รักบอดๆ ตอนที่ 11
"น้องเอครับ..." เสียงคล้ายป๋าชิน
"น้องเอตื่นครับ" อื้อ ไม่คล้ายและ ท่าจะใช่เลย
ผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นทีละน้อย แล้วยันตัวลุกนั่งอึน ให้สมองประมวลผล
สักพักจึงเงยหน้าขึ้นมองป๋าชินซึ่งนั่งหมิ่นเหม่อยู่บนพื้นที่น้อยนิดตรงขอบโซฟาข้างตัว
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ หืม" ป๋าถามด้วยสายตาเป็นห่วง
"อืมมม ปวดหัวนิดหน่อยอ่ะ" ว่าแล้วก็เอามือลูบหน้าลูบตาตัวเองแล้วเอนตัวซบไปบนบ่าของคนข้างกาย
"ตัวไม่ร้อน" ป๋าชินยกหลังมือแตะๆ ไปทั่วใบหน้า พึมพำเบาๆ
"อื้อออ ปวดหัวเฉยๆ ไม่ได้ป่วยสักหน่อย แล้วนี่ป๋าหายหงุดหงิดผมแล้วเหรอ" ถูๆ ไถๆ หน้าไปกับบ่ากว้างอย่างรู้สึกอ้อน
"หืม รู้ด้วยว่าทำให้พี่หงุดหงิด"
"รู้ตัวสิ แต่ผมก็ทำจนติดเป็นสันดานไปแล้วอ่ะ ให้แก้ไขอะไรก็คงยากกกกก"
ผมตอบก่อนจะยกหัวออกมามองหน้าป๋าชินอีกครั้ง ป๋าชินถอนใจน้อยๆ กับคำพูดของผม
"แก้ไม่ได้ ลองลดๆ ลงบ้างก็ดีครับ"
"อืมมมม จะพยายาม"
ถ้าพูดตามหลักนิสัยผมแบบไม่ต้องอ้อมค้อม ให้ลดเกรียนคงพอได้(ซึ่งไม่ทำ) แต่ให้เลิกดื้อกับป๋าผมว่าไม่มีทาง
เพราะขนาดปัจจุบันผ่านมาจะสิบปี ตอนนั้นเป็นอย่างไรตอนนี้ผมก็เป็นอยู่อย่างนั้น ป๋าชินเองก็ดูจะปลงๆ ไปได้นานแล้วเหมือนกัน
"แล้วนี่น้องเอจะออกไปกินข้าวขข้างนอกหรือจะให้พี่ออกไปซื้อ?"
"ข้าว? นี่กี่โมงอ่ะ" ผมทำหน้าสงสัย
"จะบ่ายโมงแล้วครับ"
"อืมๆ" พยักหน้าเข้าใจ
"ตกลงว่าไงครับ"
"เรื่องอะไรอ่ะ"
"ข้าวกลางวันครับ ตื่นดีหรือยังเนี่ยเรา"
"อ้อ ผมออกไปซื้อให้ก็ได้"
"อารมณ์ไหนกัน" ป๋าขมวดคิ้วเล็กน้อยกับการเสนอตัวของผมที่นานทีปีหนจะเจอสักที
และถึงเรื่องจริงมันจะใช่ แต่กรุณาอย่าทำเหมือนเป็นเรื่องหาได้ยากขนาดนั้นได้ป่ะ ชิส์
"ไม่อารมณ์ไหนล่ะ อยากทำก็จะทำ มีปัญหาไง"
"โอเค อยากทำก็ทำครับ แดดร้อนเอาร่มไปด้วยนะ"
ป๋าชิกยกสองมือขึ้นยอมแพ้พร้อมทั้งพูดยิ้มๆ อีกทั้งไม่ลืมที่จะเป็นห่วงสุขภาพของเมียด้วย
"ดี แล้วป๋าจะกินไร"
"น้องเออยากให้พี่กินอะไร ก็อันนั้นล่ะ"
"ทีงี้ทำเป็นพูดเอาใจ" หยิกแก้มแก้หมั่นเขี้ยวป๋าแกไปหนึ่งทีก่อนจะลุกขึ้นคว้าร่มในกล่องข้างประตูมาใช้
"น้องเอ"
"ครับ"
"รีบไปรีบกลับนะครับ เดี๋ยวพี่คิดถึง"
"หูยยยย เยอะนะเราน่ะ"
"ความรักเหรอครับ"
"เรื่องเยอะ" ผมตอบเสียงเข้ม ทว่าป๋าชินได้ยินกลับหลุดหัวเราะชอบใจ บ้าจริงๆ
เดินควงร่มลงมาหยุดยืนหันซ้ายหันขวาตรงหน้าทางเข้าออกโรงพิมพ์
"โอ๊ะ กำลังจะออกไปไหนเหรอครับ" พี่โต้ที่เดินโชกเหงื่อทั้งตัวเข้ามาทัก
"ซื้อข้าวกลางวันอ่ะ" ผมก็ตอบตามมารยาท
"ให้พี่แว๊นไปส่งเอาป่ะ" คนถามทำท่าบิดมอเตอร์ไซค์ประกอบ
"ไม่ครับ เกรงใจ พี่ทำงานเถอะ แต่ถ้าจะฝากผมซื้อล่ะก็ได้นะ"
"โอ้โห น้ำใจงามซะด้วย"
"เหรอ"
"ครับ" พี่โต้ยิ้มตอบตาเล็กหยี
"พอดีเลย พี่ขอเล็กแห้ง ไม่ผัก พิเศษลูกชินนะคะ" พี่ลูกเกตเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นแบงค์สีเขียวให้สองใบ
"ยุ่งตลอด"
"น้องเขามีน้ำใจเราก็ต้องรับไว้ ใช่มั้ยจ๊ะน้องเอ"
"เอ่อ ครับ" ยังอึ้งๆ กับการปรากฎตัวของพี่ลูกเกตไม่หาย แต่ก็รับเงินเขามาเรียบร้อย
"งั้นพี่เอาหมี่น้ำ พิเศษด้วยล่ะกัน" พี่ปานเดินเขามาพร้อมกับแบงค์ร้อย ตามด้วยพี่เขียว
"ของพี่เล็กน้ำนะคะน้องเอ ส่วนเงินก็ของอิปานเลยค่ะ"
"เฮ้ยๆ สั่งกันเยอะแบบนี้น้องเขาจะจำได้หมดเหรอวะ" พี่โต้โวยวาย
"เล็กแห้งไม่ผักพิเศษลูกชิ้นของพี่ลูกเกต หมี่น้ำพิเศษของพี่ปาน เล็กน้ำธรรมดาของพี่เขียวใช่ป่ะครับ แล้วของพี่โต้อ่ะ"
ผมทวนรายการของแต่ละคนให้ฟังเร็วๆ จากนั้นก็เหลือบมองหน้าพี่โต้ที่ทำหน้าหงิก
"เฮ้อ~ งั้นเดี๋ยวพี่ขี่รถไปกับน้องเอดีกว่า เฮ้ยไอ้หยัง ยืมกุญแจหน่อย" ตัดสินใจเองเสร็จพี่โต้ก็เดินไปยืมรถกับพี่ช่างอีกคน
"ไม่ว่ากันนะคะน้องเอ" พี่ลูกเกตเปรย
"ครับ?" ผมเลิกคิ้ว
"เอ่อ ก็ที่พี่สามคนเข้ามาฝากซื้อของแบบนี้" สุ้มเสียงออกแนวเกรงใจ
"อ้อ ไม่ครับ อีกอย่างก็ไม่ไกลด้วย"
"เห็นมั้ย ฉันบอกแกแล้ว น้องเขาใจดีจะตาย" พี่ปานหันไปบอกกับพี่เขียว
"ต๊าย หล่อแล้วยังไม่ถือตัว แบบนี้กระเทยรักตายเลยค่า~" พี่เขียวยกมือหนาตีแขนมาเบาๆ ผมก็ได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร
"ไปครับน้องเอ" พี่โต้เข้ามาคว้าแขนผมก่อนจะจัดการลากออกมานอกโรงพิมพ์อย่างรวดเร็ว
"เดี๋ยวพี่ เดี๋ยว ไม่ต้องลากก็ได้"
"ไม่ได้ครับ"
"ห๊ะ?" ผมหน้าเอ๋อ พี่โต้หยุดเดินแล้วหันมายิ้มหวาน
"พี่บอกจะจีบเราใช่มั้ย"
"......" ไอ้ที่เงียบนี่คือตามไม่ทันครับ
"บอกไว้ตรงนี้เลยนะ พี่ไม่มีทางเปลี่ยนใจง่ายๆ หรอก"
"......"
"ต่อให้ถูกปฎิเสธเป็นร้อยก็ไม่เปลี่ยนใจ"
"พี่โต้นี่น่ากลัวเนอะ" ผมพูดเมื่อเริ่มเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายจะสื่อ
"ทำไมครับ" พี่โต้ถามพลางขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์
"ก็รู้ทั้งรู้ว่าผมมีแฟนแล้วยังอยากจะเป็นมือที่สามน่ะดิ น่ากลัวสุดๆ" ผมขึ้นตาม
"ฮ่ะๆ ขนาดนั้นเชียว" ไม่ได้ชมเหอะ
นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไอ้พี่โต้ได้สักพักก็ถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรโบราณชื่อดัง ตั้งขาตั้งรถได้พี่โต้ก็เดินนำหน้าผมเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยว
ให้พวกพี่ๆ ฝ่ายศิลป์ พร้อมกับของตัวเอง แล้งถึงหันมาทางผมซึ่งกำลังยืนมองรายการอาหารบนผนังร้าน เลือกไม่ถูกเพราะน่ากินทุกอย่าง
"น้องเอเอาอะไรครับ"
"คิดแปบ"
"ออกจะมากินบ่อย"
"บ่อยที่ไหน สามครั้งเองอ่ะ" แถมทุกครั้งป๋าชินสั่งให้ตลอด
"เลือกได้ยัง"
"เล็กน้ำพิเศษสองถุงก็ได้ครับ อ้อ! ถุงนึงไม่เอาถั่วงอกนะครับ"
"คนเดียวสองเลยเหรอ?"
"เผื่อป๋าชินถุงนึง"
"ถุงไหน?"
"ถามทำไม"
"อยากรู้"
"ถุงที่ไม่ใส่ถั่วงอก ป๋าแกชอบบอกว่าเหม็นเขียวอ่ะ"
"รักพี่จริงเลยนะ" พูดว่าผัวจะถูกกว่านะ แต่ก็ช่างเหอะ
"เอาขนมถ้วยด้วยมั้ยน้องเอ"
"อืมมม..." เดินเข้ามาดูบรรดาขนมที่วางขายโชว์ในถาด
"เอาหม้อแกงดีกว่า ป้าครับไอ้นี่ขายไงอ่ะ"
"สามถาดร้อยจ้ะ"
"งั้นผมเอาสามถาดครับ" เลือกหยิบขึ้นมาตามจำนวนแล้วส่งไปให้ป้าใส่ถุง
"คิดเงินรวมกันหมดเลยมั้ยลูก"
"รวมหมดเลยครับ"
"เฮ้ย เดี๋ยวของพี่จ่ายเอง" พี่โต้รีบแทรก
"ไม่เป็นไรพี่ ยังไงผมก็กะจะเลี้ยงอยู่แล้ว เงินที่พวกพี่เขาฝากมาก็ว่าจะคืนด้วย"
"ไม่เอาๆ"
"เอาเหอะน่า นานๆ ผมจะใจป้ำสักที" ควักแบงค์ห้าร้อยจ่ายไป
"มันจะดีเหรอ" พี่โต้ทำสีหน้าไม่สบายใจ
"ดีไม่ดีผมก็จ่ายไปแล้ว ถ้าไม่กินนี่สิน่าเคือง"
"เอ่อ งั้นก็ขอบคุณครับ"
"อื้อ"
แจกจ่ายของที่สั่งซื้อให้ครบทุกคนเสร็จก็ถือชามช้อนแยกขึ้นมาบนชั้นสอง เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานเห็นป๋าชินกำลังคุยโทรศัพท์
หน้าตาค่อนข้างซีเรียส ผมก็เลยไม่ได้สนใจเพราะไม่อยากยุ่มย่ามเรื่องงาน พยายามปิดประตูให้เบาที่สุดก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนั่งบนโซฟา
หยิบถุงก๋วยเตี๋ยวออกมาแกะใส่ชามทั้งของผมให้ทั้งของป๋า จากนั้นก็เทเครื่องปรุงแบ่งๆ ลงไปอย่างละนิด ใช้ช้อนคนสองสามทีก็ตักชิม แจ่บๆ อร่อย
"ซื้ออะไรมาครับ" ป๋าชินวางโทรศัพท์ ทำจมูกฟุดฟิดๆ ถามด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
"ก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณ ร้านที่ป๋าชอบพาผมไปนั่งกินอ่ะ"
"ไหนๆ" ลุกเดินมานั่งข้างกันบนโซฟา
"อันนี้ของป๋า ไม่ใส่ถั่วงอก" ดันชามไปตรงหน้าเจ้าตัว
"อุ๊ย จำได้ด้วย"
"ไม่ใช่คนความจำสั้นนี่ เอ้า" ใช้ช้อนจิ้มลูกชิ้นหมูของตัวเองไปจ่อตรงปาก
"เป่าให้ด้วย" ป๋าพูดยิ้มๆ ดูทาทางมีความสุขไม่เบา
"เรื่องมากจริง ฟู่ๆ~ เอ้า"
"อ้ำ" เคี้ยวไปก็ยิ้มไป เหมือนเด็กว่ะ
"อีกป่ะ"
"ไม่ต้องละ พี่กินเองดีกว่า"
"อืม กินเสร็จแล้วต้องรีบทำงานต่อป่ะ"
"ครับ"
"งั้นผมขอออกไปหาไรทำข้างนอกนะ" กินๆ อยู่ ไอ้ป๋าหันขวับมาทันที
"ไปไหน" หางเสียงหายไปไหนง่ะ
"พวกพี่ลูกเกตเขาชวนไปศึกษาวิธีการทำงานของฝ่ายศิลป์อ่ะ ตกลงไปแล้วด้วย"
"ลูกเกตชวนหรือใครชวน" แอบสะดุ้งกับประโยคนี้เล็กๆ
"พี่ลูกเกตชวนจริงๆ"
"งั้นแล้วไป" หันไปจัดการก๋วยเตี๋ยวต่อ
"ป๋าคิดว่าใครชวนล่ะ ผมไม่ได้สนิทกับใครสักหน่อย ที่คุยบ่อยๆ ก็มีพี่ลูกเกตเอง"
"ใครจะไปรู้ เวลาพี่ทำงานอยู่ในห้องน้องเอก็ชอบหายตลอด จะคุยกับใครที่ไหนอะไรยังไงบ้าง พี่ก็ไม่เห็น"
"กลัวใครจีบไง ลูกน้องป๋าเจ็ดในเก้าผู้ชายทั้งนั้น"
"ผู้หญิงพี่ไม่กลัว กลัวผู้ชายนี่แหละ น้องเอของพี่น่ารักจะตาย"
"แหม นิสัยดาดๆ อย่างผมนอกจากป๋าจะมีใครเอาครับ"
"เยอะ" ไปไม่เป็นเลยทีเดียวเชียว
"คิดมาก" ผมปลอบ ไม่อยากจะคิดเรื่องที่ไอ้พี่โต้จีบเล้ย ป๋ารู้เข้าอนาคตคงดับวูบ
**************************************
เข้าเย็นวันที่สองของการติดสอยห้อยตามป๋ามาค้างที่โรงพิมพ์
สภาพคนไม่ได้นอนหนึ่งคืนนี่ทำให้หน้าแก่ได้เกินกว่าอายุจริงๆ ให้ตายเถอะ
ผมนั่งเท้าคางมองป๋าชินที่เข้าโหมดโหมงานไม่ยอมหลับยอมนอนตลอดทั้งวันทั้งคืน
ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพราะพาผมไปเที่ยวอัมพวาจนเกือบเคียร์งานไม่ทันจะไม่รู้สึกผิดอะไรเลยเนี่ย
"ป๋ากินข้าว"
"ไว้ก่อนครับ" ปฎิเสธแบบนี้ตั้งแต่มื้อเช้า น่าหงุดหงิดชะมัด
"ไว้ก่อนทุกที ไม่ยอมแตะอะไรเลยแบบนี้ เดี๋ยวร่างกายก็ทรุดหรอก"
เท่าที่ตื่นมาเห็นตอนเช้าจนกระทั้งบัดนี้ ป๋าชินดื่มกาแฟแก้วเล็กๆ ไปแค่แก้วเดียวเองอ่ะครับ
"พี่ชินแล้วครับ ไม่ต้องห่วง"
"ถ้าทำได้คงไม่มานั่งตื๊ออยู่แบบนี้หรอก กะอีแค่เวลากินข้าว สิบยี่สิบนาทีนี่มันยากนักไง"
จ้องเขม็งไปที่ป๋าซึ่งสวมแว่นกรอบใสและไม่คิดจะเงยหน้าเครียดๆ จากจอคอมฯ มามองกันสักนิด เชอะ!
"งานมันเร่งครับ น้องเอหิวก็กินไปก่อนเลย" มือข้างหนึ่งคลิกเม้าส์ อีกข้างก็เคาะแป้นรัวๆ จากนั้นบทสนทนาทั้งหมดก็จบลง
ผมทำหน้ายุ่งก้มมองจานข้าวกระเพาหมึกไข่ดาวที่วางนิ่งอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นยกมันกลับลงมาในครัว
เถใส่กล่องปิดฝาให้สนิทแล้วจัดการเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อรอนำออกมาอุ่นหากมีคนบางคนนึกอยากจะกินขึ้นมา
"เป็นอะไรไปน้องเอ" พี่ลูกเกตเดินถือแก้วน้ำส่วนตัวเข้ามาทัก
"ก็ป๋าเขาไม่ยอมกินข้าวอีกแล้วอ่ะพี่ ผมพูดกล่อมยังไงก็บอกแต่ยุ่งๆ ตลอด เกิดเป็นลมเป็นแล้งตายไปจะทำไง" บ่นกับพี่ลูกเกตเป็นชุด
"อ้อ เมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้แหละ" คิดว่าน่าจะหมายถึงช่วงก่อนผมย้ายมาอยู่กับป๋าน่ะนะ
"ผมห่วงจนหงุดหงิดแล้วอ่ะ"
"ฮ่ะๆ ดูน้องเอรักพี่ชินจังนะคะ"
"แปลกเหรอครับ" ทำหน้าแหยๆ กลัวพี่ลูกเกตจะจับไต๋ได้
"อืม จะว่าแปลกก็คงแปลก ถ้าไม่รู้ว่าเป็นญาติกันพี่คงคิดว่าต้องเป็นคนรักกันแน่ๆ เพราะดูพี่ชินจะห่วงน้องเอเวอร์ๆ"
"เอ่อ..."
"อ้อ อย่าคิดมากค่ะ พี่แค่เดาเล่นๆ ตามความรู้สึกที่เห็นเฉยๆ ผู้ชายด้วยกันคงจะเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอกเนอะ"
พี่ลูกเกตหันมาพูดยิ้มๆ ทว่าผมกลับสะอึก ในแหง่ความเป็นจริงทางสังคม การที่ผู้ชายจะรักกันมันเป็นไปได้ยาก(สมัยนั้น)
"แล้วพี่ลูกเกตคิดไงกับ ชายรักชาย?" ผมตัดใจถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ
บอกตรงๆ นะครับ นับตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ ผมยังไม่เคยถูกประณามว่าเป็นตัวน่ารังเกียจหรือผิดปกติเลยสักครั้ง
และถือเป็นโชคดีของผมที่แม้แต่ครอบครัวก็ยังให้การยอมรับ
"น่ารักมั้ง จะว่าไงดีล่ะ น้องเอเคยอ่านการ์ตูนแนว Boy love มั้ย"
"เป็นแนวไหนอ่ะครับ" ค่อนข้างงงกับศัพท์ จะว่าเข้าใจก็ใช่ จะว่าไม่เข้าใจก็ใช่อีก
"เป็นการ์ตูนเกย์ญี่ปุ่นค่ะ" พี่ลูกเกตตอบยิ้มๆ หน้าตาเพ้อชอบกล
"มีการ์ตูนแบบนี้ด้วยเหรอครับ?"
"มีสิๆ ถึงจะยังไม่บูมแต่ในหมู่ผู้หญิงเราๆ ก็มีคนเป็นแฟนคลับมากนะ ถ้าเกิดน้องเอสนใจไว้วันหน้าพี่จะฝากพี่ชินเอากลับไปให้"
"จะดีเหรอครับ ผมผู้ชาย..."
"หึๆ ดีสิคะ น้องเอน่ารักจะตาย เสียดายถ้าจะยกให้ผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้า
และถ้าให้พี่จิ้นแนวชายๆ ก็คงออกมาเป็นแบบ รักต้องห้ามแน่ๆ" สาบานว่างงจริงอะไรจริง
"สรุปพี่ไม่รังเกียจคนที่เป็นเกย์?"
"รังเกียจค่ะ" ตอบสีหน้าจริงจัง
"อ้าว"
"แต่พอรับได้ถ้าคนที่เป็นหน้าตาดีอย่างน้องเอหรือไม่ก็โต้" ทำไมต้องอิพี่โต้?!
"เรื่องแบบนี้มันระเอียดอ่อนนะน้องเอ ผู้ชายยังไงก็ถูกสร้างสรรค์ให้เกิดมาคู่กับผู้หญิง
จะแต่งงานก็ได้ จะมีลูกก็ได้ ทั้งยังไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ กลัวสายตาคนอื่นจะมองว่ายังไง" เจอประโยคนี้ จุกไปถึงตับ
ตกลงคุณเธอรับได้หรือรับไม่ได้กันแน่ แต่ละคำพูดเหมือนจะรับได้ทว่าก็เสียดแทงคนประเภทผมแรงไม่เบาทีเดียว
"เอาเป็นว่า น้องเอเป็นผู้ชายน่ะดีอยู่แล้ว"
พี่ลูกเกตหันมายิ้มให้กำลังใจ แล้วเดินสวนพี่โต้กับพี่ปานออกไป
ทิ้งให้ผมอยู่กับความรู้สึกหม่นๆ สับสนทางจิตใจเพียงคนเดียว
***************************************************
ตอนพิเศษแถม ครั้งแรก(?)กับทัวร์ญี่ปุ่น
แดนอาทิตย์อุทัย สวดยอด~!!
ทิ้งกระเป๋าในห้องพักโรงแรมใจกลางกรุงโตเกียว
ไกด์เจแปนนิสหน้าหล่อก็ให้เวลาลูกทัวร์เป็นของตัวเองในการทำธุระต่างๆ สองชั่วโมงก่อนอาหารค่ำ
"ห้องสวีททททททท" ตะโกนแหกปากแล้วโดดลงไปเด้งบนเตียงคู่นุ่มๆ ขนนกด้วยอ่ะ วอนท์จริงไรจริงน้า~
"เบาครับน้องเอ เดี๋ยวคนอื่นเขาตกใจหรอก" ป๋าปรามแล้วเดินส่ายหน้ายิ้มๆ มานั่งตรงปลายเตียง
"ก็ตื่นเต้นนี่ ครั้งแรกเลยนะป๋าที่ผมได้ขึ้นเครื่องบิน ได้เหยียบย่ำประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศไทย
แถมเป็นญี่ปุ่นแดนอนิเมะและเกมส์ Dai daisuki!!!" ดัดจริตทิ้งท้ายด้วยภาษาถิ่น อิอิ
"พี่บอกให้เบาไงครับ" โดนป๋าตีก้นไปหนึ่งที ไม่ดิต้องบอกว่าลูบถึงจะถูกกว่าเหอะ
"ป๋าทำไรอ่ะ" หันไปทำหน้ายู่อย่างระแวง เนื่องจากตั้งแต่วันที่ตัดสินใจคบกัน สามเดือนมานี้ไม่เคยมีอะไรมากเกินเลยมากกว่าจูบ
บอกแล้วไงครับ น้องเอรักตัวสงวนไข่ตลอด กิ๊วๆ
"เปล่าครับ" เปล่า แต่ยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ย หมายความว่าไงห๊ะ
"อย่ามาแหล"
"น้องเอรังเกียจ ไม่อยากมีครั้งแรกกับพี่เหรอครับ" หน้าหมองไปถนัดตา รู้และว่าแกเอาทัวร์นี้มาล่อเพื่อหวังอะไรจากฉัน
"อยากมีครั้งแรก แต่..." หยุดให้สงสัยนิดนึง
"แต่ อะไรครับ"
"แต่ไม่อยากมีกับป๋าอ่ะ ได้ป่ะ มาญี่ปุ่นทั้งที ผมอยากลองกับเจ้าของภาษา ฮ่าๆ"
"น้องเอ" เสียงดุเชีย
"อะ ล้อเล่งน่า โอ๋ๆ ไม่โกรธนะครับ น้องเอพูดเล่นเฉยๆ ครั้งแรกก็ต้องกับป๋าชินอยู่แล้วสิเนอะ จุ๊บๆ" โน้มหน้าแกเข้ามาจูบสองที
"งั้น..." ป๋าชินคลี่ยิ้มอย่างมีความหวัง
"ไม่ใช่ตอนนี้เหอะ" การตัดความหวังเป็นงานอดิเรกของน้องเอ กร๊ากกกกก
"งั้นคืนนี้" แน่ะ ยังไม่เลิก
"ไม่รู้ไม่ชี้" ลอยหน้าลอยตาตอบแล้วลุกเดินออกมาข้างนอก ปล่อยให้ป๋าชินอุปโลกน์ว่าได้ครั้งแรกของผมไปเองคนเดียวก่อนแล้วกัน
"เอซังงงงงงงงง" ไกด์ที่หน้าเด็กกว่าผม ทว่าอายุดันพอๆ กับป๋าชินเรียกผมที่หน้าลิฟท์
(ไกค์เป็นคนญี่ปุ่นครับ ตัวขาวจั๊วะ ถามว่าพูดไทยชัดมั้ย ก็ชัดนะ แต่เขาชินปากที่จะใช้ซังตามหลังแทนคำว่าคุณนำหน้าอ่ะ)
"ครับ" หันไปทำหน้างงๆ
"จะไปไหนครับ ยังไม่ถึงเวลาทานมื้อค่ำนะครับ"
"จะไปเดินเล่นใกล้ๆ โรงแรมนี่ล่ะครับ"
"อ้อ แล้วไม่กลัวหลงหรอครับ" ทำหน้าแบ๊ว น่ารักมาก
"ไม่อ่ะครับ ผมไม่ได้เอ๋อขนาดนั้น" ตอบไปเกรียนๆ แต่อิวาชิตะซัง(ไกด์)ดันหัวเราะซะงั้น
"ฮ่าๆ เอซัง เป็นคนตลกดีนะครับ"
"อ่า ขอบคุณ" ไม่รู้จะตอบมันว่าไง "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"ให้ผมไม่เป็นเพื่อนมั้ยครับ จะได้ไปได้ไกลหน่อย" เพื่อ?
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวจะกลับมาไม่ทันมื้อค่ำ" ผมบอกปัด
"แน่ใจนะครับ" จีบกรูอยู่ป่ะ
"ผมเปลี่ยนใจละ เดี๋ยวพี่ชายตามหาจะโดนดุเอา"
บอกจบผมก็เดินหนีกลับมาห้องเลยครับ ขืนอยู่มันตื๊อไม่เลิกแน่ แล้วเดี๋ยวจิซวย
ซึ่งก็ได้ซวยจริงๆ เมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นป๋าทำหน้าบูดยืนกอดอกพิงกำแพง ดู๊ดู ดูเธอทำ~
"คุยกันน่าสนุกดีนะครับ" แหม เข้าใจกะจังหวะไปเห็นแล้วไม่ทัก
"ก็ไม่ได้สนุกอะไรตรงไหนนี่ เขาแค่ถามว่าผมจะไปไหนเฉยๆ"
"ถามแล้วต้องอยู่ตอบกันตั้งสิบสี่สิบห้นาทีเลยเหรอครับ" โอ๊ะ มีนับเวลาด้วย เจ๋งว่ะ
"ก็เขาไม่หยุดถาม นี่ก็หนีกลับมาเนี่ย" ผมชักสีหน้าเดินมานั่งบนเตียง
"พี่เห็นเขามองน้องเอตั้งแต่ไปรับที่สนามบินแล้ว พี่ว่าไกด์คนนี้ต้องชอบน้องเอแน่ๆ"
คณะทัวร์ผมมีสิบสองคนครับ เป็นกลุ่มทัวร์เล็กๆ ที่ราคาแพงเวอร์~!! แน่นอนว่าต้องจองกันข้ามปีทีเดียว
ป๋าเขาวางแผนมาดีมาก ยกนิ้วให้กับเรื่องนี้ มั่นใจได้ไงว่ากรูจะตกลง ฮ่าๆ
"คิดมากไปเปล่า" จริงๆ ในใจผมก็เริ่มคิดตั้งแต่ตอนที่มันตื๊อแล้วล่ะ ว่าอิวาชิตะซัง
ต้องมีความนัยอะไรกับผมมากกว่าลูกทัวร์กับไกด์แน่ๆ แต่ไม่อยากบอกให้ป๋าแกกลายเป็นทะเลเดือด เดี๋ยวพาลจะลากกลับไทย
"ไม่ครับ พี่มองออก" ชั่งสังเกตเสียจริงพ่อคุณ
"อืม ช่างเขาเหอะป๋า ผมไม่ได้คิดไรด้วย อีกอย่างผมก็มีป๋ามาด้วยทั้งคน"
คนพูดไม่ได้คิดอะไรเลยนะ แต่ไอ้คนฟังดั๋นเสือกคิดมาก แถมคิดไปอีกทางด้วย
"อ้อ ถ้าไม่มีพี่ น้องเอก็คิดจะเล่นด้วยสินะ" ว่าไปนั่น
"ป๋าอย่าเยอะ ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอไงห๊ะ" แอบขึ้นเสียงนิดๆ ให้เกรงใจกันบ้าง
"ไม่รู้ล่ะ ห้ามน้องเอคุยกับมันอีกนะ"
"เออ จะพยายาม" ตอบรับไปงั้น สุดท้ายก็ต้องพูดกับเขาอยู่ดี เพราะต้องถามคำถามนั่นนี่เกี่ยวกับสถานที่ตลอด
ป๋าก็จิก ก็เหน็บเป็นช่วงๆ เลยฟังคำอธิบายแทบจะไม่รู้เรื่อง
วันที่สอง ตื่นเช้ามาก็เดินทางด้วยรถตู้ไป พระราชวังอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace)
ซึ่งในประวัติศาสตร์เคยใช้เป็นที่พำนักของท่านโชกุนโทคุคาวะ ซึ่งปกครองประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1603
ถึง 1867ต่อมาเมื่อระบบปกครอบแบบโชกุนได้ถูกล้มล้าง แล้วก็บลาๆๆๆๆ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
อยู่กันตั้งแต่ สิบโมงเช้ายันเที่ยง หมดเวลากับการถ่ายทิ้ง เอ้ย ถ่ายรูปไปร้อยแปดกระบวนท่า
จากนั้นไกค์อิวาชิตะซังก็พานั่งรถมาต่อกันที่ คอิชิกาว่า โคระกุเอ็น (Koishikawa Korakuen)
สวนสไตล์ญี่ป่นที่เก่าแก่ที่สุดและดีที่สุดในญี่ปุ่น อิวาชิตะซังบอกว่าสวนนี้จะสวยกว่านี้ถ้ามาในช่วงพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงของใบไม้เปลี่ยนสี
หรือในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีเทศกาลลูกพลัม และในช่วงที่ดอกซากุระบาน (ผมมาซากุระร่วงหมดละ เซ็งสิ)
ตบท้ายด้วย ตลาดปลาสึคิจิ ให้เดินดูของสดกันชิลๆ ก่อนกลับโรงแรมในตอนเย็น
ช่วงค่ำใครอยากเที่ยวต่อก็สามารถนำเสนอได้เพราะคุณไกด์เราใจดี
วันที่สามกับวันที่สี่ก็เรื่อยๆ ทัวร์รอบโตเกียวตามสถานที่เด็ดๆ และที่ผมชอบที่สุด ซึ่งไปมันสองวันติดเลยคือ
อาคิฮาบาระครับ ซื้อของติดไม้ติดมือตรึมโดยเฉพาะ เกมส์ที่เมืองไทยยังไม่มี
สนุกไม่ทันไรก็มาถึงเย็นวันสุดท้าย ก็มีเหตุการณ์ๆ หนึ่งเกิดขึ้น ให้ผวาเล่นๆ คือ...
ไกด์อิวาชิตะซังเข้ามาบอกชอบผมครับ แต่พูดลอยๆ ตอนผมอยู่คนเดียวในสวนลอยฟ้าของโรงแรมนะ
คือตอนนั้นป๋าชินไม่รู้ไปไหน ผมออกจากห้องน้ำตามหาไม่เจอก็เลยออกมานั่งเล่นแม่ง โมโหมาก
"ผมชอบคุณ" ไอ้ผมก็เงยหน้ามองไอ้คนที่มายืนค้ำหัวเอ๋อๆ
"ห๊ะ?"
"คุณจะกลับพรุ่งนี้แล้ว ผมกลัวว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก ผมเลยอยากบอกว่าผมชอบคุณครับ"
"อืม ขอบคุณ" ไปไม่เป็นจริงๆ ครับ อึ้งบวกทึ่ง ที่กล้าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาปนกับงาน
"ผมรู้ว่าคุณคงรู้สึกแย่" ไม่เลย ดีด้วยซ้ำ "แต่ผมอยากบอกให้คุณรู้เท่านั้น ขอโทษนะครับ"
"คุณเป็นคนรักคนง่าย?"
"ไม่ใช่กับทุกคนครับ"
"อ้อ อืม ขอให้คุณเจอคนที่ใช่และดีกว่าผมนะ"
"ขอบคุณครับ" ไกค์อิวาชิตะซังยิ้มละมุน ทว่านัยน์ตาแฝงความเศร้าสร้อยเอาไว้
"ไม่เป็นไร เพราะผมตอบรับความรู้สึกคุณไม่ได้ ที่ให้ได้ก็มีแต่คำอวยพรนี้เท่านั้น คุณเห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย?"
ผมชี้ไปที่ป๋าชินซึ่งกำลังเดินหน้าตั้งมาทางพวกผม "นั่นน่ะ คนที่ใช่ และคนที่ดีสำหรับผมทั้งตอนนี้แล้วก็น่าจะตลอดไป"
(ทำไมต้องใช้คำว่า น่าจะ? คำตอบคือ อนาคตของเรานั้นไม่แน่นอน อิอิ)
"ครับ ขอให้รักกันนานๆ*" หมายเหตุภาษาญี่ปุ่นนะตรงนี้ ไม่รู้แช่งหรืออวยกันจริง
"น้องเอ" เสียงมาถึงก่อนตัว
"ผมขอตัวนะครับ" บอกก่อนจะลุกเดินไปหาป๋าชินที่หน้าบึ้งแบบกรู่ไม่กลับ
พอถึงปั๊บ พี่แกไม่รอช้ากระชากแขนผมลากไปที่ลิฟท์ทันที บอกสามคำ แขนแทบหลุด
"ป๋าของขึ้นเหรอ ผมเจ็บนะ" ติติงไปตามสัมผัสที่ได้รับจากคนรัก
"คุยอะไรกัน" หางเสียงหายไปหนายยยยย
"เปล่าสักหน่อย"
"ก็เห็นคุยกันอยู่ ยังจะเถียง" กดลิฟท์รัวๆ ทำอย่างกับมันจะลงมาเร็วขึ้น
"ผมน่าจะถามป๋ามากกว่านะ ว่าหายไปไหนมา"
"ไม่จำเป็นต้องบอก" อ้าว หมายความว่าไง พูดงี้อยากมีเรื่องกับน้องเอใช่ป่ะ
"งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องบอกป๋าเหมือนกัน"
"น้องเอ!" หันมาตวาด ลิฟท์เปิด ไม่มีคน ป๋าเหวี่ยงผมเข้ามาเลยครับ แรงควายมากเอาซะผมนี่ติดกับกระจกที่เป็นใสๆ มองเห็นวิวด้านนอก
"อย่าให้พี่ต้องโมโหนะครับ" โมโหไปนานละเหอะ
"......" ผมเงียบ จ้องป๋าน้ำตาคลอ เจ็บมากไอ้ที่กระแทกเมื่อกี้
"ตอบมา"
"เขามาคุยนั่นคุยนี่เฉยๆ ป๋าจะโมโหใส่ผมทำไม ผมไปทำอะไรให้
หรือป๋าเห็นผมไปนอนกับเขาเหรอ ถึงได้มาทำอะไรรุนแรงกับผมแบบนี้ ผมเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ" น้ำตาไหลพราก ป๋าชินหน้าเสีย
"นะ...น้องเอ พี่ไม่ได้ตั้ง..." รีบเข้ามากอดปลอบผมโดยไว "ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่...พี่ใจร้อนไปหน่อย"
"ฮือออ ผมเจ็บ ผมเกลียดป๋าที่เป็นแบบนี้" ทุบหลังแกหลายตุบพอดู
"อย่าร้องนะครับคนดี พี่ไม่คิดจะทำให้เจ็บเลยจริงๆ พี่ขอโทษครับ"
"ฮืออออ ผมเจ็บ ป๋าไม่มีเหตุผล"
"อย่าร้องครับ ไม่เอา จะทุบจะตีพี่ยังไงก็ได้แต่น้องเออย่าร้องนะครับ"
ป๋าชินใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุดด้วยใบหน้าที่ปวดใจ ผมสะอึกสะอื้นได้ไม่นานก็ต้องก้มหน้าให้ป๋าลากออกจากลิฟท์เพราะถึงชั้นที่พักพอดี
เข้าห้องน้ำล้างหน้าออกมาเจอป๋ายืนทำหน้าเศร้ารออยู่ก็เดินผ่านไม่ยอมพูดคุยกับแกมาที่เตียง ป๋าตามมานั่งลงข้างๆ กอดผมไว้แน่น หอมหัว หอมแก้ม
จูบซับน้ำตาอย่างอ่อนโยนพร้อมกับกล่าวคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา(สรุปเป็นพวกหึงแล้วกะแรงตัวเองไม่ถูกสินะ คริคริ)
ตัดจบตรงนี้จะโดนโวยป่ะครับ
แต่เหตุการ์หลังจากนี้มันก็ไม่มีไรแล้วอ่ะ นอกจากง้อกันบนเตียง
ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าเผลอไผยอมแกไปได้ยังไง รู้แต่ว่าตื่นมาในตอนเช้าขานี่แทบจะหุบเข้าหากันไม่ได้ (ฮา)
ไว้เจอกันใหม่นะจ๊ะ
**********************************************
ปล.หายไปนานต้องขอโทษนะคะ