ตอนที่ 13
มิน่าไอ้พี่โจ้ถึงพยายามโยนขี้ให้ผมเหลือเกิน ที่แท้ก็ไม่อยากเจอหน้ากริชนั่นเอง หารู้ไม่ว่าผมนี่สิที่ไม่อยากเจอเขามากกว่าอีก เวรล่ะตรูจะทำไงดีเนี่ย?
แผน B แกล้งตกบันได.....เอ่อ สูงว่ะ....ถ้าแกล้งก็กลัวจะตกจริงๆน่ะสิ เจ็บตัวแหงๆ ดีไม่ดีพี่ม.6 แห่กันมาดูอีก
แผน C ....ไม่ทันแล้ว ขึ้นมาถึงระเบียงชั้นม.6 แล้ว
ใครเคยเดินผ่านห้องประจำชั้นของรุ่นพี่ในโรงเรียนคงรับรู้ได้ถึงความกดดันบางอย่างเหมือนพลังของความเป็นรุ่นพี่อะไรแบบนั้น
ตอนนี้ผมรู้สึกได้เต็มๆ แถมรุนแรงกว่าหลายเท่า เห็นพี่ม.6 เดินออกมาจากห้องทีนึงผมก็สะดุ้งแล้ว ขวัญเอ๊ยขวัญมา ตอนนี้จะขวัญหรือเรียมใครก็ได้มาช่วยตรูที
"ห้องนั้นเป็นห้องคิงน่ะ มีคนเอ็นท์ฯ ติดตอน ม.4 ม.5 เกือบ 20 คนแน่ะเลยกลายเป็นห้องที่โล่งที่สุด อุปกรณ์ทั้งหมดของสีแดงเลยเก็บที่ห้องนี้"
คำพูดของพี่นพทำให้หัวใจผมเจ็บยังกะถูกบีบรัด
....ต้องเรียนซ้ำชั้นคนเดียวในโรงเรียน อยู่ในห้องโหรงเหรงที่มีคนสอบเทียบเอ็นท์ฯ ติดไปก่อนจบม.6 เกือบยี่สิบคน.....
....นั่งเรียนกับรุ่นน้องทุกวัน กับอุปกรณ์กีฬาสีกองเต็มห้อง กีฬาสีที่ตนเองไม่มีโอกาสได้ร่วมอีกแล้ว...
....ความฝันของพี่สิงห์...ความฝันของกริช....ความฝันที่ผมทำลายเองกับมือ...ผมที่บอกว่าจะเป็นโลกให้เขา แต่กลับไม่เคยรู้เลยว่ากริชต้องเจ็บปวดทุกวันขนาดนี้.....
"น้องเป็นอะไรเหรอครับทำไมตาแดงๆ?"
"....ฝุ่นเข้าตาครับพี่"
"งั้นหลับตาสักพักนึงนะ รอตรงบันไดนี่แหละพี่จะเอาของออกมาให้ แล้วต้นช่วยยกลงไปข้างล่างละกัน"
"ขอบคุณครับ"
.....กริชทนอยู่ในห้องนั้นได้ยังไง ทนกับความบีบคั้นจิตใจแบบนี้ทุกวัน แค่คิดน้ำตาผมก็เอ่อขึ้นมาแล้ว....
ไม่ใช่! นี่ไม่ใช่เวลาสำออย น้ำตามันแก้ไขความผิดพลาดไม่ได้หรอก ความพยายามจะสร้างอนาคตของผมกับกริชต่างหากที่ผมต้องการในตอนนี้
แล้วสักวันผมจะได้เรียกชื่อเขาในโรงเรียนได้เต็มเสียง
"กริช!" ...เอ่อ...ตรูไม่ได้เรียกนะ....แล้วใครเรียกล่ะ?
"กริชไปไหนมา? ออกไปนอกโรงเรียนมาเหรอ?"
"อืม ไปเอาของนิดหน่อยครับ"
แว๊ก! นั่นๆๆ กริชกำลังเดินขึ้นบันไดมา ตายห่าแล้วๆๆๆๆ ผมรีบเดินเลี้ยวไปอีกทาง เวรล่ะ! ระเบียงด้านนี้โล่งยาวเลยขืนเดินต่อไปกริชเห็นด้านหลังผมแน่
โชคดีมีห้องนึงโล่งๆ รีบหลบเข้าไปเลย หยิบๆ จับๆ ไม้กวาดมุมห้องตบตาไปก่อน
"ไม่รอไปตอนเย็นล่ะ?"
"อยากดูเร็วๆ น่ะว่าจะออกมาดีหรือเปล่า"
"อะไรเนี่ย? ฝนขอดูได้มั๊ย?"
"ไม่ได้หรอกครับ ผมมีคนแรกที่จะให้ดูของนี่แล้วครับ"
"อิจฉาคนมีแฟนจริงๆ ไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้ย่ะ เดี๋ยวคนอื่นนึกว่าฝนจีบกริชอยู่ละแย่เลย"
คนแรก...หมายถึงผมหรือเปล่า (ไม่ได้เข้าข้างตัวเองเล๊ยตรู) อยากจะชะเง้อไปดูแต่ก็กลัว ไม่เป็นไรคืนนี้ก็ได้ดูแน่ แต่ที่อยากดูจริงๆ คือกริชในชุดนร.ต่างหาก
ผมมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไปไกลแล้วแต่กริชไม่ได้เดินกลับห้อง เขาเดินเลี้ยวไปอีกทาง.....เหมือนกริชไม่อยากอยู่ในห้องนั้นสักเท่าไหร่
คิดแค่นั้นแหละเหมือนหัวใจมันฟีบตัวลงจนเจ็บเลย
หันไปทางห้อง 6/1 พี่นพกำลังถือถุงเต็มสองมือเดินออกมาจากห้องพอดี ตายห่าละเกิดพี่แกตะโกนเรียกชื่อผมคงจบเห่!
ผมรีบเดินกลับมาตรงโถงบันได อย่างน้อยพี่นพคงไม่แหกปากเรียกผมทั้งที่ยังไม่เห็นตัวแน่
"นี่ครับน้อง ช่วยถือลงไปที่ห้องพักอาจารย์หมวดศิลปะหน่อยนะ พวกพี่กำลังจะย้ายของกีฬาสีไปห้องนั้นแทนน่ะ คุยกับอาจารย์ไว้แล้ว"
"ได้ครับ!"
ย้ายของออกแบบนี้กริชก็ไม่ต้องเห็นของแสลงใจพวกนี้ในห้องเรียนของเขาอีกแล้วสิ แบบนี้ผมสู้ขาดใจเลย
จะให้วิ่งขึ้นลงชั้นหนึ่งชั้นสามกี่รอบ ของหนักแค่ไหนก็ไม่ยั่น ถึงจะเสียวนิดๆ ก็เถอะแต่เพื่อเขาผมสู้สุดตัวอยู่แล้ว
"ยังมีอีกมั๊ยครับพี่?"
"อืม ของที่จะใช้ด่วนก็เอามาหมดแล้ว ส่วนที่เหลือต้องรอถามทีมงานเขาก่อนว่าอันไหนจะย้ายได้อีก"
"รีบย้ายมารวมกันที่ห้องศิลป์เลยดีกว่านะครับจะได้ไม่สับสนว่าอันไหนเก็บห้องไหน"
"ความคิดดีนะ พี่เพิ่งรับแบ่งงานมายังงงๆ อยู่เลย ขอบใจนะน้องต้น เหงื่อซ่กเต็มตัวเลย"
"ไม่เป็นไรครับ"
ชักรู้สึกออกหน้าออกตาไปแล้วตรู อยู่เงียบๆ ไว้ดีกว่า พอออดคาบห้าดังบวกกับพี่นพไล่นั่นแหละถึงจะยอมกลับห้อง
ถึงจะย้ายออกมาไม่หมดแต่คงทำให้กริชรู้สึกดีขึ้นไม่เหมือนที่ผ่านมาได้บ้างละน่า ขอโทษนะครับตอนนี้ผมทำได้แค่นี้เท่านั้น
"ไปไหนมาวะต้น?"
"ช่วยพี่สีแดงย้ายของนิดหน่อยน่ะ"
"ไม่หน่อยแล้วมั้งเหงื่อเต็มตัวเลย น่าจะเรียกกรูไปช่วยนะ"
เม้งเป็นห่วงผมอีกละ เพื่อกริชแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำแต่เริ่มง่วงแล้วล่ะ คาบห้ายังพอฝืนลืมตาได้แต่คาบหกก็จบเห่
หัวพาดโต๊ะแล้วก็ค่อยๆ เคลิ้มไปเข้าเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อย
"ขอโทษนะครับ ผมขอโทษ .....พี่เป็นอะไรรึเปล่า....ผมขอโทษ ...ฮึกๆ ....ผมขอโทษ ...."
"นายอย่ายื่นตัวออกมา!"
"ผมขอโทษครับ....ผ...ผมขอโทษ...."
"นายอย่าร้องไห้ดิ พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ฮะฮะฮะ"
ตรูแค่ตกน้ำทำไมต้องร้องไห้ขนาดนี้ฟระ? อย่าร้องดิตรูแพ้น้ำตา!
ผมดึงตัวเขามากอดไว้ทั้งที่ตัวผมเองยังเปียกโชก ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรแค่อยากปลอบให้หยุดร้องแต่สัมผัสอุ่นๆ จากตัวเขาทำให้ใจผมเต้นแรง
"ผมขอโทษนะครับ ...ฮึกๆ ผมสัญญาจะไม่..." ใบหน้ามอมแมมเปื้อนน้ำตาที่อยู่ระดับบ่าของผมนั่นน่ารักจริงๆ เส้นผมนุ่มไม่เหมือนเด็กม.2 เลยแฮะ
.....ตึกๆๆๆๆๆ ....น้องนะโว้ยน้อง....ศีลธรรมอันน้อยนิดบอกอย่างนั้นแต่แขนดันกอดน้องเขาแน่นขึ้นอีก
"พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ นะครับ อย่าร้องไห้นะ"
ผมหลับตาซุกหน้าลงที่หัวเขาเพื่อปลอบใจ เขาเงยหน้าขึ้นมาจังหวะเดียวกัน ปากของผมแตะลงที่หน้าผาก.....
"ไอ้ต้นๆ หมดคาบแล้ว ตื่นได้แล้ว"
"เอ๋อ....ก...กรูหลับไปเหรอเม้ง?"
"เออดิ มรึงคงเพลียมั้งนอนละเมออะไรงึมงำๆ ไม่สบายป่าววะหน้าแดงๆ"
"เปล่าๆ งั้นกรูไปล้างหน้าก่อนนะ"
ผมรีบลุกออกจากห้องเพราะไม่อยากให้เม้งสังเกต ที่หน้าแดงน่ะเพราะความฝันนั่นตะหาก แต่คงเล่าให้เม้งฟังไม่ได้หรอกเดี๋ยวมันแซวว่าผมหื่น
อะไรกันว้า....ตอนเที่ยงยังเห็นกริชอยู่เลยแล้วทำไมดันฝันกลางวันถึงเรื่องนั้นซะได้ หรือตรูมันคนหลายใจจริงๆ ฝันติดกันสองครั้งแล้วนะ
"ต้น เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งไป"
"มีอะไรเหรอ?"
เม้งไม่ตอบแต่ชี้มือแทน "มรึงตื่นน่ะดีแล้ว แต่ทำให้ไอ้นั่นของมรึงหลับก่อนดีกว่ามั้ง"
เจ้ดเข้! มิน่าเดินลำบาก! ค้ำออกมาเป็นลำเชียว! ผมรีบนั่งกลับเข้าที่เอามือกดเป้าไว้ก่อน ความฝันนั่นไม่ใช่แค่ทำให้จิตใจไหวหวั่นแต่สมองส่วนล่างก็บี้ป่วน
"หึหึ ต้นมรึงนี่กามจริงๆ ฝันเปียกในห้องเรียนก็ได้วุ้ย ฝันถึงใครวะ?"
"ไม่รู้ว้อย!"
ผมก็ไม่รู้ว่าน้องคนนั้นคือใคร ที่แน่ๆ นั่นคือจูบแรกของผมเมื่อนานมาแล้ว อุ๊ก! พอเริ่มคิดเรื่องนั้นบางสิ่งที่ใกล้จะสงบกลับมีปฏิกิริยารุนแรงขึ้นไปอีก
ผมขยับตัวเข้าชิดโต๊ะเอามือกดมันไว้แน่น ล้างน่งล้างหน้าอะไรไม่ต้องแล้วตอนนี้
ไอ้เม้งทำหน้าขำ ขำเจรี้ยไรมึงน่ะ "ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม!"
"มรึงอย่าเป็นบ้างก็แล้วกัน" ยิ่งกดเจ้าหมูยอก็ยิ่งคึกใหญ่
"ถามจริงเหอะ กี่นิ้ววะต้น? ตุงค้ำกางเกงซะขนาดนั้น"
"แสรด! อย่าดิวะ!!! เดี๋ยวกรูต้องลุกไปส่งการบ้านหน้าห้องคาบเจ็ดนะมรึง"
"ก็ดีดิ มรึงจะได้เกิด"
.........................