม่ได้เอ๊ะใจเลย ว่า ... การที่ธวัฒน์ต้องประสบอุบัติเหตุเพราะกำลังตามหาเค้า ...
“ก็แค่ไปกินข้าวเย็นว่ะ ... แต่พอไปส่งที่บ้านถึงได้รู้ว่าเอ็งเข้าโรงพยาบาลนี่แหละ ... ว่าแต่ไปทำอีท่าไหนว่ะ ถึงได้ขับรถชนซะได้”
ชายหนุ่มสองคนกำลังมองตากัน เหมือนกำลังอ่านความคิดของกันและกัน ... บรรยากาศชวนอึดอัดจนนัทเอง ยังรู้สึกได้ ... ก่อนที่ธวัฒน์จะตอบที่เพื่อนถาม ...“ก็แค่เผลอนิดหน่อยว่ะ ... ไม่มีอะไรหรอก ...”

“เออ ... ถ้าไม่เป็นไรมากก็ดี ... งั้นข้ากลับก่อนล่ะกัน”“ขอบใจว่ะที่ว่าเยี่ยม...”
“ว่าแต่น้องนัท กลับถอะครับ ดึกแล้ว...ไม่ต้องเฝ้าไอ้วัฒน์ให้ลำบากหรอก ... พยายามเค้าดูแลอยู่แล้วล่ะ...”
“อ้าว ... ไอ้แทน จะกลับ ก็กลับไปซิว่ะ ... น้องก็ต้องนอนเฝ้าพี่ชายซิ ... กลับไปเลยไป ...”

แทนไท หันไปทางนัท ที่กำลังตัดสินใจอย่างยากลำบาก ...
“ผมว่า... ผมจะอยู่เฝ้าพี่วัฒน์น่ะครับพี่แทน ... ยังไงต้องขอบคุณนะครับที่มาเป็นเพื่อนผม...”
“อืม ... ถ้าน้องนัทอยากอยู่พี่ก็ไม่ขัดครับ เอาไว้พรุ่งนี้พี่มารับนะ ...”
“เออ..ขอบใจ กลับไปเถอะ ...”
ธวัฒน์พูดขัดขึ้นแทนนัท ที่กำลังจะตอบ ... จนแทนไท หันมามองตาเขียว ก่อนจะเดินกลับออกไป ...
...
ยามเช้า ... ที่โรงพยาบาล แสงแดดอบอุ่นส่องผ่านม่านเข้ามาในห้อง ... ธวัฒน์ตื่นนานแล้ว กำลังมองคนที่นอนหลับอยู่ข้างเตียง ... ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ธวัฒน์พยายามจะหลบหน้ามาตลอด ได้แต่คอยดูแลอยู่ห่างๆ ในฐานะของพี่ชาย จอดรถคอยดูจนกว่านัทจะเลิกเรียน และขึ้นรถกลับบ้านนั่นแหละ เค้าจึงจะไปทำงานต่อหรืออาจไปหานภัทรบ้าง ... จะกลับเข้าบ้านก็ดึกดื่น แต่มาวันนี้ เหมือนว่าความพยายามที่ผ่านมามันจะล้มเหลว เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวาน ... อดที่จะดีใจไม่ได้เมื่อมีคนเป็นห่วงเป็นใย นอกจากพ่อและแม่ หรือนมพริ้ม ก็ไม่คิดว่าจะมีใครร้องไห้ เพราะห่วงเค้าอย่างจริงใจแบบนี้ ...

ธวัฒน์ค่อยๆ เอื้อมมืออย่างช้าๆ ไปลูบผมของคนหลับ ... หน้าตอนหลับมันช่างดึงดูดใจ ... น่ารัก น่าทะนุถนอม ... กว่าผู้หญิงหลายๆ คน  ... ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันแปลก แต่เค้าก็เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร แต่กับเด็กคนนี้ ... ทำไมกันนะ... ยิ่งนึกถึงวันที่เค้าพานัทไปที่บริษัทด้วยแล้ว ... ยิ่งละอายใจที่หักห้ามใจตัวเองไม่ไหว ... ตอนที่เห็นนัทนอนอยู่ ... เหมือนมีอะไรเข้าสิงจนขาดสติ เค้าก้มลงไปสัมผัสแก้มของเด็กหนุ่มเบาๆ ความรู้สึกอยากรุกล้ำ อยากทำให้แปดเปื้อน มันก่อเกิดขึ้นในใจอย่างห้ามไม่ได้ ... พอเริ่มได้สติก็ต้องไปล้างหน้าล้างตา ล้างอารมณ์บางอย่างให้มันจางลงไป ...

ความเคลื่อนไหวของคนหลับที่กำลังจะตื่น ... ทำให้ธวัฒน์ต้องรีบชักมือกลับทันที ... ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ก็ต้องแกล้งหลับตาไปก่อน ...
“อ้าว ... ยังไม่ตื่นอีกเหรอเนี่ย ...”
นัทที่เห็นธวัฒน์ยังนอนหลับอยู่ บิด หาว ด้วยความขี้เกียจ ... มองซ้าย มองขวา ก็ไม่มีใคร ... เห็นผ้าวางอยู่ผืนนึงก็เกิดความคิดบางอย่าง จึงหยิบผ้าแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ... ก่อนจะเดินออกมาพร้อมผ้าเปียกที่บิดหมาดๆ ... ในใจก็ กล้าๆ กลัวๆ แต่ก็คิดว่า ทำตอนหลับ น่าจะดีกว่าตอนตื่นล่ะน่า ... อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีใครคอยพูดให้ลำคาญ ... และที่สำคัญ คงจะเขินน้อยกว่าด้วย ... เพราะเค้าก็ไม่เคยเช็ดตัวให้ใครมาก่อน ...

เพียงเวลาไม่นาน นัทก็จัดแจง ปลดกระดุมเสื้อของธวัฒน์ออก เผยให้เห็นแผ่นอกและหน้าท้องของชายหนุ่ม ... ช่างไม่รู้เล๊ย ... ว่าตัวเองกำลังทำให้ใจของคนป่วยแทบลุกเป็นไฟอยู่แล้ว ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 01-05-2007 00:54:38
อยากมีคนมาเช็ดตัวให้บ้างจัง อิอิ :give2:

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

18...

ธวัฒน์ที่เกิดมาไม่เคยให้ใครเช็ดตัวมาก่อน เวลาไม่สบายก็มีแค่คุณแม่และนมพริ้มเท่านั้นที่เคยเช็ดให้ ... พอโดนนัทที่แอบเช็ดตัวให้โดยคิดว่าเค้าหลับอยู่ มันกลับร้อนรุ่มจนจะลุกเป็นไฟ ...
“เอ..ทำไมพี่วัฒน์หน้าแดงๆ ล่ะเนี่ย ... สงสัยไข้จะขึ้นละมั้ง ...”
นัทที่สังเกตเห็น อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ ... จึงไปชุบผ้าและกลับมาเช็ดที่หน้าแทน ...  กำลังเช็ดอยู่ ก็พิจารณาหน้าของคนป่วย ที่ยามปกตินัทคงจะไม่กล้ามองแบบนี้แน่ๆ ...
“ทำไม ยิ่งเช็ด หน้ามันยิ่งแดงอ่ะ ... สงสัยต้องไปตามหมอแล้วมั้ง ...”

นัทที่เอามือไปอังที่หน้าผากของธวัฒน์ กำลังจะลุกไปตามคุณหมอ ... กลับต้องชะงักเมื่อจู่ๆ มือข้างนั้นก็ถูกธวัฒน์กุมไว้ ... จากเดิมที่มือของนัทวางไว้ตรงหน้าผาก ธวัฒน์ค่อยๆ เลื่อนมันลงมาตรงจมูก ... และต่ำลงมาที่ปาก ...  เมื่อรู้สึกได้ว่ามือสัมผัสกับริมฝีปากอิ่ม นัทถึงกับต้องชักมือกลับทันที ... เหมือนสติกลับมาและตื่นตัวเต็มที่ ...
“พี่วัฒน์ทำอะไรอ่ะครับ ... นี่แกล้งหลับใช่ไหมครับ ... ทำไมชอบแกล้งผมนักนะ ...”
ธวัฒน์ยิ่มอย่างพอใจ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงเสี้ยวนาที แต่สัมผัสเมื่อครู่ ก็ทำให้เค้าเป็นสุข ... เหมือนอยากจะทำแบบนี้มานานแสนนาน ...
“ก็แกล้งคนอื่น ... ไม่สนุกเหมือนแกล้งน้องชายตัวเองนี่นา ... ว่าแต่เช็ดตัวเก่งนะ ... เคยไปทำให้ใครมาก่อนหรือเปล่า...”
นัทที่รู้ความจริง ตอนนี้หน้าคงแดงจนธวัฒน์สังเกตได้ไม่ยาก ...
“ก็...ตอนเด็กๆ ผมเคยเช็ดตัวให้คุณพ่อตอนไม่สบาย ... เวลาคุณแม่ไม่อยู่บ้านน่ะครับ ...”
“แต่...จับคนอื่นแก้ผ้า ตอนหลับนี่ไม่ค่อยจะดีนะ อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นล่ะ...”
“พี่วัฒน์! … แค่ปลดกระดุมเสื้อเนี่ยนะ ... ไม่ได้จับพี่แก้ผ้าสักหน่อย ...”
“ก็...ถ้าพี่ไม่ตื่นก่อน ก็ไม่แน่ละมั้ง ... จริงป่ะ อยากเช็ดตัวให้ก็บอกดีๆ ก็ได้ พี่จะได้ถอดให้นะ ...”
สายตาของธวัฒน์เหมือนจะพยายามมองลึกเข้าไปในความคิดของนัท จนนัทต้องหลบสายตาไปมองทางอื่นแทน ...
“ผม...ผมไม่ได้...”
“วัฒน์...ขา...เป็นไงบ้างค่ะ...”
เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากประตูที่ถูกเปิดออก ... นัทรู้ดีว่าเป็นใคร มันคงถึงเวลาที่เค้าจะต้องไปแล้วซินะ ในเมื่อคนรักมาแล้วน้องชายก็คงไม่จำเป็นอีกต่อไป ... และธวัฒน์ดูจะขรึมขึ้นกว่าปกติเมื่อได้ยินเสียงของนภัทร ... ยิ้มให้กับหญิงสาวเมื่อเธอเดินมาถึง...
“ภัทร มาได้ไงครับ ...”
“แหม...คุณวัฒน์ใจดำจังนะค่ะ ... นี่คงไม่คิดให้ใครมาเยี่ยมเลยหรือค่ะ ... ทำไมล่ะค่ะภัทรจะได้มาคอยดูและคุณไงล่ะ...”
นภัทรมองไปทางนัท ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะลงไปนั่งที่ข้างเตียงและซบหน้าลงบนแผ่นอกของธวัฒน์ ...
“รู้ไหมค่ะ ว่าภัทรน่ะตกใจมากแค่ไหนพอรู้ว่าคุณประสบอุบัติเหตุ ...”
“ครับ ... ครับ ผมรู้ครับว่าคุณภัทรน่ะเป็นห่วงผม ... และคงไม่มีใครดูแลผมได้ดีกว่าคุณหรอกครับ ... ผมก็กะว่าจะโทรไปบอกอยู่เชียว ...”
นัทที่ยืนดูคนทั้งคู่อยู่เงียบๆ ... กำลังเจ็บแปลบกับคำพูดของคนป่วย ... ไม่อยากจะยืนอยู่เป็นก้างขวางคอ ... จึงต้องถอยออกมาจากห้อง ... เพราะไม่ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่คงไม่มีใครสนใจแล้วล่ะ ... ธวัฒน์เหมือนจะเหลือบมองอยู่นิดนึง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ... คงอยากอยู่กับคนรักมากกว่าละมั้ง ...

นัทกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านเพื่อพยายามขับไล่ความคิดและภาพที่มันรบกวนจิดใจออกไป ... นมพริ้มเข้ามาถามไถ่อาการของคุณวัฒน์ตั้งแต่ตอนที่นัทกลับมาถึง ... และบอกว่าเมื่อคืนลืมบอกไปว่า คุณวัฒน์นั้นต้องเข้าเฝือกและหมอให้นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนเท่านั้น ...
“เฮ้อ ... ทำไมไม่ถามไถ่ให้ดีก่อนนะ... จะได้ไม่ต้องไปให้หน้าแตก ... อยู่บ้านยังจะดีซะกว่าไม่ต้องไปทนเห็นคนตีสองหน้า”

นัทที่นั่งอยู่ในสวน โดยไม่ได้มีสมาธิจะอ่านหนังสือเลย ... กำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย ... ป่านนี้แล้วไม่รู้ว่าออกจากโรงพยาบาลหรือยัง ... จะไปไหนต่อกันหรือเปล่าน่า... แค่ใส่เฝือกข้างเดียวคงจะไปไหนมาไหนได้สบายอยู่แล้วล่ะ ... กำลังคิดเพลินๆ ก็มีเสียงทำลายความฟุ้งซ่านซะก่อน ...
“สวัสดีครับ ...”
นัทหันไปตามเสียงทักทายที่ไม่คุ้นเคย ... ก็ต้องพบกับเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเค้า ... หน้าตาคล้ายๆ ว่าเคยเห็นที่ไหนกันนะ ... เด็กหนุ่มแปลกหน้ากำลังยิ้มทักทาย ... รอยยิ้มมีเขี้ยวแบบนี้ ปากแบบนี้ ... เฮ้ย ... นี่มันยิ้มเหมือนพี่วัฒน์เลยนี่นา ... หน้าแค่มีเค้าคล้ายๆ แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว ที่เหมือนก็คงมีแต่รอยยิ้มเท่านั้นที่เหมือนมากๆ ...
“สวัสดีครับ ... เราชื่อภานุวัตร … แล้วนายล่ะ”
นัทมัวแต่มองจนลืมตัว ทำให้แขกต้องสวัสดี ถึงสองรอบ ...
“เอ๊อ ... สวัสดีครับ เราชื่อ ณัฐภูมิ ...”
“อืม ... นายคงเป็น นัท หลานคุณป้าใช่ไหมล่ะ ... ว่าแต่หน้าเราหล่อมากเหรอ เห็นมองตาค้างเชียว...”
โห ... พูดตรงชะมัด รู้อีกแหนะว่าคิดอะไร ... นัทออกจะเขินๆ เพราะทำเปิ๊นให้ ... คนอื่นจับได้อีกล่ะ ...
“อย่าหลงตัวเองนักเลยครับ ... หน้าตาธรรมดาจะตาย ... (หล่อน้อยกว่าพี่วัฒน์หน่อยเดียว) ว่าแต่มาหาใครหรือครับ...”
“จริงง่ะ ไม่หล่อเลยหรอ ... เสียความมั่นใจเลยนะเนี่ย ... ว่าแต่นายน่ารักดีนะเราชอบ...”
O_o
“ขอร้องได้ป่ะ อย่าพูดอะไรแนวนี้ซิ ... มันแปลกๆ ... ว่าแต่มาพบใครหรือเปล่าครับ จะบอกว่าอยู่หรือเปล่า...”
พอโดนชมตรงๆ แบบนี้ก็ชักจะหน้าแดงๆ อีกแล้ว ... นัทเลยต้องเปลี่ยนเรื่องคุย ...

“อ๋อ ... เป้นพวกปากแข็งซินะ ... เรารู้แล้วล่ะว่า คุณลุงกับคุณป้าไปต่างประเทศ และพี่วัฒน์เข้าโรงพยาบาล นมพริ้มเพิ่งบอกมาเอง...”
เอ๊ะ ... ชักยังไง เรียกทุกคนยังกะสนิทสนมกันมานานงั้นแหละ ... นัทที่ทำหน้าฉงน (???) ทำให้คนที่มองอยู่อดขำไม่ได้ ...
“ก็ไม่แปลกหรอกที่นายจะสงสัย ... ว่าแต่เลิกทำหน้าฉงนได้แล้วนะ... (ยิ่งทำยิ่งน่ารัก)...”
“ไม่ต้องมาว่าคนอื่นเป็นควายเลยนะ ... หลอกด่ากันหรือไง...”
“โห ...ฟิวส์ขาดง่ายจังนะ ยังไม่ได้ว่าสักหน่อย คิดไปเอง...”
ดู ... ดูมันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ... นัทชักจะคันไม้คันมือ... อยากจะชกคนขึ้นมาซะเฉยๆ ...
“ตกลงจะบอกดีๆ หรือจะบอกทั้งน้ำตา ... ว่าคุณภานุวัตร เป็นอะไรกับบ้านนี้ ...”
“บอกแล้วครับ บอกแล้ว ... ใจเย็นๆ ซิ แล้วอีกอย่างเรียก ภานุ เฉยๆ ก็ได้ไม่ต้องมีคุณหรอก ... เราเป็นหลานคุณป้าน่ะ หมายถึงเป็นลูกของน้องสาวคุณหญิงป้า ... ตอนเด็กๆ ก็มาที่นี่ออกบ่อย ... แต่พอคุณพ่อย้ายไปประจำที่อังกฤษก็เลยต้องไปอยู่นั่นตั้งแต่ 10 ขวบ ... นานๆ จะได้กลับมาสักที นี่ก็เพิ่งจบไฮสคูล ... ว่าจะมาต่อมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยแหละ เพราะปีหน้าคุณพ่อคงจะย้ายกลับมาเมืองไทยแล้วอ่ะ ...”
ที่แท้ก็เป็นหลานของคุณป้านี่เอง ... แล้วไอ้นิสัย พูดตรงๆ โผงผางนี่คงจะติดมาจากที่โน่นซินะ ... นัทได้แต่พยักหน้ารับรู้ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ...

“ว่าแต่นัท ก็คงกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนกันซินะ เห็นกำลังอ่านหนังสืออยู่เลย ... งั้นเราก็รุ่นเดียวกันเลย ดีดี จะได้คบกันง่ายหน่อย ...”
-*-
“หา ... นายว่าไงนะ”
“เปล่าๆ ... ไม่มีอะไร ... ว่าแต่ให้เรียก ภานุ ไงล่ะ เรียก นาย อยู่นั่นแหละ มันห่างเหินนะ ไหนๆ เราก็เป็นญาติกันนะ...”
“ผมไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับ ภานุหรือ พี่วัฒน์หรอกนะ ... ผมแค่คนอาศัย ... เพราะเป็นลูกของเพื่อนคุณป้าเท่านั้น”
“โห ... เป็นคนอึมครึมจังเลยนะ ... อย่าคิดแบบนั้นซิ ยังไงก็คนเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกเจ้าของหรือคนอาศัย ก็ไม่เห็นเกี่ยวเลย ... แล้วอีกอย่างนะ เรามาสนิทกันไว้ดีกว่านะ... ดังนั้นนัท ต้องเรียกแทนตัวว่านัท และเรียกภานุว่าภานุ โอเคป่ะ”

นัทกับภานุ กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ ... ที่โต๊ะอาหาร และกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ...ผลัดกันเล่าเรื่องสมัยเด็กๆ เรื่องเพื่อนๆ และอื่นๆ อีกมาก ก็พอดีธวัฒน์ที่กลับมาพร้อมกับนภัทร ... มาเจอเข้าพอดี ... ซึ่งธวัฒน์ดูจะมีสีหน้าตึงกว่าปกติเมื่อมองมาทางนัท ...
“อ้าว ... พี่วัฒน์กลับมาได้แล้วเหรอครับ ... หายเร็วแบบนี้แสดงว่ามีพยาบาลดีแน่ๆ เลย ...”
ภานุเป็นฝ่าย ทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นธวัฒน์ที่มีนภัทรประคองเข้ามา ... ทั้งๆ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นอะไรนอกจากแขนที่เข้าเฝือก ...
“ก็ใช่ พี่ก็ได้คุณภัทรนี่แหละ คอยดูแล ไม่งั้นวันนี้คงยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลหรอก ... ว่าแต่กลับมาถึงเมื่อไหร่ล่ะ ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกเลยว่าจะกลับมาเยี่ยมบ้าน ...”

ธวัฒน์พูด แต่สายตากลับมองไปที่นัท ที่นั่งก้มหน้าอยู่ ... เพราะไม่อยากมองให้เจ็บใจ ... ถ้าอยากให้คนรักมาดูแลก็น่าจะเรียกมาซะตั้งแต่เมื่อคืน ทำไมต้องให้เค้าไปนอนเฝ้าด้วยนะ ...
“ผมคงไม่ได้แค่กลับมาเยี่ยมหรอกครับ เพราะคงจะกลับมาอยู่เลยถาวร เพราะปีหน้าคุณพ่อก็จะมาประจำที่กระทรวงแล้วคงไม่ต้องไปอยู่ไหนไกลๆ อีก ผมกับคุณแม่เลยกลับมาก่อน เพราะผมจะเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยที่เมืองไทยด้วย ...”
“อืม ... ก็ดี ว่าแต่สนิทกันเร็วนะ คงรู้จักกันแล้วซินะ แกมันพวกมนุษยสัมพันธ์ดีไม่เลือกหน้าอยู่แล้วนี่นะ...”

“หมายถึงนัทนะเหรอครับ ก็เรารุ่นเดียวกันก็เลยสนิทกันเร็วนะพี่ ... ว่าแต่ทานข้าวด้วยกันไหมครับ ...”
“ไม่ล่ะ พี่กับคุณภัทรทานมาแล้ว ... จริงไหมครับ ...”
ธวัฒน์หันไปยิ้มหวานให้กับหญิงสาวข้างตัว ก่อนจะขอตัวขึ้นไปพักผ่อนข้างบน ... โดยมีนภัทรตามขึ้นไปดูแล ...
“ดู...ดู คู่นี้เค้ารักกันดีนะ นัทว่าม่ะ ... อีกไม่นานหรอกมั้ง คงได้แต่งแน่ๆ ...”
“ก็...ก็คงอย่างนั้นละมั้ง...”
“ทำไมเหรอ ... ดูท่าทางนัทจะไม่ค่อยชอบคุณภัทรเลยนะ ... มีปัญหากันหรือเปล่า...”
แหม...ไอ้ความช่างสังเกตนี่มันได้มาจากไหนกันนะ ... นัทไม่คิดว่าภานุ จะตาไวและอ่านความรู้สึกได้แม่นแบบนี้ น่ากลัวจริงๆ ...
“ไม่มีอะไรหรอก ... คิดไปเองหรือเปล่าหา ภานุ...”
“ไม่มีก็ดีแล้ว เพราะยังไงเค้าก็คงจะมาอยู่ในบ้านนี้ ไม่ช้าก็เร็วอ่ะนะ ... ว่าแต่เรากลับก่อนดีกว่า ไม่ได้บอกแม่ด้วยว่าจะค้าง ... เอาไว้เจอกันใหม่นะ”
ภานุนั้น กลับไปนานแล้ว ... แต่นัทที่นอนอยู่บนเตียง ก็ยังคงเก็บเอาสิ่งที่ภานุพูดมานอนคิดอยู่ ...
“อีกหน่อย ... คุณภัทร คงจะเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ซินะ...”
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 01-05-2007 01:46:09
 :serius2: มีภาณุเข้ามาอีกคนแล้ว  ชักจะวุ่นกันไปใหญ่
กว่านัทกะพี่วัฒน์จะลงเอยกันได้นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ  :เฮ้อ:

ปล.ไปเที่ยวกลับมาแล้วก็ต่อบ่อยๆนะ อิอิ.. :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-05-2007 03:48:20
เรื่องวุ่นๆจะเกิดอีกแน่เลย ต่อไวไวนะรออ่านอยู่ :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-05-2007 08:08:54
ตัวป่วนมาอีกหนึ่ง  :serius2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 01-05-2007 12:33:22
มาต่อให้แล้วค๊าบ     :yeb:

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

19...

นับจากวันที่ ภานุ กลับมาเมืองไทยก็แทบจะมาขลุกอยู่แต่ที่บ้านของธวัฒน์ เกือบทุกวัน ด้วยเหตุผลที่ ภานุ อ้างว่า เพื่อมาติวหนังสือกับนัท ... ซึ่งทั้งคุณแม่ของธวัฒน์ และภานุ ต่างก็เห็นดีด้วย ... ธวัฒน์เองก็ไม่สามารถขัดอะไรได้ ถึงจะดูไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ก็ตาม ... ที่เห็นเด็กสองคนสนิทกันมากขึ้นทุกวัน ...

“นี่ ภานุ ทำไมแกไม่กลับบ้านกลับช่องบ้างหา ... มาขลุกอยู่นี่จะเป็นเดือนอยู่แล้วนะ คุณแม่ไม่ว่าบ้างหรือไงที่มาค้างบ่อยๆ เนี่ย”
เย็นวันหนึ่งที่โต๊ะอาหาร ธวัฒน์อดที่จะถามไม่ได้ ... ทั้งๆ ที่ก็เคยถามมาหลายครั้งแล้ว และคำตอบก็คงจะไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ...
“ไม่เห็นท่านว่าอะไรนี่ครับ ... ก็ผมบอกว่ามาให้นัทติวหนังสือให้ ... ท่านก็บอกว่าดีด้วยซ้ำไป จริงป่ะนัท...”
ภานุหันไปถามความเห็นจากนัทอีกคน ... แต่นัทได้แต่พยักหน้ารับน้อยๆ และก้มหน้าก้มตาทานต่อไป ... นี่ก็เกือบเดือนแล้วนะที่แทบไม่ได้คุยกะธวัฒน์ ... ก็ไม่ได้กัดกันเหมือนเคย ... มันก็แปลกอยู่ๆ เหมือนกัน เพราะตั้งแต่ ภานุ มาขลุกอยู่ด้วยก็แทบไม่มีโอกาสอยู่กันตามลำพังเลย ... ซึ่งนัทก็คิดว่า ก็ดี ... จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย ... แต่ทุกครั้งที่ธวัฒน์พา นภัทรมาที่บ้าน นัทก็จะดูอารมณ์ไม่ปกติ จนภานุสังเกตได้ และนัทจะพยายามเลี่ยงๆ ไม่เข้าใกล้ เหมือนไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ ยังไงยังงั้น ...

“แล้วนี่ติวกันไปถึงไหนแล้วล่ะ ...”
“เอ...ผมว่าคำถามพี่มันออกจะส่อๆ พิกลนะ ... ถ้าหมายถึงติวหนังสือล่ะก็จบไปหลายรอบแล้วล่ะ ก็มันใกล้จะสอบแล้วนิ แต่ถ้าหมายถึงเรื่องอื่น .... ล่ะก็ ...”
ภานุ หันไปสบตากับนัท ... นัทเองก็รู้ว่า ภานุ หมายถึงอะไร ก็เลยหน้าแดง และศอกเข้าให้ทีนึง เพราะตั้งแต่ได้รู้จักกันมาเกือบเดือน ก็ทำให้นัท รู้ว่าภานุนั้น ทะลึ่งขนาดไหน ...
“พอเลย พอเลย ... อย่ามาทำอะไรแปลกๆ ในบ้านพี่นะ ถ้าจะทำล่ะก็ไปทำที่อื่น ...”
ท้ายประโยคนั้นเหมือนจะจงใจพูดกับ นัทมากกว่าภานุ ... ก่อนที่จะลุกจากโต๊ะและเดินขึ้นไปบนห้อง ... นัทที่สังเกตเห็นก็ได้แต่แสร้งมองไปทางอื่น ... เพราะไม่อยากสนใจกับคำพูดแดกดัน ...

“พี่วัฒน์นี่พูดแปลกๆ เนอะ ยังกะกำลังหึงอยู่งั้นแหละ นัทว่าม่ะ ... ถ้าเราจะรักกันก็ไม่เห็นจะต้องอารมณ์เสียสักหน่อย...”
นัทที่ได้ยินที่ ภานุ พูดถึงกลับหันขวับมามอง ...
“นี่ให้มันน้อยๆ หน่อย ภานุ พี่วัฒน์เค้าจะมาหึงอะไร เค้าน่ะมีแฟนอยู่แล้วนะ แล้วอีกอย่างไอ้ที่ว่าเรารักกันเนี่ย มันหมายความามว่าไงอ่ะ อย่ามามั่วนิ่มนะ”
“อ้าว...นึกว่าเราเป็นแฟนกันซะอีก ... หว๊า... แย่จัง ... อุตส่าห์ดีใจ...”
“มั่วล่ะ ... ไปหาที่อื่นเลยไป ... อย่าให้นัทเป็นโชคร้ายเลย”
“โห ไรหว้า ... เป็นแฟนกะภานุ นี่มันโชคร้ายมากเลยหรอ ...”
ภานุ ดูจะหน้าเศร้าลงไป ... พอนัทหันไปเห็นก็เริ่มรู้สึกผิดว่า พูดแรงไปหรือเปล่านะ ... ก็เลยเข้าไปกอดคอเพื่อนและปลอบใจสักหน่อย ...

“เฮ้ย... พูดเล่นน่า ... ภานุ ...”
“ฮาๆๆๆ ... นัทนี่หลอกง่ายดีเนอะ ... เป็นคนใจอ่อนมันก็ดีหรอกนะ แต่ระวังจะเสียเปรียบพวกเจ้าเล่ห์นะ...”
ภานุเปลี่ยนสีหน้า มาแลบลิ้นปลิ้นตาให้นัท ... จนทำให้นัทชักจะฉุนๆ ที่โดนหลอก ...
“หลอกนักใช่ม่ะ ... นี่ นี่ นี่ ... อย่างนี้ต้องสั่งสอน ...”

นัทที่กอดคอเพื่อน หันไปรัดคอแทน โดยรัดแน่นขึ้น กะให้ขาดใจตายไปเลย ...
“!!!โอ๊ย...โอ๊ย...!!! เจ็บ เจ็บ ... ปล่อยอ่ะ ปล่อยซินัท ยอมแล้วคร้าบบบ ... ยอมแล้ว...”
นัทเห็น ภานุ เจ็บจนน้ำตาเล็ดแล้ว ก็เริ่มใจอ่อน ก็เลยคลายเขนที่รัดออก ...
“แล้วทีหน้าที่หลัง อย่ามาแกล้งแบบนี้อีกนะ ... จำไว้ล่ะ…”

แต่แทนที่ภานุที่โดนนัทรัดคอจากด้านหลัง จะสำนึกผิด พอเห็นว่าแขนเริ่มคลายออกแล้ว จึงหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับนัท และจับแขนของนัทที่รัดคอตัวเองเมื่อครู่นี้ไปไขว้ไว้ข้างหลังของนัทเอง ... (คิดดูนะ...จะเหมือนภานุกอดนัทอยู่อ่ะ อิอิ...) ...
“เฮ้ย ภานุเล่นไรว่ะ ปล่อยนะ...”
นัทไม่กล้าดิ้นมาก เพราะตอนนี้แขนถูกล็อคไว้ด้านหลังของตัวเอง ภานุขยับมาชิดตัวเพื่อให้ล็อคแขนได้ถนัด แล้ว...แล้วอะไรต่อมิอะไร ... มันก็ต้องชนกันอ่ะจิ ... (อะ..อะ...ตัวครับ ลำตัว...คิดไปไกลล่ะ หุหุ...) หน้าก็อยู่ใกล้กันนิดเดียวจนหายใจรดกันได้เลย...
“ก็นัทบอก ไม่ให้แกล้งแบบนั้นอีก งั้นคราวนี้ก็แกล้งแบบนี้บ้างไง ...”
“ไอ้...ปล่อยซิว่ะ...”
แล้วนัทก็ต้องถึงกับอึ้ง...อึ้ง...ไปเฉยๆ เพราะอยู่ๆ ภานุก็หอมเค้าฟอดนึง แล้วก็วิ่งจู๊ด...ไปที่รถพร้อมกับตะโกนมาบอก...
“พรุ่งนี้เจอกันนะ...กลับบ้านล่ะ บาย...”
“ดู ดูมันทำ ... เล่นแผลงๆ แล้วยังมาทำหน้าระรื่นอีก อย่างนี้จะโกรธมันลงไหมเนี่ย...”
นัทได้แต่ลูบแก้มตัวเอง ... ยิ้มหน่อยๆ กับความทะลึ่งทะเล้นของเพื่อน ... โดยไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เลย ... แต่พอหันกลับไปจะขึ้นไปนอนก็ต้อง เจอกับหน้าตาบูดบึ้งของใครอีกคน ...
“พ...พี่วัฒน์ ยังไม่นอนเหรอครับ”
“ถ้านอนแล้ว ... คงไม่ได้เห็นอะไรดีๆ หรอก จริงไหม ...”
“เห็น ... พี่เห็นอะไรครับ ...”
“ก็เห็นเด็กวัยรุ่น พลอดรักกันไงล่ะ ... ก็รู้หรอกนะว่าเดี๋ยวนี้มันเยอะ แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องน่าอับอาย น่าสมเพชแบบนี้มันจะมาเกิดกับคนในบ้านนี้...”
“นี่...นี่พี่วัฒน์ไปกินเหล้ามาตอนไหนครับครับ ... กลิ่นออกเชียว ผมว่าพี่เมาแล้วก็ไปนอนดีกว่านะ... พี่ชักจะพูดไม่รู้เรื่องแล้ว”
“ใช่ซินะ พี่มันน่ารังเกียจ ... ไม่เหมือนไอ้ภานุ หรือไอ้แทนมันหรอก ... พวกมันน่ะแสนดี ...”
“พี่แทนกับ ภานุ มาเกี่ยวอะไรครับ ... ผมว่าพี่เมาแล้วนะ ผมไม่ได้เป็นอย่างที่พี่วัฒน์คิดนะครับ ... ผมไปนอนดีกว่า...”
นัทเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแล้ว โดยมีธวัฒน์เดินตามขึ้นมา ... แต่นัทก็ทำเป็นไม่สนใจ พยายามรีบเดิน ... นัทที่กำลังจะเข้าห้องของตัวเอง ต้องรีบวิ่งกลับมาดูธวัฒน์ที่ตอนนี้ล้มอยู่ที่ทางเดิน ...
“พี่...พี่วัฒน์เป็นอะไรครับ เมาแล้วก็ไม่น่าจะออกมาจากห้องเลยน๊า ...”
เหลียวซ้ายแลขวา ก็ไม่เห็นใคร จึงพยายามจับธวัฒน์ลุกขึ้นและประคองไปที่ห้องของชายหนุ่ม ... อย่างยากลำบาก
“ตัวหนักชะมัด ... ดันทุรังไม่เข้าเรื่อง ...”
นัทเปิดประตูห้องเข้าไปแล้ว ... ปิดประตูห้องแง้มไว้นิดหน่อย ... พยายามจะแบกพยุงธวัฒน์ไปที่เตียง .... เมื่อได้ยินเสียงล็อคประตู ก็ต้องหันไปมองตามเสียง ... และต้องสลัดคนที่พยุงมาออกจากตัวทันที เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ...
“นี่..นี่พี่วัฒน์แกล้งล้มเหรอครับ ...”
“ช่ายยย ... ถึงพี่จากินเหล้า... แต่ก็ไม่ได้มาว จนไม่รู้เรื่องหรอกนะ...”
“งั้นก็ไปนอนเถอะครับ ... ผมจะกลับห้องแล้ว...”
นัทกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ก็ต้องโดนธวัฒน์จับข้อมือเอาไว้ ...
“เดี๋ยวซิ จารีบปายไหน ... เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ ...”
“แต่ผมไม่มีเรื่องจะพูดแล้วครับ แล้วก็ถ้าจะพูดผมว่า ... เอาไว้ตอนพี่สร่างเมาจะดีกว่านะ...”
“ทำไม ... พี่กับผู้ชายคนอื่นๆ มันต่างกันยังไงฮ๊ะ... ถึงได้รังเกียจพี่นัก ... พี่บอกแล้วใช่ไหม ว่าถ้าจะทำเรื่องเสื่อมเสียให้ออกไปทำที่อื่น อย่ามาทำในบ้านหลังนี้ !!”
“ผมทำอะไรครับ ผมว่าพี่ชักจะเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะ...”
“แล้วไอ้ที่ไปยืนกอด ยืนจูบกันนั่นน่ะ มันไม่เรียกว่าเสื่อมเสียหรือไงกัน ฮ๊ะ ... มันเป็นธรรมดาใช่ไหม สำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ ที่จะชอบพวกเดียวกัน... ถ้างั้นกับผู้ชายคนไหนมันคงจะไม่ต่างกันหรอก... ใช่ม่ะ”
“พ...พี่วัฒน์พูดอะไรครับ ... ผมไม่เข้าใจ แล้วก็ปล่อยผมเถอะ ผมจะไปนอน ...”

ธวัฒน์ที่อารมณ์ขึ้นหน้าแล้ว ... คว้าแขนทั้งสองข้างของนัทไขว้มาข้างหลังพร้อมรวบไว้ด้วยมือเดียว ... แม้นัทจะมีแรงแค่ไหนก็ดูจะไม่สามารถต้านทานกำลังของอีกฝ่ายได้ ... ส่วนมืออีกข้างของธวัฒนถลกเสื้อของนัทออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะดึงมารัดที่ข้อมือของนัทให้ติดกันอย่างดิ้นไม่หลุด ...
“พี่วัฒน์!! ปล่อย... ปล่อยผมนะครับ จะ...จะทำอะไรครับ…”
“ทำอะไรน่ะเหรอ ... ก็จะสนองความต้องการให้ไง ... ชอบไม่ใช่หรอไง แบบนี้น่ะ!!”
“ไม่นะครับ ... ปล่อยผม ... ผมไม่ชอบ และไม่ต้องการแบบนี้นะครับ พี่วัฒน์ปล่อย...”
นัทที่พยายามดิ้นรน แต่ธวัฒน์ก็ไม่มีท่าทีสนใจกลับแบกนัทไปที่เตียง เด็กหนุ่มโดนโยนลงบนเตียง พยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อลุกขึ้นมา แต่มันก็ลำบากยากเย็นที่จะทำได้ เมื่อแขนทั้งสองข้างโดนมัดไขว้หลังอยู่ แถมโดนธวัฒน์กดให้นอนคว้ำหน้า ... แผ่นหลังขาวเนียน มันกลับทำให้อารมณ์ของธวัฒน์ลุกโพลง ... กางเกงของนัทนั้นหลุดไปแล้ว ธวัฒน์ก็เหลือเพียงกางเกงขายาวตัวเดียว ...

ถึงแม้น้ำตาจะไหลออกมา แต่จิตใจที่เข้มแข็ง ก็ยังไม่ยอมลดละที่จะดิ้นรน ... เพื่อให้รอดพ้นจากอารมณ์ปรารถนารุนแรงของอีกฝ่าย ... ตอนนี้นัทซึ่งอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ถูกจับให้นอนหงายทับแขนทั้งสองข้างของตัวเองที่โดยมัดไว้ด้านหลัง ... สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของอีกคนอย่างไม่วางตา ...
“ทำไม ... ทำไมพี่วัฒน์ต้องทำกับผมแบบนี้ ... พี่วัฒน์เกลียดผมขนาดนี้เลยเหรอครับ ... ถ้า ถ้าพี่วัฒน์ไม่อยากให้ผมอยู่ในบ้านหลังนี้ ผมจะออกไปนะครับ ... อย่าทำกับผมแบบนี้เลย...”
“หึ หึ ... มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ ...คิดว่ามาทำเรื่องเอาไว้มากมายแล้วจะได้ออกไปอย่างสบายๆ หรือไงกัน ... ไหนๆ ก็คิดจะชอบพวกเดียวกันแล้ว งั้นถ้าพี่จะเป็นคนแรกมันคงไม่เป็นไรหรอก ใช่ไหม...”
สองขาที่โดนจับแยกออก ทำให้นัทรับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ... จนปัญญาที่จะต้านทานอารมณ์ที่บ้าคลั่งได้ ...
“โอ๊ย !!! เจ็บ เจ็บ ...  ได้โปรดเถอะครับพี่วัฒน์...เอาออกไป ผม ผมเจ็บ !!!”
ความเจ็บปวดมันแล่น ผ่านจากด้านล่างขึ้นมาถึงสมอง ประหนึ่งร่างกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ... ฟันที่ขบกันแน่น ... หูสองข้างที่อื้ออึง ... ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดมันช่างยาวนานเหมือนคงอยู่ชั่วกัปกัลป์ ... ได้ยินเสียงก็เหมือนมันแว่วมาจากที่ไกลแสนไกล เพราะสมองที่ดับวูบ ไม่มีสติ ... ไม่สามารถรับรู้ได้อีกต่อไป มีเพียงความมืดมิด ... ไม่สามารถแยกออกระหว่างความฝันหรือความจริง ...
“พี่รักนัทนะครับ ... พี่ขอโทษ แต่พี่จะไม่ยอมให้นัทเป็นของอื่น ... เด็ดขาด...”
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 01-05-2007 12:34:58
20... คำถาม...ที่ไม่มีคำตอบ

ตาที่พล่าเลือนกำลังลืมชึ้นช้าๆ ... เมื่อคืนช่างเป็นฝันร้ายชะมัด และทำไมมันช่างเหมือนจริงเหลือเกิน ... 
“เอ...ทำไม เพดานห้องมันแปลกๆ ไปว่ะเนี่ย ...”

“จะกินอะไรไหม”
เสียงที่แว่วอยู่ใกล้ๆ ชวนให้นึกถึง ภานุที่มักจะถือวิสาสะเข้ามาในห้องของนัทเสมอๆ เวลามาจากบ้านตอนเช้าๆ ...
“อืม...ยังไม่อยากเลย ... หิวน้ำมากกว่า... เหมือนไปวิ่งแข่งมาเลย คอแห้งมากมาก ...”
“น้ำอะไรดีล่ะ...”
“น้ำอะไรก็...”
นัทได้แต่อ่าปากค้างเมื่อหันไปตามเสียง ทีแรกที่คิดว่าเป็นภานุ แต่กลับเป็นธวัฒน์ที่นั่งคุกเข่า มองเค้าอยู่ข้างเตียง ...

“พี่วัฒน์!!!... นี่ นี่มัน ...”
เรื่องราวต่างๆ ... กำลังหวนคืนเข้ามาสู่สมองที่เพิ่งได้สติไม่นาน ยิ่งมองรอบๆ ยิ่งมั่นใจ ... และทำให้นึกถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนของคน ... ที่ใช้กำลังทำตามใจตัวเอง จะได้สติหรือเมาก็แล้วแต่ ... แต่มันอยากเกินกว่าจะรับได้ ...
“ผ...ผมจะกลับห้อง ... โอ๊ย!!! ... เจ็บบบ ...”
นัทที่กำลังพยายามลุกขึ้นจากเตียง ต้องเจ็บแปลบขึ้นมาจนล้มลงไปนอนกับเตียงอีกครั้ง ... ไม่เพียงแค่ด้านหลัง แต่ร่างกายและกล้ามเนื้อมันปวดระบม เหมือนกลับถูกใช้งานมาอย่างหนักและหักโหม ... แม้แต่แค่ขยับตัวก็ปวดแล้ว ...

“ทำไม...ผมถึง...เจ็บไปหมด...”
ธวัฒน์ที่มีสีหน้าเศร้าๆ เพราะรู้สึกผิดที่ใช้กำลังบังคับขืนใจ ... พยายามเอื้อมมือไปสัมผัสแขนของนัท ที่วางอยู่ข้างลำตัว ...
“ใจเย็นๆ นะครับ ... ตอนนี้นัทยังขยับตัวไม่ไหวหรอก ... เอาไว้ถ้าดีขึ้นแล้ว อยากจะกลับไปที่ห้องพี่ก็ไม่ว่าหรอกนะ”
“ผม...ผมไม่เชื่อพี่อีกแล้ว ... คนโกหก หลอกลวง ....”
“พี่ไม่ได้โกหกนะ ... พี่ ... พี่รักนัทจริงๆ นะ ... เมื่อคืนพี่มีความสุขมากจริงๆ ...”
“พี่อย่ามาพูดคำนี่นะครับ มันก็แค่การข่มขืน... มันไม่ใช่ความรักหรอก ...”
“แต่พี่จะรับผิดชอบ สิ่งที่เกิดขึ้นนะ ...”

นัทที่เริ่มมีน้ำตาคลอ ... มันทั้งเสียใจและเศร้าใจ ที่เคยคิดว่าคนคนนี้ก็พอจะมีส่วนดีอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่เลย ... ยิ่งได้ยินคำพูดนี้ด้วยแล้ว ... นัทอดที่จะหันมามองหน้าธวัฒน์ด้วยแววตาสมเพชไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าสมเพชตัวเองหรือคนอีกฝ่ายกันแน่
“แน่ใจเหรอครับ ... พี่คิดว่าจะรับผิดชอบยังไง ... พี่คิดจะแต่งงานกับผมหรือครับ ... พี่จะไปบอกกับคุณลุงคุณป้าหรือไง ว่าพี่จะแต่งงานกับผม... แล้วพี่จะบอกกับคนรักพี่ยังไง พี่จะบอกกับคนในสังคมของพี่ยังไง ... พี่กล้าที่จะทำแบบนั้นหรอ...”
“คือ...พี่...”
“เห็นไหม ... แค่คิดมันก็เป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ... ฉะนั้นปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกผิดชั่ววูบของพี่เถอะ อย่ามารับผิดชอบอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลย”

นัทพยายามจะลุกลงจากเตียงอย่างยากลำบาก แม้จะเจ็บปวดร่างกายแสนสาหัส ... แต่เค้าไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ไม่อยากเห็นหน้าธวัฒน์อีก ... เพราะมันปวดที่ใจมากกว่าที่ร่างกายซะอีก ... ธวัฒน์ที่เห็นนัทลุกขึ้นก็พยายามเข้าไปประคอง ... แต่ก็ต้องถูกสะลัดออกมา ...
“ปล่อยผม ... อย่ามาแตะต้องตัวผมอีก ... เมื่อคืนมันยังไม่สาแก่ใจพี่อีกหรือไง...”
น้ำตาที่คลออยู่มันเริ่มไหลรินลงมา ... ถึงพยายามฝืนแค่ไหนมันก็ไหลออกมาเอง ... ถึงจะไม่มีเสียงสะอื้นจากนัทเลยแต่มันก็บ่งบอกได้อย่างดีว่า เค้ากำลังเจ็บปวดแค่ไหน เจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ ...

“เดี๋ยวซินัท ... อย่าเพิ่งไปให้โอกาสพี่ก่อนนะครับ ...”
“ปล่อยให้มันผ่านมา และผ่านไปเถอะนะครับพี่วัฒน์ ... ผมจะลืมและพี่ก็ควรจะลืมมันด้วย...”
นัทพูดพร้อมกับเดินออกไปจากห้องแล้ว ปล่อยให้ชายหนุ่มที่กำลังสับสนในจิตใจ ล้มตัวลงนอน ... เพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง ...
“พี่ขอเวลาได้ไหม ... เวลาของทางออก ... แล้วพี่จะมีคำตอบให้กับนัทแน่ๆ ... แต่ตอนนี้พี่รักนัทนะครับ...”
น่าเสียดายที่นัท ... ไม่มีโอกาสได้ยิน แต่นั่นอาจเป็นสิ่งที่ธวัฒน์ต้องการรอจนกว่าจะแน่ใจและพร้อมที่จะบอกรักนัทอีกครั้งก็ได้
...

อีกสามวันต่อมา ... เอกและบอลก็มาเยี่ยมนัทที่บ้าน ... เพราะนัทขาดเรียนพิเศษไปถึงสามวันเต็มๆ ... จึงต้องขนชีทและเล็คเชอร์มาให้ ... โดยไม่รู้เลยว่า สามวันนี้นัทแทบไม่ได้ขยับออกจากห้องไปไหนเลย ... ภานุเองก็ดูเหมือนจะไปต่างจังหวัดกับครอบครัว ... แต่นั่น นัท คิดว่าเป็นโชคดีมากกว่า ไม่อย่างนั้นภานุต้องสงสัยแน่ๆ ... ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะภานุเป็นพวกช่างสังเกตด้วย คงจะเดาเหตุการณ์ได้ไม่ยาก ... ก็อาการมันบ่งบอกขนาดนั้น เป็นใครก็ต้องรู้ ...

“ไง...ไอ้นัท...หายหัวไปเลยนะเอ็ง เรียนก็ไม่ไปเรียน ขลุกอยู่แต่ในห้องแบบเนี่ยนะ...”
เอกกะบอล เข้ามานั่งอยู่บนเตียงของนัท ... และกำลังกินขนมที่แววเพิ่งยกมาให้ ...
“ก็...ก็แค่ไม่สบายว่ะ ...ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่สบายก็บอกเพื่อนบอกฝูงให้รู้บ้างซิหว๊า... จะได้มาเยี่ยม เดี๋ยวตายไปก็ไม่รู้กันพอดี ...”
ผัวะ!!!
“ไอ้เวรบอล ตบหัวตูอีกล่ะ มันอะไรกันว่ะ...”
“ปากน่ะ กินขนมไปเถอะ ไปแช่งเพื่อนอยู่ได้ แล้วคนป่วยที่ไหนจะไปมีเรี่ยวมีแรงโทรไปรายงานแกล่ะ...”
“เออ เออ... ก็แค่พูดเล่นๆ เอง แม่งไม่ต้องตบหัวก็ได้ ... เดี๋ยวก็จับข่มขืนซะนี่...”

นัทดูจะหน้าซีดเผือดลงไปถนัดตา เมื่อได้ยินที่เอกพูดเล่นกับบอล ... จนบอลสังเกตได้ ...
“นัท เป็นไรมากหรือเปล่า ... หน้าซึดเลย ... ตกลงเป็นอะไรกันแน่อ่ะ...”
“เอ่อ ... เปล่า ไม่ได้เป็นไรหรอก แค่รู้สึกเพลียๆ แค่นั้นเอง ...”
“เฮ้ย...พวกข้ามากวนหรือเปล่าว่ะ จะได้กลับ ...”
เอกพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าบอล ... โดยบอลก็พยักหน้ารับแบบว่าเห็นด้วย ...
“ไม่หรอก ... พวกเอ็งมาก็ดีแล้ว ข้ากำลังเบื่อๆ อยู่เลย...”

“ครายยย ... กำลังเซ็งเหรอคร้าบบบ ...”
เสียงคุ้นหูนัท ดังมาจากประตูที่เปิดค้างไว้ ... พร้อมกับร่างของ ภานุ ที่โผล่ออกมา หิ้วของพะรุงพะรังเดินเข้ามา ... โบกของในมือไปมา ... ยิ้มหวานส่งให้นัท ...
“ว่าไง ภานุ หายไปไหนมาเสียหลายวัน ...”
นัทเอ่ยทัก ... ก่อนจะหันไปแนะนำเพื่อนอีกสองคนให้รู้จัก ...
“อืม ... นี่ เอกกะบอล เพื่อนนัทเอง ...”
“หวัดดี ค...ครับ”

เอกหันไปมองบอลตามสายตาของ ภานุ ... มันเหมือนคนที่เจอของถูกใจงั้นแหละ ... เอกยืนขึ้นและขยับไปบังบอลที่นั่งอยู่บนเตียงโดยอัติโนมัต ... และมองสบตากับภานุที่กำลังยิงลำแสงใส่กัน (เปรี๊ยะๆ) ...
นัทที่สังเกตอาการของเพื่อนๆ อยู่มันเหมือนกำลังรับรู้อะไรบางอย่าง ความรู้สึกบางอย่างมันบอกว่าเอกกำลังหวงของ ... ยังไงยังงั้น ... สองคนนี้ชักจะยังไง ซะแล้ว ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 01-05-2007 13:02:53
เรื่องกำลัง  สนุกเลย  อิอิ   ไว้ผมมาต่อให้นะค๊าบ     :yeb:

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 01-05-2007 15:49:47
 :เฮ้อ:  ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วยนะครับคุณพี่วัฒน์   :pighaun: :pighaun:  อย่างนี้แล้วจะคุยกันดีๆได้ไงเนี่ยะ :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-05-2007 16:08:14
 :monkeysad: สงสารนัท  :monkeysad:  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 01-05-2007 17:58:38
มันส์ๆๆๆๆๆ  กำลังหนุกเลย
อ่านไปๆ ตรูเป็นพวกโรคจิตป่าวหว่า  ก็สงสารนัทอยู่อะนะ  แต่ก็ไม่อยากบอกว่าก็แอบชอบหง่ะ  :haun4:

รักครั้งนี้ไม่ง่ายจริงแฮะ  ขอเวลาวัฒน์กับนัทเคลียร์หัวใจและเรื่องต่างๆ แล้วกัน
ว่าแต่  มันไม่ครบคู่อ่า วัฒน์ นัท เอก บอล ภานุ มี 5เองอะ  หรือจะเอาไทแทนมาอีกคน ไม่รู้แระ  :serius2:

รอน้องหมีเสมอ มาให้ไวนะ  รอเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-05-2007 19:36:54
 :haun4: กำลังมันต่อไวไวนะ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 02-05-2007 01:09:20
 :monkeysad: สงสารนัทอ่า ... มันอารายกานเนี่ย เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ  :เฮ้อ:
อุอุ.. เอก บอล ภาณุ นี่จะเป็นรักสามเส้ากันอ๊ะเป่า น่าลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 02-05-2007 14:37:59
มาต่อให้แล้วคัฟ ผม    :yeb:

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

21…

“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหรือไง …”
เอกที่กำลังจ้องมอง ภานุ อย่างท้าทาย ทำให้นัทที่เห็นเหตุการณ์อดหวั่นๆ ไม่ได้ที่เพื่อนไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
“รู้สึกว่านายกำลังหึงนะ หรือว่าจะเป็น …”
“เป็นอะไร พูดให้ดีๆ นะไม่งั้นเรื่องไม่จบแน่ๆ …”

“พอเหอะ ภานุ อย่ามีเรื่องกันได้ป่ะ เอกก็อีกคนนะเอ็ง ร้อยวันพันปีไม่เคยจะเห็นเป็นห่วงบอลขนาดนี้เลย…”
นัทหันหน้าไปพยักเพยิดกับบอล ที่พยักหน้าตอบเพราะเห็นด้วยกับนัทเต็มที่ …
“นั่นดิ เอกเป็นไรว่ะ … ถ้าหึงล่ะก็ไม่ต้องห่วงหรอก … เค้าชอบเอกคนเดียวนะตัวเอง …”
ผัวะ !!!
“ทะลึ่งแระ ไม่ได้หึงโว้ย …”
บอลลูบหัวตัวเอง รู้เลยว่าเอกถือโอกาสเอาคืน … ที่โดนเค้าตบไปเมื่อกี้นี้ …
“เอก นี่เอาคืนหรอ จำเอาไว้นะ ฝากไว้ก่อนเลย …”

“หว๊า…แย่จังบอลมีแฟนซะล่ะ งั้นว่าจะขอเป็นกิ๊กซะหน่อย …”
เอกหันขวับมามองหน้า ภานุ ที่กำลังยิ้มอย่างขำๆ ในความปากแข็งของเอก …
“อ้าว…แค่กิ๊กเองหรอ แสดงว่า ภานุ มีแฟนแล้วนะซิ ใครอ่ะ…”
บอลรีบถามอย่างกระตืบรือร้น เพราะอยากรู้มากเป็นพิเศษ ….
“ก็นอนอยู่นั่นไง … จริงป่ะนัท …”
เอกและบอลหันไปมองหน้านัทพร้อมๆ กัน … จนนัททำหน้าไม่ถูก … จึงหันไปว่า ภานุ ที่มาพูดเล่นให้เอกกะบอลเข้าใจผิด …
“อย่ามามั่วนะ ภานุ ใครเป็นแฟนใคร เดี๋ยวโดนตื๊บซะนี่ …”
“โอเค โอเค … ไม่เป็นก็ไม่เป็น … แต่ถ้านัทตัดใจจากคนเก่าได้แล้ว…ก็บอกกันบ้างนะ …ภานุจารอ”
“อะไรคนเก่าที่ไหน … พูดยังกะว่านัทชอบใครอยู่งั้นแหละ … ชักจะปวดหัวแล้วนะเนี่ย … นัทว่ากลับกันไปก่อนดีกว่านะ ไปเลยไป … ทั้งสามคนนั่นแหละ … จะนอน“

“อ้าว … ไหงไล่กันแบบนี้อ่ะ…”
ทั้งบอล เอกและภานุ พูดขึ้นพร้อมกัน … แต่ด้วยไม่อยากจะกวนเพื่อนที่กำลังป่วย … ก็เลยบอกลาและเดินออกมาจากห้องพร้อมๆ กัน …
“เพราะนายแหละ ภานุ ทำให้ไอ้นัทมันอารมณ์เสีย … เลยโดนไล่กลับเลยเห็นม่ะ อดกินขนมเลยอ่ะ…”
“น้อยๆ หน่อยเอก นี่จะเห็นแก่กินมากไปล่ะ …แล้วก็ไม่ได้เพราะภานุ เค้าคนเดียวหรอกก็พอๆ กันทั้งคู่นั่นแหละ”
“แหม…เพิ่งรู้จักกันไม่ทันไรออกรับแทนกันแล้วนะ หมั่นไส้…”
บอลหันไปค้อนให้เอกทีนึง ก่อนจะเดินไปยืนข้างๆ ภานุ ที่กำลังก้าวลงบันได …
“ภานุ …”
“หือ …ว่าไงเหรอบอล … ตกลงบอลจะหันมาคบกับเราแล้วหรอ…”
บอลหันไปดูเอกนิดนึง ขำๆ กับท่าทางกำลังตั้งใจฟังของเพื่อน … ที่อยากรู้ว่าเค้ากำลังคุยอะไรกะภานุ …
“ตลก … ตลกล่ะ บอลไม่คบกับใครทั้งนั้นแหละ ไม่เห็นจะมีใครถูกใจสักคน…”

จากที่พูดเสียงดัง จู่ๆ บอลก็เปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบเพราะไม่อยากให้เอกได้ยินที่เค้าจะพูด …
“ที่เรียกน่ะจะถามว่า ที่พูดกับนัทเมื่อกี้น่ะหมายความว่าไงอ่ะ”
ภานุ ถอนหายใจ … เหมือนกำลังกลุ้มใจบางอย่าง … ก่อนจะหันไปตอบคำถามของบอล …
“นี่บอล ไม่รู้หรอว่านัทเค้า ชอบ…ใครอยู่…”
“นัทชอบใครอยู่ไม่รู้อ่ะ … แต่ถ้าใครชอบนัทอยู่ … ก็ว่าไปอย่าง …”
“นี่บอล หมายถึงใครอ่ะ …”
“อ้าว…ก็ภานุไม่ใช่เหรอ … บอลรู้น๊า…ว่าภานุน่ะชอบนัทจริงๆ ใช่ไหมล่ะ…ของแบบเนี่ยดูแป๊บเดียวก็รู้ล่ะ”
“อุตส่าห์จะจีบบอลกลบเกลื่อนซะหน่อย … ดันโดนจับได้ซะล่ะ… เซ็งเลย …”
“ว่าแต่จะบอกได้ยังอ่ะ ว่านัทชอบใครอยู่เหรอ …”

ภานุหันไปมองเอกที่ทำท่าทางไม่สนใจนิดนึง ก่อนจะพูดกระซิบตอบ …
“ว่าแต่ทำไมเราต้องกระซิบกันด้วยล่ะ … ไม่อยากให้เอกรู้เหรอ …”
“เอกมันห่วงนัทมากเลยล่ะ … เรื่องแบบนี้อย่าให้รู้เลยดีกว่า … ว่าแต่ใครกันอ่ะ…”
“เอาไว้ … ภานุแน่ใจก่อนล่ะกันแล้วจะบอก … ก็แค่สงสัยน่ะ …”
“อืมหรอ … เอางั้นก็ได้ …”

เพื่อนๆ กลับไปหมดแล้ว แต่นัทก็ยังข่มตาไม่หลับ จริงๆ เค้าไม่ได้ปวดหัวหรอก เพียงแต่กำลังนึกถึงใครบางคน เพราะจู่ๆ หน้าของใครคนนั้นก็โผล่ออกมาตอนที่ภานุ บอกว่า …
“ถ้านัทตัดใจจากคนเก่าได้แล้ว…ก็บอกกันบ้างนะ …ภานุจารอ …”
“เฮ้อ…ทำไมต้องไปนึกถึงไอ้คนโรคจิต หื่นกาม โจรข่มขืน คนหลอกลวงแบบนั้นด้วยนะ”

อีกหลายสัปดาห์ต่อมา หลังจากประกาศผลสอบนัทและเพื่อนๆ ก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันได้ ไม่รู้เพราะสวรรค์โปรดหรือนรกสั่งกันแน่ ... โดยเอกกะนัทได้อยู่คณะวิศวะเหมือนกัน บอลอยู่อักษร และภานุ อยู่เศรษฐศาสตร์
จนถึงตอนนี้ นัทได้เจอธวัฒน์ครั้งสุดท้ายก่อนประกาศผลสอบเพียงไม่กี่วัน เพราะธวัฒน์ต้องเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ซึ่งตามที่นมพริ้มบอก ก็ไปประมาณสามเดือนกว่าจะกลับ นัทก็ต้องนั่งฟังนมพริ้มบ่นคิดถึงคุณหนูจนชินหู ทุกวัน ...

เหตุการณ์ต่างๆ ก็ยังเป็นปกติโดยภานุจะขับรถไปรับไปส่งนัททุกวันที่ว่าง ... ทั้งๆ ที่นัทพยายามบอกว่าอยู่กันคนละคณะไม่ต้องลำบากก็ได้ แต่คำตอบที่ได้รับมันทำให้นัทไม่อยากจะขัด...
“ไม่ลำบอกหรอกน๊า...อีกอย่างถ้าไม่ได้เจอกันนานๆ มันคิดถึงนี่ ...”
เชื่อเค้าเลย ... มันก็ดีอยู่หรอกที่มีคนมาส่ง แต่นัทมักจะอายเสมอ เวลาลงรถเพราะจะมีสาวๆ ในคณะของเค้าที่พอเห็นภานุก็จะกรี๊ดกร๊าด โบกไม้โบกมือกันใหญ่ ... ไม่รู้ว่าตั้งใจมาส่งเพื่อนหรือมาเช็คเรทติ้ง จากสาวๆ คณะอื่นกันแน่ ...

นัทที่กำลังจะเดินเข้าไปในตึกเรียนก็ได้ยินเสียง เอกร้องเรียก และวิ่งกระหือกระหอบมาถึงเค้าพอดี ...
“เฮ้ย...นัทรอด้วยดิว่ะ ... จารีบไปไหนอ่ะ ...”
“อ้าวเพิ่งไปส่งบอลมาหรอว่ะ ... ตกลงตอนนี้ไปถึงไหนกันแล้วเนี่ย ...”
“ไอ้เวร อย่าไปบ้าจี้ ตามไอ้ ภานุ มันหน่อยเลยน่า ... ข้ากะไอ้บอลไม่ใช่ผัวเมียกันสักหน่อย...จะได้ไปถึงไหนอย่างที่ถามน่ะ”
“เออ เออ ... ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ ... เห็นตัวติดกันยังกะตังเมเนี่ย ...”
“อ้าวไอ้นี่ ... ก็ที่บ้านเค้าฝากให้ช่วยดูแลอ่ะ ไม่เห็นจามีอาไร... รีบเหอะว่ะ ป่านนี้จารย์เข้ายังไม่รู้ วิชานี้เพิ่งเรียนวันแรกด้วยอ่ะ”

นัทกับเอก วิ่งมาถึงห้องเรียนและกำลังมองหาที่นั่งว่างๆ ด้านหน้าๆ แต่ก็เหมือนจะไม่มีเอาซะเลย ไม่รู้วันนี้ทำไมมีแต่สาวๆ นั่งแถวหน้าเต็มไปหมด ... ปกติไม่เห็นจะพร้อมเพรียงอะไรกันขนาดนี้นี่นา ...
“ตรงโน้นว่างสองที่ว่ะนัท ไปเหอะอาจารย์จะมาแล้วมั้ง...”
“เออ เออ ...”
นัทที่นั่งที่เรียบร้อยกำลังพลิกหนังสือเรียนไปพลางๆ ก็ได้ยินเสียงอื้ออึงมาจากหน้าห้อง ซึ่งก็คิดว่าอาจารย์คงเข้ามาในห้องแล้ว แต่ก็ยังคงสนใจกับหนังสือไม่ได้หันไปมอง ... แต่จู่เอกก็สะกิดด้วยศอกเบาๆ เหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง ...
“มีไรว่ะเอก สะกิดอยู่ได้...”
“เอ็งก็หัดมองรอบๆ ซะมั้งซิว่ะ มัวแต่ก้มหน้าก้มตาดูหนังสืออยู่นั่นแหละ...เบิ่งตาดูซิว่าใครยืนอยู่หน้าห้องโน้นนนน...”

นัทที่ทำหน้าสงสัย ... ต้องเงยหน้าไปมองด้านหน้าห้องตามที่เอกบอก ... และต้องแปลกใจเมื่อพบคนคุ้นหน้าคุ้นตายืนอยู่ ลักษณะท่าทางเหมือนจะมาสอนหนังสือไม่มีผิด ...
“พ...พ...พี่แทน...มาได้ไงอ่ะ...”
“ก็เออซิ ... ที่นี้รู้ยังล่ะ ... แถมดูเหมือนจะเป็นอาจารย์ซะด้วยนะ ...ไอ้นัทสงสัยเอ็งจะเสร็จแน่ว่ะงานนี้...”

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 02-05-2007 14:39:56
หุหุ   พี่แทนไท  เป็นอาจารย์หรอเนี่ย เรื่องชักวุ่นๆไปกานใหญ่แล้ว  เอิ๊กๆ :laugh5: :laugh5:

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

22…

“เอาล่ะ…วันนี้คงพอแค่นี้นะครับนิสิตทุกคน … “
เสียงอาจารย์แทนไท บอกกับนิสิตสาวๆ ด้านหน้าชั้น …ซึ่งวันนี้ดูจะตั้งอกตั้งใจเรียนกันอย่างผิดสังเกต หน้าแต่ละคนดูจะเคลิบเคลิ้มกับอาจารย์หนุ่มซะเหลือเกิน … จนมีเสียงอื้ออึงบ่นด้วยความเสียดาย … ไม่รู้ว่าตั้งใจมาเรียนหรือมาคอยดูหน้าหล่อๆ ของอาจารย์กันแน่ …แต่คงจะมีแต่นัทกะเอกที่โล่งอกที่หมดเวลาซะที เพราะดูเหมือนสายตาของอาจารย์จะสนใจแต่กับนิสิตสาวเท่านั้น …

“เดี๋ยวอาจารย์จะขอแรงหนุ่มๆ สักคนสองคนช่วยยกของไปเก็บที่ห้องพักให้อาจารย์หน่อย…งั้นเอาเป็นเธอสองคนล่ะกัน”
แทนไท พูดพร้อมกันชี้มือมาที่นัทและเอกที่กำลังจะลุกจากเก้าอี้ … ทำให้สาวๆ ทั้งหลายดูจะส่งสายตาเชือดเฉือนส่งมาที่พวกเค้าสองคน จนทำให้สองหนุ่มมองหน้ากันอย่างบอกความรู้สึกไม่ถูก …
“เอาแล้วไหมล่ะ …โดนเข้าจนได้ … ไอ้นัทเอ็งไปซิเดี๋ยวข้าจะไปรอที่โรงอาหาร…”
“อ้าวไอ้เอก …ไอ้เพื่อนเวร จะทิ้งกันเลยนะเอ็ง … ไม่รู้ล่ะยังไงก็ต้องไปด้วยกัน…ไม่งั้นจะบอกบอลจริงๆ ด้วยว่าเอ็งทิ้งเพื่อน…”
“เออ …ก็ได้… แม่งไม่ต้องเอาไอ้บอลมาอ้างได้ป่ะ… ทำยังกะข้ากลัวมันงั้นแหละ…”
“ว่าไง … ทั้งสองคน ถ้าคุยกันเสร็จแล้วก็ยกของตามอาจารย์มาแล้วกัน…”
แทนไทเดินนำออกไปก่อนแล้ว ทำให้นัทกะเอกต้องรีบมายกกองหนังสือกับอุปกรณ์การสอนที่วางอยู่เดินตามออกไป … ไม่มีใครพูดอะไรเลยระหว่างที่เดินไปด้วยกัน มีแต่เอกที่มักจะทำท่าทางยั่วนัทเล่นเท่านั้น…ที่ได้มาเจอกิ๊กเก่า … จนกระทั่งมาถึงที่ห้องพัก … แทนไทก็นั่งที่เก้าอี้ และกวักมือเรียกให้สองหนุ่มตามเข้ามา โดยชี้ให้วางของไว้ที่โต๊ะตรงมุมห้อง …
“งั้นผมสองคนขอตัวก่อนนะครับ…อาจารย์”
เมื่อวางของเสร็จนัทกับเอกจึงรีบขอตัวทันที …
“อ้าวไม่อยู่คุยกับพี่สักครู่ล่ะครับ น้องนัทกับ …”
“เอกครับ … ผมชื่อเอก…”
“อ๋อ…ใช่ น้องเอก… ว่าแต่อยู่กันตามลำพังไม่ต้องเรียกอาจารย์ก็ได้ … เรียกพี่เหมือนเดิมน่ะดีแล้ว…แต่ดูเหมือนนัทจะตกใจนะที่เจอพี่ที่นี่…”
“ป…เปล่าครับ …ไม่ได้ตกใจ แค่ ป…แปลกใจเท่านั้นเองครับ…”
“งั้นเหรอ … นี่ไอ้วัฒน์มันไม่เคยบอกนัทหรอกเหรอว่าพี่เป็นอาจารย์อยู่ที่นี้ได้สองปีแล้ว…”
“เปล่าครับ…ม…ไม่เคยบอก …”
“แล้ววัฒน์มันเป็นไงมั้งล่ะ … พี่ไม่ได้เจอมันเลยตั้งแต่มันออกจากโรงพยาบาล…”
“พี่วัฒน์ไปเมืองนอกได้เกือบเดือนแล้วล่ะครับ …เห็นว่าไปประมาณสามเดือน…”
สายตาของแทนไท ดูจะมีประกายอย่างประหลาด เหมือนว่ากำลังดีใจอะไรบางอย่าง …
“งั้นหรอกเหรอ … น่าเสียดายจัง พี่ว่ากำลังจะไปเยี่ยมมันที่บ้านพอดี… ว่าแต่นัทไปทานข้าวกับพี่ไหม…เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือว่าเป็นการฉลองให้ที่สอบเข้ามหาลัยนี้ได้ไงล่ะ…”
“ย…อย่าเลยครับ…พอดีผมกับเอกนัดเพื่อนๆ ไว้ครับ …”
นัทพูดบ่ายเบี่ยง พร้อมกันหันไปหาเอกที่กำลังทำหน้างง…งง…จนนัทต้องเอาศอกกระแทกไปหนึ่งที …
“ช…ใช่ครับ…”
“หว๊า...น่าเสียดายเนอะ แต่ไม่เป็นไร เอาไว้คราวหน้าก็ได้ครับ...งั้นขอบใจมากนะที่ช่วย...”
“ครับ...งั้นพวกผมไปนะครับ...”
นัทและเอกเดินออกไปจากห้องแล้ว แต่แทนไทกลับยังคงยิ้มอย่างพอใจ ... ที่ได้เจอนัทอีก ... เพราะหลังจากเรียนพิเศษดูเหมือนนัทจะคอยหลบเค้าเสมอๆ เพื่อนอีกสองคนก็ดูจะคอยกันท่ากันน่าดู ... แต่คราวนี้เค้าคงจะได้เจอกันอีกนาน ...
“จะดูซิ... ว่าจะหลบหน้าพี่ไปได้อีกสักเท่าไหร่...”
ภานุกะบอล โบกไม้โบกมือให้นัทและเอกที่เพิ่งเดินเข้ามาในโรงอาหาร … นัทซึ่งเห็นก่อนจึงสะกิดเอกที่กำลังมองหาอยู่อีกทาง
“เฮ้ย…เอก … นั่งอยู่ด้วยกันตรงโน่นไง…”
เอกมองตามมือที่นัทชี้ไปที่สองหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ด้วยกัน … ด้านในของโรงอาหาร … เอกนั้นเดินลิ้วเข้าไปก่อนแล้ว นัทต้องรีบเดินตามมาด้วยความประหลาดใจ …
เก้าอี้ตัวยาวที่มีภานุและบอลนั่งอยู่ โดยมีที่ว่างเล็กน้อยระหว่างภานุและบอล … แต่ตอนนี้ภานุและบอลต้องนั่งแยกออกจากกันโดยปริยาย เมื่อจู่ๆ เอกก็เข้ามานั่งแทรกตรงกลาง … โดยไม่พูดไม่จาอะไร …
“เฮ้ย…เอก ที่ตั้งเยอะตั้งแยะ ไมไม่นั่งว่ะ ต้องมานั่งแทรกกลางเนี่ย…”
ภานุที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์ … พูดขึ้นมาก่อน …
“เหรอ…อืม…จริงซินะ มีเยอะเลย งั้นภานุ… ก็ไปนั่งซิ…”
เอกก็ตอบอย่างกวนอารมณ์เช่นกัน … นัทที่เพิ่งเดินมาถึงต้องส่ายหน้าด้วยความระอา … เพราะสองคนนี้เจอกันทีไรต้องมีเรื่องให้กัดกันได้ตลอดจริงๆ…
“เป็นไรกานว่ะ เจอหน้ากันทีไรเป็นงี้ทุกที… ไม่ต้องแย่งกันหรอก บอลมานั่งกับนัทดีกว่าม่ะ…”
“อืม…ก็ดี…”
บอลที่ดูเหมือนจะเป็นชนวนของความขัดแย้ง … ย้ายมานั่งฝั่งเดียวกับนัทแล้ว … ทำให้เอกต้องอ้าปากค้าง … ไม่กล้าว่าอะไรอีก ต้องนั่งกับภานุไปโดยปริยาย …
“นัทจะกินอะไร เดี๋ยวบอลไปซื้อให้…”
“จะดีเหรอ…งั้นเอาเหมือนบอลก็ได้…ขอบใจนะ พอดีเดี๋ยวนัทจะไปซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านสักหน่อย…”
“อืม…ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวบอลมานะ…”
“เดี๋ยวภานุไปช่วยถือนะ…”
“เฮ้ย เฮ้ย…เจือกล่ะ … ข้าไปเอง…”
นัทได้แต่ขำๆ กับท่าทางของทั้งเอกและภานุ ที่ตอนนี้เดินตามบอลไปเป็นพรวน ยังกะหมาตามเจ้าของ … แต่ก็ชวนให้ดึงดูดใจสาวๆ ทั้งหลายอยู่ไม่น้อย … ก็แต่ละคนหน้าตาใช่ย่อย … เรียกได้ว่าอยู่ในท๊อปเท็น หรือไม่ก็ท๊อปไฟว์ของคณะต้วเองแน่ๆ … แล้วนัทก็เดินไปที่ร้านหนังสือตรงมุมของโรงอาหาร … เพื่อซื้อหนังสือพิมพ์กลับมาอ่านที่โต๊ะ… อ่านไปเรื่อยเพื่อรอข้าวที่บอลไปซื้อมาให้ด้วย … ก็พอดีไปสะดุดตากับหน้าข่าวสังคมเข้าอย่างจัง ก็ในเมื่อมันลงรูปของคนที่นัทแสนจะคุ้นเคยเป็นที่สุด … นั่นคือ ธวัฒน์กับนภัทรนั่นเอง …
‘ หนุ่มไฮโซ ควงแฟนสาวไปสวีทหวานถึงต่างประเทศ ‘
คุณธวัฒน์ ลูกชายและทายาทเพียงคนเดียวของคุณหญิงศศิกานต์ … ขวัญใจสาวๆ ทั้งหลาย คงจะได้ฤกษ์ยกขันหมากในไม่ช้า … เมื่อเหยี่ยวข่าวได้พบและสัมภาษณ์คุณนภัทร แฟนสาวไฮโซที่ถือได้ว่าสนิทชิดเชื้อกับฝ่ายชายมากที่สุดในเวลานี้ โดยเธอให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทางอารมณ์ดีว่า … กำลังจะตามคุณธวัฒน์ไปเที่ยวที่ฝรั่งเศส … หลังจากปล่อยให้ชายหนุ่มเดินทางล่วงหน้าไปร่วมเดือน และจะเดินทางกลับมาเมืองไทยพร้อมกัน … ส่วนข่าวดีอาจไม่นานเกินรอ … แบบนี้เห็นทีว่า สาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลาย คงจะต้องร้องไห้กันระงม เพราะตัวจริงเค้าออกจะสวีทหวานกันซะขนาดนี้ …

“น…นี่ เค้าไปเที่ยว … ไปมีความสุขกันซินะ … มันก็ถูกแล้วนี๊ ในเมื่อ…เค้าเป็นแฟนกัน …”
ข่าวที่เพิ่งอ่านจบ ดูเหมือนจะทำให้ใจของนัทหล่นวูบ … มันยากจะบอกว่าความสับสน และคำถามที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นเพราะอะไร …
“มาแล้วคร้าบบบ … นัทหิวยังอ่ะ …”
นัทหันไปยิ้มให้กับบอลที่เดินนำอีกสองหน่อ ที่ถือจานข้าวมาทั้งสองมือ … โดยที่บอลไม่ได้ถืออะไรมาเลย …
“อ่านข่าวไรหรอ … ทำไมหน้าเครียดจัง … มีใครฆ่ากันตายอีกแล้วหรอ …”
บอลที่ดูสีหน้าของนัทแปลกๆ ไปเอ่ยถาม เมื่อมานั่งลงข้างๆ …
“ม…ไม่มีไรหรอก … ว่าแต่ไหนล่ะข้าวที่ไปซื้อมา…”
“นั่นไง … แย่งกันนักก็เลยให้ถือซะให้เข็ด…”

ภานุที่เดินมาถึงก่อน … ทันที่จะได้ยินบอลถามนัทเกี่ยวกับข่าวในหนังสือพิมพ์ … จึงวางจานข้าวซึ่งเป็นของเค้ากะนัทลงบนโต๊ะ …
“นัท …ขอยืมหนังสือพิมพ์ดูผลบอลเมื่อคืนหน่อยดิ …”
ภานุขอยืมหนังสือพิมพ์จากนัท … โดยที่นัทไม่ทันคิดเลยว่าภานุจะอ่านข่าวอื่น นอกจากผลบอล …
“ว้าว…มีข่าวพี่วัฒน์ด้วยแฮะ…ฮอทจริงๆ เล๊ยยย … ขนาดไปทำงานเมืองนอกยังเป็นข่าว…”
“ไหนๆ ขอบอลดูบ้างซิ …”
บอลรับหนังสือพิมพ์ไปจากภานุ … พร้อมกับอ่านออกเสียงข่าวที่นัทได้อ่านไปแล้ว เหมือนต้องการให้เอกได้รู้ข้อความในข่าวอีกคน … แต่คนที่ดูเหมือนจะไม่ตื่นเต้นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น…นัท นั่นเอง …

“อ้าว…นัท ทำไมกินข้าวไม่หมดอ่ะ … ไม่อร่อยหรอ … รู้งี้บอลสั่งอย่างอื่นให้ก็ดีหรอก … ขอโทษนะ”
“ม…ไม่เป็นไรหรอกบอล มันก็อร่อยแหละ … แต่ไม่รู้เหมือนกันมันตื๊อๆ น่ะ เลยกินไม่หมด…งั้น…นัทไปก่อนนะ พอดีว่าจะไปหาหนังสือที่ห้องสมุดคณะ ก่อนเข้าเรียนช่วงบ่ายอ่ะ เฮ้ย…เอก…เจอกันที่คณะนะโว้ย…”
นัทโบกมือให้เพื่อนๆ ก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะ … ปล่อยให้เอกกะบอลมองตากันปริบๆ … คงมีแต่ภานุที่ดูเหมือนจะเข้าใจในท่าทางของนัทมากที่สุด …
“เป็นไรของเค้าอ่ะ ว่าแต่เอกไม่ต้องไปหาหนังสือเหมือนนัทเหรอ …”
เอกที่ข้าวยังเต็มอยู่ในปาก ได้แต่ส่ายหัวไปมา … ทำให้บอลได้แต่ถอนใจ …

“เพื่อนไปโน่นแล้ว … ยังกินอยู่อีกนะไอ้เอก …”
บอลอดไม่ได้ที่จะว่าที่เอกยังกินไม่หยุด อย่างหน้าตาเฉย … เพราะถึงจะไม่ค่อยเข้าใจนัท แต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ …
“ก…ก็คนมันยังไม่อิ่มนี่หว๊า… ไว้เดี๋ยวค่อยตามไปก็ได้ … แต่ก็แปลกน่ะ ตอนเจอ จารย์แทนไท ไม่ยักกะซึมแบบนี้นี่นา …”
“หา!!!… แทนไท นี่หมายความว่าไงอ่ะ แล้วไปเจอมาได้ไง … ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย แล้ว…แล้วเมื่อกี้ไมเรียกว่าอาจารย์ล่ะ”
บอลดูจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ เมื่อได้ยินชื่อ แทนไท … จนทำให้ ภานุอดสงสัยไม่ได้ว่า อาจารย์แทนไท ที่ว่าเนี่ย เกี่ยวข้องกะนัทยังไง …
“ทำไมเหรอบอล คนที่ชื่อแทนไท เนี่ย เค้าเป็นใครเหรอ …”
บอลมองหน้าเอก ที่ยักไหล่ตอบมาอย่างไม่สนใจจะเล่าให้ภานุฟัง เท่าไหร่ … ก่อนที่บอลจะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาเกี่ยวกับแทนไทให้ภานุฟัง … และเมื่อเล่าจบก็เป็นบอลที่คาดคั้นให้เอกเล่าเรื่องที่เพิ่งไปเจอกับแทนไทให้ฟัง …

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 02-05-2007 15:00:13
สงสารนัทจัง :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-05-2007 17:02:38
ฮือๆๆๆ  :dont2:

น้องนัท สู้ๆ นะค้าบบบบ

ว่าแต่ทำไม นัทอีกแล้วอะ

นัทเยอะจัง

คิกคิก

 o3
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-05-2007 19:15:42
เอาละซี วัฒน์ก็ไปสวีททางโน้น
แทนไทก็เป็นอาจารย์ประกบนัททางนี้
แล้วจะลงเอยยังไงละคร้าบบบบบ  :dont2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 02-05-2007 19:28:38
 :o7: :o7:  ทำไมคุณพี่วัฒน์ทำอย่างนี้ล่ะครับ  อย่างนี้เรียกว่าได้แล้วทิ้งอะป่าวครับเนี่ยะ :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-05-2007 19:50:10
ชอบ  ยิ่งอ่านยิ่งชอบ   :give2:
แทนไทเป็นอาจารย์แล้วงายยย  ก็นัทให้หัวใจพี่วัฒน์ไปแล้วอะ
ตาวัฒน์นี่ก็มัวทำไรอยู่เนี่ย  เอายัยมารร้ายนั่นไปด้วยทำม้ายยย  ขัดใจ  
แต่วัฒน์ไม่ทิ้งน้องนัทหรอก  ยัยนั่นน่าจะติดเป็นปลิงมากกว่านา  สงสารน้องนัท

รออ่านต่อจ้าน้องหมี  :yeb:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-05-2007 20:27:57
มัน ตื่นเต้น ซะใจ
 :ฮึ่มม:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 02-05-2007 21:02:46
 :3024: สงสารนัท อีกแล้ว
 :เฮ้อ: มีเรื่องวุ่นวายตามมาอีกแน่เลย พี่แทนมาเป็นอาจารย์แบบนี้อ่ะ
หุหุ.. ชอบๆ เรื่องนี้มาก
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 03-05-2007 02:50:30
มีข่าว มาฝากคับ    วันก่อนได้คุยกะคุณ JmAc (ผู้แต่ง)  เหงแว่วๆ  มาว่า  ถ้าเค้าว่างมะไหร่เค้าจะเข้า มาเยี่ยมเยียน เล้าเป็ด นะคับ


ปล.ถ้ามาแล้ว  ขอจุ๊บๆ  คุณJmAc  2 ที  อิอิ   :5555:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-05-2007 02:55:20
รับทราบจ๊ะ  :yeb:

รีบๆมาต่อนะรออยู่  : 222222:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-05-2007 13:14:50
รับแซ่บครับ

ว่าแต่มาแจ้งข่าวอย่างเดียวเหรอ

ไม่มาลงเรื่องต่อเหรอครับ

 :o7:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 03-05-2007 13:58:39
แหะๆ   มาต่อให้แล้วคับ  ^^ :110011: :เชิป2:


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

23...

นัทนั่งเหม่อๆ อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ ... กำลังคิดถึงเรื่องของใครคนหนึ่งที่ตอนนี้อยู่ไกล ... แต่ยังเข้ามาก่อกวนจิตใจของนัทได้ เสมอ ...
“ป่านนี้ ... เค้าจะทำอะไรกันอยู่นะ...”
“หมายถึงใครเหรอ ... นัท”
ด้วยความแปลกใจ นัทหันไปตามเสียงก็เห็นว่าเป็น ภานุ นั่นเองที่มายืนอยู่ข้างหลัง ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ...

“อ้าว... ภานุ มาไง ไม่กลับไปเรียนที่คณะเหรอ... มาป่วนเปี้ยนแถวนี้ เดี๋ยวก็เกิดจลาจลหรอก ยิ่งเนื้อหอมอยู่...”
ภานุ ยิ้มๆ ก่อนจะเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับนัท ... มองหน้าอีกคนนิ่งๆ ก่อนจะพูดสิ่งที่อยากพูดมานาน ...
“ถึงจะเนื้อหอมขนาดไหน ... แต่คนที่ภานุชอบ เค้าก็ไม่เคยมองภานุเลย...”
“ใครล่ะ บอกได้นัทป่ะ จะได้ช่วยเป็นพ่อสื่อให้ ...สาวที่ไหนน๊า โชคดีจริงๆ ...”
“ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลหรอกนัท ...และ และ ...”
ท่าทางอ้ำอึ้งของ ภานุ ทำให้นัทยิ่งอดสงสัยไม่ได้ ...
“และอะไรเหรอ ไม่ใกล้ไม่ไกลเนี่ย นัทรู้จักหรือเปล่า เป็นเด็กคณะวิศวะฯ ใช่ม๊า...”
“ก็...เด็กวิศวะก็ใช่แหละ แต่ที่สำคัญ เป็นผู้ชายเนี่ย นัทจะช่วยเราได้ไหมล่ะ...”
“เฮ้ย...ภานุ...”
นัทดูจะมีสีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อได้ยินที่เพื่อนพูด ... เค้าไม่ได้รังเกียจที่เพื่อนเป็น ... เพียงแต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าภานุ จะเป็นเท่านั้นเอง ถึงจะมีนิสัยชอบเล่นแผลงๆ ก็เถอะ ...
“ทำไมเหรอ ...นัทรังเกียจภานุ งั้นเหรอ...”
“ม...ไม่ใช่ ภานุเป็นเพื่อนกับนัทนะ ไม่ว่าเพื่อนจะเป็นยังไงนัทก็ไม่มีวันรังเกียจหรอก...ว่าแต่เด็กคณะวิศวะที่ว่าเนี่ย ค...คงไม่ได้หมายถึงเอกหรอกนะ ก็เห็นทะเลาะกานแบบนั้น ไม่คิดว่าภานุจา...”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ... ไปใหญ่แล้วนัท ไอ้เอกอ่ะนะ ... ขืนไปชอบมันฟ้าคงได้ผ่าตายกันพอดี ...แถมเด็กมันจะฆ่าเอาดิ...”

ทำเริ่มมีสีหน้า งุนงง ฉงน (???) กับคำพูดของภานุ ก็ในเมื่อเป็นเกย์อยู่แล้วไมยังต้องกลัวฟ้าฝ่าอีกล่ะเนี่ย ... ส่วนภานุที่เห็นนัททำหน้าแบบนี้ ก็แทบจะอดใจไม่ไหว เพราะหน้าแบบนี้ล่ะที่เค้าชอบมากๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ...หน้าใสซื่อ สดใจ จริงใจ ...
“ไมต้องฟ้าผ่าด้วยล่ะ แล้ว ... แล้วใครเป็นเด็กของเอกอ่ะ...”
“ก็...”
“ไอ้ภานุ ...”  !!! ผัวะ!!!
“เจ็บนะโว้ย ...”
ภานุหันไปกลับไปมองว่าใครตบหัว ...ก็พบว่าเป็นเอกนั่นเองที่มายืนอยู่ข้างหลัง...
“แฮะๆๆๆ ... เอกเองหรอ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ ...”
“ก็มาทันที่เอ็งจะพูดอะไรสักอย่างนั่นแหละ ...”
“งั้นภานุไปก่อนนะนัท แล้วเจอกันหลังเลิกเรียน...บาย...”
ภานุวิ่งเผ่นไปแล้ว ... นัทก็หันมามองหน้าเอก... ที่ทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้อะไร ...
“เฮ้ย เอก...”
“ไร...”
“เอ็งมีไรปิดบังข้าป่ะ ...”
“มีไร ไม่มี๊... ทำไมทำอย่างนี้ละ…”
“เหรอ งั้นก็ดี... ไปเรียนกันเถอะ จะได้เวลาล่ะ... ถ้าอยากบอกก็บอกล่ะกัน ...”
...
ในผับหรู บรรยากาศดี ย่านใจกลางกรุงปารีส ... ชายหนุ่มกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียว ... ใครจะรู้ว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ร่วมเดือน ชีวิตของธวัฒน์นั้น กลางวันทำงานตามปกติ ไปเมืองโน่นเมืองนี้ เพื่อดูงานและเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารของบริษัทชั้นนำต่างๆ มากมาย ... แต่พอตกกลางคืน ... ความเหงา มันทำให้เค้าอดที่จะคิดถึงหน้าของคนที่เมืองไทยไม่ได้ หน้าของเด็กหนุ่ม แทนที่จะเป็นสาวๆ เหมือนคนปกติทั่วไป ... ทำให้เค้าต้องกินเหล้าทุกคืน ทุกคืน เพื่อเวลาที่เมาจะทำให้ลืมๆ ไปได้บ้าง ... จะโทรกลับไปหายังไม่กล้า ... เพราะนับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องในวันนั้น ... นัทก็หลบหน้าเค้า ... เค้าเองก็ไม่พร้อมที่จะเจอหน้านัท เหมือนกัน ... เพราะยังไม่สามารถหาคำตอบบางอย่างได้ ...

ที่โต๊ะซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่มากนัก นภัทรสะแยะยิ้มอย่างพอใจ ... เพราะในที่สุดเธอก็หาธวัฒน์จนเจอ ... เค้าตามหาธวัฒน์มาหลายวันนับจากวันที่มาถึงปารีส เพราะไม่มีใครรู้หมายกำหนดการของธวัฒน์ว่าจะไปเมืองไหน ... และพักที่ใด เธอตระเวนไปตามโรงแรมชั้นนำของเมืองต่างๆ ... จนในที่สุดก็เจอเมื่อพนักงานแจ้งว่ามีแขกจากเมืองไทย ชื่อ ธวัฒน์ มาเปิดห้องพักอยู่คืนนี้ เธอจึงเช็กอินที่โรงแรมเดียวกันทันที และรอคอยเวลาที่ชายหนุ่มจะกลับมาและเธอก็ตามเค้ามาจนถึงร้านนี้นั่นเอง ... ช่วงเวลาหลายๆ เดือนที่ผ่านมา ในสายตาของธวัฒน์แทบจะไม่มีเธออยู่เลย ถึงแม้จะได้เจอกันอยู่บ่อยๆ แต่ความสัมพันธ์ก็ไม่เคยจะคืบหน้า ... เธอมองออกว่าในใจของธวัฒน์มีคนอื่น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเป็นใครแน่ ... แต่มันก็ทำให้เธอร้อนใจมากพอที่จะต้องรีบทำทุกอย่างให้ธวัฒน์มาเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวโดยเร็วที่สุด ...

เมื่อธวัฒน์เมาได้ที่แล้ว กำลังจะออกจากร้าน ... นภัทรก็แกล้งเข้าไปทักทันที ....
“อ้าว... วัฒน์ค่ะ บังเอิญมากน่ะค่ะที่เจอกัน .... วัฒน์มากับใครเหรอค่ะเนี่ย...”
“ภัทรเหรอครับ ... มาได้ไงครับ ... เอ๊อ...ผมมาดูงานน่ะครับ และ ... และออกมาดื่มนิดหน่อย กำลังจากลับโรงแรมครับ...”
“ท่าทางคุณเมามากน่ะคะ อยู่โรงแรมไหนเหรอ ให้ภัทรไปส่งคุณนะ...”
“โรงแรม...น่ะครับ ม่ายต้องลามบากหรอกน๊าครับ ผมยังไหวอยู่...”
“ต๊าย...โรงแรมเดียวกันนี่ค่ะ ... ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทางเดียวกัน ... ภัทรก็กำลังจะกลับพอดีเลย ...”

นภัทรประคองธวัฒน์ที่แทบไม่ได้สติกลับมาถึงที่โรงแรม และมาถึงหน้าห้องของธวัฒน์แล้ว ... ด้วยกุญแจที่ขอจากข้างล่างโดยพนักงานไม่ได้สงสัยอะไรเนื่องจากมีธวัฒน์เจ้าของห้องมาด้วย จึงทำให้เธอสามารถขอกุญแจมาได้อย่างง่ายดาย...

ธวัฒน์ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นเปลือยเปล่า ... กำลังถูกหญิงสาวมองอย่างพึงพอใจ ถึงจะคบกันมานานมาก แต่ธวัฒน์ก็เป็นสุภาพบุรุษมากๆ มากพอที่จะไม่เคยมีอะไรเกินเลยกับเธอเลย ... นั่นคือสิ่งที่เธอคิดว่า มันไม่คืบหน้าเอาซะเลย ... เพราะสิ่งเดียวที่จะทำให้เธอมั่นใจก็คือ ความสัมพันธ์ทางกายต่างหากล่ะ ไม่ใช่การคบหาอย่างเปิดเผยอย่างที่เป็นอยู่ เพราะอะไรมันก็ไม่แน่นอน จนกว่าเธอจะได้ครอบครองร่างกายของเค้า ถึงเค้าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ... ความเป็นสุภาพบุรษของเค้าคงจะไม่ทำให้เค้าปฏิเสธเธอได้ หากเธอเป็นเมียของเค้าแล้ว ...

ร่างกายอันเปลือยเปล่าของหญิงสาว ค่อยๆ เล้าโลมเรือนร่างของชายหนุ่มด้วยความชำนาญ ไม่มีส่วนไหนหรือจุดไหนของผู้ชายที่เธอไม่รู้ว่าไวต่อความรู้สึก ... นภัทรไม่เดียงสาขนาดนั้น ... แม้เป็นธวัฒน์ในยามปกติก็อาจสามารถต้านทานความต้องการนี้ได้ แต่ในยามที่สติหดหาย มันคงเป็นเพียงมโนภาพของใครอีกคนในจิตสำนึก ที่กำลังปรนเปรอเค้าอย่างที่ไม่คิดว่าจะทำมาก่อน ธวัฒน์จึงตอบรับความรู้สึกของภาพอันเลือนรางนั้นอย่างเต็มใจ ... ความสุขแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อสิ่งที่คิดและสิ่งที่เห็นนั่น... มันคือ นัท คนที่เค้ารักนั่นเอง ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-05-2007 14:12:30
แงแง

ไม่ยอมอะ

เรื่องชักจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว

สงสารน้องนัทอะ


 :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-05-2007 14:14:28
ทำไมวันนี้ลงตอนเดียวอะทุกทีสอง มันสั้น :serius2:

จามีใครมาช่วยพระเอกเนี๊ยะ จาโดนข่มขืนอยู่เระ  :dont2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 03-05-2007 18:17:12
มาต่อให้แล้วค๊าบบบ  กลัวแฟนๆ  นัท  กะพี่วัฒ  ฆ่าเอา  :pigangry2:

ความรักนี่อุปสรรค เยอะจิงๆเลยนะคับ  เพื่อนๆว่าอย่างงั้นมะ  T T  :dont2:

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

24...

“!!! ภัทร !!!”
ชายหนุ่มเรียกชื่อ หญิงสาวข้างตัวเสียงดัง ... เมื่อสภาพที่เค้าเห็นในตอนนี้ ทั้งเค้าและเธอต่างไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกายแม้แต่ชิ้นเดียว และร่องรอยที่เหลือมันก็บ่งบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างดี ... แต่เค้าไม่อยากเชื่อเท่านั้นเอง ... เมื่อคืน เค้ามีความสุขมาก ... แต่นั่นมันคืออีกคน ไม่ใช่กับนภัทรที่นอนอยู่ข้างเค้าตอนนี้ ...
“อะไรกันค่ะที่รัก ... ขอภัทรนอนต่ออีกหน่อยน๊า ...”
“คุณภัทร ! คุณลุกมาอธิบายหน่อยซิครับ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ... คุณมาอยู่ที่ห้องผมได้ยังไง และ ...และ”
“และคุณก็เมามาก และบังคับให้ต้องเป็นของคุณไงค่ะ...”
หญิงสาวลุกขึ้นมาอย่างงัวเงีย ... แต่ก็ต่อเติมคำพูดของธวัฒน์ได้อย่างชัดถ่อยชัดคำ ... เธอรู้ดีว่าธวัฒน์กำลังสงสัยอะไร เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้เธอรู้ดีว่า คนที่อยู่ในใจเค้าคือใคร เพราะยามที่เธอปรนเปรอเค้าที่แทบไม่เหลือสติอยู่นั้น ชื่อเดียวที่หลุดออกจากปากของเค้าก็คือ ... ถึงแม้ไม่อยากจะเชื่อว่าธวัฒน์จะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ แต่เธอก็ไม่แคร์ หากมันจะทำให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการ ... มันก็ไม่สำคัญเลยสักนิด

“ผม ... ผม เนี่ยนะบังคับคุณ ...”
“ใช่ค่ะ และคุณคงรู้นะค่ะว่าลำพังกำลังอันน้อยนิดของภัทร คงไม่มีแรงไปสู้รบปรบมือกับผู้ชายอย่างคุณหรอกนะค่ะ...พอมาถึงห้อง คุณก็ทั้งจูบ ทั้งกอด ...และ และ ...”
นภัทรเอามือมาปิดหน้า ... ทำท่าทางสะอึกสะอื้น ... และนั้นยิ่งทำให้ธวัฒน์ร้อนรนมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า ... นี่ล่ะน๊า ... เค้าว่ามารยาหญิงใช้ได้ไม่มีวันหมดจริงๆ ...
“แต่ผมเมามาก ... มากจน ... แล้วทำไมคุณถึงไม่เอาอะไรตีผม ... แล้ว ... แล้วหนีกลับไปก็ได้นี่ครับ ...”
“วัฒน์ค่ะ ... หนีอะไรก็หนีได้ ... แต่หนีใจตัวเองเนี่ย ... มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ ... คุณก็รู้ว่าภัทรรักคุณมากขนาดไหน แค่สัมผัสของคุณ ภัทรก็หมดเรี่ยวแรงแล้ว คุณอย่าผลักไสไล่ส่งภัทรเลยนะค่ะ...”
หญิงสาวเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ๆ กับธวัฒน์ที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างเตียง ... ซบหน้าที่มีหยดน้ำตาลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม ... อ้อดอ้อนด้วยเสียงสะอื้นไห้ ... ที่ใครต่อใครต่างตกเป็นเหยื่อของเธอมานับไม่ถ้วน ...
“คุณกลับไปก่อนเถอะภัทร ... ผมขอร้อง ...”
“แต่ว่าภัทร อยากอยู่กับคุณนี่ค่ะ !...”
นภัทรเผลอพูดเสียงดังด้วยความเอาแต่ใจ ... จนธวัฒน์ต้องทำหน้านิ่ว ... เพราะเค้าเกลียดผู้หญิงประเภทที่เอาแต่ใจและชอบโวยวาย ซึ่งนภัทรก็รู้ข้อนี้ดี ...
“แต่ผมต้องทำงาน ... ต้องไปเมืองอื่นอีกหลายเมือง เมื่อกลับถึงเมืองไทยผมจะโทรไปหาคุณเอง...”
ธวัฒน์พูดเสียงเย็น ... ไม่ใช่เพราะเค้าไม่อยากรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเค้าอาจรับผิดชอบมันด้วยความเต็มใจด้วยไม่มีใครเหมาะสมกับเค้าไปกว่านภัทร แต่ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ เค้ามีคนคนนึงในใจ คนที่เค้าบอกรักไปแล้ว และคนที่กำลังรอเค้าอยู่ (อันนี้เข้าข้างตัวเอง...) แค่กำลังหาทางออกให้กับความรักก็ยากพอแล้ว แต่นี่กลับกลายเป็นว่าเค้ากำลังจะสร้างกำแพงให้กับความรักที่ยังไปไม่ถึงไหน เพิ่มขึ้นอีก ...
นภัทรรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ควรดื้อดึง ให้เส้นด้ายที่บางเบาที่เธอสร้างไว้เมื่อคืนขาดลง ตอนนี้มันคงตึงมากพอแล้ว และควรปล่อยให้ธวัฒน์ได้ผ่อนคลาย แต่เธอก็มั่นใจว่าธวัฒน์ไม่ใช่คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ ... หญิงสาวจึงลุกขึ้นไปแต่งตัวและก่อนที่จะออกไปจากห้อง ... ก็หันมาพูดกับธวัฒน์ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงชัยชนะของเธอ ...
“แล้วเจอกันค่ะวัฒน์ ภัทรและคุณแม่ จะรอฟังข่าวจากคุณนะค่ะ...คุณคงไม่อยากจะทำให้เรื่องนี้รู้ไปทั่ว จนทำให้ครอบครัวของคุณต้องเสียชื่อเสียงหรอกนะ...บ๊าย บาย ดาร์ลิ่ง...”
นภัทรส่งจูบให้หนึ่งที และเดินจากไปแล้ว ... ในความคิดอันสับสนวุ่นวายของธวัฒน์ คำถามมากมายที่พยายามหาคำตอบและหนึ่งในนั้นก็คือ ครอบครัว กับคนที่รัก ... นี่เค้าควรจะเลือกอะไรดี ?...
...
ภาพลางๆ ของคนตรงหน้าคือชายหนุ่มที่เค้าเกลียด คนที่เอาแต่ใจและที่สำคัญคือ คนที่ข่มขืนเค้าที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ... กำลังยิ้มให้กับนัทอยู่ อย่างอบอุ่น ... ยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานาน แต่ทำไมตอนนี้เค้าไม่รู้สึกรังเกียจเลยนะ แต่กลับโหยหาอยากเห็นใบหน้านี้ ที่ไม่ได้พบมานาน ... ธวัฒน์กำลังยิ้มให้กับเค้า เค้าค่อยๆ ก้มลงมาที่ข้างหู กระซิบคำว่ารักแผ่วเบา ... คำเคยปฏิเสธ แต่ตอนนี้กลับอยากได้ยินซ้ำไปซ้ำมาไม่ให้หยุดแม้เสี้ยววินาที ... น้ำตาเย็นๆ เปียกที่แก้มจนรู้สึกได้ ... เค้าเห็นคราบน้ำตาของธวัฒน์ไหลลงเป็นทาง ... หน้าตาหมองเศร้า ... ผิดกับเมื่อกี้นี้อย่างกับคนละคน ...
“พี่รักนัทนะครับ ... แต่พี่คงไม่สามารถอยู่กับนัทได้อีกต่อไป ...”
“ทะ...ทำไมล่ะครับ ...”
ใจหายกับคำพูดของชายหนุ่ม ... เหมือนกำลังจะสูญเสียสิ่งสำคัญไปตลอดกาล ...ไม่มีคำตอบ มีเพียงรอยยิ้มจางๆ บนริมฝีปาก และคราบน้ำตาบนหน้าเท่านั้น ... นัทที่กำลังจะเอื้อมมือออกไป ... ไขว่คว้าคนตรงหน้า ต้องชะงัก เมื่อมีมือของอีกคนเข้ามาคล้องแขนชายหนุ่ม และค่อยๆ เดินห่างออกไป ... ชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งที่กำลังเดินจากไป พยายามจะวิ่งแต่ขาก็ขยับไม่ได้ดังใจคิด ... ได้แต่ตะโกนก้องร้องเรียก ทั้งน้ำตา เพื่อหวังไขว่คว้าชายหนุ่มให้กลับคืนมา ...
“เฮ๊ย ... ภานุเล่นไรว่ะ ...”
นัทที่ตื่นขึ้นมากลับต้องตกใจสุดขีด เมื่อเห็นภานุกำลังเล่นเอาหลอดหยดน้ำเย็นๆ ลงบนหน้าของเค้า ...
“ก็เห็นขี้เซาเหลือเกิน ก็เลยว่าจะปลุกสักหน่อย ... ว่าแต่ฝันร้ายหรอ เห็นละเมออะไรไม่รู้ อย่าไป อย่าไป ...ใครจะไปไหนเหรอ ถ้าเป็นภานุละก็อยู่นี่ไงจ๊ะนัทจ๋า...”
ไม่พูดอย่างเดียว แต่กลับโถมตัวเข้ามากอดนัทที่กำลังจะลุกจากเตียง ทำให้ต้องล้มลงไปบนเตียงอีกที ...
“หยุดเลย หยุดเลย อย่ามาเล่นแบบนี้นะ มาทำไมแต่เช้าเนี่ย ... วันนี้วันหยุดนะ ... ไม่ได้ไปมหา’ลัยสักหน่อย...”
นัทที่ผลักภานุให้ออกไปจากตัวได้ ... รีบลุกขึ้นมาอยู่ในท่าพร้อมรับมือกับคนขี้เล่นอย่างเต็มที่ ...
“อ้าว...นัทไม่รู้เหรอว่าพี่วัฒน์กลับวันนี้นะ... เนี่ยคุณป้ายังฝากให้ภานุกะนัทไปรับที่สนามบินล่ะ...”
O_o
“จริงอ่ะ ... แล้วทำไมภานุไม่ไปเองล่ะ...”
“คำสั่งคุณป้า... ชัดเจนม่ะ...”
“เออ... ไปก็ไป ... ไม่ได้ว่าสักหน่อยไม่ต้องเอาคุณป้ามาขู่เลย ... งั้นไปรอข้างล่างไป จาอาบน้ำ...”
“รอนี่ไม่ได้เหรอ ... อายอะไรเหรอตะเอง ...”
ผัวะ!!! หมอนข้างฟาดเข้าที่หัวอย่างจัง ...
“เจ็บอ่ะ ... ไม่ต้องใช้กำลังก็ได้ โอเค โอเค ไปรอข้างล่างก็ได้ ...”
“อืม ไปแต่แรกจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว ...”

ภานุเดินหน้าบูดออกไป ทำให้นัทขำๆ กับท่าทางของภานุ... ภานุมักทำให้นัทยิ้มได้เสมอๆ ... นัทชอบภานุมาก แต่นั่นก็แค่ในความหมายของเพื่อนเท่านั้น ... ซึ่งต่างจากอีกคนที่พยายามปฏิเสธ แต่ก็เหมือนในใจจะซื่อสัตย์มากกว่าคำพูด ... นัทนั่งทบทวนความฝันก่อนที่ภานุจะเข้ามาปลุกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสะลัดหัวไล่ความคิดออกไปแล้ว และเดินไปหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-05-2007 18:32:21
น่าสงสารจังเลย  :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 03-05-2007 19:09:54
 :angry2: :angry2:  ยัยชะนีนภัทรทำงี้เด๋วส่งไปรับแขกแถวๆภาคใต้ซะเลยนี่  :pigangry2: :pigangry2:  คุณพี่วัฒน์ก็นะ  ทำไปได้ไง :โฮๆ1: :โฮๆ1:  แล้วใครจะคอยปลอบนัทล่ะทีนี้ :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-05-2007 19:50:22
วัฒน์พลาดท่าในนภัทรไปเรียบร้อยแล้ว  :dont2:
 :เฮ้อ: ไม่ง่ายนัก รักนี้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 03-05-2007 19:58:02
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 03-05-2007 23:53:54
 :angry2: ยัยนภัทรทำอะไรลงไปเนี่ยยยย  อ๊ากกกก  :pigangry2:
 :monkeysad: นัทน่าสงสารอีกแล้ววว  ต้องไปรับพี่วัฒน์ที่สนามบินอีก  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-05-2007 11:34:27
ไม่ง่ายนักรักนี้ จริงๆเลย

แงแง สงสารน้องนัท

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 04-05-2007 22:36:43
มาต่อให้แล้วค๊าบ   วันนี้มาช้าหน่อย   เพิ่งกลับมาจากดูหนังอ่ะคับ  ไปดูspider man มา  แบบว่า  แอบหลับในโรงด้วยเหอะๆ  ตื่นมาอีกที  งง  หลายอย่างเลย ฮ่าๆ   สงสัยต้องไปดูใหม่ซะแล้ว  o6

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

25...

ที่สนามบิน นัทและภานุกำลังรอธวัฒน์อยู่ที่ช่องผู้โดยสารขาออก ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย …
“ภานุ…แน่ใจหรอว่าพี่วัฒน์มาลำเนี่ย…”
นัทดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ…ทั้งๆ ที่ทีแรกเหมือนไม่อยากจะมาเอาซะเลย จนภานุยังสังเกตได้ … ถึงจะเจ็บจี๊ดๆ ในใจ แต่ภานุก็ยังรักษาสีหน้าและอาการให้เป็นปกติได้ …
“อืม … แน่ใจซิ ก็ลำที่เพิ่งลงเมื่อครู่นี่แหละ …เดี๋ยวอีกสักพักก็คงจะออกมา แต่ดูนัทจะดีใจจนออกนอกหน้าเลยนะ”
“ใคร …ใครดีใจกัน เปล่าซะหน่อย… แค่อยากให้มาๆซะที…จะได้กลับบ้านไง มายืนรอนานๆ เบื่อจะตาย…”
นัทดูจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ทั้งๆ ที่ก็ดูไม่แนบเนียนเอาซะเลย … ท่าทางที่คอยชะเง้อมองอยู่ตลอดเวลา และสีหน้ากระตือรือร้น เป็นใครก็ดูออกว่ากำลังรอคอย ด้วยอยากจะเจอใครสักคนใจแทบขาด …
ธวัฒน์กำลังเข็นรถใส่กระเป๋าออกมา … ในใจก็คิดไปเรื่อยๆ ว่าคุณแม่จะส่งใครมารับ แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับที่เค้ากำลังคิดว่าคนที่เค้าอยากเจอมากที่สุดและคิดถึงมาตลอดคงจะไม่มารับเค้าแน่ๆ นัทคงยังโกรธเค้าอยู่ … เพียงคิดเท่านี้ก็ทำให้เจ็บลึกๆ อยู่ในใจของลูกผู้ชายที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะหันมาชอบผู้ชายเหมือนกันได้ แต่การที่ได้รักใครสักคนจริงๆ แล้ว ไม่ว่าเค้าจะเป็นอย่างไร มันก็ทำให้เจ็บปวดได้เหมือนกันหากต้องเป็นคนที่รักเค้าอยู่ฝ่ายเดียว … อีกทั้งปัญหาที่เค้าได้ก่อไว้ที่ฝรั่งเศส ปัญหาที่เค้ายังไม่สามารถหาทางออกได้ ก็กำลังรุมเร้าอยู่ในใจ ตั้งแต่วันนั้นเค้าก็ไม่ได้เจอกับนภัทรอีก … ซึ่งธวัฒน์มั่นใจว่าเธอน่าจะกลับมาเมืองไทยแล้ว และคงจะเป็นคนสุดท้ายที่เค้าอยากจะเจอในตอนนี้ …
“นั่นไง พี่วัฒน์มาแล้วนัท…”
ภานุที่กำลังโบกไม้โบกมือ ให้กับธวัฒน์ที่เข็นกระเป๋าเดินออกมา …หันไปบอกกับนัทที่อยู่ใกล้ๆ … ถึงจะรู้สึกดีใจแต่นัท ก็ได้แต่ทำเฉยๆ เท่านั้น … ก็จะให้เค้าทำยังไงล่ะ ก็ในเมื่อเรื่องคราวนั้นมันยังแจ่มชัดในใจอยู่เลย …
“อ้าว…อย่ายืนเฉยๆ ซิ ช่วยกันโบกมือหน่อย เดี๋ยวพี่วัฒน์ก็มองไม่เห็นหรอก คนเยอะจะตายเห็นป่ะ…”
นัทกำลังจะยกมือขึ้นโบก ก็พอดีที่มีเสียงใครคนนึงตะโกนเรียกธวัฒน์ซะก่อน …. จนทั้งนัทและภานุต้องหันไปมอง …เพราะเจ้าตัวนั้นเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพวกเค้า แล้วโบกมือส่งเสียงเรียกยังกะกลัวใครจะมาตัดหน้าเธองั้นแหละ…
“วัฒน์ค๊า… วัฒน์ ทางนี้ค่ะวัฒน์ …”
ธวัฒน์ที่ได้ยินใครเรียกชื่อ จึงหันไปมองหาตามเสียงที่เรียก ก็ปรากฏว่าเป็น นภัทรที่กำลังโบกมืออยู่ตรงทางออก …
“เฮ๊อ… มาจนได้ซิน่า…”
ชายหนุ่มบ่นเบาๆ … พร้อมกับกวาดสายตาไปเห็นภานุที่ยืนอยู่ข้างๆ … ซึ่งก็มั่นใจได้ว่าคุณแม่คงส่งให้มารับเค้าแน่นอน … แล้วคนที่เค้าอยากเจอล่ะ หายไปไหน ทำไมไม่มาด้วยกัน … เพราะก่อนที่เค้าจะไปดูงานก็ดูเหมือนภานุและนัท ตัวแทบจะติดกันเป็นตังเม … และสิ่งที่ธวัฒน์ออกจะมั่นใจก็คือ ภานุนั้นน่าจะชอบนัทอยู่ และนัทก็เหมือนจะชอบภานุเหมือนกัน ก็ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ ก็ในเมื่อภานุมันออกจะแสนดี และคงไม่ได้เป็นคนที่ชอบใช้กำลังบังคับขืนใจอย่างเค้าด้วยน่ะซิ …

“วัฒน์ค่ะ ทำไมใจดำแบบนี้ล่ะ ไม่ส่งข่าวคราวให้ภัทรทราบเลยนะค่ะว่าจะมาวันไหน เนี่ยถ้าภัทรไม่โทรไปที่บ้านคุณก็คงไม่รู้เรื่องเลย…”
ธวัฒน์ที่เพิ่งเดินมาถึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เพราะถึงยังไง เค้าก็ยังไม่พร้อมที่จะเจอกับนภัทรอยู่ดี … เค้าจึงหันไปพูดกับภานุที่กำลังยืนมองอยู่ …
“ไงภานุ นี่คุณแม่ให้มารับพี่เหรอ … แล้วทำไมมาคนเดียวล่ะ…”
“ใช่ครับพี่วัฒน์ แต่ผมมานัทครับ ไม่ได้มาคนเดียว…”
ภานุเดินหลบไปข้างๆ ทำให้ธวัฒน์มองเห็นนัทที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ชัดขึ้น ซึ่งตอนแรกที่ไม่เห็นหน้าก็คิดว่าเป็นคนอื่นมายืนรอญาติอยู่ซะอีก … ระยะเพียงสามเดือนทำไมนัททดูโตขึ้นเยอะเลย หรือเป็นเพราะเค้าคิดไปเองนะ … นัทเองเมื่อเห็นธวัฒน์มองมาก็ต้องยิ้มให้ ถึงจะฝืนๆ บ้าง เพราะตอนนี้มีเจ้าของเค้ามารับด้วยอีกคน …
“นัท…”
“พี่วัฒน์…”
ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมๆ กัน … จนทำให้ ภานุแกล้งหันไปมองทางอื่น แต่นภัทรก็มองด้วยความริษยา …ด้วยรู้สึกไม่พอใจมากที่เห็นธวัฒน์มีท่าทางสนใจเด็กที่มาอาศัยในบ้านมากเป็นพิเศษ … และอีกเหตุผลก็คือ เมื่อเธอได้รู้ความจริงบางอย่างในคืนที่เธอมีความสัมพันธ์กับธวัฒน์ด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้เธอเจ็บใจมากยิ่งขึ้น และคิดอยู่ตลอดเวลาเมื่อกลับมาเมืองไทยที่จะต้องทำให้ธวัฒน์รีบจัดการเรื่องแต่งงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…

“พ…พี่วัฒน์ สะ…สบายดีนะครับ…”
นัทได้แต่ก้มหน้าถามออกไป ด้วยไม่กล้าสบตาธวัฒน์ที่มองมาแบบไม่เกรงใจสายตาของแฟนสาวสักนิด … นี่ถ้าทั้งสนามบินไม่มีคนเลยสักคน ธวัฒน์คงได้เข้าไปกอดให้หายคิดถึงแล้วแน่ๆ …
“อืม สบายดี ว่าแต่นัทล่ะ ที่มหา’ลัยเป็นไงบ้าง … เจ้าภานุคงคอยดูแลดีอยู่แล้วซินะ…”
อยากจะพูดจะถามดีๆ แต่ทำไม๊ทำไม ไอ้ปากเจ้ากรรมมันถึงได้ชอบกระทบกระแทกแดกดันนักก็ไม่รู้ … นัทก็รู้สึกฉุนขึ้นมาที่จู่ๆ ก็โดนกัด จึงหันไปกอดคอภานุ ที่ยืนอยู่ข้างๆ … จนภานุก็เอ๋อรับประทานไปเหมือนกัน …
“ใช่แล้วล่ะครับ ภานุดูแลผมดีมากเป็นพิเศษเลยล่ะ ไปรับไปส่งทุกวัน… จริงไหมภานุ…”
“เออ…จ…จริงก็จริง…”

ธวัฒน์ดูจะหน้าหมองลงไปนิดนึง …ที่เห็นภานุและนัทยังสนิทสนมกันดีเหมือนก่อนที่เค้าจะไป และตอนนี้อาจจะยิ่งสนิทกว่าเก่าด้วยซ้ำไป …
“เหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี พี่และคุณแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง…”
“แหม …วัฒน์ล่ะก็ เด็กสมัยเนี่ย ไม่ต้องไปคอยห่วงเค้านักหรอกค่ะ โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย เค้าเอาตัวรอดได้หรอก จริงไหมจ๊ะ…”
นภัทรหันไปเหมือนต้องการพูดกับภานุและนัท ให้รู้ตัวว่าไม่สมควรที่ธวัฒน์จะต้องไปเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น … ก่อนที่จะหันไปอ๊อดอ้อนธวัฒน์ต่อ …
“วัฒน์ค่ะ เดี๋ยวให้ภัทรไปส่งคุณที่บ้านนะค่ะ … วันเนี่ยภัทรว่างค่ะและเตรียมตัวมารับคุณโดยเฉพาะเลย … และคุณแม่อยากให้คุณแวะไปที่บ้านด้วยค่ะ ท่านอยากพบและคุยเรื่องของเราน่ะค่ะ…”
ธวัฒน์หันมามองนภัทร อย่างไม่สบอารมณ์นัก … เพราะนภัทรดูเหมือนจะต้องการพูดเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้านัท ซึ่งเค้าไม่อยากให้รับรู้ในตอนนี้ …
“คุณภัทรครับ … ผมว่าคุณกลับไปรอผมที่บ้านจะดีกว่านะ ถ้ายังไงผมจะเข้าไปคุยกับท่านเอง … คุณไม่สมควรจะมาพูดอะไรที่นี่ตอนนี้นะครับ…”
“แต่ว่า…”
“คุณอยากจะให้ผมไป หรือไม่อยากให้ไปเลยล่ะครับ คุณเลือกเอานะ…”
ธวัฒน์ที่เห็นท่าทางที่พยายามจะเอาแต่ใจไม่เลิกของนภัทร … จึงยื่นคำขาดให้นภัทร ก่อนที่เธอจะพูดมากไปกว่านี้ … ถึงแม้นภัทรดูจะไม่สบอารมณ์นัก แต่ก็ต้องยอมทำตามเพราะตราบใดที่เธอยังไม่ได้เป็นเจ้าของธวัฒน์อย่างเต็มตัวแล้วล่ะก็ ยังไม่ควรจะขัดใจเค้าจะดีกว่า …
“ก็ได้ค่ะ … งั้นภัทรไปรอคุณอยู่ที่บ้าน หวังว่าคุณคงไม่ทำให้ภัทรและคุณแม่รอเก้อนะ… เพราะท่านกำลังไม่สบายใจและอยากจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย…”
นภัทรเดินจากไปแล้ว เหลือไว้เพียงความสงสัยให้ภานุและนัทได้คิด โดยเฉพาะนัทที่ดูจะคิดมากเป็นพิเศษเพราะสังเกตจากสีหน้าของธวัฒน์แล้วเหมือนจะมีเรื่องระหว่างเค้าและนภัทรที่จะต้องจัดการ และไม่อยากจะให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ มีเพียงภานุที่เอ่ยออกมาก่อนด้วยความสงสัย …

“พี่วัฒน์จะไปบ้านคุณภัทรทำไมเหรอครับ ให้ผมไปส่งเลยไหมล่ะ เดี๋ยวกระเป๋าผมจะเอาไปไว้ที่บ้านให้เอง…”
“อย่าเพิ่งเลยภานุ เรื่องนี้พี่ต้องไปคุยกับคุณแม่ก่อนน่ะ…”
“โอเคครับ … ถ้าพี่วัฒน์ว่างั้นนะ…”
ธวัฒน์หันไปมองนัทนิดนึงด้วยแววตาเศร้าๆ … แววตาของคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับหัวใจตัวเองยังไง … อยากจะพูด อยากจะบอกความจริง แต่ก็เหมือนน้ำท่วมปาก เพราะมันอาจจะทำให้นัทเกลียดเค้ามากไปกว่านี้ก็ได้ …
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 04-05-2007 22:38:49
ต่อกันเลย ดีกว่าคับ  เรื่องกำลังเข้มข้น    :teach:

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

26...

สามวันผ่านไป ... หลังจากที่ธวัฒน์กลับมาจากฝรั่งเศส ... แต่เค้าก็ยังไม่ได้ติดต่อหรือไปหานภัทรที่บ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนทำให้คุณหญิง พรทิพย์ แม่ของนภัทรดูจะร้อนรนเป็นพิเศษ ...
“นี่ยัยภัทร คุณวัฒน์ของแกเนี่ย เค้าจะเอายังไงห๊า ... จนป่านนี้แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าเค้าจะมาสนใจใยดีอะไรแกเลยนะ...”
“โถ่ ...คุณแม่ขา แล้วจะให้ภัทรทำยังไงล่ะค่ะ ก็ในเมื่อเค้าบอกจะมาเอง ภัทรก็รอเค้าอยู่เหมือนกันนะค่ะ ไม่ใช่แค่คุณแม่ที่ร้อนใจอยู่คนเดียว...”
“ฉันล่ะ อยากจะบ้าตายกับแกจริงจริ๊ง... ดั๊นไปเสนอตัวให้เค้าถึงที่แล้ว แต่แทนที่เค้าจะรีบมาจัดการให้เรียบร้อย แต่กลับทำเฉยเมย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นแหละ...”

หน้าของนภัทรดูจะเจื่อนลงไปมาก เมื่อโดนว่ากระทบเข้าอย่างจัง ... แต่ที่เธอทำลงไปก็ใช่ว่าจะเพื่อตัวเธอเองทั้งหมดซะเมื่อไหร่ ก็มาจากแม่ของเธอนั่นแหละส่วนหนี่ง ที่เฝ้ารบเร้าให้เธอจัดการให้ธวัฒน์แต่งงานมาเป็นลูกเขยบ้านนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อมาผยุงฐานะทางการเกินที่มันแย่เต็มที ...
“คุณแม่อย่ามาว่าภัทรฝ่ายเดียวซิค่ะ ... ก็ไม่ใช่เพราะคุณแม่เหรอค่ะที่ไปสร้างหนี้สร้างสินไว้ท่วมหัว จนทำให้ภัทรต้องตัดสินใจใช้วิธีเนี่ย ... คุณแม่ก็รู้นี่ค่ะว่ามันเสี่ยง ที่จะเล่นไม้นี้กับผู้ชายอย่างธวัฒน์...”
“ย่ะ...แม่ลูกบังเกิดเกล้า ... แล้วที่ฉันเฝ้าเลี้ยงดูแกมาจนโดเนี่ย ... ไม่เคยมีบุญคุณเลยงั้นซิ กับอีแค่ตอบแทนแม่แค่เนี่ยแกทำไม่ได้หรือไง ...”
“แล้วไม่ใช่เพราะหนูจะตอบแทนแม่หรอค่ะ ที่หนูต้องคอยเฝ้าหลอกเอาเงินมาจากผู้ชายรวยๆ ไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแบบเนี่ย...”

ไม่ว่าแม่ของเธอจะเป็นยังไง เล่นไพ่จนหนี้ท่วมหัวมาไม่รู้กี่ครั้ง นภัทรก็ยังรักแม่ของเธอเสมอ ... ดูๆ ไปชีวิตของนภัทรก็อาภัพไม่ใช่น้อย ที่ต้องคอยตามล้างตามเช็ด ใช้หนี้ให้กับแม่ของเธอ จนต้องเอาตัวเข้าแลกกับบรรดาหนุ่มๆ ไฮโซที่มีอันจะกิน ความหวังจะที่พบรักแท้สักครั้ง ก็หมดไปนานแล้ว เหลืออยู่เพียงความกระหายในลาภ ยศ เงินทองที่บ่อยครั้งแม่ของเธอเป็นผู้ยัดเยียดให้ ...
“นี่แกไม่ต้องมาย้อนฉันเลยนะ และถ้าแกไม่สามารถจัดการให้นายธวัฒน์มาจัดการสู่ขอแกได้ล่ะก็ พรุ่งนี้ฉันจะไปพบคุณหญิงศศิกานต์ที่บ้าน ... ไปพูดให้มันรู้เรื่องกันไปเลย ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็คงต้องแฉ ... แฉให้แหลกกันไปข้างนึง”
“นี่...นี่ถ้าคุณแม่ทำอย่างนั้น หนูก็จะเสียชื่อไปด้วยนะค่ะ ... หนูว่าคุณแม่ใจเย็นๆ ดีกว่านะค่ะ อีกไม่กี่วันคุณวัฒน์เค้าคงจะมาจัดการเองล่ะค่ะ...”
“ไม่!!! นี่คือคำขาด... แกก็รู้ว่าตอนเนี่ย ไอ้เสี่ยอ้วนตัวแสบมันตามจิกฉันทุกวันให้หาเงินไปใช้มันเนี่ย ... ฉันเย็นต่อไปไม่ไหวแล้วย่ะ...”

คุณหญิงพรทิพย์ เดินปึงปังขึ้นไปข้างบนแล้ว โดยปล่อยให้ลูกสาวต้องนั่งคิดหนักอยู่เพียงลำพัง ... บางครั้งถ้าคนเราสามารถเลือกเกิดได้ก็คงจะดี ... นภัทรอาจไม่อยากเลิกเกิดมาเป็นแบบนี้ แต่จิตใจที่เห็นแก่ได้ อิจฉาริษยา ก็อาจมาจากการเพาะบ่มของคนรอบข้างได้เช่นกัน ...
...
“คุณหญิงค่ะ มีแขกมาขอพบค่ะ...”
เสียงแววเข้ามารายงานคุณหญิงศศิกานต์ ที่โต๊ะอาหารในยามเช้าของวันอาทิตย์ ซึ่งมีนัท ภานุ และธวัฒน์นั่งอยู่อย่างพร้อมหน้า ...
“ใครจ๊ะแวว ...”
“เอ๊อ ...คุณ คุณ...”
“ดิฉันเองค๊า... คุณหญิง...”

เสียงคุณหญิงพรทิพย์ดังมาแต่ไกล พร้อมกับถือวิสาสะเดินนำนภัทร เข้ามาอย่างไม่ค่อยถือมารยาทมากนัก ... ธวัฒน์ที่มองเห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามาถึงกับตกใจ จนช้อนหลุดจากมือ ...
“อ้าว ... ว่าไงจ๊ะ แต๊ว (คุณหญิงพรทิพย์) ลมอะไรหอบมาแต่เช้าเชียว ... มา มา มาทานมื้อเช้าด้วยกันซิ...”
คุณหญิงศศิกานต์ ทักทายปราศรัยอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับเชื้อเชิญให้ร่วมโต๊ะอย่างมีมายาท ...โดยหันไปสั่งกับแววที่ยืนรออยู่ ...
“แวว ...ไปจัดอาหารมาอีกสองชุดซิจ๊ะ...”
“โอ๊ย... ไม่ต้องหรอกค่ะ ดิฉันกับยัย ภัทร ทานมาเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ...”
“งั้นหรอจ๊ะ งั้นหญิงแต๊ว กับหนูภัทร ไปคอยที่โต๊ะรับแขกก่อนนะจ๊ะ อีกสักครู่ค่อยคุยกัน... เดี๋ยวจะให้เด็กยกกาแฟไปให้นะ”
“ขอบคุณค่ะ ไปยัยภัทร ไปนั่งรอตรงโน้นกันดีกว่า...”
นภัทรเดินตามผู้เป็นแม่ไปที่โต๊ะรับแขก แต่สายตาก็เหลือบมองมาที่ธวัฒน์ที่กำลังทำเหมือนไม่เห็นเธอเข้ามา ...และก็ไม่ลืมที่จะหันไปมองทางนัท ที่มองตอบกลับมาอย่างไม่ล่ะสายตาด้วยไม่เคยคิดกลัวเกรงอะไรเธอเลย ... จนทำให้เลือดเริ่มขึ้นหน้าเธออีกรอบ ความอยากจะเอาชนะมันก็แล่นเข้ามาในสมองโดยไม่ต้องใช้เวลาเลย ...

เมื่อเวลาของอาหารเช้าจบลง ... มีเพียงคุณหญิงศศิกานต์ คุณหญิงพรทิพย์และนภัทร ที่นั่งอยู่ที่ชุดรับแขกสุดหรู ด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่น ...หลังจากจิบกาแฟหลังอาหารเสร็จ คุณหญิงศศิกานต์ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน ...
“ว่าไงจ๊ะ ...หญิงแต๊ว มากันแต่เช้า ... คงจะมีเรื่องสำคัญซินะ...”
“จะว่าสำคัญก็สำคัญมากอยู่ค่ะ... ไม่งั้นคงไม่พากันมาแบบนี้...”
นภัทรสะกิดผู้เป็นแม่นิดนึง ... เหมือนจะห้ามเป็นนัยๆ แต่นั่นก็เป็นไปตามแผนที่ได้นัดแนะกันมาก่อนแล้ว ...
“ไม่ต้องเลยยัยภัทร ไม่ต้องมาห้าม ... ยังไงซ่ะคุณหญิงก็ต้องให้ความยุติธรรมกับลูกแน่ ... ไม่ต้องห่วง...”
“นี่มันเรื่องอะไรกันหรอจ๊ะ หญิงแต๊ว หนูภัทร ... ทำไมมันเกี่ยวกับความยุติธรรมของอะไร ยังไงกัน...”
“เอ๊อ คืออย่างนี้ค่ะ คุณหญิง...”
คุณหญิงพรทิพย์ เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับลูกสาวให้คุณหญิงศศิกานต์ฟังอย่างละเอียด พร้อมกับสิ่งที่ต้องการให้คุณหญิงเป็นผู้จัดการ... โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีนัทและภานุ ที่กำลังช่วยนมพริ้มเก็บจานชามอยู่ในห้องถัดมา กำลังได้ยินสิ่งที่เล่าอย่างชัดเจน ... หน้าของนัทซีดเผือด มือที่กำลังถือแก้วสั่นเทาจนควบคุมไม่ได้ ...
เพล๊ง!!! ... เสียงแก้วหล่นกระทบพื้นแตกกระจาย...ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ที่ชุดรับแขกหันมามองพร้อมกันทางต้นเสียง ... และเป็นภานุที่โผล่หน้าออกมาอย่างสำนึกผิด ...
“เอ๊อ ... ผมเองครับคุณป้า ขอโทษครับผมซุ่มซ่ามไปหน่อย ... เดี๋ยวผมจะจัดการให้เรียบร้อยครับผม”
คุณหญิงได้แต่ หันไปพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มไม่ถือโทษเท่านั้น ก่อนจะหันมามองฝ่ายสองแม่ลูกที่กำลังรอคำตอบหรือคำพูดอะไรสักอย่างที่จะออกมาจากปากของคุณหญิง ...
“ภานุ ภานุ ไปตามพี่วัฒน์บ่นห้องให้ป้าหน่อยซิจ๊ะ ...”
เสียงคุณหญิงสั่งงานหลานชายซึ่งรู้อยู่แก่ใจว่ากำลังแอบฟัง เรื่องนี้อยู่อย่างใจจดใจจ่อ ... ภานุเองถึงกับหน้าเจื่อนเพราะเหมือนโดนจับผิด จึงออกมารับคำสั่งแต่โดยดี ก่อนจะหันไปดูนัทด้วยความเป็นห่วงซึ่งกำลังฟังเรื่องราวเมื่อครู่อย่างเหม่อลอย...
“ไปซิภานุ มองอะไรอยู่ ... เดี๋ยวคุณป้าก็ว่าเอาหรอก...”
“แต่ว่า ... นัทโอเคเปล่า...”
“เฮ้ย...จะบ้าหรอ แล้วนัทจะเป็นอะไรล่ะ แค่มือลี่นทำแก้วหล่นแค่เนี่ย ... อย่ามาเหมาว่านัทไม่สบายซิ...”
“คนอะไรปากแข็ง จริงจริ๊ง... งั้นเดี๋ยวภานุมานะครับ ...”
“อืม ... เดี๋ยวนัทยกถาดใส่แก้วไปไว้ในครัว ก็จะขึ้นไปข้างบนแล้วล่ะ ... ภานุรีบไปเถอะ...”
ก๊อก ก๊อก!!!
“พี่วัฒน์คร้าบบบ ... คุณป้าให้ลงไปหาข้างล่างครับผม...”
ก๊อก ก๊อก!!!
“พี่วัฒน์คร้าบบบ... ได้ยินไหมครับ...”
ก๊อก ก๊อก!!!
“รู้แล้วโว้ย ไอ้ภานุ ... ขืนเคาะอีกทีโดนเตะแน่ ... จะไปไหนก็ไป ... เดี๋ยวพี่ลงไปเอง ...”
เสียงธวัฒน์ว่าให้กับภานุ ที่ง้างแขนกำลังจะเคาะประตูอีกรอบ แต่โชคดีที่ธวัฒน์เปิดออกมาพอดี ... ภานุรีบวิ่งแจ่นกลับไปทันที โดยทิศทางที่ไปก็เป็นห้องของนัทไม่มีผิด ธวัฒน์ที่มองตามไปก็ได้แต่ถอนใจออกมา ... ก่อนที่จะปิดห้องและกำลังเดินลงบันไดมา พอดีกับที่นัทเดินสวนขึ้นมานั่นเอง ... นัทที่มองเห็นธวัฒน์เดินลงมาจึงได้แต่เดินให้ดูปกติขึ้นไปโดยพยายามไม่สนใจและไม่มองหน้าด้วยซ้ำ ... จนมีมือมาฉุดไว้นั้นแหละถึงได้หันมามองตามแรงดึง ...

“เดี๋ยวซินัท ... จะไม่พูดกับพี่สักคำหรอ...”
“ไม่จำเป็นครับ ... ผมว่าเราไม่มีเรื่องอะไรจะพูดกันหรอก ... คนที่มีเรื่องจะพูดกับพี่เค้ากำลังรออยู่ข้างล่างโน้น... ผมว่าพี่รีบไปดีกว่านะ คุณป้ารอนานแล้ว... แล้วอย่าทำให้ท่านต้องลำบากใจ...นะ...ครับ...”
“แล้วนัทไม่ห่วงว่าพี่ก็ลำบากใจบ้างเหรอ ...”
“เวลาทำลงไปก็มีความสุขดีนี่ครับ แล้วทีอย่างนี้จะมาบอกว่าลำบากใจ มันไม่ขาดความรับผิดชอบไปหน่อยเหรอไง...”
“แล้วรู้ได้ไงว่าพี่มีความสุข ... นัทไม่ใช่พี่นะ อย่ามาตัดสินพี่ด้วยอารมณ์ซิครับ...”
“ใช่ซิครับ ผมไม่มีสิทธิไปตัดสินพี่หรอก ... แต่พี่ควรจะรีบลงไปรับผิดชอบกับสิ่งที่พี่ได้ทำไว้จะดีกว่านะ และปล่อยผม!!!”

นัทสะบัดมือเดินขึ้นไปแล้ว ปล่อยให้ธวัฒน์เจ็บปวดกับการกระทำของตัวเองถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ... แต่เค้าต้องรับผิดชอบอย่างนั้นเหรอ ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 05-05-2007 00:23:21
มานม่ายง่ายจริงๆด้วยเนอะ....
เอ้าพี่วัฒน์ แค่หมั้นก็พอน่ะ อย่าพึ่งแต่งเลยน่ะ....เดี๋ยวค่อยชิ่ง ก็ยังทันอ่ะ ...5555 o14 o14

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 05-05-2007 00:45:25
 :angry2: วุ่นวายจริงๆเลย สองแม่ลูกคู่นี้
 :sad4:สงสารนัท  ช้ำใจอีกแร้ววว
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 05-05-2007 11:23:33
 :o12: :o12:  หวังว่านัทคงไม่เตลิดไปนะครับ   :o7: :o7:

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-05-2007 12:33:28
เหมือนละครช่องเจ็ดเลย

แม่ลูกตัวอิจฉา

 o12
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-05-2007 15:00:17
วัฒน์ต้องรับผิดชอบจริงเหรอ  o9  o9  o9 บอกสิว่าไม่จริง  :dont2:
นังนภัทรอย่างนี้ต้องเจอ  o18
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-05-2007 15:17:34
เหมือนละครน้ำเน่า แต่ว่าชอบอ่ะ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 05-05-2007 20:06:17
มาต่อให้แล้ว ค๊าบบ    ชีวิต ช่างเหมือนละคร จิงๆ อิอิ   :teach:

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

27…

ในห้องรับแขก ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงคุณหญิงศศิกานต์และธวัฒน์เพียงสองคนเท่านั้น … เนื่องจากนภัทรและแม่ของเธอกลับไปได้สักครู่แล้ว … สายตาของคุณหญิงยังจับจ้องอยู่ที่หน้าของบุตรชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียว … ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในตัวลูกคนนี้มีเต็มเปี่ยม มากพอที่จะไม่ทำให้คุณหญิงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากความยินยอมพร้อมใจ หรือแม้แต่การใช้กำลังบังคับขืนใจ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะคุณหญิงรู้จักลูกชายที่เธอเลี้ยงมาเป็นอย่างดี …
“ว่าไงล่ะตาวัฒน์ … ดูเหมือนคุณหญิงแต้วจะไม่ค่อยชอบใจเลยนะที่ได้คำตอบแบบนั้นกลับไป …”
“ก็คุณแม่จะให้ผมทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ได้ละครับ ก็ในเมื่อผมยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับภัทร…”
“ทำไม่ล่ะ แม่ว่า แม่เห็นลูกคบหาดูใจกับหนูภัทรเธอมานานพอสมควรเลยนะ…”
ธวัฒน์ทำท่าทางอึกอัก จนเป็นที่ผิดสังเกตของคุณหญิง … ไม่รู้ว่าจะหาคำตอบแบบไหนที่จะทำให้คุณแม่สบายใจขึ้นกว่าเดิมเพราะเท่าที่นภัทรพาคุณหญิงพรทิพย์บุกมาถึงที่บ้าน ก็คงทำให้ท่านกังวลใจไม่น้อย …
“เอ๊อ… คือ…”
“หรือว่าลูกมีคนรักใหม่อย่างนั้นเหรอ … ใช่ไหมตาวัฒน์”
“คือว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อน… ผมคงเต็มใจที่จะแต่งกับเธอครับแม่ … แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับ…”
“หมายความว่าลูกมีคนใหม่…”
“ก็… ก็ไม่เชิงแบบนั้นหรอกครับ เพราะ … เพราะผมคงชอบเค้าอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง…”
คุณหญิงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย … ก่อนจะทำหน้าสงสัยในสิ่งที่ลูกชายกำลังบอกกับตน …
“หน้าตาแบบลูกเนี่ยนะ ตาวัฒน์ … ใครเห็นก็ต้องชอบลูกกันทุกคน แล้วทำไมเค้าถึงไม่ชอบลูกของแม่ล่ะ…”
“เค้าไม่เหมือนคนอื่นครับแม่ … แตกต่างจากทุกคนที่ผมเคยพบมาอย่างสิ้นเชิง …”
คุณหญิงมองหน้าตาเศร้าๆ ของธวัฒน์อย่างเห็นอกเห็นใจในตัวบุตรชายยิ่งนัก จึงเดินไปนั่งข้างๆ พร้อมโอบกอดไว้อย่างรักใคร่ เป็นสิ่งที่เธอมักทำเสมอๆ เวลาที่ธวัฒน์มีเรื่องไม่สบายใจตั้งแต่ยังเด็กจนโต …
“แม่เข้าใจนะลูก … ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ กามเทพมักเล่นตลกกับเราเสมอๆ … แม่เชื่อใจลูกนะตาวัฒน์ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย … แม่ไม่รู้หรอกว่าความจริงมันเป็นยังไงแต่แม่ก็เชื่อมั่นในตัวของลูกเสมอ..”
ธวัฒน์เงยหน้ามามองผู้เป็นมารดาอย่างซาบซึ้ง และโอบกอดแน่นกว่าเดิม
“ขอบคุณครับแม่ ที่เชื่อใจผม …”
“จ๊ะ…และอีกอย่างแม่จะไม่เร่งรัดลูกหรอกเรื่องหนูภัทรน่ะ… ถึงจะให้หมั้นกันไปก่อนก็ตาม แต่เพราะว่ามันคือความสุขทั้งชีวิตของลูก ไม่ต้องมาห่วงชื่อเสียงเกียรติยศของพ่อหรือแม่ทั้งนั้นนะ เพราะชื่อเสียงเกียรติยศมันไม่ยั่งยืนยงไปตลอดหรอก แต่ความสุขของลูกนี่ซิ ที่มันจะอยู่กับลูกไปชั่วชีวิต เมื่อถึงเวลาที่ลูกพร้อมจะรับหนูภัทรเข้ามาในบ้านเราแล้วล่ะก็ บอกแม่ได้เสมอนะ”
“ครับแม่… ผมขอเวลาเพื่อพิสูจน์ให้แน่ใจเท่านั้น ว่าภัทรจริงใจกับผม เมื่อนั้นผมก็พร้อมจะแต่งงานกับเธอครับ ผมเป็นลูกผู้ชายมากพอที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำลงไป แม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม…”
………………………………………………………………………………………………………………………
มีทางสองทางที่ให้ฉันต้องเลือก
เลือกอยู่ทำดีกับเธอ หรือตัดเธอไปจากใจ
มันเป็นสองทางที่ต้องตัดสินใจ
เมื่อเธอนั้นไม่ได้รัก ก็ควรจะไปจากเธอ

ทั้งที่ฉันทำเพื่อเธอทุกอย่าง
แต่ไม่มีวันที่เธอจะมองเห็น
ทั้งที่รู้แต่ใจก็ยังลังเล
ฉันควรจะอยู่หรือไป

ใจหนึ่งก็รัก อีกใจหนึ่งก็เจ็บ
เจ็บที่ยังรักเธอข้างเดียวอยู่ร่ำไป
ใจหนึ่งก็คิดจะเดินไปให้ไกล
แต่อีกใจยังไม่กล้าพอ
เพราะรู้ว่ายังขาดเธอไม่ได้

คำลาสักคำไม่จำเป็นต้องเอ่ย
แค่จากเธอไปอย่างนั้น และอย่าได้หันกลับมา
มันคงง่ายดายไม่ต้องเจ็บค้างคา
ถ้าหากจะยอมตัดใจ เจ็บหนักไปเลยหนึ่งครั้ง

“เฮ๊ย! … ภานุเปิดเพลงอะไรอ่ะ ปิดเดี๋ยวนี้เลยนะ …”
“ทำไมเหรอ … อินขนาดนั้นเลยหรอ เห็นตาแดงๆ เชียว … อย่าบอกนะว่านัทจะร้องไห้อ่ะ”
“ใคร ใครจะร้องไห้ … ฟังเพลงแค่เนี่ยอ่ะนะ ไม่มีทางหรอก นัทไม่ได้แอบชอบใครเหมือนในเพลงนี้นะ…”
“นั่นซิเนอะ ถ้าลองได้แอบรักใครสักคนมันก็คงไม่ต่างจากในเพลงนี้หรอก … มันคงจะทรมานมากแน่ๆ …”
สีหน้าภานุดูจะเปลี่ยนไปนิดนึง ก่อนที่นัทจะได้สังเกตเห็น ภานุก็เปลี่ยนกลับมาเป็นหน้าตาทะเล้นตามเดิมไปแล้ว …
“อืม นั่นซิ … ว่าแต่ภานุยังไม่ได้บอกนัทเลยนะที่คราวก่อนบอกว่าแอบชอบเด็กในคณะวิศวะฯ ที่นัทเรียนอยู่เนี่ย ตกลงใครหรอ…”
“อ๊ะ อ๊ะ … อยากรู้เหรอ … งั้นขยับมาใกล้ๆ ซิเดี๋ยวจะกระซิบบอก … ไม่อยากพูดเสียงดังอ่ะ …”
“โห … อยู่กันแค่สองคนเนี่ยนะ ยังจะกลัวใครได้ยินอีกหรอ … อย่าเรื่องมากน่า … บอกมาเร็วๆ …”
“ไม่เอาอ่ะ ก็ภานุอายพวกจิ้งจกตุ๊กแกนี่นา … กลัวมันจะเอาไปล้อน่ะซิ … ถ้านัทไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไรนะ …”
“ชักจะเวอร์ไปใหญ่เลยนะ … อะ อะ บอกมาซะที …”

นัทที่ลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ ภานุ เพราะความอยากรู้มีชัยเหนือกว่า … พร้อมกับเอียงหูไปใกล้ๆ … ภานุเองก็ยื่นหน้ามาใกล้หูของนัท เหมือนกำลังจะกระซิบความลับสำคัญมากสักอย่าง … แต่ก็ผิดคาด เมื่อนัทต้องหลงกลเข้าอย่างจัง …
จุ๊บ !
“ไอ้ภานุ … แก … แก … เล่นไรว่ะ”
นัทที่โดนขโมยหอมแก้ม … เพราะหลงกลภานุ หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ที่โดนหลอก รีบกระโดดลงจากเตียงหวังจะได้เตะคนสักทีสองทีให้หายแค้น แต่ภานุที่รู้แกว ก็วิ่งแจ้นออกไปจากห้องซะแล้ว … พร้อมกับเสียงตะโกนเข้ามาในห้อง …
“เจอกันพรุ่งนี้นะ แล้วจะมารับไปมหา’ลัย …!!!”
“เฮ๊ย… อย่าเพิ่งหนีซิ กลับมาก่อน … ไอ้บ้าเล่นอะไรแผลงๆ …”
พูดไปก็คงเท่านั้น เพราะตอนนี้ภานุคงไปถึงรถแล้ว … นัทได้แต่กลับมานั่งบนเตียง ใช้รีโมทกดเปลี่ยนสถานีเพลงแล้วต้อง ทอดถอนใจอีกรอบ เพราะเสียงเพลง เพลงเดิมกับที่ภานุเปิดเมื่อครู่ถูกเปิดที่สถานีนี้ด้วย … อยากจะกดเปลี่ยนไปที่อื่น แต่มือมันก็ไม่ทำตามที่ใจสั่ง … จึงได้แต่ฟังต่อไป … และนึกถึงคนที่เค้ากำลังจะแต่งงานและมีความสุข ทำไมกันนะ ทั้งๆ ที่มันน่าจะดีใจที่เค้าคงจะไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของนัทอีก แต่นัทกลับไม่รู้สึกดีใจเอาเสียเลย … แต่น้ำตามันกลับไหลออกมาโดยไม่สามารถบังคับได้ …

ใจหนึ่งก็รัก อีกใจหนึ่งก็เจ็บ
เจ็บที่ยังรักเธอข้างเดียวอยู่ร่ำไป
ใจหนึ่งก็คิดจะเดินไปให้ไกล
แต่อีกใจยังไม่กล้าพอ
เพราะรู้ว่ายังขาดเธอไม่ได้

………………………………………………………………………………………………………………………
ภานุที่เดินลงมาจากห้องของนัท ต้องมาเจอเข้ากับธวัฒน์ที่กำลังคุยกับคุณป้าของเค้า … เมื่อคุณหญิงเห็นภานุ จึงโบกไม้โบกมือเรียกให้เข้าไปหา …
“จะกลับแล้วเหรอ ภานุ ทำไมวันนี้รีบกลับล่ะ ปกติเห็นเฝ้านัททั้งเช้าทั้งเย็นเลยนะ …”
“พอดี วันนี้ต้องไปทำธุระให้คุณแม่ครับคุณป้า … เลยต้องรีบกลับ ยังไงผมก็มารับนัททุกวันอยู่แล้วล่ะครับ …”
“ดีแล้วจ๊ะ … ป้าดีใจนะ ที่ภานุเข้ากับนัทได้ดี … ดีกว่าบางคนในบ้านนี้ซะอีก …”
คุณหญิงเหลือบไปมองลูกชายของตนนิดนึง ก่อนจะหันมาพูดกับภานุต่อ …
“ยังไง … ป้าก็ฝากดูแลนัทเค้าด้วยนะจ๊ะ … จนกว่านัทเค้าจะเรียนจบ และได้งานทำมีชีวิตที่มั่นคง เค้าคงจะต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ … ผมน่ะรักนัทมากเลยครับคุณป้า ไม่ว่านัทเค้าจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรผมจะดูแลอย่างดีเลย …”

คุณหญิงมองหน้าภานุอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ หน้าตาบอกได้ว่ากำลังสงสัยในถ่อยคำของหลานชาย … จนภานุคงจะเพิ่งนึกได้ …
“เอ๊อ … แฮะ แฮะ … ผมหมายถึงนัทเป็นเพื่อนรักของผมน่ะครับ ไม่มีอะไร …”
พูดจบก็หันไปมองหน้าพี่ชายทีนึง ซึ่งตอนนี้ภานุพอจะเอาอารมณ์ได้ว่า ธวัฒน์คงกำลังอยากต่อยเค้าสักหมัดแน่ๆ … เพียงแต่ว่าตอนนี้อยู่ต่อหน้าคุณป้า พี่วัฒน์จึงยังเก็บอาการได้ดีเป็นพิเศษ …
“อืม … เหรอจ๊ะ รักกันไว้นะ นัทเค้าจะได้ไม่เหงา … แล้วเดือนหน้าพี่วัฒน์เค้าจะหมั้นกับหนูภัทร ยังไงป้าฝากเรียนคุณแม่ให้มางานด้วยนะภานุ…”
“หา … เดือนหน้าแล้วเหรอ … แล้ว แล้ว จะแต่งกันเมื่อไหร่อ่ะครับ …”
“คงแล้วแต่พี่วัฒน์เค้าน่ะ ยังไงป้าก็ฝากด้วยนะ …”
“ครับ ครับ … งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ …”

ภานุเดินออกไปที่หน้าบ้านแล้ว โดยมีธวัฒน์เดินตามออกมาด้วย …
“ภานุ …”
“มีอะไรเหรอครับพี่วัฒน์ …”
“พี่แค่ยังไม่อยากให้ภานุบอกเรื่องหมั้น ให้ … นัทรู้น่ะ …”
“ผมว่าพี่ออกจะเห็นแก่ตัวเกินไปนะครับ เรื่องเนี่ยจะช้าหรือเร็วนัทเค้าอยู่ในบ้านนี้ยังไงก็ต้องรู้อยู่ดี …ผมว่าพี่ควรจะหาทางสะสางปัญหาของตัวเองให้ได้ก่อนดีกว่านะ …”
“นายหมายความว่าไง …”
“ก็หมายความตามที่พูดล่ะครับ … พี่ก็ลองคิดดูดีๆ ล่ะกัน …”

ธวัฒน์ได้แต่มองตามรถของภานุที่แล่นออกไปแล้ว … พร้อมกับใบหน้าแห่งความยุ่งยากใจ เพราะเค้าไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ว่าเค้าได้เกินเลยไปกับนภัทร และเวลาที่เค้าขอคุณแม่เพื่อพิสูจน์ความจริงใจของนภัทรล่ะ ถ้าเกิดนภัทรจริงใจกับเค้าจริง เค้าก็คงต้องยอมรับและแต่งงานกับเธอแต่โดยดี และปล่อยมือจากนัทให้ไปกับภานุ คนที่เค้ามั่นใจว่าก็รักนัทอยู่ไม่แพ้เค้าเหมือนกัน …

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 05-05-2007 20:09:13
สงสารทั้งนัท  ทั้ง ธวัฒน์ เลย T T :o12:

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

28...

“เฮ้ย! …นัทเป็นไรว่ะ นั่งเหม่ออยู่ได้ … นั่งเขี่ยข้าวอยู่นั่นแหละ ถ้าไม่กินเดี๋ยวข้าก็แย่งกินซะหรอก …”
เอกที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆ นัท … อดที่จะถามไม่ได้ เพราะตั้งแต่มาเรียนวันนี้ดูนัทจะแปลกไปกว่าเคย เพราะเหม่อลอยเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ … แม้แต่ในห้องเรียนซึ่งโดยปกตินัทจะตั้งใจเรียนเสมอ วันนี้ก็ยังนั่งเหม่อ …
“ม…ไม่ค่อยหิวว่ะ จะกินเหรอ เดี๋ยวยกให้ …”
 บอลหันไปมองหน้าภานุ … ที่น่าจะรู้เรื่องดีกว่าใคร แต่วันนี้ภานุก็ปิดปากเงียบอีกคน  ได้แต่นั่งทานข้าวเงียบๆ สลับกับมองนัทที่นั่งใจลอย … จึงทำให้วันนี้ไม่มีเสียงทะเลาะของภานุและเอกให้ได้ยินเลยแม้แต่ครั้งเดียว …
“ไม่ต้องไปแย่งนัทกินเลยนะเอก ถ้าไม่อิ่มก็ไปซื้อใหม่เลยไป …”
บอลหันไปดุเอกที่ทำท่าจะเอื้อมไปหยิบจานที่วางอยู่ตรงหน้าของนัท … จนเอกต้องทำหน้าเบ้…ด้วยความเสียดาย …
“ไมอ่ะ … ก็นัทมันไม่กินนี่นา น่าเสียดายออก …”
เอกยังบ่น … แต่เหมือนจะแกล้งบ่นมากกว่าเพราะอยากสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นกว่าเดิม … แต่ก็เหมือนไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย … เพราะนัทยังไม่ยิ้มแย้ม ไม่ขำสักกะอย่าง …
“ภานุไปเป็นเพื่อนบอลถือขนมหน่อยซิ … นะ นะ บอลว่าจะซื้อไปฝากพี่รหัสสักหน่อย …”
“เฮ้ย … เดี๋ยวเอกไปช่วยก็ได้ ไม่ต้องไปกวนภานุมันหรอก ปล่อยให้มันใบ้รับประทานไปแหละดีแล้ว … ว่าแต่ซื้อไปฝากพี่รหัสจริงอ่ะ ทีกับเพื่อนกับฝูงไม่เห็นเคยคิดจะซื้อฝากบ้างเลยนะ …”
เอกดูเหมือนจะพูดออกมาโดยไม่ได้รู้ถึงจุดประสงค์ของบอลเอาซะเลย จนบอลต้องทำตาเขียวให้อย่างไม่พอใจ …
“ไม่ต้องยุ่งเลยกินข้าวไปเถอะ … บอลจะไปกะภานุ เพราะจะให้ภานุขับรถไปส่งที่คณะด้วย เข้าใจ๋ …”

บอลลุกออกไปแล้ว พร้อมกับบอกลานัท เพราะกะว่าซื้อของเสร็จก็จะกลับไปคณะเลย ภานุเองก็ยิ้มให้นัทเหมือนเคยก่อนจะเดินตามบอลออกไป …
“ไรของมันว่ะ ไอ้คู่นี้ชักมีลับลมคมใน … หรือว่าไงว่ะนัท คิดเหมือนกันป่ะ…”
“คงไม่มีไรมั้ง … ว่าแต่เอกไม่ต้องหวงบอลนักหรอกน่า ภานุมันก็เป็นคนดีนะ …”
“อะไร ใครว่าข้าหวงมัน เค้าเรียกว่าเป็นห่วงโว้ย … ใช้คำพูดให้มันถูกๆ หน่อย … ผู้ชายด้วยกันจะไปหวงมันทำไม …”
“นั่นซินะ ลืมไปว่าผู้ชายเหมือนกัน … “
“เอ็งเป็นไรว่ะนัท ทำหน้าเศร้าทั้งวันเลยนะ ยังกะคนอกหักงั้นแหละ มีไรก็บอกเพื่อนมั้งซิ เผื่อจาสบายใจขึ้น …”
“ไม่มีไรหรอกน่า … เพียงแค่ช่วงนี้คิดถึงแม่เป็นพิเศษเท่านั้นเอง นี่ก็ไม่มีจดหมายจากท่านมาหลายอาทิตย์แล้วนะ…”

“จริงหรอ … ก็น่าอยู่หรอก ตั้งแต่เอ็งมาอยู่บ้านพี่วัฒน์นะ เห็นเอ็งบอกว่าไม่เคยโทรมาเลย นอกจากเขียนจดหมายมา…”
“ใช่ … ไม่เคยโทรเลย … แต่ปกติก็เขียนมาทุกอาทิตย์นะ แต่นี่ก็สักสามอาทิตย์แล้วล่ะที่ไม่ได้เขียนมา … พอถามคุณป้าว่ามีเบอร์โทรที่จะติดต่อคุณแม่ได้บ้างไหม ท่านก็ว่าไม่รู้เหมือนกัน …”
“เฮ้ย … อย่าคิดมากเลยน่า ยังไงท่านก็ยังติดต่อมาเรื่อยๆ แหละ ช่วงนี้อาจจะยุ่งมากก็ได้ เลยไม่มีเวลาเท่านั้นเอง … ไปเรียนกันเถอะว่ะ วันนี้ชั่วโมงสุดท้ายมีเรียนกะตาแทนไท ด้วยนะเอ็ง …ไปเหอะ”
นัทและเอก เข้าไปเรียนกับแทนไทในช่วงบ่าย ซึ่งทั้งสองคนก็ลุ้นๆ อยู่ว่าจะมีอะไรหลังเลิกเรียนเหมือนคราวก่อนหรือเปล่า … แต่ก็น่าแปลก ที่วันนี้อาจารย์แทนไท สอนเสร็จก็แค่สั่งงานนิดหน่อย แล้วก็กลับออกไปเท่านั้น … ไม่แม้แต่จะหันมามองเค้าสองคนด้วยซ้ำ …
“เออ ดีว่ะ … ช่วงนี้ดูจะเรียบร้อยขึ้นนะ หลายอาทิตย์แล้วเนี่ยที่ไม่หันมามองข้ากะเอ็งเลย สงสัยจะมีเป้าหมายใหม่แล้วมั้ง …”
“เป้าหมายไรว่ะ พูดไปเรื่อยเลยนะเอก …”
“อ้าว ก็เอ็งไม่ใช่เป้าหมายของเค้าหรอกหรอ…”
“ไอ้บ้า … พูดไรไม่เข้าท่า ไปเหอะกลับบ้านดีกว่าเย็นแล้ว.…”
“เออ … ว่าแต่วันนี้เอ็งกลับกับภานุมันใช่ม่ะ เพราะข้ากับบอลต้องไปงานกับที่บ้านว่ะคงไปส่งเอ็งไม่ได้ …”
“อืม ใช่เดี๋ยวภานุคงมาแหละเอ็งไปรับบอลเหอะ ป่านนี้คอยแล้วล่ะ …”
ที่จริงวันนี้ภานุบอกกับนัทไว้แล้วว่าช่วงสองสัปดาห์นี้จะมีกิจกรรมตอนเย็นที่คณะ จึงให้นัทกลับกับพวกเอก แต่ในเมื่อเอกไปส่งไม่ได้คงต้องกลับเอง และด้วยไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงจึงต้องบอกไปแบบนั้น … นัทนั่งอยู่ที่หน้าคณะโบกมือให้เอกที่ขับรถออกไปแล้ว มองซ้ายมองขวา ก็แทบไม่เหลือใคร เพราะกลับกันเกือบหมดแล้ว … จึงตัดสินใจเดินออกมาหน้ามหา’ลัย เพื่อหารถแท็กซี่กลับบ้านก่อนที่จะเย็นมากไปกว่านี้ … พอเดินเกือบถึงประตูของมหา’ลัยก็มีเสียงรถบีบแตรเรียกอยู่ตรงถนนข้างๆ … จึงหันไปมองโดยอัตโนมัติ และคนที่อยู่ในรถก็คือแทนไท นั่นเอง …
“ว่าไงครับ น้องนัท … กลับบ้านคนเดียวหรอวันนี้ … ขึ้นมาซิครับเดี๋ยวพี่ไปส่ง…”
“มะ…ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกลับเองได้ … เกรงใจครับ …”
“มาเกรงอก เกรงใจอะไรกันล่ะครับ คนกันเอง … เร็วซิครับ รถข้างหลังเริ่มยาวแล้วนะครับ …”
เนื่องเป็นทางเข้าออกในช่วงที่เลิกเรียน … จึงมีรถเข้าออกเยอะมาก และตอนนี้ก็มีรถที่จอดรอคิวให้แทนไท คืนบัตรออกอยู่หลายคัน … และตอนนี้บางคนก็กำลังบีบแตรอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ด้วยความเร่งรีบ … ทำให้นัทเป็นเป้าสายตาของนิสิตที่เดินเข้าออก จนทำให้นัทต้องตัดสินใจขึ้นไปนั่งบนรถของแทนไท … เพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตาของคนอื่น …
“แหม … ขึ้นมาตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องแล้วน๊า …”
“ก็ผมเกรงใจพี่น่ะครับ … อีกอย่างมันก็คนละทางกับพี่เลยนี่ครับ ถ้าไงจอดป้ายรถเมล์ให้ผมเรียกแท็กซี่กลับดีกว่านะ …”
“ไม่ได้หรอกครับ … เพราะอ้อยเข้าปากช้างแล้ว จะปล่อยไปได้ไงล่ะ …”
“พะ…พี่แทน หมายความว่าไงครับ”
นัทถามด้วยเสียงสั่นน้อยๆ … จนแทนไทต้องหัวเราะออกมาอย่างพออกพอใจ … ที่ทำให้นัทกลัวได้ …
“พี่พูดเล่นครับ … อย่าคิดมากเลยนะ เดี๋ยวไปกินข้าวกับพี่สักมื้อแล้วพี่จะพาไปส่งบ้านนะครับ … พี่ยังไม่มีโอกาสฉลองให้เลยนะที่อุตส่าห์สอบได้ที่นี่ …”
“ไม่ต้องก็ได้ครับ … ผมว่าเดี๋ยวที่บ้านจะเป็นห่วงกันนะครับ เพราะปกติผมก็ไม่ได้ไปไหนหลังเรียน …”
“ห้ามปฏิเสธนะครับ และพี่คิดว่านัทโตพอแล้วนะ ที่บ้านเจ้าวัฒน์ก็คงจะเข้าใจ หรือนัทจะให้พี่โทรไปบอกไอ้วัฒน์มันก่อนไหมล่ะ ว่าไปกินข้าวกับพี่ …”
นัทได้แต่คิดไปว่าธวัฒน์นั้นคงไม่มีเวลามาสนใจอะไรเค้านักหรอก เพราะอีกไม่นานเค้าก็จะหมั่นกับนภัทรอยู่แล้ว คงไม่มีเวลามากพอจะมาเข้างวดกับเค้าเหมือนเมื่อก่อน … เพราะเดี๋ยวนี้ธวัฒน์จะกลับบ้านดึกเสมอๆ นั่นก็คงจะไปขลุกอยู่กับว่าที่คู่หมั้นแน่ๆ …
“ม…ไม่ต้องโทรไปบอกก็ได้ครับ … ช่วงนี้พี่วัฒน์ไม่ค่อยมีเวลา เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมไปสร้างความรำคาญให้อีก …”
แทนไท เหมือนจะแอบยิ้มอย่างพอใจ เพราะคิดว่าตอนนี้นัทและธวัฒน์คงจะมีปัญหากันอยู่ ไม่งั้นนัทก็คงจะไม่พูดแบบนี้ ซึ่งก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เค้ามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับนัทมากขึ้นก็ได้ … โดยหลังจากทานข้าวเสร็จ แทนไทก็ไปส่งนัทที่บ้านตามสัญญา …
“โชคดีนะครับน้องนัท แล้วว่างๆ พี่จะมาหาที่บ้านนะครับ …”
“ครับ ขอบคุณมากครับพี่แทน …”
“ราตรีสวัสดิ์นะครับ พี่กลับล่ะ ....”
แทนไท ขับรถออกไปแล้ว … นัทมองไปทางโรงเก็บรถก็ยังไม่เห็นรถของธวัฒน์เหมือนเคย …
“คงจะกลับดึกอีกแล้วซินะ …”
นัทได้แต่บ่นเบาๆ แล้วจึงเดินขึ้นไปบนห้องของตน ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-05-2007 20:32:20
 :try2: นึกไม่ออกเลยแฮะว่าเรื่องจะจบยังไง  :o11:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 05-05-2007 21:09:24
เวรละ ตาแทนก็จ้องจะเข้ามาตีซี้กะนัท ชิ o12
จะไหวมั๊ยเนี่ย...รักเนี้ย?  :impress:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 05-05-2007 21:13:23
มันต้องไหวสิน่า  วัฒน์สู้สู้  เพื่อความรัก  :o8:
เรื่องนี้นิยายโคตรๆ น้ำเน่าสุดๆ (แต่ตรูชอบอะไรน้ำเน่าๆ  :haun5:)
ฉะนั้น  พระเอกกับนายเอกต้องอยู่ด้วยกันดิ  มีพวกพระรอง นางอิจฉามาสร้างสีสันละกันนะ

หนุกๆๆๆ  รออ่านต่อจ้า  o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-05-2007 21:32:19
วัฒน์ สู้ สู้ เพื่อนัท :o8:

ต่อไวไวนะรออ่านอยู่  :teach:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 06-05-2007 11:35:24
 o12 o12  ขัดใจอย่างแรง  :angry2: :angry2: คุณพี่วัฒน์เอาแต่หลบหน้าแล้วก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย  แล้วอย่างนี้ก็คงเคลียกับนัทได้หรอกนะครับ o16 o16
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 06-05-2007 16:19:58
เฮ้อออ........ไม่ง่ายนัก........รักนี้  -0-  :sad4:

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

29...

งานหมั้นของธวัฒน์ผ่านไปอย่างเรียบง่าย … แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นที่พออกพอใจของฝ่ายคุณหญิงพรทิพย์ไม่ใช่น้อย เพราะขนาดแค่หมั้นก็มีเงินทองของหมั้นมากมาย จนทำให้ตาของคุณหญิงพรทิพย์โตเท่าไข่ห่านและยิ้มไม่หุบตลอดงาน … ความวุ่นวายเดียวก็คงจะเป็นการที่คุณหญิงพรทิพย์เชิญนักข่าวมาให้สัมภาษณ์ในงานด้วย ทั้งๆ ที่ทางฝ่ายธวัฒน์ก็บอกแล้วว่าไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โต … ในงานนี้ แทนไท ก็ได้รับเชิญมาร่วมด้วย ซึ่งดูจะพอใจและดีใจกับการหมั้นครั้งนี้เป็นพิเศษ ส่วนเอกและบอล ก็มาร่วมงานในฐานะเพื่อนสนิทของนัท และนั่นก็คงทำให้บอลพอจะเข้าใจในท่าทีไม่ค่อยสดใสของนัทตลอดระยะเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมา … ภานุก็จะอยู่ข้างนัทเสมอคอยกันท่าแทนไท ที่มักจะเข้ามาคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง … คงมีแต่เอกละมั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็เค้าเร๊ย …
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หลังจากงานหมั้นไม่นาน ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมของมหา’ลัย แทนไทก็เริ่มเข้านอกออกในบ้านของธวัฒน์บ่อยขึ้น … จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นแขกประจำของบ้านก็ว่าได้ … แต่ถ้าวันไหนมาเจอกับภานุแล้วล่ะก็ แทบจะทำให้นัทอยู่ไม่เป็นสุขเพราะต้องคอยกันไม่ให้สองคนนี้มีเรื่องกัน …
“ผมว่ากลับไปก่อนทั้งสองคนเลยดีกว่านะครับ … วันนี้ผมไม่ไปไหนกับใครทั้งนั้นแหละ …”
นัทที่กำลังนั่งอยู่กึ่งกลางระหว่างหนุ่มสองคน ต้องปวดหัวสุดๆ เมื่อประเด็นของการถกเถียงกันก็คือ การที่แทนไทชวนนัทออกไปดูหนัง แต่ภานุก็อยากพานัทไปดูหนังด้วยเหมือนกัน … และนั่นก็ทำให้ทั้งสองหนุ่มต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันและกัน ผลสุดท้ายก็ให้นัทเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกไปกับใคร …

“อ้าว !!!”
ทั้งหนุ่มเล็กและหนุ่มใหญ่อุทานออกมาพร้อมกัน เมื่อนัทตัดสินใจไม่ไปกับใครสักคน …
“ไม่อ้าวล่ะครับ … ผมว่าพี่แทนกับภานุกลับไปเลยทั้งสองคนนะครับ ผมขอวันนึงล่ะ เพราะปวดหัวมากๆ … ผมอยากจะพักผ่อน”
“งั้นให้พี่อยู่ดูแลนะครับ พี่รับรองว่าจะดูแลอย่างดีเลย…”
“ให้ภานุอยู่เฝ้าดีกว่านะนัท … ไม่สบายแบบเนี่ย เดี๋ยวภานุนอนค้างคืนนี้เป็นเพื่อนนะ …”
เมื่อการโต้เถียงเพื่อแย่งกันเป็นหนึ่งทำท่าว่าจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง จึงทำให้นัทต้องรีบห้ามสงครามที่กำลังเกิดขึ้นเสียก่อน …

“ไม่ต้องเลยนะครับ ทั้งสองคน … นัทขอพักผ่อนจริงๆ ขืนมีคนอยู่ด้วยก็ไม่ได้พักกันพอดี นะครับ … ถ้าไม่กลับไปกันล่ะก็งานนี้มีเคืองจริงๆ ด้วย…”
สองหนุ่มมองหน้ากันและกันไปมา เหมือนจะโทษว่าเป็นความผิดของอีกฝ่ายที่ทำให้นัทอารมณ์ไม่ดี … แต่คำพูดของนัทก็ทำให้ทั้งสองคนยอมถอยทัพแต่โดยดี …
“ก็ได้ ถ้านั่นเป็นความต้องการของนัทนะ งั้นวันนี้ภานุกลับก่อนก็ได้ …”
“พี่ก็จะกลับเหมือนกัน เอาไว้พี่มาเยี่ยมใหม่วันหลังนะครับ …”

นัทพยักหน้ารับ และดูจะโล่งใจเมื่อทั้งสองฝ่ายยอมทำตามแต่โดยดี … แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเข้มเมื่อยังไม่มีใครขยับสักคน มัวแต่มองหน้าฝ่ายตรงข้ามอยู่ได้ … เหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่ลุกก็จะไม่ยอมลุกก่อนอย่างไงอย่างนั้น …
“ก็ไปซิครับ จะกลับกันแล้วไม่ใช่เหรอ … นี่ก็เย็นแล้วนะครับ รีบกลับไปกันได้แล้ว … ออกไปพร้อมกันเลยทั้งสองคนไม่ต้องเกี่ยงกันเลย…”
“ค…ครับ ครับ ไปแล้วครับ…”
สองหนุ่มพูดแทบจะพร้อมกัน ก่อนที่ลุกเดินออกไปที่รถ โดยมีนัทเดินออกมาส่งถึงหน้าบ้าน ก่อนสองหนุ่มจะขับรถออกไปก็ไม่ลืมจะหันมาโบกมือลาอีกรอบ … จนทำให้นัทถึงกับต้องส่ายหน้าอย่างระอาใจ … และบ่นกับตัวเองเบาๆ …
“เมื่อก่อนภานุคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่ แต่ไมเดี๋ยวนี้กลายเป็นสองคนไปได้นะ … เฮ้อ !! … ปวดหัวสองเท่า…”
นัทมองจนรถทั้งสองคันพ้นประตูบ้านออกไปแล้ว … และมองเลยออกไปทางสวนหน้าบ้านที่ตอนนี้แสงแดดสุดท้ายของวันเริ่มจางไป … ความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุมทั่วบริเวณ … ทางด้านซ้ายเป็นโรงเก็บรถ ซึ่งวันนี้มีรถของธวัฒน์จอดอยู่ … นึกถึงเจ้าของรถแล้วต้องถอนใจออกมา … ซึ่งตอนนี้น่าจะทำงานอยู่ข้างบน แต่เมื่อกลับหลังจะเดินเข้าบ้านนัทก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆ คนที่เพิ่งนึกถึงก็มายืนอยู่ข้างหลังโดยไม่รู้ตัว … แถมหน้าตายังบอกบุญไม่รับอีกต่างหาก เหมือนไปกินรังแตนมาจากที่ไหน …

“พ…พี่วัฒน์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ…”
“ก็มาทันเห็นคนทอดถอนใจ … ยืนส่งคนรักนะซิ ทำไมเหรอยังเลือกไม่ถูกหรือไง ว่าจะเอาคนไหน …”

“ผมว่าพี่วัฒน์ชักจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วนะครับ … ผมขอตัวดีกว่า จะขึ้นข้างบน …”
นัทดูจะไม่พอใจกับคำพูดของธวัฒน์ที่จู่ๆ ก็มาพูดกระแทกแดกดันเค้า … จึงจะเดินหนีเพื่อตัดรำคาญ … แต่ก็ต้องโดนมือใหญ่ฉุดไว้เสียก่อน
“พี่มันน่ารังเกียจมากหรอ เจอหน้าพี่ทีไรองคอยหลบคอยหนี พี่ต่างจากพวกนั้นตรงไหนกัน …”
“พี่อยากรู้จริงหรอครับ … ถ้าอยากรู้ผมจะบอกให้ พวกเค้าน่ะคอยดูแลผมเสมอ ไม่เคยจะต้องทำให้ผมเสียใจและทำให้ผมมีความสุข อยู่เคียงข้างผมเวลาที่ผมไม่มีใคร … แค่เนี่ยมันยังน้อยไปนะครับ น้อยไปสำหรับความดีของพวกเค้า …”
นัทซึ่งพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจสุดๆ … พยายามตะเบ็งเสียงออกมาเพื่อไม่ให้ดูว่าตัวเองอ่อนแอ และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า

“พวกเค้าเป็นคนดีซินะ แต่พี่มันคงเลวมาก เลวจนเกินจะให้อภัยที่เคยทำให้นัทต้องเสียใจ … แต่นัทคงไม่ว่าหรอกนะถ้าพี่จะขอเลวให้ถึงที่สุดไปเลย ให้สมกับที่พี่โดนตราหน้าว่าเป็นคนเลวในสายตาของนัท !!!”
เสียงของธวัฒน์เยียบเย็นจนทำให้นัทขนลุก … อีกทั้งแรงจับที่ข้อมือซึ่งเพิ่มมากขึ้น … มันทำให้นัทเริ่มกลัว และนึกถึงวันเก่าที่ผ่านมานาน วันที่ธวัฒน์ได้ทำร้ายจิตใจและร่างกายของเค้า …
“ปล่อยผมนะครับ พ…พี่วัฒน์จะทำอะไร…”
“พี่ก็จะทำสิ่งที่คนเลวๆ เค้าทำกันนะซิ …”

ธวัฒน์ล็อคแขนทั้งสองข้างของนัทไว้ข้างหลังด้วยมือเดียว มืออีกข้างก็ใช้ปิดปาก พร้อมกับทั้งดึงทั้งลากนัทออกไปนอกบ้านตรงไปที่โรงเก็บรถ …นัทก็ได้แต่ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและหวั่นกลัวกับสิ่งที่ธวัฒน์กำลังทำ … เมื่อไปถึงที่รถธวัฒน์จึงปล่อยมือข้างที่ปิดปากนัทออก เพื่อเปิดประตูรถด้านหลัง …
“ช่วยด้วย!!! นมพริ้ม แวว ช่วยผมด้วย !!! …”
“ไม่มีประโยชน์หรอกน่า … ตอนเนี่ยเราอยู่บ้านกันแค่สองคน … ไม่ต้องเรียกใครมาช่วยซะให้ยาก …”
“ปล่อยผมนะ พี่จะพาผมไปไหน ปล่อยผม … ผมบอกให้ปล่อย …”
ธวัฒน์จัดแจงเอาผ้าที่หาได้ในรถมามัดข้อมือของนัทไขว้หลังไว้ ก่อนจะจับยัดเข้าไปที่เบาะหลัง โดยให้นัทนอนคว่ำหน้า … แล้วมัดขาไว้อีกทีเพื่อไม่ให้สามารถลุกขึ้นมานั่งได้ เสร็จแล้วจึงปิดประตู และขึ้นไปนั่งประจำที่ขับรถออกจากบ้านไป …

นัทไม่มีโอกาสได้เห็นเส้นทางที่ธวัฒน์ขับรถไปเลย … สิ่งเดียวที่ทำได้คือพูดขอร้องให้ธวัฒน์พากลับบ้าน ทั้งพูดดีๆ ก็แล้ว หยาบคายก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ธวัฒน์เปลี่ยนใจแม้แต่น้อย … น้ำตาที่มันอัดอั้นไว้มันก็ไหลออกมาด้วยความกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นัทรู้เพียงอย่างเดียวว่าธวัฒน์ขับรถมาไกลมาก ไกลจากบ้านเหลือเกิน … ประสาทสัมผัสเริ่มลางเรือนด้วยความอ่อนเพลียจากการดิ้นรนมาตลอดระยะทางอันยาวไกล และเสียงเดียวที่เข้ามากระทบโสตสัมผัสก่อนจะหมดสติไปก็คือ เสียงเกลียวคลื่นกระทบชายฝั่ง มันคือความฝันหรือความจริงกันแน่นะ …

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 06-05-2007 16:21:47
30...

แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดกว้าง ... ต้องใบหน้าคมของเด็กหนุ่มที่หลับมาตลอดทั้งคืนด้วยความอ่อนเพลีย ... นัทลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ... ห้องที่ไม่คุ้นเคยทำให้ต้องเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ... และเมื่อนึกถึงคนที่พาเค้ามาที่นี่ ก็ต้องลุกขึ้นจากที่นอนแบบทันทีทันใด ... รีบสำรวจมือที่เคยโดนมัด ก็เหลือไว้เพียงรอยแดงๆ ที่ข้อมือเท่านั้น ...
“ที่นี่ที่ไหนกันอ่ะ...”
หันซ้าย หันขวาก็ไม่พบใครเลย นอกจากห้องกว้างที่ตกแต่งไว้อย่างเรียบง่าย เหมาะกับบรรยากาศที่ลมพัดเอื่อยๆ เข้ามาทางหน้าต่าง ... เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปที่หน้าต่างทันที เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลมแบบนี้ กลิ่นแบบนี้ และเสียงแบบนี้มันคือที่ไหน
“ทะ...ทะ...ทะเลเหรอเนี่ย ...”

นัทมองสำรวจบริเวณภายนอก ผ่านหน้าต่างออกไปก็เห็นว่าบ้านหลังนี้มีบริเวณกว้างขวางพอสมควร ... แต่มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาก็มองเห็นเพียงบ้านชาวประมงอยู่เพียงลิบตา ... เหมือนกับว่าที่นี่จะสร้างแยกออกมาอย่างโดดเดี่ยว ซึ่งเจ้าของน่าจะต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ ... ขณะกำลังพิจารณาทิวทัศน์ที่เห็นเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้า ... นัทจึงหันไปมองทันที และตั้งท่าระวังตัวอย่างเต็มที่... เพราะคิดว่าต้องเป็นธวัฒน์แน่ๆ ... แต่กลับกลายเป็นป้าแก่ๆ คนนึงเท่านั้น ท่าทางใจดีเดินข้ามาและส่งยิ้มให้กับนัท ... ก่อนจะเดินไปเก็บเตียงและนัทเพิ่งลุกขึ้นมา เมื่อเห็นแบบนั่นนัทจึงรีบร้องทักด้วยความเกรงใจ ...
“ป้าครับ ไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเก็บเอง ...”
เงียบ... ไม่มีเสียงตอบรับจากป้าแกแม้แต่น้อย แถมยังตั้งหน้าตั้งตาเก็บที่นอนต่อไป ... เหมือนไม่ได้ยินที่นัทพูด ...
“ป้าครับ ป้า !!!”
ยังเงียบและไม่มีปฏิกิรยาตอบรับอีกเช่นเคย ... นัทจึงตัดสินใจเดินเข้าไปสะกิดป้าแก ด้วยนึกสงสัยอะไรบางอย่าง ... และป้าก็หันมามองหน้านัทด้วยความสงสัย เมื่อนัทสะกิดที่แขนของแกเบาๆ ...

“ป้า ... พูด ... ไม่ได้หรอครับ...”
นัททำท่าทางโดยชี้ไปที่ตัวของอีกฝ่าย แล้วกลับมาชี้ที่ปากตัวเอง และทำไม้ทำมือโบกไปมา ... พยายามสื่อสารให้อีกฝ่ายเข้าใจอย่างยากลำบาก ... แต่ก็เหมือนว่าจะทำให้ป้าแกเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะแกพยักหน้าเป็นเชิงรับว่าใช่ ... จึงทำให้สิ่งที่นัทสงสัยถูกต้องนั่นคือป้าแกหูหนวก และเป็นใบ้ด้วยนั่นเอง ...

“ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง ถึงเรียกไม่ได้ยินเลย ... เฮ้อ !!... แล้วจาคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย ... พี่วัฒน์อยู่ไหนล่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่าจะเอาเรามาปล่อยเกาะอยู่ที่นี่ ...”
ป้าที่มองหน้านัทอยู่ยิ้มออกมา ... ซึ่งทำให้นัทที่มองเห็นทำหน้าอย่างสงสัย ... ก่อนที่ป้าแกจะชี้มือมาที่นัท แล้วชี้ไปที่ประตู และทำท่าทางตักข้างเข้าปาก ...
“หมายถึงให้ไปกินข้าวงั้นเหรอ ...”
นัทจึงทวนท่าทางตักข้าวเข้าปากอีกหน เหมือนกับต้องการถามย้ำให้แน่ใจ ... ซึ่งคุณป้าก็พยักหน้ารับ ... เด็กหนุ่มจึงเดินไปที่ประตูเปิดออกและมองออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ซึ่งพอออกมาด้านนอกจึงทำให้รู้ว่าชั้นบนนี้มีห้องพักอยู่ถึง 4 ห้อง มีระเบียงสำหรับนั่งพักผ่อนรับลมยื่นออกไปด้านนอก และมีบันไดทอดลงไปด้านล่าง จึงตัดสินใจเดินลงไป เพราะข้างบนนี้คงไม่มีห้องให้ทานอาหารแน่ๆ ...

“อ้าวนัทตื่นแล้วเหรอครับ มาทานข้าวซิ ...”
นัทถึงกับสะดุ้งเมื่อเดินลงมาข้างแล้ว และกำลังสำรวจห้องต่างๆ ที่อยู่ด้านล่าง แต่อยู่ๆ ธวัฒน์ก็โผล่ออกมาจากห้องที่อยู่ด้านข้างของบันได และร้องเรียกให้เข้าไปทานข้าว ...
“พ...พี่วัฒน์...”
“ใช่ซิ คิดว่าจะเจอใครงั้นเหรอ ...”
“เปล่าครับ ... ที่นี่ที่ไหน พ...พาผมกลับบ้านนะครับ ...”
“อย่าดื้อซิครับ ... มาทานข้าวเถอะ นัทยังไม่ได้ทานข้าวเลยนะตั้งแต่เย็นวาน...”
“ไม่กิน!!! ... ผมจะกลับบ้าน ...”
“พูดแบบนี้อยากโดนจับมัดขังไว้ในห้องใช่ไหมเนี่ย ... พี่ชักมีอารมณ์ขึ้นมาอีกแล้วนะ ...”

ธวัฒน์เริ่มเดินย่างสามขุมเข้ามาหาทำให้นัทต้องถอยหนีจนหลังชนกับฝาอีกด้าน ...
“อา...อารมณ์อะไรครับ พูดให้มันดีๆ นะ...”
“ก็อารมณ์แบบไหนดีล่ะ ที่จะใช้ปราบเด็กๆ ดื้อๆ เนี่ย ... ยังจำวันนั้นได้ไหมล่ะ ยังไงพี่ก็เป็นคนเลวอยู่แล้ว ถ้าจะทำเลวอีกสักครั้งจะเป็นไรไป ...”
“ไม่... ไม่เอานะครับ อย่านะ ไม่เอาแล้วนะครับ ...”
ความเจ็บปวดที่ฝังใจทำให้นัทน้ำตาคลอและเสียงสั่นเครือด้วยความกลัว ... จนธวัฒน์เองก็อดสงสารไม่ได้ ... แต่เพราะเสียงเรียกร้องของหัวใจมันมีอิทธิพลมากเหลือเกิน จึงทำให้ชายหนุ่มต้องสวมบทร้ายไปก่อน จนกว่านัทจะใจเย็นลงและยอมอยู่ที่นี่สักพัก ...

“งั้นก็ไปทานข้าวก่อน โอเคไหม ... แล้วหล้งจากนั้นถ้าอยากกลับพี่ก็จะให้กลับ นะครับ ...”
นัทพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ... เพราะไม่อยากโดนมัดอีก และด้วยท้องที่มันกำลังโอดครวญเพราะไม่ได้ทานข้าวเย็นเมื่อวาน
“งั้นก็ว่าง่ายๆ จะได้โตเร็วๆ ป่ะ ไปกินข้าวกัน ...”
ธวัฒน์เดินจูงมือนัทเข้าไปในครัว ... จัดแจงให้นั่งและบริการตักข้าวให้อย่างเอาอกเอาใจ ... เสร็จแล้วก็มานั่งฝั่งตรงข้ามมองนัททานข้าวไปอย่างอารมณ์ดี ... โดยไม่รู้เลยว่าอีกที่นึงกำลังวุ่นวายกับการหายตัวไปของเค้าและนัทขนาดไหน ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-05-2007 16:33:08
ยอดมากวัฒน์  o13

เดี๋ยวก็คงคืนดีกัน  :haun5:

แล้วกลับไปผจญนางมารด้วยกัน  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-05-2007 16:51:29
หุหุ รักน้อง..ต้องพาหนี  :o8:  :o8:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 06-05-2007 17:01:23
 o4 o4  หนีไปพักร้อนสองต่อสองซะงั้น  :haun5: :haun5:  รีบปรับความเข้าใจกันเร็วๆนะครับ  ก่อนเจอพวกป่วนตามมา  o16 o16
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 06-05-2007 20:28:45
พี่วัฒน์มาบทโหดอีกแล้ว  :sad5:
มาทะเลทั้งที ก็ปรับความเข้าใจกันให้ได้ด้วยเห๊อะ  :amen:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 07-05-2007 19:17:31
พี่วัฒน์  ได้ใจโคตรๆๆ แม้ว่าวิธีการแก้ปัญหามันจะแปลกๆ อยู่ก็เหอะ
อย่างน้อยเอาเค้ามาแล้วก็นะ  รู้ใจกันซะทีน้อ 
แบบว่า  อยากอ่านตอนนั้นอีก อิอิ  :interest:

รออ่านต่อต่อไปจ้าน้องหมี  หนุกมากมายเรื่องนี้  เป็นแฟนคลับคุณ JmAc แล้วนะเนี่ย  o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 07-05-2007 20:01:11
มาแล้วค๊าบ   

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

31...

“ไม่ยอม... ภัทรไม่ยอมจริงๆ นะค่ะคุณหญิงแม่ ... ภัทรว่าเด็กนัทนั่นต้องล่อหลอกคุณวัฒน์ไปให้พวกมันเรียกค่าไถ่แน่ๆ เลยค่ะ ... ภัทรว่าเราแจ้งตำรวจให้ตามจับมันเลยดีไหมค่ะ ...”
นภัทรที่พอได้ทราบข่าวการหายตัวไปของธวัฒน์ ก็รีบร้อนมาที่บ้านของชายหนุ่มทันที ... และเมื่อมาถึงและได้รู้ว่าไม่เพียงแค่ธวัฒน์ที่หายตัวไป แต่เป็นนัทด้วยอีกคน ก็ยิ่งทำให้หญิงสาวร้อนรนมากขึ้น ด้วยรู้ความในของธวัฒน์เป็นอย่างดี ... แต่ในเมื่อเธอลงทุนลงแรงไปขนาดนี้แล้ว เธอจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะได้ธวัฒน์กลับคืนมา และพยายามกำจัดอุปสรรคหัวใจออกไปให้พ้นทางโดยเร็ว ...
“ใจเย็นๆ ซิจ๊ะหนูภัทร ป้าว่ามันไม่ใช่การลักพาตัวหรืออะไรทั้งนั้นแหละ...”
คุณหญิงศศิกานต์แม่ของธวัฒน์พยายามพูดปลอบให้นภัทรใจเย็นลงบ้าง ... เพราะตั้งแต่มาถึงเธอก็โวยวายและเดินไปเดินมาไม่หยุดสักที ...
“แหม... คุณหญิงแม่ขา ... สมัยเนี่ยไว้ใจใครไม่ค่อยจะได้นะค่ะ ภัทรว่ากันไว้ดีกว่าแก้นะ เราไปแจ้งตำรวจกันดีกว่าค่ะ ...”
“คงไม่จำเป็นขนาดนั้นหรอกมั้งครับพี่ภัทร...”
เสียงของภานุที่กำลังเดินผ่านประตูเข้ามา ทำให้คุณหญิงศศิกานต์และนภัทรหันไปมอง ... คุณหญิงดูจะโล่งใจมากขึ้นที่ภานุโผล่มา แต่มันกลับตรงกันข้ามกับอีกคนที่มองภานุด้วยสายตาทิ่มแทงอย่างคนที่โดนขัดใจ ... ภานุหันไปยกมือไหว้คุณหญิงก่อนที่จะหันมาพูดกับนภัทรด้วยสายตาที่จะไม่ยอมอ่อนข้อแม้แต่น้อย ...
“ผมว่านัทไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะครับ อีกอย่างพี่วัฒน์ก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะให้ใครมาหลอกเอาได้ง่ายๆ เสียด้วยซิ...”
ประโยคหลังของภานุ มันเหมือนจะไปจี้ใจดำของอีกฝ่าย ... มันตอกย้ำเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน ไม่ว่าภานุจะรู้เรื่องนี้มากน้อยขนาดไหน แต่มันก็ทำให้นภัทรปิดปากเงียบได้ ...
“นั่นซิจ๊ะหนูภัทร ป้าก็คิดเหมือนกับตาภานุน่ะแหละ ถ้ายังไงก็ใจเย็นๆ นะ รอสักระยะนึง ... ถ้าไม่มีวี่แววหรือข่าวคราว ไว้พวกเราค่อยออกตามหากันก็ได้นะ ...”
“แต่ ... แต่จะรอนานขนาดไหนล่ะค่ะ ภัทรกลัวว่ามันจะนานเกินไปจนทำให้ ... ให้ ...”
ประโยคที่พูดไม่จบของหญิงสาวทำให้ผู้สูงวัยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ... แต่สำหรับภานุเหมือนเค้าจะมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว ...
“ทำให้ อะไรหรอจ๊ะ ... จะเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอหนูภัทร ....”
“ป...เปล่าหรอกค่ะ ภัทรแค่เป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายกับคุณวัฒน์เท่านั้นเองค่ะ ...”
“อย่าห่วงเลยจ๊ะ ป้าคิดว่าถ้าตาวัฒน์ไปกับนัทจริงๆ คงไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นหรอก นี่ก็อาจเป็นแค่การเล่นอะไรแผลงๆ ของตาวัฒน์อีกตามเคย ... แกอาจอยากพาน้องไปเที่ยวโดยไม่บอกใครก็ได้นะ อย่าเพิ่งคิดไปไกลเลย ...”

คุณหญิงช่างดูใจเย็นอย่างไม่น่าเชื่อที่คนเป็นแม่คนนึงจะเป็นยามที่ลูกหายตัวไป ... แต่คำพูดของท่านก็ไม่ได้ทำให้นภัทรใจเย็นลงได้เลยแม้แต่น้อย ... เพราะสิ่งที่เธอกลัว ไม่ใช่กลัวธวัฒน์จะมีอันตราย แต่เธอกลัวว่าจะต้องเสียธวัฒน์ให้กับคนอื่นไปต่างหาก ....
“เฮ้อ ! ... พี่ชายเราทำแต่เรื่องวุ่นวายอีแล้วนะ ภานุ ... คราวก่อนก็เรื่องหนูภัทรมาคราวนี้ก็หายไปไม่บอกกล่าว แถมพาตานัทไปด้วยอีกคน ...”
คุณหญิงเอ่ยขึ้นกับหลานชาย ... หลังจากที่นภัทรขอตัวกลับไปแล้ว ....
“ทำไมคุณป้าถึงคิดว่าพี่วัฒน์เป็นคนพานัทไปล่ะครับ...”
“แหม ภานุ ... ทำไมป้าจะไม่รู้จักนิสัยของพี่ชายเราล่ะห๊า ... และป้าก็มั่นใจในตัวตานัทมากพอที่จะไม่คิดอย่างหนูภัทรบอกด้วย ลูกไม้มันย่อมหล่นไม่ไกลต้นหรอก ... ป้ามั่นใจว่าคราวเนี่ยต้องเป็นฝีมือตาวัฒน์ล้วนๆ แต่เมื่อไหร่จะกลับกันมาเนี่ยซิ คิดแล้วกลุ้ม ...”
“ผมก็ว่าทำไมคุณป้าดูใจเย็นเป็นพิเศษ ที่แท้ก็มั่นใจอย่างนี้นี่เอง ... แต่เอ๊ะ! แล้วที่ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเนี่ยมันยังไงหรอครับ ...”
“ตานัทน่ะ เค้านิสัยเหมือนแม่เค้ามากไงล่ะ เพื่อนรักของป้าคนเนี่ยเรียบร้อย สงบเสงี่ยมเจียมตัว และอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอๆ ... และป้าเองก็เห็นมันในตัวนัทเหมือนกัน ... ถ้านัทเป็นผู้หญิงนะ ป้าคงจะขอเป็นสใภ้ไปแล้วล่ะ เฮ้อ... น่าเสียดาย”
ภานุได้แต่ทำหน้าบอกไม่ถูก .... คิดเป็นห่วงนัทอยู่ไม่น้อย ... แต่เค้าก็มั่นใจว่าพี่วัฒน์จะไม่ปล่อยให้นัทเป็นอันตรายอย่างแน่นอน ... นี่ถ้าคุณป้ารู้ว่าลูกชายคนเดียวอย่างพี่วัฒน์ไปรักผู้ชายเข้าจนได้ จะเป็นยังไงน๊า ... ถึงคุณป้าจะชอบนัทอยู่แล้วก็ตามที ... ภานุได้แต่แอบถอนใจอยู่คนเดียวเบาๆ ...
ทางด้านของนภัทรหลังจากกลับไปแล้ว ก็ไม่ได้ไปที่ไหน แต่กลับนัดเจอกับชายหนุ่มแปลกหน้าที่บาร์แห่งหนึ่ง ... ชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงขยับแว่นตาดำมองหาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งข้างๆ ... ถอดแหวนจากนิ้วกลางข้างซ้ายมาใส่นิ้วกลางข้างขวาเหมือนจงใจให้นภัทรเห็นอย่างชัดเจน ... หญิงสาวจึงหยิบซองเล็กๆ ในกระเป๋าวางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะหยิบเศษกระดาษชิ้นเล็กๆ ที่ชายหนุ่มส่งให้แล้วเดินออกไปจากทันทีทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... เมื่อเข้าไปนั่งในรถของเธอแล้วนภัทรจึงหยิบเศษกระดาษออกมาดู และหยิบมือถือออกมากดตามเบอร์ในกระดาษทันที
ชายหนุ่มในบาร์กำลังดูรูปของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ซึ่งนภัทรได้แอบหยิบมาจากห้องนั่งเล่นของบ้านคุณหญิงศศิกานต์ ... เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายทันที
“ครับ ...”
“จัดการให้เรียบร้อย ... แต่อย่าให้คุณวัฒน์เป็นอะไรแม้แต่ปลายเล็บ เข้าใจไหม ! ...”
พูดจบนภัทรก็ตัดสายทันที ... แต่คำสั่งก็ชัดเจนพอ ตอนนี้มีรอยยิ้มเย็นปรากฏบนใบหน้า ใบหน้าที่บ่งบอกว่าสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เธอหวัง ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 07-05-2007 20:03:18
ย๊ากกก... :angry2:....ตัวร้าย วางแผนทำอะไร นะ    :confuse:
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

32...

ช่วงเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมา ... นัทไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่ มองไปทางไหนก็มีแต่ทะเล ... บ้านคนแต่ละหลังก็กระจัดการจายมองเห็นอยู่เพียงลิบตาเท่านั้น คงมีเพียงบ้านของป้าสาลี่ซึ่งเป็นใบ้ที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินพอสมควรกว่าจะไปถึงเพราะมันอยู่ตรงสุดชายหาดสีขาวสะอาดที่ทอดตัวยาวไปสุดลูกหูลูกตา ...
นัทรู้ตามที่พี่วัฒน์บอกว่าได้จ้างป้าสาลี่กับลุงเขมสามีของแกเป็นคนคอยดูแลบ้าน แต่นัทก็ไม่เคยเจอลุงเขมเลยสักครั้งเดียว มีเพียงป้าสาลี่เท่านั้นที่จะมาทำความสะอาดให้วันละครั้ง พอถามป้าสาลี่ดู แกก็จะทำมือทำไม้เหมือนว่าลุงจะไปทำงานหรือไปหาปลาอะไรสักอย่าง ... นัทเองก็พยายามทำความเข้าใจกับภาษามือของแกอยู่นานถึงพอจะจับความได้บ้าง ... ยังโชคดีที่นัทไม่ต้องใช้ภาษามือด้วยอีกคน เพราะถึงป้าแกจะเป็นใบ้แต่แกก็อ่านปากคนที่พูดด้วยได้ ถือว่าเป็นความสามารถที่นัททึ่งมาก
ณ ริมชายหาดยามค่ำคืน ลมทะเลพัดมาเอื่อยๆ ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลีลาวดีที่ปลูกไว้ริมรั้วให้อบอวลไปทั่วบริเวณ ช่างเป็นบรรยากาศที่ดูเหงา เศร้า สำหรับคนที่มีความทุกข์จริงๆ แต่มันอาจเป็นบรรยากาศที่สดชื่น โรแมนติกสำหรับคนที่กำลังมีความสุข ... แต่สำหรับนัทแล้ว ไม่สามารถบอกได้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังสุขหรือทุกข์ เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่  ธวัฒน์ก็พยายามทำดี และเอาใจเค้ากว่าปกติ มันทำให้เค้าสุขใจเวลาที่ธวัฒน์หยอกเย้าเอาใจ แต่พอนึกถึงความเป็นจริงที่ว่าธวัฒน์กำลังจะแต่งงาน มันก็ทำให้ในใจของเด็กหนุ่มเจ็บแปลบ จนต้องพยายามควบคุมร่างกายและจิตใจไม่ให้หลงไหลไปกับความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ที่อีกไม่นานมันก็คงจะจบลง ...
ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาด้านหลังของนัทที่นั่งเหม่อมองทะเลอย่างใจลอย  ... ยิ่งเห็นหน้าของนัทก็ยิ่งทำให้เค้าสะท้อนใจ ... เค้าเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่านะที่พยายามไขว่คว้าหาความสุขจากคนตรงหน้า แทนที่จะปล่อยให้นัทได้พบกับคนดีๆ หรือใช้ชีวิตตามปกติสุขเหมือนที่เด็กวัยรุ่นควรจะเป็น ตราบใดที่เค้ายังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ที่ดีพอ      มายกเลิกพันธะที่เค้าสร้างขึ้นอย่างไม่ตั้งใจแล้วล่ะก็ ... ตราบนั้นเค้าคงไม่สามารถทำตามที่หัวใจเรียกร้องได้   และไม่มีสิทธิพูดได้ว่าเป็นเจ้าของในตัวคนคนนี้ได้ ... แต่ตอนนี้เค้าต้องการอิสระและความสุข... ความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เค้ารัก ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้เค้ารู้แค่ว่าเค้ารักนัทหมดหัวใจ ... แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่เค้าก็อยากเก็บเกี่ยวมันไว้ ก่อนที่เค้าอาจไม่มีโอกาสได้ทำอีกเลยก็ได้ ...
“นั่งคิดอะไรอยู่เหรอนัท ... ให้พี่นั่งด้วยได้ไหม ...”
“นี่ไม่ใช่ที่ของผมสักหน่อย พี่วัฒน์อยากนั่งตรงไหนก็ได้นี่ครับ ...”
ธวัฒน์ถอนหายใจออกมาด้วยความอ่อนใจ ที่นัทแทบจะไม่เคยพูดกับเค้าดีๆ เลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ... แต่เค้าก็ไม่เคยนึกโกรธเพราะอะไรล่ะ ก็เพราะตัวเค้าเองน่ะซิที่ทำให้เป็นแบบนี้ ... ธวัฒน์นั่งลงข้างๆ นัท แล้วขยับตัวเข้าไปนั่งเบียดเด็กหนุ่มที่นั่งเมินเฉย ... จนเจ้าตัวหันมาทำตาดุใส่ธวัฒน์ที่ยิ้มๆ อย่างถูกอกถูกใจ
“ที่มีตั้งเยอะตั้งแยะมานั่งเบียดผมทำไมล่ะครับ ...”
“ก็...นั่งเบียดนัทมันอบอุ่นกว่านี่นา ... อากาศก็เริ่มเย็นแล้วด้วยอ่ะ ...”
นัทที่พยายามขยับหนี แต่ธวัฒน์ก็ยังคงขยับตามจนในที่สุดนัทต้องยอมแพ้ ... และนั่งอยู่เฉยๆ ให้อีกฝ่ายนั่งเบียดหาไออุ่นจากร่างกายของเค้า ...
“นัทไม่หนาวหรอครับ ...”
“ไม่ครับ ... ผมไม่ใช่คนอ่อนแอน่ะ อากาศเย็นๆ แค่นี้เอง ผมไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก ...”
ที่จริงการที่ธวัฒน์เข้ามานั่งเบียดแบบนี้ก็ทำให้นัทอุ่นขึ้นเยอะ   แต่ด้วยความปากแข็งก็เป็นธรรมดาที่จะไม่พูดอะไรให้อีกฝ่ายได้ใจมากไปกว่านี้ ...
จู่ๆ อ้อมแขนของคนตัวใหญ่กว่าก็โอบนัทเข้าหาตัว ... จนทำให้นัทอดเขินไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องปกติที่ผู้ชายเค้าจะทำกัน ... ใจนึงก็อยากปล่อยให้เป็นแบบนี้ แต่อีกใจก็อยากจะผลักไสออกไป ทำให้จิตใจต่อสู้กันอย่างดุเดือด ...
“พี่วัฒน์ ! มันมากไปแล้วมั้งครับ ...”
“หืม ... อะไรมากไปหรอ ... เถอะน่า...นะ อย่าขี้ตืดนักซิคร้าบบบ ... นัทไม่หนาวแต่พี่หนาวนะ ... ขอแป๊บนึงนะ”
เฮ้อ ... นัทส่ายหน้าอย่างรู้ทัน แต่ก็ไม่อยากว่าอะไรมาก เพราะจิตใจลึกๆ ก็อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ เช่นกัน
“ป่ะ...ไปเดินเล่นกัน ...”
ธวัฒน์ลุกขึ้นพยายามดึงมืออีกคนให้ลุกตาม ... แต่นัทก็ยังแข็งขืนไม่ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี ...
“จะไปไหนกันล่ะครับ พระอาทิตย์จะตกดินแล้วนะ ... อยากไปก็ไปคนเดียวซิ ผมไม่อยากไปด้วยซะหน่อย ...”
“ไม่อาวอ่ะ ไปด้วยกันเถอะนะ นะครับนัทเด็กดีของพี่ นะ นะ...”
“ใครเป็นเด็กดีของพี่ครับ พอดีไม่ใช่ผมซะด้วย ดังนั้นผมไม่...ไป ...”
ธวัฒน์ทำหน้างอเล็กน้อยอย่างขัดใจ แต่ไม่นานก็ยิ้มออกมาเหมือนมีแผนบางอย่างในใจ ... นัทที่สังเกตเห็นก็หวั่นๆ ในใจว่าพี่วัฒน์ของเค้าจะมาไม้ไหนกันแน่ ...
“แสดงว่านัทจะไม่ยอมไปเดินเล่นเป็นเพื่อนพี่ใช่ไหม ...”
“แน่นอน ... ผมจะเข้าบ้านแล้วด้วย ...”
นัทรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วกะว่าจะหนีเข้าบ้าน ... แต่ก็ต้องยอมแพ้ในความเร็วของธวัฒน์ที่เข้ามาล็อคตัวเค้าจากด้านหน้า แล้วยกขึ้นไปพาดบนไหล่เดินไปโดยไม่ฟังเสียงโวยวายของนัทเลยแม้แต่น้อย ...
“ปล่อยครับพี่วัฒน์ ปล่อยผมลงนะ ...”
“ไม่ ! ถ้าไม่ยอมเดินไปพี่ก็จะพาไปแบบนี้แหละ ...”
“ปล่อยซิครับ ไม่หนักหรือไงอ่ะ ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ...”
“ไม่หนักหรอก ถึงหนักกว่านี้พี่ก็แบกไหว ...”
จริงๆ นัทก็ไม่ใช่ผู้ชายบอบบาง แต่เพราะธวัฒน์สูงใหญ่กว่าเท่านั้นเอง จึงแบกนัทได้อย่างสบายๆ ... แถมยังแกล้งเอาจมูกซุกไซร้ตรงเอวให้นัทจี้เล่นอีกต่างหาก ...
“ปล่อยผมซิครับ อย่าเล่นแบบนี้ซิผมจั๊กจี้นะครับ ... โอเค โอเค ผมยอมแล้ว ยอมไปด้วยแล้ว ปล่อยผมลงได้ยัง ...”
“ก็แค่นี้แหละ เล่นตัวจังเลยนะเรา ...”
ธวัฒน์ค่อยๆ ปล่อยนัทลงจากบ่า แต่ก็กะให้นัทยืนอยู่ใกล้กับเค้ามากจนตัวแทบจะติดกัน แถมแขนสองข้างยังโอบเอวของเด็กหนุ่มไว้ไม่ยอมปล่อย ... นัทที่หมั่นไส้เต็มที่ก็เลยอาศัยจังหวะหวานซึ้งของอีกฝ่าย ผลักธวัฒน์หงายหลังล้มลงไปในน้ำจนเปียกไปทั้งตัว ...
“แบร่  :P ... สมน้ำหน้า อยากแกล้งคนอื่นดีนักนะครับ ...”
พูดจบก็ไม่รอช้า ... รีบชิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ...
“โห เล่นอย่างนี้เหรอ ... ได้เลย อย่าหนีนะ! ...”
ธวัฒน์วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทันสักที แถมอีกฝ่ายวิ่งไปก็หัวเราะไปไม่ยอมหยุด ... จนชายหนุ่มเหนื่อยและวิ่งตามไม่ไหวนั่นแหละจึงยอมยกธงขาวให้กับนักวิ่งเก่าของโรงเรียนอย่างนัท นัทเองก็ไม่ยอมเข้าใกล้จนธวัฒน์ต้องสัญญาจะไม่ทำอะไรอีกนั่นแหละ นัทจึงกล้าเข้ามาเดินใกล้ๆ ...
“เป็นนักวิ่งเก่าก็ไม่บอก ปล่อยให้วิ่งตามอยู่ได้ ... เหนื่อยนะเนี่ย ...”
“ก็ดีแล้วนี่ครับ ชอบแกล้งคนอื่น ก็ต้องโดนซะบ้าง ...”
ธวัฒน์สังเกตว่านัทจะผ่อนคลายมากขึ้น อาจเป็นเพราะได้แกล้งเค้าและได้หัวเราะออกมาบ้าง เพราะเค้าเองก็ไม่เคยได้เห็นนัทหัวเราะอย่างมีความสุขบ่อยนัก ...
“ว่าแต่นี่มันทางไปบ้านป้าสาลี่นี่ครับ ... เราจะไปหาลุงเขมกับป้าแกเหรอ ...”
“เดินตามมาเถอะเดี๋ยวก็รู้ ...”
ธวัฒน์จับมือนัท จูงเดินไปเกือบสุดหาดซึ่งเป็นบ้านของลุงกับป้า แต่กลับเปลี่ยนเส้นทางลัดเลาะขึ้นไปตามเนินเขาด้านข้างแทน เนินเขานี้มีหน้าผายื่นเข้าไปในทะเล และมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งอยู่ตรงปลายสุดที่ยื่นออกไปนี้ด้วย ซึ่งนัทอยากจะมาตั้งแต่ครั้งแรกที่มองเห็นอยู่ไกลๆ แล้ว เพราะมันสวยแปลกตาดี ช่างเหมือนกับภาพวาดในหนังสือที่เคยอ่าน แต่ก็นานมากจนจำชื่อหนังสือไม่ได้เสียแล้ว ...
“เป็นไงครับ ... ชอบใช่ไหมล่ะ พี่รู้นะว่านัทอยากมาที่นี่ ...”
“พ...พี่วัฒน์รู้ได้ไงครับ ผมไม่ได้อยากมาสักหน่อย ... คิดไปเองหรือเปล่า...”
“ไม่ต้องปฏิเสธหรอกน่า พี่เห็นนะว่านัทชอบมองมาทางนี้ทุกวันเลย ... เพราะพี่เองก็ชอบที่นี่นะ ถึงได้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนั้น เพราะจากที่นั่นจะมองเห็นที่นี่ได้สวยที่สุด แถมยังเดินมาที่นี่ได้สะดวกที่สุดด้วยนะ...”
“เพิ่งรู้นะครับว่าเป็นคนชอบสังเกตคนอื่น ...”
นัทพูดเสร็จก็รีบเดินหนีไปทางต้นไม้ใหญ่ ... นั่งลงมองไปทางพระอาทิตย์ที่เหลือเพียงครึ่งดวงก็จะลับขอบฟ้า ... ธวัฒน์เดินตามไปห่างๆ ก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ ...
“ในสายตาของพี่ มีแต่นัทนะ ... ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่ไม่อาจละสายตาไปจากนัทได้เลย ...”
“พี่วัฒน์อย่าพูดแบบนี้เลยครับ คุณภัทรเธอจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าคู่หมั้นพูดแบบนี้กับคนอื่น โดยเฉพาะกับ เอ๊อ ...”
“กับผู้ชายเหมือนกัน ...”
ธวัฒน์ต่อคำพูดของนัทให้จนจบ ซึ่งก็ทำให้นัทหันมามองหน้าของธวัฒน์แว่บนึง ... แล้วหันไปทางอื่นเพราะไม่อยากใจอ่อน
“ครับ ... ผมว่าพี่ก็เข้าใจดีอยู่แล้ว ...”
“แต่พี่ไม่สน! ถ้าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น พี่คิดว่าพี่พร้อมแล้วที่จะบอกให้คุณพ่อกับคุณแม่รับรู้ ...
นัทหันมามองหน้าคนข้างๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ... ในความคิดมันสับสนไปหมด ...
“อย่า ... อย่านะครับ ผม ... ผมไม่อยากให้คุณลุงกับคุณป้า ต้องเสียใจ ... เพราะผมเป็นต้นเหตุ ...”
“แล้วนัทไม่กลัวพี่จะเสียใจบ้างหรอ ! ...”
“แต่พี่มีคู่หมั้นแล้ว และนั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องนะครับ ...”
“พี่ไม่เข้าใจหรอกนะว่านัทเอาอะไรมาวัดความถูกต้อง แล้วการที่พี่พยายามจะทำตามความปรารถนาของหัวใจตัวเองมันผิดงั้นซิ ...”

