¤ø,¸¸,ø¤จดหมายจากเพื่อนรัก¤ø,¸¸,ø¤ by M@nfaNG **กลับบ้านเรา**25/01/12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ¤ø,¸¸,ø¤จดหมายจากเพื่อนรัก¤ø,¸¸,ø¤ by M@nfaNG **กลับบ้านเรา**25/01/12  (อ่าน 238042 ครั้ง)

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ตามมาอ่านค่ะ...ไล่อ่านรวดมาสองคืน ^-^ ตอนต้นๆ สงสารใหญ่มากๆ แอบรักแต่ไม่กล้าบอก ส่วนฝันกว่าจะรู้ตัวก็ลุ้นซะ...

ชอบการเขียนจดหมายจัง เห็นด้วยว่ามันคลาสสิคจริงๆ ค่ะ และส่วนใหญ่การเขียนจะบอกความในใจได้ดีกว่าด้วย (เพราะบางอย่างเวลาเจอหน้ากันเราไม่กล้าที่จะพูดออกไป)

รอลุ้นต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :o8: กลับมาอ่านทันแล้ว  +1 จัดไป
หวานกันไปไหนเนี่ยตอนนี้ อิอิ
นิว(ลัลล๊า)

mecon

  • บุคคลทั่วไป
หึหึ ลุงฝันเอาของมาล่อเด็กไม่พอ ยังเอาเสน่ห์มาล่อลวงพ่อนุ้งออมอีก  :m1: :m4: ย๊ากกกน่ารักที่สุด
ตอนนี้ต้องรวบรวมความกล้ากันแล้วนะ เผชิญความจริงไม่ว่าอะไรจะเกิดเราต้องผ่านกันไปให้ได้นะ เจ้าฝันนุ้งใหญ่ได้กุนซือแบบพี่หนุ่ยด้วยแล้ว
สู้ๆเว้ยยยยยยยยย +1 คะ

ออฟไลน์ panpan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
มาลงชื่อว่าอ่านทันแล้ว

ขอบคุณทั้งคนแต่งแล้วก็คนโพสต์ด้วย :pig4:

จากแฟนคลับเก่าแก่ของคุณฟาง :o8:

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
(ตอนที่๔๗)
“แล้วพวกมึงจะทำยังไงต่อไป” ไอ้หนุ่ยมันถามพวกผม เมื่อใหญ่เล่าให้ฟังเรื่องพ่อจับได้ว่ามันลงมาหาผม
ผมมองใหญ่ที่มีสีหน้ากังวลแล้วกุมมือมันไว้ ผมตอบคำถามหนุ่ยไม่ถูก ผมรู้สึกได้เลยว่าภาวะผู้นำในตัวผมมันหายไปหมด ผมกลายเป็นผู้ตามไปโดยไม่รู้ตัว “ใหญ่ว่าไง?”
ใหญ่พูดเสียงเหนื่อยๆ “กูกลับไปจะไปคุยกับพ่อให้รู้เรื่องเสียที กูเครียดเหมือนกัน อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิดนะฝัน”

ผมพยักหน้าแล้วโอบไหล่มันไว้เหมือนปลอบ แต่ที่จริงผมควรปลอบใจตัวเองด้วยมากกว่า “กูจะกลับไปกับมึงด้วย กูไม่ปล่อยมึงไปสู้คนเดียวหรอก” แต่ใหญ่ส่ายหัวเหมือนไม่ยอมให้ผมไป
“มึงอย่าไปดีกว่า เดี๋ยวพ่อจะยิ่งโกรธกว่าเดิม”
“กูจะไป กูปล่อยให้มึงสู้ปัญหาคนเดียวนานมากเกินไปแล้ว” คิดแล้วก็น่าโมโหตัวเอง ผมมันแย่จริงๆ ผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลยได้แต่รอคอยอยู่ทางนี้อย่างเดียวจริงๆ
“แต่...”

“ใหญ่ให้มันไปเถอะ” เสียงพูดจริงจังของไอ้หนุ่ยแทรกขึ้นมา “พี่อยากให้เราเผชิญหน้ากับพ่อตรงๆทั้งคู่ เรื่องมันจะออกมาเป็นยังไง เราสองคนโตแล้วก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ถ้าจะต้องเลิกกัน หรือต้องตัดพ่อตัดลูก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเราก็ต้องเจอมันอยู่ดี เราต้องสู้กับปัญหาสิ”
“มึงพูดเคสเลวร้ายสุดๆทั้งนั้นเลยเหรอวะ มึงไม่มีทางเลือกดีๆให้พวกกูมั่งเลยรึไง ไอ้หนุ่ย” ผมเริ่มไม่แน่ใจว่ามันให้กำลังใจพวกผม หรือกระทืบซ้ำให้พวกผมจมดิน ไอ้หนุ่ยหัวเราะแล้วตอบว่า
“เอ๊า...ก็กูยืนอยู่บนความจริง พวกมึงก็ต้องอยู่ตรงนั้น มึงจะลอยตัวอยู่บนความฝันไปได้นานแค่ไหน” ไอ้หนุ่ยเปลี่ยนสรรพนามจากพี่กับเรา มาเป็นกูกับมึงแล้วครับ ฮ่าๆ ผมกะแล้วว่ามันจะพูดสุภาพได้นานแค่ไหนกัน

“เราไม่ได้ฝันนะพี่” ใหญ่พูดขัดขึ้นมาเสียงอ่อนๆ
“ก็นั่นแหละไม่ฝันก็เหมือนฝัน ลวงตาตัวเองไปเรื่อยๆ กูถามพวกมึงคำถามหนึ่ง มีใครมั้ยที่เค้าฝันยาวไปเลยไม่ยอมตื่น” ฟังแล้วพวกผมก็เงียบกันไป มันถามบ้าอะไรวะ
ไอ้หนุ่ยยิ้มเยาะ “ถ้ามีก็คือคนที่ตื่นมาเล่าให้มึงฟังไม่ได้ ไอ้พวกที่ตายไปแล้วไง ฝันมึงอย่ามาทำหน้าไม่เข้าใจ” มันมีหน้ามาบอกผมอีกว่าผมทำหน้าโง่ ก็ผมไม่เข้าใจจริงๆนี่หว่า
“พวกกูไม่ใช่ไม่ยอมรับความจริงนะ เพียงแต่อยากให้มันค่อยเป็นค่อยไป กูเองก็ไม่อยากให้พ่อใหญ่ไม่สบายใจ”

“งั้นกูถามมึงอีกคำถาม มึงปล่อยให้คาราคาซังแบบนี้ มึงมีความสุขเหรอ” ผมเบื่อไอ้หนุ่ยจริงๆ ถ้ามันเป็นหมอมันก็คงเป็นประเภทที่ว่า คนไข้เป็นมะเร็งมันก็คงบอกความจริงเค้าไปเลย ไม่สนใจว่าจิตใจเค้าแข็งแรงพร้อมที่จะรับฟังความจริงรึเปล่า
“เออๆ กูรู้แล้วมึงไม่ต้องพูดต่อแล้ว  กูถึงตัดสินใจจะไปเชียงใหม่กับใหญ่อยู่นี่ไง”
“แต่กู...ไม่อยากให้มึงไป”
“ใหญ่อย่าดื้อ เชื่อกู...เอ๊ยเชื่อพี่” ไอ้หนุ่ยยัดแก้วเหล้าใส่มือใหญ่ มันทำหน้าลังเลก่อนกระดกไปจนหมดแก้ว
“เฮ้ย...ดื่มไปทำไมไวนักเดี๋ยวก็เมาหรอก” ผมไม่อยากให้มันดื่มมากมายเลย ไอ้หนุ่ยจะมาพาเพื่อนผมเสียคนแค่เจอกันไม่กี่ครั้งนี่นะ  
“ไอ้หนุ่ยมึงอย่ามามอมเหล้าแฟนกู…อุ๊ปส์...เจ็บอ่า”ใหญ่มันกระทืบเท้าผมครับ “เหยียบกูทำไม เจ็บนะ” ใหญ่มันหน้าแดงแต่ทำตาขมึงใส่ผม
“มึงพูดบ้าอะไร ไม่อายพี่เค้าบ้าง” ใหญ่ชายตามาที่ไอ้หนุ่ยที่มองพวกผมอยู่ เจือกยิ้มอีกต่างหาก

“อายทำไม เพื่อนกันใช่ปะพี่” ผมพยักพเยิดหน้ากับไอ้หนุ่ย แต่มันดันหัวเราะ ไม่รู้ขำอะไรนักหนา
“พอแฟนมา ก็มาเรียกกูพี่ พอแฟนกลับกูก็เป็นไอ้เชี่ยหนุ่ยเหมือนเดิม ปากดีนะมึง กลัวแฟนก็ไม่บอก หึหึ” ใหญ่หัวเราะขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นไอ้หนุ่ยด่าผม ทำเอาผมคิดคำด่าตอบไม่ทัน มันก็ยังคงเป็นมันจริงๆครับทำเอาผมลืมเรื่องเครียดๆที่คุยก่อนหน้านี้ไปเลย

“ดีพี่ ไม่เจอกันนานหล่อเหี้...กว่าเดิมอีกนะเนี่ย” ผมแทบจะลุกขึ้นไปเอาหล้าสาดหน้ามัน ใครวะมาแกว่งปากหารองเท้าแบบนี้
“ใครวะ” ผมยังหันไปไม่เห็นหน้าว่าเป็นใคร ไอ้เจ้าของเสียงนั่นมันก็แถมานั่งข้างผมทันทีเลยครับแถมโอบไหล่ผมเหมือนเป็นเพื่อนมันอีกต่างหาก  “หวัดดีเพ่ฝัน เฮียใหญ่ แหมๆๆ มาเป็นคู่เลยนะ”
ปากปีจอแบบนี้ที่ผมรู้จักก็มีมันนี่ล่ะครับ “ไอ้เกี๊ยง ไอ้น้องwell มาไงวะ” ผมตบหัวทักทายมันไปที แต่คงไม่ช่วยให้ปากหมากระเด็นออกไปจากมันได้ มันคงยังเห่า เอ๊ย...พูดต่อ   

“ไม่ฉลาดอีกแล้วเพ่ฝัน ก็นั่งรถมาสิ จะให้ผมเดินมารึไง โว้วว...ไม่เจอกันตั้งนาน สมองไม่เห็นพัฒนาเลย บอกแล้วให้กินโอเมก้า3เยอะๆ  ไม่เชื่อน้องแล้วเป็นไง วู้ววว...ไม่ไหวๆ”
ผมอยากจะลุกไปกระทืบมันก็เกรงใจเพื่อน เกรงใจแฟน ได้แต่นึกเสียใจ “ทำไมกูมีน้องปากหมายังงี้วะ ไม่เจอมึงตั้งนานปากหมาขั้นเทพเลยนะมึง”
มันยกมือไหว้ผมด้วยความเคารพ “ขอบคุณครับพี่ที่ชม” แถมด้วยยิ้มกว้างมาให้ผม ผมถึงไม่เคยโกรธมันเลยครับ ผมกับมันชาติก่อนคงเป็นหมาร่วมคลอกเดียวกันมา เจอกันทีไรเลยเหมือนเจอพี่น้องต้องเห่าทักทายกันเกรียว

“มึงมากับใคร? ไม่ต้องไปนั่งกับเค้าเหรอ?” ผมไม่ทันมองว่าตอนมันเข้ามามีกี่คนแต่ดูแล้วมันคงไม่จากพวกผมไปง่ายๆ
ไอ้เกี๊ยงโบกมือ “ไม่ต้องห่วง ผมมากับเพื่อนแต่เพื่อนเจอบ่อยแล้ว มานั่งกับพี่ดีกว่า นั่งกับพี่มีเหล้าฟรีกินด้วย นั่งกับเพื่อนมีแต่หารเท่าไม่ไหวๆ” มันเป็นคนตรงดีครับ จริงใจจนน่าเหยียบ
ไอ้เกี๊ยงมันตบไหล่ผมเบาๆ “พี่เป็นไง สบายดีเหรอ? ” เจอท่าทางกับคำถามน้องเกี๊ยงเข้าไป ไอ้หนุ่ยกับใหญ่ก็เอาแต่นั่งกลั้นยิ้ม ผมข่มใจไม่ให้โกรธตอบมันอย่างปลงๆ
“ครับพี่ผมสบายดี แล้วพี่เกี๊ยงล่ะครับ ชีวิตเจริญดีรึเปล่า” ปากหมาขนาดนี้ไปทำงานที่ไหนไม่ได้รุมตีนเป็นที่ระลึกกลับบ้านก็แปลกแล้ว

“ดับนี้แล้วพี่ฝัน เก่งๆอย่างผมไปไหนก็รุ่ง...แหะๆ รุ่งริ่ง”มันเกาหัวทำหน้าแหยๆ
ผมยิ้มแล้วส่ายหน้า ตบไหล่ปลอบมันไปสอนมันว่า “เช้าๆ ก่อนออกไปทำงานมึงก็หัดล้างหมาออกจากปากมั่งสิวะ ใครจะใจดีเหมือนกู ทนปากมึงได้ ใครหัวใครก้อยน่ะหัดรู้ซะบ้าง”
“อะไรหัวก้อย พูดอะไร คนแก่นี่พูดอะไรเข้าใจยากนะ เดี๋ยวก่อนพี่ฝัน ผมลืมคุยกับเฮียใหญ่เลย เฮียเป็นไรนั่งหน้าแดงอยู่ได้ เขินพี่ฝัน หรือเมากันแน่” ฟังมันครับมาลามปามที่รักและเคารพของผมได้ยังไง
“เดี๋ยวเหอะมึง กูไม่ใจดีเหมือนฝันมันนะเว้ย” ไอ้ใหญ่เขกกะโหลกน้องเกี๊ยงไปทีก่อนแยกเขี้ยวใส่

น้องเกี๊ยงยกมือไหว้ปลกๆ “กลัวแล้วคร๊าบบบเฮีย...” ก่อนหันมาฟ้องผม “แฟนพี่ดุจัง พี่มิกลัวแย่เหรอ”
ผมก็ขำนะครับแต่หันไปมองใหญ่มันหน้าแดงกว่าเดิมอีก ผมเลยต้องตบหัวลงโทษไอ้น้องเกี๊ยงที่มาทำให้ใหญ่มันอายบ้าง เดี๋ยวเค้าจะว่าไม่ปกป้องแฟน
“นี่มึงกวนตีนกูคนเดียวพอ อย่าไปยุ่งกับเค้า เดี๋ยวเจอดีนะมึง”  
“พี่ฝันอ่า อยู่เผ่านี้ก็ไม่บอก ไม่ยุ่งก็ได้ พวกเผ่าเกลียมัวนี่” พูดจบมันนกรู้ครับ วิ่งหนีฝ่าเท้าที่ผมยกขึ้นมาทันที เข้าไปยืนหลบข้างหลังไอ้หนุ่ยเกาะเอวมันไว้ ทำเอาไอ้หนุ่ยสะดุ้งโวยขึ้นมา
“มึงอย่ามายุ่งกะกู” ไอ้เกี๊ยงถึงชะโงกหน้ามาดูว่ามันไปลวนลามใครอยู่
“อ้าว พี่เป็นใครอะ? มาอยู่นี่ได้ไง”
“กูอยู่มาตั้งนานแล้ว มึงสายตาเอียงรึเปล่ามองไม่เห็น”
“เปล่าผมแค่สายตาสั้น แต่ยังไม่ได้ตัดแว่นเท่านั้นเอง”

ไอ้หนุ่ยกับน้องเกี๊ยงมันแปลกคนครับ คุยต่อปากต่อคำกันอย่างสนิทสนม สองคนคุยกันไปมาจนผมกับใหญ่นั่งฟังแล้วหัวเราะอยู่นาน จนผมทนไม่ไหวต้องถามแทรกพวกมันขึ้นมาอย่างสงสัย
“เฮ้ยๆ กูถามหน่อยดิ พวกมึงรู้จักกันมาก่อนเหรอ” ทั้งสองคนหยุดคุยกันทันที ส่ายหน้าแล้วหันมาประสานเสียงบอกผมพร้อมๆ กันเป็นกอล์ฟไมค์
“เปล่า..น้อง/พี่ ชื่ออะไร?”
ผมกับไอ้ใหญ่หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน “เออ ดี คุยกันไปเลยมึง พอกัน” หลังจากนั้นวงสนทนาก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ไม่มีใครพูดเรื่องเครียดๆอีกต่อไป ท่าทางไอ้หนุ่ยจะถูกอกถูกใจน้องเกี๊ยงมากจนจะชวนไปทำงานด้วย ผมต้องเตือนมันไว้ก่อน
“ใคร่ครวญให้ดีนะมึง เอาน้องกูไปทำงานด้วยมึงจะเมื่อยปากด่ามัน เมื่อยมือตบหัวมันทั้งวัน”

น้องเกี๊ยงรีบวิ่งเข้ามาเลียขา เอ๊ยประจบผมทันที “พี่ฝันอ่า ให้เครดิตน้องหน่อยดิ  ผมปากหมาแต่ฝีมือไม่หมานะ ขั้นเทพเลยนะพี่ ไม่เชื่อถามเฮียใหญ่สิ ยังโทรมาหาผมขอรูปรับปริญญาของพี่ให้ผมอัดเพิ่มเลย”
คราวนี้ไอ้ใหญ่ร้องเฮ้ย! ออกมาดังๆ วิ่งเข้ามาปิดปากไอ้เกี๊ยงอย่างอายๆหน้าแดงก่ำ “บอกเค้าทำไม”
“อ้ออนอันเอง...อายไออ่า..เอีย...อ๋ายใอไอ้ออก...” มันพูดอะไรไม่รู้ครับแต่ดูหน้าเขียวๆเหมือนคนจะขาดใจผมต้องรีบแกะมือใหญ่ออก
“เดี๋ยวมันตาย ปล่อยน้องมันไปเหอะ” ไอ้ใหญ่ตบหัวมันไปอีกทีแล้วหันไปหาไอ้หนุ่ย “พี่หนุ่ยอย่าเอามันไปทำงาน มันกวนตีน”  
คราวนี้น้องเกี๊ยงตาละห้อยวิ่งเข้าไปกราบที่อกไอ้ใหญ่ “เฮียคร๊าบบ ผมขอโต๊ด ลูกช้างผิดไปแล้ว อย่าโกรธผมเลยน้า เห็นแก่เด็กตาดำๆหน้าหล่อๆคนนี้เถอะ” ไอ้เกี๊ยงเอาหน้าไปเกลือกกลิ้งที่อกไอ้ใหญ่ผมต้องรีบดึงมันออกมา ผมยังไม่เคยทำแบบนี้เลย มันบังอาจมาทำได้ยังไง
“เฮ้ย..แฟนกู”

คราวนี้มันออกมายืนทำหน้าเบ้อยู่ห่างๆ “ฮือๆ ใครๆก็ไม่รัก เป็นพี่ไรวะไม่รักน้องเลย” ไอ้หนุ่ยที่นั่งหัวเราะอยู่นานกวักมือเรียกมันมานั่งข้างๆ
“มึงมานี่ เจือกไปยุ่งกะแฟนเค้าทำไม มาทำงานกับกู กูจะได้ลับปากลับสมอง แต่ผลงานมึงต้องดีนะ ไม่งั้นทำงานกับกูไม่ได้”
“เฮียหนุ่ยน่าร้ากที่สุดเลย ผมไม่ยุ่งกับพวกพี่แล้ว...”
พวกเราทั้งคุยทั้งดื่มกันอย่างสนุกสนานครับ กว่าเราจะกลับกันไอ้ใหญ่ก็เมาจนหน้าแดงฟุบหลับไปกับโต๊ะ ดีที่ผมดึงๆมันไว้ไม่ให้ดื่มมากนัก ไอ้เกี๊ยงเองก็หงายหลังหลับครอกไปแล้ว ตัวผมเองกลับไม่ได้ดื่มมากเท่าไหร่เพราะปากไม่ว่างมัวแต่ปะทะคารมกับไอ้หนุ่ยกับน้องเกี๊ยง ผมถึงยังเป็นคนขับรถกลับบ้านได้ ยังไงเมาผมก็ไม่ขับอยู่แล้วครับ ก่อนที่เราจะกลับไอ้หนุ่ยที่มึนๆ ยังไม่ถึงกับเมาบอกกับผมอย่างจริงจังว่า

“มึงไปคุยกับพ่อใหญ่ตรงๆเถอะ กูอยากให้มึงพูดจากันแบบเหตุผล พ่อเค้าจะว่ายังไงก็ตาม สุดท้ายแล้วมึงให้ใหญ่เค้าตัดสินใจเองนะไม่ต้องไปคิดแทนเค้า ไม่ต้องคิดเสียสละความรักของตัวเองเพื่อใครด้วย ถ้ามันจะต้องมีคนที่เจ็บหรือเสียใจจากเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามมันก็เลี่ยงไม่ได้ กูก็ได้แต่เอาใจช่วยมึง ทุกอย่างขึ้นกับตัวมึง ใหญ่แล้วก็พ่อเค้า ”
“อืม ขอบใจหนุ่ย กูเตรียมใจไว้แล้ว ไม่ว่าใหญ่จะตัดสินใจยังไง กูก็จะยอมรับด้วยความเต็มใจ”
พี่หนุ่ยยื่นมือมาให้ผม เราจับมือกันอย่างลูกผู้ชาย “กูจะเผชิญกับปัญหาอย่างที่มึงบอก กูสัญญา”
“ดี เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวกูไปส่งไอ้เกี๊ยงเอง มึงบอกบ้านมันมาว่าอยู่ไหน”  
“มึงพาน้องกูกลับดีๆล่ะ มันปากหมาแต่มันก็นิสัยดีนะเว้ย ฝากมันด้วยนะ” ผมบอกไอ้หนุ่ยขณะที่เราต่างคนพยุงใหญ่กับน้องเกี๊ยงที่เมาจนเดินไม่ไหวกลับบ้าน
“เออน่า กูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับมัน กูยังชอบผู้หญิงอยู่ หึหึ”
“หึหึ กูหมายถึงเรื่องงานเว้ย ฝากมันด้วย”
“เออน่า รู้แล้ว”

รถของเราสองคนแยกจากกันไปคนละทางนานแล้ว แต่คำพูดของไอ้หนุ่ยก็ยังวนเวียนอยู่ในความคิดผม สุดท้ายผมก็สรุปกับตัวเองว่า ‘ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ว่ายังไงกูก็ยังรักมึงตลอดไป ไอ้ใหญ่’ คิดถึงเรื่องที่น้องเกี๊ยงเล่าว่าใหญ่ให้อัดรูปผมให้เพิ่มแล้วก็ต้องยิ้มกับตัวเองด้วยความสุข ผมหันไปมองคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ ใหญ่เมาหลับสนิทไม่รู้สึกตัวเลย ใบหน้าของคนนอนหลับดูช่างมีความสุขไม่เคร่งเครียดกังวลอยู่เสมอเหมือนยามตื่น เมื่อก่อนใหญ่เป็นคนสบายๆยิ้มได้ตลอดไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร แต่หลังจากที่มันไปอยู่เชียงใหม่มันก็เคร่งขรึมขึ้นไปทุกที ผมไม่รู้ว่าหลังจากที่เราไปคุยกับพ่อกันตรงๆแล้ว ต่อไปใหญ่จะเป็นยังไง ผมได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี

เมื่อมาถึงบ้านใหญ่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ผมต้องพยุงมันเข้าบ้านอย่างทุลักทุเล ผมพาใหญ่ไปนอนที่เตียง ดูแล้วใหญ่ทำท่าจะนอนหลับยาวไม่ยอมตื่นง่ายๆ ผมพลิกตัวใหญ่ให้หันหน้ามา ผมนั่งมองใหญ่อยู่สักพักอย่างมีความสุข ใบหน้าของใหญ่เป็นสีชมพูระเรื่อไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ดูน่ารักไปอีกแบบ ผมเอามือลูบแก้มมันเล่นก็ไม่ตื่น แกล้งหยิกแก้มแรงๆก็ยังไม่ตื่น ผมเริ่มสนุกกับการแกล้งเลยเขย่าตัวมันแรงๆหวังจะให้ตื่น “ใหญ่ ๆ ตื่นไปอาบน้ำ”
“อื้อ อย่าแกล้งสิ  กูง่วงอ่า...มาวด้วย...ขอไม่อาบนะครับ”ใหญ่มองผมตาเชื่อม ทำเสียงอ้อนขนาดนี้ ผมก้มตัวลงไปหอมแก้มใหญ่แรงๆ
“ไม่ตื่นเหรอ ตัวเหม็นเหล้าจัง ไปอาบหน่อยนะ กูอาบให้ก็ได้” ผมพูดเสียงเบาๆ รู้สึกอบอุ่นใจดีครับที่ได้มีโอกาสดูแลกัน
“ไม่เอาอะ กูง่วง เมา ไม่อยากลุก”
ใหญ่มันนอนบิดตัวไปมา ตาปรือยิ้มแล้วหลับๆตื่นๆ มันช่างยั่วใจผมอย่างบอกไม่ถูก จนผมต้องก้มลงสัมผัสริมฝีปากมันอย่างห้ามใจไม่อยู่  รสสัมผัสทั้งหวานและขมปร่าไปด้วยรสเหล้าแต่มันก็รู้สึกดีจนอยากจะไม่อยากจะหยุด ใหญ่สนองตอบด้วยการเอามือโอบรอบคอผม ใหญ่จูบตอบผมอย่างนุ่มนวลแต่ยังไม่ยอมลืมตา  ผมไม่อยากจะผละจากมันไปไหนแล้วครับ

“ตกลงจะอาบน้ำมั้ย” ผมถามใหญ่หลังจากที่ใหญ่ทำท่าจะหลับไปอีกครั้งหลังจากจูบอันยาวนานของเรา แต่ใหญ่ก็ยังนิ่งเงียบไม่ตอบ
“ไม่ตื่นก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้านะ เดี๋ยวกูเช็ดหน้าให้ จะได้นอนสบายๆ” ไม่มีคำตอบอีกเช่นเคย ใหญ่คงหลับไปแล้วจริงๆ หลังจากมอบจูบให้ผมมาแล้วพลังก็คงหมดไปพอดี  ผมเข้าไปอาบน้ำให้เรียบร้อยถึงเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดหน้าให้ใหญ่และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้  ผมอยากจะมีโอกาสทำแบบนี้บ่อยๆแต่ก็ไม่รู้อนาคตเลยว่าจะทำได้แค่ไหน ก่อนที่ผมจะล้มตัวลงนอนข้างๆมัน ผมให้กำลังใจตัวเองว่า พรุ่งนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน ผมคิดแบบนั้น

“ฝันๆ ตื่นรึยังลูก” เสียงแม่เรียกผมแต่เช้า ผมงัวเงียมองออกไปข้างนอกยังมืดอยู่ดูนาฬิกาเพิ่ง6โมงเช้า ไม่รู้ว่าแม่มีเรื่องอะไร หรือว่าแม่ไม่สบาย ผมรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เปิดประตูถามแม่ด้วยเสียงตื่นตกใจ “แม่เป็นอะไรรึเปล่า?”
 แม่ส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไร” แต่สีหน้าแม่ดูวิตกกังวล แม่พูดต่อโดยที่ผมไม่ยังถามต่อว่า “คุณพ่อของใหญ่มา”
“...พ่อใหญ่มา”

ผมทวนคำที่แม่พูดแล้วตกใจจนพูดต่อไม่ออก หันไปมองใหญ่ที่ยังหลับสนิทอยู่ แล้วตัดสินใจอะไรบางอย่างหันไปบอกแม่ว่า “เดี๋ยวผมลงไปครับ”
ผมเอื้อมมือไปจับมือแม่มากุมไว้ ฝ่ามือผมเย็นเฉียบทั้งที่อากาศก็ไม่หนาว แต่เมื่อสัมผัสกับความอบอุ่นจากมือแม่ผมกลับรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด “แม่อยู่ข้างๆผมนะครับ”
แม่พยักหน้า แววตาอันปรานีของแม่ที่มองตอบกลับมาทำให้ผมเชื่อมั่นมากขึ้นไปอีก แม่บอกผมว่า
“วางใจเถอะฝัน ทุกอย่างจะต้องดี”
****************
มาแล้วค่ะ น้องเกี๊ยง 555+ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2010 21:37:41 โดย คิคิคุคุ »

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
^
^
จิ้มคนโพสต์จ้า
ลุ้นมากๆ รอตอนหน้าอย่างจดจ่อ
แม่ของฝัน คงเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับฝันกับใหญ่
ส่วนพ่อของใหญ่ลงมาเผชิญความจริงด้วยตัวเองเลยวุ้ย ใจร้อนสุดๆ
บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากนะคะ

jigsaw44

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:น้องน้ำตาล เอาใจช่วยใหญ่กับฝันเผชิญหน้าความจริง
เรารู้ว่าคุณฟางไม่ใจร้ายกับคนอ่านหรอก จริงมั้ยคุณคิคิคุคุ

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re:
«ตอบ #517 เมื่อ01-02-2010 19:48:46 »

กร๊ากๆน้องเกี๊ยงปากดีน่าปล้ำขี้อ้อนแบบนี้ไอ้พี่หนุ่ยอย่าลองแล้วจะติดใจเฟ้ยเอิ๊กพ่อใหญ่มาไวแหะเอาขันหมากมาขอฝันเรอะเฮ้อ

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
กรี๊ดดดดดดดดดดด :angellaugh2: น้องเกี๊ยงของเจ้  ถูกใจเป็นที่สุด
เรียกหาน้องเกี๊ยงน้องเกี๊ยงก็มา แถมมาพร้อมพี่หนุ่ยอีก

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยย  

ว่าแต่ค่าตัวน้องแพงไหมเคอะ จ้างน้องมาออกบ่อย ๆ นะ  อิอิ

ถูกใจตอนนี้ ใหญ่ก็น่ารัก  หน้าแดงเป็นลูกตำลึงเลย แอร๊ยยยยยย

เจ้าฝันก็นะ เต็มปากเต็มคำแฟนกู ๆ  กร๊ากกกกก  เดิ้ลมากกกกก

และแล้วความจริงก็ปรากฏ เจ้าฝันมันเกลียมัว อัวๆๆๆๆๆ
------
อ้างถึง
--
พี่ใหญ่อ่า อยู่เผ่านี้ก็ไม่บอก ไม่ยุ่งก็ได้ พวกเผ่าเกลียมัวนี่” พูดจบมันนกรู้ครับ วิ่งหนีฝ่าเท้าที่ผมยกขึ้นมาทันที เข้าไปยืนหลบข้างหลังไอ้หนุ่ยเกาะเอวมันไว้ ทำเอาไอ้หนุ่ยสะดุ้งโวยขึ้นมา
>>> น่ารักกกกกกก มีเกาะเอวกันด้วย  
พี่ใหญ่อ่า อยู่เผ่านี้ก็ไม่บอก
.......ตรงนี้น่าจะเป็น ฝัน ป่ะ

อ้างถึง
“มึงไปคุยกับพ่อใหญ่ตรงๆเถอะ กูอยากให้มึงพูดจากันแบบเหตุผล พ่อเค้าจะว่ายังไงก็ตาม สุดท้ายแล้วมึงให้ใหญ่เค้าตัดสินใจเองนะไม่ต้องไปคิดแทนเค้า ไม่ต้องคิดเสียสละความรักของตัวเองเพื่อใครด้วย ถ้ามันจะต้องมีคนที่เจ็บหรือเสียใจจากเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามมันก็เลี่ยงไม่ได้ กูก็ได้แต่เอาใจช่วยมึง ทุกอย่างขึ้นกับตัวมึง ใหญ่แล้วก็พ่อเค้า ”
>>> ชอบความคิดนี้ของหนุ่ย คืออย่าไปคิดแทน ให้เจ้าตัวตัดสินใจเอง

อ้างถึง
“มึงพาน้องกูกลับดีๆล่ะ มันปากหมาแต่มันก็นิสัยดีนะเว้ย ฝากมันด้วยนะ” ผมบอกไอ้หนุ่ยขณะที่เราต่างคนพยุงใหญ่กับน้องเกี๊ยงที่เมาจนเดินไม่ไหวกลับ บ้าน
“เออน่า กูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับมัน กูยังชอบผู้หญิงอยู่ หึหึ”
“หึ หึ กูหมายถึงเรื่องงานเว้ย ฝากมันด้วย”

>>> อาการแบบนี้เค้าเรียกว่า "ร้อนตัว" นะคะ เฮียหนุ่ยขา  อุอุ  :m14:
คำพูดฝันไม่ได้ส่อไปทางนั้นเล้ยยยยยยยยย  นี่แสดงว่าก็แอบคิดอยู่เหมือนกันช่ายม้าาาาาาา  กิ๊วๆๆๆๆๆๆ  

เชียร์คู่นี้สุดใจขาดดิ้นหนุ่ย -  เกี๊ยง  o4

ว่าแต่น้องเกี๊ยงเมาแบบนี้ แอร๊ยยยยยย จะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพี่หนุ่ยไปส่งเปล่าเนี่ย อิอิ  :z1:

บวกหนึ่งคนเขียน&คนโพสต์   :pig4: ขอบคุณสำหรับบทน้องเกี๊ยงนะคะ (ถ้าจะให้ดีขอตอนพิเศษคู่นี้ด้วยนะ  555 ( Ak@tsuKII// เป็นคนอ่านมักน้อยเคอะ ได้คืบเราจะเอาศอก ได้ศอกเราจะเอาวา  :sad3:  555))


อืม พ่อใหญ่มาถึงที่เลย  ศึกใหญ่จริง ๆ เอาใจช่วยทั้งคู่นะ  :n1:
---------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2010 20:52:59 โดย Ak@tsuKII »

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
โอ่ยๆๆ เครียดอ่า
พ่อใหญ่มา  จะเกิดอะไรขึ้นบ้างเนี่ย  :serius2:

ปล.น้องเกี๊ยงน่าร้ากกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
คุณพ่อทนไม่ไหว มาเองเลย...เหอๆ น่ากลัว แต่ก็ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลยดีกว่าเน้อ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
หนุ่ยพูดได้โดนใจจริงๆๆ

แต่ก็ยังดีนะถ้าจะคุยกันที่กรูงเทพ อย่างน้อยก็ยังมีแม่ฝันอยู่ข้างๆ ดีกว่า ไปเจอพ่อใหญ่กันแค่สองคน
ไม่งั้นคงสยองยิ่งกว่านี้
เครียดได้อีก  :z10:

Ploy-Tawan

  • บุคคลทั่วไป
น้องเกี๊ยงน่ารักแต่กวน....น่าเตะมาก
พ่อของใหญ่ลงมากรุงเทพฯ  :a5:
ความสุขของลูกหรือความสุขของพ่อ สิ่งไหนสำคัญกว่ากัน
คงต้องรอการตัดสินใจของพ่อแล้วล่ะ
ขอให้เรื่องจบลงด้วยดี

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดละวะ ...  :กอด1:



สู้ ๆ เพื่อความรักกก  :L2:

(เน่าไปหน่อย เเต่ฮึดจริง ๆ น้า  :call:)

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
คุณพ่อมา  :a5:

ขอให้คุณพ่อยอมรับความรักของฝัน-ใหญ่ทีเห้อออ

morrian

  • บุคคลทั่วไป
 o22 พ่อของใหญ่ บุกมาถึงบ้านฝันเลยหรอเนี่ย  :a5:

เอาน่ะ สู้ๆ คราวนี้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อย่างที่เคยบอกไว้

ฝัน ใหญ่ ผนึกกำลังกันไว้ ทัพหลังเป็นคุณแม่ของฝันกะครูน้ำ

น่าจะทำให้พ่อของใหญ่ รับได้นะ  :n1:


ปล.. 
      เชียร์ หนุ่ย กะ เกี้ยง สุดใจขาดดิ้น ด้วยเหมือนกานนนน  :z2:

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อแล้วค่ะ (ปาดหงื่อ)
(ตอนที่๔๘)
“มึงจะกลับเชียงใหม่วันนี้จริงๆเหรอ แต่พรุ่งนี้กูยังลางานไม่ได้ แล้วกูจะไปกับมึงได้ยังไง”ใหญ่มันหน้าสลดลงทันทีที่ผมพูดจบ ครูน้ำกับน้องออมเดินนำหน้าพวกผมไป เราเลยมีเวลาคุยกันเป็นส่วนตัวมากขึ้น
“ก็ไหนมึงบอกว่าจะไปหาพ่อกับกูไง จะเบี้ยวกันง่ายๆแบบนี้ ใช่มั้ย”  ใหญ่มันหน้าบึ้งท่าทางจะงอนผม แต่ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ อธิบายเหตุผลให้มันฟัง

“กูตั้งใจจะไปจริงๆนะ แต่เมื่อวานหัวหน้าโทรมาย้ำว่าไม่ให้ลาต่อ แล้วมึงจะให้กูทำยังไงล่ะ ไหนทีแรกมึงบอกว่ากูไม่ต้องไป มึงเปลี่ยนใจแล้วเหรอ”
ใหญ่มันไม่พูดต่อแต่เดินหนีผมไปหาครูกับหลาน ผมรีบเดินตามมันไปจนทัน ผมเอานิ้วไปเขี่ยมือมัน มันก็สะบัดมือหนี ผมเปลี่ยนไปสะกิดแขนมันแต่สะกิดเท่าไหร่มันก็ไม่หันมา  แถมเบือนหน้าหนีผมอีก ผมลองเรียกอีกครั้ง“ใหญ่ ใหญ่ครับ”

ครูน้ำหันมามองยิ้มๆ คงดูออกว่าผมกับใหญ่กำลังมีปัญหากัน ผมเลยยิ้มแหยๆให้ครูไปแล้วบอกว่า “เค้างอนผมอยู่”
ใหญ่คงได้ยินหันมาส่งตาเขียวใส่ผมตวาดแว้ดขึ้นมาว่า “มึงอย่าพูดบ้าๆนะ ใครงอนมึงกัน”
ใหญ่จะโวยผมต่อแต่น้องออมดึงแขนเสื้อไว้ “คุณพ่อพูดคำหยาบ ไม่เพราะเลย น้องออมไม่ชอบ” ผมกับครูน้ำหัวเราะกันทั้งคู่แต่ไม่กล้าส่งเสียงดังมากนัก ใหญ่จะว่าพวกผมก็ไม่ได้ เลยได้แต่งอนหนักขึ้นไปอีกดึงน้องออมเดินล่วงหน้าไปเลย

ผมมองตามแล้วก็ส่ายหัว อดขำความเป็นเด็กของใหญ่ไม่ได้ ครูน้ำมองตามแล้วยิ้มหันมาถามผมว่า “พี่ใหญ่งอนเรื่องอะไรเหรอคะ ปกติน้ำไม่ค่อยเห็นพี่ใหญ่หงุดหงิดหรืองอนใครเลย”
“เค้าโกรธที่ผมเคยบอกว่าจะไปเชียงใหม่กับเค้าด้วย แต่ผมลางานไม่ได้เลยไม่ได้ไป”
ครูน้ำพยักหน้าเข้าใจ “พี่ใหญ่ก็คงเข้าใจนะคะ พี่ฝันมีเหตุผลนี่ แต่คงงอนไว้ก่อน น่ารักจังค่ะ” ผมมองตามแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข
“ใหญ่มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ ชอบงอนผมแต่ก็แป๊ปเดียวก็หาย”

“น้ำมองดูก็รู้นะคะว่าพวกพี่รักกันมากแค่ไหน เวลาพี่ใหญ่อยู่เชียงใหม่กับที่นี่ผิดกันเลย ตอนที่อยู่กับพี่ฝัน พี่ใหญ่ดูมีชีวิตชีวา ผ่อนคลาย อารมณ์ดี ถึงจะมีงอนมีบึ้งบ้าง แต่ก็ไม่ดูแบกทุกข์เหมือนอยู่ที่นู่น” ผมนึกภาพตามที่ครูน้ำพูดได้เลย ใหญ่มันคงอึดอัดสิ่งที่พ่อมันพยายามกำหนดให้มันเป็นมากกว่า  ผมอยากไปอยู่กับมันที่เชียงใหม่ ผมไปหางานทำที่นั่นก็ได้แล้วพาแม่ไปอยู่ด้วย แต่ผมคงต้องถามแม่ก่อนว่าคิดยังไง

“คุณครูจะกลับแล้ว ยังไงผมก็อยู่ไกล ผมฝากใหญ่ด้วยนะครับ” ผมกัดฟันพูดจาฝากฝังใหญ่กับครูน้ำไปทั้งที่ใจก็ยังระแวงอยู่ลึกๆ แต่ผมไม่มีทางเลือกนี่ครับ ตอนนี้ทุกอย่างมันต้องดำเนินไปแบบนี้ก่อน
“น้ำก็คงดูได้ห่างๆค่ะ พี่ใหญ่เค้าไม่ให้ใครไปดูแลเค้าหรอกค่ะ มีแต่เค้าจะคอยดูแลทุกข์สุขของคนอื่น จนลืมนึกถึงตัวเอง”
อยู่ๆ ครูน้ำก็หยุดเดินแล้วหันมามองผมตรงๆ พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า “พี่ฝันจะไม่ไปเชียงใหม่กับเราจริงๆหรือค่ะ แล้วจะปล่อยให้พี่ใหญ่ไปเจอกับคุณลุงคนเดียว น้ำบอกตรงๆว่าไม่เห็นด้วย”

ผมพยักหน้าเข้าใจที่ครูน้ำเหมือนจะตำหนิผม แต่ตอนนี้ผมไปไม่ได้จริงๆ ครับด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง “พี่ติดจริงๆ นายคาดโทษเอาไว้ว่าห้ามลาต่อ เพราะเป็นวันต่อเนื่องจากหยุดปีใหม่ ถ้าลาพี่คงโดนนายหมายหัวแน่ๆ”
“น้ำไม่ชอบเลยค่ะ สงสารพี่ใหญ่ที่ต้องเผชิญกับปัญหาคนเดียวอีกแล้ว” ผมเองก็ไม่สบายใจ แต่ผมจะทำอะไรได้ครับ
“พี่จะพยายามตามไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เค้าจะอนุญาต” ครูน้ำขมวดคิ้วแล้วไม่พูดอะไรอีก คงจะรู้ว่าก้าวก่ายเรื่องของพวกผมมากไปแล้ว

“คุณครูขา เดินเร็วๆสิค่ะ หนูมาถึงนานแล้วนะ” เสียงของน้องออมที่ตะโกนเรียกมาทำให้เราจบการสนทนาไว้เพียงแค่นั้น ผมกับครูน้ำเดินตามไปหาน้องออมกับใหญ่ที่หยุดรออยู่ ใหญ่ก็ยังทำหน้าบึ้งๆใส่ผมอยู่ แต่ผมไม่สนใจเดินเข้าไปคว้ามือมันเอาไว้ แล้วกระซิบที่หูมันว่า
“รอนานมั้ย กูขอโทษนะ อย่าโกรธกันเลย”
ใหญ่หน้าแดงก่ำลามจนถึงใบหูบ่นอุบๆ อิบๆว่า “เล่นแบบนี้อีกแล้ว ไม่ดูเวลาสถานที่เลย”  แต่เราก็ไม่ปล่อยมือจากกันครับ ผมจูงมือใหญ่เข้าร้านอาหารไปอย่างไม่สนใจใคร ก็จะทำไมล่ะครับ ก็คนรักกันนี่นา

คืนนั้นหลังกินข้าวแล้วน้องออมกับครูน้ำเข้าไปคุยกับแม่ผมในห้อง ผมเลยมีเวลาแยกกันออกมาสองคนตั้งแต่หัวค่ำ เรานั่งดูทีวีกันไปคุยกันไปในห้องนั่งเล่น
“ไม่น่าเชื่อนะว่ากูอยู่ที่นี่มาสามวันแล้ว ทำไมเวลามันผ่านไปไวจริงๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูก็ต้องกลับแล้ว” น้ำเสียงของใหญ่ดูหงอยๆไปเมื่อพูดถึงต้องกลับเชียงใหม่ ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันกังวลใจเรื่องพ่อที่มันต้องไปเจอ ผมขยับตัวเข้าไปนั่งติดกับมันเอามือจับหัวใหญ่ให้พิงไหล่ผมไว้ อีกมือหนึ่งก็คว้ามือมันมากุมไว้

“กูรู้ว่ามึงไม่สบายใจ ทุกอย่างจะต้องดี มึงเชื่อกูนะ” น้ำเสียงของผมที่พูดกับใหญ่ฟังนุ่มนวลกว่าเคย เมื่อเราต่างมีปัญหาร่วมกัน ผมก็อยากให้มันรู้สึกว่าผมอยู่กับมันเสมอทั้งที่ผมอยู่ห่างกับมันเหลือเกิน
“กูก็พยายามคิดแบบนั้นนะฝัน กูรู้ว่าพ่อรักกู แต่กูก็รักมึง กูไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้” ผมลูบหัวปลอบใจมัน เรานั่งกันอยู่เงียบๆไม่มีใครพูด ปล่อยให้เสียงโทรทัศน์ดังอยู่แบบนั้นไม่มีใครดู เราสองคนต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนบอกใหญ่ว่า
“มึงไม่ต้องกลัว ยังไงกูจะไปหามึงหลังจากเคลียร์งานทางนี้เสร็จแน่นอน” ผมก้มลงจูบปากมันเบาๆ สัมผัสแล้วผละออก ใหญ่มองตอบผมกลับมาแววตาสั่นไหว

“มึงมาทำให้กูรักทำไม บางทีกูรู้สึกว่าถ้าเราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ทุกอย่างคงง่ายกว่านี้รึเปล่า” ผมเอามือปิดริมฝีปากใหญ่ไว้ไม่ยอมให้มันพูดต่อ
“มึงอย่าพูด ถ้ามึงกับกูรักกันแล้ว ยังไงมันก็ย้อนเวลาไปไม่ได้ รักแล้วรักเลยไม่มีถอยหลัง”
ใหญ่ล้มตัวลงนอนหนุนตักผมแล้วนอนหงายมองหน้าผม ยกมือลูบแก้มผมเบาๆ ผมเองก็ลูบหัวมันเพลิน เราต่างยิ้มให้แก่กันแต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่ไม่สดใสเอาเสียเลย ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเราจะมีวันเวลาที่ได้ยิ้มกันเต็มที่รึเปล่า  

“ง่วงนอนรึยัง” ผมถามเมื่อเห็นมันหลับตาพักนิ่งอยู่นาน ใหญ่เอามือผมไปกอดที่อก ส่ายหน้าแล้วบอกผมว่า
“ไม่ง่วง กูกำลังสบาย สบายจนอยากหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้” ใหญ่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ผมบอกกับตัวเองว่าผมชอบสายตาของมันที่มองผม เพียงแค่สบสายตาใหญ่ริมฝีปากผมก็คลี่ยิ้มออกมาไม่รู้ตัว จะให้ผมทำยังไงถึงจะได้มีสายตาแบบนี้มองผมตลอดไป ผมไล้ปลายนิ้วตามแนวจมูกของใหญ่ เล่นต่อไปที่คิ้ว ใหญ่หลับตาลงอีกแล้วยิ้มขำ  ผมลูบเบาๆที่เปลือกตาที่ปกปิดดวงตาขี้เล่นนั้น ก่อนก้มลงสัมผัสริมฝีปากใหญ่อีกครั้งเนิ่นนานจนแทบลืมหายใจ  เมื่อผมเงยหน้าขึ้นถึงเห็นว่าสีหน้าใหญ่เป็นสีชมพูระเรื่อ เหงื่อเกาะพราวเต็มใบหน้า ผมหัวเราะก่อนเอามือลูบเช็ดเหงื่อให้ใหญ่ พูดด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่เล่นๆว่า
“เหงื่อตกเลยเหรอ จูบแค่นี้เองนะ ถ้ามากกว่านี้เหงื่อมิท่วมเลยเหรอ หึหึ”

ใหญ่ทำตาเรืองแสงใส่ผม ส่งค้อนมาให้แล้วลุกขึ้น “มึงก็ชอบแบบนี้ ทำบรรยากาศกูเสียหมดเลย ชอบกวนจริงๆ”
ผมรวบตัวมันมากอดดึงมันมาพิงอยู่ที่อก “อย่าโมโหสิ ก็กูรัก กูก็อยากแกล้ง นานๆจะได้แกล้งมึงสักที อยู่ก็ไกล”
ใหญ่พูดค่อยๆ แต่พอจะได้ยินว่า “มึงไปอยู่เชียงใหม่กับกูนะ พาแม่ไปอยู่ด้วย” น้ำเสียงของใหญ่จริงจังไม่ได้พูดเล่นอีกต่อไป แต่สิ่งที่มันพูดมาบังเอิญตรงกับความคิดผมพอดี
“มึงจะเลี้ยงกูเหรอ กูกินจุนะ บอกซะก่อน” ผมขยี้หัวมันเล่น ใหญ่เงยหน้าขึ้นมา ทำสีหน้างอนๆ
“พอกูจริงจังมึงก็ชอบพูดเล่น มึงไม่เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญเลยใช่มั้ย” ก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดเป็นการเข้าใจผิดกันไป ผมต้องรีบอธิบายให้มันฟัง

“ขอโทษครับ ผมไม่อยากเห็นคุณซีเรียส ล้อเล่นก็อยากให้คุณยิ้มเท่านั้นเอง...จริงๆนะใหญ่ มึงยิ้มหน่อย กูอยากเห็น”
ใหญ่ส่ายหน้า “กูยิ้มไม่ออก พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมากูก็เครียดจนเส้นสมองตึงไปหมด มันห้ามกันยากจริงๆนะฝัน”
“กูรู้ แต่ชีวิตมันก็แบบนี้ ค่อยๆคิดค่อยแก้ปัญหากันไปดีกว่า เรื่องไปเชียงใหม่กูก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่ติดที่แม่ กูคงต้องถามแม่ก่อน มึงคงเข้าใจกูนะ”
ใหญ่พยักหน้า “กูเข้าใจ แต่ถ้าเราอยู่ห่างกันแบบนี้ มันไม่ไหวนะฝัน...”ใหญ่มองผมนิ่งก่อนพูดต่อ

“...มันทรมาน”

ผมรวบตัวมันมากอดแน่นๆอีกครั้ง ถ้อยคำที่มันพูดมากระแทกใจผมจนจุก ผมไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกขนาดนั้น
“กูขอโทษ...กูขอโทษที่ทำให้มึงทรมาน”
“กูสัญญาว่าจะทำให้มึงหายทรมาน กูจะทำให้ได้” ผมสัญญากับมันไปทั้งที่ผมเองไม่มั่นใจเหมือนกันว่าผมจะทำได้หรือเปล่า ผมย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า

ผมก้าวลงบันไดไปอย่างช้าๆ เสริมสร้างจิตใจตัวเองให้มั่นคงมากขึ้น  ในสมองคิดวุ่นวายว่าควรจะเริ่ม ยังไง อะไรตรงไหนดี แม่เดินตามหลังผมมาด้วยเงียบๆ ทำให้ผมอุ่นใจยิ่งขึ้น  พ่อของใหญ่นั่งอยู่ที่โซฟาสายตามองเหม่อออกไปข้างนอก ผมมองจากระยะไกลยังเห็นแววตากังวลที่ซุกซ่อนไว้ไม่มิด ลึกๆ ผมรู้สึกแย่ที่เป็นส่วนหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ท่านต้องขบคิดอยู่ แต่ผมจะทำอะไรได้ครับเมื่อความจริงที่ผมกับใหญ่รักกันมันเป็นสิ่งที่เป็นไปแล้ว และจะเป็นไปในเวลาที่เหลืออยู่ของทั้งผมและมัน...ผมเชื่อเช่นนั้น

“สวัสดีครับพ่อ” ผมยกมือสวัสดีส่งเสียงเรียกท่านให้หันกลับมาที่ผม พ่อยกมือรับไหว้แล้วพยักหน้าให้แต่ยังไม่พูดอะไร แม่จูงมือผมให้นั่งลงตรงข้ามกับพ่อ พอเราสบตากันตรงๆ ผมกลับเป็นฝ่ายที่ต้องหลบตาพ่อก่อน
“เดินทางมาแต่เช้าเลยนะคะ คงจะเหนื่อยแย่” แม่เริ่มบทสนทนากับพ่อขึ้นมา พอจะช่วยทำลายความอึดอัดลงไปได้บ้าง ส่วนผมยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจะเริ่มต้นพูดยังไง
“ผมนั่งรถมาเมื่อคืนครับ ต้องขอโทษด้วยที่มารวบกวนแต่เช้า”
 พ่อหยุดไปชั่วขณะก่อนสบตาผมแล้วหันไปพูดต่อกับแม่ว่า “ผมต้องขอโทษอีกเรื่องที่ลูกๆหลานๆ ผมมารวบกวนกันหลายคน เกรงใจจริงๆครับ”

แม่ยิ้มอ่อนโยนให้พ่อ “ไม่เป็นไรเลยค่ะ ใหญ่ก็เหมือนลูกอีกคนของดิฉัน เห็นกันมานานแล้วก็รักแกเหมือนลูก” แม่กุมมือผมไว้แล้วยิ้มส่งกำลังใจให้ผม
 “น้องออมเองก็น่ารัก ดิฉันกลายเป็นคุณย่าของแกไปแล้วค่ะ ดิฉันดีใจนะคะได้มีหลานทันใจจริงๆ”
“คุณไม่อยากมีหลานจริงๆของตัวเองบ้างหรือครับ” พ่อใหญ่พูดสวนขึ้นมาทำเอาแม่ผมยิ้มเจื่อนไป แต่ก็ฝืนยิ้มตอบพ่อกลับไปว่า
“อีกหน่อยก็มีค่ะ พี่สาวของตาฝันเพิ่งจะแต่งงานไป อีกไม่นานก็คงมีหลานมาให้ดิฉันได้ชื่นชม”
“ผมเองมีหลานแล้วหนึ่งคนจากลูกสาว ก็ยังอยากมีหลานจากใหญ่อีกสักคน”

ผมแปลกใจที่พ่อพูดอ้อมไปมาแต่ก็ทำให้ผมเจ็บได้อยู่ดี หรือจะเป็นที่สายตาของพ่อที่มองมาตรงมาที่ผมเมื่อพูดว่าต้องการลูกจากใหญ่ ผมกำลังจะเปิดปากพูดแต่แรงบีบจากมือแม่ก็หยุดผมเอาไว้
“หลานจะมีกี่คน จะมาจากใครก็คือหลาน ดิฉันเองสุขภาพไม่ค่อยดีเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล ถึงแม้ตอนนี้จะดูไม่มีอะไรแต่อายุก็มากแล้ว คงอยู่กับลูกหลานไปได้อีกไม่นาน ก็คงต้องแล้วแต่ลูกๆว่าเค้าอยากมีหรือไม่มี เพราะเราก็คงไปช่วยอะไรเค้าในอนาคตไม่ได้ แก่ๆอย่างดิฉันก็รอวันตายอย่างเดียว”
“แม่พูดอะไรแบบนั้น แม่ยังแข็งแรงอยู่แท้ๆ” ผมไม่สบายใจที่แม่พูดแบบนี้ ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าแม่ต้องการบอกอะไรกับพ่อของใหญ่หรือเปล่า แต่พูดเหมือนแช่งตัวเองผมไม่ชอบเลย

“ผมไม่คิดแบบคุณครับ ถึงแม้ในอนาคตเราจะไม่อยู่กับลูกๆหลานๆ แต่ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องชี้แนะแนวทางให้ลูกเพราะเราผ่านชีวิตมามากกว่าเค้าเห็นอะไรมามากกว่า บางทีเด็กๆก็คิดอะไรแคบๆแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินใจเรื่องอะไร”
แม่พยักหน้าเหมือนจะเห็นด้วย “ข้อที่ว่าพวกเราๆ ผ่านอะไรมามากกว่าลูกก็คงจะจริงดิฉันเห็นด้วย พ่อแม่ต้องชี้แนะแนวทางให้ลูกดิฉันก็เห็นด้วย” ผมหันไปมองหน้าแม่ ว่าแม่กำลังจะพูดอะไรกันแน่ แต่แม่ก็พูดต่อไปก่อน

“แต่ประสบการณ์ของเราในอดีต มันก็เทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ได้นะคะ  เหตุการณ์มันเปลี่ยนไป สังคมก็เปลี่ยน เราเองต้องมองโลกเก่ากับใหม่ในมุมมองที่แตกต่าง บางอย่างเราต้องเปิดกว้าง เราต้องรับฟัง”
พ่อเริ่มขมวดคิ้วมองมาที่ผม ผมเองก็อยากพูดมากๆแต่กลัวทำเสียเรื่องลองฟังผู้ใหญ่เค้าคุยกันตามประสาพ่อแม่ไปก่อนดีกว่า
“คุณกำลังจะบอกผมว่า ถ้าสมัยนี้ลูกชายคุณจะรักกับผู้ชาย คุณก็ไม่ว่างั้นรึ?”

คำถามของพ่อที่ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมอีกต่อไปทำเอาผมมือเย็นเฉียบ บทพ่อจะตรงพ่อก็ตรงไม่มีเตือนเลย
“ไม่ว่าค่ะ เขาก็มีสิทธ์เลือกใครที่เค้ารัก เพราะมันเป็นชีวิตของเขา” แม่พูดหน้านิ่งๆ ไม่ยิ้มแต่ก็ไม่บึ้ง “ดิฉันจะไม่ยอมก็ต่อเมื่อลูกของฉันไปรักคนชั่ว คนไม่ดีเท่านั้นค่ะ”
****************
 :serius2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2010 09:30:46 โดย คิคิคุคุ »

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ประโยคสุดท้ายของแม่ถูกที่สุดเลย  :serius2:

แนะนำตัวค่ะ เพิ่งเคยเม้นท์ครั้งแรก นิยายสนุกมากค่ะ ปนเศร้าด้วย  :pig4:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
คุณแม่สุดยอดดดด  o13

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
คุณแม่เลิศมากที่สุดเลยชอบๆอะ
แล้วจะรออ่านต่อ
นิว(ยิ้มๆ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






mecon

  • บุคคลทั่วไป
ศึกครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก คุณแม่ออกโรงแล้ว...คุณพ่อใหญ่ท่านก็นะยัง
ห่วงกับกังวลยังอยากจะชี้นำลูกชายหัวแก้วให้เป็นอย่างใจอยู่นั่น
งานนี้คุณแม่เจ้าฝันจะกล่อมได้มั๊ยนะ

เจ้าฝันสัญญาที่ให้ไว้กับนุ้งใหญ่คงต้องใช้ความพยายามมากๆเลยอ่ะนะ
อดทนๆ.....พายุฝนเกิดขึ้นได้ก็ย่อมจางหายไปได้
+1 คะ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
คุณแม่พูดได้โดนใจอย่างแท้จริง
คนที่ผ่านประสบการณ์มามากกว่า และนำประสบการณ์นั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับสถานการณ์ในปัจจุบันคือคุณแม่ของฝันนี่เอง
ส่วนคุณพ่อของใหญ่ก็ดื้อมากมาย ไม่ยอมรับก็ต้องขัดขวางจนสุดท้ายสินะ

บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากค่ะ


OhJa

  • บุคคลทั่วไป
คุณแม่น่ารักที่สุดเลย
เมื่ิอไหร่พ่อใหญ่จะใจอ่อนซะที
สงสารใหญ่ สงสารฝันอ่า  :z3:

b_hihi

  • บุคคลทั่วไป
คุณแม่แรงได้ใจเลย

คิคิคิ  รออ่านต่อนะครับ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
 o13  สุดยอดคุณแม่เลย

morrian

  • บุคคลทั่วไป
ต้องนับถือความแมน ในตัวแม่ของฝันซะจริงๆ  o13

รออ่านความเข้มข้นในตอนต่อไปนะค้าบบ

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
ใหญ่งอนน่ารักอ่ะ  คู่นี้ เค้างอนง้อกันน่ารักจริง ๆ

คุณแม่เลิศเคอะ 

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
สุดยอดเลยคับ เเม่พี่ฝันเนี่ย

 o13

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
  :z2:
(ตอนที่๔๙)

“ผมรักใหญ่จริงๆนะครับ” ผมพูดแทรกขึ้นมาบ้าง อยากแสดงให้พ่อรู้ว่าผมคิดยังไง
“ความรักมันก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง” พ่อไม่มองหน้าผมเลยเมื่อพูดขึ้นมา
“ใหญ่ยังต้องอยู่ในสังคมอีกนาน คนทั่วไปเค้าจะมองว่ายังไงกัน...มารักกับผู้ชาย” น้ำเสียงของพ่อมันทำให้ผมเจ็บ
ผมกัดริมฝีปากตัวเองแรงๆจนลิ้นรู้สึกได้ถึงรสปร่าของเลือด เสียงที่พูดออกมาแผ่วเบาเหมือนคนหมดแรง “เราแค่รักกัน ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด มันผิดตรงไหนครับ”
พ่อปรายหางตามามองผม “ฮึ ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด แค่คิดก็ผิดแล้ว”

“....” ผมถึงกับพูดไม่ออก ขอบตาร้อนเหมือนน้ำตาจะไหล แต่แรงบีบจากมือของแม่ทำให้ผมต้องกลั้นน้ำตาไว้
“แปลกนะคะ ฟังแล้วดิฉันก็สงสัยว่าคุณแคร์ความรู้สึกคนในสังคมมากกว่าความรู้สึกของลูกตัวเองเสียอีก”
พ่อส่ายหน้า สายตามองตอบกลับมาดูหม่นหมองลง “ไม่ใช่หรอกครับ ผมก็คิดเหมือนคุณนะครับ อีกหน่อยผมก็ตาย ผมก็ห่วงลูกอยากให้เค้าอยู่ต่อไปในสังคมอย่างมีความสุข  ไม่ใช่อยู่ท่ามกลางเสียงนินทา”
แม่ส่ายหน้า “ดิฉันกลับไม่คิดอย่างนั้น ดิฉันคิดว่าสังคมมันเปลี่ยนไปแล้ว เค้ายอมรับทุกเรื่องกันมากขึ้น คุณอย่าคิดแทนลูกจนมากไปสิคะ” 
“ความสุขของลูกมันอยู่ที่ว่าเค้าได้ทำในสิ่งที่เค้าต้องการรึเปล่ามากกว่า ถ้าเค้าเลือกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเค้าก็ต้องยอมรับผลของมัน เราคนเป็นพ่อเป็นแม่ทำได้ก็เพียงคอยมองอยู่ห่างๆ ให้กำลังใจยามลูกมีปัญหา ชื่นชมยินดีเมื่อลูกมีความสุข”

 แม่หยุดไปสักพักก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ ความสุขของพ่อแม่ก็คือลูกมีความสุข...ไม่ใช่เหรอค่ะ?”
พ่อเงยหน้าขึ้นมองแม่ตาแดงๆ “ผม...” พ่อไม่พูดอะไรต่อนิ่งอึ้งไป เหมือนต้องการใช้ความคิดเพียงลำพัง
“ผมสัญญาครับพ่อว่าผมจะรักและดูแลใหญ่ตลอดไป ผมจะไม่ทำให้ใหญ่เสียใจ จะไม่ทำให้ใหญ่เสียหาย เรารักกันก็จริงแต่เราก็อยู่ห่างไกลกัน ในอนาคตถึงเราอยู่ด้วยกันจริงๆ ผมก็จะไม่สร้างปัญหาให้ใหญ่”
พ่อมองหน้าผมแต่ตั้งใจฟังสิ่งที่ผมพูดทุกคำ ผมเลยได้โอกาสพูดต่อ
“ผมไม่ได้เร่งรัดให้ใหญ่ต้องมาอยู่กับผม ผมเข้าใจว่าเราทั้งสองต่างมีพ่อแม่และภาระหน้าที่ ที่ต้องดูแลและทิ้งไปไม่ได้ ไม่ได้บังคับให้ใหญ่ต้องทิ้งใครเพื่อผมหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อผม  เราแค่ขอรักกัน ได้เจอกันบ้าง ได้ใช้เวลาร่วมกันก็แค่นั้น”

“มันเป็นความสุขของลูกนะคะ” น้ำเสียงอบอุ่นของแม่เหมือนจะช่วยปลอบโยนพ่อและสนับสนุนสิ่งที่ผมพูด พ่อถอนหายใจยาวนั่งพิงพนักอย่างอ่อนแรง น้ำเสียงของพ่อช่างแผ่วเบาและเศร้าศร้อยเมื่อพูดกับแม่ของผม จนผมรู้สึกเห็นใจท่าน
“ครอบครัวในความคิดของผมคือมีคู่คิด คู่รักที่คอยห่วงใยดูแลกัน มีลูกด้วยกัน อยู่กันได้อย่างเปิดเผย ไปไหนมาไหนด้วยกันได้อย่างสบายใจ ผมก็แค่อยากให้ลูกผมมีตรงนี้ ไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจในภายหลัง ผมคิดผิดเหรอครับ?”

แม่ส่ายหน้าแล้วยิ้มให้กำลังใจ “ความรักของพ่อแม่ไม่มีผิดหรอกค่ะ ใหญ่เค้าก็คงคิดแบบนี้เพราะเค้าก็รักคุณพ่อ แต่เค้าก็มีชีวิตของเค้าที่ต้องการเลือกเอง ถ้าคุณพ่อยังยืนยันตามความคิดเดิม ดิฉันคิดว่าใหญ่ก็คงต้องยอมเลิกกับฝัน ทำงานอยู่เชียงใหม่เหมือนเดิมโดยไม่มีรัก แต่เรื่องคู่ครองในอนาคต ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าเค้าจะยอมตามใจคุณรึเปล่า แต่ที่แน่ๆเค้าก็คงไม่มีความสุขไปช่วงหนึ่ง”
แม่ถามย้ำไปอีกคำว่า “ถ้ามันจะเป็นแบบนั้นคุณพ่อจะมีความสุขเหรอค่ะ”

ผมไม่แน่ใจว่าพ่อได้ยินที่แม่ผมถามรึเปล่า เพราะพ่อถามผมขึ้นมาบ้าง “พ่อถามเรานะฝัน เราแน่ใจแค่ไหนว่าจะรักกันไปตลอดรอดฝั่ง แน่ใจแค่ไหนว่าที่พูดกันปาวๆว่ารักกันมันไม่ใช่แค่ความหลงหรือการเข้าใจผิด ไม่ใช่ว่ารักเพื่อนมาก จนเผลอเข้าใจว่านี่คือความรักแบบคู่รัก”
ผมตั้งสติก่อนตอบช้าๆอย่างที่ผมคิด “ผมแน่ใจว่าคือรักไม่ใช่หลง ผมไม่ได้เข้าใจผิด ตอนนี้ทั้งผมและใหญ่ต่างก็มีผู้หญิงดีๆอยู่รอบตัวเรา คนที่เราควรจะรัก ควรจะเลือกมาเป็นคู่ชีวิต แต่เราก็ไม่เลือก เราเลือกที่จะรักกัน ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ง่าย และมันไม่ใช่เรื่องที่คนรอบข้างเราจะยอมรับกันง่ายๆ”

ผมถอนหายใจอีกครั้งสูดลมหายใจลึกๆก่อนพูดต่อ “ส่วนเรื่องอนาคตผมอยากให้พ่อพิสูจน์ด้วยตัวของพ่อเองมากกว่าเพราะผมพูดไปพ่อก็คงไม่เชื่อ ว่าผมรักใหญ่มากแค่ไหนและจะนานไปได้อีกกี่ปี”
“พ่อสงสารเราเถอะนะครับ ให้โอกาสผมให้แสดงความจริงใจให้พ่อดู”

ผมลุกขึ้นไปนั่งลงกราบที่ตักพ่อ พ่อมองผมเฉยๆ ผมมองแววตาของพ่อไม่ออกว่าคิดยังไง แล้วอยู่ๆพ่อก็ลุกขึ้นยืนหันไปบอกกับแม่ผมว่า “ผมขอเวลาคิดเรื่องนี้ดูอีกที ผมดีใจนะครับที่ได้มาพบคุณ อย่างน้อยผมก็รู้ว่าคุณยอมรับใหญ่ได้ ผมเองก็รักลูกผมไม่น้อยไปกว่าที่คุณรักลูกคุณหรอกครับ ”
พ่อก้มหน้าลงพูดกับผมว่า “ยังไงพ่อก็ยังห่วงใหญ่อยู่ดี ฝันอย่าบอกใหญ่นะว่าพ่อมา เดี๋ยวเค้าจะเที่ยวไม่สนุก พ่ออยากให้เรารู้กันแค่นี้”
ผมก้มลงกราบที่เท้าพ่อ “ผมขอบคุณครับที่พ่อให้โอกาสผม”
พ่อส่ายหน้าปฏิเสธ สีหน้าราบเรียบแต่ก็ดูออกว่ายังเครียดๆอยู่ “ยังไม่ได้ให้โอกาส บอกแล้วยังไงล่ะว่าขอกลับไปคิดดูก่อน”

แม่เดินมาจับไหล่ผม “ฝันอย่าใจร้อนนะลูก ยังไงคุณพ่อก็ต้องคิดให้รอบคอบ”
“ผมพร้อมที่จะไปฟังคำตอบ ผมจะขึ้นไปเชียงใหม่กับใหญ่ด้วยครับพ่อ” ผมก็ยังใจร้อนอยากจะรู้ว่าตกลงพ่อตัดสินใจยังไงกันแน่ แต่พ่อกลับยกมือห้ามผม
 “ไม่ต้องไปหรอก พ่อจะตกลงกับใหญ่เอง ให้เค้าเป็นคนบอกเราเองดีกว่า”
“แต่ว่า...”
 ผมจะพูดต่อแต่แม่ก็ปรามผมด้วยสายตา ผมรู้ว่าแม่ไม่ชอบให้ผมพูดสวนผู้ใหญ่ แต่ที่แน่ๆผมต้องทรมานไปด้วยความไม่แน่ใจไปอีกหลายวันถ้าพ่อไม่บอกผม

 แม่กับพ่อยกมือไหว้บอกลากันและกัน ผมเสนอตัวพาพ่อไปส่งที่ๆอยากไป แต่พ่อก็ปฏิเสธบอกว่าจะกลับเชียงใหม่เลยและไม่อยากให้ใหญ่สงสัยว่าผมหายไปไหน ผมเลยต้องปล่อยให้พ่อกลับไปเองตามลำพัง ผมเดินไปส่งพ่อที่หน้าบ้าน ก่อนที่พ่อจะออกไปพ่อหันมามองผมอีกครั้งเหมือนคิดพิจารณา ก่อนที่จะเอ่ยว่า
 “พ่ออยากให้ฝันเข้าใจอย่างหนึ่งนะ ที่พ่อคัดค้านไม่ใช่เพราะพ่อเกลียดฝัน ถึงไม่เป็นฝันเป็นผู้ชายคนอื่น พ่อก็ต้องทำแบบนี้”

 ผมยกมือไหว้ขอบคุณพ่ออีกครั้ง “ผมเข้าใจครับพ่อ ผมรู้ว่าพ่อรักใหญ่มาก ผมรู้ครับ” พ่อพยักหน้าให้ผม ก้มหัวให้แม่อีกครั้ง แล้วก็ขึ้นรถแท็กซี่จากไป ผมมองตามหลังรถไปจนลับตา ที่จริงแล้วผมเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อ  แต่ยังไงผมก็ยังเห็นแก่ตัวเองมากกว่าอยู่ดี

ผมกับแม่เดินจับมือกันเข้าบ้านเมื่อพ่อกลับไปแล้ว แม่จูงมือผมมานั่งลงที่โซฟา ผมลงนั่งกราบที่เท้าแม่ของผมบ้างแล้วซบลงที่ตักแม่ แม่ลูบหัวผมอย่างใจดี พูดเหมือนล้อผม
“ฝันนึกยังไงมากราบแม่”
 ผมเงยหน้าขึ้นมาบอกแม่ “ผมรักแม่ ผมก็กราบ แม่คือพระของผม ผมกราบแม่ก็เป็นสิ่งที่ผมสมควรทำนี่ครับ”
“ขอบคุณแม่นะครับ ถ้าไม่มีแม่อยู่ข้างๆ ผมคงผ่านวันนี้ไปไม่ได้แน่ๆ” ผมยิ้มให้แม่อย่างประจบ แต่ลึกๆในใจผมก็ยังกังวลใจอยู่
“แม่คิดว่าพ่อใหญ่ใจอ่อนรึยัง ผมไม่แน่ใจเลย” แม่ลูบหัวปลอบผม แล้วยิ้มให้กำลังใจ
“ก็ต้องให้เวลาเค้าคิด แต่แม่คิดว่ายังไงๆเค้าก็ต้องเลือกทางออกที่ดีที่สุดสำหรับใหญ่นะ”
“ผมก็อยากจะคิดแบบนั้น ภาวนาอย่างเดียวขอให้ทางออกนั้นมันดีสำหรับผมด้วยก็แล้วกัน”

“คิดอะไรอยู่ฝัน ทำไมเงียบไป”  เสียงเรียกของใหญ่ปลุกผมให้ตื่นจากความคิด ใหญ่เขย่าแขนผมแล้วหาวจนน้ำตาไหล “โว้ว...กูนึกว่ามึงหลับไปแล้ว นิ่งไปเลย เราขึ้นไปนอนกันเถอะ กูง่วงแล้ว”
ผมยิ้มให้ใหญ่แล้วหอมแก้มมันเบาๆ “ไปสิ กูก็ง่วง อยากนอนกอดมึงแล้ว”
ใหญ่ไม่ตอบแต่แอบยิ้มผมเลยยิ้มด้วย เราลุกขึ้นเดินจูงมือกันเข้าห้อง  พอเข้าไปในห้องนอนใหญ่ก็ปล่อยมือผมแล้วล้มตัวลงนอนทันที ห่มผ้าแล้วหลับตาหันหลังให้ผม แต่ผมยังไม่ง่วงเลยสะกิดแขนใหญ่
“กูยังไม่ง่วงเลย หันหน้ามาก่อนดิ”
“....”
 เงียบไม่มีเสียงตอบจากใหญ่ ได้ยินเพียงเสียงกรนเบาๆในคอ ใหญ่มันคงจะง่วงจริงๆ ผมเลยต้องจำใจนอนด้วย ผมสอดแขนเข้าไปใต้ศีรษะใหญ่จับหัวมันให้เข้ามาหาผม ใหญ่พลิกตัวหันมาหาผม ลืมตาปรือๆเหมือนจะตื่นมองผมงงๆ แล้วก็หลับต่อ ขยับตัวซุกเข้ามาในอ้อมกอดผม ผมดูแล้วก็ยิ้มบ่นกับตัวเองว่า
“หลับก็หลับ ขอกอดมึงหน่อยนะ ใหญ่ของกู”
ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ลูบหัวใหญ่เล่นแล้วก้มหน้าลงจูบหน้าผากมันด้วยความรัก  ผมมองหน้าใหญ่เงียบๆ เวลานอนคงเป็นเวลาที่มันมีความสุขมากที่สุด ผมอดสงสารมันไม่ได้ที่อายุแค่นี้ต้องมาคิดมากมายหลายเรื่อง ได้แต่หวังว่าที่สุดแล้วพ่อจะเข้าใจและให้โอกาสเรา

ใหญ่กลับไปสองวันแล้ว ก่อนกลับน้องออมมีอิดออดบ้างบ่นว่ายังเที่ยวไม่ทั่ว ผมเลยสัญญาว่ามาคราวหน้าผมจะพาไปเที่ยวอีก ดูท่าแล้วผมก็พอจะไปกับน้องออมได้ ขอเวลาให้ผมอีกสักนิดผมคงชนะใจน้องออมได้แน่นอน ใหญ่เองก็ดูหน้าตาหม่นหมองไปเมื่อเราต้องห่างกันอีกครั้ง
“สัญญานะฝันว่าจะไปอยู่กับกู” ใหญ่ทำตาปริบๆมองผมตาละห้อยพูดเหมือนคนป่วยหนัก ผมอยากจะรวบตัวมันมากอดให้กำลังใจแต่ก็ติดที่ว่ามีคนยืนล้อมรอบอยู่หลายคน ทำอะไรไม่สะดวกเลยได้แต่บอกมันไปว่า “กูสัญญา เสร็จงานทางนี้จะรีบตามไปทันที ถ้ามีอะไรด่วนจริงๆ โทรมาหากูนะ”
ใหญ่พยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ “กูจะรอมึงนะ อย่าลืมเกริ่นๆกับแม่ด้วยเรื่องไปอยู่เชียงใหม่”
ผมยิ้มตอบให้มันไป ตบไหล่มันเบาๆ “กูไม่ลืมแน่ๆใหญ่”

ใหญ่ผละจากผมไปหาแม่ เข้าไปกอดแม่ แล้วกราบแม่ที่อก “ผมขอบคุณแม่นะครับที่ให้ความอบอุ่นผมกับหลาน ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่”
แม่ยิ้มใจดีลูบหัวใหญ่ด้วยความเอ็นดู “ใหญ่ก็ลูกแม่อีกคนนะ อย่าลืมสิ แล้วมาเที่ยวอีกนะลูก แม่จะรอ”
ใหญ่ยิ้มประจบเข้าไปกอดแม่อีกครั้ง “ผมก็จะรอแม่ไปอยู่เชียงใหม่กับผมเหมือนกัน นะครับแม่” แม่ทำตาโตประหลาดใจ กับสิ่งที่ใหญ่บอกแล้วก็หัวเราะ “จ้ะๆ แม่จะคิดดูนะ เดินทางปลอดภัยนะลูก ขอให้พระคุ้มครอง”

น้องออมเองกว่าจะผละจากแม่ผมได้ก็โยเยอยู่นาน ก่อนจะกลับครูน้ำบอกกับผมสั้นๆแค่ว่า
“พี่ฝันรีบตามไปนะคะ ไม่งั้นถ้าพี่ใหญ่ต้องหลุดมือไปน้ำไม่รับผิดชอบนะ” ทีแรกครูทำหน้าจริงจังพลอยทำเอาผมเครียดไปด้วยหรือว่าครูเปลี่ยนใจจะมาชิงใหญ่ไปจากผมอีก แต่สักครู่ครูน้ำก็ยิ้ม ผมเลยรู้ว่าครูพูดกระเซ้าผม
“ผมไม่ปล่อยให้ใหญ่หลุดมือไปได้แน่นอนครับครูน้ำ” ผมยกนิ้วชูสัญลักษณ์ลูกเสือสามัญเพื่อเป็นการยืนยัน เราหัวเราะกันทั้งคู่เป็นสัญญาณถึงมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน

ใหญ่เดินกลับมาตามครูอีกครั้งเมื่อรถจะออก เมื่อครูน้ำผละไปแล้วเราต่างมองกันอย่างอาลัยอาวรณ์ ผมดึงมือใหญ่อย่างแรงจนตัวมันมากระแทกอกผม ผมถือโอกาสโอบกอดมันไว้ ผมตบไหล่มันเบาๆก่อนกระซิบที่หูว่า
“กูรักมึงนะ ใหญ่ จำไว้ว่ากูรักมึง” ใหญ่ก้มหน้างุดพูดเบาๆข้างหูผม แต่ผมยังได้ยินว่า “อืม...กูก็รักมึง”
ผมยังจำภาพที่มันเดินขึ้นรถแล้วหันหลังมามองผมก่อนที่จะลับสายตาไป ผมบอกกับตัวเองว่า ผมจะไม่ยอมมีภาพนี้อีกแล้ว จะไม่มีใครต้องหันหลังให้ใครอีก เราจะต้องไปด้วยกัน

 ผมทำงานไปอย่างซังกะตายไม่มีชีวิตจิตใจ ที่หัวหน้าไม่ให้ผมลางานก็เป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้โกหกใหญ่ ผิดแค่ที่ว่าถ้าผมจะดึงดันไปจริงๆผมก็ทำได้ แต่ผมก็ไม่ทำเพราะพ่อใหญ่ขอไว้ไม่ให้ผมตามไป แต่มันกลับทำให้ผมกระวนกระวาย มือคอยแต่จะต่อโทรศัพท์หาใหญ่ตลอดเวลา แต่ก็กดทิ้งเพราะกลัวไปเจอพ่อใหญ่รับสายเข้า พอผมตัดใจโทรหามันได้ ใหญ่ก็กลับไม่รับสาย เป็นอีกครั้งที่ผมต้องเขียนจดหมายทั้งที่รู้สึกว่ามันไม่ทันใจเอาเสียเลย แอบค่อนขอดไปรษณีย์ไทยอยากให้ทำงานกันว่องไวกว่านี้

ใหญ่คนไกล
กูคิดถึงมึง ร้อนใจด้วยว่าพ่อว่าไงบ้าง ทำไมมึงเงียบไป กูเป็นห่วงมึงนะ คิดถึงด้วย กูไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี ก็หวังแต่ว่ามึงจะรู้ว่ากูรู้สึกยังไง มันตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนรอผลสอบเอนทรานส์ซะอีก เพราะมันมีผลต่ออนาคตของเราไม่แพ้กันเลยนะ กูหวังว่าจะมีเสียงของมึงบอกมาให้กูขึ้นไปเชียงใหม่ในเร็วๆวันนี้นะ กูจะรอ

จากคนที่รักมึง
ฝัน

****************
 :call:

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนๆจะดีขึ้น  แต่ก็ยังไม่ดีซะทีเดียว
ยังมีอะไรๆอึมครึมอยู่เลย  เฮ้อๆ
สงสารใหญ่ สงสารฝัน
เมื่อไหร่จะสมหวังกันซะทีนะ  :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด