มาล่ะครับ โทษทีค๊าบบบ
หายหัวนานไปหน่อย
มัวแต่อ่านของคนอื่น จนของตัวเองไม่ได้เขียนเพิ่มเลย ผิดไปแล้วครับ
************************************************************
ตอนที่ 40กว่าผมจะกลับไปที่ห้องพักก็เกือบตี 5 น้ำตาผมมันแห้งไปแล้ว ผมร้องไห้จนมันรู้สึกปวดในตา เหมือนกับมามีคนมาบีบที่เบ้าตาอยู่ตลอดเวลา ใช่ครับ อย่างที่บอก น้ำตาผมมันแห้งไปหมดแล้ว มันไม่มีเหลือเอาไว้ให้เศร้าใจอีกแล้ว วันนี้ผมจะเข้มแข็ง ผมจะต้องเดินต่อไป และที่สำคัญ ผมต้องอยู่ต่อไปได้โดยที่ไม่มีไอ้เอกอีกต่อไป
ผมล้มตัวลงบนเตียง แต่มันก็ไม่หลับนะครับ นอนลืมตามันอยู่อย่างนั้นจนเกือบถึงเวลา Check Out ตอน 11 โมงแล้วก็ขับรถกลับบ้าน ผมตัดสินใจแล้วว่า ผมจะต้องลิมไอ้เอกให้ได้ ผมต้องตัดใจจากมัน ถึงแม้ว่ามันจะทำได้ยากขนาดไหนก็ตาม ผมจะไม่รับรู้เรื่องของมัน ไม่ว่ามันจะไปไหน ทำอะไรอยู่กับใคร มันไม่ใช่เรื่องของผมอีกต่อไป ผมแค่จะไม่สนใจเรื่องของมันอีก
พอถึงบ้าน ผมตรงไปที่คอมพิวเตอร์และเริ่มลบทุกอย่างที่เกี่ยวกับมันทิ้ง ทั้ง e mail/ MSN/ Hi5 รูปต่างๆที่เคยถ่ายกับมัน หรือรูปที่มันถ่ายให้ผมที่สิงคโปร์ ผมลบทิ้งไปหมดทุกอย่าง เพราะรูปที่ไม่มีมันอยู่ด้วย ก็แปลว่า มันยืนอยู่อีกด้านนึงของกล้องนั่นแหละ ผมขี้เกียจมานั่งจำว่า รูปนี้ใครเป็นคนถ่าย ลบๆมันไปให้หมดนั่นแหละ สบายใจดี ไอ้ผมมันก็ไม่ใช่คนความจำดีอะไรมากมาย สักวันผมก็คงจะลืมมันเองแหละ เพราะในแต่ละวัน มีหลายเรื่องที่ต้องคิดต้องจำพออยู่แล้ว
ผมนอนอยู่ในห้องทั้งวัน
จนแม่กลับมาจากที่ทำงาน พอแม่เห็นผมรู้ได้เลยว่า แม่เป็นห่วงผมมากแค่ไหน ถึงเค้าจะไม่บอกออกมา แต่ที่เค้าแสดงออกมาให้ผมเห็น มันก็ชัดอยู่แล้วครับว่า เค้าเป็นห่วงผมขนาดไหน แล้วผมจะยอมทำบาปให้แม่ไม่สบายใจอยู่อย่างงี้หรอ แค่ผมเป็นแบบนี้ ผมก็ทำบาปกับแม่มากแล้ว ผมไม่อยากทำให้แม่ไม่สบายใจอีก ผมจะทำตัวให้เหมือนเดิมครับ ไม่ว่ามันจะเจ็บสักแค่ไหน ก็ต้องทำให้ได้
อีก 1 วันก็จะถึงวันวาเลนไทน์ที่ตอนแรก ผมกะจะไปกินข้าวกับมัน ซึ่งคงไม่มีอีกแล้วครับ ไม่ว่าจะปีนี้หรือปีไหน ผมก็คงไม่ได้มีวันวาเลนไทน์กับไอ้เอกอีกต่อไป มันก็แค่วันๆนึงใน 1 อาทิตย์ มันก็แค่นั้น แต่ผมจะรอดมั๊ยเนี่ย เพราะคนรอบข้างดูจะให้ความสำคัญกับวันนี้เหลือเกิน โชคดีที่ผมลางาน แล้วพอกลับไปงานคงกองท่วมหัว จนไม่มีเวลามานั่งคิดว่าวันนี้คือวันอะไร เย็นนี้จะไปที่ไหน ก็แค่ตื่น มาทำงาน กินข้าว แล้วก็กลับบ้านนอนเหมือนทุกๆวัน
หลับให้สนิทนะ ไอ้ต๋อง ตื่นมาแล้วก็มีชีวิตอยู่ต่อไป
..................................................................
14 กุมภาพันธ์ 2550 วันวาเลนไทน์
ก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ เมื่อคืนผมซัดยานอนหลับไป 2 เม็ด เพื่อที่จะหลับได้ลง ถึงแม้ว่าตามันยังปวดๆอยู่ คงเป็นเพราะร้องไห้มากไป แต่ผมพยายามที่จะไม่ให้ใครรู้ว่าผมผิดปกติอะไร ผมหัวเราะไปกับมุขตลกที่จู่ๆมันก็ไม่ขำของน้องที่ทำงาน ผมเฮฮาเวลามีคนมาส่งดอกไม้ให้เพื่อนๆ มีคนแซวเหมือนกันว่า เมื่อไหร่ของผมจะมา ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ – ของกรูคงมาหรอก ใครมันจะมาให้วะ กรูไม่เหลือใครแล้วนะ
แต่ ..... มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่ผมคิดซะทีเดียว เพราะเย็นวันนั้น ไอ้โจ๊ก (จำกันได้เปล่า) โทรมาพอดี ผมเลยชวนมันไปกินข้าว เพราะถึงยังไง ก็ดีกว่ากินข้าวคนเดียวแหละน่า เสียงของไอ้โจ๊กในตอนนั้น มันดูดีใจมากๆ จนผมคิดถึงคำที่เคยได้ยิน “รักคนที่เขา รักเราดีกว่า” ใ
ช่ครับ ไอ้โจ๊กมันชอบผมมันแสดงออกอย่างชัดเจนว่า มันชอบผม ทั้งๆที่ผมเฉยๆกับมัน มาตลอด
ผมไปรับมันที่บ้านไปกินข้าว ... ร้านที่ผมจองเอาไว้ กะว่าจะไปกินกับคนๆนั้น ช่างมันดิคับ ผมต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันต่อไป นี่ผมใช้ความรักของมันมาปลอบใจรึเปล่า ผมไม่ทันได้คิด มันเหมือนกับหลอกใช้ไอ้โจ๊กมันเหมือนกัน แต่วันนั้น มันขอผมเป็น”แฟน” ซึ่งผมก็ตอบตกลง คำว่า “แฟน” ที่ผมเคยอยากใช้กับคนๆนั้นแบบเต็มปาก ตอนนี้ ผมตกลงที่จะเป็น “แฟน” กับอีกคนนึง
ผมผิดรึเปล่าที่ตอบรับมันง่ายๆแบบนี้ ผมไม่รู้หรอกคับ ไม่รู้จริงๆ
คืนนั้น เราไปกินข้าวกัน จากนั้นผมก็ขับรถไปแถวปากคลอง เพราะดอกไม้ถูกดี (ตอนนั้นช่วงเลหลังเลย จากเช้าๆเป็นพัน เหลือแค่ 500 กว่าๆ
) ไอ้โจ๊กมันดีใจจนยิ้มหน้าบานเลย ตอนที่ผมยื่นดอกไม้ให้
โจ๊ก “ขอบคุณนะ ตัวใหญ่ เราไม่เคยได้ดอกไม้วันวาเลนไทน์เลย”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง”
โจ๊ก “ตัวใหญ่ น่ารักจัง ขอบคุณนะ” แล้วมันก็หอมแก้มผมเลยครับ ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย นี่สรุปว่า ผมกลายเป็น “ตัวใหญ่” ของมัน แล้วมันก็เป็น “ตัวเล็ก” ของผมไปแล้วหรอ ทำไมมันเร็วอย่างงี้วะ
ทีกรูกับ คนนั้น กว่าจะได้จับมือกัน รอไป 3 อาทิตย์ นี่แค่ 3 ชั่วโมงเองนะ แต่ก็ช่างเหอะ มันชอบกรูนี่หว่า ดีแล้วที่กรูยังมีคนอยู่ด้วยวันวาเลนไทน์ ใครก็ช่าง ขอแค่กรูไม่เหงาก็พอ
ตอนนั้นผมคิดได้แค่นั้นจริงๆ
ส่วนคนๆนั้น มันไม่มีการติดต่อมาเลย แม้แต่ส่งข้อความ ก็ดีครับ ผมจะได้ลืมมันได้จริงๆซะที
วันนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะเขียนชื่อมัน
ลาก่อนนะ .... เอก