น้ำเสียงที่เจ็บช้ำของธวัฒน์ทำให้นัทเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่เค้าจะมาอ่อนแอตอนนี้ไม่ได้ เพราะทั้งเรื่องการแต่งงานในอีกไม่นาน และความกตัญญูต่อคุณลุงคุณป้ามันทำให้นัทต้องเข้มแข็งเอาไว้ ...
“มันไม่ผิดหรอกครับ ถ้ามันไม่ทำให้คนรอบข้างผิดหวังและเสียใจ ... เอาล่ะครับผมว่าเรากลับกันดีกว่านะ และถ้าเป็นไปได้พรุ่งนี้เราก็ควรจะกลับบ้านกันเสียที เพราะคุณลุงคุณป้าคงจะกลุ้มใจมากพอแล้ว ที่พี่กับผมหายตัวมาอย่างนี้...”
นัทที่ลุกขึ้นหันหลังจะกลับ ต้องชะงักเมื่อสิ่งที่อยู่ต่อหน้าของเค้าเป็นผู้ชายใส่แว่นดำยืนห่างไปไม่กี่เมตร ในมือถือปืนเล็งมาที่เค้า ...
“ไม่มีที่ให้กลับไปแล้วหนุ่มน้อย ... เสียใจด้วยนะ แต่มันเป็นหน้าที่ ...”
ปั๊ง!!!   

เสียงปืนดังสนั่น ... มันเป็นเวลาแค่เสี้ยววินาทีนับตั้งแต่นัทหันมาเจอชายแปลกหน้า ไม่ทันที่เค้าจะได้ร้องออกมาด้วยซ้ำ ความกลัวพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด หลับตาแน่น ... มือถูกยกขึ้นมาปิดส่วนสำคัญโดยอัตโนมัติ ...
สิ้นเสียงพิฆาต ทำได้เพียงรับรู้ความรู้สึกผ่านความมืดมิด เรายังหายใจ ... ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัว แล้วความเจ็บล่ะ โดนยิงตรงไหนกัน ... แขน ขา หรือหน้าอก ... แต่ทำไมไม่เจ็บเลย แล้วอ้อมแขนของใครกันที่กอดเราอยู่ ? ...  ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ หน้าที่คุ้นเคย กำลังมองมาที่เค้า เสียงแผ่วเบาก้องเข้ามาในโสตสัมผัส ...
“น...นัท...ปลอดภัย ช...ใช่ไหม ค...ครับ...”
ร่างสูงค่อยๆ ทรุดลงอย่างช้าๆ ... นัทกอดธวัฒน์ที่ล้มทับลงมาบนตัวเค้าไว้แน่น ... สองมือที่สัมผัสแผ่นหลังรับรู้ได้ถึงของเหลวที่กำลังไหลรินออกมาจากร่างกายของคนที่เค้ากอดอยู่ ... ความกลัวถาโถมเข้ามาในหัวใจยิ่งกว่าวินาทีที่จะโดนยิงด้วยซ้ำ ... ความกลัวเมื่อรู้ว่าคนที่รัก กำลังจะจากไป ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 07-05-2007 20:12:01
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :dont2:  :dont2:  :dont2:  :dont2:
พี่วัฒน์  :เศร้า1: :monkeycry4: :impress3: :เศร้า2: :monkeycry2:
เป็นไรป่าวเนี่ย  แงแง  บ้าไปแล้ว  หวังว่าคงไม่เป็นไรนะ

นังนภัทร  เลวมากกกกกกก  แบบนี้ต้องชดใช้อย่างสาสม  :angry2:

อยากอ่านต่อ  :serius2:  :serius2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 07-05-2007 22:30:33
โอ้ววว... ม่ายยยยย :sad5:
พี่วัฒน์ต้องไม่เป็นอะไรน้าาา
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 07-05-2007 22:44:41
 o7 o7  ถึงขั้นใช้ชีวิตตัวเองเปนเครื่องพิสูจน์ความรักที่มีต่อน้องนัทเลยเหรอครับ o1 o1

 :angry2: :angry2: ยัยนภัทร เด๋วต้องเจอดีสักหลายๆดอกนะครับ o11 o11  มะงั้นไม่หายแค้น o12 o12
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-05-2007 03:08:08
พี่วัฒน์คงไม่เป็นไรนะ  :dont2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-05-2007 14:34:40
แงแง

ช่วยพี่วัฒน์ด้วยยยยยยย

อย่าให้เป็นอะไรเลยนะครับ

 o1
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 08-05-2007 16:48:38
แงๆ เศร้าจัง :serius2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 08-05-2007 18:32:29
เฮ้อ......เศร้าจังเลย       ความรักมักมีอุปสรรค์  T T

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

33...

“พี่วัฒน์!!!...”
“ทะ ทำไมต้องทำอย่างนี้ล่ะครับ ... ปกป้องผมทำไมกัน ... ผม ผมมันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอกนะ ทำไม!!! ทำไมโง่แบบนี้ล่ะครับ...”
“พ...พี่จะไม่ ย...ยอมให้นัทเป็นอะไรเด็ดขาด ... นัทรู้ไหมว่า ... ตั้งแต่จ...เจอนัท ชีวิตพี่วุ่นวายข...ขนาดไหน แต่มันก็คือความส...สุขที่พี่ไม่เคยเจอมาก่อน”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยครับ เลือด ... พี่เสียเลือดมากเลยนะครับ ...”

“ชิส์ ... โง่จริงๆ ที่เข้ามาขวาง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมายแท้ๆ ...”
ชายที่สวมแว่นดำ ยังคงเล็งปืนอยู่ที่เดิม แต่เหมือนจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย เหมือนกับได้ทำพลาดลงไป เพราะไม่คิดว่าธวัฒน์จะโดดเข้ามาขวางทางปืนได้ทัน ... นัทที่นั่งโอบกอดร่างของธวัฒน์อยู่ แต่สายตากลับจ้องมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่กลัวเกรงถึงอันตรายแม้แต่น้อย ...
“ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้ ใคร ใครเป็นคนให้แกมาทำแบบนี้ ห๊า!!!”
“เสียใจด้วยนะที่ฉันบอกไม่ได้ แต่ถึงจะรู้ไป ยังไงก็ต้องตายอยู่ดีหนุ่มน้อย อาจจะผิดแผนไปนิด แต่ถ้าแกตายไปก็คงจะไม่มีใครว่าฉันได้ ...”
ธวัฒน์ที่แทบจะหมดสติไปแล้ว เพราะเลือดที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุด กำลังพยายามยันตัวลุกขึ้น เพื่อปกป้องคนรักจนวินาทีสุดท้าย ...
“น...นัทหนีไปซิครับ พ...พี่จะคอยถ่วงมันไว้เองนะ ...”
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า ... พวกแกคิดว่าทำไมฉันถึงเลือกลงมือที่นี่ล่ะ มองไปรอบๆ ซี๊... ถ้าจะกระโดดหน้าผาลงไปก็ไม่ว่ากันหรอกนะ ดีซะอีกฉันจะได้ไม่ต้องลงมือ ...”
นัทมองความพยายามของธวัฒน์อย่างซึ้งใจที่สุด ... แต่เค้าจะทิ้งคนที่พยายามช่วยเค้าไปได้ยังไงกัน แม้จะต้องตายก็ขอตายด้วยกัน แต่เป้าหมายของมันไม่ใช่พี่วัฒน์ บางทีถ้าเค้าปกป้องธวัฒน์บ้าง พี่วัฒน์อาจจะรอดก็ได้ ...
“นั่นซิครับพี่วัฒน์ ผมจะไม่มีวันทิ้งพี่ไว้หรอกครับ ผมจะไม่กลัวอีกแล้ว คราวนี้ผมจะปกป้องพี่บ้างนะครับ ...”
“อยากจะอ้วก ... ความสัมพันธ์ของพวกแกจริงๆว่ะ ความรักของพี่น้องกับน้องเหรอ ไม่ใช่หร๊อก มันเป็นรักผิดธรรมชาติของพวกแกมากกว่าว่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮา ...”
“อย่างน้อยพวกฉันก็ไม่เลวเท่าแกหรอก คนที่ฆ่าคนอื่นได้หน้าตาเฉยน่ะ มันเลวยิ่งกว่า Sad ซะอีก ...”
“ขอบคุณที่ชมน๊า หนุ่มน้อย ... งั้นแกก็คงต้องตายเป็นคนแรกล่ะนะ ส่วนไอ้หน้าโง่นั่นจะอยู่หรือตายก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของมันก็แล้วกัน เพราะหน้าที่ฉันคือฆ่าแกคนเดียวเท่านั้น ... ตายซะ!!!”

ปืนถูกเล็งมาที่เค้าอีกครั้ง ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นตาย นัทได้แต่กอดธวัฒน์ไว้แน่น ... ในใจได้แต่เพียงหวังว่าหากได้เกิดใหม่มาเจอกันอีก ก็ขอให้เค้ากับธวัฒน์สามารถรักกันได้โดยไม่มีอุปสรรคเหมือนกับชาตินี้ ... แต่ตอนนี้ขอให้พี่วัฒน์รอดคนเดียวก็พอ
“พี่วัฒน์ผมรักพี่นะครับ ...”
คำสารภาพสุดท้าย หลุดออกจากปาก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าธวัฒน์ยังจะมีสติอยู่ได้ยินสิ่งที่เค้าพูดหรือเปล่า ... ก่อนที่เสียงปืนจะดังลั่นออกจากกระบอก ...
ปั๊ง !!!   
“เอ๊ะ...????????? ทำไมเสียงปืนแปลกไปล่ะ...แล้ว แล้วทำ ไม่เจ็บอีกแล้วล่ะ ... ยัง ยังไม่ตายด้วย”
นัทค่อยๆ ลืมตาขึ้นดู ธวัฒน์ที่หมดสติอยู่ในอ้อมกอดของเค้า ยังคงหายใจรวยรินเหมือนเดิม ... แต่พอมองไปยังทิศทางของปืนที่เล็งมาเมื่อครู่ ก็พบว่าไม่มีใครยืนอยู่แล้วแต่กลับพบเพียงลุงแก่ๆ คนนึงถือปืนกระบอกยาววิ่งมาทางเค้าและธวัฒน์ ...
“คุณ คุณนัทใช่ไหมครับ ผม ผมตาเขม ผัวยัยสาลี่ครับคุณ พวกคุณปลอดภัยดีไหมครับ ...”
“ล...ลุงเขม ลุงเขมจริงๆ นะครับ ลุง...ลุงช่วยพี่วัฒน์ด้วยครับ พี่วัฒน์ถูกยิง แล้ว แล้วนี่จะพาพี่วัฒน์ไปโรงพยาบาลได้ยังไงล่ะครับ…”
นัทรีบพูดอย่างละล่ำละลัก ความดีใจประกอบกับความเป็นห่วงอย่างสุดหัวใจ ทำให้นัทไม่สนใจอย่างอื่นอีกแล้วนอกจากชีวิตของธวัฒน์ ที่ดูแล้วกำลังอ่อนแรงเต็มที
“ใจเย็นๆ ครับคุณ ตอนนี้คุณต้องใจเย็นๆ ก่อนครับ แล้วนี่คุณวัฒน์หมดสติไปนานหรือยังล่ะครับ ...”
“ก็น่าจะสักพักแล้วครับ แล้ว แล้วจะทำยังไงดีล่ะครับ ...”
“โรงพยาบาลน่ะอยู่ในเมืองโน่น ... ไกลเหลือเกินครับคุณ กว่าจะไปถึง ผมว่า เอ๊อ ... คุณวัฒน์คงไม่รอดแน่ ....”
น้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตา อย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งๆ ที่เสี้ยวนาทีแห่งความเป็นความตายไม่ได้ทำให้นัทเสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว ...
“แล้ว แล้วนี่ผมจะทำยังไงดี ถ้าพี่วัฒน์เป็นอะไรไป ผม ผม จะบอกกับคุณลุงคุณป้าว่ายังไง ...”
“อย่าเพิ่งท้อแท้ซิครับคุณ เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมว่าเราช่วยกันพาคุณวัฒน์กลับไปที่บ้านกันก่อนดีกว่า แล้วเดี๋ยวผมจะให้ไอ้ชอบไปตามคุณหมอที่อนามัยมาช่วย ...”
ลุงเขมหันไปทางชาวบ้านอีกสองสามคนที่นัทเองก็เพิ่งสังเกตเห็นเหมือนกัน ไม่รู้ว่ามากันตอนไหน อาจเป็นเพราะนัทมัวแต่ห่วงธวัฒน์จนไม่ได้สังเกตเลยก็ได้ ...
“จ...จริงๆ เหรอครับลุง งั้น...งั้นรีบไปกันเถอะครับ ...”

................................................................................................
นัทกำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องของธวัฒน์ที่บ้าน โดยมีป้าสาลี่กับลุงเขมคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ... นี่ก็เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่หมอเข้าไปดูอาการของธวัฒน์ ... ทั้งๆ ที่เค้าอยากจะอยู่ด้วยตอนรักษา แต่หมอก็สั่งให้ออกมาข้างนอกด้วยไม่อยากให้รบกวนสมาธิตอนรักษา คงมีเพียงผู้หญิงคนนึงที่ลุงเขมบอกว่าเป็นพยาบาลคอยช่วยอยู่ในห้อง ...
“นี่ก็นานแล้วนะครับลุง ทำไมยังไม่มีวี่แววว่าจะออกกันมาเลยล่ะครับ ...”
“อย่ากังวลไปเลยครับคุณ หมอกวี เค้าเคยอยู่โรงพยาบาลในเมืองมาก่อน แล้วก็เก่งพอตัวอยู่ ... เวลาชาวบ้านแถวนี้เจ็บไข้ได้ป่วยก็ได้หมอแกนี่ล่ะที่ช่วยมานักต่อนักแล้วครับ...”
ป้าสาลี่ที่ยืนอยู่ข้างเอื้อมมือมากุมมือที่เย็นเชียบของนัทไว้ พร้อมกับพยักหน้าช้าๆ เหมือนแกอยากจะบอกว่า คุณวัฒน์ต้องไม่เป็นอะไร ซึ่งทำให้นัทมีกำลังใจขึ้นมาก ...
“เอ๊อ ... ผมลืมถามลุงไปเลยครับ ไอ้คนร้ายที่มันยิงพี่วัฒน์มันหนีไปตั้งแต่ตอนไหน ผมมัวแต่หลับตาไม่ทันที่จะมอง ได้ยินแค่เสียงปืนอย่างเดียว ทีแรกผมคิดว่าจะตายซะแล้ว...”
“อ๋อ ก็ไอ้เสียงปืนครั้งแรกที่คุณวัฒน์โดนน่ะ มันได้ยินลงมาถึงบ้านผมตรงตีนเขาเลยครับ ผมก็เลยคว้าปืนวิ่งขึ้นมาดู แล้วก็ให้ยายสาลี่น่ะวิ่งไปตามพวกที่อยู่ใกล้ๆ มาช่วยอีกแรง ... ไอ้ผมก็แก่แล้ว วิ่งไม่ค่อยจะไหว พอเห็นแต่ไกลว่าไอ้แว่นนั่นมันเล็งปืนไปทางพวกคุณๆ ผมก็ไม่รอช้าล่ะ เล็งแล้วลั่นไปก่อนเลย มันคงไม่ได้โดนหรอกครับ มันคงจะตกใจมากกว่าก็เลยหนีลงเขาไปอีกทาง ... ผมล่ะกลัวมันจะหันไปยิงพวกคุณซ้ำก่อนหนีไป แต่โชคยังดีครับคุณที่มันรีบหนีไปก่อน...”
นัทพยักหน้ารับรู้ช้าๆ ก็พอดีกับที่ประตูห้องเปิดออกมา ทุกๆ คนหันไปมองทางเดียวกัน นัทเห็นสีหน้าของคุณหมอกวี แล้วก็ต้องก้าวช้าๆ เข้าไปหาอย่างคนไม่มีแรง ...
“ป่ะ เป็นยังไงครับ พี่วัฒน์ ... พี่วัฒน์เป็นยังไงบ้าง...”
“เอ๊อ ... คือว่า คนป่วยเสียเลือดมากเกินไปนะครับ กว่าที่จะมาถึงหมอ ถึงแม้ตอนนี้เลือดจะหยุดไหลไปแล้ว แต่อาการก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ ...”
“แล้ว แล้วทำไมไม่ให้เลือดล่ะ เลือดผมก็ได้นะครับ...”
“น้องครับ ที่นี่น่ะเป็นเกาะเล็กๆ นะครับ อนามัยของเราก็ไม่มีอุปกรณ์อะไรมากนักหรอก...”
“อย่างนี้พี่วัฒน์จะเป็นยังไงล่ะครับ ทำไม ทำคุณหมอไม่ทำอะไรสักอย่างล่ะ!!!”
นัทเริ่มใส่อารมณ์มากขึ้น จนป้าสาลี่ต้องเข้ามาลูบหลังเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ ให้นัทใจเย็นลง...
“ใจเย็นๆ ซิครับ หมอได้ทำอย่างเต็มที่แล้วนะ เพียงแต่ตอนนี้ต้องขึ้นอยู่กับกำลังใจของคนป่วยเป็นหลัก ถ้าผ่านคืนนี้ไปได้คงหมดห่วง...ตอนนี้หมอให้น้ำเกลืออยู่ แล้วจะพรุ่งนี้เช้าหมอจะมาดูอีกที แต่หมอก็จะพยายามวิทยุไปที่แผ่นดินใหญ่ให้ ถ้าเป็นไปได้ก็จะให้เอา ฮ.มารับคนป่วยไปที่โรงพยาบาลใหญ่เลย...แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเร็วได้ขนาดไหน...”
...
นัทเดินเข้ามาในห้องที่ธวัฒน์นอนอยู่ด้วยลมหายใจที่รวยริน ... น้ำตาที่คิดว่าจะแห้งไปแล้วก็ยังไหลออกมาไม่หยุด ... นี่มันเกิดอะไรขึ้น คำถามนี้ยังคอยรบกวนจิตใจอยู่เสมอ สำหรับคำตอบก็ยิ่งทำให้เจ็บยิ่งกว่า เพราะเค้าถึงทำให้ธวัฒน์เป็นแบบนี้ ถ้าเค้าไม่อยู่ที่นี่ ถ้าเค้าไม่เข้ามาในบ้านนี้ เหตุการณ์ในวันนี้ก็คงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ... นัทนั่งลงที่ข้างเตียงช้าๆ ...มองร่างไร้สติตั้งแต่ใบหน้าที่สงบนิ่ง ลงมาถึงฝ่ามือหนาแข็งแกร่ง ... มือค่อยๆ เอื้อมออกไปสัมผัสมือข้างนั้นเข้ามากุมไว้อย่างทะนุถนอม

ห้วงเวลาแห่งความทรงจำมากมายโผล่เข้ามาให้ได้เห็น ทั้งสุขและทุกข์ ... เค้าก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อผู้ชายคนนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ... ดูเหมือนจะมีแต่ความขัดแย้งเกิดขึ้นเสมอ แม้อยากให้วันเวลาเหล่านั้นหวนกลับมาก็ไม่อาจทำได้อีกแล้ว ... นี่แหละเค้าถึงบอกว่าให้รักและทำดีต่อกันในวันที่ยังมีโอกาส อย่ารอจนมันสายเกินไป จนวันที่ไม่มีใครให้รัก ก็จะมีเหลือแต่ความเศร้าเสียใจ ...

................................................................................................
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 08-05-2007 18:34:16
34...
มือใหญ่เนียนนุ่มของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง ยังคงอยู่ในอุ้งมือของนัทที่ร้องไห้หลับไปด้วยความอ่อนเพลียด้วยนั่งเฝ้าธวัฒน์อยู่ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็ไม่มีวี่แววที่ธวัฒน์จะลืมตาตื่นขึ้นมาแม้แต่น้อย ...
แสงแดดอ่อนๆ เริ่มทอแสงเข้ามาทางหน้าต่างต้องใบหน้าชายหนุ่มที่ยังหลับไหล ... ดวงตาของธวัฒน์เปิดออกช้าๆ ความรู้สึกแรกคือสัมผัสอบอุ่นที่ฝ่ามือ ... เหลือบมองก็ได้เห็นภาพที่เค้าคงจะไม่มีวันลืม นั่นคือ นัทที่จับมือเค้าไว้ไม่ยอมปล่อย คราบน้ำตาที่ยังเห็นได้แม้จะแห้งเหือดไปแล้ว บ่งบอกว่าได้ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก เค้าค่อยๆ นึกทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น และหันไปมองคนที่นอนเฝ้าอยู่อีกครั้ง
“นี่เรายังไม่ตายซินะ ...”
ธวัฒน์พยายามจะขยับตัวแต่ก็ทำได้ลำบากยิ่ง เพราะยิ่งขยับก็ยิ่งเจ็บแปลบที่แผลขึ้นมาอีก... ความเคลื่อนไหว ทำให้นัทเริ่มรู้สึกตัวตื่น แต่พอลืมตาก็เห็นเพียงธวัฒน์ที่ยังนอนไม่ได้สติ ... มือสัมผัสได้ถึงร่างกายที่ยังอุ่นอยู่จึงทำให้นัทโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบหน้าของคนที่นอนอยู่ช้าๆ แผ่วเบา ตั้งแต่หน้าผาก แก้ม จนถึงปลายคาง แล้วมาอังไว้ที่แก้มเหมือนอยากจะถ่ายทอดความอบอุ่นส่งผ่านไปให้ถึงหัวใจของอีกคน ให้รีบฟื้นขึ้นมาสักที ...
“พี่วัฒน์เมื่อไหร่จะฟื้นสักทีล่ะครับ อย่าเล่นแบบนี้ซิครับ ผมกลัวนะ ... กลัวที่จะต้องกลับบ้านคนเดียว แล้วผมจะเรียนคุณลุงคุณป้ายังไง ...”
“ผมยกโทษให้พี่เรื่องนั้นนานแล้วนะครับ ... ผมอยากบอกกับพี่นะ อยากบอกมาตั้งนานแล้วด้วย ถ้าพี่ไม่ฟื้นแล้วผมจะบอกกับใครล่ะครับ ...”
จุ๊บ!!
“เฮ๊ย !!!...” นัทอุทานออกมาด้วยความตกใจ รีบชักมือกลับเมื่อจู่ๆ มือที่ยังวางอยู่บนแก้มของธวัฒน์ก็โดนจูบ อย่างไม่รู้ตัว...
“จริงนะครับ ... นัทหายโกรธพี่แล้วจริงๆ นะ ...”
สายตาทะลึ่งทะเล้นของคนที่นอนอยู่ ทำให้นัทเริ่มรู้ตัวว่าโดนต้มโดยไม่รู้ตัว ...
“นี่ ... นี่พี่วัฒน์ฟื้นนานแล้วใช่ไหมครับ ... คนเค้าเป็นห่วงยังจะมาแกล้งผมอีกนะ ...”
นัทรีบลุกจะหนีออกไปด้วยความโกรธ แต่ก็โดนธวัฒน์ดึงมือไว้ ... พยายามสะบัดให้หลุดก็มีเสียงร้องให้ต้องตกใจเสียก่อน
“โอ๊ย!!!”
“พ...พี่วัฒน์ผมขอโทษ เจ็บมากไหมครับ ขอโทษครับผมลืมไปว่าพี่ยังเจ็บอยู่...”
ธวัฒน์รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก นานแล้วซินะที่เค้าไม่ได้อบอุ่นใจแบบนี้ ... เพราะตั้งแต่เหตุการณ์คราวนั้น ก็แทบไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ ... ตอนนี้เหมือนเค้าได้ปลดเปลื้องความทุกข์ทั้งหมดออกไปจากอก ถึงแม้มันจะแค่ชั่วคราวก็ตามที ...
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่ไม่เป็นไร ขอเพียงนัทยกโทษให้พี่ พี่ก็พอใจแล้วล่ะครับ ...”
“ใคร... ใครยกโทษให้พี่กันครับ...พูดเองเออเองหรือเปล่า...”
“อ้าว...”
คนป่วยทำจมูกย่น ... เหมือนกับเด็กโดนขัดใจ ... นัทต้องกลั้นหัวเราะไว้จนปวดท้องในท่าทางของพี่ชาย ...
“ก็ไหนว่าถ้าพี่ฟื้นแล้วจะยกโทษให้พี่ไงล่ะคร้าบบบ ... จะกลับคำเหรอ ... แล้วนี่ขำอะไร เดี๋ยวก็โดนหรอกนะ”
“ทำไม จะทำอะไรผมหรอ คนป่วยจะทำอะไรได้ มิทราบ...”
“ก็แบบนี้ไง ...”
ธวัฒน์ดึงตัวนัทที่นั่งอยู่ขอบเตียงให้ล้มลงบนตัวเค้า ... แม้จะเจ็บแต่ก็ทนเอา ... เพื่อเป้าหมายที่ต้องการ ... ริมฝีปากของคนป่วยถูกบรรจงจูบลงบนแก้มของเด็กหนุ่ม .... ทำให้เลือดถูกสูบฉีดจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ...
“พี่วัฒน์!!! ทำ ทำอะไรอ่ะ...”
นัทพยายามจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอด แต่ก็กลัวจะทำให้คนป่วยเจ็บ จึงดูน่ารักน่าชังเข้าไปใหญ่ในสายตาของธวัฒน์ ...
“ถ้าไม่กลัวพี่เจ็บก็ดิ้นให้แรงกว่านี้ซิครับ กล้าไหมล่ะ...”
เสียงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู แถมหอมที่หน้าผากอีกที ... ทำให้ตอนนี้นัทหน้าแดงไปทั้งหน้า หู และคอแล้วเสียแล้ว .
“โห เล่นแบบนี้เหรอครับ ... นี่ถ้าไม่ป่วยล่ะก็ ... อย่าคิดว่าผมจะยอมแบบนี้นะ ...”
“งั้นพี่ขอป่วยไปเรื่อยๆ เลยดีกว่าครับ จะได้ไม่มีคนคอยขัดใจ ...”
“ฝันไปซิครับ ใครเค้าจะไปเชื่อล่ะครับว่าป่วยจริงหรือเปล่า ...”
ก๊อก ๆๆๆ ...
เสียงเคาะประตูทำให้การทะเลาะเบาะแว้งรอบใหม่จบลงชั่วคราว พร้อมๆ กับการแยกออกจากันแบบอัตโนมัติ ... เป็นลุงเขมนั่นเอง ที่เปิดประตูห้องนำคุณหมอเข้ามาใน ... คุณหมอกวีดูจะยิ้มให้นัทแบบแปลกๆ แต่ก็คงเป็นเพราะหน้าที่แดงผิดปกติของนัทนั่นเอง ... ไม่รู้ว่าหมอจะคิดยังไงบ้าง ... พอเหลือบไปมองคนป่วยก็ยิ้มแบบยียวนกวน...สุดๆ ไม่สะทกสะท้านกับสายตาคนอื่นเค้าบ้างเร๊ยยย....
..................................................

เพี๊ยะ !!!
เสียงฝ่ามือกระทบหน้าของชายหนุ่มดังสนั่นในห้องของโรงแรมย่านชานเมือง ... พร้อมเสียงด่าทอด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเกินกว่าจะระงับไว้ได้ ....
“ไอ้บัดซบ ... แกบังอาจมาก ที่ไปยิงพี่วัฒน์ของฉัน เท่านั้นยังไม่พอ แกยังฆ่าไอ้เด็กเวรนั่นไม่สำเร็จอีก แถมยังกลับมาเสนอหน้าให้ฉันเห็นอีก ...”
“ผมบอกคุณแล้วนะ ว่ามันจะสำเร็จถ้าไม่มีคนมาขวางซะก่อน... ผมจะไม่ยอมตายหรือโดนจับเพราะมารับทำงานให้คุณหรอกนะ”
“ไม่สำเร็จ...ยังไงก็คือไม่สำเร็จนั่นแหละ แกจะมาแก้ตัวยังไง ฉันก็ไม่สนใจ...”
ชายหนุ่มถอดแว่นดำออกอย่างหัวเสียในท่าทีของนภัทร ที่พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะจ่ายค่าจ้างให้กับเค้า ...
“แต่คุณต้องจ่ายค่าจ้างให้ผม !!!”
เพี๊ยะ!!!
“แกถือดียังไงมาขึ้นเสียงกับฉัน!!! อิโถ่เอ๊ย... มืออาชีพประสาอะไร งานเล็กๆ แค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ แกคอยดูนะถ้าคุณวัฒน์เป็นอะไรไปล่ะก็ ฉันไม่เอาแกไว้แน่...”
ชายหนุ่มลูบแก้มเบาๆ หันมามองคนที่ตบหน้าเค้าเป็นครั้งที่สองด้วยความอาฆาต ... แลบลิ้นออกมารับรสเค็มของเลือดที่ซึมออกมาตรงมุมปาก ...
“ทำไมเหรอ คงกลัวซินะว่าจะไม่มีบ่อเงินบ่อทองให้คอยสูบ...”
แขนของนภัทรถูกยกขึ้น และเหวี่ยงซ้ำลงไปที่หน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง ... แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เมื่อเป้าหมายของเธอจับมือเธอเอาไว้ได้ ก่อนที่จะไปกระทบใบหน้าของเค้า ...
“คุณไม่มีสิทธิมาตบหน้าผม !!!”
“ทำไม ไอ้ไพร่... แกจะทำอะไรฉัน ... ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ แกไม่มีสิทธิมาแตะต้องตัวฉัน ปล่อยซิไอ้เลว !!!”
“ผมว่าเราคงเลวพอกันล่ะนะ คนเลวมันก็ต้องคู่กับคนเลวซิจริงไหมจ๊ะ ...”
สายตาของชายหนุ่มที่ซุกซ่อนความหื่นกระหายเอาไว้ ไม่รอดพ้นสายตาของนภัทรที่กำลังหวั่นๆ กับสถานการณ์ของตัวเองที่ชักจะเป็นรองเสียแล้ว ...
“แกพูดอะไร อย่ามาพูดแบบนี้กับฉันนะ ปล่อยฉันบอกให้ปล่อยฉัน ... ไม่งั้นฉันจะเรียกให้คนช่วย ...”
ฝ่ามืออีกข้างที่ยังว่าง...โดนเหวี่ยงออกไปทันที แต่ก็ถูกสกัดไว้อีกจนได้ ...
“ช่ว...ช่วย ด...!!!”
ยังไม่ทันที่เสียงขอความช่วยเหลือจะได้ออกจากปากของนภัทร เธอก็ลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นด้วยความจุกอย่างที่ไม่เคยที่จะมีใครกล้าทำกับเธออย่างนี้ เสียงที่ออกมาตอนนี้มันเบายิ่งกว่าเบาเพราะความจุกที่เกิดจากหมัดของชายหนุ่มนั่นเอง ...
“เป็นไง ยังกล้าจะร้องให้ใครช่วยอีกไหมล่ะ...”
“แก ... ไอ้ ...”
“อ่ะ อ่ะ อย่าให้มีคำพูดหยาบๆ ออกมาจากปากคุณอีกนะ ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้อีก ...”

“ถ้าแกต้องการเงินฉันก็จะให้ ได้แล้วก็รีบๆ ไปให้พ้น น...หน้าฉัน ไอ้สารเลว...ไอ้หน้าตัวเมีย ทำร้ายผู้หญิง...”
“ฮะ ฮะ ฮา ... มาพูดตอนนี้มันสายไปแล้วล่ะ ตอนเนี่ยผมจะขอทั้งเงินแล้วก็...”
สายตาโลมเลียไล่ตั้งแต่ไหลขาวๆ ลงไปจนถึงเนินอกขาว ที่เผยออกมาจากเสื้อเกาะอกเข้ารูป ... ก่อนที่นภัทรจะถูกอุ้มไปโยนลงบนเตียงอย่างทุลักทุเล ... เพราะเธอดิ้นรนจนสุดชีวิต แต่มีหรือที่แรงของผู้หญิงจะสู้ผู้ชายได้ ... สิ่งที่สมควรเกิดแก่ผู้หญิงเช่นนภัทรก็ดำเนินไปด้วยความเจ็บช้ำ แต่อีกคนเล่ากลับมีแต่ความสะใจและความหฤหรรษ์ในอารมณ์ที่ได้เห็นน้ำตาของผู้หญิงที่หวงตัวไว้ให้เจ้าบ่าวที่อาจจะตายไปแล้วก็ได้ ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 08-05-2007 18:37:17
หุหุ  ตอนนี้  นัท  กะ พี่วัฒน์  ก็เข้าใจกันซะที อิอิ   :like6:


สะใจ  ยายภัทร  โดนข่มขืน   ฮ่าๆ  :laugh:  :laugh:   สมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 08-05-2007 19:29:27
 o18 o18  กรรมมันติดจรวดจริงๆครับ  o1 o1

เอาใจช่วยคุณพี่วัฒน์กะคุณน้องนัทต่อปาย o7 o7
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-05-2007 20:04:15
แล้วถ้าเกิดยายนภัทรท้องแล้วอ้างว่าเป็นลูกพี่วัฒน์เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกจนได้หรอก   :o11:

มิต้องรอตรวจ DNA เด็กอีกรึ  :try2:

ถึงตอนนั้นนัทก็ช้ำใจตายพอดี  :sad2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-05-2007 20:51:23
หุหุ เข้าใจกันแล้ว  :like6: ส่วนยายภัทรก็ ... โดนซะ  o18
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 09-05-2007 00:08:45
ยายภัทร สมควรโดนแล้วจริงๆ :o10:
พี่วัฒน์กะนัทก็หาโอกาสหวีทหวานกันไว้เยอะๆล่ะ เด๋วกลับไปแล้วมีเรื่องยุ่งตามมาอีกแน่
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-05-2007 11:04:14
เหอเหอ

ตาม ste pนิยายน้ำเน่า

เรื่องคงไม่จบง่ายๆ แน่เลย

 o3
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 09-05-2007 20:11:41
  :laugh: :laugh: สะจายยยยยย 
น้ำเน่าของแท้เลยเรื่องนี้  เด๋วยายภัทรจะโดนแบลกเมล์ป่าวเนี่ย 

รออ่านต่อ มันส์ๆๆๆๆ   o13
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 10-05-2007 16:58:06
มาต่อให้แล้วคับ ^^

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

35...
ธวัฒน์และนัท ก้าวลงมาจากรถ โดยมีนมพริ้มออกมายืนรออยู่อย่างร้อนใจ ... หลังจากที่ธวัฒน์โทรศัพท์มาบอกตั้งแต่เมื่อคืนตอนเริ่มออกเดินทางว่าจะมาถึงเช้านี้ ...
“คุณแม่ไปไหนล่ะครับนม ทำไมนมอยู่คนเดียวล่ะ น่าน้อยใจจังลูกชายกับหลานรักกลับมาบ้านทั้งที ไม่อยู่รอรับกันบ้างเลย”
ธวัฒน์ยังคงหยอกเย้ากับนมพริ้มอย่างอารมณ์ดี ... แต่นมพริ้มเหมือนจะไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลยวันนี้ ...
“แล้วคุณวัฒน์พาคุณนัทไปไหนมาล่ะค่ะ หายไปตั้งสองอาทิตย์ ... รู้ไหมค่ะว่าทุกคนเค้าเป็นห่วงมากเลยนะ...”
“แหมรู้ซิครับ ... ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าคุณแม่กับนมเป็นห่วงผมขนาดไหน ...”
ธวัฒน์พูดพรางเข้าไปกอดนมพริ้ม เหมือนเด็กที่กำลังเอาอกเอาใจผู้ใหญ่ เวลาที่จะให้ยกโทษให้...
“ใครว่าเป็นห่วงคุณวัฒน์ล่ะค่ะ คุณหญิงกับนมเป็นห่วงคุณนัทตะหาก กลัวคุณวัฒน์จะพาน้องไปฆ่าทิ้งซะแล้ว ยิ่งไม่ค่อยถูกกันอยู่ด้วย ... ว่าแต่คุณนัทไม่เป็นอะไรนะค่ะ ... นมเป็นห่วงแทบแย่แนะ ...”
นมพริ้มสะบัดธวัฒน์ออก ก่อนจะเดินเข้าไปกอด ลูบหน้าลูบตา สำรวจร่างกายเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดูรักใคร่ ...
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับนม ... สบายใจได้ครับ ผมขอโทษนะครับที่ทำให้นมเป็นห่วง ...”
“โถ่ พ่อคุณ ดูซิยังอุตส่าห์มาขอโทษ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นต้นเหตุซะหน่อย ... ช่างเป็นคนดีจริงจริ๊ง...”
นมพริ้มปรายตาไปทางคุณหนูตัวดีของตัวเอง ... ที่ทำหน้าบูดเป็นเด็กเพราะไม่มีคนเข้าข้าง ...
“โห...  เดี๋ยวนี้มีคนโปรดใหม่แล้วนิ ผมคงหมดความหมายไปแล้ว ... ว่าแต่คุณแม่ล่ะครับนม ออกไปไหนแต่เช้าเลย”
“ตายจริง นมลืมไปซะสนิทเลย ... ท่านสั่งไว้แล้วเชียวนะเนี่ย ...”
ธวัฒน์สังเกตอาการตกใจของนมพริ้มแล้ว คิดว่าน่าจะมีเรื่องอะไรสำคัญมากแน่ๆ ...
“เรื่องอะไรเหรอครับนม ...”
“ก็คุณหญิงท่านไม่ได้กลับมาตั้งแต่เมื่อคืนน่ะซิค่ะ พอหลังจากที่ท่านรับโทรศัพท์จากคุณวัฒน์แล้ว ท่านก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล แล้วท่านก็รีบออกไปพร้อมกับคุณหนูภานุทันทีเลย และก่อนที่คุณวัฒน์จะมาถึงนี่เอง ท่านก็โทรมาฝากบอกให้คุณวัฒน์กับคุณนัทตามไปที่โรงพยาบาล... ทันทีที่กลับมาถึงเลยล่ะค่ะ...”
“ใครเป็นอะไรเข้าโรงพยาบาลเหรอครับนม ... ท่านถึงต้องไปเฝ้าทั้งคืนแบบนี้ ...”
“ไม่ทราบค่ะ เพราะท่านไม่ยอมบอกอะไรเลย ... นมก็ถามแล้วนะค่ะ แต่ท่านบอกแค่ว่าเดี๋ยวคุณวัฒน์กับคุณนัทมาก็ทราบเอง แต่ย้ำว่าให้รีบไปทันทีที่กลับมาถึง ... นมว่าคุณวัฒน์รีบไปจะดีกว่านะค่ะ เพราะจากน้ำเสียงของท่านแล้วน่าจะเป็นเรื่องสำคัญมากแน่ๆ ...”
“งั้นผมไปล่ะครับ ... นมอยู่ดูบ้านนะครับ ... ป่ะนัทขึ้นรถเถอะ”
นัทพยักหน้ารับ ก่อนจะหันมากอดนมพริ้มหนึ่งที แล้วตามธวัฒน์ไปขึ้นรถ ... ในใจก็คิดเพียงว่า ใครกันนะที่คุณป้าไปเฝ้าอยู่เมื่อคืนไม่ยอมกลับบ้าน ... เป็นญาติของคุณป้าคนใดคนหนึ่งหรือเปล่า ... ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ...
“เป็นอะไรครับนัท นั่งหน้าเครียดเชียว ... มองหน้าพี่ซิเผื่อจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง ...”
“บ้าเหรอครับพี่วัฒน์ หน้าพี่ไม่ได้เหมือนหม่ำ เท่ง โหน่ง นะครับ ผมจะได้ขำแล้วอารมณ์ดีได้ ...”
“แหม ก็พี่หล่อซะขนาดนี้ จะไปเหมือนได้ไงล่ะคร้าบบบ จริงป่ะ ... ว่าแต่คิดอะไรหรอ ยังไม่ได้บอกพี่เลย ...”

“เปล่าหรอกครับ ผมแค่คิดว่าใครกันที่คุณป้าไปอยู่เฝ้าทั้งคืน ...”
“อย่าคิดมากซิครับคนดี ... คงไม่มีอะไรหรอกนะ ...”
นัทพยักหน้ารับช้าๆ ... แต่ในใจกลับหวิวๆ พิกล ... มันเป็นความรู้สึกไม่สบายใจ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ... มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับเค้ารออยู่หรือเปล่านะ ??
“คุณแม่/คุณป้า ...”
ธวัฒน์และนัท เดินเข้าไปหาคุณหญิงศศิกานต์ซึ่งเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วย ธวัฒน์เดินเข้าไปจะโอบกอดผู้เป็นมารดา แต่แม่ของเค้ากลับเดินเข้ามากอดนัทแทน จนทำให้เจ้าตัวเป็นงง ...
“นัท มาแล้วเหรอลูก รู้ไหมว่าป้าเป็นห่วงมากเลย ... นี่ถ้าตาวัฒน์พาลูกกลับมาไม่ทันล่ะก็ ป้าจะไม่ยกโทษให้เลย ...”
คุณหญิงมองค้อนไปทางบุตรชายที่ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ ...
“หมายความว่ายังไงเหรอครับคุณป้า มาทันอะไรเหรอครับ ...”
“คือว่า ... นัทลูก ทำใจดีๆ ไว้นะจ๊ะ ... คือจิตราเค้าอยากเจอหน้านัท ก่อน... ก่อนที่จะ...”
“คุณแม่เหรอครับ ... แต่คุณป้าเคยบอกว่าคุณแม่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ...แล้ว ... แล้วทำไม คุณแม่มาอยู่ที่นี่ล่ะครับ”
“นัทยกโทษให้ป้านะลูก แต่เพราะจิตราขอร้องป้า และให้ป้าสัญญาว่าจะไม่บอกกับนัทเด็ดขาดว่ารักษาตัวอยู่ที่นี่ ...”
“คุณแม่เป็นอะไรครับคุณป้า และตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คุณแม่ ... แต่ผมเพิ่งเจอท่านเมื่อปิดเทอมก่อนจบ ม.6 นี่เองนะครับ ถึงท่านจะดู ... ซีดเซียว ... ไป ... บ้าง”
นัทเริ่มทบทวนช่วงเวลาที่เค้าได้เจอกับแม่ ซึ่งทุกครั้งแม่ของเค้าจะดูผ่ายผอม ซีดเซียว ... แต่ท่านก็มักจะพูดให้นัทสบายใจเสมอว่าไม่เป็นอะไร เพียงแต่ทำงานหนัก และไม่ค่อยได้พักผ่อนเท่านั้น ... เพราะเค้าไม่เคยจะใส่ใจท่านเลยใช่ไหม ท่านต้องทำงานหนักเพราะเค้า แม้แต่การที่แม่ไม่สบาย เค้าก็ไม่เคยจะรับรู้ หรือสนใจให้มากกว่านี้ ... เค้าสนใจเพียงแค่ต้องการเจอท่าน อยากพบท่าน อยากใช้เวลาอยู่กับท่านเท่านั้นหรือ ...
“จิตรา ... เธอป่วยมานาน ตั้งแต่ที่คุณพ่อของนัทเสียไม่กี่ปี ... ป้าเองก็พยายามขอร้องให้เค้าเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่เค้าไม่เคยยอมสักครั้งเดียว และจะบอกกับป้าเสมอๆ ว่าเป็นห่วงลูก และจะทำงานเพื่ออนาคตลูก ... ป้าจะช่วยเหลือก็ไม่เคยรับเลยสักครั้งเดียว ... จนเมื่อเร็วๆ นี้ ก่อนที่นัทจะเรียนจบได้ไม่นาน ที่อาการเค้าทรุดหนัก ป้าจึงพาตัวเค้ามารักษาตัวที่นี่และได้รู้ว่าเค้าเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ... ป้าพยายามหาหมอที่เก่งที่สุดมารักษา แต่ทุกคนต่างส่ายหน้า เพราะมาถึงสายไป ทุกวันนี้ก็ได้แต่เพียงให้ยาเพื่อพยุงอาการไม่ให้ทรุดหนักไปกว่าเก่า ... แต่เมื่อคืนจิตราก็ทรุดและอยากพบ ... นัท ... เป็นครั้งสุดท้าย...”

คุณหญิงที่เล่าความเป็นมาจบลง ด้วยน้ำตาที่นองหน้า ... มีธวัฒน์คอยโอบกอดให้กำลังใจ ... สงสารทั้งเพื่อนรัก และนัทที่ต้องมารับรู้ความจริงในช่วงวินาทีสุดท้ายของมารดา ... นัทยืนฟังอย่างสงบนิ่ง สองขาแทบยืนไม่อยู่ น้ำตาไหลเอ่อล้นจากสองตา เสียงสะอื้นไห้แทบขาดใจ ... นี่เค้า ทำให้แม่ลำบากขนาดนี้เชียวหรือ ... เค้าทำให้พ่อต้องเสียไปแล้วคนนึง นี่แม่กำลังจะจากไป เพราะเค้าอีกแล้วหรือ ...
“ล ... แล้วคุณแม่ผมล่ะครับ ... ท่าน ...”
ยังไม่ทันที่น้ำเสียงสั่นเครือจะพูดจบ ... เสียงเปิดประตูออกมาจากห้องผู้ป่วยก็ทำให้ทุกคนหันไปมอง ...
“คุณป้า ... นัท แย่แล้วครับ คุณป้าจิตรา ...”
เป็นภานุนั่นเองที่เปิดประตูออกมา ... แต่สิ่งที่เค้าบอกกับทุกคน ทำให้ต่างกรูกันเข้าไปข้างในทันทีโดยไม่ต้องรอให้ต้องบอกซ้ำ ... สิ่งที่นัทได้เห็นบนเตียงก็คือ แม่ของเค้าที่ผอมเหลือเกิน ผิวที่ขาวของท่านกลับซีดจนไม่มีสีเลือด รอยย่นบนใบหน้าที่เค้าไม่เคยได้เห็น ... เพียงเวลาไม่นาน แม่ที่สวย ร่าเริง ของเค้าเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ ... เค้าค่อยๆ คุกเข่าลงช้าๆ ที่ข้างเตียง สองมือเอื้อมไปจับมือที่สูบซีดข้างนั้นมาแนบแก้มขาวของตัวเอง ... น้ำตาไหลสัมผัสมือเย็นเชียบข้างนั้นไม่ยอมหยุด ...
“นั...นัท มาแล้วหรือลูก ... แม่คิดว่าจะ ... จะ ... ไม่ได้เห็นหน้าลูก ก...ก่อน ...”
“ไม่ครับ ... แม่ต้องไม่เป็นอะไร ... แม่ต้องอยู่กับผมนะครับ เราจะกลับไปอยู่บ้านของพวกเรา บ้านของพ่อไงล่ะครับแม่”
สายตาของผู้เป็นแม่ ส่งผ่านความรักอันสุดซึ้งมาให้แก่ลูกชาย ... ในยามนี้นัทอาจจะเศร้าแทบขาดใจ ... แต่เธอก็มั่นใจว่าลูกของเธอไม่ใช่คนอ่อนแอ และจะฝ่าฟันความเศร้าเสียใจครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน ... มือเย็นของแม่ลูบไล้ไปบนใบหน้าของนัทเหมือนกับกำลังสำรวจสิ่งที่เธอไม่ได้เห็นมานาน ... พร้อมกับเช็ดน้ำตาออกจากสองแก้มของลูกชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจ ...
“อย่า ... ร้องไห้ซิจ๊ะ ... ลูกเป็น ... ลูกชายของแม่ ... ลูกโตขึ้นมาก มากจริงๆ ...”
“ถ้างั้นแม่ต้องอยู่ ... อยู่รอดูผมโตขึ้น โตขึ้นเรื่อยๆ แล้วผมจะดูแลแม่เองนะ นะครับแม่...”
“ไม่มีใคร ... ไม่ตายหรอกนะนัท ลูกแม่ ... จะเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง ... เพียงแต่ ... แม่ต้องไปเร็วกว่าลูกเท่านั้น ...”
“แต่แม่ต้องอยู่กับผม ผมยังไม่ได้ตอบแทนแม่ ผมยังไม่ได้ดูแลแม่เหมือนที่แม่ดูแลผม ผมยัง ... ยัง ...”
“แต่ลูกรักแม่ ... ใช่ไหมล่ะจ๊ะ ...”
“ครับ นัทรักแม่ ... รักมากที่สุดในโลกนะครับ ดังนั้นแม่ แม่ต้องอยู่กับผมนะ ...”
“นั่นแหละ คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับแม่แล้วล่ะจ๊ะ แม่ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เพราะแม่ได้รับความรักจากลูกแล้วไงล่ะ น...นัทได้แสดง ให้แม่เห็นแล้วว่านัทเป็นเด็กดีเสมอ และนัทรักแม่มากแค่ไหน ...”
เสียงไออย่างหนักหน่วงของจิตรา ที่พยายามพูดกับลูกชายทั้งๆ ที่แทบไม่มีแรง ทำให้ทุกคนหัวใจเต้นรัว ... ความสะเทือนใจแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง ... คุณหญิงอยู่อีกด้านนึงของเตียง ธวัฒน์และภานุที่ยืนอยู่ด้านหลังของนัทก็มีน้ำตาคลอ ... ด้วยความสงสาร ...
“แม่ แม่ครับ ... อย่าเป็นอะไรนะครับ อยู่กับผมก่อน ...”
“เหนื่อยเหลือเกิน ... พ่อเค้ามารอรับแม่แล้ว ... ลูกเห็นไหม พ่อเค้ายิ้มให้กับเราสองคนด้วยนะ ...  ศศิ ... ฝา ... ฝากนัทด้วยนะ ธ...เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ข...ของ ฉันเสมอ...”
“จ๊ะ...จิตราฉันรับปาก ... หลับให้สบายเถอะนะ นึกถึงพระพุทธไว้นะจ๊ะจิตรา ...”
“ม...แม่ ร...รัก ลูกมากนะจ๊ะ --- --- --- --- --- --- _________________________________________”
“แม่!!! แม่ครับบบบบบบบบบบบ แม่!!! แม่ตื่นขึ้นมาซิครับ แม่อยู่กับผมก่อน ...”
นัทที่เริ่มโวยวายอย่างเสียสติ ... ทำให้ธวัฒน์ต้องมาดึงตัวเอาไว้ และกอดไว้แน่น เหมือนพยายามส่งผ่านความห่วงใยและแบ่งเบาความเศร้าเสียใจของนัทออกไปได้บ้าง ...
“ท่านไปสบายแล้วนะครับ อย่าทำให้ท่านเป็นห่วงซิครับคนดี ... ไม่งั้นท่านจะมีห่วงและไม่สงบนะ นัทอยากให้เป็นอย่างนั้นเหรอ ...”
เสียงสะอื้นไห้ปานจะขาดใจ ในอ้อมกอดของธวัฒน์นั้น ... ผ่านไปเนิ่นนาน ... ไม่รู้ว่าสงบลงได้เมื่อไร ... คนหนึ่งจากไป เหลือไว้เพียงร่างที่ทอดกายอย่างสงบ ... กับความเศร้าและน้ำตาของคนที่รักเค้าเท่านั้นเอง ...

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 10-05-2007 17:01:20
สงสารนัท จัง   T T 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

36...
งานศพคุณแม่ของนัทผ่านไปด้วยความเรียบร้อย และสมเกียรติ เนื่องจากคุณหญิงยกเลิกโปรแกรมงานทั้งหมดเพื่อมาดูแลงานด้วยตนเอง แถมยังมีเพื่อนสนิทของนัทมาช่วยกันอย่างแข็งขัน ไม่ว่าจะเป็นภานุ เอกและบอล แม้แต่แทนไทก็ยังมาเป็นกำลังใจให้กับนัททุกคืนที่สวดพระอภิธรรม จนทำให้ธวัฒน์ออกจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ต้องคอยเขม่นกันตลอดงาน นี่ถ้าไม่ใช่งานศพมีหวังคงได้ตีกันไปแล้ว ซึ่งปฏิกิริยาของสองคนนี้ก็เป็นที่ขำขันในสายตาของเอกและบอล คงมีแต่ภานุคนเดียวละมั้งที่ไม่เข้าไปร่วมด้วย แต่จะคอยปลอบโยนและยิ้มเป็นกำลังใจให้นัททุกครั้งที่มีโอกาส ...
ฝ่ายนภัทรและแม่ของเธอไม่โผล่มาเลย จนกระทั่งวันสุดท้ายของงานนั่นแหละ ... จึงได้เห็นหน้าทั้งสองคนนี้ ด้วยเหตุผลที่คุณหญิงบอกแก่ลูกสาวของเธอว่า เป็นหน้าที่ของว่าที่ลูกสะใภ้ที่ดี ... ดังนั้น พวงหรีดพวงโตจึงถูกจัดหามาร่วมงานอย่างขาดเสียไม่ได้ ...
“อ้าวหญิงแต้ว หนูภัทร ไปไหนมาจ๊ะ ไม่เจอกันตั้งนาน ...”
คุณหญิงศศิกานต์กล่าวทักทาย ขณะยืนต้อนรับแขกอยู่ด้านนอกศาลา แล้วเห็นคุณหญิงพรทิพย์ กับนภัทรหอบพวกหรีดเดินเข้ามา ...
“เอ๊อ ... คือดิฉันกับลูกสาวไปต่างจังหวัดกันมาค่ะคุณหญิง ... เพิ่งกลับมาก็ได้ทราบข่าวร้าย ก็เลยรีบมาเนี่ยล่ะค่ะ”
คุณหญิงพรทิพย์รีบแก้ต่าง พร้อมกับสะกิดลูกสาวให้มีปฏิกิริยาสนับสนุนคำพูดของตน ... นภัทรจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เออออไปงั้นๆ พลางสายตาก็เหลือบหาว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเอง ...
“คุณหญิงแม่ค่ะคุณวัฒน์อยู่ไหนหรือค่ะ ... ภัทรไม่เจอตั้งนานแน่ะค่ะ ...”
“อ๋อ ก็คงอยู่ในศาลาล่ะจ๊ะหนูภัทร ... เดี๋ยวเข้าไปก็คงเจอ ...”
คุณหญิงเรียกเด็กมารับพวงหรีดไปจัดวาง พร้อมๆ กับเชื้อเชิญให้สองแม่ลูกเข้าไปนั่งรอพระสวดในศาลา ... แต่ยังไม่ทันที่นภัทรจะได้นั่งก็เหลือบไปเห็นธวัฒน์นั่งอยู่กับนัทที่หน้าโรงศพ คอยส่งธูปให้แขกที่เข้าไปเคารพศพ ... อารมณ์ริษยาพลุ่งพล่านขึ้นทันใด กำลังจะเดินตรงไปหาคนทั้งสองแต่ก็ถูกผู้เป็นแม่ฉุดไว้ซะก่อน ..
“นี่แกจะทำอะไร ยัยภัทร !! แกอย่าลืมซิว่านี่มันงานศพ ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นเพราะแก แล้วคุณหญิงศศิเค้าจะคิดยังไง”
“หนูไม่สน !! ก็คุณแม่ดูซิค่ะ ไอ้เด็กเวรนั่นมัน ...”
“แต่ฉันสน ยัยภัทร !!! แกหัดสงบสติอารมณ์สักหน่อยได้ไหม ... อีกไม่นานทุกอย่างมันก็จะเป็นของแกอยู่แล้ว แกอย่าทำให้มันเสียเรื่องก่อนจะได้ไหม ...”
คุณหญิงพรทิพย์พยายามดึงสติของลูกสาวให้กลับคืนมาจนสำเร็จ ... ทำให้นภัทรสงบลงได้ แต่มันก็เหมือนคลื่นที่สงบเพื่อรอการเคลื่อนไหวที่รุนแรง ถาโถมเข้าใส่สิ่งขวางกั้นให้แหลกเป็นจุล ...
“คอยดูเถอะนะ ... ฉันจะไม่ยอมเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวหรอก แกจะต้องสูญเสียยิ่งกว่านี้ ... ให้สาสมมากกว่าที่ฉันต้องเสียไป ...”
นภัทรพูดเบาๆ อย่างอาฆาตแค้น ก่อนจะยอมนั่งลงข้างๆ มารดา จนเสร็จงานในคืนนั้น ...
..............................................................................................
หลังงานผ่านพ้นไป ... แต่นัทก็ยังดูเศร้าซึม จนคนในบ้านใจหาย เพราะนัทที่เคยสดใสร่าเริงกลับกลายเป็นนัทที่นั่งเหม่อลอย เศร้าซึมอยู่ตลอดเวลา ... คุณหญิงศศิกานต์จึงจัดตารางวันหยุดสุดสัปดาห์ในช่วงปิดเทอมนี้ เพื่อพาครอบครัวไปพักผ่อนชายทะเล โดยมีครอบครัวของภานุ รวมทั้งเอกและบอล ไปด้วย ... และที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นนภัทรและแม่ของเธอที่คุณหญิงศศิกานต์เป็นคนชวน ... แต่ที่ทำให้ธวัฒน์แปลกใจมากที่สุดก็คงจะเป็นแทนไท ที่ไม่ทราบว่าใครคาบข่าวไปบอกให้รู้ ... ซึ่งพอบอกว่าไม่ให้ไป มันก็หน้าด้านจะไปให้ได้ โดยบอกว่าจะขับรถไปเองและจะหาโรงแรมพักเองด้วย ...

“นี่บอล ... ถ้าพี่วัฒน์รู้ว่าเอ็งบอกจารย์แทนไทล่ะก็ได้ตายหมู่แน่เลยงานเนี่ย ...”
“จุ๊ๆๆ เอกก็อย่าพูดเสียงดังไปซิ ... เดี๋ยวก็ได้รู้เพราะเอกเนี่ยแหละ ...”
บอลหันมากระซิบกระซาบกับเอกที่นั่งอยู่คู่กัน โดยมีภานุเงี่ยหูฟังอยู่ที่เบาะข้างหลัง เพราะเค้าก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าใครเป็นคนบอกแทนไทกันแน่ ...
“วางแผนอะไรไว้อีกล่ะ พ่อจอมวางแผน ... ทั้งสอง ...”
ภานุพูดขัดขึ้น จนทำให้เอกสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าภานุจะได้ยินสิ่งที่เค้ากำลังคุยกะบอลอยู่ ...
“ปะ...เปล่าซะหน่อย ... นี่ นี่เลย บอลคนเดียวตูไม่เกี่ยวซะหน่อย ...”
ป๊าบ !!!
“แม่ง ... โยนเลยนะเอก ... ก็แหมภานุละก็ ไปเที่ยวทั้งทีจะมีแค่ตัวอิจฉาฝ่ายหญิงอย่างเดียวได้ไงล่ะ มันก็ต้องมีตัวอิจฉาฝ่ายชายด้วยซิ มันถึงจะสนุก ... ใช่ม๊า ...”
“งั้นพวกเราล่ะ เป็นตัวอะไร ...”
คำถามของเอกเหมือนจะไปตรงกับความคิดของภานุเข้าพอดี จึงพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย และนี่คงเป็นครั้งแรกที่เอกและภานุมีความเห็นตรงกัน ...
“ทีเงี่ยเข้ากันดีจังนะ ... พวกเราก็เป็นกามเทพไง น่ารักดีออกจริงป่ะ ...”
ภานุและเอกส่ายหน้าพร้อมๆ กัน ก่อนจะกลับไปนั่งตามปกติ เพราะรู้สึกว่าบอลจะเริ่มเพ้อเจ้อไปซะแล้ว ...
“ไรหว๊า ... งั้นเป็นคนเดียวก็ได้ เชอะ ...”
ที่รถตู้อีกคัน ... หัวข้อการสนทนาระหว่างคุณหญิงทั้งสองคนก็คงจะหนีไม่พ้น เรื่องการแต่งงานระหว่างธวัฒน์กับนภัทร แต่ดูเหมือนว่าคุณหญิงพรทิพย์จะเป็นฝ่ายพูดซะมากกว่า เพราะได้ตระเตรียมจะมาพูดเรื่องนี้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ... โดยก่อนออกเดินทางนภัทรจัดแจงให้นัทมานั่งรถคันนี้แต่แรก เพื่อการนี้โดยเฉพาะ...
“คุณหญิงคิดว่ายังไงค่ะ ถ้าเราจะจัดการแต่งงานซะที หลังจากกลับจากพักผ่อนคราวนี้ ...”
แค่คำถามแรกก็แทงเข้าไปเต็มๆ ... ทั้งนัทและธวัฒน์ โดยเฉพาะธวัฒน์ที่ปั้นหน้าไม่ถูก ด้วยไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ ส่วนนัทที่ยังไม่ค่อยยิ้มแย้มอยู่แล้วตั้งแต่งานศพ ... ก็ทำให้ธวัฒน์เดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ...
“อันนี้ก็แล้วแต่เด็กๆ เค้าจะตกลงใจกันดีกว่าไหมจ๊ะ หญิงแต้ว ...”
“โอ้ย ... ฝ่ายดิฉันเค้าพร้อมอยู่แล้วล่ะค๊า ... เพราะยิ่งนานวันฝ่ายหญิงของดิฉันรังแต่จะเป็นขี้ปากชาวบ้าน ที่หมั้นแล้วไม่ยอมแต่งซะที ...”
นภัทรเหมือนจะพออกพอใจ กับมารดาอย่างมาก จึงยิ้มรับอายๆ อย่างมีจริตมารยา ... แต่ท่าทางก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเห็นด้วยเต็มที่ ...

“ตะ ... แต่ ... ผมว่ารอไปอีกสักนิดดีกว่านะครับ เพราะบ้านเราก็เพิ่งผ่านเรื่องเศร้าๆ มา ...”
ธวัฒน์หันไปมองหน้านัทนิดนึง ก่อนจะหันกลับมาเจอสายตาวาวโรจน์ของนภัทรที่บ่งบอกความไม่สบอารมณ์อย่างเต็มที่ ... ที่ธวัฒน์เอาเรื่องแต่งงานของเค้าไปผูกเกี่ยวกับเด็กไร้ญาติขาดมิตรอย่างนัท ... ถ้าสามารถพูดต่อหน้าคุณหญิงได้เธอคงอยากจะตะโกนว่า “คนที่ตายน่ะไม่ใช่ญาติโกโหติกาของคุณสักหน่อย ...” แต่ในสถานการณ์แบบนี้เธอคงจะทำไม่ได้ ...
“อืม ก็ดีนะ ... ตอนนี้เรามาพักผ่อนกันให้เต็มที่ จากนั้นกลับไปเราค่อยคุยกันอีกทีดีกว่านะจ๊ะ หนูภัทร หญิงแต้ว...”
สองแม่ลูกยิ้มเจื่อนๆ ... จากการตัดสินใจของคุณหญิงศศิกานต์ ... แม้จะขัดใจแต่ก็ต้องยอมสงบเสงี่ยมไปก่อน ... จนกว่าจะถึงเวลา ...
นัทที่นั่งอยู่ด้านหลังคนเดียว ต้องมองธวัฒน์และนภัทรนั่งคู่กันไปตลอดทาง แม้เค้าจะยังเศร้าอยู่บ้างที่คุณแม่เสียไป แต่รอยแผลที่เริ่มจางกลับเปิดออก เพราะภาพบาดตาและเรื่องบาดใจ ... นี่เค้ากำลังเศร้าหรือเสียใจกับเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องของแม่งั้นเหรอ ?? ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 10-05-2007 17:56:51
สงสารนัทอะ

ไม่รู้จะต้องเจอเรื่องเศ้ราไปอีกแค่ไหน

 :dont2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-05-2007 18:32:32
สงสารนัท  :sad4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 10-05-2007 18:42:56
 :o7: ตอนนี้เป็นอะไรที่หนักมากเลยอ่ะ
ทำไมนัทจะต้องเจอแต่เรื่องเศร้าๆตลอดเลยเนี่ย อุปสรรคเยอะจริงๆกว่าจะได้พบเจอกับความสุขเนี่ย :sad2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 11-05-2007 23:18:34
สงสารนัทจัง ที่ต้องเจออะไรมากมาย   T T

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


37...
รถตู้สองคนแล่นเข้าไปจอดในบ้านพัก ทุกๆ คนดูจะตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้มาพักผ่อนในคราวนี้ ... โดยเฉพาะเด็กหนุ่มทั้งหลายที่ต่างแย้งกันวิ่งลงไปตามชายหาดขาวสะอาด สงบเงียบเป็นส่วนตัว นัทดูจะสดชื่นขึ้นหลังจากขอย้ายไปนั่งรถคันเดียวกับเพื่อนๆ ตอนที่รถแวะปั้มกลางทาง ตอนแรกเหมือนธวัฒน์จะไม่ยอม แต่จะทำยังไงได้ ... เค้าก็เข้าใจอยู่หรอกว่าทำไมนัทถึงอยากไปหาเพื่อนๆ ก็อีกคันคงมีภานุอยู่น่ะซิ (เหมือนจะเข้าใจผิดนะนั่น...)
ขณะที่กำลังสนุกสนานอยู่ เพราะต่างฝ่ายต่างก็วิดน้ำใส่หน้ากัน จนกลายเป็นสงครามย่อยๆ ของเด็กหนุ่มทั้งหลาย ... ก็มีเสียงที่คุ้นเคยทักมาแต่ไกล ...
“เล่นด้วยคนได้ไหมครับ !!!”
เป็นแทนไทนั่นเอง ที่ยิ้มฟันขาว เดินมาตามชายหาดตรงมายังที่ที่พวกนัทกำลังเล่นน้ำกันอยู่ ...
“มาแล้วไง ไวดีจริงๆ ...”
บอลหันไปกระซิบกับเอกที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนที่แทนไทจะเดินมาถึงพวกเค้าพอดี ... และเหมือนว่าธวัฒน์จะเห็นเหมือนกันว่าใครที่กำลังเดินมา จึงรีบเดินลงไปสมทบกับกลุ่มของนัทโดยมีนภัทรตามติดเป็นเงามาด้วยอีกคน ...
“ไงว่ะ ไอ้แทน ... ถึงไวเหมือนกันนี่หว่า แล้วนี่พักอยู่ที่ไหนว่ะ”
ธวัฒน์ทักเพื่อนอย่างอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก ที่เห็นสายตาของแทนไท เอาแต่มองไปทางนัทแทบจะตลอดเวลา ...
“ก็อยู่ใกล้ๆ นี่เอง พอดีรู้จักกับเจ้าของเค้าน่ะ เลยโชคดีหน่อยได้พักฟรี แถมอยู่ใกล้อีกต่างหาก ...”
“เก่งนะเอ็ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้บอกสักคำ ... แต่ก็ดันรู้อีกว่าพวกข้าพักที่ไหนกัน ...”
“แหม ... ก็แค่มาตามเสียงเรียกร้องของหัวใจน่ะ ยังไงก็ไม่หลงอยู่แล้ว...จริงไหมครับน้องนัท ...”
“แหวะ ...”
เอกและบอลทำท่าว่าจะอ๊วกเอาให้ได้ แถมยังหัวเราะกันคิกคักอย่างสนุกสนานในท่าทีที่ไม่ยอมกันของธวัฒน์กับแทนไท ที่กำลังทำสงครามน้ำลายกันยังไม่เลิก ... แต่ก็โชคดีที่นภัทรดึง่ตัวธวัฒน์ไปเล่นน้ำอีกทางไม่อย่างนั่นคงยังไม่จบลงง่ายๆ ...
“เฮ้ย ... เอ็งสองคนเป็นอะไรเนี่ย ... หัวเราะกันอยู่ได้ ...”
นัทหันมาทำตาดุใส่เพื่อนทั้งสองคนที่ ยังหัวเราะไม่เลิก ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเค้าก็ไปตั้งไกลแล้ว ... ตอนนี้เค้าก็อยู่กับเพื่อนๆ จึงไม่อยากจะเก็บเอาภาพที่เห็นมาทำให้เสียบรรยากาศ ... ถึงแม้จะเจ็บ แต่เค้าก็เคยทำใจไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะยังไงก็รักคนที่มีเจ้าของ ก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา ... และเหตุการณ์ที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับธวัฒน์ที่ผ่านมาก็ทำให้เค้าเผยความในใจออกไปแล้ว มันก็ทำให้นัทไม่มีอะไรค้างคาใจอีก และคงจะจากบ้านหลังนี้ไปอย่างสบายใจ ในอีกไม่ช้า ...
“นัทลงไปเล่นกันเถอะ อย่ายืนนิ่งอยู่ซิ ...”
ภานุที่ยืนดูเหตุการณ์มานาน เป็นฝ่ายทำลายความเงียบลงบ้าง ก่อนจะอุ้มนัทลากลงไปในน้ำที่ลึกขึ้น ...
“เฮ้ย ภานุเล่นไรว่ะ ปล่อยซิ ...”
“แหมมาทะเลทั้งทีตัวไม่เปียกได้ไงล่ะ เอาล่ะน่ะ...”
ตู้ม!!! เสียงลูกหมาตกน้ำ เอ๊ย...เสียงนัทโดนโยนลงน้ำต่างหาก ... นัทที่โผล่ขึ้นมาอย่างทุลักทุเล แถมสำลักเล็กน้อยเพราะกลืนน้ำทะเลไปหลายอึก ... ตรงลี่เข้าไปหาภานุเตรียมจะเอาคืนเต็มที่ ... โดยมีเอก บอลและแทนไท เข้ามาร่วมสมทบ ... เหตุการณ์ต่างๆ เหมือนว่าจะอยู่ในสายตาของธวัฒน์ตลอดเวลา ซึ่งสำหรับเค้าแล้วถือว่าโชคยังดีที่มีภานุอยู่ด้วย ยังไงภานุมันคงไม่ยอมให้แทนไท เข้าใกล้นัทมากเกินไปหรอก ...
“แหมวัฒน์ขา ทำไมมองไปแต่ทางโน่นล่ะค่ะ ... อยู่กับภัทรมันน่าเบื่อขนาดนั้นเลยหรอ ...”
ธวัฒน์หันกลับมามองตามเสียงของหญิงสาวที่กำลังออเซาะอยู่ข้างๆ ... ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมนะ เค้าถึงเปลี่ยนใจจากผู้หญิงคนนี้ไปได้ ผู้หญิงที่เคยคิดว่าคู่ควรกับเค้ามากที่สุด ... แถมยังเปลี่ยนไปชอบผู้ชายด้วยกันเสียอีก ...
“ปะ...เปล่าหรอกครับ ... ผมแค่เป็นห่วงพวกเด็กๆ น่ะครับ ...”
“เป็นห่วงหรือหวงกันแน่ค่ะ ...”
คำพูดของนภัทรทำให้ธวัฒน์ถึงกับสะอึกไปไม่น้อย ... นี่เธอกำลังคิดอะไรหรือว่าเธอรู้อะไรกันแน่ ... นภัทรเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดประชดประชันเพราะไม่ได้อยากให้ธวัฒน์ระแวงสงสัยในตัวเธอ เพราะมันอาจไม่เป็นผลดีต่อการแต่งงานที่จะเกิดขึ้น ... คิดแล้วก็ไม่น่าเผลอพูดออกไปเล๊ย ...
“ค...คุณภัทรหมายความว่าไงหรือครับ ...”
“เปล่าหรอกค่ะ อย่าสนใจเลย ภัทรก็พูดเรื่อยเปื่อยไปงั้นๆ แหละ ... ภัทรว่าเราไปเดินเล่นกันทางโน่นดีกว่านะค่ะ ... ดูซิค่ะสวยเชียว...”
นภัทรเดินควงแขนธวัฒน์เดินไปตามชายหาด ... โดยมีสายตาคู่หนึ่งมองมาเป็นครั้งคราว ... แม้จะไม่อยากมองแต่ก็เหมือนมีแม่เหล็กคอยดึงดูดสายตาให้หันไปมองเสมอ ...
โครม !!! น้ำสาดเข้าเต็มๆ หน้าของเด็กหนุ่มที่ยืนเหม่อลอย ...
“อ้าว นัทมัวแต่ยืนเหม่ออยู่นั่นแหละ ...”
“แค๊ก แค๊ก!! ...”
“เล่นไรว่ะเอก นัทสำลักใหญ่เลยเห็นม่ะ ... เล่นน้อยไปมั้งมันต้องเอาให้เยอะกว่านี้ดิว่ะ...”
ภานุที่ตอนแรกเหมือนจะเป็นห่วงนัท แต่กลับมาเข้าข้างเอก และกำลังช่วยกันแกล้งวิดน้ำใส่หน้านัทอย่างสนุกสนาน ... จนตอนนี้นัทกลายเป็นเป้าให้เพื่อนๆ แกล้งอยู่ฝ่ายเดียว ...
“โห เล่นรุมเหรอ อย่างนี้ก็สวยดิ ...”
การเล่นน้ำของเหล่าเด็กหนุ่มผ่านไปอย่างสนุกสนาน ... ผลัดกันแกล้งผลัดกันวิ่งหนีไปตามประสา ... นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่เพื่อนๆ พยายามหยิบยื่นให้กับนัทได้ในช่วงเวลาที่เพื่อนโศกเศร้ากับการสูญเสีย ... นัทเองก็รู้ว่าเพื่อนๆ อยากให้เค้าลืมความทุกข์ที่ผ่านมา ... เค้ารู้และเข้าใจดีว่า ณ เวลานี้คนที่รักและเข้าใจเค้าเสมอ คนที่จะคอยแบ่งความสุขมาให้เค้า แบ่งเบาความทุกข์ในใจออกไป ... ก็คือเพื่อน ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 11-05-2007 23:19:42


38.....
หลังสงครามของการเล่นน้ำในช่วงบ่ายจบลง ... ทุกอย่างเหมือนจะกลับสู่ความสงบอีกครั้ง ... นัทปลีกตัวมานั่งเล่นอยู่ใต้ต้นมะพร้าวห่างจากที่พักพอสมควร ... โดยทีแรกแทนไทจะขอตามมาด้วย แต่ก็ได้ภานุกับพวกเอกลากไปทางอื่นได้สำเร็จ ...
“กิ๊กไปไหนหมดซะล่ะ ถึงได้มานั่งอยู่คนเดียว ...”
เสียงที่คุ้นเคย ... แต่นัทก็ทำเฉยๆ โดยไม่หันไปมองด้วยซ้ำว่าธวัฒน์มาคนเดียวหรือมากับคู่หมั้นตัวแสบ ...
“มานั่งเหม่อลอยแบบนี้ เพราะกลุ้มไม่รู้จะเลือกไปกับใครงั้นหรอ ไอ้แทนหรือเจ้าภานุดีล่ะ ตัดสินใจยากอยู่น๊า ...”
“นี่ถ้าพี่จะตามมาหาเรื่องผมล่ะก็นะ ... ผมไปดีกว่า ...”
นัทลุกขึ้นเตรียมจะเดินไปอีกทาง แต่ก็โดนจับแขนไว้ซะก่อน ... จึงหันมามองทันทีด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แต่ก็ต้องสบเข้ากับตาคู่นั้น ที่มองมาอย่างเว้าวอน ... จึงทำให้อารมณ์ของนัทเย็นลงบ้าง แต่ก็ต้องแข็งใจพยายามไม่ใจอ่อนกับแววตาของอีกฝ่าย ...
“ปล่อยครับ ...”
“เดี๋ยวซิครับ อยู่กับพี่ก่อนนะ ... นะครับ วันนี้เราไม่มีโอกาสได้คุยกันเลยนะ ...”
“จำเป็นด้วยหรอครับ ผมว่าพี่วัฒน์ก็มีคนที่คอยเอาอกเอาใจอยู่แล้ว และผมก็มีคนที่รักและห่วงใยผมเหมือนกัน ...”
“แล้วทำไมต้องมาอยู่คนเดียวล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะหัวใจของเรามันเรียกหากันน่ะ ... หรือนัทจะปฏิเสธล่ะ ...”
“เอ๊อ ... ผม ผมก็แค่อยากนั่งรับลมคนเดียวบ้างไม่ได้หรือไง ...”
“หึ ... เด็กปากแข็ง ...”
นัทรับรู้ได้ถึงแรงดึงอย่างแรง ซึ่งทำให้เค้าเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของธวัฒน์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ... ใบหน้าเนียนของเด็กหนุ่มแนบลงบนแผ่นอกกว้างจนได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ...
“ปะ...ปล่อย...”
“ชีส์ ... เงียบๆ ซิครับ ... ฟังซิ ...”
ความอบอุ่นทำให้นัทยืนนิ่งให้ธวัฒน์โอบกอดเนิ่นนาน จนไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เสียงหัวใจสองดวงของคนสองคน ที่ตอนนี้แทบจะเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ทำให้ดูเหมือนว่าทั้งสองเป็นคนคนเดียวกัน ... ก่อนที่ธวัฒน์จะเริ่มพูดออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา ...
“เค้าบอกว่า หัวใจสองดวงที่มีความรักให้กัน มีความผูกพันธ์แนบแน่นเป็นหนึ่งเดียว จะเต้นด้วยจังหวะเดียวกัน ... นัทเชื่อไหมครับว่าเราสองคนก็เป็นแบบนั้น ...”
นัทรีบผลักอกกว้างออกห่างจากตัวทันที แต่แขนของธวัฒน์ก็ยังโอบหลังเค้าอยู่ไม่ยอมปล่อย ...
“คิดเองเออเองนะซิ ... ใครไปรักกับพี่ตอนไหนมิทราบ ...”
หน้าที่แดงซ่านเป็นลูกตำลึง ทำให้ธวัฒน์อดยิ้มน้อยๆ ด้วยความพอใจไม่ได้ ... นี่ละมั้งคือ สิ่งที่ผูดมัดใจเค้าไว้อย่างเหนียวแน่น ความดื้อรั้นอวดดี แต่ก็ซ่อนไว้ด้วยความอ่อนไหว ไร้เดียงสา ...
“นั่น นั่น หน้าแดงขนาดนี้ยังจะปฏิเสธอีกหรอ ... ใครก็ไม่รู้ที่สารภาพกับพี่ตอนที่พี่กำลังจะตา...(ตาย)”
มือนุ่มแนบอยู่กับริมฝีปากอิ่มของธวัฒน์ เพื่อไม่ให้มีแม้เสียงเพียงเล็กน้อยเล็ดลอดออกมาได้อีก ... แต่ก็เหมือนนัทจะคิดผิดมหันต์ เพราะเค้าสัมผัสความอุ่นนุ่มของปลายลิ้นที่สัมผัสกับฝามือ ... จนต้องรีบดึงมือกลับแทบไม่ทัน ...
“อี๋ ... พี่วัฒน์เล่นอะไรอ่ะ มือผมสกปรกนะครับ ...”
“หวานดีนะ ... แต่ก็เค็มหน่อยๆ ล่ะ ...”
“ต๊ายยยย ... นี่แกมายุ่งอะไรกะคู่หมั้นของฉันย่ะ ...”
เสียงมารคอหอย ... ดังแว๊ดแว๊ดมาจากข้างหลังทำให้ สองหนุ่มต้องผละออกจากกันทันที ... สายตากินเลือดกินเนื้อส่งมาทางนัททันทีเมื่อเธอย่างกรายมาถึง ... และคว้าแขนธวัฒน์ไปกอดอย่างหน้าตาเฉย ... ธวัฒน์เองก็มองหน้านัทที นภัทรทีอย่างอึดอัด เพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี ...
“เอ๊อ ... คุณภัทร ปะ...ปล่อยเถอะครับ ...”
ชายหนุ่มพยายามแกะมือของหญิงสาวออก แต่ก็แกะไม่ออกสักที แถมเจ้าหล่อนยังจ้องหน้านัทอย่างเอาเรื่อง โดยที่นัทก็มองตอบกลับมาอย่างไม่หลบตาแม้แต่น้อย ... ธวัฒน์ได้แต่หวั่นๆ ใจ ด้วยกลัวจะเกิดเรื่อง ...
“นี่ !!! แกมายุ่มย่ามอะไรกะคู่หมั้นของฉัน ...”
“ผมว่าคุณน่าจะถามพี่วัฒน์มากกว่านะครับ เพราะผมอยู่ที่นี่ก่อนที่พวกคุณจะมาจุ่นจ้านกะผมซะอีก ...”
“ต๊ายยย ... ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เป็นแค่คนอาศัยในบ้านยังทำมาปากดีอีก ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน อ๋อ...ลืมไป พ่อแม่ไม่มีอย่างนี้ คงจะไม่มีใครสั่งสอนจริงๆ ล่ะนะ น่าสมเพช ...”
นัทที่อดทนได้ทุกอย่างไม่ว่าใครจะพูดว่าอะไร แต่จะไม่ยอมอดทนกับใครก็ตามที่บังอาจพูดจาดูถูกดูแคลนพ่อแม่ของเค้าเป็นอันขาด และตอนนี้นภัทรก็ได้ล่วงเกินสิ่งที่ไม่ควรเข้าซะแล้ว ...
“คุณภัทรครับ คุณพูดเกินไปนะครับ  ผมขอให้คุณถอนคำพูดซะเดี๋ยวนี้ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ ...”
นัทพูดเสียงเย็น และหันไปมองหน้าอย่างเอาเรื่องรวมถึงธวัฒน์ด้วยทีได้แต่ยืนอ้ำอึ้ง ... ปล่อยให้นางมารร้ายมาล่วงเกินพ่อแม่ของเค้าที่ล่วงลับไปแล้ว ...
“ทำไม!!! ฉันไม่ถอน มีอะไรไหม อีตุ๊ด อีกระเทย ... แกอย่านึกว่าฉันดูไม่ออกนะว่าแกคิดยังไงกับวัฒน์ของฉัน ... สายตาที่แกมองคุณวัฒน์น่ะมันฟ้องย่ะ ใช่ไหมล่ะ ...”
พลั๊ก !!! ... ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ ... กรี๊ด !!! กรี๊ด !!! ...
ไม่ใช่เสียงอะไร แต่เป็นเสียงนภัทรที่โดนผลักกระเด็น ล้มลงไปบนชายหาด ซึ่งชายหาดตรงนี้ค่อนข้างชัน จึงทำให้เธอกลิ้งลงไปหลายตลบ จนตัวเปียกน้ำไปหมด ... และร้องกรี๊ดกรี๊ด ไม่ยอมหยุด ... ป่านนี้คงดังไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่นัทก็ไม่ยอมรอดูผลงานเพราะเค้าเดินลิ่วไปไกลแล้ว ทิ้งให้ธวัฒน์อ้าปากค้าง เพราะไม่รู้จะตามนัทไปดีหรือจะลงไปช่วยนภัทรกันแน่ แต่พอจะก้าวตามหัวใจไป ก็ ...
“วัฒน์ขา ... วัฒน์ ช่วยภัทรด้วย ไอ้เด็กนั่นมัน ... มันทำภัทรเห็นไหมค่ะ ช่วยภัทรด้วย โอ๊ย เจ็บไปหมดทั้งตัวเลยค่ะ ...”
“เอ๊อ ... คะ ... ครับครับ ...”
ในที่สุด ความใจอ่อนก็ทำให้ธวัฒน์ลงไปช่วยนภัทรจนได้ ... โดยไม่รู้เลยว่าอีกคนที่เดินหนีไปนั้นหันกลับมามองด้วยสายตาน้อยใจ ก่อนจะเดินลับตาไป เมื่อธวัฒน์หันไปมองก็ไม่เห็นซะแล้ว ...
“มันเกิดอะไรขึ้นหรอครับพี่วัฒน์ ...”
ภานุที่มาถึงก่อนถามธวัฒน์ โดยมีเอกและบอลตามมาติดๆ ... พอบอลเห็นสภาพของนภัทรก็หัวเราะซะยกใหญ่จนเอกต้องสะกิด เพราะหน้าของนภัทรตอนนี้กำลังบูดสุดๆ ...
“เงียบไปเลยนะ ไอ้พวกเด็กเหลือขอ ... วัฒน์ขาช่วยพยุงภัทรกลับไปที่บ้านหน่อยซิค่ะ นะ น่ะค่ะ ... ภัทรเจ็บขามากเลยล่ะ”
นภัทรหันไปแว๊ดๆ ใส่พวกหนุ่มๆ ก่อนจะหันไปออดอ้อนธวัฒน์ต่อ ธวัฒน์จึงค่อยๆ พยุงนภัทรกลับไปที่บ้านพักอย่างขัดเสียไม่ได้ ...
“อ้าว ไปซะล่ะ ... สงสัยจะโดนนัทเราจัดการเข้าให้แน่ๆ เยี่ยมจริงๆ เลยเพื่อนเรา ว่างั้นป่ะ ภานุ ...”
บอลหันไปมองภานุที่คิดว่ายืนอยู่ข้างๆ แต่กลับเห็นเพียงแค่เอกที่ยิ้มฟันขาว ... ให้อย่างล้อเลียน ...
“ภานุ ไปไหนล่ะเนี่ย เมื่อกี้ยังอยู่เลยนี่นา ...”
“นู้น ... ไปนู้นตั้งนานแล้ว ...”
บอลหันไปมองตามทิศทางที่เอกบอก ... ก็พลอยต้องรู้สึกห่อเหี่ยว แววตาที่แสดงความเห็นอกเห็นใจ บ่งบอกว่ารู้สึกอย่างไร
“รักเค้าข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่งน๊า ... เพื่อนเรา ... ไม่รู้จะช่วยยังไงดี ...”
“อยู่เฉยๆ เหอะ ... ชอบจริงนะ เสียมเขาให้เค้าชนกันเนี่ย ...”
บอลหันไปค้อนเอกทีนึง อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะมองกลับไปทางที่ภานุเดินลับตาไป ซึ่งคิดว่าน่าจะไปตามหานัทแน่ๆ ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-05-2007 08:24:40
 :sad2: อุตส่าห์มีฉากหวาน ๆ ก็เจอนังนภัทรมาขวางซะได้  :sad2:  :sad2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-05-2007 10:48:20
ตัวอิจฉาจริงๆ

น่าจะจับกดน้ำให้ตายไปซะ

 :angry2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-05-2007 14:47:57
สงสารทั้งนัทและวัฒน์  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 13-05-2007 20:32:49
นั่นสิ  กำลังมีฉากหวานๆ  ยัยนภัทรดันแจ๋เข้ามาได้  :angry2:

สงสัยพวกเพื่อนรักทั้งหลายต้องช่วยสองคนนี้ซะละม้างง  มารเยอะซะ

รออ่านต่อจ้า  o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 13-05-2007 22:07:25
เป็นแบบนี้แล้ว เชียร์ภานุดีกว่ามั้งเรา  :o9:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 13-05-2007 22:09:49
มาต่อให้แล้วคับ ต้องขอโทษทีที่หายไป1วัน อิอิ    แบบว่า เหนื่อยๆ ก็เลยไม่ได้มาโพสให้อ่าคับ  เข้ามาในเล้าอ่านเรื่องอื่นก็หมดแรงแล้วอิอิ  แถมไปหาหมอฟันมา โดนจับทำนู่นทำนี่  ปวด ไปหมด - -*      มาเชียร์นัทกะพี่วัฒน์กันต่อดีกว่าคับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

39...
งานปาร์ตี้ชายหาดที่คุณหญิงศศิกานต์พยายามจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นเพื่อนัทโดยเฉพาะ ... แต่ดูเหมือนมันจะเป็นสงครามทางจิตวิทยาสำหรับบางคน ... เพราะนัทนั้นอยู่ไม่ห่างแทนไทเลย โดยมีเพื่อนๆ อยู่ข้างๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน ... ส่วนธวัฒน์นั้นก็มีนภัทรอยู่ไม่ห่างกายเช่นกัน และดูเหมือนจะหงุดหงิดที่เห็นแทนไทพยายามเอาอกเอาใจนัทตลอด ... เหล้าจึงถูกยกดื่มจนนับไม่ถ้วน โดยไม่มีใครห้ามปราม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่พออกพอใจของนภัทรไม่น้อย ...
“นี่ ยัยภัทร ตามแม่มานี่หน่อยซิจ๊ะ ...”
หญิงสาวรู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อย เพราะถึงจะเป็นแม่ของเธอเอง แต่ช่วงเวลาที่เธอได้คลอเคลียอยู่ใกล้ๆธวัฒน์และได้เห็นแววตาที่แอบมองมาในบางครั้งอย่างน้อยใจของนัท มันทำให้เธอสะใจเป็นพิเศษ ...
“อะไรกันค่ะ คุณแม่ ... มีอะไรก็พูดมาซิค่ะ ภัทรไม่อยากไปไหนอ่ะ ภัทรยังปวดขาไม่หายเลยนะค่ะ ...”
คำพูดสุดท้าย เหมือนจะพยายามพูดอ้อนกับธวัฒน์ซะมากกว่า ด้วยมารยาหญิงที่ไม่ต้องฝึกจากที่ไหน เธอก็สามารถแสดงได้อย่างชำนาญ ...
“แป๊บเดียวน๊า ยัยภัทร ...”
น้ำเสียงที่มีความหมายอย่างลึกๆ ... พร้อมกับแววตาเจ้าเล่ห์แกมออกคำสั่งของมารดา จึงทำให้เธอต้องยอมลุกตามออกไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมาพูดกับธวัฒน์
“เดี๋ยวภัทรมานะค่ะวัฒน์ อย่าเพิ่งหนีภัทรไปไหนน๊า ...”
“ครับ ผมอยู่ที่นี่แหละครับ คุณไปคุยธุระกับคุณแม่เถอะครับ ... ผมรอได้ ...”
ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาว แต่สายตาของเค้าก็ยังจับจ้องอยู่ที่อีกคนอย่างไม่วางตา พร้อมๆ กับแก้วเหล้าที่ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ...

อาการของธวัฒน์ที่กินเหล้า อย่างกับน้ำ ก็ทำให้นัทเป็นห่วงไม่น้อย แต่เค้าก็ไม่อยากจะสนใจเพราะข้างตัวธวัฒน์ก็มีนภัทรอยู่แล้วทั้งคน ... จึงพยายามทำตัวสนุกสนานกับเพื่อนๆ จะดีกว่า ... โดยที่เค้าเองก็ไม่รู้หรอกว่า การที่เค้าหัวเราะสนุกสนานกับแทนไท นั้นก็ได้ทำให้อีกคนไม่พอใจ (หึง) อย่างมาก ...
“เฮ้ย ... นัท เดี๋ยวไปห้องน้ำแป๊บน่ะ เดี๋ยวมา ... ป่ะเอกไปเป็นเพื่อนหน่อยซิ ...”
บอลบอกกับนัท ... พร้อมกับหันไปชวนเอกที่กำลังกินอาหารทะเลย่างอย่างเอร็ดอร่อย ...
“ไรว่ะ ปวดก็ไปคนเดียวดิ ... ไม่ได้ปวดด้วยสักหน่อย ...”
“จา...ไป !! หรือ ไม่ไป !! ...”
บอลเอ่ยน้ำเสียงเฉียบขาด ทำให้เอกต้องวางปูที่อยู่ในมือลง อย่างขัดเสียไม่ได้ ...
“ไปครับไป ไปด้วยก็ได้ครับ .... ป่ะ ไปยังล่ะ เดี๋ยวก็ปวดจนทนไม่ไหวหรอก ...”
เพียงไม่นาน เพื่อนทั้งสองคนก็เดินออกไปจากโต๊ะ เหลือไว้เพียงนัท แทนไท และภานุที่กำลังย่างของทะเลอยู่ที่เตาข้างๆ ... โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ธวัฒน์ก็เดินมาที่โต๊ะซึ่ง นัทและแทนไทนั่งอยู่ ...
“เฮ้ย...ไอ้แทน เอ็งกะข้า ไม่ได้เมากันมานานแล้วน่ะ ว่าป่ะ ถ้าไงมาดวนกะข้ารำลึกความหลังหน่อยเป็นไงว่ะ ...”
“จะดีเหรอว่ะ วัฒน์ ท่าทางเอ็งก็เริ่มจะเมาแล้วน๊า ...”
“นั่นซิครับ ผมว่าพี่วัฒน์เมาแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องจะดีกว่านะ ... อย่าฝืนเลยครับ ...”
นัทพูดเสริมอย่างเป็นห่วง ... แต่ก็ทำให้ธวัฒน์เข้าใจผิดไปกันใหญ่ว่าเค้าเข้าขากันกะแทนไท ...
“ไม่เมาสักหน่อย ... ไม่ต้องห่วงพี่ ... ว่าไงว่ะไอ้แทน หรือว่าเอ็งกลัวแพ้ข้าหรือไง ... เพราะเอ็งไม่เคยชนะข้าเลยสักที ...”
แทนไทหันไปมองหน้านัท อย่างกลัวจะเสียหน้าเล็กน้อยเพราะคำพูดของธวัฒน์ ... และด้วยไม่อยากเสียฟอร์มต่อหน้านัทเค้าจึงอดที่จะรับคำท้าของธวัฒน์ไม่ได้ ...
“แต่ผมว่า ...”
“นัท !!!”
นัทที่กำลังจะเอ่ยห้ามปราม ... เพราะเค้าไม่ชอบเลยที่จะมากินเหล้าแข่งกันแบบนี้ ... แต่ก็โดยภานุร้องทักขึ้นซะก่อน ...
“อย่าไปห้ามเลยนะนัท ... น้ำกำลังเชี่ยว เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ... แรงด้วยกันทั้งคู่เลยนั่นน่ะ ... พวกเราก็คอยเก็บซากเอาล่ะกัน ... จะได้หลับได้นอนกันไหมเนี่ยพวกเรา ...”
“อืม ...”
นัทรับคำอย่างแกนๆ แต่ก็อย่างที่ภานุว่านั่นแหละ ... น้ำกำลังเชี่ยว อย่าเอาเรือไปขวางจะดีกว่า ...
“อ้าวนี่มันเกิดอะไรกันขึ้นล่ะเนี่ย ...”
บอลที่เดินนำเอกกลับมา เอ่ยถามด้วยความสงสัย กับภาพของธวัฒน์กับแทนไทที่นั่งชนแก้วกันอยู่อีกโต๊ะนึง ...
“ไปญาติดีกันตอนไหนอ่ะ เห็นเขม่นกันจะตาย ไหงมานั่งชนแก้วกันหน้าตาเฉย ... เหล้าน่ะนั่นไม่ใช่น้ำ ดูซิ ... ชนเอาชนเอา ... เดี๋ยวคืนนี้ก็เสร็จหรอก ... ”
ภานุหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปตอบเพื่อนที่ยังทำหน้าสงสัยไม่หาย ...
“ก็ไม่รู้ดิ ... ดูไปล่ะกัน ... ว่าแต่บอลจะเขมือบใครล่ะ พี่วัฒน์หรือพี่แทน”
“บ้าหรอภานุ ไม่ได้หมายถึงเราสักหน่อย ...”
“พูดอะไรว่ะ ไม่เข้าใจ ... ว่าแต่หายไปนานเลยนะหรือว่าไม่เขมือบไอ้เอกมาเรียบร้อยแล้ว เลยไม่สนใจ ...”
ผัวะ !!!
เสียงเอกตบหัวภานุ ดังลั่น ... พร้อมๆ กับที่ภานุเตรียมจะเอาคืนแต่เอกก็วิ่งหนีไปซะก่อน ... ตอนนี้เลยกลายเป็นภานุวิ่งไล่เตะเอกไปตามชายหาดโน่น ... ปล่อยให้บอลกะนัท นั่งเฝ้าพวกขี้เหล้าสองคนที่พอเริ่มเมาก็หัวเราะกันเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็แทบจะฆ่ากันตาย เพราะแย่งใครบางคน ...
“ว่าแต่ตั้งแต่เราไปเข้าห้องน้ำเนี่ย ... เจ๊ภัทรขี้วีนของพี่วัฒน์ยังไม่กลับมาอีกหรอ ...”
“ยังไม่เห็นนะ ว่าแต่บอลถามทำไมหรอ ...”
“ปะ...เปล่า เปล่า ... แค่เดินสวนกันตอนไปห้องน้ำน่ะ ก็คิดว่าจะกลับมาแล้วซะอีก ...”
“นั่นไง พูดถึงก็มาเลย ...”
นัทสะกิดให้บอลมองนภัทรที่เดินกลับมาอย่างอารมณ์ดี ... ถึงเธอจะมีสีหน้าแปลกใจอยู่บ้างที่เห็นธวัฒน์กับแทนไท กินเหล้ากันอยู่สองคน ... แต่เธอก็ยิ้มแปลกๆ ก่อนจะเข้าไปนั่งคลอเคลียกับธวัฒน์ ... แถมยังคอยชงคอยเติมเหล้าในแก้วให้กับหนุ่มๆ ไม่ขาด อย่างชำนาญ ... จนตอนนี้สองหนุ่มคงจะเมาได้ที เพราะตาชักจะลืมไม่ขึ้นซะแล้ว
“เฮ้อ ... จะทำไงดีน๊า ท่าทางพี่วัฒน์จะเสร็จยัยนี่จริงๆ ล่ะคราวนี้ ...”
“หะ บอลว่าอะไรน่ะ บ่นอะไรงึมๆ งำๆ อยู่คนเดียว ...”
“ปะ เปล่าสักหน่อย งั้นเดี๋ยวบอลไปตามเอกกะภานุ หน่อยนะ เดี๋ยวมา ...”
“เฮ้ย ... เดี๋ยวดิ”
นัทร้องเรียก แต่บอลก็โบกมือ ... วิ่งออกไปตามชายหาดยามค่ำคืน ... ปล่อยให้เค้าต้องนั่งมองนภัทรนั่งคลอเคลียกับธวัฒน์อยู่ตามลำพัง ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 13-05-2007 22:12:43


40 ...
“นี่มันอะไรกานเนี่ยห๊า ... ทำไมถึงได้กินกันซะเมามายขนาดนี้ล่ะ ...”
คุณหญิงศศิกานต์ที่ออกมาดูความเรียบร้อยก่อนเข้านอน ... ต้องมาเจอกับสภาพของลูกชายและเพื่อนที่ตอนนี้แทบจะไม่ได้สติกันแล้ว ... มองหน้านัทหลานชายกับนภัทรสลับกันอย่างต้องการคำอธิบาย ...
“เอ๊อ ... คือ คุณหญิงแม่ขา ก็ตามธรรมดาของผู้ชายล่ะค่ะ ก็ต้องมีบ้าง ...”
นภัทรตอบพลางยิ้มแห้งๆ ... แต่ก็หันไปมองทางธวัฒน์ที่เพิ่งฟุบไปกับโต๊ะแววตาเป็นประกาย ...
“งั้นนัท ช่วยพาพี่วัฒน์เค้ากลับไปนอนที่ห้องหน่อยซิลูก ...”
“ห๊า ... เอ๊อ ...”
“ต๊ายยย ... ไม่ได้นะค่ะ ...”
นัทที่ยังไม่ทันตอบรับ หรือปฏิเสธอย่างไร ก็ต้องหันมามองนภัทรพร้อมๆ กับคุณหญิงด้วยความสงสัย เพราะจู่ๆ เธอก็โวยวายออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ...
“เอ๊อ ... คือว่า ภัทรว่าเดี๋ยวภัทร พาไปเองดีกว่านะค่ะ ไม่ต้องรบกวนน้องนัทหรอกนะจ๊ะ ...”
รอยยิ้มหวานแต่เฉือดเฉือน ... จนทำให้นัทขนลุก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะยังไงเค้าก็เป็นคู่หมั้นกันนี่นา คงไม่เป็นอะไรที่เธอจะพาพี่วัฒน์ไปส่งที่ห้อง ...
“เดี๋ยวพวกผมไปพาไปเองดีกว่านะครับ ...”
เสียงภานุดังขึ้นทำลายความเงียบในชั่วอึดใจ ... พร้อมๆ กับภาพที่ทั้ง ภานุ บอลและเอก เดินขึ้นมาจากชายหาดที่มืดสลัว ...
“ถึงจะเป็นคู่หมั้น แต่ก็ยังไม่ได้แต่งงานนะคร้าบบบ ... ผมว่ามันคงจะไม่ค่อยดี ... จริงไหมครับพี่ภัทร ...”
นภัทรมองภานุตาลุกเป็นไฟ แต่ภานุก็มองกลับอย่างไม่ลดละเช่นกัน ... จนเสียงของคุณหญิงที่ตัดสินออกมานั่นแหละ สงครามสายตาของทั้งคู่จึงได้ยุติลงได้ ...
งั้นนัทกะเพื่อนๆ ก็พาพี่เค้าไปส่งที่ห้องให้ป้าทีล่ะกันน่ะ ป้าจะไปนอนเสียที ... ว่าแต่ตาแทนไทล่ะ จะทำยังไงกัน อาการแย่พอกัน ...
“เอาอย่างนี่ซิครับคุณป้า เดี๋ยวผมพาพี่แทนไปนอนกะพวกเราก่อนก็ได้ เพราะคงแบกแกกลับไปที่บังกะโลไม่ไหวแน่ๆ แถมไม่รู้จักอีกต่างหาก ...”
บอลเสนอความคิดให้กับคุณหญิง ซึ่งท่านก็เห็นดีด้วย พร้อมกับสั่งอีกสองสามอย่างก่อนที่จะกลับเข้าไปนอนบนห้อง ... สุดท้ายจึงกลายเป็นภานุและเอกที่พยุงธวัฒน์ไปส่งที่ห้อง และนัทกับบอลช่วยกันพยุงแทนไทไปที่ห้องของเอกและบอล ซึ่งจริงๆ แล้วห้องของทุกคนก็อยู่ติดๆ กันนั่นแหละ เพียงแต่นัทอยู่ห้องเดียวกะภานุ เอกกะบอล และมีเพียงธวัฒน์ที่นอนคนเดียว ... ตอนนี้สายตาของนภัทรมองตามไปด้วยความอาฆาตที่ทำไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งบอลก็หันมามองด้วยความสะใจไม่น้อย ...

“นี่นัท ช่วยกลับไปเอาหนังสือที่เราลืมไว้ให้หน่อยซินะ ...”
“หือ บอลเอาหนังสือไปอ่านด้วยหรอ ทำไมเราไม่เห็นเลยล่ะ ...”
“อะ...อะเอาไปซิ นัทคงไม่ได้สังเกตน่ะ นะนะช่วยหน่อย...”
“แล้วบอลจะไหวหรอ ต้องพยุงพี่แทนคนเดียวอ่ะ ...”
“ไม่เป็นไรหรอก สบายมาก นี่ก็อยู่หน้าประตูห้องแล้วด้วย ... แค่พาไปที่เตียงอ่ะคนเดียวก็ไหว ...”
“อืม ... เอางั้นก็ได้ ...”
ถึงแม้จะยังรู้สึกแปลกๆ แต่เมื่อเพื่อนขอร้องนัทก็ไม่ค่อยจะขัดเท่าไหร่ ... จึงเปิดประตูห้องให้บอลพยุงแทนไทเข้าไปในข้างใน ก่อนจะเดินกลับลงไปหาหนังสือให้เพื่อน ...
“ฟู่ส์ !!... ขี้สงสัยจริงๆ เลยเพื่อนเรา ...”...
ที่ห้องบนชั้นสอง ซึ่งนภัทรพักร่วมกับมารดาของเธอ ปรากฏว่านภัทรเดินปึงปังเข้าไปในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง ในขณะที่คุณหญิงพรทิพย์มองลูกสาวของตนด้วยสายตางุนงงสงสัย ...
“เกิดไรขึ้นยัยภัทร แล้วนี่ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ หรือว่า ... แกทำไม่สำเร็จหรือไง ...”
“ก็น่าจะสำเร็จอยู่หรอกค่ะ ถ้ายัยคุณหญิงแม่คุณวัฒน์ กับไอ้พวกเด็กนรกไม่มาขัดแข้งขัดขาอ่ะ ...”
“เฮ้อ !!! นี่ลูกสาวฉันกลายเป็นพวกไร้น้ำยา สมองนิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ... แค่ผู้ชายคนเดียวยังเอาไม่อยู่ ...”
“คุณแม่อย่ามาซ้ำเติมภัทรนะ !! แค่นี้ภัทรก็เซ็งจะแย่อยู่แล้ว ...”
ตุ้บ !!
เสียงของบางอย่างตกลงบนเตียงเบาๆ ... จนทำให้หญิงสาวมองไปตามเสียง ก็พบว่าเป็นลูกกุญแจดอกหนี่ง ...
“อะไรค่ะแม่ ...”
“กุญแจไง แกไม่รู้จักหรอย่ะ...”
“แม่อย่ามากวนภัทรตอนนี้เลยค่ะ ไอ้กุญแจน่ะภัทรรู้จัก แต่กุญแจอะไรกันค่ะ...”
“ถ้าแกไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ไขห้องไหน ฉันก็ไม่บอกแล้วย่ะ ถือซะว่าฉันไม่เคยมีลูกเป็นกระบือก็แล้วกัน ...”
คุณหญิงพรทิพย์หันกลับไปจัดการกับครีมต่างๆ ที่พอกอยู่บนใบหน้าต่อไป โดยปล่อยให้นภัทรหน้างออยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ความคิดบางอย่างจะเกิดขึ้นจากสิ่งที่แม่ของเธอบอก ดวงตาเป็นประกายอย่างเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มอย่างผู้ชนะที่น่าเกลียด (สำหรับคนแต่ง...) ปรากฏบนเรียวปากบาง ... แล้วเธอก็เดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ ... และรอยยิ้มที่น่าเกลียดพอกันบนหน้าคุณหญิงก็แสดงถึงความพอใจอย่างมาก ...
“นัทๆ ไม่ต้องหาแล้วล่ะ เราเจอแล้วล่ะ เราลืมไว้ที่ห้องเองแหละ ...”
“อ้าว แล้วมาหลอกให้เรามาหาซะเป็นนานสองนาน ง่วงก็ง่วง ยุงก็กัด ...”
“ขอโทษคร้าบบบ ขอโทษ อภัยให้ลูกบอลลูกเล็กๆ เถอะนะ นะ เพื่อนนัทที่แสนดี...”
บอลยกมือไหว้ท่วมหัว โดยพยายามทำหน้าสำนึกผิดสุดๆ เพื่อให้นัทยกโทษให้ ... แต่นัทคงจะขำกับท่าทางของบอลมากกว่าจึงได้พยักหน้าอย่างแกนๆ ... ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ไม่ได้โกรธอะไรเพื่อนนักหรอก ...

“เออ ก็ได้ ... ไปนอนดีกว่า ปานนี้แล้วภานุไม่หลับไปแล้วหรอเนี่ย หลอกเรามาหาซะตั้งนาน ... หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ”
“โห อภัยให้เค้าแล้ว ก็อย่าบ่นซิ ... แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่ ... ภานุหลับไปแล้วมั้งเห็นปิดไฟเงียบเลยนี่ นัทเองก็ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้เล่นน้ำกันอีกไง ...”
“อืม...”
“งั้นบะบายนะ ฝันดีนะนัท ...”
บอลโบกมือให้นัท พร้อมๆ กับเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องของตัวเองที่อยู่ด้านซ้ายกับห้องของนัท ... ส่วนนัทที่กำลังเอื้อมมือไปบิดกลอนประตู ก็อดหันไปมองอีกห้องที่อยู่ด้านขวาไม่ได้  ในใจเฝ้าพะวงถึงคนในห้องว่าจะเป็นยังไงบ้าง เมาซะขนาดนั้น ..
“กู๊ดไนท์ ครับพี่วัฒน์ ...”
เสียงเอ่ยแผ่วเบาเหมือนกับกำลังฝากสายลมส่งคำพูดของตนเข้าไปหาคนในห้อง ... จากนั้นจึงบิดกลอนเข้าไปในห้องที่มืดสลัวของตน ... มีเพียงแสงของดวงจันทร์ข้างแรมเท่านั้นที่รอดผ่านมุ่งลวดเข้ามาภายใน ... จึงทำให้เค้าเดินไปที่เตียงได้อย่างไม่ลำบากมากนัท ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ เพื่อนที่นอนคลุมโปงไม่ไหวติง ...
“หลับสนิทเชียวนะภานุ กู๊ดไนท์นะ ...”
ถึงแม้จะรู้ว่าคนข้างๆ หลับไปแล้วก็ตาม ... แต่ก็เป็นสิ่งที่เค้าทำเป็นประจำยามที่เพื่อนๆ มาค้างด้วยเสมอ ... ก่อนที่จะค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ ในหัวก็มีภาพของเหตุการณ์มากมายผลุบๆ โผล่ๆ ออกมา ... จนในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ให้แก่จิตใจและร่างกายที่อ่อนล้ามาตลอดทั้งวัน ...

กริ๊ก ! เสียงไขกุญแจห้องดังผ่านความมืดอย่างแผ่วเบา ... ประตูที่ค่อยๆ ถูกเปิดออกอย่างๆ ช้าๆ ไร้สุ้มเสียง ... มีเพียงเสียงกดล็อคยามที่ประตูถูกปิดเป็นเสียงสุดท้ายเท่านั้นสำหรับห้องที่มีเพียงแสงสลัวลางเลือน ... ร่างของชายหนึ่งคนนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง และเป็นสิ่งที่ผู้เข้ามาปรารถนาจะได้ครอบครอง ได้เน้นย้ำถึงความผูกพันอันลึกซึ้งที่ใครๆ จะไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป ...

ขณะเดียวกันนั้นเอง ... ในห้องที่ยังมีความเคลื่อนไหวของหนุ่มน้อยอีกสามคน ...
“แน่ใจนะภานุว่าจะนอนห้องเนี่ยกับพวกเรา ...”
เป็นเสียงของบอลนั่นเองที่เดินมานั่งบนเตียงข้างภานุซึ่งกำลังหน้าบอกอารมณ์ไม่ถูก ...
“อืม...”
“แบบนี้มันน่าให้ไปนอนเต็นท์ชายหาดถ้าจะดีกว่านะ ...”
“พอเลยพอ อย่ามาทะเลาะกันในห้องอีกล่ะ มันดึกมากแล้วด้วย ... นอนกันดีกว่าภานุ ส่วนเอกก็คงรู้นะว่าต้องนอนตรงไหน”
“ห๊า ... หมายความว่าไงอ่ะ นี่มันห้องตูนะ ทะมายให้ไอ้ภานุนอนเตียงแล้วข้านอนพื้นล่ะ ...”
“เป็นเจ้าของห้องที่ดีก็ไง ... บะบาย กู๊ดไนท์เพื่อนๆ เออลืมไป นี่หมอนกะผ้าห่มของเอก”
ป๊าบ !!!
หมอนกับผ้าห่มโดนขว้างมาอย่างแรงปะทะกับใบหน้าของเอกอย่างจัง จนพลัดตกลงไปจากเตียง ... สายตาของเอกมองภานุอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ... แต่ตอนนี้ภานุก็เปลี่ยนจากเงียบขรึมมาหัวเราะชอบใจที่เอกโดนบอลเนรเทศไปนอนพื้นซะงั้น ... ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอย่างสบายใจ ... ปล่อยให้เอกสบถอย่างแค้นเคืองตามประสาของคนที่ทำอะไรไม่ได้ ...
“ฝากไว้ก่อนเหอะ...”
“จะนอนหรือยังเอก ปิดไฟด้วยนะ ...”
“นอนคร้าบบบ นอน ...”
ไฟทุกดวงถูกปิดลง ลองคิดดูนะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 13-05-2007 22:31:42
 o13 o13  เปนเพื่อนที่ดีกันทั้งภานุ เอก แล้วก็บอลเลยนะครับ  :laugh3: :laugh3:  อย่างนี้ยัยตัวแสบก็ต้องถอนหมั้นโดยปริยายแน่เลย o3 o3  ดีมากครับแผนนี้  o8 o8
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-05-2007 04:31:23
นายแทนไทกะยายภัทร คิดแล้วหยอง  :haun5:

แล้วนัทนอนกะพี่วัฒน์  :o8:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-05-2007 18:09:37
เหอเหอ

แล้วยัยภัทรจะกลายเป็นนางโมรากากีเหรอ

วุ้ย ได้ใจว้อยยยยย

 :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 14-05-2007 19:08:17
จับคู่ให้กันนอนผิดห้อง  5555 
สะใจยัยภัทรนัก   ว่าแต่มันละครช่องเจ็ดชัดๆ เลย  แต่มันส์ๆๆๆๆ  ชอบๆ

ต่อๆ น้องหมี  อยากรู้ตอนแต่ละคนรู้ตัวกัน  o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-05-2007 19:17:10
มีลุ้นอีกแล้ว  o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 15-05-2007 03:01:30
แหะๆ   ต่อกานเลยค๊าบ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

41...
กรี๊ด !!! ... !!!
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ... เมื่อภาพของชายหนุ่มซึ่งนอนอยู่ข้างๆ ... มันไม่ใช่คนที่ ... คนที่เธอมอบความสุขและปรนเปรอเค้าด้วยเรือนร่างเมื่อคืนนี้ ...
“ไอ้ ... ไอ้แทนไท แก ... แกเข้ามาได้ยังไง แก ...”
“เฮ้อ ... คิดว่าใครมาลักหลับ ที่แท้ก็คู่หมั้นสาวสวยของไอ้วัฒน์นี่เอง ... ว่าแต่ลีลาคุณก็ดุเด็ดเผ็ดร้อนไม่เบานะ ชักจะติดใจแล้วซิ ...”
ชายหนุ่มที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงกรี๊ดร้องของนภัทร ใช้เวลาเรียบเรียงเหตุการณ์อยู่ครู่หนึ่งก็ทำให้เค้ารู้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเมื่อคืนตอนที่โดนนภัทรเล้าโลม เค้าก็เริ่มรู้สึกตัวบ้างแล้ว โดยตามนิสัยผู้ชายเพลย์บอยเค้าไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครจะย่องเข้าหาเค้า เพราะเจอมานักต่อนัก เต็มใจและไม่แคร์ว่าจะเป็นชายหรือหญิงด้วยซ้ำ ...
“อ๊าย ... ไอ้บ้า อย่ามาเข้าใกล้ฉันนะ ...”
ท่าทางและสายตาโลมเลียของแทนไท ทำให้นภัทรต้องขยับหนี เพราะเธอมองออกถึงความต้องการของอีกฝ่าย ...
“อ้าว ทำไมล่ะครับ ... จำไม่ได้หรอว่าเมื่อคืนเราสองคนใกล้ชิดสนิทสนมกันแค่ไหน และผมก็ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมเท่าไหร่ ยังไงมาลองตอนที่ผมตื่นตัวเต็มซิครับ แล้วจะรู้ว่าสวรรค์มีจริงน๊า ...”
“อี๋ ไอ้บ้า ไปไกลๆ ฉันนะ ...”
นภัทรีบคว้าเสื้อผ้าข้างตัวมาใส่อย่างรวดเร็ว ... ก่อนที่จะวิ่งออกไปจากห้อง แต่ก่อนไปก็ไม่วายจะหันมาแว๊ดใส่แทนไทอีกรอบด้วยกลัวเรื่องนี้จะรู้ไปถึงธวัฒน์ ...
“แล้วถ้าแก เอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นนะ ฉันฆ่าแกแน่ ...”

ปัง !!!

เสียงประตูปิดดังสนั่น ... แทนไทได้แต่มองตามหญิงสาวด้วยรอยยิ้มอย่างรู้ทัน ... และพอใจในรสสวาทที่เธอมอบให้เมื่อคืน โดยที่เค้าไม่ต้องออกแรงด้วยซ้ำไป ...
“คงกลัวไม่ได้แต่งงานนะซี๊ ... ทำยังไงให้เข้าผิดห้องได้เล่าเจ๊ ... ว่าแต่เรามาอยู่ห้องนี้ได้ไงว่ะ มันห้องใครกันล่ะเนี่ย ...”
เก็บความสงสัยของแทนไทไว้ก่อนชั่วคราว เพราะตอนนี้อีกห้องหนึ่งก็กำลังหัวเราะชอบใจกันใหญ่ เมื่อเฝ้าแอบมองนภัทรที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยวิ่งออกมาจากห้องของธวัฒน์แต่มีแทนไทนอนอยู่ ...
55555
“ขำไรนักว่ะบอล ... แล้วทำแบบเนี่ยจะดีหรอว่ะ...”
เอกสะกิดถามบอลที่ยังหัวเราะไม่ยอมหยุดอยู่ข้างๆ ... โดยมีภานุปิดประตูที่แง้มดูเหตุการณ์เมื่อครู่ไว้ตามเดิม ...
“ดีซิ ผู้หญิงแบบนี้ มันต้องเจอแผนดัดหลังแบบนี้แหละ ถึงจะสาสม ... จอมวางแผนกันทั้งแม่ทั้งลูก ... ดีนะที่ยังเช้ามืดอยู่เลยไม่งั้นคงได้ประจานตัวเองยิ่งกว่านี้แน่ๆ ...”
“ทีนี้ ก็คงเหลืออีกคู่ ... แต่ไม่รู้จะเป็นยังไงนะคู่เนี่ย ... ถ้านัทรู้จะโกรธข้าเปล่าก็ไม่รู้ ...”
ภานุพูดด้วยสีหน้ากังวล ... เพราะค่อนข้างแคร์ความรู้สึกของนัทเป็นพิเศษ ...
“ไม่หรอกน่า ... อย่างมากก็แค่โดนเตะสองสามทีเท่านั้นแหละ นัทไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ภานุก็รู้นี่นา ... เราก็บอกไปซิว่าเอกมันเป็นคนคิดแผนการ เราสองคนก็จะได้รอดตัวไง ...”
เอกที่กำลังพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยในช่วงแรกๆ ... ถึงกลับหน้าเอ๋อ เพราะท้ายประโยคที่บอลพูดว่าจะให้เค้าเป็นแพะรับบาปคนเดียว ...
“เฮ้ย ... แบบนี้ได้ไงฟ่ะ ตูไม่เกี่ยวสักนิด ...”
“ไม่เกี่ยวได้ไง ... ก็ใครล่ะที่ลากพี่วัฒน์กลับมาไว้ที่ห้องของนัท ...”
“เอ๊อ ...”
“แล้วใครล่ะ ที่มาแบกพี่แทนไปไว้ที่ห้องพี่วัฒน์ ...”
“เอ๊อ ...”
“แล้วใครล่ะ ที่บอกคุณหญิงขี้งกนั่นว่ากุญแจห้องเก็บไว้ที่ไหน ...”
“ก็บอลบอกให้ทำไมใช่หรอไง ...”
“ไม่ต้องเถียง !! ไปนอนต่อจะได้ตื่นไปเล่นน้ำกันอีก ง่วงจะตายอยู่ล่ะ ...”

“เฮ๊อ ...”
ภานุและเอกถอนหายใจพร้อมๆ กัน มองหน้ากันอย่างรู้ความคิดของอีกฝ่าย ถึงแม้จะไม่ค่อยถูกกันนัก แต่ก็มีเรื่องนี้ที่ความเห็นตรงกัน คือ บอลนั่นแหละเป็นจอมวางแผนที่น่ากลัวที่สุดเลย ... น่ากลัวกว่ายัยสองแม่ลูกนั่นซะอีก ... เพราะตั้งแต่แอบได้ยินสองแม่ลูกคุยแผนการกันเมื่อคืน จนเรื่องต่างๆ มาถึงตอนนี้ก็เป็นแผนของบอลล้วนๆ นั่นเอง ...

“ภานุ ... ปล่อยซิ นัทอึดอัดนะ กอดอยู่ได้ ...”
นัทที่นอนหันข้าง เริ่มรู้สึกได้ถึงคนข้างๆ ที่นอนกอด และก่ายขา ด้านหลังของตนไว้เหมือนกับหมอนข้างไม่มีผิด ...
“อืม ...”
“ไม่ต้องมางัวเงียเลยนะ จะปล่อยดีๆ หรือจะปล่อยด้วยน้ำตา ห๊ะ...”
“อืม ...”
เมื่อคนข้างๆ เหมือนจะยังไม่ยอมตื่น หรือพลิกตัวกลับไปง่ายๆ ... นัทจึงพลิกตัวกลับไปมองหน้าคนข้างๆ เพื่อเตรียมจะใช้กำลังเต็มที่ แต่ ... แต่สิ่งที่อยู่ห่างจากหน้าของตนไม่ถึงคืบ ... กลับเป็นหน้า หน้าของ ...

“พี่วัฒน์ !!!”
เสียงตะโกนลั่นทำให้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวตื่นอย่างเต็มที่ ... เพราะหมอนข้างไหงมีเสียงได้ ... แถมเป็นเสียงที่คุ้นมากๆ ด้วยซิ ...
“นัท !!!”
เสียงแปลกใจไม่แพ้กัน ... นัทที่เริ่มมีสติก็พยายามจะลุกขึ้นแต่ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อแขนที่กอด ขาที่ก่ายกระชับแน่น จนนัทขยับไม่ได้เลย ... ไม่ว่าจะเป็นฝันหรือความจริงๆ ธวัฒน์ไม่สนใจอีกแล้ว ขอกอดไว้ก่อนล่ะนะ ...

“ปล่อยผมน๊า ...”
พยายามดิ้นเท่าไหร่ก็เหมือนจะโดนกระชับแน่นเข้าไปทุกที จนหน้าจะติดกันอยู่แล้ว ...
“นัท นัทจริงๆ หรอเนี่ย ...”
“ทำไม ผิดหวังงั้นซิ คงคิดว่าจะได้เจอคนอื่นหรือไงครับ ...”
จุ๊บ ...
ริมฝีปากประทับที่ปลายจมูกของคนกำลังงอนอย่างแผ่วเบา ... นัยตาสีน้ำเงินเข้มเบิกโพลงอย่างตะลึงงัน ... แก้มขาวกลับแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ...

“พะ พี่วัฒน์ ...”
“ปากเนี่ย ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ นะเรา ...”
“ถ้าไม่ชอบก็ปล่อยซิครับ ...”
“ใครบอกไม่ชอบล่ะ เพราะปากแบบนี้ไงที่ทำให้พี่หลงหัวปักหัวปำ ...”
“เวอร์ไปล่ะครับ พี่อ่ะนะหลงผมหัวปักหัวปำ ... ถ้าหลงจริงคงไม่ ... เอ๊อ ...”
คิ้วขมเข้มของชายหนุ่มขมวดมุ้นอย่างสงสัย เพราะคำพูดที่ไม่จบประโยคของคนในอ้อมกอด ...
“ไม่อะไรล่ะครับ ทำไมไม่พูดให้จบล่ะ ...”
“ก็ ... ไม่มีอะไรไงครับ พอใจยัง ...”
“ปากแบบนี้มันน่าจูบนักนะ จะบอกหรือไม่บอก ... ถ้าไม่บอกพี่จูบจริงๆ นะ ...”
“เหวอ ... อย่านะครับพี่วัฒน์นี่มันเช้าแล้วนะ อย่ามาเล่นบ้าๆ นะครับ ...”
“ทำไมหรอครับ คนรักกันจะจูบกันมันต้องเลือกเวลาด้วยหรอ มันขึ้นอยู่กับเวลาที่หัวใจเรียกร้องต่างหากล่ะ ...”
“พูดออกมาได้นะครับไม่อายปาก ใครรักกับใครมิทราบ ...”
“งั้นพี่จะพิสูจน์ให้ดูเองว่าใครรักกับใคร ... จะได้ไม่ปฏิเสธอีกไงครับ ...”

ใบหน้าคมของธวัฒน์ยื่นใกล้หน้าของนัทเข้าไปทุกที ... สายตาของเด็กหนุ่มมองเห็นเพียงริมฝีปากอิ่มแดงเท่านั้นที่ใกล้เข้ามาทุกที ทุกที ในใจกำลังเต้นระรัว เหมือนกำลังรอคอยการมาถึงของมันอย่างใจจดใจจ่อ ...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!
เสียงเคาะประตูทำลายบรรยากาศลงในพริบตา ... ความตกใจทำให้ธวัฒน์พลั้งเผลอจนนัทหลุดออกไปได้ในเวลาอันรวดเร็ว ...

“นัท !! ตื่นหรือยังลูก ...”
เป็นเสียงของคุณหญิงศศิกานต์นั่นเอง ... แต่มันก็ทำให้นัทรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก ...
“คร้าบบบ คุณป้า ผมกำลังแต่งตัวอยู่ครับ ...”
“แต่งตัวเสร็จแล้ว ไปทำบุญที่วัดใกล้ๆ กับป้าหน่อยนะ ตาวัฒน์มันเมาเละ ป้าไม่อยากไปเรียกน่ะ ป้าจะรอข้างล่างนะจ๊ะ ”
“ครับ เดี๋ยวผมตามไปครับ ...”
“พี่วัฒน์กลับห้องนะครับ เดี๋ยวผมจะรีบอาบน้ำไปกับคุณป้า ...”
ยังไม่ทันรอคำตอบนัทก็คว้าผ้าขนหนู เข้าไปในห้องน้ำซะแล้ว ... เสียงสุดท้ายที่นัทได้ยินก็คือ เสียงปิดประตูซึ่งธวัฒน์คงจะออกจากห้องไปแล้ว ... น้ำจากฝักบัวถูกเปิดให้ไหลผ่านร่างกายที่เปลือยเปล่า เผื่อว่ามันจะช่วยชะล้างความรู้สึกผิดในใจให้หายไปได้บ้าง ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-05-2007 03:17:08
คุณหญิงแม่ไม่น่ามาขัดจังหวะเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-05-2007 15:21:39
เหอเหอ

ขัดใจหญิงแม่อย่างแรง

ชิส์

 :pigangry2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 15-05-2007 18:04:15
 :laugh3: สะจายยัยนภัทรมากมาย
สาธุ.. ตาแทน เปลี่ยนเป้าหมายทีเห้อะ  เอายัยนภัทรไปซะ (แต่ใครจะอยากได้ยัยนี่เนี่ย  นัทดีกว่าเยอะเลย) o3
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-05-2007 19:02:16
 :serius2: คุณแม่จะมาขัดทำมายยยยยยยยยยย  o12
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 15-05-2007 23:21:48
 o16 o16  หนีใจตัวเองยังไงนัทก็หนีไม่พ้นหรอกครับ  ยิ่งมีเพื่อนอย่างเอก บอล แล้วก็ภานุด้วยแล้ว  :laugh3: :laugh3:

คราวนี้รอดเพราะหญิงแม่ของพี่วัฒน์  แต่คราวหน้ามะมีทาง :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 16-05-2007 22:46:19
เรื่องนี้ก็ใกล้จาจบแล้วน๊า   อีกไม่กี่ตอนเอง -0-

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


42...
“กราบนมัสการเจ้าค่ะ หลวงพ่อ ...”
คุณหญิงศศิกานต์และนัทเข้าไปหาและก้มกราบพระสงฆ์ผู้อาวุโสที่กุฏิรูปหนึ่งอย่างนอบน้อม ซึ่งดูเหมือนว่าคุณหญิงจะคุ้นเคยกับวัดนี้เป็นอย่างดีทีเดียว ...
“สบายดีหรือโยม ไม่เจอกันนานเลยนะ ว่าแต่นั่นลูกชายคนเล็กหรือโยม รู้สึกว่าคนที่มาคราวก่อนจะโตเป็นหนุ่มแล้วนี่นะ”
พระท่านยิ้มรับอย่างสงบ เมื่อเห็นหน้าว่าเป็นใครตอนที่เงยหน้าขึ้นมา ... และพยักเพยิดไปทางเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างเรียบร้อย ...

“สบายดีค่ะหลวงพ่อ คนเนี่ยหลานชายน่ะค่ะ ไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูกเพราะอิฉันรักแกมากพอๆ กะตาวัฒน์เลยเจ้าค่ะ ...”
พูดพลาง คุณหญิงก็หันไปลูบผมของนัทอย่างเอ็นดูรักใคร่ ... แม้แต่หลวงพ่อท่านยังอดชื่นชมในความมีเมตตาของคุณหญิงไม่น้อย ... แต่สำหรับนัทแล้วการที่ได้รับความรักจากคุณหญิงมากมายกลับทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกผิดอยู่ในใจ ...
“แล้วลูกชายไม่มาด้วยหรือโยม คงจะโตเป็นหนุ่มใหญ่แต่งงานไปแล้วซินะ ...”
“ยังหรอกค่ะ แต่ก็คงอีกไม่นาน ... ถ้าเค้าตัดสินใจได้เมื่อไร อิฉันจะมากราบขอฤกษ์ยามกับหลวงพ่ออีกครั้งนึงเจ้าค่ะ ...”
“ได้ซิโยม มาได้เสมอเลยนะ ... คงชื่นใจซินะลูกชายคนเดียว มีการมีงานมั่นคง และเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ...”
“ไม่ใช่แค่ตาวัฒน์น่ะค่ะ แม้แต่ตานัทเนี่ย อิฉันก็หวังให้เป็นแบบเดียวกัน แกเป็นเด็กดีมากคงไม่ทำให้อิฉันผิดหวัง เพียงเท่าเนี่ยอิฉันก็นอนตายตาหลับหมดห่วงแล้วล่ะค่ะ”
“มีลูกมีหลานเป็นคนดี ย่อมเป็นบุญของโยมโดยแท้นะ ...”
“งั้นอิฉันคงต้องขอลาหลวงพ่อแล้วล่ะค่ะ เย็นนี้ก็จะกลับกรุงเทพกันแล้ว ถ้ามีโอกาสอิฉันจะมากราบหลวงพ่อใหม่นะคะ ...”
หลวงพ่อพยักหน้ารับอย่างเมตตา ก่อนจะอวยพรให้การเดินทางราบรื่นปลอดภัย ...  ระหว่างเดินออกมาจากกุฏิคุณหญิงก็ถามไถ่หลานชายที่นิ่งเงียบมาตลอด ...
“นัทเป็นไรหรือเปล่าจ๊ะ ป้าเห็นเงียบๆ เบื่อที่ต้องมาเป็นเพื่อนป้าหรือเปล่า ...”
“เปล่าเลยครับคุณป้า ผมไม่เคยเบื่อคุณป้าเลยนะครับ ... คุณป้าดีต่อผมมาก จนชาตินี้ผมเองไม่รู้ว่าจะตอบแทนได้หมดหรือเปล่า...”
คุณหญิงส่ายหน้าอย่างเอ็นดูในท่าทาง และคำพูดของหลานชายคนนี้มาก ... ได้ตบบ่าเบาๆ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน ...
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะจ๊ะ ลูกของจิตราก็คือลูกของป้าด้วยเหมือนกัน ขอแค่นัทเป็นคนดีป้าก็พอใจแล้วล่ะนะ อย่าคิดมากซิจ๊ะ...”
“ค...ครับคุณป้า ...”
ทำไมกันนะ ยิ่งคุณป้าใจดีกับเค้ามากขึ้นเท่าไหร่ ความรู้สึกผิดในใจมันก็ยิ่งมากขึ้นมากขึ้นทุกที ...
“คุณแม่กลับมาแล้วหรอครับ ทำไมไม่รอผมด้วยล่ะ ผมก็อยากไปกราบหลวงตาเหมือนกันนะครับไม่ได้เจอท่านตั้งนานแน่ะ”
“ก็เล่นเมากันซะขนาดนั้น ใครเค้าจะอยากลากไปด้วย ... เดี๋ยวหลวงพ่อได้กลิ่นเหล้าฉันไม่อยากจะขายขี้หน้าต่อหน้าพระสงฆ์องค์เจ้าหรอกนะยะ พูดแล้วมันน่านัก ...”
“โอ๊ย !!!”
ธวัฒน์ลูบแขนตัวเองที่โดนคุณหญิงหยิกอย่างแรง ... หน้างอง้ำอย่างเด็กๆ ...
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบเด็กๆ เลยนะตาวัฒน์ ... ไปเลย ไปบอกคู่หมั้นของแกเลยจะได้กลับกันเสียที นี่ก็บ่ายมากแล้ว ส่วนนัทไปบอกเพื่อนๆ นะลูก เก็บของเรียบร้อยแล้วมารอที่รถกันได้เลยนะ ...”
“ครับคุณป้า ...”
คุณหญิงเดินขึ้นไปบนห้องแล้ว เหลือธวัฒน์ที่ยืนมองหน้านัทนิ่งอยู่ ด้วยสายตาที่มีความหมายบางอย่าง ... นัทจึงตัดสินใจที่จะเดินไปตามเพื่อนที่น่าจะเล่นน้ำกันไม่เลิก ... แต่ก็โดนมือใหญ่ของชายหนุ่มคว้าไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวซิครับ จะรีบไปไหน ... ทำไมไม่มองหน้าพี่เลยล่ะ ไปวัดกับคุณแม่มาไม่เห็นเล่าให้พี่ฟังเลยว่าเป็นไงบ้าง ...”
“ปล่อยครับ ผมจะไปตามเพื่อนๆ ... และอีกอย่างไปวัดนะครับไม่ได้ไปเที่ยวจะได้มีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฟัง ผมว่าอยู่ที่นี่กับคูหมั้นน่าจะมีเรื่องสนุกๆ มากกว่านะ ...”
“ดูนัทแปลกๆ ไปนะ มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังไหม ... อย่าเก็บความไม่สบายใจไว้คนเดียวซิครับ ...”
“เปล่าครับ ...”
“แต่พี่ว่า ...”
“วัฒน์ขา ... ทำอะไรอยู่ค่ะ ...”
“นั่นไง คนที่เค้าอยากคุยกับพี่มาแล้ว ... งั้นผมไปได้แล้วล่ะมั้ง ...”
มือที่จับแขนนัทไว้แน่นค่อยๆ คายออก ... ในขณะที่นภัทรเดินเข้ามาใกล้ นัทจึงฉวยโอกาสเดินออกไปตามเพื่อนๆ มาเก็บของตามที่คุณหญิงศศิกานต์สั่งไว้ ...

“อ้าวนัท กลับมาแล้วหรอ ...”
บอลโบกมือให้ในขณะที่นัทเดินเข้าใกล้ๆ จากนั้นทั้งเอกและภานุก็เดินขึ้นจากน้ำมานั่งข้างนัทที่นั่งลงคอยใต้ต้นมะพร้าว ...
“อืม ... ว่าแต่พี่แทนล่ะ ยังไม่ตื่นหรอ ... พี่เค้านอนที่ห้องบอลใช่ไหมเมื่อคืน แล้วภานุล่ะไปนอนที่ไหน ...”
สายตาพิฆาต ส่งไปที่เพื่อนทีละคนทีละคน ... ทีแรกอากาศก็ยังร้อนอยู่ดีๆ แต่พอโดนนัทมองแบบนี้มันทำให้แต่ละคนหนาวขึ้นมาซะเฉยๆ ...
“เอ๊อ ... คือ ... อ๋อ พี่แทนอะดิ พอนัทไม่อยู่พี่แกก็กลับไปที่พักแล้วล่ะ เห็นบอกว่าจะกลับเลยด้วยคงเจอกันที่มหา’ลัยนั่นแหละ”
“แล้วไงต่อ ... ทำไมต้องหลบตากันหมดด้วยล่ะ หรือมีอะไรจะแก้ตัวไหมฮะเอก ...”

ไม่เคยเห็นก็ต้องเห็นที่เอกสะดุ้งสุดตัว ... จนนัทอดขำในใจไม่ได้ แต่ตอนนี้คงต้องเก๊กหน้าเครียดไว้ก่อน จะได้สั่งสอนพวกเพื่อนจอมวางแผนซะบ้าง ...
“เอ๊อ ... คือ ...”
“พร้อมใจกันเป็นใบ้เชียวนะ ช่างเหอะช่างเหอะ ... ป่ะไปอาบน้ำแล้วเก็บของกันเถอะ เดี๋ยวจะได้กลับกรุงเทพฯ กัน คุณป้าให้มาตามล่ะ ...”
“อื๊อ ไปซิไป ... พวกเราก็เบื่อน้ำทะเลกันแล้วเนอะเนอะ ...”
ภานุช่วยแก้พูดกลบเกลื่อน ... ก่อนจะฉุดแขนนัทให้ลุกขึ้นตามไปเก็บของที่ห้อง เอกและบอลที่เดินตามมาต้องถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กันอย่างโล่งอก ...
“นัทนี่น่าเวลาเอาจริงนี่ก็น่ากลัวชะมัดเลยนะ ...”
“ก็ใช่อ่ะดิ เพิ่งรู้หรอ ... ทีก่อนทำล่ะไม่คิด ทีอย่างเนี่ยเงียบเชียวนะ ไอ้จอมวางแผน ...”
เอกพูดจบก็ต้องโดนบอลให้เตะไปตลอดทางจนถึงห้อง ... และในที่สุดเวลาการพักผ่อนของทุกๆ คนก็จบลง แต่สิ่งที่แต่ละคนได้รับมันกลับไปในวันนี้ ทั้งความสุข ความทุกข์ ความเข้าใจ มิตรภาพ ความอิจฉาริษยา การรู้ผิดชอบชั่วดีจะทำให้อนาคตของพวกเค้าเป็นอย่างไรกันบ้างนะ ... คงต้องดูบทสรุปของพวกเค้ากันต่อไป ...
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-05-2007 08:14:12
เรื่องนี้ทั้งตื่นเต้น ทั้งเร้าใจ ไม่อยากให้รีบจบเยย
 :o12:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-05-2007 16:31:54
จาจบยังงัยน้า รอลุ้นต่อจ้า  :teach:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-05-2007 19:38:02
เหอ เหอ สงสัยจริง ๆ งานนี้จะจบเหมือนละครช่องเจ็ดมั๊ย  :teach:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-05-2007 22:55:24
เหอเหอ

มาต่อไวไวนะค้าบบบบบ

 o1
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 18-05-2007 01:23:00
 o9 o9  กลับแล้วอ่ะ  ยังไม่มีอารายให้ตื่นเต้นอีกรอบเลย  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 19-05-2007 11:11:51
เข้ามาขอโทษก่อน แหะๆ   ช่วงนี้  วุ่นๆนิดหน่อยอ่ะคับ  เลยไม่ค่อยว่างมาต่อให้   เดี๋ยว คืนนี้คงเข้ามาต่อให้นะคับ เพราะเดี๋ยวต้องออกไปผ่าฟันคุดและ  T T  ตายแน่ๆ   


หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-05-2007 11:21:37
ใจร้ายยยยย

เข้ามาแล้ว ต่อสักนิกก็ยังดีนะครับ

 :sad5:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 19-05-2007 22:51:14
แหะๆ มาต่อให้แล้วคับ 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

43...
สายตาของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในมุมมืดของผับดังย่านชานเมือง กำลังมองไปยังหนุ่มสาวที่คลอเคลียกันอย่างสนิทสนม ภาพที่เห็นไม่ว่าใครก็เดาได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นลึกซึ้งแค่ไหน จูบที่ดูดดื่ม มือที่ล้วงสัมผัสไปทั่วอย่างไม่อายสายตาคนอื่น ธวัฒน์เริ่มตามสังเกตพฤติกรรมของนภัทรอยู่เกือบเดือนแล้ว นับจากวันนั้นวันที่คุณหญิงศศิกานต์แม่ของเค้ารู้ความจริง ... 
ณภัทรกับคุณหญิงพรทิพย์มาที่บ้านของเค้าตามที่คิดไว้ หลังจากไปเที่ยวกลับมาได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ... นั่นคือต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ...
“อ้าว ... เป็นไงมาไงจ๊ะทั้งสองคน กลับมาเกือบอาทิตย์แล้วเพิ่งได้เจอกันน๊า ...”
ขณะที่สองแม่ลูกเดินเข้ามา คุณหญิงศศิกานต์ก็ทักทายตามปกติด้วยไมตรีจิต ... และไม่ลืมที่จะต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ...
“นัทช่วยไปบอกนมพริ้มเตรียมกาแฟมาให้คุณหญิงแต้วกะหนูภัทรหน่อยซิจ๊ะ...”
“ได้ครับคุณป้า ...”
คุณหญิงพรทิพย์ที่เหมือนจะรอจังหวะอยู่จึงเริ่มพูดเข้าเรื่อง หลังจากที่นัทลุกออกไป
“คือดิฉันมาถามความคืบหน้าเรื่องการจัดการตบแต่งคุณวัฒน์กับหนูภัทรของดิฉันน่ะค่ะคุณหญิง ... ปล่อยนานไปมีแต่ฝ่ายหญิงมีแต่จะเสื่อมเสียนะค่ะ...”
ธวัฒน์แทบจะสำลักกาแฟ ... เพราะไม่คิดว่าแม่ของนภัทรจะเข้าเรื่องเร็วขนาดนี้ ...
“อ๋อเรื่องนี้นี่เอง ... คงต้องถามเจ้าตัวละมังค่ะ ...”
“เอ๊อ ... คือว่า ... ผมอยากจะขอเวลาอีกสักหน่อยน่ะครับ”
“ทำไมหรอค่ะคุณวัฒน์ มันมีอะไรติดขัดนักหรือไงค่ะ น้ารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันก็พร้อมสรรพอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่งานแต่งงานของตาสีตาสาที่ไหนนะ จะได้รอเก็บเงินเก็บทองเป็นชาติกว่าจะได้แต่งน่ะ ...”
คุณหญิงพรทิพย์ถามด้วยน้ำเสียงข่มอารมณ์ ... พร้อมกับสีหน้าแสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย ... จนทำให้ชายหนุ่มอึดอัดไม่น้อย
“ครับ ... อันนั้นผมก็ทราบดี เรื่องเงินทองผมพร้อมอยู่แล้วล่ะครับ แต่ตัวผมเองต่างหากที่ยังไม่พร้อมจะแต่งเท่านั้นเอง ...”
“ทำไมค่ะวัฒน์ ภัทรไม่ดียังไงค่ะ มีข้อบกพร่องตรงไหนคุณถึงยังไม่พร้อมจะแต่งซะที คุณจะให้ภัทรรอไปอีกนานเท่าไหร่กัน”
คราวนี้เป็นนภัทรบ้างที่ใช้น้ำเสียงตัดพ้อต่อว่าด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ พร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลลงมาอาบสองแก้ม ... คนกลางอย่างคุณหญิงศศิกานต์จึงได้แต่พยายามพูดไกล่เกลี่ย ...
“ใจเย็นๆ จ๊ะหนูภัทร ... อย่าร้องห่มร้องไห้ไปเลย ยังไงยังไง ... ตาวัฒน์ก็ต้องแต่งงานกะหนูแน่นอนอยู่แล้ว ...”
“แต่คุณแม่ !!”
“หยุด !! ตาวัฒน์ แม่ตามใจแกมามากแล้วนะ คราวนี้เห็นทีว่าแกต้องแต่งการแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวซะทีนะ...”

เพล้ง !! เสียงแก้วกระทบพื้นแตกกระจาย ... จนทำให้ทุกคนต้องเหลียวไปดูที่มาของเสียง และก็เป็นนัทนั่นเองที่กำลังยกกาแฟเข้ามาให้ ... แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีเหลือสักแก้วแล้วล่ะเพราะตอนนี้เหลือแต่เศษแก้วกระจายเต็มพื้นไปหมดแล้ว
“ข...ขอโทษครับ เดี๋ยวผม จ...จะจัดการให้ครับ ...”
“นัทให้แววมาจัดการก็ได้ลูก เดี๋ยวแก้วก็บาดมือเอาหรอกนะนั่น ...”
“โอ๊ย !! ...”
นัทที่ก้มเก็บเศษแก้วอย่างรีบร้อน อยู่ในสายตาของนภัทรตลอดเวลา และในที่สุดก็โดนบาดเข้าจนได้ หญิงสาวได้แต่ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ
“สมน้ำหน้าจริงๆ ...”

“นัท !!! ... เป็นไรมากไหม ...”
เร็วเท่าความคิด ตอนนี้มือที่เลือดไหลของนัทอยู่ในการเกาะกุมของธวัฒน์เรียบร้อยแล้ว ... สายตาห่วงใยในสายตาอันอ่อนโยนที่มองดู จึงทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของนภัทรขาดลงทันที อย่างที่ไม่สามารถห้ามได้...
“กรี๊ดดดดดดดดด...”
“วัฒน์ ทำไมวัฒน์ต้องทำอย่างนี้ ทำไมต้องทำดีกับมันแบบนี้ด้วย ... คุณนอนกับมันมากี่ครั้งแล้วห๊า !! ถึงได้ติดอกติดใจมันนัก ... ผู้หญิงดีๆ มีไม่ชอบกลับไปชอบอีตุ๊ดอีกระเทยแบบเนี่ย มันมีดีกว่าภัทรตรงไหนกันห๊า !!!...”

ท่าทางและกริยาของนภัทรที่แสดงออกมาแบบไม่มีสมบัติผู้ดี แถมยังดูถูกนัทอย่างไม่เกรงใจเค้า ทำให้ธวัฒน์ได้หลุดคำต้องห้ามออกไปอย่างไมได้ตั้งใจ
“ดีกว่าตรงที่ผมรักเค้าน่ะซิ ไม่ใช่คุณ ...”
“พี่วัฒน์ !!! พูดอะไรครับ นี่มันต่อหน้าคุณป้านะ ...”
ธวัฒน์เริ่มอึกอัก เพราะเพิ่งรู้สึกถึงสายตาของผู้เป็นแม่ที่มองมา แต่ฝ่ายนภัทรนี่ซิหน้าซีดเผือดเหมือนคนจะเป็นลม ... เธอค่อยๆ เซล้มลงไปบนโซฟาข้างมารดาที่ตอนนี้ก็ตื่นตะลึงไม่แพ้กันนัก ... ด้วยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน ...
“กลับเถอะค่ะคุณแม่ ... ภัทร ภัทรอยากกลับบ้าน ...”
“จ๊ะ จ๊ะ ... กลับก็กลับ ... น่าอายจังเลยนะค่ะคุณหญิง ที่ลูกชายกลายเป็นเกย์แบบเนี่ย ... แถมมีคู่ขาเป็นเด็กอาศัยในบ้านด้วย สนุกดีจริ๊งจริง ... งั้นดิฉันลาล่ะค่ะ”
สองแม่ลูกยกมือไหว้คุณหญิงศศิกานต์ที่กำลังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ... แต่ก่อนจะเดินออกไปก็ยังไม่วายวางระเบิดทิ้งไว้อีกเป็นที่ระลึก ...
“เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดวันนี้ มันไม่ได้หมายความว่างานแต่งงานของเราจะยุติลงหรอกนะค่ะวัฒน์ เพราะคุณ คุณวัฒน์ !!จะต้องรับผิดชอบสิ่งที่ได้ทำเอาไว้กับภัทร ...”
นัททันได้เห็นรอยยิ้มเยือนอย่างผู้ชนะนั้น ถึงจะซ้อนความเจ็บปวดไว้ในแววตา ... ก่อนที่นภัทรและแม่ของเธอจะเดินจากไป
“คุณป้าครับ ผม ...”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ...”
“แต่คุณแม่ครับ คุณแม่ต้อง ...”
“หยุด !!! ฉันบอกว่าฉันยังไม่พร้อมจะรับฟังอะไรทั้งนั้น !!!...”
นัทมองตามคุณป้าที่เดินขึ้นไปบนห้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ... คนที่เค้าคิดว่าเป็นญาติเพียงคนเดียว คนที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เค้าเสมอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ คนที่ให้ความรักความเมตตากับเค้าเสมือนแม่อีกคนนึง ... แต่ตอนนี้เค้าได้ทรยศต่อความรักความเมตตาที่ท่านมอบให้ซะแล้ว ...

“นัท ... พี่ว่า ...”
เปรี้ยง !!!
หมัดจากมือที่โดนบาด สามารถเรียกเลือดสีแดงสดจากมุมปากของธวัฒน์ได้ไม่น้อย ... หมัดที่ต่อยไปแล้วยิ่งกำแน่น เลือดก็ยิ่งไหลรินออกมาจากปากแผลที่ยังเปิด แม้จะเจ็บแต่ในใจกลับเจ็บยิ่งกว่า ... แววตาของคนโดนต่อยกลับไม่เปลี่ยนเลย ยังคงมองมาอย่างอ่อนโยนและเศร้าสร้อย ...
“สะใจหรือยังครับ ที่ทำให้คุณป้าเกลียดผม...”
เด็กหนุ่มไม่อาจมองแววตานี้ได้อีกต่อไป ... เพราะมันอาจทำให้เค้ากลับไปทำผิดซ้ำสองอีก ดังนั้นเค้าต้องไป ไปให้พ้นจากตรงนี้เสียที ... นัทรีบขึ้นไปบนข้างบนทันทีโดยไม่สนใจแม้เสียงตะโกนของคนที่อยู่ข้างหลัง
 “แต่สักวันนึงท่านก็ต้องรู้ !! ... พี่รู้ว่านัทเจ็บ พี่ก็เจ็บไม่น้อยกว่านัทหรอกนะ!! …”

นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ธวัฒน์ได้พูดกับนัท เพราะตั้งแต่วันนั้นบรรยากาศในบ้านที่เคยอบอุ่น สนุกสนานก็เปลี่ยนไป คุณพ่อคุณแม่ไม่พบหน้าเค้าเลย นัทเองก็ไปเรียนแต่เช้า กลับมาก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง หลายครั้งที่เค้ายืนนิ่งอยู่หน้าห้อง ตัดสินใจหลายต่อหลายครั้งที่จะเคาะเรียกแต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้เสมอ เพราะตราบใดที่เค้ายังมีพันธะเค้าคงไม่สามารถมองหน้านัทได้แน่นอน ...

การเคลื่อนไหวของหนุ่มสาวที่เค้ามองอยู่ ทำให้สติของธวัฒน์กลับคืนมา ... เพราะตอนนี้ทั้งสองคนกำลังประคองกันออกไปจากร้านแล้ว ... เค้าจึงรีบวางเงินก่อนจะเดินตามออกไปอยู่ห่างๆ ... เมื่อนภัทรและคู่ขาเก่าที่หวนกลับมาหากันขึ้นรถขับออกไป ธวัฒน์ก็ขับตามไปอย่างไม่คลาดสายตาเช่นกัน ... จนกระทั่งรถเบนซ์สีดำสุดหรูที่อยู่หน้าเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูดระดับห้าดาวแห่งหนึ่งนั่นเอง ... รอยยิ้มบางๆ จึงปรากฏอยู่บนใบหน้าคมสันที่ดูเหนื่อยล้ามานาน ...

“ในที่สุด เค้าก็ไปจากชีวิตของพวกเราแล้วนะครับนัท ...”
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-05-2007 23:57:09
เรื่องดีดีกำลังจะเกิดแล้วซิ  :o8:

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: JmAc ที่ 20-05-2007 01:37:48
:teach: เข้ามาเยี่ยมครับผม อิอิ... กว่าจะมีเวลาเข้ามาก็ใกล้จะจบแล้วซิ ยังไงก็ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เอาเรื่องของผมมาลงนะครับ

และที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ผู้อ่านทุกคนครับ เรื่องแรกนี้อาจยังไม่ดีนัก แต่ผมก็จะเอาข้อติชมของทุกๆ คน ไปปรับปรุงในงานเรื่องต่อไปครับ

ขอบคุณมากๆ ครับผม ... รักคนอ่านทุกคนเลย อิอิ   :like6:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-05-2007 09:36:27
ไปแล้วไปลับ ไปแล้วอย่ากลับมานะ นภัทร  o18  o18
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 20-05-2007 15:04:31
 :laugh3: o18 :laugh3:  อย่างยัยนภัทรเนี่ยะ  ต้องเอาให้รู้ทั้งประเทศถึงจะดี  o17 o17
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-05-2007 12:30:09
สงสารนัทหง่ะ

มีแต่เรื่องเศร้า

สู้ๆ คร้าบบบ

เป็นกำลังใจให้ครับ

 o13
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 21-05-2007 22:29:32
แหะๆ  หายไปนาน  ช่วงนี้  อะไรๆเข้ามาเยอะจิงๆคับ  ต้องขอโทษด้วย ><

จุ๊บ ๆ   คุณ JmAc  อิอิ      อ่านต่อกันเลยดีกว่าคับ   อีกตอนนึงก็จาจบแล้ว T T 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

44 ... ตัดสินใจ
บรรยากาศยามดึกในห้องที่เปลี่ยวเหงา ... นัทนอนดิ้นไปมาอยู่บนเตียงอย่างยากจะข่มตาลงได้ นับตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น ... วันที่คุณป้าได้ทราบความจริง นัทไม่เคยนอนหลับได้อย่างสบายใจอีกเลย ความรู้สึกผิดยังคงลอยวนเวียนอยู่ในความคิดแทบจะตลอดเวลา เค้าแทบจะไม่ได้เจอคุณป้าอีกเลย ตอนที่เจอเพียงไม่กี่ครั้งท่านไม่พูดจากับเค้าสักคำ แต่นัทรู้ดีว่าท่านกำลังซ่อนความผิดหวังเสียใจไว้ในแววตาที่ปวดร้าวคู่นั้น ... มันยิ่งทำให้เค้ารู้สึกเสียใจ ถ้าท่านจะด่าว่าหรือขับไสไล่ส่งเค้าออกไปล่ะก็ ... ความรู้สึกผิดและเสียใจก็อาจจะทุเลา ... คงจะถึงเวลาแล้วละมั้งที่เค้าจะตัดสินใจสักอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนความรักความหวังดีที่ท่านมอบให้มาตลอด ...
ก๊อก ก๊อก !!! ก๊อก ก๊อก !!! เสียงเคาะประตูได้ทำลายความเงียบ และความคิดของเด็กหนุ่มลง ... เหลือเพียงความสงสัยระคนหวาดระแวง เพราะนี่มันก็เกือบจะตี 2 อยู่แล้ว ...
“ค ...ใครคร้บ ...”
“คุณนัทขา นี่แววเองนะค่ะ ... คุณนัทเปิดประตูให้แววหน่อยค๊า ...”

“เฮ้อออ ...” เสียงถอนหายใจ พร้อมกับที่เดินไปเปิดประตูอย่างโล่งใจ เพราะคนที่มาเคาะประตูไม่ใช่คนที่เค้าไม่อยากเจอในเวลาแบบนี้ ..
“แววมีอะไรเหรอครับ นี่มันก็ดึกมากแล้วนะครับ ...”
“ขอโทษค่ะคุณนัท พอดีแววเห็นว่าห้องคุณยังมีแสงไฟลอดออกมา แววคิดว่าคงยังไม่นอน ก็เลยมาขอให้ช่วยหน่อยอ่ะค่ะ”
“หือ ... ใครเป็นอะไรหรอครับ ...”
“เปล่าหรอกค่ะ แต่คุณวัฒน์น่ะซิค่ะ เอารถเข้ามาจอดก็ไม่ยอมลง พอแววไปดูก็หมดสติไปแล้วล่ะค่ะ สงสัยคงเมามาก โชคดีจริงๆ ที่ยังขับรถกลับมาถึงบ้าน ...”
นัทรู้สึกเป็นห่วงธวัฒน์อยู่ไม่น้อย ... แต่เค้าก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชายหนุ่มอีก เค้ารู้ว่าธวัฒน์รักเค้า แต่เค้าก็ไม่อยากทำให้คุณป้าผิดหวัง และเสียใจไปมากกว่านี้
“แล้วไม่ตามลุงมิ่งคนสวนมาช่วยกันล่ะครับแวว ...”
“โถ่ ... คุณนัทคงไม่ทราบว่าแกลากลับไปเยี่ยมบ้านได้สองวันแล้วล่ะค่ะ ถ้าคุณนัทไม่ลงไปช่วย มีหวังแววคงต้องไปตามคุณท่านแล้วล่ะค่ะ ...”
“เอ๊อ ... อย่าเลยครับ คุณลุงคุณป้าคงหลับไปแล้วล่ะ อย่าไปกวนท่านเลยนะ งั้นผมลงไปช่วยเองล่ะกันครับ ...”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณนัท ...”
สภาพของธวัฒน์ที่นัทเห็นมันดูแย่มากจริงๆ เพราะแทบจะเมาไม่รู้เรื่องเลย ยังอุตส่าห์ขับรถกลับบ้านได้นี่สุดยอดจริงๆ ... เค้าต้องช่วยแววหิ้วปีกธวัฒน์คนละข้างอย่างทุลักทุเลมากๆ ... เมาเพ้อไม่ได้สติ แถมยังตัวหนักอีก ...
“ฮา ฮา ฮา ... เอิ๊ก !! ไปแล้ววว ... เค้าไปแล้ว ไปจากชีวิตฉันเสียที ... เอิ๊ก !!”
“ไม่รู้คุณวัฒน์เพ้ออะไรนะค่ะ แววได้ยินได้ตั้งแต่ไปดูที่รถแล้วล่ะ เพ้อแต่ไปแล้ว ... ไปเสียที ใครไปไหนหรืออยากให้ใครไปไหนสักอย่างหรือเปล่าไม่รู้น่ะค่ะคุณนัท ...”
“คงเพ้อไปตามประสาคนเมาน่ะครับ ...”
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่สภาพของธวัฒน์ที่เมากลับมาแทบทุกวัน แต่วันนี้กลับเมามากเป็นพิเศษ คงบอกได้เพียงว่าธวัฒน์นั้นเครียดกับสภาพที่เป็นอยู่นี้ขนาดไหน ... เพราะที่นี้เป็นบ้านที่เคยอบอุ่นสำหรับธวัฒน์ แต่นับจากเค้าเข้ามา ความวุ่นวาย และปัญหาก็เริ่มก่อตัวขึ้น ทำไมกันนะทำไมเค้าไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเองบ้าง ... ถ้าเค้าไม่เผลอไผลไปกับความรักที่มันไม่มีวันเป็นไปได้แบบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างคงยังเป็นเหมือนเดิม ...
“เอาล่ะ แววไปนอนเถอะนะครับ เดี๋ยวผมจะเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พี่วัฒน์เอง ...”
หลังจากลากธวัฒน์มาถึงเตียงได้ในที่สุด นัทจึงหันไปบอกกับแววที่หาวหวอดๆๆ มาตลอดทางอย่างสงสาร ... ถ้าเค้าจะบอกให้แววทำ แววก็คงไม่ขัด ... แต่ในใจลึกๆ เค้าก็อยากจะทำเอง เพราะมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ที่เค้าจะได้ทำให้กับคนที่เค้ารัก ... ไม่ซิ ... คนที่เค้าเคยรักต่างหากล่ะ ...
“ค่ะ งั้นแววไปนอนก่อนนะค่ะ ... ถ้ามีอะไรก็เรียกแววนะค่ะ ...”
นัทยิ้มและพยักหน้าน้อย ก่อนที่แววจะเดินออกไป และปิดประตูอย่างเบามือ ... นัทหันกลับมามองหน้าคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้ง ... จู่ๆ น้ำตามันก็เอ่อไหลลงมาอย่างไม่ตั้งใจ ... ผ้าชุบน้ำเย็นๆ บีบหมาดๆ ถูกลูบไปบนใบหน้าคมเข้ม อย่างเบามือ ... ถ่อยคำหลายต่างๆ หลุดออกมาอย่างไม่กลัวว่าคนที่นอนอยู่จะได้ยิน ...
“ผมคงจะต้องไปแล้วล่ะครับพี่วัฒน์ ... ผมจะไม่เสียใจอีกแล้วเพราะนี้จะเป็นความเสียใจครั้งสุดท้ายของผม ผมยอมเจ็บ ผมขอเจ็บคนเดียวยังดีกว่าที่ผมจะทำให้คนที่ผมรักต้องเจ็บไปมากกว่านี้ ผมไม่อยากเห็นพี่เป็นแบบนี้ ไม่อยากเห็นหน้าคุณป้าที่เก็บกดความผิดหวังและเสียใจเพราะผม ... ผมขอให้พี่มีความสุขในชีวิตแต่งงานนะครับ มีหลานเล็กๆ ให้คุณป้าชื่นชม เท่านี้ผมก็มีความสุขแล้วล่ะ ที่ได้เห็นคนที่ผมรักมีความสุขเหมือนผู้ชายปกติทั่วไป ...”
มือเรียวบางลูบไล้ใบหน้าของคนที่นอนอยู่อย่างทะนุถนอม และหยุดลงตรงริมฝีปากอิ้มสีชมพูที่เคยได้สัมผัสเค้าไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ... พลันน้ำตาก็ไหลออกมาอีก เพราะภาพวันเวลาที่มีความสุขเหล่านั้นมันผุดขึ้นมาตอกย้ำ และดึงดูดไม่ให้เค้าหนีไปจากมัน ... เด็กหนุ่มได้แต่ส่ายหน้า ... นี่คงเป็นปีศาจร้ายที่อยู่ในใจของเค้าแน่ๆ ที่มันทรมานจึงได้ดิ้นรนเพื่อให้เค้าอยู่ต่อไปเพื่อไขว่คว้าความสุขให้แก่ตัวเอง ถึงแม้จะทำร้ายใครๆ อีกหลายคนก็ตาม ... แต่เค้าจะไม่ยอมแพ้มันหรอก เค้าจะต้องชนะใจตัวเองให้ได้ ...
จูบสุดท้ายสัมผัสลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนโยน ... เนิ่นนาน แต่ความรู้สึกที่อีกฝ่ายตอบสนองกลับมามันทำให้เด็กหนุ่มมิอาจถอนออกมาจากสัมผัสนั้นได้ ... อ้อมกอดที่อบอุ่นโอบรัดรอบกายไม่ให้เค้าสามารถถอยห่างไปไหน ...
“พี่คงฝันไปใช่ไหม ... เพราะนัทคงไม่มีวันทำแบบนี้หรอก แต่ช่างเถอะ แม้จะเป็นฝันพี่ก็ขอฝันดีอย่างนี้ตลอดคืน ได้ไหมครับ ...”
“ใช่ครับ มันเป็นฝัน และผมคงจะได้มีโอกาสฝันร่วมกับพี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ...”
เพียงเวลาไม่นาน ... ร่างกายที่เปลือยเปล่าของนัทก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผิวขาวสะอาดตัดกับผ้าปูสีน้ำเงินเข้มอย่างน่าดู ... ปล่อยให้ร่างไร้อาภรณ์ของธวัฒน์โลมเล้าด้วยสัมผัสที่อ่อนนุ่มแต่ร้อนแรงอยู่บนร่างกายของตน ริมฝีปากสั่นด้วยความเสียวซ่านกำลังถูกจูบแล้วจูบอีกนับครั้งไม่ถ้วน ... อย่างหิวกระหาย ...
“ผ่อนคลายนะครับนัท พรุ่งนี้คงจะเป็นวันแห่งความสุขของพวกเราบ้าง จะไม่มีใครมาพรากพวกเราออกจากกันได้อีกแล้ว”
 แม้จะยังรู้สึกเจ็บบ้าง แต่มันก็เต็มไปด้วยความนุ่มนวลและอ่อนโยนที่อีกฝ่ายพยายามมอบให้ ... ดังนั้นเค้าจะทน ทนเจ็บเพื่อคนที่เค้ารักเป็นครั้งสุดท้าย แม้วันพรุ่งนี้จะกลายเป็นคนที่เค้าเคยรักก็ตาม ...
......................................................
แสงแดดสาดส่อง ผ่านม่านหน้าต่างสีอ่อนเข้ามาภายในห้อง ... ชายหนุ่ม ที่ยังไม่มีทีท่าจะลืมตาตื่นขึ้นมาง่ายๆ ... ค่อยๆ พลิกตัวช้าๆ หวังจะได้โอบกอดคนข้างตัว ...

