@คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่26 ตอนจบ] อัพล่าสุด>>>>22/10/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่26 ตอนจบ] อัพล่าสุด>>>>22/10/59  (อ่าน 105019 ครั้ง)

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่ลุ้นว่าบ้าไม่บ้าแล้ว แต่ลุ้นว่าพ่อเลี้ยงจะบอกอะไร

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เรื่องนี้มัน!!! สนุกมากกกกกก
ชอบมากด้วย

ออฟไลน์ Tastsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่15]
«ตอบ #182 เมื่อ11-10-2016 17:52:29 »

                “จะอะไรกันนักหนา คนมันก็ตายๆ ไปหมดแล้วยังจะมาตั้งกฎบ้าบออะไรอีก!”
                คุณนายอมรแทบอาละวาด เพราะเมื่อโทรหาทนายประจำตระกูลก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมเรื่องตู้เซฟ
                “หยุดอาละวาดเถอะน่า ผมรำคาญแล้วนะ!” คุณเกริกถอนหายใจเฮือกใหญ่
                “จะไม่ให้อาละวาดได้ไง เงินจะไม่มีใช้อยู่แล้ว”
                “แล้วใครให้คุณขายหุ้นบริษัทไปฮะ!”
                “บริหารเป็นไหมล่ะ แถมมันยังทำท่าจะเจ๊งอีก! โอ๊ย.. เครียด!”
                “แล้วคุณโทรหามันติดบ้างหรือเปล่า”
                “มันปิดเครื่อง!!”
                “ผมบอกคุณแล้วว่าอย่าไปไว้ใจมัน เห็นไหม มันทรยศเราแล้ว!”
                “แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะ คิดว่าคนโง่ๆ ซื่อๆ อย่างมันจะยอมฟังคำสั่งเรา แล้วลูกน้องคุณน่ะ หาไม่เจอบ้างหรือไง”
                “ประเทศไทยมีตั้งหลายจังหวัด แล้วผมจะหาเจอไหมล่ะคุณ”
                “โธ่เอ๊ย! ฉันละเบื่อจริงๆ… แล้วที่หมู่บ้านนั่นต้องมีคนรู้ที่อยู่ของพวกมันแน่ๆ ทำไมไม่ไปจับมัน”
                “พวกนั้นบอกยัยป้านั่นมีฝีมือ โดนยิงเกือบตายไปหลายคนแล้ว”
                “ก็ไปถล่มมันสิ!”
                “ถ้าอยากติดคุกก็จัดการเองสิ” คุณเกริกพูดพลางลุกจากโซฟาแล้วออกไปข้างนอก
                “คุณจะไปไหน”
                “ไปคลายเครียด!”
                “โธ่เอ๊ย เปื้อนหมดเลย!” แพรวที่เพิ่งกลับจากช็อปปิ้งนั่งลงบนโซฟาอย่างหงุดหงิด
                “มีอะไรยัยแพรว แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ แกนี่ มหาวิทยาลัยปิดก็หาแต่เรื่องเสียเงินให้ฉันนะ”
                “แพรวมาถึง แม่ก็บ่นเลยอ่ะ ยิ่งอารมณ์เสียอยู่ด้วย”
                “อารมณ์เสียอะไร”
                “ก็ยัยแก่ที่ไหนไม่รู้น่ะสิคะ มาเป็นลมจนทับแพรวเลยอ่ะ หยึย! น่าเบื่อมาก ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า” แพรวพูดแล้วเดินขึ้นไปชั้นสองก่อนจะหันหลังกลับมาถาม
                “แม่คะ เพชรมันไปเที่ยวเชียงใหม่ใช่ป่ะคะ”
                “ใช่ แกจะทำไม”
                “หนูว่าจะไปเที่ยวด้วยน่ะค่ะ”
                “จะไปทำไม”
                แพรวไม่ตอบแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเอง
                คุณนายอมรถอนหายใจแล้วส่ายหัว “มีแต่เรื่องชวนปวดหัวจริงๆ”
 
ooooOoooo
 
                หินไม่ได้บ้า
                หมอนั่นแกล้งบ้า
                ผมพยายามสะบัดคำพูดของพ่อเลี้ยงให้ออกไปจากหัว
                 จริงเหรอ… ไม่มีทาง…
                ผมพับผ้าคุณหนูเข้าที่แล้วมานั่งเล่นเป็นเพื่อนคุณหนูดีซึ่งกำลังเล่นตุ๊กตา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งวางอยู่ในตระกร้าตุ๊กตา
                “นะ..หนูดี โทรศัพท์นี่เอามาจากไหนเหรอครับ”
                “อ๋อ ป้านวลบอกว่ามีคนทิ้งน่ะค่ะ เลยเอามาให้หนูดีเล่น”
                ผมมองโทรศัพท์แล้วบีบมือตัวเองแน่น…
                “หนูดีครับ ห้ามเปิดเครื่องเด็ดขาดนะครับ”
                “ค่ะ หนูดีไม่เปิดหรอกค่ะ เปิดไม่เป็นด้วย แต่อย่าบอกคุณพ่อนะคะ ถ้าคุณพ่อรู้ต้องเอาไปทิ้งแน่ๆ คุณพ่อไม่ชอบให้เอาของคนอื่นมาไว้เป็นของตัวเองน่ะค่ะ”
                “ครับ…” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
 
ooooOoooo
 
                เพชรนั่งขดตัวอยู่ในมุมกรงขัง เมื่อคืนเขานอนตรงนี้ ในสภาพอากาศที่หนาวและยุงก็กัด แถมยังต้องมานอนกับไอ้บ้านี่อีก จะมีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกไหม! ถึงจะมีเวลาออกมา   ทำธุระส่วนตัวบ้าง แต่ก็จะมีคนงานคอยเอาปืนจี้เนี่ยนะ
                “ไอ้แก่เอ๊ย! ออกไปเจอดีแน่”
                อากาศร้อนยิ่งทำให้เหงื่อไหล เหนียวตัวจนอยากอาบน้ำ
                “จะขังจนตายหรือไงวะ!” เพชรลุกยืน
                “หิวน้ำ! เอาน้ำมาดิวะ เฮ้ย ไอ้คนตัวดำตรงนั้นน่ะ เอาน้ำมาดิวะ”
                คนตัวดำที่ว่าด่ากลับทันที แม้จะพูดภาษาไทยไม่ชัดนัก แต่ก็ด่ากลับจนเพชรหน้าชา
                “ถ้ากูออกไปได้นะ พวกมึงโดนแน่!” ยิ่งพูดก็ยิ่งหิวน้ำ แถมยังรู้สึกมึนหัวอีก ปากก็ยังไม่หายดี หอบเหนื่อยเพราะร้อน ส่วนอีกคนในกรงกลับนั่งหลบมุมคล้ายว่าหลับไปแล้ว                                  เพชรจึงค่อยๆ เดินไปใกล้ อยากเห็นหน้าคนตัวใหญ่เพราะไม่ได้เห็นหน้าแบบชัดๆ กันมาตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว ตอนนั้นเพชรยังเด็ก ภูมิก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ เขาอยากเห็นหน้าตอนโตชัดๆ ว่าจะขี้เหร่แค่ไหน!
                “หลับหรือตายวะเนี่ย” เพชรเพ่งมองแต่ก็ต้องเบิกตากว้าง
                “หืม… ไม่มี… ไม่จริงน่า เป็นไปไม่ได้” เพชรยืนอึ้งกับสิ่งที่เห็น
                พรึ่บ หินลืมตาตื่น
                “เฮ้ย!” เพชรตกใจจนล้มด้วยความกลัวจึงรีบคลานหนี
                “อย่าเข้ามานะเว้ย! อย่า!“
                ฟุบ!
                ยังไม่ได้ทำอะไรเพชรก็สลบไป หินมองคนที่สลบอย่างไม่สนใจแล้วหลับต่อ แต่ไม่ทันไรก็มีคนเดินมาที่กรง
                หินค่อยๆ เดินไปหา แล้วเอ่ยเรียก “ฟะ..ฟ้า… ฟ้าเป็นยังไงบ้าง”
                ฟ้าครามไม่พูดอะไรแล้วไขกุญแจเปิดกรง หินรีบออกมาแล้วกอดเขาด้วยความคิดถึง
                “คิดถึง… ขอโทษ… ขอโทษ ฟ้าจะต่อยจะตบจะทำอะไรหินก็ได้ ถ้าฟ้าหายโกรธ”
                ฟ้าครามไม่ทำอะไรนอกจากเพียงกอด “ผมก็คิดถึงคุณ ต่อให้คุณทำร้ายผม ผมก็จะอยู่กับคุณนะ”
                หินได้ยินก็ยิ่งเจ็บปวด
                “เฮ้อ… ไปกอดกันที่ร่มเถอะ ตรงนี้แดดร้อน” พ่อเลี้ยงเอ่ยก่อนจะอุ้มคนที่นอนสลบในกรงขึ้นมาไว้ในวงแขน
                “เรื่องเด็กเพชรนี่เดี๋ยวฉันจัดการเอง ทั้งสองคนก็ไปทำความเข้าใจกันเถอะ”
 
ooooOoooo
 
                “คือ…”
                “เรามาทำความสะอาดบ้านกันดีกว่า… เราไม่ได้อยู่ที่นี่หลายวันเลยมีแต่ฝุ่น”
                ผมพูดแล้วเดินไปหยิบไม้กวาด แต่หินกลับเดินมากอดผมจากด้านหลังแล้วพร่ำบอกขอโทษตลอดเวลา แม้ผมจะบอกให้หยุดก็ตาม…
                กลางดึก
                ผมลืมตาตื่นเมื่อได้ยินเสียงคนคุยกัน ...หินกำลังพูดกับใครสักคนข้างนอก แต่ผมก็ไม่ได้หันไปมอง... ยังมีความลับอะไรอีกงั้นเหรอ… ผมรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้างนะ…
 
ooooOoooo
 
                “ฟ้านอนพักก็ได้นะวันนี้ เดี๋ยวหินไปทำงานแทนเอง” หินพูดพลางใส่เสื้อเพื่อเตรียมไปทำงาน ผมมองเขาแล้วตัดสินใจเอ่ยถาม
                “หิน…”
                “หืม…”
                “คะ..คุณไม่ได้… บ้าใช่ไหม” หินหยุดชะงักนิ่งจนมือที่ติดกระดุมเสื้อสั่นเล็กน้อย
                “ตอบผมมาตรงๆ ได้ไหม… ผมไม่อยากเป็นคนโง่อีกแล้ว”
                เขานิ่งเงียบไม่ตอบอะไร แต่ท่าทางที่นิ่งเฉยกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขาก็เป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่าเขาบ้าหรือไม่ ผมไม่รอคำตอบที่แสนเนิ่นนานนั้น ผมเดินไปที่กระสอบแล้วหยิบบางอย่างออกมา และหินเองก็ตกใจไม่น้อย
                “ปืน…” ผมเอ่ยแล้วหยิบปืนออกมา เป็นปืนที่เจ๊ลีให้ผมไว้ จำได้ว่าทำหล่นหายตอนที่หนี แต่เขาเก็บมา
                “คุณสติดี รู้ว่าอาวุธนี้ป้องกันตัวเองได้ ผมน่าจะเอะใจตอนที่เจอมัน ว่าคุณไม่ได้บ้า”
                “ฟ้าพูดอะไร หินไม่เข้าใจ ฟ้าทำตก หินเก็บมาให้เฉยๆ นะ หินไม่รู้จักอันนี้ว่าคืออะไร”
                “คะ..คุณไม่รู้จักปืนเหรอ”
                “ไม่รู้จัก ปืนกินได้ไหม”
                ผมค่อยๆ ยกปืนขึ้นแล้วจ่อไปทางเขาที่มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามคุมสติ
                “ยังจะไม่รู้จักอีกไหม แค่บอกความจริงมันเหนื่อยมากเหรอ ผมพยายามที่จะหา เหตุผลว่าคุณเป็นบ้า แต่นับวัน… ผมรู้สึกว่าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลย!” ผมค่อยๆ เดินเข้าใกล้ร่างสูงที่ยืนนิ่ง จับมือเขาแล้วมอบปืนให้
                “ยิงผมสิ… ผมไม่ตายหรอก ปืนอาจจะกินได้เหมือนที่คุณถามก็ได้นะ” ผมเม้มปากไม่ให้ร้องไห้
                หินนิ่งงันกำปืนแน่นแล้วหลับตาลงอย่างเจ็บปวด
                “ทำไมฟ้าต้องบังคับหินด้วยล่ะ ฟ้าเชื่อใจหินไหม“
                “ผมเชื่อใจคุณมาโดยตลอด… แต่การกระทำของคุณ บางครั้งมันเหมือนกับว่าคุณไม่ได้บ้า… ปืนนี้คุณไม่รู้จักใช่ไหม ผมจะเชื่อใจคุณก็ต่อเมื่อคุณกล้ายิงผม ปืนที่คุณคิดว่าเป็นของกินมันทำร้ายผมไม่ได้หรอกนะ”
                ผมยิ้มให้ จับมือเขาที่ถือปืนแล้วมาจ่อที่หัวใจผม
                “ยิงผมสิ”
                หินมองหน้าผม แววตาสั่น
                ผมจะจับตรงไกปืนแต่หินกลับกระชากมือออกแล้วปล่อยให้ปืนร่วงหล่นพื้น
                “.....” ผมมองปืนที่อยู่บนพื้นและมองหน้าเขา
                “ยิงไม่ได้…” หินก้มหน้าลงและค่อยๆ เงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด “ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ ...โกหก…”
                ทุกอย่างเงียบงัน ผมสงสัยในตัวเขา แต่ผมก็ยังแอบหวังว่าเขาจะเป็นบ้า ยอมถูกยิง  ดีกว่ารู้ความจริงที่เจ็บปวด
                “ฟ้า”
                ผมส่ายหน้าแล้วถอยหลัง แต่หินรีบมากอดผม “คุณมันเลว! ทำไมทำกับผมแบบนี้ หลอกผมทำไม! ฮึก..ก… เห็นผมเหนื่อยผมลำบาก มีความสุขมากเหรอ”
                “ไม่ใช่นะ หินไม่เคยคิดแบบนั้น… แต่มันจำเป็น”
                ผมสะบัดแขนหินออกแล้วตบหน้าเขาจนสุดแรง
                เพียะ!
                “จำเป็นเหรอ!? คุณเคยขืนใจผมและทำร้ายผม ตอบผมมาสิ เพราะคุณเป็นบ้าผมถึงให้อภัย แต่คุณเป็นคนปกติ… คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง!”
                “หินขอโทษ… ขอโทษจริงๆ” หินกอดผมอีกครั้ง
                ผมหลับตา ทั้งเสียใจ เสียความรู้ศึก โดนหลอกมานานขนาดนี้ ผมโง่มากสินะ…
                ผมร้องไห้จนเหนื่อย ไม่มีน้ำตาจะไหลออกมา นั่งเหม่ออยูบนเตียง หินนั่งข้างๆ แล้วจับมือผมไว้
                “เรื่องขืนใจ… เพราะหินรักฟ้ามานานตั้งแต่เด็ก… พอเจอฟ้า ความรู้สึกและร่างกายจึงอดกลั้นไม่อยู่ อยากสัมผัสแทบบ้า… ขอโทษที่ทำรุนแรง แต่หินรักฟ้านะ อยากครอบครอง… อยากให้ฟ้าเป็นของหินก่อนที่คนอื่นจะแย่งไป”
                ผมนั่งฟังอย่างสงบรอเขาพูดต่อ
                “เรื่องที่โกหกเพราะ…” เขาหยุดพูด
                ผมไม่เค้นให้เขาพูดต่อ เขาจะเล่าแค่ไหนก็คือแค่นั้น… นั่นหมายความว่าเขาเลือกที่จะให้ผมรับรู้แค่นี้... เชื่อใจผมได้แค่นี้…
                “เมื่อคืนคุณคุยกับใคร” ผมเอ่ยถามเพื่อหวังว่าเขาจะบอกผมบ้าง… เชื่อใจผมบ้าง…
                หินหันมามองผมทันที เขาคงตกใจที่ผมรู้…
                “…บอกไม่ได้”
                ผมกำมือแน่น พยายามเช็ดน้ำตา…
                “จุดประสงค์ของคุณคืออะไรกันแน่... ผมไม่เข้าใจ… ต้องการกลับไปทวงทุกอย่าง
เหรอ”
                “ไม่ใช่…”
                “แล้วเพราะอะไร คุณวางแผนทั้งหมดเพราะอะไร”
                “เป็นความลับ…”
                “ระหว่างเรามีแต่ความลับเหรอครับ ผมไว้ใจไม่ได้เหรอ ถึงไม่บอกอะไรกับผมเลย พี่ภูมิเปลี่ยนไป ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว พี่ที่อ่อนโยนกับผม มีอะไรจะบอกผมเสมอ แต่ตอนนี้… ไม่ใช่แล้ว…”
                “ถ้าภูมิดีนัก ฟ้าก็จมปลักกับอดีตต่อไป… ตอนนี้พี่คือหิน ไม่ใช่ภูมิ”
                ผมอึ้งกับคำพูดตัดรอน หัวใจมันเจ็บปวดไปหมด…
                “เราควรหยุดได้แล้วสินะ… อยู่ด้วยกันไปก็มีแต่ความลับ ผมเหนื่อย ทั้งกายและใจ”
                ร่างสูงนิ่งเงียบ ผมไม่รู้ว่าเขามีสีหน้าแบบไหน เพราะตอนนี้ผมได้แต่ก้มหน้าไม่อยาก        รับรู้อะไรอีกแล้ว แต่ก็หวังว่าเขาจะรั้งทุกอย่างไว้ แต่ไม่เลย
                “อืม…” หินไม่ได้รั้งผมไว้
                “.....” ผมได้แต่อึ้ง
                “หินจะไปเอง” เขาพูดก่อนก้มลงหยิบปืน
                “ลาก่อนนะฟ้า… ถ้าโชคดีเราคงได้เจอกันอีก… และหินอยากบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่า        ถึงแม้หินจะโกหก มีความลับ… แต่สิ่งที่หินไม่เคยโกหกและไม่เคยปิดบังก็คือ หินรักฟ้ามาก…”
                พูดจบเขาก็เดินจากไป เหลือเพียงผมที่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น… โกหกใช่ไหม… จากกันแล้วสินะ… ไม่มีเขาอีกแล้ว เหลือเพียงผมคนเดียว… หยาดน้ำตาที่ไหลรินกับเสียงสะอื้นแทบขาดใจ… รั้งไม่ได้… และอีกฝ่ายก็ไม่คิดรั้งเอาไว้… ไม่มีใครรั้งความรักระหว่างเราเลย…
 
