ตอน 28
ชายหนุ่มตัวสูงค่อยๆเคลื่อนกายออกจากเตียงที่นอนอยู่อย่างไม่เร่งรีบ เขาชักชินกับการต้องตื่นเช้าๆอย่างนี้แล้วล่ะ นี่ก็สองสัปดาห์แล้วที่วิชญ์ภาสเปิดเรียน การใช้ชีวิตไปมาข้ามจังหวัดดูจะกลายเป็นของธรรมดาสำหรับวิชญ์ภาสไปแล้ว .. แม้มันจะเหนื่อยบ้าง แต่ถ้าว่าไปการจราจรในกรุงเทพฯก็วุ่นวายไม่แตกต่าง ระยะเวลาที่ใช้อาจมากกว่าการขับรถข้ามจังหวัดอย่างนี้ก็เป็นได้
ชายหนุ่มมองร่างเปล่าของตัวเองในกระจกด้วยรอยยิ้ม.. ก่อนจะเลื่อนมือไปเปิดน้ำจากฝักให้ไหลชะลงมาบนเรือนกายแกร่งอย่างสดชื่น มือหนาเอื้อมลูบอกตัวเองด้วยความสุขและความอบอุ่นที่ยังปรากฏ เขากับคนตัวบางไม่ต่างอะไรจากคนรัก แต่มันมากกว่าคำว่าคนรัก ..เพราะยิ่งนานวันเขากับกรณ์ก็ยิ่งผูกพันกันมากกว่าเดิมหลายเท่า พักหลังมานี้วิชญ์ภาสไม่ค่อยถูกกรณ์ทำหน้าดุใส่สักเท่าไหร่ .. ดูเหมือนความรักระหว่างทั้งสองจะราบรื่นไปได้เรื่อย ๆ เพราะทั้งสองก็ไม่มีท่าทีจะวอกแวกชายตามองคนอื่น .. แต่ก็ใช่ว่ารักจะเดินทางไปโดยไม่มีสะดุดในเมื่อตอนนี้วิชญ์ภาสกำลังเป็นที่หมายตาของ แพท..รุ่นน้องตัวร้ายเจ้าแผนการ
หลังอาบน้ำชำระล้างกายเสร็จเรียบร้อยก็หยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดตรงราว ขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วนุ่งเดินออกจากห้องน้ำไปด้วยอาการที่สดชื่นกว่าเดิมหลายเท่า ..
“ ตื่นแล้วเหรอครับ..” ชายหนุ่มเอ่ยทักทายคนตัวนุ่มที่ลุกขึ้นจากเตียงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ..
“ อือ..วันนี้มีเรียนเช้าเหรอ” คนตัวบางเอ่ยถามด้วยเสียงงัวเงีย .. พลางยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองเบาๆก่อนจะเดินมาทางวิชญ์ภาสที่ยืนมองอยู่
“ ครับ ..วันนี้เห็นทีผมคงต้องนอนที่คอนโดฯนะครับ คืนนี้จะมีเลี้ยงจับรหัสกัน” วิชญ์ภาสคว้าร่างที่ยืนอยู่ด้านหน้าเข้ามากอดไว้ และเอ่ยบอกไปตามตรง .. แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันหนึ่งวันก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกแล้ว
“ อืม.. ไม่ต้องกลับหรอกดึกๆอย่างนั้นขับรถอันตรายออก” กรณ์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ และเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วบาง ไม่ค่อยบ่อยที่จะเห็นกรณ์อ่อนโยนอย่างนี้ วิชญ์ภาสเลยรู้สึกดีเป็นพิเศษ จากนั้นวิชญ์ภาสก็ต้องแยกออกจากร่างที่ไม่อยากจะห่าง เพราะหน้าที่ที่ยังต้องมี
..ส่วนกรณ์ก็แยกไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวจะไปทำงานด้วยเหมือนกัน นี่ก็เข้ากลางเดือนแล้วไม่ค่อยมีงานอะไรที่เร่งด่วนอย่างเช่นต้นเดือนที่ผ่าน แต่ตอนนี้กรณ์ก็ต้องเจอปัญหาที่กำลังเดินเข้ามา .. อมรารีสอร์ตกำลังรุกหนักขยายแคมเปญการท่องเที่ยว หากสายลมยังคงนิ่งเฉยอาจทำให้ฐานนักท่องเที่ยวและรายรับที่จะเข้ามาต้องสะดุดแน่นอน
กรณ์อาบน้ำแต่งตัวสักพักหนึ่งก็ลงมาทานอาหารข้างล่าง ซึ่งคนของเขาทานนำหน้าไปก่อน ปกติมักจะทานพร้อมๆกัน แต่พักหลังกรณ์ก็บอกให้วิชญ์ภาสทานนำหน้าไปก่อน เพราะเวลาในช่วงเช้าค่อนข้างเร่งรีบ นอกจากวันไหนที่วิชญ์ภาสไม่มีเรียนเช้าถึงจะอยู่รอทานพร้อมๆกัน
“ หน้าคุณดูเครียดๆนะ..” วิชญ์ภาสเอ่ยทักกรณ์ที่นั่งทานข้าวต้มอยู่ข้างๆ ..อย่างเป็นห่วง
“ หน้าฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ..” มือนุ่มแตะหน้าตัวเองอย่างไม่แปลกใจนัก .. ช่วงนี้เขาเครียดจริงๆ ยิ่งอดีตเพื่อนเก่าที่หลายเป็นคู่แค้นแสนร้ายลุกขึ้นมาบุกหนัก .. เลยทำให้กรณ์เครียดเป็นอย่างมาก ยังดีที่ตอนนี้เขามีไหล่หนาให้พักพิง และสามารถแอบอิงในอกหนั่น เลยทำให้กรณ์วางใจของเขาลงได้บ้าง
“ อย่าเครียดมากเลยนะครับ วันนี้ผมไม่กลับบ้านด้วยยังไงก็ต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ” น้ำเสียงของวิชญ์ภาสบอกอย่างชัดเจน แสดงถึงความรู้สึกในหัวใจของวิชญ์ภาสออกมาอย่างไม่ปิดบัง .. มันจริงอย่างที่เขาเคยพูดกับโต้งไว้ เมื่อใดที่พบเจอความรัก เราก็สามารถเป็นไปได้ทุกอย่างเท่าที่รักนำทางไป
“ เห็นฉันเป็นเด็กหรือยังไง” กรณ์ย่นจมูกให้หนึ่งที
“ ผมก็แค่ห่วงคุณเท่านั้นเอง..”
“ รู้แล้วๆ..” กรณ์พยักหน้ารับ แล้วหันไปสนใจข้าวต้มชามใหญ่ตรงหน้าต่อ บรรยากาศของทั้งสองอยู่ในสายตาของใครหลายคนในบ้าน ทุกอย่างที่กำลังเป็นอยู่เหมือนเข้าที่เข้าทาง และทำให้คนรอบข้างมีความสุขตามๆกันไป นี่แหละนะอานุภาพของความรักสามารถบันดาลได้แทบทุกอย่าง
วันนี้ถือเป็นวันสำคัญของน้องในคณะของวิชญ์ภาส .. จะมีการจับรหัสของเด็กปีหนึ่ง โดยแต่ละคนจะมีพี่สายรหัสของตนสามคนทั้งปีสอง สาม และสี่ .. นักศึกษาหลายคนจึงมารวมกันอยู่ด้านหน้าลานรวม ..
“ ฉันรู้แล้วว่าใครจับได้พี่วิชญ์..” หญิงสาวรูปร่างสมส่วนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง เล่นเอาหญิงสาวที่รับฟังถึงกับหันขวับอย่างตื่นเต้น ..
“ ขอบใจมาก..” หญิงสาวยิ้มให้พร้อมทั้งควักเงินห้าพันส่งให้เพื่อนอย่างหมายมั่น .. ชั่วพริบตากระดาษโพยชื่อของวิชญ์ภาสก็มาอยู่ในมือหญิงสาวอย่างไม่มีอะไรผิดพลาด แพทจ้องมองชื่อที่อยู่ในมืออย่างสมใจก่อนจะปรายยิ้มออกมา
“ รหัสน้องพรนภัส..พี่หนึ่งปีสอง พี่เอกปีสาม .. และพี่วิชญ์ปีสี่..” รุ่นพี่ที่ขานชื่อเอ่ยขึ้นประกาศผ่านโทรโข่งขนาดเล็กเพื่อประกาศให้ทุกคนรับทราบ ..
“ ซวยแล้วไหมล่ะไอ้วิชญ์เอ๊ย ..” โต้งที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อนสนิทเอ่ยขึ้นอย่างหนักใจแทน ยัยเด็กสุดแรงที่เดินหน้ามาอ่อยเหยื่อตั้งแต่วันแรก มีหรือที่โต้งจะจำไม่ได้ แววตาที่ดูมุ่งหมายบอกชัดว่าหลังจากนี้คงมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นอย่างไม่คลาดคลาย ..
“ ทำไมวะ” วิชญ์ภาสเหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่าภัยร้ายกำลังเดินหน้ามาหาเขา ..
“ ก็ยัยน้องแพทที่มันสอดเบอร์โทรฯในสมุดเซ็นชื่อของมันไงล่ะ ..แกได้มันเป็นน้องสายรหัส คราวนี้แกโดนมันกินได้ง่ายขึ้นแน่ๆ” โต้งตอบไปพร้อมทั้งผลักหัวของเพื่อนให้หันไปมองด้านหน้าเวที
“ กูมีเมียแล้ว..” เสียงมั่นคงดังขึ้นราวกับไม่หวั่นเกรงกับสิ่งใดๆที่จะเข้ามา
“ เอ่อ..ผู้หญิงบางคนเขาไม่สนหรอกว่าผู้ชายจะมีแฟน มีเมียแล้วหรือเปล่า ถ้าอยากได้ก็ต้องพยายามทำทุกวิถีทางให้ได้มา โดยไม่สนใจด้วยว่าวิธีการที่จะใช้จะดีหรือร้ายขนาดไหน และยัยน้องแพทคนนี้ก็เข้าสเปคผู้หญิงอย่างที่กูว่ามาเป๊ะ” คนหน้าตี๋บอกไปด้วยความหวั่นๆแทนเพื่อนของตน คนอย่างแพทจะว่าอ่านออกง่ายก็ได้ แต่ถ้าจะพูดว่ายากก็ไม่ผิด .. อาจจะอ่านง่ายว่าเป็นคนยังไง แต่คงยากที่จะอ่านว่าคิดการแผนอะไรร้ายๆหรือเปล่า
“ พูดอย่างนี้ก็เป็นเนอะมึง” วิชญ์ภาสไม่ยักจะเชื่อว่าเพื่อนของตนจะพูดออกมาได้
“ แล้วมึงจะเอาไงอ่ะ.. พี่รหัสมันต้องเลี้ยงข่าวเด็กปีหนึ่งหนึ่งมื้อ มึงจะเลี้ยงวันไหนอ่ะ..”
“ วันนี้เลยแล้วกัน กูบอกคุณกรณ์ไว้แล้วว่าวันนี้จะไม่กลับบ้าน ..เลี้ยงวันนี้ให้เสร็จๆไปเลย ไม่อยากให้ยุ่งยาก อีกอย่างกูว่ามึงก็เลี้ยงพร้อมกูเลยแล้วกัน นัดพวกไอ้บอมไปด้วยจะได้ไปกันเยอะๆ..” วิชญ์ภาสบอกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเสนอแกมบังคับ
“ วิชญ์ ”
“ หือ..”
“ กูถามจริงดิ..ทำไมมึงถึงรักคุณกรณ์นักหนา ถึงจะน่ารัก ดูน่าเป็นเจ้าของ แต่ก็ร้ายไม่ใช่เล่น มึงก็รู้ใช่ไหมว่าเขามีอิทธิพลมากแค่ไหน ในพื้นที่รอยต่อระหว่างภาคใต้กับภาคกลาง ตอนแรกที่เป็นเรื่องกูนึกว่ามึงจะถูกสั่งเก็บเสียแล้ว” จริงอย่างที่โต้งว่า .. ตระกูลสายลมทรงอิทธิพลแค่ไหนใครๆก็รู้ แม้ตอนนี้จะมีคนของอมราขึ้นมาเทียบรัศมี แต่คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ยังเคารพนับถือทุกสายเลือดที่มาจากสายลมไม่คลาย
“ กูคิดว่าเรื่องอย่างนี้มันพูดยาก ..อย่างที่กูเคยบอกมึงต้องเจอกับตัวถึงจะเข้าใจ”
“ อย่างว่า ..ก็เล่นน่ารัก น่ากอดเสียขนาดนั้น” โต้งได้แต่ส่ายหน้า รู้สึกหมั่นไส้เจ้าเพื่อนสนิทกลายๆ ..โธ่อะไรจะมั่นคงเสียขนาดนี้ .. แต่เห็นเพื่อนมีความสุขเข้าก็รู้สึกมีความสุขไม่แตกต่าง ..
“ สวัสดีค่ะ .. พรนภัสค่ะ ชื่อเล่นแพท” หญิงสาวหน้าใสกล่าวขึ้น
“ ครับพี่ชื่อวิชญ์” วิชญ์ภาสผงะเล็กๆ เมื่อแม่เด็กใจกล้าเดินมาหยุดตรงหน้ารายงานตัว แม้มันจะดูธรรมดาในสายตาคนทั่วไป เพราะวันนี้เป็นวันทำความรู้จักของรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่ในสายตาของโต้งเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่ายัยนี้กำลังเดินตามแผนจับวิชญ์ภาสไม่คลาด
“ วันนี้ไปกินข้าวด้วยกันเลยดีกว่านะ วันอื่นพี่ไม่ว่าง ว่าแต่น้องรู้จักร้าน Wave หรือเปล่า”
“ ร้าน Wave ตรงสี่แยกใหญ่ใช่ไหมคะ” หญิงสาวเหมือนจะดีใจไม่น้อย เข้าใจไปว่าเหยื่อที่หล่อนหมายตากำลังติดกับ เพราะดูเหมือนจะเร่งไม่น้อย ..แต่ความเข้าใจของเธอคงคลาดไปสักหน่อยเพราะแท้จริงวิชญ์ภาสไม่อยากให้เสียเวลาไปวันอื่น
“ งั้นทุ่มครึ่งเจอกันที่ร้านนะ ..เดี๋ยวพี่จะกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน” วิชญ์ภาสนัดเวลากับหญิงสาว และหันไปสนใจกับเพื่อนข้างกายแทน .. เล่นเอาหญิงสาวถึงกับเก้อไปชั่วขณะแต่คนอย่างหล่อนไม่ยอมง่ายๆหรอก ยังไงคืนนี้ยังอีกยาวไกล ..ดินเนอร์ใต้แสงเทียนบรรกากาศออกจะโรแมนติกขนาดนี้ รับรองว่าพี่วิชญ์ไม่รอดมือเธอแน่นอน
“ แล้วจะนัดเลี้ยงรวมวันไหนอ่ะมึง”
“ อีกอาทิตย์ข้างหน้าแหละ..” โต้งตอบไปก่อนจะลุกขึ้นแยกไป .. อีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดเลยอยากจะกลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่าก่อน วิชญ์ภาสก็เช่นกันรีบขับรถกลับคอนโดฯของตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างที่รถกำลังจะเคลื่อนออกจากหน้ามหาวิทยาลัย ชายหนุ่มก็เห็นใครบางคนที่เพิ่งเจอเมื่อครู่กำลังยืนมองกระโปรงรถตัวเองอยู่อย่างวุ่นวาย
“ เป็นไรเหรอน้อง..”
“ รถแพทเสียค่ะ..” หญิงสาวตอบไปพร้อมทั้งยกมือขึ้นปาดเหงื่อไปด้วย ..
“ แล้วเป็นไรมากไหมล่ะ..เรียกช่างหรือยังไง..”
“ เรียกแล้วค่ะ แต่ท่าทางจะหนักแพทเลยกะจะให้มาดูก่อนแล้วค่อยมาเอารถพรุ่งนี้ค่ะ..” หญิงสาวแกล้งโกหก ที่จริงรถเจ้าหล่อนไม่ได้เป็นอะไรสักอย่างแต่จงใจมาดักรอวิชญ์ภาสก็เท่านั้นเอง ..
“ งั้นให้พี่ไปส่งไหม..” สถานการณ์อย่างนี้ชายหนุ่มจะยื่นมือช่วยก็ดูจะใจดำไปสักนิด และเหมือนมันจะเดินตามแผนของแพททุกอย่าง .. เมื่อท้ายที่หล่อนก็สามารถขึ้นมานั่งบนรถวิชญ์ภาสได้ ตอนที่วิชญ์ภาสถามว่าจะให้ส่งที่ไหนเจ้าหล่อนก็บอกว่าให้ส่งที่แห่งหนึ่งในกลางเมือง แต่เพียงชั่ววินาทีถัดมาก็มีโทรศัพท์ดังเข้ามา และทำเหมือนว่าที่บ้านหล่อนไม่มีใครอยู่สักคน ..
การเดินทางของแผนการจบลงโดยที่วิชญ์ภาสไม่อาจหลีกเลี่ยงการพาหญิงสาวไปที่คอนโดฯของตน
หากเป็นเมื่อก่อน คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ..แต่ตั้งแต่ที่วิชญ์ภาสได้รู้จักคำว่าความรัก ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหกล้ำกรายเข้ามาภายในที่ของเขาเลยสักคน
“ ทำตัวตามสบายนะ..พี่อาบน้ำก่อน” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาภายในห้อง .. จากนั้นก็วางข้าวของของตนลงบนโต๊ะอย่างผ่อนคลาย .. เขาเชื่อว่าหากตัวเองบริสุทธิ์ใจคงไม่มีอะไรต้องวุ่นวายใจหรอก อีกอย่างเขาก็เชื่อใจของตัวเองว่าจะไม่มีทางวอกแวกออกจากความรักที่มอบให้กรณ์แน่นอน
หญิงสาวลุกขึ้นอย่างกระหยิ่มย่อง เมื่อทุกอย่างที่วางแผนดูจะเข้าล็อค เธอเดินรอบๆห้องของวิชญ์ภาสอย่างวาดหวัง ... ก่อนที่หนึ่งเสียงจะดึงร่างของเธอให้หลุดออกจากภวังค์คิด สายตาคู่สวยหันไปมองทางต้นเสียงอย่างสงสัยแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าโทรศัพท์มือถือที่กำลังกรีดร้อง ..
“ ชิ..” แพทมองหน้าจอด้วยความคิดบางอย่าง .. ภาพของวิชญ์ภาสกับกรณ์ที่ถ่ายด้วยกันเมื่อวันก่อนปรากฏขึ้นหรา แถมชื่อที่กำกับอยู่ด้านหน้ายิ่งเพิ่มความชิงชังแก่หญิงสาวได้มากมายนัก .. ‘wife’
“ ฮัลโหล..” แพทยกโทรศัพท์ขึ้นกดรับ
“ เอ๊ะ..แล้ววิชญ์ล่ะ” กรณ์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าปลายสายเป็นหญิงสาวรับสาย เขาตั้งสติแล้วถามต่ออย่างพยายามวางใจให้เป็นกลาง
“ พี่วิชญ์อาบน้ำอยู่ค่ะ..”
“ แล้วเธอเป็นใคร ..” กรณ์ถามเสียงขุ่น ภายในใจรู้สึกรุ่มร้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน .. วิชญ์ภาสไม่เคยทำให้กรณ์หวาดระแวงเลยสักครั้ง เมื่อเจออย่างนี้เลยค่อนข้างอึ้ง แต่ก็ยังอยากจะถามให้รู้เรื่องคนอย่างนั้นไม่ใช่พวกหุนหัน เขาต้องสืบให้รู้ความจริงเสียก่อนแล้วค่อยโมโหหรือโกรธ
“ แล้วคุณคิดว่าไงล่ะคะ” แพทตอบไม่ตรงประเด็น จากนั้นก็เลือกกดตัดสายไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเคลื่อนไหวจากทางด้านหน้าห้องน้ำ เลยทำให้เธอต้องรีบวางโทรศัพท์แล้ววิ่งกลับไปนั่งตรงโซฟาก่อนที่วิชญ์ภาสจะสังเกตอะไร ..
โทรศัพท์เครื่องเดิมกรีดร้องอีกครั้ง .. อย่างที่บอกว่าหากยังไม่รู้เรื่องกรณ์ไม่ยอมหรอก
ชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำ.. เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์เลยเดินดิ่งมารับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เขากดรับอย่างปกติ
“ นี่ยัยผู้หญิงบ้า ตกวิชามารยาทหรือยังไง ถึงได้วางสายใส่ฉันหา ..” เสียงปลายสายรัวฉาดมาเป็นชุดเล่นเอาวิชญ์ภาสถึงกับอึ้งกิมกี่..กรณ์อารมณ์ค้างจากอะไรหรือทำไมถึงได้สวดยับขนาดนี้ .. วิชญ์ภาสจำต้องยืนฟังอีกฝ่ายบ่นอยู่เกือบนาทีกว่าเขาจะพูดอะไรออกมาได้ ..อันว่าน้ำเชี่ยวอย่างเอาเรือไปขวาง
“ เป็นอะไรไปครับ..”
“ ผู้หญิงคนนั้นไปไหนแล้ว ..” กรณ์ชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าคนที่ตนกำลังพล่ามบ่น คือชายหนุ่มที่ทำให้หัวใจของตัวเองหวั่นไหวมากกว่าเดิม
“ ผู้หญิงไหน”
“ ก็เมียแกไงไอ้บ้า..” กรณ์กระชากเสียงใส่อย่างโกรธๆ ..
“ เรียกหาตัวเองทำไมล่ะครับ..” วิชญ์ภาสยิ้มเล็กน้อย
“ อย่ามาตลกถ้าแกยังไม่อยากตาย ไอ้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน ถ้ามันไม่ใช่เมียแกแล้วมันจะอยู่ห้องแกได้ยังไง แถมยังรู้อีกว่าแกอาบน้ำอยู่..”
“ ฮะๆ..”
“ ตลกมากใช่ไหม ..ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าเลยนะ..”
“ ใครบอกว่าผมตลกคุณหา ..ผมกำลังดีใจต่างหาก ปกติไม่ค่อยเห็นคุณเป็นอย่างนี้สักเท่าไหร่ ก็แค่ดีใจที่คุณหึงผมก็เท่านั้นเอง..” เพราะวิชญ์ภาสบริสุทธิ์ใจเขาเลยไม่กลัวว่ากรณ์จะเข้าใจผิด .. เขาเชื่อว่าความจริงใจที่เขาแสดงมาตลอดหลายเดือนจะทำให้กรณ์ฟังความจริงจากปากของเขา
“ ก็จะหึงแล้วไมวะ..”
“ หึงก็มาจับให้ได้คาหนังคาเขาสิครับ ..”
“ แกท้าเหรอ..”
“ ครับ..” วิชญ์ภาสยิ้มรับอย่างสุดกว้างแล้วตัดสายโทรศัพท์ของตัวเองไป .. ตามจริงเขาควรจะกังวลและวุ่นวายใจ แต่ไม่รู้สิเขากลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ได้กลัวว่ากรณ์จะโกรธหรือโมโหเลย .. เพราะเขารู้ดีว่าหากกรณ์โกรธมันจะร้ายแรงแค่ไหน กรณ์ไม่มีทางพูดหรือด่าใส่เขาอย่างที่เป็น แต่เขาจะได้รับการตอบแทนอย่างแสนเย็นชา .. หากกรณ์ยังด่ายังเหวี่ยงใส่แสดงว่าวิกฤตการณ์ยังไม่เข้าสู่ช่วงอันตราย ..
“ สบายใจจริงเลยนะคะพี่วิชญ์..” แพทจงใจเอ่ยขึ้น
“ แฟนพี่โทรฯมาก็ต้องดีใจสิ” วิชญ์ภาสเองก็จงใจเน้นคำว่าแฟนอย่างชัดเจน .. ตัวต้นเหตุของเรื่องราว คิดเหรอว่าเขาจะโง่ไม่รู้ตัว แต่ชายหนุ่มก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ..ไม่ได้โกรธแต่จำ .. ชายหนุ่มแยกไปแต่งตัวภายในห้องของตัวเองก่อนจะเดินออกมาสมทบกับหญิงสาวที่นั่งวางแผนร้าย ..
“ ทำไมเราไม่ทานกันแถวนี้ล่ะคะ..”
“ พี่อยากกินร้าน wave” วิชญ์ภาสไม่ได้ให้เหตุผลอะไร แต่แพทก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าวิชญ์ภาสจะขับรถย้อนไปทางแถวสี่แยกมหาวิทยาลัยทำไม ในเมื่อทานกันแค่สองคนจะหาร้านแถวนี้ก็ได้.. ดูเหมือนหล่อนจะมองโลกในแง่ดีเกินไปกระมัง .. ที่ต้องเป็นร้าน wave เพราะวันนี้ไม่ได้ทานแค่สองคนเท่านั้น วิชญ์ภาสจะไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองต้องอยู่กับหญิงสาวเพียงลำพังอีกแล้ว หากยังประมาทเขาเองนี่แหละที่อาจต้องพลาดพลั้ง ..
..call me .. เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นแทรกทุกความเงียบให้หมดไป ชายหนุ่มกดรับที่บลูทูธอันจิ๋วข้างๆหู ช่วงนี้ทางการยิ่งรณรงค์โทรฯห้ามขับ อุปกรณ์นี้จึงกลายเป็นที่นิยม
“ ไงวะโต้ง..”
“ ไอ้เพื่อนเวรเอ๊ย .. ทำไมเมียมึงโหดอย่างนี้หา รู้หรือเปล่าว่าเพื่อนมึงเกือบตายเพราะลูกสมุนของคุณเมียของมึง มึงไปทำอีท่าไหนวะ เมียมึงถึงให้คนมาคาดคั้นกับกูว่ามึงอยู่ไหน” เสียงของโต้งดูจะโหวกเหวกจนวิชญ์ภาสต้องสะดุ้งแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่โต้งบอกออกมาก็ยิ่งทำให้แปลกใจมากกว่าเดิม
“ ทำไมวะ ..”
“ ก็คุณกรณืไปหามึงที่ห้อง ..แล้วมึงไม่อยู่.. กูละซวยโดนโทรฯตาม” โต้งตอบกลับมา เมื่อเขาถูกกรณ์ตามตัวไปพบเมื่อสิบนาทีก่อน ตอนนี้วิชญ์ภาสกำลังติดแหงกอยู่กลางการจราจรเมืองหลวง เลยทำให้คลาดกับกรณ์ที่ไปหาที่ห้องตอนนี้คนหน้าหวาน เลยมุ่งไปถามความจากโต้งแทน ..
“ จริงอะ..”
“ มึงไม่กลัวบ้างหรือยังไง..” โต้งดูจะแปลกใจ
“ ขอโทษครับคุณเพื่อนโต้ง ถึงผมจะเกรงใจภรรยา แต่ก็ไม่ได้กลัวโว้ย อีกอย่างเห็นคุณกรณ์เป็นอย่างนี้มันรู้สึกดีชิบ .. เดี๋ยวเจอกันที่ร้านนะเพื่อน..” คนเจ้าเสน่ห์ยิ้มกว้างด้วยความสุข .. แล้วตัดสายของเพื่อนไป
“ พี่โต้งไปด้วยเหรอคะ..”
“ เอ้ายังไม่รู้เหรอ ไอ้โต้ง ไอ้บอมก็นัดเลี้ยงน้องรหัสเหมือนกัน” วิชญ์ภาสตอบไปราวกับเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่รับรู้ทำเอาหญิงสาวถึงกับแค้นจัด ..ทั้งเรื่องที่ทำอะไรกรณ์กับวิชญ์ภาสไม่ได้ แล้วไหนอาหารแสนโรแมนติกมื้อนี้จะมีมารมาขวางกลางอีก แต่หล่อนคงไม่รู้ว่าการที่หล่อนกล้าเข้าไปแหยมคนของกรณ์ แค่คิดก็ผิดแล้ว ..
Wave ..ชื่อร้านสีแดงฉานหน้าร้านตั้งเด่นเป็นสัญลักษณ์ แล้วรถของวิชญ์ภาสก็จอดลงด้านหน้าชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้าน พร้อมหญิงสาวที่รีบสาวเท้าตามไม่ห่าง วิชญ์ภาสมองซ้ายมองขวาอยู่พักหนึ่งก็มองเห็นพรรค์พวกของตัวเองนั่งรออยู่ตรงสวนใจกลางร้าน .. และเหมือนทุกสายตากำลังมองมาที่เขาไม่คลาย ..
ชายหนุ่มเผยยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าภายในกลุ่มเพื่อนและน้องรหัสปีหนึ่งมีใครอีกคนนั่งรวมอยู่ด้วย
“ คุณกรณ์..” วิชญ์ภาสรีบเดินเข้าไปหาอีกคนที่นั่งอยู่อย่างไม่กลัวเกรง ท่ามกลางความหวาดหวั่นของคนในร้าน ก็โต๊ะอื่นๆที่กลางสวนเป็นคนของกรณ์ทั้งนั้น ที่สำคัญแต่ละคนละหน้าตาโหดทั้งนั้นเลย .. วิชญ์ภาสช่างกล้า โต้งยังแอบชื่นชมอยู่ลึกๆที่เพื่อนของตนไม่แสดงความหวาดหวั่นออกมา