แต่ ...

... ทุกสิ่งว่างเปล่า ....

“กลับห้องแล้วหรอ ...”
ธวัฒน์ลุกขึ้นอย่างงัวเงีย ... แต่พอนึกถึงเมื่อคืนแล้วทำให้อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ... มันคือความสุขและอิ่มเอมใจที่มีคนที่เรารัก และรักเราอยู่เคียงข้าง ... และวันนี้สิ่งที่เค้ายังไม่ได้บอก และตั้งใจจะบอกให้นัทได้รู้ คือ เค้าไม่มีวันจะไปเป็นของคนอื่นอีกแล้ว เพราะนภัทรนั้นได้เลือกที่จะไปจากเค้าแล้ว ... เธอตัดสินใจไปจากเค้าเอง นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอย่างกรายเข้าไปในโรงแรมกับหนุ่มเศรษฐีไฮโซคนนั้น ...
ปัง ๆๆๆ !!!
เสียงทุบประตูห้อง ทำให้เค้าหลุดจากภวังค์ที่กำลังมีความสุข และรีบไปเปิดประตูด้วยความสงสัย ... ที่ปกติจะไม่มีใครมากวนตอนเช้าๆ ในวันหยุดเช่นนี้ ...
“อ้าว ... มีไรหรอแวว ... ใครหายหรือเปล่า ถ้าไม่มีคนหายฉันจะหักเงินเดือนนะ โทษฐานมาปลุกฉันแต่เช้าแบบเนี่ย ...”
ธวัฒน์พูดหยอกล้อกับสาวใช้ เมื่อเห็นว่าเป็นแววที่มาเคาะประตูตั้งแต่เช้า ...
“คุณวัฒน์ไม่ได้หักเงินแววแน่ค่ะ เพราะคุณนัทค่ะคุณนัท ...”
จากท่าทีหยอกเล่น แต่เพราะชื่อที่ได้ยินทำให้ชายหนุ่มหน้าตาจริงจังขึ้นมาทันที ...
“นัททำไม บอกมาน่ะว่านัทเป็นอะไร ...”
“เปล่าเป็นค่ะ แต่หาย คุณนัทหายไปค่ะ ... ตอนแววเข้าไปทำความสะอาดห้องไม่มีเสื้อผ้าคุณนัทเหลือสักตัวะค่ะ ...”
ธวัฒน์หน้าเริ่มถอดสี เพราะยังไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ... ทำไม ทำไมนัทต้องหายไป แบบนี้เรียกว่าหนีไปมากกว่า แล้วทำไมต้องหนีไปด้วย ก็ในเมื่อคืน เรายัง ...
คำพูดบางคำของนัท กลับเข้ามาก้องอยู่ในหัวของเค้าอีกครั้ง ... เป็นสิ่งที่เค้าไม่ได้สนใจ หรือมองข้ามมันไป ...
*** “ใช่ครับ มันเป็นฝัน และผมคงจะได้มีโอกาสฝันร่วมกับพี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ...” ***
“นัท ... พี่จะต้องตามหานัทให้เจอ คอยดูนะ ...”
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 21-05-2007 23:59:22
 :serius2: :serius2:  อารายครับเนี่ยะ  ยัยตัวแสบก็ไปแล้ว  ทำไมนัทยังต้องจากพี่วัฒน์ไปอีกล่ะครับ  :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: mumumama ที่ 22-05-2007 08:01:32
 o15  เอาใจช่วยให้หานัท ให้เจอ นะคร้าบ คุณวัฒน์ o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-05-2007 18:39:21
นัทจะไปไหน เรื่องกำลังจะจบลงด้วยดีแล้วเชียว  :try2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-05-2007 10:59:26
:teach: เข้ามาเยี่ยมครับผม อิอิ... กว่าจะมีเวลาเข้ามาก็ใกล้จะจบแล้วซิ ยังไงก็ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เอาเรื่องของผมมาลงนะครับ

และที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ผู้อ่านทุกคนครับ เรื่องแรกนี้อาจยังไม่ดีนัก แต่ผมก็จะเอาข้อติชมของทุกๆ คน ไปปรับปรุงในงานเรื่องต่อไปครับ

ขอบคุณมากๆ ครับผม ... รักคนอ่านทุกคนเลย อิอิ   :like6:

มัวแต่ตื่นเต้นกะเนื้อเรื่อง ไม่เห็นว่าเจ้าของเรื่องเข้ามาเยี่ยม

ยินดีต้อนรับนะครับ JmAc ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ครับ

รอเรื่องต่อไปนะครับ

 o14 o15



ลป.

ขอบคุณ VicOSe ที่โพสต์ให้อ่านคร้าบบบบ

รอตอนจบนะครับ

 o13
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 23-05-2007 12:33:11
ต้องขอโทษด้วยนะค๊าบ ตอนนี้ มันวุ่นวายจิงๆ - -*   แต่สัญญาว่า คืนนี้จามาลงตอนจบให้นะคับ  พอดีไฟล์ที่เก็บไว้  อยู่ที่เพื่อน  เดี๋ยวคืนนี้ได้ลุ้นพี่วัฒน์ กับ นัท  แน่นอนค๊าบ  ไปละคับ  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 24-05-2007 00:00:33
เอาละคับ  มาลงตอนสุดท้าย  แล้วนะคับ   ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้น  เข้ามาให้กำลังใจนะคับ   ขอบคุณ  คนแต่งที่ทำให้มีเรื่องให้เราได้อ่านกัน  ขอบคุณเล้าเป็ด ที่ทำให้เราได้เจอกัน 555+

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

45 ... บทสรุปของความรัก ...

3 เดือนผ่านเลยไป ... 

ในห้องที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูปขนาดต่างๆ เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ... มีเพียงหญิงสูงวัยกำลังนั่งพนมมืออยู่ลำพังในความสลัวจากแสงเทียน และกลิ่นอบอวลของควันธูป ... คุณหญิงศศิกานต์ก้มกราบพระก่อนที่จะหันมามองรูปของเพื่อนรักที่วางอยู่ข้างๆ ... ใบหน้าของคุณหญิงเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ที่เกิดจากการคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ มากมาย ...

“จิตรา ฉันขอโทษนะ ... ลูกคนเดียวของเธอที่ฉันรับปากจะดูแลเป็นอย่างดี แต่ฉันกลับ .. ฉันกลับทำให้เค้า ...”
น้ำตาของความรู้สึกผิด เอ่อล้นเต็มสองตา ... ก่อนที่จะค่อยๆ ไหลหยดลงบนผ้าเช็ดหน้าที่เจ้าตัวไม่สนใจจะยกขึ้นซับมันแม้แต่น้อย ... มีเพียงเสียงสะอื้นไห้เบาๆ ให้ได้ยินเป็นระยะๆ ...

“ป่านนี้ไม่รู้ว่าแกจะไปลำบากอยู่ที่ไหน ... ฉันรักตานัทเหมือนลูกของฉันเอง ... แต่ฉันมัน ... ฉันยังทำใจไม่ได้ กับเรื่องแบบนี้ ... ฉันจะทำยังไงดีจิตรา บอกฉันทีจิตราว่าฉันจะทำยังไงดี ... เธอกำลังโทษฉันอยู่ใช่ไหมหะที่ฉัน ... ผิดสัญญา ...”
ใบหน้าในภาพช่างดูเศร้าหมอง ... แต่นั่นก็อาจมาจากคนที่มองมันต่างหากที่กำลังทุกข์ใจ ไม่ว่ามองอะไรก็คงหม่นหมองไร้ชีวิตชีวา เห็นแต่ความทุกข์แฝงอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง ...

“คุณแม่ครับ !!”
เสียงเรียกของธวัฒน์ที่เปิดประตูเข้ามา ... แต่คุณหญิงก็มิได้สนใจจะหันไปมองแม้แต่น้อย ... นับตั้งแต่เกิดเรื่องจนกระทั่งนัทหนีไป ดูเหมือนว่าแม่และลูกจะไม่ได้เจอหน้ากันเลย ... ธวัฒน์ก็ยังคงไปทำงานแต่ก็จะแบ่งเวลาไปตามหานัทเสมอไม่ว่าจะเป็นบ้านเพื่อน หรือญาติที่พอจะหลงเหลืออยู่บ้างที่เมืองไทย ... คุณหญิงก็เก็บตัวมากขึ้นไม่ค่อยออกไปไหน โดยเฉพาะห้องพระจะเป็นที่พักใจของท่านเสมอ ...
“มีอะไรหรือเปล่าตาวัฒน์ ...”
“ผมรู้ว่าคุณแม่รักผม และรักนัทด้วยเหมือนกัน ... ผมรู้ว่าคุณแม่อยากให้ผมมีความสุข มีครอบครัวที่อบอุ่น หรือแม้กระทั่งมีหลานให้คุณแม่ ... แต่คุณแม่ทราบไหมครับว่าใครที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุด ...”

“แกจะบอกว่านัทใช่ไหม ...”
“ครับ ... ผมยอมรับและแน่ใจตัวเองที่สุดแล้วว่า ผมรักเค้าเพราะเค้าเป็นคนที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุดเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน และทำให้ผมคิดถึงที่สุดเวลาที่อยู่ไกลกัน ซึ่งระยะเวลาสามเดือนคงเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วเป็นอย่างดี ... แต่ผมก็ยังรักและบูชาคุณแม่อยู่เหมือนเดิมนะครับ ...”
“แกไม่ต้องบูชาฉันหรอก เพราะฉันยังไม่ตาย ...”

ธวัฒน์รับรู้ได้ถึงความตรึงเครียดระหว่างคุณหญิงและเค้าที่เริ่มน้อยลง ... เค้าจึงมั่นใจที่จะพูดความในใจที่เก็บมานานต่อจนจบ ...
“ครับ ... และในเมื่อคนที่ผมรัก และเค้ารักผม ก็เป็นคนที่คุณแม่รักด้วยแล้วล่ะก็ ... ผมอยากขอความกรุณาให้คุณแม่เปิดโอกาสให้พวกเราได้ไหมล่ะครับ ให้พวกเราได้มีโอกาสรักกัน ...”
ธวัฒน์ค่อยๆ ก้มลงกราบคุณหญิงทางด้านหลัง ... อย่างที่เค้าไม่ได้ทำมันมานานมากแล้ว ... น้ำตาแห่งความรักไหลจากหน่วยตาของผู้สูงวัยอีกครั้ง ก่อนจะหันมารับเอามือคู่นั้นที่กำลังจะแตะถึงพื้นไว้ในอุ้งมือที่นุ่มนวลอบอุ่นของแม่ ...

“แม่เข้าใจแล้วล่ะ แกไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก ...”
“แต่คู่ของเราจะไม่เหมือนคนอื่น ... แต่พวกเราก็จะรักและดูแลคุณแม่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนะครับ ...”
“แต่มันคงสายไปแล้วละมั้ง เพราะแม่เองที่เป็นต้นเหตุทำให้ตานัทหนีไป ... แม่ผิดเอง ...”
“คุณแม่อย่าโทษตัวเองเลยครับ ... มันยังไม่สายหรอกครับ เพราะผมเชื่อว่าคนที่เกิดมาคู่กันย่อมหนีกันไม่พ้นหรอกครับ ... และก็จะขออนุญาตคุณแม่ไปตามหานัทด้วยนะครับ ...”

คุณหญิงพยักหน้ารับน้อยๆ ลูบไล้ผมของลูกชายด้วยความรัก ปลื้มใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ...
“หานัทให้เจอนะลูก ฝากบอกแกด้วยว่าแม่ขอโทษและยังรักแกเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ...”
“ครับ ...”

ธวัฒน์ออกไปแล้ว แต่คุณหญิงยังคงนั่งอยู่หน้ารูปเพื่อนรักต่อไป ... แต่ตอนนี้ใบหน้าในรูปดูเหมือนจะเปลี่ยนมาแย้มยิ้มให้กับการตัดสินใจของคุณหญิง ...
“ฉันทำถูกแล้วใช่ไหมจิตรา ... ใช่ซิ ... มันถูกแล้วล่ะ ... คราวนี้เธอคงสบายใจได้แล้วล่ะนะ เด็กคนนั้นจะมีคนดูแลแทนฉันแล้วล่ะ และฉันมั่นใจว่าตาวัฒน์จะดูแลนัทได้เป็นอย่างดีจ๊ะ ...”
.............................................................................
ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ... นัทใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังในเชียงใหม่ ... แรกๆ เมื่อหาหอพักได้ ก็ออกหางานเพื่อหารายได้ ก่อนเงินที่เก็บหอมรอมริบมาจะหมดเสียก่อน ซึ่งก็โชคดีมากๆ ที่ผู้จัดการโรงงานทอผ้าแห่งหนึ่ง รับเค้าไว้ช่วยงานในตำแหน่งต้อนรับและดูแลลูกค้า ซึ่งจะมีแขกต่างประเทศที่มักมาเยี่ยมชมการผลิตผ้าพื้นเมืองของโรงงานเสมอ ... เพราะเห็นว่านัทเป็นคนมีบุคคลิกอัธยาศัยดี และเก่งภาษาอังกฤษ ไม่รวมถึงหน้าตาที่ทำให้สาวๆ ออฟฟิศและสาวๆ ในโรงงานกรี๊ดกร๊าดกันตั้งแต่วันแรก นัทรู้สึกขอบคุณผู้จัดการมากเพราะแม้เค้าจะยังไม่มีวุฒิอะไรสักอย่าง แต่ก็ยังรับนัทไว้ด้วยเหตุผลที่บอกว่า วุฒิการศึกษาไม่ได้วัดความสามารถของคนได้เสมอไปหรอก ...

และนัทก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เพราะเค้าสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น แถมยังเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานทุกคนอีกด้วย ไม่มีใครคิดอิจฉาริษยาเลยสักคน เพราะนัทจะยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเอง และช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานเสมอ ...
วันนี้นัทเลิกงานแล้ว กำลังแวะซื้ออาหารเย็นเข้าไปที่พัก ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จู่ๆ ผู้จัดการก็ให้เค้าย้ายมาอยู่ที่เรือนรับรองแขกของโรงงาน ซึ่งจัดได้ว่าสวยมากๆ เหมือนกับรีสอร์ทมากกว่าจะเป็นเรือนรับรองเสียอีก แถมผู้จัดการยังบอกว่าไม่เก็บค่าเช่าด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้สะดวกเวลาต้อนรับลูกค้า ... เพราะหอของนัทไกลจากโรงงานมาก ....
 
เอาอาหารไปวางไว้ในครัว นัทก็เข้าไปเก็บของในห้อง ซึ่งมีโกฏเก็บอัฐิของแม่เค้าวางอยู่ใกล้ๆ ... ซึ่งนัทมักจะกลับมาเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟัง เสมือนว่าแม่ของเค้าสามารถได้ยินที่เค้าพูดได้ ...
“แม่ครับ นัทกลับมาแล้วนะ ... วันนี้ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่หรอกครับ เพื่อนๆ ก็ใจดีกับผมมาก ...”

นัทค่อยๆ หันไปหยิบกรอบรูปที่หัวเตียงขึ้นมาดู และลูบไล้อย่างเบามือ ... มันเป็นรูปของธวัฒน์นั่นเอง ที่นัทเอามาด้วยในคืนที่ออกจากบ้าน ...
“แม่ครับ ... สามเดือนแล้วซินะ ผมยอมรับแล้วล่ะครับว่าผมคงไม่อาจลืมพี่วัฒน์ได้ เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีวันไหนเลยที่ผมจะไม่คิดถึงเค้า มันเรียกว่ารักหรือเปล่าครับแม่ ... ผมจะไม่ปฏิเสธหัวใจตัวเองอีกแล้วว่าผมรักและคิดถึงพี่วัฒน์มากขนาดไหน แต่ผมก็จะไม่มีวันกลับไปทำร้ายคุณลุงคุณป้าและพี่วัฒน์อีกแล้ว ผมไม่อยากเป็นคนเนรคุณ ผมทำถูกใช่ไหมครับแม่ ... ผมยอมเป็นคนเจ็บเอง ดีกว่าจะให้ใครต้องมาเจ็บเพราะผมอีกต่อไป ...”

น้ำตาไหลออกมาอาบสองแก้มของเด็กหนุ่มที่กำลังกอดรูปคนรักไว้แนบอก ... เสียงสะอื้นยังคงดังก้องอยู่ในห้อง ถ้าใครได้มายืนอยู่หน้าห้องในตอนนี้ต้องได้ยินทุกสิ่งทุกอย่าง และเสียงสะอื้นร้องไห้ของเค้าอย่างแน่นอน ... และก็เป็นชายหนุ่มในรูปนั่นเองที่กำลังยืนฟังทุกถ้อยคำอย่างตั้งใจอยู่เงียบๆ น้ำตาของลูกผู้ชายที่ไม่เคยคิดว่าจะมีวันได้เห็น กำลังไหลออกมาไม่ขาดสายเช่นกัน ... ทำไมนะ คนอย่างเค้าก็ไม่ได้ดีกว่าคนอื่นๆ ตรงไหน แต่เค้ากลับมีคนที่รักเค้าได้มากมายขนาดนี้ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เค้ามีความสุข ... ตอนนี้เค้าเองก็พร้อมแล้วเช่นกันที่จะทำให้คนนี้มีความสุขตลอดไป ...

ประตูถูกผลักออกเบาๆ ... ธวัฒน์เดินเข้าไปหาหัวใจตัวเองอย่างช้าๆ ... เหมือนกับกลัวว่ามันจะบินหนีไปได้หากทำให้รู้ตัว ... แต่ความเคลื่อนไหวแม้เล็กน้อยก็ไม่อาจปิดซ้อนไว้ได้นาน เพราะเมื่อนัทหันมามองก็พบว่า คนที่เค้าเฝ้าคิดถึงโหยหามาตลอดกำลังยืนอยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง ... รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า ... มือถูกยกขึ้นเช็ดน้ำตา และขยี้อีกสองสามทีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่ความฝันหรือภาพหลอน ...

“พี่วัฒน์ !!”
“เอาซิ กอดเลย กอดให้หายคิดถึงไง ...”
ธวัฒน์อ้าแขนออก ยิ้มหน้าบาน เตรียมตัวให้อีกคนเข้ามากอดเต็มที่ ... ให้สมกับความคิดถึงตลอดสามเดือน ...
“ใคร !! ใครคิดถึงพี่มิทราบ ...”
จมูกรั้นๆ ยื่นออกมาอีกแล้ว ... ตาก็ยังไม่ทันจะหายแดง แถมน้ำตายังไม่แห้งด้วยซ้ำ ... ทำให้ธวัฒน์อดหมั่นไส้ไม่ได้ ...
“ยังไม่หายใช่ไหมเนี่ย นิสัยรั้นไม่เลิก ... อย่างนี้มันต้องโดนซะบ้างจะได้สำนึกว่าทำให้คนอื่นเค้าเป็นห่วงขนาดไหน ...”
ธวัฒน์เงื่อมมือขึ้น ... ทำให้ยืนนิ่งหลับตาปี๋ด้วยเพราะไปยั่วโมโหคนเอาแต่ใจเข้า งานนี้สงสัยอาจจะโดนต่อยแน่ๆ ... จนไม่กล้าลืมตามองเลยด้วยซ้ำ แต่แค่เสี้ยววินาทีผ่านไป ... กลับไม่มีอะไรกระทบหน้าอย่างที่คิด แต่กลับเป็นริมฝีปากอุ่นประทับลงบนริมฝีปากของเค้าแทน ... เมื่อนัทลืมตาขึ้นมองก็เห็นเพียงนัยน์ตาของธวัฒน์ที่มองลึกเข้ามาในตาของเค้าอย่างมีความหมายและอบอุ่น ...
“พี่รักนัทนะครับ รักมาก ... รักมานานแล้วด้วย ...”
“แล้วคุณภัท...”
“ชี๊ส์ ... อย่าพูดถึงเค้าอีกเลยนะ เพราะเค้าเลือกที่จะไปจากพี่แล้วล่ะ พี่จะบอกอยู่พอดีแต่เด็กใจน้อยคิดมากหนีมาซะก่อน”
“ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ ถ้าผมนิสัยเด็กนักก็ไปรักคนอื่นซิ ...”
“แต่พี่รักเด็กเอาแต่ใจ นิสัยไม่ดีไปแล้วนี่นา ... จะทำยังไงล่ะ ...”
“รักแล้วไงล่ะ ...”

จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ !!....

นัทหน้าแดงด้วยความเขิน เพราะไม่ทันจะพูดจบธวัฒน์ก็เล่นระดมจูบไปทั่วแทบจะยืนไม่อยู่ ...
“แค่นี้พอไหมล่ะ เด็กดื้อ ... หัดฟังคนอื่นพูดซะมั้งดิ ...”
“ผ...ผมไม่ได้หมายความว่าให้ทำอย่างนี้ซะหน่อย ...”
“ถ้ารักแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลหรอก ไม่ว่าเค้าจะเป็นยังไงก็ตาม เราก็ยังคงรักเค้าตลอดไป ... ไม่เปลี่ยนแปลง ... นัทก็คงรู้สึกอย่างเดียวกับพี่ใช่ไหมละครับ ...”
นัทพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ... เพราะตอนนี้เค้าก็ไม่อาจจะปฏิเสธหัวใจตัวเองได้อีกต่อไปแล้วเช่นกัน ... ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไงเค้าจะไม่เสียใจเลยที่ได้รักเค้าคนนี้ ...

“ถึงจะขี้งอนไปหน่อย ... เถียงเก่งไปนิด ... ก็เถอะนะ”
“พี่วัฒน์ !!!
“555 พี่พูดเล่นนะครับ พูดเล่น ...”
“เฮอะ ฝากไว้ก่อนนะครับ ... ว่าแต่พี่วัฒน์รู้ได้ไงครับว่าผมอยู่ที่นี่อ่ะ ...”
“ทีแรกพี่ก็ไม่รู้หรอก จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว โรงงานที่เชียงใหม่ส่งประวัติพนักงานใหม่เข้าไปที่บริษัท เพื่อให้รับรองการผ่านงาน ...”
“ห๊า !! อย่าบอกนะว่า พี่เป็นเจ้าของโรงงานที่ผม ผม ...”
“555 ก็ใช่นะซิ ... อย่างนี้แหละน๊า ... เกิดมาคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันหรอก จะหนียังไงก็หนีไม่พ้น ... จริงไหม”
“เรื่องให้ย้ายมาอยู่ที่นี่ก็เป็นฝีมือพี่ด้วยใช่ไหมล่ะ ...”
“แน่นอน ... ไม่งั้นจะมีพนักงานที่ไหนได้มาพักรีสอร์ทรับรองของบริษัทได้ล่ะ นอกจากสะใภ้ของคุณหญิง ...”
“พี่วัฒน์ !!! พี่วัฒน์บอกผู้จัดการอย่างนี้หรอ ตาย ต้องตายแน่ๆ ถึงว่าทำไมเค้ามองผมแล้วยิ้มๆ ตอนที่ให้ย้ายมาอยู่ด้วยอ่ะ ไม่ต้องเลยไม่ต้องมายิ้มเจ้าเล่ห์เลย ไปแก้ข่าวด้วยนะ ไม่งั้นมีเรื่องแน่ ... คอยดูนะ”

Never Ending for Love Story …
เรื่องราวของความรักไม่มีวันจบครับ จะสุขหรือทุกข์ สมหวังหรือผิดหวัง ก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนที่จะประคับประคองให้ความรักนั้นผ่านพ้นช่วงเวลาต่างๆ ไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า ... เรื่องราวในเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อให้ความสุขกับผู้อ่าน หวังว่าคงจะสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามมาโดยตลอดคร้าบบบ ...

********************* จบ ********************
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 24-05-2007 00:09:45
 o12 o12  ทำไมยอมง่ายจังคับนัท  :laugh: :laugh:

ล้อเล่นนะครับ  จบน่ารักๆแบบนี้ดีแล้วหล่ะครับผม :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-05-2007 00:59:40
ขอบคุณคนแต่ง คนโพสจ๊ะ

ลุ้นแทบแย่กว่าจะลงตัว
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-05-2007 09:09:42
เหอเหอ จบแบบเหนือความคาดหมาย

ขอบคุณ JmAc สำหรับเรื่องราวดีๆ

ขอบคุณ VicOSe ที่เอาเรื่องดีๆ มาลงให้อ่านกัน

ขอบคุณ เซ็งเป็ด ที่ทำให้เรารู้จักกัน

ขอบคุณ หนูบลู สำหรับเล้าดีๆ

ขอบคุณคนอ่านทุกคน

ขอบคุณครับ

 o14 o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 24-05-2007 18:22:12
สนุกมากเลย  :impress2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-05-2007 18:35:49
หุหุ จบได้แบบช่องเจ็ดสีมั่ก ๆ  :interest:
ขอบคุณคนแต่ง ขอบคุณคนโพสต์ เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ  o15  o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: mumumama ที่ 24-05-2007 18:43:09
 o15 o14 ขอบคุณนะครับ o15 o14
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 24-05-2007 21:23:54
ชอบครับ ขอบคุณสำหรับนิยาย สนุกๆครับ o15 :like6:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 24-05-2007 22:42:12
เป็นอีกเรื่องนึงที่ชอบมากๆ 
อ่านแล้วน่าติดตามดี  มีความหวาน พ่อแง่แม่งอน ปนน้ำเน่าพอหอมปากหอมคอ  :laugh3:

ขอบคุณคุณ JmAc คนแต่งน้า  เก่งๆ
ขอบคุณน้องหมีคนโพสด้วยจ้า  น่ารักมากมาย 

 o15  o15  o15  o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Daow ที่ 26-05-2007 12:57:12
อ่านแบบรวดเดียวจบ หยุดไม่ลงจริงๆ ค่ะ เป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ

ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องราวดีๆ นะคะ o15
และขอบคุณคนเอามาลงที่มาแนะนำเรื่องราวดีๆ ค่ะ o14
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: chiaki ที่ 11-06-2007 13:11:58
จบได้น่ารักจังเลย :-[ เราแอบกรี๊ดๆ ด้วยแหละ

ขอบคุณคุณคนแต่งมากๆค่ะ ที่แต่งมาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: t_warawut ที่ 22-07-2007 14:27:02
Thank you very much  o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 22-07-2007 17:17:39
 :m3: อ่านจบแว้วววว   จบได้น่ารักมากกกกก

สุดท้ายแล้วนัทก็มีความสุข  เย้~  :m1:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: joopnarak ที่ 30-07-2007 20:00:28
 :m23: ทำเอาน้ำตาไหลไปหลายตอนเลยน่ะเนี่ย เหอ ๆ ๆ
...เอาไปสร้างเป็นละครเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 31-07-2007 22:04:18
 :m3: :m3: :m3: :m3:

อ่านตั้งกะเมื่อคือนแล้ว เพิ่งจบม่ะกี้  ลุ้นมากๆ เลย

แต่ว่าก็จบได้อย่างน่ารักมากๆๆๆ   :m1:

แอบคิดเล็กๆนะ  ว่านัทน่าจะทำไรแก้แค้นพระเอกบ้าง ((หมั่นไส้เล็กน้อยตอนที่อ่าน))

แต่ก็สนุกจ้า   :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: ^ - ^A s A v I n * o * ที่ 31-07-2007 22:07:01
ผมเคยอ่านในเวปเก่าอ่าครับ คนแต่งเขาบอกว่า จะมีภาคต่อด้วย ของคนอื่นๆในเรื่องอ่าครับ

อยากอ่านจังเลย รบกวนคนโพส ช่วยติดตามทีนะครับ หรือ คนที่เข้ามาอ่านก้อได้

ช่วยๆกันหานะครับ ว่ายังมีอ่ะป่าว

 :m5: :m12:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: jibi ที่ 02-08-2007 18:37:50
เป็นอีกเรื่องที่ชอบมาก ๆ o13

จบได้ถูกใจผมมาก ๆ :o8:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 29-08-2007 13:40:27
 :give2:ง่า  ..........ง่างงงงง
ชอบอย่างแรง o15
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 30-08-2007 00:20:30
 :m18: เฮ้ยยยย กว่าจะอ่านจบก็ แทบตาย 

แต่วันนี้ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลยอ่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :o12:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 05-10-2007 21:36:15
โอ้ยยย!!!   มีความสุขเหลือหลายยยยยย


ขอบคุณคนโพสกับคนเขียนด้วยนะคับ

ที่อุตสาห์เอาเรื่องราวดีๆแบบนี้มาให้พวกเราได้อ่านกัน


ขอบคุณคราบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: lovesick ที่ 08-10-2007 23:25:01
ขอบคุณนะครับ สนุกดีครับ จะติดตามผลงานต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 11-10-2007 00:27:08

        สนุกดีคับ แต่ plot เรื่องมาแนวหนังไทยนะคับ  ขอแนวเกาหลีได้ปะ    แทรนด์ดี   :m3: :m1: :m18:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: box_breathe ที่ 25-10-2007 01:38:30
อยากเป็นสะใภ้ของคุณหญิงบ้างจัง

                 :m3:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 12-11-2007 12:52:22
 :impress:
เป็นอีกเรื่องที่ค้างคามาจากบอร์ดอื่นนนน....ได้มาอ่านจนจบที่เล้าเป็ดนี่ละ...ขอบคุณค๊าบบบบ
ขอบคุณคนแต่งและคน post มากมายค๊าบบบบบ.....

อ่านแล้วสงสารนัท....เหมือนดูชีวิตดาวพระศุกร์ภาคผู้ชายไงงั้นเลยยยย... :m15:
สงสารตอนแม่นัทเสียมากกก และก็ชอบตอนสับห้องนอนโดยเหล่ากามเทพ...
แต่รู้สึกเหมือนรวบรัดเนื้อเรื่องไปนิดส์...รู้แต่คู่นัทกับวัฒน์...อยากรู้เรื่องคู่อื่น ๆ ด้วยอ่ะดิ
อย่างบอลกะเอก ภาณุ แทนไท หรือแม้แต่ยัยตัวร้ายภัทร.... :m26:

จบอย่างมีความสุขไปอีกหนึ่งเรื่องงงง ดีใจมากมายยยย ฟ้าหลังฝนสดใสจริง ๆ... :give2:
 o14 o15

ปล. +1 ให้เป็นกำลังใจจจจค๊าบบบบ



หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 24-01-2008 21:49:22
ง่า...แล้วบอลกะเอกล่ะ??? :m21:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: artkung ที่ 25-01-2008 08:05:05
เห็นว่าเค้าจะแต่งภาค2 ด้วยนิครับ แต่ไม่รู้ว่าไปลงบอร์ดไหนเนี่ยสิ  o12
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 25-01-2008 10:58:49
กลับมาอ่านอีกรอบ น้ำตาไหลไม่หยุดเลยครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 25-01-2008 13:09:13
ขอบคุณน้องหมีกับคุณjmcมากๆนะครับผมที่เรื่องดีๆมาให้อ่านกันนะครับผม :pig4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 28-01-2008 20:07:59
 :m23:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: sirasyung ที่ 05-03-2008 21:24:47
ขอบคุณนะคร๊าบที่นำเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน

ชอบมากเลยคร๊าบ   :oni2:

 ปูลู....ยังอยากอ่านต่ออยู่เลยอ่ะ จะมีภาค 2 มั้ยเนี่ย!!!   :bye2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: palpouverny ที่ 07-03-2008 05:39:03
โอ้ ตอนแรกอ่านนึกว่าจำเลยรัก
น่ารักดีก๊าบเรื่องนี้ ว่าแต่ไม่มีตอนพิเศษ
หรอเนี่ย ถ้ามีก้อมาลงไวๆๆเน้อ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: fantastic_7 ที่ 08-03-2008 05:08:32
 :m24: :m4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 13-03-2008 00:21:04
ละครช่อง 3 ก็จบลงแบบแฮปปี้ :oni2:

แต่เซ็งนังชะนีจริงๆเลย :angry2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Gussohigh ที่ 18-03-2008 22:03:37
น่ารักกันจัง อ่านยังไม่จบ งิ หุหุ

แต่ชอบจัง  :oni2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Plabu ที่ 18-03-2008 23:29:40
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด :m1:
หวานกันจิงๆคู่นี้ :m25: :m1:
อ่านรวดเดียวจบเลยอิอิ :m13:
ชอบน้องนัทอ่ะ :m1:
น่ารัก :m1:
น่าสงสารภานุเนอะ
อกหัก
รักคุด
ตุ๊ดเมิน
ไปเลย
อิอิ :mc4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: tenjoin ที่ 19-03-2008 01:24:27
สนุกอ่าคับ

ยังอ่านไม่จบเลยเดียวมา

อ่านต่อคับ

 o7
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Gussohigh ที่ 19-03-2008 15:57:28
งิงิ แฮปปี้เอ็นดิ้ง อ่านจบ แล้วงิ

ขอบคุณครับสำหรับเรื่องราว ดี

อยากอ่านภาค 2 งิ

สู้ๆ  o7
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: tenjoin ที่ 19-03-2008 22:04:19
มันอ่า มัน มัน มัน

น่าจะมีตอนพิเศษ อ่า

อิอิ

 :oni2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: reu_aha ที่ 21-03-2008 22:27:22
ขอบคุณค่ะ


ที่ให้ได้อ่านเรื่องดีๆ

คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอกเนอะ ;p
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: kwa ที่ 03-04-2008 14:48:58
อ่านรวดเดียวจบ

มีครบทุกรสเลยค่ะ ซึ้ง เศร้า เครียด แค้น ฯลฯ

สนุกมากๆ อยากให้มีตอนพิเศษจัง  :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: archi_10_001 ที่ 14-07-2008 20:44:32
 :m13: :m13:

ครบครันในเรื่องเดียว สนุกสุดใจเจ้าค่ะ

ขอบคุณมากๆ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: zaphir ที่ 16-07-2008 16:09:55
จริงอย่างว่าคร้าบบบบ
คู่กันแล้ว ไม่แคล้วกัน
เจงๆๆๆ
ขอบคุณครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: phak ที่ 23-08-2008 22:36:57
เรื่องนี้ซึ๊งมากกกกอะครับ o7 o7 o7 :m1: :oni2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: HaLF333 ที่ 27-08-2008 01:08:35
สมชื่อเรื่องจริงๆ "ไม่ง่ายนัก.....รักนี้"  o13
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 12-03-2009 03:09:54
 :m1:






 :pig4:





หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 20-03-2009 13:58:18
เป็นอีกเรื่องที่จบอย่างแอปปี้
 :m1:  :m3: :m1: :m3:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 22-03-2009 02:03:17


น่ารักจังเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีดี ^^


 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 28-03-2009 07:24:22
กว่าจะได้รักกัน มันไม่ง่ายจริงๆเลยเนาะ  :กอด1:



อยากให้มีตอนพิเศษบ้างจัง  :haun4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 19-04-2009 02:10:19
สนุกจริงๆๆ ค้าเรื่องนี้
อ่านแล้ววางไม่ได้เลย
ตอนจบแอบร้องไห้ด้วย อิอิ o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: stayingpower ที่ 19-04-2009 04:47:03
 o13


มีแอบน้ำตาไหลตอนจบด้วยละฮะ ขอบคุณมากค๊าบบ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: mk_restaurant ที่ 19-05-2009 04:06:19
ขอบคุณคร๊าบบบบบบ
น่าจะมีละครหลังข่าวแบบนี้บ้าง
จะนั่งดูทุกตอนเลย
5555555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 20-05-2009 21:50:42
 :pig4:
ขอบคุณฮะ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-05-2009 00:35:10
หุหุหุ
หยั่งกะดูละครหลังข่าวช่องน้อยสี หรือช่องหลายสี
เข้มข้น มันหยด พะยะค่ะ

ขอบคุณไรท์เตอร์ และก็ผู้โพสด้วยนะคะ
สนุกมากๆเลยค่ะ
แต่ขอนิดนึง เราว่าตอนจบมันยืดได้อีกนะ
คือแบบว่า ยังไงดีล่ะ มันจบง่ายไปหน่อยนึง (มั้ง)

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: patiharn ที่ 25-05-2009 03:37:21
เห็นด้วยคะกับเสียงส่วนใหญ่  เหมือนละครหลังข่าวมาก  555 ยกเว้นตอนจบไม่ยืด
แต่ก็ชอบจัง ติดยังกะตังเม อะไรประมาณนั้น  อ่านกันข้ามคืนเลยทีเดียว
ขอบคุณคนแต่งและคนโพสต์จ้า
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: olar74 ที่ 26-05-2009 21:23:10
เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่รักเด็ก..   o18
แต่คนเราน่ะ.. ถ้าคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน...  :give2:

 :fox2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 28-05-2009 17:52:52
น่ารักดีครับ เสียดายแต่ตอนจบรวบรัดไปหน่อย
อย่างแรกทำไมนางมารร้ายถึงยอมออกไปจาก
ชีวิตพระเอกง่ายจัง
สองนายเอกเรายอมง่ายจังอ่ะ หนีมาตั้งไกล
พอพระเอกมาง้อแล้วก็ยอมเลย
สาม แล้วตอนหลังทำไม พวกเพื่อนของนัท เจ้า
จอมวางแผนหายไปไหนหมด
ผมว่าถ้าไม่ลืมจุดพวกนี้ จะทำให้เรื่องสมบูรณ์
มากขึ้นนะครับ
ขอบคุณทั้งผู้แต่งและคนโพสนะครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: poffy ที่ 23-09-2009 00:14:54
 o13 o13 o13
สนุกมากๆค่ะ ไม่อยากจะบอกว่าลุ้นตัวโก่งไปด้วยทุกฉากเลย
แบบว่าคิดไปต่างนานาๆ ทั้งสงสารนัท
อะไรกันเนี่ยทำไมถึงได้อาภัพขนาดนี้
พี่วัฒน์นี่รักจริงดีมากๆเลยค่ะ
แต่ชอบตอนที่นัทงอนๆนะ น่ารักมากๆเลย  :-[
แต่แหม พี่วัฒน์คะ ไปบอกรักเค้าครั้งแรกก็ทำให้เค้าเจ็บปวดเลยนะ ชิชิ  o18
ชอบภาณุมากๆเลยค่ะ แล้วอย่างนี้ภาณุต้องไปแย่งบอลกับเอกป่ะเนี่ย  o18
ขอบคุณคนโพสต์และคนแต่งมากๆลยค่ะ :L2: :pig4: :L1:
สนุกมากๆๆๆๆๆ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 16-01-2010 10:57:29
สนุกดีค่ะ  o13
อารมณ์ประมาณละครช่อง 7 เลย หุหุ  :m3:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: seedsaRT ที่ 30-01-2010 23:51:24
ขอบคุนนะครับบ  :pig4:


ถึงจะจบเร็วไปหน่อย


หวังว่าคงเอาเรื่องดีๆแบบนี้มาไห้อ่านอีกนะครับ

 :bye2:

หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: amphetaminy ที่ 31-01-2010 03:01:46
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 01-02-2010 20:23:11
อ่านจบแล้ว สนุกมากเลย
อ่านแล้วสงสารนัทเลย แอบ
รู้สึกบีบีหัวใจไปตามนัทเลย

ขอบคุณนะจ๊ะๆๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 13-03-2010 16:00:43
ไม่ง่ายสมกับชื่อเรื่องเลยค่ะ
สงสารน้องนัทมาก นายเอกเรารันทดหลาย
ส่วนพี่วัฒน์ รักน้องมากๆ นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 05-05-2010 20:24:06
น่า้รักจ้าาาาา

หุหุ สมหวังสักที
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: FunnYtooN ที่ 06-05-2010 00:40:55
น่ารักดีอ่า ขอบคุณมากๆ นะค่ะ

คู่กันแล้วคงไม่แคล้วกันหรอก อิอิ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: ladajuk ที่ 02-06-2010 22:39:36
 :L1:   ขอบคุณมากครับ สนุกมาเลยครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 07-06-2010 06:21:45
^
^
^
เจาะไข่รีบน +1ให้เป็นการรับน้องใหม่ค่า


แฮปปี้ๆ ดีจัง ช่วงนี้ไม่ค่อยเจอแซดเอนดิ้งเท่าไร ปลอดภัยกับความดันโลหิตหน่อย55+
ขอบคุณทั้งผู้แต่งและผู้โพสต์นะคะ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 08-06-2010 00:35:54
ตอนแรกที่มาอ่านก้อนึกว่าจะง่ายๆๆ

จิงๆๆ แล้วก็ไม่ง่ายจิงๆๆแหละ รักครั้งนี้ๆๆๆ


เพลินมากๆๆเลยคับ

แต่ยัยภัทรน่าจะโดนมากกว่านี้ๆๆ

ดีใจที่คุณหญิงแม่ใจดีๆๆๆๆๆ ให้ลูกได้คบกัน

ถ้าเป็นเรื่องจิงก้อคงจะเลือกยาก และทำใจยากมากๆๆ 

ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆๆมาแบ่งปันนะคับๆๆ

^^



หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaput ที่ 03-07-2010 10:02:31
อ่านจบแล้วๆ  ชอบมากมายคับ  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Pi_neko ที่ 06-07-2010 19:01:14
น่ารักมากๆๆๆๆๆๆ

อ่านรวดเดียวเลย

นี่ๆๆ อยากอ่านตอนพิเศษของ เอก บอล แล้วก็นุ ด้วยคะ 5555 ไม่ใช่ 3Pนะ

ขอบคุณมากนะคะที่เอามาแบ่งปัน ^^
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-07-2010 17:25:21
กว่าจะรักและลงเอยกันได้ ก็ลุ้นแทบแย่ :z3:
ขอบคุณนะคะ สนุกมากเลยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: pupuzaa ที่ 10-07-2010 18:57:16
กว่าจะรักกัน

อุปสรรคช่างมีมากเหลือเกิน

แต่ก็ลงเอยด้วยดี^^
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: MaZeltoV ที่ 11-08-2010 09:44:47
กว่าจะรักกันได้แต่ละคู่ ทำเอาคนอ่านเสียเลือดไปเยอะเลย  :z1:

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่เอามาให้อ่าน
 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Chocolate108 ที่ 14-08-2010 11:46:36
อ่านรวดเดียวจบเลย

สนุกมาก ๆ

มีหลายอารมมากเลยอ่านแล้งร้องไห้เลยอะ

TT' แต่บ้างอารมก้อยิ้มนะ น่ารักมากเลย

ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ คะ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Wr@iTh ที่ 16-08-2010 05:13:09
น่ารักแล้วก็สนุกดีค่ะ  :m4:
ให้อารมณ์ประมาณเดียวกับการดูหนังเลย :m1:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 16-08-2010 06:36:34
นั่งอ่านตั้งแต่ตีหนึ่ง มาจบเอาตอนหกโมงครึ่ง
โอ้ว วว โนวว ว

สมกะชื่อเรื่องจริงๆค่ะ ไม่ง่ายนัก รักนี้ ^^
กว่าจะลงเอยกันได้เล่นลุ้นซะ
อุปสรรคมันช่างเยอะจริงๆ

ขอบคุนไรท์เตอร์มากๆค่ะ ที่ทำหั้ย
ได้อ่านเรื่องดีดีแบบนี้

 o13 o13
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 13-09-2010 18:29:16
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีดี ^^  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc จบแล้วค๊าบ
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 14-09-2010 12:56:22
เน่าดีจังเลย ชอบอ่ะ 5555+
แต่ดีกว่าละครหลังข่าวที่ว่า นายเอกไม่ได้อ่อนแอยอมไปซะหมด 5555+
จิงๆแล้วเเรื่องมันไม่เป็นไปตามแผนของนังตัวร้ายภัทร ก็เพราะตัวเองล้วนๆเลย
ในชีวิตจิงๆคนเราจะมีนิสัยแบบนี้จิงๆหรอเนี้ย แบบนภัทรเนี้ย  เฮ้ออ สังคม

แต่สนุกดีนะ อยากอ่านเรื่องอื่นอีกมีมั้ยเอ่ยยย
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 08:07:19
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 29-01-2011 22:17:53
เรื่องนี้หนุกมากมายเลยครับ

แล้วก้อหมั่นไส้นังภัทรมากๆๆๆอ่า

สงสารหนูนัททั้งเรื่องเลย

แต่ในสุดท้ายก้อ แฮปปี้ เอนดิ้ง

ขอบคุนไรเตอร์มากๆนะครับ

ที่แต่งเรื่องมาให้พวกเราอ่านกัน
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Oḇlivïaté℠ ที่ 08-02-2011 20:09:55
เข้ามาอ่านอีกรอบ ... ก็ยังเศร้าเหมือนเดิม :)
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: mook0007 ที่ 08-02-2011 22:40:41
สนุกดีค่ะ  ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆแบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: armlovebos ที่ 10-03-2011 02:14:34
ชอบอะชอบมากด้วย... o13 o13
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: meki ที่ 23-01-2012 22:08:28
ร้ากกกคุณหญิงแม่มากกกกมายยยย
เข้าใจลูกชายจริงๆๆๆ

ชอบเรื่องนี้มากจ้า^^
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: run2522 ที่ 24-01-2012 17:29:28
 :L2: :L2: :L1: ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่แต่งให้อ่านเน้อ รักคนแต่งจังเลย :L2: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-01-2012 21:09:18
ชอบเพื่อนๆของนัทจัง ทันเกมยัยคู่แม่-ลูกตัวร้ายดี o13
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 27-01-2012 08:09:33
เรื่องนี้สนุกดีฮ๊าฟฟฟฟฟ
ทำเอาเศร้าไปหลายตอน
แต่ก็จบได้ประทับใจดี
ขอบคุณนะฮ๊าฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: kolapapaya ที่ 27-01-2012 20:06:30
น่ารักๆๆค่าาาา นัทนายเอกหนังไทยมากๆ เรียบร้อย+เสียสละสุดๆ

วัฒน์ก็โง่อยู่นานนนนนนเลยอะ กว่าจะคิดได้..คนอ่านเหนื่อย 5555

ภานุน่ารักดีอะ น่าสงสาร รักนู๋นัทข้างเดียว

ขอบคุณ JmAc กับ VicOSe มากๆๆค่าาาา
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 05-02-2012 15:54:52
ชอบอ่ะสนุกดี ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจ้า
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: yamanaiame ที่ 27-07-2012 21:38:40
อ่านจบรอบสองแล้วว ชอบเรื่องนี้ มาก
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: l3lack_BMZ ที่ 30-07-2012 04:06:38
Happy Ending
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 09-08-2012 16:45:49
ขอบคุณค่ะ สนุกมาก ^^
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: laplace ที่ 12-08-2012 21:21:40
สนุกดีครับ แต่จบเร็วไปนิด  ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-08-2012 12:31:38
ชอบๆ :)
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-08-2012 12:33:05
ชอบๆ :)
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 10-06-2013 22:45:29
เรื่องนี้สนุกมากครับ อ่านแล้วรับรองไม่ผิดหวัง
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: B_O_M ที่ 12-06-2013 00:57:39
สนุกมากครับ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 04-11-2014 11:29:15
ขอบคุณนะครับ น่ารักมากครับเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 17-02-2015 16:46:54
ถึงจะผ่านไปนานแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังสนุก หน่วง ซึ้ง
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 18-02-2015 20:46:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-04-2017 11:06:30
กลับมาอ่านอีกรอบ
ลืมเนื้อเรื่องไปหมดล่ะ
เหมือนได้อ่านนิยายเรื่องใหม่
ก็มีน้ำตากันไปพอสมควร
ดราม่าเข้มข้น ประหนึ่งดูละครหลังข่าว อิอิ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 14-08-2021 06:04:32

“ตื่นแล้วซินะ ฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอน่ะ ถึงได้มานั่งหลับสบายใจแบบนี้”
 
พระเอกปากหมามาก กัดไม่หยุด หาเรื่องตลอด ให้คุณหญิงแม่พาไปผ่าหมาออกจากปากบ้างนะ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 14-08-2021 09:33:59
สนุกมากๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 16-08-2021 15:45:56
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 16-11-2021 00:32:38

ธวัฒน์ยังทำสีหน้าเฉยชา เหมือนเดิม และดูเหมือนจะเย็นชามากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ เมื่อมองนัทที่นั่งอยู่กับพื้น
“เธอ ... ไม่มีสิทธิ์จะเรียกชื่อฉันห้วน ๆ แบบนั้นนะ ฉันขอบอกเธอไว้ก่อนเลย”
“ถ้าจะเรียก เธอต้องเรียก คุณธวัฒน์ อย่าให้ฉันได้ยินอีกเป็นครั้งที่สองนะ ไม่งั้นน่าดู”
ถูกเลี้ยงมาแบบไหนนิสัยถึงได้เป็นแบบนี้ Like mother like son แม่คงไม่ต่างจากลูกหรอก
หัวข้อ: Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 16-11-2021 00:36:02
ธวัฒน์ ที่ขับรถมาเงียบๆ ก็รู้สึกอึดอัดไม่แพ้กันเท่าไหร่ ปกติเค้าไม่ใช่คนถือตัวอะไร ออกจะเป็นสุภาพบุรุษในสายตาสาวๆ ด้วยซ้ำ แต่เพราะความที่เป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่มีน้อง จึงอาจยังไม่รู้จะวางตัวยังไงกับเด็ก (ถึงจะไม่เด็กแล้วก็เถอะ) จะให้มาเล่นหัว สนิทสนมเหมือนเพื่อนๆ ก็คงไม่ได้ จึงต้องวางท่าเฉยๆ ไว้ก่อน
เฉยหราาาาา เปิดมาก็ปากหมาใส่น้องเลย