 
+++++++++++++++++++++++======================

ขอบคุณทุกคนที่่ติดตามนะคะ คนบ้าทำเป็นหนังสือเเล้วนะคะ มีวางขายในเว็บเเละนำไปฝากขายที่งานหนังสือบูธ Y01 ด้วยนะคะ ใครสนใจอย่าลืมไปอุดหนุนนะคะ เล่มเขียวๆ555555


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2016 17:55:58 โดย Tastsu »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีหินทำไมไม่ง้อเลยอะ แถมยังทิ้งไปอีก เฮ้ออออออ  :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แม้แต่ฟ้าก็บอกไม่ได้
เพราะฟ้ามีแม่ที่อยู่กับคุณนาย?

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อ่าว  หินไม่ใช่ภูมิหรอ แล้วต้องการอะไร อยู่ดีๆก็ทิ้งกันไว้เฉยๆแบบนี้หรอ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มีความงง หรือว่าหินกับภูมิไม่ใช่คนเดียวกัน!?

ออฟไลน์ Tastsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่16]
«ตอบ #189 เมื่อ12-10-2016 15:57:42 »

  ผมนั่งอยู่แบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ ตั้งแต่หินออกไป ร่างกายผมมันก็ไม่ขยับอีกเลย          ผมค่อยๆ ทบทวนเรื่องราวที่เราผ่านมาด้วยกันอย่างคิดถึง แต่ก็น้อยใจเพราะเขาไม่บอกอะไรกับผมเลย ให้ผมเป็นคนโง่มาตลอด
                ผมหยิบโทรศัพท์ที่หนูดีเก็บไว้ขึ้นมาดู เป็นของผมเอง ผมทิ้งมันไปแล้วครั้งหนึ่งเพื่อที่จะได้เลิกทำเรื่องโง่ๆ แล้วคิดที่จะช่วยหิน แต่สุดท้ายหินก็จากผมไป
                ผมเปิดเครื่องขึ้นมาก็พบกับข้อความและหลายสายที่ไม่ได้รับ
                ทุกอย่างมาจาก…
                กริ๊งงงงง ทันทีที่เปิดเครื่อง สายเรียกเข้าก็ดังขึ้น ผมมองเบอร์ที่ปรากฏแล้วปล่อยให้เสียงมันดังต่อไป ผมกดตัดสายแล้วปิดเครื่องอีกครั้ง
                ผมจะไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นอีก…
 
ooooOoooo
 
                “ไอ้แก่! อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นเจอดีแน่” เพชรในเสื้อคลุมอาบน้ำเตรียมวางหมัด เพราะเขาถูกพามาที่บ้านหลังนี้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สติตั้งแต่เมื่อวาน พอตื่นมาก็นอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับ             พ่อเลี้ยง แถมยังอยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำโดยที่ข้างในไม่ได้ใส่อะไรเลย
                “ใจเย็นๆ น่า”
                “เย็นอะไรวะ โทษนะ ถึงกูจะหญิงก็ได้ชายก็ดี แต่ไม่เอาคนแก่เว้ย!”
                “เห? ผู้ชายก็ได้เหรอเนี่ย… ดูภายนอกไม่น่าจะเป็นไปได้เลยนะ” พ่อเลี้ยงเลิกคิ้วแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วหุ่นกำยำที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุมอาบน้ำของคนตัวเล็กกว่า ที่เขารู้ก็เพราะว่าตอนถอดเสื้อผ้าออก เขาได้เห็นทุกสัดส่วนของร่างกายนี้แล้ว
                “มองอะไรวะ อย่ามาหื่นกามนะเว้ย!”
                “หึๆๆ”
                “ขำทำไม”
 
                “คุณพ่อคะเสียงดัง…” หนูดีเปิดประตูเข้ามา มองพ่อและคนมาใหม่สลับไปมาอย่าง งงๆ อีกคนตั้งท่าจะปล่อยหมัด อีกคนก็ยืนขำ
                “ใครเหรอคะ คุณพ่อ”
                “แม่หนูดีไงจ๊ะ”
                เพชรเบิกตากว้างแล้วเอาหมอนขว้างพ่อเลี้ยงไม่ยั้ง
                “อย่ามามั่ว… ใครแม่..” แววตาน่าสงสารเปี่ยมด้วยความหวังของเด็กน้อย ทำให้เพชรต้องกลืนคำพูดสุดท้ายลงคอ
                “หนูดีมีแม่แล้ว!” หนูดีพูดแล้วกระโดดดีใจ
                เพชรอ้าปากค้าง เถียงไม่ออก
                พ่อเลี้ยงมองคนที่ยืนอึ้งแล้วขำไม่หยุด…
 
ooooOoooo
 
                “เลิกมัดจะได้ไหม หิวข้าว” เพชรก้มมองข้อมือของตัวเองที่ถูกมัดติดกัน แล้วแบบนี้เขาจะกินข้าวได้ยังไงล่ะ แต่ถือว่ายังโชคดีที่ไม่ต้องกินข้าวขณะใส่เสื้อคลุมอาบน้ำ
                “แก้มัดเถอะ”
                “ไม่ได้…”
                “หิวข้าว”
                “อะ..” พ่อเลี้ยงตักข้าวจ่อปาก
                “กินสิ เดี๋ยวป้อน”
                “หะ! นี่มึง..”
                “พูดเพราะๆ ไม่งั้นอดกิน”
                “ฮึ่ม… คุณ… ผมจะกินเอง ไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
                “จะแน่ใจได้ยังไงว่าไม่หนี”
                เพชรนิ่วหน้า
                “คุณแม่คะ อ้ามมม”
                เพชรมองหนูดีที่กำลังตักข้าวจะป้อนเขา
                “เอ่อ…”
                “อร่อยนะคะ กับข้าวฝีมือป้านวลอร่อยที่สุดเลย”
                พ่อเลี้ยงนั่งมองทั้งสองคนแล้วยิ้ม
 
                “ไม่ชอบเหรอคะ” หนูดีทำหน้าเศร้า เพชรจึงรีบกินข้าวที่ถูกยื่นมาให้ทันที เขาแพ้เด็ก ยิ่งเด็กที่น่ารักเหมือนกับครามตอนเด็กแบบนี้ก็ยิ่งแพ้
                พ่อเลี้ยงยกยิ้ม
                “ปล่อยได้หรือยัง” เพชรเคี้ยวตุ้ยๆ ยื่นแขนให้
                “ได้… แต่ถ้าหนี… จะปล้ำ”
                เพชรเบิกตากว้าง มันจะหื่นไปไหน
                “ว่าไง ถ้าหนีฉันจะปล้ำ”
                “อะ… อะ…”
                “กลัวอะไร ถ้าไม่หนีก็ไม่โดน… หรือจะหนี”
                “มะ..ไม่หนีก็ไม่หนีสิวะ…”
                พ่อเลี้ยงยกยิ้มแล้วแก้เชือกให้
                “อย่าลืมนะ ถ้าหนีจะปล้ำ”
                “คนอะไรน่าไม่อาย พูดเรื่องลามกต่อหน้าลูกสาวตัวเอง”
                “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูดีไม่ถือสา” เด็กน้อยเอ่ยแล้วกินข้าวตุ้ยๆ
                พ่อลูกคู่นี้เข้าขากันดีจริงๆ!
                พอกินข้าวเสร็จ พ่อเลี้ยงก็ให้เพชรตามไปที่ห้องทำงานเพราะมีเรื่องที่ต้องการจะถามให้แน่ใจ
                “มีอะไรก็พูดมาสิ” เพชรยืนกอดอกมองคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานทำหน้าเครียด
                “นายรู้จักภูมิตั้งแต่เด็กหรือเปล่า”
                “ถามทำไม…อ้อ ครามคงเล่าอะไรให้คุณฟังสินะ จะว่าไป ผมยังไม่เจอครามเลย ให้ผมเจอหน่อยสิ คิดถึงจะแย่แล้ว”
                “หืม? คิดถึง นี่อย่าบอกนะว่านายชอบคราม”
                “ใช่” เพชรพูดแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ ยกมือขึ้นกอดไว้เช่นเดิม
                “ครามหนีมากับไอ้บ้าน่ะ เป็นความผิดของพ่อกับแม่ผมเอง…”
                “นายไม่ต้องการส่งตัวทั้งสองคนไปให้พ่อกับแม่นายเหรอ”
                “ถ้าไอ้บ้าน่ะใช่ ส่วนคราม ไม่มีทาง”
                “เขารักกัน จะไปเป็นมือที่สามทำไม… ทำไมไม่หารักของตัวเองล่ะฮึ”
                เพชรมองพ่อเลี้ยงที่นั่งตรงข้ามและส่งยิ้มเจ้าเล่ห์จนเขาต้องหลบสายตา
                “วะ..ว่าแต่ ไหนล่ะเรื่องที่จะถามผม”
                “อ้อ… ก็ที่ถามไปนั่นแหละ ว่ารู้จักกับภูมิตั้งแต่เด็กไหม”
 
                “ก็ตั้งแต่เด็กนะ พ่อแม่ผมกับพ่อแม่ของภูมิอยู่บ้านเดียวกัน แต่หมอนั่นเก่งทุกอย่าง จะทำอะไรก็ดีกว่าไปหมด ส่วนครามก็ติดเจ้านั่นแจเลย”
                พ่อเลี้ยงพยักหน้า พอเข้าใจแล้วว่าบางทีเพชรอาจไม่ได้ชอบฟ้าคราม แต่เพราะอยากเอาชนะภูมิมากกว่า ด้วยนิสัยเอาแต่ใจ ไม่แปลกที่อยากจะเอาชนะ
                “แล้วพอจำได้ไหมว่าภูมิเคยมีอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่า”
                เพชรหันมามองทันที  “คุณ..ก็สงสัยเหรอ”
                พ่อเลี้ยงเลิกคิ้ว “หืม… รู้เหรอว่าหมายถึงอะไร”
                “รู้สิ… แค่คุณถาม ผมก็พอรู้ความหมายแล้ว”
                “นี่สินะ” พ่อเลี้ยงพูดพลางยื่นภาพถ่ายให้ดู “ตรงนี้ใช่ไหม” พอเลี้ยงชี้ไปที่รูปภาพของภูมิที่เคยให้ฟ้าครามดู
                เพชรเพ่งมองภาพที่ลางเลือน แต่เมื่อมองส่วนหนึ่งของใบหน้าที่ถูกโปรแกรมทำให้ชัดขึ้นเขาก็พยักหน้า
                “ดูท่าเราจะใจตรงกันเลยนะ นายรู้ใช่ไหมว่ามีบางอย่างไม่เหมือนกัน”
                “แน่นอนสิ เพราะอุบัติเหตุในครั้งนั้น ผมนี่แหละเป็นคนทำ… เรื่องมันไม่ธรรมดาแล้วจริงๆ”
                พ่อเลี้ยงลุกขึ้น “เราต้องไปถามเรื่องนี้กับหินให้แน่ใจ”
                ก๊อกๆ
                “พ่อเลี้ยงคะ ฟ้าครามมาขอพบค่ะ” แม่บ้านเอ่ยเรียก ทั้งสองคนรีบไปหาทันที เพชรยิ้มอย่างดีใจที่จะได้เจอครามอีกครั้ง แต่เมื่อพบกับสภาพของคนตรงหน้าที่มีนัยน์ตาแดงก่ำ เขาก็ใจหวิวทันที
                “คราม!”
                “คะ..คุณเพชร” เพชรกอดครามด้วยความคิดถึง
                “ในที่สุดพี่ก็เจอครามสักที เป็นห่วงมากรู้ไหม”
                ครามยิ้มบางๆ ก่อนจะผละออก
                “เป็นอะไรเหรอคราม ทำไมสภาพถึง…” เพชรมองครามที่อ่อนแรงด้วยความเป็นห่วง
                “พ่อเลี้ยงครับ… ผมจะมาขอลาออกครับ”
                “ว่าไงนะ!” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันด้วยความตกใจ
                “ทำไมคราม… แล้วหินไปไหน” พ่อเลี้ยงเอ่ยอย่างตระหนก
                “เขาไปแล้วครับ…”
                “ไปไหน!”
                ครามส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง
 
                “ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ผมต้องอยู่ที่นี่แล้ว… ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ” ครามยกมือไหว้
                “เดี๋ยว! ครามจะไปไหน มีที่ไปเหรอ” เพชรจับมือครามเอาไว้
                “นั่นสิ มาอยู่กับฉันก่อนเถอะ… เข้ามาในบ้านก่อน”
                “แต่ผม…”
                ไม่รอให้พูดจบ เพชรก็พาครามเข้ามาในบ้าน
                “สงบใจไว้ก่อนนะ เล่าทุกอย่างให้ฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” เพชรเอ่ยถาม
                “ผมถามหินว่าเป็นบ้าหรือเปล่า… ซึ่งก็เป็นอย่างที่พ่อเลี้ยงบอก เขาไม่ได้เป็นบ้า”
                “ว่าไงนะ! หมอนั่นไม่ได้บ้าเหรอ!” เพชรตะโกนด้วยความตกใจ
                พ่อเลี้ยงพยักหน้าเพราะเป็นไปตามที่คาด
                “แล้วเขาก็ไป… เพราะเรามีความลับระหว่างกันมากเกินไป เราจึงถอยให้กัน… ผมโง่มากเลยเนอะ… โง่มาตั้งนาน” ครามพูดทั้งน้ำตา
                “ไอ้หมอนั่นแกล้งเหรอวะเนี่ย อะ..เอ่อใจเย็นๆ นะคราม นอนพักก่อนเถอะ ตาแดงขนาดนี้” เพชรเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
                “ผมไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ยังไงผมก็ต้องขอลาออกและไปจากที่นี่”
                “ถ้าแม่พี่เจอ ครามจะไม่ปลอดภัยนะ”
                “แต่ผม…”
                “นอนพักก่อน เดี๋ยวตื่นมาค่อยคิด… ป้านวลครับ จัดห้องให้ครามหนึ่งห้องด้วยครับ” หลังจากพ่อเลี้ยงเอ่ย ป้านวลก็รีบไปจัดการตามคำสั่งทันที จากนั้น ทั้งพ่อเลี้ยงและเพชรก็พาครามไปนอน ร่างกายที่อ่อนล้าทำให้ครามนอนหลับอย่างง่ายดาย
                เพชรถอนหายใจเฮือกใหญ่
                “ไอ้บ้านั่นทิ้งครามไปเหรอเนี่ย ทั้งยังแกล้งบ้าอีก แปลว่าพวกผมโง่มาตั้งสิบปีเลยเนี่ยนะ”
                พ่อเลี้ยงตบบ่าเพชร “ดูแลครามไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปดูที่ไร่ก่อน”
                “ก็ไปสิ บอกผมทำไม”
                “อ้าว นึกว่าอยากรู้”
                “ใครอยากรู้เรื่องของคุณ”
                “หึ เดี๋ยวนอกใจซะเลย” ประโยคทิ้งท้ายทำให้เพชรอยากเอาหมอนขว้างตามหลังไปจริงๆ ตาแก่บ้านี่จีบเขาจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย
                “แม่คะ เหลาดินสอให้หนูดีหน่อยค่ะ” เด็กน้อยยิ้มหวาน
                “เอ่อ… ได้สิ” เพชรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขากลายเป็นแม่เด็กคนนี้ไปแล้ว แถมดูท่าหนูดีจะคิดว่าเขาคือแม่จริงๆ แต่แค่เหลาดินสอด้วยกบเหลาดินสอก็ไม่น่ายากนะ หรือแค่อยากมาอ้อนกัน
                “ขอบคุณค่ะ”
                “หนูดีไม่ไปโรงเรียนเหรอ”
                “เดี๋ยวคุณครูมาสอนค่ะ”
                “หืม… แล้วทำไมไม่ไปโรงเรียนล่ะ”
                “ไกลมากเลยค่ะ ถ้าจะเรียน หนูดีต้องเข้าไปในตัวเมืองเลย คุณพ่อเลยจ้างคุณครูมาสอนหนูค่ะ”
                “ไม่เหงาเหรอ… อยากมีเพื่อนไหม”
                หนูดีสลดลงเล็กน้อยแล้วยิ้ม
                “ไม่เหงาค่ะ มีคุณพ่อ มีป้านวล มีพี่ฟ้าคราม แล้วก็มีคุณแม่ หนูดีไม่เหงาหรอก” เพชรอึ้งในความอดทนที่ผิดจากอายุของเด็กน้อย ต่างกับเขาที่ชอบทำตัวเอาแต่ใจนิสัยเด็กอยู่เรื่อย
                “หนูดีคะ คุณครูมาแล้วค่ะ” เสียงป้านวลเอ่ยเรียก หนูดีจึงรีบออกไป
                เพชรยิ้ม “อายเด็กไหมเรา”
 
ooooOoooo
 
                “คนงานหายไปเหรอ” พ่อเลี้ยงขมวดคิ้ว ที่ฟาร์มม้าและไร่ส้มมีคนงานหายไป
                “เอ่อ… เป็นพวกคนงานใหม่น่ะ ครับอยู่ได้ประมาณหนึ่งเดือน… เมื่อเช้าจู่ๆ ก็หายไปกันหมดเลย”
                “กี่คน”
                “ห้าคนครับ”
                พ่อเลี้ยงถอนหายใจ เขาไม่ได้เป็นคนคัดคนงาน เพราะส่วนมากจะให้หัวหน้าคนงานเป็นคนรับผิดชอบ แต่สุดท้ายกลับได้คนที่ไร้ความอดทนและจู่ๆ ก็หนีไปเนี่ยนะ
                “แล้วมีประวัติของคนที่หนีไปไหม ขอดูใบสมัครหน่อย”
                “เอ่อ…”
                “อะไร”
                “คือ... ไม่ได้กรอกใบสมัครน่ะครับ ตอนนั้นมีงานเร่ง ผมเลยให้ทำเลย”
                พ่อเลี้ยงกอดอก ขมวดคิ้ว “ให้ฉันหักเงินเดือนดีไหมฮึ ตาอิ่ม”
                “ขะ..ขอโทษครับพ่อเลี้ยง ผมมันสะเพร่าจริงๆ”
                “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกล่ะ ไปทำงานต่อเถอะ”
                “ครับ”
                “หนีงั้นเหรอ” พ่อเลี้ยงขมวดคิ้วฉุกคิด
ooooOoooo
 
                ตอนเย็น
                “คราม... คราม…”
                “อืม…”
                “ตื่นได้แล้ว… นอนมากเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”
                ครามค่อยๆ ลืมตาตื่น
                “คุณเพชร…”
                “เลิกเรียกคุณเพชรเถอะ ทำไมไม่เรียกพี่เพชรล่ะ ทีภูมิยังเรียกพี่ภูมิเลย” เพชรหยุดพูด เพราะดูท่าจะทำให้คนที่เพิ่งตื่นต้องทำหน้าเศร้าอีก
                “ไปล้างหน้าเถอะ จะได้หายง่วง”
                ครามทำตามที่บอก
                เพชรดึงผ้าห่มออก หวังให้ป้านวลไปเปลี่ยนเพราะดูท่าจะไม่ค่อยมีคนใช้ ผ้าผืนนี้จึงมีกลิ่นเหม็นอับ แต่พอเอาผ้าห่มออกจากเตียง เขาก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นโทรศัพท์วางอยู่
                “ครามทำตกเหรอ…” เพชรหยิบขึ้นมาดู ไม่แน่ใจว่าแบตหมดไหมเพราะหน้าจอดับ จึงลองเปิดเครื่องดูก่อน แต่เมื่อเขาเปิดเครื่อง สายที่ไม่ได้รับและข้อความต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นมากมาย แต่สิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องที่เขาตกใจ แต่เป็นเพราะเบอร์ที่คุ้นเคย ยิ่งเมื่อเปิดอ่านข้อความเหล่านั้นเขาก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
                ครามออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเห็นเพชรถือโทรศัพท์ของตนก็ตกใจ เพชรค่อยๆ หันมามองครามอย่างไม่เข้าใจ
                “ครามแอบติดต่อกับแม่พี่เหรอ”
                ครามยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก ร่างกายสั่นด้วยความกลัว…
                “คราม… หมายความว่ายังไง พี่งงไปหมดแล้ว…”
                “ผม..ผม..ผมไม่ได้ตั้งใจ ฮึก..ก..ก... ผม…” ครามทึ้งผมตัวเอง หายใจหอบ รู้สึกปวดหัว ปวดท้องจนอยากอาเจียนออกมา…
                “คะ..คราม ใจเย็นๆ สูดหายใจลึกๆ”
                “ผะ..ผมไม่ได้... ตั้งใจ…”
                ฟุบ!
                “คราม!”
               พอสิ้นคำพูด ร่างของครามก็สลบลงในอ้อมแขน เพชรอึ้งค้างทำตัวไม่ถูก อุ้มร่างครามไว้แล้วให้แม่บ้านโทรหาพ่อเลี้ยงทันที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่16]
« ตอบ #189 เมื่อ: 12-10-2016 15:57:42 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าาา.  เกิดไรขึ้นเนี่ยะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คราม ท้องแล้วแน่ๆ
หินแอบติดต่อพรรคพวก แล้วพากันไปจากฟาร์ม
พ่อเลี้ยง เพชร  :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อ่าว

อ่าวววววววว

คนที่คุณนายพยายามติดต่อมาตลอดคือฟ้าครามหรือเนี่ย?

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
โอ๊ยๆๆๆ เกิดอะไรขึ้นหว่าาา อย่าบอกนะว่าหินเป็นตำรวจน่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ซับซ้อน ซ่อนปม  :katai4:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
ต้องอึ้งซักกกี่ครั้งกันเนี่ยยยย :katai1:
คนงานหายไป คนงานเหล่านั้นคือคนของไอ้บ้าแน่ ๆ เลย
นอกนั้นม่อยากเดา รอลุ้นดีกว่า

 :pig4: ค่ะ


ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สับสนวุ่นวาย พิศวงงงงวย o2

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฟ้าครามทรยศหินหรอ

ออฟไลน์ ดวงตะวัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ลุ้นมากๆสนุกมาก แต่ซั้บซ้อนจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยิ่งอ่านยิ่งงง!

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
ซับซ้อนจริงๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ้าว หมายความว่าไงเนี่ยฟ้าคราม
ตอนนี้ท้องแล้วใช่ไหมอ่ะ

ออฟไลน์ Tastsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่17]
«ตอบ #204 เมื่อ16-10-2016 23:18:42 »

               ‘ฟังฉันนะ ถ้าแกไม่อยากให้ฉันไล่แกกับแม่แกออก แกจะต้องแสดงละครให้เก่งๆ ตบตาทุกคนให้ได้ โดยเฉพาะไอ้บ้าผัวแก’ คุณนายพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ผม
                ‘แกต้องทำให้มันรัก เชื่อใจแก จนกว่ามันจะบอกรหัสและให้กุญแจกับแกเข้าใจไหม’
                ผมพยักหน้ารับอย่างจำนน
                ‘ฉันจะติดต่อกับแกโดยผ่านโทรศัพท์เครื่องนี้ และอย่าทรยศฉันเด็ดขาด’
                และนั่นคือจุดเริ่มต้นของผม… หลังจากที่ผมถูกผู้ชายปริศนาในกระท่อมขืนใจ …คุณนายข่มขู่ว่าจะไล่แม่กับผมออกจากบ้าน แต่ต้องแลกด้วยการกระทำแบบนี้
                ผมไม่อยากทำแน่นอนและผมก็ไม่รู้เลยว่ากุญแจกับรหัสที่ว่านั่นหมายถึงอะไร ใช้ชีวิตกับเขาช่วงแรกมีแต่ความหวาดกลัว แต่พออยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ ความสุขกลับก่อตัวขึ้น ผมไม่เคยถามเรื่องกุญแจและรหัสเขาเลย จนกระทั่งพี่ปรางบอกผมให้หนีเพราะคุณนายจะฆ่า ทุกอย่างเริ่มเพี้ยนสับสนไปหมด ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ แต่คิดไปว่าอาจเป็นเพราะหินทำร้ายคุณเพชรในวันนั้น พวกผมจึงรีบหนีออกมา…
                เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขณะที่ผมกำลังล้างจานที่ร้านเจ๊ลี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเปิดเครื่อง
                [แกอยู่ไหน! แกหนีไปทำไม]
                ‘คะ..คุณนาย’
                [แกกับไอ้บ้าอยู่ที่ไหนบอกมา! หรือจะให้ฉันตามล่าแล้วฆ่าพวกแก!]
                ‘ผม… ผม… ถ้าผมบอกคุณนายจะ ฆะ..ฆ่าพวกผมไหม…’
                […ไม่ …ฉันจะไม่ฆ่าพวกแก จะให้พวกแกกลับบ้าน แม่แกร้องไห้อยากเจอแกมากรู้ไหม]
                ‘…ผมอยู่ที่…’
                ผมบอกชื่อหมู่บ้านไป แต่ถึงอย่างนั้นผมกลับรู้สึกไม่ไว้ใจคำพูดของคุณนายจนยิ่งรู้สึกกังวล ยิ่งเจ๊ลีให้ดูภาพในโทรศัพท์ ผมก็ยิ่งร้อนรนจนอยากหนี และนั่นทำให้เจ๊ลีรู้ความจริงจากผมและให้ความช่วยเหลือ ผมไม่รู้ว่าพวกคุณท่านมาตามหาผมที่บ้านหลังไหนบ้างในหมู่บ้าน เพราะตลอดเวลาที่รอการติดต่อจากน้องชายเจ๊ลี พวกผมก็อยู่แค่ในห้องเช่า แต่เจ๊ลีก็เข้ามาบอกว่ามีคนแปลกหน้าทำตัวน่าสงสัยเข้ามาในหมู่บ้าน แต่คนในหมู่บ้านก็รวมตัวกันไล่ออกไป เจ๊ลียังบอกอีกว่า ถึงแม้คนพวกนั้นจะยอมออกไป แต่เจ๊คิดว่าต้องดักซุ่มรออยู่ที่ไหนสักแห่ง จนกระทั่งถึงวันที่พวกผมต้องหนี ก็เจอกับกลุ่มลูกน้องของคุณท่านที่ดักรอจะฆ่าพวกผม จากเหตุการณ์ครั้งนั้นจึงทำให้ผมเลิกติดต่อกับคุณนาย และเมื่อมาถึงเชียงใหม่ก็ทำให้ผมได้รู้ความจริงบางอย่างที่ทำให้ผมช็อกและรู้สึกเกลียดการกระทำของตัวเองอย่างมาก
                [เขาก็คือคุณภูมิ… ลูกจำพี่ภูมิได้ไหม]
                คำพูดของแม่ทำให้ผมรู้สึกผิดกับสิ่งที่กระทำ ผมได้แต่พร่ำขอโทษเขาและตั้งมั่นที่จะช่วยให้พี่ภูมิได้กลับไปทวงทุกอย่าง
                ...แต่ว่าตอนนี้เขาไม่อยู่กับผมแล้ว
 
ooooOoooo
 
                “เกิดอะไรขึ้น”
                “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” เพชรทรุดลงอย่างหมดแรงเมื่อครามเข้าไปในห้องไอซียู
                “เอานี่ไปดู” เพชรยื่นโทรศัพท์ให้พ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงรับไปอย่างงงๆ
                “ครามติดต่อกับแม่ผม”
                “อะไรนะ”
                “ผมคิดว่าครามกับแม่ผมต้องติดต่อกันตั้งแต่แรก…” เพชรเสยผมตัวเองแล้วถอนหายใจ
                “แต่ผมเชื่อว่าครามต้องถูกบังคับแน่ๆ ผมรู้จักครามดี และก็รู้จักแม่ผมดีด้วย”
                “เฮ้อ…” พ่อเลี้ยงถอนหายใจแล้วนั่งลงข้างๆ
                “แล้วจะเอาไงต่อ”
                “เอาไงต่ออะไร”
                “จะช่วยครามต่อไหม รู้ความจริงแบบนี้แล้ว”
                “ก็บอกแล้วไงว่าครามถูกบังคับ ยังไงผมก็อยู่ข้างครามอยู่แล้ว”
                พ่อเลี้ยงยิ้มแล้วขยี้ผมคนข้างๆ
                “ทำไรเนี่ย ยุ่งหมดแล้ว”
                …..ประตูห้องไอซียูเปิดออก ทั้งสองคนรีบลุกไปถามอาการอย่างเป็นห่วง
                “ครามเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ” หมอวัยกลางคนขยับแว่นตา หน้าตาดูเครียดๆ แล้วส่ายหน้าจนทำให้ทั้งสองคนอดเป็นห่วงไม่ได้
                “อะไรครับ คะ..ครามเป็นหนักเหรอครับ”
                “เอ่อ… คนไข้มีอาการเครียดสะสมมากเกินไปน่ะครับ เลยทำให้หมดสติ อาการไม่น่าห่วงอะไร”
                “เฮ้อ…” เพชรถอนหายใจโล่งอก
                “แต่… เอ่อ… อะแฮ่ม!” หมอขยับแว่นตาอีกครั้งแล้วพูดเสียงแผ่วเบาอย่างไม่มั่นใจ
                “คะ..คนไข้กำลังตั้งครรภ์ครับ”
                “..…”
                “..…”
                “หะ..! อะไรนะครับ!”
                คงจะไม่มีเรื่องอะไรน่าตกใจไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับเพชรและพ่อเลี้ยง… ทั้งสองคนมองตากันปริบๆ
                “หมอล้อเล่นใช่ไหมครับ” พ่อเลี้ยงเอ่ยติดตลก แต่พอมองหน้าหมอแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่
                “ตามมาคุยกับหมอที่ห้องก่อนดีกว่าครับ” ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วเดินตาม
                “คนไข้ท้องได้สี่สัปดาห์แล้วครับ… หมอเพิ่งเคยเจอเคสนี้ คนไข้น่าจะอยู่ในกลุ่มคนมี  สองเพศน่ะครับ หมอคงต้องขอข้อมูลจากโรงพยาบาลและหมอประจำตัวคนไข้ก่อน”
                เพชรนิ่งค้าง อยากตบหน้าตัวเอง เรื่องจริงเหรอเนี่ย! หลังจากที่ครามออกมาจากห้องฉุกเฉินและย้ายมาอยู่ห้องพิเศษ ทั้งเพชรและพ่อเลี้ยงต่างยืนมองนิ่งค้างไม่มีใครพูดอะไร
                “ผมกำลังฝันอยู่หรือเปล่าเนี่ย” เพชรพูดพลางขมวดคิ้ว
                “ให้จูบไหมจะได้รู้” พ่อเลี้ยงพูดแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้
                “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเล่นนะคุณ” เพชรเดินหนีไปนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรงเอาดื้อๆ
                “จะเอาไงดีเนี่ย ไอ้บ้านั่นก็หนีไปไหนแล้วไม่รู้… อย่าให้เจอนะ จะ…”
                “จะอะไร คราวที่แล้วก็กลัวจนสลบนี่”
                เพชรอึกอักก่อนจะโพล่งออกมา “โธ่เว้ย! แล้วจะทำไงดี”
                “ก็คงต้องออกตามหากันล่ะนะ… จริงสิฉันมีเรื่องจะบอก” พ่อเลี้ยงนั่งข้างๆ แล้วเขยิบใกล้จนเบียด
                “ก็พูดมาสิ จะเบียดทำไม”
                “ก็มีเรื่องจะบอก”
                “อะไร…”
                “คนงานฉันหนีไปห้าคน”
                “แล้วไง”
                “เป็นวันเดียวกับที่หินออกไป”
                เพชรย่นคิ้ว
                “คิดว่าจะเกี่ยวกันไหม” พ่อเลี้ยงไม่พูดเปล่า ยกโทรศัพท์ขึ้นมา
                “มีอะไรจะให้ดูด้วย… บังเอิญเจอบางอย่างน่ะ” พ่อเลี้ยงเปิดรูปของหินและครามซึ่งถูกถ่ายตอนที่ครามยังทำงานอยู่ที่ร้านเจ๊ลี เป็นรูปที่ถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวางบนอินเตอร์เน็ต
                “ทำไมเหรอ…” เพชรนิ่วหน้ามอง
                “เราสองคนควรจะไปเป็นนักสืบนะ รู้สึกจะเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที” พ่อเลี้ยงยกยิ้ม
                “อะไรของคุณ”
                “ดูนี่สิ….ตรงคอมเมนต์ใต้รูปภาพน่ะ”
                เพชรเบิกตากว้าง “ไม่จริงน่า”
                “จริงยิ่งกว่าจริง… แค่นี้ก็น่าจะพอคลี่คลายทุกอย่างได้หมดแล้ว เหลือเพียงจุดประสงค์”
                “จุดประสงค์อาจจะเกี่ยวกับพ่อและแม่ผม…” เพชรขมวดคิ้วและซบหน้าลงกับฝ่ามือ
                “ผมควรทำยังไงดี มันสายเกินไปแล้วใช่ไหม… ผมเองก็อาจจะมีส่วนด้วย”
                “ไม่เอาน่า…” พ่อเลี้ยงดึงมือของเพชรออกแล้วสวมกอด “ใจเย็นๆ”
                “ผม…”
                “ให้เป็นไปตามกรรมดีกว่านะ เพราะทุกอย่างมันเริ่มมานานแล้ว คงหยุดไม่ได้”
                “อะ..อืม” เสียงครางจากคนบนเตียงพยาบาลทำให้ทั้งสองคนหยุดชะงักและรีบเดินไปที่เตียง
                “คราม! เป็นยังไงบ้าง” เพชรพูดพลางจับมือคราม
                “ผม… ผมปวดหัว…”
                เพชรบีบมือของครามเบาๆ จะบอกยังไงดี เรื่องที่ครามท้อง เพราะมันฟังดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินไป แต่จากที่หมอบอก แปลว่าครามต้องรู้เกี่ยวกับร่างกายตัวเองอยู่แล้ว
                ครามมองเพชรและพ่อเลี้ยงแล้วหลบสายตา
                “ขอโทษนะครับ… คุณเพชรคงเห็นทุกอย่างในโทรศัพท์ผมแล้ว ผมเลวมากใช่ไหม”
                “พี่เข้าใจครามนะ…”
                ครามมองหน้าเพชรกับพ่อเลี้ยง แล้วกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่…
                “อย่าร้องไห้สิ เดี๋ยวลูกในท้องก็ร้องไห้ตามหรอก”
                ครามชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของเพชร
                “อะ..อะไรนะครับ!”
                “เอ่อ… คราม… ครามท้องได้สี่สัปดาห์แล้วนะ”
                ครามมองหน้าทั้งสองคน ไม่มีแววพูดเล่นเลย
                “คุณเพชร…”
                เพชรวางมือบนหน้าท้องแบนราบ “…ตรงนี้มีเด็กอยู่นะ”
                ครามค่อยๆ จับท้องตัวเองอย่างแผ่วเบา “ไม่จริง…”
                “จริงยิ่งกว่าจริง… ครามรู้มาตลอดใช่ไหมว่าร่างกายตัวเองเป็นยังไง”
                ครามพยักหน้าช้าๆ แล้วเอ่ยต่อ “แต่หมอบอกว่าโอกาสน้อยและผมอาจเป็นหมัน”
                “แต่ตอนนี้… ครามกำลังท้อง กำลังมีเจ้าตัวน้อยนะ”
                ครามน้ำตาคลอเม้มปากแน่น
                “ละ..ลูกของผม ฮึก..ก… แต่เขากลับมาอยู่กับคนที่ไม่พร้อมอย่างผม… ฮึก..ก…”
                “ไม่พร้อมตรงไหน… ครามพร้อมทุกอย่างแค่ไม่มีพ่อเฮงซวย!” เพชรพ่นลมหายใจและนิ่วหน้าด้วยความโกรธ
                “เรื่องหิน ฉันจะตามหาหมอนั่นเองไม่ต้องห่วงนะ ไม่ยากหรอกเส้นสายฉันพอมี” พ่อเลี้ยงยกยิ้มแล้วลูบหัวของคราม
                “ไม่ต้องหรอกครับ อย่าตามหาเขาเลยเราเลือกที่จะถอยให้กันแล้ว และเขาเลือกที่จะจากผมไป อย่าตามหาเขาเลยครับ แต่ผมแค่สงสารลูกเท่านั้นที่เขาเกิดมาจากผู้ชายอย่างผม และเกิดมาไม่มีพ่อ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะดูแลเขาเอง เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับเขา”
                “พี่จะช่วยเลี้ยงด้วยนะ ไม่ต้องห่วง”
                “ขอบคุณนะครับ”
 
ooooOoooo
 
                “เดี๋ยวผมเฝ้าครามเอง”
                “อืม…”
                “แล้วเรื่องของหิน จะบอกครามไหม” เพชรพูดพลางหันไปมองร่างที่หลับอยู่บนเตียงแล้วกอดอกพิงประตูอย่างเหนื่อยใจ
                “รอให้ร่างกายแข็งแรงก่อนแล้วค่อยบอกเถอะ”
                “เฮ้อ… ขนาดผมยังตกใจไม่หาย แล้วครามจะตกใจและเสียใจมากแค่ไหนที่ถูกหลอกแล้วหลอกอีก”
                ‘คุณเพชรกับพ่อเลี้ยงพูดเรื่องอะไรกัน ถูกหลอกแล้วหลอกอีกเหรอ หินหลอกอะไรผมอีก’ ครามซึ่งแกล้งหลับและกำลังแอบฟังได้แต่คิดอยู่ในใจ ยังมีความจริงอะไรอีกที่หินปิดบังเขาเอาไว้
                “ผมอยากบอกครามให้เร็วที่สุดนะ ครามจะได้เลิกยึดติดกับภูมิสักที อยากให้ครามรู้ว่า… หินกับภูมิไม่ใช่ …คนเดียวกัน”
                คำพูดที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของเพชรทำให้ครามรู้สึกช็อกอย่างมาก…
 
                  ‘หินกับพี่ภูมิไม่ใช่คนเดียวกัน? ไม่จริงใช่ไหม!’

ออฟไลน์ ดวงตะวัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สงสารครามจัง หินกับภูมิเกี่ยวข้องกันยังไงน้าาา

ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนไปอีกกกกกกกกก

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ มิวม๊าว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หมายความว่าไงเนี่ยยยยย
ครามคงสับสนน่าดู :hao4:

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก แต่สนุกจ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด