
วันนี้ไปเคลียร์กับธนาคารมา เหนื่อยมากครับ ไม่มีโอกาสได้ทักทายหรือคุยด้วยเลย คงไม่ว่ากันนะครับ
ช่วงนี้จะได้หยุดยาวกันด้วย ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องไปทำธุระต่างจังหวัด ผมจะมาต่อให้นะครับ ^^ สำหรับเพื่อนๆทุกคนที่ประสบภัยน้ำท่วม แม้ว่าน้ำจะไม่หนุนหรือซ้ำลงมา แต่ผมจะเอาใจช่วยต่อไปนะครับ เพราะความลำบากที่แท้จริงคงเป็นหลังจากน้ำลดลงแล้ว สู้ๆทุกคนนะครับ
พูดไปแล้ว ก็เล่าถึงเพื่อนๆสักนิด มีข่าวที่ช็อกนิดหน่อยมาเล่าครับ เรื่องคือว่า พี่เชน กับ พี่คม เขาสองคน ... กลับมาคบกันครับ พี่บอลเล่าให้ฟังเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมกำลังถามรายละเอียด เพื่อจะได้เอามาแบ่งปันกับทุกคนนะครับ แต่มันมีประโยคสองประโยคที่พี่บอลเอามาเล่า คือฟังแล้วขนลุกชอบกลน่ะครับ เช่น
... กูเคยรักเคยหลงมาก่อน กูรู้ว่า ตอนนี้กูรักหรือกูหลง ... ระหว่างที่กูไม่เจอใครดีเท่ามึง กูขอคบกับมึงได้ไหม
บรื๋ออออ เหอะๆๆ เอาเป็นว่า ผมจะรีบแต่งนะครับผม ตอนนี้มาต่อเรื่องราวของไอกีตาร์สองตัวก่อนครับ
------------------------------------------------------------------------------------------
กีตาร์ ตัวแม่
ผมกับไอต้า มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นมากจนผมเองยังแปลกใจ คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นไอลิงนุ พี่บอล ล้วนแต่ไม่มีปัญหาใดๆ ไอน้องการ์ดเองก็ทำตัวเป็นน้องที่ดี ผมสามารถทุ่มเทให้กับการเรียน กิจกรรม และกับคนรอบข้างได้อย่างสบายใจ จนวันหนึ่ง ...
“ กีเหรอ พี่แซ็กเองนะ ” ผมกำลังออกำลังกายเป็นเพื่อนไอลิงนุที่สนามบอล พี่แซ็กพี่ชายคนโตของผมก็โทรศัพท์มา
“ ครับ พี่แซ็กมีอะไรเหรอครับ ” ไอนุโบกมือให้สัญญาณว่ามันจะวิ่งไปก่อน
“ กีมาหาพี่ ... ไม่ดีกว่า เดี๋ยวพี่ไปรับกีดีกว่า ” ผมรู้สึกว่าต้องมีอะไรไม่ค่อยดีเกิดขึ้นแน่เลย
“ ได้ครับ จะมากี่โมงอะ ”
“ สักหนึ่งทุ่มนะ พี่จะไปรับเบสก่อน ” พี่แซ็กกดวางสายไปแล้ว ทิ้งความงุนงงสงสัยไว้ให้ผมมากๆ
“ เฮ้ย ปลาทองเว้ย มึงไม่วิ่งต่อเหรอ ” ไอลิงนุวิ่งมาหาผม มันวิ่งรอบสนามครบรอบพอดี
“ พี่แซ็กเพิ่งโทรมาหากู ”
“ หืม เรื่องอะไรล่ะ เรื่องไอต้าหรือปล่าว ” ผมส่ายหน้า
“ พี่กูไม่ได้บอกว่ะ ปะๆ วิ่งต่อเหอะ ” ผมวิ่งรอบสนามกับไอนุอีกนิดหน่อย ก่อนจะเดินกลับคอนโด
วันนี้ไอต้าต้องทำรายงานกับเพื่อนที่คณะ และจะต้องไปทำต่อที่หอของเพื่อนด้วย ผมเลยไม่ได้โทรศัพท์ไปบอกมันว่าผมจะไปกับพี่แซ็ก พอเวลาหนึ่งทุ่มผมเดินลงมารอพี่แซ็กที่ชั้นล่าง
“ โทษทีน้อง ไอเบสมันช้า ” พี่เบสยังสวมชุดนักศึกษาอยู่เลยครับ
“ พี่นั่นแหละ มีอะไรรีบร้อนหนักหนา ” โดนพี่เบสสวนทันควันเลย เหอะๆ
“ มาเถอะ ไปหาอะไรกินกันก่อน ” ที่จริงทั้งผมและพี่เบส อยากถามก่อนว่าทำไมต้องชวนมาเลี้ยง แต่ไม่กล้าขัดพี่แซ็กอะครับ เงินที่ผมได้ใช้ก่อนที่แม่จะกลับมาทำงาน เงินของพี่เขาทั้งนั้น หลายๆอย่างพี่เขาก็เป็นคนจัดการให้
“ กี ยังคบ ... ยังคบกับต้าอยู่ใช่ไหม ” พี่แซ็กถามผมหลังจากที่เรามาถึงสวนอาหารแล้ว
“ ถ้าจะชวนมาคุยเรื่องเครียดๆ ผมไม่เอานะพี่แซ็ก ” พี่เบสรีบดักคอก่อน
“ ใจเย็นๆ พี่ไม่อะไรกับกีเรื่องนี้หรอก อยากรู้เฉยๆ ... ว่าไง ” ผมมองหน้าพี่สองคน แล้วพยักหน้าเบาๆ
“ อืมๆ ”
“ อ้าว ” พี่เบสถึงกับอุทานครับ เหอะๆ คงจะงงที่พี่แซ็กไม่ถามต่อ
“ สั่งอาหารไป อย่ามาทำท่ากวนโอ้ย ” บรรยากาศดีกว่าที่คาดแฮะ ผมกับพี่ๆนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนมารู้ว่า พี่แซ็กเพิ่งแยกทางกับพี่สาวคนนั้นที่คบกันอยู่ พี่แซ็กอธิบายว่าเคยลองอยู่ร่วมกันแล้ว แต่ไม่ดีเอาเสียเลย พี่คนนั้นขี้หึงมาก จนพี่แซ็กทำงานทำการไม่ได้
“ แล้วไม่บอกน้องบอกนุ่งบ้างนะพี่ ” พี่เบสพูด
“ พี่ไม่พร้อมจะคุยกับใครไง ... แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้พี่เข้าใจกีมากขึ้นนะ ”
“ โอ้ๆ อย่าบอกนะพี่ ว่าพี่ไปกับเขาอีกคน แบบนี้ผมแย่นะพี่ ... โอ้ยยย !!! ” ผมหวดแขนพี่เบสไม่ยั้ง
“ ทำไมๆ แบบผมนี่ไม่ดียังไง ” พี่แซ็กยิ้ม
“ พี่เพิ่งเข้าใจว่า การเจอคนที่ใช่จริงๆมันไม่ง่าย ถ้าเราได้เจอกับเขา ก็ควรไปกับเขา นั่นดีที่สุดแล้ว ” ผมดีใจจนน้ำตาซึมออกมาครับ ผมดีใจที่ในที่สุดพี่ของผมทุกคนก็ยอมรับได้เสียที
“ แต่ ... ”
“ อะไรครับ ” ผมถามขึ้น
“ กี แม่ของเราน่ะ ... เพื่อนของพี่ที่เป็นหมอ เพิ่งแอบเอามาบอกพี่ ว่าแม่ของเราป่วย ”
“ เฮ้ย อะไรนะพี่ ” พี่เบสตกใจถึงกับพูดออกมาเสียงดัง
“ พี่เพิ่งรู้เมื่อบ่ายนี้เอง แม่ของเรามีก้อนเนื้อที่ตับ ” ผมปากสั่น มือไม้เย็นไปหมด พี่เบสสังเกตเห็นเข้า เลยขยับเก้าอี้มาใกล้ๆผม
“ อาทิตย์ก่อน แม่มีไข้ต่ำๆตลอดอาทิตย์ แล้วก็ท้องโตนิดหน่อย ป้าของของต้าเลยพาไปตรวจร่างกาย วันนี้ผลออกมาว่าน่าจะใช่ ”
“ ใช่อะไร ใช่อะไรพี่แซ็ก ” พี่เบสเอ่ยถาม
“ มะเร็ง ”
“ ว่าไงนะครับ ”
“ เราต้องไปหาแม่นะพี่ ไปหาแม่กันเหอะนะ ” ผมรีบลุกขึ้น แต่พี่เบสรั้งผมเอาไว้
“ กี ตั้งสติหน่อยน้อง ... พี่แซ็กจ่ายเงินแล้วตามมานะพี่ ” พี่แซ็กคงรู้ว่าผมต้องร้องไห้ เลยให้พี่เบสพาผมออกมาก่อน
“ ฮืออออ พี่เบส เราจะทำไงดีอ่ะพี่ ฮืออออ อื๊ออออ ” ผมรู้เพียงแค่ว่า แม่ของผมกลับไปเยี่ยมบ้าน ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว แม่ของผมเจ็บป่วย
“ บอกให้ใจเย็นก่อนไง ถ้าอาการแม่หนักจริง พี่แซ็กไม่เล่าให้เราฟังหรอก ” พอได้ยินแบบนี้ ผมหยุดร้องไห้ชั่วคราว เพราะพี่เบสพูดมีเหตุผลครับ พี่แซ็กของผมเป็นคนอดทน ถ้าเป็นเรื่องหนักมากจริงๆ คงไม่เอามาเล่าให้ผมฟัง พี่เขาคงเก็บไว้คนเดียว
“ ตอนนี้น่ะ ต้องช่วยพี่เขาแบ่งเบาภาระบ้างนะ อย่าตื่นตกใจมากไป ” ผมพยักหน้า พักหนึ่งที่แซ็กก็เดินตามออกมา
“ อะไรน่ะ ” ก่อนที่จะเดินมาเนี่ย ผมกับพี่เบสเห็นพี่แซ็กยืนคุยกับผุ้หญิงคนหนึ่งครับ เลยสงสัย
“ อ้าว หยุดร้องแล้วเหรอ ไวนะ ” ดู ล้อผมเล่นอีก
“ ใครพี่ ” พี่แซ็กแสดงนามบัตรของใครไม่รู้ขึ้นให้ผมสองคนดู
“ โหพี่ หรูนะเนี่ย ” พี่เบสล้อเลียนพี่แซ็ก นามบัตรเป็นของกรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งครับ แต่ผมไม่รู้จักหรอก
“ เพื่อนเก่าน่ะ เจอตอนที่เรียกเก็บเงิน ... เอาไงต่อ ไปกินไอศกรีมไหม ” พี่แซ็กชวนผมสองคนครับ
“ อารมณ์นี้เหรอพี่ กินไอศกรีม ”
“ กี กินไหม ” ผมพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“ ถ้าไม่กินก็นั่งเฉยๆ ปะ ” ผมกับพี่ๆทั้งสองคน มาที่ห้างสรรพสินค้า ตอนนั้นยังไม่ค่ำมากนัก เลยยังมีคนเดินจับจ่ายซื้อสินค้าอยู่บ้าง
“ คือ เพื่อนของพี่บอกว่า เท่าที่ดูน่าจะระยะที่หนึ่ง ถ้าผ่าตัดมีโอกาสหายขาดได้ ”
“ หายได้เลยเหรอพี่ ” พี่เบสพูดอย่างที่ผมนึกเอาไว้เลยครับ
“ มีโอกาส เพราะการทำงานยังดีอยู่ ”
“ เราจะไปหาแม่ยังไงดีล่ะพี่ แม่รู้แล้วใช่ไหม ว่าตัวเองป่วย ” ผมถามบ้าง
“ อืม ระยะเริ่มต้นที่มีทางรักษา แพทย์เขาบอกแล้ว ”
“ วันไหนดีพี่ กลับไปเยี่ยมท่านเถอะ ” พี่เบสพูดขึ้น แม่ของผมไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯครับ ท่านต้องกลับไปรักษาที่บ้าน หมายถึงโรงพยาบาลที่บ้าน เพราะตอนนี้เรื่องวุ่นวายในบริษัทของป้าไอต้ายังไม่จบดี ถ้ามีข่าวแบบนี้ จะเป็นเรื่องขึ้นมาอีกได้ คล้ายๆกับตอนที่แม่ของไอต้าป่วยครับ
“ อาทิตย์นี้ว่างกันไหม ”
“ ผมว่างพี่ ... กีล่ะ ” พี่เบสหันมาถามผม
“ ไม่ว่างก็ต้องว่างแหละ ” พี่แซ็กลูบหัวผม เราสามคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนใกล้เวลาห้างปิด จึงออกมากัน พี่แซ็กมาส่งผมที่คอนโดก่อน และจะไปส่งพี่เบสทีหลัง
“ ทำใจสบายๆนะ แล้วก็ยังไม่ต้องบอกต้าหรอก ”
“ ครับผม ขับรถกลับดีๆนะครับ ” พี่แซ็กกับพี่เบสโบกมือให้ ผมเดินมาตามทางเดิน เจอเข้ากับไอต้าพอดีครับ
“ ไปไหนมา ทำไมกลับมาช้า ” ผมมองดูนาฬิกา
“ นี่ไม่ช้านะ ดึกแล้ว ” ไอต้าทำเสียงจิ๊จ๊ะ
“ ใครมาส่ง ” โห ทำเสียงโหดเลยเว้ย เหอะๆๆ
“ หนุ่มหล่อ ”
“ หึ มีหล่อกว่านี้อีกเหรอ ” ไปๆมาๆ ไอต้านี่ก็กล้าหาญเหมือนกันนะครับ ชมตัวเองเป็นด้วย
“ เออๆ มึงอะหล่อที่สุดละ ” ผมรีบเดินขึ้นลิฟท์ ทันทีที่ลิฟท์จอด
“ เดี๋ยวๆ ตอบมาเดี๋ยวนี้เลย ไปไหนมา แล้วใครมาส่ง ”
“ ไปกินข้าวมา ” มันทำท่ากระวนกระวาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันคงจะว่าผมแล้วครับ ... มันแสยะยิ้ม มองมาที่ผม สายตาหื่นกามมาก
“ ไม่ตอบดีๆใช่ไหม ”
“ เว้ยๆ จะทำอะไร .... โอ้ย ! ” ไอต้ามันพุ่งมาหา แล้วกัดคอของผมครับ
“ ทีนี้จะบอกหรือยัง ” ผมรีบลูบๆที่ต้นคอ
“ เลือดออกไหมอะ มึงนี่เล่นบ้าอะไร เป็นหมาหรือไง ”
“ หึ ใช่สิ ถึงหวงของอยู่นี่ไง ”
“ เออๆ ไปกินข้าวกับพี่แซ็ก พี่เบสมา พอใจยัง ” ลิฟท์วันนี้ก็ช้าจริงๆ
“ ไม่ตอบดีๆเอง ช่วยไม่ได้นะ ”
“ ถ้าพรุ่งนี้เป็นรอยนะ กูจะ ... ”
“ จะทำอะไรครับ ” มันลอยหน้าลอยตา ลีลากวนประมาทมาก
“ กูจะ ... จะกัดแม่งให้คอเป็นรอยเขี้ยวเลย ” ลิฟท์มาถึงชั้นที่ผมอยู่พอดี ไอต้าจูงมือผมออกมาจากลิฟท์
“ เดี๋ยวให้กัดคืน ปะ เข้าห้อง ” ผมแอบยิ้มให้มัน ถ้าผมไม่มีมัน ผมคงรู้สึกเครียดกับเรื่องวันนี้มากๆ ขอบคุณนะต้า