ตอนที่ 17
กลางแสงแดดร้อนเปรี้ยงของเที่ยงวันพุธ เสียงกลองที่ดังกระหึ่ม เชียร์ลีดเดอร์ในชุดจริงที่เต้นลืมตาย
ถึงจะยังไม่ใช่วันกีฬาสีจริงๆ แต่ภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมเครียดขึ้นมาทันที เนื่องจากมีแข่งกีฬาหลายชนิดจึงแบ่งรอบแรกมาแข่งในช่วงสองสัปดาห์ก่อนวันกีฬาสีทำให้วันนี้โรงเรียนดูคึกคักไม่ต่างจากวันจริงทั้งที่ยังมีการเรียนการสอนตามปกติ....กีฬาสีเริ่มขึ้นแล้ว....และพรุ่งนี้จะเป็นวันแข่งรอบแรกของผม
"โหย! ต้นดูลีดสีฟ้าดิ ชุดแนบเนื้อเลย!" .....และนานๆ ครั้งที่เห็นไอ้เม้งหื่น ผมเหลือบไปดูที่สนามวอลเล่ย์บอลบ้าง
ก็เจ๋งอย่างที่มันว่าแหละ ชุดแนบเนื้อ (บางส่วน) สีดำสลับน้ำเงินเห็นรูปร่างเลยแต่ก็ไม่ถึงกับโป๊ แต่หันกลับมาเจอไอ้เม้งทำหน้าเจื่อนๆ
"....โทษทีว่ะต้น กรูลืมไปว่ามรึง...."
"อย่าคิดมากดิเม้ง คนสวยๆ กรูก็มองได้แต่ไม่ได้มองแบบที่มรึงมองเท่านั้นเอง"
บางครั้งผมก็อิจฉานะ ถ้าผมเป็นอย่างเด็กผู้ชายทั่วไปก็คงดี แต่ช่างมันเถอะอย่างน้อยผมมีกริชแล้วและมีเม้งเพื่อนที่ดีที่สุดคนนี้
"มาช่วยกันเอาเหรียญทองนะต้น มรึงจะได้สมหวังซะที"
"ขอบใจนะเม้ง" ....ผมยังไม่ได้บอกเม้งเรื่องเส้นตายที่เลื่อนใกล้เข้ามา ไม่อยากให้มันกลุ้มใจไปด้วย
"ต้น....ถึงวันนั้นมรึงจะแนะนำให้กรูรู้จักเขามั๊ย? กรูสัญญาจะไม่บอกใคร"
ผมยิ้มแห้งๆ แทนคำตอบ ยังไงมรึงก็รู้จักอยู่แล้วล่ะเม้ง เคยเห็นหน้าครั้งนึงแล้วด้วย แต่กริชจะอยากเปิดเผยไหมนั้นผมไม่รู้จริงๆ แต่ยังไงสักวันเม้งก็คงรู้อยู่ดี ผมนึกหน้าเม้งตอนรู้ความจริง....เอ่อ...เรื่องของอนาคตอย่าเพิ่งคิดดีกว่า
"ขอโทษนะเม้งกรูทำให้มรึงอึดอัดไปด้วย"
"เพื่อนกันโว้ยอย่าคิดมาก....มาคุยเรื่องอื่นกันบ้างดีกว่า"
"อย่างเช่นอะไรวะ?" แบบว่าคิดไม่ออกจริงๆ อีกสองสัปดาห์ก็จะถึงวันที่นัดกริชแล้วหัวมันตื้อไปหมด
"อย่างเช่น....มรึงรุกหรือรับวะ?"
พรวด!!! เป๊ปซี่พุ่งกระจายเห็นสายรุ้ง "อยากรู้เหรอ! ไปเจอกันที่ห้องน้ำเลยมั๊ย!"
ไอ้เม้งรีบวิ่งทันที แต่ไม่ได้วิ่งไปห้องน้ำนะ มันวิ่งหนีนันยางเบอร์ 43 ไปที่สนามบาสต่างหาก (นึกว่าจะแน่จริง)
ตอนนี้ทีมบาสม.ต้นสีแดงกำลังแข่งกับสีเหลือง เริ่มแข่งมาตั้งแต่ตอนพักเที่ยงของม.ต้น ดีนะที่มาทันครึ่งหลังพอดี
คะแนนสีเรานำอยู่ตั้ง 23 แต้มแบบนี้ชนะใสๆ ผมรีบซุกตัวเข้าหลังทีมตัวสำรองสีแดงก่อนที่ใครจะทันเห็นผม
"สวัสดีครับพี่ต้น เพิ่งมาเหรอครับ?" เจ้าโอตัวสำรองม.3 หันมาทักพลางยื่นน้ำเย็นให้
"อืม พี่เพิ่งพักเที่ยง คะแนนนำโด่งเลยนี่หว่า" พูดไปตาก็สอดส่ายดูรอบๆ ....กริชคงไม่มานะ...
"โอ คนตัวสูงๆ ทีมโน้นนั่นเพื่อนนายเหรอ? ไม่คุ้นหน้าเลยแฮะ"
"นั่นไอ้บิ๊กอยู่ม.2 ครับพี่ต้น"
"โห โคตรสูงเลย พี่นึกว่าม.3 แล้วลำบากไหมเนี่ยฝ่ายโน้นตัวสูงขนาดนี้?"
"เหอๆ ไม่เลยพี่ ได้ยินว่ามันแทบไม่เคยมาซ้อมด้วยซ้ำแต่ตัวมันสูงเกือบ 180 ทีมโน้นเลยต้องเอาไว้"
....ยังไงก็อิจฉาความสูงมันอยู่ดี เด็กสมัยนี้เลี้ยงด้วยอะไรฟระเนี่ย?
"พี่ต้นครับ อีกเดี๋ยวผมต้องลงสนามแล้วล่ะ พี่จะนั่งนี่จนจบไหมครับ?"
"อืม"
"งั้นผมฝากของหน่อยนะครับ เพื่อนผมมันวิ่งขึ้นห้องไปหมดแล้วฝากมันไม่ทัน"
น้องโอยื่นสมุดหนังสือมาให้ กระเป๋าตังค์ นาฬิกา มือถือ และ......แว่นตา.....
"เยอะเกินไปรึเปล่าครับพี่? สะดวกไหมครับ?"
"ไม่หรอก พี่ดูให้นายได้"
"ก็...เห็นพี่มองผมแปลกๆ"
"แปลกไงวะ? รีบวอร์มอัพไปดิ๊!" ....ไอ้บ้าต้นเอ๊ย...ไม่เนียนขนาดน้องยังจับได้....
"โอ เพื่อนนายมีใครใส่แว่นกรอบเงินแบบนี้อีกมั๊ย?"
"ไม่ค่อยมีหรอกพี่ เดี๋ยวนี้เขาฮิตกรอบทองกัน ทำไมเหรอครับ?"
"เปล่าหรอก" ผมสอดแว่นของโอเข้ากระเป๋าเสื้อที่ปลอดภัยกว่าถือในมือ
"พี่ต้นน่าจะเปลี่ยนกรอบนะครับ พูดจริงๆ นะแว่นพี่ไม่เข้ากับหน้าเลยครับ เห็นครั้งแรกเกือบจำไม่ได้ สาวๆ ชอบคนใส่แว่นกรอบทองนะพี่"
"แล้วทำไมนายไม่ใส่ล่ะ?"
"โห ต้องขาวๆ ถึงจะใส่ขึ้นครับ ผมเล่นบาสจนตัวดำใส่แล้วดูพิลึกๆ"
"เออ นายน่ะดำถาวรไปแล้ว"
เจ้าโอก็ยืดเส้นยืดสายไปเรื่อยๆ "จริงๆ ผิวผมขาวนะ พี่ต้นดูดิ" ว่าแล้วเจ้าโอก็ถลกชายเสื้อยืดขึ้น พรืด!!!!
"เห็นมั๊ยพี่ เดี๋ยวจบกีฬาสีแล้วผมก็คงขาวขึ้นบ้างล่ะ" มันพูดอะไรต่อผมไม่รู้ละนึกด่ามันในใจอย่างเดียว ไอ้.....ไอ้.....! (-////-) โชคดีมันไม่ทันเห็นสีหน้าของผมก็โดนพี่โจ้เรียกไปเปลี่ยนตัวกับคนในสนาม
.....อย่านะมรึง.....ไอ้ห่าต้น....
"เม้ง ฝากถือของให้น้องโอทีดิ!"
"เฮ้ย! ต้นไปไหนๆ"
"ไปเมโทร!"
กว่าเม้งจะเก็ทมุขผมก็เดินมาไกลแล้ว .....ไอ้บ้าต้น....ไอ้ห่าต้น....ไหนสัญญากับตัวเองแล้วไงจะไม่คิดอะไรกับรุ่นน้องอีก.....ไอ้บ้า.....
ผมไม่รู้ว่าการที่ผู้ชายสักคนจะกลายเป็นแบบผมนั้นมีสาเหตุจากอะไรบ้าง แต่บางคนก็เป็นเพราะประสบการณ์ครั้งแรกและนั่นคือสิ่งที่ผมพยายามไม่ทำผิดต่อรุ่นน้องคนไหนอีก ขอให้ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายเถอะ
ผมเดินไปทางสนามบอล อยากจะคิดอะไรเงียบๆ คนเดียวและที่นี่ก็เหมาะที่สุด ใกล้อัฒจันทร์กีฬาสีแบบนี้กริชไม่มาแน่นอน
"พี่ครับ!!! ช่วยเก็บบอลให้หน่อยครับ!! จะหล่นลงสระแล้ว!!!"
ผมวิ่งไปคว้าบอลที่กำลังเด้งไปทางสระน้ำท้ายสนามฟุตบอลแล้วส่งกลับไปที่สนาม ถ้าบอลหล่นลงน้ำก็ต้องหาไม้ยาวๆ มาเขี่ยบอลกันวุ่นวาย ใครนะช่างคิดมาขุดสระเบ้อเริ่มใกล้ๆ สนามให้ลูกฟุตบอลหล่นลงไปอยู่เรื่อย
จริงๆ แล้วมันไม่ใช่สระน้ำแต่เป็นบ่อปลาต่างหาก....บ่อปลาที่นักเรียนตั้งฉายาว่า 'สระมรกต' มันไม่สวยเหมือนสระมรกตที่จ.กระบี่แต่ได้ชื่อนี้เพราะมีตะไคร่และพืชน้ำเขียวอี๋ทั่วสระต่างหาก
....ที่ๆ ผมเคยให้สัญญากับตัวเอง....ที่ๆ ผมทำผิดครั้งหนึ่งในชีวิตและยังลืมไม่ได้....
....ที่ๆ รักแรกของผมเกิดขึ้นปีที่แล้วในเย็นวันหนึ่งที่เงียบเชียบ ต่างจากเสียงโหวกเหวกของนักบอลในสนามตอนนี้เหลือเกิน