@คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่26 ตอนจบ] อัพล่าสุด>>>>22/10/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @คนบ้า@ *Mpreg* [ลงตอนที่26 ตอนจบ] อัพล่าสุด>>>>22/10/59  (อ่าน 104210 ครั้ง)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ i_lost in..

  • ' ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร '
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-0
สนุกดีนะน่าติดตาม  :katai4:

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกมากคะ แต่งงทำใมกลัวโดไล่ออกกันจัง นิยายเรื่องนี้อยู่ในยึคใหนคะ บางที่ก็เหมือนย้อนยุค บางที่ก็เหมือยปัจจุบัน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คนบ้า เป็นคนที่เป็นทายาท เจ้าของบ้านตัวจริง
พ่อแม่ของคนบ้าตายไป
เลยถูกญาติ คิดไม่ซื่อฮุบสมบัติ
มโนไปเรียบร้อยแล้ว แหะๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tastsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ตอนที่7]
«ตอบ #64 เมื่อ21-09-2016 16:20:33 »

         แดดและฝุ่นละอองยามเช้ารวมทั้งเสียงเอะอะโวยวายของคนที่ผ่านไปมาบนถนนดังขึ้นขณะที่ขาพวกผมก้าวลงจากรถเมล์ พวกเราต่อรถเมล์หลายสายจนมาหยุดอยู่ที่นี่… ที่ที่ไกลพอสมควรผมจับมือของหินแน่นเพื่อให้เดินไปด้วยกันและรับรู้ได้ว่าเขากำลังสั่น
   “ไม่ต้องกลัวจับมือผมไว้อย่าปล่อยนะ”
   หินพยักหน้าแล้วบีบมือผมแน่นขึ้น
   ผมเดินไปตามทางเรื่อยๆเข้าไปในชุมชนเก่าแก่เพราะดูจากบ้านเรือนที่ทำจากไม้หลายหลังซึ่งค่อนข้างเก่าเหมือนกับบ้านที่ปลูกมานานเป็นร้อยปี แม้ตัวตึกจะทรุดโทรมแต่เมื่อเห็นคำว่าห้องว่างให้เช่าก็ทำให้ขาหยุดเดิน
   ผมมองไปยังร้านขายขนมครกข้างๆแล้วเอ่ยถาม
   “ยายครับ ใครเป็นเจ้าของห้องเช่านี้เหรอครับ”
   ยายที่กำลังแคะขนมครกหันมามอง “ของยายเองแหละแม่หนูจะเช่าหรือ”
   ผมสะอึกกับคำว่าแม่หนูได้แต่ยิ้มรับแล้วเอ่ยต่อ
   “ครับ… ราคาต่อเดือนเท่าไหร่เหรอครับ”
   “ยายคิด 300 ต่อเดือนจ้ะ”
   ผมยิ้มแล้วพยักหน้ารับ “ครับ ผมขอเช่า… ผมขอเช่าที่นี่ครับ”
   “งั้นเข้าไปดูข้างในกันเถอะ” ยายรีบแคะขนมครกแล้วเดินมาเปิดประตูห้องเช่าที่ทำจากไม้เก่าๆทันที ภายในห้องไม่กว้างนักเป็นห้องเดี่ยวโล่งๆ ไม่มีเตียง แต่มีตู้ไม้อยู่หลังหนึ่งที่สภาพค่อนข้างเก่า รวมๆแล้วห้องนี้พออยู่ได้
   “อยู่ได้ไหมจ๊ะ”
   “ได้ครับ…”
   “ห้องน้ำก็เดินไปเปิดประตูด้านหลังตรงนี้นะ” ยายพูดแล้วเดินไปเปิดประตูหลังที่มีห้องน้ำสร้างแยกไว้ต่างหาก
   “ส่วนผ้าห่มเดี๋ยวยายจะเอามาให้ถ้าขาดเหลืออะไรเรียกยายนะยายอยู่ห้องข้างๆนี่แหละ”
   “ครับ… เอ่อถ้าอย่างนั้นทำสัญญา...”
   “โอยยย ไม่ต้องหรอก สัญญงสัญญา แค่จ่ายเงินก็พอแม่หนู”
   “ครับ…” ผมยื่นเงินให้ยาย
   ยายรับเงินแล้วหายออกไปจากห้องซักพัก ก่อนจะกลับมาพร้อมกับขนมครก มื้อเช้านี้พวกผมจึงทานขนมครกกันไปพลางๆก่อนผมก้มมองเงินในกระเป๋าแล้วได้แต่ถอนหายใจ ต้องรีบหางานทำพาลนึกถึงที่บ้านหลังนั้นป่านนี้จะมีใครรู้ไหมนะว่าพวกเราหนีออกมาแล้ว…
   “ฟ้า… ขนมนี่อร่อย”
   “ชอบเหรอ”
   “อื้อ!”
   ผมยิ้มแล้วลูบหัวเขา “ถ้าชอบผมจะทำงานหาเงินแล้วซื้อมาให้กินเยอะๆเลยนะ”
   “ทำงาน… ทำงานยังไง ปลูกผักอีกไหม”
   “ไม่ใช่…ลำบากกว่านั้นแต่ไม่ต้องห่วงนะผมจะหางานทำแล้วคุณก็จะได้กินขนมครกอีก”
   “หินทำงานด้วยได้ไหม…”
   “ไม่ต้องหรอก แต่ถ้าผมไม่ไหวผมจะขอให้ช่วยนะ”
   “อื้อ!”
   หลังจากนั้นยายก็นำผ้าห่มมาให้ ผมก็เก็บกวาดห้อง นำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ในตู้ มองสำรวจห้องไม้เก่าๆที่จะกลายเป็นที่อยู่ใหม่ของพวกเรานับแต่นี้ไปแม้จะใหญ่กว่าห้องที่ผมอยู่ตั้งแต่เกิดแต่ผมก็ไม่ยินดีเลยที่ต้องขาดคนสำคัญไป…
   ฟึ่บ!
   ร่างสูงกอดสวมผมจากด้านหลังแล้วซุกหน้ามาที่คอ ผมแอบเกร็งเพราะหนวดที่คลอเคลีย
   “หนาวจัง… กอดฟ้าแล้วอุ่น”
   “หนาวเหรอ” ผมแกะมือที่กอดเอวแล้วหันไปหาผ้าหนาๆมาคลุมให้
   “เดี๋ยวผมจะซื้อเสื้อกันหนาวให้นะ เสื้อผ้าคุณก็เก่ามากแล้วด้วย ผมจะซื้อมาให้… แต่รอก่อนนะครับผมยังมีเงินไม่มากพอที่จะซื้ออะไรได้มากมาย”
   “ไม่หนาว...กอดฟ้าก็อุ่นแล้ว” เขาพูดแล้วยังกอดผมอีกทั้งๆที่ตัวเองก็มีผ้าคลุมไว้ ผมปล่อยให้คนตัวใหญ่แต่นิสัยเด็กกอดจนผมต้องบอกให้หยุด
   “เอ่อ ยายครับ… ที่นี่พอจะมีงานอะไรให้ทำบ้างไหมครับ” ผมเดินออกมาหายายที่ยังคงนั่งขายขนมครก
   “งานเหรอ… อืม… แถวนี้ค่อนข้างหายากนะแม่หนูอ้อจะว่าไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือว่าจะจ้างคนล้างจานพอดี”
   “จริงเหรอครับ…”
   “สนใจหรือ”
   “ครับ!”
   “งั้นตามยายมาเพราะแม่หนูหน้าตาสวยเหมือนยายสมัยสาวๆนะยายเลยเอ็นดู”
   ผมยิ้มแหะๆ ยายยังไม่รู้อีกหรือว่าผมเป็นผู้ชายถึงจะผิดปกติก็เถอะ
   “ยายมี เฝ้าร้านให้ข้าซักเดี๋ยวนา”ยายตะโกนบอกแม่ค้าที่ขายของอยู่ร้านถัดไป
   “ไม่มีปัญหายายเอิบ”
   ผมหันไปมองหินแล้วเอ่ย
   คุณอยู่ที่นี่นะอย่าออกไปไหน”
   “ไปด้วย”
   “ไม่ได้!เดี๋ยวผมก็มา… คุณอย่าออกไปไหนรู้ไหม”
   หินเงียบ
   “เข้าใจใช่ไหม”
   เขาพยักหน้าแล้วนั่งนิ่งบนพื้น
