Level 35: คำสัญญาหลังจากกินอาหารกลางวันกับพี่ลิงก์ที่โรงอาหารของคณะบริหารเสร็จ ผมที่มีเรียนแค่ตอนช้าก็ว่างแล้วครับ ตอนนี้ก็ได้แต่รอเวลาเพื่อที่จะได้กลับพร้อมกันในตอนเย็น
ผมกวาดตามองรอบตัว เมื่อก่อนผมก็มักจะมาที่นี่เพื่อถ่ายรูปของพี่ลิงก์เป็นประจำ พอนึกย้อนกลับไปก็รู้สึกตลกกับความบ้าบอของตัวเองเหมือนกันครับ
เนื่องจากไม่อยากไปไหนไกล ผมเลยตัดสินใจไปนั่งฆ่าเวลาที่ร้านกาแฟดังในบริเวณนั้น ถึงแม้ราคาของกาแฟแต่ละแก้วจะไม่ต่ำกว่าหลักร้อย แต่ที่นี่ก็ยังได้รับความนิยมสม่ำเสมอ ผมสั่งโกโก้เย็นมาแก้วหนึ่ง แล้วหาที่นั่งรอบตัว
"พี่บลู"
เสียงเรียกที่ดังขึ้นไม่ห่าง ทำให้ผมต้องหันไปมอง แล้วก็เห็นหลานรหัสที่ไม่ได้ติดต่อมาคลอดปิดเทอมจนถึงตอนนี้
"อ้าว"
ผมส่งยิ้มให้ ถึงแม้ในใจจะรู้สึกแตกต่างจากที่ผ่านมาก็ตาม ซียกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มมาให้อย่างสุภาพ
"ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้"
ผมถามอย่างสงสัย คณะบริหารและคณะวิทยาศาสตร์ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลยสักนิด ซึเดินนำผมไปยังโต๊ะของเขาที่มีของวางอยู่
"พอดีเมื่อเช้าถูกยกเลิกคลาส แล้วเย็นนี้จะมีประชุม ผมก็เลยมานั่งรอเวลาที่นี่ คือ...ผมเป็นแฟนคลับกาแฟเจ้านี้"
"อ้อ"
ผมพยักหน้ารับแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นคนตรงหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมนัก ผมก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
"อืม พี่ก็มานั่งฆ่าเวลาเหมือนกัน"
"มารอพี่ลิงก์ใช่ไหมครับ"
"อืม"
เสียงเพลงเบาสบายดังขับกล่อมบรรยากาศ ผมดูดโกโก้ของตัวเองไปเรื่อยพลางเลื่อนปลายนิ้วบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้น เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่มองมา
ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถาม ซึก็นั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าและแววตาก็จริงจังขึ้น
"ผมมีเรื่องจะสารภาพ"
"อะไรเหรอ"
"ผมชอบพี่ครับ"
ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วพยักหน้ารับช้าๆ เรื่องนี้ผมรู้แล้ว ก็อีกฝ่ายบอกความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
"ที่ผ่านมาถ้าผมทำให้พี่เดือดร้อนหรือรำคาญใจ ก็ขอโทษด้วยครับ ผมก็แค่อยากคุยกับพี่เฉยๆ ไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่านั้น"
"อ่า...ไม่เป็นไร"
"ผมชอบพี่ตั้งแต่อยู่มอสี่แล้ว แต่ไอ้กรีนหวงพี่มาก ใครที่เข้าใกล้พี่ มันก็กันท่าไปทั่ว แล้วพี่ก็เหมือนชอบอยู่คนเดียวไม่อยากยุ่งกับใคร แถมผมก็เป็นผู้ชายด้วย ผมก็เลยแอบมองพี่มาตลอดเลย"
ผมรู้สึกเขินนิดหน่อย ยิ่งมาเห็นใบหน้าขึ้นสีเลือดฝาดของซี ผมก็ปั้นหน้าไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าวันนี้จะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนี้ก็ได้แต่รับฟังความรู้สึกของอีกฝ่ายเงียบๆ ครับ
"ที่ผมมาเรียนที่นี่ แล้วก็เลือกคณะนี้ ก็เพราะอยากเจอพี่อีกครั้ง พอรู้ว่าได้เป็นสายรหัสเดียวกัน ผมก็เลยคิดว่า...บางทีผมอาจจะมีหวัง"
นี่ผมทำลายความหวังของคนอื่นแบบไม่รู้ตัวเหรอ...
"ขอโทษนะ"
"ผมโอเคครับ ตั้งแต่ที่รู้ว่าพี่มีแฟนแล้ว แถมยังเป็นผู้ชายด้วย ผมทั้งดีใจทั้งเสียใจเลย ทุกวันนี้ก็ยังเจ็บใจที่น่าจะจีบพี่ตั้งแต่ตอนนั้น"
ผมถอนหายใจออกมา ถึงแม้ซีจะเล่าความในใจอย่างลื่นไหล แต่สีหน้าของเขากลับซึมเศร้าลงเรื่อยๆ รอยยิ้มที่ฝืนส่งมาให้ก็น่าสงสารจนผมรู้สึกหน่วงในใจ
"ผมไม่ได้แช่งนะ แต่ถ้า...พี่เลิกกับเขาแล้ว คนต่อไปที่พี่จะคบด้วย ช่วยมองผมเป็นคนแรกได้ไหมครับ"
น้ำเสียงทุ้มเว้าวอน ทว่าแววตามั่นคง ทำให้ผมต้องเกร็งตัวขึ้นพลางดูดเครื่องดื่มของตัวเองอย่างครุ่นคิด โกโก้เย็นจืดชีดจนไร้รสชาติ
"พี่ขอบคุณความรู้สึกที่ซีมีให้นะ แค่ซีก็ควรเปิดใจ อย่ารอพี่เลย"
ผมไม่ได้ใจร้ายไปใช่ไหมครับ
"ผมไม่ได้รอพี่หรอกครับ เพราะผมก็ไม่ได้หวังอะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว ก็แค่...ถ้าพี่ต้องการรักครั้งใหม่จากใครสักคน ผมก็พร้อมเสมอครับ"
ซีส่งยิ้มมาให้อีกครั้งพร้อมกับสายตาแน่วแน่ ถึงแม้จะรู้สึกแปลกกับคำพูดนั้น แต่ผมก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
"เอาเป็นว่า...พี่บลูเป็นลุงรหัสของผมเหมือนเดิมก็พอครับ"
"อืม"
+++++++++
"พรุ่งนี้จะพาบู้ไปที่บ้านนะ"
"ฮะ?!"
ผมหันไปมองพี่ลิงก์์ด้วยความตกใจ แต่อีกฝ่ายกลับนั่งกินไอศกรีมอย่างสบายอารมณ์
"ไปที่บ้าน?"
ผมย้อนถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ พี่ลิงก์ก็พยักหน้ารับพลางกระดกช้อนที่กำลังงับอยู่เล่นเป็นคำตอบ
"ไปทำไมครับ"
"พ่อกับป๊าอยากเจอ"
ผมขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล แล้วอ้าปากรับไอศกรีมที่พี่ลิงก์ป้อนให้อย่างใช้ความคิด ในเมื่อเขาไปแนะนำตัวเองที่บ้านของผมแล้ว ตอนนี้ก็คงถึงคราวของผมบ้าง
"ไม่มีอะไรหรอก แค่ไปกินข้าวเย็น"
"อ่า...ตรับ"
ถึงจะตอบรับไปแบบนั้น แต่ผมก็รู้ดีว่า ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย
ครอบครัวของพี่ลิงก์เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงครับ ถึงทั้งพ่อและป๊าของเขาจะไม่ได้ออกสื่อสังคมเท่าไหร่นัก ในฐานะที่เป็นเจ้าของบริษัทหลายแห่งก็สามารถการันตีความรวยจริงของพวกเขาได้ แน่นอนว่าสังคมผู้มีอันจะกินไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้าผมทำตัวไก่กาไม่รู้เรื่องรู้ราว สร้างประโยชน็ให้ลูกชายของพวกเขาไม่ได้ มีหวังโดนเหยียบย่ำเละเป็นซากแน่เลยครับ
"บู้น่ารัก พ่อกับป๊าต้องชอบแน่"
พี่ลิงก์ให้กำลังใจ แล้วป้อนไอศกรีมให้ผมอีกครั้ง ผมพยักหน้ารับ ทั้งที่คิ้วขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิม
++++++
ผมมองสำรวจตัวเองในกระจกเงาเพื่อเช็กความเรียบร้อย วันนี้ผมกำลังจะไปบ้านของพี่ลิงก์เพื่อเจอพ่อกับป๊าของเขาแล้วครับ
เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่นุ่งทับในกางเกงขายาวสีดำพร้อมกับคาดเข็มขัดเรียบร้อย
อืม...เหมือนกำลังจะไปสมัครงานเลยว่ะ
"อืม เรียบร้อยดี"
พี่ลิงก์เดินวนพิจารณาผมรอบหนึ่ง ผมได้ยินเขาแอบหัวเราะด้วย แต่พอหันไปมอง อีกฝ่ายก็รีบเดินหนีไปอีกทางเสียก่อน
"ไปกันเถอะ"
ผมลอบถอนหายใจออกมา แล้วเดินไปหยิบถุงแอ๊ปเปิ้ลตามคนตรงหน้าออกจากห้อง
ระยะทางระหว่างคอนโดมิเนียมและบ้านของพี่ลิงก์ไกลพอสมควรครับ ทั้งที่เบาะนุ่มสบายและแอร์เย็นฉ่ำ ผมกลับลุกลี้ลุกลนและเหงื่อออกจนเกร็งไปหมด
"ตอนลิงก์ไปที่บ้านบู้ยังไม่เป็นขนาดนี้เลย"
"ไม่เหมือนกันนี่ครับ"
พี่ลิงก์เลิกคิ้วมอง ผมก็ถอนหายใจออกมา แล้วบอกเสียงเบา
"ก็พี่ดูดีกว่าผมตั้งเยอะ"
"พ่อกับป๊าไม่ได้สนเรื่องแบบนั้นหรอก"
ผมหันไปมอง แล้วพยักหน้ารับด้วยความกังวลไม่เสื่อมคลาย พอมองการแต่งกายของพี่ลิงก์ที่ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ ผมก็เหมือนจะแต่งตัวเกินหน้าเกินตาไปเยอะเลยครับ
"พี่ว่า...ผมโอเคใช่ไหมครับ"
ผมถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ พี่ลิงก์หันมามองผมอีกครั้ง ก่อนจะดึงแก้มของผมเต็มแรงจนต้องร้องออกมา
"โอ๊ย! ปล่อย! ผมเจ็บ!"
"เลิกคิดมากได้แล้ว"
"แต่ว่า..."
"บู้โอเคที่สุดเลย"
++++++++
พวกเราใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึงที่หมาย เมื่อโฟล์ก บีเทิลสีดำจอดในโรงจอดรถเรียบร้อย ผมก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อกวาดตามองโดยรอบ
รถสปอร์ตจอดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ความหรูหราสวยงามเจิดจรัสจนผมไม่กล้าแตะต้อง โฟล์ก บีเทิลที่ดูโดดเด่นกลับไร้ราคาขึ้นมาทันทีเลยตรับ
"ของป๊า"
พี่ลิงก์บอกด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ก่อนจะเดินนำผมไปยังบ้านหลังขนาดกลางที่เงียบสงบ ผมหันซ้ายหันขวาอย่างตื่นเต้น
"มีน้ำตกจำลองด้วย"
เส้นทางที่กำลังเดินอยู่ปูด้วยหินกรวดเป็นลวดลายตัดกับสนามหญ้าสีเขียวสด ด้านข้างมีศาลาไม้ขนาดเล็กและน้ำตกจำลองที่ทำให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในธรรมชาติ
"ของพ่อ"
พี่ลิงก์ยังพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ เขาเปิดประตูกระจกเข้าไปด้านในของบ้าน
"เปลี่ยนรองเท้าด้วย"
"ครับ"
ในขณะที่ผมกำลังเปลี่ยนใส่สลิปเปอร์อยู่นั้น เสียงของใครคนหนึ่งก็ทำให้ผมเกร็งจนต้องยืนตรงด้วยความตกใจ
"รถติดเหรอ ป๊าคิดว่าลิงก์จะมาถึงเร็วกว่านี้"
"รถติด"
ผมพยายามตั้งสติ และเมื่อได้ประสานสายตากับป๊าของพี่ลิงก์ ผมก็รีบยกมือไหว้ด้วยท่าทีแข็งทื่อ
ผมนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ถึงจะเข้าช่วงวัยกลางคนและเป็นถึงประธานบริษัทที่ชวนให้หวั่นเกรง แต่บุคคลตรงหน้ากลับเหมือนดาราหน้าใสที่อ่อนกว่าวัยไปเป็นสิบปี แถมยังหน้าตาดี ผิวขาว ตัวสูงจนเหมือนพี่ชายมากกว่าจะเป็นป๊าอีกครับ
"คนนี้เอง ตอนนั้นเห็นแวบๆ"
ผมกะพริบตาปริบๆ แล้วส่งยิ้มแหยออกมา เมื่อได้รับรอยยิ้มเอ็นดู
"บลูใช่ไหม ลิงก์เล่าให้ฟังนานแล้ว ไม่ต้องเกร็งนะ ตามสบาย"
"...ครับ"
ป๊าพยักหน้ารับ แล้วหันไปสนใจพี่ลิงก์ที่กำลังมองผมด้วยรอยยิ้มอยู่
"วันนี้พ่อจะให้ลิงก์มาเลือกตุ๊กตาพอดี เต็มห้องไปหมด จะเอาไปบริจาค"
พี่ลิงก์ชักสีหน้าออกมา เขาเดินตามป๊าพร้อมกับน้ำเสียงขุ่นเคือง
"จะเอากี่ตัว"
"ก็เอาให้มากที่สุด ลิงก์ก็เลือกมาแล้วกัน"
"ไม่อยากให้สักตัว"
พี่ลิงก์บ่นงึมงำ ผมก็ได้แต่เดินตามไปเรื่อยพร้อมกับถุงแอ๊ปเปิ้ลในมือ ก่อนจะชะงักฝีเท้า เมื่ออยู่ดีๆ ป๊าก็หันกลับมามอง
"บลูเอาแอ๊ปเปิ้ลไปวางไว้ที่โต๊ะเลย อยู่ทางนั้น"
"ครับ"
ผมรีบเดินไปทางที่ป๊าบอกพลางลอบมองบริเวณโดยรอบไปด้วย ทั้งที่เป็นบ้านของผู้บริหารใหญ่ แต่กลับไม่มีคนรับใช้อย่างที่คิดเอาไว้เลยสักคนครับ
ผมเดินมาถึงโต๊ะ แล้วมองเลยเข้าไปด้านในที่เป็นห้องครัว ผมตั้งใจจะไปล้างและปอกแอ๊ปเปิ้ล ทว่าก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายหน้าตาดีอีกแล้ว!
ผมอ้าปากค้างเงยหน้ามองบุคคลตรงหน้าที่มีสีหน้าเรียบนิ่ง นัยน์ตาคมที่จ้องมองผมแบบไร้คำพูด ทำให้บรรยากาศแตกต่างจากป๊าลิบลับ ผมรีบยกมือไหว้แบบเก้ๆ กังๆ
"สวัสดีครับ"
"อืม แฟนลิงก์ใช่ไหม"
"ครับ"
ในขณะที่ผมกำลังยืนทำอะไรไม่ถูก เสียงของพี่ลิงก์ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้สายตาที่กำลังพิจารณาผมเลื่อนไปมองเขาแทน ผมลอบถอนหายใจออกมา
"พ่อจะเอาตุ๊กตาของลิงก์ไปให้คนอื่นอีกแล้วเหรอ"
"ถ้าจะซื้อใหม่ก็ต้องเอาของเก่าออกไป"
น้ำเสียงราบเรียบดังขึ้น พี่ลิงก์ก็ถอนหายใจออกมา
"ถ้าไม่ซื้อแล้วล่ะ"
พ่อมีท่าทางแปลกใจ พี่ลิงก์ที่เคยตัวโตดูเล็กลงในทันทีเลยครับ ใบหน้าหล่อบึ้งตึงเล็กน้อย
"รอบนี้ลิงก์จะให้แค่รอบสุดท้ายนะ พ่อห้ามเอาตุ๊กตาของลิงก์ไปอีก"
"อืม ถ้าไม่ได้ซื้ออีก"
"แหม...เดี๋ยวนี้มีแฟนให้กอดก็ไม่เอาตุ๊กตาแล้วเหรอ"
เสียงของป๊าดังขึ้น พี่ลิงก์ก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร อีกฝ่ายก็หัวเราะชอบใจ เอานิ้วจิ้มแก้มของลูกชายเล่นแกมหยอก ผมลอบมองท่าทีนั้นแล้วคิดในใจ
การที่พี่ลิงก์ชอบแกล้งผม อาจเป็นเพราะเขาถูกป๊าแกล้งบ่อยๆ จนเก็บกดหรือเปล่า?
++++++++
"พ่อปอกแอ๊ปเปิ้ลแบบนี้ได้ไง ต้องเป็นกระต่ายสิ จะได้น่ากิน"
ป๊าพูดขึ้น เมื่อมองพ่อที่กำลังปอกแอ๊ปเปิ้ลใส่จาน พี่ลิงก์ไม่ได้มีท่าทีใส่ใจ เขานอนเหยียดขาเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟาข้างผมครับ
"เรื่องมาก"
พ่อว่า แต่ก็ยอมใช้มีดแต่งแอ๊ปเปิ้ลเป็นกระต่าย ป๊ายิ้มรับ แล้วหยิบผลไม้ในรูปแบบที่ต้องการมากินอย่างสบายอารมณ์
"ให้ผมนั่งเฉยแบบนี้จะดีเหรอ"
"อืม แล้วอยากทำอะไนล่ะ"
"ก็ไม่รู้สิครับ"
ืทั้งพ่อและป๊าไม่ได้พูดคุยอะไรกับผมนัก นอกจากทักทายในตอนแรก ทั้งสองคนก็ให้ผมไปนั่งเล่นตามสบาย บางทีพวกเขาอาจจะสืบประวัติของผมมาหมดแล้วก็ได้!
"ตอนแรกผมคิดว่า ที่นี่จะมีคนรับใช้เหมือนในละคร"
ผมนั่งเล่นมาสักพักแล้วครับ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีผู้อยู่อาศัยแค่สี่คนเท่านั้น
"พ่อไม่ชอบให้คนมาเดินวุ่นวายในบ้านน่ะ แต่ป๊าก็ให้แม่บ้านกับคนสวนจากบ้านใหญ่มาดูแลเป็นประจำแบบไม่ค้างคืน"
ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะแอบสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเสียงของพ่อดังมาจากด้านหลัง
"เย็นนี้บลูอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม"
"เอ่อ...ผมกินได้หมดเลยครับ"
"กินสุกี้ก็ได้ ง่ายดี"
พี่ลิงก์พูดขึ้น พ่อไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร นอกจากน้ำเสียงเฉยชา
"อาหารมักง่าย"
"อย่ามาดููถูกสุกี้นะ มันคืออาหารของครอบครัว อาหารแห่งความอบอุ่น"
ป๊าแย้งขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ พ่อก็ทำหน้าเบื่อหน่าย แต่เผลอแป๊บเดียว ก็ยกหม้อสุกี้และวัตถุดิบพร้อมสรรพมาวางไว้บนโต๊ะเหมือนเตรียมไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
อ่า...
ผมไม่รอช้า รีบลุกขึ้นกระวีกระวาดไปช่วยเตรียมของอย่างอื่นทันที
+++++++++
หลังจากได้พูดคุยระหว่างมื้ออาหาร ผมก็ปรับตัวได้เป็นปกติ แล้วมองพ่อกับป๊าที่ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันด้วยรอยยิ้ม ไม่คิดว่าครอบครัวที่มีแต่ผู้ชายแบบนี้ก็ให้บรรยากาศอบอุ่นและอ่อนโยนได้เหมือนกันครับ
ผมอาสาเก็บล้างทั้งหมด ส่วนพี่ลิงก์ก็ไปเลือกตุ๊กตาเพื่อจะนำไปบริจาค
"เสร็จแล้วเหรอ"
ป๊าพูดขึ้น ตอนที่ผมเพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว
"ครับ มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ"
"งั้นก็ช่วยดูแลลิงก์ด้วย ลูกชายป๊าเลี้ยงยากหน่อย แต่่ก็เป็นคนดี ป๊ารับรองได้"
ผมนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แต่เมื่อได้สบสายตาอ่อนโยนปละรอยยิ้มอบอุ่น ผมก็ยิ้มออกมา
"ครับ ผมจะดูแลพี่ลิงก์ให้ดีที่สุดเลยครับ"
++++++++
ผมนั่งฟังป๊าเล่าเรื่องสมัยเด็กของพี่ลิงก์มาสักพักหนึ่ง ก่อนคนที่ถูกนินทาจะมาลากผมขึ้นห้องนอนของเขาครับ
"เลือกของเสร็จแล้วหรือครับ"
"อืม"
พี่ลิงก์ทำหน้างอพร้อมกับดึงผมเข้าไปนั่งด้วยกันบนเตียงหลังใหญ่
"เมื่อกี้นินทาลิงก์กันสนุกเลยสิ"
ผมแค่ยิ้มรับ ก่อนจะถูกพี่ลิงก์กัดแก้มจนต้องร้องโวยวายออกมา เขาถึงจะพอใจ
"ป๊าเอารูปพี่ตอนเด็กมาให้ดูด้วย น่ารัก"
"แล้วตอนนี้ล่ะ"
พี่ลิงก์หันมาสบตากับผม นัยน์ตาสีดำมีประกายไม่น่าไว้วางใจชัดเจน
"ก็..."
ผมรู้สึกว่าตอบแบบไหน ก็ไม่ปลอดภัยครับ ฮือ...
"ว่าไงครับ"
"...น่ากลัว"
หลังจากได้ฟังคำตอบ พี่ลิงก์ก็ผลักผมให้ล้มไปนอนบนเตียงทันที ก่อนที่เขาจะทาบทับ แล้วจูบจนผมตัวอ่อนไปหมด เสียงหอบหายใจดังขึ้น เมื่อเขาปล่อยริมฝีปากของผมให้เป็นอิสระ
"มันเขี้ยว"
พี่ลิงก์ดึงผมไปนอนกอดจนเต็มวงแขน ผมได้แต่ปรับลมหายใจของตัวเอง แล้วซบลงที่หน้าอกฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว
"ลิงก์มีความลับจะบอก"
น้ำเสียงทุ้มที่ดังขึ้น ทำให้ผมต้องเลื่อนสายตาขึ้นมอง พี่ลิงก์คลายอ้อมแขนออก แล้วยกมือเท้าหัวนอนตะแคงมองผมแทน มือของเขาข้างหนึ่งลูบหัวของผมเล่นเบาๆ
"อะไรหรือครับ"
"ทั้งที่พ่อกับป๊าไม่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับลิงก์เลย แต่พวกเขาก็รักและดูแลลิงก์ดีมาก แต่ก็ยังรู้สึกไม่มีอะไรที่เป็นของตัวเองสักอย่าง เหมือนยืนอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง"
ผมกะพริบตาทีหนึ่งพร้อมกับตั้งใจฟังความในใจของพี่ลิงก์ เขาอมยิ้มออกมา สายตาเจ้าเล่ห์ก่อนหน้านี้หงอยเหงาขึ้น
เรื่องของพี่ลิงก์ที่ถูกรับเลี้ยงจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมเพิ่งจะมารู้เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนเองครับ เพราะเขาเล่าถึงแรงกดดันจากการทำงานที่บริษัท ซึ่งญาติคนละสายเลือดบางคนไม่ยอมรับ
"เพราะพี่รู้สึกเหงา ถึงได้ชอบตุ๊กตาหรือครับ"
ว่ากันว่า...คนที่ชอบตุ๊กตามักเป็นคนขี้เหงา
"อาจจะเป็นอย่างนั้นมั้ง"
พี่ลิงก์ยิ้มบาง มือของเขาเลื่อนมาลูบแก้มของผมแผ่วเบา
"แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้ว เพราะมีบู้ที่อยู่ด้วยกัน"
ผมยิ้มออกมา แล้วมองนิ้วก้อยของพี่ลิงก์ที่ยื่นมาตรงหน้า
"สัญญากัน ไม่ว่ายังไงเราก็เห้ามเลิกรักกันนะครับ"
ผมยิ้มกว้างมากกว่าเดิมกับท่าทางน่ารักของพี่ลิงก์ ก่อนจะยกนิ้วก้อยของตัวเองเกี่ยวนิ้วก้อยของเขาเอาไว้ด้วยหัวใจที่พองโต
"จะไม่หยุดรักเลยครับ"
ฺEND
Marionetta มาแล้วค่ะ ในที่สุดก็มาถึงตอนนี้จนได้ ขอบคุณทุกการติดตามที่เป็นกำลังใจให้กันมาตลอดค่ะ
หวังว่าพี่ลิงก์กับน้องบลูจะช่วยสร้างรอยยิ้มคลายเครียดจาดสถานการณ์ปัจจุบันในตอนนร่ได้ไม่มากก็น้อย
เนื้อเรื่องหลักก็จบลงแล้ว แต่ตอนพิเศษยังมีอยู่จ้า แต่อยู่ในเล่มนะ อิอิ
ผู้ใดสนใจ โปรดรอติดตามค่ะอบตุณอีกครัง