Imprison 8 : ล้วงความลับ
เพราะเรื่องงี่เง่าที่ไอ้เป้มันพูดถึงใช่ไหม? พี่โตถึงมีท่าทีเครียดขึงแบบนั้น...
ผมนั่งเงียบ มองไปที่พี่โตซึ่งกำลังนั่งทานข้าวอยู่ข้างกาย สีหน้าของขาใหญ่แห่งแดนสิบสองไม่ได้มีท่าทีตึงเครียดหรือประสาทกลับแบบที่ผมใกล้จะเป็นอยู่ตอนนี้ ตรงข้ามกับไอ้เนมที่ใจเริ่มร้อนรน คิดมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้..
งานที่ป๋าสั่งให้ทำน่ะ มันไม่เคยมีดีอยู่แล้ว อันนี้ผมแน่ใจ และรู้ดีทีเดียว แต่ทว่า นั่นก็เป็นคำสั่งที่พี่โตรู้ดีไม่ใช่เหรอ? เป็นสิ่งที่ทำมาตลอดโดยไม่ได้มีท่าทีคิดมากอะไร
แน่ล่ะว่าไม่ได้มีใครทำท่าทาง"ยินดี"กับมันมากนัก ยามที่มีคำสั่งบ้าๆบอๆออกมา แต่ทว่า พี่โตก็ไม่ได้มีท่าทีเครียดกับคำพูดของใครขนาดนี้..
ทำอะไรกันนะ?
ไอ้เนมขมวดคิ้วลอบจ้องมองใบหน้าของคนในกลุ่มเป็นรายๆไปด้วยท่าทีสังเกตสังกา มองพี่โตที่กินข้าวเงียบๆแต่ดวงตาแฝงความกังวลชัดเจน มองพี่วิทย์ที่นั่งคุยกับเมฆ และกินข้าวกันหนุงหนิงสองคนอยู่ พี่กันย์ก็กำลังนั่งทานข้าวอยู่คนเดียวแบบไม่มีปากเสียงอะไรเช่นเคย ส่วนพี่ทิน พี่เบิร์ดและเหล่าลูกน้องทั้งหลายก็ยังคุยกันด้วยท่าทีรื่นเริง...
...เหมือนจะไม่มีใครรู้สักคน..ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมเหลือบไปมองไอ้เป้ที่นั่งกินข้าวอยู่อีกโต๊ะ เพราะมันเป็นสิ่งที่เคืองตาพี่โตเกินกว่าจะมานั่งด้วยกันได้ มันยังมีสีหน้ารื่นเริงบันเทิงใจชวนถีบเป็นที่สุด ข้างตัวก็มี"ผัว"คนที่เท่าไหร่ไม่รู้นั่งอยู่ด้วย กินไปกัดคนอื่นไปพลาง มองแล้วมันน่าปวดหัวแทนจริงๆ
"เป็นอะไร?" น้ำเสียงทักของพี่โตดังขึ้นเบาๆ ทำให้ผมชะงัก หันมามองพี่โตที่กำลังจ้องมองมาทางนี้ จึงได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน
" ไม่มีอะไรหรอก แค่มองไปเรื่อยเปื่อย " ไอ้เนมตอบสั้นๆอย่างไม่อยากเจอเรื่องมากที่สุด
" เหรอ.....แต่มองไอ้เป้เขม็งเชียวนะ " พี่โตยิ้มเย็นยะเยือกให้ ทำเอาผมชักสีหน้าเจื่อน....อะไรกันเล่า จะมาหึงทำไมฟ่ะ ไอ้เนมไม่สนใจใครอีกแล้วเฟ้ยนอกจากพี่..อ๊ะ!! ไม่สิ หมายถึงในคุก ไม่สนใครอีกแล้ว แต่นอกคุกค่อยคุยกันอีกที
" ก็แค่สงสัย ตอนเย็นนี้มันหายไปไหนมาเท่านั้นเอง ไอ้เมฆบ่นว่ามันหายหัวไปไม่ยอมมาช่วยงาน " ไอ้เนมยิ้มเผล่ สบตาพี่โตแล้วตอบสั้นๆแต่ความนัยน์นั้นก็มากพอที่จะทำให้คนมีชนักติดหลังนิ่งไป และเบนสายตาไปจ้องไอ้เมฆเขม็ง..
ชะเฮ้ย....ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้พี่ไปหมายหัวไอ้เมฆนะโว้ยยยยยผิดเป้าหมายแล้ว !!
" เหรอ....แล้วมันว่าไงอีก " ความอมหิตเงียบที่มองเห็นในแววตาคู่นั้นทำให้ไไอ้เนมแทบกลืนน้ำลายไม่ลงคอ หันไปมองไอ้เมฆที่ชักสีหน้าเหย แล้วถลึงตาใส่ผมอย่างหมายหัวแว้บหนึ่ง อยากบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่ทันเว้ยเมฆ !
" แค่นั้นเอง...ก็แค่สงสัย ทำไมล่ะ...หรือว่าพี่ไปไหนกับไอ้เป้มา " ว่าแล้วก็จ้องหน้าท่านเสียหน่อย ทำให้ประเด็นกล่าวโทษไอ้เป้ของพี่โตชะงักไปแค่นั้น พี่ท่านหันมามองตาแล้วส่ายหัวช้าๆ....เหอะ...ไม่ทราบว่าจะโกหกกันไปถึงไหน..
" ไปไหนกับมันทำไม แค่เห็นก็คันตีนจะแย่ " เหรออออออออ....ฟังแล้วน่าเเบะปากใส่ชะมัด ถึงจะรู้ว่าพี่โตกับไอ้เป้ไม่ได้นัดกันไปคุยด้วยแรงพิษวาสหรืออะไรแบบนั้น แต่มันน่าหมั่นไส้นี่ ทำปกปิดมีความลับไม่พูดไม่จา ชิ
" ก็ว่างั้นแหลเนอะ....เพราะทุกทีไปไหนพี่ก็บอกนี่นา "ผมยิ้มให้พี่โตอย่างใสซื่อ นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความเชื่อใจจนล้นพ้น...แม้ความจริงกำลังนึกฮึ่มฮั่มใส่แบบไม่มีเหตุผลก็ตาม
" .....มึงไม่ได้ประชดกูใช่ไหม? " พี่โตแสยะยิ้มเหี้ยมๆ มองสบตา
" อะไรกัน พูดดีก็หาว่าประชด พูดไม่ดีก็หาว่าปากหมา จะเอายังไงกันล่ะเนี่ย ?" เลิกคิ้วออกปากถามไปอย่างอยากรู้ พี่โตแค่ยักไหล่ ไม่พูดอะไรอีก และหันไปกินข้าวด้วยสีหน้าปกติ จากหางตาผมมองเห็นไอ้เมฆกำลังยื่นนิ้วกลางพร้อมกับถลึงตาใส่เป็นคำคารวะที่ผมเสือกลากมันมาเป็นประเด็นวิววาท
" พี่โต พรุ่งนี้พี่จะไปเจอป๋าเหรอ? " จู่ๆพี่ทินก็เปรยขึ้นมา ทำเอาเสียงที่เคยจ้อกแจ้กเงียบกริบ ทุกคนต่างมองไปยังขาใหญ่แห่งแดนสิบสองอย่างสนอกสนใจ
" เออ...มีอะไร?" พี่โตถามกลับสั้นๆ อย่างไม่สนใจ
" ..ช่วงนี้ไปหาบ่อยจังว่ะ มีอะไรให้เล่นอีกเหรอ? " พี่ทินถามกลับ เล่น...ไม่ล่ะพี่ ดูจากท่าทีของพี่โตคราวนี้แล้ว เริ่องนี้มันไม่ใช่เล่นๆแน่นอน
"....จะอยากรู้ไปทำไม....ไอ้พวกนั้นคงจะหาอะไรดีๆมาให้มึงทำหรอก...." พี่โตเหยียดยิ้มพลางเปรยขึ้นมาเรียบๆ " ก็อุตส่าห์ส่ง"หมา"ตังนึงมาเฝ้ากระดูกของมันไว้แล้วนี่"
" ..............." คำพุดนั้นทำให้ทุกคนที่ฟังต่างก็เงียบไป ขณะที่บางรายเหลือบตามองไอ้เป้ไปพลาง แฝงด้วยแววตาระแวดระวังและไม่เป็นมิตร..
.
ผมหรี่ตามองท่าทีของทุกคนอย่างสังเกตสังกา พี่โตกำลังยิ้มเหยียดๆและก้มลงกินข้าวด้วยท่าทีไม่สนใจใคร ขณะที่ทุกคนในแกงค์เริ่มจะมองหน้ากันอย่างระแวดระวัง บ้างก็เหลือบมองไอ้เป้ที่ตอนนี้นึ่งขึง จ้องมองมายังพี่โตด้วยแววตาไม่พอใจลึกซึ้ง...
มองแล้วนึกถึงคำพูดของไอ้เป้ขึ้นมาได้...ที่มันบอกว่าพี่โตขึ้นสนิม....
...ผมมองท่าทีของมันแล้วอมยิ้ม กล้าพูดเหรอว่าพี่โตน่ะขึ้นสนิม คนใหม่อย่างมันถือตัวว่าเป็นที่โปรดปราน หรืออาจจะถูกหลอกล่อหว่านล้อมมาด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่
ทว่า หากคิดจะมาเป็นใหญ่ และจะมาอยุ่ในแดนสิบสองน่ะ แค่ได้รับการสนับสนุน เพียงแค่นั้นมันไม่พอหรอก..
และตอนนี้พี่โตก็กำลังเริ่ม"เล่น"สงครามประสาทกับมันอย่างเต็มรูปแบบ..
ปล่อยให้มันเหลิง ได้ใจ และทำตามใจ จนเผยธาตุแท้ เผยสิ่งที่ต้องการทำในที่สุด แล้วค่อยวางแผนตลบหลัง จัดการอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจนเจ็บเจียนตาย..
แบบเดียวกับผมและหลายคนในนี้เคยเจอ..
เเบบเดียวที่ล้มพี่กันย์และกำลังจะล้มมัน...ให้มาอยุ่แทบเท้าอย่างหมาขี้ แพ้ตัวหนึ่ง
....................................................................
" ที่พูดน่ะจริงเหรอ?" พี่เบิร์ดออกปากถามสั้นๆ นัยน์ตาจับจ้องไปยังจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายสารคดีสัตว์โลกน่ารู้อะไรสักอย่างอยู่ ท่ามกลางเสียงพูดคุยล้งเล้งของเหล่านักโทษในห้องดังอยุ่อย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีใครสนใจใคร ซึ่งผมก็ไม่ว่าหรอก เพราะการได้ดูโทรทัศน์ดูข่าวทีวีนี่ก็เป็นเพียงความบันเทิงไม่กี่อย่างที่มีได้ในเรือนจำแห่งนี้..
"...อะไร " พี่โตถามกลับสั้นๆ สายตาก็จ้องอยู่ที่หน้าจอเช่นกัน ไม่มีเหลียวมามองกันสักนิด ดูเผินๆเหมือนกับว่ากำลังพูดกับตัวเองอยู่ด้วยซ้ำ..
" ...ที่มึงพูดตอนกินข้าว " พี่เบิร์ดตอบ
" แล้วคิดว่ากูจะโกหกมั้ยล่ะ? " พี่โตยักไหล่ ตอบออกมาอย่างไม่คิดจะสนใจอะไรมากมายนัก..
" อยากให้พวกกูทำอะไรรึเปล่า?" น้ำเสียงเรียบๆนั้นถามต่อไป ขณะที่เสียงเฮดังมาแทรกบนสนทนา เพราะภาพเบื้องหน้ากำลังฉายภาพวัวกระทิงกำลังขวิดกันอย่างเมามันส์กลางทุ่งหญ้าทำให้เหล่านักโทษชายทั้งหลายต่างก็หัวเราะโห่ฮากันอย่างชอบอกชอบใจ
"....ไม่ต้อง "พี่โตตอบ พลางนิ่วหน้าเล็กน้อยกับเสียงเฮที่ดังกระหึ่ม " ปล่อยมันไป ทำอะไรเดี๋ยวจะเข้าตัวเปล่าๆ "
" แต่มันจะเล่นมึงไม่ใช่รึไง "พี่เบิร์ดขมวดคิ้ว ตอบกลับห้วนๆ
" กูดูเหมือนคนที่จะโดนเล่นงานง่ายๆเหรอ เอาเถอะน่า รอก่อน ถ้าถึงเวลา กูจะให้มึงจัดการตามสบายเลย " พี่โตตอบปัดๆ ด้วยท่าทีไม่สนใจ นัยน์ตากวาดมองรอบห้องก่อนจะมาสบตากับผมที่นั่งทำตาเเป๋วอยู่ข้างๆ ดวงตาคู่นั้นสะดุดกึก พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างขบขัน...
" มองอะไรหือไอ้น้องเนม ทำตาเเป๋วเชียวมึง " ว่าพลางยกมือมาขยี้ผมแล้วหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ แลดูอารมณ์ดีเแบบจริงๆจังๆ..
"....อยากรู้ไง " ผมยักคิ้วตอบ แต่ทำให้รอยยิ้มของคนฟังคลายลง พร้อมกับออกแรงโยกหัวผมเบาๆ
" ไม่บอก..." คำตอบนั้นทำให้ผมหน้าบึ้ง เอื้อมมือจะปัดฝ่ามือที่ขยี้ผมตัวเองออกไปจากหัว
"....แล้วมึงไปแอบฟังมา อย่าคิดนะว่ากูไม่รู้ "
"........." คำพูดนั้นทำให้คนฟังชะงัก...ไอ้เนมนิ่งไป ก่อนจะยิ้มร่าให้พี่โตอย่างประจบประแจงหวังจะลดโทษ แต่ในที่สุดก็ได้รับมะเหงกมาเป็นคำตอบ
" มานี่มา " ฝ่ามือหนาฉุกลากผมให้ลุกขึ้นท่ามกลางเสียงพูดคุยกันอย่างไม่สนใจใครของเหล่านักโทษทั้งหลาย
" ไปไหน " ผมขมวดคิ้ว ออกปากถามงงๆ
" ไปล้วงความลับ..." พี่โตตอบ พร้อมกับแยกเขี้ยวให้ด้วยดวงตาวาววับ
"............" ไอ้เนมชะงักพร้อมกับยิ้มค้าง สีหน้าของคนพูดที่แสดงความประสงค์ชัดเจนนั้นทำให้ขำไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ...แต่จะคัดค้านก็ช้าไปเสียแล้ว...เพราะพี่โตได้ทำการฉุดกระชากลากอุ้มผมออกจากห้องดูโทรทัศน์อย่างง่ายดาย..
แต่มันคงเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนนิดหน่อย เพราะตอนนี้คำถามของไอ้เนมไม่ใช่จะหนียังไง แต่กลายเป็น...คราวนี้จะเป็นที่ไหนกันนะ?
ไม่ได้หื่นน่ะคร้าบบบบบ แต่ไม่อยากให้ใครมาเจอเฟ้ย !!
..........................................
" อือ......อ่ะ "ริมฝีปากเม้มแน่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ส่งเสียงอะไรออกไป ใบหน้าซุกซบลงบนหมอนสีน้ำตาลเข้มบนเตียงหนา
"....หันมาหน่อย "เสียงกระซิบเบาๆ พร้อมกับลมหายใจร้อนนั้นทำให้เส้นขนพากันลุกเกรียวด้วยความซ่านสยิว นัยน์ตาหรี่ลงเล็กน้อยยามที่ถูกพลิกร่างให้นอนหงาย น้ำใสๆเอ่อคลอนัยน์ตาทำให้ภาพของผู้ชายทำกำลังขยับกายอยู่บนร่างนั้นเลื่อนลอย เบลอพร่ามองไม่ชัด แต่นั่นกลับสร้างอารมณ์หวามไหวได้มากกว่าเคยเสียงอีก
ผมเม้มปากแน่น พยายามกลั้นเสียงร้องที่ชักจะดังขึ้นเรื่อยๆไว้อย่างยากเย็น มองเห็นเงาร่างกำยำของผู้ชายที่คุ้นเคยดีขยับตัวอยุ่บนร่าง ขาทั้งสองข้างของผมเกี่ยวรัดเอวหน้าและถูกมือใหญ่จับกระชับไว้ตรงบั้นเอว มองเห็นเอวเกร่งที่มีมัดกล้ามสวยน่าลูบไล้กำลังขยับเข้าออกอย่างช้าๆ บางครั้งก็เปลี่ยนเป็นกระแทกกระทั้งรุนแรงจนต้องร้องอู้ ครางสั่นในลำคอ
" มะ....พี่โต..เดี๋ยวสิ " ผมร้องเสียงสั่น เกร็งตัวแน่นเมื่อถูกดึงแขนทั้งสองข้างให้ขยับกายขึ้นจากเตียงหนา แว่วเสียงแล่นเอี๊ยดอ้าดเป็นจังหวะแสนลามกแล้วหน้าแดงก่ำ พี่โตใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวผมไว้แน่น ดึงแขนทั้งสองข้างของผมให้พาดลงบนไหล่หนา พร้อมกับแรงกระแทกจากด้านล่างทำให้ผมสะดุ้งเอือก เนื้อตัวสั่นระริก
เรือนกายแข็งแกร่งผ่าวร้อนของพี่โตที่แทรกเข้ามาในร่างอย่างรวดเร็ว ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก เปล่งเสียงออกไปอย่างหลงลืมตัว แต่แทนที่คนทำจะนึกสงสารกลับยิ่งออกแรงกระแทกตัวเข้ามาอีกไม่ยั้งจนเนื้อตัวสั่นไหวไปหมด ผมจิกเล็บเข้ากับไหล่หนา ส่งเสียงครางเป็นห้วงๆใบหน้าแดงจัดอย่างไม่อาจจะทานทนไหว
" อา...พี่โต ...." ผมส่งเสียงครางเบาๆกระซิบใกล้กับใบหูของคนที่กอดรัดไว้ เป็นสัญญาณที่รู้กันดีว่ากำลังจะอดทนต่อความรู้สึกที่พลุ่งพล่านภายในกายไม่ไหว ผมส่งเสียงครางปนสะอื้นถี่ ริมฝีปากขบเม้มใบหูของพี่โตพลางจรดริมฝีปากแตะลงบนต้นคอหนาด้วยความวาบหวาม ขณะที่จังหวะเสียดสีเบื้อล่างเปลี่ยนเป็นเร่งเร้า รุนแรงตามอารมณ์ที่ใกล้จะปะทุ
"..อื้อ....." พยายามกลั้นเสียงร้อนจนต้องงับปลายฟันขบกับริมฝีปากสุดแรงจนเจ็บชา แต่สุดท้ายเสียงครางที่พยายามกลั้นก็ทนไม่ไหว ผมหอบสั่น ครางในลำคอออกมาเบาๆด้วยความซ่ายสยิว ยามที่พี่โตค่อยๆถอนกายที่ปลดปล่อยออกไปจากร่างกายท่อนล่าง..
คราบสีขาวขุ่นที่เปื้อนผ้าปูเตียงทำให้ผมหน้าแดงวาบ ผละจากอ้อมแขนที่รัดแน่นอย่างทุกลักทุเล แล้วได้แต่มองพี่โตตาขุ่น ชอบนักล่ะเรื่องหื่นๆ แถมชอบเหลือเกินที่จะเปิดเผยให้ชาวบ้านรู้เนื่ย..
พี่โตมองสบตาเคืองๆของผมแล้วได้แต่ผมยิ้มขับ ฟันคมอ้างับเอาริมฝีปากล่างของผมไว้เบาๆก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาคลอเคลียอย่างอารมณ์ดี
ปลายลิ้นที่เข้าซอกซอนในโพรงปากทำให้ผมครางอู้ อดจะรู้สึกดีกับมันไม่ได้ตามเคย
สมองพยายามต่อต้านว่ากำลัง"ทำ"กันอยุ่ที่ไหน พยายามบอกว่าถ้าพี่กันย์รู้ล่ะก็ ไม่เว้นจะโดนมองด้วยสายตาไม่พึงใจและท่าทีที่แสดงออกชัดเจนว่า"เบื่อหน่าย"การกระทำแบบไม่มียางอายบนหน้าของพี่โตแน่ๆ
แต่ทว่าสุดท้าย อ้อมแขนแข็งแกร่งที่กอดเอาไว้แนบแน่นกับริมฝีปากที่เข้ามากอดจูบคลอเคลียนั่นก็ทำให้ผมยอมแพ้กับมันในที่สุด...
...ช่างหัวพี่กันย์เถอะ..
ในที่สุดกว่าจะผละกันออกมาได้แก้มก็แดงจัดแข้งขาอ่อนไปหมดจนต้องกอดพี่โตไว้อย่างยอมแพ้ ..พร้อมกับเงยหน้าแดงๆขึ้นไปจ้องเขม็ง..
“ พี่นี่หื่นขึ้นทุกวัน “ ไอ้เนมบ่นพลางทำหน้ายู่ใส่..
“ มึงก็ให้ความร่วมมือไม่ใช่รึไง “ พี่โตว่า ชะ พูดยังกับว่าไม่ให้ความร่วมมือได้ บอกไม่เอาไปก็พล่ามอยู่ท่าเดียว “อย่าให้กุได้ข่มขืนมึงนะ”ตลอดล่ะ ตลอดดดดด
“ จะเอาไงกับผ้านี่ล่ะ เดี๋ยวพี่กันย์มาเห็นเจอเฉ่งอีกแน่” ไอ้เนมว่าพลางมองคราบที่ติดอยู่บนผ้าปูเตียงด้วยสีหน้าจืดเจื่อน
“ เหอะ ไม่เห็นต้องสน...ลองมันกล้าว่าสิ “ พี่โตยักไหล่ไม่แคร์ ตัวเองทำเปื้อนแล้วมาทำเมิน คิดว่าคนอื่นเขาจะปลื้มรึไงนะพี่..
“ เดี๋ยวก็ได้มี....”
ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูเบาๆทำให้ผมและพี่โตสะดุ้งเฮือก เหลียวมองประตูห้องพยาบาลที่ถูกปิดล๊อกด้วยฝีมือของขาใหญ่แห่งแดนสิบสองอย่างระแวดระวัง พี่โตขมวดคิ้ว ท่าทีเต็มไปด้วยความสงสัย ขณะที่ไอ้เนมรีบผละออกจากอ้อมกอดนั้น คว้าเสื้อผ้าที่กองเรี่ยราดมาสวมอย่างรวดเร็ว..
ก๊อกๆๆๆๆ
"..........." คราวนี้พี่โตหน้าบึ้งจัด เพราะเป็นที่รู้กันแล้วว่า หากห้องพยาบาลปิดหรือไม่มีคนขานรับ นั่นแสดงว่าที่แห่งนี้..ซึ่งกลายเป็นแหล่งกับดานของกลุ่มพี่โตแห่งแดนสิบสอง กำลังถูกใช้อยู่ ไม่ว่าจะเจ็บปวดหรือมีธุระปะปังอะไรก็ตาม มันผู้นั้นต้องไสหัวกบาลกลับไปก่อนจะโดนตีน..
....แล้วไอ้คนที่มานี่มัน..อะไรล่ะเนี่ย...
" ...ไม่มีใครอยู่ "เสียงพึมพัมที่ดังแว่วๆนั้น ทำให้ริมฝีปากที่จะอ้าถามของผมหุบลงโดยอัตโนมัติ เดินลงมาหาพี่โตแม้สะโพกจะยังเคล็ดขัดยอกไม่น้อย พร้อมๆกับหยิบเอากางเกงมาให้พ่อคนที่ยืนโทงๆไม่สนใจชาวบ้านอยู่ตรงหน้า
" เหรอ? ทุกทีก็เปิดไว้นี่ถึงไม่มีคนอยู่ก็เถอะ " น้ำเสียงที่ค่อนข้างคุ้น ทำให้ผมขมวดคิ้วอีกรอบ นัยน์ตาหรี่ลงอย่างครุ่นคิด
" เอาเถอะ คุยกันข้างนอกก็ได้ "เสียงนั้นตอบรับพร้อมกันนั้นประตูก็ส่งเสียงกึก...ดังขึ้นเบาๆซึ่งแสดงว่าไอ้คนที่มานั่นมันต้องเอาหลังเอนไม่ก็นั่งพิงประตูอยู่แน่ๆ
" ....แล้วจะว่าไง " เสียงนั่นมาอีกแล้ว ผมขมวดคิ้วอีกครั้ง เมื่อชักจับเค้าลางของมันได้มากกว่าเดิม
"...ย้ายมาอยู่กับกูเถอะน่า..ไม่เห็นรึไงว่าพวกมันทำกับมึงยังไง " น้ำเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น ด้วยสำเนียงออดอ้อน
" แค่บอกให้กูรู้กูก็รอดแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำแบบนั้นมันอันตรายทั้งสองคนนะ "
ในที่สุดผมก้นึกออกว่าเสียงนั้นคือใคร
แม้จะไม่ได้ยินบ่อยนัก ทว่าความหมั่นไส้และความโดดเด่นของมันก็ทำให้ผมจดจำมันได้มากพอ
..และที่สำคัญ ผมเพิ่งจะได้ยินมันคุยกับพี่โตไปเมื่อเย็นนี้นี่เอง..
ใช่แล้ว มันนั่นล่ะ...
" เป้....นี่เรื่องใหญ่นะมึง พี่กูฆ่าแน่ถ้ากูบอกคนอื่น "
" มึงเห็นว่ากูเป็นคนอื่นสินะ งั้นก็อย่าช่วยกูเลย ปล่อยให้กูโดนพี่โตแม่งยำตีนสิ มันเกลียดกู มึงก็เห็นแล้วนี่.." ผมสบตาพี่โตที่ลุกวาบ นัยน์ตาคู่นั้นหันมามองสบเพียงชั่วครู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าตอนนี้พวกเราต้องนิ่งเงียบ และฟังแผนการ์ณของมันทั้งหมดให้ออก..
"...แค่บอกเรื่องที่นายมึงสั่งให้ทำ แค่นี้มันยากเกินไปเหรอ...? ถ้าบอกแล้วเราจะได้ออกไปด้วยกันนะ "
.....คำพุดนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่น พยายามต่อจิกซอว์ที่กระจัดกระจายในหัวสมองอย่างสุดความสามารถ..
ไอ้เป้กับใครสักคนเดินมาคุยกันที่ห้องพยาบาลที่มีพี่กันย์ประจำอยู่...?
มันคุยกับพี่โตเย็นนี้เรื่อ"งาน"ที่ป้าสั่งมาให้ทำ ....?
และเมื่อกี้ ที่มันพูด....
ออกไป....
ออกไปไหน?
......................................................................
สวัสดีปีใหม่เคอะทุกท่าน ลั้ลลา.. ยังไงก็แฮปปี้ปี 2554 นะค่ะชาวบ้านเขาอวยพรกันหมดแล้ว งั้นเราก็อวยพรเหมือนทุกคนแล้วกัน (หลบตีน

)
...ขออวยพรให้พลังวายของทุกคนจงเพิ่มพุนขึ้นในปีใหม่นะค่ะ 55+

ตอนนี้มาอัพแล้วนะเคอะ แอบหื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง หลังจากตอนที่แล้วชื่อตอนชวนคิด ต่อนี้ชื่อตอนไม่เกี่ยว จะมาก็มาเอง 555+
....และเป้มันจะมาทำอะไรกันแน่หนอ ..จะเอาไงกันนะ หุหุห
ปล. ตอนหน้าผุ้พันและป๋าที่รักของใคร(ก้ไม่รู้)จะกลับมาแล้วนะจ๊ะ..
