มาต่อให้แล้ว ค๊าบบ ชีวิต ช่างเหมือนละคร จิงๆ อิอิ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
27…
ในห้องรับแขก ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงคุณหญิงศศิกานต์และธวัฒน์เพียงสองคนเท่านั้น … เนื่องจากนภัทรและแม่ของเธอกลับไปได้สักครู่แล้ว … สายตาของคุณหญิงยังจับจ้องอยู่ที่หน้าของบุตรชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียว … ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในตัวลูกคนนี้มีเต็มเปี่ยม มากพอที่จะไม่ทำให้คุณหญิงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากความยินยอมพร้อมใจ หรือแม้แต่การใช้กำลังบังคับขืนใจ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะคุณหญิงรู้จักลูกชายที่เธอเลี้ยงมาเป็นอย่างดี …
“ว่าไงล่ะตาวัฒน์ … ดูเหมือนคุณหญิงแต้วจะไม่ค่อยชอบใจเลยนะที่ได้คำตอบแบบนั้นกลับไป …”
“ก็คุณแม่จะให้ผมทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ได้ละครับ ก็ในเมื่อผมยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับภัทร…”
“ทำไม่ล่ะ แม่ว่า แม่เห็นลูกคบหาดูใจกับหนูภัทรเธอมานานพอสมควรเลยนะ…”
ธวัฒน์ทำท่าทางอึกอัก จนเป็นที่ผิดสังเกตของคุณหญิง … ไม่รู้ว่าจะหาคำตอบแบบไหนที่จะทำให้คุณแม่สบายใจขึ้นกว่าเดิมเพราะเท่าที่นภัทรพาคุณหญิงพรทิพย์บุกมาถึงที่บ้าน ก็คงทำให้ท่านกังวลใจไม่น้อย …
“เอ๊อ… คือ…”
“หรือว่าลูกมีคนรักใหม่อย่างนั้นเหรอ … ใช่ไหมตาวัฒน์”
“คือว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อน… ผมคงเต็มใจที่จะแต่งกับเธอครับแม่ … แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับ…”
“หมายความว่าลูกมีคนใหม่…”
“ก็… ก็ไม่เชิงแบบนั้นหรอกครับ เพราะ … เพราะผมคงชอบเค้าอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง…”
คุณหญิงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย … ก่อนจะทำหน้าสงสัยในสิ่งที่ลูกชายกำลังบอกกับตน …
“หน้าตาแบบลูกเนี่ยนะ ตาวัฒน์ … ใครเห็นก็ต้องชอบลูกกันทุกคน แล้วทำไมเค้าถึงไม่ชอบลูกของแม่ล่ะ…”
“เค้าไม่เหมือนคนอื่นครับแม่ … แตกต่างจากทุกคนที่ผมเคยพบมาอย่างสิ้นเชิง …”
คุณหญิงมองหน้าตาเศร้าๆ ของธวัฒน์อย่างเห็นอกเห็นใจในตัวบุตรชายยิ่งนัก จึงเดินไปนั่งข้างๆ พร้อมโอบกอดไว้อย่างรักใคร่ เป็นสิ่งที่เธอมักทำเสมอๆ เวลาที่ธวัฒน์มีเรื่องไม่สบายใจตั้งแต่ยังเด็กจนโต …
“แม่เข้าใจนะลูก … ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ กามเทพมักเล่นตลกกับเราเสมอๆ … แม่เชื่อใจลูกนะตาวัฒน์ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย … แม่ไม่รู้หรอกว่าความจริงมันเป็นยังไงแต่แม่ก็เชื่อมั่นในตัวของลูกเสมอ..”
ธวัฒน์เงยหน้ามามองผู้เป็นมารดาอย่างซาบซึ้ง และโอบกอดแน่นกว่าเดิม
“ขอบคุณครับแม่ ที่เชื่อใจผม …”
“จ๊ะ…และอีกอย่างแม่จะไม่เร่งรัดลูกหรอกเรื่องหนูภัทรน่ะ… ถึงจะให้หมั้นกันไปก่อนก็ตาม แต่เพราะว่ามันคือความสุขทั้งชีวิตของลูก ไม่ต้องมาห่วงชื่อเสียงเกียรติยศของพ่อหรือแม่ทั้งนั้นนะ เพราะชื่อเสียงเกียรติยศมันไม่ยั่งยืนยงไปตลอดหรอก แต่ความสุขของลูกนี่ซิ ที่มันจะอยู่กับลูกไปชั่วชีวิต เมื่อถึงเวลาที่ลูกพร้อมจะรับหนูภัทรเข้ามาในบ้านเราแล้วล่ะก็ บอกแม่ได้เสมอนะ”
“ครับแม่… ผมขอเวลาเพื่อพิสูจน์ให้แน่ใจเท่านั้น ว่าภัทรจริงใจกับผม เมื่อนั้นผมก็พร้อมจะแต่งงานกับเธอครับ ผมเป็นลูกผู้ชายมากพอที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำลงไป แม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม…”
………………………………………………………………………………………………………………………
มีทางสองทางที่ให้ฉันต้องเลือก
เลือกอยู่ทำดีกับเธอ หรือตัดเธอไปจากใจ
มันเป็นสองทางที่ต้องตัดสินใจ
เมื่อเธอนั้นไม่ได้รัก ก็ควรจะไปจากเธอ
ทั้งที่ฉันทำเพื่อเธอทุกอย่าง
แต่ไม่มีวันที่เธอจะมองเห็น
ทั้งที่รู้แต่ใจก็ยังลังเล
ฉันควรจะอยู่หรือไป
ใจหนึ่งก็รัก อีกใจหนึ่งก็เจ็บ
เจ็บที่ยังรักเธอข้างเดียวอยู่ร่ำไป
ใจหนึ่งก็คิดจะเดินไปให้ไกล
แต่อีกใจยังไม่กล้าพอ
เพราะรู้ว่ายังขาดเธอไม่ได้
คำลาสักคำไม่จำเป็นต้องเอ่ย
แค่จากเธอไปอย่างนั้น และอย่าได้หันกลับมา
มันคงง่ายดายไม่ต้องเจ็บค้างคา
ถ้าหากจะยอมตัดใจ เจ็บหนักไปเลยหนึ่งครั้ง
“เฮ๊ย! … ภานุเปิดเพลงอะไรอ่ะ ปิดเดี๋ยวนี้เลยนะ …”
“ทำไมเหรอ … อินขนาดนั้นเลยหรอ เห็นตาแดงๆ เชียว … อย่าบอกนะว่านัทจะร้องไห้อ่ะ”
“ใคร ใครจะร้องไห้ … ฟังเพลงแค่เนี่ยอ่ะนะ ไม่มีทางหรอก นัทไม่ได้แอบชอบใครเหมือนในเพลงนี้นะ…”
“นั่นซิเนอะ ถ้าลองได้แอบรักใครสักคนมันก็คงไม่ต่างจากในเพลงนี้หรอก … มันคงจะทรมานมากแน่ๆ …”
สีหน้าภานุดูจะเปลี่ยนไปนิดนึง ก่อนที่นัทจะได้สังเกตเห็น ภานุก็เปลี่ยนกลับมาเป็นหน้าตาทะเล้นตามเดิมไปแล้ว …
“อืม นั่นซิ … ว่าแต่ภานุยังไม่ได้บอกนัทเลยนะที่คราวก่อนบอกว่าแอบชอบเด็กในคณะวิศวะฯ ที่นัทเรียนอยู่เนี่ย ตกลงใครหรอ…”
“อ๊ะ อ๊ะ … อยากรู้เหรอ … งั้นขยับมาใกล้ๆ ซิเดี๋ยวจะกระซิบบอก … ไม่อยากพูดเสียงดังอ่ะ …”
“โห … อยู่กันแค่สองคนเนี่ยนะ ยังจะกลัวใครได้ยินอีกหรอ … อย่าเรื่องมากน่า … บอกมาเร็วๆ …”
“ไม่เอาอ่ะ ก็ภานุอายพวกจิ้งจกตุ๊กแกนี่นา … กลัวมันจะเอาไปล้อน่ะซิ … ถ้านัทไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไรนะ …”
“ชักจะเวอร์ไปใหญ่เลยนะ … อะ อะ บอกมาซะที …”
นัทที่ลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ ภานุ เพราะความอยากรู้มีชัยเหนือกว่า … พร้อมกับเอียงหูไปใกล้ๆ … ภานุเองก็ยื่นหน้ามาใกล้หูของนัท เหมือนกำลังจะกระซิบความลับสำคัญมากสักอย่าง … แต่ก็ผิดคาด เมื่อนัทต้องหลงกลเข้าอย่างจัง …
จุ๊บ !
“ไอ้ภานุ … แก … แก … เล่นไรว่ะ”
นัทที่โดนขโมยหอมแก้ม … เพราะหลงกลภานุ หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ที่โดนหลอก รีบกระโดดลงจากเตียงหวังจะได้เตะคนสักทีสองทีให้หายแค้น แต่ภานุที่รู้แกว ก็วิ่งแจ้นออกไปจากห้องซะแล้ว … พร้อมกับเสียงตะโกนเข้ามาในห้อง …
“เจอกันพรุ่งนี้นะ แล้วจะมารับไปมหา’ลัย …!!!”
“เฮ๊ย… อย่าเพิ่งหนีซิ กลับมาก่อน … ไอ้บ้าเล่นอะไรแผลงๆ …”
พูดไปก็คงเท่านั้น เพราะตอนนี้ภานุคงไปถึงรถแล้ว … นัทได้แต่กลับมานั่งบนเตียง ใช้รีโมทกดเปลี่ยนสถานีเพลงแล้วต้อง ทอดถอนใจอีกรอบ เพราะเสียงเพลง เพลงเดิมกับที่ภานุเปิดเมื่อครู่ถูกเปิดที่สถานีนี้ด้วย … อยากจะกดเปลี่ยนไปที่อื่น แต่มือมันก็ไม่ทำตามที่ใจสั่ง … จึงได้แต่ฟังต่อไป … และนึกถึงคนที่เค้ากำลังจะแต่งงานและมีความสุข ทำไมกันนะ ทั้งๆ ที่มันน่าจะดีใจที่เค้าคงจะไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของนัทอีก แต่นัทกลับไม่รู้สึกดีใจเอาเสียเลย … แต่น้ำตามันกลับไหลออกมาโดยไม่สามารถบังคับได้ …
ใจหนึ่งก็รัก อีกใจหนึ่งก็เจ็บ
เจ็บที่ยังรักเธอข้างเดียวอยู่ร่ำไป
ใจหนึ่งก็คิดจะเดินไปให้ไกล
แต่อีกใจยังไม่กล้าพอ
เพราะรู้ว่ายังขาดเธอไม่ได้
………………………………………………………………………………………………………………………
ภานุที่เดินลงมาจากห้องของนัท ต้องมาเจอเข้ากับธวัฒน์ที่กำลังคุยกับคุณป้าของเค้า … เมื่อคุณหญิงเห็นภานุ จึงโบกไม้โบกมือเรียกให้เข้าไปหา …
“จะกลับแล้วเหรอ ภานุ ทำไมวันนี้รีบกลับล่ะ ปกติเห็นเฝ้านัททั้งเช้าทั้งเย็นเลยนะ …”
“พอดี วันนี้ต้องไปทำธุระให้คุณแม่ครับคุณป้า … เลยต้องรีบกลับ ยังไงผมก็มารับนัททุกวันอยู่แล้วล่ะครับ …”
“ดีแล้วจ๊ะ … ป้าดีใจนะ ที่ภานุเข้ากับนัทได้ดี … ดีกว่าบางคนในบ้านนี้ซะอีก …”
คุณหญิงเหลือบไปมองลูกชายของตนนิดนึง ก่อนจะหันมาพูดกับภานุต่อ …
“ยังไง … ป้าก็ฝากดูแลนัทเค้าด้วยนะจ๊ะ … จนกว่านัทเค้าจะเรียนจบ และได้งานทำมีชีวิตที่มั่นคง เค้าคงจะต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ … ผมน่ะรักนัทมากเลยครับคุณป้า ไม่ว่านัทเค้าจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรผมจะดูแลอย่างดีเลย …”
คุณหญิงมองหน้าภานุอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ หน้าตาบอกได้ว่ากำลังสงสัยในถ่อยคำของหลานชาย … จนภานุคงจะเพิ่งนึกได้ …
“เอ๊อ … แฮะ แฮะ … ผมหมายถึงนัทเป็นเพื่อนรักของผมน่ะครับ ไม่มีอะไร …”
พูดจบก็หันไปมองหน้าพี่ชายทีนึง ซึ่งตอนนี้ภานุพอจะเอาอารมณ์ได้ว่า ธวัฒน์คงกำลังอยากต่อยเค้าสักหมัดแน่ๆ … เพียงแต่ว่าตอนนี้อยู่ต่อหน้าคุณป้า พี่วัฒน์จึงยังเก็บอาการได้ดีเป็นพิเศษ …
“อืม … เหรอจ๊ะ รักกันไว้นะ นัทเค้าจะได้ไม่เหงา … แล้วเดือนหน้าพี่วัฒน์เค้าจะหมั้นกับหนูภัทร ยังไงป้าฝากเรียนคุณแม่ให้มางานด้วยนะภานุ…”
“หา … เดือนหน้าแล้วเหรอ … แล้ว แล้ว จะแต่งกันเมื่อไหร่อ่ะครับ …”
“คงแล้วแต่พี่วัฒน์เค้าน่ะ ยังไงป้าก็ฝากด้วยนะ …”
“ครับ ครับ … งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ …”
ภานุเดินออกไปที่หน้าบ้านแล้ว โดยมีธวัฒน์เดินตามออกมาด้วย …
“ภานุ …”
“มีอะไรเหรอครับพี่วัฒน์ …”
“พี่แค่ยังไม่อยากให้ภานุบอกเรื่องหมั้น ให้ … นัทรู้น่ะ …”
“ผมว่าพี่ออกจะเห็นแก่ตัวเกินไปนะครับ เรื่องเนี่ยจะช้าหรือเร็วนัทเค้าอยู่ในบ้านนี้ยังไงก็ต้องรู้อยู่ดี …ผมว่าพี่ควรจะหาทางสะสางปัญหาของตัวเองให้ได้ก่อนดีกว่านะ …”
“นายหมายความว่าไง …”
“ก็หมายความตามที่พูดล่ะครับ … พี่ก็ลองคิดดูดีๆ ล่ะกัน …”
ธวัฒน์ได้แต่มองตามรถของภานุที่แล่นออกไปแล้ว … พร้อมกับใบหน้าแห่งความยุ่งยากใจ เพราะเค้าไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ว่าเค้าได้เกินเลยไปกับนภัทร และเวลาที่เค้าขอคุณแม่เพื่อพิสูจน์ความจริงใจของนภัทรล่ะ ถ้าเกิดนภัทรจริงใจกับเค้าจริง เค้าก็คงต้องยอมรับและแต่งงานกับเธอแต่โดยดี และปล่อยมือจากนัทให้ไปกับภานุ คนที่เค้ามั่นใจว่าก็รักนัทอยู่ไม่แพ้เค้าเหมือนกัน …