ตอนที่ 13
"อ้าว...ริสา"ไอ้คนเสแสร้งเก่งก็ยังเก่งอยู่วันยังค่ำน่ะอหละครับ คุณศรที่เพิ่งจัดฉากเสร็จไปสดๆร้อนๆเมื่อกี้นี้ตอนนี้กลับปั้นหน้าตายหันไปหาริสาที่ทำหน้าบึ้งตึงเหมือนภูเขาไฟกำลังจะปะทุอยู่ราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"มันหมายความว่าอย่างไรค่ะ พี่ศร!"ริสาข่มเสียงไม่ให้สั่นด้วยโทสะพูดออกมาอย่างยากเย็น มือกำหมัดแน่น สายตามองตรงมาที่ผมราวกับจะเผาให้ตาย...แต่ใครจะสนล่ะครับ?
ผมแอ่นสะโพกโน้มตัวลงจูบไล้บนคางสากของคุณศรอย่างยั่วเย้ามือก็ลูบๆไล้ตามไหปลาร้า...คุณศรก็เล่นด้วยเพราะมือเขาเริ่มลูบๆวนๆที่ขาอ่อนของผมและสะโพก ส่งเสียงฮึมฮำในลำคอ
"พี่ศร!!"ริสาตวาดแว้ด ผมแสร้งสะดุ้งหันหน้าไปมองริสาอย่างตำหนิครั้งหนึ่งจนเธอที่อ้าปากเตรียมจะพูดต่อต้องชะงักและเริ่มหน้าแดงซ่านด้วยความโมโห
ผมทิ้งตัวลงปุบนตักของคุณศร บดเบียดสะโพกกึ่งเปลือยเปล่า(เพราะไม่มีกางเกงใน)ไปกับหน้าตักที่เป้ากางเกงที่ยังไม่มีรูดซิบของคุณศรจนมันผงาดตื่นตัวอีกครั้งอย่างไม่ยากเย็น และผมก็เริ่มจูบกระตุ้นอารมณ์ไปตามใบหูซอกคอโดยไม่ทิ้งรอยไว้ มือก็นวดคลึงเบาๆที่หลังคอจนคุณศรต้องครางต่ำๆออกมาเบาๆ
"จิน พาคุณวริสาออกไปก่อน"หนุ่มแว่นที่ผมทราบแล้วว่าชื่อจินก้มหน้าขานรับทั้งๆที่แววตากำลังเหมือนสับสนกับอะไรบางอย่างแล้วพยายามเชิญริสาออกไปข้างนอก
"อ๊ะ"ผมร้องเบาๆเมื่อความเป็นชายแข็งตึงเสียดสีกับช่อองทางร้อนระอุด้านหลังที่ยังคงตื่นตัวจากกิจกรรมเมื่อไม่กี่นาทีก่อนจนเสียววูบวาบ
"กรี๊ดด!!"ตามสไตล์ครับ เมื่อทำอะไรไม่ได้ ริสาก็ได้แต่ตึงตังหงุดหงิดกระแทกส้นสูงออกไปนอกห้องตามแรงคุกคามกดดันจากจินที่ยังคงมีสีหน้าอีหลักอีเหลื่ออยู่บ้าง
"อ่ะ อา"และนั่นแหละ พอไม่มีใครอยู่แล้ว ริมฝีปากหนาก็เริ่มมบดเบียดประทับรอยจูบหนักๆลงมาตามซอกคอและไหปาร้าทันที
ชุดเดรสที่เพิ่งใส่กลับไปเมื่อครู่ถูกถอดออกอีกครั้งรวดเร็วยิ่งกว่าตอนใส่และกว่าจะรู้ตัวร่างของผมก็เปลือยเปล่าเสียแล้ว....
"อุ๊บ!"เนื่องจากเป็นรอบที่สองในชั่วโมงช่องทางจึงไม่ต้องเตรียมการอะไรมากนักก็สามารถเข้ามาได้ง่ายๆ
จากนั้นเราก็ใช้เวลาราวๆยี่สิบนาทีในการจัดการกับอารมณ์ที่ยังคงกระเจิดกระเจิงของทั้งสองฝ่ายiรวมถึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้สะอาดเรียบร้อยด้วย
"จะให้เรียกคุณวริสาเข้าพบไหมครับ?"และเมื่อเรื่องของอารมณ์สิ้นสุดลงแล้วผมก็ต้องกลับมาทำหน้าที่เลขาที่ดีเฉกเช่นเดิม
"ไปเรียกเธอเข้ามา ส่วนคุณก็ไปหาน้ำท่าดื่มซะ รออยู่ข้างนอกวันนี้เราจะกลับเร็วหน่อย"คุณศรที่จัดเสื้อผ้าหน้าผมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเอ่ยปาก แล้วเริ่มลงมือหยิบเอกสารมาอ่าน
"ครับ"ผมสำรวจตัวเองในเงากระจกอีกครั้งเมื่อพบว่าตัวเองยังคงเป็นหญิงสาวเปรี้ยวเข็ดฟันคนเดิมไม่มีซิชิโคนข้างไหนเบี้ยวก็เดินไปใส่รองเท้าคัทชูส้นสูงสีดำแล้วจึงเดินออกจากห้องประธานไป
ทันทีที่ผมออกมาจากห้อง ร่างที่ไม่ได้ใหญ่โตไม่กว่าผมมากเท่าไรก็ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูอยู่แล้ว สายตาที่มองผมส่อแววไม่ชอบใจอย่างชัดเจน
"คุณวริสาล่ะ"
"ห้องรับรอง"
คาดว่าตำแหน่งของผมกับเขาน่าจะใกล้เคียงกันหรือบางทีอาจจะตำแหน่งเดียวกัน...พวกเราซึ่งไม่ชอบหน้ากันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงไม่คิดจะรักษามารยาทอะไรมากมาย
ผมพยักหน้าขอบคุณ ก่อนจะพาร่างที่ต้องพยายามแสดงกริยาอาการให้เหมือนผู้หญิงที่สุดเดินตรงไปยังห้องรับรองแขกซึ่งผมเพิ่งรู้ว่ามีทางลัดเจาะตรงไปอยู่เพียงแต่มันค่อนข้างจะแคบและสีกลืนไปกับผนังห้องจนเกือบมองไม่เห็นถ้าไม่ได้เข้าไปดูใกล้ๆ
ก็อกๆ
เคาะพอเป็นมารยาทเสร็จผมก็ผลักประตูเปิดเข้าไปพร้อมพบกับสายตาเกรี้ยวกราด อิจฉาริษยาที่จ้องกลับมาผ่านทางใบหน้าสวยหวานอย่างสาวสมัยใหม่
"คุณศรเชิญให้ไปพบค่ะ"ผมดัดเสียงขึ้นคีย์สูงหน่อยแล้วเปิดประตูอ้าค้างไว้อย่างนั้นรอให้วริสาเดินออกมา
แต่นอกจากจะไม่ยอมออกมาแล้วหล่อนยังนั่งไขว่ห้างมือกอดอกมองผมอย่างเหยีดหยาม ดูหน้าก็รู้แล้วว่าเธอคงอยากมีเรื่องกับผมไม่น้อยเพียงแต่ไม่อยากเริ่มก่อน
"มิทราบว่าคุณวริสามีเรื่องอะไรกับดิฉันรึเปล่าค่ะ"ผมถามไปเนิบๆ เดินเข้ามาในห้องพร้อมปิดประตู วริสายกยิ้มหวานเชื่อมแต่ดูก็รู้ว่ากำลังพยายามเหยียดหยามผมจากรอยยิ้มที่ดูเหนือกว่า
"ทำงานอะไรให้พี่ศรล่ะ เธอน่ะ?"มาเรียบๆกว่าที่คาดไว้ แต่แบบนี้ท่าทางจะรับมือยากกว่าที่คิด
"ดิฉันเป็นเลขาของคุณศรค่ะ"เนื่องจากอยู่ในเวลางานคำพูดคำจาจึงต้องเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม วริสายิ้มหยามก่อนจะพูดคำที่เล่นเอาผมหน้าชา
"อ๋อ เหรอ เป็นเลขา เมื่อกี้ฉันนึกว่าเป็นอีตัวซะอีก กล้ามากนะแกน่ะไปออดอ้อนพี่ศรแบบนั้น!!"เสียงตวาดแหวแหลมจี๊ดทำเอาผมปวดหัวไปชั่วครู่ ผมยืนค้อมตัวนิ่ง ไม่ตอบโต้ๆใดๆกลับไปเนื่องจากวริสาถือได้ว่าเป็นแขก
"จำใส่กะโหลกของแกเอาไว้ด้วยนะ ว่าพี่ศรน่ะมีเจ้าของแล้วต่ำๆอย่างเธอน่ะไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเขาหรอก!!"
"ค่ะ เชิญคุณวริสาที่ห้องคุณศรค่ะ"ผมรับคำนิ่งๆใบหน้าเฉยชาราวไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้
"หึ!หน้าด้านนักนะอยากจะรู้นักร่านๆอย่างเธอเนี่ยจะยังทำหน้าแบบนี้ไปได้ถึงเมื่อไหร่!!"
"เชิญค่ะ"
ผมเดินนำออกไป เริ่มได้กลิ่นลางร้ายเสียแล้วสิ บางทีวริสาอาจจะทำอะไรบางอย่างกับผมเร็วๆนี้และมันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
ก็อกๆ
ผมเคาะประตูไปสองทีแล้วรอหน้าห้อง รอจนประตูเปิดแล้วส่งวริสาเข้าไป
"จะรับเครื่องดื่มไหมค่ะ"ถามไปตามหน้าที่ครับ เมื่อไม่มีใครต้องการอะไร ผมจึงถอยกลับออกไปนอกห้องแล้วนั่งลงบนโต๊ะเลขาตัวเก่าที่ยังตั้งอยู่หน้าห้องแต่แทบไม่ได้ใช้แล้ว ระหว่างนั่งรอผมก็เปิดเอาเอกสารในลังที่รัตน์ทิ้งเอาไว้ให้ขึ้นมาอ่านไปพลางๆ
ระหว่างนั้นผมรับรู้ได้ถึงรังสีทะมึนที่แยงตาจนอ่านไม่รู้เรื่องจึงตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมองต้นตอของมัน
"มีอะไรรึเปล่า"จินกำลังมองผมด้วยท่าทาางหน้านิ่วคิ้วขมวด ยิ่งพอเห็นผมถามแบบนั้นมันก็ยิ่งขมวดคิ้วหนัก มันควรจะเป็นผมไม่ใช่รึไงที่ขมวดคิ้วไม่ชอบใจน่ะ
"ใครส่งนายมา?"มันยังคงถามคำถามเดิมกับที่เคยถามผมครับ
"ไม่มีใครส่งฉันมาทั้งนั้นแหละ"ผมพูดความจริงออกไปจ้องตาที่มองสบอย่างค้นหาจนอีกฝ่ายต้องเสหลบไปเอง
"ไม่ว่านายจะเป็นใครแต่ถ้ามีท่าทีเป็นอันตรายต่อคุณศรเมื่อไหร่พวกเราไม่ปล่อยนายเอาไว้แน่ๆ"จินพูดเสียงเครียดใบหน้าถมึงทึงอย่างน่าเอ็นดู ว่าๆไปแล้วจินน่าจะอายุน้อยกว่าผมเสียอีกนะนี่
"นายทำงานอะไรให้คุณศรล่ะ"ผมถามเรื่อยๆไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง แค่พยายามผูกมิตรกับคนที่รู้สึกถูกชะตาด้วยเท่านั้น
"ฉันเป็นเลขาของที่สามของคุณศร โคดเนม จิน"ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เลขาคนที่สาม?
"บางทีนายอาจจะยังไม่รู้ เลขาของคุณศรเราแบ่งเอาไว้เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน มีนายเป็นเลขาในด้านสว่างดูแลและเก็บความลับของบริษัท ในขณะที่ด้านมืดมีพวกฉันสามคน รัม ไวน์ และฉัน จิน"ผมพยักหน้าเนิบๆฟังโค้ดเนมที่เป็นเหล้าทั้งหมดอย่างแปลกใจเลขาต้องใช้โค้ดเนมแทนชื่อจริงด้วยแฮะ?แปลกดีเพราะที่บ้านใหญ่ผมไม่ให้จะใช้กันเลย อ้อจะว่าไปมีแม่ผมอยู่คนหนึ่งนะแหละที่ต้องใช้ชื่อปลอมหนีการตามล่าตัว....
เอาเป็นว่าเรื่องนี้จะเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกัน
"นายจะถามทำไม?"ช่างเป็นเลขาที่ไม่รอบคอบเอาเสียเลย...ใครถามอะไรก็ตอบหมดเลยหรือไงกันนะ
"หาเรื่องคุย นายถูกชะตาฉัน"ผมยิ้มบางๆเห็นหมอนี่แล้วนึกถึงน้องชายคนโตที่บ้านใหญ่ขึ้นมาสมัยก่อนเขามีนิสัยคล้ายไปแบบนี้เลยมันจึงทั้งน่าแกล้งและน่าเอ็นดูไปพร้อมๆกัน
"ห๊ะ?"ดูท่าจะงงเอาจริงๆ ผมหัวเราะเบาๆแล้วเลื่อนสายตาลงอ่านข้อความในกระดาษต่อ
"กรี๊ด!!!"เสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากในห้องประธานทำให้ผมสะดุุ้งหลุดออกจากภวังค์ชั่วคราวเพื่อหันไปมองประตูที่ค่อยๆเลื่อนเปิด
"จิน ส่งแขกด้วย"จินยืนขึ้นทำหน้าตาขึงขังเพื่อข่มวริสาจากนั้นก็เดินเข้าไปเอ่ยไล่เธออย่างสุภาพซึ่งวริสาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากฮึดฮัด และถลึงตามองผมอย่างเกรี้ยวโกรธ
เฮ้อ...หวังว่าเธอจะไม่ทำอะไรให้ผมต้องลำบากนะแค่ฐานะกึ่งเชลยในตอนนี้ก็แย่พออยู่แล้ว
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
อะหุๆ :z1:อารมณ์ดีค่ะเลยรีบมาอัพให้
เมื่อวานไปนอนค้างที่mandarin orentel มาค่ะห้องสูทเขาหรูมากคืนละตั้ง 25,000 แนะ!! :m25:โชคดีที่ญาติได้ห้องฟรีมาไม่งั้นชาตินี้ก็ไม่มีทางได้ไปพักหรอกค่ะ
อยากจะบอกว่าเจอแอ๊บกับสงการนต์ด้วยฮิ
เอาละค่ะ อิงอยากจะถามอะไรนิดหน่อย
คิดยังไงกับนิยายที่มีผู้ชายท้องได้ค่ะ ถ้ามีเหตุผลมารองรับมากพอจะรับได้กันมั๊ย? ช่วยตอบด้วยนะค่ะจะได้กำหนดความเป็นไปของพล็อตถูก
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ค่ะ