ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossible) By. JmAc  (อ่าน 139319 ครั้ง)

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้  เอาไปแค่นี้ก่อนนะค๊าบ    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามคับ ^^  :yeb: :yeb: :yeb:

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

10...
“คุณวัฒน์ แน่ใจเหรอครับ ว่า...ทำเป็นอ่ะ”
“ดูถูกกันจังนะ แล้วคอยดูแล้วกัน....”
ธวัฒน์นำเนื้อ และผักต่างๆ มาวางบนโต๊ะเต็มไปหมด นัทได้แต่นั่งมองตาปริบๆ เพราะไม่รู้ว่าจะช่วยอะไร จนธวัฒน์หลิ่วตามอง และกระแอมเบาๆ ...
“นี่...ใจคอ จะไม่ช่วยอะไรเลยเหรอ จะรอรับประทานอย่างเดียวใช่ม่ะ”
“ก็ผมบอกแล้วนี่ครับ ว่าผมทำไม่เป็น”
“ก็ไม่ได้จะให้ทำ แค่ช่วยเอาผักพวกเนี้ย ไปล้างและหั่นน่ะ คงไม่ยากไปหรอกนะ”

โห...ไรฟ่ะ ยังชอบสั่งเหมือนเดิม เป็นชุดๆ เชียว ... นัทได้แต่บ่นแค่ในใจ ก็ในเมื่อท้องของนัทมันอยู่ในกำมือของเค้านี่นา จนนัทล้างผักเสร็จ และกำลังหั่นอย่างเก้ๆ กังๆ ... แต่ธวัฒน์ที่หั่นเนื้ออยู่ก็ได้แต่แอบขำ ...
“นี่หันผักให้คนกินนะ ไม่ใช่เอาไปเลี้ยงวัว แต่นัทเป็นคนกินพี่ก้ไม่ว่าอะไรหรอก...”
ธวัฒน์พูดเสร็จก็หันไปเตรียมกระทะวางบนเตา ... โดยไม่สนใจท่าทางที่นัทกำลังบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว มือก็หั่นผักไปแบบไม่สนใจจะให้ออกมาดูดีเท่าไหร่ ...
“โอ้ย ...”
เสียงของนัทที่ร้องเสียงดัง ทำให้ธวัฒน์หันขวับมาดูอย่างตกใจ ...
“เป็น...เป็นอะไรนัท ร้องซะเสียงดังเชียว”
“ก็...ก็...มีดบาดอ่ะครับ ....”
นัทพูดพร้อมกับโชว์ นิ้วที่มีเลือดไหลเป็นทาง ลงมาตามแขนของนัท ที่ตอนนี้หน้าซีดเผือดจนเห็นได้ชัด ธวัฒน์ก็คงพอจะเดาได้ว่านัทคงจะกลัวเลือดไม่น้อยเลย

“อย่ายืนเฉยซิ เอ้า...เอานิ้วมานี่”
นัทยืนอ้าปากค้าง เพราะธวัฒน์ดึงนิ้วที่มีดบาดของเค้า เข้าปากไปซะแล้ว ... เฮ้ย...ทำไรอ่ะ....
“คุณ ... คุณวัฒน์ทำอะไรครับ .... มันสกปรกนะครับ”
ตอนนี้นัทยืนก้มหน้าที่แดงจัด ใจก็สั่นอย่างประหลาด เพราะอะไรไม่รู้ แต่ที่นัทรู้ก็คือ ไม่เคยมีใครมาทำแบบนี้กับเค้า ... ธวัฒน์ที่ดูดเลือดจากนิ้วของนัทได้สักพัก เงยหน้ามามองคนตรงหน้า มือก็ยังกำมือของนัทอยู่ ....

“ปากพี่ไม่สกปรกหรอกน่า ... ไม่ต้องกลัวติดเชื้อหรอก... อีกอย่างเวลาเลือดออกเนี่ย ถ้าใช้ปากดูดเลือดมันจะช่วยให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้นนะ ว่าแต่เมื่อกี้...ยังกลัวจนหน้าซีดอยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้หน้าแดงขนาดนั้นล่ะ...”
“คือ ... ผมหมายถึงนิ้วผมหรอกครับที่มันสกปรก ดูดเข้าไปได้…”
“หึ หึ ... ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่หั่นผักมันก็ไม่ได้สกปรกอะไร เห็นไหมล่ะ เลือดหยุดไหลแล้ว”
“ครับ ... ครับ ขอบคุณครับ”
“อะนะ ... พูดดีๆ ก็เป็นนี่นา นึกว่าจะพูดไม่เป็นซะอีก เอ้า...มานี่ก่อน...”

ธวัฒน์พูดพร้อมกับเดินจูงมือของนัทมาที่ตู้ยา และหยิบพลาสเตอร์มาปิดแผลให้กับนัท เด็กหนุ่มมองหน้าชายหนุ่มสลับกับมือที่กำลังปิดพลาสเตอร์ให้กับเค้าอย่างตั้งใจ ...
เวลาใจดีก็อ่อนโยนจนใจหาย แต่เวลาใจร้ายก็ไม่รักษาน้ำใจเล๊ย ... ยังกับเป็นคนละคนแน่ะ ... เคยไปทำแบบนี้กับใครมาบ้างนะ .... เฮ้ย...เฮ้ย ...บ้าไปแล้วเรา ทำไมต้องไปสนใจด้วยนะ เค้าจะทำอะไรกับใครแล้วมันเกี่ยวกับเราไหมเนี่ย ...
“เอ้า...เสร็จแล้ว พี่ว่านั่งอยู่เฉยๆ ดีกว่านะ ไม่ต้องทำแล้วล่ะ ไม่งั้นอาจจะมีหัวแตก หรืออาจตาบอดตามมาอีก พี่จะซวย”
“ผมทำให้คุณวัฒน์ ลำบากมากเลยเหรอครับ”
นัทก้มหน้าพูดออกไป โดยไม่รู้เหมือนกันว่าจะถามไปทำไม นึกแล้วก็อยากจะตบปากตัวเองที่ปากไวเหลือเกิน...

สายตาธวัฒน์มองนัทนิ่งอยู่สักครู่เหมือนกำลังชั่งใจบางอย่าง ... ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวนัทเบาๆ ทีนึง
“ไม่หรอก .... แค่กลัวคุณแม่จะว่าเอาน่ะ ถ้าเกิดหลานรักของท่านเป็นอะไรไป... เอ้าไปนั่งดูอยู่เฉยๆ เลย อีกแป๊บเดียวก็ได้ทานแล้วล่ะ”

เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียวตามเวลาของนัท ที่มองการทำอาหารของธวัฒน์อยู่จนเพลิน โดยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณหนูผู้หยิ่งทระนง และเอาแต่ใจ จะเป็นมืออาชีพด้านการทำอาหารได้ อาหารสองสามจานทำเสร็จมาวางอยู่ตรงหน้าของนัท กลิ่นหอมจนท้องของนัทร้องออกมาเหมือนอยากจะชิมเต็มที ...
“เอ้า...เช็ดน้ำลายหน่อย...อยากทานก็ทานซิ ไม่ต้องกลัวท้องเสียหรอกน่า....”

นัทหยิบช้อนตักอาหารจานแรกเข้าปาก อย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ความหิวมันมีชัยเหนือ ความกลัว ... กำลังจะเอื้อมมือไปตัก ธวัฒน์ก็พูดขึ้นก่อน ...
“อุตส่าห์มาทำให้แล้วไม่กินเนี่ย ... สงสัย ... ต้องจับป้อนซะละมั้ง ฮะ ...”
“ไม่...ไม่ต้องครับ ผมทานครับ ทานแล้วครับ...ไม่ต้องป้อน ผม...ผมทานได้”
“งั้นก็ทานซิ มองอะไรอยู่ หน้าพี่ไม่ใช่ของกินนะ”

นัทตักอาหารเข้าปาก แล้วต้องรู้สึกทึ่งเมื่อรสชาติไม่ใช่พอทานได้ แต่ต้องบอกว่าอร่อยเลยล่ะ ...โห ไม่อยากจะเชื่อว่าคนแบบนี้จะทำอร่อยแฮะ ... ขัดกับบุคลิกสุดขีด ... นัทกำลังชื่นชมกับธวัฒน์อยู่ในใจ ก็พอดีที่ธวัฒน์ซึ่งนั่งฝั่งตรงข้างยื่นหน้ามาถาม...
“เป็นไงบ้าง...อร่อยหรือเปล่า...”
“ก็...ก็...ใช้ได้ครับ...”
จะชมตรงๆ ก็เขินๆ ยังไงพิกล .... ก็เลยต้องบอกแบบนี้ ...
“แค่ใช้ได้เองหรอ....”
ธวัฒน์ทำคิ้วขมวดเล็กน้อย...อย่างแปลกใจ นี่เค้าฝีมือตกเหรอเนี่ย... ก่อนจะคว้าช้อนจากมือของนัทที่ถืออยู่ มาตักอาหารในจานเข้าปาก ... ก็อร่อยนี่นา ... เด็กเลี้ยงแกะ ... ปากไม่ตรงกับใจ ... ธวัฒน์ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกไป...

“ถ้าไม่อร่อย...ก็อย่ากินเลย เสียชื่อหมด....”
ไม่ได้พูดอย่างเดียว ธวัฒน์ยกจานอาหารเดินไปที่ถังขยะ กำลังทำท่าจะเททิ้ง ....
“คุณวัฒน์ อย่า...อย่าทิ้งครับ ... ไม่เสียดายเหรอครับอุตส่าห์ทำน่ะ”
“ก็มันไม่อร่อย อย่ากินเลยดีกว่านะ เดี๋ยวรอนมพริ้มมาทำให้ดีกว่านะ...”

“อร่อยก็ได้ครับ...”
นัทก้มหน้าพูดเสียงอ่อย ... เมื่อเจอไม้ตายของธวัฒน์เข้า คนอะไรว่ะทีแรกยังดีอยู่เลย กลับมาเอาแต่ใจอีกล่ะ...
“พูดว่าอะไรนะ พี่ไม่ค่อยได้ยินเลย…”
“ผมบอกว่าอร่อยครับ เมื่อกี้ผมพูดเล่นหน่อยเดียวเอง ... อย่าเล่นแบบนี้ซิครับ เสียดายออก ...”
ธวัฒน์ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเดินกลับมาวางจานลงตรงหน้าเด็กหนุ่มเหมือนเดิม ...
“ยอมรับแล้วซินะว่าโกหก... พูดความจริงตั้งแต่แรกก็ได้กินอิ่มไปล่ะ”

นัทมองคนตรงหน้านิดนึงอย่างอายๆ อย่างที่เด็กโดนจับได้ว่าโกหก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารตรงหน้าโดยไม่มองหน้าธวัฒน์อีก .... จนนมพริ้มเดินเข้ามานั่นแหละ นัทถึงโล่งอก ... เพราะใจมันตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะมีคนกำลังจ้องมองตอนที่เค้ากำลังทานอาหารอยู่

“หืม ... คุณวัฒน์มาทำอะไรในครัวค่ะเนี่ย...”
“อ๋อ...ทำอะไรให้คนอดข้าวประท้วง ทานนิดหน่อยครับ”
นมพริ้มมองหน้านัท ยิ้มๆ นั่นยิ่งทำให้นัทอายเพิ่มขึ้นอีก ...
“นี่คุณวัฒน์ของนม ลงมือเองเลยเหรอค่ะ ... คุณนัทโชคดีจัง ได้ทานฝีมือของคุณวัฒน์เนี่ย”
จะเรียกว่าโชคดี ดีไหมเนี่ย นัทเอ๊ย ... คนทำเอาแต่ใจสุดๆ ...
“งั้น ... ผมฝากนมจัดการต่อด้วยนะครับ ผมขอไปเตรียมงานที่ใช้ประชุมพรุ่งนี้หน่อยนะครับ ให้แววยกกาแฟให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ อีกสักครู่นะค่ะ...”

ธวัฒน์เดินออกไปแล้ว .... นัทรีบถามนมพริ้ม ทันทีเพราะอยากรู้เหลือเกิน ...
“นมครับ ... คุณวัฒน์ของนมเนี่ย ไปเรียนทำอาหารมาจากไหนเหรอครับ”
“อ๋อ ... ไม่ได้เรียนที่ไหนหรอกค่ะ ก็นมเนี่ยแหละเป็นคนสอน เป็นไงค่ะ อร่อยสู้นมทำได้เลยใช่ไหมล่ะ…”
“ก็ประมาณนั้นแหละครับ ไม่น่าเชื่อ...”
“สมัยเด็กๆ น่ะคุณวัฒน์ก็อยู่คนเดียวบ่อยๆ เพราะคุณท่านกับคุณหญิงไม่ค่อยอยู่บ้าน คุณวัฒน์ก็จะเกาะนมแจเลยล่ะค่ะ วนเวียนอยู่ในครัวนี่แหละ ช่วยนมทำโน้นทำนี่ จนได้วิชาติดตัวไปโดยปริยาย แถมไปเรียนเมืองนอกก็ยิ่งทำให้ต้องพึ่งตัวเองซะส่วนใหญ่เพราะเธอไม่ค่อยชอบอาหารฝรั่งนัก กลับมายิ่งเก่งเลยล่ะค่ะ…”

“เหรอครับ เพราะส่วนใหญ่อยู่แต่กับนมนี่เอง...”
“ว่าแต่ คุณนัททานเสร็จแล้ว นมวานนิดนึงนะค่ะ”
“ครับ...ได้เลยครับ ให้นัททำอะไรล่ะครับ นัททำได้หมดเลย”
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ จะฝากคุณนัทเอากาแฟขึ้นไปให้คุณวัฒน์ที่ห้องหน่อยน่ะ เพราะหนูแววมันตัวมอมแมมอยู่หน้าบ้านแนะ นมก็จะเตรียมอาหารเย็นด้วย.... นะค่ะ นมวานนิดนึง”

o_O
“หา....ให้...ให้ผมเอากาแฟไปให้คุณวัฒน์เหรอครับ…..”


ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :fox2: :fox2: ตกลงนัทเริ่มหวั่นไหวชะมะคับ  :fox2: :fox2:  อย่างกับหนังพิศาลเลยนะครับ  เหลือแต่ตบ-จูบอีกหน่อยก็ใช่แล้วหล่ะครับ  :haun5: :haun5:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ เอากาแฟไปเสริฟถึงห้อง ต้องมีอะไรแน่ ๆ  :laugh5:  :laugh5:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ตั้งหน้าตั้งตาคอย  ตอนนัทไปที่ห้องวัฒน์นะ  ต้องมีอะไรแหง่ๆ จิ้นรอก่อน  :laugh5:

รออ่านต่อจ้า  น้องหมี  :yeb:

wee

  • บุคคลทั่วไป
น่าสนใจ น่าสนใจ  :รักจัง11: :5555:
สงสัยเราจะติดนิยายอีกเรื่องแล้วคร๊าบบบ....เฮ้อ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
 :haun1: เสิร์ฟถึงห้องเลยเหรอ.. อิอิ
ติดตามอยู่น้า.. ชอบๆ :จ้อบจัง1:

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อให้แล้วคับ  ขอโทษทีให้รอนาน ค๊าบบ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

11...
นัทยืนลังเลอยู่หน้าห้องของธวัฒน์ ในมือถือถ้วยกาแฟที่นมพริ้มฝากให้เอามาให้คนในห้อง ...
“ไม่น่าเลยไอ้นัทเอ๊ย... ดันเผลอไปรับปากซะได้ เข้าถ้ำเสือจะโดนเสือกัดตายไหมเนี่ย…”
กาแฟในมือเริ่มจะเย็นนั่นแหละ ถึงตัดสินใจที่จะเคาะประตูเข้าไป ...
ก๊อก ก๊อก ...
“เข้ามาได้เลยแวว...ไม่ได้ล็อก...”
นัทเปิดประตู้เข้าไป ก็กำลังเห็นธวัฒน์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน มีจอคอมพิวเตอร์อยู่ตรงหน้า และกั้นสายตาที่ธวัฒน์จะมองเห็นเค้า มีโต๊ะนั่งเล่นวางอยู่ตรงกลางห้องสำหรับนั่งพักผ่อนหรือดูทีวี ...
“ทำไมช้าจังล่ะ ... วางไว้ตรงนั้นแหละแวว... ขอบใจมากนะ” ธวัฒน์บอกทั้งๆ ที่สายตายังจ้องอยู่ที่จอ ...

นัทวางถ้วยกาแฟ ลงอย่างช้าๆ พยายามไม่ให้เกิดเสียงดัง และก้าวถอยหลังทีละก้าว ทีละก้าว ... ไปที่ประตู สายตามองคนที่ง้วนอยู่กับการทำงาน เหมือนกลัวว่าเค้าจะโผล่หน้าออกมามอง .... เมื่อก้าวถึงประตู เด็กหนุ่มกลับหลังหัน และบิดเปิดประตูให้เบาที่สุด และค่อยๆ เปิดออก โดยไม่ได้หันกลับไปมองอีกเลย และเมื่อกำลังจะก้าวออกไปนั่นเอง ....
!!! ปัง !!!
ประตูถูกมือของใครคนนึง ดันปิดไว้ตามเดิม แขนยาวยังคงดันประตูอยู่แบบนั้น เหมือนไม่อยากให้คนตรงหน้าเปิดหนีไปก่อน นัทได้แต่ยืนนิ่งเพราะตกใจสุดขีด เพราะตอนนี้ธวัฒน์ประชิดอยู่ด้านหลังของเค้าแล้ว และเด็กหนุ่มอยู่ในหว่างแขนสองข้างที่ธวัฒน์ดันประตูไว้ ...
ผีหรือคนว่ะเนี้ย .... แป๊บเดียวเอง ไมถึงไวงี้อ่ะ .... นัทไม่กล้าหันกลับไปมอง...เพราะลมหายใจของอีกคนมันรดต้นคอเค้าอยู่ ... จนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ... ถ้าหันกลับไปหน้าต้องชนกันแน่ๆ .... ตอนนี้ในใจมันสั่นเป็นกลองเพล ไปแล้ว ....

“ใครอนุญาตให้เข้ามาในห้องของพี่...หะ” ธวัฒน์พูดเบาๆ ใกล้ๆ หูของนัท ... เล่นเอาเด็กหนุ่มขนลุกซู่ ....
“ก็คุณนมให้ผมเอากาแฟมาให้ แล้ว...แล้วเมื่อกี้ผมก็เคาะประตูแล้วนี่ครับ…”
“เมื่อกี้พี่บอกว่า ให้แววเข้ามาได้ ... แต่ไม่ได้บอกว่าให้นัทเข้ามาได้นี่...ถูกไหม...”
เอาแล้วไหมล่ะ ...เจอดีเข้าจนได้ ไอ้นัทเอ๊ย...

“ก็แวว...ไม่ว่างอ่ะ... แล้วผมก็แค่เอามาวางไว้เฉยๆ ไม่ได้กวนอะไรคุณวัฒน์นี่ครับ…”
“แต่พี่ไม่ชอบ... ถ้าพี่ไม่ไว้ใจ ... ใครก็ห้ามเข้ามาทั้งนั้น...เข้าใจไหม...”
“ครับ ครับ ... ผมมันไม่น่าไว้ใจ ... คราวหลังผมจะไม่เข้ามาอีก พอใจหรือยังครับ”
นัท พูดด้วยเสียงน้อยใจ... จนธวัฒน์ที่คิดจะแกล้งน้องเล่น หน้าเริ่มเสีย ... ไม่คิดว่านัทจะจริงจังกับคำพูดของเค้า ...

ไอ้วัฒน์เอ๊ย...ทำเด็กขี้แย น้อยใจอีกแล้วไหมล่ะ... จะขอโทษก็ใช่ที่ เพราะฟอร์มมันเยอะเกินไป ... เลยต้องเล่นต่อ ...
“แค่นี้ยังไม่พอหรอก...” ธวัฒน์พูดเสียงแข็งเล็กน้อย ...
“แล้วจะเอายังไงล่ะครับ แค่นี้มันยังไม่พอหรือครับ”
นัทเริ่มพูดเสียงดังขึ้น ... จนธวัฒน์สัมผัสอารมณ์ของนัทได้ ว่ากำลังครุกรุ่น ....
จากสองแขนที่ยันประตูอยู่ ... แขนสองข้างของธวัฒน์เปลี่ยนมารัดรอบคอของนัทรั้งมาแนบแผ่นอกกว้าง ... เอาล่ะซิ ใจนัทเริ่มสั่นอีกแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะความโกรธ น้อยใจเหมือนเมื่อครู่... อารมณ์นั้นหายไปทันที เมื่อศีรษะสัมผัสแผ่นอกและปลายคางของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง…

“คุณ...คุณวัฒน์...”
นัทพูดด้วยเสียงละล่ำละลัก...
“ไม่อาววว ...”
ธวัฒน์ลากเสียงยาว .... (น่ารักเกินไปล่ะ) แต่ดีที่นัทไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าแบบเด็กๆ ของธวัฒน์ ไม่งั้นคงได้หัวเราะท้องแข็งแน่ๆ ...
“ถ้าอยากให้ยกโทษเรื่องเข้ามาโดยพลการ ต้องเรียก พี่...พี่วัฒน์ไง เรียกพี่เหมือนที่เรียก ไอ้แทนน่ะ…”
O_o
“หา...คุณวัฒน์ว่าไงนะครับ”

แขนที่รัดรอบคอของนัทเริ่มนัทแน่นขึ้น ....
“โอ้ย...คุณวัฒน์....ผมเจ็บนะครับ...ปล่อย...ปล่อยซิครับ”
นัทพยายามดิ้นรนให้หลุดจากวงแขนของธวัฒน์ แต่เหมือนเรี่ยวแรงของเค้าจะสู้ธวัฒน์ไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เค้าก็เป็นนักกีฬาและร่างกายก็แข็งแรงไม่แพ้ใครในรุ่นเดียวกัน...
“ไม่ปล่อย....จนกว่าจะเรียก ... ไม่งั้นจะรัดให้ตายเลย...”
“เรียกครับ ... เรียกแล้วครับ ปล่อยก่อนซิครับ...”
คนอะไรว่ะ เอาแต่ใจสุดๆ โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วเล่นยังกะเด็กๆ
“เรียกก่อนไม่งั้น ก็ไม่ปล่อย ... กลัวโดนหลอก เอ้า...เร็วๆ ซิ พี่ต้องทำงานอีกเยอะเลยนะ”
ธวัฒน์คลายแขนที่รัดอยู่ออกเล็กน้อย เพื่อรอฟังคนตรงหน้า ...

“พี่วัฒน์...”
เสียงเบายิ่งกว่ากระซิบ ...
“ไม่...ได้...ยิน...”
“พี่วัฒน์...”
เริ่มได้ยิน ...แต่ยังไม่สะใจบางคน ...
“ !!!พี่วัฒน์...!!! ดังพอไหมครับ ปล่อยได้แล้ว...ปล่อยซิครับ”
ธวัฒน์ปล่อยแขนออกแล้ว แต่นัทยังไม่กล้าหันไปสู้หน้า ... ก็คนมันอายนี่นา ... แค่สองวัน ต้องเปลี่ยนจาก คุณธวัฒน์ เป็นคุณวัฒน์ แล้วก็เป็น... พี่วัฒน์ เนี่ยนะ ... เอาแต่ใจจริงๆ อยากให้เรียกอะไรก็บังคับขู่เข็ญ (ดีที่ยังไม่ข่มขืน อิอิ...)

“แล้วต่อไป...ก็ยกกาแฟมาให้พี่ด้วยนะ...”
เสียงธวัฒน์แว่วมาจากที่อีกฝั่งของห้อง จนนัทต้องหันกลับมาด้วยความสงสัย... อ้าว...กลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ... ปล่อยให้เกร็งอยู่ได้ ...
“ฮะ...คุณวัฒน์ว่า...”
อะแฮ่ม ... เสียงธวัฒน์กระแอมขัดขึ้นก่อน ... ทำให้นัทนึกขึ้นได้ ...
“เอ่อ... ผมหมายถึง... พี่วัฒน์จะให้ผมยกกาแฟมาให้เนี่ยนะ”

“ก็ใช่ ... เข้าใจถูกแล้วนี่... มีปัญหาเหรอ ...”
“เปล่า เปล่าครับ ไม่มี...”
“ก็ดี ... อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ... คงเคยได้ยินมาบ้างนะ ไปได้แล้วล่ะ พี่จะทำงานต่อ”
โธ่เอ๊ย...ให้ปั้นวัวปั้นควาย ยังจะง่ายกว่ามาเอาใจคนอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอยแบบนี้อีก ... นัทเปิดประตูออกไป แล้วโดยไม่เห็นสายตาของคนที่มองตามจนเด็กหนุ่มปิดประตู รอยยิ้มด้วยความพอใจปรากฏให้เห็นขณะทำงานไปอย่างสบายอารมณ์…
...
นัทเดินลงมาชั้นล่าง และกำลังอ่านหนังสือที่แวะหยิบมาจากห้องอยู่ ... ก็พอดีที่แวว วิ่งเอาโทรศัพท์มาเข้ามาหา ...
“โทรศัพท์ของคุณนัทค่ะ...”
“หา...ของผมเหรอ...แน่ใจเหรอครับ...”
“ค่ะ ... แน่ใจซิค่ะ ก็เค้าบอกว่าคุณนัท และบ้านเราก็มีแค่คุณนัท คนเดียว...”
นัทรับโทรศัพท์มาอย่าง...งง งง .... ใครจะโทรหาเค้ากันนะ โดยเฉพาะเค้ายังไม่เคยให้เบอร์บ้านนี้กับใครเลย เพราะเค้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เบอร์อะไร

“สวัสดีครับ ... ต้องการพูดกับใครครับ” นัทพูดกับปลายสายด้วยไม่แน่ใจว่าจะเป็นเค้าจริงๆ ...
“ก็พูดกับเอ็ง นะแหละไอ้นัท ... จำเพื่อนไม่ได้เหรอไงว่ะ”
“เฮ้ย ... เอกหรอ”
“เออเดะ...”
“แล้วรู้เบอร์ที่นี่ได้ไงอ่ะ ข้าเองยังไม่รู้เลยนะ...”
“ยังบื้อไม่เปลี่ยนเลยนะ ไม่ค่อยจะทันคนแบบนี้น่าห่วงจริงๆ...ก็ถ้ารู้ว่าเป็นบ้านใคร...มันก็ไม่อยากหร๊อก ... ที่จะหาเบอร์....”
“ไอ้บ้า...ก็นั่นแหละ แล้วเอ็งรู้ได้ไงล่ะว่าข้าอยู่บ้านใคร ... ข้ายังไม่ได้บอกเลยนี่”
“เออน่า ...เอาไว้จะเล่าให้ฟัง ....ว่าแต่พรุ่งนี้ว่างป่ะ จะนัดออกมาเที่ยวกันหน่อย”

นัททำหน้าสงสัยไม่หาย เพราะอดแปลกใจไม่ได้ที่เพื่อนรู้ว่าเค้าอยู่กับใคร ...
“เพิ่งเจอกันวันนี้เองนะโว้ย ... ว่าแต่จะไปที่ไหนอ่ะ”
“จะไปแถวๆ ..... มาบุญครองน่ะ มีเรื่องจะคุยเยอะแยะเลย ... ไปเถอะน่า ... บอลก็ไปด้วยนะ”
“อืม...สงสัยต้องขอคุณป้าก่อนว่ะ... ไม่อยากไปไหนตามใจชอบน่ะซิ...”
“ไม่หรอกม้าง ... ก็ลองบอกไปซิว่าไปกับลูกของพลตรี รักเกียรติ ท่านคงไม่ว่าหรอก”
“เฮ้ย...เอก นี่เอ็งรู้อะไรบ้างเนี่ย ...ข้าชักสงสัยแล้วนะ”
“เอาเป็นว่า ลองดูนะ แล้วพรุ่งนี้จะโทรไปถามอีกที แล้วจะไปรับ แค่นี้แหละ...”
“เฮ้ยๆ ... เดี๋ยวซิว่ะ...”

เอกวางสายไปแล้ว ... ปล่อยให้นัทนั่งเครียดอยู่ ... เพราะกลัวว่าคุณป้าจะว่าเอาได้ ก็ในเมื่อเค้ามาอาศัยในบ้านของเค้าแบบนี้ จะทำอะไรตามใจชอบ นัทรู้สึกเกรงใจมากๆ .... แต่ยังไงก็คงต้องลองขอดูก่อนล่ะนะ ....


VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
 :yeb:     :yeb:       :yeb:

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

12...

ธวัฒน์กำลังทำหน้าบูด เพราะนัทมาขอไปหาเพื่อนๆ ... ตอนช่วงเช้าก่อนที่เค้าจะไปทำงาน ...
“มาอยู่ไม่ทันไรก็จะออกเที่ยวแล้วเหรอ…”
“ก็ไม่ได้ไปไหนกันหรอกครับ แค่ไปนั่งๆ คุยกันเท่านั้นเอง แล้วผมจะรีบกลับนะครับ…”
นัทเองก็ทำหน้าไม่ถูก เพราะจริงๆ ก็เกรงใจอยู่ไม่น้อย .... คุณป้าก็ออกไปก่อนที่เค้าจะลงมา จึงเหลือเพียงธวัฒน์คนเดียวที่นัทจะขอออกไปข้างนอก...
“ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบไม่ใช่หรือไง ดังนั้นห้ามไปไหนทั้งนั้น ... ถ้าอยากเจอกันนักละก็ให้มาหาที่นี่ ไม่ให้ไปเที่ยวเล่นข้างนอก จะไปไหนบ้างก็ไม่รู้เพราะไม่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ .... ถ้าเพื่อนนัทมาไม่ได้ก็ไม่ต้องไป เข้าใจแล้วนะ ...”
ธวัฒน์หันไปพูดกับนมพริ้มสักครู่ ก่อนหิ้วกระเป๋าออกไปที่รถเพื่อไปทำงานทันที ... โดยไม่หันมามองทางนัทอีก .... นัทเองก็พอจะรู้ว่า...ธวัฒน์คงกำลังโมโหอยู่ ....
“เฮ้อ ... เรื่องแค่นี้เอง ... บ้าจริงๆ จะให้อ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนหรือไงกันนะ...”

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในช่วงสายของวันนั้น ... เป็นเสียงที่นัทเฝ้ารอคอยอยู่ ... เมื่อปลายสายบอกว่าจะพูดกับนัทแววจึงเดินยิ้มถือโทรศัทพ์เข้ามาให้เพราะเห็นนัทเดินไปเดินมาแถวๆ โทรศัพท์อยู่นานแล้ว ... เมื่อนัทรับมาแล้วแววจึงเดินออกไปทำงานต่อ ...
“โหล...นัทเหรอ ....”
“อืม...ใช่”
“ว่าไงว่ะ ตกลงออกมาเจอได้เปล่า ... ข้าจะได้ไปรับ”
เสียงเอกที่ได้ยินกำลังต้องการคำตอบ ... เด็กหนุ่มถอนใจเฮือกนึง ก่อนจะตอบเพื่อน ...
“สงสัยจะไม่ได้ว่ะ ... เมื่อเช้าขอคุณวัฒน์แล้วอ่ะ เค้าบอกไม่ให้ออกไปเที่ยวข้างนอกให้อ่านหนังสืออยู่กับบ้าน แล้วถ้าอยากเจอให้มาที่นี่นะซิ”
“อ้าว...เหรอว่ะ ดีดี ... งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ”
ตรู๊ด ....... ตรู๊ด .......
O_o
“เฮ้ย...เอก...ไมวางสายไปเงี้ยล่ะ... ตกลงจะมาที่นี่จริงๆ เหรอว่ะเนี่ย....”
นัทกำลัง...งง...เมื่อเอกวางสายไปเฉยๆ ... และที่เอกบอกว่า เดี๋ยวเจอกันอีก... แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง คุณหนูเจ้าอารมณ์เค้าไม่อยู่ ... คงไม่เป็นไรหรอก...

อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ... แววก็เข้ามาบอกกับนัทที่อ่านหนังสืออยู่ในสวนว่า มีแขกมาพบ ... เมื่อหันไปก็เจอกับเอกและ...บอล กำลังเดินตรงมาหาเค้าแล้ว ...
“ขอบคุณครับแวว ... มีงานก็ไปทำเถอะครับ ...”
แววเดินออกไป ก็พอดีกับที่เอกและบอลเดินมาถึง ... เอกยิ้มกว้างเอ่ยทักทายนัทที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ...
“ว่าไงคุณหนู สบายดีไหมครับ ...”
“เดี๋ยวก็โดนถีบหรอกไอ้เอก ... ทีแรกก็สบายหรอก แต่พอเจอหน้าเอ็งก็เริ่มปวดหัวแล้วเนี่ย...”
บอลที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะเอกเสียงดังที่โดนนัทว่าเอา เอกถองสีข้างบอลทีนึง ก่อนที่บอลจะเอ่ยทักทายบ้าง
“ดีครับ...นัท สบายดีนะ ... แต่จริงๆ น่าจะสบายนะเพราะอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้”

นัทยิ้มทักทายบอล แล้วทำท่าทางบอกให้เพื่อนทั้งสองคนนั่งลง ... ก่อนจะตอบคำถาม ...
“มันก็ .... ไม่ได้สบายอย่างที่คิดหรอกนะ .... ว่าแต่เอกกะบอลรู้ได้ไงว่านัทอยู่ที่นี่อ่ะ”
เอกหันหน้าไปหัวเราะกับบอล จนทำให้นัทสงสัย
“ขำไรว่ะ...”
“ก็แค่เดาไว้น่ะว่าเอ็งต้องเริ่มถามอย่างนี้แน่ๆ ... เอ็งน๊า...เป็นพวกไม่ยอมให้มีอะไรค้างคานะซิ สงสัยอะไรก็จะถามให้รู้เรื่องกันไปเลย...รู้เปล่าล่ะ”
“เหรอ...เป็นงั้นจริงๆ เหรอว่ะเนี่ย...”
“ก็ใช่นะซิ ... ว่าแต่เอ็งมาอยู่ที่นี่ได้ไงว่ะนัท แล้วแม่เอ็งล่ะ อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ...”

“เฮ้ย...ข้าถามเอ็งก่อนนะเอก ไหงย้อนมาถามก่อนแบบนี้ล่ะ ...”
“เออน่า...บอกมาก่อนแล้วจะบอก ...”

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้นัทก็ชักจะคิดถึงแม่ขึ้นมาอีก ... หน้าเศร้าลงไปนิดหน่อย แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงจึงพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พอดีกับที่แวว ยกน้ำและขนมเข้ามาเสิร์ฟพอดี นัทจึงยังไม่ได้เล่า ...
“ขอบคุณครับแวว ไม่ต้องลำบากก็ได้นะ ผมว่าจะเข้าไปเอาเองล่ะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนัท ... และคุณนมฝากเรียนว่าเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้แล้วนะค่ะ พอถึงเวลาก็เชิญที่โต๊ะได้เลยค่ะ”
“ทำไมต้องตั้งโต๊ะล่ะครับ ผมเข้าไปในครัวก็ได้ครับ ไม่น่าจะต้องยุ่งยากเลย”
“อ๋อ...มันเป็นคำสั่งคุณธวัฒน์น่ะค่ะ ... งั้นแววขอตัวก่อนนะค่ะ”

แววออกไปแล้ว แต่นัทก็ยังสงสัยอยู่ว่า ... ธวัฒน์คิดยังไงที่สั่งให้ต้อนรับเพื่อนเค้าดีแบบนี้ ... ก็พอดีกับที่เอกสะกิดนั่นแหละนัทถึงได้สติ ...
“เฮ้ย...คิดไรว่ะ ... เหม่อเชียวนะ แล้วตกลงว่าไงล่ะ...ที่ถามน่ะ”
“เออ เออ ... แค่สงสัยอะไรนิดหน่อยไม่มีไรหรอก .... ส่วนที่เอ็งถามก็ ....”
นัทเล่าเรื่องราว หลังจากที่แยกกับเอกที่โรงเรียนให้ฟัง ... ถึงสาเหตุที่ต้องเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และจะต้องเข้ามหาวิทยาลัยที่เมืองไทย ไม่ใช่อเมริกา เหมือนที่ตั้งใจไว้ตอนแรก ...

“อืม...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง” … เอกและบอล พยักหน้ารับรู้ พร้อมๆกัน ระหว่างที่ฟังนัทเล่า และจนกระทั่งเล่าจบ ...
“เอาล่ะ...ทีนี้ก็ตาแกเล่าบ้าง แล้วนะเอก ว่าแกรู้ได้ไงว่าข้าอยู่ที่บ้านนี้อ่ะ”
“หิวแล้วว่ะ เราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่าม่ะ จะเที่ยงแล้วเนี่ย...”
“ไม่ต้องมาทำไก๋ เลยเอ็ง ... เดี๋ยวก็เตะเข้าให้เล่นตัวอีก เล่ามาเร็วๆ เลยไม่งั้นอดนะเอ็ง ไล่กลับเลยไม่ต้องกิน...”
“ไรหว๊า ... เล่นงี้เลยหรอ ...”
เอกทำหน้าเซ็งสุดชีวิต เพราะกลัวอดกินข้าว ... หันหน้าไปทางบอลเพราะต้องการตัวช่วย บอลก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เอาซะเฉยๆ... จนต้องเริ่มเล่าออกมา ...

“ก็คุณธวัฒน์พี่ชายคนละพ่อล่ะแม่ของเอ็งน่ะ เค้าดังออกไม่รู้หรือไง ... ใครๆ เค้าก็รู้จักทั้งนั้นแหละในแวดวงไฮโซ เพราะไปไหนมาไหนก็มีแต่สาวๆ ตอมกันตรึม ...”
“จริงอ่ะ ... ไม่น่าเชื่อปากแบบนั้นอ่ะนะ ...”
“แหมไอ้นัทเอ็งนี่นะ ... ลูกนายพลนะโว้ย ... แถมรูปหล่อ นักเรียนนอกอีกต่างหาก ยังไม่รวมสมบัติเก่าตั้งแต่ต้นตระกูลขุนนางเก่าในวังอีกนะ .... เอ็งคิดว่าคุณสมบัติเพียบพร้อมแบบเนี่ย จะไม่มีใครสนใจหรือไง ...”

“ก็ไม่ได้ว่าหรอกเรื่องนั้นน่ะ ... แต่ไอ้นิสัยหยิ่ง ถือตัว เอาแต่ใจแถมปากไม่รักษาน้ำใจคนแบบนั้นอีก ..... มันไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครสนใจ”
นัทเหลือบเห็นเอก กับบอลกำลังหน้าซีด ปากสั่น เหงื่อออก ... ทำให้สงสัยว่ามันเป็นอะไรกัน อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไรนี่นา ...

“ขอบใจนะที่ชม ... ไม่คิดว่าตัวเองจะมีดีมากขนาดนี้นะเนี่ย...”
เสียงคนคุ้นเคย ดังมาจากข้างหลัง มันทำให้นัทเริ่มเหงื่อแตกอีกคน ... ค่อยๆ หันกลับไปมอง ก็ต้องเห็นธวัฒน์ยืนยิ้มอยู่ด้านหลังซะแล้ว ...
“พี่ ... พี่ ... พี่วัฒน์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่ได้ยินเสียงรถเลยล่ะ ...”
“ก็ถ้ารู้ตัว ... พี่คงไม่มีโอกาสได้ยินคนชมกันหลับหลังน่ะซิ ...”

เอกกับบอลมองหน้ากันเลิ่กลั๊ก... จริงๆ เค้าเห็นธวัฒน์โผล่มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวตั้งแต่ไม่กี้แล้ว พยายามจะบอกเพื่อนให้หยุดพูด แต่ก็เหมือนนัทจะไม่สนใจพวกเค้าเลย จนนัทพูดจบแล้วนั่นแหละ ... มันก็สายไปเสียแล้ว ...
ไอ้เอกเอ๊ย ... สงสัยไม่แค่อดกินข้าว แต่ต้องโดนไล่ออกจากบ้านแน่ๆ เลย ... เอกได้แต่หวั่นใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ...

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยว  พรุ่งนี้  ผมต้องไป  ชะอำ  3 วันนะคับ   คงไม่ได้มาลงต่อให้  นะค๊าบบบ   อดใจรอนิดนึง  แค่วันอาทิตย์เอง อิอิ

หรือใครที่ว่างๆ  ไปเจอกานได้นะคับที่ชะอำ  อิอิ   :เชิป2: :110011:

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

13...

ธวัฒน์มองสำรวจที่เอกและบอล ที่นั่งก้มหน้าอยู่ทีละคน กลับไปกลับมา และหันมามองที่นัทอีกที ก่อนจะหันไปพูดกับเอกที่นั่งหน้าซีดอยู่ …
“เธอคงเป็น เอกรินทร์ ลูกท่านนายพล รักชาติ ซินะ”
“ค…ค…ครับ ใช่ครับ…”
“แล้วนี่คงเป็น … กำพล ลูกท่านนายพล เกริกเกียรติ”
“ครับ แล้วคุณธวัฒน์รู้จักพวกเราได้ยังไงล่ะครับ…”
“ก็ถ้าเคยไปงานที่สโมสร ก็พอจะจำได้อยู่หรอก โดยเฉพาะลูกๆ ของเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกับคุณพ่อน่ะ”

“เอาล่ะ…ไปทานข้าวกลางวันกันได้แล้ว พี่ต้องกลับไปทำงานอีกนะ…”
คราวนี้ธวัฒน์หันหน้าไปมองทางนัทบ้าง ก่อนจะเดินนำไปก่อน … ทำให้นัทเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก … เมื่อธวัฒน์พ้นสายตาไปแล้วนัทจึงหันไปหาเพื่อนทั้งสองคน …
“พวกเอ็งไม่บอกกันเลยนะ ว่าพี่วัฒน์มาอ่ะ เกือบซวยแล้วไหมล่ะ…”

เอกกับบอล ยิ้มแหยๆ ก่อนที่เอกจะพูดซะเอง
“แหม…พวกข้าก็พยายามจะบอกอ่ะนะ แต่เอ็งก็นินทาเค้าเพลินเลย จนมองไม่เห็นเองนะซิ”
“ไรว่ะ … เออ เออ ไปกินข้าวเหอะ เดี๋ยวไปช้าจะโดนอีกข้อหานึง … ดูท่าแล้วสงสัยจะอารมณ์ไม่ดี … แต่ก็แปลกแฮะที่ไม่ว่าอะไรเท่าไหร่”
“พี่เค้าไม่ว่าอะไรก็ดีแล้วล่ะน่า … นัทก็คิดมากไปเลย …” บอลพูดในขณะที่เดินตามหลังไปติดๆ …

บรรยากาศในการทานอาหารเงียบกริบ … เพราะไม่มีใครจะเอ่ยอะไรออกมาก่อน มีเพียงเสียงช้อนกระทบจานบ้างเป็นบางครั้ง …  จนธวัฒน์ที่ทานเสร็จแล้วหันไปถามเอกกับบอล …
“พวกเธอจะกลับหรือยังล่ะ หรือจะอยู่ต่อ…”
เอกกับบอลที่มองหน้ากัน อย่างรู้กันว่า ไล่กันทางอ้อมนี่หว่า … แล้วเอกสะกิดบอลให้เป็นคนตอบแทน …
“ก็…ก็ว่าจะกลับเลยล่ะครับ…”
“ก็ดี…เพราะช่วงบ่ายนี้ … พี่ว่าจะพานัทไปที่บริษัทด้วย คงไม่มีใครอยู่ที่บ้าน”

นัทเงยหน้ามามองธวัฒน์ อย่าง งง งง … ทำไมต้องพาไปด้วยว่ะ … กลัวว่าเค้าจะออกไปไหนหรือไงกันนะ …
“แล้ว…ทำไม ต้องพาผมไปด้วยล่ะครับ ผมต้อง…ต้องอ่านหนังสือนะครับ …”
“ก็เอาไปอ่านด้วยซิ … ไม่ได้ห้ามให้อ่านสักหน่อย เปลี่ยนที่อ่านซะบ้าง อาจจะมีสมาธิมากขึ้นนะก็ได้”
ท้ายประโยค ธวัฒน์หันมามองเอกกับบอล นิดนึง ทำให้เอกกับมองนึกสงสัยว่า พวกเค้าเป็นตัวทำลายความสงบไปซะแล้ว

หลังจากทานอาหารเสร็จ … นัทก็เดินออกมาส่งเอกและบอลข้างนอก … เอกกระซิบเบาๆ เพื่อไม่ให้ธวัฒน์ที่อยู่ด้านในได้ยิน
“เฮ้ย…นัทไปก่อนนะ แล้ววันหลังจะมาหาใหม่”
“เออ…ถ้าเอ็งยังกล้ามา ก็ตามใจ … เห็นไหมล่ะว่า เค้านะสร้างภาพขนาดไหน…”
“เอกมันไม่สะเทือนหรอกนัท เรื่องแค่เนี่ย … มันหนังหนาจะตาย”
บอลที่พูดแทรกขึ้นบ้าง กลับโดนเอกถองเข้าให้ อีกที … แล้วเอกจึงหันไปพูดกับนัทต่อ …
“เออ … ไว้เจอกันวันศุกร์นะนัท … ระวังตัวด้วยล่ะ ไม่รู้พอพวกข้ากลับไป เอ็งจะโดนจับกินหรือเปล่าก็ไม่รู้ …”
“อืม … ไม่เป็นหรอก ข้าไม่เป็นไรหรอก ขับรถกันดีๆ ล่ะ บาย…”

ขณะที่เอกขับรถออกมาได้สักพัก …
“เป็นห่วงไอ้นัทมันนะเนี่ย อยู่บ้านคนอื่นแบบเนี่ย …”
“เป็นห่วงกันจริงนะ…แต่บอลว่านัทคงไม่เป็นไรหรอก ก็แม่ของนัทเป็นถึงเพื่อนรักของคุณหญิงนี่นา…”
“ลำพังคุณหญิงกับท่านนายพลน่ะ ไม่น่าห่วงหรอก แต่ไอ้พี่ชายนอกไส้นี่ซิ…ท่าทางร้ายไม่เบา…เพิ่งเคยเจอจังๆ ก็คราวนี้แหละ”
“แต่บอลว่า ยิ่งไม่น่าห่วงใหญ่เลย … ก็ดูเค้าเป็นห่วงน้องชายจะตายไป ขนาดออกไปทำงานแล้วยังกลับมากินข้าวกลางวันกับน้องอีก”
“กลับมาจับผิดซิ ไม่ว่า … สงสัยกลัวพวกเราจะพาไอันัทหนีเที่ยวละมั้ง …”
“นั่นก็อาจใช่ … แต่บอลว่าบอลดูออกนะว่าเค้าก็เป็นห่วงนัทอยู่เหมือนกัน…”
“เอ็งนี่…พูดแปลกๆ นะบอล คนที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาก่อนเนี่ยนะ อย่ามาพูดให้ขนลุกนะโว้ย…”
“ถ้าไม่เชื่อ ก็คอยดูไปละกัน…”

ธวัฒน์พานัทมาที่บริษัทซึ่งเค้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ และมีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัทด้วย … ธวัฒน์แนะนำให้นัทได้รู้จักกับหลายๆ คนที่พบระหว่างทางมาที่ห้องทำงาน …
นัทไหว้และยิ้มทักทุกคน ที่พบ ซึ่งธวัฒน์แนะนำว่านัทเป็นน้องคนนึงของเค้า และดูทุกคนจะชื่นชมในตัวนัทไม่น้อยเพราะนัทดูไม่ถือเนื้อถือตัวเลย และโดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างแอบกรี๊ดกร๊าด เพราะได้เจอเด็กหนุ่มหน้าตาดี ยิ่งเดินมากับธวัฒน์ด้วยแล้ว สวรรค์ทรงโปรดจริงๆ ….
เมื่อมาถึงหน้าห้อง ธวัฒน์ก็แนะนำให้รู้จักกับเลขาฯ ของเค้า …
“นี่คุณจูน เป็นเลขาของพี่ ถ้าอยากได้อะไรก็บอกคุณจูนได้”

นัทยิ้มทักทาย และเดินตามธวัฒน์เข้าไปในห้องทำงาน … ภายในห้องมีโต๊ะทำงานตัวใหญ่จัดไว้เป็นระเบียบดี และกรอบรูปของธวัฒน์และครอบครัววางอยู่ด้วย แต่อีกอันนี่ซิ ทำให้นัทหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะมันเป็นรูปของหญิงสาวที่เค้าไม่ชอบขี้หน้าสุดๆ ถึงแม้จะสวยมากก็ตาม นั่นก็คือนภัทร… ในห้องยังมีชุดรับแขกวางอยู่ตรงมุมห้องด้านหนึ่ง คงจะเอาไว้รับรองแขกพิเศษที่มาพบ… ธวัฒน์ชี้ให้เด็กหนุ่มใช้มุมนี้เป็นที่นั่งอ่านหนังสือ …
“ทำไมต้องให้มานั่งอ่านที่นี่ด้วยนะ อึดอัดจะตาย…”
นัทบ่นกับตัวเองเบาๆ … แต่ก็เดินไปนั่งแต่โดยดี เพราะไม่อยากจะมีเรื่องอีก เพราะเท่าที่โดนจับผิดได้ว่านินทาธวัฒน์ที่บ้านก็แย่พอแล้ว ธวัฒน์ก็ไม่พูดถึงอีกเลย ตั้งแต่ออกจากบ้าน มันทำให้นัทคาใจชอบกล …

“นั่งอ่านหนังสือไปล่ะ พี่มีประชุม … ประมาณสามชั่วโมงถึงจะเสร็จ ถ้าอยากได้อะไรก็บอกคุณจูนได้ เธอจะอยู่หน้าห้องตลอด …
“ครับ…”
นัทรับคำสั้นๆ … และธวัฒน์ก็เดินออกไป …
“เฮ้อ … ไปซะที ค่อยหายใจโล่งขึ้นหน่อย … ทำไมมันถึงได้อึดอัดแบบนี้นะ … พี่วัฒน์ไม่รู้ยังโกรธอยู่หรือเปล่าน๊า… แต่ถึงจะโกรธก็ช่าง … ก็พูดเรื่องจริงนี่นา …”
!!!ก๊อก ก๊อก…!!!

นัทสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงเคาะประตู … ก่อนที่จะเห็นคุณจูนเดินเข้าพร้อมกับน้ำและขนม …
“คุณธวัฒน์ให้จูน เอาน้ำส้มกับขนมมาให้คุณนัทนะค่ะ”
“ข…ขอบคุณมากเลยครับ…”
“ค่ะ ไม่เป็นไร … ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็เรียกจูนได้ตลอดเวลาเลยนะค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ…”
หญิงสาวยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินออกไปทำงานต่อ …
“น่ารักจังเลยแฮะ …”
นัทยิ้มกับตัวเอง … เด็กหนุ่มพิจารณาคนหญิงสาวที่เพิ่งเดินออกไป คุณจูนนี่ก็เป็นคนสวย บุคลิกก็ดี ดูอารมณ์ดี มนุษยสัมพันธ์ก็ดี เหมาะกับงานเลขาฯ มาก แต่น่าสงสาร...ที่ต้องมาเป็นเลขาให้คนอารมณ์แปรปรวนอย่างพี่วัฒน์ ...

น้ำกับขนมแสนอร่อย แอร์เย็นๆ กำลังสบาย ... จำไม่ได้ว่าอ่านหนังสือไปได้กี่หน้า แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวยาวไปซะแล้ว ... ในห้วงแห่งนิทราความฝันแสนหวานกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ลางเลือน ... อ้อมกอดของใครคนนึงที่แสนอบอุ่น ... สัมผัสแผ่วเบา ... ของมือแสนอ่อนโยนลูบไล้ใบหน้าอย่างช้าๆ ... ริมฝีปากเรียวบาง อ่อนนุ่มที่สัมผัสแก้มอย่างแผ่วเบาเนิ่นนาน ... ความเขินอายทำให้ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ... ในใจเรียกร้องขอเพียงรักษาเวลาที่มีความสุขนี้ไว้ให้นานเท่านานก็พอ ... จู่ๆ ... คนตรงหน้าก็ผละเดินหนีไป ใจหายหล่นวูบลงทันที จะดึงรั้งไว้ก็ไม่ทันซะแล้ว แม้แต่หน้าก็ไม่มีโอกาสได้เห็น พยายามตะโกนสุดเสียง เพียงหวังให้เค้าหันกลับมา ...

!!!“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน...อย่าเพิ่งไป...”!!!
นัทสะตุ้งตื่นขึ้นมาแล้ว ... เหลียวซ้ายแลขวา ... พยายามเรียกสติกลับคืนมา ... ห้องๆ เดิม ... โซฟาตัวเดิม ... ที่โต๊ะทำงานยังว่างอยู่เหมือนเดิม ... แต่ ...
“แล้วมันเสื้อสูท ใครละเนี่ย...”
นัทกำลังแปลกใจกับ สูทตัวใหญ่ที่ห่มอยู่บนตัว ... ก็พอดีธวัฒน์เดินออกมาจากห้องน้ำส่วนตัวที่มีประตูอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ที่นัทนอนอยู่ ... น้ำหยดยังเกาะพราวอยู่บนใบหน้า และหยดลงจากปลายคางมน ... ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ...

“เอ๊อ ... พี่วัฒน์มานานแล้วหรือครับ...”
“อ้าว ... ตื่นแล้วเหรอ ... เห็นหลับซะสบายเชียว ความรู้มันคงไหลเข้าหัวหรอกนะ นอนหนุนหนังสือแบบนั้นน่ะ…”
กวนอีกแล้วไหมล่ะ...
“ก็แค่พักสายตาแค่แป๊บเดียวเองครับ ... แล้วเสื้อ...เสื้อนี่อ่ะครับ ...”
“เห็นท่าทางจะหนาวน่ะ... พี่...พี่ก็เลยถอดห่มให้นะซิ ................... ในเมื่อตื่นแล้ว ก็เอามาคืนนี่ เดี๋ยวจะยับซะหมด…”
อารมณ์ไหนว่ะเนี่ย ... ไม่น่าตื่นมาเจอคนกวนประสาทเล๊ยยย ... กำลังฝันดี ?????? …. นัทกำลังนึกทบทวนความฝันก่อนที่เค้าจะตื่นขึ้นมา ... มันกลายเป็นเพียงภาพลางๆ ไปซะแล้ว เค้าจำรายละเอียดไม่ได้เลย ... รู้แต่ว่าฝันดีมาก ... ยังรู้สึกถึงความร้อนบนหน้าอยู่เลยด้วยซ้ำ ... เมื่อนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จึงเดินเอาเสื้อไปคืนธวัฒน์ซึ่งนั่งรออยู่โต๊ะ ... นัทส่งเสื้อคืนให้แก่ธวัฒน์ .... ก็มีเสียงโฟน จากคุณจูนที่อยู่หน้าห้องเข้ามา ..

“คุณวัฒน์ค่ะ คุณภัทรมาขอพบค่ะ ... และเธอกำลังเข้าไปแล้วนะค่ะ ...”
“ครับ...ขอบคุณมากครับ”
“เอ้า...นี่ครับเสื้อ งั้นผมขอตัวไปรอข้างนอกนะครับ เผื่อพี่วัฒน์จะมีเรื่องส่วนตัวคุยกัน...”
นัทรีบวางเสื้อไว้บนโต๊ะของธวัฒน์ และกำลังจะหันเดินออกไป แต่โดนธวัฒน์ดึงแขนไว้ซะก่อน ... ก็พอดีกับเสียงเคาะประตูและนภัทรก็ก้าว เข้ามาเห็นภาพนั้นเข้าพอดี ...


wee

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านเยอะๆอ่ะคร๊าบบบบ.... :haun4:
ไม่ง่ายนัก......รักนี้   ชื่อเรื่องมันม่ายเข้ากันเลย ขอเปลี่ยนหน่อย :จ้อบจัง1:
น่าจะใช้ชื่อว่า ง่ายจริงๆ....รักนี้  55555..... :รักจัง11:
ก็พี่ธวัฒน์ของน้องนัท อ่ะ ยังม่ายทันไรเลย ก็หวงน้องนัทออกนอกหน้าซะแล๊ววว ทั้งหวง ทั้งหึง  :laugh5: :laugh5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
มานไม่ง่ายอย่างที่คิดนะคับ อิอิ  แอบ สปอย เล็กๆ :laugh5:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยคนในฝันคือพี่วัฒน์แหงเลย  :kikkik:
จะรักกันยังไงน้อคู่นี้ น่าติตามจริงๆ
รอ 3 วันก็ได้ ไม่เป็นไร  :monkeycry4: แต่ว่ามาแล้วลงเยอะกว่าเดิมหน่อยก็ดีนะ อิอิ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ หายไปสามวันเหรอ อย่างนี้ต้องมีชดเชยนะ  :kikkik:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ชอบๆๆๆ  ชอบเรื่องนี้มั่กๆ
ออกแนวรักกันแต่ต้องแอบซ่อนไว้  แล้วมากัดกันแทนนี่สนุกนักละ
พี่วัฒน์ก็น่ารัก  น้องนัทก็น่าทะนุถนอม  เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองเนี่ยยยย

รอน้องหมีเสมอ  สามวันเชียว  กลับมาต้องชดใช้จริงๆ ด้วย  :yeb:

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อให้แล้วค๊าบ  หายไป 3วัน  แหะๆๆ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

14...
ธวัฒน์รีบชักมือกลับทันที ... เมื่อเห็นนภัทรกำลังจ้องมองมาที่มือของเค้าที่กำลังจับแขนของนัทอยู่ ...
“เอ๊อ ... ภัทร ลมอะไรหอบมาถึงนี่หรือครับ”
นภัทรเดินมาถึงโต๊ะทำงานของธวัฒน์โดยสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่นัทไม่วางตา ... พยักหน้ารับเล็กน้อยเมื่อนัทยกมือไหว้ ... จนเมื่อได้ยินที่ธวัฒน์ถามจึงหันมายิ้มแย้มให้ชายหนุ่ม ...
“ก็ภัทรคิดถึงคุณนี่ค่ะ ... และกะว่าจะชวนคุณไปทานข้าวเย็นด้วยกัน ... สองคน ...”
นภัทรชำเลืองมองนัทที่ยืนอยู่ด้านข้าง เพื่อเน้นท้ายประโยคให้ได้ยินอย่างชัดเจน ...

“พอดีภัทรไม่คิดว่า น้องชายคนใหม่ของคุณจะอยู่ด้วย... ยังไงไปทานข้าวเย็นด้วยกันไหมจ๊ะ”
นภัทรหันไปเอ่ยชวนและยิ้มเย็น ...  กับนัท ... สายตาเย็นชาที่มองมา คงมีแต่นัทเท่านั้นที่มองเห็น ...
“ผ...ผมว่า...ผมกลับไปที่บ้านดีกว่าครับ ขอบคุณมากครับ...ที่ชวน...”
“อย่าเหลวไหลซินัท...จะกลับยังไง อย่ามาทำอวดเก่งไม่เข้าเรื่องนะ...”
ธวัฒน์หันไปตวาดเด็กหนุ่ม ... ก่อนจะหันไปพูดกับนภัทรที่แววตามีความพึงพอใจอยู่ลึกๆ ...
“คือ ... เค้ามารถผมน่ะครับ ยังไงก็คงต้องไปด้วยกัน ภัทรคงไม่ว่าอะไรนะครับคนดี ถือซะว่าได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยกันไว้”
“เหรอค่ะ ภัทรไม่ทราบค่ะว่ามาด้วยกัน ... งั้นก็ดีเลยนะค่ะ จะได้สนิทสนมกันไว้ เพราะถ้าแกยังอยู่ที่บ้านวัฒน์ เราคงได้เจอกันบ่อยๆ... จริงไหมจ๊ะ ...”
“ค...ครับ”
ใครจะอยากเจอกับคนหน้าเนื้อใจเสื้อกันล่ะ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนสักหน่อย แต่ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอจริงๆ ... ทั้งสายตา ท่าทาง ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ... นี่เราไปทำอะไรให้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ... นัทอดแปลกใจไม่ได้ ที่นภัทรเหมือนจะไม่ค่อยชอบหน้าเค้าสักเท่าไหร่ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้ว ด้วยซ้ำ ...

สองหนุ่ม หนึ่งสาว นั่งอยู่ในร้านอาหารหรูใจกลางย่านดัง ... ธวัฒน์กับนภัทรสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว ... แต่นัทยังคงจ้องมองรายการในเมนูตาเขม็ง ...
โห ... ทำไมมันแพงงี้ว่ะ ... แต่ละอย่างชื่อเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลย ... ไม่เคยพบเคยเห็นแล้วตูจะกินได้ไหมเนี่ย ...
“แหม...ยังเลือกไม่ถูกเหรอจ๊ะ...หวังว่าคงอ่านออกนะ...หรือจะให้พี่ช่วยไหมล่ะ...”
นภัทรพยายามหยิบยื่นน้ำใจให้ ... ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจนักก็ตาม ...
“ครับ...ผมอ่านออก...ไม่จำเป็นต้องช่วยหรอก...ครับ”
เอาแล้วไหมล่ะ หาว่าตูโง่อ่านหนังสือไม่ออกหรือไงกัน
จริงๆ แล้วภาษาอังกฤษสำหรับนัทมันเรื่องหมูๆ แต่ไอ้ราคาที่เห็นนี่ซิ มันทำให้นัทสั่งไม่ลงเลยจริงๆ ...

“ต๊าย...เก่งนะจ๊ะ ผู้ใหญ่เค้าอุตส่าห์มีน้ำใจ...”
นภัทรพูดอย่างน้อยใจ หันไปมองธวัฒน์ที่นั่งฟังอยู่ ...
“คุณภัทรเค้ามีน้ำใจ ก็พูดให้มันดีๆ หน่อยซิ ... แล้วเอาเมนูมานี่ ... เดี๋ยวพี่สั่งให้ ... ช้าจริงๆ เค้ารอนานแล้วเห็นไหม...”
ธวัฒน์พูดพร้อมกับดึงเมนูจากมือของนัทมาส่งคืนให้บริกร แล้วหันไปกระซิบสั่งอาหารเสียงเบา ... บริกรโค้งให้นิดนึงก่อนจะเดินออกไป ...

เฮ็อออ ... เข้าข้างกันเข้าไป ... พออยู่ต่อหน้าแฟนตัวเองล่ะก็ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเชียวนะ ... นัทที่ได้แต่ทอดถอนใจเพราะตอนนี้เค้าเหมือนเป็นส่วนเกินของคู่นี้ ไม่มีตัวตน ไม่อยู่ในสายตา เหมือนไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำไป ... ยิ่งคิดยิ่งไม่อยากมาอยู่ตรงนี้เลย ... ใจมันหวิวๆ บางอย่างมันแน่นขึ้นมาที่อก เวลาที่เค้าหัวเราะต่อกระซิก จับมือกัน มองตาหวานซึ้ง ... โดยเฉพาะนภัทรที่ดูจะพยายามทำหวานจนออกนอกหน้า ... แต่นี่ละมั้งคงเป็นสิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบ ... แต่สำหรับนัทแล้ว เค้าคิดว่าเค้าไม่มีวันชอบผู้หญิงแบบนี้อย่างแน่นอน ...
“ไอ้นัท...นี่แกกำลังอิจฉาเค้าเหรอ ... เพราะอยากมีใครสักคนเหมือนเค้าหรือไง ... ทำไม...มัน...มันถึงเจ็บในอกแบบนี้นะ...”

เมื่อทานอาหารเสร็จ นัท บอกกับธวัฒน์ว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วจึงเดินตรงไปตามป้ายซึ่งชี้ไปทางด้านในของร้าน โดยไม่รู้ว่ามีใครอีกคนนึงเดินตามมาด้วย ... นัทเลี้ยวไปเข้าห้องทางขวาสำหรับผู้ชาย โดยสังเกตเห็นว่าห้องน้ำหญิงเป็นห้องทางซ้าย ... เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกมานอกห้องก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็น นภัทร ยืนอยู่หน้าห้องน้ำหญิง ...
“คุณภัทร...ม...มาเข้าห้องน้ำเหรอครับ...”

!!! เพี๊ยะ !!!

นัทหน้าหันไปตาม แรงตบของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ... กำลังรวบรวมสติว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน ... เมื่อหันกลับมามองก็เห็นนภัทรที่ต้องนี้ หน้าตาบ่งบอกว่ากำลังสะใจสุดๆ ที่ได้ตบเค้า ... หน้าตาแบบที่ธวัฒน์คงไม่มีโอกาสได้เห็นจากผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน กำลังจ้องมองมาที่เค้า ...
“คุณภัทร ต...ตบผมทำไมครับ...ผมไปทำอะไรคุณ”
“อย่ามาถือดี อวดดีกับฉันอีกนะ ... อย่าคิดว่าแค่การเป็นน้องนอกไส้ของคุณวัฒน์ ... จะทำให้เธอวิเศษวิโสไปกว่าฉัน ...”
“ต...แต่ผมไม่เคยคิดแบบนั้น...”
“ดี๊...คิดได้งั้นก็ดี...ไม่ว่าเธอจะเป็นลูกเต้าของใคร จะเป็นลูกขอทานที่คุณหญิงรับมาเลี้ยงก็ตาม อย่าพยายามมาเทียบกับฉันที่จะแต่งงานกับคุณวัฒน์ และเป็นเจ้าของในอนาคตของบ้านที่เธอซุกหัวนอน…”

นัทที่พยายามอดทนกับการกระทำของผู้หญิงคนนี้ ชักเริ่มหมดความอดทนเมื่อต้องโดนดูถูกว่าเป็นเหมือนลูกไม่มีพ่อมีแม่ เป็นลูกขอทาน ...
“คุณภัทร คุณดูถูกผมได้นะ แต่อย่ามาดูถูกถึงพ่อแม่ของผม... ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจคุณอีก...”
“ทำไม...ไอ้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอจะทำอะไรฉัน และถ้าพ่อแม่มีปัญญาเลี้ยงจริงคงไม่ต้องเอามาฝากไว้ที่นี่หร๊อก”
“คุณภัทร ...”

นัทไม่เคยที่จะทำร้ายผู้หญิงมาก่อน เพราะยังไงผู้หญิงก็เป็นเพศแม่ ... แต่ตอนนี้ นัทเริ่มหมดความอดทนกับคนตรงหน้าที่ดูถูกถึง พ่อแม่ของเค้าเป็นครั้งที่สอง ... นัทตรงเข้าไปหาแล้วผลักคนตรงหน้าล้มลงไปกองกับพื้น ... แค่นี้คงเพียงพอแล้วสำหรับผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายนัทคงต่อยคว่ำไปนานแล้ว ...
“!!! ว้าย !!! นี่แก แกบังอาจทำร้ายฉัน...”
“ก็ผมเตือนคุณแล้ว ว่าอย่ามาดูถูกบุพการีของผม...แค่นี้ผมว่ามันยังไม่สาสมด้วยซ้ำ...”
เสียงโวยวายของนภัทร ก็ไม่ใช่เบาๆ แต่ดีที่บริเวณนี้ยังไม่มีใครผ่านมา ...แต่ก็เจ้าหล่อนนั่นแหละ ที่หาจังหวะช่วงปลอดคนเพื่อมาหาเรื่องกับนัท ... เพื่อหวังว่าถ้าเด็กหนุ่มทนไม่ไหว ก็คงจะออกจากบ้านของธวัฒน์ไปเอง เธอไม่สบายใจเลย ที่จะมีเด็กคนนี้อยู่ในบ้าน ถึงจะไม่ได้เชื่อเรื่องที่เพื่อนๆ กรอกหูมา แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ...

“ !!!คุณภัทร ...!!! ”
นัทสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงของคนที่เค้าไม่อยากได้ยินมากที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้ ... ก็ธวัฒน์นั่นเอง ที่กำลังเดินตรงมาทางเค้ากับนภัทร ที่ยังกองอยู่กับพื้นและดูเหมือนกำลังบีบน้ำตา เรียกคะแนนสงสารอยู่เห็นๆ ... แล้วนี่เค้าจะทำยังไงดี ในเมื่อภาพที่เห็นมันชวนให้คิดได้อย่างเดียวเท่านั้น ... ธวัฒน์จะเชื่อที่เค้าพูดหรือเปล่า ...


VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น …”
ธวัฒน์ที่เดินมาถึงพูดเสียงดัง… ก่อนจะลงไปประคองนภัทรที่ยังกองอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นมา …
“เห็นหายไปตั้งนาน…ก็เลยสงสัยอยู่ … ไม่คิดเลยนะว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้”
“มีอะไรจะอธิบายไหม…นัท…”
ตอนนี้ ธวัฒน์ หันมาหาคำตอบจากนัท ที่ตามสภาพการณ์แล้วน่าจะเป็นคนผิดอย่างไม่ต้องสงสัย …

“อะไรครับ … อย่ามาคาดคั้นเหมือนผมเป็นคนผิดนะ ... ผมน่ะไม่เคยทำใคร ถ้าไม่มีใครมาทำผมก่อน…”
ท้ายประโยคนั้นพยายามหันไปมองนภัทร ยิ้มหลบอยู่ด้านหลังธวัฒน์เหมือนว่ากำลังถือไพ่เหนือกว่าเค้า …
“ดูซิค่ะวัฒน์… น้องของวัฒน์คนเนี่ย ปากแข็งแล้วยังอวดดีด้วยนะค่ะ แบบนี้คงไม่มีใครอบรมสั่งสอนแน่ๆเลยค่ะ”
“แล้ว…ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ…ไหนคุณภัทรลองเล่าให้ผมฟังซิ…”
ธวัฒน์หันไปถามนภัทร ที่ปรับสีหน้าเย้ยหยันให้กลายเป็นน่าสงสาร ออดอ้อนสุดๆ เวลาอยู่ต่อหน้าธวัฒน์ …

นภัทรเริ่มเล่าอย่างคนได้เปรียบ … อย่างน้อยๆ เหตุการณ์มันก็เค้าข้างเธอซะอย่าง มีหรือที่ธวัฒน์จะไปเชื่อไอ้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า ที่เพิ่งเข้ามา

อยู่ในบ้านได้ไม่กี่วัน …
“ก็พอดีภัทรออกมาเจอแกที่หน้าห้องน้ำพอดี ภัทรก็แค่พยายามชวนแกคุยและแนะนำการวางตัวเล็กๆ น้อยๆ นะค่ะ … แต่เหมือนแกจะไม่ชอบใจ

เท่าไหร่ … แต่ภัทรก็ไม่ว่าหรอก ภัทรเข้าใจเด็กสมัยนี้ค่ะว่าไม่ชอบให้ใครมาจู๊จี๊ … แต่หลังจากนั้น ก็…”
ธวัฒน์หันไปมองนัท ที่ไม่หลบสายตาเลย กลับมองกลับมาอย่างท้าทายด้วยซ้ำ และกำลังฟังว่าผู้หญิงตีสองหน้าคนนี้จะพูดอะไรต่อไป …
“ก็…แล้วเป็นไงล่ะครับคุณภัทร ทำไมคุณภัทรถึงล้มลงไปนั่งแบบนั้นล่ะ…”

นภัทรกลับหันไปมองนัทแว่บนึง ก่อนหันกลับมาพูดกับธวัฒน์ … ที่กำลังฟังอย่างใจจดใจจ่อ …
“คือว่า …”

“แหม… อีแค่ลื่นล้ม ไม่เห็นคุณภัทรต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โตเลยนะครับ …”
เสียงของใครคนหนึ่งเดินมาจากหน้าห้องน้ำชาย ทำให้ทั้งสามคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน … และเห็น แทนไท กำลังยืนยิ้มตรงมาที่ธวัฒน์เพื่อน

ของเค้า และไม่ลืมที่จะหันมายิ้มให้กับนัทอีกคน …
“ไอ้แทน …”
“เออ … ข้าเอง ไม่ใช่ผีที่ไหนสักหน่อย …”
“แล้วเอ็งมาอยู่ตรงนี้ได้ไงว่ะ เมื่อกี้ข้าไม่เห็นเลยนี่หว่า … ตอนอยู่ที่โต๊ะข้าก็ไม่เห็นเอ็งในร้าน … มาตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ...”
“ข้ามานั่งกินก่อนที่เอ็งจะโผล่มาอีก ข้าน่ะเห็นแล้วล่ะ แต่ยังไม่ได้เข้าไปทัก … ข้าก็เพิ่งมาเข้าห้องน้ำหลังน้องนัทนิดเดียวละมั้ง แต่เผอิญน้องนัทคง

ไม่ทันเห็นพี่ใช้ไหมครับ …”

“ครับผมไม่เห็นพี่แทนเลย …”
นัทตอบ และทำหน้าแบบงง งง … ถ้าพี่แทนมาเค้าห้องน้ำทีหลังเค้า … ทำไมเค้าไม่รู้ตัวเลยนะ …
พอส่งยิ้มหวานให้นัทแล้ว แทนไทก็ชำเลืองไปมองนภัทร ที่หลบสายตาของเค้า เมื่อได้ยินเรื่องที่ชายหนุ่มบอกแก่ธวัฒน์ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ก็เริ่มผุดออก

มาตามใบหน้าของเธอ … เพราะถ้าหากแทนไท อยู่ในห้องน้ำตั้งแต่แรก เค้าต้องได้ยินตั้งแต่แรกแน่ๆ … และ … และ ถ้าเค้าบอกความจริงกับ

ธวัฒน์ล่ะ … เธอจะทำยังไง …
“อ้าว … คุณภัทร เมื่อกี้ลื่นล้ม ไม่เป็นไรแล้วหรือครับ … ผมว่าจะออกมาช่วยตอนที่คุณภัทร ร้องแล้วล่ะครับ ก็พอดีได้ยินเสียงพระเอกมาช่วยซะ

ก่อนเลยไม่อยากจะขัดคอ …”

“อ๋อ … เอ่อ … ค่ะ ไม่เป็นไรมากแล้วล่ะค่ะ แค่เคล็ดนิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวก็หาย … แหม … คุณแทนนี่ก็ใจร้ายนะค่ะ อยู่ตรงนี้ตั้งนาน ก็ไม่ออก

มาทักกันบ้าง”
นภัทรพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ เพราะดูเหมือนว่าแทนไท พยายามจะทำให้สถานการณ์เป็นเพียงอุบัติเหตุ … ทั้งๆ ที่ยังเจ็บใจที่ไม่สามารถ

จัดการกับนัทได้ แต่ … สถานการณ์ของเธอตอนนี้ … ไม่สมควรที่จะเสี่ยงให้แทนไท บอกความจริงกับธวัฒน์ …

ธวัฒน์กำลัง งง  กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น … ทีแรกเหมือนนภัทรจะบอกอะไรสักอย่างที่น่าจะมีสาเหตุมาจากน้องชายต่างสายเลือดของเค้า แต่ … ผล

สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า … แค่อุบัติเหตุธรรมดาเหรอเนี่ย …
“ก็ไหนคุณภัทร บอกว่า …”
ธวัฒน์ที่ยังสงสัย พยายามถามให้แน่ใจ …
“ก็ … ตามนั้นแหละค่ะ ภัทรแค่มาชวนน้องของวัฒน์คุย แล้วเดินๆ อยู่ก็ลื่นล้มน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก …”
“เหรอครับ … ถ้าไม่มีอะไรก็แล้วไป … งั้น … กลับไปที่โต๊ะกันเถอะ เพราะพวกเรามาอยู่พักใหญ่แล้ว … ทางร้านจะสงสัยเอา …”

นัทรู้สึกขอบคุณแทนไท อยู่ไม่น้อยที่เข้ามาคลี่คลายให้ … เพราะถ้าไม่มีแทนไท นัทเองก็คงไม่ยอมแน่ๆ ที่จะโดนว่า หรือกล่าวหาอยู่ฝ่ายเดียว …

เพียงแต่เค้ารอดูเท่านั้นว่าผู้หญิงคนนี้จะใส่ร้ายอะไรเค้าบ้าง … แต่ก็นั่นแหละ ถึงแม้เค้าจะแก้ตัวยังไง ก็ยังไม่แน่ว่า ธวัฒน์จะเชื่อเค้าหรอก … จบ

ได้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน … อย่างน้อยก็เท่าทุน …
“ขอบคุณน่ะครับพี่แทน ที่ช่วยผม …”
นัทเอ่ยขอบคุณ ระหว่างที่เดินตามธวัฒน์กับนภัทร กลับมาที่โต๊ะ …
“สบม. สบายมากครับ เรื่องแค่นี้เอง สำหรับน้องนัทแล้วพี่ยินดีช่วยเสมอ มากว่านี้พี่ก็ช่วยได้นะ…”

นัทรู้สึกแปลกๆ กับสายตาของแทนไท ถึงจะสำนึกในบุญคุณ แต่ก็ยังไม่น่าไว้ใจอยู่ดี …
“เอ๊อ … มากกว่านี้ ผม … คงไม่กล้ารบกวนหรอกครับ แค่เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนไงเลย”
“อย่าเพิ่งตัดเยื่อใยกัน แบบนี้ซิครับ แต่ถ้าจะตอบแทนละก็ …… มันไม่ยากอย่างที่คิดหรอกครับ”
o_O
“ยังไงเหรอครับ …”
“เอาไว้พี่นึกออก แล้วจะบอกนะ เพราะยังไงเราก็คงยังได้เจอกันอีกนาน พี่ขอตัวไปที่โต๊ะก่อนนะครับ”

เฮ้อ … ทำไมเราต้องมาเจอแต่คนแปลกๆ ด้วยนะเนี่ย … นัทได้แต่บ่นในใจ … แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะซึ่งธวัฒน์กับนภัทรกลับมานั่งอยู่ก่อนแล้ว …

เมื่อธวัฒน์แวะไปส่งนภัทรแล้ว และต้องบ่ายเบี่ยงกับคำออดอ้อนให้ลงไปดื่มกาแฟในบ้านของเธอก่อนอยู่นาน ในที่สุดจึงได้ขับรถออกมา ด้วยข้ออ้างที่

ว่า พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า … จู่ๆ ธวัฒน์ก็หยุดรถเมื่อพ้นออกมาจากบ้านของนภัทรได้สักพัก … นัทที่นั่งอยู่ข้างหลัง และปิดปากเงียบมาตลอดถึงกลับ

แปลกใจ …
เอาแล้วไหมล่ะ กะจะฆ่าตูทิ้งไว้ข้างทางนี่หรือไงนะ … แค่ทะเลาะกับแฟนเค้าหน่อยเดียวเองเนี่ยนะ …

“มานั่งข้างหน้าซิ…”
“เอ๊อ … ทำ … ทำไมหรอครับ”
“พี่ไม่ใช่คนขับรถนะ … ไม่เคยมีใครเค้าบอกหรือไง …”
นัทลงจากรถ และกลับขึ้นไปนั่งข้างหน้าข้างคนขับ … เมื่อรัดเข็มขัดเรียบร้อย ธวัฒน์จึงขับรถต่อไป …
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเหตุการณ์วันนี้ความจริงมันเป็นยังไง … แต่ในเมื่อคุณภัทรเค้าไม่ถือสาหาความก็ดีไป…”
นี่เค้าคิดว่าเราเป็นคนผิดแน่ๆ ซินะ ถึงได้พูดแบบนี้ … ระหว่างคนรักกับเด็กอาศัย คงเทียบกันไม่ได้เลยซินะ …

“คุณ…เอ่อ…พี่วัฒน์คงคิดซินะว่าผมเป็นคนหาเรื่อง และเป็นบุญของผมที่คนรักของพี่…เค้าไม่เอาเรื่องผม … ถ้าเกิดคุณภัทรเธอเอาเรื่องจริงๆ …

พี่จะไล่ผมออกจากบ้านใช่ไหมล่ะครับ…”
น้อยใจนิดหน่อย … แต่ไม่อยากอ่อนแอให้ใครเห็น … ไม่เคยกลัวที่จะโดนดูถูกเหยียดหยาม … แต่ไม่อยากโดนเข้าใจผิด … โดยเฉพาะ …
โว้ยยย … ช่างเค้าซิ … ทำไมจะต้องไปสนใจว่าเค้าจะเข้าใจผิดหรือถูก … อยากคิดอะไรก็คิดไป บื้อต่อไปน่ะดีแล้วล่ะ… แค่นี้ก็มองไม่ออกว่า

ผู้หญิงของตัวเองน่ะ…เป็นยังไง …

ธวัฒน์หันมามองนัทนิ่งครู่หนึ่ง … แววตาของความสับสน … ไม่สามารถบอกใครได้ถึงบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ
“พี่ … พี่ไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก … ตราบใดที่ …”
“ตราบใดที่ คุณป้า ไม่ไล่ผมไปใช่ไหมล่ะครับ…”
“ก็…ก็ใช่ เพราะคุณแม่เป็นคนให้เธอมา ดังนั้นจึงมีเพียงท่านที่มีสิทธิให้เธอไป …”
ไม่รู้จะตอบยังไง … ที่พูดออกไปก็ไม่รู้ว่าตรงกับหัวใจตัวเองหรือเปล่า … นี่เราคิดแบบนี้จริงๆ เหรอเนี่ย … ธวัฒน์ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัว

เองได้ ทำได้เพียงแต่ขับรถไปเงียบๆ จนถึงบ้าน โดยที่นัทก็ไม่พูดอะไรอีกเลย …

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
15...

วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป ... นับจากวันนั้น ... วันที่ นัท มีเรื่องกับนภัทร ... มันผ่านมาได้สองสัปดาห์แล้วซินะ ...
สองสัปดาห์ ที่นัท แทบไม่ได้เจอกับธวัฒน์เลย ... ต่างคนต่างหลบหน้าซึ่งกันและกัน มีเพียงตอนทานข้าวมื้อเช้าบางครั้งเท่านั้นละมั้ง ... ที่

ได้เห็นหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครยอมเปิดปากพูดขึ้นก่อน ... มันอึดอัด มันปวดในใจอย่างประหลาด ... แต่ก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้

เพราะธวัฒน์แทบจะไม่มองหน้าเค้าด้วยซ้ำ ... แล้วทำไมเค้าจะต้องไปสนใจคนแบบนี้ด้วยล่ะ

ธวัฒน์ที่ยังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ... ไม่กล้าที่จะสู้หน้าน้องชาย ... ได้แต่หลบหน้าไปวันๆ ออกไปทำงานแต่เช้า ทำจนดึกจนดื่น วัน

หยุดก็ออกไปกับ นภัทรแทบอยู่ไม่ติดบ้าน จนวงสังคมต่างเม้ากันหนาหูว่า ... งานวิวาห์แห่งปีคงอีกไม่นานเกินรอ ... แบบนี้อาจจะดีกว่าก็ได้

มันอาจทำให้เค้า กำจัดความรู้สึกแปลกๆ ที่เค้ากำลังกลัว...ออกไปจากหัวใจได้ไม่ช้าก็เร็ว ถ้าเมื่อไรที่เค้าสามารถกำจัดมันออกไปจากใจได้แล้วล่ะก็

เค้าอาจจะกลับไปเป็นพี่ชายของนัทได้อีกครั้ง แค่พี่ชายเท่านั้น ...

“เฮ้อ ....”
ที่สถาบันกวดวิชา ... นัทนั่งถอนใจ ... ขณะที่นั่งรออาจารย์เข้ามาสอนช่วงบ่าย ... จนเอกและบอลมองหน้ากันอีก ตามจำนวนครั้งที่

นัทถอนหายใจ ...
“ไอ้นัท ญาติแกเสียเหรอว่ะ นั่งถอนใจเป็นร้อยรอบแล้วมั้งเนี่ย ตั้งแต่เช้าแล้ว ...”
!!!ผัวะ!!!
เสียงนัทตบหัวเอกดังลั่น ...
“ไอ้เวร... ญาติเอ็งซิ ...อย่ามาเล่นงี้นะโว้ย ข้าไม่ชอบ”
“เออ เออ ... โทษโว้ย ... แต่เล่นตบซะเต็มแรงเลยนะเอ็ง...”

บอลที่เหมือนจะสังเกตอาการของนัทมาตลอดสัปดาห์ กำลังขำเอกที่กำลัง ลูบหัวตัวเองอยู่ จึงหันไปถามนัทบ้าง
“แล้วนัท...มีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าล่ะ ถึงได้นั่งถอนใจทั้งวันแบบเนี่ย ... ถ้าจำไม่ผิดนะ มันน่าจะเกือบสองสัปดาห์แล้วมั้ง ตั้งแต่มาเรียน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนสัปดาห์นี้ก็ยังเป็นอยู่ ...”
นัทถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ... ในความช่างสังเกตของบอล ... ไม่น่าเชื่อว่าบอลจะใส่ใจคนรอบข้างได้มากขนาดนี้ ...
“เฮ้ย ... บอลทำไมเอ็งจำได้ขนาดนั้นเลย สอดรู้สอดเห็นมากไปเปล่าว่ะ ...”
!!!ผัวะ!!!
เสียงบอลตบหัวเอกอีกรอบ ...
“ปากหมาอีกแล้วนะไอ้เอก ... หายเจ็บแล้วใช่ม่ะ งั้นโดนอีกทีคงไม่เป็นไร ... เค้าเรียกว่าเอาใจใส่คนรอบข้างโว้ย ... ไม่เหมือน

เอ็งหรอก วันๆ เอาแต่ตลกจีบหญิง ไม่ก็ปากหมา ...”

“เจ็บนะโว้ย ... โดนสองทีติดเนี่ย ... ไอ้เวงบอล... แล้วเอ็งจามาอะไรกะข้าล่ะ ข้าจะไปจีบหญิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือว่าเอ็ง

หึง...”
บอลก้มหน้านิ่ง ไม่อยากมองหน้าเอก ที่มองมาอย่างท้าทาย ... ก็ในเมื่อมีแต่เอกคนเดียว ที่รู้ว่าเค้าเป็นแบบไหน ... และเอกห้ามเด็ดขาด

ไม่ให้บอลบอกให้นัทรู้ เพราะนัทดูจะใสซื่อเกินไปกับเรื่องพวกนี้ ... นัทที่เห็นท่าว่าเรื่องจะไปกันใหญ่ ... ก็เลยพูดยุติสงครามที่กำลังจะ

เกิดขึ้น ... ถึงแม้จะแปลกใจกับสิ่งที่เอกพูดกับอาการของบอลก็ตามที ...
“พอเถอะน่า กัดกันอยู่ได้ ... อาจารย์เดินมาแล้วว่ะ ...”

หลังเลิกเรียน ... แทนไท มักจะมาดักรอนัท ที่หน้าห้องเรียนเสมอ ... ชวนไปกินโน้น กินนี้เป็นประจำ ... แต่นัทก็ไม่มีอารมณ์จะไป

ไหนเลย ได้แต่เลี่ยงๆ ไปตลอด ...

“น้องนัทครับ ... วันนี้ไปกินข้าวเย็นกับพี่นะ ...”
“เอ๊อ ... คือว่าผม ...”
นัทไม่รู้ว่าวันนี้จะบอกว่าไง ได้แต่หันไปมองหน้าเอกกับบอล ... ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ...
“วันนี้...ห้ามปฏิเสธนะครับ เพราะพี่มาทวงสัญญา...”
“สัญญา ...?”
“ก็สัญญา ... ที่นัทจะตอบแทนพี่ไงล่ะ จำไม่ได้แล้วเหรอ แค่ไปทานข้าวกับพี่เอง นะ น๊า ... นะครับ หรือจะชวนเพื่อนไปด้วยก็ได้นะ”

นัทหันไปมองหน้าเพื่อนๆ ... แต่เอกส่ายหน้า เพราะวันนี้ที่บ้านให้เค้ารีบกลับ ... บอลเองก็เหมือนกัน ไม่งั้นเค้าก็อยากไปเป็นเพื่อน

นัท...
“ไปไม่ได้ว่ะนัท วันนี้ที่บ้านให้รีบกลับว่ะ... ไอ้บอลก็เหมือนกัน ... อีกเดี๋ยวรถที่บ้านคงรับแล้วอ่ะ”
นัทพยักหน้าอย่างเข้าใจ ... และหันไปให้คำตอบกับแทนไท ...
“งั้นไปก็ได้ครับ ... แต่คงไม่ดึกหรอกนะ เพราะผมเกรงใจคุณป้าถ้าต้องกลับดึกๆ ...”
“ไม่ดึกหรอกครับ รับรองว่าไม่เกินสองทุ่ม น้องนัทได้กลับถึงบ้านแน่ๆ ... งั้นไปกันเลยนะรถพี่จอดอยู่ด้านหลังครับ”
“ครับ ...”
นัทหันมาโบกมือให้เพื่อน แล้วจึงเดินตามแทนไท ไปที่ประตูด้านหลังของสถาบัน ...

เอกและบอลที่เดินออกมาด้านหน้าสถาบันเพื่อรอรถ กำลังถูกสายตาคู่หนึ่งมองอยู่โดยไม่รู้ตัว ...
“น่าเป็นห่วงนัทว่ะ ... ไม่รู้เป็นไงมั้ง ...”
“เป็นห่วงไรว่ะบอล ... ก็แค่ไปกินข้าว ...”
“นี่เอก ไม่สังเกตอะไรบ้างเลยหรอ ... บื้อจริงๆ ...”
“ด่ากรูอีก ... แล้วหมายความว่าไง ... ไอ้คนช่างสังเกต”
“ก็ ... อีตาแทนไท เจ้าขอ่งสถาบันน่ะ เค้าจ้องนัทอยู่นะซิ ... หวังว่านัทจะเอาตัวรอดได้นะ”
“เฮ้ย ... จิงดิ แล้วไมเอ็งไม่บอกก่อนหน้านี้ว่ะ ... ไอ้เวง ... ปล่อยเพื่อนเข้าปากเสือแล้วไหมล่ะ”
“ช่าย ... เสือไบด้วยซิ ... เห็นมีข่าวซุบซิบ ว่าควงหญิงไม่ซ้ำหน้า แต่ท่าทางเด็กหนุ่มหน้าตาดีๆ น่ารักๆ คงถูกใจเหมือนกัน...”
“เฮ้ย...บอล...ตามไปด้วยดีกว่าว่ะ ชักไม่ชอบมาพากลซะแล้วซิ...”
“สงสัย...จาไม่ทันซะแล้วว่ะเอก ... ป่านนี้เค้าไปถึงไหนแล้วไม่รู้ อีกอย่างเอกกล้าขัดคำสั่งที่บ้านหรือไง...ทำเป็นปากดี”

เอกทำหน้าสลดลงนิดนึง ใจก็เป็นห่วงเพื่อน...แต่เหมือนว่าจะทำอะไรไม่ได้ซะเลย ...
“หวังว่า...คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน ... ไอ้นัทก็เก่ง ... มันคงเอาตัวรอดได้หรอก ... แต่ถ้าไม่ ... ไอ้คุณแทนไท นั่น

ตายแน่...”
“อืม...คิดเหมือนกัน...นัทน่ะซื่อๆ ไม่ค่อยทันเรื่องพวกนี้หรอก ... แม้แต่ใจตัวเองจะรู้เปล่าก็ไม่รู้...”
“หมายฟามว่าไงว่ะ ... ชอบพูดมีลับลมคมในนะไอ้บอล...”
“เฮ้ย เฮ้ย ... เอก ... ดูนั่นจิ ...”
“ไหนว่ะ...เห็นอะไร...”
“ก็คนที่อยู่ในรถนั่นไง ... แกจำไม่ได้หรอ...”

เอกมองตามสายตาของบอล และต้องแปลกใจเมื่อสายตาไปพบกับคนที่เค้าไม่คิดว่าจะได้เจอในเวลาแบบนี้ ... ธวัฒน์นั่นเองที่นั่งอยู่ในรถที่จอด

อยู่ ไกลออกไปพอสมควร ... เอกกับบอลถึงกับผวา เมื่อคนในรถก้าวลงมาและเดินมาทางพวกเค้า ...
“เฮ้ยเอก ... เค้าเดินมาทางนี้แล้วว่ะ เอาไงดีว่ะ ... รถที่บ้านก็ยังไม่มาเลยอ่ะ”
“ก็เฉยๆ ซิว่ะ อย่าทำเป็นสนใจนักซิ ... คงไม่มีอะไรหรอก...”

“เธอ...สองคน...”
ธวัฒน์ที่เพิ่งมาถึง พูดกับเอกและบอล ที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตา เหมือนไม่อยากให้ใครจำหน้าได้ ... แต่ต้องสะดุ้งเมื่อธวัฒน์มายืนอยู่ข้างหลังและ

กำลังพูดกับพวกเค้า ...
“ค...ค...ครับ ... ม...มีอะไรกับพวกเราเหรอครับ ...”
“นัทไปไหน ... ทำไมวันนี้ไม่ออกมาพร้อมกันล่ะ ...”
“เอ๊อ ... คือว่า ... นัทเค้า ... ป ... ป ... ไปกินข้าวกับคุณแทนไทครับ”
“งั้นเหรอ ... พวกเธอมีเวลาสักครู่ไหม ... พี่มีอะไรจะคุยด้วยสักหน่อย...”
“ได้ครับ...”
เอกและบอลตอบ พร้อมกัน ...

เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ... เมื่อธวัฒน์คุยกับเอกและบอล ...
“หวังว่าพวกเธอคงจะทำตามสัญญานะ...”
“ครับ พวกเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ...” เอกหันไปพยักหน้ากับบอล ที่พยักหน้ารับเหมือนกัน ... และบอลจึงหันไปพูดกับธวัฒน์ ...
“รถที่บ้านมารับพวกเราแล้วล่ะครับ พวกเราคงต้องกลับแล้ว ... แต่ผมว่า ... พี่วัฒน์น่าจะไปตามหานัทนะครับ ...”
“อืม ... ได้ แล้วพี่จะลองโทรไปหาไอ้แทนมันดู...ว่าแต่พวกเธอห้ามบอกเรื่องที่เราคุยกันวันนี้ให้นัทรู้นะ”
“ครับ...ได้ งั้นพวกเราไปก่อนนะครับ...”

ธวัฒน์ดูจะร้อนใจไม่น้อย ... ที่ไม่สามารถติดต่อแทนไทได้ เพราะโทรศัพท์มือถือเหมือนจะถูกปิดมากกว่า ... ทุกครั้งที่นัทมาเรียน เค้าจะ

หาเวลาแวะมารอดูนัทเสมอ ว่าขึ้นรถแท็กซี่ ตรงกลับบ้านหรือไม่ ... ซึ่งทุกครั้ง นัทก็ไม่เคยเหลวไหลไปไหนเลย ... จนวันนี้แหละ ที่

ธวัฒน์อดแปลกใจไม่ได้ที่นัท ไม่ได้เดินออกมาพร้อมกับเพื่อนๆ ... แต่เมื่อรู้ว่าไปกับ แทนไท จึงวางใจว่าไม่เป็นอะไร และหันไปคุยธุระกับเอก

และบอลซะก่อน ... แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ง่ายซะแล้ว ... เมื่อไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ มันยิ่งทำให้ธวัฒน์หงุดหงิดมากขึ้น ...

“ไปไหนกันนะ ... ไอ้แทน ... มือถือก็ไม่เปิด…”
กดจนแทบโทรศัพท์พัง ... แต่ก็ยังไม่ติด จนโทรศัพท์หลุดมือ ... ตกลงไปใต้เบาะ ...
“โธ่โว้ย ...”
ธวัฒน์เอื้อมแขนลงไปเก็บโทรศัพท์ ทำให้เผลอไม่ได้มองทางข้างหน้าไปชั่วครู่ ... แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้น แบบไม่ทันตั้งตัว

...
!!! เอี๊ยด ..... โครม !!!

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
 :yeb:
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

16…

ที่ร้านอาหารย่านชานเมือง … แทนไท และนัท กำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ … แทนไท นั้นแทบไม่ได้กินเพราะมัวแต่มองหน้าของอีกคนจนนัทเริ่ม

อึดอัด …
“พี่แทน ไม่ทานเหรอครับ มัวแต่มองหน้าผมอยู่นั่นแหละ หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือเปล่าเนี่ย…”
“เปล่าๆ … หน้านัทไม่มีอะไรติดหรอก … เพียงแต่พี่กำลังมองคนน่ารักต่างรัก …”
o_O
“พี่แทนอย่าพูดเล่นแบบนี้ซิครับ … ผมไม่ปลื้มด้วยหรอกนะ…”
“นัทชอบพี่ไหมครับ …”
“ทำไมพี่ถามแบบนี้ล่ะครับ … พี่เป็นคนดีนะครับ นิสัยก็ดี … ผมต้องชอบพี่อยู่แล้วล่ะ…”

ชายหนุ่มช่างใจอยู่ครู่นึง รู้สึกประทับใจที่เด็กคนนี้ซื่อบริสุทธิ์ และเป็นมิตรกับทุกคน ...
“พี่ไม่ได้หมายถึงชอบแบบธรรมดานะ พี่จริงจังนะครับ … นัทรู้ไหมว่าพี่น่ะแอบชอบนัทตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเลยนะครับ…”
“ง่ะ … พี่แทนพูดอะไรแปลกๆ … ผมเป็นผู้ชายนะครับ ….”
“พี่ไม่สนหรอก ว่านัทจะเป็นผู้หญิงหรือชาย พี่รู้แค่ว่าพี่ชอบนัท เท่านั้นเอง …”

นัทที่เห็นแววตาของอีกฝ่ายที่กำลังมองอย่างเอาจริงเอาจัง ถึงกลับต้องกระสับกระส่ายจนเริ่มทำตัวไม่ถูก …
“ม…ม…หมายความว่าพี่แทน … เป็น … เอ๊อ …”
“ใช่ครับ … พี่เป็นเกย์…”
ชายหนุ่มตอบให้แบบไม่อ้อมค้อม …
“แต่พี่เป็นเกย์ที่สามารถชอบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเท่านั้นเอง … และที่ผ่านมาพี่ก็ไม่เคยชอบใครจริงจังมาก่อน จนมาเจอนัทนี่แหละ …”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับพี่แทน ร…เราเป็นผู้ชายเหมือนกัน และอีกอย่างสังคม … ยัง …”
“ช่างสังคมมันซิ … นัทอย่าไปยึดติดกับมันได้ไหมครับ … รู้ไหมว่าเดี๋ยวเนี่ย … คนอย่างพี่ก็มีเยอะแยะไปในสังคม เพียงแต่พวกเค้าไม่กล้าที่จะ

เปิดเผย ก็เพียงเพราะไอ้กฏเกณฑ์บ้าๆ บอๆ ที่ว่า ผู้ชายจะต้องรักกับผู้หญิงและผู้หญิงต้องรักกับผู้ชาย … ทำไมล่ะ หากผู้ชายจะรักผู้ชาย และผู้หญิงจะ

รักผู้หญิงบ้าง … มันผิดเหรอครับที่เราจะแค่ทำตามสิ่งที่เราเกิดมาเพื่อจะเป็น”

“คือ…ผมไม่ได้รังเกียจ พวก…คนที่เป็นแบบนี้หรอกนะครับ … เพียงแต่ ผม … ผมไม่ได้เป็นและคงไม่สามารถจะรับความรู้สึกของพี่ได้ด้วย”
“นัทแน่ใจเหรอครับ ... แต่พี่ว่าพี่มองออกนะว่านัทก็เหมือนพี่ เพียงแต่นัทอาจจะยังไม่แน่ใจตัวเองเท่านั้น ...”
“พ...พี่แทนพูดอะไรน่ะครับ ผมเนี่ยนะ ... พี่จะรู้ได้ยังไง ผมน่าจะรู้ดีที่สุดถึงจะถูกนะครับ...”

แทนไท ส่ายหน้าเล็กน้อย ... ไม่ได้เบื่อคนตรงหน้าแต่เอ็นดูต่างหาก สักวันนัทคงจะเข้าใจในคำพูดของเค้า ... ทั้งๆ ที่กะจะรวบรัดซะวันนี้

เลย ... แต่พอเห็นหน้าใสๆ ซื่อๆ แล้วเค้าก็ต้องยอมถอดใจ เพราะตอนนี้ยังไม่อยากโดนเกลียดไปมากกว่านี้ แค่มาสารภาพตรงๆ แบบนี้ มันก็

อาจทำให้นัท เริ่มไม่ไว้วางใจในตัวเค้าไปแล้ว ...

“พี่อยากให้นัทรู้ไว้นะครับว่า ... หากวันหนึ่งนัทแน่ใจในตัวเองและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นแล้วล่ะก็ พี่...ยังคอยอยู่นะครับ”
“เอ๊อ...ขอบคุณนะครับ ... ที่พี่แทนมีความรู้สึกดีๆ กับผม แต่ถ้าผมจะรักใครสักคน ...”
ภาพใครคะนึงมันผ่านเข้ามาในความคิดของเด็กหนุ่ม ... นัทยังไม่เข้าใจ และพยายามไล่มันออกไปจากสมอง ...
“คงจะเป็นผู้หญิงสักคน ... คนที่ผมรัก ... หวังว่าพี่แทนคงจะเข้าใจนะครับ ...”
“เฮ้อ ... เอาเถอะนะ สักวันนัทอาจจะมาขอให้พี่ช่วยก็ได้ ... สักวัน ... ว่าแต่เรากลับกันเถอะนะ ป่านนี้ที่บ้านคงจะห่วงนัทกันแล้ว

ล่ะ”
“ก็ดีครับ ... แต่คงไม่มีใครอยู่ตามเคยล่ะครับ ... คุณลุงคุณป้า และ ... เอ๊อ ... พี่วัฒน์ ... กลับดึกกันทุกวันเลยล่ะครับ”
“งั้นเหรอครับ ... เค้าคงจะงานยุ่งกันน่ะ…”

……………………………………………………………………………………………………………

“ห๊า ... ว่า ... ว่าไงนะครับนมพริ้ม ... คุณวัฒน์ประสบอุบัติเหตุ ...”
“ค่ะ ... ช ... ใช่ค่ะ ทางโรงพยาบาลเพิ่งโทรมาบอกเมื่อสักครู่นี้เอง ... ก็พอดีคุณนัท กลับมานี่ล่ะค่ะ…”
“แล้วคุณลุงกับคุณป้าล่ะครับ นมโทรบอกท่านหรือยัง ...”
“ยังไม่ได้ติดต่อเลยค่ะ ... เพราะท่านไปต่างประเทศกัน นมยังไม่ทราบเลยค่ะว่าไปที่ไหน คงมีแต่คุณวัฒน์คนเดียวที่ทราบ”
“ค...คุณป้าไปต่างประเทศ ผมไม่ทราบเลยครับนม ...”

“ท่านจะไปกันบ่อยค่ะ บางทีก็ไปแบบปุ๊บปั๊บ ... นี่ก็เพิ่งมาเก็บกระเป๋าและไปสนามบินเมื่อช่วงบ่ายนี่เอง ...”
แทนไท ที่มาส่งนัท ยืนฟังอยู่อย่างสงบ ก่อนจะพูดปลอบใจนัทไม่ให้คิดอะไรมาก ...
“พี่ว่า...เราไปโรงพยาบาลกันก่อนดีกว่านะ ... ส่วนนมช่วยตรวจดูเบอร์โทรศัพท์นะครับ เผื่อท่านนายพลกับคุณหญิงจะทิ้งเบอร์ไว้ให้ติดต่อ

บ้าง...”
“ค่ะ...ด...ได้ค่ะ...”
“ส่วนนัท ... ไปกับพี่ครับ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาล ...”
รถของแทนไท แล่นออกไปแล้ว ... ก็พอดีกับที่นมพริ้มวิ่งออกตามออกมา .... แต่ก็ไม่ทันซะแล้วเมื่อรถแล่นพ้นประตูบ้านออกไปก่อน

....
“อ้าว ... ไปกันซะแล้ว ... ดั๊นลืมบอกซะได้... แต่คงไม่เป็นไรหรอก ...”
บ่นกับตัวเองแล้ว นมพริ้มก็เดินเข้าไปหาเบอร์โทรศัพท์ต่อ ... โดยมีนัทและแทนไท ที่กำลังร้อนใจ ไปตลอดทาง ... ก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล

นัทไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้ ... เพราะอะไรกันนะ นัทไม่คิดว่าเค้าจะเสียใจได้มากขนาดนี้ ... เพราะธวัฒน์ที่เปรียบเหมือนพี่ชาย

คนนึงของเค้า มันอาจเป็นแค่ความผูกพันที่เกิดขึ้น จากการที่เด็กหนุ่มต้องการครอบครัวที่อบอุ่นก็ได้ละมั้ง ... แต่ระยะเวลาแค่สองสัปดาห์ใน

บ้านหลังนี้ ... มันทำให้เค้าเกิดความผูกพันกับธวัฒน์ได้มากขนาดนี้เลยหรือ ... สองสัปดาห์ที่แทบไม่ได้คุยกันเลย ...

แทนไท และนัทขึ้นมาถึงชั้นที่ 10 ของโรงพยาบาลดังในกรุงเทพฯ ตามที่นมพริ้มได้บอกไว้ ...
“เดี๋ยวพี่ไปสอบถามที่เคาเตอร์ก่อนนะครับ ... น้องนัทอย่าเพิ่งไปไหนล่ะ รอพี่อยู่นี่นะ ....”
“ค...ครับ”
นัทตอบรับ แต่ในใจมันก็ร้อนรนและเจ็บปวดอย่างประหลาด น้ำตายังไหลไม่หยุด จนไม่สามารถทนยืนอยู่เฉยๆ ได้ ... เค้ากลัว กลัวว่าจะไม่มีอา

กาสได้ปรับความเข้าใจ ก่อนที่มันจะสายเกินไป ...
ทำไมนะไอ้นัท ทำไมไม่พูดทำไมไม่คุยว่ะ ถึงแม้จะรู้ว่าเค้าไม่อยากพูดด้วยก็เถอะ ...

เหตุการณ์บางอย่างมันย้อนกลับมาในความคิด เหตุการณ์ที่ยากจะลืม ... เหตุการณ์เมื่อตอนที่นัทยังเป็นเด็ก ยังเอาแต่ใจ ...

นัทไม่ยอมพูดกับพ่อเลยตลอดหนึ่งสัปดาห์ เพียงเพราะท่านไม่ยอมซื้อของเล่นที่นัทอยากได้ให้ ของเล่นที่กำลังฮิตมากในหมู่เด็กอเมริกัน และเพื่อนๆ

ของนัททุกคนก็มีกันหมด ... ถึงแม้คุณแม่จะพยายามพูดเกลี่ยกล่อมยังไง นัทก็ยังไม่ยอมอยู่ดี ไม่มองหน้าและไม่พูดด้วยแม้แต่คำเดียว ...

จนวันที่นัทไม่เคยลืมก็มาถึง เมื่อพ่อของเค้าประสบอุบัติเหตุ ... จากไปอย่างไม่มีวันกลับ นัทยังจำได้ ที่โรงพยาบาลศพของคุณพ่อ ... ที่ใน

มือยังถือของเล่นที่เค้าอยากได้อยู่ ... มันมีแต่เลือดเต็มไปหมด ... สิ่งที่เค้าอยากได้ แลกกับชีวติของคนที่รัก ... มันคุ้มแล้วหรือ ?

ตั้งแต่วันนั้น นัทก็ไม่เคยอยากได้อะไรอีกเลย เค้าเสียใจ แต่เสียใจมากที่สุดที่ไม่มีโอกาสพูดกับพ่อดีๆ เหมือนที่เคยทำ พูดกับท่านก่อนที่จะเสียท่านไป

...

นัทหันไปมองเห็นแทนไท ที่อยู่ไกลออกไปกำลังพูดคุยสอบถามกับประชาสัมพันธ์ ... พลันสายตาที่พล่าเลือนก็มองไปที่ทางเดินอีกด้าน ...

นัทอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป มันเหมือนมีบางสิ่งดึงดูดให้สองขาก้าวเข้าไปหามัน ... ทั้งสองฟากของทางเดินเป็นห้องคนไข้จำนวนมาก เงียบสนิท

ดูเปล่าเปลี่ยวจนขนลุก ... เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจชื่อ บนประตูแต่ละห้อง ตลอดทางที่เดินไป ... จนมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องที่อยู่สุด

ทาง

ห้อง ..... 1018
ชื่อคนไข้ ..... ธวัฒน์
อุบัติเหตุ

มือที่ยื่นออกไปผลักประตูสั่นเทา ... ทุกย่างก้าว ... เหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนไปอย่างเชื่องช้า ... สายตามองแต่ที่ปลายเท้าตัวเอง

เพราะยังไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่เตียง ... จนเดินมาถึงที่เตียงนั่นแหละ ... จึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ... ช้า ... เหมือน

กับกลัวว่าจะได้พบสิ่งที่มันเคยติดตาเค้ามาตั้งแต่อดีต ...

ภาพตรงหน้า มันทำให้นัทแทบยืนไม่อยู่ ... ผ้าสีขาวปิดคลุมร่างของชายที่นอนอยู่บนเตียง ... ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ... นอนนิ่ง

ไม่ไหวติง ... ปราศจากสัญญาณแห่งชีวิตอย่างสิ้นเชิง ... มีเพียงแขนข้างเดียวที่โผล่พ้นออกมานอกผ้านั้น ... หน้าของนัทซีดเผือด

เหงื่อเย็นๆ ไหลหยดลงมาจากปลายคางของเด็กหนุ่ม ...
นี่ ... นี่ ... เรามาช้าไปเหรอเนี่ย ... ทำไม ... ทำไมกัน .... ไม่อยากเห็นภาพแบบนี้อีกแล้วนะ พอกันที พอแล้ว ...

มันมากเกินไปแล้ว ...

!!! พี่วัฒน์ !!!
“ลุกขึ้นมาซิ ... ลุกขึ้นมา ... !!! ได้ยินไหม !!! ผมบอกให้ลุกขึ้นมาไง ...”

ออฟไลน์ LonelyBoiZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ค้างคาจัง อยากอ่านต่ออ่ะคับ  :yeb:

wee

  • บุคคลทั่วไป
โห....ม่ายง่ายจริงจริง  รักนี้   :110011: :เชิป2:
น้องนัทก็มีความหลังฝังใจ เศร้าๆ กะเค้าด้วย 
แล้วพี่วัฒน์ จะตายไหมเนี่ย  ดี ดี กันซะ
พี่วัฒน์เป็นงี้เพราะน้องนัทแท้ๆเล๊ยยย (ก็หึงซะขนาดดดนั้นน่ะ ) :laugh5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อิอิ  เริ่มจะทนห้ามใจกันต่อไปไม่ไหวแล้วละซิ
พี่วัฒน์นี่เริ่มห่างตั้งแต่ไปหอมแก้มน้องนัทที่ห้องทำงานแล้วรีบไปล้างหน้าป่าวเนี่ย
กลัวใจตัวเองกันซะ  แต่ก็ดีนะ  ทำให้รู้ใจตัวเองมากขึ้น

ตอนนี้วัฒน์คงไม่เป็นไรหรอกม้างง  เด๋วก็มาอยู่ข้างหลังนัทตอนร้องไห้เป็นเผาเต่าอะป่าว
อยากอ่านต่อแย้ววววว  ชอบเรื่องนี้  หนุกดี  เหมือนละคร นางร้ายอิจฉาซะ  น่าตบชะมัด

รออ่านต่อจ้า ให้ไวๆ   :yeb:
ปล  น้องหมีไปเที่ยวหนุกป่าว  อิอิ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อืม พิมวิเคราะห์ได้ดีจริง ๆ เห็นด้วยนะนี่  :laugh3: คู่นี้เริ่มแปลก ๆ ตั้งแต่หอมแก้มกันแย้ว  :-[  :-[

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
ไปเที่ยวมาก็สนุกดีคับ  ได้เจอ เพื่อนใหม่เยอะแยะเลย  ฮ่าๆๆ   

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

17...

“โอ๊ย...โอ๊ย...คนเจ็บจะตายอยู่ล่ะ ... มาโวยวายเสียงดังอยู่ด้ายยย ...”
นัทที่กำลังเขย่าตัวของคนที่นอนอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ... ต้องสะดุ้งทั้งน้ำตา ... เมื่อได้ยินเสียงและเห็นแขนที่เอื้อมไปเปิดผ้าที่คลุมหน้าออก ...
“พ...พ...พี่วัฒน์...ยัง...ม...ม...ไม่ตาย...”
“อ้าว...อ้าว...ไหงมาแช่งกันแบบนี้ล่ะ...เจ็บแค่นี้ไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า... หรืออยากให้พี่ตายนักหรือไง ...”

“พี่วัฒน์อย่าพูดแบบนั้นนะครับ ... ผมแค่นึกว่า ...”
นัทหยุดร้องไห้ทันทีแล้วตีสีหน้าขึงขัง ถึงจะยังมีคราบน้ำตาติดอยู่เป็นหลักฐาน นั่นก็ไม่ใช่เพราะโกรธคนป่วยแต่เพราะอายตัวเองที่โวยวายเสียงดัง โดยไม่ดูอะไรให้ดีเสียก่อน ... และยิ่งเขินมากขึ้นเมื่อธวัฒน์มองหน้าเค้าอยู่เหมือนกำลังดีใจอะไรสักอย่าง ... จนต้องรีบหันหน้าหนีและจะเดินออกไปข้างนอก แต่ก็ถูกธวัฒน์ดึงข้อมือไว้ซะก่อน ...
“เดี๋ยวซิ จะรีบไปไหน ... จะทิ้งคนป่วยไว้คนเดียวหรือไง”

นัทที่โดนดึงข้อมือ ... ต้องหันมามองตามแขนยาวที่รั้งเค้าไว้ ... พอมองหน้าคนดึงที่ยิ้มซะแก้มแทบปริ ... ไม่รู้ว่ายิ้มหาอะไร
“ก็ในเมื่อพี่วัฒน์ไม่เป็นไรแล้ว ผมกลับดีกว่า...”
“ไหงใจร้ายแบบนี้อ่ะ ... ทีแรกยังร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่เลย เป็นห่วงพี่ก็บอกมาตรงๆ ดีกว่าน่า...”
“ใคร...ใครร้องไห้ครับ...อย่าเข้าข้างตัวเองมากไปจะดีกว่า ผมไม่ร้องไห้เพราะพี่หรอก ... แล้วก็ปล่อยผมได้แล้ว ...”
นัทสะบัดแขนอย่างแรงเพื่อให้หลุดจากมือที่รั้งข้อมือเค้าไว้ ... จนธวัฒน์ร้องเสียงดัง ... ด้วยความเจ็บ ...
“!!! โอ๊ย !!! ... จ ... เจ็บ ...”

นัทตกใจ และเพิ่งสังเกตเห็นว่าแขนอีกข้างหนึ่งของธวัฒน์ใส่เฝือกอยู่ ... จนต้องรีบเข้าไปดูใกล้ๆ ด้วยความเป็นห่วง ...
“พ...พี่วัฒน์ จ...เจ็บเหรอครับ ผม...ผมขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ....”
“เจ็บซิ ถามได้ ... คืนนี้ต้องรับผิดชอบนอนเฝ้าพี่ด้วย เข้าใจไหม ...”
“หา...ให้ผม น...นอนเฝ้าเหรอครับ ... ผมว่าพี่ให้พยาบาลเฝ้าจาดีกว่านะ ...”
“ไม่อาววว...น๊า...นะ นะ”
“เฮ้ย...คนป่วยอะไรว่ะ อยากให้ผู้ชายเฝ้าไข้ มีแต่เค้าจะอยากให้พยาบาลสาวสวยมานั่งเฝ้านะเอ็ง...ไอ้วัฒน์”
แทนไท ที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่นานพอสมควร ส่งเสียงทักทาย และเดินเข้ามาที่เตียงของเพื่อน ...
“เอ๊อ ...พี่แทน เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ...”
แทนไทหันมายิ้มกับนัท โดยไม่ได้ตอบอะไร และหันไปมองหน้าคนป่วยที่นอนอยู่ ...
“ไง ไอ้แทน...วันนี้พาน้องข้าไปไหนมาล่ะ ...”
แทนไท ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยที่ธวัฒน์รู้ ... คงมีเพียงแต่นัท ที่แปลกใจจนแสดงออกทางสีหน้า แต่ก็รู้สึกผิดอยู่นิดหน่อยที่ไม่ได้โทรไปบอกว่าจะไปไหนหลังเลิกเรียน จึงได้แต่ก้มหน้าฟังอยู่นิ่งๆ ... แต่ก็ไม่ได้เอ๊ะใจเลย ว่า ... การที่ธวัฒน์ต้องประสบอุบัติเหตุเพราะกำลังตามหาเค้า ...
“ก็แค่ไปกินข้าวเย็นว่ะ ... แต่พอไปส่งที่บ้านถึงได้รู้ว่าเอ็งเข้าโรงพยาบาลนี่แหละ ... ว่าแต่ไปทำอีท่าไหนว่ะ ถึงได้ขับรถชนซะได้”
ชายหนุ่มสองคนกำลังมองตากัน เหมือนกำลังอ่านความคิดของกันและกัน ... บรรยากาศชวนอึดอัดจนนัทเอง ยังรู้สึกได้ ... ก่อนที่ธวัฒน์จะตอบที่เพื่อนถาม ...“ก็แค่เผลอนิดหน่อยว่ะ ... ไม่มีอะไรหรอก ...”

“เออ ... ถ้าไม่เป็นไรมากก็ดี ... งั้นข้ากลับก่อนล่ะกัน”“ขอบใจว่ะที่ว่าเยี่ยม...”
“ว่าแต่น้องนัท กลับถอะครับ ดึกแล้ว...ไม่ต้องเฝ้าไอ้วัฒน์ให้ลำบากหรอก ... พยายามเค้าดูแลอยู่แล้วล่ะ...”
“อ้าว ... ไอ้แทน จะกลับ ก็กลับไปซิว่ะ ... น้องก็ต้องนอนเฝ้าพี่ชายซิ ... กลับไปเลยไป ...”

แทนไท หันไปทางนัท ที่กำลังตัดสินใจอย่างยากลำบาก ...
“ผมว่า... ผมจะอยู่เฝ้าพี่วัฒน์น่ะครับพี่แทน ... ยังไงต้องขอบคุณนะครับที่มาเป็นเพื่อนผม...”
“อืม ... ถ้าน้องนัทอยากอยู่พี่ก็ไม่ขัดครับ เอาไว้พรุ่งนี้พี่มารับนะ ...”
“เออ..ขอบใจ กลับไปเถอะ ...”
ธวัฒน์พูดขัดขึ้นแทนนัท ที่กำลังจะตอบ ... จนแทนไท หันมามองตาเขียว ก่อนจะเดินกลับออกไป ...
...
ยามเช้า ... ที่โรงพยาบาล แสงแดดอบอุ่นส่องผ่านม่านเข้ามาในห้อง ... ธวัฒน์ตื่นนานแล้ว กำลังมองคนที่นอนหลับอยู่ข้างเตียง ... ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ธวัฒน์พยายามจะหลบหน้ามาตลอด ได้แต่คอยดูแลอยู่ห่างๆ ในฐานะของพี่ชาย จอดรถคอยดูจนกว่านัทจะเลิกเรียน และขึ้นรถกลับบ้านนั่นแหละ เค้าจึงจะไปทำงานต่อหรืออาจไปหานภัทรบ้าง ... จะกลับเข้าบ้านก็ดึกดื่น แต่มาวันนี้ เหมือนว่าความพยายามที่ผ่านมามันจะล้มเหลว เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวาน ... อดที่จะดีใจไม่ได้เมื่อมีคนเป็นห่วงเป็นใย นอกจากพ่อและแม่ หรือนมพริ้ม ก็ไม่คิดว่าจะมีใครร้องไห้ เพราะห่วงเค้าอย่างจริงใจแบบนี้ ...

ธวัฒน์ค่อยๆ เอื้อมมืออย่างช้าๆ ไปลูบผมของคนหลับ ... หน้าตอนหลับมันช่างดึงดูดใจ ... น่ารัก น่าทะนุถนอม ... กว่าผู้หญิงหลายๆ คน  ... ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันแปลก แต่เค้าก็เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร แต่กับเด็กคนนี้ ... ทำไมกันนะ... ยิ่งนึกถึงวันที่เค้าพานัทไปที่บริษัทด้วยแล้ว ... ยิ่งละอายใจที่หักห้ามใจตัวเองไม่ไหว ... ตอนที่เห็นนัทนอนอยู่ ... เหมือนมีอะไรเข้าสิงจนขาดสติ เค้าก้มลงไปสัมผัสแก้มของเด็กหนุ่มเบาๆ ความรู้สึกอยากรุกล้ำ อยากทำให้แปดเปื้อน มันก่อเกิดขึ้นในใจอย่างห้ามไม่ได้ ... พอเริ่มได้สติก็ต้องไปล้างหน้าล้างตา ล้างอารมณ์บางอย่างให้มันจางลงไป ...

ความเคลื่อนไหวของคนหลับที่กำลังจะตื่น ... ทำให้ธวัฒน์ต้องรีบชักมือกลับทันที ... ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ก็ต้องแกล้งหลับตาไปก่อน ...
“อ้าว ... ยังไม่ตื่นอีกเหรอเนี่ย ...”
นัทที่เห็นธวัฒน์ยังนอนหลับอยู่ บิด หาว ด้วยความขี้เกียจ ... มองซ้าย มองขวา ก็ไม่มีใคร ... เห็นผ้าวางอยู่ผืนนึงก็เกิดความคิดบางอย่าง จึงหยิบผ้าแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ... ก่อนจะเดินออกมาพร้อมผ้าเปียกที่บิดหมาดๆ ... ในใจก็ กล้าๆ กลัวๆ แต่ก็คิดว่า ทำตอนหลับ น่าจะดีกว่าตอนตื่นล่ะน่า ... อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีใครคอยพูดให้ลำคาญ ... และที่สำคัญ คงจะเขินน้อยกว่าด้วย ... เพราะเค้าก็ไม่เคยเช็ดตัวให้ใครมาก่อน ...

เพียงเวลาไม่นาน นัทก็จัดแจง ปลดกระดุมเสื้อของธวัฒน์ออก เผยให้เห็นแผ่นอกและหน้าท้องของชายหนุ่ม ... ช่างไม่รู้เล๊ย ... ว่าตัวเองกำลังทำให้ใจของคนป่วยแทบลุกเป็นไฟอยู่แล้ว ...


VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
อยากมีคนมาเช็ดตัวให้บ้างจัง อิอิ :give2:

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

18...

ธวัฒน์ที่เกิดมาไม่เคยให้ใครเช็ดตัวมาก่อน เวลาไม่สบายก็มีแค่คุณแม่และนมพริ้มเท่านั้นที่เคยเช็ดให้ ... พอโดนนัทที่แอบเช็ดตัวให้โดยคิดว่าเค้าหลับอยู่ มันกลับร้อนรุ่มจนจะลุกเป็นไฟ ...
“เอ..ทำไมพี่วัฒน์หน้าแดงๆ ล่ะเนี่ย ... สงสัยไข้จะขึ้นละมั้ง ...”
นัทที่สังเกตเห็น อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ ... จึงไปชุบผ้าและกลับมาเช็ดที่หน้าแทน ...  กำลังเช็ดอยู่ ก็พิจารณาหน้าของคนป่วย ที่ยามปกตินัทคงจะไม่กล้ามองแบบนี้แน่ๆ ...
“ทำไม ยิ่งเช็ด หน้ามันยิ่งแดงอ่ะ ... สงสัยต้องไปตามหมอแล้วมั้ง ...”

นัทที่เอามือไปอังที่หน้าผากของธวัฒน์ กำลังจะลุกไปตามคุณหมอ ... กลับต้องชะงักเมื่อจู่ๆ มือข้างนั้นก็ถูกธวัฒน์กุมไว้ ... จากเดิมที่มือของนัทวางไว้ตรงหน้าผาก ธวัฒน์ค่อยๆ เลื่อนมันลงมาตรงจมูก ... และต่ำลงมาที่ปาก ...  เมื่อรู้สึกได้ว่ามือสัมผัสกับริมฝีปากอิ่ม นัทถึงกับต้องชักมือกลับทันที ... เหมือนสติกลับมาและตื่นตัวเต็มที่ ...
“พี่วัฒน์ทำอะไรอ่ะครับ ... นี่แกล้งหลับใช่ไหมครับ ... ทำไมชอบแกล้งผมนักนะ ...”
ธวัฒน์ยิ่มอย่างพอใจ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงเสี้ยวนาที แต่สัมผัสเมื่อครู่ ก็ทำให้เค้าเป็นสุข ... เหมือนอยากจะทำแบบนี้มานานแสนนาน ...
“ก็แกล้งคนอื่น ... ไม่สนุกเหมือนแกล้งน้องชายตัวเองนี่นา ... ว่าแต่เช็ดตัวเก่งนะ ... เคยไปทำให้ใครมาก่อนหรือเปล่า...”
นัทที่รู้ความจริง ตอนนี้หน้าคงแดงจนธวัฒน์สังเกตได้ไม่ยาก ...
“ก็...ตอนเด็กๆ ผมเคยเช็ดตัวให้คุณพ่อตอนไม่สบาย ... เวลาคุณแม่ไม่อยู่บ้านน่ะครับ ...”
“แต่...จับคนอื่นแก้ผ้า ตอนหลับนี่ไม่ค่อยจะดีนะ อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นล่ะ...”
“พี่วัฒน์! … แค่ปลดกระดุมเสื้อเนี่ยนะ ... ไม่ได้จับพี่แก้ผ้าสักหน่อย ...”
“ก็...ถ้าพี่ไม่ตื่นก่อน ก็ไม่แน่ละมั้ง ... จริงป่ะ อยากเช็ดตัวให้ก็บอกดีๆ ก็ได้ พี่จะได้ถอดให้นะ ...”
สายตาของธวัฒน์เหมือนจะพยายามมองลึกเข้าไปในความคิดของนัท จนนัทต้องหลบสายตาไปมองทางอื่นแทน ...
“ผม...ผมไม่ได้...”
“วัฒน์...ขา...เป็นไงบ้างค่ะ...”
เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากประตูที่ถูกเปิดออก ... นัทรู้ดีว่าเป็นใคร มันคงถึงเวลาที่เค้าจะต้องไปแล้วซินะ ในเมื่อคนรักมาแล้วน้องชายก็คงไม่จำเป็นอีกต่อไป ... และธวัฒน์ดูจะขรึมขึ้นกว่าปกติเมื่อได้ยินเสียงของนภัทร ... ยิ้มให้กับหญิงสาวเมื่อเธอเดินมาถึง...
“ภัทร มาได้ไงครับ ...”
“แหม...คุณวัฒน์ใจดำจังนะค่ะ ... นี่คงไม่คิดให้ใครมาเยี่ยมเลยหรือค่ะ ... ทำไมล่ะค่ะภัทรจะได้มาคอยดูและคุณไงล่ะ...”
นภัทรมองไปทางนัท ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะลงไปนั่งที่ข้างเตียงและซบหน้าลงบนแผ่นอกของธวัฒน์ ...
“รู้ไหมค่ะ ว่าภัทรน่ะตกใจมากแค่ไหนพอรู้ว่าคุณประสบอุบัติเหตุ ...”
“ครับ ... ครับ ผมรู้ครับว่าคุณภัทรน่ะเป็นห่วงผม ... และคงไม่มีใครดูแลผมได้ดีกว่าคุณหรอกครับ ... ผมก็กะว่าจะโทรไปบอกอยู่เชียว ...”
นัทที่ยืนดูคนทั้งคู่อยู่เงียบๆ ... กำลังเจ็บแปลบกับคำพูดของคนป่วย ... ไม่อยากจะยืนอยู่เป็นก้างขวางคอ ... จึงต้องถอยออกมาจากห้อง ... เพราะไม่ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่คงไม่มีใครสนใจแล้วล่ะ ... ธวัฒน์เหมือนจะเหลือบมองอยู่นิดนึง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ... คงอยากอยู่กับคนรักมากกว่าละมั้ง ...

นัทกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านเพื่อพยายามขับไล่ความคิดและภาพที่มันรบกวนจิดใจออกไป ... นมพริ้มเข้ามาถามไถ่อาการของคุณวัฒน์ตั้งแต่ตอนที่นัทกลับมาถึง ... และบอกว่าเมื่อคืนลืมบอกไปว่า คุณวัฒน์นั้นต้องเข้าเฝือกและหมอให้นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนเท่านั้น ...
“เฮ้อ ... ทำไมไม่ถามไถ่ให้ดีก่อนนะ... จะได้ไม่ต้องไปให้หน้าแตก ... อยู่บ้านยังจะดีซะกว่าไม่ต้องไปทนเห็นคนตีสองหน้า”

นัทที่นั่งอยู่ในสวน โดยไม่ได้มีสมาธิจะอ่านหนังสือเลย ... กำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย ... ป่านนี้แล้วไม่รู้ว่าออกจากโรงพยาบาลหรือยัง ... จะไปไหนต่อกันหรือเปล่าน่า... แค่ใส่เฝือกข้างเดียวคงจะไปไหนมาไหนได้สบายอยู่แล้วล่ะ ... กำลังคิดเพลินๆ ก็มีเสียงทำลายความฟุ้งซ่านซะก่อน ...
“สวัสดีครับ ...”
นัทหันไปตามเสียงทักทายที่ไม่คุ้นเคย ... ก็ต้องพบกับเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเค้า ... หน้าตาคล้ายๆ ว่าเคยเห็นที่ไหนกันนะ ... เด็กหนุ่มแปลกหน้ากำลังยิ้มทักทาย ... รอยยิ้มมีเขี้ยวแบบนี้ ปากแบบนี้ ... เฮ้ย ... นี่มันยิ้มเหมือนพี่วัฒน์เลยนี่นา ... หน้าแค่มีเค้าคล้ายๆ แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว ที่เหมือนก็คงมีแต่รอยยิ้มเท่านั้นที่เหมือนมากๆ ...
“สวัสดีครับ ... เราชื่อภานุวัตร … แล้วนายล่ะ”
นัทมัวแต่มองจนลืมตัว ทำให้แขกต้องสวัสดี ถึงสองรอบ ...
“เอ๊อ ... สวัสดีครับ เราชื่อ ณัฐภูมิ ...”
“อืม ... นายคงเป็น นัท หลานคุณป้าใช่ไหมล่ะ ... ว่าแต่หน้าเราหล่อมากเหรอ เห็นมองตาค้างเชียว...”
โห ... พูดตรงชะมัด รู้อีกแหนะว่าคิดอะไร ... นัทออกจะเขินๆ เพราะทำเปิ๊นให้ ... คนอื่นจับได้อีกล่ะ ...
“อย่าหลงตัวเองนักเลยครับ ... หน้าตาธรรมดาจะตาย ... (หล่อน้อยกว่าพี่วัฒน์หน่อยเดียว) ว่าแต่มาหาใครหรือครับ...”
“จริงง่ะ ไม่หล่อเลยหรอ ... เสียความมั่นใจเลยนะเนี่ย ... ว่าแต่นายน่ารักดีนะเราชอบ...”
O_o
“ขอร้องได้ป่ะ อย่าพูดอะไรแนวนี้ซิ ... มันแปลกๆ ... ว่าแต่มาพบใครหรือเปล่าครับ จะบอกว่าอยู่หรือเปล่า...”
พอโดนชมตรงๆ แบบนี้ก็ชักจะหน้าแดงๆ อีกแล้ว ... นัทเลยต้องเปลี่ยนเรื่องคุย ...

“อ๋อ ... เป้นพวกปากแข็งซินะ ... เรารู้แล้วล่ะว่า คุณลุงกับคุณป้าไปต่างประเทศ และพี่วัฒน์เข้าโรงพยาบาล นมพริ้มเพิ่งบอกมาเอง...”
เอ๊ะ ... ชักยังไง เรียกทุกคนยังกะสนิทสนมกันมานานงั้นแหละ ... นัทที่ทำหน้าฉงน (???) ทำให้คนที่มองอยู่อดขำไม่ได้ ...
“ก็ไม่แปลกหรอกที่นายจะสงสัย ... ว่าแต่เลิกทำหน้าฉงนได้แล้วนะ... (ยิ่งทำยิ่งน่ารัก)...”
“ไม่ต้องมาว่าคนอื่นเป็นควายเลยนะ ... หลอกด่ากันหรือไง...”
“โห ...ฟิวส์ขาดง่ายจังนะ ยังไม่ได้ว่าสักหน่อย คิดไปเอง...”
ดู ... ดูมันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ... นัทชักจะคันไม้คันมือ... อยากจะชกคนขึ้นมาซะเฉยๆ ...
“ตกลงจะบอกดีๆ หรือจะบอกทั้งน้ำตา ... ว่าคุณภานุวัตร เป็นอะไรกับบ้านนี้ ...”
“บอกแล้วครับ บอกแล้ว ... ใจเย็นๆ ซิ แล้วอีกอย่างเรียก ภานุ เฉยๆ ก็ได้ไม่ต้องมีคุณหรอก ... เราเป็นหลานคุณป้าน่ะ หมายถึงเป็นลูกของน้องสาวคุณหญิงป้า ... ตอนเด็กๆ ก็มาที่นี่ออกบ่อย ... แต่พอคุณพ่อย้ายไปประจำที่อังกฤษก็เลยต้องไปอยู่นั่นตั้งแต่ 10 ขวบ ... นานๆ จะได้กลับมาสักที นี่ก็เพิ่งจบไฮสคูล ... ว่าจะมาต่อมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยแหละ เพราะปีหน้าคุณพ่อคงจะย้ายกลับมาเมืองไทยแล้วอ่ะ ...”
ที่แท้ก็เป็นหลานของคุณป้านี่เอง ... แล้วไอ้นิสัย พูดตรงๆ โผงผางนี่คงจะติดมาจากที่โน่นซินะ ... นัทได้แต่พยักหน้ารับรู้ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ...

“ว่าแต่นัท ก็คงกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนกันซินะ เห็นกำลังอ่านหนังสืออยู่เลย ... งั้นเราก็รุ่นเดียวกันเลย ดีดี จะได้คบกันง่ายหน่อย ...”
-*-
“หา ... นายว่าไงนะ”
“เปล่าๆ ... ไม่มีอะไร ... ว่าแต่ให้เรียก ภานุ ไงล่ะ เรียก นาย อยู่นั่นแหละ มันห่างเหินนะ ไหนๆ เราก็เป็นญาติกันนะ...”
“ผมไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับ ภานุหรือ พี่วัฒน์หรอกนะ ... ผมแค่คนอาศัย ... เพราะเป็นลูกของเพื่อนคุณป้าเท่านั้น”
“โห ... เป็นคนอึมครึมจังเลยนะ ... อย่าคิดแบบนั้นซิ ยังไงก็คนเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกเจ้าของหรือคนอาศัย ก็ไม่เห็นเกี่ยวเลย ... แล้วอีกอย่างนะ เรามาสนิทกันไว้ดีกว่านะ... ดังนั้นนัท ต้องเรียกแทนตัวว่านัท และเรียกภานุว่าภานุ โอเคป่ะ”

นัทกับภานุ กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ ... ที่โต๊ะอาหาร และกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ...ผลัดกันเล่าเรื่องสมัยเด็กๆ เรื่องเพื่อนๆ และอื่นๆ อีกมาก ก็พอดีธวัฒน์ที่กลับมาพร้อมกับนภัทร ... มาเจอเข้าพอดี ... ซึ่งธวัฒน์ดูจะมีสีหน้าตึงกว่าปกติเมื่อมองมาทางนัท ...
“อ้าว ... พี่วัฒน์กลับมาได้แล้วเหรอครับ ... หายเร็วแบบนี้แสดงว่ามีพยาบาลดีแน่ๆ เลย ...”
ภานุเป็นฝ่าย ทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นธวัฒน์ที่มีนภัทรประคองเข้ามา ... ทั้งๆ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นอะไรนอกจากแขนที่เข้าเฝือก ...
“ก็ใช่ พี่ก็ได้คุณภัทรนี่แหละ คอยดูแล ไม่งั้นวันนี้คงยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลหรอก ... ว่าแต่กลับมาถึงเมื่อไหร่ล่ะ ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกเลยว่าจะกลับมาเยี่ยมบ้าน ...”

ธวัฒน์พูด แต่สายตากลับมองไปที่นัท ที่นั่งก้มหน้าอยู่ ... เพราะไม่อยากมองให้เจ็บใจ ... ถ้าอยากให้คนรักมาดูแลก็น่าจะเรียกมาซะตั้งแต่เมื่อคืน ทำไมต้องให้เค้าไปนอนเฝ้าด้วยนะ ...
“ผมคงไม่ได้แค่กลับมาเยี่ยมหรอกครับ เพราะคงจะกลับมาอยู่เลยถาวร เพราะปีหน้าคุณพ่อก็จะมาประจำที่กระทรวงแล้วคงไม่ต้องไปอยู่ไหนไกลๆ อีก ผมกับคุณแม่เลยกลับมาก่อน เพราะผมจะเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยที่เมืองไทยด้วย ...”
“อืม ... ก็ดี ว่าแต่สนิทกันเร็วนะ คงรู้จักกันแล้วซินะ แกมันพวกมนุษยสัมพันธ์ดีไม่เลือกหน้าอยู่แล้วนี่นะ...”

“หมายถึงนัทนะเหรอครับ ก็เรารุ่นเดียวกันก็เลยสนิทกันเร็วนะพี่ ... ว่าแต่ทานข้าวด้วยกันไหมครับ ...”
“ไม่ล่ะ พี่กับคุณภัทรทานมาแล้ว ... จริงไหมครับ ...”
ธวัฒน์หันไปยิ้มหวานให้กับหญิงสาวข้างตัว ก่อนจะขอตัวขึ้นไปพักผ่อนข้างบน ... โดยมีนภัทรตามขึ้นไปดูแล ...
“ดู...ดู คู่นี้เค้ารักกันดีนะ นัทว่าม่ะ ... อีกไม่นานหรอกมั้ง คงได้แต่งแน่ๆ ...”
“ก็...ก็คงอย่างนั้นละมั้ง...”
“ทำไมเหรอ ... ดูท่าทางนัทจะไม่ค่อยชอบคุณภัทรเลยนะ ... มีปัญหากันหรือเปล่า...”
แหม...ไอ้ความช่างสังเกตนี่มันได้มาจากไหนกันนะ ... นัทไม่คิดว่าภานุ จะตาไวและอ่านความรู้สึกได้แม่นแบบนี้ น่ากลัวจริงๆ ...
“ไม่มีอะไรหรอก ... คิดไปเองหรือเปล่าหา ภานุ...”
“ไม่มีก็ดีแล้ว เพราะยังไงเค้าก็คงจะมาอยู่ในบ้านนี้ ไม่ช้าก็เร็วอ่ะนะ ... ว่าแต่เรากลับก่อนดีกว่า ไม่ได้บอกแม่ด้วยว่าจะค้าง ... เอาไว้เจอกันใหม่นะ”
ภานุนั้น กลับไปนานแล้ว ... แต่นัทที่นอนอยู่บนเตียง ก็ยังคงเก็บเอาสิ่งที่ภานุพูดมานอนคิดอยู่ ...
“อีกหน่อย ... คุณภัทร คงจะเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ซินะ...”

kYos

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: มีภาณุเข้ามาอีกคนแล้ว  ชักจะวุ่นกันไปใหญ่
กว่านัทกะพี่วัฒน์จะลงเอยกันได้นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ  :เฮ้อ:

ปล.ไปเที่ยวกลับมาแล้วก็ต่อบ่อยๆนะ อิอิ.. :yeb:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เรื่องวุ่นๆจะเกิดอีกแน่เลย ต่อไวไวนะรออ่านอยู่ :yeb:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ตัวป่วนมาอีกหนึ่ง  :serius2:

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อให้แล้วค๊าบ     :yeb:

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

19...

นับจากวันที่ ภานุ กลับมาเมืองไทยก็แทบจะมาขลุกอยู่แต่ที่บ้านของธวัฒน์ เกือบทุกวัน ด้วยเหตุผลที่ ภานุ อ้างว่า เพื่อมาติวหนังสือกับนัท ... ซึ่งทั้งคุณแม่ของธวัฒน์ และภานุ ต่างก็เห็นดีด้วย ... ธวัฒน์เองก็ไม่สามารถขัดอะไรได้ ถึงจะดูไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ก็ตาม ... ที่เห็นเด็กสองคนสนิทกันมากขึ้นทุกวัน ...

“นี่ ภานุ ทำไมแกไม่กลับบ้านกลับช่องบ้างหา ... มาขลุกอยู่นี่จะเป็นเดือนอยู่แล้วนะ คุณแม่ไม่ว่าบ้างหรือไงที่มาค้างบ่อยๆ เนี่ย”
เย็นวันหนึ่งที่โต๊ะอาหาร ธวัฒน์อดที่จะถามไม่ได้ ... ทั้งๆ ที่ก็เคยถามมาหลายครั้งแล้ว และคำตอบก็คงจะไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ...
“ไม่เห็นท่านว่าอะไรนี่ครับ ... ก็ผมบอกว่ามาให้นัทติวหนังสือให้ ... ท่านก็บอกว่าดีด้วยซ้ำไป จริงป่ะนัท...”
ภานุหันไปถามความเห็นจากนัทอีกคน ... แต่นัทได้แต่พยักหน้ารับน้อยๆ และก้มหน้าก้มตาทานต่อไป ... นี่ก็เกือบเดือนแล้วนะที่แทบไม่ได้คุยกะธวัฒน์ ... ก็ไม่ได้กัดกันเหมือนเคย ... มันก็แปลกอยู่ๆ เหมือนกัน เพราะตั้งแต่ ภานุ มาขลุกอยู่ด้วยก็แทบไม่มีโอกาสอยู่กันตามลำพังเลย ... ซึ่งนัทก็คิดว่า ก็ดี ... จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย ... แต่ทุกครั้งที่ธวัฒน์พา นภัทรมาที่บ้าน นัทก็จะดูอารมณ์ไม่ปกติ จนภานุสังเกตได้ และนัทจะพยายามเลี่ยงๆ ไม่เข้าใกล้ เหมือนไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ ยังไงยังงั้น ...

“แล้วนี่ติวกันไปถึงไหนแล้วล่ะ ...”
“เอ...ผมว่าคำถามพี่มันออกจะส่อๆ พิกลนะ ... ถ้าหมายถึงติวหนังสือล่ะก็จบไปหลายรอบแล้วล่ะ ก็มันใกล้จะสอบแล้วนิ แต่ถ้าหมายถึงเรื่องอื่น .... ล่ะก็ ...”
ภานุ หันไปสบตากับนัท ... นัทเองก็รู้ว่า ภานุ หมายถึงอะไร ก็เลยหน้าแดง และศอกเข้าให้ทีนึง เพราะตั้งแต่ได้รู้จักกันมาเกือบเดือน ก็ทำให้นัท รู้ว่าภานุนั้น ทะลึ่งขนาดไหน ...
“พอเลย พอเลย ... อย่ามาทำอะไรแปลกๆ ในบ้านพี่นะ ถ้าจะทำล่ะก็ไปทำที่อื่น ...”
ท้ายประโยคนั้นเหมือนจะจงใจพูดกับ นัทมากกว่าภานุ ... ก่อนที่จะลุกจากโต๊ะและเดินขึ้นไปบนห้อง ... นัทที่สังเกตเห็นก็ได้แต่แสร้งมองไปทางอื่น ... เพราะไม่อยากสนใจกับคำพูดแดกดัน ...

“พี่วัฒน์นี่พูดแปลกๆ เนอะ ยังกะกำลังหึงอยู่งั้นแหละ นัทว่าม่ะ ... ถ้าเราจะรักกันก็ไม่เห็นจะต้องอารมณ์เสียสักหน่อย...”
นัทที่ได้ยินที่ ภานุ พูดถึงกลับหันขวับมามอง ...
“นี่ให้มันน้อยๆ หน่อย ภานุ พี่วัฒน์เค้าจะมาหึงอะไร เค้าน่ะมีแฟนอยู่แล้วนะ แล้วอีกอย่างไอ้ที่ว่าเรารักกันเนี่ย มันหมายความามว่าไงอ่ะ อย่ามามั่วนิ่มนะ”
“อ้าว...นึกว่าเราเป็นแฟนกันซะอีก ... หว๊า... แย่จัง ... อุตส่าห์ดีใจ...”
“มั่วล่ะ ... ไปหาที่อื่นเลยไป ... อย่าให้นัทเป็นโชคร้ายเลย”
“โห ไรหว้า ... เป็นแฟนกะภานุ นี่มันโชคร้ายมากเลยหรอ ...”
ภานุ ดูจะหน้าเศร้าลงไป ... พอนัทหันไปเห็นก็เริ่มรู้สึกผิดว่า พูดแรงไปหรือเปล่านะ ... ก็เลยเข้าไปกอดคอเพื่อนและปลอบใจสักหน่อย ...

“เฮ้ย... พูดเล่นน่า ... ภานุ ...”
“ฮาๆๆๆ ... นัทนี่หลอกง่ายดีเนอะ ... เป็นคนใจอ่อนมันก็ดีหรอกนะ แต่ระวังจะเสียเปรียบพวกเจ้าเล่ห์นะ...”
ภานุเปลี่ยนสีหน้า มาแลบลิ้นปลิ้นตาให้นัท ... จนทำให้นัทชักจะฉุนๆ ที่โดนหลอก ...
“หลอกนักใช่ม่ะ ... นี่ นี่ นี่ ... อย่างนี้ต้องสั่งสอน ...”

นัทที่กอดคอเพื่อน หันไปรัดคอแทน โดยรัดแน่นขึ้น กะให้ขาดใจตายไปเลย ...
“!!!โอ๊ย...โอ๊ย...!!! เจ็บ เจ็บ ... ปล่อยอ่ะ ปล่อยซินัท ยอมแล้วคร้าบบบ ... ยอมแล้ว...”
นัทเห็น ภานุ เจ็บจนน้ำตาเล็ดแล้ว ก็เริ่มใจอ่อน ก็เลยคลายเขนที่รัดออก ...
“แล้วทีหน้าที่หลัง อย่ามาแกล้งแบบนี้อีกนะ ... จำไว้ล่ะ…”

แต่แทนที่ภานุที่โดนนัทรัดคอจากด้านหลัง จะสำนึกผิด พอเห็นว่าแขนเริ่มคลายออกแล้ว จึงหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับนัท และจับแขนของนัทที่รัดคอตัวเองเมื่อครู่นี้ไปไขว้ไว้ข้างหลังของนัทเอง ... (คิดดูนะ...จะเหมือนภานุกอดนัทอยู่อ่ะ อิอิ...) ...
“เฮ้ย ภานุเล่นไรว่ะ ปล่อยนะ...”
นัทไม่กล้าดิ้นมาก เพราะตอนนี้แขนถูกล็อคไว้ด้านหลังของตัวเอง ภานุขยับมาชิดตัวเพื่อให้ล็อคแขนได้ถนัด แล้ว...แล้วอะไรต่อมิอะไร ... มันก็ต้องชนกันอ่ะจิ ... (อะ..อะ...ตัวครับ ลำตัว...คิดไปไกลล่ะ หุหุ...) หน้าก็อยู่ใกล้กันนิดเดียวจนหายใจรดกันได้เลย...
“ก็นัทบอก ไม่ให้แกล้งแบบนั้นอีก งั้นคราวนี้ก็แกล้งแบบนี้บ้างไง ...”
“ไอ้...ปล่อยซิว่ะ...”
แล้วนัทก็ต้องถึงกับอึ้ง...อึ้ง...ไปเฉยๆ เพราะอยู่ๆ ภานุก็หอมเค้าฟอดนึง แล้วก็วิ่งจู๊ด...ไปที่รถพร้อมกับตะโกนมาบอก...
“พรุ่งนี้เจอกันนะ...กลับบ้านล่ะ บาย...”
“ดู ดูมันทำ ... เล่นแผลงๆ แล้วยังมาทำหน้าระรื่นอีก อย่างนี้จะโกรธมันลงไหมเนี่ย...”
นัทได้แต่ลูบแก้มตัวเอง ... ยิ้มหน่อยๆ กับความทะลึ่งทะเล้นของเพื่อน ... โดยไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เลย ... แต่พอหันกลับไปจะขึ้นไปนอนก็ต้อง เจอกับหน้าตาบูดบึ้งของใครอีกคน ...
“พ...พี่วัฒน์ ยังไม่นอนเหรอครับ”
“ถ้านอนแล้ว ... คงไม่ได้เห็นอะไรดีๆ หรอก จริงไหม ...”
“เห็น ... พี่เห็นอะไรครับ ...”
“ก็เห็นเด็กวัยรุ่น พลอดรักกันไงล่ะ ... ก็รู้หรอกนะว่าเดี๋ยวนี้มันเยอะ แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องน่าอับอาย น่าสมเพชแบบนี้มันจะมาเกิดกับคนในบ้านนี้...”
“นี่...นี่พี่วัฒน์ไปกินเหล้ามาตอนไหนครับครับ ... กลิ่นออกเชียว ผมว่าพี่เมาแล้วก็ไปนอนดีกว่านะ... พี่ชักจะพูดไม่รู้เรื่องแล้ว”
“ใช่ซินะ พี่มันน่ารังเกียจ ... ไม่เหมือนไอ้ภานุ หรือไอ้แทนมันหรอก ... พวกมันน่ะแสนดี ...”
“พี่แทนกับ ภานุ มาเกี่ยวอะไรครับ ... ผมว่าพี่เมาแล้วนะ ผมไม่ได้เป็นอย่างที่พี่วัฒน์คิดนะครับ ... ผมไปนอนดีกว่า...”
นัทเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแล้ว โดยมีธวัฒน์เดินตามขึ้นมา ... แต่นัทก็ทำเป็นไม่สนใจ พยายามรีบเดิน ... นัทที่กำลังจะเข้าห้องของตัวเอง ต้องรีบวิ่งกลับมาดูธวัฒน์ที่ตอนนี้ล้มอยู่ที่ทางเดิน ...
“พี่...พี่วัฒน์เป็นอะไรครับ เมาแล้วก็ไม่น่าจะออกมาจากห้องเลยน๊า ...”
เหลียวซ้ายแลขวา ก็ไม่เห็นใคร จึงพยายามจับธวัฒน์ลุกขึ้นและประคองไปที่ห้องของชายหนุ่ม ... อย่างยากลำบาก
“ตัวหนักชะมัด ... ดันทุรังไม่เข้าเรื่อง ...”
นัทเปิดประตูห้องเข้าไปแล้ว ... ปิดประตูห้องแง้มไว้นิดหน่อย ... พยายามจะแบกพยุงธวัฒน์ไปที่เตียง .... เมื่อได้ยินเสียงล็อคประตู ก็ต้องหันไปมองตามเสียง ... และต้องสลัดคนที่พยุงมาออกจากตัวทันที เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ...
“นี่..นี่พี่วัฒน์แกล้งล้มเหรอครับ ...”
“ช่ายยย ... ถึงพี่จากินเหล้า... แต่ก็ไม่ได้มาว จนไม่รู้เรื่องหรอกนะ...”
“งั้นก็ไปนอนเถอะครับ ... ผมจะกลับห้องแล้ว...”
นัทกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ก็ต้องโดนธวัฒน์จับข้อมือเอาไว้ ...
“เดี๋ยวซิ จารีบปายไหน ... เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ ...”
“แต่ผมไม่มีเรื่องจะพูดแล้วครับ แล้วก็ถ้าจะพูดผมว่า ... เอาไว้ตอนพี่สร่างเมาจะดีกว่านะ...”
“ทำไม ... พี่กับผู้ชายคนอื่นๆ มันต่างกันยังไงฮ๊ะ... ถึงได้รังเกียจพี่นัก ... พี่บอกแล้วใช่ไหม ว่าถ้าจะทำเรื่องเสื่อมเสียให้ออกไปทำที่อื่น อย่ามาทำในบ้านหลังนี้ !!”
“ผมทำอะไรครับ ผมว่าพี่ชักจะเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะ...”
“แล้วไอ้ที่ไปยืนกอด ยืนจูบกันนั่นน่ะ มันไม่เรียกว่าเสื่อมเสียหรือไงกัน ฮ๊ะ ... มันเป็นธรรมดาใช่ไหม สำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ ที่จะชอบพวกเดียวกัน... ถ้างั้นกับผู้ชายคนไหนมันคงจะไม่ต่างกันหรอก... ใช่ม่ะ”
“พ...พี่วัฒน์พูดอะไรครับ ... ผมไม่เข้าใจ แล้วก็ปล่อยผมเถอะ ผมจะไปนอน ...”

ธวัฒน์ที่อารมณ์ขึ้นหน้าแล้ว ... คว้าแขนทั้งสองข้างของนัทไขว้มาข้างหลังพร้อมรวบไว้ด้วยมือเดียว ... แม้นัทจะมีแรงแค่ไหนก็ดูจะไม่สามารถต้านทานกำลังของอีกฝ่ายได้ ... ส่วนมืออีกข้างของธวัฒนถลกเสื้อของนัทออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะดึงมารัดที่ข้อมือของนัทให้ติดกันอย่างดิ้นไม่หลุด ...
“พี่วัฒน์!! ปล่อย... ปล่อยผมนะครับ จะ...จะทำอะไรครับ…”
“ทำอะไรน่ะเหรอ ... ก็จะสนองความต้องการให้ไง ... ชอบไม่ใช่หรอไง แบบนี้น่ะ!!”
“ไม่นะครับ ... ปล่อยผม ... ผมไม่ชอบ และไม่ต้องการแบบนี้นะครับ พี่วัฒน์ปล่อย...”
นัทที่พยายามดิ้นรน แต่ธวัฒน์ก็ไม่มีท่าทีสนใจกลับแบกนัทไปที่เตียง เด็กหนุ่มโดนโยนลงบนเตียง พยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อลุกขึ้นมา แต่มันก็ลำบากยากเย็นที่จะทำได้ เมื่อแขนทั้งสองข้างโดนมัดไขว้หลังอยู่ แถมโดนธวัฒน์กดให้นอนคว้ำหน้า ... แผ่นหลังขาวเนียน มันกลับทำให้อารมณ์ของธวัฒน์ลุกโพลง ... กางเกงของนัทนั้นหลุดไปแล้ว ธวัฒน์ก็เหลือเพียงกางเกงขายาวตัวเดียว ...

ถึงแม้น้ำตาจะไหลออกมา แต่จิตใจที่เข้มแข็ง ก็ยังไม่ยอมลดละที่จะดิ้นรน ... เพื่อให้รอดพ้นจากอารมณ์ปรารถนารุนแรงของอีกฝ่าย ... ตอนนี้นัทซึ่งอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ถูกจับให้นอนหงายทับแขนทั้งสองข้างของตัวเองที่โดยมัดไว้ด้านหลัง ... สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของอีกคนอย่างไม่วางตา ...
“ทำไม ... ทำไมพี่วัฒน์ต้องทำกับผมแบบนี้ ... พี่วัฒน์เกลียดผมขนาดนี้เลยเหรอครับ ... ถ้า ถ้าพี่วัฒน์ไม่อยากให้ผมอยู่ในบ้านหลังนี้ ผมจะออกไปนะครับ ... อย่าทำกับผมแบบนี้เลย...”
“หึ หึ ... มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ ...คิดว่ามาทำเรื่องเอาไว้มากมายแล้วจะได้ออกไปอย่างสบายๆ หรือไงกัน ... ไหนๆ ก็คิดจะชอบพวกเดียวกันแล้ว งั้นถ้าพี่จะเป็นคนแรกมันคงไม่เป็นไรหรอก ใช่ไหม...”
สองขาที่โดนจับแยกออก ทำให้นัทรับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ... จนปัญญาที่จะต้านทานอารมณ์ที่บ้าคลั่งได้ ...
“โอ๊ย !!! เจ็บ เจ็บ ...  ได้โปรดเถอะครับพี่วัฒน์...เอาออกไป ผม ผมเจ็บ !!!”
ความเจ็บปวดมันแล่น ผ่านจากด้านล่างขึ้นมาถึงสมอง ประหนึ่งร่างกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ... ฟันที่ขบกันแน่น ... หูสองข้างที่อื้ออึง ... ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดมันช่างยาวนานเหมือนคงอยู่ชั่วกัปกัลป์ ... ได้ยินเสียงก็เหมือนมันแว่วมาจากที่ไกลแสนไกล เพราะสมองที่ดับวูบ ไม่มีสติ ... ไม่สามารถรับรู้ได้อีกต่อไป มีเพียงความมืดมิด ... ไม่สามารถแยกออกระหว่างความฝันหรือความจริง ...
“พี่รักนัทนะครับ ... พี่ขอโทษ แต่พี่จะไม่ยอมให้นัทเป็นของอื่น ... เด็ดขาด...”

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
20... คำถาม...ที่ไม่มีคำตอบ

ตาที่พล่าเลือนกำลังลืมชึ้นช้าๆ ... เมื่อคืนช่างเป็นฝันร้ายชะมัด และทำไมมันช่างเหมือนจริงเหลือเกิน ... 
“เอ...ทำไม เพดานห้องมันแปลกๆ ไปว่ะเนี่ย ...”

“จะกินอะไรไหม”
เสียงที่แว่วอยู่ใกล้ๆ ชวนให้นึกถึง ภานุที่มักจะถือวิสาสะเข้ามาในห้องของนัทเสมอๆ เวลามาจากบ้านตอนเช้าๆ ...
“อืม...ยังไม่อยากเลย ... หิวน้ำมากกว่า... เหมือนไปวิ่งแข่งมาเลย คอแห้งมากมาก ...”
“น้ำอะไรดีล่ะ...”
“น้ำอะไรก็...”
นัทได้แต่อ่าปากค้างเมื่อหันไปตามเสียง ทีแรกที่คิดว่าเป็นภานุ แต่กลับเป็นธวัฒน์ที่นั่งคุกเข่า มองเค้าอยู่ข้างเตียง ...

“พี่วัฒน์!!!... นี่ นี่มัน ...”
เรื่องราวต่างๆ ... กำลังหวนคืนเข้ามาสู่สมองที่เพิ่งได้สติไม่นาน ยิ่งมองรอบๆ ยิ่งมั่นใจ ... และทำให้นึกถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนของคน ... ที่ใช้กำลังทำตามใจตัวเอง จะได้สติหรือเมาก็แล้วแต่ ... แต่มันอยากเกินกว่าจะรับได้ ...
“ผ...ผมจะกลับห้อง ... โอ๊ย!!! ... เจ็บบบ ...”
นัทที่กำลังพยายามลุกขึ้นจากเตียง ต้องเจ็บแปลบขึ้นมาจนล้มลงไปนอนกับเตียงอีกครั้ง ... ไม่เพียงแค่ด้านหลัง แต่ร่างกายและกล้ามเนื้อมันปวดระบม เหมือนกลับถูกใช้งานมาอย่างหนักและหักโหม ... แม้แต่แค่ขยับตัวก็ปวดแล้ว ...

“ทำไม...ผมถึง...เจ็บไปหมด...”
ธวัฒน์ที่มีสีหน้าเศร้าๆ เพราะรู้สึกผิดที่ใช้กำลังบังคับขืนใจ ... พยายามเอื้อมมือไปสัมผัสแขนของนัท ที่วางอยู่ข้างลำตัว ...
“ใจเย็นๆ นะครับ ... ตอนนี้นัทยังขยับตัวไม่ไหวหรอก ... เอาไว้ถ้าดีขึ้นแล้ว อยากจะกลับไปที่ห้องพี่ก็ไม่ว่าหรอกนะ”
“ผม...ผมไม่เชื่อพี่อีกแล้ว ... คนโกหก หลอกลวง ....”
“พี่ไม่ได้โกหกนะ ... พี่ ... พี่รักนัทจริงๆ นะ ... เมื่อคืนพี่มีความสุขมากจริงๆ ...”
“พี่อย่ามาพูดคำนี่นะครับ มันก็แค่การข่มขืน... มันไม่ใช่ความรักหรอก ...”
“แต่พี่จะรับผิดชอบ สิ่งที่เกิดขึ้นนะ ...”

นัทที่เริ่มมีน้ำตาคลอ ... มันทั้งเสียใจและเศร้าใจ ที่เคยคิดว่าคนคนนี้ก็พอจะมีส่วนดีอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่เลย ... ยิ่งได้ยินคำพูดนี้ด้วยแล้ว ... นัทอดที่จะหันมามองหน้าธวัฒน์ด้วยแววตาสมเพชไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าสมเพชตัวเองหรือคนอีกฝ่ายกันแน่
“แน่ใจเหรอครับ ... พี่คิดว่าจะรับผิดชอบยังไง ... พี่คิดจะแต่งงานกับผมหรือครับ ... พี่จะไปบอกกับคุณลุงคุณป้าหรือไง ว่าพี่จะแต่งงานกับผม... แล้วพี่จะบอกกับคนรักพี่ยังไง พี่จะบอกกับคนในสังคมของพี่ยังไง ... พี่กล้าที่จะทำแบบนั้นหรอ...”
“คือ...พี่...”
“เห็นไหม ... แค่คิดมันก็เป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ... ฉะนั้นปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกผิดชั่ววูบของพี่เถอะ อย่ามารับผิดชอบอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลย”

นัทพยายามจะลุกลงจากเตียงอย่างยากลำบาก แม้จะเจ็บปวดร่างกายแสนสาหัส ... แต่เค้าไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ไม่อยากเห็นหน้าธวัฒน์อีก ... เพราะมันปวดที่ใจมากกว่าที่ร่างกายซะอีก ... ธวัฒน์ที่เห็นนัทลุกขึ้นก็พยายามเข้าไปประคอง ... แต่ก็ต้องถูกสะลัดออกมา ...
“ปล่อยผม ... อย่ามาแตะต้องตัวผมอีก ... เมื่อคืนมันยังไม่สาแก่ใจพี่อีกหรือไง...”
น้ำตาที่คลออยู่มันเริ่มไหลรินลงมา ... ถึงพยายามฝืนแค่ไหนมันก็ไหลออกมาเอง ... ถึงจะไม่มีเสียงสะอื้นจากนัทเลยแต่มันก็บ่งบอกได้อย่างดีว่า เค้ากำลังเจ็บปวดแค่ไหน เจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ ...

“เดี๋ยวซินัท ... อย่าเพิ่งไปให้โอกาสพี่ก่อนนะครับ ...”
“ปล่อยให้มันผ่านมา และผ่านไปเถอะนะครับพี่วัฒน์ ... ผมจะลืมและพี่ก็ควรจะลืมมันด้วย...”
นัทพูดพร้อมกับเดินออกไปจากห้องแล้ว ปล่อยให้ชายหนุ่มที่กำลังสับสนในจิตใจ ล้มตัวลงนอน ... เพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง ...
“พี่ขอเวลาได้ไหม ... เวลาของทางออก ... แล้วพี่จะมีคำตอบให้กับนัทแน่ๆ ... แต่ตอนนี้พี่รักนัทนะครับ...”
น่าเสียดายที่นัท ... ไม่มีโอกาสได้ยิน แต่นั่นอาจเป็นสิ่งที่ธวัฒน์ต้องการรอจนกว่าจะแน่ใจและพร้อมที่จะบอกรักนัทอีกครั้งก็ได้
...

อีกสามวันต่อมา ... เอกและบอลก็มาเยี่ยมนัทที่บ้าน ... เพราะนัทขาดเรียนพิเศษไปถึงสามวันเต็มๆ ... จึงต้องขนชีทและเล็คเชอร์มาให้ ... โดยไม่รู้เลยว่า สามวันนี้นัทแทบไม่ได้ขยับออกจากห้องไปไหนเลย ... ภานุเองก็ดูเหมือนจะไปต่างจังหวัดกับครอบครัว ... แต่นั่น นัท คิดว่าเป็นโชคดีมากกว่า ไม่อย่างนั้นภานุต้องสงสัยแน่ๆ ... ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะภานุเป็นพวกช่างสังเกตด้วย คงจะเดาเหตุการณ์ได้ไม่ยาก ... ก็อาการมันบ่งบอกขนาดนั้น เป็นใครก็ต้องรู้ ...

“ไง...ไอ้นัท...หายหัวไปเลยนะเอ็ง เรียนก็ไม่ไปเรียน ขลุกอยู่แต่ในห้องแบบเนี่ยนะ...”
เอกกะบอล เข้ามานั่งอยู่บนเตียงของนัท ... และกำลังกินขนมที่แววเพิ่งยกมาให้ ...
“ก็...ก็แค่ไม่สบายว่ะ ...ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่สบายก็บอกเพื่อนบอกฝูงให้รู้บ้างซิหว๊า... จะได้มาเยี่ยม เดี๋ยวตายไปก็ไม่รู้กันพอดี ...”
ผัวะ!!!
“ไอ้เวรบอล ตบหัวตูอีกล่ะ มันอะไรกันว่ะ...”
“ปากน่ะ กินขนมไปเถอะ ไปแช่งเพื่อนอยู่ได้ แล้วคนป่วยที่ไหนจะไปมีเรี่ยวมีแรงโทรไปรายงานแกล่ะ...”
“เออ เออ... ก็แค่พูดเล่นๆ เอง แม่งไม่ต้องตบหัวก็ได้ ... เดี๋ยวก็จับข่มขืนซะนี่...”

นัทดูจะหน้าซีดเผือดลงไปถนัดตา เมื่อได้ยินที่เอกพูดเล่นกับบอล ... จนบอลสังเกตได้ ...
“นัท เป็นไรมากหรือเปล่า ... หน้าซึดเลย ... ตกลงเป็นอะไรกันแน่อ่ะ...”
“เอ่อ ... เปล่า ไม่ได้เป็นไรหรอก แค่รู้สึกเพลียๆ แค่นั้นเอง ...”
“เฮ้ย...พวกข้ามากวนหรือเปล่าว่ะ จะได้กลับ ...”
เอกพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าบอล ... โดยบอลก็พยักหน้ารับแบบว่าเห็นด้วย ...
“ไม่หรอก ... พวกเอ็งมาก็ดีแล้ว ข้ากำลังเบื่อๆ อยู่เลย...”

“ครายยย ... กำลังเซ็งเหรอคร้าบบบ ...”
เสียงคุ้นหูนัท ดังมาจากประตูที่เปิดค้างไว้ ... พร้อมกับร่างของ ภานุ ที่โผล่ออกมา หิ้วของพะรุงพะรังเดินเข้ามา ... โบกของในมือไปมา ... ยิ้มหวานส่งให้นัท ...
“ว่าไง ภานุ หายไปไหนมาเสียหลายวัน ...”
นัทเอ่ยทัก ... ก่อนจะหันไปแนะนำเพื่อนอีกสองคนให้รู้จัก ...
“อืม ... นี่ เอกกะบอล เพื่อนนัทเอง ...”
“หวัดดี ค...ครับ”

เอกหันไปมองบอลตามสายตาของ ภานุ ... มันเหมือนคนที่เจอของถูกใจงั้นแหละ ... เอกยืนขึ้นและขยับไปบังบอลที่นั่งอยู่บนเตียงโดยอัติโนมัต ... และมองสบตากับภานุที่กำลังยิงลำแสงใส่กัน (เปรี๊ยะๆ) ...
นัทที่สังเกตอาการของเพื่อนๆ อยู่มันเหมือนกำลังรับรู้อะไรบางอย่าง ความรู้สึกบางอย่างมันบอกว่าเอกกำลังหวงของ ... ยังไงยังงั้น ... สองคนนี้ชักจะยังไง ซะแล้ว ...


VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องกำลัง  สนุกเลย  อิอิ   ไว้ผมมาต่อให้นะค๊าบ     :yeb:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด