..
..
..
"เป็นไรวะต้น? กลับมาหน้าตาเหมือนคนใกล้ตาย"
"ไม่มีอะไรหรอก"
"รถล้มเหรอวะ? เจ็บตรงไหนรึเปล่า?"
".....เม้งกรูมีเรื่องจะสารภาพ.....กรูแอบกินขนมไม่ได้แบ่งมรึง ยกโทษให้กรูด้วยนะ"
"ห่า เรื่องแค่นี้ต้องสารภาพเหรอวะ? มรึงอยากกินอะไรก็กินไปดิวะกรูไม่คิดมากหรอก"
"..................."
เม้งเดินไปปิดไฟแล้วลงนอนข้างๆ ผม "เกิดอะไรขึ้นวะต้น? บอกกรูได้มั๊ย?"
"กรูมันเลว กรูมันไม่ได้เรื่อง กรูมันไม่มีค่าสักนิด กรูมันแย่ที่สุด"
"เฮ้ย! มรึงอย่าเพิ่งด่าตัวเองดิวะ! มีอะไรบอกกรูได้นะ"
"แค่เรื่องนิดเดียว....แต่กรูไม่เชื่อใจเขาเลย.....กรูมันไม่ดีพอ"
เสียงฝนเปาะแปะที่หน้าต่างตามมาด้วยฝนห่าใหญ่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา ถ้าฝนตกเร็วกว่านี้ผมคงไม่ระแวงกริช
....อย่าโทษฟ้าโทษฝนเลย....ใจผมเองนั่นแหละที่ไม่มั่นคง....แบบนี้เหรอที่จะรักกริชได้
เม้งไม่ได้เอ่ยซักอะไรต่อ ถ้าเพื่อนไม่อยากพูดก็คือไม่อยากพูด
"ต้น....กรูไม่รู้ว่ามรึงเจออะไรมา แต่กรูเป็นเพื่อนมรึงนะ"
"....................."
"มรึงจะไม่เล่าก็ไม่เป็นไร แต่ขออย่างนึงนะ อย่าด่าตัวเองแบบนั้น"
"ก็....กรูมันไม่ดีจริงๆ"
"ใครว่ามรึงไม่ดี มรึงแกล้งนอนตกฟูกทุกคืนแบบเนี้ยเหรอไม่ดี"
"กรูนอนดิ้น"
"นอนดิ้นแล้วหมอนมันตกฟูกตามหัวมรึงไปด้วยเนี่ยนะ?"
"......................"
"ตอนปั่นจักรยานมรึงก็ไม่ยอมเกาะเอวกรู"
"ก็กรูกลัวมรึงบ้าจี้เดี๋ยวรถล้ม เลิกพูดเหอะพรุ่งนี้มีสอบแต่เช้า"
ผมดึงผ้าห่มนอนตะแคงหันหนีไอ้เม้ง นอนมันทั้งที่ยังไม่แปรงฟันนี่ละวะ ดีกว่าปล่อยให้เม้งพูดมากไปกว่านี้
แต่รู้สึกได้ว่ามันยังมองมา
"ต้น เลิกทำตัวเองลำบากแบบนี้ได้แล้ว"
"พะ....พูดอะไร?"
"กรูรู้ว่ามรึงเป็นยังไง"
"ต้น...ถึงมรึงจะเป็น....เอ่อ...แบบนั้น แต่มรึงก็นิสัยดีนะ มรึงไม่ยอมนอนใกล้กรู ไม่ยอมกอดเอวกรูเพราะกลัวว่าสักวันกรูจะรังเกียจมรึงใช่มั๊ย?"
คำพูดของเม้งทำผมสะดุ้งเฮือก "ละเมอไรวะ? กรูไม่รู้เรื่อง นอนๆๆๆ"
"กรูไม่รังเกียจมรึงเลยนะต้น ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย มรึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกรูมาตลอด"
"เลิกพูดเถอะเม้ง กรูง่วงแล้ว"
ปากผมมันไม่ตรงกับใจเลยสักนิดทั้งที่จริงอยากมีคนที่เข้าใจผม...แต่...ต้องไม่ใช่เม้ง...ถ้าหยุดพูดไว้แค่นี้ผมคงยังไม่เสียเพื่อนไป
"......ตามใจนะ แต่รู้ไว้ว่ากรูไม่รังเกียจมรึงเลยสักนิด"
.........
.........
.........
.........
ทั้งสองนอนเงียบไปนาน มีแต่เสียงฝนที่ยังตกไม่หยุด
"เม้ง....หลับยัง?"
"ยัง"
คนอีกฟากของฟูกนอนลืมตารอให้เพื่อนเอ่ยปากมานานแล้ว
เขาไม่ยอมหลับตาเพราะรู้ว่าคืนนี้เขาจะแบ่งเบาความทุกข์ให้เพื่อนได้บ้าง
"ตกลงนี่......มรึงรู้จริงๆ เหรอวะ?"
"กรูเป็นเพื่อนมรึงมานานแล้วนะ จะหันมาคุยกันไม่ได้รึไง?" ผมพลิกไปหามันแต่ก็ยังไม่กล้ามองตาทั้งที่ห้องมืดสนิท
"กรูก็พอรู้มานานแล้ว....พอเห็นเข็มใต้หมอนมรึงคืนนั้นถึงได้แน่ใจ"
".....เห็นแล้วเหรอ?"
"ของที่เอาไว้ใต้หมอนน่ะ ถ้าไม่ใช่ซองแต๊ะเอียก็มีอย่างเดียว.....ของๆ คนที่ชอบใช่มั๊ยล่ะ?"
นร.ชายม.ปลายใช้เข็มสีทอง ส่วนนร.หญิงใช้เข็มสีเงิน แค่เห็นสิ่งนั้นใต้หมอนในคืนแรกก็เข้าใจทุกอย่าง
เข้าใจไปถึงความลำบากของเพื่อนสนิทที่ต้องทนเก็บงำความรู้สึกของตนมานานเท่าไหร่แล้ว
"เรื่องส่วนตัวแบบนี้มรึงไม่อยากพูดกรูก็ไม่พูดหรอก....แต่...."
"......................"
"กรูเห็นมรึงอึดอัดมานาน เห็นมรึงด่าตัวเองแบบนี้กรูทนเงียบไม่ได้"
"เม้ง....ไม่รังเกียจกรูจริงๆ นะ?"
เม้งใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผมที่ไม่ยอมสบตา "ไอ้ห่าต้นเอ๊ย! ถ้ามรึงจะมีข้อเสียสักอย่างก็คือการคิดมากนี่แหละ"
"มาๆ กรูจะแสดงให้ดูว่ากรูไม่เกลียดมรึง" แล้วเม้งก็ดึงผมไปกอดไว้
"ด....เดี๋ยวๆๆๆ! มรึงไม่กลัวกรูทำเหรี้ยๆ กับมรึงเรอะ!!"
"ถ้ามรึงคิดจะทำแบบนั้นก็คงทำไปนานแล้วล่ะ คบกันมาสองปีกว่าแล้วนะว้อย"
วงกอดของเพื่อนทั้งเย็นและอบอุ่น เย็นจนดับความทุกข์ร้อนในใจได้
อุ่นพอคลายความเดียวดายที่หนาวเหน็บที่ผมเผชิญตามลำพังมานาน
........
........
........
"ขอบใจนะเม้ง.....แล้ว...พรุ่งนี้มรึงจะยังเป็นเพื่อนกรูมั๊ย?"
"ก็เป็นดิวะ! เคยเป็นยังไงก็ยังงั้นแหละ แล้วมรึงก็เลิกดูถูกตัวเองได้แล้วนะ เข้าใจมั๊ย?"
"เข้าใจคร้าบท่านเม้ง"
"แล้วไอ้เรื่องเชื่อใจ ไม่เชื่อใจอะไรนั่นน่ะมันยังไงวะ?"
"เม้ง....เรื่องนั้น....กรูยังบอกไม่ได้หรอกนะ"
"เออ กรูเข้าใจ มันเกี่ยวไปถึงคนที่มรึงชอบด้วยใช่มั๊ยล่ะ? ไม่อยากพูดก็ไม่บังคับมรึงหรอก"
"ขอบใจนะเม้ง มรึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย"
"เฮ้อ....เป็นมรึงนี่คงอึดอัดมากเลยสินะ?" ผมพยักหน้า พูดไม่ออก คอมันตีบตันไปหมด
"กรูไม่รู้หรอกนะว่าระหว่างมรึงกับคนๆ นั้นมีเรื่องอะไรกัน แต่ที่มรึงทนลำบากมาได้นานขนาดนี้คงไม่ใช่รักแค่ผิวเผินหรอกต้น เชื่อมั่นในตัวเองหน่อยดิวะ"
"แต่กรูไม่เชื่อใจเขาจริงๆ นี่หว่า"
".......ต้นเอ๊ย" เม้งขยี้หัวผมเบาๆ
"มรึงเพิ่งอายุ 16 จะให้ใจคอหนักแน่นลึกซึ้งถึงสัจธรรมได้แค่ไหนกัน คนที่แก่กว่ามรึงบางคนนะแมร่งทะเลาะกันปางตายเพราะเรื่องจิ๊บจ๊อยก็มี"
"จริงของมรึงแต่กรูยังไม่แน่ใจตัวเองเท่าไหร่หรอกนะ.....ว่าแต่....มรึงเลิกกอดกรูได้แล้วเดี๋ยวฟ้าผ่า"
"กรูกอดเพื่อนกรูผิดตรงไหนวะ? มันจะผ่าก็ให้ผ่ามาเหอะ"
ครืนๆๆๆๆ!!!! เปรี้ยง!!!!
"เจ๊ดเข้! ฟ้าผ่าจริงๆ ด้วยว่ะ! งั้นมรึงตกฟูกไปเลยปะ!"
"กรูนอนนอกฟูกมาหลายคืนแล้ว ตามรึงบ้างดิ!" เม้งเอาตีนยันมาผมก็ยันกลับ แล้วคืนนี้จะได้นอนไหมเนี่ย?
นับตั้งแต่วันนั้นเม้งกับผมก็....จะว่ายังไงดีนะ.... เกร็งๆ ประหม่ากันนิดหน่อยแต่ก็สนิทพูดจากันอยู่เหมือนที่ผ่านมา
ผมไม่โกรธมันหรอกเพราะผมเองก็เข้าหน้ามันไม่ค่อยติดเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกแปลกๆ แค่วันเดียวแล้วเราก็ไล่จี้เอวกันเหมือนเดิม
เม้งดูจะเป็นผู้ใหญ่กว่าผมเยอะ มันบอกว่าเรื่อง 'อย่างนั้น' เป็นส่วนหนึ่งของคนแต่ไม่ใช่ทั้งหมดของคน
และก็ไม่ใช่สิ่งตัดสินว่าใครดีหรือเลวเพียงเพราะ 'ชอบ' ต่างจากคนอื่นๆ.....ปรัชญามันล้ำลึกมาก ดีใจจริงๆ ที่เม้งเป็นเพื่อนผม
.................