   ผมปิดประตูไม้บานเลื่อนเข้าหากัน แล้วเดินตามยายไป
   ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นร้านค่อนข้างเล็กแต่ลูกค้านั้นเนืองแน่นเต็มร้าน อาศัยชั้นล่างของบ้านที่เปิดโล่งกว้างเป็นที่ขาย
   “แม่ลี” ยายเอิบตะโกนเรียกอยู่หลายต่อหลายครั้ง ขณะที่เจ้าของชื่อผู้มีร่างกายอ้วนท้วนและผิวขาวเหมือนคนเหนือกำลังขะมักเขม้นทำก๋วยเตี๋ยวกว่าจะได้ยินก็นานพอสมควร
   “อ้าวยายเอิบวันนี้จะมากินก๋วยเตี๋ยวเหรอ”
   “เปล่า... ข้าพาเด็กมาสมัครงานเป็นเด็กล้างจาน”
   “อ้าวดีเลย มาๆช่วยล้างเลย ไอ้จุกลูกฉันมันล้างไม่ไหวแล้ว เข้าไปในบ้านล้างได้เลย ไอ้จุก! ไอ้จุก!”
   เสียงตะโกนทำให้เด็กผมจุกวัยประมาณ 10 ขวบรีบวิ่งมาหา
   “มีอะไรแม่”
   “พาพี่เขาไปล้างจานหน่อยเขามาทำงาน”
   จุกตาลุกวาวแล้วรีบพาผมไปยังหลังบ้านที่มีกองจานและชามสูงหลายกอง
   “หมดนี่เลยเหรอ”
   ใช่พี่ ผมล้างมาตั้งแต่เช้าแล้วก๋วยเตี๋ยวฝีมือแม่ผมขายดีมากเลยพี่งั้นพี่จัดการเลยนะผมขอไปเล่นก่อน” พูดจบจุกก็วิ่งออกไป ผมเดินไปหายายเอิบเพื่อฝากยายบอกหินว่าผมจะกลับช้าและหาข้าวให้เขากินด้วย ผมยัดเงินให้ยายแล้วรีบกลับมาทำงาน
   งานล้างจานล้างชามแม้จะไม่ลำบากอะไรแต่ถ้าเป็นจานชามที่ล้างเท่าไหร่ก็ไม่หมดเพราะมาเรื่อยๆเป็นวัฏจักรก็ทำให้เหนื่อยได้ มือผมซีดเปื่อยไปหมดแต่ก็ต้องทน จนกระทั่งร้านปิดตอนหกโมงเย็นทุกอย่างจึงยุติ
   “ขอบใจมากนะช่วยเจ๊ได้เยอะเลย เอ้านี่เงินสามร้อยบาทถ้วน” ผมยื่นมือออกไปรับเงิน “เจ๊ชื่อลีนะ ส่วนเธอ…”
   “ชื่อฟ้าครามครับ”
   “อ้าวเป็นผู้ชายหรอกเหรอ ฮะๆๆ เจ๊นึกว่าผู้หญิงงั้นเจ๊เรียกครามนะ”
   “ครับ”
   “พรุ่งนี้มาประมาณเจ็ดโมงเช้านะ มาช่วยเจ๊จัดของสักหน่อยแล้วจะให้เงินเพิ่ม”
   “ครับ”
   หลังจากนั้นผมก็เดินกลับห้องเช่า ซึ่งระยะทางไม่ห่างกันมากนัก สองข้างทางก็มีบ้านเก่าๆปลูกเรียงกันตลอดทางจึงทำให้ไม่เปลี่ยว บางบ้านก็ยังวางของขายอยู่ ผมมองเงินในมือแล้วซื้อข้าวคลุกกะปิกลับไปสองกล่อง
   “ผมกลับมาแล้ว…”
   ฟึ่บ! แรงกอดทำให้ผมตกใจเพราะจู่ๆคนตัวโตก็กระชากไปกอด
   “คิดถึงฟ้า! นึกว่าจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว ฮือๆๆ”
   “ระ..ร้องไห้ทำไม” ผมเดินจูงมือคนตัวใหญ่ไปนั่งบนพื้นแล้วเช็ดน้ำตาให้
   “กะ..ก็ฟ้าบอกจะกลับมา”
   “ก็กลับมาแล้วนี่ไง ผมต้องทำงานนะรู้ไหม… หิวข้าวหรือเปล่า”
   “หิวท้องร้อง... ยายเอามาให้แต่ไม่อิ่ม กินขนมครกที่ยายเอามาให้ก็ไม่อิ่มแต่มีเผื่อให้ฟ้านะ” พูดพลางยกห่ออาหารเล็กๆ ที่มีอาหารเหลืออยู่จำนวนหนึ่งขนาดบอกว่าไม่อิ่มแต่ก็ยังเหลือไว้ให้ผม ส่วนขนมครกยายคงนำมาให้เพราะหินไปอ้อนจนยายเอ็นดูด้วยนั่นแหละ นึกแล้วก็ขำผู้ชายเหมือนโจรที่ทำให้คนแก่เอ็นดู
   “ผมซื้อข้าวมากินด้วย” ผมแกะข้าวกล่องออก เขายิ้มแม้จะไม่เคยกิน แต่ก็รีบกินจนติดคอ
   “ค่อยๆกินสิคุณ” ผมยื่นน้ำให้แล้วยิ้มอย่างเอ็นดู
   ตกกลางคืนเราสองคนนอนบนพื้นโดยมีเสื่อปูรองเขาเอาหัวซุกในอกผมแล้วหลับ ผมก็กอดแล้วลูบหัวให้
   “หิน...ผมจะดูแลคุณเองนะ...แต่ผมก็หวังว่าสักวันคุณจะหายเป็นแบบนี้”
..............................
   หนึ่งเดือนแล้วที่จากบ้านหลังนั้นมา ทุกคนคงรู้แล้วว่าพวกผมหนีออกมาอาจเพราะไปหาที่กระท่อมหรือเพราะพี่ปรางบอกก็ไม่อาจทราบได้ แต่แม่จะรู้สึกอย่างไรบ้างนะคิดไปผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่การทำงานเป็นเด็กล้างจานของผมก็ยังคงดำเนินต่อไปอากาศเริ่มหนาว และพระอาทิตย์ก็ตกเร็วขึ้น จึงทำให้ช่วงเวลากลางคืนยาวนานขึ้นไปอีก ผมค่อยๆเดินไปอย่างเหม่อลอยและนั่งพักตรงแคร่ที่หน้าบ้านร้างเพราะเจ้าของบ้านย้ายออกไปจากชุมชนนี้แล้ว
   จู่ๆความเหงาและความเหนื่อยล้าก็โหมเข้ามาจนน้ำตาผมไหลออกมาเอง มือที่เช็ดน้ำตาตอนนี้ก็เปื่อยและซีดไปหมด หนึ่งเดือนที่ผมต้องจากบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิดและจากแม่ที่รักโดยไม่มีแม้แต่คำลามันทำให้ผมล้าไปทั้งกายและใจ ทั้งที่เมื่อก่อนผมจะเป็นฝ่ายหาที่พึ่งพิงแต่ตอนนี้ผมต้องกลายเป็นคนที่ถูกพึ่งพิงเสียเองทุกอย่างมันทำให้ผมเหนื่อย…
   ผมแหงนมองดูดาวบนฟ้าที่ทอแสงริบหรี่แล้วร้องไห้
   “แม่ครับแม่จะมองดาวเหมือนผมอยู่ไหมตอนนี้ผมทั้งเหนื่อยและคิดถึงแม่มากๆอยากกอดแต่คงไม่มีวันนั้นอีกแล้ว ฮึก..ก…”
   ผมคิดถึงแม่...ผมอยากกอดแม่อยากเข้าไปอ้อนอยากบอกว่าเหนื่อยอยากให้แม่ปลอบใจและอยากรู้ว่าตอนนี้แม่สบายดีไหม
   นั่งร้องไห้อยู่ซักพัก ผมก็ค่อยๆเช็ดน้ำตาแล้วเดินกลับไปยังห้องเช่าอย่างเหนื่อยล้า แต่พอไปถึงก็เห็นประตูห้องเปิดโล่งอยู่ ทำให้ผมยืนนิ่งค้างด้วยความตกใจ
   “หิน!” ผมรีบเข้าไปในห้อง ไม่มีใครอยู่… หินไม่อยู่ที่นี่!
   ผมเคาะประตูเรียกยายเอิบ ไม่นานยายก็ออกมา
   “ยะ..ยายครับหินเขาไปไหนเหรอครับ”  ผมถามอย่างร้อนรน
   “อ้าวเมื่อเย็นยายก็เอาข้าวไปให้นะ ยังอยู่เลย… ไปไหนซะแล้วล่ะ”
   ผมกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะวิ่งตามหาอย่างไร้ทิศทาง แม้จะได้ยินเสียงยายเรียกก็ตาม
   “หิน! หิน! คุณอยู่ไหน!” ผมวิ่งไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายจนออกมานอกชุมชน แสงไฟที่สลัวไม่ได้ทำให้ผมกลัวสักนิดแต่ที่ผมกลัวคือ กลัวว่าหินจะจากผมไป
