วันนี้เป็นวันหยุดครับ ทีแรกคิดว่า จะได้เข้ามาอัพไดอารี่ตั้งแต่บ่าย แต่กลายเป็นว่าจัดบ้านทั้งวัน ย้ายนั่นเปลี่ยนนี่
ก็เลยหมดไปครึ่งวันเข้าให้แล้ว แต่ผลที่ได้นอกจากบ้านจะดูแปลกตาเป็นระเบียบขึ้น ก็คือการได้ของใช้ที่ถูกใจ
นายแม่กับคุณป๋าเป็นนักสะสมเครื่องแก้ว เครื่องเคลือบ ประเภทถ้วยโถโอชาม แก้วกาแฟ จานรอง สารพัดสิ่ง
อาจเพราะเมื่อก่อน ครอบครัวของเรามีคนแวะเวียนมาให้ได้ต้อนรับด้วยของเหล่านั้นบ่อยๆ รวมทั้งบางชิ้นทื่นายแม่ซื้อ
เพราะเห็นว่าสวยงามดี และซื้อมาเพื่อเก็บและโชว์โดยไม่ยอมนำออกมาใช้ เมื่อตอนเป็นเด็กผมไม่ค่อยใส่ใจนักหรอก
พออายุมากขึ้นอย่างในเวลานี้ ได้กลับมาจัดแจงข้าวของเหล่านี้อีกครั้ง กลับมองเห็นความงดงามที่เคยละเลยข้ามไป
อย่ากระนั้นเลย เมื่อเจอของถูกใจ จึงนำมาใช้เสียหน่อย ประมาณบ่ายสามภารกิจจัดบ้านเสร็จสิ้น รู้สึกโหยๆไม่เชิงหิว
คือก่อนหน้านั้น ผมทานข้าวมื้อแรกไปแล้วเมื่อตอนเที่ยง เวลาบ่ายแก่ๆอย่างนี้จึงไม่นึกอยากทานข้าวให้หนักท้อง
เลยออกไปร้านมินิมาร์ทหน้าปากซอย ได้ขนมแครกเกอร์ไส้ครีมรสมะนาวมาห่อนึง คิดว่าทานแค่นี้รองท้องก็พอแล้ว
กลับมาถึงก็จัดแจงเอาแก้วกาแฟ จานรองที่เข้าชุดกันทั้งหมด3ชุดนั้น ออกมาล้าง พักจนแห้งสนิท ก็ต้มน้ำร้อน
ระหว่างนั้นก็เตรียมตั้งโต๊ะ เป็นโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆขนาดความสูงเกือบเท่าโต๊ะที่ผมใช้วางโน้ตบุค ซึ่งนำมาวางใกล้ๆกัน
สรุปว่า ตลอดบ่ายหลังจัดบ้านเสร็จ ผมก็เพลินไปกับการดื่มชาร้อนๆ และอ่านหนังสือ
"เรื่องรักที่ไม่ได้ออกอากาศ"นานมาแล้วที่ผมไม่ได้ให้เวลากับตัวเองในการดื่มชายามบ่าย เมื่อได้มาทำในวันนี้ จึงนึกแซวตัวเองขึ้นมาว่า
"นิวเอ๊ย.... มัวแต่เป็นขี้ข้าทำงานเยี่ยงบ่าวก้นครัว
จนหลงลืมชีวิตอีกด้านของตัวเองซะแล้วสิ"ปล.เจ้าย่าแซวหลานเรื่องเพลงหรือนี่ งั้นต้องเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่าช่วงเวลาดื่มชาของหลานเมื่อบ่ายนี้
ความสุนทรีย์ของหลานอีกอย่างหนึ่ง นอกจากหนังสือดีๆ กับชาร้อนๆ ก็คือการได้ฟังเพลงสุนทราภรณ์
.
.
.
.
.
"ดื่มชาร้อนๆด้วยกันมั้ยครับ ระหว่างที่ผมกำลังจะเล่าเรื่องที่ทิ้งค้างไว้ ให้ได้ฟังกันต่อ"