25.5
ขณะที่ชีวิตในวงการบันเทิงของตุลย์ราบรื่นไปได้สวย กระแสตอบรับของดาราหนุ่มรุ่นพี่อย่างวินทร์กลับดิ่งลงเหวชั่วข้ามคืน หลังถูกโจมตีอย่างหนักจากข่าวชู้สาว
มูลเหตุของเรื่องเริ่มต้นจากเมื่อหลายปีก่อนที่วินทร์ประกาศพิธีหมั้นกับแฟนสาวนอกวงการที่คบหาดูใจมานานต่อหน้าสื่อ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่หวานชื่น กระทั่งมีข่าวลือว่าถูกตีท้ายครัวเพราะมีคนพบคลิปวิดีโอปริศนาของชายหน้าตาคล้ายวินทร์กำลังจูบนัวเนียกับสาวที่ไม่ใช่คู่หมั้น ณ สถานบันเทิง
ข่าวลือนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างจนวินทร์และต้นสังกัดต้องออกแถลงการณ์ปฏิเสธ ว่าชายคนนั้นไม่ใช่ตน และเขาไม่รู้จักกับหญิงสาวที่ปรากฏในคลิป
นับเป็นโชคดีที่คำชี้แจงของวินทร์ได้รับความเชื่อถือจากสาธารณชน ชายหนุ่มจึงสามารถกู้คืนชื่อเสียงได้สำเร็จ ประกอบคลิปวิดีโอถูกบันทึกในที่มืดด้วยกล้องโทรศัพท์ เห็นหน้าไม่ชัด จึงไม่มีใครกล้ายืนยันว่า ชายในคลิปคือวินทร์จริง
แต่ถึงอย่างนั้นก็คลิปดังกล่าวก็ยังถูกคนบางกลุ่มนำไปใส่สีตีความต่างๆ นานา นานวันเข้าสมมุติฐานเหล่านั้นก็หายลับเข้ากลีบเมฆไป
จนกระทั่งเมื่อเช้าวานซืน...
จู่ๆ รูปหลุดจำนวนหนึ่งของวินทร์กับดาราสาวหน้าตาคล้าย ‘อันดา’ เดินควงกันริมชายหาดก็ถูกแชร์ว่อนหราทั่วอินเทอร์เน็ต เหตุการณ์นั้นกระตุ้นความอยากรู้ของสาธารณชน ไม่เพียงแต่ข่าวฉาวเก่าที่ถูกขุดขึ้นมาพูดถึง ความสัมพันธ์ของวินทร์และอันดาบนโลกออนไลน์ก็ถูกจับตามองและตั้งข้อสังเกตเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออินสตราแกรมของทั้งคู่ต่างก็ลงภาพสถานที่ท่องเที่ยวในบาหลีเวลาไล่เลี่ยกัน
สมมุติฐานนี้ทำให้ดาราสาวอย่างอันดาต้องออกมาชี้แจงกับสื่อว่า เธอได้เดินทางไปบาลีในช่วงเวลาใกล้กันจริง แต่เธอไม่ได้พบวินทร์ เนื่องจากฝ่ายชายเดินทางกลับไปก่อนเธอมาถึง หญิงสาวในรูปถ่ายจึงไม่อาจเป็นเธอไปได้
แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น เมื่อเพจดังรื้อหลักฐานขึ้นมาแฉ โดยนำรูปถ่ายในชุดว่ายน้ำของอันดาที่ถ่ายเมื่อต้นปีมาเปรียบเทียบกับรูปถ่ายของสาวปริศนาที่เป็นข่าว นอกจากชุดว่ายน้ำที่ใส่จะเป็นชุดเดียวกันแล้ว ผู้หญิงในภาพทั้งสองต่างก็มีร่องรอยบนร่างกายคล้ายคลึงกันหลายจุดจนยากจะปฏิเสธว่าเป็นคนละคน
มิหนำซ้ำ เย็นวันนั้นแฟนสาวของวินทร์ยังประกาศถอนหมั้นผ่านอินสตราแกรมอีก แม้ไม่แจงละเอียดว่าผู้หญิงในภาพคือใคร แต่เนื้อความหลายประโยคก็สรุปได้เป็นนัยว่า ระหว่างที่ทั้งคู่หมั้นกันนั้น วินทร์คบซ้อนกับหญิงอื่นจริง
สเตตัสนี้เป็นต้นเหตุให้เกิดกระแสแอนตี้ดาราทั้งคู่อย่างรุนแรง ความนิยมในตัวดาราทั้งสองดิ่งลงเหวและสร้างผลกระทบเชิงลูกโซ่ต่อผู้เกี่ยวข้อง ถึงขนาดที่ผู้จัดละครบางเรื่องยอมตัดวินทร์ออกจากรายชื่อนักแสดงเพื่อรักษาเรตติ้ง ขณะที่งานอีเว้นท์หลายงานของชายหนุ่มก็ทยอยถูกยกเลิก
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงแค่สองวัน... ตุลย์ถอนหายใจเบาๆ วางโทรศัพท์ลงหลังจากอ่านสรุปข่าวจบ
ไม่ใช่แค่แฟนคลับของวินทร์ที่ตกใจกับข่าวนี้ เขาเอวก็ไม่เคยคิดว่าคนที่มีเงินและความสุขพร้อมแบบวินทร์ จะเลือกเล่นชู้ลับหลังคู่หมั้นตัวเอง
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่เพียงทำลายชื่อเสียงของดาราหนุ่ม บริษัทของศานนท์ก็เช่นกัน สองสามวันมานี้เหล่ามดงานในบริษัทต้องวุ่นวายแต่กับข่าวฉาวของวินทร์หลังกระแสแอนตี้ลุกเป็นไฟลามมาถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับดาราหนุ่ม เนื่องจากทางบริษัทใช้วินทร์เป็น ‘ภาพลักษณ์’ ติดต่อกันตลอดหลายปี
“เธอเห็นข่าววินทร์แล้วใช่มั้ย? ” ศานนท์เอ่ยถามหลังเดินเข้ามาในออฟฟิศ
“ครับ เป็นยังไงบ้างครับ? ”
หนุ่มใหญ่เพิ่งประชุมภายในเกี่ยวกับเรื่องข่าวฉาวของวินทร์เสร็จหมาดๆ ในฐานะที่เขาชื่นชมนับถือดาราหนุ่มเสมือนรุ่นพี่ ตุลย์ก็หวังว่ามันจะไม่ใช่ข่าวร้าย
ศานนท์ส่ายหน้าเรียบๆ “ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากปลดเขาออกจากตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์”
“ชั่วคราว? ”
“ตอบไม่ได้... อย่างน้อยก็จนกว่ากระแสนิยมจะดีขึ้น อาจจะสามเดือน หนึ่งปี หรือนานกว่านั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดการกับข่าวยังไง ส่วนนั้นเป็นเรื่องของนักแสดงและผู้เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ความรับผิดชอบของฉัน สำคัญที่สุดตอนนี้คือ จะปล่อยให้ข่าวลือทำให้ภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์เป็นลบไม่ได้ ในฐานะเจ้าของยังไงฉันก็ต้องปลดเขา มันเขียนเอาไว้ในข้อตกลงตั้งแต่เซ็นสัญญาแล้ว”
“.........”
คำอธิบายของหนุ่มใหญ่ตรงประเด็นเสียจนตุลย์หวั่นใจ
ถ้าคนที่นั่งฟังประโยคนี้คือวินทร์ ไม่อยากจินตนาการเลยว่าชายหนุ่มจะหน้าชาขนาดไหน... “วงการบันเทิงก็แบบนี้แหละ...”
ศานนท์ฉีกยิ้มเจือนเหมือนยิ้มไม่ออก ก่อนจะทิ้งตัวนั่งเอนหลังพิงพนักโซฟาข้างตุลย์อย่างเหนื่อยอ่อนระคนเกียจคร้าน
“แต่ก็ยังมีงานบางส่วนที่ยกเลิกไม่ได้ อย่างภาพโปรโมตตัวโปรดักที่จะออกในอีกสองเดือนข้างหน้า ...หลายฝ่ายเสนอให้เปลี่ยนตัวนักแสดง แต่แทนที่จะคัดนักแสดงใหม่ ฉันอยากให้เป็นเธอมากกว่า”
ตุลย์ขมวดคิ้วมองผู้พูด “คุณจะให้ผมถ่ายแทนเขาเหรอ? ”
“อือฮึ” ศานนท์พยักหน้า “กระแสเธอดีกว่าถ้าเทียบกับวินทร์ อาจจะไม่ดังเป็นพลุแตก แต่คนก็เคยเห็นหน้าค่าตาบ้างแล้ว อีกอย่างมันก็เป็นโอกาสดีที่จะดันเธอให้เป็นที่รู้จักกว้างขึ้นด้วย ”
การถูกจับใส่แทนที่ใครอีกคนเป็นข้อเสนอที่ทำให้ตุลย์รู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย แต่ความก้าวหน้าของมันก็ทำให้ยากจะปฏิเสธ
“ครับ ได้”
สุดท้ายเขาก็ตอบตกลงอย่างทุกครั้ง
“ดี... ตอนนี้คงต้องฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เธอ”
พูดจบศานนท์ปิดเปลือกตาลงคล้ายขอเวลางีบหลับสักครู่ ด้วยไม่อยากรบกวนอีกฝ่าย ตุลย์จึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นต่อเงียบๆ
โดยไม่รู้เลยว่า ‘ความคาดหวัง’ ที่เขารับมาอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังวันนั้น จะวกกลับมาทำร้ายตนเอง...
------------------------------------
เนื่องจากกระแสตอบรับของละครประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดไว้ และเพื่อแสดงความขอบคุณต่อนักแสดง ทีมงาน และผู้เกี่ยวข้อง ผู้จัดละครจึงตัดสินใจจัดงานฉลองส่วนตัวขึ้นบนเรือสำราญเล็ก โดยที่เรือจะออกจากท่าเพื่อล่องไปตามแม่น้ำ ผ่าใจกลางเมืองและย้อนกลับมาสิ้นสุดที่จุดเดิม
...แน่นอนว่าในฐานะนักแสดง ตุลย์ก็ได้รับบัตรเชิญด้วย
เขาประหม่าอยู่บ้างตอนที่บอกเรื่องนี้กับศานนท์ด้วยกลัวว่าฝ่ายนั้นจะไม่อนุญาต แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อหนุ่มใหญ่พยักหน้ารับอย่างไม่อิดออด เพียงแค่กำชับว่า...
“โทรบอกฉันตอนไปถึง กับตอนออกจากงานก็แล้วกัน”
คืนนั้นรถติด ตุลย์มาถึงงานเลี้ยงอย่างเฉียดฉิวจวนจะได้เวลาออกเรือ ท่าเทียบเรือในยามราตรีสวยจับตาและคับคั่งด้วยผู้คนเนื่องจากตั้งอยู่ติดกับสถานที่ท่องเที่ยว บริเวณรอบนอกมีทั้งร้านอาหาร และร้านขายสินค้าซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ ตลอดแนวประดับไฟสีเหลืองนวลสว่าง
บรรยากาศงานเลี้ยงบนเรือก็ผ่อนคลายคล้ายคลึงกัน ไฟสีเหลืองสว่างตัดกับท้องฟ้ามืดสนิท ได้ยินเสียงดนตรีคลอเป็นระยะ อาหารในงานมีทั้งบุฟเฟต์และค็อกเทลให้เลือก โดยบางส่วนจัดไว้บนโต๊ะ ขณะที่บางส่วนปรุงสดจากฝีมือเชฟ ตุลย์เดินเลยมาแถวๆ พื้นที่ส่วนหัวเรือก็พบเพื่อนดารา ผู้กำกับและทีมงานกองถ่ายยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ข้างโต๊ะกลม เขาจึงเข้าไปทักทายอย่างทุกครั้ง
“อ้าว นึกว่าจะไม่มาซะอีก”
“มาสิครับ แต่ก็เกือบจะตกเรือแล้ว” ตุลย์หัวเราะแก้เขิน
“แหม แต่ก็ยังทันนี่นา”
สาวผมสั้นวัยสามสิบในชุดเดรสเรียบสีครีมปาดไหล่ข้างเดียวเอ่ยแซว ขณะส่งยิ้มตาหยี มั่นใจว่าตุลย์คงไม่รู้จักแน่แล้ว ผู้กำกับจึงสะกิดข้างไหล่กระซิบบอก
“...คนนี้ผู้จัดละครไง! ”
ได้ยินปุ๊บ ตุลย์ร้อง ‘อ๋อ’ ทันใด
“สวัสดีครับ เป็นเกียรติมากที่ได้พบครับ”
“เป็นเกียรติเช่นกันค่ะ เล่นจนจบซีรีส์แล้วเพิ่งมีโอกาสเจอหน้ากันจริงๆ ครั้งแรก พี่ยินดีที่ได้นักแสดงน้ำดีอย่างพวกเธอมาร่วมงานนะ” เธอเอ่ยปากชมนักแสดงทุกคนอีกครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยหนึ่งที่ละครเรื่องนี้มีแฟนๆ จับตารอดูก็เพราะกระแสนิยมของตุลย์ด้วย
“ผมก็ต้องขอบคุณที่ให้โอกาสได้เล่นละครเหมือนกันครับ”
“ยินดีค่ะ”ผู้จัดละครสาวพยักหน้ายิ้มรับ “อ๋อ... พี่เพิ่งได้ข่าวว่า คุณศานนท์เลือกเธอขึ้นมาแทนตำแหน่งแอมบาสเดอร์คนก่อนเหรอ? ขอแสดงความยินดีด้วยนะ”
“ขอบคุณครับ ผมก็แค่มาแทนชั่วคราวเท่านั้นแหละ”
“ชั่วคราว แต่ก็เป็นตำแหน่งสำคัญนะ” เธอยิ้มกว้างขึ้นอีกหน่อย
หลังสนทนาเรื่องสัพเพเหระต่ออยู่หลายนาที ผู้จัดสาวก็ขอปลีกตัวไปรับรองแขกคนอื่นๆ ต่อ ส่วนตุลย์ที่รู้สึกคอแห้งก็ถือโอกาสออกมาหาอะไรดื่มตรงโซนเครื่องดื่มใกล้ๆ กับบาร์เยื้องเข้าไปในตัวเรือ
เขาไม่อยากดื่มหนักจนเมาเพราะมีงานตอนเช้าวันพรุ่งนี้ จึงดื่มแค่ค็อกเทลล์เป็นหลัก แต่ดื่มไปดื่มมา รสชาติหวานของมันก็ชักทำให้เริ่มกังวลเรื่องแคลอรี จนสุดท้ายก็จำใจเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่า แล้วเลือกเอาพวกของว่างพลังงานต่ำใส่จานแทน
จังหวะที่กำลังเดินกลับออกไปหัวเรือ หางตาเขาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงคุ้นตานั่งอยู่ที่โต๊ะโซฟาขนาดหกที่นั่งตรงมุมโดยสี่ในห้าที่นั้น ถูกจับจองโดยบรรดาหญิงสาวที่ตุลย์ไม่เคยเห็นหน้า
วินทร์อยู่ในสภาพเมามายโดยที่มีเหล่าสาวสวยอ้อล้อ แม้เจ้าตัวจะมีปฏิสัมพันธ์กลับพวกเธอ แต่กลับดูเชื่องช้าและเซื่องซึมกว่าทุกครั้ง
วินทร์เพิ่งถูกถอนหมั้นมาหยกๆ ไม่แปลกถ้าเขาจะเสียศูนย์จนทำตัวแหลกเหลวแบบนี้... ตั้งแต่ปาร์ตี้ที่ไนต์คลับคราวนั้น ตุลย์ก็ไม่ได้พบวินทร์อีก ได้ข่าวอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายถูกโจมตีอย่างหนักจากสาธารณชน เห็นสภาพชวนห่อเหี่ยวของคนที่นับถือ ตุลย์ก็ตรงเข้าไปหา หวังจะดื่มปรับทุกข์เป็นเพื่อนสักหน่อย ทว่าพอดาราหนุ่มเห็นเขา ฝ่ายนั้นกลับขมวดคิ้วแน่น
“มาทำไม มีอะไรอยากจะได้อีกหรือไง”
เสียงที่เปล่งออกมานั้น อ้อแอ้ไม่ชัดถ้อยชัดคำนัก ตามประสาคนเมา แต่เป็นคำถามที่ชวนให้คนฟังอย่างเขาขมวดคิ้วตามไปด้วย
“ครับ? ”
“อย่ามาทำไก๋ กูรู้หมดแล้ว ทั้งเรื่องอันดา เรื่องตำแหน่งแอมบาสเดอร์... เลียขาเก่งนักนะมึงเนี่ย”
“พี่พูดถึงเรื่องอะไร? ”
“จะให้พูดให้ได้ใช่มั้ยวะ ...กูรู้แล้วว่ามึงเป็นคนขุดเรื่องกูกับอันดาขึ้นมา คืนนั้นที่ผับมึงก็เจอเขา อยากได้งานคนอื่นจนตัวสั่น ถึงขนาดต้องใช้วิธีทุเรศๆ แบล็กเมล์กูแบบนี้เหรอ!? ”
ประโยคนั้นเรียกให้ตุลย์หลุดปากร้อง ‘ห๊ะ’ เขาตกใจและสับสนมากกว่าโกรธคนตรงหน้าด้วยซ้ำ
“พี่! ผมไม่รู้ว่าพี่ไปได้ยินอะไรมาจากใคร แต่ผมไม่ได้เป็นคนแบล็กเมล์พี่กับคุณอันดา ผมเพิ่งเจอเธอครั้งเดียวที่คลับคืนนั้น ก่อนหน้านั้นผมไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าพี่กับเธอ...”
มีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกัน... ยังไม่ได้ทันพูดจบ วินทร์ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ความโกรธระคนเศร้าโศกกระตุ้นให้ร่างโซเซนั้น โถมเข้าใส่เขาเต็มกำลังแล้วขยำคอเสื้อ แรงปะทะทำให้ตุลย์เซไปชนตัวอีกตัว จานอาหารหลุดมือตกแตกเสียงดังเรียกความสนใจจากคนรอบๆ หันขวับมาที่ต้นเสียง
“ไม่ใช่มึงแล้วจะเป็นใคร? ...ถ้าไม่มีกูสักคน ป่านนี้รูปมึงคงได้ขึ้นป้ายบิลบอร์ดหราแล้ว มีแต่มึงนั่นแหละที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้! ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่ามึงเป็นเด็กเสี่ยของตาแก่ศานนท์ หึ... นาฬิกาเรือนละเป็นล้านๆ ถ้าไม่ได้เป็นเศรษฐี ลำพังดารากิ๊กก๊อกอย่างมึงไม่มีปัญญาซื้อใส่หรอก”
วินทร์ตะคอกใส่เสียงดังลั่นต่อหน้าคนที่ยืนมุงดูอย่างหวาดเสียว ขณะบางส่วนวิ่งเข้ามา พยายามดึงร่างดาราหนุ่มออกไปจากเขาด้วยกลัวว่าจะเกิดเรื่องชกต่อย
“มึงทำลายชีวิตกู ไอ้เหี้ยตุลย์! ...ปล่อยกู! ”
วินทร์สบถด่าเขาอยู่หลายคำตอนที่ถูกพนักงานและแขกช่วยกันจับแยกออกไป ทิ้งให้ตุลย์ยืนหน้าเสีย อับอายทำตัวไม่ถูกกลางวงล้อมของแขก ชั่ววินาทีหนึ่งที่เขารู้สึกอื้ออึง เหมือนหลุดจากโลกความเป็นจริงไป
เขาคิดมาตลอด ว่าการเริ่มต้นใหม่ในวงการบันเทิงจะลบล้างชื่อเสียงเสียหายของตัวเอง
แต่ก็เปล่าเลย... เขายังถูกมองเหมือนวัตถุไร้ราคา ต่างกันเพียงแค่ว่าตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดครหาต่อหน้าเขา “เป็นอะไรมั้ย มีใครบาดเจ็บหรือเปล่า”
ผู้จัดละครสาววิ่งผ่าวงล้อมเข้ามาหา เธอเหลือบมองวินทร์แวบหนึ่งก่อนจะเผยสีหน้าเป็นกังวล
“ขอโทษนะ พี่ไม่คิดว่าเชิญเขามาแล้วจะก่อเรื่องใหญ่โต วินทร์แค่เมาเลยพูดอะไรออกไปไม่คิด ช่วงนี้เขาเจอมาหนัก ทั้งกระแสโซเชียล ทั้งเรื่องงาน พี่ต้องขอโทษแทนเรื่องวุ่นวายที่เขาก่อด้วย แต่พี่อยากให้เข้าใจว่า เขาไม่ได้ตั้งใจ...”
“.......”
เห็นท่าทีลังเล หญิงสาวจึงดึงมือเขาไปกุม “พี่ขอร้องอย่าเอาเรื่องเขาเลย... ตอนนี้สภาพจิตใจวินทร์แย่พอแล้ว ขืนมีข่าวให้โจมตีอีก เขาต้องกู่ไม่กลับแน่ๆ แล้วก็ขอร้องอย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าข้างนอกเลยนะ โดยเฉพาะกับคุณศานนท์ พี่ไม่อยากให้วินทร์ไปขัดใจกับคนใหญ่คนโตแบบนั้น เดี๋ยวพี่จะกำชับทุกคนในงานไม่ให้พูดเรื่องนี้เอง สัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอเสียหาย แต่อย่าถือสาเขาเลยนะ ถือว่าพี่ขอร้อง...”
สายตาเว้าวอนน่าเห็นใจของเธอทำเอาตุลย์ลอบถอนหายใจเบาๆ สถานการณ์ในตอนนี้บีบให้เขาตอบได้เพียงอย่างเดียว
“ครับ...”
ที่ผ่านมาเขาชื่นชมวินทร์เป็นแบบอย่าง เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ รู้จักวางตัว ทุ่มเทให้กับงานและชีวิตในสัดส่วนเท่าๆ กัน แต่พอได้เห็นสภาพดาราหนุ่มในมุมที่เหลวแหลกเช่นนี้ เขากลับรู้สึกหมดความนับถือและผิดหวังอย่างมาก
...เขาไม่คิดเลยว่าจะถูกวินทร์ใส่ร้ายเพียงเพราะเขารับบทบาทแทนอีกฝ่ายแค่ประเดี๋ยวประด๋าว ตุลย์เดินออกจากวงล้อมฝูงชน ก่อนจะถูกเพื่อนดาราที่เห็นเหตุการณ์ก็เข้ามาไถ่ถามว่า ‘เกิดอะไรขึ้น’ แต่เขาไม่อยากเล่าให้ใครฟังเท่าไหร่นัก ตุลย์อยู่ในงานเลี้ยงต่ออย่างไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม ก่อนจะขอตัวกลับทันทีที่เรือวนกลับมาจอดเทียบท่าที่ฝั่ง
------------------------
ตุลย์ถึงกองถ่ายในรุ่งเช้าวันถัดมาด้วยสภาพงัวเงียไม่สดชื่นนักเพราะมีเรื่องให้ขบคิดทั้งตลอดคืน เขาเริ่มทำงานเหมือนทุกวัน ทว่าน่าแปลกที่เช้าวันนี้ เขาบังเอิญเจอซินดี้ขณะที่เจ้าหล่อนกำลังยืนคุยอยู่กับทีมงานในกองถ่าย
“มีธุระเหรอครับ? ”
“มีย่ะ แต่ไม่ใช่ของหล่อน เป็นธุระของฉัน” เธอแกล้งทำเสียงจิ๊จ๊ะ ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นใบหน้าเขาในระยะประชิด “แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมหน้าโทรมๆ ซีดๆ อย่างกับเป็นลูคีเมียล่ะ เมื่อวานปาร์ตี้หนักเหรอ? ”
“ก็นิดหน่อยครับ เมื่อคืนกลับดึก”
“โธ่ ไปกับวินทร์อีกล่ะสิ นังเด็กนี่ ให้มันน้อยๆ หน่อย! เขาไม่ใช่คนที่หล่อนควรเอาเป็นแบบอย่างหรอกนะจะบอกให้”
ถูกเตือน ตุลย์ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ หัวเราะกลบเกลื่อนอย่างอธิบายอะไรไม่ได้มาก
งานของตุลย์ช่วงเช้าลุล่วงไปด้วยดี หลังเลิกกอง เขาก็แวะทานข้าวใกล้กับสตูดิโอ ก่อนจะตรงกลับออฟฟิศศานนท์ กดลิฟต์ขึ้นชั้นยี่สิบเอ็ดอย่างปกติวิสัย แต่จังหวะที่กำลังจะเดินเลยห้องอาหาร ตุลย์ก็สะดุดตากับร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าเครื่องชงกาแฟ
“คาเฟอีนรอบบ่ายไม่พอเหรอครับ? ” ถามอย่างขี้เล่น
มือที่กำลังเติมผงกาแฟลงในแก้วชะงักเล็กน้อย พอเหลียวหลังพบว่าเป็นตุลย์ ศานนท์ก็เผยสีหน้าแปลกใจ
“เลิกงานแล้วเหรอ? ”
“ครับ วันนี้เสร็จเร็ว ไม่มีอะไรมาก อีกอย่างผมไม่มีเรียนต่อแล้วด้วย เลยว่ามานั่งเล่นที่ออฟฟิศคุณ ก็...ถ้าผมไม่มารบกวนนะ”
ตุลย์จงใจเติมท้ายประโยคให้ฟังดูเหมือนลังเล รู้แล้วว่าฝ่ายนั้นอยากให้เขามานั่งขลุกที่ออฟฟิศบ่อยๆ ด้วยซ้ำ ศานนท์ฟังก็ยิ้มมุมปากเล็กๆ อย่างรู้ทัน
“แล้วนี่อะไรครับ? กาแฟเหรอ”
เขาชะโงกดูผงสีน้ำตาลละเอียดที่อยู่ก้นแก้ว งุนงงเล็กน้อยที่อีกฝ่ายเลือกกาแฟผงทั้งที่เครื่องชงกาแฟก็อยู่ตรงหน้า
“เย็นแล้ว ฉันไม่อยากดื่มอะไรที่เข้มมากๆ ” หนุ่มใหญ่น้ำร้อนใส่แก้ว “เธอล่ะ เอาอะไรมั้ย? ”
“ไม่ครับ ผมเพิ่งกินมาเมื่อกลางวัน”
ได้เครื่องดื่มแล้ว ศานนท์หยิบแก้วกาแฟเดินออกจากห้องอาหารโดยมีตุลย์ตามหลัง ทว่าจังหวะที่ผ่านประตู พวกเขาก็สวนกับอัฐอย่างพอดิบพอดี ผู้มาเยือนเห็นเขาก็เอ่ยทักทายสั้นๆ
“สวัสดีครับ คุณหนูมีธุระที่นี่เหรอครับ? ”
“เปล่าหรอกครับ ผมแค่ว่างเฉยๆ ”
“อ๋อ เหรอครับ”
...? ...
เป็นอันจบการสนทนากับตุลย์เพียงเท่านั้น จากนั้นอีกฝ่ายเอ่ยทักทายศานนท์ตามมารยาทโดยจงใจเมินผ่านเขาไป เพราะเสียงผู้พูดราบเรียบเสมือนประโยคทั่วไป ทำให้ตุลย์ใช้เวลาอยู่หลายวินาทีกว่าจะเข้าใจนัยของคำถามที่ว่า
‘ถ้าไม่มีธุระก็ไม่ต้องเสนอหน้ามา’ ตุลย์มุ่นคิ้วอย่างไม่ชอบใจนัก กี่ครั้งๆ อัฐก็ทำตัวเย็นชาใส่เขาตลอด แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำอะไรให้ฝ่ายนั้นเลย วินาทีนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นแก้วกาแฟในมือผู้บริหารหนุ่ม มันกระตุ้นให้นึกอยากแกล้งอีกฝ่ายคืนขึ้นมา
“ผมว่าผมดื่มอะไรหน่อยดีกว่า”
ตุลย์วกกลับไปที่เค้าท์เตอร์ เขาหยิบแก้วตัดหน้าอัฐ แล้วตักผงโกโก้จากโหลใส่ จากนั้นก็แสร้งทำลังเลอยู่หน้าเครื่องทำน้ำร้อน ว่าจะใส่น้ำตาลกี่ช้อนดี ซึ่งการที่เขาเดินวนเวียนอยู่หน้าตู้นั้น ทำให้อัฐต้องยืนถือแก้วรอคิว
“คุณว่าผมใส่อะไรเพิ่มดี” แสร้งหันไปถามศานนท์ ฝ่ายหนุ่มใหญ่มองเขาอย่างนึกขำ
“ใส่น้ำตาลสิ”
ตุลย์ตักน้ำตาลใส่ จากนั้นก็เผยสีหน้าลังเลคล้ายไม่รู้ว่าหวานแล้วหรือยัง
“ใส่อีกดีมั้ยครับ? ”
ถามก่อนจะตักใส่ลงไปอีกช้อนเมื่อศานนท์พยักหน้า
“ใส่นมด้วยมั้ย”
ถูกศานนท์แหย่อย่างรู้ทัน เขาก็พยักหน้าก่อนจะตักนมผงใส่ลงไปด้วย ตุลย์กดน้ำร้อนใส่แก้ว คนซ้ำๆ อยู่หลายนาที นานจนพอใจแล้ว เขาถึงหยิบแก้วกาแฟ ยอมถอยให้อัฐได้ชงต่อ
“ผมเสร็จแล้วครับ ขอโทษด้วยถ้าผมทำให้รอนาน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบ” อัฐยิ้มเย็นตอบ
“งั้นไม่รบกวนเวลาชงกาแฟคุณดีกว่า”
พูดจบทั้งเขาและศานนท์ก็เดินออกมาจากห้องอาหารทันที หนุ่มใหญ่ถึงกับหลุดขำกับการกระทำเมื่อครู่ของเขา ส่วนตุลย์ก็ถอนหายใจเบาๆ รู้อยู่แก่ใจว่าเพิ่งทำเรื่องกวนประสาทใส่คนของหนุ่มใหญ่ โชคดีที่ฝ่ายนั้นไม่ถือสา เขาจึงเอ่ยถามสิ่งที่คาใจอยู่
“คุณอัฐเขามีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่า เขาเกลียดผมเหรอ? ”
“เปล่า ไม่ได้เกลียด เขาแค่ไม่ค่อยพอใจที่ช่วงนี้ฉันเอาใจเธอเป็นพิเศษ”
“ทำไมครับ? ” ตุลย์มุ่นคิ้วเล็กน้อย
“เขาว่าเธอทำให้ฉันว่อกแว่ก ซึ่งก็จริง”
“อา...”
รอยยิ้มจนใจของศานนท์ทำให้ตุลย์เกาหน้าเก้ออย่างสองจิตสองใจ
ตอนนี้เขาชักสับสนแล้ว ว่าตัวเองกำลังชักจูงศานนท์ไปในทางที่ดีขึ้น หรือแย่ลงกันแน่ “แต่เขาล่วงเกินเธอไม่ได้หรอกถ้าฉันไม่อนุญาต ไม่ว่าด้วยคำพูดหรือการกระทำ เรื่องชีวิตส่วนตัวเป็นสิทธิ์ขาดของฉัน ดังนั้นเธอไม่ต้องเป็นกังวล”