   “ฮึก..ก..ก…หิน…!!!“ ขาผมแทบหมดแรงแต่ก็ยังวิ่งไปอย่างไร้จุดหมายเขาหายไปไหนกันหรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น… จะเกิดอุบัติเหตุอะไรไหม… ความกังวลถาโถมเข้ามา
   “ฮือๆๆ ขอร้อง... กลับมา...”ผมทรุดตัวลงบนพื้นอย่างสิ้นหวัง หินหายไปแล้วผมจะอยู่ยังไง…
   “กรี๊ดดดดด อย่าเข้ามานะไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ” เสียงกรีดร้องทำให้ผมหันมองและวิ่งไปตามเสียงร้องนั้น เห็นหญิงสาวล้มลงเหมือนกลัวอะไรบางอย่างก่อนจะรีบวิ่งหนีไป เมื่อมองไปยังต้นเหตุก็เจอหินยืนนิ่งด้วยความไม่เข้าใจว่าหญิงสาวตกใจอะไร แต่เมื่อเห็นผมหินก็รีบวิ่งมาหา
   ฟึ่บ!
   “คิดถึงฟ้า เจอฟ้าแล้ว!หาฟ้าไม่เจอเลย!” เขากอดผมแน่นด้วยความคิดถึงแต่ผมกลับผลักเขาออกก่อนจะ...
   เพี้ยะ!
   “คุณมันบ้า! ออกมาทำไม ฮึก..ก…ออกจากห้องมาทำไม!”
   “ฟ้า…..” เขาจับแก้มตัวเองด้วยความตกตะลึง“เจ็บ… ฟ้าตบหินทำไม… หินก็แค่คิดถึงฟ้า”
   “ผมไปทำงาน! ไปทำงานเพื่อให้คุณมีกิน! แล้วทำไมคุณต้องสร้างภาระให้ผมเพิ่มด้วย! ไอ้บ้า! ไอ้บ้า!” ผมเช็ดน้ำตาตัวเองแล้วรีบวิ่งกลับโดยไม่รออีกฝ่ายที่วิ่งตามแล้วพยายามจะจับมือผมไว้ แต่ผมสะบัดออก
   พอกลับมาที่ห้องหินก็พยายามง้อแต่ผมก็ไม่ฟัง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอนแล้วตะแคงหันหลังให้
   “ขอโทษ ฟ้าอย่าร้องไห้นะ หินไม่ดีเอง หินแค่คิดถึง… ขอโทษนะ…..”
   “อย่าทำแบบนี้อีกผมเหนื่อยหน้าตาคุณเองก็เหมือนกันหน้าตาอย่างนี้จะออกไปทำไม ใครก็คิดว่าคุณมันบ้า เป็นโจร ถ้าอยากออกไปก็หัดทำหน้าตาตัวเองให้ดีซะบ้าง!”
   “ฟ้า”
   “ไม่ต้องจับผมจะนอน” ผมไม่สนใจคนที่นั่งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้…..
…………………………
   “วันนี้พอได้พักบ้างละนะ” เจ๊ลีเอ่ยแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ วันนี้ลูกค้าน้อยคงเพราะมีงานที่วัดผมนั่งเช็ดชามอยู่อีกมุมได้ยินเสียงเจ๊ลีและลูกค้าสาวๆหลายคนดังขึ้นพร้อมกับคำชื่นชมได้ยินไม่ขาดสายว่ามีหนุ่มหล่ออยู่หน้าร้าน แม้จะเริ่มกลายเป็นเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างยินดีราวกับเจอดาราผมก็ไม่มีเวลาจะหันกลับไปดูผมไม่ได้สนใจอะไรยังคงเช็ดชามต่อไป แต่เสียงกรี๊ดนั้นกลับดังขึ้นมากกว่าเดิมจนผมต้องหันหลังกลับไปมอง ปรากฏชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อผ้าเก่า แต่ท่าทางและลักษณะกลับดูดีแม้เสื้อผ้าที่ใส่ก็ยังดูดีมีระดับไปด้วย ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรริมฝีปากหนาแต่ได้รูปยิ้มกว้างก่อนจะ…
   ฟึ่บ!
   “กรี๊ดดดดด” เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อเขาสวมกอดผม
   “คะ..คุณจะทำอะไรน่ะ คุณ”
   “ฟ้า…”เสียงเรียกชื่อทำให้ผมตัวแข็งทื่อเสียงเหมือนกับ…อย่าบอกนะว่าเขาคือ…
   “หิน…!”
   “ฟ้า…”
   “ทำไมคุณถึง…”
   แชะ! เสียงถ่ายรูปดังขึ้น สาวๆหลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปหินหลายต่อหลายภาพและติดภาพผมไปด้วย
   “หล่อจัง… คุณเป็นใครเหรอ เป็นนายแบบหรือเปล่า”
   “หรือเป็นดาราหน้าใหม่ จะมีละครออกเมื่อไหร่”
   “กรี๊ดดด หรือเป็นเศรษฐีที่ไหนหรือเปล่าคะ”
   “อย่า!” หินตะโกนเมื่อเสียงชัตเตอร์ดังต่อเนื่อง หินปรี่เข้าหาหญิงสาวคนหนึ่งแย่งโทรศัพท์จากมือของเธอและขว้างทิ้ง
   เพล้ง!
   “กรี๊ดดดดดดด” เธอกรีดร้องลั่นแต่โชคดีที่โทรศัพท์ไม่ได้พังอย่างที่คิดแค่จอแตกเธอรีบหยิบโทรศัพท์แล้ววิ่งหนีไปทันที ก่อนจะตะโกนทิ้งท้ายว่าจะลบรูปและไม่ถ่ายแล้ว เช่นเดียวกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่กรีดร้องแล้วบอกว่าจะลบรูปทิ้งและขอร้องว่าอย่าทำร้าย ก่อนจะรีบวิ่งหนีตามกันไป หินจะวิ่งตามแต่ผมจับเอาไว้
   “หิน! ใจเย็นๆสิ!”
   “แฮ่กๆๆ ขะ..ขอโทษ หินกลัว”
   “ไม่ต้องกลัวเขาแค่ถ่ายรูปใจเย็นๆ อย่าทำแบบนี้อีกไม่งั้นผมจะโกรธมากๆนะรู้ไหม!”
   “ขะ..ขอโทษ”
   เจ๊ลีที่มองเหตุการณ์ถึงกลับยืนอึ้งอย่างไม่อยากเชื่อว่าหินจะเป็นแบบนี้เพราะดูจากภายนอกไม่ได้จริงๆและไม่คิดว่าจะเป็นคนรู้จักของผม ผมจึงอธิบายให้เจ๊ลีฟังว่าหินไม่ค่อยปกติเหมือนคนทั่วไป เจ๊ลีพยักหน้าและอนุญาตให้ผมกลับบ้านได้เร็วกว่าปกติ
   กลับถึงห้องผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่มีแต่เรื่องให้เหนื่อยใจและแปลกใจ ทั้งเรื่องที่หินก่อเรื่องและใบหน้าที่เปลี่ยนไปของเขาเพราะผมยังอึ้งไม่หาย นี่คือหินจริงๆใช่ไหม คนหน้าตาดีแบบนี้น่ะเหรอผมเกร็งไม่กล้าสบตารู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า
   “คะ..คุณอย่าก่อเรื่องอีกนะ”
   “หินจะไม่ทำอีกแล้ว…” หินทำหน้าหงอยแล้วมากอดผม
   “ให้อภัยหินนะ”
   ‘…..’
   “นะ” พูดแล้วหอมแก้มผม
   “อะ..อืมผมให้อภัยคุณ”
   หินยิ้ม
   “หินจริงๆเหรอ”ผมเอ่ยถามเขาเมื่อหน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบผมจึงค่อยๆเบือนหน้าหนี
   “อื้อ… แปลกไหม ยายบอกว่าหนวดเยอะผมก็รุงรังเลยพาไปให้ร้านโกนหนวดและตัดผมออกให้”
   “ดูดี…คุณหน้าตาดีมากเลยรู้ไหม”
   “ฟ้าชอบหรือเปล่า”
   ‘…..’
   ผมนิ่ง จะว่ายังไงดีเขาหล่อก็จริงแต่พอมองแบบนี้แล้วรู้สึกไม่ชิน ยิ่งคนตรงหน้า หน้าตาดีแบบนี้อีกรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ควรที่จะอยู่ใกล้เขาเลย
   “ไม่ชอบเหรอ”
   “ปะ..เปล่า…”
   "ก็ฟ้าไม่ค่อยมองหน้าหินเลย…ไม่ชอบเหรอ…"
   หินทำหน้าเหมือนจะร้องไห้มือหนาจับมือผมให้สัมผัสใบหน้าของเขา
   “ชอบหินไหม”
   “…เอ่อ…” ผมหลบสายตารู้สึกใจเต้นจนไม่กล้ามองหน้า
   “ไม่ชอบหินใช่ไหม” เขาถามเสียงสั่นเครือ
   “ไม่ใช่… ชอบสิผมชอบหินนะ” ผมจับใบหน้าของเขาที่ไร้หนวดเครา
   หินยิ้มแล้วกอดผมแน่น
…………………………
   “คะ..คุณนี่ใช่ไอ้บ้าไหม” คุณนายอมรยื่นโทรศัพท์ให้สามีดูรูปภาพที่แชร์กันทางอินเตอร์เน็ตเมื่อสองสามวันก่อน เป็นภาพของชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสูง กับอีกคนที่หน้าตาสวยหากมองเผินๆหลายคนคงคิดว่าเป็นผู้หญิง
   คุณเกริกขมวดคิ้วก่อนจะตอบ “ผมจำหน้ามันไม่ได้แล้วแต่ข้างๆคือเด็กครามนี่”
   “ใช่น่ะสิ แต่คนข้างๆนี่คือไอ้บ้าเหรอหรือมันจะโกนหนวดโกนเคราแล้ว”
   “คงจะยังงั้น”
   “หึ เจอตัวสักทีพวกมันหนีไปอยู่ที่นี่เอง” เธอยกยิ้มแล้วหันไปสั่งกับลูกน้องคนสนิทของคุณเกริกผู้เป็นสามี
   “ไปหามาว่าที่นี่คือไหน…ถ้าเจอฆ่าผู้ชายหน้าสวยซะ ส่วนอีกคนจับมาเป็นๆ”
   “ครับ”
   “คุณจะตามหาให้เสียเวลาทำไม…แผนคุณก็มีนี่ใช้ให้เป็นประโยชน์สิ”คุณเกริกยกกาแฟดื่ม
   “ฉันกลัวว่ามันจะทรยศน่ะสิ และอีกอย่างมันปิดเครื่องไม่ยอมเปิดเลย”
   “ก็ลองโทรไปก็ไม่เสียหายนี่เผื่อมันจะเปิดเครื่องมันยิ่งโง่ๆอยู่”
   “นั่นสินะ” คุณนายตอบรับพลางยกโทรศัพท์ขึ้นโทร
   หลังจากนั้นเธอก็เดินลงไปยังชั้นล่างอย่างสบายอารมณ์ เห็นฝนกำลังเช็ดแจกันหน้าตาของเธอซีดเซียวเพราะเพิ่งหายป่วยหนักหลังจากรู้ว่าลูกชายหนีออกไปจากบ้าน
   “ไงฝนหายป่วยแล้วเหรอ”
   “คะ..ค่ะ”
   ”เหนื่อยหน่อยนะที่ลูกของแกหนีตามผู้ชายไปน่ะ แกดูลูกตัวเองไม่ออกหรือไงว่ามันอยากมีผัวและยังทิ้งแกหนีไปกับผัวอีก ฉันล่ะสงสารแกจริงๆเฮ้อ…”
   ฝนหน้าซีดกว่าเดิม หยาดน้ำตาของเธอเอ่อล้นอาบแก้ม เธอไม่เข้าใจว่าทำไมลูกของเธอถึงต้องหนีออกไปจากบ้าน... เธอคิดไม่ตกเลยจริงๆ
..............................
   “เฮ้อ…”
   “นั่งถอนหายใจและทำหน้าเครียดมาซักพักแล้วนะเป็นอะไรจ๊ะ”
   “ปะ..เปล่าครับ”
   “งั้นดูนี่ดีกว่าจะได้อารมณ์ดีขึ้น ดูสิภาพที่ถ่ายกันวันนั้น คนถูกใจเป็นแสนคนแชร์เป็นหมื่นเชียวนะ” เจ๊ลีเอ่ยแล้วยื่นหน้าจอโทรศัพท์มาให้ผมดู เป็นภาพของผมและหินในวันนั้นผมไม่คิดว่าเจ๊ลีจะถ่ายรูปด้วย
   “จะ..เจ๊ถ่ายรูปด้วยเหรอครับวันนั้น”
   “ใช่สิจ้ะ คนหน้าตาดีแบบนี้เจ๊ไม่พลาดหรอกถึงสติไม่ค่อยดีแต่หน้าตาดีก็โอเค แต่ตอนนั้นก็รีบถ่ายแล้วรีบซ่อน”
   “แล้วหมายความว่ายังไงเหรอครับที่คนถูกใจอะไรผมไม่เข้าใจ…คือผมเล่นไม่เป็นน่ะครับ” พวกเทคโนโลยีผมไม่เข้าใจและเล่นไม่เป็นเลย
   “อ้อ สรุปง่ายๆคือมีคนชอบและเห็นหน้าครามและพ่อรูปหล่อเป็นหมื่นเป็นแสนคนไงจ๊ะ ”
   “วะ..ว่าไงนะครับ!”
   “จ๊ะ?”
   “คนเห็นเป็นหมื่นเป็นแสนคนเหรอครับ!”
   “ใช่จ้ะ ดีใจไหม….”
   “ยะ..แย่แล้ว ผม… ผมคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว…”
   “อะไรเหรอคราม”
   ผมขมวดคิ้ว สั่นไปทั้งตัว “แบบนี้คุณนาย…คนที่ตามฆ่าต้องหาพวกผมเจอแน่ๆ ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว” ผมเตรียมจะวิ่งไปแต่เจ๊ลีคว้าแขนผมไว้ได้ก่อน
   “ดะ..เดี๋ยวครามใจเย็นๆ เกิดอะไรขึ้น!”
   “จะ..เจ๊…ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วผมต้องหนีไม่อย่างนั้นผมและหินจะถูกฆ่า!” ผมไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าตาผมจะน่าเกลียดมากแค่ไหนเพราะผมร้องไห้ออกมาแล้ว
   “ตั้งสติแล้วเล่าให้เจ๊ฟังนะใจเย็นๆก่อน…โธ่ อย่าเพิ่งร้องไห้สิ”
   สุดท้ายผมก็บอกความจริงกับเจ๊ลีไปว่าผมหนีมาและถ้าหลายคนเห็นผมกับหินอยู่ที่นี่ก็แปลว่าพวกคุณท่านก็รู้ว่าผมอยู่ที่นี่เหมือนกัน
   “ตายจริงเรื่องใหญ่แล้วนะเนี่ยเจ๊ขอโทษนะเพราะเจ๊แท้ๆเลย…แต่พวกที่ตามฆ่ามันเลวจริงๆ! เจ๊จะแจ้งความจับพวกมันซะ!”
   “ไม่มีประโยชน์หรอกครับเราสู้อำนาจพวกเขาไม่ได้…”
   “เฮ้อ… ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับครามด้วยนะ  เจ๊จะช่วยครามเองนะ”
   “เอ่อ… จะดีเหรอครับเจ๊อย่าเอาตัวมาเสี่ยงกับพวกผมเลย”
   “ก็เจ๊เป็นคนผิดนี่เรื่องนี้เจ๊ต้องรับผิดชอบ! เจ๊พอคิดออกแล้วว่าจะพาครามหนีไปที่ไหนที่เชียงใหม่เจ๊มีน้องชายอยู่ที่นั่น เป็นถึงพ่อเลี้ยงมีอิทธิพลอยู่พอสมควร ครามไปอยู่ที่นั่นนะ”
   “จะดีเหรอครับ...”
   “ดีสิ!”
   “ขอบคุณเจ๊มากเลยนะครับ…”
   “อย่าขอบคุณเลยก็เจ๊ผิดเต็มๆแต่ขอเจ๊ติดต่อน้องชายเจ๊ก่อนนะ หมอนี่มันติดต่อยากเจ๊โทรไปไม่ค่อยรับสายแต่ระหว่างนี้ก็เตรียมเก็บเสื้อผ้ารอก่อน อย่าออกไปไหนและระวังตัวด้วยนะ”
   “ครับ”ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางกำบางสิ่งบางอย่างที่นำติดตัวมาด้วยแน่นเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองพลาดไปและต้องการแผนสำรอง

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสาร เบื่อ อิคุณนายมันนี่แหละบ้าาาาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สนุกอะ. ชอบๆ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
พ่อเลี้ยงจะนิสัยดีไหมเนี่ย

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เจอแต่คนใจดี

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอให้พวกคนเลวๆถูกจับไปให้หมดซะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ มิวม๊าว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากกกก อ่านเจ็ดตอนรวดเลย5555555

รอติดตามจ้า :mew1:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มารอ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สนุกจัง ติดตามน้า~

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ตรรกะคนบ้านนั้นเป็นแบบไหนกันเนี่ย
โหดร้ายอ่ะ

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
ดีนะเจอเจ๊ใจดี

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คิดๆ แล้วๆ เชียว ว่าหินต้องหล่อมากกกกกกกก
ปราง ก็มีส่วนดี ที่ทำให้ฟ้า หิน ออกจากบ้านได้นะเนี่ย
หิน ฟ้า ไปอยู่เชียงใหม่กับพ่อเลี้ยง
แล้วจะเป็นยังไงนะ
รอ ตอนใหม่ :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอลุ้นตอนต่อไป^^

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ป่วยกันทั้งบ้าน  ตั้งแต่คุณนาย ยัน คนดูแลบ้าน   :katai1:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
รออ่านต่อนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tastsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: @คนบ้า@ *Mpreg* [ตอนที่8]
«ตอบ #80 เมื่อ22-09-2016 17:01:02 »

                สามวันแล้วที่พวกผมต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ แต่ก็ยังไร้วี่แววของคนที่ตามฆ่า ส่วนเจ๊ลีก็ยังบอกว่าติดต่อน้องชายไม่ได้ จึงทำให้ผมไม่รู้จะทำยังไงนอกจากอยู่ในห้องเช่าแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของหินที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ อยู่ในที่แคบๆ แบบนี้เขาคงจะหงุดหงิดและเครียดมากๆ แต่ตอนนี้เขากลับทำตัวปกติและกำลังแทะน่องไก่อย่างมูมมาม ทั้งที่หน้าตาไม่เหมาะกับพฤติกรรมแบบนี้เลย
                “เฮ้อ…” เสียงถอนหายใจของผมทำให้คนตัวใหญ่หยุดกินแล้วเขยิบมานั่งข้างๆ
                “ไก่ไหม อร่อยนะ”
                “ไม่เป็นไร ผมไม่หิว…”
                “แต่ฟ้าไม่ค่อยกินเลย… ผอมจะแย่แล้ว”
                “คุณกิน..”
                ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งเฮือก
                “คราม… เจ๊เองนะ”
                ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วรีบเดินไปเปิดประตู
                เจ๊ลีรีบเข้ามาแล้วปิดประตู
                “เจ๊ติดต่อน้องชายเจ๊ได้แล้วนะ… เขากำลังส่งลูกน้องมารับ พรุ่งนี้ประมาณตีสี่คงมาถึง       ที่นี่”
                “จริงเหรอครับ… ขอบคุณเจ๊มากนะครับ”
                “เฮ้อ... ยิ่งขอบคุณเจ๊ก็ยิ่งรู้สึกผิด อ้อ พวกเขาจะมารอรับที่นอกชุมชนนะ คือลูกน้องพ่อเลี้ยงมีแต่คนที่ไม่ใช่คนไทยซะส่วนมากน่ะ ถ้าเข้ามาที่นี่เกรงว่าจะมีเรื่องยุ่ง แต่เจ๊จะพาไปส่งนะ ที่เหลือก็ขึ้นรถไปกับพวกเขา พ่อเลี้ยงจะจัดการทุกอย่างเอง”
                ผมถอนหายใจอีกครั้ง ตอนนี้ชีวิตพวกผมต้องฝากอยู่กับคนอื่นแล้วสินะ ไม่รู้ว่าพวกผมจะต้องหนีแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน… หรือจะต้องหนีไปตลอดชีวิตกัน
                “แล้วก็นี่…” เจ๊ยื่นบางอย่างมาให้ผม ผมเบิกตากว้าง
                ปืน…
                “จะ..เจ๊ ผม…”
                “รับไว้เถอะนะ ไว้ป้องกันตัว แค่ลั่นไกก็ยิงได้เลย”
                “แต่ผม…..” ผมมือสั่น มองปืนในมืออย่างกลัวๆ กล้าๆ ผมคงไม่กล้ายิงหรอก
                “ครามฟังเจ๊นะ คนที่จะปกป้องหินได้ก็มีแต่ครามเท่านั้น ถ้าถึงเวลาจวนตัวจริงๆ ก็ต้องยิง จะยอมถูกฆ่าตายเหรอ…”
                “ผม… ไม่อยากตาย”
                “ใช่ ก็ต้องยิงเพื่อปกป้องชีวิตตัวเองและคนสำคัญ”
                ผมมองปืนในมือและหันไปมองหินที่ไม่รู้เรื่องราวแล้วพยักหน้ารับ
                “ครับ”
                หลังจากนั้นเจ๊ก็กลับไป ผมวางปืนไว้หลังตู้ บอกหินว่าอย่าเล่น…
                “ล้างมือแล้วค่อยเข้านอนนะ”
                “นอนไวจัง”
                “รีบนอนเอาแรง พรุ่งนี้จะได้หนีกันแล้วนะ”
                “หนีเหรอ ต้องหนีอีกแล้วเหรอ” หินเดินไปล้างมือแล้วล้มตัวนอนหนุนตักผม
                “เมื่อไรจะหยุดหนี”
                “ไม่รู้สิ… หินเหนื่อยเหรอ”
                “ไม่เหนื่อย… อยู่กับฟ้าไม่เหนื่อย แต่ฟ้าเหนื่อยหรือเปล่า”
                “ไม่หรอก” ผมมองคนนอนหนุนตักที่กำลังยิ้ม เราสองคนมองหน้ากันอยู่นานเหมือนกับสื่อบางอย่างถึงกันและกัน ก่อนที่ผมจะค่อยๆ ก้มลงจูบหน้าผากเขาอย่างแผ่วเบา
                “หลับเถอะครับ” หินยิ้มแล้วจับมือผมไปหอม
                ไม่นานหินก็ผล็อยหลับไป ผมค่อยๆ ย้ายหัวเขาจากตักให้ไปหนุนหมอนแทน ส่วนผม   วันนี้คงไม่หลับง่ายๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมคงต้องใช้ปืนป้องกันตัวจริงๆ นั่งรอไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าผ่านมากี่ชั่วโมงแล้ว รู้แค่ว่าผมจ้องปืนอยู่แบบนั้นจนกระทั่ง…
                ก๊อกๆ
                เฮือกกก ผมรีบคว้าปืนทันที
                “คราม…”
                “เจ๊ลี” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
                ผมรีบเปิดประตู
                “ถึงเวลาแล้วนะ”
                “คะ..ครับ” ผมรีบปลุกหินให้ตื่นแล้วรีบหยิบข้าวของที่เตรียมไว้
                “ตามเจ๊มานะ อาจไกลหน่อย เงียบๆนะ”
                “ครับ”
                เราสามคนค่อยๆ เดินอย่างเงียบๆ แม้จะค่อนข้างมืดเพราะหลายบ้านไม่ได้เปิดไฟไว้ แต่ก็เป็นการดีที่คนอื่นจะมองไม่เห็น ผมจับมือหินแน่น ส่วนมืออีกข้างก็ถือปืนไว้ตลอดทั้งๆ ที่กลัว จนกระทั่งเดินออกมานอกชุมชน จู่ๆ เจ๊ลีก็หยุดเดินเมื่อมาถึงสวนมะม่วงแห่งหนึ่ง
                “ชู่!”
                “จะ..เจ๊”
                “คราม… ถ้าเจ๊ให้สัญญาณ ก็วิ่งหนีเข้าไปในสวนเลยนะ”
                “มะ..หมายว่ายังไงครับ”
                “มีคนดักรออยู่ข้างหน้า”
                ผมเบิกตากว้าง
                “แล้วเจ๊…”
                “เห็นอย่างนี้เจ๊ก็ต่อสู้เป็นนะ น้องชายเจ๊เป็นถึงพ่อเลี้ยง แล้วเจ๊ที่ใหญ่กว่าพ่อเลี้ยงจะเก่งแค่ไหน… เอาเป็นว่าถ้าเจ๊ให้สัญญาณก็รีบวิ่งไปเลยนะ ลัดสวนนี้ไปทางซ้ายเรื่อยๆ จะเจอพวกของเจ๊อยู่ที่นั่น”
                “เจ๊ระวังตัวด้วยนะครับ”
                “จ้ะ แล้วครามเอาปืนมาด้วยไหม”
                “คะ..ครับ”
                เจ๊ถือปืนของตัวเองเช่นกัน “วันนี้เจ๊จะออกโรงเองจ้ะ”  เจ๊ลียิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มเย็นยะเยือก
                “ใครกล้าแหยมเจ๊ไม่ตายดีหรอก นับหนึ่งถึงสามแล้ววิ่งเลยนะ”
                “คะ..ครับ”
                “สาม!“
                ผมอึ้งก่อนจะถูกเจ๊ผลักเข้าสวนแล้วเริ่มวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ทำไมนับสามก่อนเลยล่ะ พวกผมก็ตั้งตัวไม่ทันสิ แต่ตอนนี้คงคิดอะไรไม่ได้นอกจากวิ่งหนี ผมจับมือร่างสูงแน่นแล้วพาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
                ปังๆๆ
                เสียงปืนทำให้ใจหวิวจะหยุดวิ่ง แต่เสียงฝีเท้าที่วิ่งตามมาหลายเท้านั้นทำให้พวกผมไม่สามารถจะหันกลับไป แม้จะเป็นห่วงเจ๊ลีก็ตาม
                ฟุบ!
                “โอ๊ย!” ผมล้มลงเพราะสะดุดกิ่งไม้
                “ฟ้า! เป็นยังไงบ้าง”
                “ไม่เป็นไร” ผมรีบลุกทั้งที่เจ็บขาแล้ววิ่งไปทางซ้ายเรื่อยๆ ตามที่เจ๊ลีบอก
                ปังๆๆ เสียงปืนดังไล่หลังมาเรื่อยๆ
                “ไอ้สัส ยิงทำไม เดี๋ยวโดนอีกคนหรอก!” เสียงตะโกนทำให้เสียงปืนหยุดลง
                “แม่งรอพวกมันมาสามวัน ยิงปล่อยอารมณ์เว้ย”
                “เหวอออออ!”
                ตุบๆๆ
                เพราะความมืดจึงทำให้เราสองคนกลิ้งลงไปในร่องสวนที่มีความลึกพอสมควร โชคดีที่ไม่มีน้ำแต่ก็ทำให้เจ็บ…
                “ฟ้า!”
                “อะ..โอ๊ย” ผมจับหน้าผากตัวเอง รู้สึกเจ็บนิดๆ และได้กลิ่นเลือดจางๆ แผลคงไม่ใหญ่มาก แต่หินก็พยายามจะดูแผลให้ได้ แต่เพราะความมืดจึงมองไม่เห็นอะไรมากนัก นอกจากใบหน้าเราสองคนลางๆ
                “จะ..เจ็บตรงไหนบอกหิน… ฮึก..ก…”
                “ไม่เป็นไร… อย่าร้องไห้สิ” ผมจับใบหน้าของหินแล้วเช็ดน้ำตาให้ ทำไมช่างขี้แยแบบนี้นะ
                “ไม่จริง ฟ้าเจ็บมาก…” หินกอดผม
                “เฮ้ย พวกมันหายไปไหนแล้ววะ!”
                เสียงตะคอกของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ผมสะดุ้งเฮือกรีบควานหาปืนแต่กลับไม่เจอ หรือจะทำหล่นไปที่ไหนแล้ว
                “ฟ้า..ฟ้าเจ็บไหม”
                “ยะ..อย่าเสียงดัง” ผมรีบใช้มือปิดปากหินแต่เขาก็ยังไม่ยอมอยู่นิ่ง ยังขยุกขยิกจะดูแผลผมให้ได้
                “มันคงหนีไปได้ไม่ไกลหรอก ลองหาแถวนี้ก่อนเถอะ” แสงไฟฉายสาดมาทางพวกเรา ผมเบิกตากว้าง หรือพวกเขาจะเดินมาทางนี้
                ส่วนหินก็พยายามกอดผมแล้วเรียกชื่อผมตลอด ทำไมเขาช่างวุ่นวายนักนะ กำลังจะถูกเจอตัวอยู่แล้ว
                “ฟ้า… อุบ!”
                ผมผลักหินลงนอนราบกับร่องน้ำของสวนที่แห้งขอด ส่วนผมก็นอนทับร่างของเขาไว้ ผมส่งริมฝีปากของตัวเองปิดทับริมฝีปากหนาที่ช่างสงสัยจนเงียบลง ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตกใจแค่ไหนเพราะมองไม่เห็น แต่สำหรับผม นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดอะไร เพราะตอนนี้ชีวิตสำคัญที่สุด ผมผละจากปากเขาแล้วแหงนมองแสงไฟฉายที่สาดส่องไร้ทิศทางจนกระทั่งแสงนั้นจากไป พร้อมกับเสียงคนที่ตามหา
 
                “เฮ้อ… อุบ! อื้อ!”  ผมเบิกตากว้างเมื่อถูกมือหนาจับใบหน้าและกระชากให้มาจูบคนใต้ล่าง ร่างกายถูกแขนแกร่งจับไว้ไม่ให้ลุกหนีและถูกบดขยี้ริมฝีปากจนเจ็บช้ำ
                “อื้อ! หะ..หาย…”
                ฟึ่บ!
                ไม่ทันจะได้บอกอะไรร่างกายก็ถูกพลิกลงใต้ร่างแทน
                “แฮ่กๆๆ ทะ..ทำอะไร… ของคุณ! อื้อ!!” ไม่ทันจะได้พูดอะไรก็ถูกจูบอีกครั้งเหมือนกระชากวิญญาณให้หลุดลอย ลิ้นหนาล้วงลึกเข้ามาหยอกล้อลิ้นของผมอย่างชำนาญ
                ใครสอนเขากันนะ… ทำไมช่างเก่งแบบนี้
                ผมพยายามผลักแต่ก็เหมือนผลักกำแพงที่ไม่ขยับ เบือนหน้าหนีก็ถูกไล่ต้อนจนมุม
                “หะ..หิน…” ผมหอบฮักเมื่อถูกละจูบ
                “ทะ..ทำอะไร… ยะ..อย่านะ” ผมพยายามลุกหนี แต่กลับถูกกระชากให้นอนลงดังเดิม
                “ฟ้า แฮ่กๆๆ หินอยากได้ฟ้า”
                ผมสั่นทั้งตัว ไม่จริง... หรือเขาจะทำแบบนั้นกับผมอีกแล้ว
                “มะ..ไม่! อย่านะ!” ผมรีบลุกแต่ถูกกดอีกรอบ มือหนารวบมือผมทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว
                “ฮึก..ก... ไม่เอานะหิน อย่าทำแบบนี้อีก ผมกลัวนะ ฮึก..ก...”
                “หินทนไม่ไหว ปวดตรงนี้มากๆ ช่วยหินด้วย” หินพูดพร้อมกับปลดซิปกางเกงตัวเองออก ปรากฏความเป็นชายที่โผล่พ้นและแข็งขึงออกมา แม้จะมองไม่เห็น แต่ความใหญ่โตที่สัมผัสได้ตรงหน้าขาก็ทำให้ผมสั่นกลัว
                “ไม่นะ! อย่าทำผมนะ ฮึก..ก... ผมกลัวจริงๆ นะ…”
                “ฟ้าอย่ากลัวนะ หินไม่รุนแรงเหมือนตอนนั้นแล้ว ไม่ต้องกลัว” เขาพูดพลางก้มจูบผมเบาๆ
                “ถ้าทำฟ้าจะโกรธนะ ฮือๆๆ ไม่เชื่อฟังแล้วเหรอ…”
                “ขอโทษ…” เสียงกระเส่านั้นพูดอย่างแผ่วเบาข้างหู
                ผมหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ก่อนจะถูกทาบทับด้วยร่างใหญ่โตที่กำลังปลดกางเกงผมออกและสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางหลัง ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วคลึงวนอย่างเบามือก่อนจะกดเน้นๆ จนสุดนิ้ว ผมร้องซี้ดเมื่อความรู้สึกบางอย่างมันทำให้ผมต้องจิกทึ้งเล็บบนหลังของหิน ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว จนผมคิดว่าตัวเองเริ่มตายด้าน แต่ไม่ใช่เลย นิ้วของหินชักเข้าออกและกดผนังด้านในจนผมเกร็งไปทั้งตัวและมีน้ำเมือกออกมาเมื่อชักนิ้วออก
                “แฮ่กๆๆ” ผมหอบฮักเมื่อรู้สึกอยากปลดปล่อยเต็มทนจนเผลออ้าขากว้าง หินก้มลงจูบหน้าผากผมก่อนจะค่อยๆ กดความใหญ่โตเข้ามาในช่องทางหลัง ผมกัดปากตัวเองแน่น มือก็โอบกอดเขาแล้วจิกหลังผ่านเสื้อเพื่อระบายความเจ็บอีกครั้ง
                “โอ๊ย! เจ็บ เบาๆ หิน!”
                เขาหยุดแล้วมาคลอเคลียซอกคอแทน มือหนาจับความเป็นชายของผมรูดขึ้นลงอย่างชำนาญ เขาคงเข้าใจผิดว่าส่วนนั้นของผมจะมีอารมณ์ ความใหญ่โตเริ่มเคลื่อนไหวกระแทกเน้นๆ จนผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บอีกครั้ง เหมือนร่างกายกำลังถูกแบ่งแยกเป็นสองเสี่ยง แต่ในความเจ็บกลับมีความเสียวปะปนอยู่
                “ฮึก..ก..ก… เจ็บ… อะ..อา..อา…”
                “ไม่ร้องนะฟ้า หินอยากได้ฟ้า… อึก” เขากัดฟันตัวเองกรอดเมื่อขยับเข้าออก คงทรมานเมื่อถูกโอบรัดจากช่องทางที่เล็กกว่ามาก
                ผมนอนมองท้องฟ้าที่เริ่มมีแสงสีส้มมาแทนความมืด แล้วนิ่วหน้าเมื่อหินกระแทกเข้าออกถูกจุดไวสัมผัส แม้ผมกำลังถูกเขาทำเรื่องน่าอายอีก แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกมีความสุขจนผมปลดปล่อยไปหลายครั้ง
                “หะ..หิน… อะ… ระ..แรงกว่านี้ อ๊า!”
                กึกๆๆ เสียงกระแทกเน้นๆ ดังต่อเนื่อง หินหอบแฮ่กและกระแทกเร็วขึ้นเมื่อผมร้องขอ ถึงแม้ผมจะปลดปล่อยไปแล้ว แต่พอหินกระแทกเร็วอีกครั้ง ความปรารถนาก็เกิดขึ้นอีก
                “จะ..จะออกอีกแล้ว... หะ..หิน”
                ผมจับหน้าอีกฝ่ายแล้วเอ่ยร้องขออีกครั้ง
                “บะ..บอกรักผมได้ไหม… อือ… ละ..แล้วผมจะให้อภัยนะ”
                เขาหยุดนิ่งแล้วมองใบหน้าของผม
                ผมมองเขาทั้งน้ำตา ตอนนี้เราสองคนคงไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงคำว่าสามีภรรยาได้แล้วสินะ เพราะหัวใจของผมเริ่มที่จะค่อยๆ เปิดรับเขามากขึ้น… จากความสงสารก็ค่อยๆ ก่อตัวเป็น…..
                “ผมรักฟ้า…” เขาพูดอย่างหนักแน่นพลางเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะก้มลงจูบอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งความต้องการค่อยๆ หายไป เราถึงละจูบจากกัน
                ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว เราสองคนกลับหนีไปไม่ถึงไหน คนที่มารอรับคงทิ้งพวกเราไปแล้ว ผมถูกหินอุ้มเข้าอ้อมกอดเพราะเดินไม่ไหว ทั้งแผลที่สะดุดล้ม ความเจ็บตรงหน้าผากที่ทำให้มึน และความเจ็บช่วงล่างที่ทำให้ขาสั่นจนเดินไม่ได้ หินถอดเสื้อตัวเองแล้วมาคลุมตัวผมไว้เพื่อคลายความหนาว ส่วนตัวเองก็โชว์ร่างกายท่อนบนกำยำอุ้มพาผมไปที่จุดนัดหมาย... ที่ที่คิดว่าคงไม่มีใครรอเราแล้ว
                “คราม! หิน!”
                เสียงเจ๊ลีทำให้ผมละจากอ้อมกอดของหินแล้วหันไปมอง
                “เจ๊ลี! ปลอดภัยใช่ไหมครับ”
                “ใช่จ้ะ เจ๊เป็นห่วงมากเลยรู้ไหมที่ทั้งสองคนไม่มาสักที”
                ผมหน้าแดงฉับพลัน จะบอกว่ายังไงดี แทนที่พวกเราจะรีบหนีแต่กลับ… ทำแบบนั้นกัน…
                “ตายจริง ครามมีเลือดไหลที่หน้าผากด้วย ที่ขาอีก!” พูดแล้วเจ๊ก็ให้ผู้ชายหลายคนที่แต่งตัวทะมัดทะแมงและมีอาวุธปืนเอาที่ทำแผลมาให้
                หลังจากทำแผลเสร็จ เจ๊ก็บอกว่าพวกเราต้องไปกับกลุ่มคนพวกนี้เพื่อขึ้นเหนือ ไปอยู่กับพ่อเลี้ยงที่เป็นน้องชายของเจ๊ แล้วยังฝากฝังคนพวกนี้ให้ดูแลพวกเราระหว่างทางให้ดีที่สุด
                “ดูแลตัวเองให้ดีนะคราม”
                “เจ๊ด้วยนะครับ… คงต้องเหนื่อยอีกแล้วที่ไม่มีคนล้างจาน จุกคงอดเล่นด้วย”
                “นั่นสินะ ถ้าเรื่องเงียบแล้วมาหาเจ๊บ้างนะ คราวนี้ไม่ต้องล้างจานแล้ว”
                เจ๊กอดผมที่ยืนอย่างเซๆ จนต้องใช้อ้อมแขนของหินพยุง แต่เมื่อเจ๊เห็นเราสองคนคอยประคองกันและตัวติดกันตลอดเวลา เจ๊ก็อมยิ้ม
                “หิน ฝากดูแลครามด้วยนะ… ตอนนี้คงไม่ใช่ครามที่ดูแลคุณแล้วสินะ”
                ผมมองหน้าเจ๊อย่างงงๆ หินน่ะเหรอจะดูแลผมได้
                “ครับ ผมจะดูแลฟ้าด้วยชีวิต”
                คำตอบของหินเป็นคำตอบที่หนักแน่นที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะตอบได้ โดยใช้ศักดิ์ศรีของตัวเองทั้งหมดทุ่มลงในคำพูดนั้น ดั่งคำมั่นสัญญา
                ผมมองหน้าของหินแล้วยิ้ม… ขอบคุณนะ…
                “งั้นเจ๊ก็วางใจจ้ะ เดินทางกันดีๆ นะ”
                พวกเราสองคนอำลาเจ๊ลีและขึ้นรถยนต์มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง ผมนอนเอนซบหินแล้วผล็อยหลับไป โดยมีอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดดั่งกำแพงหินผาที่พร้อมจะปกป้องตลอดเวลา
 

 

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
งื้ออออออออ ชอบบบบบบบบ ><

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ GGamy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สารภาพค่ะ อิตอนแรกเห็นชื่อเรื่องก็ว่าจะไม่อ่านนะ
ไปๆมาๆ ไหนๆก็ว่างละ ลองอ่านดูขำๆเผื่อสนุก
มันไม่ขำเลยค่ะขุณพี่มันดีมากค่ะน้อง ชีวิตแอดแวนเจอร์หนนีออกจากบ้านใหญ่
ไปอยู่กับบพ่อเลี้ยง อร๊ายยย ฉันชอบ
ถึงเวลาที่หินต้องดูแลน้องครามบ้างแล้วน้าา
ถ้าคอมเม้นนี้จะไม่มีสาระเท่าไร แต่ก็มาด้วยใจนะคะ o13

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
หินจะดูแลฟ้าแล้ว
หินรู้วิธีถนอมร่างกายฟ้าแล้ว ไปรู้มาจากไหน
แต่แอบฮ่าจะหนีดันของขึ้นซะเนี่ย ฟ้า ขาสั่งเลย ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :เฮ้อ: ......หินเอ๊ย.....หนีกันหัวซุกหัวซุน
รู้หรอก ว่ารักฟ้า ห่วงฟ้า ทำม้าย.... หุบปากไม่เป็น
เรียกแต่ฟ้า... ฟ้า.. จะดูแผล  :เฮ้อ: เหมือนเด็กเลย
แต่พอฟ้าปิดปากหินด้วยปากฟ้า ได้เรื่องทันที
ตอนอย่างนี้ดันมีอารมณ์หื่นได้ซะอีก อะจ๊ากกกก
แถมเสร็จสมซะด้วย   :hao7: :pighaun: :haun4:
เจ๊ลี ก็เต็มใจช่วยเหลือ เป็นคนดีจริงๆ :mew1: :mew1: :mew1:
รอ ตอนใหม่
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เฉียดตายยังมีอารมอีก - -

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด