ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc  (อ่าน 139242 ครั้ง)

kYos

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2: วุ่นวายจริงๆเลย สองแม่ลูกคู่นี้
 :sad4:สงสารนัท  ช้ำใจอีกแร้ววว

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :o12: :o12:  หวังว่านัทคงไม่เตลิดไปนะครับ   :o7: :o7:


ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหมือนละครช่องเจ็ดเลย

แม่ลูกตัวอิจฉา

 o12

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
วัฒน์ต้องรับผิดชอบจริงเหรอ  o9  o9  o9 บอกสิว่าไม่จริง  :dont2:
นังนภัทรอย่างนี้ต้องเจอ  o18

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เหมือนละครน้ำเน่า แต่ว่าชอบอ่ะ  :laugh3:

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อให้แล้ว ค๊าบบ    ชีวิต ช่างเหมือนละคร จิงๆ อิอิ   :teach:

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

27…

ในห้องรับแขก ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงคุณหญิงศศิกานต์และธวัฒน์เพียงสองคนเท่านั้น … เนื่องจากนภัทรและแม่ของเธอกลับไปได้สักครู่แล้ว … สายตาของคุณหญิงยังจับจ้องอยู่ที่หน้าของบุตรชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียว … ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในตัวลูกคนนี้มีเต็มเปี่ยม มากพอที่จะไม่ทำให้คุณหญิงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากความยินยอมพร้อมใจ หรือแม้แต่การใช้กำลังบังคับขืนใจ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะคุณหญิงรู้จักลูกชายที่เธอเลี้ยงมาเป็นอย่างดี …
“ว่าไงล่ะตาวัฒน์ … ดูเหมือนคุณหญิงแต้วจะไม่ค่อยชอบใจเลยนะที่ได้คำตอบแบบนั้นกลับไป …”
“ก็คุณแม่จะให้ผมทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ได้ละครับ ก็ในเมื่อผมยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับภัทร…”
“ทำไม่ล่ะ แม่ว่า แม่เห็นลูกคบหาดูใจกับหนูภัทรเธอมานานพอสมควรเลยนะ…”
ธวัฒน์ทำท่าทางอึกอัก จนเป็นที่ผิดสังเกตของคุณหญิง … ไม่รู้ว่าจะหาคำตอบแบบไหนที่จะทำให้คุณแม่สบายใจขึ้นกว่าเดิมเพราะเท่าที่นภัทรพาคุณหญิงพรทิพย์บุกมาถึงที่บ้าน ก็คงทำให้ท่านกังวลใจไม่น้อย …
“เอ๊อ… คือ…”
“หรือว่าลูกมีคนรักใหม่อย่างนั้นเหรอ … ใช่ไหมตาวัฒน์”
“คือว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อน… ผมคงเต็มใจที่จะแต่งกับเธอครับแม่ … แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับ…”
“หมายความว่าลูกมีคนใหม่…”
“ก็… ก็ไม่เชิงแบบนั้นหรอกครับ เพราะ … เพราะผมคงชอบเค้าอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง…”
คุณหญิงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย … ก่อนจะทำหน้าสงสัยในสิ่งที่ลูกชายกำลังบอกกับตน …
“หน้าตาแบบลูกเนี่ยนะ ตาวัฒน์ … ใครเห็นก็ต้องชอบลูกกันทุกคน แล้วทำไมเค้าถึงไม่ชอบลูกของแม่ล่ะ…”
“เค้าไม่เหมือนคนอื่นครับแม่ … แตกต่างจากทุกคนที่ผมเคยพบมาอย่างสิ้นเชิง …”
คุณหญิงมองหน้าตาเศร้าๆ ของธวัฒน์อย่างเห็นอกเห็นใจในตัวบุตรชายยิ่งนัก จึงเดินไปนั่งข้างๆ พร้อมโอบกอดไว้อย่างรักใคร่ เป็นสิ่งที่เธอมักทำเสมอๆ เวลาที่ธวัฒน์มีเรื่องไม่สบายใจตั้งแต่ยังเด็กจนโต …
“แม่เข้าใจนะลูก … ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ กามเทพมักเล่นตลกกับเราเสมอๆ … แม่เชื่อใจลูกนะตาวัฒน์ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย … แม่ไม่รู้หรอกว่าความจริงมันเป็นยังไงแต่แม่ก็เชื่อมั่นในตัวของลูกเสมอ..”
ธวัฒน์เงยหน้ามามองผู้เป็นมารดาอย่างซาบซึ้ง และโอบกอดแน่นกว่าเดิม
“ขอบคุณครับแม่ ที่เชื่อใจผม …”
“จ๊ะ…และอีกอย่างแม่จะไม่เร่งรัดลูกหรอกเรื่องหนูภัทรน่ะ… ถึงจะให้หมั้นกันไปก่อนก็ตาม แต่เพราะว่ามันคือความสุขทั้งชีวิตของลูก ไม่ต้องมาห่วงชื่อเสียงเกียรติยศของพ่อหรือแม่ทั้งนั้นนะ เพราะชื่อเสียงเกียรติยศมันไม่ยั่งยืนยงไปตลอดหรอก แต่ความสุขของลูกนี่ซิ ที่มันจะอยู่กับลูกไปชั่วชีวิต เมื่อถึงเวลาที่ลูกพร้อมจะรับหนูภัทรเข้ามาในบ้านเราแล้วล่ะก็ บอกแม่ได้เสมอนะ”
“ครับแม่… ผมขอเวลาเพื่อพิสูจน์ให้แน่ใจเท่านั้น ว่าภัทรจริงใจกับผม เมื่อนั้นผมก็พร้อมจะแต่งงานกับเธอครับ ผมเป็นลูกผู้ชายมากพอที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำลงไป แม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม…”
………………………………………………………………………………………………………………………
มีทางสองทางที่ให้ฉันต้องเลือก
เลือกอยู่ทำดีกับเธอ หรือตัดเธอไปจากใจ
มันเป็นสองทางที่ต้องตัดสินใจ
เมื่อเธอนั้นไม่ได้รัก ก็ควรจะไปจากเธอ

ทั้งที่ฉันทำเพื่อเธอทุกอย่าง
แต่ไม่มีวันที่เธอจะมองเห็น
ทั้งที่รู้แต่ใจก็ยังลังเล
ฉันควรจะอยู่หรือไป

ใจหนึ่งก็รัก อีกใจหนึ่งก็เจ็บ
เจ็บที่ยังรักเธอข้างเดียวอยู่ร่ำไป
ใจหนึ่งก็คิดจะเดินไปให้ไกล
แต่อีกใจยังไม่กล้าพอ
เพราะรู้ว่ายังขาดเธอไม่ได้

คำลาสักคำไม่จำเป็นต้องเอ่ย
แค่จากเธอไปอย่างนั้น และอย่าได้หันกลับมา
มันคงง่ายดายไม่ต้องเจ็บค้างคา
ถ้าหากจะยอมตัดใจ เจ็บหนักไปเลยหนึ่งครั้ง

“เฮ๊ย! … ภานุเปิดเพลงอะไรอ่ะ ปิดเดี๋ยวนี้เลยนะ …”
“ทำไมเหรอ … อินขนาดนั้นเลยหรอ เห็นตาแดงๆ เชียว … อย่าบอกนะว่านัทจะร้องไห้อ่ะ”
“ใคร ใครจะร้องไห้ … ฟังเพลงแค่เนี่ยอ่ะนะ ไม่มีทางหรอก นัทไม่ได้แอบชอบใครเหมือนในเพลงนี้นะ…”
“นั่นซิเนอะ ถ้าลองได้แอบรักใครสักคนมันก็คงไม่ต่างจากในเพลงนี้หรอก … มันคงจะทรมานมากแน่ๆ …”
สีหน้าภานุดูจะเปลี่ยนไปนิดนึง ก่อนที่นัทจะได้สังเกตเห็น ภานุก็เปลี่ยนกลับมาเป็นหน้าตาทะเล้นตามเดิมไปแล้ว …
“อืม นั่นซิ … ว่าแต่ภานุยังไม่ได้บอกนัทเลยนะที่คราวก่อนบอกว่าแอบชอบเด็กในคณะวิศวะฯ ที่นัทเรียนอยู่เนี่ย ตกลงใครหรอ…”
“อ๊ะ อ๊ะ … อยากรู้เหรอ … งั้นขยับมาใกล้ๆ ซิเดี๋ยวจะกระซิบบอก … ไม่อยากพูดเสียงดังอ่ะ …”
“โห … อยู่กันแค่สองคนเนี่ยนะ ยังจะกลัวใครได้ยินอีกหรอ … อย่าเรื่องมากน่า … บอกมาเร็วๆ …”
“ไม่เอาอ่ะ ก็ภานุอายพวกจิ้งจกตุ๊กแกนี่นา … กลัวมันจะเอาไปล้อน่ะซิ … ถ้านัทไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไรนะ …”
“ชักจะเวอร์ไปใหญ่เลยนะ … อะ อะ บอกมาซะที …”

นัทที่ลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ ภานุ เพราะความอยากรู้มีชัยเหนือกว่า … พร้อมกับเอียงหูไปใกล้ๆ … ภานุเองก็ยื่นหน้ามาใกล้หูของนัท เหมือนกำลังจะกระซิบความลับสำคัญมากสักอย่าง … แต่ก็ผิดคาด เมื่อนัทต้องหลงกลเข้าอย่างจัง …
จุ๊บ !
“ไอ้ภานุ … แก … แก … เล่นไรว่ะ”
นัทที่โดนขโมยหอมแก้ม … เพราะหลงกลภานุ หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ที่โดนหลอก รีบกระโดดลงจากเตียงหวังจะได้เตะคนสักทีสองทีให้หายแค้น แต่ภานุที่รู้แกว ก็วิ่งแจ้นออกไปจากห้องซะแล้ว … พร้อมกับเสียงตะโกนเข้ามาในห้อง …
“เจอกันพรุ่งนี้นะ แล้วจะมารับไปมหา’ลัย …!!!”
“เฮ๊ย… อย่าเพิ่งหนีซิ กลับมาก่อน … ไอ้บ้าเล่นอะไรแผลงๆ …”
พูดไปก็คงเท่านั้น เพราะตอนนี้ภานุคงไปถึงรถแล้ว … นัทได้แต่กลับมานั่งบนเตียง ใช้รีโมทกดเปลี่ยนสถานีเพลงแล้วต้อง ทอดถอนใจอีกรอบ เพราะเสียงเพลง เพลงเดิมกับที่ภานุเปิดเมื่อครู่ถูกเปิดที่สถานีนี้ด้วย … อยากจะกดเปลี่ยนไปที่อื่น แต่มือมันก็ไม่ทำตามที่ใจสั่ง … จึงได้แต่ฟังต่อไป … และนึกถึงคนที่เค้ากำลังจะแต่งงานและมีความสุข ทำไมกันนะ ทั้งๆ ที่มันน่าจะดีใจที่เค้าคงจะไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของนัทอีก แต่นัทกลับไม่รู้สึกดีใจเอาเสียเลย … แต่น้ำตามันกลับไหลออกมาโดยไม่สามารถบังคับได้ …

ใจหนึ่งก็รัก อีกใจหนึ่งก็เจ็บ
เจ็บที่ยังรักเธอข้างเดียวอยู่ร่ำไป
ใจหนึ่งก็คิดจะเดินไปให้ไกล
แต่อีกใจยังไม่กล้าพอ
เพราะรู้ว่ายังขาดเธอไม่ได้

………………………………………………………………………………………………………………………
ภานุที่เดินลงมาจากห้องของนัท ต้องมาเจอเข้ากับธวัฒน์ที่กำลังคุยกับคุณป้าของเค้า … เมื่อคุณหญิงเห็นภานุ จึงโบกไม้โบกมือเรียกให้เข้าไปหา …
“จะกลับแล้วเหรอ ภานุ ทำไมวันนี้รีบกลับล่ะ ปกติเห็นเฝ้านัททั้งเช้าทั้งเย็นเลยนะ …”
“พอดี วันนี้ต้องไปทำธุระให้คุณแม่ครับคุณป้า … เลยต้องรีบกลับ ยังไงผมก็มารับนัททุกวันอยู่แล้วล่ะครับ …”
“ดีแล้วจ๊ะ … ป้าดีใจนะ ที่ภานุเข้ากับนัทได้ดี … ดีกว่าบางคนในบ้านนี้ซะอีก …”
คุณหญิงเหลือบไปมองลูกชายของตนนิดนึง ก่อนจะหันมาพูดกับภานุต่อ …
“ยังไง … ป้าก็ฝากดูแลนัทเค้าด้วยนะจ๊ะ … จนกว่านัทเค้าจะเรียนจบ และได้งานทำมีชีวิตที่มั่นคง เค้าคงจะต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ … ผมน่ะรักนัทมากเลยครับคุณป้า ไม่ว่านัทเค้าจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรผมจะดูแลอย่างดีเลย …”

คุณหญิงมองหน้าภานุอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ หน้าตาบอกได้ว่ากำลังสงสัยในถ่อยคำของหลานชาย … จนภานุคงจะเพิ่งนึกได้ …
“เอ๊อ … แฮะ แฮะ … ผมหมายถึงนัทเป็นเพื่อนรักของผมน่ะครับ ไม่มีอะไร …”
พูดจบก็หันไปมองหน้าพี่ชายทีนึง ซึ่งตอนนี้ภานุพอจะเอาอารมณ์ได้ว่า ธวัฒน์คงกำลังอยากต่อยเค้าสักหมัดแน่ๆ … เพียงแต่ว่าตอนนี้อยู่ต่อหน้าคุณป้า พี่วัฒน์จึงยังเก็บอาการได้ดีเป็นพิเศษ …
“อืม … เหรอจ๊ะ รักกันไว้นะ นัทเค้าจะได้ไม่เหงา … แล้วเดือนหน้าพี่วัฒน์เค้าจะหมั้นกับหนูภัทร ยังไงป้าฝากเรียนคุณแม่ให้มางานด้วยนะภานุ…”
“หา … เดือนหน้าแล้วเหรอ … แล้ว แล้ว จะแต่งกันเมื่อไหร่อ่ะครับ …”
“คงแล้วแต่พี่วัฒน์เค้าน่ะ ยังไงป้าก็ฝากด้วยนะ …”
“ครับ ครับ … งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ …”

ภานุเดินออกไปที่หน้าบ้านแล้ว โดยมีธวัฒน์เดินตามออกมาด้วย …
“ภานุ …”
“มีอะไรเหรอครับพี่วัฒน์ …”
“พี่แค่ยังไม่อยากให้ภานุบอกเรื่องหมั้น ให้ … นัทรู้น่ะ …”
“ผมว่าพี่ออกจะเห็นแก่ตัวเกินไปนะครับ เรื่องเนี่ยจะช้าหรือเร็วนัทเค้าอยู่ในบ้านนี้ยังไงก็ต้องรู้อยู่ดี …ผมว่าพี่ควรจะหาทางสะสางปัญหาของตัวเองให้ได้ก่อนดีกว่านะ …”
“นายหมายความว่าไง …”
“ก็หมายความตามที่พูดล่ะครับ … พี่ก็ลองคิดดูดีๆ ล่ะกัน …”

ธวัฒน์ได้แต่มองตามรถของภานุที่แล่นออกไปแล้ว … พร้อมกับใบหน้าแห่งความยุ่งยากใจ เพราะเค้าไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ว่าเค้าได้เกินเลยไปกับนภัทร และเวลาที่เค้าขอคุณแม่เพื่อพิสูจน์ความจริงใจของนภัทรล่ะ ถ้าเกิดนภัทรจริงใจกับเค้าจริง เค้าก็คงต้องยอมรับและแต่งงานกับเธอแต่โดยดี และปล่อยมือจากนัทให้ไปกับภานุ คนที่เค้ามั่นใจว่าก็รักนัทอยู่ไม่แพ้เค้าเหมือนกัน …


VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
สงสารทั้งนัท  ทั้ง ธวัฒน์ เลย T T :o12:

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

28...

“เฮ้ย! …นัทเป็นไรว่ะ นั่งเหม่ออยู่ได้ … นั่งเขี่ยข้าวอยู่นั่นแหละ ถ้าไม่กินเดี๋ยวข้าก็แย่งกินซะหรอก …”
เอกที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆ นัท … อดที่จะถามไม่ได้ เพราะตั้งแต่มาเรียนวันนี้ดูนัทจะแปลกไปกว่าเคย เพราะเหม่อลอยเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ … แม้แต่ในห้องเรียนซึ่งโดยปกตินัทจะตั้งใจเรียนเสมอ วันนี้ก็ยังนั่งเหม่อ …
“ม…ไม่ค่อยหิวว่ะ จะกินเหรอ เดี๋ยวยกให้ …”
 บอลหันไปมองหน้าภานุ … ที่น่าจะรู้เรื่องดีกว่าใคร แต่วันนี้ภานุก็ปิดปากเงียบอีกคน  ได้แต่นั่งทานข้าวเงียบๆ สลับกับมองนัทที่นั่งใจลอย … จึงทำให้วันนี้ไม่มีเสียงทะเลาะของภานุและเอกให้ได้ยินเลยแม้แต่ครั้งเดียว …
“ไม่ต้องไปแย่งนัทกินเลยนะเอก ถ้าไม่อิ่มก็ไปซื้อใหม่เลยไป …”
บอลหันไปดุเอกที่ทำท่าจะเอื้อมไปหยิบจานที่วางอยู่ตรงหน้าของนัท … จนเอกต้องทำหน้าเบ้…ด้วยความเสียดาย …
“ไมอ่ะ … ก็นัทมันไม่กินนี่นา น่าเสียดายออก …”
เอกยังบ่น … แต่เหมือนจะแกล้งบ่นมากกว่าเพราะอยากสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นกว่าเดิม … แต่ก็เหมือนไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย … เพราะนัทยังไม่ยิ้มแย้ม ไม่ขำสักกะอย่าง …
“ภานุไปเป็นเพื่อนบอลถือขนมหน่อยซิ … นะ นะ บอลว่าจะซื้อไปฝากพี่รหัสสักหน่อย …”
“เฮ้ย … เดี๋ยวเอกไปช่วยก็ได้ ไม่ต้องไปกวนภานุมันหรอก ปล่อยให้มันใบ้รับประทานไปแหละดีแล้ว … ว่าแต่ซื้อไปฝากพี่รหัสจริงอ่ะ ทีกับเพื่อนกับฝูงไม่เห็นเคยคิดจะซื้อฝากบ้างเลยนะ …”
เอกดูเหมือนจะพูดออกมาโดยไม่ได้รู้ถึงจุดประสงค์ของบอลเอาซะเลย จนบอลต้องทำตาเขียวให้อย่างไม่พอใจ …
“ไม่ต้องยุ่งเลยกินข้าวไปเถอะ … บอลจะไปกะภานุ เพราะจะให้ภานุขับรถไปส่งที่คณะด้วย เข้าใจ๋ …”

บอลลุกออกไปแล้ว พร้อมกับบอกลานัท เพราะกะว่าซื้อของเสร็จก็จะกลับไปคณะเลย ภานุเองก็ยิ้มให้นัทเหมือนเคยก่อนจะเดินตามบอลออกไป …
“ไรของมันว่ะ ไอ้คู่นี้ชักมีลับลมคมใน … หรือว่าไงว่ะนัท คิดเหมือนกันป่ะ…”
“คงไม่มีไรมั้ง … ว่าแต่เอกไม่ต้องหวงบอลนักหรอกน่า ภานุมันก็เป็นคนดีนะ …”
“อะไร ใครว่าข้าหวงมัน เค้าเรียกว่าเป็นห่วงโว้ย … ใช้คำพูดให้มันถูกๆ หน่อย … ผู้ชายด้วยกันจะไปหวงมันทำไม …”
“นั่นซินะ ลืมไปว่าผู้ชายเหมือนกัน … “
“เอ็งเป็นไรว่ะนัท ทำหน้าเศร้าทั้งวันเลยนะ ยังกะคนอกหักงั้นแหละ มีไรก็บอกเพื่อนมั้งซิ เผื่อจาสบายใจขึ้น …”
“ไม่มีไรหรอกน่า … เพียงแค่ช่วงนี้คิดถึงแม่เป็นพิเศษเท่านั้นเอง นี่ก็ไม่มีจดหมายจากท่านมาหลายอาทิตย์แล้วนะ…”

“จริงหรอ … ก็น่าอยู่หรอก ตั้งแต่เอ็งมาอยู่บ้านพี่วัฒน์นะ เห็นเอ็งบอกว่าไม่เคยโทรมาเลย นอกจากเขียนจดหมายมา…”
“ใช่ … ไม่เคยโทรเลย … แต่ปกติก็เขียนมาทุกอาทิตย์นะ แต่นี่ก็สักสามอาทิตย์แล้วล่ะที่ไม่ได้เขียนมา … พอถามคุณป้าว่ามีเบอร์โทรที่จะติดต่อคุณแม่ได้บ้างไหม ท่านก็ว่าไม่รู้เหมือนกัน …”
“เฮ้ย … อย่าคิดมากเลยน่า ยังไงท่านก็ยังติดต่อมาเรื่อยๆ แหละ ช่วงนี้อาจจะยุ่งมากก็ได้ เลยไม่มีเวลาเท่านั้นเอง … ไปเรียนกันเถอะว่ะ วันนี้ชั่วโมงสุดท้ายมีเรียนกะตาแทนไท ด้วยนะเอ็ง …ไปเหอะ”
นัทและเอก เข้าไปเรียนกับแทนไทในช่วงบ่าย ซึ่งทั้งสองคนก็ลุ้นๆ อยู่ว่าจะมีอะไรหลังเลิกเรียนเหมือนคราวก่อนหรือเปล่า … แต่ก็น่าแปลก ที่วันนี้อาจารย์แทนไท สอนเสร็จก็แค่สั่งงานนิดหน่อย แล้วก็กลับออกไปเท่านั้น … ไม่แม้แต่จะหันมามองเค้าสองคนด้วยซ้ำ …
“เออ ดีว่ะ … ช่วงนี้ดูจะเรียบร้อยขึ้นนะ หลายอาทิตย์แล้วเนี่ยที่ไม่หันมามองข้ากะเอ็งเลย สงสัยจะมีเป้าหมายใหม่แล้วมั้ง …”
“เป้าหมายไรว่ะ พูดไปเรื่อยเลยนะเอก …”
“อ้าว ก็เอ็งไม่ใช่เป้าหมายของเค้าหรอกหรอ…”
“ไอ้บ้า … พูดไรไม่เข้าท่า ไปเหอะกลับบ้านดีกว่าเย็นแล้ว.…”
“เออ … ว่าแต่วันนี้เอ็งกลับกับภานุมันใช่ม่ะ เพราะข้ากับบอลต้องไปงานกับที่บ้านว่ะคงไปส่งเอ็งไม่ได้ …”
“อืม ใช่เดี๋ยวภานุคงมาแหละเอ็งไปรับบอลเหอะ ป่านนี้คอยแล้วล่ะ …”
ที่จริงวันนี้ภานุบอกกับนัทไว้แล้วว่าช่วงสองสัปดาห์นี้จะมีกิจกรรมตอนเย็นที่คณะ จึงให้นัทกลับกับพวกเอก แต่ในเมื่อเอกไปส่งไม่ได้คงต้องกลับเอง และด้วยไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงจึงต้องบอกไปแบบนั้น … นัทนั่งอยู่ที่หน้าคณะโบกมือให้เอกที่ขับรถออกไปแล้ว มองซ้ายมองขวา ก็แทบไม่เหลือใคร เพราะกลับกันเกือบหมดแล้ว … จึงตัดสินใจเดินออกมาหน้ามหา’ลัย เพื่อหารถแท็กซี่กลับบ้านก่อนที่จะเย็นมากไปกว่านี้ … พอเดินเกือบถึงประตูของมหา’ลัยก็มีเสียงรถบีบแตรเรียกอยู่ตรงถนนข้างๆ … จึงหันไปมองโดยอัตโนมัติ และคนที่อยู่ในรถก็คือแทนไท นั่นเอง …
“ว่าไงครับ น้องนัท … กลับบ้านคนเดียวหรอวันนี้ … ขึ้นมาซิครับเดี๋ยวพี่ไปส่ง…”
“มะ…ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกลับเองได้ … เกรงใจครับ …”
“มาเกรงอก เกรงใจอะไรกันล่ะครับ คนกันเอง … เร็วซิครับ รถข้างหลังเริ่มยาวแล้วนะครับ …”
เนื่องเป็นทางเข้าออกในช่วงที่เลิกเรียน … จึงมีรถเข้าออกเยอะมาก และตอนนี้ก็มีรถที่จอดรอคิวให้แทนไท คืนบัตรออกอยู่หลายคัน … และตอนนี้บางคนก็กำลังบีบแตรอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ด้วยความเร่งรีบ … ทำให้นัทเป็นเป้าสายตาของนิสิตที่เดินเข้าออก จนทำให้นัทต้องตัดสินใจขึ้นไปนั่งบนรถของแทนไท … เพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตาของคนอื่น …
“แหม … ขึ้นมาตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องแล้วน๊า …”
“ก็ผมเกรงใจพี่น่ะครับ … อีกอย่างมันก็คนละทางกับพี่เลยนี่ครับ ถ้าไงจอดป้ายรถเมล์ให้ผมเรียกแท็กซี่กลับดีกว่านะ …”
“ไม่ได้หรอกครับ … เพราะอ้อยเข้าปากช้างแล้ว จะปล่อยไปได้ไงล่ะ …”
“พะ…พี่แทน หมายความว่าไงครับ”
นัทถามด้วยเสียงสั่นน้อยๆ … จนแทนไทต้องหัวเราะออกมาอย่างพออกพอใจ … ที่ทำให้นัทกลัวได้ …
“พี่พูดเล่นครับ … อย่าคิดมากเลยนะ เดี๋ยวไปกินข้าวกับพี่สักมื้อแล้วพี่จะพาไปส่งบ้านนะครับ … พี่ยังไม่มีโอกาสฉลองให้เลยนะที่อุตส่าห์สอบได้ที่นี่ …”
“ไม่ต้องก็ได้ครับ … ผมว่าเดี๋ยวที่บ้านจะเป็นห่วงกันนะครับ เพราะปกติผมก็ไม่ได้ไปไหนหลังเรียน …”
“ห้ามปฏิเสธนะครับ และพี่คิดว่านัทโตพอแล้วนะ ที่บ้านเจ้าวัฒน์ก็คงจะเข้าใจ หรือนัทจะให้พี่โทรไปบอกไอ้วัฒน์มันก่อนไหมล่ะ ว่าไปกินข้าวกับพี่ …”
นัทได้แต่คิดไปว่าธวัฒน์นั้นคงไม่มีเวลามาสนใจอะไรเค้านักหรอก เพราะอีกไม่นานเค้าก็จะหมั่นกับนภัทรอยู่แล้ว คงไม่มีเวลามากพอจะมาเข้างวดกับเค้าเหมือนเมื่อก่อน … เพราะเดี๋ยวนี้ธวัฒน์จะกลับบ้านดึกเสมอๆ นั่นก็คงจะไปขลุกอยู่กับว่าที่คู่หมั้นแน่ๆ …
“ม…ไม่ต้องโทรไปบอกก็ได้ครับ … ช่วงนี้พี่วัฒน์ไม่ค่อยมีเวลา เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมไปสร้างความรำคาญให้อีก …”
แทนไท เหมือนจะแอบยิ้มอย่างพอใจ เพราะคิดว่าตอนนี้นัทและธวัฒน์คงจะมีปัญหากันอยู่ ไม่งั้นนัทก็คงจะไม่พูดแบบนี้ ซึ่งก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เค้ามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับนัทมากขึ้นก็ได้ … โดยหลังจากทานข้าวเสร็จ แทนไทก็ไปส่งนัทที่บ้านตามสัญญา …
“โชคดีนะครับน้องนัท แล้วว่างๆ พี่จะมาหาที่บ้านนะครับ …”
“ครับ ขอบคุณมากครับพี่แทน …”
“ราตรีสวัสดิ์นะครับ พี่กลับล่ะ ....”
แทนไท ขับรถออกไปแล้ว … นัทมองไปทางโรงเก็บรถก็ยังไม่เห็นรถของธวัฒน์เหมือนเคย …
“คงจะกลับดึกอีกแล้วซินะ …”
นัทได้แต่บ่นเบาๆ แล้วจึงเดินขึ้นไปบนห้องของตน ...


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :try2: นึกไม่ออกเลยแฮะว่าเรื่องจะจบยังไง  :o11:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
เวรละ ตาแทนก็จ้องจะเข้ามาตีซี้กะนัท ชิ o12
จะไหวมั๊ยเนี่ย...รักเนี้ย?  :impress:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
มันต้องไหวสิน่า  วัฒน์สู้สู้  เพื่อความรัก  :o8:
เรื่องนี้นิยายโคตรๆ น้ำเน่าสุดๆ (แต่ตรูชอบอะไรน้ำเน่าๆ  :haun5:)
ฉะนั้น  พระเอกกับนายเอกต้องอยู่ด้วยกันดิ  มีพวกพระรอง นางอิจฉามาสร้างสีสันละกันนะ

หนุกๆๆๆ  รออ่านต่อจ้า  o15

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
วัฒน์ สู้ สู้ เพื่อนัท :o8:

ต่อไวไวนะรออ่านอยู่  :teach:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o12 o12  ขัดใจอย่างแรง  :angry2: :angry2: คุณพี่วัฒน์เอาแต่หลบหน้าแล้วก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย  แล้วอย่างนี้ก็คงเคลียกับนัทได้หรอกนะครับ o16 o16

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อออ........ไม่ง่ายนัก........รักนี้  -0-  :sad4:

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

29...

งานหมั้นของธวัฒน์ผ่านไปอย่างเรียบง่าย … แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นที่พออกพอใจของฝ่ายคุณหญิงพรทิพย์ไม่ใช่น้อย เพราะขนาดแค่หมั้นก็มีเงินทองของหมั้นมากมาย จนทำให้ตาของคุณหญิงพรทิพย์โตเท่าไข่ห่านและยิ้มไม่หุบตลอดงาน … ความวุ่นวายเดียวก็คงจะเป็นการที่คุณหญิงพรทิพย์เชิญนักข่าวมาให้สัมภาษณ์ในงานด้วย ทั้งๆ ที่ทางฝ่ายธวัฒน์ก็บอกแล้วว่าไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โต … ในงานนี้ แทนไท ก็ได้รับเชิญมาร่วมด้วย ซึ่งดูจะพอใจและดีใจกับการหมั้นครั้งนี้เป็นพิเศษ ส่วนเอกและบอล ก็มาร่วมงานในฐานะเพื่อนสนิทของนัท และนั่นก็คงทำให้บอลพอจะเข้าใจในท่าทีไม่ค่อยสดใสของนัทตลอดระยะเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมา … ภานุก็จะอยู่ข้างนัทเสมอคอยกันท่าแทนไท ที่มักจะเข้ามาคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง … คงมีแต่เอกละมั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็เค้าเร๊ย …
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หลังจากงานหมั้นไม่นาน ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมของมหา’ลัย แทนไทก็เริ่มเข้านอกออกในบ้านของธวัฒน์บ่อยขึ้น … จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นแขกประจำของบ้านก็ว่าได้ … แต่ถ้าวันไหนมาเจอกับภานุแล้วล่ะก็ แทบจะทำให้นัทอยู่ไม่เป็นสุขเพราะต้องคอยกันไม่ให้สองคนนี้มีเรื่องกัน …
“ผมว่ากลับไปก่อนทั้งสองคนเลยดีกว่านะครับ … วันนี้ผมไม่ไปไหนกับใครทั้งนั้นแหละ …”
นัทที่กำลังนั่งอยู่กึ่งกลางระหว่างหนุ่มสองคน ต้องปวดหัวสุดๆ เมื่อประเด็นของการถกเถียงกันก็คือ การที่แทนไทชวนนัทออกไปดูหนัง แต่ภานุก็อยากพานัทไปดูหนังด้วยเหมือนกัน … และนั่นก็ทำให้ทั้งสองหนุ่มต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันและกัน ผลสุดท้ายก็ให้นัทเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกไปกับใคร …

“อ้าว !!!”
ทั้งหนุ่มเล็กและหนุ่มใหญ่อุทานออกมาพร้อมกัน เมื่อนัทตัดสินใจไม่ไปกับใครสักคน …
“ไม่อ้าวล่ะครับ … ผมว่าพี่แทนกับภานุกลับไปเลยทั้งสองคนนะครับ ผมขอวันนึงล่ะ เพราะปวดหัวมากๆ … ผมอยากจะพักผ่อน”
“งั้นให้พี่อยู่ดูแลนะครับ พี่รับรองว่าจะดูแลอย่างดีเลย…”
“ให้ภานุอยู่เฝ้าดีกว่านะนัท … ไม่สบายแบบเนี่ย เดี๋ยวภานุนอนค้างคืนนี้เป็นเพื่อนนะ …”
เมื่อการโต้เถียงเพื่อแย่งกันเป็นหนึ่งทำท่าว่าจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง จึงทำให้นัทต้องรีบห้ามสงครามที่กำลังเกิดขึ้นเสียก่อน …

“ไม่ต้องเลยนะครับ ทั้งสองคน … นัทขอพักผ่อนจริงๆ ขืนมีคนอยู่ด้วยก็ไม่ได้พักกันพอดี นะครับ … ถ้าไม่กลับไปกันล่ะก็งานนี้มีเคืองจริงๆ ด้วย…”
สองหนุ่มมองหน้ากันและกันไปมา เหมือนจะโทษว่าเป็นความผิดของอีกฝ่ายที่ทำให้นัทอารมณ์ไม่ดี … แต่คำพูดของนัทก็ทำให้ทั้งสองคนยอมถอยทัพแต่โดยดี …
“ก็ได้ ถ้านั่นเป็นความต้องการของนัทนะ งั้นวันนี้ภานุกลับก่อนก็ได้ …”
“พี่ก็จะกลับเหมือนกัน เอาไว้พี่มาเยี่ยมใหม่วันหลังนะครับ …”

นัทพยักหน้ารับ และดูจะโล่งใจเมื่อทั้งสองฝ่ายยอมทำตามแต่โดยดี … แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเข้มเมื่อยังไม่มีใครขยับสักคน มัวแต่มองหน้าฝ่ายตรงข้ามอยู่ได้ … เหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่ลุกก็จะไม่ยอมลุกก่อนอย่างไงอย่างนั้น …
“ก็ไปซิครับ จะกลับกันแล้วไม่ใช่เหรอ … นี่ก็เย็นแล้วนะครับ รีบกลับไปกันได้แล้ว … ออกไปพร้อมกันเลยทั้งสองคนไม่ต้องเกี่ยงกันเลย…”
“ค…ครับ ครับ ไปแล้วครับ…”
สองหนุ่มพูดแทบจะพร้อมกัน ก่อนที่ลุกเดินออกไปที่รถ โดยมีนัทเดินออกมาส่งถึงหน้าบ้าน ก่อนสองหนุ่มจะขับรถออกไปก็ไม่ลืมจะหันมาโบกมือลาอีกรอบ … จนทำให้นัทถึงกับต้องส่ายหน้าอย่างระอาใจ … และบ่นกับตัวเองเบาๆ …
“เมื่อก่อนภานุคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่ แต่ไมเดี๋ยวนี้กลายเป็นสองคนไปได้นะ … เฮ้อ !! … ปวดหัวสองเท่า…”
นัทมองจนรถทั้งสองคันพ้นประตูบ้านออกไปแล้ว … และมองเลยออกไปทางสวนหน้าบ้านที่ตอนนี้แสงแดดสุดท้ายของวันเริ่มจางไป … ความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุมทั่วบริเวณ … ทางด้านซ้ายเป็นโรงเก็บรถ ซึ่งวันนี้มีรถของธวัฒน์จอดอยู่ … นึกถึงเจ้าของรถแล้วต้องถอนใจออกมา … ซึ่งตอนนี้น่าจะทำงานอยู่ข้างบน แต่เมื่อกลับหลังจะเดินเข้าบ้านนัทก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆ คนที่เพิ่งนึกถึงก็มายืนอยู่ข้างหลังโดยไม่รู้ตัว … แถมหน้าตายังบอกบุญไม่รับอีกต่างหาก เหมือนไปกินรังแตนมาจากที่ไหน …

“พ…พี่วัฒน์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ…”
“ก็มาทันเห็นคนทอดถอนใจ … ยืนส่งคนรักนะซิ ทำไมเหรอยังเลือกไม่ถูกหรือไง ว่าจะเอาคนไหน …”

“ผมว่าพี่วัฒน์ชักจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วนะครับ … ผมขอตัวดีกว่า จะขึ้นข้างบน …”
นัทดูจะไม่พอใจกับคำพูดของธวัฒน์ที่จู่ๆ ก็มาพูดกระแทกแดกดันเค้า … จึงจะเดินหนีเพื่อตัดรำคาญ … แต่ก็ต้องโดนมือใหญ่ฉุดไว้เสียก่อน
“พี่มันน่ารังเกียจมากหรอ เจอหน้าพี่ทีไรองคอยหลบคอยหนี พี่ต่างจากพวกนั้นตรงไหนกัน …”
“พี่อยากรู้จริงหรอครับ … ถ้าอยากรู้ผมจะบอกให้ พวกเค้าน่ะคอยดูแลผมเสมอ ไม่เคยจะต้องทำให้ผมเสียใจและทำให้ผมมีความสุข อยู่เคียงข้างผมเวลาที่ผมไม่มีใคร … แค่เนี่ยมันยังน้อยไปนะครับ น้อยไปสำหรับความดีของพวกเค้า …”
นัทซึ่งพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจสุดๆ … พยายามตะเบ็งเสียงออกมาเพื่อไม่ให้ดูว่าตัวเองอ่อนแอ และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า

“พวกเค้าเป็นคนดีซินะ แต่พี่มันคงเลวมาก เลวจนเกินจะให้อภัยที่เคยทำให้นัทต้องเสียใจ … แต่นัทคงไม่ว่าหรอกนะถ้าพี่จะขอเลวให้ถึงที่สุดไปเลย ให้สมกับที่พี่โดนตราหน้าว่าเป็นคนเลวในสายตาของนัท !!!”
เสียงของธวัฒน์เยียบเย็นจนทำให้นัทขนลุก … อีกทั้งแรงจับที่ข้อมือซึ่งเพิ่มมากขึ้น … มันทำให้นัทเริ่มกลัว และนึกถึงวันเก่าที่ผ่านมานาน วันที่ธวัฒน์ได้ทำร้ายจิตใจและร่างกายของเค้า …
“ปล่อยผมนะครับ พ…พี่วัฒน์จะทำอะไร…”
“พี่ก็จะทำสิ่งที่คนเลวๆ เค้าทำกันนะซิ …”

ธวัฒน์ล็อคแขนทั้งสองข้างของนัทไว้ข้างหลังด้วยมือเดียว มืออีกข้างก็ใช้ปิดปาก พร้อมกับทั้งดึงทั้งลากนัทออกไปนอกบ้านตรงไปที่โรงเก็บรถ …นัทก็ได้แต่ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและหวั่นกลัวกับสิ่งที่ธวัฒน์กำลังทำ … เมื่อไปถึงที่รถธวัฒน์จึงปล่อยมือข้างที่ปิดปากนัทออก เพื่อเปิดประตูรถด้านหลัง …
“ช่วยด้วย!!! นมพริ้ม แวว ช่วยผมด้วย !!! …”
“ไม่มีประโยชน์หรอกน่า … ตอนเนี่ยเราอยู่บ้านกันแค่สองคน … ไม่ต้องเรียกใครมาช่วยซะให้ยาก …”
“ปล่อยผมนะ พี่จะพาผมไปไหน ปล่อยผม … ผมบอกให้ปล่อย …”
ธวัฒน์จัดแจงเอาผ้าที่หาได้ในรถมามัดข้อมือของนัทไขว้หลังไว้ ก่อนจะจับยัดเข้าไปที่เบาะหลัง โดยให้นัทนอนคว่ำหน้า … แล้วมัดขาไว้อีกทีเพื่อไม่ให้สามารถลุกขึ้นมานั่งได้ เสร็จแล้วจึงปิดประตู และขึ้นไปนั่งประจำที่ขับรถออกจากบ้านไป …

นัทไม่มีโอกาสได้เห็นเส้นทางที่ธวัฒน์ขับรถไปเลย … สิ่งเดียวที่ทำได้คือพูดขอร้องให้ธวัฒน์พากลับบ้าน ทั้งพูดดีๆ ก็แล้ว หยาบคายก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ธวัฒน์เปลี่ยนใจแม้แต่น้อย … น้ำตาที่มันอัดอั้นไว้มันก็ไหลออกมาด้วยความกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นัทรู้เพียงอย่างเดียวว่าธวัฒน์ขับรถมาไกลมาก ไกลจากบ้านเหลือเกิน … ประสาทสัมผัสเริ่มลางเรือนด้วยความอ่อนเพลียจากการดิ้นรนมาตลอดระยะทางอันยาวไกล และเสียงเดียวที่เข้ามากระทบโสตสัมผัสก่อนจะหมดสติไปก็คือ เสียงเกลียวคลื่นกระทบชายฝั่ง มันคือความฝันหรือความจริงกันแน่นะ …


VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
30...

แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดกว้าง ... ต้องใบหน้าคมของเด็กหนุ่มที่หลับมาตลอดทั้งคืนด้วยความอ่อนเพลีย ... นัทลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ... ห้องที่ไม่คุ้นเคยทำให้ต้องเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ... และเมื่อนึกถึงคนที่พาเค้ามาที่นี่ ก็ต้องลุกขึ้นจากที่นอนแบบทันทีทันใด ... รีบสำรวจมือที่เคยโดนมัด ก็เหลือไว้เพียงรอยแดงๆ ที่ข้อมือเท่านั้น ...
“ที่นี่ที่ไหนกันอ่ะ...”
หันซ้าย หันขวาก็ไม่พบใครเลย นอกจากห้องกว้างที่ตกแต่งไว้อย่างเรียบง่าย เหมาะกับบรรยากาศที่ลมพัดเอื่อยๆ เข้ามาทางหน้าต่าง ... เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปที่หน้าต่างทันที เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลมแบบนี้ กลิ่นแบบนี้ และเสียงแบบนี้มันคือที่ไหน
“ทะ...ทะ...ทะเลเหรอเนี่ย ...”

นัทมองสำรวจบริเวณภายนอก ผ่านหน้าต่างออกไปก็เห็นว่าบ้านหลังนี้มีบริเวณกว้างขวางพอสมควร ... แต่มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาก็มองเห็นเพียงบ้านชาวประมงอยู่เพียงลิบตา ... เหมือนกับว่าที่นี่จะสร้างแยกออกมาอย่างโดดเดี่ยว ซึ่งเจ้าของน่าจะต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ ... ขณะกำลังพิจารณาทิวทัศน์ที่เห็นเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้า ... นัทจึงหันไปมองทันที และตั้งท่าระวังตัวอย่างเต็มที่... เพราะคิดว่าต้องเป็นธวัฒน์แน่ๆ ... แต่กลับกลายเป็นป้าแก่ๆ คนนึงเท่านั้น ท่าทางใจดีเดินข้ามาและส่งยิ้มให้กับนัท ... ก่อนจะเดินไปเก็บเตียงและนัทเพิ่งลุกขึ้นมา เมื่อเห็นแบบนั่นนัทจึงรีบร้องทักด้วยความเกรงใจ ...
“ป้าครับ ไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเก็บเอง ...”
เงียบ... ไม่มีเสียงตอบรับจากป้าแกแม้แต่น้อย แถมยังตั้งหน้าตั้งตาเก็บที่นอนต่อไป ... เหมือนไม่ได้ยินที่นัทพูด ...
“ป้าครับ ป้า !!!”
ยังเงียบและไม่มีปฏิกิรยาตอบรับอีกเช่นเคย ... นัทจึงตัดสินใจเดินเข้าไปสะกิดป้าแก ด้วยนึกสงสัยอะไรบางอย่าง ... และป้าก็หันมามองหน้านัทด้วยความสงสัย เมื่อนัทสะกิดที่แขนของแกเบาๆ ...

“ป้า ... พูด ... ไม่ได้หรอครับ...”
นัททำท่าทางโดยชี้ไปที่ตัวของอีกฝ่าย แล้วกลับมาชี้ที่ปากตัวเอง และทำไม้ทำมือโบกไปมา ... พยายามสื่อสารให้อีกฝ่ายเข้าใจอย่างยากลำบาก ... แต่ก็เหมือนว่าจะทำให้ป้าแกเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะแกพยักหน้าเป็นเชิงรับว่าใช่ ... จึงทำให้สิ่งที่นัทสงสัยถูกต้องนั่นคือป้าแกหูหนวก และเป็นใบ้ด้วยนั่นเอง ...

“ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง ถึงเรียกไม่ได้ยินเลย ... เฮ้อ !!... แล้วจาคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย ... พี่วัฒน์อยู่ไหนล่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่าจะเอาเรามาปล่อยเกาะอยู่ที่นี่ ...”
ป้าที่มองหน้านัทอยู่ยิ้มออกมา ... ซึ่งทำให้นัทที่มองเห็นทำหน้าอย่างสงสัย ... ก่อนที่ป้าแกจะชี้มือมาที่นัท แล้วชี้ไปที่ประตู และทำท่าทางตักข้างเข้าปาก ...
“หมายถึงให้ไปกินข้าวงั้นเหรอ ...”
นัทจึงทวนท่าทางตักข้าวเข้าปากอีกหน เหมือนกับต้องการถามย้ำให้แน่ใจ ... ซึ่งคุณป้าก็พยักหน้ารับ ... เด็กหนุ่มจึงเดินไปที่ประตูเปิดออกและมองออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ซึ่งพอออกมาด้านนอกจึงทำให้รู้ว่าชั้นบนนี้มีห้องพักอยู่ถึง 4 ห้อง มีระเบียงสำหรับนั่งพักผ่อนรับลมยื่นออกไปด้านนอก และมีบันไดทอดลงไปด้านล่าง จึงตัดสินใจเดินลงไป เพราะข้างบนนี้คงไม่มีห้องให้ทานอาหารแน่ๆ ...

“อ้าวนัทตื่นแล้วเหรอครับ มาทานข้าวซิ ...”
นัทถึงกับสะดุ้งเมื่อเดินลงมาข้างแล้ว และกำลังสำรวจห้องต่างๆ ที่อยู่ด้านล่าง แต่อยู่ๆ ธวัฒน์ก็โผล่ออกมาจากห้องที่อยู่ด้านข้างของบันได และร้องเรียกให้เข้าไปทานข้าว ...
“พ...พี่วัฒน์...”
“ใช่ซิ คิดว่าจะเจอใครงั้นเหรอ ...”
“เปล่าครับ ... ที่นี่ที่ไหน พ...พาผมกลับบ้านนะครับ ...”
“อย่าดื้อซิครับ ... มาทานข้าวเถอะ นัทยังไม่ได้ทานข้าวเลยนะตั้งแต่เย็นวาน...”
“ไม่กิน!!! ... ผมจะกลับบ้าน ...”
“พูดแบบนี้อยากโดนจับมัดขังไว้ในห้องใช่ไหมเนี่ย ... พี่ชักมีอารมณ์ขึ้นมาอีกแล้วนะ ...”

ธวัฒน์เริ่มเดินย่างสามขุมเข้ามาหาทำให้นัทต้องถอยหนีจนหลังชนกับฝาอีกด้าน ...
“อา...อารมณ์อะไรครับ พูดให้มันดีๆ นะ...”
“ก็อารมณ์แบบไหนดีล่ะ ที่จะใช้ปราบเด็กๆ ดื้อๆ เนี่ย ... ยังจำวันนั้นได้ไหมล่ะ ยังไงพี่ก็เป็นคนเลวอยู่แล้ว ถ้าจะทำเลวอีกสักครั้งจะเป็นไรไป ...”
“ไม่... ไม่เอานะครับ อย่านะ ไม่เอาแล้วนะครับ ...”
ความเจ็บปวดที่ฝังใจทำให้นัทน้ำตาคลอและเสียงสั่นเครือด้วยความกลัว ... จนธวัฒน์เองก็อดสงสารไม่ได้ ... แต่เพราะเสียงเรียกร้องของหัวใจมันมีอิทธิพลมากเหลือเกิน จึงทำให้ชายหนุ่มต้องสวมบทร้ายไปก่อน จนกว่านัทจะใจเย็นลงและยอมอยู่ที่นี่สักพัก ...

“งั้นก็ไปทานข้าวก่อน โอเคไหม ... แล้วหล้งจากนั้นถ้าอยากกลับพี่ก็จะให้กลับ นะครับ ...”
นัทพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ... เพราะไม่อยากโดนมัดอีก และด้วยท้องที่มันกำลังโอดครวญเพราะไม่ได้ทานข้าวเย็นเมื่อวาน
“งั้นก็ว่าง่ายๆ จะได้โตเร็วๆ ป่ะ ไปกินข้าวกัน ...”
ธวัฒน์เดินจูงมือนัทเข้าไปในครัว ... จัดแจงให้นั่งและบริการตักข้าวให้อย่างเอาอกเอาใจ ... เสร็จแล้วก็มานั่งฝั่งตรงข้ามมองนัททานข้าวไปอย่างอารมณ์ดี ... โดยไม่รู้เลยว่าอีกที่นึงกำลังวุ่นวายกับการหายตัวไปของเค้าและนัทขนาดไหน ...

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ยอดมากวัฒน์  o13

เดี๋ยวก็คงคืนดีกัน  :haun5:

แล้วกลับไปผจญนางมารด้วยกัน  :laugh3:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ รักน้อง..ต้องพาหนี  :o8:  :o8:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o4 o4  หนีไปพักร้อนสองต่อสองซะงั้น  :haun5: :haun5:  รีบปรับความเข้าใจกันเร็วๆนะครับ  ก่อนเจอพวกป่วนตามมา  o16 o16

kYos

  • บุคคลทั่วไป
พี่วัฒน์มาบทโหดอีกแล้ว  :sad5:
มาทะเลทั้งที ก็ปรับความเข้าใจกันให้ได้ด้วยเห๊อะ  :amen:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
พี่วัฒน์  ได้ใจโคตรๆๆ แม้ว่าวิธีการแก้ปัญหามันจะแปลกๆ อยู่ก็เหอะ
อย่างน้อยเอาเค้ามาแล้วก็นะ  รู้ใจกันซะทีน้อ 
แบบว่า  อยากอ่านตอนนั้นอีก อิอิ  :interest:

รออ่านต่อต่อไปจ้าน้องหมี  หนุกมากมายเรื่องนี้  เป็นแฟนคลับคุณ JmAc แล้วนะเนี่ย  o15

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วค๊าบ   

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

31...

“ไม่ยอม... ภัทรไม่ยอมจริงๆ นะค่ะคุณหญิงแม่ ... ภัทรว่าเด็กนัทนั่นต้องล่อหลอกคุณวัฒน์ไปให้พวกมันเรียกค่าไถ่แน่ๆ เลยค่ะ ... ภัทรว่าเราแจ้งตำรวจให้ตามจับมันเลยดีไหมค่ะ ...”
นภัทรที่พอได้ทราบข่าวการหายตัวไปของธวัฒน์ ก็รีบร้อนมาที่บ้านของชายหนุ่มทันที ... และเมื่อมาถึงและได้รู้ว่าไม่เพียงแค่ธวัฒน์ที่หายตัวไป แต่เป็นนัทด้วยอีกคน ก็ยิ่งทำให้หญิงสาวร้อนรนมากขึ้น ด้วยรู้ความในของธวัฒน์เป็นอย่างดี ... แต่ในเมื่อเธอลงทุนลงแรงไปขนาดนี้แล้ว เธอจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะได้ธวัฒน์กลับคืนมา และพยายามกำจัดอุปสรรคหัวใจออกไปให้พ้นทางโดยเร็ว ...
“ใจเย็นๆ ซิจ๊ะหนูภัทร ป้าว่ามันไม่ใช่การลักพาตัวหรืออะไรทั้งนั้นแหละ...”
คุณหญิงศศิกานต์แม่ของธวัฒน์พยายามพูดปลอบให้นภัทรใจเย็นลงบ้าง ... เพราะตั้งแต่มาถึงเธอก็โวยวายและเดินไปเดินมาไม่หยุดสักที ...
“แหม... คุณหญิงแม่ขา ... สมัยเนี่ยไว้ใจใครไม่ค่อยจะได้นะค่ะ ภัทรว่ากันไว้ดีกว่าแก้นะ เราไปแจ้งตำรวจกันดีกว่าค่ะ ...”
“คงไม่จำเป็นขนาดนั้นหรอกมั้งครับพี่ภัทร...”
เสียงของภานุที่กำลังเดินผ่านประตูเข้ามา ทำให้คุณหญิงศศิกานต์และนภัทรหันไปมอง ... คุณหญิงดูจะโล่งใจมากขึ้นที่ภานุโผล่มา แต่มันกลับตรงกันข้ามกับอีกคนที่มองภานุด้วยสายตาทิ่มแทงอย่างคนที่โดนขัดใจ ... ภานุหันไปยกมือไหว้คุณหญิงก่อนที่จะหันมาพูดกับนภัทรด้วยสายตาที่จะไม่ยอมอ่อนข้อแม้แต่น้อย ...
“ผมว่านัทไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะครับ อีกอย่างพี่วัฒน์ก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะให้ใครมาหลอกเอาได้ง่ายๆ เสียด้วยซิ...”
ประโยคหลังของภานุ มันเหมือนจะไปจี้ใจดำของอีกฝ่าย ... มันตอกย้ำเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน ไม่ว่าภานุจะรู้เรื่องนี้มากน้อยขนาดไหน แต่มันก็ทำให้นภัทรปิดปากเงียบได้ ...
“นั่นซิจ๊ะหนูภัทร ป้าก็คิดเหมือนกับตาภานุน่ะแหละ ถ้ายังไงก็ใจเย็นๆ นะ รอสักระยะนึง ... ถ้าไม่มีวี่แววหรือข่าวคราว ไว้พวกเราค่อยออกตามหากันก็ได้นะ ...”
“แต่ ... แต่จะรอนานขนาดไหนล่ะค่ะ ภัทรกลัวว่ามันจะนานเกินไปจนทำให้ ... ให้ ...”
ประโยคที่พูดไม่จบของหญิงสาวทำให้ผู้สูงวัยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ... แต่สำหรับภานุเหมือนเค้าจะมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว ...
“ทำให้ อะไรหรอจ๊ะ ... จะเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอหนูภัทร ....”
“ป...เปล่าหรอกค่ะ ภัทรแค่เป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายกับคุณวัฒน์เท่านั้นเองค่ะ ...”
“อย่าห่วงเลยจ๊ะ ป้าคิดว่าถ้าตาวัฒน์ไปกับนัทจริงๆ คงไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นหรอก นี่ก็อาจเป็นแค่การเล่นอะไรแผลงๆ ของตาวัฒน์อีกตามเคย ... แกอาจอยากพาน้องไปเที่ยวโดยไม่บอกใครก็ได้นะ อย่าเพิ่งคิดไปไกลเลย ...”

คุณหญิงช่างดูใจเย็นอย่างไม่น่าเชื่อที่คนเป็นแม่คนนึงจะเป็นยามที่ลูกหายตัวไป ... แต่คำพูดของท่านก็ไม่ได้ทำให้นภัทรใจเย็นลงได้เลยแม้แต่น้อย ... เพราะสิ่งที่เธอกลัว ไม่ใช่กลัวธวัฒน์จะมีอันตราย แต่เธอกลัวว่าจะต้องเสียธวัฒน์ให้กับคนอื่นไปต่างหาก ....
“เฮ้อ ! ... พี่ชายเราทำแต่เรื่องวุ่นวายอีแล้วนะ ภานุ ... คราวก่อนก็เรื่องหนูภัทรมาคราวนี้ก็หายไปไม่บอกกล่าว แถมพาตานัทไปด้วยอีกคน ...”
คุณหญิงเอ่ยขึ้นกับหลานชาย ... หลังจากที่นภัทรขอตัวกลับไปแล้ว ....
“ทำไมคุณป้าถึงคิดว่าพี่วัฒน์เป็นคนพานัทไปล่ะครับ...”
“แหม ภานุ ... ทำไมป้าจะไม่รู้จักนิสัยของพี่ชายเราล่ะห๊า ... และป้าก็มั่นใจในตัวตานัทมากพอที่จะไม่คิดอย่างหนูภัทรบอกด้วย ลูกไม้มันย่อมหล่นไม่ไกลต้นหรอก ... ป้ามั่นใจว่าคราวเนี่ยต้องเป็นฝีมือตาวัฒน์ล้วนๆ แต่เมื่อไหร่จะกลับกันมาเนี่ยซิ คิดแล้วกลุ้ม ...”
“ผมก็ว่าทำไมคุณป้าดูใจเย็นเป็นพิเศษ ที่แท้ก็มั่นใจอย่างนี้นี่เอง ... แต่เอ๊ะ! แล้วที่ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเนี่ยมันยังไงหรอครับ ...”
“ตานัทน่ะ เค้านิสัยเหมือนแม่เค้ามากไงล่ะ เพื่อนรักของป้าคนเนี่ยเรียบร้อย สงบเสงี่ยมเจียมตัว และอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอๆ ... และป้าเองก็เห็นมันในตัวนัทเหมือนกัน ... ถ้านัทเป็นผู้หญิงนะ ป้าคงจะขอเป็นสใภ้ไปแล้วล่ะ เฮ้อ... น่าเสียดาย”
ภานุได้แต่ทำหน้าบอกไม่ถูก .... คิดเป็นห่วงนัทอยู่ไม่น้อย ... แต่เค้าก็มั่นใจว่าพี่วัฒน์จะไม่ปล่อยให้นัทเป็นอันตรายอย่างแน่นอน ... นี่ถ้าคุณป้ารู้ว่าลูกชายคนเดียวอย่างพี่วัฒน์ไปรักผู้ชายเข้าจนได้ จะเป็นยังไงน๊า ... ถึงคุณป้าจะชอบนัทอยู่แล้วก็ตามที ... ภานุได้แต่แอบถอนใจอยู่คนเดียวเบาๆ ...
ทางด้านของนภัทรหลังจากกลับไปแล้ว ก็ไม่ได้ไปที่ไหน แต่กลับนัดเจอกับชายหนุ่มแปลกหน้าที่บาร์แห่งหนึ่ง ... ชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงขยับแว่นตาดำมองหาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งข้างๆ ... ถอดแหวนจากนิ้วกลางข้างซ้ายมาใส่นิ้วกลางข้างขวาเหมือนจงใจให้นภัทรเห็นอย่างชัดเจน ... หญิงสาวจึงหยิบซองเล็กๆ ในกระเป๋าวางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะหยิบเศษกระดาษชิ้นเล็กๆ ที่ชายหนุ่มส่งให้แล้วเดินออกไปจากทันทีทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... เมื่อเข้าไปนั่งในรถของเธอแล้วนภัทรจึงหยิบเศษกระดาษออกมาดู และหยิบมือถือออกมากดตามเบอร์ในกระดาษทันที
ชายหนุ่มในบาร์กำลังดูรูปของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ซึ่งนภัทรได้แอบหยิบมาจากห้องนั่งเล่นของบ้านคุณหญิงศศิกานต์ ... เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายทันที
“ครับ ...”
“จัดการให้เรียบร้อย ... แต่อย่าให้คุณวัฒน์เป็นอะไรแม้แต่ปลายเล็บ เข้าใจไหม ! ...”
พูดจบนภัทรก็ตัดสายทันที ... แต่คำสั่งก็ชัดเจนพอ ตอนนี้มีรอยยิ้มเย็นปรากฏบนใบหน้า ใบหน้าที่บ่งบอกว่าสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เธอหวัง ...


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
« ตอบ #109 เมื่อ: 07-05-2007 20:01:11 »





VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
ย๊ากกก... :angry2:....ตัวร้าย วางแผนทำอะไร นะ    :confuse:
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

32...

ช่วงเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมา ... นัทไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่ มองไปทางไหนก็มีแต่ทะเล ... บ้านคนแต่ละหลังก็กระจัดการจายมองเห็นอยู่เพียงลิบตาเท่านั้น คงมีเพียงบ้านของป้าสาลี่ซึ่งเป็นใบ้ที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินพอสมควรกว่าจะไปถึงเพราะมันอยู่ตรงสุดชายหาดสีขาวสะอาดที่ทอดตัวยาวไปสุดลูกหูลูกตา ...
นัทรู้ตามที่พี่วัฒน์บอกว่าได้จ้างป้าสาลี่กับลุงเขมสามีของแกเป็นคนคอยดูแลบ้าน แต่นัทก็ไม่เคยเจอลุงเขมเลยสักครั้งเดียว มีเพียงป้าสาลี่เท่านั้นที่จะมาทำความสะอาดให้วันละครั้ง พอถามป้าสาลี่ดู แกก็จะทำมือทำไม้เหมือนว่าลุงจะไปทำงานหรือไปหาปลาอะไรสักอย่าง ... นัทเองก็พยายามทำความเข้าใจกับภาษามือของแกอยู่นานถึงพอจะจับความได้บ้าง ... ยังโชคดีที่นัทไม่ต้องใช้ภาษามือด้วยอีกคน เพราะถึงป้าแกจะเป็นใบ้แต่แกก็อ่านปากคนที่พูดด้วยได้ ถือว่าเป็นความสามารถที่นัททึ่งมาก
ณ ริมชายหาดยามค่ำคืน ลมทะเลพัดมาเอื่อยๆ ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลีลาวดีที่ปลูกไว้ริมรั้วให้อบอวลไปทั่วบริเวณ ช่างเป็นบรรยากาศที่ดูเหงา เศร้า สำหรับคนที่มีความทุกข์จริงๆ แต่มันอาจเป็นบรรยากาศที่สดชื่น โรแมนติกสำหรับคนที่กำลังมีความสุข ... แต่สำหรับนัทแล้ว ไม่สามารถบอกได้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังสุขหรือทุกข์ เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่  ธวัฒน์ก็พยายามทำดี และเอาใจเค้ากว่าปกติ มันทำให้เค้าสุขใจเวลาที่ธวัฒน์หยอกเย้าเอาใจ แต่พอนึกถึงความเป็นจริงที่ว่าธวัฒน์กำลังจะแต่งงาน มันก็ทำให้ในใจของเด็กหนุ่มเจ็บแปลบ จนต้องพยายามควบคุมร่างกายและจิตใจไม่ให้หลงไหลไปกับความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ที่อีกไม่นานมันก็คงจะจบลง ...
ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาด้านหลังของนัทที่นั่งเหม่อมองทะเลอย่างใจลอย  ... ยิ่งเห็นหน้าของนัทก็ยิ่งทำให้เค้าสะท้อนใจ ... เค้าเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่านะที่พยายามไขว่คว้าหาความสุขจากคนตรงหน้า แทนที่จะปล่อยให้นัทได้พบกับคนดีๆ หรือใช้ชีวิตตามปกติสุขเหมือนที่เด็กวัยรุ่นควรจะเป็น ตราบใดที่เค้ายังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ที่ดีพอ      มายกเลิกพันธะที่เค้าสร้างขึ้นอย่างไม่ตั้งใจแล้วล่ะก็ ... ตราบนั้นเค้าคงไม่สามารถทำตามที่หัวใจเรียกร้องได้   และไม่มีสิทธิพูดได้ว่าเป็นเจ้าของในตัวคนคนนี้ได้ ... แต่ตอนนี้เค้าต้องการอิสระและความสุข... ความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เค้ารัก ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้เค้ารู้แค่ว่าเค้ารักนัทหมดหัวใจ ... แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่เค้าก็อยากเก็บเกี่ยวมันไว้ ก่อนที่เค้าอาจไม่มีโอกาสได้ทำอีกเลยก็ได้ ...
“นั่งคิดอะไรอยู่เหรอนัท ... ให้พี่นั่งด้วยได้ไหม ...”
“นี่ไม่ใช่ที่ของผมสักหน่อย พี่วัฒน์อยากนั่งตรงไหนก็ได้นี่ครับ ...”
ธวัฒน์ถอนหายใจออกมาด้วยความอ่อนใจ ที่นัทแทบจะไม่เคยพูดกับเค้าดีๆ เลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ... แต่เค้าก็ไม่เคยนึกโกรธเพราะอะไรล่ะ ก็เพราะตัวเค้าเองน่ะซิที่ทำให้เป็นแบบนี้ ... ธวัฒน์นั่งลงข้างๆ นัท แล้วขยับตัวเข้าไปนั่งเบียดเด็กหนุ่มที่นั่งเมินเฉย ... จนเจ้าตัวหันมาทำตาดุใส่ธวัฒน์ที่ยิ้มๆ อย่างถูกอกถูกใจ
“ที่มีตั้งเยอะตั้งแยะมานั่งเบียดผมทำไมล่ะครับ ...”
“ก็...นั่งเบียดนัทมันอบอุ่นกว่านี่นา ... อากาศก็เริ่มเย็นแล้วด้วยอ่ะ ...”
นัทที่พยายามขยับหนี แต่ธวัฒน์ก็ยังคงขยับตามจนในที่สุดนัทต้องยอมแพ้ ... และนั่งอยู่เฉยๆ ให้อีกฝ่ายนั่งเบียดหาไออุ่นจากร่างกายของเค้า ...
“นัทไม่หนาวหรอครับ ...”
“ไม่ครับ ... ผมไม่ใช่คนอ่อนแอน่ะ อากาศเย็นๆ แค่นี้เอง ผมไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก ...”
ที่จริงการที่ธวัฒน์เข้ามานั่งเบียดแบบนี้ก็ทำให้นัทอุ่นขึ้นเยอะ   แต่ด้วยความปากแข็งก็เป็นธรรมดาที่จะไม่พูดอะไรให้อีกฝ่ายได้ใจมากไปกว่านี้ ...
จู่ๆ อ้อมแขนของคนตัวใหญ่กว่าก็โอบนัทเข้าหาตัว ... จนทำให้นัทอดเขินไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องปกติที่ผู้ชายเค้าจะทำกัน ... ใจนึงก็อยากปล่อยให้เป็นแบบนี้ แต่อีกใจก็อยากจะผลักไสออกไป ทำให้จิตใจต่อสู้กันอย่างดุเดือด ...
“พี่วัฒน์ ! มันมากไปแล้วมั้งครับ ...”
“หืม ... อะไรมากไปหรอ ... เถอะน่า...นะ อย่าขี้ตืดนักซิคร้าบบบ ... นัทไม่หนาวแต่พี่หนาวนะ ... ขอแป๊บนึงนะ”
เฮ้อ ... นัทส่ายหน้าอย่างรู้ทัน แต่ก็ไม่อยากว่าอะไรมาก เพราะจิตใจลึกๆ ก็อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ เช่นกัน
“ป่ะ...ไปเดินเล่นกัน ...”
ธวัฒน์ลุกขึ้นพยายามดึงมืออีกคนให้ลุกตาม ... แต่นัทก็ยังแข็งขืนไม่ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี ...
“จะไปไหนกันล่ะครับ พระอาทิตย์จะตกดินแล้วนะ ... อยากไปก็ไปคนเดียวซิ ผมไม่อยากไปด้วยซะหน่อย ...”
“ไม่อาวอ่ะ ไปด้วยกันเถอะนะ นะครับนัทเด็กดีของพี่ นะ นะ...”
“ใครเป็นเด็กดีของพี่ครับ พอดีไม่ใช่ผมซะด้วย ดังนั้นผมไม่...ไป ...”
ธวัฒน์ทำหน้างอเล็กน้อยอย่างขัดใจ แต่ไม่นานก็ยิ้มออกมาเหมือนมีแผนบางอย่างในใจ ... นัทที่สังเกตเห็นก็หวั่นๆ ในใจว่าพี่วัฒน์ของเค้าจะมาไม้ไหนกันแน่ ...
“แสดงว่านัทจะไม่ยอมไปเดินเล่นเป็นเพื่อนพี่ใช่ไหม ...”
“แน่นอน ... ผมจะเข้าบ้านแล้วด้วย ...”
นัทรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วกะว่าจะหนีเข้าบ้าน ... แต่ก็ต้องยอมแพ้ในความเร็วของธวัฒน์ที่เข้ามาล็อคตัวเค้าจากด้านหน้า แล้วยกขึ้นไปพาดบนไหล่เดินไปโดยไม่ฟังเสียงโวยวายของนัทเลยแม้แต่น้อย ...
“ปล่อยครับพี่วัฒน์ ปล่อยผมลงนะ ...”
“ไม่ ! ถ้าไม่ยอมเดินไปพี่ก็จะพาไปแบบนี้แหละ ...”
“ปล่อยซิครับ ไม่หนักหรือไงอ่ะ ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ...”
“ไม่หนักหรอก ถึงหนักกว่านี้พี่ก็แบกไหว ...”
จริงๆ นัทก็ไม่ใช่ผู้ชายบอบบาง แต่เพราะธวัฒน์สูงใหญ่กว่าเท่านั้นเอง จึงแบกนัทได้อย่างสบายๆ ... แถมยังแกล้งเอาจมูกซุกไซร้ตรงเอวให้นัทจี้เล่นอีกต่างหาก ...
“ปล่อยผมซิครับ อย่าเล่นแบบนี้ซิผมจั๊กจี้นะครับ ... โอเค โอเค ผมยอมแล้ว ยอมไปด้วยแล้ว ปล่อยผมลงได้ยัง ...”
“ก็แค่นี้แหละ เล่นตัวจังเลยนะเรา ...”
ธวัฒน์ค่อยๆ ปล่อยนัทลงจากบ่า แต่ก็กะให้นัทยืนอยู่ใกล้กับเค้ามากจนตัวแทบจะติดกัน แถมแขนสองข้างยังโอบเอวของเด็กหนุ่มไว้ไม่ยอมปล่อย ... นัทที่หมั่นไส้เต็มที่ก็เลยอาศัยจังหวะหวานซึ้งของอีกฝ่าย ผลักธวัฒน์หงายหลังล้มลงไปในน้ำจนเปียกไปทั้งตัว ...
“แบร่  :P ... สมน้ำหน้า อยากแกล้งคนอื่นดีนักนะครับ ...”
พูดจบก็ไม่รอช้า ... รีบชิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ...
“โห เล่นอย่างนี้เหรอ ... ได้เลย อย่าหนีนะ! ...”
ธวัฒน์วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทันสักที แถมอีกฝ่ายวิ่งไปก็หัวเราะไปไม่ยอมหยุด ... จนชายหนุ่มเหนื่อยและวิ่งตามไม่ไหวนั่นแหละจึงยอมยกธงขาวให้กับนักวิ่งเก่าของโรงเรียนอย่างนัท นัทเองก็ไม่ยอมเข้าใกล้จนธวัฒน์ต้องสัญญาจะไม่ทำอะไรอีกนั่นแหละ นัทจึงกล้าเข้ามาเดินใกล้ๆ ...
“เป็นนักวิ่งเก่าก็ไม่บอก ปล่อยให้วิ่งตามอยู่ได้ ... เหนื่อยนะเนี่ย ...”
“ก็ดีแล้วนี่ครับ ชอบแกล้งคนอื่น ก็ต้องโดนซะบ้าง ...”
ธวัฒน์สังเกตว่านัทจะผ่อนคลายมากขึ้น อาจเป็นเพราะได้แกล้งเค้าและได้หัวเราะออกมาบ้าง เพราะเค้าเองก็ไม่เคยได้เห็นนัทหัวเราะอย่างมีความสุขบ่อยนัก ...
“ว่าแต่นี่มันทางไปบ้านป้าสาลี่นี่ครับ ... เราจะไปหาลุงเขมกับป้าแกเหรอ ...”
“เดินตามมาเถอะเดี๋ยวก็รู้ ...”
ธวัฒน์จับมือนัท จูงเดินไปเกือบสุดหาดซึ่งเป็นบ้านของลุงกับป้า แต่กลับเปลี่ยนเส้นทางลัดเลาะขึ้นไปตามเนินเขาด้านข้างแทน เนินเขานี้มีหน้าผายื่นเข้าไปในทะเล และมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งอยู่ตรงปลายสุดที่ยื่นออกไปนี้ด้วย ซึ่งนัทอยากจะมาตั้งแต่ครั้งแรกที่มองเห็นอยู่ไกลๆ แล้ว เพราะมันสวยแปลกตาดี ช่างเหมือนกับภาพวาดในหนังสือที่เคยอ่าน แต่ก็นานมากจนจำชื่อหนังสือไม่ได้เสียแล้ว ...
“เป็นไงครับ ... ชอบใช่ไหมล่ะ พี่รู้นะว่านัทอยากมาที่นี่ ...”
“พ...พี่วัฒน์รู้ได้ไงครับ ผมไม่ได้อยากมาสักหน่อย ... คิดไปเองหรือเปล่า...”
“ไม่ต้องปฏิเสธหรอกน่า พี่เห็นนะว่านัทชอบมองมาทางนี้ทุกวันเลย ... เพราะพี่เองก็ชอบที่นี่นะ ถึงได้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนั้น เพราะจากที่นั่นจะมองเห็นที่นี่ได้สวยที่สุด แถมยังเดินมาที่นี่ได้สะดวกที่สุดด้วยนะ...”
“เพิ่งรู้นะครับว่าเป็นคนชอบสังเกตคนอื่น ...”
นัทพูดเสร็จก็รีบเดินหนีไปทางต้นไม้ใหญ่ ... นั่งลงมองไปทางพระอาทิตย์ที่เหลือเพียงครึ่งดวงก็จะลับขอบฟ้า ... ธวัฒน์เดินตามไปห่างๆ ก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ ...
“ในสายตาของพี่ มีแต่นัทนะ ... ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่ไม่อาจละสายตาไปจากนัทได้เลย ...”
“พี่วัฒน์อย่าพูดแบบนี้เลยครับ คุณภัทรเธอจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าคู่หมั้นพูดแบบนี้กับคนอื่น โดยเฉพาะกับ เอ๊อ ...”
“กับผู้ชายเหมือนกัน ...”
ธวัฒน์ต่อคำพูดของนัทให้จนจบ ซึ่งก็ทำให้นัทหันมามองหน้าของธวัฒน์แว่บนึง ... แล้วหันไปทางอื่นเพราะไม่อยากใจอ่อน
“ครับ ... ผมว่าพี่ก็เข้าใจดีอยู่แล้ว ...”
“แต่พี่ไม่สน! ถ้าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น พี่คิดว่าพี่พร้อมแล้วที่จะบอกให้คุณพ่อกับคุณแม่รับรู้ ...
นัทหันมามองหน้าคนข้างๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ... ในความคิดมันสับสนไปหมด ...
“อย่า ... อย่านะครับ ผม ... ผมไม่อยากให้คุณลุงกับคุณป้า ต้องเสียใจ ... เพราะผมเป็นต้นเหตุ ...”
“แล้วนัทไม่กลัวพี่จะเสียใจบ้างหรอ ! ...”
“แต่พี่มีคู่หมั้นแล้ว และนั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องนะครับ ...”
“พี่ไม่เข้าใจหรอกนะว่านัทเอาอะไรมาวัดความถูกต้อง แล้วการที่พี่พยายามจะทำตามความปรารถนาของหัวใจตัวเองมันผิดงั้นซิ ...”

น้ำเสียงที่เจ็บช้ำของธวัฒน์ทำให้นัทเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่เค้าจะมาอ่อนแอตอนนี้ไม่ได้ เพราะทั้งเรื่องการแต่งงานในอีกไม่นาน และความกตัญญูต่อคุณลุงคุณป้ามันทำให้นัทต้องเข้มแข็งเอาไว้ ...
“มันไม่ผิดหรอกครับ ถ้ามันไม่ทำให้คนรอบข้างผิดหวังและเสียใจ ... เอาล่ะครับผมว่าเรากลับกันดีกว่านะ และถ้าเป็นไปได้พรุ่งนี้เราก็ควรจะกลับบ้านกันเสียที เพราะคุณลุงคุณป้าคงจะกลุ้มใจมากพอแล้ว ที่พี่กับผมหายตัวมาอย่างนี้...”
นัทที่ลุกขึ้นหันหลังจะกลับ ต้องชะงักเมื่อสิ่งที่อยู่ต่อหน้าของเค้าเป็นผู้ชายใส่แว่นดำยืนห่างไปไม่กี่เมตร ในมือถือปืนเล็งมาที่เค้า ...
“ไม่มีที่ให้กลับไปแล้วหนุ่มน้อย ... เสียใจด้วยนะ แต่มันเป็นหน้าที่ ...”
ปั๊ง!!!   

เสียงปืนดังสนั่น ... มันเป็นเวลาแค่เสี้ยววินาทีนับตั้งแต่นัทหันมาเจอชายแปลกหน้า ไม่ทันที่เค้าจะได้ร้องออกมาด้วยซ้ำ ความกลัวพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด หลับตาแน่น ... มือถูกยกขึ้นมาปิดส่วนสำคัญโดยอัตโนมัติ ...
สิ้นเสียงพิฆาต ทำได้เพียงรับรู้ความรู้สึกผ่านความมืดมิด เรายังหายใจ ... ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัว แล้วความเจ็บล่ะ โดนยิงตรงไหนกัน ... แขน ขา หรือหน้าอก ... แต่ทำไมไม่เจ็บเลย แล้วอ้อมแขนของใครกันที่กอดเราอยู่ ? ...  ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ หน้าที่คุ้นเคย กำลังมองมาที่เค้า เสียงแผ่วเบาก้องเข้ามาในโสตสัมผัส ...
“น...นัท...ปลอดภัย ช...ใช่ไหม ค...ครับ...”
ร่างสูงค่อยๆ ทรุดลงอย่างช้าๆ ... นัทกอดธวัฒน์ที่ล้มทับลงมาบนตัวเค้าไว้แน่น ... สองมือที่สัมผัสแผ่นหลังรับรู้ได้ถึงของเหลวที่กำลังไหลรินออกมาจากร่างกายของคนที่เค้ากอดอยู่ ... ความกลัวถาโถมเข้ามาในหัวใจยิ่งกว่าวินาทีที่จะโดนยิงด้วยซ้ำ ... ความกลัวเมื่อรู้ว่าคนที่รัก กำลังจะจากไป ...

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :dont2:  :dont2:  :dont2:  :dont2:
พี่วัฒน์  :เศร้า1: :monkeycry4: :impress3: :เศร้า2: :monkeycry2:
เป็นไรป่าวเนี่ย  แงแง  บ้าไปแล้ว  หวังว่าคงไม่เป็นไรนะ

นังนภัทร  เลวมากกกกกกก  แบบนี้ต้องชดใช้อย่างสาสม  :angry2:

อยากอ่านต่อ  :serius2:  :serius2:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ววว... ม่ายยยยย :sad5:
พี่วัฒน์ต้องไม่เป็นอะไรน้าาา

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o7 o7  ถึงขั้นใช้ชีวิตตัวเองเปนเครื่องพิสูจน์ความรักที่มีต่อน้องนัทเลยเหรอครับ o1 o1

 :angry2: :angry2: ยัยนภัทร เด๋วต้องเจอดีสักหลายๆดอกนะครับ o11 o11  มะงั้นไม่หายแค้น o12 o12

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
พี่วัฒน์คงไม่เป็นไรนะ  :dont2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
แงแง

ช่วยพี่วัฒน์ด้วยยยยยยย

อย่าให้เป็นอะไรเลยนะครับ

 o1

ออฟไลน์ bbboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แงๆ เศร้าจัง :serius2:

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ......เศร้าจังเลย       ความรักมักมีอุปสรรค์  T T

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

33...

“พี่วัฒน์!!!...”
“ทะ ทำไมต้องทำอย่างนี้ล่ะครับ ... ปกป้องผมทำไมกัน ... ผม ผมมันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอกนะ ทำไม!!! ทำไมโง่แบบนี้ล่ะครับ...”
“พ...พี่จะไม่ ย...ยอมให้นัทเป็นอะไรเด็ดขาด ... นัทรู้ไหมว่า ... ตั้งแต่จ...เจอนัท ชีวิตพี่วุ่นวายข...ขนาดไหน แต่มันก็คือความส...สุขที่พี่ไม่เคยเจอมาก่อน”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยครับ เลือด ... พี่เสียเลือดมากเลยนะครับ ...”

“ชิส์ ... โง่จริงๆ ที่เข้ามาขวาง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมายแท้ๆ ...”
ชายที่สวมแว่นดำ ยังคงเล็งปืนอยู่ที่เดิม แต่เหมือนจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย เหมือนกับได้ทำพลาดลงไป เพราะไม่คิดว่าธวัฒน์จะโดดเข้ามาขวางทางปืนได้ทัน ... นัทที่นั่งโอบกอดร่างของธวัฒน์อยู่ แต่สายตากลับจ้องมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่กลัวเกรงถึงอันตรายแม้แต่น้อย ...
“ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้ ใคร ใครเป็นคนให้แกมาทำแบบนี้ ห๊า!!!”
“เสียใจด้วยนะที่ฉันบอกไม่ได้ แต่ถึงจะรู้ไป ยังไงก็ต้องตายอยู่ดีหนุ่มน้อย อาจจะผิดแผนไปนิด แต่ถ้าแกตายไปก็คงจะไม่มีใครว่าฉันได้ ...”
ธวัฒน์ที่แทบจะหมดสติไปแล้ว เพราะเลือดที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุด กำลังพยายามยันตัวลุกขึ้น เพื่อปกป้องคนรักจนวินาทีสุดท้าย ...
“น...นัทหนีไปซิครับ พ...พี่จะคอยถ่วงมันไว้เองนะ ...”
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า ... พวกแกคิดว่าทำไมฉันถึงเลือกลงมือที่นี่ล่ะ มองไปรอบๆ ซี๊... ถ้าจะกระโดดหน้าผาลงไปก็ไม่ว่ากันหรอกนะ ดีซะอีกฉันจะได้ไม่ต้องลงมือ ...”
นัทมองความพยายามของธวัฒน์อย่างซึ้งใจที่สุด ... แต่เค้าจะทิ้งคนที่พยายามช่วยเค้าไปได้ยังไงกัน แม้จะต้องตายก็ขอตายด้วยกัน แต่เป้าหมายของมันไม่ใช่พี่วัฒน์ บางทีถ้าเค้าปกป้องธวัฒน์บ้าง พี่วัฒน์อาจจะรอดก็ได้ ...
“นั่นซิครับพี่วัฒน์ ผมจะไม่มีวันทิ้งพี่ไว้หรอกครับ ผมจะไม่กลัวอีกแล้ว คราวนี้ผมจะปกป้องพี่บ้างนะครับ ...”
“อยากจะอ้วก ... ความสัมพันธ์ของพวกแกจริงๆว่ะ ความรักของพี่น้องกับน้องเหรอ ไม่ใช่หร๊อก มันเป็นรักผิดธรรมชาติของพวกแกมากกว่าว่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮา ...”
“อย่างน้อยพวกฉันก็ไม่เลวเท่าแกหรอก คนที่ฆ่าคนอื่นได้หน้าตาเฉยน่ะ มันเลวยิ่งกว่า Sad ซะอีก ...”
“ขอบคุณที่ชมน๊า หนุ่มน้อย ... งั้นแกก็คงต้องตายเป็นคนแรกล่ะนะ ส่วนไอ้หน้าโง่นั่นจะอยู่หรือตายก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของมันก็แล้วกัน เพราะหน้าที่ฉันคือฆ่าแกคนเดียวเท่านั้น ... ตายซะ!!!”

ปืนถูกเล็งมาที่เค้าอีกครั้ง ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นตาย นัทได้แต่กอดธวัฒน์ไว้แน่น ... ในใจได้แต่เพียงหวังว่าหากได้เกิดใหม่มาเจอกันอีก ก็ขอให้เค้ากับธวัฒน์สามารถรักกันได้โดยไม่มีอุปสรรคเหมือนกับชาตินี้ ... แต่ตอนนี้ขอให้พี่วัฒน์รอดคนเดียวก็พอ
“พี่วัฒน์ผมรักพี่นะครับ ...”
คำสารภาพสุดท้าย หลุดออกจากปาก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าธวัฒน์ยังจะมีสติอยู่ได้ยินสิ่งที่เค้าพูดหรือเปล่า ... ก่อนที่เสียงปืนจะดังลั่นออกจากกระบอก ...
ปั๊ง !!!   
“เอ๊ะ...????????? ทำไมเสียงปืนแปลกไปล่ะ...แล้ว แล้วทำ ไม่เจ็บอีกแล้วล่ะ ... ยัง ยังไม่ตายด้วย”
นัทค่อยๆ ลืมตาขึ้นดู ธวัฒน์ที่หมดสติอยู่ในอ้อมกอดของเค้า ยังคงหายใจรวยรินเหมือนเดิม ... แต่พอมองไปยังทิศทางของปืนที่เล็งมาเมื่อครู่ ก็พบว่าไม่มีใครยืนอยู่แล้วแต่กลับพบเพียงลุงแก่ๆ คนนึงถือปืนกระบอกยาววิ่งมาทางเค้าและธวัฒน์ ...
“คุณ คุณนัทใช่ไหมครับ ผม ผมตาเขม ผัวยัยสาลี่ครับคุณ พวกคุณปลอดภัยดีไหมครับ ...”
“ล...ลุงเขม ลุงเขมจริงๆ นะครับ ลุง...ลุงช่วยพี่วัฒน์ด้วยครับ พี่วัฒน์ถูกยิง แล้ว แล้วนี่จะพาพี่วัฒน์ไปโรงพยาบาลได้ยังไงล่ะครับ…”
นัทรีบพูดอย่างละล่ำละลัก ความดีใจประกอบกับความเป็นห่วงอย่างสุดหัวใจ ทำให้นัทไม่สนใจอย่างอื่นอีกแล้วนอกจากชีวิตของธวัฒน์ ที่ดูแล้วกำลังอ่อนแรงเต็มที
“ใจเย็นๆ ครับคุณ ตอนนี้คุณต้องใจเย็นๆ ก่อนครับ แล้วนี่คุณวัฒน์หมดสติไปนานหรือยังล่ะครับ ...”
“ก็น่าจะสักพักแล้วครับ แล้ว แล้วจะทำยังไงดีล่ะครับ ...”
“โรงพยาบาลน่ะอยู่ในเมืองโน่น ... ไกลเหลือเกินครับคุณ กว่าจะไปถึง ผมว่า เอ๊อ ... คุณวัฒน์คงไม่รอดแน่ ....”
น้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตา อย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งๆ ที่เสี้ยวนาทีแห่งความเป็นความตายไม่ได้ทำให้นัทเสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว ...
“แล้ว แล้วนี่ผมจะทำยังไงดี ถ้าพี่วัฒน์เป็นอะไรไป ผม ผม จะบอกกับคุณลุงคุณป้าว่ายังไง ...”
“อย่าเพิ่งท้อแท้ซิครับคุณ เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมว่าเราช่วยกันพาคุณวัฒน์กลับไปที่บ้านกันก่อนดีกว่า แล้วเดี๋ยวผมจะให้ไอ้ชอบไปตามคุณหมอที่อนามัยมาช่วย ...”
ลุงเขมหันไปทางชาวบ้านอีกสองสามคนที่นัทเองก็เพิ่งสังเกตเห็นเหมือนกัน ไม่รู้ว่ามากันตอนไหน อาจเป็นเพราะนัทมัวแต่ห่วงธวัฒน์จนไม่ได้สังเกตเลยก็ได้ ...
“จ...จริงๆ เหรอครับลุง งั้น...งั้นรีบไปกันเถอะครับ ...”

................................................................................................
นัทกำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องของธวัฒน์ที่บ้าน โดยมีป้าสาลี่กับลุงเขมคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ... นี่ก็เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่หมอเข้าไปดูอาการของธวัฒน์ ... ทั้งๆ ที่เค้าอยากจะอยู่ด้วยตอนรักษา แต่หมอก็สั่งให้ออกมาข้างนอกด้วยไม่อยากให้รบกวนสมาธิตอนรักษา คงมีเพียงผู้หญิงคนนึงที่ลุงเขมบอกว่าเป็นพยาบาลคอยช่วยอยู่ในห้อง ...
“นี่ก็นานแล้วนะครับลุง ทำไมยังไม่มีวี่แววว่าจะออกกันมาเลยล่ะครับ ...”
“อย่ากังวลไปเลยครับคุณ หมอกวี เค้าเคยอยู่โรงพยาบาลในเมืองมาก่อน แล้วก็เก่งพอตัวอยู่ ... เวลาชาวบ้านแถวนี้เจ็บไข้ได้ป่วยก็ได้หมอแกนี่ล่ะที่ช่วยมานักต่อนักแล้วครับ...”
ป้าสาลี่ที่ยืนอยู่ข้างเอื้อมมือมากุมมือที่เย็นเชียบของนัทไว้ พร้อมกับพยักหน้าช้าๆ เหมือนแกอยากจะบอกว่า คุณวัฒน์ต้องไม่เป็นอะไร ซึ่งทำให้นัทมีกำลังใจขึ้นมาก ...
“เอ๊อ ... ผมลืมถามลุงไปเลยครับ ไอ้คนร้ายที่มันยิงพี่วัฒน์มันหนีไปตั้งแต่ตอนไหน ผมมัวแต่หลับตาไม่ทันที่จะมอง ได้ยินแค่เสียงปืนอย่างเดียว ทีแรกผมคิดว่าจะตายซะแล้ว...”
“อ๋อ ก็ไอ้เสียงปืนครั้งแรกที่คุณวัฒน์โดนน่ะ มันได้ยินลงมาถึงบ้านผมตรงตีนเขาเลยครับ ผมก็เลยคว้าปืนวิ่งขึ้นมาดู แล้วก็ให้ยายสาลี่น่ะวิ่งไปตามพวกที่อยู่ใกล้ๆ มาช่วยอีกแรง ... ไอ้ผมก็แก่แล้ว วิ่งไม่ค่อยจะไหว พอเห็นแต่ไกลว่าไอ้แว่นนั่นมันเล็งปืนไปทางพวกคุณๆ ผมก็ไม่รอช้าล่ะ เล็งแล้วลั่นไปก่อนเลย มันคงไม่ได้โดนหรอกครับ มันคงจะตกใจมากกว่าก็เลยหนีลงเขาไปอีกทาง ... ผมล่ะกลัวมันจะหันไปยิงพวกคุณซ้ำก่อนหนีไป แต่โชคยังดีครับคุณที่มันรีบหนีไปก่อน...”
นัทพยักหน้ารับรู้ช้าๆ ก็พอดีกับที่ประตูห้องเปิดออกมา ทุกๆ คนหันไปมองทางเดียวกัน นัทเห็นสีหน้าของคุณหมอกวี แล้วก็ต้องก้าวช้าๆ เข้าไปหาอย่างคนไม่มีแรง ...
“ป่ะ เป็นยังไงครับ พี่วัฒน์ ... พี่วัฒน์เป็นยังไงบ้าง...”
“เอ๊อ ... คือว่า คนป่วยเสียเลือดมากเกินไปนะครับ กว่าที่จะมาถึงหมอ ถึงแม้ตอนนี้เลือดจะหยุดไหลไปแล้ว แต่อาการก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ ...”
“แล้ว แล้วทำไมไม่ให้เลือดล่ะ เลือดผมก็ได้นะครับ...”
“น้องครับ ที่นี่น่ะเป็นเกาะเล็กๆ นะครับ อนามัยของเราก็ไม่มีอุปกรณ์อะไรมากนักหรอก...”
“อย่างนี้พี่วัฒน์จะเป็นยังไงล่ะครับ ทำไม ทำคุณหมอไม่ทำอะไรสักอย่างล่ะ!!!”
นัทเริ่มใส่อารมณ์มากขึ้น จนป้าสาลี่ต้องเข้ามาลูบหลังเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ ให้นัทใจเย็นลง...
“ใจเย็นๆ ซิครับ หมอได้ทำอย่างเต็มที่แล้วนะ เพียงแต่ตอนนี้ต้องขึ้นอยู่กับกำลังใจของคนป่วยเป็นหลัก ถ้าผ่านคืนนี้ไปได้คงหมดห่วง...ตอนนี้หมอให้น้ำเกลืออยู่ แล้วจะพรุ่งนี้เช้าหมอจะมาดูอีกที แต่หมอก็จะพยายามวิทยุไปที่แผ่นดินใหญ่ให้ ถ้าเป็นไปได้ก็จะให้เอา ฮ.มารับคนป่วยไปที่โรงพยาบาลใหญ่เลย...แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเร็วได้ขนาดไหน...”
...
นัทเดินเข้ามาในห้องที่ธวัฒน์นอนอยู่ด้วยลมหายใจที่รวยริน ... น้ำตาที่คิดว่าจะแห้งไปแล้วก็ยังไหลออกมาไม่หยุด ... นี่มันเกิดอะไรขึ้น คำถามนี้ยังคอยรบกวนจิตใจอยู่เสมอ สำหรับคำตอบก็ยิ่งทำให้เจ็บยิ่งกว่า เพราะเค้าถึงทำให้ธวัฒน์เป็นแบบนี้ ถ้าเค้าไม่อยู่ที่นี่ ถ้าเค้าไม่เข้ามาในบ้านนี้ เหตุการณ์ในวันนี้ก็คงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ... นัทนั่งลงที่ข้างเตียงช้าๆ ...มองร่างไร้สติตั้งแต่ใบหน้าที่สงบนิ่ง ลงมาถึงฝ่ามือหนาแข็งแกร่ง ... มือค่อยๆ เอื้อมออกไปสัมผัสมือข้างนั้นเข้ามากุมไว้อย่างทะนุถนอม

ห้วงเวลาแห่งความทรงจำมากมายโผล่เข้ามาให้ได้เห็น ทั้งสุขและทุกข์ ... เค้าก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อผู้ชายคนนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ... ดูเหมือนจะมีแต่ความขัดแย้งเกิดขึ้นเสมอ แม้อยากให้วันเวลาเหล่านั้นหวนกลับมาก็ไม่อาจทำได้อีกแล้ว ... นี่แหละเค้าถึงบอกว่าให้รักและทำดีต่อกันในวันที่ยังมีโอกาส อย่ารอจนมันสายเกินไป จนวันที่ไม่มีใครให้รัก ก็จะมีเหลือแต่ความเศร้าเสียใจ ...

................................................................................................

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
34...
มือใหญ่เนียนนุ่มของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง ยังคงอยู่ในอุ้งมือของนัทที่ร้องไห้หลับไปด้วยความอ่อนเพลียด้วยนั่งเฝ้าธวัฒน์อยู่ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็ไม่มีวี่แววที่ธวัฒน์จะลืมตาตื่นขึ้นมาแม้แต่น้อย ...
แสงแดดอ่อนๆ เริ่มทอแสงเข้ามาทางหน้าต่างต้องใบหน้าชายหนุ่มที่ยังหลับไหล ... ดวงตาของธวัฒน์เปิดออกช้าๆ ความรู้สึกแรกคือสัมผัสอบอุ่นที่ฝ่ามือ ... เหลือบมองก็ได้เห็นภาพที่เค้าคงจะไม่มีวันลืม นั่นคือ นัทที่จับมือเค้าไว้ไม่ยอมปล่อย คราบน้ำตาที่ยังเห็นได้แม้จะแห้งเหือดไปแล้ว บ่งบอกว่าได้ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก เค้าค่อยๆ นึกทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น และหันไปมองคนที่นอนเฝ้าอยู่อีกครั้ง
“นี่เรายังไม่ตายซินะ ...”
ธวัฒน์พยายามจะขยับตัวแต่ก็ทำได้ลำบากยิ่ง เพราะยิ่งขยับก็ยิ่งเจ็บแปลบที่แผลขึ้นมาอีก... ความเคลื่อนไหว ทำให้นัทเริ่มรู้สึกตัวตื่น แต่พอลืมตาก็เห็นเพียงธวัฒน์ที่ยังนอนไม่ได้สติ ... มือสัมผัสได้ถึงร่างกายที่ยังอุ่นอยู่จึงทำให้นัทโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบหน้าของคนที่นอนอยู่ช้าๆ แผ่วเบา ตั้งแต่หน้าผาก แก้ม จนถึงปลายคาง แล้วมาอังไว้ที่แก้มเหมือนอยากจะถ่ายทอดความอบอุ่นส่งผ่านไปให้ถึงหัวใจของอีกคน ให้รีบฟื้นขึ้นมาสักที ...
“พี่วัฒน์เมื่อไหร่จะฟื้นสักทีล่ะครับ อย่าเล่นแบบนี้ซิครับ ผมกลัวนะ ... กลัวที่จะต้องกลับบ้านคนเดียว แล้วผมจะเรียนคุณลุงคุณป้ายังไง ...”
“ผมยกโทษให้พี่เรื่องนั้นนานแล้วนะครับ ... ผมอยากบอกกับพี่นะ อยากบอกมาตั้งนานแล้วด้วย ถ้าพี่ไม่ฟื้นแล้วผมจะบอกกับใครล่ะครับ ...”
จุ๊บ!!
“เฮ๊ย !!!...” นัทอุทานออกมาด้วยความตกใจ รีบชักมือกลับเมื่อจู่ๆ มือที่ยังวางอยู่บนแก้มของธวัฒน์ก็โดนจูบ อย่างไม่รู้ตัว...
“จริงนะครับ ... นัทหายโกรธพี่แล้วจริงๆ นะ ...”
สายตาทะลึ่งทะเล้นของคนที่นอนอยู่ ทำให้นัทเริ่มรู้ตัวว่าโดนต้มโดยไม่รู้ตัว ...
“นี่ ... นี่พี่วัฒน์ฟื้นนานแล้วใช่ไหมครับ ... คนเค้าเป็นห่วงยังจะมาแกล้งผมอีกนะ ...”
นัทรีบลุกจะหนีออกไปด้วยความโกรธ แต่ก็โดนธวัฒน์ดึงมือไว้ ... พยายามสะบัดให้หลุดก็มีเสียงร้องให้ต้องตกใจเสียก่อน
“โอ๊ย!!!”
“พ...พี่วัฒน์ผมขอโทษ เจ็บมากไหมครับ ขอโทษครับผมลืมไปว่าพี่ยังเจ็บอยู่...”
ธวัฒน์รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก นานแล้วซินะที่เค้าไม่ได้อบอุ่นใจแบบนี้ ... เพราะตั้งแต่เหตุการณ์คราวนั้น ก็แทบไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ ... ตอนนี้เหมือนเค้าได้ปลดเปลื้องความทุกข์ทั้งหมดออกไปจากอก ถึงแม้มันจะแค่ชั่วคราวก็ตามที ...
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่ไม่เป็นไร ขอเพียงนัทยกโทษให้พี่ พี่ก็พอใจแล้วล่ะครับ ...”
“ใคร... ใครยกโทษให้พี่กันครับ...พูดเองเออเองหรือเปล่า...”
“อ้าว...”
คนป่วยทำจมูกย่น ... เหมือนกับเด็กโดนขัดใจ ... นัทต้องกลั้นหัวเราะไว้จนปวดท้องในท่าทางของพี่ชาย ...
“ก็ไหนว่าถ้าพี่ฟื้นแล้วจะยกโทษให้พี่ไงล่ะคร้าบบบ ... จะกลับคำเหรอ ... แล้วนี่ขำอะไร เดี๋ยวก็โดนหรอกนะ”
“ทำไม จะทำอะไรผมหรอ คนป่วยจะทำอะไรได้ มิทราบ...”
“ก็แบบนี้ไง ...”
ธวัฒน์ดึงตัวนัทที่นั่งอยู่ขอบเตียงให้ล้มลงบนตัวเค้า ... แม้จะเจ็บแต่ก็ทนเอา ... เพื่อเป้าหมายที่ต้องการ ... ริมฝีปากของคนป่วยถูกบรรจงจูบลงบนแก้มของเด็กหนุ่ม .... ทำให้เลือดถูกสูบฉีดจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ...
“พี่วัฒน์!!! ทำ ทำอะไรอ่ะ...”
นัทพยายามจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอด แต่ก็กลัวจะทำให้คนป่วยเจ็บ จึงดูน่ารักน่าชังเข้าไปใหญ่ในสายตาของธวัฒน์ ...
“ถ้าไม่กลัวพี่เจ็บก็ดิ้นให้แรงกว่านี้ซิครับ กล้าไหมล่ะ...”
เสียงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู แถมหอมที่หน้าผากอีกที ... ทำให้ตอนนี้นัทหน้าแดงไปทั้งหน้า หู และคอแล้วเสียแล้ว .
“โห เล่นแบบนี้เหรอครับ ... นี่ถ้าไม่ป่วยล่ะก็ ... อย่าคิดว่าผมจะยอมแบบนี้นะ ...”
“งั้นพี่ขอป่วยไปเรื่อยๆ เลยดีกว่าครับ จะได้ไม่มีคนคอยขัดใจ ...”
“ฝันไปซิครับ ใครเค้าจะไปเชื่อล่ะครับว่าป่วยจริงหรือเปล่า ...”
ก๊อก ๆๆๆ ...
เสียงเคาะประตูทำให้การทะเลาะเบาะแว้งรอบใหม่จบลงชั่วคราว พร้อมๆ กับการแยกออกจากันแบบอัตโนมัติ ... เป็นลุงเขมนั่นเอง ที่เปิดประตูห้องนำคุณหมอเข้ามาใน ... คุณหมอกวีดูจะยิ้มให้นัทแบบแปลกๆ แต่ก็คงเป็นเพราะหน้าที่แดงผิดปกติของนัทนั่นเอง ... ไม่รู้ว่าหมอจะคิดยังไงบ้าง ... พอเหลือบไปมองคนป่วยก็ยิ้มแบบยียวนกวน...สุดๆ ไม่สะทกสะท้านกับสายตาคนอื่นเค้าบ้างเร๊ยยย....
..................................................

เพี๊ยะ !!!
เสียงฝ่ามือกระทบหน้าของชายหนุ่มดังสนั่นในห้องของโรงแรมย่านชานเมือง ... พร้อมเสียงด่าทอด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเกินกว่าจะระงับไว้ได้ ....
“ไอ้บัดซบ ... แกบังอาจมาก ที่ไปยิงพี่วัฒน์ของฉัน เท่านั้นยังไม่พอ แกยังฆ่าไอ้เด็กเวรนั่นไม่สำเร็จอีก แถมยังกลับมาเสนอหน้าให้ฉันเห็นอีก ...”
“ผมบอกคุณแล้วนะ ว่ามันจะสำเร็จถ้าไม่มีคนมาขวางซะก่อน... ผมจะไม่ยอมตายหรือโดนจับเพราะมารับทำงานให้คุณหรอกนะ”
“ไม่สำเร็จ...ยังไงก็คือไม่สำเร็จนั่นแหละ แกจะมาแก้ตัวยังไง ฉันก็ไม่สนใจ...”
ชายหนุ่มถอดแว่นดำออกอย่างหัวเสียในท่าทีของนภัทร ที่พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะจ่ายค่าจ้างให้กับเค้า ...
“แต่คุณต้องจ่ายค่าจ้างให้ผม !!!”
เพี๊ยะ!!!
“แกถือดียังไงมาขึ้นเสียงกับฉัน!!! อิโถ่เอ๊ย... มืออาชีพประสาอะไร งานเล็กๆ แค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ แกคอยดูนะถ้าคุณวัฒน์เป็นอะไรไปล่ะก็ ฉันไม่เอาแกไว้แน่...”
ชายหนุ่มลูบแก้มเบาๆ หันมามองคนที่ตบหน้าเค้าเป็นครั้งที่สองด้วยความอาฆาต ... แลบลิ้นออกมารับรสเค็มของเลือดที่ซึมออกมาตรงมุมปาก ...
“ทำไมเหรอ คงกลัวซินะว่าจะไม่มีบ่อเงินบ่อทองให้คอยสูบ...”
แขนของนภัทรถูกยกขึ้น และเหวี่ยงซ้ำลงไปที่หน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง ... แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เมื่อเป้าหมายของเธอจับมือเธอเอาไว้ได้ ก่อนที่จะไปกระทบใบหน้าของเค้า ...
“คุณไม่มีสิทธิมาตบหน้าผม !!!”
“ทำไม ไอ้ไพร่... แกจะทำอะไรฉัน ... ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ แกไม่มีสิทธิมาแตะต้องตัวฉัน ปล่อยซิไอ้เลว !!!”
“ผมว่าเราคงเลวพอกันล่ะนะ คนเลวมันก็ต้องคู่กับคนเลวซิจริงไหมจ๊ะ ...”
สายตาของชายหนุ่มที่ซุกซ่อนความหื่นกระหายเอาไว้ ไม่รอดพ้นสายตาของนภัทรที่กำลังหวั่นๆ กับสถานการณ์ของตัวเองที่ชักจะเป็นรองเสียแล้ว ...
“แกพูดอะไร อย่ามาพูดแบบนี้กับฉันนะ ปล่อยฉันบอกให้ปล่อยฉัน ... ไม่งั้นฉันจะเรียกให้คนช่วย ...”
ฝ่ามืออีกข้างที่ยังว่าง...โดนเหวี่ยงออกไปทันที แต่ก็ถูกสกัดไว้อีกจนได้ ...
“ช่ว...ช่วย ด...!!!”
ยังไม่ทันที่เสียงขอความช่วยเหลือจะได้ออกจากปากของนภัทร เธอก็ลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นด้วยความจุกอย่างที่ไม่เคยที่จะมีใครกล้าทำกับเธออย่างนี้ เสียงที่ออกมาตอนนี้มันเบายิ่งกว่าเบาเพราะความจุกที่เกิดจากหมัดของชายหนุ่มนั่นเอง ...
“เป็นไง ยังกล้าจะร้องให้ใครช่วยอีกไหมล่ะ...”
“แก ... ไอ้ ...”
“อ่ะ อ่ะ อย่าให้มีคำพูดหยาบๆ ออกมาจากปากคุณอีกนะ ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้อีก ...”

“ถ้าแกต้องการเงินฉันก็จะให้ ได้แล้วก็รีบๆ ไปให้พ้น น...หน้าฉัน ไอ้สารเลว...ไอ้หน้าตัวเมีย ทำร้ายผู้หญิง...”
“ฮะ ฮะ ฮา ... มาพูดตอนนี้มันสายไปแล้วล่ะ ตอนเนี่ยผมจะขอทั้งเงินแล้วก็...”
สายตาโลมเลียไล่ตั้งแต่ไหลขาวๆ ลงไปจนถึงเนินอกขาว ที่เผยออกมาจากเสื้อเกาะอกเข้ารูป ... ก่อนที่นภัทรจะถูกอุ้มไปโยนลงบนเตียงอย่างทุลักทุเล ... เพราะเธอดิ้นรนจนสุดชีวิต แต่มีหรือที่แรงของผู้หญิงจะสู้ผู้ชายได้ ... สิ่งที่สมควรเกิดแก่ผู้หญิงเช่นนภัทรก็ดำเนินไปด้วยความเจ็บช้ำ แต่อีกคนเล่ากลับมีแต่ความสะใจและความหฤหรรษ์ในอารมณ์ที่ได้เห็นน้ำตาของผู้หญิงที่หวงตัวไว้ให้เจ้าบ่าวที่อาจจะตายไปแล้วก็ได้ ...


VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ  ตอนนี้  นัท  กะ พี่วัฒน์  ก็เข้าใจกันซะที อิอิ   :like6:


สะใจ  ยายภัทร  โดนข่มขืน   ฮ่าๆ  :laugh:  :laugh:   สมน้ำหน้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด