@คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่26 ตอนจบ] อัพล่าสุด>>>>22/10/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่26 ตอนจบ] อัพล่าสุด>>>>22/10/59  (อ่าน 104362 ครั้ง)

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
อยากได้แบบอีบุ้คจังเลยค่ะ ชอบเรื่องนี้มากกก ซับซ้อนซ่อนเงื่อนดี อิอิ :katai2-1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
งงๆๆๆๆๆ :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ห๊ะ ไม่ใช่คนเดียวกัน แล้วเป็นอะไรกัน
แล้วใครจะเป็นพระเอก พี่ภูมิที่ผูกพัน หรือหินที่ได้กินคราม ซับซ้อน/ ซ่อนเงื่อนดีอ่ะ ชอบๆๆๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ไม่ใช่คนเดียวกันแล้วเป็นใคร!?

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อื้อออ ไม่ใช่คนเดียวกันจริงๆหรือเนี่ย? แล้วหินคือใครกันแน่ล่ะ?

เฮ้อออ ซับซ้อนๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอรอ สองคนเกี่ยวข้องกันยังไง หรือหินแเปลี่ยนตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านแทนภูมิ เพื่อรอวันเปิดพินัยกรรมและทวงทุกอย่างคืน แล้วทำไมต้องเปลี่ยน รอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ may_nk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบมาก หน้าติดตาม  o13

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แล้วมันเป็นจั๋งได
จังซี่ มันต้องถอนๆๆ
ถอนๆๆๆๆๆๆ
ลึกลับซับซ้อน ซ่อนเงี่ย...เอ๊ย ซ่อนเงื่อน
ที่จริงมันก็มีระหว่างหินกับฟ้านะ
แต่หินบอกว่าความรักของหินเป็นเรื่องจริง
จะเชื่อนะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
   

ออฟไลน์ ρℓuto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ต้องเป็นห้องฉุกเฉินป่าวอ่ะ ครามเข้าห้อง ICU เลยหรอ  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หินกับภูมิไม่ใช่คนเดียวกัน อ้าว แล้วหินเป็นใครมาจากไหนละเนี่ย ทำไมมันดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนจัง

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนสุดๆ

 :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Tastsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่18]
«ตอบ #222 เมื่อ17-10-2016 18:25:00 »

                “พี่ฟ้าครามคะ ในนี้มีน้องเหรอคะ” หนูดีเอ่ยขณะจูงมือผมเดินเที่ยวเล่นในทุ่งหญ้าบริเวณหน้าบ้าน ผมออกจากโรงพยาบาลมาได้สองวันแล้ว… และได้เจ้าตัวเล็กมาด้วย ...พร้อมกับ                  ความเจ็บช้ำ
                “ครับ… ในนี้มีน้องอยู่”
                “หนูดีอยากเห็นหน้าน้องไวๆ จังเลยค่ะ โอ๊ะ ดอกไม้ตรงนี้บานสวยจังค่ะ” หนูดียิ้มเมื่อเห็นสวนดอกไม้มีดอกไม้หลากสายพันธุ์บานอยู่เต็มสวน
                มงกุฎดอกไม้
                จู่ๆ ผมก็นึกถึงตอนนั้นขึ้นมา มงกุฎดอกไม้ที่หินสวมให้ผม เขาทำขึ้นมาอย่างไร้เดียงสา แต่นั่นก็เป็นเพียงการแสดง… ผมอยากให้เขาเป็นคนบ้าต่อไป อย่างน้อยผมก็รู้จักเขาในฐานะคนบ้าที่รักผม ไม่ใช่ใครอื่นที่ผมไม่รู้จักเขาเลย ตอนนี้ แม้แต่ชื่อของเขาผมก็ไม่กล้าเรียก
                ผมจับท้องตัวเอง แล้วสูดหายใจลึกๆ ผมจะมาจิตตกไม่ได้เพราะกลัวจะมีผลกระทบกับลูกในท้อง
                “พี่ครามคะ… พี่คราม”
                “คะ..ครับ”
                “เราไปเดินเล่นกันตรงโน้นกันดีไหมคะ”
                “กลับกันเถอะหนูดี เดี๋ยวพ่อเลี้ยงก็กลับจากไร่แล้ว”
                “ยังหรอกค่ะ เพราะคุณแม่ก็ไปด้วย… คุณแม่พกกล้องไปด้วยค่ะ คงอีกนานเลย”
                ผมจับหัวตัวเอง รู้สึกปวดหนึบๆ จนอยากพัก
                “พี่ฟ้าครามปวดหัวเหรอคะ งั้นเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ” หนูดีเห็นอาการของผมไม่ค่อยดี จึงจูงมือผมกลับไป ผมนิ่วหน้าเพราะรู้สึกปวดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไปถึงผมก็นอนฟุบบนเตียงผ้าใบด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่หลับได้ไม่นานเสียงของคุณเพชรก็ดังขึ้น
                “พี่บ้าเอ๊ย!“
                “จะไปไหน… จะกลับบ้านเหรอ”
                “ใช่ จะอยู่ให้แพรวมาเจอครามหรือไง”
 
                ผมค่อยๆ ลุกนั่งเมื่อเห็นคุณเพชรและพ่อเลี้ยงมีสีหน้าตึงเครียด คุณเพชรกำลังจะขึ้นไปเก็บของกลับบ้านแต่พ่อเลี้ยงรั้งไว้
                “เดี๋ยวก่อน!”
                “ปล่อยน่าคุณใหญ่ ผมจะกลับบ้าน”
                “กะ..เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ คุณเพชรจะไปไหนเหรอครับ”
                “เฮ้อ…” คุณเพชรขยี้ผมตัวเองอย่างแรง “แพรวกำลังมาที่นี่”
                “ว่ายังไงนะครับ คุณแพรวน่ะเหรอ”
                “อืม… ยัยนั่นบอกว่าแม่ให้มาตามหาพี่น่ะ ก็เลยโทรไปหาเพื่อนพี่ แต่จริงๆ ยัยนั่นก็แค่หาเรื่องเที่ยวเท่านั้นแหละ เพิ่งโทรมาเมื่อกี้เองว่ากำลังจะถึงที่นี่แล้ว ให้จัดห้องพักให้ด้วย”
                “ถะ..ถ้าคุณแพรวมา…”
                “ก็ใช่น่ะสิ พี่ต้องรีบเก็บของ แล้วจะได้ไปจากที่นี่”
                “ฉันไม่ให้ไป” พ่อเลี้ยงรั้งแขนคุณเพชรไว้ไม่ให้ขึ้นไปเก็บของ
                “นี่คุณใหญ่ ผมไม่บอกเรื่องครามกับใครหรอก… ยังไม่เชื่อ..”
                “ไม่ใช่! ฉันไม่อยากให้ไป อยู่ด้วยกันต่อเถอะ…”
                คุณเพชรชะงัก “คะ..คุณจะบ้าหรือไง แพรวกำลังมานะ ถ้าเจอครามจะทำยังไง ผมต้องรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
                “พี่สาวนายกำลังจะมา มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”
                “ก็รีบไป..”
                กริ๊งงงงง เสียงเรียกเข้าทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง คุณเพชรมองเบอร์เรียกเข้าแล้วกดตัดสายทิ้งและรีบขึ้นไปชั้นสอง แต่พ่อเลี้ยงกลับคว้าเอวกอดไม่ให้ไป
                “ปล่อยยยยย นี่คุณจะบ้าหรือไง”
                ผมได้แต่มองดูโดยไม่รู้จะทำยังไง ผมเข้าใจว่าพ่อเลี้ยงไม่ต้องการให้คุณเพชรไปเพราะอะไร ส่วนคุณเพชรก็อยากไปจากที่นี่เพราะเป็นห่วงผม
                “เอ่อ… ผมจะซ่อนตัวครับ ผมจะกลับไปอยู่ที่กระท่อมตามเดิม คุณแพรวหาผมไม่เจอหรอกครับ”
                “ไม่ได้นะคราม ท้องแบบนี้จะอยู่คนเดียวได้ยังไง ถ้าเกิดอะไรขึ้นใครจะช่วยทัน”
                “นั่นสิ เดี๋ยวฉันจะให้คนงานไล่เขาออกไปเอง”
                กริ๊งงงงง เสียงมือถือคุณเพชรดังอีกเป็นระยะๆ
                “ผมจะไปอยู่กระท่อมครับ ถึงคุณเพชรจะกลับไปตอนนี้ คุณแพรวเธอก็คงไม่ยอม… ผมอยู่คนเดียวได้ ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ…”
                “แต่…” คุณเพชรขัด
                “ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ ถ้ายังไง พาผมไปส่งที่กระท่อมก่อนเถอะครับ เดี๋ยวคุณแพรวจะมาแล้ว”
                คุณเพชรและพ่อเลี้ยงมองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจยอมทำตามคำขอร้องของผม
 
ooooOoooo
 
                “ฟังนะคราม มีอะไรรีบโทรมาหาพี่นะ” คุณเพชรยื่นโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ผม ส่วนเครื่องเก่าก็ปิดเครื่องและเก็บไว้เอง
                “ครับ…”
                “ของใช้อะไรขาดเหลือก็บอกได้เลยนะ”
                กริ๊งงงงง เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อเนื่อง “พี่ไปก่อนนะ จะกันไม่ให้แพรวมาแถวนี้และจะให้ออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด” พูดจบ คุณเพชรก็รีบเดินออกไปกับพ่อเลี้ยง ขึ้นรถยนต์ไปรับคุณแพรวที่ทางเข้าไร่
                ผมถอนหายใจ เรื่องยุ่งยากกำลังจะมา…
                ผมมองไปรอบๆ กระท่อมบ้าน ‘ของผม’ ที่เงียบเหงาจนน่าใจหาย หิน... ไม่สิ พี่ภูมิ… ไม่ใช่... ไม่ใช่พี่ภูมิ เขาเป็นใครกัน… ใครก็ไม่รู้ที่เคยอยู่กับผม เป็นพ่อของลูกผม และเคยเป็นสามีของผม แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่กับผมแล้ว ผมยิ้มอย่างเหนื่อยล้า มองเตียงไม้ไผ่ที่เราเคยนอนกอดกัน น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง…
                “ผมคิดถึงคุณ”
 
ooooOoooo
 
                “ช้าจริงๆ เลย! ฉันรอนานแล้วนะ” หญิงสาวเอ่ยพลางลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาด้วยถึงสองใบ การแต่งกายบ่งบอกถึงความเป็นสาวไฮโซ แว่นตาดำเสริมให้เป็นสาวเปรี้ยวมากขึ้น เข้ากับริมฝีปากและชุดที่มีสีแดงไม่ต่างกัน
                “ร้อนจะตายอยู่แล้ว!”
                “เลิกแหกปากเถอะ ยัยบ้า มาทำไม รีบๆ กลับไปเลย”
                “น้องบ้า! ฉันอุตส่าห์มาตามหานะ นึกว่าตายไปแล้ว บ้านช่องก็ไม่กลับ เพื่อนแกก็บอกว่าอยู่ที่นี่ยังไม่กลับเลย ฉันนึกว่าโดนฆ่าตายไปแล้ว”
                “ฉันยังไม่ตาย เห็นแล้วก็กลับไป… หน้าด้านมากไปไหมถึงไม่เกรงใจเจ้าของบ้านน่ะ แล้วดู ขนกระเป๋าจะมาอยู่กี่ปีเนี่ย”
                “หน้าด้านพอกับแกแหละ แกยังอยู่ได้แล้วทำไมฉันจะอยู่ไม่ได้” แพรวหยุดคำพูดเมื่อเห็นหน้าคนขับรถ “เพชรนั่นใครอ่ะ!”
                “คุณใหญ่ หรือจะเรียกว่าพ่อเลี้ยงก็ได้ เขาเป็นเจ้าของที่นี่เเหละ”
                เธอรีบแย่งเพชรนั่งเบาะหน้าคู่กับพ่อเลี้ยงทันที
                เพชรพ่นลมหายใจแล้วไปนั่งโซนหลังแทน
                “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อแพรวนะคะ อายุยี่สิบสองปี ตอนนี้กำลังโสดอยู่นะคะ ขอแพรวอาศัยอยู่ที่สักระยะนะคะ”
                “เอ่อ… ครับ” พ่อเลี้ยงรับคำแล้วขับรถกลับไปที่บ้าน ระหว่างทางก็ถูกแพรวชวนคุยและซักถามไปเรื่อยจนพ่อเลี้ยงถอนหายใจ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ทีท่าว่าจะหยุด
                “โห บ้านพ่อเลี้ยงสวยจังเลยค่ะ ไม้ที่ใช้สร้างบ้านนี่แพรวเคยเห็นในทีวีว่าราคาแพงมากเลย พ่อเลี้ยงรวยจังเลยนะคะ ทั้งไร่ส้มและฟาร์มม้าที่ขับผ่านเมื่อกี้นี้อีก… ใครได้เป็นภรรยาต้อง    โชคดีมากเลยค่ะ”
                พ่อเลี้ยงไม่พูดอะไร แล้วให้คนมาขนกระเป๋าแพรวเข้าไปในบ้าน
                “คุณพ่อขา กลับมาแล้วเหรอคะ” พ่อเลี้ยงรับกอดแล้วหอมฟอดใหญ่
                แพรวนิ่งค้างเมื่อมีเด็กวิ่งมารับและเรียกพ่อ
                “พะ..พ่อเลี้ยง มะ..มีลูกแล้วเหรอคะ”
                “ครับ… หนูดีสวัสดีพี่แพรวสิครับ”
                หนูดีไหว้ตามที่บอก “สวัสดีค่ะพี่แพรว”
                “แล้ว… แล้วคุณแม่ล่ะจ๊ะ หนูดี” แพรวยิ้มฝืนถามเด็กน้อย
                “นี่ค่ะ คุณแม่หนูดี” พูดพลางชี้ไปที่เพชร เพชรสะดุ้งเล็กน้อย พ่อเลี้ยงยิ้มและกดหอมอีกฟอดที่ตอบคำถามได้ดี
                “อะไรนะ นี่เพชรไปเป็นแม่หนูดีได้ยังไง”
                “เอ่อ…” เพชรอึกอัก พ่อเลี้ยงจึงตอบคำถามแทน
                “คือแม่หนูดีเสียไปนานแล้วน่ะครับ และหนูดีก็ชอบเพชรมากจึงเรียกแม่” พ่อเลี้ยงอธิบายแม้จะโกหกไปบ้างก็ตาม
                แพรวมองไปทางน้องชายอย่างไม่เข้าใจอยู่ดี
                “งั้นหนูดีเรียกพี่ว่าแม่สิ… ให้พี่เป็นแม่ดีกว่านะ”
                “ไม่เอาค่ะ”
                คำปฏิเสธทำให้แพรวหน้าชา เธอขมวดคิ้วไม่พอใจ… เด็กบ้า!
                “เข้าไปในบ้านเถอะ” พ่อเลี้ยงเอ่ย
                แพรวเดินไปหาเพชร “เพชร นี่มันหมายความว่าไงเนี่ย”
                “อะไรของเธอ”
                “ก็ที่พ่อเลี้ยงบอกว่าแกเป็นแม่”
                “คุณใหญ่เขาก็อธิบายแล้วไง”
                “นี่ ยกพ่อเลี้ยงให้ฉันนะ หนุ่มใหญ่รูปหล่อและรวยแบบนี้ฉันขอนะ…”
                เพชรนิ่วหน้าหันไปมองพ่อเลี้ยงที่ได้ยินพอดี
                “มาขอทำไม ฉันเป็นอะไรกับเขาฮะ” เพชรหน้ามุ่ยแล้วพาหนูดีไปนั่งเล่น
                พ่อเลี้ยงพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด
                แพรวยิ้มแล้วรีบเข้าไปหาพ่อเลี้ยงชวนคุยดั่งสนิทกันมานาน… แต่ใครๆ ก็มองออกว่าพ่อเลี้ยงรู้สึกรำคาญมากแค่ไหน มีเพียงคนชวนคุยที่ไม่รู้เรื่อง ...หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ตัวกันแน่
                “เดี๋ยวผมขอตัวไปดูลูกและเมียก่อนนะครับ”
                “คะ?” แพรวกะพริบตาปริบๆ อย่างมึนงง
 
ooooOoooo
 
                “คนท้องก็ต้องบำรุงกันหน่อย” ป้าณีพูดขณะยื่นน้ำส้มคั้นที่เพิ่งคั้นเสร็จใหม่ๆ ให้ผม      ส่วนคนอื่นๆ ก็ซื้อของมาฝากไม่ขาดสาย จนท้องที่แบนราบของผมเริ่มป่องแล้ว หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาผมอยู่บ้านป้าณี เพราะกระท่อมของผมกำลังอยู่ในระหว่างซ่อมแซม
                “พวกข้าไปถางป่าตรงกระท่อมหมดแล้ว งูเงี้ยวเขี้ยวขอจะได้ไม่มี เดินก็จะได้ไม่สะดุด ส่วนกระท่อมก็ซ่อมปิดรูรั่วมิดชิดสร้างเติมให้น่าอยู่ ของภายในก็เปลี่ยนตามคำสั่งพ่อเลี้ยงหมดแล้ว”
                “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ”
                “ไม่เป็นไร ก็เอ็งท้องอยู่นี่… นึกถึงตอนที่ไม่รู้ว่าเอ็งท้องนะ ตอนนั้นเอ็งทำงานขนขี้ม้าไปมา ดีนะไม่แท้ง ไม่งั้นข้าละบาปกรรมจริงๆ” ลุงดำพูดแล้วยกมือกุมหัวเมื่อนึกถึงตอนที่สั่งให้ผมทำงานหนัก
                “ปากเสียจริงๆ ไอ้แก่ เดี๋ยวตบปากแตกเลย มาพูดแท้งอะไรล่ะ ครามอย่าไปสนใจไอ้แก่มันเลยนะ ที่จริงครามมาอยู่กับป้าเลยดีกว่านะ จะได้ช่วยเหลือได้”
                “ผมไม่อยากรบกวนน่ะครับ…”
                “ใครอยากอยู่กับแม่ล่ะ เสียงดังขนาดนี้” พี่ทัดเอ่ยขัดเลยโดนฝ่ามือป้าณีฟาดไปที่ไหล่ทันที
                ผมยิ้มบางๆ มองคนโดยรอบ ทุกคนมีน้ำใจต่อผม ทั้งที่ผมเพิ่งอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน
                “ถ้าไอ้บ้าอยู่ก็ดีสินะ…”
                ทุกคนรีบใช้มืออุดปากคนพูดทันที ทั้งยังตำหนิจนผมยิ้มขำ
                “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่เป็นไรแล้ว… ตอนนี้ผมมีแค่ลูกก็พอแล้วครับ”
                “ครามเอ๊ย… คิดแบบนี้น่ะดีแล้ว ยังไงซะก็ยังมีลูกนะ ผัวน่ะหาเมื่อไรก็ได้ แถมสวยๆ อย่างครามน่ะ แป๊บเดียวแหละ” ป้าณีเอ่ย ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
                “จะว่าไป เรื่องที่คนงานหนีไปห้าคนน่ะ แปลกเหมือนกันนา หายไปพร้อมกับไอ้บ้าเลย” ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ทุกคนก็ฉุกคิดเห็นด้วยเพราะแปลกเกินไป
                “ข้าเข้าไปในเมือง มีคนแปลกหน้าหลายคนเลยนะ ทำลับๆ ล่อๆ พวกคนงานที่หนีไปก็ดูแปลกหน้า ไม่น่าใช่คนแถวนี้นะ”
                “เออ! พูดถึงเข้าไปในเมือง เมื่ออาทิตย์ก่อนผมลงไปกรุงเทพมา ผม... ผมจำได้แล้ว”
                “อะไรของเองไอ้ทัด เกี่ยวอะไรกับกรุงเทพ ใครอยากรู้วะ”
                “ก็ผมเข้ากรุงเทพไปตลาดผลไม้ตามที่พ่อเลี้ยงสั่ง แต่เอ่อ… ผมเจอหินด้วยนะ แล้วก็…” ทัดมองมาทางผมแล้วกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่
                “พูดมาเถอะครับพี่ทัด” ผมเอ่ยบอกเมื่อเห็นพี่ทัดมีสีหน้ากล้ำกลืน
                “มีคนอยู่ด้วยน่ะ หินเดินจูงมือยายแก่ๆ น่าจะอายุประมาณแม่เนี่ยแหละ” พูดแล้วหันไปทางป้าณี จนเจอฝ่ามือตบที่ไหล่อีกครั้ง
                “ว่าใครแก่ฮะ ไอ้ทัด”
                “โอ๊ย เจ็บนะแม่”
                “เล่าต่อดิ ข้าอยากรู้” คนอื่นๆ ท้วงถามอยากฟังต่อ
                ผมบีบมือตัวเองแน่น… หินอยู่กรุงเทพเหรอ…
                “ก็มียายแก่ๆ และเอ่อ… มีสาวสวยเดินอยู่ข้างๆ ด้วยน่ะ หน้าตาทั้งสองคนนี่ชื่นบานเป็นสีชมพู จนคนรอบข้างอิจฉากันทั้งนั้น… หนุ่มหล่อสาวสวย… หินนะ พอไปเดินเมืองกรุง หน้าตาดูหล่อเหลาราศีจับ ผมเข้าไปทักนะ แต่ก็โดนเมิน…”
                จากนั้นผมก็ไม่ได้ฟังที่พี่ทัดพูดเลย… มันไม่เข้าหัว… ผมจับท้องตัวเองแล้วลูบเบาๆ ทั้งที่บอกว่าไม่เป็นไรแล้ว แต่พอได้ยินแบบนี้ผมก็ยังทำใจไม่ได้
                เขามีคนรักอยู่แล้วงั้นเหรอ… เรื่องของผมทุกอย่างคือหลอกลวงจริงๆ ใช่ไหม… มันจบจริงๆ ใช่ไหม เรื่องของเรา…
                สักพักผมก็กลับไปพักผ่อนที่กระท่อมของผม ซึ่งตอนนี้ถูกปรับปรุงจนน่าอยู่กว่าเดิม ข้าวของเครื่องใช้ก็มีครบ สะดวกสบายทุกอย่าง เตียงนอนแสนแข็งที่ยามนอนจะปวดหลังเสมอ ตอนนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดใหญ่นุ่มน่านอน แต่ถึงอย่างนั้น เตียงเก่ากลับมีความทรงจำมากมาย…
                “คงต้องยอมรับแล้วสินะ ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ หนูไม่ต้องห่วงนะ แม่จะดูแลหนูด้วยตัวแม่เอง แม้ไม่มีพ่อก็ตาม…”
                ผมลูบท้องตัวเองอย่างแผ่วเบาทั้งที่น้ำตายังคงไหลรินตลอดเวลา
 
ooooOoooo
 
                สองเดือนต่อมา...
                “พ่อเลี้ยงคะ อ้ามมมมม” แพรวทำท่าจะตักขนมให้พ่อเลี้ยง
                “ผมไม่ชอบกินขนมครับ” พ่อเลี้ยงพูดพลางลุกเดินไปเล่นกับลูกและเพชรที่อีกห้องหนึ่ง ไม่คิดว่าแพรวจะอยู่นานขนาดนี้ ตลอดเวลาสองเดือนที่แพรวมาอยู่ด้วย ทุกอย่างรวนไปหมด เพราะแพรวคอยตามติดพ่อเลี้ยงตลอดเวลา ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวให้กับลูก รวมถึงคนที่กำลังนั่งหน้าบึ้งต่อเลโก้อยู่กับหนูดี
                “เล่นอะไรกัน ให้พ่อเล่นด้วยนะ”
                “โป้ง!” หนูดียกนิ้วโป้งให้ผู้เป็นพ่อ
                “อ้าวหนูดี โป้งพ่อทำไมครับ”
                “ก็คุณพ่อชอบอยู่กับพี่แพรวนี่คะ ปล่อยให้คุณแม่เหงา”
                เพชรรีบเงยหน้ามองทันที และปะทะกับสายตาพ่อเลี้ยงที่จ้องมองด้วยริมผีปากยิ้มกริ่ม
                “ใครเหงา” เพชรหน้ามุ่ย
                พ่อเลี้ยงเขยิบไปนั่งข้างๆ “เหงาก็บอกเถอะน่า… มา เดี๋ยวจะชดเชย..”
                ยังไม่ทันจะได้เอ่ยจบ แพรวก็เข้ามา
                “เพชร แม่ให้เปิดโทรศัพท์ด้วยนะ”
                “อะ..อืม” เพชรสะดุ้งเพราะเมื่อกี้พ่อเลี้ยงเกือบจะหอมแก้มเขา ไม่รู้ว่าแพรวจะเห็นไหม
                “แล้วก็... เพชร แม่สั่งให้กลับบ้านแล้วอ่ะ มหาลัยจะเปิดแล้วด้วย เฮ้อ… เดี๋ยววันนี้ฉันว่าจะไปซื้อของในเมืองอ่ะ แม่โทรให้ซื้อของไปฝากด้วย อีกอย่างนะ ตั้งแต่มา ฉันก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย”
                “เดี๋ยวผมให้คนพาไป” พ่อเลี้ยงเอ่ย
                “ขอบคุณมากนะคะ แต่ถ้าจะให้ดี พ่อเลี้ยงพาไปเองจะดีมากเลยค่ะ”
                “เอ่อ… ผมต้องดูฟาร์มดูไร่ ไม่ว่างเลยครับ”
                “อา… ค่ะ ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวแพรวไปแต่งตัวก่อนนะคะ” พูดจบก็เดินไปที่ห้องของตัวเอง
                เหลือเพียงความเงียบ… จนกระทั่งหนูดีเอ่ย
                “คุณแม่จะไปจากที่นี่เหรอคะ”
                เพชรเงยหน้ามองหนูดี “ครับ”
                “อ้าว ทำไมล่ะคะ ไม่อยู่กับหนูดีและคุณพ่อตลอดไปเหรอ” หนูดีทำเสียงสั่นเริ่มเบะปาก น้ำตาคลอ จนเพชรอดที่จะเข้าไปกอดไม่ได้
                “พี่ต้องกลับไปหาครอบครัวพี่น่ะ… อยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้หรอก”
                “แล้วหนูดีกับคุณพ่อไม่ใช่ครอบครัวคุณแม่เหรอคะ ฮึก..ก..ฮือๆๆ พ่อขา… อย่าให้คุณแม่ไปเลยนะ…”
                พ่อเลี้ยงมองหน้าเพชรแล้วลูบหัวหนูดี
                “ไม่ต้องห่วงนะ… เดี๋ยวพ่อจะไปพาคุณแม่กลับมาอยู่ด้วยกันตลอดไป”
                เพชรมองหน้าคนพูดแล้วเบิกตากว้าง
                “จริงเหรอคะคุณพ่อ ฮึก..ก...”
                “จริงสิ ติดที่ว่า… แม่เขาจะยอมมาอยู่ด้วยหรือเปล่าเท่านั้นแหละ”
                เพชรมองหน้าคนพูด จู่ๆ หน้าเขาก็แดงจนเห็นได้ชัด พ่อเลี้ยงยิ้มเมื่อเห็นคนตรงหน้าเขิน
ooooOoooo
 
                “ฝากซื้ออะไรเปล่า เพชร” แพรวเอ่ยขณะกำลังจะขึ้นรถ
                “ไม่ล่ะ”
                “โอเค งั้นฉันไปนะ”
                “อืม… เดินทางดีๆ ล่ะ”
                แพรวก้าวขึ้นรถยนต์… ขณะที่รถกำลังเคลื่อนผ่านฟาร์มม้า สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอนิ่งค้างรีบให้คนขับรถจอด มองร่างของใครบางคนที่กำลังยืนคุยกับคนงาน
                แพรวเลื่อนแว่นตาดำขึ้นแล้วเพ่งมอง
                “นี่ขับรถไปใกล้ๆ หน่อยได้ไหม… ฉันว่าฉันเห็นใครบางคน” คนขับรถทำตามที่บอก แต่ก็เข้าไปได้เพียงนิด เพราะตรงนั้นจะเป็นที่สำหรับให้ม้ากินหญ้าซึ่งพ่อเลี้ยงไม่อนุญาตให้รถยนต์เข้าใกล้
                “นี่… คนตรงนั้นน่ะใคร คนงานเหรอ” เธอชี้ไปที่คราม
                “อ๋อ… ถ้าจำไม่ผิด นั่นคือฟ้าคราม เรียกว่าคนสนิทของพ่อเลี้ยงและคุณเพชรจะดีกว่าครับ”
                “อะไรนะ ฟ้าคราม! มันจริงๆ ด้วย ทำไมมันมาอยู่ที่นี่… เพชรคงจะหลงมันมากขนาดไม่ยอมบอกแม่เลยสิ…” พูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออก
                “แม่คะ… หนูเจอฟ้าครามแล้วค่ะ”
 

 

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แย่แล้วๆๆๆ ฟ้าครามอยู่ในอันตรายแล้วๆๆ

ว่าแต่...คนที่ทัดเจอที่กทม.คือหินจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย?

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ก็แย่ละ แพรวเห็นฟ้าครามแล้ว
ก็คิดไว้ละ ฟ้าครามจะอยู่แต่ในกระท่อมได้ตลอดยังไง
ยายคุณนายมิเผ่นโผนมาหาฟ้าเรอะ
สาวสวยที่อยู่กับหิน เป็นใครนะ  :katai1:
แต่จะเป็นใครก็ทำให้ฟ้า จิตตกไปเรียบร้อยและ
ไอ้หอยหินเอ๊ย....เมียท้องก็ไม่รู้เรื่อง รู้แต่เรื่องทำ เชอะ :m16:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอตอนต่อไปค่ะ ^ ^

ออฟไลน์ jessiblossom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกมากค่า ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แย่แล้ว พ่อเลี้ยงช่วยด้วย

ออฟไลน์ jessiblossom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกมากค่า ติดตามนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
นังแพรวนี่มันสาระแนจริงๆ!

ออฟไลน์ ดวงตะวัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โมโหชะนี :ling1:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ซับซ้อนจริงๆ

ออฟไลน์ Tastsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่19]
«ตอบ #234 เมื่อ18-10-2016 16:12:04 »

                ผมมองรถยนต์ที่ขับผ่านไปแล้วรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา ได้แต่หวังว่าคุณแพรวจะไม่ได้นั่งอยู่ในรถคันนั้น นับตั้งแต่คุณแพรวมาอยู่ที่นี่ ผมก็ไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกมากนัก ถ้าไม่ถูกพวกลุงๆ ชวนคุยไปเรื่อย ผมคงไม่ได้มายืนอยู่ข้างนอกแบบนี้
                “คราม… มานั่งพักเร็ว พวกเอ็งจะบ้าเหรอ มาชวนครามคุยกลางแดดได้ยังไงฮะ!” ป้าณีรีบเดินจูงมือผมไปพักที่บ้าน พลางบ่นพวกลุงๆ ที่ชวนผมยืนคุยกลางแดดเปรี้ยงแบบนี้
                “ไม่ไหวเล้ย... พวกนั้นก็รู้ว่าครามท้อง ยังจะชวนคุยกลางแดดอีก เป็นลมขึ้นมาจะทำยังไง”
                “นานๆ ทีผมจะออกมาข้างนอกแบบนี้น่ะครับ ทุกคนคงอยากชวนคุย”
                “ชวนคุยไม่ดูแดดน่ะสิ” ป้าณีเอ่ยแล้วยื่นน้ำเย็นให้ดื่ม
                “ว่าแต่ยัยตัวโกงนั่นยังไม่กลับไปอีกเหรอ ครามจะหลบๆ ซ่อนๆ ไปถึงเมื่อไรล่ะ”
                “ไม่รู้เหมือนกันครับ”
                เสียงรถยนต์ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก แต่พอจำเสียงรถยนต์ได้จึงออกไปดู ยิ้มเมื่อเห็นคุณเพชรและพ่อเลี้ยงลงมาจากรถ
                “คราม… ไม่เจอกันนานเลย เป็นยังไงบ้างฮึ” คุณเพชรเดินมากอดผม พอคุณแพรวมาอยู่  ที่นี่ คุณเพชรก็ไม่ได้ออกมาหาผมเลย เพราะกลัวคุณแพรวจะตามมาด้วย
                “ผมสบายดีครับ”
                “พี่ก็ว่างั้นแหละ ดูสิแก้มออกแล้วเนี่ย” ผมจับแก้มตัวเอง
                “จริงเหรอครับ… สงสัยผมคงจะกินมากเกินไป” ผมยิ้มเขิน
                “เข้ามานั่งพักก่อนเถอะ พ่อเลี้ยง คุณเพชร” ป้าณีรีบไปรินน้ำเย็นใส่แก้วให้ทั้งสองคน
                “ไม่ต้องหรอกครับป้า เดี๋ยวผมจะไปดูไร่ แค่มาส่งเพชรน่ะครับ เขาจะมาหาคราม” พ่อเลี้ยงเอ่ย แต่ก็ไม่ลืมที่จะลูบหัวผมอย่างเอ็นดูแล้วขับรถออกไป
                “ขอโทษนะคราม แพรวไม่ยอมกลับเลยน่ะ… แต่อาทิตย์หน้าก็น่าจะกลับแล้วล่ะ พี่ก็จะกลับด้วยเพราะมหาวิทยาลัยจะเปิดแล้ว”
                “คุณเพชร…”
 
                คุณเพชรจับมือผม “พี่ขอโทษนะที่อยู่ดูแลครามตลอดไม่ได้แล้ว… ครามต้องเข้มแข็งนะ ถ้าพี่ว่างจะมาหา”
                “ขอบคุณคุณเพชรมากนะครับ แค่นี้ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณยังไงแล้วครับ”
                “ถ้าจะตอบแทนก็ตอบแทนโดยการเรียกว่าพี่เพชรเถอะ ไหนลองเรียกซิ”
                “เอ่อ… จะดีเหรอครับ”
                “ดีสิ… ดีมากๆ ด้วย”
                ผมมองหน้าคุณเพชรก่อนจะเอ่ยออกไป
                “พะ..พี่เพชร” ผมยิ้มเขิน ไม่ชินจริงๆ แต่ก็ถูกกอดอย่างดีใจจากพี่เพชร
                “ดีมาก…”
                ผมยิ้มรับ
                นั่งคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยจนกระทั่งผมได้ถามพี่เพชรถึงเรื่องบางอย่างที่อยากรู้
                “พี่เพชร”
                “หืม” พี่เพชรรับคำแล้วกินขนมที่ป้าณีให้
                “ตอนที่ผมอยู่โรงพยาบาล ผมได้ยินพี่คุยกับพ่อเลี้ยงเรื่องของหินและพี่ภูมิ… ว่าไม่ใช่คนเดียวกัน” พี่เพชรถึงกับขนมติดคอจนต้องรีบดื่มน้ำแล้วหันมามองผม
                “แค่กๆๆ คะ..ครามได้ยิน…!”
                “ครับ… หินเป็นใครกันแน่ ผมอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ใช่พี่ภูมิ ในเมื่อแม่ผมเป็นคนบอกว่าเขาคือพี่ภูมิ”
                “แม่ครามบอกเหรอ”
                “ใช่ครับ…”
                “อ้าว…” พี่เพชรขมวดคิ้ว “จะเป็นไปได้ยังไง… พี่เริ่มจะสับสนแล้วล่ะ”
                “แล้วทำไมพี่ถึงคิดว่าไม่ใช่คนเดียวกันครับ”
                “…ครามจำภูมิได้มากแค่ไหน จำหน้าภูมิได้ไหม”
                คำพูดของพี่เพชรทำให้ผมนิ่งงัน ผมจำอะไรเกี่ยวกับพี่ภูมิไม่ได้เลย มีแต่ความทรงจำอันน้อยนิด แม้แต่ใบหน้าผมก็จำไม่ได้
                “ผมจำไม่ได้ครับ”
                “พี่เองก็จำไม่ได้หรอกนะ ตอนที่ภูมิถูกแม่พี่จับไปขัง ตอนนั้นภูมิอายุสิบแปด พี่อายุสิบสอง มันนานมากเกินไป สิบปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยเจอภูมิเลย ไม่แปลกหรอกที่จะจำหน้าไม่ได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่พี่จำได้อย่างแม่นยำ...”
                “อะไรเหรอครับ”
                “...รอยแผลเป็นบนแก้มข้างซ้าย”
                ผมชะงักในคำพูดของพี่เพชร รอยแผลเป็น! จะว่าไปพ่อเลี้ยงก็เคยถามผมว่าพี่ภูมิเคยประสบอุบัติเหตุตรงใบหน้าหรือเปล่า… ผมตอบว่าไม่มี เพราะหินไม่มีรอยแผลเป็น
                “รอยแผลเป็นเกิดจากกิ่งไม้ พี่จำได้ดีเพราะพี่เป็นคนทำเองน่ะ… ตอนที่พี่ถูกขังอยู่กับหิน พี่ได้มองหน้าเขาชัดๆ แล้ว แต่เขาไม่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า…”
                ผมนิ่วหน้า ยิ่งรับฟังก็ยิ่งรู้สึกเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ
                “ภูมิน่ะ ถึงแม้จะหายไป แต่ในสังคมเมื่อก่อน จริงๆ แล้วเขาดังมากนะ เพราะคุณลุงกับคุณป้ามีชื่อเสียงอยู่พอสมควรในวงการธุรกิจ แต่แปลกมากที่รูปภาพในอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวกับเขาตอนสมัย ม.ปลาย ไม่มีเลย มีแต่ที่อายุน้อยกว่านั้น และภาพก็ลางเลือนจนมองเห็นได้ไม่ชัด เหมือนกับว่าถูกปกปิดไม่ให้รู้ว่าถ้าโตมาหน้าตาจะเป็นยังไง”
                ผมนั่งอึ้ง ไม่คิดว่าทุกอย่างจะลึกลับและซับซ้อนขนาดนี้… ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยจริงๆ ทั้งหินทั้งพี่ภูมิ ผมไม่รู้อะไรเลย
                “รูปก่อนที่ภูมิจะหายตัวไป พี่ก็ไม่แน่ใจว่าที่บ้านแม่พี่จะเผารูปไปหมดหรือยัง    เฮ้อ… พี่เองก็เริ่มสับสนจากคำพูดของครามนี่แหละ ที่แม่ครามบอกว่านั่นคือภูมิตัวจริง…”
                “ผมเองก็สับสนเหมือนกันครับ…”
                “เฮ้อ... ดีนะที่แพรวออกไปซื้อของในเมือง เลยมีเวลามานั่งคุยกับครามแบบนี้”
                ผมเบิกตากว้าง
                “ว่ายังไงนะครับ คุณแพรวออกไปซื้อของเหรอครับ”
                “ใช่ เพิ่งออกไปสักพักนี่แหละ”
                ผมหน้าถอดสี เมื่อกี้นี้คุณแพรวจะเห็นผมไหมนะ… ขออย่าให้เห็นผมเลย
                ผมนั่งเครียดเรื่องคุณแพรวได้ไม่นานก็นึกถึงเรื่องที่ต้องถามอีกเรื่องหนึ่ง...
                “แล้ว… พี่เพชรรู้ไหมครับว่าหินเป็นใคร”
                พี่เพชรสะดุ้งเฮือก “มะ..ไม่แน่ใจน่ะ พี่ไม่อยากบอกอะไรผิดๆ ไป เดี๋ยวครามคิดมากอีก”
                “แล้วพี่รู้อะไรมาเหรอครับ”
                “ยะ..ยังหรอก เอาเป็นว่าพี่รู้แค่ว่าเป็นคนละคนกันนะ… แต่ครามอย่าคิดมากรู้ไหม เดี๋ยวเจ้าตัวน้อยจะคิดมากตามไปด้วย”
                “เอ่อ… ครับ”
                “ถ้าพี่แน่ใจพี่จะบอกนะ…”
                ผมพยักหน้ารับ …เมื่อไรผมจะรู้นะว่าคุณเป็นใคร…
                ผมกลับไปบ้านหลังน้อยของตัวเอง นึกถึงประโยคที่พี่เพชรพูดก่อนจะกลับไป
                ‘ถ้าเขาไม่ใช่ภูมิจริงๆ แล้วครามพอจะรู้จักใครไหมที่จะสวมรอยเป็นเขาได้ และจุดประสงค์เพื่อแก้แค้นให้กับภูมิ…’
                ผมกุมขมับตัวเอง
                “พี่ภูมิไม่มีญาติพี่น้องเหลืออยู่ที่ไหนอีกแล้ว จะเป็นใครกัน…”
                ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยอ่อน…
                 ฟ้า… จู่ๆ น้ำเสียงของใครบางคนที่เรียกชื่อผมก็ดังก้องในหัว
                ฟ้า? ชื่อฟ้า นอกจากพี่ภูมิแล้วจะมีใครเรียกอีกไหมนะ การที่หินเรียกชื่อผมว่าฟ้าแปลว่าเขารู้จักผมและเรียกชื่อผมว่าฟ้ามานานแล้ว… คนที่เรียกชื่อผมว่าฟ้านอกจากพี่ภูมิก็มีแค่… ผมนิ่วหน้าฉุกคิด
                ถ้าฟ้ามีอะไรโทรหาพี่เบอร์นี้นะ ผมลุกขึ้นพรวดทันที
                “เบอร์โทรศัพท์!” ผมรีบเปิดกระเป๋าเงินที่เก็บไว้ในลิ้นชักทันที มองเบอร์โทรปริศนาในกระดาษแล้วย้อนนึกถึงตอนที่ผมได้เบอร์โทรนี้มา คนๆ นั้นเรียกผมว่าฟ้า
                แต่ผมจำหน้าเขาไม่ได้แล้ว… จะใช่หินหรือเปล่านะ…
                ผมมองเบอร์ในมือ สูดหายใจแล้วตัดสินใจกดโทรออก
                ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดดด ดังอยู่นานแต่ไม่มีคนรับสาย จนผมถอดใจจะวางสายแต่จู่ๆ กลับมีคนรับ
                [สวัสดีค่ะ]
                เสียงปลายสายทำให้ผมนิ่งค้าง ความหวังค่อยๆ พังทลาย แม้จะไม่หวังมากแต่ก็หวังว่าคนที่รับจะเป็นหิน… คงไม่ใช่เบอร์คนที่ผมคิด…
                [เอ่อ.. สวัสดีค่ะไม่ทราบว่าใครเหรอคะ ตอนนี้เอกอาบน้ำอยู่ค่ะไม่ทราบว่า..]
                “เอก?”
                [คะ? ใช่ค่ะ ตอนนี้อาบน้ำอยู่ค่ะ ใครโทรมาเหรอกาน…] เสียงแทรกที่ได้ยินทำให้หัวใจผมหล่นวูบ… เสียงของหิน!
                [มีคนโทรมาค่ะ]
                [อืม… สวัสดีครับ]
                “…..”
                [สวัสดีครับ ได้ยินไหมครับ]
                “…..”
                ติ๊ด ผมตัดสาย มือไร้เรี่ยวแรงจนปล่อยโทรศัพท์ร่วงหล่น ชิ้นส่วนโทรศัพท์แตกกระจายเต็มพื้น
                “ฮึก..ก..ก…” ทั้งที่รู้ว่าเขามีคนใหม่แล้ว แต่เมื่อได้ยินกับหูตัวเองแบบนี้ก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี
ooooOoooo
                สองวันต่อมา
                “มีคนมาขอสมัครงานสิบคนเหรอ”
                “ครับพ่อเลี้ยง”
                พ่อเลี้ยงนิ่วหน้า
                “ให้มาพบฉันที่ห้องสำนักงาน ฉันจะเป็นคนรับเข้าทำงานเอง” พ่อเลี้ยงเอ่ยแล้วเดินไปที่ห้องสำนักงานซึ่งอยู่ใจกลางของไร่ส้ม
                ไม่นานคนสมัครงานก็เข้ามา แต่กลับมีคนหนึ่งใส่หมวกและก้มหน้าทันทีที่เดินเข้ามาในสำนักงาน พ่อเลี้ยงสำรวจคนทั้งสิบแล้วให้นั่ง แต่ก็ไม่ได้สนใจหน้าตาอะไรมาก พ่อเลี้ยงเรียกคนที่ใส่หมวกปิดหน้ามาเป็นคนแรกเพื่อซักประวัติและกรอกใบสมัคร
                “ชื่ออะไร”
                “หึ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ พ่อเลี้ยง…” เขาถอดหมวกออกเผยให้เห็นใบหน้า
 
ooooOoooo
 
                ก๊อกๆๆ
                เสียงเคาะประตูทำให้ผมหยุดพับผ้าแล้วเดินไปเปิด… ทันทีที่เปิดประตูออกก็ทำให้ผมตกใจอย่างมาก ผมรีบปิดประตูแต่กลับถูกชายสองคนดันไม่ให้ปิด
                “คะ..คุณแพรว…” ผมเอ่ยเสียงสั่นเมื่อคุณแพรวมาพร้อมกับชายสองคน
                “ไง ฉันเอง…”
                “ทำไมคุณ” ผมค่อยๆ เดินถอยหลัง
                “ตกใจล่ะสิ ที่จริงฉันรู้ว่าแกอยู่ที่นี่เมื่อสองวันก่อนแล้ว แต่กว่าจะหาคนพามาได้ก็ต้องเสียเวลา แต่ก็นะ พอให้เงินคนงานสองคนนี้ เขาก็ยอมพามาและทำงานให้กับฉัน”
                “คุณแพรว… คุณเมตตาผมเถอะนะครับ”
                “ไม่! แม่ฉันกำลังจะมาถึงที่นี่อีกไม่นาน เพราะงั้นฉันต้องจับแกให้อยู่หมัดเพื่อล่อให้ ไอ้บ้าออกมา! เเละ... ฆ่าทิ้งซะ”
                “ไม่ อย่าเข้ามา อั่ก!”
                หมัดของหนึ่งในคนงานต่อยมาที่ท้องของผมอย่างจัง ผมล้มลงนิ่วหน้า เอามือจับท้องด้วยความเจ็บ
                ลูก…
ooooOoooo
 
                “คุณจะทำอะไร” เพชรยืนงงเมื่อจู่ๆ พ่อเลี้ยงก็รีบเดินขึ้นไปชั้นสองอย่างร้อนใจทันทีที่กลับจากไร่ ก่อนจะเดินลงมาพร้อมกับปืนแล้วโทรไปหาหัวหน้าคนงานตามจุดต่างๆ
                “อะไรของคุณ… คุณใหญ่”
                พ่อเลี้ยงเดินหน้าเครียดมาหาเพชรแล้วเอ่ยบอก “เพชร… แม่นายกำลังจะมาที่นี่”
                “วะ..ว่าไงนะครับ! แม่ผม… มาทำอะไรครับ”
                “ฉันไม่รู้ว่าเขาจะมาทำไม แต่มีคนบอกว่าแม่นายกำลังเดินทางมาที่นี่…”
                “ละ..แล้วคุณเตรียมปืนทำไม” เพชรเสียงสั่น
                “แม่นายพาคนมาที่นี่ด้วย… มาเพื่อฆ่าคราม”
                “อะ..อะไรนะ! แล้วรู้ได้ไงว่าครามอยู่ที่นี่… พี่แพรว! พี่แพรวไม่อยู่ คราม! ต้องรีบไปหาคราม!” เพชรรู้สึกใจคอไม่ดี พ่อเลี้ยงรีบพาเพชรไปหาครามที่บ้านทันที แต่เมื่อไปถึงบ้าน ประตูกลับเปิดออกและว่างเปล่า เหลือแต่กองเสื้อผ้าที่ถูกพับคาไว้
                “คราม! คราม!”
                “เดี๋ยวฉันจะไปถามป้าณีและคนงานก่อน” พ่อเลี้ยงรีบวิ่งออกไป
                เพชรทำหน้าอยากจะร้องไห้ อย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย เพชรพยายามโทรหาพี่สาวแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ…
                “อย่าให้ฉันเจอเธอนะ ต่อให้เป็นพี่ก็เถอะ!”
 
 

 

ออฟไลน์ Tastsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่20]
«ตอบ #235 เมื่อ18-10-2016 16:13:01 »

               ผมค่อยๆ ลืมตาตื่น นิ่วหน้าเมื่อรู้สึกจุกและเจ็บท้องอย่างมาก พยายามเพ่งมองภาพตรงหน้าแต่ก็ต้องหลับตาลงอีกครั้งเพราะแสบตา หลังจากดวงตาปรับแสงจนเข้าที่ ก็พบว่าตอนนี้ผมกำลังนอนอบู่บนพื้นดินที่ไหนสักแห่งในป่า… มือถูกมัดไพล่หลัง
                “สัญญาณไม่มีเลย! แล้วฉันจะโทรหาแม่ยังไงเนี่ย!” เสียงของคุณแพรวดังขึ้น ดูเหมือนเธอกำลังอารมณ์เสียอย่างมาก
                “พวกแก! ฉันบอกให้พวกแกพามันไปหลบเพื่อรอแม่ฉัน ทำไมพวกแกพามาในป่าที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แบบนี้ฮะ!”
                ผมเหลือบมองชายสองคนที่เป็นคนงานของพ่อเลี้ยงมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไร
                “อ้าว ก็คุณบอกว่าให้พาเข้าป่าและนัดพ่อแม่คุณไว้แล้ว ทางเข้าป่าพวกเราก็บอกคุณไปแล้ว จะเอาไงอีกล่ะคุณ” หนึ่งในคนงานเอ่ยตอบ
                “ตรงนี้มันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์! อุ้มมันไปที่อื่นเร็ว”
                “จะอุ้มไปไหนล่ะคุณ ป่านนี่พ่อเลี้ยงคงพาพวกคนงานตามหาให้วุ่นหมดแล้ว พวกข้ากลับละ เดี๋ยวจะโดนสงสัย”
                “พวกแก! จะทิ้งฉันเหรอ!”
                “ใช่… กลับเหอะ” เขาพูดก่อนจะพากันเดินกลับไป
                “นี่พวกแกจะทิ้งฉันไว้ไม่ได้นะ กลับมาก่อน!” คุณแพรวพยายามเรียกแต่ก็ไร้ผล
                “กรี๊ดดดดด พวกแก!”
                ผมค่อยๆ ลุกนั่งอย่างยากลำบากเพราะมือถูกมัดและยังเจ็บท้องอยู่ เมื่อคุณแพรวเห็นผมตื่น เธอก็รีบเดินเข้ามา
                “เพราะแกคนเดียวเลย! ฉันถึงต้องลำบากขนาดนี้ รอแม่ฉันมาก่อนเถอะ แกไม่รอดแน่!” เธอพูดแล้วเดินหาสัญญาณต่อ
                ผมพ่นลมหายใจก่อนจะพยายามลุกยืน ผมจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ ต้องหนี! ในขณะที่  คุณแพรวกำลังเดินไปทางอื่น ผมก็ค่อยๆ แอบถอยห่างไปเรื่อยๆ และดูเหมือนสัญญาณโทรศัพท์จะสำคัญกว่าผมมาก คุณแพรวถึงเดินไกลออกไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจผมเลย และนั่นคือโอกาสของผม!
                ผมรีบวิ่งไปอีกทางทันทีแม้จะไม่รู้หนทาง แต่ก็ดีกว่าที่จะถูกจับแบบนี้…
                ตุบ!
                “โอ๊ย!”
                ขาผมสะดุดกับรากไม้ที่โผล่พ้นดินขึ้นมาทำให้ผมล้มกระแทกพื้นดินอย่างจัง โชคดีที่ผมใช้ข้างลำตัวรับแรงกระแทก แต่ก็ยังส่งผลต่อความเจ็บปวดที่ท้องอยู่ดี ผมลุกยืนทั้งที่เจ็บไปทั่วร่างกาย พยายามฝืนเดินไปเรื่อยๆ หวังว่าคุณแพรวจะยังไม่รู้ตัว…
                “แฮ่กๆๆ” ผมนั่งหอบใต้ต้นไม้เมื่อคิดว่าหนีมาไกลพอสมควร
                “โอ๊ย!” ผมร้องลั่นเมื่อเจ็บท้องอย่างหนัก อยากใช้มือสัมผัสเจ้าตัวน้อย แต่ถูกมัดไพล่หลังอยู่แบบนี้คงทำไม่ได้ ผมหันรีหันขวางเพื่อหาของมีคมที่พอจะสามารถเฉือนเชือกออกได้ เดินหาสักพักก็เจอต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีส่วนที่แหลมคมยื่นออกมา ผมหันหลังแล้วใช้เชือกถูอย่างแรง
                “ขอร้องล่ะ ขาดเถอะ”
                ผมนิ่วหน้าเมื่อเฉือนโดนเนื้อตัวเอง แต่ก็ต้องกัดฟัดพยายามเฉือนต่อไป แม้จะได้รับ         บาดเจ็บมากขึ้นก็ตาม ผมพยายามอยู่เกือบชั่วโมงเชือกก็ค่อยๆ ขาดและคลายออก
                ผมมองมือตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือด แต่ผมก็เลือกที่จะเอามือกุมท้องแล้วทรุดนั่ง
                “ไม่เจ็บนะตัวเล็ก… ไม่เจ็บนะ” ผมลูบท้องตัวเองแล้วพร่ำบอกกับลูก พลางแหงนมองท้องฟ้าที่ตอนนี้ตะวันเริ่มคล้อยต่ำ ใกล้มืดแล้ว แต่ผมกลับอยู่ในป่า ไร้หนทางที่จะออกไปได้
                ผมค่อยๆ ลุกเดิน แล้วร้องขอความช่วยเหลือแม้ไร้หวัง
                “ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย! พี่เพชร! พ่อเลี้ยง!” ผมร้องตะโกนจนคอแห้งผาก ยิ่งเดินไปเรื่อยๆ ก็เหมือนยิ่งฆ่าตัวตาย เพราะดูเหมือนจะเดินเข้ามาในป่าลึกมากขึ้น
                “แค่กๆๆ ชะ..”
                ผมนิ่วหน้าเพราะเลือดที่ข้อมือและฝ่ามือยังไม่หยุดไหล และซึมผ่านผ้าเช็ดหน้าที่พันไว้ ส่วนอีกมือที่ไร้ผ้าพันก็มีเลือดหยดตามทาง
                ผมรู้สึกเวียนหัวจนต้องนั่งพักอีกครั้ง แม้จะเดินมาได้ไม่ไกลจากจุดพักเดิม ความอ่อนล้าจนทำให้ผมค่อยๆ เอนตัวลงบนพื้นดินและสลบไป
 
ooooOoooo
 
                “พ่อเลี้ยงครับ คนงานของเราที่อยู่ข้างนอกรายงานมาว่า พวกที่จะเข้ามาตอนนี้ มุ่งหน้าไปทางป่าแทนแล้วครับ”
                พ่อเลี้ยงนิ่วหน้า ไปทางป่า? แปลว่าไม่ได้มาทางนี้?
 
 
                ป่าที่ว่ามีอาณาเขตติดกับที่ดินของพ่อเลี้ยง เดิมเป็นที่ดินที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง จนมีแต่ต้นไม้รกครึ้มกลายเป็นป่า ส่วนที่ติดกับอาณาเขตของป่าก็คือด้านหลังกระท่อมของคราม แต่หากเข้าไปในป่าแล้วเดินไปเรื่อยๆ จะสามารถทะลุไปถึงถนนลาดยางข้างนอกได้
                พวกนั้นเข้าป่าจากทางถนนลาดยางงั้นเหรอ? เข้าไปทำไมกัน?
                “บอกทุกคนเตรียมพร้อมตลอดเวลา แล้วฉันจะสั่งการอีกที”
                “ครับพ่อเลี้ยง”
                พ่อเลี้ยงเดินกลับเข้าไปในบ้าน เพชรที่รออยู่ด้านในมีสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน
                “เจอครามไหมครับ แล้วพ่อกับแม่ผมมาหรือยัง”
                “ยังไม่เจอ… พ่อกับแม่คุณไม่ได้มาที่นี่แล้ว แต่พ่อกับแม่คุณกำลังมุ่งหน้าไปในป่าแทน”
                “ป่า? ตรงหลังบ้านครามหรือครับ”
                “ใช่…”
                “ทะ..ทำไมกัน”
                “ฟ้าอยู่ที่นั่นสินะ” เสียงของร่างสูงที่นั่งอยู่ใกล้กันเอ่ยขึ้นภายใต้ใบหน้าหล่อเหลา เขาลุกขึ้นยืนแล้วหยิบปืนขึ้นเตรียมพร้อม
                “รีบไปกันเถอะ แบ่งกำลังเป็นสองกลุ่มเพื่อตามหา… ตอนนี้เย็นมากแล้ว ผมรอไม่ไหวอีกแล้ว”
                พ่อเลี้ยงมองชายที่ใส่หมวกตอนมาสมัครงาน เมื่อเขาถอดหมวกออกจึงเผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย… ซึ่งตอนนี้ดูดีสมกับตำแหน่ง
                “ตกลง แบ่งกำลังเป็นสองกลุ่ม ถ้าเจอให้ยิงปืนสองนัด”
                “ตกลง” ร่างสูงเอ่ยรับคำแล้วมุ่งหน้าไปพร้อมกับกลุ่มของตน
                พ่อเลี้ยงจะมุ่งหน้าตามไปแต่เพชรรั้งไว้ก่อน
                “ผมไปด้วย”
                “นายจะไปทำไม”
                “ถ้าผมไป พ่อกับแม่ต้องยอมฟังผมแน่ๆ”
                “อย่าไปเลย… พ่อกับแม่นายตอนนี้กู่ไม่กลับแล้วล่ะ และอีกอย่าง เหตุการณ์ครั้งนี้จำเป็นต้องมีเพื่อที่จะได้จบเรื่องราวทุกอย่างที่หมอนั่นหวังมาตลอดหนึ่งปีที่ยอมทิ้งตัวตนของตัวเอง”
                “คุณใหญ่…”
                “วางใจเถอะ ฉันไม่ทำร้ายพ่อแม่นายหรอก รอฟังข่าวที่นี่ แล้วดูแลหนูดีให้ฉันด้วย”
                เพชรพยักหน้าเบาๆ
                “ระวังตัวด้วยนะครับ”
                “อืม…” พ่อเลี้ยงยิ้มรับแล้วพากลุ่มของตนมุ่งหน้าตามเข้าไปในป่า
                ป่ามีเนื้อที่ไม่มากนัก หากกระจายกำลังกันค้นหา ไม่เร็วก็ช้าจะต้องเจอกัน จะเป็นมิตรหรือศัตรูนั้นคืออีกเรื่อง…
                ร่างสูงนึกถึงใบหน้าของคนรักแล้วกำปืนแน่น “รอหินก่อนนะฟ้า…”
 
ooooOoooo
 
                “อะ..โอ๊ย” ผมค่อยๆ ลืมตา นิ่วหน้าเมื่อขยับมือ เจ็บท้องเมื่อพยายามจะลุกนั่ง ทุกอย่างเจ็บไปหมด… ผมมองไปรอบตัวที่ตอนนี้เริ่มมืดจนแทบมองไม่เห็น มือชุ่มโชกไปด้วยเลือด แม้จะหยุดไหลแล้วแต่ความเจ็บยังคงอยู่
                “ติดต่อแพรวได้หรือยัง” เสียงของใครบางคนทำให้ผมหยุดนิ่ง โดยเฉพาะน้ำเสียงและชื่อที่เอ่ย
                “ยังเลย… ตั้งแต่บอกทางเข้ามาในป่าก็เงียบไปเลย”
                เสียงพวกคุณท่าน! ผมหยุดนิ่งค่อยๆ เดินให้เบาที่สุดแล้วไปแอบหลังต้นไม้
                พวกคุณท่านมาที่นี่แล้ว… ผมปิดปากตัวเองแล้วหลับตา… กลัวที่จะเผชิญหน้า แม้แต่เสียงลมหายใจก็ไม่อยากให้ได้ยิน
                “ที่นี่ไม่มีสัญญาณเลย…”
                “เข็มทิศยังใช้ได้หรือเปล่า”
                “ยังใช้ได้ เราคงไม่หลงกันหรอก แต่ยัยแพรวน่ะสิ ติดต่อไม่ได้เลย หวังว่าจะไม่หลงนะ”
                แสงไฟฉายสาดส่องไปทั่ว กลุ่มคุณท่านอยู่ห่างจากที่ซ่อนของผมเพียงไม่กี่ก้าว ถ้าหันหลังแล้วสาดไฟฉายมาก็อาจจะเห็นผมเลยก็ได้
                ขอร้องล่ะ… อย่าให้ถูกเจอเลย
                ผมรู้สึกหัวใจตัวเองเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาด้วยความกลัว…
                “รีบๆ เดินตามหากันเถอะ เจอยัยแพรวก็ต้องเจอฟ้าครามด้วย!” คุณนายเอ่ยบอกก่อนที่จะค่อยๆ เดินห่างออกไปพร้อมกับคนอีกหลายคน
                ผมรีบลุกทันที แต่เพราะความกลัวจนไม่ทันระวัง ผมเหยียบกิ่งไม้เสียงดังขณะที่พวกคุณท่านยังเดินไปได้ไม่ไกลนัก
                “นั่นใครน่ะ”
                เฮือกกก!
                ไฟฉายสาดมาทางผม
                “แพรว?”
                ผมปิดปากตัวเอง เมื่อเสียงฝีเท้าพวกนั้นใกล้เข้ามาอีกครั้ง และผมก็ไม่รอช้าที่จะวิ่งหนี!
                “ใคร! หยุด!”
                เสียงนั้นมาพร้อมกับหลายฝีเท้าที่วิ่งตามมา ผมวิ่งจนสุดกำลัง แขนและขาถูกกิ่งไม้ เขี่ยนจนรู้สึกเจ็บแต่ก็หยุดวิ่งไม่ได้
                ปัง!
                เฮือกกก ผมสะดุ้งจนเผลอทรุดนั่ง พวกนั้นจะยิงผม! พอตั้งสติได้ก็วิ่งต่อไปอีกครั้งอย่างสุดแรง มือกุมท้องไว้ตลอดเวลา
                ปึก!
                “โอ๊ย!”
                ตุบๆๆ
                เพราะความมืดผมจึงสะดุดบางอย่างและกลิ้งลงไปตามผืนป่าลาดด้านข้างทันที!
                ปึก!
                ผมกลิ้งลงมาปะทะกับต้นไม้ และท้องของผมก็ชนเข้ากับต้นไม้อย่างจัง ไม่มีเสียงร้องแม้จะเจ็บปวด เพราะผมจุกจนร้องไม่ออก ผมพยายามมองขึ้นไปด้านบน ได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งผ่านไป พวกนั้นมองไม่เห็นผมที่ตกลงมา
                ผมรู้สึกเจ็บ เม้มปากแน่นพยายามลุกอีกครั้ง กุมท้องตัวเองแล้วนั่งพิงต้นไม้ที่หยุดตัวผมไว้อย่างเหนื่อยหอบ
                “แค่กๆๆ ชะ..ช่วยด้วย… ใครก็ได้… อึก..” ผมกัดปากตัวเองหวังให้คลายความเจ็บ แม้พยายามจะลุกแต่ก็ไม่ไหว ทั้งเจ็บและจุกจนไม่มีแรงจะเดินแล้ว สักพักก็ได้ยินเสียงใครบางคนดังขึ้น
                “ไม่มีใครเลยครับ เสียงปืนก็หายไปแล้ว” ผมพยายามจะหลบแต่ก็ไม่มีแรง
                “โธ่เว้ย! อยู่ไหนนะฟ้า!”
                ผมเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนจากข้างบน หูผมคงไม่ได้แว่วไปเองใช่ไหม ผมนั่งนิ่งหวังจะได้ยินเสียงอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
                “หรือจะเป็นเสียงปืนของพ่อเลี้ยงที่ให้สัญญาณว่าเจอคุณฟ้าครามแล้วครับ”
                “ไม่ใช่ เราตกลงกันว่าจะยิงสองนัด”
                ผมมองไปข้างบนทันทีเมื่อแน่ใจว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร…
                “หะ..หะ..หิน!” ผมพยายามเปล่งเสียงให้ดังที่สุด แต่เพราะจุกท้องจึงส่งเสียงได้ไม่มาก
                “หิน… อึก.. หิน! ช่วยผมด้วย”
                “ทุกคนรีบไป อาจเป็นพวกนั้นที่ยิงปืน ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม!”
                ไม่นะ เขากำลังจะไป
 
                “หิน! ผมอยู่นี่… อึก..” ผมพยายามฝืนลุกยืนแล้วจะปีนขึ้นไปแต่ก็ไร้ผล ยิ่งผมเจ็บมากขนาดนี้คงปีนขึ้นไม่ไหว
                ผมพยายามคลำหาเศษต่างๆ เพื่อจะขว้างขึ้นไปข้างบน
                “อย่าเพิ่งไป! ช่วยผมด้วย!” ผมขว้างก้อนดิน ก้อนหิน เศษกิ่งไม้ ขึ้นไปอย่างอ่อนแรง
                “หิน!” ผมตะโกนสุดเสียงแล้วทรุดนั่งอย่างหมดแรง
                “ฮึก..ก..ก… ชะ..ช่วยผมด้วย ชะ..ช่วยลูกของเราด้วย…” ผมร้องไห้อย่างหนักเพราะเจ็บท้องมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนตัวเล็กจะไม่ไหวแล้ว…
                “ฮึก..ก..ก…” ผมหลับตาลงอย่างหมดหวัง ถ้าเขาไป ผมกับลูกคงตายตรงนี้…
                “ฟ้า!“
                ผมเงยหน้ามองไปทันที แต่ก็ต้องใช้มือปิดหน้าเพราะแสงไฟฉายที่สาดลงมา
                “หิน! ช่วยผมด้วย”
                “ฟ้า! รอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะลงไปช่วย” หินพูดก่อนจะรีบลงมาโดยไม่กลัวว่าตัวเองอาจจะล้มกลิ้งลงจนเจ็บ เขารีบลงมาหาผมแล้วสวมกอดทันที
                “ฟ้า!”
                “หิน! ฮือๆๆ ช่วยผมด้วย”
                “ไม่ต้องกลัวนะพี่อยู่นี่แล้ว…” หินกอดผมแน่นแล้วจูบหน้าผาก
                “ฮือๆๆ”
                “บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
                ผมพยักหน้า “ผะ..ผมเจ็บไปหมดเลย…”
                หินมองหน้าผมอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะค่อยๆ อุ้มผมไว้ในอ้อมแขน
                “อดทนนะ พี่กำลังจะพากลับ… นี่พวกนาย ฉันจะเดินไปตามทางข้างหน้า คงมีทางขึ้นที่ไม่ชันมากนัก!” หินตะโกนบอกพวกข้างบนให้เดินตามกันจากข้างบนไปเรื่อยๆ
                ผมซุกหน้าในอกเขาแล้วร้องไห้ ทั้งเจ็บทั้งดีใจ… เขากลับมาแล้ว… หินกลับมาหาผมแล้ว… หินกอดผมแน่นแล้วหอมแก้ม
                ไม่นานก็เจอทางเดินที่สามารถเดินขึ้นไปข้างบนได้ เป็นทางขึ้นที่ไม่ชันมากนัก พอที่จะอุ้มผมเดินขึ้นไปด้วยได้
                “ยิงปืนบอกพ่อเลี้ยงไหมครับ”
                “อืม…”
                ปัง ปัง
                “กรี๊ด!”
               
                ตุบๆๆ  เสียงกรีดร้องของใครบางคนที่กำลังวิ่งหนีอย่างร้อนรน ทำให้ทุกคนหยุดชะงักก่อนที่หินจะบอกให้คนวิ่งตามไป
                ผมพยายามจะมองใบหน้าของเขา แต่เพราะความมืดจึงมองไม่ค่อยเห็น ผมจึงค่อยๆ ใช้มือสัมผัสใบหน้าเขาด้วยความคิดถึง ไม่มีหนวดแล้วนี่ ถ้าสาวๆ เห็นคงหลงกันน่าดู ผมยิ้มแล้วซุกอกของเขาอีกครั้ง ในที่สุดเราก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง แค่เห็นหน้าเขา ผมก็พร้อมที่จะอภัยทุกอย่าง หินมองหน้าผมแล้วก้มลงจูบหน้าผาก
                “กรี๊ดดด ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า!” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ผมหันไปมอง
                …คุณแพรว…
                “ปล่อยนะ พวกแกเป็นใคร! จะทำอะไรฉัน!”
                “จะทำยังไงดีครับ ผู้กอง” หนึ่งในคนที่มาด้วยกันเอ่ยขึ้นแล้วหันมามองหิน
                ผมค่อยๆ เงยหน้ามองหินแล้วเบิกตากว้าง ผู้กอง?? หินเป็น…
                “พากลับไปด้วย ครั้งนี้เราจะจับพวกที่เกี่ยวข้องให้หมดทุกคน หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ ดิ้นไม่หลุดแน่นอน”
                “อ๋อ ตำรวจนี่เอง! จะจับพวกฉันงั้นเหรอ งั้นแกก็จับไอ้ครามด้วยสิ มันก็พวกเดียวกับฉัน หลอกล่อเอาข้อมูลไอ้บ้า! หลอกให้ไอ้บ้ารักแล้วจะเอารหัสกับกุญแจ จับมันเลย!”
                ผมตัวชาวาบ…
                หินค่อยๆ ก้มหน้ามองผม แม้จะเห็นหน้าไม่ชัด แต่ใบหน้าที่เกือบชิดกันทำให้ผมเห็นแววตาของเขาที่ทั้งโกรธและผิดหวัง
 
 

 

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หินน่าจะรู้อยู่นะว่าฟ้าเป็นคนยังไง...ใช่ไหม?


ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
หิน... เชื่อใจฟ้าหน่อยนะ  :ling3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แค่คำพูดคุณนาย ที่ซัดทอดให้มีคนผิดเป็นพวก
จะทำให้หิน เชื่อทันทีโดยไม่ซักถามเหรอ
แล้วที่ไล่ล่าฟ้า  หนีจนเลือดไหลเซอะซะ
นี่ก็แสดงว่าเป็นพวกเดียวกับคุณนายสินะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ hereg407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอออออ  :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด