ขอหนักๆค่ะ ให้ทุรนทุรายเข้าขั้น ICU ถึงจะสะใจ
โห แช่งธงรบถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ใจร้ายอ่ะ
Tongrob 29
สุริยะเดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากไปยืนอยู่หน้าบ้านชั่วครู่ เขาสังเกตเห็นเด็กรับใช้เดินไปประตูรั้วบ่อยครั้งจึงเรียกเข้ามาถาม เพียงเห็นท่าทางอึกอักและสายตาหลุกหลิกสุริยะก็รู้ว่ามีอะไรผิดปกติ และยิ่งเห็นว่ามีรถหรูคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน แม้จะค่อนข้างห่างจากประตูไปเกือบสุดริมรั้ว เขาก็พอจะมองออกว่าเจ้าของรถคงกำลังรอใครคนหนึ่งในบ้านหลังนี้
อาทิตย์!
ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ และไปทำงานบริษัทโฆษณาทั้งที่ครอบครัวตัวเองก็มีธุรกิจหลายอย่างอาทิตย์ค่อนข้างแปลกไปกว่าเดิม สุริยะสงสัยมานานพอสมควรแล้วว่าน้องชายคนเล็กมีอะไรปิดบังเขามาตลอด และยิ่งตะวันเปรยว่า 'อาทิตย์กำลังโกรธพี่เค้า' ก็ยิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่เขาสงสัยอยู่นั้นถูกต้อง
...นี่คงเป็นรถของ 'พี่เค้า' ที่มาง้อละสิ...
...อยากจะเห็นหน้า 'พี่' ของอาทิตย์จริงๆ เลย แต่คงต้องรอไว้ก่อน ถ้ามีโอกาสเหมาะๆ เขาถึงจะตรวจสอบเพื่อพิจารณาว่าควรจะ 'อนุมัติ' ให้คบกับน้องชายเขาได้หรือไม่...
...อาทิตย์ยังเด็ก ต้องมีใครคอยดูแล ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยได้ทำหน้าที่พี่ชายที่ดี ตอนนี้คงต้องสนใจน้องมากกว่าเดิม...
สุริยะเดินตรงไปยังสวนหลังบ้านเพราะคิดว่าอาทิตย์อยู่ที่นั่น เขาตั้งใจจะลองคุยกับน้องชายเพื่อประเมินท่าที แต่เมื่อเดินผ่านห้องครัวกลับเห็น 'อาตี๋เล็ก' ที่ตะวันชอบเรียกกำลังเดินไปเดินมาเหมือนว้าวุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง
“หิวข้าวหรืออาทิตย์" สุริยะเดินเข้าไปในห้องครัว ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงธรรมดาเหมือนไม่สนใจจะได้รับคำตอบ
“ครับ" อาทิตย์ตอบแล้วหลบตา
...อาทิตย์ไม่เคยปิดบังอะไรเขาได้เลย ยิ่งเผชิญหน้ากันตรงๆ แล้วเขาถามคำถามจี้เป็นชุดๆ อาทิตย์ยิ่งปิดเขาไม่ได้...
“ดึกแล้วยังหิวอีก" สุริยะเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำออกมาแล้วทำเป็นมองหาแก้วน้ำดื่ม อาทิตย์จึงถือโอกาสเดินออกจากห้องครัว แต่ยังไม่ถึงประตูก็ชะงักเมื่อสุริยะเรียกชื่อแล้วพูดขึ้นว่า
“มีรถบีเอ็มจอดอยู่หน้าบ้าน รู้หรือเปล่าว่ารถใคร มาจอดทำไม"
“ไม่ทราบครับ" อาทิตย์ตอบเบาๆ
“เพื่อนมารอรับไปเที่ยวหรือเปล่า" สุริยะถามต่อ
“ผมไม่ทราบ"
“ไปดูหน่อยสิ" สุริยะพูดสั้นๆ แล้วเทน้ำดื่มใส่แก้ว ทำเป็นไม่สนใจน้องชาย แต่ทว่าแอบปรายตามอง จึงเห็นว่าอาทิตย์ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไปเงียบๆ
...เท่านี้ก็รู้แล้วว่าทะเลาะกับ 'พี่เค้า' ต่อจากนี้ไปก็จะได้รู้ว่าพี่คนนี้เป็นใคร เหมาะสมกับน้องชายของเขาไหม...
อาทิตย์เดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน และเมื่อถึงห้องโถงนั่งเล่นบนชั้นสองหน้าห้องนอนของตะวันจึงมองออกไปข้างนอกผ่านกระจกบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจนจรดเพดาน จากมุมนี้สามารถมองเห็นหน้าบ้านได้ชัดเจน แม้รั้วบ้านของเขาสูงและทึบ แต่มีช่องแคบๆ แทรกแต่ละช่วงของเสารั้วทำให้มองผ่านออกไปเห็นว่ามีรถเก๋งสีอ่อนๆ คันหนึ่งจอดอยู่หัวมุมด้านทิศตะวันตก
อาทิตย์หันหลังกลับ เดินไปยังห้องนอนของตัวเอง พยายามบังคับใจไม่ให้ลงไปชั้นล่างและเดินออกไป 'ดู' อย่างที่พี่ชายคนโตแนะนำเพราะเขายังไม่อยากพบหน้าธงรบ
...เขากลัวใจอ่อน...
...ไม่ ไม่ใช่ เพราะเขากำลังดัดหลังธงรบอยู่ต่างหาก อุตส่าห์ไปหาอาวุธ แกล้งทำให้ธงรบหึง เขาต้องการรอจนธงรบรู้สึกร้อนรุ่มจนถึงที่สุด จากนั้นถึงจะยื่นคำขาดซึ่งเขาเตรียมเอาไว้แล้ว...
...แต่ทำไมล่ะ นี่ก็หลายสัปดาห์แล้ว ธงรบง้อเขาถึงขนาดนี้ หากธงรบยอมรับผิด การให้อภัยเป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่หรือ...
...แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก...
...ธงรบรักเขาจริงหรือ และถ้ารัก รักขนาดไหน...
...แล้วเขาล่ะ รักขนาดไหน รักจนพอที่จะอภัยได้หรือเปล่า...
...คราวนี้ล่ะ จะได้รู้กัน...
อาทิตย์เข้าห้องนอนและปิดไฟ แต่ตัวเองกลับยืนพิงหน้าต่าง ตาเหม่อมองออกไปนอกบ้าน ในใจอดกังวลเรื่องพี่ชายไม่ได้ สุริยะทำเหมือนสงสัย เขากลัวว่าสุริยะจะรู้ความจริง นอกเหนือจากการที่พี่ชายคนโตจะรู้ว่าเขามีแฟนเป็นผู้ชาย การที่จะคบคนแบบสารวัตรธงรบนั้นสุริยะไม่มีทางที่จะเห็นด้วยเด็ดขาด
...ถ้าเพียงแต่พี่ชายเขารับความจริงได้ ความจริงข้อแรกที่ว่าเขารักผู้ชาย...
ขณะที่กำลังจมอยู่ในความคิด อาทิตย์ก็หลุบตาลงมองพื้นหญ้าหน้าบ้านเมื่อสังเกตเห็นร่างของใครคนหนึ่งเดินออกไปยังประตูรั้วแล้วทำเหมือนส่งสัญญาณสื่อสารอะไรบางอย่างกับคนที่อยู่ข้างนอก
...เขารู้ว่าคนที่อยู่หน้าบ้านนั้นเป็นธงรบ รถคันนั้นที่จอดอยู่เป็นรถของธงรบ...
...แต่เขาไม่นึกว่าคนใช้ในบ้านจะกลายเป็นแนวร่วมของธงรบ...
...ฝีมือพี่ตะวันแน่ๆ และก็คงเป็นเพราะคำพูดอ้อนวอนขอความเห็นใจของธงรบ...
...รนหาที่ดีนัก ว่าจะรอซักวันสองวัน ถ้ายังงั้นก็ยื่นคำขาดตอนนี้ซะเลย อยากจะรู้นักว่าคืนนี้จะนอนหลับได้หรือเปล่า เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่เตรียมเอาไว้ซักหน่อย โทษฐานไม่ยอมเชื่อที่ห้ามไม่ให้ไปโน้วน้าวและหว่านล้อมให้คนรอบข้างเขามาช่วยตัวเอง...
ธงรบแทบจะยกเท้ากระทืบปุ่มกดลิฟท์เมื่อกลับถึงที่พักแล้วพบว่าลิฟท์ตัวเดิมเสียอีกแล้ว นายตำรวจหนุ่มหันหลังแล้วเดินตรงไปที่เคาท์เตอร์พนักงานต้อนรับ มีพนักงานยืนอยู่ที่เคาท์เตอร์คนเดียวเพราะเป็นเวลาดึกมากแล้ว ชายหนุ่มร่างบางเงยหน้าขึ้นแล้วทำหน้าหนักใจเมื่อเห็นนายตำรวจร่างสูงใหญ่เดินหน้าบึ้งเข้ามาท่าทางเอาเรื่อง
“สารวัตรครับ คือว่า...”
“ลิฟท์เสีย" ธงรบเสียงห้วน
“ครับ พอดี...” พนักงานต้อนรับกะดึกของคอนโดมิเนียมอึกอัก หายใจไม่ทั่วท้องที่เห็นคนที่เคยอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจกลายมาเป็นคนหน้าดุ
“จะให้ขึ้นไปชั้นสี่ยังไง" ธงรบยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พูดเสียงต่ำอย่างสะกดอารมณ์
“บันได" ชายหนุ่มเสียงอ่อย หันหน้าไปด้านข้างเหมือนจะชี้ทางให้คนที่กำลังอารมณ์เสียรู้ว่าบันไดอยู่ทางนั้น
“ผมไม่มีอารมณ์จะขึ้นบันได"
...ทุกทีก็เห็นขึ้นได้ ไม่เคยบ่นอะไรเลย บางคืนเมามายังปีนขึ้นบันไดได้เลย...
“ป๋องเรียกช่างแล้วฮะ ช่างเขายังมาไม่ได้"
“คงมาได้หรอก ดึกขนาดนี้แล้วเขาก็คงนอนกกเมียอยู่นะสิ นี่ถ้าผมเมามาจะทำยังไง จะให้นอนหน้าเคาท์เตอร์หรือไง"
“แต่ว่าคืนนี้สารวัตรไม่ได้เมา" ป๋องยังทำใจดีสู้เสือ
“ไม่เมา แต่ไม่มีอารมณ์จะปีนขึ้นบันได ทำไมลิฟท์มันเสียได้เสียดี ทำไมต้องเสีย มันอยู่ของมันดีๆ แล้วทำไมต้องเป็นแบบนี้"
“มันเก่าแล้วฮะ"
“แล้วทำไมไม่เปลี่ยน" ธงรบเสียงเข้ม รู้สึกหงุดหงิดแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“ป๋องก็อยากจะได้ลิฟท์ใหม่เหมือนกันฮะ แต่เจ้าของคอนโดเขาก็ยังไม่เปลี่ยนซะที ป๋องเคยรายงานไปหลายครั้งแล้วนะฮะสารวัตร นี่ก็ไม่เข้าใจ ป๋องโดนดุทั้งปี ยิ่งดึกๆ อยู่คนเดียวป๋องก็โดนไปเต็มๆ มีแต่สารวัตรนี่ล่ะที่ไม่เคยโวยวายใส่ป๋องมาก่อน" ชายหนุ่มเสียงอ่อน ทำหน้าตาน่าสงสาร ธงรบถอนหายใจแรงๆ เริ่มจะรู้สึกตัวว่าอารมณ์เสียเกินเหตุทั้งที่ไม่เคยมาโวยวายใส่พนักงาน
“สารวัตรเหนื่อยมากหรือฮะ ป๋องไปส่งที่ห้องดีไหม จะเดินขึ้นบันไดไปเป็นเพื่อน" ป๋องยิ้มให้นายตำรวจหนุ่ม
“ไม่เป็นไร" ธงรบส่ายหน้าแล้วผละจากเคาท์เตอร์เดินไปยังช่องบันไดข้างลิฟท์ ยกเท้าขึ้นบันไดทีละขั้นช้าๆ แล้วไปหยุดยืนพิงพนังอยู่บนชั้นสามที่เขาเคยนั่งกับพื้นอยู่บ่อยๆ เวลาดื่มเหล้าหนักและกลับมาที่พักแล้วโชคร้ายที่ลิฟท์เสีย
จุดเดิมที่เขาเคยนั่งมองอาทิตย์!
...คืนนี้ ภาพของเขากับอาทิตย์ตอนที่ขึ้นบันไดมาด้วยกันกลับมาหลอกหลอนเขาอีกแล้ว เขายังจำวันที่เป็นไข้ นั่งพักอยู่ตรงนี้ มองอาทิตย์ที่ยืนนิ่งเงียบ และถามอาทิตย์ว่ารักเขาหรือเปล่าแต่อาทิตย์ไม่ตอบ...
..."พี่รักอาทิตย์ แต่ถึงอาทิตย์ไม่รักพี่เท่าไหร่ พี่ก็จะรัก ให้มันรู้ไปว่าพี่จะชนะใจอาทิตย์ไม่ได้ ให้มันรู้ไปว่าอาทิตย์จะไม่ใจอ่อนหันมามองพี่"...
..."ผู้กองไม่ยอมรับความจริง ผู้กองก็รู้ว่าผม..."
...“ยังรักคุณนุอยู่ ทำยังไงก็รักพี่ไม่ได้ เลิกหวังเสียเถอะ พี่จำที่อาทิตย์พูดได้ทุกคำ ใจคนมันบังคับกันไม่ได้ อันนี้พี่ก็รู้ แล้วอาทิตย์จะบังคับใจพี่ได้ยังไงล่ะ แต่ช่างเถอะ พี่ทนได้ จะให้เฝ้ารักอาทิตย์ข้างเดียวพี่ก็ยอม แม้มันจะเจ็บปวดก็ตาม อาทิตย์ก็น่าจะรู้ว่ารักเขาข้างเดียวมันเป็นยังไง ทรมานแค่ไหน ถ้าสงสารพี่เมื่อไหร่ ก็ค่อยหันมามองพี่ก็แล้วกัน"...
...เขาจะทนได้นานแค่ไหน เขาจะทนอยู่กับความคิดนี้ได้อีกนานแค่ไหน...
...และยิ่งคืนนี้ อาทิตย์ตอกตะปูเข้าไปกลางหัวใจเขา ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บมากขึ้น...
...สามเดือน ห้ามโผล่หน้าไปให้เห็นสามเดือน ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร ห้ามตาม ห้ามยุ่ง ห้ามเด็ดขาด ไม่งั้นเลิกกัน...
...ทำไมต้องอยากเลิกกับเขานัก...
...เพราะเขาทำผิดหรือ...
...หรือเพราะอาทิตย์ไม่เคยมีใจกับเขาเลย...
...ถ้าเธอ มีหัวใจเหมือนฉันสักหน่อย เธอคงไม่ปล่อยให้ฉันเฝ้าคอยอย่างนี้ เธอคงจะซึ้งถึงไมตรี เธอคงจะซึ้งถึงความภักดี ที่มีเรื่อยมา...
...เขาภักดีต่ออาทิตย์หรือ ถ้าภักดี ทำไมเขานอนกับคนอื่น ทำไมเขานอกใจ...
...นั่นร่างกายต่างหาก ที่นอนคือร่างกาย แต่ใจเขาไม่เคยไปไหนเลย ใจเขาอยู่กับอาทิตย์...
...แล้วใจอาทิตย์ล่ะ ยังอยู่กับคุณนุหรือเปล่่า...
...น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน แต่หัวใจอ่อนๆ ของเธอทำด้วยสิ่งใด ช่างไม่สะทกสะท้านสะเทือนเหมือนหัวใจ ช่างไม่หวั่นไหว ว่าใครเขารักเขารอ...
...แล้วเขาต้องรออาทิตย์จนสิ้นลมยังงั้นหรือถึงจะรักเขา...
...เขาต้องรออีกนานแค่ไหน...
...แค่ 'สามเดือน' อันยาวนานเหมือนสามปีที่อาทิตย์ิเพิ่งยื่นคำขาดมาสดๆ ร้อนๆ หรือจะนานกว่านั้น...
บ่ายวันเสาร์อาทิตย์มาหาอาวุธที่บ้านเช่นเคยและเสนอตัวช่วยอาวุธทำงานด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลของคดีค้าเพชรเถื่อนที่อาวุธกำลังสืบสวนอยู่ หลายชั่วโมงผ่านไป อาวุธจึงกล่าวว่าจะไปทำอาหารเย็นและปล่อยให้อาทิตย์นั่งเล่นอยู่ที่ระเบียบข้างบ้านคนเดียว
ขณะที่เดินเข้าไปไปห้องครัวอาวุธก็คิดสงสัยอะไรบางอย่างขึ้นมาทันใด นายตำรวจหนุ่มตรวจดูโทรทัศน์วงจรปิดจึงเห็นว่ามี 'ตำรวจเจ้าประจำ' มาจอดรถซุ่มจับ 'โจรขโมยของ' เช่นเคย แต่วันนี้มีอุปกรณ์มาด้วย เป็นกล้องส่องทางไกล และคราวนี้ธงรบยืนอยู่ที่ข้างประตูรั้ว กำลังสังเกตการณ์ความเป็นไปในบ้านของเขา
ทุกครั้งที่อาทิตย์มาหาเขาก็จะเห็นธงรบตามมาจอดรถเฝ้าอยู่หน้าบ้านเสมอ อาวุธจึงคิดว่าท่าทางเพื่อนคงจะเป็นเอามาก เขาทำเป็นเงียบๆ กับอาทิตย์เรื่องนี้มาตลอด แต่วันนี้เขาจะคุยกับอาทิตย์ให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น
...ธงรบเปลี่ยนไป ต่างจากธงรบคนเดิมที่เขารู้จักมากพอสมควร แม้ตัวตนเดิมๆ บางแง่บางมุมยังคงเป็นธงรบอยู่ แต่เพื่อนของเขาก็เปลี่ยนไปแบบที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเห็น และตอนนี้ คนที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดคนเจ้าชู้ประจำรุ่นกำลังว่ายน้ำวนไปวนมาอยู่ในทะเลแห่งความรัก...
อาวุธเดินออกมายังระเบียงข้างบ้านและเล่าให้อาทิตย์ฟังถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะเห็นในจอภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิด อาทิตย์เม้มปาก นิ่งอึ้งไปทันที ก่อนจะเมินมองไปทางอื่น และอาวุธคิดว่าเขาเห็นชายหนุ่มกัดฟัน
“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ ที่คุณอาทิตย์มาหาผมเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม" อาวุธถาม
“อย่าให้เข้ามานะครับ" อาทิตย์พูดขึ้นมาเบาๆ
“ถ้าคุณอาทิตย์ไม่อยากให้เข้ามาผมก็จะไม่ให้เข้า" อาวุธรับปากแต่กลับพูดต่อไปว่า "แต่นานนักผมก็ไม่แน่ใจว่าธงรบจะปีนรั้วเข้ามาหรือเปล่า"
“ผมกำลังหลบหน้าสารวัตรธงรบ"
อาวุธไม่พูดอะไร แต่กลับเดินไปยืนพิงราวระเบียงนอกบ้าน ปรายตามองไปยังประตูรั้วแวบหนึ่งเพราะรู้ว่ามุมนี้เป็นจุดที่คนอยู่ข้างประตูรั้วสามารถมองเข้ามาเห็นได้
“ผมเป็นผู้ฟังที่ดี" อาวุธพูดขึ้นมาเสียงเบาหลังจากที่ต่างคนต่างเงียบไปครู่ใหญ่
“เราทะเลาะกัน ผมเห็นสารวัตรธงรบอยู่บนเตียงในห้องนอน" อาทิตย์พยายามพูดเสียงราบเรียบ "กับ คน อื่น"
อาวุธลอบถอนหายใจเบาๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนทำเรื่องอีกแล้ว ในใจก็คิดว่าปัญหาของธงรบกับอธิคมไม่เคยพ้นเรื่องแบบนี้ เขาเคยพูดกับสองคนนั้นบ่อยครั้ง แต่ 'พ่อคนเก่งทั้งสอง' ก็ยักไหล่ทำอวดดีและบอกว่า 'มือชั้นเซียน เอ็งไม่ต้องมาสอน'
แม้ช่วงที่เขาไปเรียนต่อและทำงานอยู่ต่างประเทศก็ยังได้ยินข่าวของธงรบกับอธิคมอยู่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งไม่เคยพ้นเรื่องเจ้าชู้ และจากที่เคยรู้จักกันมานานเขาพอจะวิเคราะห์รูปแบบความเจ้าชู้ของเพื่อนทั้งสองได้เป็นอย่างดี
...ไม่ใช่ทั้งสองสิ เกือบจะทุกคนต่างหาก เพื่อนรุ่นเดียวกันแทบทุกคนเจ้าชู้ระดับแนวหน้า แทบจะจัดตั้งเป็นสโมสรได้เลย โดยมีธงรบเป็นประธาน และอธิคมเป็นรองประธาน ส่วนธนินท์ให้เป็นประชาสัมพันธ์เพราะประสานงานและสับหลีกเก่ง มีชาคริตเป็นฝ่ายกิจกรรมเพราะชอบจัดปาร์ตี้...
...'ถ้าคุณเจ้าชู้และผมจับได้ว่านอกใจ ผมจะยิงคุณให้ตายโดยลูกปืนนัดเดียวด้วยมือของผมเอง'...
...นทีไม่ชอบคนเจ้าชู้ นทีเคยพูดกับเขา คืนนั้น บนเบาะหลังของรถที่จอดนิ่งอยู่กลางทะเลทราย คืนแรกที่เขากับนทีเป็นของกันและกัน...
“คุณอาทิตย์แน่ใจว่าไม่ได้เข้าใจผิด" อาวุธพูดขึ้น
“ผมไม่ได้เห็นชัดเจนขนาดที่สองคนนั้นกำลังทำอะไรกัน แต่ก็ชัดพอที่จะรู้ว่าไม่ได้เข้าใจผิด"
“แล้วคุยกันหรือยังครับ ธงรบอธิบายว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนั้น" อาวุธถามเสียงราบเรียบ แต่อาทิตย์ไม่ตอบ กลับนั่งนิ่ง มองออกไปยังสายน้ำเบื้องหน้า อาวุธจึงถามต่อว่า "คิดจะให้อภัยเขาไหมครับ"
...หากเป็นนที และหากเขาเป็นธงรบ นทีไม่มีวันจะให้อภัย นทีใจแข็งและเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก ตัดสินใจอะไรเฉียบขาดในเวลาเพียงแค่หนึ่งนาทีได้สบายมาก...
“ความรักต้องให้อภัยหรือครับ" อาทิตย์พูดขึ้นมาเบาๆ
“แล้วคุณรักธงรบหรือเปล่า"
อาทิตย์นิ่ง ไม่ตอบคำถาม ลดสายตาลงมองมือของตัวเองที่กำลังลูบไล้โทรศัพท์ที่วางอยู่บนตัก
“แต่ละคนไม่เหมือนกัน" อาวุธเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ กับอาทิตย์ "บางครั้งเราเอาบรรทัดฐานของเราไปใช้กับอีกคนไม่ได้ ชีวิตคู่เป็นเรื่องของการปรับตัว บางอย่าง บางคน บางครั้งต้องใช้เวลา และแต่ละคนต้องการเวลาไม่เท่ากัน"
“สารวัตรกำลังจะบอกว่า...” อาทิตย์เงยหน้าขึ้นมองนายตำรวจ
“ผมไม่ได้กำลังจะบอก คุณอาทิตย์ควรจะบอกตัวเอง ใครก็บอกคุณไม่ได้หรอกครับ" อาวุธยิ้มบางๆ "หัวใจตัวเองเท่านั้นที่จะบอกได้"
“ผมต้องการเวลา" อาทิตย์พูดเสียงเบาแต่หนักแน่น
“ดีครับ แต่นานมากก็ไม่ไหวนะครับ" อาวุธพยักหน้า "ผมเอาใจช่วย"
“ขอบคุณสารวัตรที่ยอมให้ผมรบกวน ผมรู้ว่าผมทำความลำบากใจให้สารวัตร แต่ว่าผม... ผมอยากจะขอแวะมาที่นี่จนกว่าผมจะสบายใจเพราะคิดว่าที่นี่คือที่เดียวที่เขาตามมากวนใจไม่ได้ ผมต้องการเวลาคิด” อาทิตย์ยื่นมือไปแตะมือของอาวุธ "ผมต้องการคำแนะนำ และผมคิดว่าสารวัตรน่าจะเป็นคนที่ให้คำแนะนำได้"
“ผมจะพยายามดีที่สุด" อาวุธพยักหน้า แต่วินาทีนี้เขายอมรับว่าค่อนข้างหนักใจ
...เขากลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เขาพลาดเรื่องของอธิคมกับอนุภาพ พลาดอย่างไม่น่าให้อภัย เขาไม่อยากให้เพื่อนเกลียดเขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน...
“ผมอยากให้สารวัตรธงรบเปลี่ยน" อาทิตย์พึมพำ
“อย่างที่บอก บางคนต้องใช้เวลา" อาวุธพูดเสียงเบา มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาครุ่นคิด "แต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน วิธีการก็ไม่เหมือนกัน"
...ใช้เวลาเปลี่ยนตัวตน กับใช้เวลาลืม อย่างไหนจะใช้เวลามากกว่ากัน ตอนนี้เขาต้องใช้เวลาลืมคนสองคนพร้อมๆ กัน...
...เขาไม่อยากให้อาทิตย์กับธงรบใช้เวลานานเหมือนเขา...
...ตอนนี้ถึงเวลาของธงรบแล้ว...
...เวลาของธงรบที่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเพื่อนของเขาจะมี 'เวลา' ช่่วงนี้...
...ธงรบใกล้จะพร้อมแล้วสำหรับความรัก...
อาวุธเดินออกมาจากประตูเล็กข้างประตูใหญ่ของรั้วบ้านตัวเองตรงไปยังรถ BMW Z6 ของธงรบช้าๆ เขารอจนดึกจึงตัดสินใจออกมาหาเพื่อน ในใจก็อดทึ่งธงรบไม่ได้ว่ามีความอึดเป็นเลิศ
...แต่ตอนนี้คนที่เขายกย่องในความอดทน กำลังนั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่ในรถ...
...ธงรบนะธงรบ ทำตัวเองจริงๆ เลย รู้ทั้งรู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่ก็ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจธงรบ เคยคิดว่ารู้จักธงรบดีพอๆ กับที่รู้จักอธิคม แต่ตอนนี้กลับคิดว่าเขามองอธิคมออกได้มากกว่าธงรบเสียอีก...
“ไอ้วุธ" ธงรบสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกตัวว่ามีคนกำลังก้มหน้าลงมาจ้องมองอยู่ข้างกระจกรถ
อาวุธยืดตัวขึ้นตรง ถอยหลังออกมาสองก้าว รอจนธงรบออกมายืนนอกรถจึงพูดขึ้นว่า "กลับบ้านไปนอนได้แล้วธง จะมานั่งทรมานตัวเองอยู่ในรถทำไม"
“แกเอาอาทิตย์ออกมาก่อนสิ" ธงรบสั่ง
“แล้วนี่ใช่ไหมที่เคยบอกว่ามาซุ่มจับโจรขโมยของ" อาวุธเลิกคิ้ว
“แมวขโมยปลาย่างน่าจะถูกกว่า" ธงรบเสียงห้วน
“มาซุ่มแล้วหลับอยู่อย่างนี้ จะเห็นอะไร" อาวุธส่ายหน้า
“ถึงถ่างตาก็ไม่เห็น รั้วบ้านแกทั้งทึบทั้งสูงขนาดนี้" ธงรบเบ้ปาก
“แล้วมาจอดรถเฝ้าทำไมล่ะ" อาวุธยักไหล่
“แกไม่ต้องมาทำพูดยียวน เข้าไปบอกอาทิตย์ให้กลับบ้าน แขกบ้าอะไรวะมาหาแล้วไม่ยอมกลับบ้านตัวเอง แกให้แขกนอนค้างที่บ้านหรือไง ไหนว่าแค่มาเยี่ยม แล้วนี่ทำไมต้องให้อาตี๋ของข้าอยู่นานขนาดนี้ แล้วทำไมต้องจับมือถือแขนกัน เวลาอยู่กันในบ้าน แกทำอะไรอาทิตย์หรือเปล่า" ธงรบเสีียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“ไปกันใหญ่แล้ว" อาวุธทำหน้าเอือมระอาอีกฝ่าย
“วุธ เวลาอาทิตย์มา แกบอกให้อาทิตย์ไป...”
“เราบอกไม่ได้หรอกธงรบ" อาวุธแทรกขึ้นมา "คุณอาทิตย์เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาคิดอะไรได้เอง เขาทำอะไรก็คงมีเหตุผลของเขา นายเองก็ทำอะไรเพราะมีเหตุผลของตัวเองใช่ไหม เคยถามตัวเองไหมว่าทำไปทำไม"
“ทำอะไร" ธงรบเอียงหน้า ทำตายียวน "แกรู้อะไรมาอีก อาทิตย์พูดอะไรกับแก อาทิตย์ว่าอะไรข้า"
“คุณอาทิตย์ไม่ได้พูดอะไรไม่ดี"
“แล้วทำไมต้องเรียกคุณอาทิตย์" ธงรบกระชากเสียง ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับอาวุธอีกแล้ว และเขาอดคิดไม่ได้ว่าอาวุธกำลังปั่นหัวเขา
“หาเรื่อง" อาวุธขมวดคิ้ว ส่ายหน้าช้าๆ แล้วท่าท่าจะหันหลังกลับ แต่คนที่มาจอดรถเฝ้าคนแฟนคว้าข้อมือเอาไว้
“วุธ แกก็รู้ว่าข้ารักอาทิตย์ แบบนี้แกยังไม่คิดจะส่งอาทิตย์มาหาข้าหรือไงวะ" ธงรบเสียงอ่อนลง
“เขาอยากไป เขาก็จะไปเอง" อาวุธดึงแขนกลับมา สอดมือเข้าไปในกางเกงทั้งสองข้าง มองธงรบนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่นว่า "เขาพร้อมเมื่อไหร่เขาก็คงกลับไปหานาย ว่าแต่นายเถอะ พร้อมหรือยัง อาทิตย์พร้อม นายพร้อม เรื่องก็จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง"
อาวุธเดินจากไปช้าๆ ทิ้งให้ธงรบยืนกัดฟันกรอดๆ เพราะความขุ่นเคือง แต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นเป็นความโกรธเมื่อได้ยินเสียงอาวุธลอยมาว่า
“กลัวแต่ว่าเมื่ออาทิตย์พร้อมแล้วนายจะไม่พร้อมนะสิ"
***29***