“จะอะไรกันนักหนา คนมันก็ตายๆ ไปหมดแล้วยังจะมาตั้งกฎบ้าบออะไรอีก!”
คุณนายอมรแทบอาละวาด เพราะเมื่อโทรหาทนายประจำตระกูลก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมเรื่องตู้เซฟ
“หยุดอาละวาดเถอะน่า ผมรำคาญแล้วนะ!” คุณเกริกถอนหายใจเฮือกใหญ่
“จะไม่ให้อาละวาดได้ไง เงินจะไม่มีใช้อยู่แล้ว”
“แล้วใครให้คุณขายหุ้นบริษัทไปฮะ!”
“บริหารเป็นไหมล่ะ แถมมันยังทำท่าจะเจ๊งอีก! โอ๊ย.. เครียด!”
“แล้วคุณโทรหามันติดบ้างหรือเปล่า”
“มันปิดเครื่อง!!”
“ผมบอกคุณแล้วว่าอย่าไปไว้ใจมัน เห็นไหม มันทรยศเราแล้ว!”
“แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะ คิดว่าคนโง่ๆ ซื่อๆ อย่างมันจะยอมฟังคำสั่งเรา แล้วลูกน้องคุณน่ะ หาไม่เจอบ้างหรือไง”
“ประเทศไทยมีตั้งหลายจังหวัด แล้วผมจะหาเจอไหมล่ะคุณ”
“โธ่เอ๊ย! ฉันละเบื่อจริงๆ… แล้วที่หมู่บ้านนั่นต้องมีคนรู้ที่อยู่ของพวกมันแน่ๆ ทำไมไม่ไปจับมัน”
“พวกนั้นบอกยัยป้านั่นมีฝีมือ โดนยิงเกือบตายไปหลายคนแล้ว”
“ก็ไปถล่มมันสิ!”
“ถ้าอยากติดคุกก็จัดการเองสิ” คุณเกริกพูดพลางลุกจากโซฟาแล้วออกไปข้างนอก
“คุณจะไปไหน”
“ไปคลายเครียด!”
“โธ่เอ๊ย เปื้อนหมดเลย!” แพรวที่เพิ่งกลับจากช็อปปิ้งนั่งลงบนโซฟาอย่างหงุดหงิด
“มีอะไรยัยแพรว แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ แกนี่ มหาวิทยาลัยปิดก็หาแต่เรื่องเสียเงินให้ฉันนะ”
“แพรวมาถึง แม่ก็บ่นเลยอ่ะ ยิ่งอารมณ์เสียอยู่ด้วย”
“อารมณ์เสียอะไร”
“ก็ยัยแก่ที่ไหนไม่รู้น่ะสิคะ มาเป็นลมจนทับแพรวเลยอ่ะ หยึย! น่าเบื่อมาก ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า” แพรวพูดแล้วเดินขึ้นไปชั้นสองก่อนจะหันหลังกลับมาถาม
“แม่คะ เพชรมันไปเที่ยวเชียงใหม่ใช่ป่ะคะ”
“ใช่ แกจะทำไม”
“หนูว่าจะไปเที่ยวด้วยน่ะค่ะ”
“จะไปทำไม”
แพรวไม่ตอบแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเอง
คุณนายอมรถอนหายใจแล้วส่ายหัว “มีแต่เรื่องชวนปวดหัวจริงๆ”
ooooOoooo
หินไม่ได้บ้า
หมอนั่นแกล้งบ้า
ผมพยายามสะบัดคำพูดของพ่อเลี้ยงให้ออกไปจากหัว
จริงเหรอ… ไม่มีทาง…
ผมพับผ้าคุณหนูเข้าที่แล้วมานั่งเล่นเป็นเพื่อนคุณหนูดีซึ่งกำลังเล่นตุ๊กตา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งวางอยู่ในตระกร้าตุ๊กตา
“นะ..หนูดี โทรศัพท์นี่เอามาจากไหนเหรอครับ”
“อ๋อ ป้านวลบอกว่ามีคนทิ้งน่ะค่ะ เลยเอามาให้หนูดีเล่น”
ผมมองโทรศัพท์แล้วบีบมือตัวเองแน่น…
“หนูดีครับ ห้ามเปิดเครื่องเด็ดขาดนะครับ”
“ค่ะ หนูดีไม่เปิดหรอกค่ะ เปิดไม่เป็นด้วย แต่อย่าบอกคุณพ่อนะคะ ถ้าคุณพ่อรู้ต้องเอาไปทิ้งแน่ๆ คุณพ่อไม่ชอบให้เอาของคนอื่นมาไว้เป็นของตัวเองน่ะค่ะ”
“ครับ…” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
ooooOoooo
เพชรนั่งขดตัวอยู่ในมุมกรงขัง เมื่อคืนเขานอนตรงนี้ ในสภาพอากาศที่หนาวและยุงก็กัด แถมยังต้องมานอนกับไอ้บ้านี่อีก จะมีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกไหม! ถึงจะมีเวลาออกมา ทำธุระส่วนตัวบ้าง แต่ก็จะมีคนงานคอยเอาปืนจี้เนี่ยนะ
“ไอ้แก่เอ๊ย! ออกไปเจอดีแน่”
อากาศร้อนยิ่งทำให้เหงื่อไหล เหนียวตัวจนอยากอาบน้ำ
“จะขังจนตายหรือไงวะ!” เพชรลุกยืน
“หิวน้ำ! เอาน้ำมาดิวะ เฮ้ย ไอ้คนตัวดำตรงนั้นน่ะ เอาน้ำมาดิวะ”
คนตัวดำที่ว่าด่ากลับทันที แม้จะพูดภาษาไทยไม่ชัดนัก แต่ก็ด่ากลับจนเพชรหน้าชา
“ถ้ากูออกไปได้นะ พวกมึงโดนแน่!” ยิ่งพูดก็ยิ่งหิวน้ำ แถมยังรู้สึกมึนหัวอีก ปากก็ยังไม่หายดี หอบเหนื่อยเพราะร้อน ส่วนอีกคนในกรงกลับนั่งหลบมุมคล้ายว่าหลับไปแล้ว เพชรจึงค่อยๆ เดินไปใกล้ อยากเห็นหน้าคนตัวใหญ่เพราะไม่ได้เห็นหน้าแบบชัดๆ กันมาตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว ตอนนั้นเพชรยังเด็ก ภูมิก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ เขาอยากเห็นหน้าตอนโตชัดๆ ว่าจะขี้เหร่แค่ไหน!
“หลับหรือตายวะเนี่ย” เพชรเพ่งมองแต่ก็ต้องเบิกตากว้าง
“หืม… ไม่มี… ไม่จริงน่า เป็นไปไม่ได้” เพชรยืนอึ้งกับสิ่งที่เห็น
พรึ่บ หินลืมตาตื่น
“เฮ้ย!” เพชรตกใจจนล้มด้วยความกลัวจึงรีบคลานหนี
“อย่าเข้ามานะเว้ย! อย่า!“
ฟุบ!
ยังไม่ได้ทำอะไรเพชรก็สลบไป หินมองคนที่สลบอย่างไม่สนใจแล้วหลับต่อ แต่ไม่ทันไรก็มีคนเดินมาที่กรง
หินค่อยๆ เดินไปหา แล้วเอ่ยเรียก “ฟะ..ฟ้า… ฟ้าเป็นยังไงบ้าง”
ฟ้าครามไม่พูดอะไรแล้วไขกุญแจเปิดกรง หินรีบออกมาแล้วกอดเขาด้วยความคิดถึง
“คิดถึง… ขอโทษ… ขอโทษ ฟ้าจะต่อยจะตบจะทำอะไรหินก็ได้ ถ้าฟ้าหายโกรธ”
ฟ้าครามไม่ทำอะไรนอกจากเพียงกอด “ผมก็คิดถึงคุณ ต่อให้คุณทำร้ายผม ผมก็จะอยู่กับคุณนะ”
หินได้ยินก็ยิ่งเจ็บปวด
“เฮ้อ… ไปกอดกันที่ร่มเถอะ ตรงนี้แดดร้อน” พ่อเลี้ยงเอ่ยก่อนจะอุ้มคนที่นอนสลบในกรงขึ้นมาไว้ในวงแขน
“เรื่องเด็กเพชรนี่เดี๋ยวฉันจัดการเอง ทั้งสองคนก็ไปทำความเข้าใจกันเถอะ”
ooooOoooo
“คือ…”
“เรามาทำความสะอาดบ้านกันดีกว่า… เราไม่ได้อยู่ที่นี่หลายวันเลยมีแต่ฝุ่น”
ผมพูดแล้วเดินไปหยิบไม้กวาด แต่หินกลับเดินมากอดผมจากด้านหลังแล้วพร่ำบอกขอโทษตลอดเวลา แม้ผมจะบอกให้หยุดก็ตาม…
กลางดึก
ผมลืมตาตื่นเมื่อได้ยินเสียงคนคุยกัน ...หินกำลังพูดกับใครสักคนข้างนอก แต่ผมก็ไม่ได้หันไปมอง... ยังมีความลับอะไรอีกงั้นเหรอ… ผมรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้างนะ…
ooooOoooo
“ฟ้านอนพักก็ได้นะวันนี้ เดี๋ยวหินไปทำงานแทนเอง” หินพูดพลางใส่เสื้อเพื่อเตรียมไปทำงาน ผมมองเขาแล้วตัดสินใจเอ่ยถาม
“หิน…”
“หืม…”
“คะ..คุณไม่ได้… บ้าใช่ไหม” หินหยุดชะงักนิ่งจนมือที่ติดกระดุมเสื้อสั่นเล็กน้อย
“ตอบผมมาตรงๆ ได้ไหม… ผมไม่อยากเป็นคนโง่อีกแล้ว”
เขานิ่งเงียบไม่ตอบอะไร แต่ท่าทางที่นิ่งเฉยกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขาก็เป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่าเขาบ้าหรือไม่ ผมไม่รอคำตอบที่แสนเนิ่นนานนั้น ผมเดินไปที่กระสอบแล้วหยิบบางอย่างออกมา และหินเองก็ตกใจไม่น้อย
“ปืน…” ผมเอ่ยแล้วหยิบปืนออกมา เป็นปืนที่เจ๊ลีให้ผมไว้ จำได้ว่าทำหล่นหายตอนที่หนี แต่เขาเก็บมา
“คุณสติดี รู้ว่าอาวุธนี้ป้องกันตัวเองได้ ผมน่าจะเอะใจตอนที่เจอมัน ว่าคุณไม่ได้บ้า”
“ฟ้าพูดอะไร หินไม่เข้าใจ ฟ้าทำตก หินเก็บมาให้เฉยๆ นะ หินไม่รู้จักอันนี้ว่าคืออะไร”
“คะ..คุณไม่รู้จักปืนเหรอ”
“ไม่รู้จัก ปืนกินได้ไหม”
ผมค่อยๆ ยกปืนขึ้นแล้วจ่อไปทางเขาที่มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามคุมสติ
“ยังจะไม่รู้จักอีกไหม แค่บอกความจริงมันเหนื่อยมากเหรอ ผมพยายามที่จะหา เหตุผลว่าคุณเป็นบ้า แต่นับวัน… ผมรู้สึกว่าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลย!” ผมค่อยๆ เดินเข้าใกล้ร่างสูงที่ยืนนิ่ง จับมือเขาแล้วมอบปืนให้
“ยิงผมสิ… ผมไม่ตายหรอก ปืนอาจจะกินได้เหมือนที่คุณถามก็ได้นะ” ผมเม้มปากไม่ให้ร้องไห้
หินนิ่งงันกำปืนแน่นแล้วหลับตาลงอย่างเจ็บปวด
“ทำไมฟ้าต้องบังคับหินด้วยล่ะ ฟ้าเชื่อใจหินไหม“
“ผมเชื่อใจคุณมาโดยตลอด… แต่การกระทำของคุณ บางครั้งมันเหมือนกับว่าคุณไม่ได้บ้า… ปืนนี้คุณไม่รู้จักใช่ไหม ผมจะเชื่อใจคุณก็ต่อเมื่อคุณกล้ายิงผม ปืนที่คุณคิดว่าเป็นของกินมันทำร้ายผมไม่ได้หรอกนะ”
ผมยิ้มให้ จับมือเขาที่ถือปืนแล้วมาจ่อที่หัวใจผม
“ยิงผมสิ”
หินมองหน้าผม แววตาสั่น
ผมจะจับตรงไกปืนแต่หินกลับกระชากมือออกแล้วปล่อยให้ปืนร่วงหล่นพื้น
“.....” ผมมองปืนที่อยู่บนพื้นและมองหน้าเขา
“ยิงไม่ได้…” หินก้มหน้าลงและค่อยๆ เงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด “ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ ...โกหก…”
ทุกอย่างเงียบงัน ผมสงสัยในตัวเขา แต่ผมก็ยังแอบหวังว่าเขาจะเป็นบ้า ยอมถูกยิง ดีกว่ารู้ความจริงที่เจ็บปวด
“ฟ้า”
ผมส่ายหน้าแล้วถอยหลัง แต่หินรีบมากอดผม “คุณมันเลว! ทำไมทำกับผมแบบนี้ หลอกผมทำไม! ฮึก..ก… เห็นผมเหนื่อยผมลำบาก มีความสุขมากเหรอ”
“ไม่ใช่นะ หินไม่เคยคิดแบบนั้น… แต่มันจำเป็น”
ผมสะบัดแขนหินออกแล้วตบหน้าเขาจนสุดแรง
เพียะ!
“จำเป็นเหรอ!? คุณเคยขืนใจผมและทำร้ายผม ตอบผมมาสิ เพราะคุณเป็นบ้าผมถึงให้อภัย แต่คุณเป็นคนปกติ… คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง!”
“หินขอโทษ… ขอโทษจริงๆ” หินกอดผมอีกครั้ง
ผมหลับตา ทั้งเสียใจ เสียความรู้ศึก โดนหลอกมานานขนาดนี้ ผมโง่มากสินะ…
ผมร้องไห้จนเหนื่อย ไม่มีน้ำตาจะไหลออกมา นั่งเหม่ออยูบนเตียง หินนั่งข้างๆ แล้วจับมือผมไว้
“เรื่องขืนใจ… เพราะหินรักฟ้ามานานตั้งแต่เด็ก… พอเจอฟ้า ความรู้สึกและร่างกายจึงอดกลั้นไม่อยู่ อยากสัมผัสแทบบ้า… ขอโทษที่ทำรุนแรง แต่หินรักฟ้านะ อยากครอบครอง… อยากให้ฟ้าเป็นของหินก่อนที่คนอื่นจะแย่งไป”
ผมนั่งฟังอย่างสงบรอเขาพูดต่อ
“เรื่องที่โกหกเพราะ…” เขาหยุดพูด
ผมไม่เค้นให้เขาพูดต่อ เขาจะเล่าแค่ไหนก็คือแค่นั้น… นั่นหมายความว่าเขาเลือกที่จะให้ผมรับรู้แค่นี้... เชื่อใจผมได้แค่นี้…
“เมื่อคืนคุณคุยกับใคร” ผมเอ่ยถามเพื่อหวังว่าเขาจะบอกผมบ้าง… เชื่อใจผมบ้าง…
หินหันมามองผมทันที เขาคงตกใจที่ผมรู้…
“…บอกไม่ได้”
ผมกำมือแน่น พยายามเช็ดน้ำตา…
“จุดประสงค์ของคุณคืออะไรกันแน่... ผมไม่เข้าใจ… ต้องการกลับไปทวงทุกอย่าง
เหรอ”
“ไม่ใช่…”
“แล้วเพราะอะไร คุณวางแผนทั้งหมดเพราะอะไร”
“เป็นความลับ…”
“ระหว่างเรามีแต่ความลับเหรอครับ ผมไว้ใจไม่ได้เหรอ ถึงไม่บอกอะไรกับผมเลย พี่ภูมิเปลี่ยนไป ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว พี่ที่อ่อนโยนกับผม มีอะไรจะบอกผมเสมอ แต่ตอนนี้… ไม่ใช่แล้ว…”
“ถ้าภูมิดีนัก ฟ้าก็จมปลักกับอดีตต่อไป… ตอนนี้พี่คือหิน ไม่ใช่ภูมิ”
ผมอึ้งกับคำพูดตัดรอน หัวใจมันเจ็บปวดไปหมด…
“เราควรหยุดได้แล้วสินะ… อยู่ด้วยกันไปก็มีแต่ความลับ ผมเหนื่อย ทั้งกายและใจ”
ร่างสูงนิ่งเงียบ ผมไม่รู้ว่าเขามีสีหน้าแบบไหน เพราะตอนนี้ผมได้แต่ก้มหน้าไม่อยาก รับรู้อะไรอีกแล้ว แต่ก็หวังว่าเขาจะรั้งทุกอย่างไว้ แต่ไม่เลย
“อืม…” หินไม่ได้รั้งผมไว้
“.....” ผมได้แต่อึ้ง
“หินจะไปเอง” เขาพูดก่อนก้มลงหยิบปืน
“ลาก่อนนะฟ้า… ถ้าโชคดีเราคงได้เจอกันอีก… และหินอยากบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่า ถึงแม้หินจะโกหก มีความลับ… แต่สิ่งที่หินไม่เคยโกหกและไม่เคยปิดบังก็คือ หินรักฟ้ามาก…”
พูดจบเขาก็เดินจากไป เหลือเพียงผมที่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น… โกหกใช่ไหม… จากกันแล้วสินะ… ไม่มีเขาอีกแล้ว เหลือเพียงผมคนเดียว… หยาดน้ำตาที่ไหลรินกับเสียงสะอื้นแทบขาดใจ… รั้งไม่ได้… และอีกฝ่ายก็ไม่คิดรั้งเอาไว้… ไม่มีใครรั้งความรักระหว่างเราเลย…
+++++++++++++++++++++++======================
ขอบคุณทุกคนที่่ติดตามนะคะ คนบ้าทำเป็นหนังสือเเล้วนะคะ มีวางขายในเว็บเเละนำไปฝากขายที่งานหนังสือบูธ Y01 ด้วยนะคะ ใครสนใจอย่าลืมไปอุดหนุนนะคะ เล่มเขียวๆ555555