"ฟ้า" (...แค้นหรือรัก...) by MIRARATH
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "ฟ้า" (...แค้นหรือรัก...) by MIRARATH  (อ่าน 211521 ครั้ง)

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


สวัสดีค่ะ...มีนิยายใหม่มาลงอีกแล้วค่ะ เขียนโดยน้องมีร์ เหมือนเดิม
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ...ความรัก...ความแค้น ฝากด้วยนะค่ะ


นิยายเรื่องนี้ได้รับอนุญาตจาก น้องมีร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
ไม่มีปัญหาใดๆในการโพส เพียงแต่ต้องทำการเปลี่ยนชื่อตัวละครเพื่อความเหมาะสม


บทนำ ..



การพบกันของใครบางคนเกิดขึ้นเพราะโชคชะตา พรหมลิขิต ความบังเอิญ ความจงใจ หรือจะเป็นเพียงเกมของใครบางคน ..ร่างสูงที่หนั่นหนาด้วยมัดกล้ามถูกผลักลงบนเตียงนอนหลังกว้างด้วยความรุนแรง กล้ามเนื้อที่แน่นตึงปรากฏร่องรอยแดงเถือกไปแทบทุกอณูส่วน รอยเลือดที่เคยซิบๆกลับแห้งกรังตามกาลเวลา ..สามวันแล้วสินะที่เขาต้องรับกรรมในสิ่งที่ก่อไว้ ความเจ็บปวดทางร่างกายมันสาสมกับความเจ็บปวดทางหัวใจที่เกิดกับใครอีกคนแล้วหรือยังนะ..



น้ำเย็นถังใหม่ถูกนำเข้ามาแล้วสาดลงบนร่างที่หลับใหลไม่ได้สติ เพียงครู่คนบอบช้ำก็สะดุ้งขึ้นมาตามสัญชาตญาณ ...ดวงตาคู่กลมเปิดออกแล้วพบกับภาพเดิมๆ..คนหน้าหวานที่แสนใจแข็ง มันเป็นความผิดของเขาเองแหละที่คิดอะไรร้ายๆ คิดจนทำให้เขาต้องเจ็บปวดเช่นนี้..



“ตื่นแล้วเหรอ...” รอยยิ้มยกที่ปรากฏทำให้วิชญ์ภาสอดจะกระตุกในหัวใจไม่ได้...


“ จะทำอะไรอีก..” เสียงแผ่วที่ติดเศร้าดังขึ้น สามวันก่อนตอนเข้าก้าวมาในคฤหาสน์หลังใหญ่ริมฝั่งทะเลใต้เขาก็พบก็บางสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด ...ความสนุกเพียงชั่วอารมณ์ของเขาทำให้ใครบางคนแทบเป็นบ้า ..และเวลานี้กรรมกำลังสนองเขา..



‘ กาณฑ์ ’ เจ้ารุ่นน้องจอมฮา ที่มีนิ้วถูคิ้วเป็นเอกลักษณ์ คงไม่มีใครในคณะไม่รู้จัก ด้วยความคะนอง และผองเพื่อนที่ยุยง ทำให้วิชญ์เผลอเดินติดกับของโชคชะตา



‘ แต่เห็นบอกว่าบ้านไอ้กาณฑ์มันรวยว่ะมึง กูว่าใครจีบมันสบายไปทั้งชาติ..แต่หน้าตาเขาแค่ควงเล่นๆก็พอว่ะ เอาไหมวะวิชญ์แข่งกับกูดีกว่าใครฟันมันได้ก่อน อีกฝ่ายต้องเลี้ยงมื้อใหญ่ ’ เสียงห้าวของรุ่นพี่จอมกร่างเอ่ยขึ้นกลางวง มันไม่ใช่เรื่องแปลกของแก๊งค์เสือหล่อ ..รู้กันทั้งบางว่าทั้งชายทั้งหญิงล้วนจีบดะ ไม่ได้สนใจในสายตาของคนอื่นที่มองมา ..แต่นั่นถือเป็นการก้าวพลาดที่สุดในชีวิตของคนคิ้วเข้ม ..



‘มึงแน่ใจ ..เอาควงแค่วันสองวันพอนะมึง กูไม่อยากให้มันติดสอยไปตลอด’ ยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าขาวใส คิ้วที่ยกขึ้นอดจะทำให้โต้งแอบกระหยิ่มยิ้มภายในไม่ได้ วิชญ์นี่นะไม่เคยยอมโต้งเลยสักครั้งเดียว แข่งกันมาตลอดแต่ก็ออกแนวเพื่อนๆ เฮๆมากกว่าจริงจัง..



เพียงสามวันหลังจากนั้น...สิ่งที่พนันก็เป็นผล เมื่อวิชญ์สามารถลุล่วงปฏิบัติการฟันดะ ... การเริ่มต้นของแค้นครั้งใหม่จึงเกิดขึ้น เมื่อกาณฑ์ หอบร่างอันมีใจช้ำๆกลับคืนสู่คฤหาสน์สายลมที่แสนโอ่อ่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้พี่ชายต่างมารดาอย่างกรณ์อดรนทนไม่ได้... น้องชายผู้อ่อนแอเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก กรณ์จึงไม่ต่างอะไรจากผู้ปกครอง เป็นทั้งพี่ เป็นทั้งพ่อสามพี่น้องแห่งสายลม...



ลมเกิดจากความกดอากาศและความร้อนที่แตกต่าง...อากาศเบาบาง อ่อนระโหย อาจโรยแรง แต่เมื่อใดที่ความร้อนเข้าใกล้ เมื่อนั้นก็อาจแปรเปลี่ยนเป็นพายุร้าย...ในเมื่อการณฑ์คืออากาศ กรณ์จึงเลือกจะเป็นความร้อนที่โอบอุ้ม และทวีความร้ายกาจของอากาศให้ยิ่งยวด..เวลานี้วิชญ์กำลังตกอยู่ในพายุร้ายที่ไร้ทางใดจะดับ ..




ร่างสูงถูกโถมเข้าใส่พร้อมกายที่สอดรับ..ความแข็งขันที่วิชญ์ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็สู้แรงปากซึ่งบรรจงปลุกเร้าไม่ได้อยู่ดี...ร่างขาวเนียนที่เกิดรอยช้ำเพราะเพลิงอารมณ์ที่ก่อเกิดในตลอดสามวันที่ผ่านมาเริ่มทำงาน..ค่อยๆลดลงเพื่อรับเอาเจ้าความตึงเข้มแทรกผ่านเข้าไปในร่างกาย กรณ์ยัดเยียดในสิ่งที่วิชญ์เห็นว่าเป็นเรื่องตลก...




ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ วิชญ์ก็ยังรู้สึกถึงความคับแน่นที่ปรากฏขึ้น...




มันลำบากเกินจะต้านทาน ..กรณ์ยอมเจ็บ แต่เพื่อทำให้อีกคนได้เจ็บ...เจ็บครั้งนี้ วิชญ์ต้องชดใช้ให้สาสม หากกาณฑ์ยังไม่ฟื้นจากการหลับใหลวิชญ์ต้องรับกรรมไปตลอดชีวิต...และหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้วิชญ์ต้องยอมอยู่ภายใต้รั้วเงาของสายลม..คือ ‘คุณวรางคณา’ มารดาที่ถูกกรณ์คุมตัวไว้ ตั้งแต่เมื่อสามวันก่อนตัวประกันชั้นดีที่ทำให้วิชญ์ไม่กล้าหนีไปไหน...

สองกายเริ่มต้นการทำงานอย่างสุดห้าม ..




แต่วิชญ์ก็ทำอะไรได้ไม่มาก เมื่อมือทั้งสองของเขายังถูกล่ามโซ่ติดไว้กับเสาหัวเตียง ..มีเพียงแรงส่งที่พรึงเพริด แม้จะอยากห้ามตัวเองให้หยุด แต่ก็ไม่อาจทำได้เขาไปไกลเกินจะเดินกลับ ..กรณ์นั่นร้ายเกินใครจะต้าน คนน่ารักที่ต่างจากกาณฑ์อย่างสิ้นเชิง...



กรณ์ที่แสร้งดูประสา แต่แท้จริงยังห่างไกลจากคำว่าชำนาญ ..



แต่ก็นั่นแหละ..ความไม่ประสีที่ออกมากลับทำให้วิชญ์เกิดอารมณ์ร่วมกับเกมกามไปทุกครั้ง...



หลังทุกสิ่งจบลง..กรณ์ก็เดินออกจากห้องไปเช่นทุกวัน...ทิ้งให้วิชญ์นอนว่างเปล่าภายในห้องห้องเดิม..ร่างเปลือยที่ไร้อาภรณ์ใดๆปกปิด..ท่ามกลางแอร์เร่งอุณหภูมิจนหนาวเหน็บ



..ทั้งเหงื่อ ทั้งน้ำที่กรณ์สาดเข้ามาในทีแรกทำให้พ่อคนเจ้าชู้ตาพราวอดจะสะท้านสั่นไหวไปไม่ได้..ความเหนื่อยล้า ความปวดร้าวเข้าแทรกซึมจนกายแทบหลอมหลวมเป็นหนึ่งเดียวกับความตาย..สติถูกพราก...พร้อมร่างที่หลับลง..


อ่านแล้วชอบไม่ชอบบอกกันบ้างนะค่ะ

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 07:35:29 โดย THIP »

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
กรี๊๊ดดดดดดดดดดดดดดดด รีไรท์นี่นา

โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ชอบงานน้องมีร์ทุกเรื่องเรยยย

ออฟไลน์ panpan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
เจ้าของlogin ใช่น้องมีร์หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ฝากความคิดถึงให้น้องมีร์ด้วยนะ  :L1:

TinaJunior

  • บุคคลทั่วไป
อย่างโฮก ชอบๆ o13

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
Millet   เค้าก้อชอบงานน้องมีร์เหมือนกัน เลยขอน้องมีร์มาลงให้คนอื่นๆได้งานบ้าง แต่มันต้องเปลี่ยนชื่อนะ

panpan   ไม่ใช่น้องมีร์ค่ะ แต่จะฝากความคิดถึงไปให้ค่ะ

TinaJunior   ยังมีโฮกๆอีกเยอะ



ตอนที่ 1


สายลมเย็นยามดึกพัดปะมาจากด้านหน้าอาคารทรงยุโรปหลังใหญ่..ดวงตาคู่เรียวมองลอดออกไปยังผืนทะเลสีดำอันแสนมืดมิด..ชะตาของเขาคือผู้นำของสายลม มีหน้าที่ปกครองดูแลคนอื่นๆกว่าครึ่งพัน กรณ์เป็นนักบริหารที่ประสบความสำเร็จ คือนักธุรกิจที่แสนก้าวหน้า คือคนรุ่นใหม่ที่ไฟแสนแรง แต่ในหน้าที่พี่ชายเขากลับสอบตก ...


“ กรณ์ผิดเองที่ดูแลน้องไม่ดี แต่พ่อกับแม่ไม่ต้องกังวลนะยังไงกรณ์ต้องแก้แค้นกับไอ้คนไม่มีหัวใจคนนั้นให้ได้ กรณ์ไม่ยอมให้มันได้หลุดพ้นจากความทรมานไปได้ง่ายๆหรอก...” ดวงตาคู่นั้นมองเลยขึ้นไปยังฝั่งฟ้า...แสงดาวสองดวง คำสัญญาของใครบางคนที่จากไปในที่ที่แสนไกล วันนั้นกรณ์ยังจำได้ถึงความเสียใจที่เกิดขึ้น แต่เพราะคำสั่งเสียของมารดาก่อนหมดลมทำให้น้ำตาของเขาไหลรินได้เฉพาะในใจ


‘ หากไม่มีแม่แล้ว ลูกต้องดูแลน้องให้ดีนะกรณ์ น้องยังเด็ก ลูกต้องรักน้องมากๆ ต้องดูแลน้องให้ดี นับจากนี้นอกจากความเป็นพี่ ลูกยังต้องรับหน้าที่เป็นพ่อและแม่ให้น้องอีกด้วย อย่าทิ้งน้องนะกรณ์ ..’ เสียงนั้นยังคงก้องในความคิดไม่จางหาย หกปีก่อนในตอนที่กรณ์เพิ่งสิบเก้าปี ในตอนนั้นเขาเสียใจ แต่ไม่อาจร้องไห้.. ญาติที่ไม่เคยรู้จักก็แห่มาร่วมงาน หวังได้ผลประโยชน์จากการตายครั้งนั้น ..คฤหาสน์สายลม ...

ด้วยเพราะความรู้สึกผิดที่เกิด

กรณ์จึงอยากแก้แค้นคนคนนั้น ..แต่ด้วยเหตุผลอะไรล่ะทำไมกรณ์จึงเลือกเป็นฝ่ายรองรับความต้องการ เหตุใดเขาจึงไม่เลือกอยู่ฝ่ายยัดเยียดอารมณ์...เหตุผลมันไม่ได้ยากได้เย็นอะไรเลยนอกจากความรัก...

กรณ์นั่นรักกาณฑ์มาก...มากจนเขาเองเลือกจะกระโจนในความทุกข์ทน

การที่กรณ์เลือกจะรองรับ เพราะต้องการเจ็บปวด เพราะอยากรู้ถึงความปวดร้าวที่น้องชายได้รับ ...มันไม่ต่างอะไรจากการสั่งสอนตัวเองให้รู้ว่าเขาเป็นพี่ชายที่แสนแย่...คนแย่ๆต้องได้รับการลงโทษ ..ในเมื่อเกมนี้วิชญ์และกรณ์เป็นคนแย่ๆสองคนจึงถูกบ่วงบงการลงโทษ..


ร่างขาวที่ผ่านน้ำชะล้างคราบไคล และรอยสัมผัสที่ปรากฏเมื่อสามชั่วโมงก่อน เดินผ่านเข้าไปภายในห้องด้านในสุดของชั้นสองภายในสายลม...บานประตูนั่นเปิดออก พร้อมอุณหภูมิที่แสนยะเยือก..ก่อนออกจากห้องไปเมื่อสามชั่วโมงก่อนกรณ์ก็ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ต่ำที่สุด...ร่างหนั่นที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงชื้นๆ จึงไม่ต่างอะไรจากคนใกล้ตาย ..ผิวนั้นดูซีดเผือดรอยเลือด รอยช้ำก็เขียวเป่งจนแทบจะกลายเป็นดำ....

“ จะปล่อยอย่างนี้เหรอคะคุณกรณ์...”เสียงหวานของใครบางคนปลุกสติของกรณืให้ฟื้นคืนขึ้นมา ..ดวงตาคร้ามแสงหันมองด้านหลังของตนเล็กน้อย..


“ ฉันไม่ปล่อยให้มันตายง่ายๆอย่างนี้หรอก ..ตราบใดที่น้องกาณฑ์ยังไม่ฟื้น มันต้องชดใช้กรรมของมันต่อไป ยิ่งนานเท่าไหร่มันก็ยิ่งทรมานมากขึ้นเท่านั้น...เธอจัดการให้เรียบร้อยด้วย แล้วตามอาหมอมาดูอาการ อย่าให้มันตายเด็ดขาด..เกมนี้ยังไม่จบง่ายๆหรอก..” รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏจน หญิงสาวหน้าสวยต้องหรุบตาไม่กล้าสัมผัส..นับตั้งแต่รู้เรื่องของกาณฑ์ กรณ์ก็เย็นชาขึ้นจนน่ากลัว..คุณผู้ชายผู้ปกครองสายลมที่แสนน่ารัก และเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ตายไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว..

“ค่ะ ดิฉันจะรีบจัดการ” หญิงสาวค้อมศีรษะลงเล็กน้อย เดินออกไปจากห้องเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับ ..หญิงสาวเดินตรงลงไปตรงชั้นล่างซึ่งมีแม่บ้านสาวร่างอวบยืนรอผลอยู่ ..

“ เป็นไงบ้างคะ คุณสุรีย์คนหล่อของนุ่นเป็นไงบ้าง”

“ เฮ้อ..ระวังเถอะ พูดอย่างนี้ต่อหน้าคุณกรณ์เธอได้โดนไล่ออกหรอก..ตอนนี้เขาก็ยังเหมือนเดิม แต่ท่าจะป่วยแผลเต็มตัวไปหมด ..คุณกรณ์เธอสาดน้ำเข้าใส่จนเปียกไปหมด..แถมยังจับแก้ผ้าหมดจด..แล้วไปเปิดแอร์เบอร์เย็นสุดคิดดูละกัน..” หญิงสาวเอ่ยพรรณนาถึงสิ่งที่หล่อนได้รู้มา แต่สุรีย์จะมีสิทธิ์มีเสียงอะไร ..ภายใต้อาณาเขตของสายลมเธอไม่ต่างอะไรจากคนอาศัย

..ด้วยเพราะการอุปถัมภ์ที่คุณการุณและคุณกมลวรรณบิดาและมารดาของกรณ์มีทำให้สุรีย์ห่างไกลจากโลกเก่า ..เธอยังจำได้ว่าตอนนั้นเธอเศร้าแค่ไหน ชีวิตที่ต้องหวาดผวา..ต้องระแวงกลัวไอ้พ่อเลี้ยงฟันจอบจอมหื่นจะปลุกปล้ำ แถมแม่ของเธอยังเข้าข้างสามีใหม่จนไม่ลืมหูลืมตา ฟังความจริงจากปากเธอเลยสักนิด..โชคดีของเธอแล้วจริงๆที่ได้พบกับสองท่านผู้มีคุณ..เมื่อทั้งสองประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต กรณ์ก็รับอุปถัมภ์หล่อนต่อจนจบปริญญาตรีเมื่อปีก่อน..ตอนนี้ก็รับหน้าที่เป็นเลขาฯส่วนตัวของกรณ์

...หวังจะตอบแทนประมุขของสายลมและน้องชายให้มากที่สุดเท่าที่คนอย่างหล่อนจะทำได้..


“ ตายจริง...นุ่นไม่นึกว่าคุณกรณ์เธอจะใจแข็งขนาดนี้ ปกติเธอมีเมตตาต่อคนอื่น” คนร่างอวบยกมือขึ้นทาบอกของตัวเองอย่างตกใจ


“ ใครใช้ให้คุณคนนั้นไปทำกับคุณกาณฑ์อย่างนั้นล่ะ รู้กันดีว่าคุณกรณ์เธอรักน้องเธอมาก ยิ่งคุณกาณฑ์กลายเป็นเจ้าชายนิทราอย่างนี้ ยิ่งทำให้คุณกรณ์เธอแค้น ถ้าคุณกาณฑ์ไม่ฟื้น คุณคนนั้นคงไม่แคล้วต้องถูกขังภายใต้หลังคาสายลมไปตลอดชีวิตแน่ๆ..” ตาดวงเรียวราวหงส์ยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน เธอจะเสนอจะค้านก็เห็นจะทำไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุดคงมีเพียงการมองอยู่ห่างๆ..


“ ใช่สิ ..เธอโทรฯหาคุณหมอพิสิษฐ์ด้วยนะ...เดี๋ยวฉันจะไปตามน้าชิดให้ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าคุณข้างบน” หญิงสาวเอ่ยปากสั่งความ ก่อนจะเดินออกจากโถงบ้านไปยังเรือนคนรับใช้ด้านหลัง เพื่อตามคนสวนวัยกลางคนมาจัดการเรื่องราวด้านบน ...


หมอพิสิษฐ์.เป็นอีกหนึ่งที่อดีตประมุขของบ้านสายลมอุปถัมภ์ค้ำชู ในความจริงชายหนุ่มเพิ่งจะสามสิบต้นๆ แต่เพราะความคุ้นชินทำให้นัทเรียกอีกฝ่ายว่าอามาตลอด ..


“ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ละคุณกรณ์..” เมื่อเห็นสภาพของคนป่วยคุณหมอถึงกับส่ายหน้า..รอยช้ำที่ปรากฏทั้งที่แขนที่ขา ไหนจะรอยเลือดที่กรังเข้าไปในเนื้อผิว..ไม่ต่างอะไรจากการถูกทรมาน ไม่ต่างอะไรจากการทารุณ


“ ก็ไม่ทำไมหรอกครับ..กรณ์แค่จัดการกับคนบางคนที่มันทำให้กาณฑ์ต้องเจ็บก็เท่านั้น ตราบใดที่กาณฑ์ยังไม่ฟื้นมันก็ต้องรับกรรมที่ก่อไว้ ..อาแค่รักษาไม่ให้มันตายก็พอแล้ว กรณ์จะได้จับมันทรมานต่อไปนานๆ..” คำพูดร้ายๆที่ออกจากปากคนใกล้ตัว ทำให้หมอหนุ่มอดจะสะดุ้งไม่ได้..กรณ์ไม่ใช่พวกหยาบกระด้างเย็นชา ..ออกจะน่ารัก อ่อนโยน แต่ ณ เวลานี้ แค้นในหัวใจแปรเปลี่ยนให้คนคนนั้นร้างลาไปจากร่างแสนบอบบาง

“ ถ้าอย่างนั้นผมก็คงรักษาเขาไม่ได้หรอกครับ..”

“ ทำไม”

“ หมอเป็นอาชีพที่มีขึ้นเพื่อรักษาชีวิต ...การรักษาชีวิตย่อมหมายถึงว่าหลังจากรักษาอาการของเขาจะดีขึ้น เขาจะกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างสงบสุข แต่หากผมรักษาคนป่วย แล้วต้องปล่อยให้เขาโดนคุณกรณ์ทรมานต่อมันคงไม่ต่างอะไรจากส่งเขาไปตาย..”


“ ก็แล้วแต่อาล่ะกัน..ถ้าไม่รักษามันก็ตาย” กรณ์เหยียดยิ้มเล็กน้อยก่อนจะสะบัดตัวเดินออกจากห้องไปไม่แคร์สายตาที่จับจ้องตามไป


“ทำไมคุณกรณ์ของผมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้..” แวววูบปรากฏในดวงตาคู่นั้นเล็กน้อย ก่อนจะตั้งหน้ารักษาคนป่วยที่นอนสั่นงก ...ด้วยจรรยาบรรณที่เขามี ไม่อาจปล่อยให้วิชญ์นอนป่วยอยู่โดยไม่ทำการรักษาหรอก..หมอหนุ่มจัดแจงฉีดยาบรรเทาความเจ็บปวดไปหนึ่งเข็ม ตามด้วยาลดไข้อีกหนึ่ง...


“ มีอะไรให้ช่วยไหมคะคุณหมอ..” เมื่อเห็นกรณ์เดินลับออกไปจากห้อง สุรีย์ก็รีบเดินเข้ามาดูอาการอีกฝ่ายทันที พร้อมทั้งขันอาสาเป็นผู้ช่วย


“ ไม่มีอะไรแล้วครับคุณสุรีย์ ..ผมจัดยาไว้ให้หนึ่งชุด ให้ทานหลังอาหารสามมื้อติดต่อกันสักห้าวันอาการก็น่าจะทุเลา ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นก็โทรฯไปตามผมละกันนะครับ” หมอหนุ่มยิ้มให้บางๆ เหลือบมองร่างที่สลบไสลอย่างสังเวชใจ ..ตอนที่รู้ว่ากรณ์จับตัวการซึ่งทำให้กาณฑ์ช็อกจนกลายเป็นเจ้าชายนิทราเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ แต่ไม่อาจต้านทาน..ในเมื่อกรณ์คือลูกชายของผู้มีพระคุณ... เขาได้แต่ยืนมองอย่างห่างๆ..และเจ็บปวด เก็บกั้นความรู้สึกที่ตัวเองมีลงไปภายในใจ...แม้จะชอบกรณ์มากแค่ไหน แต่ก็รู้ตัวว่าไม่คู่ควร...

อยากเป็นสายลม..ที่ไม่มีตัวตน แต่สามารถมอบไอเย็น ..บรรเทาความร้อนรุ่ม

แต่ไม่รู้ว่าฟากฟ้านั้นสูงเกินกว่าสายลมจะพัดถึงหรือเปล่า ..แต่ก็นั่นแหละ..บางทีต่อให้สายลมพัดไปถึงฝั่งฟ้า แต่ชะตาหาใช่ผูกโยง บางทีแค้นอาจกลายเป็นรัก..ใครจะรู้

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ขออนุญาตเจ้าของเรื่องยังคะ ถ้าขอแล้ว เพิ่มเติมข้อความในรีแรกด้วยค่ะ

"นิยายเรื่องนี้ได้รับอนุญาตจากคุณ.... แล้ว "  เพื่อความมั่นใจ

แล้วจะรออ่านคะ  :L2:


LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 2 ..

รถยนต์คันหรูโฉบเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังงามอย่างว่องไว พร้อมร่างของใครบางคนที่ปรากฏกายขึ้น ร่างโปร่งที่ออกจะอ้อนแอ้นแทบปลิวตามลม...ชุดสีน้ำตาลอ่อนตัวเล็กกับกางเกงขายาวกรอมเท้า..ดูจะทำให้ร่างของเขาดูโปร่งชวนมอง ..คิ้วเรียวรับกับวงหน้า..ผมประที่ซอยเข้ารูปตามสมัยนิยมเดินก้าวเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังงามอย่างสดใส..

“ คุณกฤษฏิ์กลับมาแล้วเหรอคะ..” เสียงหวานจากยัยแม่บ้านร่างอวบดังขึ้น พร้อมรีบรี่เข้ามาชายหนุ่มร่างบางเอวอ่อน..


“ ไม่กลับจะเห็นเหรอ ...” เด็กหนุ่มเอ่ยทักเสียงร่าเริง..หัวเราะกับท่าทีปั้นปึ่งของแม่บ้านสาวที่แสร้งทำ..กฤษฑิ์เป็นคนใจดี ข้าทาสบริวารล้วนเคารพและค่อนข้างเอ็นดูเด็กหนุ่มไม่น้อย..



“ หัวเราะอะไรเอะอะไปถึงข้างบน..” หนึ่งเสียงของใครบางคนหยุดเสียงหัวเราะที่ดังอย่างชะงัก.. สายตาคู่เรียวมองลอดผ่านแว่นตาสีชาที่สวมอยู่..มองไปยังร่างบางของใครอีกคนที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน ..


“ พี่กรณื..” เสียงใสเอ่ยทัก..



“ กฤษฏิ์เหรอ..” ดูน้ำเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน รอยยิ้มปรากฏขึ้นอย่างแสนดีใจ ใครจะนึกละว่าอยู่ๆน้องชายร่างบางเอวอ่อน..น้องเล็กคนสุดท้องที่ไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งแต่เด็กจะกลับบ้านมาวันนี้.. กรณก้าวเข้ามาใกล้พลางสวมกอดเจ้าน้องชายคนเล็ก.. น้องชายอันเกิดจากพ่อของเขาแต่คนละแม่... แม่ของกฤษฏิ์คือคนเดียวกับแม่ของกาณฑ์


“ คิดถึงจังเลย ..ตอนแรกที่ได้ยินเสียงนึกว่าใครเสียอีก ..พี่กลายเป็นคนเข้มงวดตั้งแต่เมื่อไหร่นี่...” น้องน้อยสุดท้องเอ่ยขึ้น แสร้งทำแก้มป่องใส่พี่ชายหน้าสวย..แต่อยู่ๆ..โทรศัพท์จากคนเป็นพี่ก็ดังขึ้น ทำให้ต้องผละออกจากกันชั่วคราว...



น้องเล็กเดินลับขึ้นไปยังด้านบนของบ้าน...โดยไม่รู้เลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างรออยู่...ด้วยเพราะเขาจากไปเป็นเวลานาน กว่าจะกลับก็ช่วงปลายปีทำให้กรณ์ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ..ใช้ห้องของน้องชายเป็นที่กักขังใครคนนั้น..

เมื่อบานประตูเปิดออกไป...ความรู้สึกบางอย่างก็ปรากฏขึ้น ..

“ ใครน่ะ..” เสียงเข้มเอ่ยถามหยั่งเชิง เมื่อเห็นร่างของใครบางคนนอนอยู่บนเตียงของตน..ดวงตาคู่เรียวมองเลยไปยังข้อมือทั้งสองที่ถูกล่ามไว้โดยโซ่ขนาดใหญ่ ตามแขนตามขามีร่องรอยบอบช้ำมากมายเกิดขึ้น ..ดีนะที่สุรีย์จัดการให้ คนสวนมาเปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนที่นอนให้กับคนหลับใหลแล้ว ไม่อย่างนั้นสภาพคงดูไม่ได้หรอก..

“ กฤษฏิ์..” เสียงหนึ่งทำให้สติของคนหวาดหวั่นกลับคืนมา..


“ พี่กรณ์นี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นใครทำไมต้องทำกับเขามากมายขนาดนี้ด้วย...” เสียงกร้าวเอ่ยถามเพราะคงเดาไม่ยากว่าเป็นฝีมือใคร


“ ช่างมันสิ..เพราะมันกาณฑ์ถึงได้ช็อกจนขาดสติ...”


“ แต่มันยุติธรรมแล้วเหรอพี๋..” กฤษฏิ์เองก็เคยได้รับรู้เรื่องราวอาการป่วยของพี่ชายคนรอง ..เขาจึงทำเรื่องขอจบไฮสคูลที่โน้น พร้อมทั้งรีบกลับมายังสายลมเพื่อคอยเติมกำลังใจให้พี่ชายคนโต และคอยดูแลพี่ชายคนรอง แต่สิ่งที่ได้เห็นกลับทำให้เขารู้สึกแย่

“ ยุติธรรมสิ”


“ พี่ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ..ถ้าไม่กฤษฏิ์จะแจ้งตำรวจ...” เจ้าน้องเล็กเอ่ยประกาศ ด้วยความเป็นลูกคนเล็กเลยถูกตามใจ และเป็นที่รักของคนอื่น ..แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ กฤษฏิ์กลายเป็นเด็กเสียนิสัย ทางตรงกันข้ามกลับทำให้อ่อนโยน และเห็นใจต่อคนอื่น ยิ่งได้รับความรักมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งทำให้เขาอยากส่งต่อมากขึ้นเท่านั้น ต่อให้คนตรงหน้าจะร้ายแค่ไหน แต่สภาพในตอนนี้ เขาทนดูต่อไปไม่ได้หรอก.

.
“ อย่ายุ่งนะกฤษฏิ์ พี่ขอเตือน..” กรณ์ชะงักเล็กๆ แต่ทิฐิยังปรากฏ


“ ไม่ยุ่งได้ยังไง..พี่ดูเขาสิมีแต่รอยช้ำ รอยแผลมันไม่โหดเกินไปหน่อยเหรอ ทำไมพี่ถึงทำอย่างนี้ กฤษฏิ์ไม่นึกเลยนะว่าพี่จะใจร้าย..”


“ ถ้ามันไม่ร้ายกับกาณฑ์ก่อน พี่ก็ไม่ร้ายกับมัน...ถ้ากาณฑ์ไม่ฟื้นมันก็ต้องรับกรรมต่อไป..”


“ แต่พี่..”


“ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว..พี่ตัดสินใจแล้ว” กรณ์ยืนกรานเชื่อมั่นในสิ่งที่คิด ..เขาอยากทำให้อีกคนเจ็บ เจ็บจนอยากตาย ...เจ็บจนไม่อยากจะมีชีวิตเหลือต่อไป..


“ กฤษฏิ์รู้ว่าอาจเปลี่ยนความคิดพี่ไม่ได้..พี่ไม่ต้องปล่อยเขาออกจากสายลมก็ได้ แต่อย่าทรมานเขาอย่างนี้ ยังไงเสียเขาก็เป็นคน..ไม่ใช่สัตว์ที่เราจะเหยียบย่ำทำอย่างกับพวกไร้หัวใจ ..”

“ ทำไมเราต้องไปห่วงมันด้วย..มันทำให้กาณฑ์ต้องเป็นอย่างนี้นะ..”


“ วิธียังมีอีกตั้งมาก..อย่าทำร้ายเขาอย่างนี้เลย ถ้าเขาตายไปมันจะเป็นบาปติดตัวพี่เปล่าๆ พี่คิดเหรอว่าถ้าพี่กาณฑ์ฟื้นมาแล้วรู้เรื่องเขาจะสบายใจ คิดเหรอว่าเพื่อให้เขาได้ฟื้น พี่ชายที่แสนดีต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าคน .มันคุ้มแล้วเหรอพี่..” นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่น้องเล็กจะเดินจากไป..ทิ้งให้กรณ์นั่งครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆเพียงลำพัง ..เรียวตาของเขาตวัดเล็กๆ รู้สึกอึ้งๆ..พลางเหลือบไปมองอีกคนที่นอนหลับอยู่


“ ขนาดแกหลับยังทำให้น้องฉันต้องขุ่นใจได้..” มือเรียวยกขึ้นฟาดลงบนใบหน้าสากๆที่ปรากฏรอยช้ำอย่างแค้นใจ .. ริมฝีปากเรียวยกขึ้นอย่างเหยียดๆ...ก่อนจะเอื้อมไปหยิบกุญแจตรงหัวเตียงไขปลดโซ่ที่ล่ามอีกฝ่ายไว้..คนร่างบางเดินลับออกจากห้อง และจัดการทำในบางสิ่งที่น้องชายคนเล็กขอ.. แต่เกมทรมานมันยังไม่จบ...วิชญ์ภาสต้องรับทุกข์ต่อไปจนกว่ากาณฑ์จะฟื้น..



ร่างของวิชญ์ภาสถูกย้ายมาไว้ภายในห้องนอนของประมุขสายลม...กรณ์เลือกจะปลดปล่อยพันธนาการทางร่างกาย แต่ใช้ข้อต่อรองที่มีผลทางจิตใจเข้ามาแทนที่.. ตราบใดที่วิชญ์ภาสไม่คิดหนี คุณวรางคณาก็จะปลอดภัย...แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความรุนแรงที่กรณ์หยิบยื่นให้จะหมดไป ...


แต่ใครจะรู้ว่าชะตาของฟ้าช่างเล่นตลกเก่งกว่าสิ่งไหน ...น้องคนกลางถูกวิชญ์ภาสหักอกจนกลายเป็นจนเจ้าชายนิทรา ส่วนน้องคนเล็กก็เหมือนกำลังจะเดินย่ำรอยของกาณฑ์ ...



“ นี่พี่...อยากไปเที่ยวไหม กฤษฏิ์จะไปข้างนอก...” เสียงใสของเด็กชายวัยสิบแปดดังขึ้นอย่างไม่ประสาสักเท่าไหร่ ..เขารู้สึกถูกชะตากับคนหน้าเข้มอย่างบอกไม่ถูก จะเพราะอะไรเขาก็ไม่อาจตอบได้..



“ ผมคงต้องขอคุณกรณ์ก่อน...” วิชญ์เอ่ยบอกเสียงเนือยๆ...นับตั้งแต่วันที่ กฤษฏิ์ไปเจอเขาถูกทรมาน เขาก็ถูกย้ายไปอยู่ห้องของพี่ใหญ่ของบ้าน ไม่ได้ถูกกักขังเช่นแต่ก่อน สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ทุกที่ภายในรั้วรอบของคฤหาสน์..แต่การจะออกนอกรั้ว วิชญ์ไม่แน่ใจว่าจะได้รับอนุญาตหรือเปล่า ..



“ ไม่เป็นไรหรอก..พี่กรณ์ใจดีจะตาย พี่ไปกับกฤษฏิ์นะ..” เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง พลางเข้ามาคล้องแขนคนอายุมากกว่าอย่างอ้อนๆ...วิชญ์ภาสจำต้องยอมตามใจเด็กน้อยหน้าใสอย่างเลี่ยงไม่ได้ กฤษฏิ์พาวิชญ์ภาสขับรถไปยังชายทะเลใกล้ๆบ้าน หลายปีแล้วสินะที่เขาจากไปไม่ได้กลับมา..ความงดงามของมันยังคงอยู่ ที่แถวนี้ส่วนใหญ่ล้วนมีชื่อของสายลมครอบครอง... ทุกอย่างเลยยังงดงามตราบเท่ากาลเวลาจะผ่านไป


“ ดูหน้าพี่เครียดๆนะ..”



“ เปล่า ผมแค่สงสัยว่าคุณไม่คิดจะโกรธผมบ้างเหรอที่ทำร้ายพี่ชายของคุณขนาดนั้น” วิชญ์เอ่ยขึ้นอย่างหยั่งเชิง ความสนุกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาตอนนั้นหารู้เลยว่าทำให้ใครบางคนต้องเจ็บปวดทรมาน สองวันก่อนตอนได้เห็นสภาพเจ้าชายนิทราของกาณฑ์ ทำให้เขาอดจะหดหู่ไม่ได้..เขาร้ายกาจจนทำให้คนดีๆต้องเป็นเช่นนี้เชียวเหรอ ..



“ โกรธมั้ง แต่โกรธไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก” เด็กหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ..จ้องมองออกไปยังผืนทะเลเบื้องหน้า เขาไม่อยากจะถือลม ไม่อยากจะแบกฟ้า ..ด้วยเพราะความรักที่คนรอบกายมอบให้ ทำให้เขาอยากจะมอบมันกลับไปให้กับคนอื่นๆ ..แม้แต่ศัตรูเขาก็เลือกจะมอบมันกลับไป...กฤษฏิ์เชื่อว่าความรักจะทำให้ทุกสิ่งคลี่คลาย ..



“ แต่พี่ชายคนโตของคุณไม่คิดอย่างนั้น..”



“ พี่อาจไม่เชื่อ...แต่พี่กรณืเคยเป็นคนที่อ่อนโยนที่สุดในโลก เป็นพี่ที่ดีอย่างที่ใครต้องอิจฉา ...พี่คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่พี่กรณ์จะหายโกรธ..ต้องรอให้พี่มกาณฑ์ฟื้น พี่ถึงสามารถเดินออกจากบ้านสายลมไปได้..” นั่นคือสิ่งที่กฤษฏิ์เองก็รู้ดี ตราบใดที่กาณฑ์ยังไม่ฟื้น แผลในใจของกรณ์จะไม่มีวันลบหาย ..



“ อืม..” วิชญ์พยักหน้าให้เล็กน้อย ..ร่างหนั่นทอดลงบนพื้นทรายอย่างอ่อนใจ ..ความคิดจะหนีคงเป็นอย่างสุดท้ายที่เขาจะเลือก ในเมื่อมารดายังอยู่ในเงื้อมือของกรณ์ ต่อให้วิชญ์ภาสจะพยายามยังไงก็ไม่อาจละทิ้งความรักที่มีต่อคุณวรางคณาไปได้..


กว่าทั้งสองจะกลับก็ค่ำมืด..วิชญ์ภาสไม่รู้เลยว่าชะตาของเขากำลังจะผลิกผันอีกครั้ง...



“ ไปไหนกันมา..” เสียงตวาดดังขึ้นทันทีที่สองคนก้าวเข้ามาภายในบ้าน เสียงนั้นทำให้น้องเล็กอย่างกฤษฏิ์ถึงกับสะดุ้ง รับรู้ได้ถึงความโกรธที่กรณ์แผ่ซ่าน ดวงตาคู่เรียวที่เคยสดใสมีเมตตา บัดนี้มีเพียงเพลิงแค้นที่ไหลวน


“ กฤษฏิ์พาพี่เขาไปนั่งเล่นชายหาด”



“ ธุระกงการอะไรของเราเหรอ ..นักโทษไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น แล้วจะไปไหนมาไหนทำไมไม่บอกเห็นพี่เป็นหัวหลักหัวตอหรือยังไง..หา..” กรณ์ตอกกลับอย่างไม่สนใจเหตุผล เขารู้เพียงโกรธ โกรธเพราะน้องชายคนเล็กกำลังให้ความสนใจไอ้คนชั่ว ..ที่ทำให้น้องชายคนกลางต้องเจ็บปวด กรณ์กลัว กลัวเหลือเกินว่าทิวจะเดินตามรอยน้องชายคนกลาง ...


“ กฤษฏิ์..”


“ กลับขึ้นห้องไปได้แล้ว พี่หวังว่าครั้งต่อไปคงไม่มี..” กรณ์ไม่เปิดโอกาสให้น้องชายได้แก้ต่าง ..กฤษฏิ์เลยได้แต่เดินอาดๆขึ้นไปบนห้องของตนอย่างไม่พอใจนัก...ส่วนวิชญ์ภาสก็ถูกอีกคนกระชากให้เดินตามขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะขัดเลยสักนิด...ยังไงกรณ์ก็ถือไพ่เหนือกว่าเขา ...ทันทีที่ร่างของสองคนลับเข้าไปในห้อง ...วิชญ์ภาสก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นผ่านมาบนใบหน้าสากๆ...



“ เพี้ยะ” หน้าของเขาถึงกับหันไปตามแรงตบนั้น...


“ จำไว้ว่าอย่ายุ่งกับน้องฉันอีก..ถ้าแกไม่อยากเห็นแม่แกต้องทรมาน...” กรณ์ยิ้มเหี้ยมอย่างคาดโทษ ตอนที่รู้เมื่อบ่ายว่ากฤษฏิ์ออกไปกับคนที่เขาเกลียด..เขาก็โกรธจัดจนต้องสั่งการบางอย่างลงไป....

“ คุณก็ดีแต่เอาแม่ผมมาขู่...”

“ ฉันไม่ได้แค่ขู่...” กรณ์ยกริมฝีปากให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินไปกดปลุ่ม play บนรีโมตขนาดเหมาะมือ..ภาพที่ปรากฏทำให้คนตัวสูงกับสะดุ้ง..ภาพของมารดาที่กำลังร้องไห้อย่างแสนทรมาน มันแทรกผ่านส่วนลึกในความเจ็บปวด...

“ คุณทำอะไรแม่ผม..” ร่างที่บางกว่าถูกจับเข้าที่หัวไหล่อย่างรุนแรง แรงจนกรณ์รู้สึกเจ็บแต่ก็กัดฟันไม่ร้องออกมา ..

“ จำไว้ว่าอย่าท้าทายฉัน..”


“ คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังพลาด...คุณรู้ไหมว่าก่อนหน้านี้ผมคิดจะยอมคุณ ยอมให้คุณแก้แค้นจนกว่าน้องกาณฑ์จะฟื้น คุณเคยรู้บ้างไหมว่าผมรู้สึกผิดที่ทำให้น้องกาณฑ์เจ็บปวด แต่ตอนนี้คุณกำลังพลาด พลาดอย่างไม่น่าให้อภัย..” แววตากร้าวที่ฉายออกทำให้กรณ์รู้สึกถึงไอเย็นยะเยือก น้ำเสียงที่ดังขึ้นทำให้เขารับรู้ถึงบางสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อร่างสูงกระชากร่างของเขาให้ล้มลงไปกับพื้นเตียงด้านหลัง...

“ ถ้าแกกล้าทำอะไร..แม่แกไม่รอดแน่..”


“ ถ้าคุณกล้าก็เชิญ..ตอนนี้ผมมีคุณกฤษฏิ์มาเป็นหมากตัวใหม่ ถ้าคุณทำให้แม่ผมเจ็บ ผมจะทำให้คุณกฤษฏิ์เจ็บอย่างชนิดที่ทรมานที่สุด ..” สิ้นเสียงสิ่งที่กรณ์ประหวั่นก็เกิดขึ้น ..ร่างสูงกระชากเสื้อผ้าที่กรณ์สวมใส่อย่างบ้าคลั่ง ..กรณ์พลาดไปแล้วจริงๆใช่ไหม เมื่อหมากตัวใหม่อย่างกฤษฏิ์ดันแทรกเข้ามาอย่างไม่รู้เวลา แถมกรณ์ยังจัดการมารดาของวิชญ์ภาสอย่างแสนร้ายกาจ ทำให้ความบ้าคลั่งภายในตัวของอีกฝ่ายถูกปลุกขึ้นมา...
“ โอ๊ย...” กรณ์ร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด เมื่อบ่าบางถูกกัดเข้าอย่างแรง..คาวเลือดที่ปรากฏดูจะเปรอะไปตามที่นอน ..กรณ์ไม่ยอมให้เขาต้องเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว เลือกจะกัดลงบนบ่าอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้...ต่างฝ่ายต่างแรงใส่กัน...เมื่อร่างสูงจัดการปลดเปลื้องทุกสิ่งปกปิดอย่างว่องไว ...ความปลุกปั่นที่บังเกิดก็พรวดกายเข้าไปอย่างไม่รอช้า...กรณ์ถึงกับจุกในท่าทีที่แสดง แต่ต้องแข็งใจให้เกมระหว่างทั้งสองเดินไปต่อ

..เจ็บ ทรมาน ..ใช่สิ กรณ์ต้องเจ็บมาก ...เมื่อหน้าของน้องชายลอยมาในความคิด มือที่จิกลงบนแผ่นหลังหนั่นหนาก็หยุดลง ..ปากที่กัดลงบนบ่าของวิชญ์ภาสก็ละออก ..กรณ์อยากเจ็บ ..อยากทรมานให้สาสมกับหน้าที่ที่ตนบกพร่อง ...


วิชญ์ภาสเหลือบมองร่างด้านใต้อย่างแปลกใจ ...



และต้องสะดุดเข้าไปใหญ่เมื่อดวงตาคู่เรียวที่ปิดอยู่มีน้ำตารินออกมา...เขากำลังสับสนกับสิ่งที่เกิด กรณ์ร้องไห้เพราะโดนเขาทำอย่างนี้เหรอ ..แต่จะว่าไปก็ไม่ใช่ น่าจะมาจากอย่างอื่นมากกว่า ..เพราะหากจะร้อง ..กรณ์คงไม่ยัดเยียดวิธีการเสพกามตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีหรอก..



บทรักของสองกายจบลงอย่างรวดเร็ว ...พร้อมคำถามมากมายที่ยังค้างคาในใจของวิชญ์ภาส...ร่างบางที่ปรากฏรอยช้ำ.. รอยกัดมากมายพลิกออกจากอีกคนด้วยความเหนื่อยล้า...ปล่อยให้วิชญ์ภาสนั่งมองอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ...ระหว่างทั้งสอง ..คือความเกลียด แต่กลับใช้เซ็กซ์เป็นสิ่งผูกโยง ..


ความสับสนมากมายที่เกิดทำให้วิชญ์ภาสเลือกจะดำเนินในบางสิ่งบางอย่างต่อ..เขาลดกายลงใกล้ๆอีกคนที่พลิกไปอีกทาง...พลางดึงร่างนั้นให้กลับมานอนหงาย ส่วนเขาก็ก้าวเข้าคร่อมทับอย่างรวดเร็ว

“ ทำอะไร.” เสียงที่ถามหาได้กระด้างแข็ง หรือวางอำนาจเช่นทุกที...


“ ..” ไม่มีคำตอบใดออกจากปาก มีเพียงความต้องการที่ปรากฏ แต่เพราะบางสิ่งในดวงตา ..หรือจะเพราะน้ำใสๆที่วิชญ์ภาสได้เห็น มันทำให้บทเพลงครั้งใหม่ถูกปลุกเร้าอย่างละเมียดละมุน..เมื่อเรียวปากปากถูกสัมผัสอย่างแผ่วเบา...ลิ้นเรียวพยายามสรรหาหนทางก้าวล่วงเข้าไปอย่างไม่รอช้า..เพียงไม่นานเจ้าของร่างก็เปิดโอกาสให้มันก้าวเข้าไปสัมผัสความอ่อนโยน...

มือแกร่งเริ่มทำงานในแบบของมัน...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2009 03:08:59 โดย LoveNineTeen »

mhu_porm

  • บุคคลทั่วไป
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :mc4:

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 3 ..


มือเรียวบางวางลงบนอกหนาที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างหวาดๆ..เขากำลังเกรงกริ่งต่อสิ่งที่ใกล้จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

จะว่าไปก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก คนทะนงหยิ่งผยอง และมาดร้ายในแค้นอย่างกรณ์ เวลานี้กลับเกิดความประหวั่นพรั่นกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

หาใช่ความรุนแรงที่สายตาตรงข้ามแสดง หาใช่ความร้ายกาจที่อีกฝ่ายสนอง ..แต่เป็นเพียงสายตานุ่มละมุน ..กับสัมผัสอันแสนอ่อนโยน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เขาไม่เข้าใจ

...เมื่อกายสูงเสือกสนบางสิ่งบางอย่างเข้ามา ..ความดึงดันรอบล่างจึงบังเกิด จากมือที่ดันให้อีกกายออกห่าง แปรเป็นยึดแน่น..จิกปลากเล็บลงบนอกหนั่นขาวราวกับจะหยิบเนื้อแกร่งให้หลุดติดมือออกมา .. แรงกายที่ส่งเสียด ควบคุมจังหวะลมหายใจของทั้งสองได้ชะงักงัน


..มันเป็นความรู้สึกใหม่ที่เกิด..เมื่อใบหน้าที่เริ่มบู้เบี้ยวกลับเป็นเป็นสุขสม ..พร้อมสิ่งบรรจงที่มือแกร่งปรนเปรอให้... เพียงไม่นานจากการเคลื่อนไหวก็จบลงตรงความนิ่งงัน..กล้ามอกหนาที่กระเพื่อมขึ้นลงเพราะแรงหอบ วางลงประสานกับอกเรียวขาวของอีกคนที่เหนื่อยล้ามิแพ้กัน .

.
" หนัก.." เพียงสั้นๆที่กรณ์กล่าว ..ร่างที่ทาบทับก็กลับฝ่ายลงไปนอนข้างๆ แต่มิได้ออกห่าง ... เกมกามระหว่างสองกายจบลงตรงความงุนงงของสองร่าง ..ใครจะรู้ว่าระหว่างทั้งสองกำลังมีเส้นร้อยของโชคชะตาเล่นตลกอยู่...


“ ...” กรณ์ยันกายที่เปลือยเปล่า ..มากมายไปด้วยรอยช้ำแดงก้าวล่วงเข้าไปในห้องน้ำใกล้ๆอย่างเหนื่อยล้า.. ยามเมื่อร่างนั้นลับหาย คนตัวสูงก็ถึงกับถอนหายใจยกใหญ่..


“ คุณแค้นผมมากขนาดนี้..แต่ทำไมผมถึงรู้สึกอยากอยู่ใกล้คุณ ทั้งที่คุณทำร้ายแม่ผม แต่บางสิ่งก็บอกให้ผมอย่าเดินหนี.. หากกรรมที่ผมเคยทำกับน้องกาณฑ์จบลงด้วยการไม่สานแค้นต่อมันคงจะดี.. ผมจะยอมจนกว่าคุณจะพอใจ..” นั้นคือคำรำพันสุดท้ายก่อนความหนักอึ้งของดวงตา จะลากพาสติให้ลดหาย...



เช้าวันใหม่ของการเริ่มต้น...ร่างสูงเดินออกจากห้องนอนที่ว่างเปล่าได้อย่างอิสระ ตอนนี้กรณ์คงออกไปทำงานแล้ว ส่วนกฤษฏิ์เองก็คงไปในเมือง ..ในบ้านจึงเหลือแต่สาวใช้ร่างอวบ กับน้าชิดคนสวน ...



“ คุณจะรับอะไรบ้างคะ..” หญิงสาวเดินเข้ามาเอ่ยถามกับคนที่เอนกายลงบนโซฟาอย่างสงสัย ..หลายวันมานี้ แม้วิชญ์ภาสจะถูกปลดปล่อยจากการพันธนาการ แต่เขาก็มิอาจไปไหนได้... แววตาเศร้าๆที่เกิด แม่บ้านสาววัยยี่สิบตอนต้นรับรู้ได้ดี



“ อะไรก็ได้ ว่าแต่ไปไหนกันหมดละ..” วิชญ์ตอบเสียงแผ่ว พลางเอ่ยถามถึงคนอื่นๆ ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่



“ คุณกรณ์เธอออกไปบริษัทกับคุณสุรีย์ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแล้วละค่ะ เห็นคุณสุรีย์เธอเปรยๆว่ามีปัญหาเข้ามา เพราะผู้จัดการคนเก่ายักยอกเงิน เลยทำให้เกิดหนี้เสีย นุ่นเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ..ส่วนคุณกฤษฏิ์เธอออกไปรับเอกสารที่สถานทูตน่ะค่ะ เห็นว่าใบสำเร็จการศึกษาชั้นไฮสคูลส่งมาให้” หญิงสาวเอ่ยตอบในทุกข้อที่รู้ บ้านนี้แทบทุกซอกทุกมุมไม่รอดสายตาของเจ้าหล่อนหรอก


“ คุณกฤษฏิ์เขาจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเมืองไทยเหรอ..”


“ ใช่ค่ะ” เธอกล่าว พลางเดินไปหยิบอาหารเช้าที่อยู่ในครัวมาส่งให้คนตาหวาน ... จากนั้นก็ขอตัวไปจัดการงานบ้านอื่นๆ ( เอาเป็นว่าให้นังหมู เป็นแค่นี้..ฮ่าๆ)


หลังมื้ออาหารเช้า...วิชญ์ภาสก็ออกมาเดินเล่นรอบๆบ้าน ก่อนจะนึกบางสิ่งบางอย่างได้..


“ ...ไอ้วิชญ์ ..มึงอยู่ไหนของมึงนี่..ตั้งแต่ปิดเทอมหายหัวไปเลยนะ นี่เป็นเดือนๆแล้วนะมึง เมื่อไหร่จะกลับวะ กูจะชวนไปหลีสักหน่อย เบื่อชะมัดไม่มีมึงอยู่ด้วย” ปลายสายที่ลอดเข้ามา จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนร่วมกรณีของวิชญ์ภาส ..หนึ่งในตัวการที่ทำให้กาณฑ์ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทราในทุกวันนี้...

“ เออ กูมาบ้านญาติน่ะ แล้วไงบ้างสบายดีไหมมึง..”


“ แปลกว่ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะถาม กินยาผิดขวดป่ะนี่... แต่ช่างเถอะๆ กูขี้เกียจสนมึง กูมีเรื่องจะถามสักหน่อย ไอ้น้องคิ้วหักที่มึงควงมันหายไปไหนวะ เห็นคนในมหาวิทยาลัยไม่รู้เลย ขนาดเพื่อนคณะของมันยังไม่รู้ ไม่ใช่ไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายแล้วนะมึง..” คำที่ถาม ดูจะกระแทกใจคนฟังได้มากมาย .. โต้งหมายถึงกาณฑ์มีหรือที่วิชญ์ภาสจะไม่รู้..


ดวงตาคู่กลมสะท้อนแสงตะวัน ..มองเลยขึ้นไปยังห้องชั้นสองของบ้าน ..


ห้องที่เขาไม่เคยย่างกรายเข้าไปเลยตลอดเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ ... มือแกร่งเอื้อมตัดสายอย่างชินชา ก่อนจะก้าวเท้าออกเดินไปเบื้องหน้า เพื่อพบใครบางคน ... นานแสนนานที่วิชญ์ภาสมาหยุดทำใจอยู่หน้าห้องของคนป่วย ..เจ็บ ทรมาน.. วิชญ์ภาสร้ายจนทำให้ใครคนหนึ่งสาหัสขนาดนี้เชียวหรือ...



“ พี่ขอโทษ..” คำนั้นหลุดออกมาอย่างแสนสั่น..ก่อนที่บานประตูจะเปิดออกด้วยใจระส่ำ... ร่างของวิชญ์ภาสก้าวเข้ามาภายในห้องอย่างแสนสงสาร ยิ่งเห็นร่างของใครคนนั้น คนที่เขาเห็นเป็นของเล่น ...แค่ครองกายหนึ่งวันก็ละห่าง ราวกับสิ่งไร้ค่า ..


เวลานี้กาณฑ์กำลังถูกความเจ็บปวดภายในใจ ทำร้าย...


“ พี่ขอโทษ..” วิชญ์ภาสเอ่ยขึ้นพร้อมน้ำตาที่รินออก .. ใครจะรู้ว่าเส้นโยงของโชคชะตาระหว่างเขาและกรณ์กำลังมีอุปสรรคใหญ่ปรากฏขึ้น เมื่อน้ำตาที่แสนธรรมดา แต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกสำนึกผิดอย่างสุดใจสัมผัสบนมือเรียวของคนหลับใหล ..จะทำให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น



กล่าวกันว่า ..แรงดึงดูดของจิตใจสามารถยกพาเอาหลายสิ่งหลายอย่างที่คิดมาสู่ร่างกาย .. เมื่อภาวะจิตใต้สำนึก และจิตสำนึกของกาณฑ์เรียกร้องให้วิชญ์ภาสอยู่ข้างกาย ยามเมื่ออุณหภูมิจากอีกร่างแตะสัมผัส น้ำตาที่แสนแปรปรวนแตะต้อง เมื่อนั้นภายในที่หลับใหลจึงเคลื่อนไหวไปมาอีกครั้ง ... ( ปฏิกิริยาตอบสนองด้านประสาทวิทยาว่าด้วยแรงดึงดูดระหว่างความคิด จิตใจ และร่างกาย ..สัมพันธ์กับอุณหภูมิของแต่ละสิ่ง)


ร่างที่หลับใหลมากว่าหนึ่งเดือนเริ่มขยับไปมาอย่างทุลักทุเล แม้พยาบาลจะเข้ามาทำกายภาพบำบัดให้ทุกสามเวลา แต่ร่างกายที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานย่อมยากแสนยากในการเริ่มแรก..ดวงตาที่ปิดลงอย่างเจ็บปวดค่อยๆเปิดออก พร้อมหนึ่งความรู้สึกที่หนักอึ้ง...


วิชญ์ภาสหันหลังออกจากห้องโดยไม่รู้เลยว่าน้ำตาของเขาปลุกให้บางสิ่งบางอย่างตื่นขึ้น


แสงตะวันเคลื่อนไปตามเหลี่ยมมุมของฝั่งฟ้าตามวิถี พร้อมสติที่ค่อยๆกลับมาของคนอ่อนแรง ..แต่เพียงไม่นานกาณฑ์ก็หลับไปอีกครั้ง ..แต่การหลับครั้งนี้จะดำเนินไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง หาใช่เป็นเดือนๆอย่างเช่นที่ผ่านมา...



หญิงสาวร่างบางเลขาฯส่วนตัวของกรณ์เดินปลีกออกจากเจ้านายเมื่อเดินก้าวเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังงาม ..หน้าที่ของหล่อนคือการมาเยี่ยมใครบางคนที่เธอเคยรู้จักมาตั้งแต่เด็กทุกวัน .. สุรีย์จะก้าวเข้ามาภายในห้องแห่งนี้เพื่อเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นให้กับกาณฑ์ได้ฟัง แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจ หรือได้ยินสิ่งที่เธอรำพันหรือเปล่า แต่เพียงได้พูดออกมาเธอก็สบายใจมาก

“ เป็นไงบ้างคะคุณกาณฑ์..วันนี้เป็นยังไงบ้าง”


‘ ใครกัน...เสียงใครทำไมมันคุ้นอย่างนี้ละ’ ดวงตาที่ยังปิดอยู่เอ่ยถามกับตัวเอง หนึ่งเสียงที่เขาแสนคุ้นเคยมานานแสนนาน ใครคนนั้นที่เข้ามาหาเขาทุกวัน ใครคนนั้นที่ทำให้เขาไม่เหงา และรู้สึกอบอุ่น ..แต่เขาเป็นใครกันละ ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2009 08:33:15 โดย LoveNineTeen »

ออฟไลน์ art

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ต่อเร็วๆๆๆๆๆๆๆนะ


เอาอีกๆๆๆๆๆๆ



 :L2:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






unagan

  • บุคคลทั่วไป
กำลังมันส์   o13

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
art  unagan ขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่าน  :pig4:

เดี๋ยวมาต่อให้นะ

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 4


หญิงสาวร่างบางเลขาฯส่วนตัวของกรณ์เดินปลีกออกจากเจ้านายเมื่อเดินก้าวเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังงาม ..หน้าที่ของหล่อนคือการมาเยี่ยมใครบางคนที่เธอเคยรู้จักมาตั้งแต่เด็กทุกวัน .. สุรีย์จะก้าวเข้ามาภายในห้องแห่งนี้เพื่อเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นให้กับกาณฑ์ได้ฟัง แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจ หรือได้ยินสิ่งที่เธอรำพันหรือเปล่า แต่เพียงได้พูดออกมาเธอก็สบายใจมาก 


“ เป็นไงบ้างคะคุณกาณฑ์..วันนี้เป็นยังไงบ้าง”


‘ ใครกัน...เสียงใครทำไมมันคุ้นอย่างนี้ละ’ ดวงตาที่ยังปิดอยู่เอ่ยถามกับตัวเอง หนึ่งเสียงที่เขาแสนคุ้นเคยมานานแสนนาน ใครคนนั้นที่เข้ามาหาเขาทุกวัน ใครคนนั้นที่ทำให้เขาไม่เหงา และรู้สึกอบอุ่น ..แต่เขาเป็นใครกันละ ..


“ ดูสีหน้าคุณกาณฑ์สดชื่นขึ้นนะคะ” หญิงสาวพูดไปอย่างที่เห็น หารู้หรอกว่าบัดนี้สติสัมปชัญญะทั้งหมดของคนป่วยปรากฏขึ้นแล้ว มีเพียงอย่างเดียวที่กาณฑ์ไม่สามารถทำได้คือเคลื่อนไหว ร่างกายของเขาคงต้องปรับตัวอีกนานกว่าจะสามารถกลับคืนสู่อาการปกติ ( ผลกระทบทางร่างกายหลังร่างกายขาดการเคลื่อนไหว ทำให้เลือดเดินทางไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้น้อยลง กล้ามเนื้อ รวมถึงผิวหนัง อาจเกิดการกดทับ รวมไปถึงเส้นประสาทการเคลื่อนไหว มักพบในคนที่นอนหลับเป็นเวลานาน หรือผู้ป่วยที่สมองขาดออกซิเจนเป็นเวลานานๆ) ( สรุป..มีร์ยังไม่ให้น้องกาณฑ์ตื่น รู้สึกตัว แต่ขยับไม่ได้...)

หญิงสาวเดินลับออกจากห้องไป ..ทิ้งไว้เพียงเสียงอันแสนอบอุ่น กับร่างกายที่ค่อยๆหลับลงไปอีก


ร่างเพรียวบางในชุดสีเทาอ่อนเดินก้าวเข้าไปในห้องอย่างอ่อนล้า... พลางวางกระเป๋าหนังลงบนโต๊ะตรงใกล้ๆเตียงนอน ..ห้องแห่งนี้หาใช่ห้องของเขาเพียงผู้เดียวนับตั้งแต่ที่กฤษฏิ์กลับมา มันกลายเป็นของเขากับใครอีกคนที่แสนร้ายกาจต่อน้องชายคนกลางของเขา


สูทตัวแพงวางพาดลงบนพนักเก้าอี้ด้านหลังอย่างอ่อนแรง ก่อนที่จะเขาจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อที่สวมมาทั้งวันออก ..ตอนนี้กรณ์อยากอาบน้ำพักผ่อน ... ภารกิจในหนึ่งวันที่ผ่านมาดูจะสร้างความหนักใจให้กับประธานหนุ่มอย่างมาก ..ปัญหาเรื่องเงินเรื่องทองมันไม่เคยเข้าใครออกใคร ..แต่กรณ์ก็ไม่เคยคิดว่าคนเก่าคนแก่ที่รับใช้บริษัทมายาวนานจะกล้าทำเช่นนี้ ทุกอย่างเข้ามารวดเร็วและจากไป


หนี้ที่เกิดหลายสิบล้าน แท้จริงไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้กรณ์หนักใจ .. ธุรกิจในเครือ Wind Business มีมูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นหลายหมื่นล้าน ..แต่การจะถอนเงินสดออกมาใช้เวลาอาทิตย์สองอาทิตย์ ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ ..เพราะทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของหุ้น กรรมสิทธิ์ ตลอดจน ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ..


ร่างโปร่งที่พอหนั่นด้วยมัดกล้ามงดงามค่อยๆ เลื่อนกายลงในอ่างน้ำวนที่เปิดไว้ ..หวังให้แรงดันที่วนเวียนช่วยละคลายความเมื่อยล้าออกไปให้หมดสิ้น นานเกือบชั่วโมงกว่าที่คนอ่อนแรงจะลุกขึ้นจากอ่างได้..เขาเดินออกมาในชุดเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนที่แขวนไว้เคียงข้างกับเสื้อคลุมตัวสีเขียวของใครอีกคน ..หนึ่งในเจ้าของห้อง ...


แต่ทันทีที่บานประตูเปิดออกบางสิ่งบางอย่างที่ลอยมากระทบก็ทำให้กรณ์ถึงกับผงะ...


“ ใครเอาดอกไม้นั้นเข้ามา..” เสียงนั้นบอกอย่างโกรธ..ๆ พลางเดินหาต้นตอของกลิ่นหอมที่หลายคนพิสมัย แต่สำหรับเขามันคือสิ่งน่าชัง... ดอกไม้สีขาวขนาดเล็กกว่าปลายนิ้วชี้มากมายหลายดอกวางเรียงอยู่ในอ่างน้ำขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือ ...


“ คุณจะทำอะไร..” วิชญ์ภาสเอ่ยถามเสียงหลง เมื่อเห็นกรณ์ตั้งท่าจะยกอ่างลอยดอกไม้ที่เขาเพิ่งได้มาจากชั้นล่างไป


“ อย่ายุ่ง..ทุกอย่างในบ้านนี้เป็นสิทธิ์ของฉัน..” กรณ์ไม่ตอบอะไร ได้แต่หยิบอ่างแก้วนั้นไป แต่วิชญ์ภาสก็ไม่ยินยอมให้มันเกิดขึ้นได้..โธ่เขาอุตส่าห์ลงทุนไปเด็ดถึงในสวน


จะเพราะอะไรเขาก็ไม่รู้ตัวเอง แต่สมัยก่อนตอนอยู่บ้านเห็นแม่ชอบเอามาวางไว้ในบ้าน ได้กลิ่นทีไรก็สดชื่น คลายกังวลได้มากมายยามสูดดม ..อาจเพราะเขาได้ยินบางสิ่งที่น่ากังวลเกี่ยวกับธุรกิจที่มีปัญหา เลยอยากให้อีกคนได้ผ่อนคลายกระมัง.

. วิชญ์ภาสหารู้หรอกว่าตอนนี้เขากำลังหยุดเพื่อเดินเข้าหาอีกคนที่ไกลแสนไกล แต่ใกล้สุดใจ... เมื่อกรณ์แค้น วิชญ์ภาสก็จะยอมให้กรณ์แก้แค้นจนมันจางหาย รอคอยสักวันที่ความรู้สึกจะเปลี่ยนผัน


สองคนยื้อแย่งอ่างใบเล็กกันไปมาจนสุดท้ายกรณ์ก็ยอมปล่อยมันออกออกอย่างเหนื่อยหน่าย แต่การกระทำของเขากลับทำให้เกิดบางสิ่งบางอย่าง ..เมื่อแรงต้านที่วิชญ์ภาสดึงดันกลับถูกหยุดยั้ง..ร่างนั้นจึงถลาเซไปด้านหลังพร้อมอ่างลอยดอกไม้ที่ถืออยู่..เนื้อแก้วเบาบางกระทบพื้นหินอ่อนอย่างแรงจนแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับคนตัวสูงที่ไถลมือกดลงกับพื้นที่มีเศษแก้วอยู่...



“ โอ๊ย...” เสียงร้องเรียกให้กรณ์หันมามองอย่างตกใจ ...รีบเข้าใกล้อีกคนอย่างเป็นห่วง ..เนื้อแท้ของกรณ์หาใช่คนเย็นชาหรือโหดร้ายอย่างที่กฤษฏิ์บอกไว้ แต่ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าวิชญ์ภาส กรณ์ต้องสวมบทร้าย สวมบทพี่ชายที่พร้อมจะทำทุกสิ่งเพื่อปกป้องน้อง ..แต่ ณ เวลานี้ เลือดที่ออก เสียงร้องที่ส่งทำให้กรณ์ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ..


“ เลือดออกด้วยนี่...” กรณ์รำพันกับคนเจ็บ พลางยกมือข้างที่ถูกเศษแก้วบาดขึ้นประคอง แต่วิชญ์ภาสก็กลับสะบัดมันออกอย่างแรง ...


“ ช่างผมเถอะ..” ในใจคนเจ็บรู้สึกโกรธอย่างไร้สาเหตุ แท้จริงอาจมาจากการที่กรณ์จะเอาอ่างแก้วของเขาไปทิ้ง ..เพราะแท้จริงมันรวมความพยายาม และความตั้งใจดีที่มีต่อกรณ์ไว้ในนั้น ..วิชญ์เลยรู้สึกน้อยใจเล็กๆ


แต่เขาจะมีสิทธิ์เหรอ ในเมื่อระหว่างทั้งสองมีเพียงความแค้น... ใช่สิ...จะพูดอย่างนั้นคงพูดออกได้ไม่เต็มปากนักหรอก ..ในใจวิชญ์ภาสตอนนี้หาใช่แค้น แต่เป็นการสำนึก..พร้อมกับความต้องการที่อยากจะอยู่ใกล้อีกคนที่ทำร้ายเขาสารพัด กักกัน ตบตี ทรมาน .

.แต่เพราะอะไร ..เซ็กซ์ สัมผัส จูบ หรืออะไรที่ผูกใจให้วิชญ์ภาสเลือกจะยอมให้กรณ์แก้แค้นต่อ ..เวลานี้คุณวรางคณาหาใช่เหตุสำคัญที่ทำให้เขาอยู่ในร่มเงาของสายลมเช่นเมื่อเดือนก่อน .. สักวันวิชญ์ภาสจะทำให้กรณ์ที่แสนโหดร้าย กลับไปแสนดีเช่นที่กฤษฏิ์บอกให้จงได้...


กรณ์ลุกพรวดแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คนเจ็บต้องเดินไปหยิบทิชชู่มากดซับเลือดที่ฝ่ามือด้วยตัวเอง ในใจนึกน้อยใจ นึกโกรธสารพัด ขนาดเขาเจ็บมากมายขนาดนี้ กรณ์ยังไม่สนใจอีกเหรอ ทั้งที่ทั้งสองแนบแน่นแนบเนื้อจนแทบจะละลาย

..แต่เพียงไม่นานความกรุ่นกริ่งในอารมณ์ก็ต้องแปรผกอีกครั้งเมื่อประตูห้องนอนเปิดออก พร้อมเจ้าของร่างบางในเสื้อคลุมสีฟ้า ..ยามเดินแต่ละครั้งรอยแหวกด้านล่างก็โชว์ขาอ่อนนวลเนียนให้ได้มองเห็น แผ่นอกขาวบางที่แลบออกเพราะสาบเสื้อคลุมที่เผยอ... ในส่วนลึกวิชญ์ภาสก็รู้สึกภูมิใจไม่น้อยที่ได้ครอบครองร่างกายที่น่าหลงใหล ร่างกายซึ่งเป็นที่หมายปองของใครมากมาย ..


“ นั่งบื้ออยู่ทำไม..” เสียงกระแทกดังขึ้น พร้อมขวดยากับสำลีที่กรณ์เดินไปขอมาจากแม่บ้านสาวด้านล่าง วิชญ์ภาสมองตามอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ยอมยื่นมือส่งไปให้

“ ถ้าผมตายคุณคงดีใจ..”

“ ใครว่า...ถ้าแกตายมันไม่ดูง่ายไปหน่อยเหรอ..แกยังต้องทรมาน” กรณ์บอกเสียงเย็น พยายามข่มความห่วงใยที่เขามีให้แนบเนียนที่สุด


“ แผลแค่นี้ผมคงไม่ตายหรอก...ผมจะได้ทรมานไง..” วิชญ์ภาสบอกเสียงจริงจัง พลางส่งสายตาไปยังดวงตาคู่เรียวที่มองเขาอย่างว่างเปล่า ..กรณ์สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวที่วูบหวั่น ..จนเขาต้องรีบหนี หากนานกว่านี้ความรู้สึกที่มีอาจถูกจับได้... เขาไม่ตอบโต้ ไม่พูดจา กลับดึงมืออีกคนมาทำแผลให้อย่างแผ่วเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้...


ความร้อน ความสั่น ตลอดจนลมหายใจที่แปรเปลี่ยนทำให้วิชญ์ภาสพอจะเดาได้ถึงความตื่นเต้นของอีกคนตรงหน้า ..นับวันกรณ์ยิ่งเก็บอาการไม่เก่ง ยิ่งห่างไกลจากวันแรกๆที่เจอกัน..

.เมื่อแผ่นผ้าก๊อตถูกวางทับด้วยที่ยึดอย่างเรียบร้อย ..กรณ์ก็เดินไปเก็บขวดยาตรงโต๊ะใกล้ๆ ..แต่ทันทีที่เขาหันหลังกลับมาก็พบว่ามีอีกคนมายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้..


. ร่างเรียวถูกวิชญ์ภาสยึดไว้แน่นก่อนจะเริ่มต้นบางสิ่งบางอย่าง...


“ ทำอะไร..” กรณ์ช้อนตาขึ้นมองอย่างหวั่นๆ..


“...” แต่กลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมา มีเพียงมือหนาข้างที่ไม่บาดเจ็บเลื่อนแหวกเข้าไปภายใต้เสื้อคลุมตัวหนาอย่างรวดเร็ว มันก้าวล้ำเข้าไปหยอกเย้าความอ่อนแอบนอกขาวนวลเนียน ที่เคยสัมผัสมานับครั้งไม่ถ้วน..


“ อย่างน้อยผมก็ดีใจที่คุณไม่ปล่อยให้ผมเลือดออกจนหมดตัว..” นั่นคือคำตอบที่ทำให้กรณ์ต้องหน้าแดงก่ำ ..นี่เขาตกหลุมของอีกคนแล้วใช่ไหม นี่เขากำลังก้าวพลาด... อย่าบอกนะว่ากรณ์ต้องเดินตามรอยน้องชายคนกลางของเขา อย่าบอกนะว่ากรณ์ต้องอ่อนแอ และอ่อนไหวไปกับคนตรงหน้า ...


“ บอกแล้วถ้าแกตาย..มันก็ไม่สนุก..” กรณ์ยกมือของเขาขึ้น รวบรวมแรงทั้งหมดแล้วผลักให้คนที่โลมเล้าออกห่างจากกายของเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินหนีไปทางตู้ใบใหญ่ด้านซ้ายมือ ..เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรอง ..

“ ถ้าคุณไม่อยากให้ตาย ..ผมก็จะไม่ตาย..” กรณ์พลาด..เมื่อร่างของเขาถูกดึงให้กลับเข้ามากระทบแผ่นอกหนาตึงด้วยกล้ามเนื้อ..แขนแกร่งเลื่อนเข้ามาโอบเอวบางอย่างว่องไว รัดไว้เพียงพันธนาการไม่ให้กรณ์หนีไปไหน ..แต่สิ่งที่ใช้อาจรัดไว้ได้เพียงชั่วคราว หากจะผูกมัดอะไรสักสิ่ง คงมีเพียงจิตใจเท่านั้นที่ยืนยง...

ริมฝีปากเรียววางลงบนลำคอระหงสูดดมความหอมหวานอย่างใคร่ได้...


 “ อย่าทำรอยนะ..” กรณ์บอกห้ามเมื่อริมฝีปากที่ลามโลมเริ่มจัดการแสดงหมายตราบอกเจ้าของ วิชญ์ภาสเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยยอมตามใจ ..ก่อนจะผลักร่างของกรณ์ให้ล้มลงกับเตียงด้านหลัง นับวันเกมระหว่างทั้งสองยิ่งเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่กรณ์เป็นคนยัดเยียด แต่กลับกลายเป็นเวลานี้กรณ์กำลังโดนอีกคนปรนเปรอ ..ไม่เข้าใจในโชคชะตา ..

“ เจ็บ..” เสียงนั้นดังตามมาเมื่อความต้องการที่แข็งขันเดินทางเข้าไปภายในร่างกายอันบอบบาง ..มือเรียวยันอกที่ทาบทับเล็กน้อย ..


“ ขอโทษครับ..” ใครจะนึกว่าวิชญ์ภาสจะกล่าวคำนี้ออกมา..ค่อยๆแปรจังหวะให้เนิบนาบและช้าลง ..แต่ยังคงไว้ซึ่งแรงกระสันสั่นรัว..เริ่มต้น ..และจบลงตรงจุดเก่าของเรื่องราว ..ริมฝีปากอิ่มยังคงคลอเคลียอยู่ตรงลำคอระหง ..


‘คุณว่าคุณจะรักผมได้ไหม..ถ้าผมใช้ความรักดับความแค้น คุณคิดว่าเราจะรักกันได้ไหมครับ ’



เช้าถัดมาประมุขของบ้านก็ออกไปทำงานอย่างปกติ ..แต่ที่แปลกหน่อยก็มีอีกคนมาช่วยจัดแจงเสื้อผ้าไว้ให้ กรณ์มองมันอย่างเฉยเมยแม้ในใจจะรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ..คนตัวสูงเข้ามาช่วยจัดไทที่เป๋ไปด้านข้างอย่างคล่องแคล่ว. .ก่อนจะช่วยถือกระเป๋าเอกสารเดินลงไปส่งกรณ์ที่ข้างล่าง ภาพนั้นสร้างความแปลกใจให้ใครหลายคน ทั้ง สุรีย์ นุ่น หรือแม้แต่กฤษฏิ์เอง.

.โดยเฉพาะรายหลังเกิดความรู้สึกแปลกๆ...


“ วันนี้มีนัดอาหมอตอนเย็นๆ..พี่ไม่แน่ใจว่ากลับมาทันหรือเปล่า กฤษฏิ์อยู่บ้านช่วยรับอาหมอหน่อยนะ..” พี่ชายเอ่ยบอกกับน้องที่นั่งร่วมโต๊ะอาหาร นอกจากสองพี่น้อง ก็มีสุรีย์ และวิชญ์ภาสร่วมอยู่ด้วย ..บรรยากาศดำเนินไปอย่างเงียบเชียบหลังกรณ์กล่าวจบ ..



เลขาฯสาวก้าวมาหยิบกระเป๋าจากวิชญ์ภาสแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินตามร่างบางของเจ้านายหนุ่มไปอย่างรวดเร็ว ยามเมื่อรถคันสีขาวปลอดแล่นลอดออกจากรั้วสายลม กฤษฏิ์ที่นั่งนิ่งอยู่นานก็เปลี่ยนที่ขยับมานั่งข้างวิชญ์ภาส ...


“ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าพี่ เสียงดังเชียว..” กฤษฏิ์ถามอย่างใคร่รู้ ดวงตาคู่ใสๆดูน่ารักน่าชังใช่น้อย หากเป็นเมื่อก่อน เจ้าของฉายา ‘ฟันดะ’ คงจัดการพ่อหนุ่มน้อยไปเรียบร้อยแล้วล่ะ แต่เวลานี้มันไม่ใช่เมื่อวิชญ์ภาสเลือกจะใช้รักดับแค้น เขาจึงเลือกที่จะหยุดกรณ์ด้วยความจริงใจ รอ..รอสักวันให้แค้นมลายเขาคงมีความสุข


“ เปล่าหรอกครับ...ผมแค่เอาดอกมะลิหลังสวนเข้าไปในห้อง แต่คุณกรณ์เขาไม่ชอบ..” 


 “ โธ่ พี่ ...ไม่รู้หรือยังไงว่านั่นนะของต้องห้าม พี่กรณ์เกลียดดอกมะลิจะตายไป เพราะว่าเหม็น ทั้งที่จริงๆหอมจะตายชัก” กฤษฏิ์รีบเสริมทัพ แจงให้วิชญ์ภาสได้รู้ว่าแท้จริงแล้วกรณ์เกลียดดอกมะลิจริงๆ หาใช่รังเกียจเพราะเป็นสิ่งที่วิชญ์ภาสทำให้ ..


“ เหรอครับ” ดูคนรับฟังจะยิ้มกว้างอย่างไม่ต้องสงสัย ..รู้สึกปลอดโปร่งไปหนึ่งอย่าง เมื่อรู้ว่ากรณ์ไม่ชอบดอกมะลิจริงๆ

“ ดูพี่เปลี่ยนไปนะ”


“ คงจะอย่างนั้นล่ะครับ ..เพราะดิ้นรนไปก็รังแต่จะเหนื่อยเปล่าๆ สู้ให้คุณกรณ์เขาหายแค้นไปเองมันจะดีที่สุด .ผมยอมรับในสิ่งที่ผมทำ ให้ทุกวันหลังจากนี้ละลายแค้นในใจคุณกรณ์ไปได้บ้าง ผมก็พอใจมากแล้วล่ะ” นั่นคือสิ่งที่เขาคิดจริงๆ .


.รักอันเกิดจากแค้น อาจยุ่งยาก..แต่เขาเชื่อว่ารักจะชี้แจ้งในทุกสิ่งที่กังขา



“ พี่พูดเหมือนยอมแพ้งั้นแหละ ถ้าพี่กรณ์ขังพี่ไปตลอดชีวิตพี่ก็ต้องอยู่งั้นเหรอ..”



“ ไม่จำเป็นต้องขัง..ขอแค่คุณกรณ์ยังอยากให้ผมอยู่ที่นี่ผมก็จะอยู่” คำรับอันมาดมั่นดูจะทำให้เด็กหนุ่มอ่อนวัยสะดุ้งเล็กน้อย เขายอมรับว่าวิชญ์ภาสแข็งแกร่งเกินกว่าใครที่รู้จัก แต่ถ้าเป็นไปได้เขาอยากเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของคนข้างกายมากกว่า ..จะเป็นอะไรไปไหมหากกฤษฏิ์จะบอกกับตัวเอง ว่าเขากำลังหลงเสน่ห์คนหน้าหล่อเข้าให้อีกคน สามคนพี่น้อง สามหัวใจที่เกิดความรัก... แต่หัวใจดวงใดละที่มาดมั่น... ในเมื่อหัวใจของวิชญ์ภาสบอกแล้วว่าเขาจะมอบรักเพื่อระงับแค้นแด่กรณ์เพียงผู้เดียว



“ พรุ่งนี้วันเสาร์พี่ไปเที่ยวกับกฤษฏิ์ไหม..” เด็กหนุ่มเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว เพราะยิ่งพูด ดวงตาคู่กลมก็ยิ่งแสดงความอ่อนโยนต่อกรณ์เพิ่มมากขึ้น ...


“ เที่ยวเหรอครับ.?” วิชณ์ภาสจ้องหน้าคนเอวอ่อนเล็กน้อย


“ ใช่ไปเที่ยวเกาะรังนกกัน ..เป็นเกาะปิดที่บ้านเราเป็นเจ้าของ ปกติพี่กรณ์ต้องไปที่เกาะรังนกทุกเดือน แต่รู้สึกว่ากำหนดของเดือนนี้จะเป็นอีกสองอาทิตย์ กฤษฏิ์ขี้เกียจรออ่ะอยากไปเลย ที่นั่นมีที่สวยๆเยอะเลยนะ..กลางเกาะก็มีน้ำตกด้วย” เด็กหนุ่มรีบอวดสรรพคุณความงาม เกาะรังนก..หนึ่งในธุรกิจของสายลม ..สัมปทานที่ได้จากรัฐ ...



“ ผมคงต้องขอคุณกรณ์ก่อน..ครั้งก่อนแค่ไปใกล้ๆยังถูกดุเสียขนาดนั้น ..ยังไงผมก็ต้องบอกคุณกรณ์ก่อนนะครับ” วิชญ์ภาสนึกย้อนไปถึงวันนั้นที่เขากับกรณ์ทะเลาะกัน และเป็นจุดเริ่มต้นความรู้สึกใหม่ในใจของเขา ...


“ ตามใจพี่ละกัน ..ได้เรื่องยังไงตอนค่ำๆบอกกฤษฏิ์ด้วยนะ..” กฤษฏิ์ยิ้มเบาบางแล้วเดินออกไปด้วยใจสับสน ..เฮ้อ... เวลาแค่ไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจกลับอ่อนไหว ..อืมหรือเขาควรตัดใจดีละ

“ เฮ้อ..อย่าคิดไกลกฤษฏิ์..เปลี่ยนเป้าหมายด่วน..” เจ้าเด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเอง ...โธ่ แค่อารมณ์อ่อนไหวยังไงก็คงจัดการได้ไม่ยาก.. มาเร็ว อาจไปเร็ว ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2009 08:36:13 โดย LoveNineTeen »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ จำเลยรัก คิกคิก  :impress2: :impress2:

แล้วไม่มาต่ออีกเหรอ  :z1: :z1: :z1:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
นิยายซาดิส ๆ มาอีกแล้ว หุหุ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

เข้ามาต้อนรับนิยายใหม่ค้า  :mc4:

เจ้สอง / ลับมีดไว้จัดการกับพระเอกคะ
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์

nanao

  • บุคคลทั่วไป
มารอตอนต่อไป ^^

nanao

  • บุคคลทั่วไป
มาดันรอตอนต่อไป ^^

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
THIP  มาแล้วคร๊าบบบ มาต่อจนจบแน่นอนคร๊าบ ที่หายไปเพราะแอบหนีไปเที่ยวมานะ 555

oaw_eang  พระเอกของนู๋ออกจะน่าร๊ากกกกก อย่าทำไรรุนแรงเลย เสียดายของ หุ หุ

SomLove   กำลังลงให้แล้วคร๊าบบบ

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 5


..” เป็นอะไรไปหรือเปล่าคุณกฤษฏิ์..” เสียงห้าวดังขึ้นจากทางด้านหลัง ..ทำให้คนร่างบางหันไปมองอย่างสงสัย ..นี่กฤษฏิ์นั่งเล่นตรงริมสระน้ำมาจนเย็นแล้วเหรอ เขาแทบลืมเวลาไปเลย..ในหัวที่คิดเรื่องราวต่างๆมากมาย กลับถูกเสียงของใครคนหนึ่งหยุดลง


“ อาหมอ..” กฤษฏิ์ยิ้มให้สุดกว้าง..พลางลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปกอดร่างสูงที่แสนคุ้นเคย หมอพิสิษฐ์ผงะเล็กน้อยเพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้โดนกฤษฏิ์กอด..เขากับกฤษฏิ์ห่างกันเกือบสิบปี..ก่อนที่กฤษฏิ์จะไปเมืองนอกก็อายุแค่สิบสองสิบสาม..ตอนนั้นหมอพิสิษฐ์ก็ใกล้จะจบเลยไม่ได้ไปส่ง ..แต่ละปีที่กลับมาก็เจอกันแค่ครั้งสองครั้ง....


“ ยังขี้อ้อนเหมือนเดิมเลยนะครับคุณกฤษฏิ์..” พิสิษฐ์ยิ้มให้กับคนในอ้อมอก.. ในสายตาของเขากฤษฏิ์เป็นได้แค่เพียงน้อง เพียงหลาน ไม่ได้ทำให้ใจหวั่นไหวได้มากมายเท่ากรณ์เลยสักวินาที แต่ใครจะรู้ว่าชะตาของความรักกำลังพาคนที่เขามองข้ามให้กลับมาใกล้ชิดแนบแน่นอย่างแยกไม่ออก


“ เห็นพี่กรณ์บอกว่าอาหมอจะดูพี่กาณฑ์..กฤษฏิ์ว่าเราไปข้างบนกันดีกว่า” เด็กหนุ่มยอมปล่อยแขนออกจากเอวแกร่งของร่างสูงแล้วเดินนำอาหมอเข้าไปในบ้านอย่างอารมณ์ดี แปลกใจตัวเองเหมือน


“ ครับ..” สองคนเดินเคียงกันไปยังชั้นสองของบ้านหลังงาม เพื่อเข้าไปดูอาการคนป่วยประจำสัปดาห์ ..แม้อาการของกาณฑ์จะยังคงตัว แต่หมอพิสิษฐ์ก็ยินดีมาตรวจทุกสัปดาห์ เพราะบุญคุณอดีตประมุขที่มากมาย .. และหนึ่งเหตุผลสำคัญคือการที่เขาได้มีโอกาสพบกับคนหน้าสวย...

อีกด้านหนึ่งของบ้าน...ตัวต้นเรื่องก็กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนข้างบ้าน สายตาสอดส่ายมองไปยังประตูรั้วเพื่อรอรับใครอีกคน..จะว่าไปมันก็แปลกดี ..ที่เขากลายเป็นอย่างนี้..จากคนที่ไม่เคยสนใจอะไรนอกจากความสนุก ไม่เคยคิดจะจริงจังกับใครสักคน แต่วันนี้เขาเลือกจะวิ่งไล่คนเย็นชา

..หรือเพราะสัญชาตญาณนักล่าในตัวมันทำงานล่ะ.. วิชญ์ภาสเคยแต่ถูกคนอื่นวิ่งไล่ เคยแต่เป็นฝ่ายถูกชอบ...เมื่อร่างกายและหัวใจได้สัมผัสกับความด้านชา สัญชาตญาณของการเอาชนะจึงปรากฏงั้นเหรอ ..เขาไม่อยากคิด เขาไม่อยากสน ปล่อยให้เวลาเป็นตัวตอบคำถามคงจะดีที่สุดแล้ว ...

เพียงชั่วอึดใจ..ใครบางคนที่รอคอยก็มาถึง



รถสีขาวคันสวยแล่นเข้ามาอย่างพอเหมาะพอเจาะ ..จอดลงตรงหน้ามุขบ้านหลังงาม


คนขับรถวิ่งมาเปิดประตูให้กรณ์..จากนั้นก็วิ่งกลับไปเปิดด้านข้างคนขับให้กับเลขาฯสาว ..สายตาคู่เรียวชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างหนั่นของคนหน้าหล่อเดินเข้ามาใกล้...



“ คุณกรณ์..” เสียงนั้นมีแววสดใสใช่น้อย ..สุรีย์ยิ้มทักทายแค่ชั่ววินาทีแล้วรีบปลีกตัวไปโดยไว รู้ตัวดีว่าไม่สมควรอยู่ร่วมวงสนทนาระหว่างทั้งสอง..



“ มีอะไร..” กรณ์ถามเสียงราบ ไม่ได้มีความขุ่นเคือง หรือไม่พอใจใดๆ แฝงไว้เช่นทุกที ..วันนี้เขาเหนื่อยใช่น้อย งานที่เข้ามาดูจะมากจนพรากความสดชื่นไปจากร่างได้มากมาย...


“ คุณกฤษฏิ์ชวนผมไปเที่ยวเกาะรังนก..คุณว่าไง” นั่นคือสิ่งที่วิชญ์ภาสอยากถาม ถ้ากรณ์ไม่อยากให้ไปเขาก็จะไม่ไป นับตั้งแต่วันนั้น วันที่ก้าวล่วงผ่านความรู้สึกชิงชัง เขาก็พร้อมจะอยู่ใต้อาณัติของอีกคนในยามปกติ ..กรณ์เหลือบมองคนถามเล็กน้อยก่อนจะเดินสะบัดกลับห้องไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ..เพราะอะไร.. เพราะวิชญ์ภาสจะใกล้กับกฤษฏิ์งั้นเหรอ...


ร่างที่เดินกระแทกเท้าขึ้นบันไดทำให้วิชญ์ภาสยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ต้องรีบเดินตามขึ้นไป..ในขณะที่กรณ์กำลังหน้าบึ้งตึงเดินขึ้นห้อง หมอพิสิษฐ์ กับ กฤษฏิ์ก็เดินออกมาจากห้องกาณฑ์พอดี ..ชายหนุ่มตัวสูงยิ้มกว้างหมายจะทักทายแต่เพราะหน้าตาของกรณ์บึ้งเสียยิ่งกว่าบึ้ง ..กรณ์เดินเลยไปแล้วเข้าห้องตัวอย่างอย่างไม่มีกะจิตกะใจจะทักทายใครทั้งสิ้น


ความสงสัย และงุนงงของกฤษฏิ์และหมอหนุ่มประจำบ้านสายลมถึงกาลกระจ่าง เมื่อร่างของวิชญ์ภาสที่หายวันหายคืน และกลับมาสดชื่นมีราศีเดินหน้าเป็นกังวลตามกรณ์เข้าไปในห้อง ..


กฤษฏิ์ถึงกับหน้าถอดสี..เฮ้อ ทั้งที่พยายามทำใจ แต่พอเห็นก็อดสะเทือนใจไม่ได้

“ อาหมอ..”

“ ครับ” พิสิษฐ์เองก็อาการไม่ต่างจากกฤษฏิ์นักหรอก ..ชายหนุ่มผิวคร้ามแดดก้มหน้ามองคนสูงน้อยกว่าอย่างสงสัย

“ พรุ่งนี้อาหมอว่างไหม กฤษฏิ์จะชวนไปเที่ยวเกาะ..สงสัยพี่วิชญ์คงไม่ไปกับกฤษฏิ์แล้วล่ะ..” กฤษฏิ์บอกไปถึงจุดประสงค์ในวันพรุ่งนี้ เห็นอย่างนี้แล้วจะตื้อต่อก็ใช่วิสัย ..กฤษฏิ์แม้จะอ่อนโยน เป็นที่รัก..รู้จักให้ แต่นิสัยทะนงในศักดิ์ศรีของตนหาได้แตกต่างจากพี่ชายคนโตเลยสักนิด



“ พรุ่งนี้เหรอครับ..ก็ได้ครับ” พิสิษฐ์ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ายอมรับคำ บางทีไปเที่ยวพักผ่อนคงดีกว่าต้องอุดอู้อยู่ในบ้าน แล้วต้องฟุ้งซ่านคิดเรื่องระหว่างกรณ์กับวิชญ์ภาส ..เฮ้อ ..ไปพักผ่อนบ้างก็น่าจะดี เกาะรังนกที่แสนงดงาม.. หนึ่งในไข่มุกแห่งสายลม.

.. สัมปทานที่ก่อให้เกิดเงินตราหมุนเวียนหลายร้อยล้าน..



“ ครับ..กฤษฏิ์ว่าไปเราไปหาอะไรทานกันดีกว่า” แล้วเจ้าเด็กหนุ่มตาใสก็ถือโอกาสคล้องแขนคนข้างกายอย่างอ้อนๆ ...มันจะแปลกอะไรเมื่อในสายตาทุกคนล้วนรับรู้ว่า หมอพิสิษฐ์นั้ทเอ็นดูกฤษฏิ์ไม่ต่างน้องนุ่ง..สองคนเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ตรงไปยังรถของหมอพิสิษฐ์ ..



ฝ่ายวิชญ์ภาสที่ตามอีกคนก็ทันก็รีบปิดประตูลงกลอนอย่างเร็ว พลางเดินเข้าไปหาคนที่กำลังถอดไทคล้ายความอึดอัด ตอนนี้อยากหลบหน้าไอ้คนตัวสูงมากที่สุด ไม่รู้เลยจริงๆว่าเป็นอะไรไป แต่ในใจมันรุ่มร้อน อยากอาละวาด ..กรณ์ห่วงน้องใช่ไหม ห่วงว่ากฤษฏิ์จะถูกวิชญ์ภาสทำร้ายเช่นที่กาณฑ์โดน ..แค่นี้ใช่ไหมที่เขารู้สึก..เขาไม่ได้ไม่พอใจที่รู้ว่าวิชญ์ภาสจะไปกับกฤษฏิ์ ..เขาไม่ได้ไม่พอใจที่วิชญ์ภาสจะใกล้ชิดกฤษฏิ์ ...


“ ตกลงคุณจะว่ายังไง..ผมจะได้บอกคุณกฤษฏิ์ถูก..” วิชญ์ภาสหมายย้ำจะเอาคำตอบจากอีกคน..


“ ถ้าจะแค้น..ก็อย่าไปลงกับกฤษฏิ์ ถ้าน้องฉันเจ็บแกคงรู้ใช่ไหมว่าต้องเจออะไร.. อย่าเอากฤษฏิ์มาเล่นในเกมนี้ ถ้าไม่อยากต้องเสียใจ ” นั่นคือคำตอบที่ออกจากปากคนบอบบาง ..มือเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่สวมออกสองสามเม็ด ละคลายความอึดอัด..พลางเดินก้าวเข้าไปล้างหน้าล้างตาภายในห้องน้ำ..วิชญ์ภาสไม่ปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปเป็นเช่นนั้น...รีบสาวเท้าเดินตามเข้าไปโดยไม่ทิ้งระยะ...



“ ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรทั้งสิ้น...เพราะคุณกฤษฏิ์ไม่มีคนไปเป็นเพื่อน ผมเลยอยากไป ..อีกอย่างผมเองก็ไม่เคยไปด้วย ผมไม่ได้คิดจะเอาคุณกฤษฏิ์มาเล่นเกมอะไรทั้งสิ้น..” นั่นคือคำบอก..เสียงจริงจังที่ดังก้องอยู่ข้างหูมาพร้อมกับร่างของกรณ์ที่ถูกขังเข้าไปในอ้อมกอด.


คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองภาพของเขาและคนตัวสูงในกระจกอย่างไม่เข้าใจ ..วิชญ์ภาสกำลังจ้องมาอย่างจริงจัง กรณ์ชักงงๆในสิ่งที่ทั้งสองเป็น ..เหตุของเรื่องราวคือแค้น แต่ผลของมันกลับเป็นรัก งั้นหรือ ...

“ ไปกับผมนะ..” มือที่รวบกอดสอดเข้าไปภายในเสื้อเชิ้ตที่ลุ่ยชาย..วางประสานตรงหน้าท้องแบนราบของคนในอ้อมอก..ดวงตายังคงจ้องมองตาของกรณ์ในกระจกไม่ละคลาย..

“ ฉันไม่..”


“พรุ่งนี้วันเสาร์คุณไม่มีงานไม่ใช่เหรอ ..ไปกับผมนะ คุณจะได้ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเอาคุณกฤษฏิ์มาเป็นเครื่องมือ คุณจะได้ไม่ต้องโมโห ไม่ต้องคิดมาก..” วิชญ์ภาสย้ำหนักแน่นในคำที่บอก พลางวางริมฝีปากที่อุ่นอิ่มลงบนใบหน้าฝาดเลือดอย่างไม่เข้าใจตัวเอง ..แค่เห็นกรณ์หน้าบึ้ง วิชญ์ภาสก็ยืนแทบไม่อยู่ อยากให้คนในอ้อมอกหายโกรธ หายกังวล ..


“ อืม..ปล่อยได้แล้ว” กรณ์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะวางมือลงบนท่อนแขนที่รั้งเขาไว้..ขอให้อีกคนเอาแขนออกจากตัว..แต่วิชญ์ภาสกลับไม่ยินยอมให้มันเป็นไปตามที่กรณ์ขอ..เมื่อร่างบางที่สมควรจะถูกปลดปล่อยกลับถูกพลิกให้หันมาเผชิญหน้ากับคนสูงกว่า


“ เห็นคุณกฤษฏิ์บอกว่าคุณเหนื่อยๆ..ผมอาบน้ำให้ดีกว่านะ” วิชญ์ภาสยิ้มให้บางๆ แต่นั่นก็กลับทำให้กรณ์กระตุกในหัวใจสิ้นดี ..วิชญ์ภาสยิ้มให้เขางั้นเหรอ


..เขาไม่เคยเห็น ไม่เคยพบ..คนที่เขาทำร้ายแต่เวลานี้กลับเอาใจเขาสารพัด กลับยอมเขาในทุกเรื่อง ..ความคิดที่ลอยไปไกลทำให้กรณ์ไม่รู้ตัวเลยว่าระหว่างเขากับอีกคนหามีสิ่งใดปกปิดเรือนกายแล้ว..เมื่อน้ำอุ่นในกระแสวนของอ่างแช่ขนาดใหญ่เริ่มทำงาน สติของกรณ์จึงกลับมาอีกครั้งและพบว่าตนกำลังนั่งทับอยู่บนตักของอีกคน ..ทั้งสองกายไร้สิ่งปกปิด ไร้ปราการได้กั้นขวาง


..สายน้ำอุ่นที่สาดวนตามระบบทำงานทำให้วิชญ์ภาสมิอาจจับอาการสั่นที่ปรากฏจากกายของกรณ์ได้...


“ คุณกรณ์..” เสียงกระซิบที่แผ่วผ่านสร้างความซ่านสั่นให้ร่างกายที่แสนบอบบางได้ชะงักงัน...นับวันกรณ์ก็ยิ่งกลายเป็นลูกแกะน้อย ..ที่รอวันถูกหมาป่าเจ้าเล่ห์งาบงับ..

.
“ อะไร..” เขาพยายามคงเสียงให้มั่นคง มิให้สั่นไหวไปกับใจที่สั่นรัว


“ ผมเข้าไปนะ..” ไม่ต้องบอกว่าเข้าไปไหน กรณ์ก็รู้แล้วว่าวิชญ์ภาสหมายถึงอะไร สัมพันธ์ทางกายที่กลายเป็นเรื่องทั่วไปของคนทั้งสอง ต่อให้เสพสมมากมายแต่ไหน แต่ก็มิมีสักครั้งที่รู้จักกับคำว่าหน่าย ว่าเหนื่อย ยิ่งทวีความเร่าร้อนรุนแรง ยิ่งมากครั้ง สองกายก็ยิ่งใกล้ชิด และแทบไม่ห่างออกจากกันเลย ..ยิ่งนานก็ยิ่งต้องการกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ...



“ อื้อ..” เสียงครางใสลอดผ่านลำคอ เมื่อความตึงเข้มของคนนั่งด้านล่างเสือกสนเข้าไปอย่างไม่ถนัดถนี่..คนตัวหนั่นที่เกร็งกล้ามเนื้อเพราะความซ่านเสียวใช้แรงที่มีกอปรกับแรงพยุงของน้ำ..จับกรณ์ให้หันกลับมาเผชิญหน้าของเขา ...กายและกายแนบชิดแทบละลายกลายเป็นหนึ่ง ลมหายใจทิ่ติดขัดกับความร้อนในใจที่พลุ่งพล่าน ผลักไสสติรู้ชอบให้เลือนร้าง มีเพียงกายที่ต้องกายหมายมอบความอบอุ่นให้กันและกันเท่านั้น



“ รู้สึกดีจังเลย..” วิชญ์ภาสจ้องตาคนที่ครอบครองส่วนหนั่นแน่นของเขาอย่างหลงใหล ใบหน้าขาวๆที่อดชมพูดเพราะแรงร้อนในกาย และฤทธิ์ร้อนของน้ำ ..ลมหายใจถี่หอบที่วิชญ์ภาสอยากได้ยิน เสียงครางละมุนที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อไหร่กันนะ เมื่อไหร่กันที่สองใจจะได้รู้ซึ้งถึงคำว่ารัก..หรือชะตาของสองใจยังไม่พร้อม เมื่อกาณฑ์ยังเป็นปัญหาสำคัญ ที่กรณ์ไม่อาจละเลย ...หากวันหนึ่งน้องชายตื่นขึ้นมา และรู้ว่าพี่ชายของตนกับคนที่รักมีอะไรกัน กาณฑ์จะรับได้เหรอ. ..


“ อื้อ..ๆ..” กรณ์หรุบตาต่ำไม่กล้าจ้องมองคนหน้าใส ที่นับวันก็ดูจะหล่อขึ้นๆ ..กรณ์ที่เคยมีแต่เกลียดบังตา หาเคยสนใจในรูปลักษณ์ที่ทำให้ใครหลายคนต้องเจ็บปวด แต่เวลานี้ เวลาที่หัวใจเผลอไผล เขาถึงได้รู้ซึ้งว่าทำไมวิชญ์ภาสถึงทำให้ใครหลายคนเจ็บช้ำได้มากมายนัก..


‘ ผมคิดว่าผมคงชอบคุณเข้าแล้วจริงๆ..”


เมื่อความปรารถนาที่มากมายของคนสองคนถูกปลดปล่อย... วิชญ์ภาสก็รับหน้าที่ลุกพากรณ์มาล้างตัวใต้ฝักบัว แล้วจับอีกคนห่อผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ อุ้มพากลับเข้าไปในส่วนของห้องนอน..และจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกคนเสร็จสรรพ กรณ์ไม่ได้ว่าอะไร ยอมให้วิชญ์ภาสทำในสิ่งที่อยากทำ ....เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็รับรู้ได้ถึงแรงยวบของเตียงด้านหลังพร้อมอีกร่างที่เข้ามาประกบกอด ..จบลงด้วยความสับสน จบลงด้วยความหวั่นไหว นานไปกรณ์คงไม่อาจต้านทานแรงของใจได้เป็นแน่...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย สนุก เพิ่งเคยอ่านชอบมากกค้าบ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
น้านนนนน ชอบเขาเข้าแล้ว  :z1: :z1:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
พระเอกเรานี่สุดยอดเลย

จะมีฉากน้องคนเล็กกับคุณอาหมอไหมเนี่ย  :m25:

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
pongsj  ขอบคุณค่ะที่ชอบ อย่าลืมเข้ามาอ่านบ่อยๆนะค่ะ

THIP  อีกหน่อยคงจะไม่ใช่แค่ชอบแล้ว อาจจะกลายเป็นรักหรือเกลียดมากกว่าเก่า ยังงัยก็ติดตามดูนะค่ะ

SomLove  ฉากน้องเล็กกับคุณอาหมอจะมีมั้ย ต้องดูกันต่อไป หรือจะเป็นน้องเล็กกับ...555

ขอบคุณคนอื่นๆที่แวะเวียนเข้ามาอ่านด้วยค่ะ ชอบไม่ชอบบอกกันบ้างนะค่ะ
หรือใครเคยอ่านเวอร์ชั่นเก่ามาแล้ว เข้ามาทักทายกันตามประสาคนบ้านเดียวกันก็ได้
อยากรู้ว่ายังมีคนที่รักเค้าสองคนมากแค่ไหน...อยากรู้จริงๆ

LoveNineTeen

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 6


..กรณ์มารู้สึกตัวอีกครั้งเพื่อสัมผัสที่ตรึงตราเขาไว้ตลอดคืนเริ่มคลายออก ดวงตาคู่เรียวเปิดขึ้นอย่างสงสัย มองซ้ายมองขวาก็พบว่ารอบข้างสว่างแล้ว..เหนื่อยจริงๆเหนื่อยมาก..
.
“ เดี๋ยวผมไปบอกคุณกฤษฏิ์ก่อนนะ...” วิชญ์ภาสยิ้มให้กับคนที่ยังนอนอยู่..สิ้นเสียงก็โน้มหน้าเข้าใกล้อีกคนฝากรอยสัมผัสของเช้าแรกอย่างสดใส ..รัก..งั้นเหรอ..หรือเป็นเพราะความเคยชินที่ต้องสัมผัส ที่ต้องเป็นของกันและกัน ...ไม่รู้เลยจริงๆว่าระหว่างสองคนคืออะไร ..


วิชญ์ภาสเดินยิ้มออกจากห้องของกรณ์ด้วยความสบายใจ...


วิชญ์ภาสมาหยุดอยู่หน้าห้องของกฤษฏิ์..เคาะประตูเรียกเจ้าของห้องอย่างอารมณ์ดี...


“ มีอะไรเหรอพี่..”กฤษฏิ์เดินงัวเงียมาเปิดประตูห้องอย่างสงสัย...

“ ผมจะมาบอกคุณกฤษฏิ์ว่า ผมจะไปเกาะรังนกด้วยครับ..”สิ่งที่ออกจากปากวิชญ์ภาสทำให้กฤษฏิ์เผยยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว ..ดีใจที่วิชญ์ภาสยอมไปเกาะรังนกกับเขา ..แต่ก็นะ..ไม่น่าชวนอาหมอเลยจะยกเลิกก็น่าเกลียด ..แต่ช่างเถอะไปเที่ยวด้วยกันก็ดีเกินพอแล้ว..

“ งั้นเก้าโมงเจอกันนะครับจะให้คนรถไปส่งที่ท่าเรือ...”


“ คุณกรณ์จะไปด้วยนะครับ..” วิชญ์ภาสบอก


“ พี่กรณ์..” กฤษฏิ์ถึงกับอึ้งเมื่อรู้ว่า นอกจากวิชญ์ภาสแล้วยังมีพี่ชายของเขาตามไปด้วย รอยยิ้มกว้างๆเมื่อครู่ค่อยๆหดลงอย่างไม่รู้ตัวเช่นตอนแรก ..


“ ครับ..” กฤษฏิ์ฝืนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องด้วยความสับสน ... ทำไมต้องรู้สึกไม่พอใจด้วยนี่ที่วิชญ์ภาสกับกรณ์จะไปด้วยกัน ทั้งที่กฤษฏิ์เองก็รู้ว่าระหว่างวิชญ์ภาสกับกรณ์หาใช่คนที่โกรธเกลียดกันทั่วไป แต่ระหว่างทั้งสองยังมีสัมผัสอันแนบแน่นเชื่อมโยง ..และหากความสัมพันธ์นั้นจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เขาก็ควรดีใจไม่ใช่เหรอ เขาควรดีใจที่พี่ชายผู้เคยอ่อนโยน และใจดีจะกลับคืนมา ..



“ ต้องดีใจสิ..ถึงจะถูก..”กฤษฏิ์ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ เรียกสติให้กลับคืนมา... หากเขาต้องเจ็บ แล้วสายลมกลับคืนสู่ความสุข เขาก็พร้อม ..ในเมื่อเกมรักครั้งนี้กฤษฏิ์เพิ่งเฉียดกายหาได้ถลำลึก.. เขาก็แค่หวั่นไหวไปกับดวงตาคู่หวาน เขาก็แค่อ่อนใจไปกับใบหน้าหล่อคม ..มันก็เท่านั้น ...



วิชญ์ภาสกลับห้องไปด้วยความสุขที่มากขึ้น...เห็นกรณ์ยังหลับอยู่บนโต๊ะ เลยเดินเข้าไปอาบน้ำฆ่าเวลา..ตอนเดินออกมาก็เห็นว่าคนที่เขาได้สัมผัสได้ครอบครองตื่นขึ้นแล้ว ..กรณ์กำลังนั่งอยู่หน้ากระจก..ลูบคลำลำคอด้วยสีหน้าเป็นกังวล จนวิชญ์ภาสต้องเดินเข้ามาใกล้..


“ เป็นอะไรไปครับ..” วิชญ์ภาสเอ่ยถามอย่างห่วงใย พลางดึงร่างที่นั่งอยู่ให้เขยิบขึ้นเล็กน้อยก่อนเขาจะนั่งแทนที่แล้วให้กรณ์นั่งลงบนตักเขา ..น้ำเย็นๆที่เกาะพราวตามกายแกร่งทำให้กรณ์สะดุ้งเล็กน้อย .

.
“ บอกแล้วว่าอย่าทำรอย..” กรณ์บ่นเสียงเคืองๆ...


“ ..ขอโทษครับ..” วิชญ์ภาสบอกเบาๆ ..ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากเห็นกณณ์ต้องโมโห ..พักหลังมานี้เขาไม่ชอบเลยจริงๆเวลากรณ์ไม่สบายใจไม่ชอบเห็นกรณ์หน้าบึ้ง หรือจะอะไรก็ตามที่ทำให้นัทกรณ์ต้องเหนื่อยใจ

...
“ ทีหลังผมจะระวัง..” วิชญ์ภาสบอกด้วยความจริงใจ แต่กลับทำให้กรณ์หน้าแดงขึ้น..ครั้งหลัง...แสดงว่าอะไรล่ะ..ถ้าไม่ใช่การผูกพันทางร่างกายระหว่างสองคน..ไม่ใช่การสัมผัสที่แนบเนื้อจนแทบกลืนกลายเป็นเนื้อเดียว ..เซ็กซ์..


“ ปล่อยได้แล้ว.. จะไปกันกี่โมงล่ะ..” กรณ์เขยิบเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามคนที่ยังกอดร่างเขาอยู่..

.
“ เก้าโมงครับ..” วิชญ์ภาสตอบพร้อมทั้งยอมปล่อยมือให้กรณ์ไปจัดการธุระส่วนตัวของเขาอย่างง่ายดาย พลางจัดเสื้อผ้าให้ตัวเองและอีกคนอย่างมีความสุข ..

กระเป๋าเดินทางแบบถือขนาดกลางถูกวางลง พร้อมเสื้อผ้าของเขากับกรณ์อย่างละสองชุด..ทุกอย่างพร้อมพรัน แม้แต่คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จยังแปลกใจ ..นับวันวิชญ์ภาสจะเอาใจกรณ์มากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ ...นี่ถ้ากรณ์ยัดเยียดบทบาทภรรยาให้วิชญ์ภาสตั้งแต่แรก.


.ป่านนี้กรณ์คงกลายเป็นผู้ชายที่มีความสุขมากไม่น้อย...แต่ตอนนี้ใช่ว่าเขาจะไม่สุข..ปัญหาสำคัญที่ยังกัดกร่อนหัวใจคือกาณฑ์..ตราบใดที่น้องชายยังเจ็บ กรณ์ก็ไม่มีน่าจะสุขหรอก...


“ คุณใส่ชุดนี้นะ..” วิชญ์ภาสยื่นชุดให้กับกรณ์ด้วยรอยยิ้ม แต่กลับทำให้เจ้าของห้องหน้าถอดสี.. เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงเล..เฮ้อ..


“ บ้าสิ..ใส่นอนยังไม่ค่อยจะใส่เลย ใส่ออกข้างนอกจะดีเหรอ..” กรณ์ท้วง ..พลางเดินไปเลือกเสื้อในตู้เอง แต่วิชญ์ภาสก็ไม่ยอมตามใจ เดินไปกอดร่างเปลือยที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิด แล้วลากกลับไปที่เตียงนอน..


“ ผมว่าคุณใส่แบบสบายๆ ดีกว่านะ...เราไปพักผ่อนกันไม่ใช่เหรอ..ใส่เสื้อเชิ้ตคลุมอีกตัวก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร.. เชื่อผมนะ..ผมว่าคุณใส่แบบนี้แล้วน่ารักดี” วิชญ์ภาสบอกเสียงหวาน พลางยืนยันที่จะให้กรณ์ใส่ชุดเดิมที่เขาจัดให้.. แล้วกรณ์จะทำอะไรได้ล่ะ..นับวันจะยิ่งอ่อนยิ่งโอน ..ทุกครั้งที่วิชญ์ภาสสัมผัส กรณ์ก็แทบละลาย...


“ ..เป็นไงผมบอกแล้วว่าต้องดูดี..” วิชญ์ภาสยิ้มร่าเมื่อคนใกล้ตัวยอมอยู่ในชุดที่เขาจัดให้..เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนรับกับเสื้อกล้ามตัวในและกางเกงเลปล่อยชายตัวใหญ่.. ส่วนวิชญ์ภาสเหรอ..ไม่ได้ต่างอะไรจากกรณ์เลยสักนิด..ผิดกันก็ตรงเสื้อยืดสีดำสนิทรับกับกล้ามเนื้อเข้ารูป..อวดความแข็งแกร่ง.. วิชญ์ภาสเลือกจะปลดเสื้อเชิ้ตไว้ข้างนอก..แค่เสื้อกล้ามกับกางเกงเลก็สบายๆ แล้ว..

“ ไปกันได้ยัง..” กรณ์บ่นเบาๆ..กับคนยิ้มกว้าง..

“ ไปกันสิครับ..” วิชญ์ภาสยิ้มหวานส่งตอบอีกครั้งพลางเดินถือกระเป๋าเดินทางขนาดกลางตามกรณ์ออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกยินดี...


กฤษฏิ์ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นกับกระเป๋าสะพายใบเล็ก เดินลงจากห้องมาเมื่อสิบนาทีก่อนก็เจอหมอพิสิษฐ์ที่กำลังนั่งทานกาแฟฆ่าเวลา ..วันนี้หมอหนุ่มดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นหลายเท่า จากเดิมที่มักสวมกรานด์ ไม่ก็เสื้อเชิ้ตกางเกงขายาว เปลี่ยนมาเป็นเสื้อยืดสีทึมกับกางเกงขาสั้นกรอมเข่าสีอ่อน เลยทำให้ดูสบายตาน่าหลงใหลมากขึ้น ...

“ สวัสดีอาหมอ..มานานแล้วเหรอ..” กฤษฏิ์ยิ้มรับกับคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว


“ ก็สักสิบนาทีครับ...ว่าแต่เราจะไปกันหรือยัง..คุณกฤษฏิ์จะทานอะไรก่อนไหม” หมอพิสิษฐ์เอ่ยถามอย่างอ่อนโยน ..เขาเอ็นดูกฤษฏิ์ไม่ต่างอะไรจากน้องน้อย..เด็กตัวเล็กที่หมอหนุ่มเห็นมาแต่อ้อนแต่ออด ใครจะรู้เลยว่าวันหนึ่งอาจมีอิทธิพลเหนือจิตใจที่เคยมั่นคงต่อกรณ์.. ก็เป็นได้


“ เดี๋ยวครับ ..รอพี่กรณ์กับพี่วิชญ์ก่อน..”


“ คุณกรณ์ไปด้วยเหรอ..” หมอพิสิษฐ์ถึงกับเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย ..นี่ไม่ใช่คิวตรวจงานที่เกาะรังนกสักหน่อยแล้วกรณ์จะไปทำไม.. แปลก...


“ เห็นพี่วิชญ์มาบอกเมื่อตอนเช้าว่าพี่กรณ์จะไปด้วย.. กฤษฏิ์เองยังแปลกใจไม่หาย ปกติพี่กรณ์ไม่ค่อยไปไหนในวันพักผ่อน ..นานๆถึงจะออกสักที..” กฤษฏิ์นั่งลงใกล้ๆอีกคนพลางเอ่ยบอกในสิ่งที่เขานึก .. และความแปลกใจของทั้งสองต้องเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นกรณ์เดินลงมากับวิชญ์ภาส ในชุดแปลกตา...สำหรับกฤษฏิ์ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเคยเห็นกรณ์ใส่เสื้อยืดกางเกงเล ..บ้าง..แต่ส่วนใหญ่จะสวมเวลานอน ..


“ มองอะไรกฤษฏิ์..สวัสดีอาหมอ..” กรณ์เอ่ยทักทาย


“ สวัสดีครับ..”



“ ไปกันหรือยัง..” กรณ์เอ่ย เพราะชักรู้สึกเก้ๆกังๆ ..สองสายตาที่มองมาดูจะแปลกใจไม่น้อย ยิ่งแม่บ้านสาวเดินเข้ามาสมทบยิ่งทำให้กรณ์หน้าแดงเข้าไปใหญ่..ต้องชักเสียงเข้มเข้าพูด..


“ นุ่น..วันนี้ฉันไม่อยู่ฝากดูคุณกาณฑ์ด้วย..แล้วคุณสุรีย์ไปไหนล่ะ..” กรณ์เอ่ยถาม ยามเอ่ยถึงคนอื่นร่วมบ้านมักให้เกียรติเสมอ ไม่ว่าเขาจะมาจากไหน จากที่ใด..


“ คุณสุรีย์ออกไปซื้อของน่ะคะ..”


“ อืมก็ดีแล้ว..” กรณ์พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินนำทุกคนไปที่รถ วิชญ์ภาสรีบเดินตามอย่างไม่ห่าง ส่วนกฤษฏิ์กับหมอหนุ่มก็รีบเร่งไม่รีรอ..เพียงสิบนาทีจากคฤหาสน์หลังใหญ่ก็ถึงท่าเรือส่วนตัว มุ่งหน้าสู่หมู่เกาะรังนก สัมปทานเลอค่าที่หลายคนอยากครอบครอง..


ทั้งหมดเดินทางต่อไปยังเกาะโดยเรือเร็วขนาดเล็ก..ซึ่งง่ายต่อการเดินทาง ..เกาะรังนกถือเป็นสิ่งล้ำค่า มีอาณาบริเวณมากมาย รวมถึงแนวปะการังสำคัญ ..ตระกูลสายลมยังได้กรรมสิทธิ์ถือครองสัมปทานแห่งนี้อีกสิบเก้าปีเต็ม ...น่านน้ำในเขตนั้นจึงถือเป็นสิทธิ์ขาดที่ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงล้ำ..ยามประฝั่งแห่งเกาะรังนกสามารถจัดการกับผู้บุกรุกได้ตลอดเวลา ..



สิ่งที่วิชญ์ภาสได้เห็นในเวลานี้แตกต่างจากที่เขาคิด.. เกาะกลางทะเล แต่กับมีชะง่อนผา และเงาไม้ปกคลุมหนาแน่น ..ท้องน้ำเขียวขจีมีฉากหลังเป็นแผ่นฟ้ากว้างไกล.. ตรงส่วนกลางของเกาะมีบ้านพักขนาดกลางตั้งอยู่ ซึ่งกรณ์จะใช้เป็นที่พำนักในทุกครั้งที่มายังเกาะแห่งนี้...ถัดจากส่วนกลางก็เป็นท้ายเกาะจะมีบ้านเรือนเรียงรายอยู่ราวสิบครัวเรือน เป็นครอบครัวชาวประมง และคนเก็บรังนก..ภายใต้การดูแลของสายลม..


“ ไม่คิดว่านายจะมา..นี่ยังไม่ถึงครบตรวจงานเลยนี่ครับ..” ชายผิวคล้ำรูปร่างสูงใหญ่รีบวิ่งกุลีกุจอมาพร้อมกับคนงานอีกสองคน เข้ามาทักทายนายหนุ่ม.. เจ้าสามคนนั้นดูจะแปลกใจไม่น้อยกับการแต่งตัวของคนเป็นนาย ...

“ กฤษฏิ์อยากมาเที่ยว..” กรณ์บอกเสียงราบ


“ เอ้า..สวัสดีครับคุณหนู..” คนหน้าสุดเอ่ยทักทาย นายน้อยของบ้านสายลม..ใครๆก็รู้จักกันดีถึง คุณหนูกฤษฏิ์ที่ชอบโปรยยิ้มและเป็นมิตรกับทุกคน ..ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปแค่ไหน กฤษฏิ์ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นไม่แปรเปลี่ยน ...


“ สวัสดี น้าหนุ่ม..วันนี้กฤษฏิ์อยากกินอาหารทะเลสดๆ..น้าหนุ่มต้องเตรียมเยอะๆนะ” กฤษฏิ์โปรยยิ้มเช่นทุกที.พลางอ้อนหัวหน้าคนงานอย่างสนิทชิดเชื้อ ก่อนไปเรียนต่อเมืองนอกกฤษฏิ์ก็มาเที่ยวเล่นที่นี่บ่อยๆ เลยค่อนข้างสนิทกับคนงานของเกาะ...


“ ครับ..เฮ้ยพวกเอ็งช่วยคุณๆขนกระเป๋าเข้าไปข้างในสิ..” ว่าแล้วน้าหนุ่มก็สั่งคนงานที่เหลือให้ช่วยกันขนสัมภาระของทั้งสี่ไปยังบ้านพักกลางเกาะ..ที่ตั้งโดดเด่นอยู่...

ผืนทรายสีขาวทอดตัวไปตามชายฝั่ง ..ตัดกับน้ำทะเลที่ซัดสาดเข้ามาเป็นระลอก ห่างออกไปไม่ไกลคือบ้านพักที่จัดว่าสวยงามใช่น้อยการตกแต่งดูประณีต ..เห็นจากร่มไม้หน้าบ้านก็ทำให้รู้ว่าคนงานที่นี่เอาใจใส่แค่ไหน..วิชญ์ภาสเดินตามกรณ์มาหยุดอยู่กลางบ้านหลังใหญ่..ที่มีห้องหับอยู่สามห้อง..( เอ๊ะ ..ทำไมต้องสามห้อง..)

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ไม่อยากเห็นพี่น้องแย่งกันเองเลยยยยยยยยยยยยยยยยย  :serius2:

chatkub

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านต่อมากๆๆ

ไงก็รีบๆมาต่อไวๆเลยนะครับ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หวังว่ากานฑ์คงไม่ตื่นมาร่วมวงด้วยอีกคนนะ  o22

nanao

  • บุคคลทั่วไป
นั่นสิ เมื่อน้องคนกลางตื่นขึ้นมาแล้ว

จะคู่กับใครหว่า -.-

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :serius2: เมื่อไหร่จามาต่อค่ะ รออยู่น้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด