กลับมาแต่งสไตล์เดิมหลังหลงทางอยู่หลายตอนรักบอดๆ ตอนที่ 25
หนึ่งอาทิตย์หลังจากคืนดีกันแล้ว น่าจะประมาณวันพุธมั้ง
ช่วงเช้าผมมีเรียนตามปกติ ตกบ่ายว่างเพราะอาจารย์ภาคติดสัมมนาเกี่ยวกับพวกภาพเขียนอะไรทำนองนั้น
แถมไม่ลืมสั่งงานไว้กองหนึ่งบอกให้ส่งภายในอาทิตย์ ไม่เคยคิดจะถามความเห็นพวกผมเลยว่าอยากทำมั้ย
ผมจึงเข้าสเต็ปเดิมครับ ปล่อยให้เดตไลน์ก่อนค่อยทำ
ทีนี้ครั้นจะกลับบ้านเร็วก็เบื่อ จะไปหาป๋าก็ไม่อยากไปเจอหน้าอิพี่โต้ เดี๋ยวเป็นเรื่องขึ้นมาอีก
อ้อ ไม่อยากเจอหน้ายัยคุณวิอะไรนั่นด้วย เห็นว่าช่วงนี้ตื๊อหนักน่าดู ไม่รู้คันอะไรนักหนาขนาดยกเอางานโปรเจ็คบิ๊กๆ
มาเสนอกับป๋าเพื่อพูดคุยโดยเฉพาะ ผมเองก็นะ ไม่ว่าหรอกถ้าเป็นเรื่องงาน แต่ถ้าไปนอกรอบกันเมื่อไหร่ บอกได้เลย มึงตายทั้งคู่!!
ว่างจัดบวกกับไม่มีที่ไป ผมก็เลยมานั่งฟังเพื่อนแลกกันเล่าประสบการณ์เขย่าขวัญเกี่ยวกับอาคารเกษตร
ตรงม้าหินอ่อนหน้าตึกคณะ กำลังถึงไคลแม็ค เสียงโทรศัพท์ของผมที่วางทับชีทงานไว้ไม่ให้ปลิวก็ดัง ทำเอาผวากันทั้งกลุ่ม
"เชี้ยเอ ใครโทรมาวะ" เบียร์ยกมือกุมอกสบถถามหน้าเสีย ผมมองเบอร์ที่ขึ้นโชว์บนหน้าจอ
"เบอร์ไม่คุ้น"
"ไหน" ต่ายคว้าไปกดรับโดยไม่ถามกันสักคำ
"ฮัลโหล" สำเนียงฝรั่งจ๋า แรดมากครับ
"หะ? อ้อ ได้ค่ะ แปบนึง" ชียื่นโทรศัพท์ให้ "เขาบอกอยากคุยกับแกอ่ะ"
"ใครวะ?" ผมขมวดคิ้ว
"ชื่อก้าน"
"หา?!"
"จะหาไรเล่า รับดิ" ต่ายบอก ผมก็รับมาคุยงงๆ เท่าที่จำได้ผมไม่เคยให้เบอร์ก้านนะ
"เอ่อ ครับ" เพราะพริ้งอย่างขัดจิต บรรดาเพื่อนสามคนของผมถึงกับสุมหัวนินทาระยะเผาขน
"คุณจำผมได้มั้ย" เอิ่ม บอกจำไม่ได้มึงจะวางป่ะล่ะ
"อืม ว่าไง"
"คุณจะไม่ถามหน่อยเหรอ ว่าทำไมผมถึงมีเบอร์คุณอ่ะ" เอ้า กรูนึกว่าอยากเก็บไว้เป็นความลับ
"แล้วไปเอามาจากไหนล่ะ"
"ถามพี่ชายคุณมา"
"พี่อาร์?"
"ถูกต้องครับ"
"อืม แล้วโทรมามีธุระไร"
"อ๋อ ผมขึ้นมากรุงเทพเลยกะแวะเอาเสื้อผ้าของคุณมาส่งคืน"
"อ้าว ยังไม่ได้บริจาคไปเหรอ แล้วตอนนี้อยู่แถวไหน"
"อยู่หมอชิตครับผม"
"หืม เพิ่งถึง?"
"ใช่แล้ว"
"ตอนนี้ฉันอยู่มหาลัยอ่ะ ไกลจากที่นายอยู่พอสมควร นายจะอยู่กรุงเทพกี่วันล่ะ"
"ประมาณสามวัน"
"อืมๆ ถ้ายังไงนัดไปเอาเย็นนี้ได้มั้ย"
"อ้อ โอเค ยังไงก็ได้"
"นายสะดวกเจอได้ที่ไหนล่ะ"
"แล้วแต่คุณเลย"
"อืม งั้นเดี๋ยวฉันจะโทรกลับไปบอกอีกทีนะ"
"ครับ ตามนั้น"
"งั้นฉันวางก่อนนะ ขอบคุณมากที่อุตส่าห์เอามาคืน"
"ไม่เป็นไร อ๊ะ เดี๋ยวคุณๆ"
"ว่า?"
"คิดถึง" จบประโยค ผมกดตัดสายทิ้งแม่ง น่าขนลุกยิ่งกว่าเรื่องเขย่าขวัญที่ฟังเมื่อกี้อีกอ่ะ
เพื่อนรักสามคนเห็นผมกดวางก็เลิกซุบซิบออกหน้าออกตา แล้วเปลี่ยนมาเป็นเสียงเหน็บแนม
"ความทุกข์เพิ่งจะคลาย มึงจะเอาน้ำตามาอาบเล่นอีกแล้วเหรอวะ" เบียร์
"อะไรของมึง" ผมตีหน้ามึน หยิบชีทมาพัดคลายร้อน
"ผู้ชายที่ไหนล่ะที่โทรหามึงเมื่อกี้"
"อ้อ เขาชื่อ(ไอ้)พี่ก้าน คนที่ช่วยกูตอนไปโดนกระทืบที่พัทยาไง เฮียอาร์ก็รู้จัก" ผมบอกหน้าซื่อ
"เฮียมึงรู้จัก แล้วป๋ามึงล่ะ รู้จักมั้ย?" เบียร์ถาม หงำกับต่ายมองตากันแล้วหันมาพยักหน้าเสริม
"เออว่ะ กูไม่ได้บอก ลืมสนิท...อีกอย่างแกไม่ได้ถามด้วย" แบบว่า ตอนนั้นมีเรื่องเครียดหลายเรื่องอ่ะ
อิป๋าก็คงนึกไม่ถึงด้วย เลยไม่ได้ถามรายระเอียดอะไรมากมาย
"เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอกอิเอ" ต่ายว่าเสียงขุ่น
"เออ คงไม่เป็นไรหรอก ไว้เดี๋ยวกูชวนป๋าไปด้วย" ตัดปัญหา
"กูไปด้วยดิ" หงำเสนอตัว
"กูด้วย"
"ฉันด้วยๆ"
"มึงสองตัวน่ะไม่เท่าไร แต่ไอ้เบียร์ มึงน่ะไปได้เหรอ ไม่ไปรอรับแฟนไง" บอกตรงๆ ผมเริ่มสงสัย
เพราะไอ้เบียร์มันเริ่มกลับเข้ากลุ่มบ่อยขึ้น ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับแฟนเหมือนช่วงแรกๆ มากสุดก็ไปส่งบ้านแค่นั้น
"พักนี้เขายุ่งน่ะ ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับกู" เบียร์บอกเสียงเบาพร้อมกับสีหน้าเหนื่อยใจ คือว่ากันตามนิสัยนะ ไอ้เบียร์เป็นพวก
เก็บความลับเก่งมากครับ ทั้งเรื่องส่วนตัว ทั้งเรื่องส่วนรวม ถ้าไม่คาดคั้นถึงที่สุดหรืออึดอัดจนเกินทนมันแทบไม่มีทางพูด
"เขายุ่งหรือมีใหม่ เอาให้แน่นะมึง" อิต่ายครับ ทำหน้าเหมือนไปรู้อะไรมาเลยอ่ะ
"พื้นฐานของความรักคือความเชื่อใจ เคยได้ยินมั้ยครับคุณต่าย อย่าหาเรื่องให้กูแตกแยก เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวหลับกลางอากาศ"
"มันก็ใช่ แต่เชื่อใจจนไม่มองอะไรเลยมันก็แย่นะเว้ย"
"ต่าย พอเถอะ" หงำเอามือปิดปาก
"มันอยากพูดให้มันพูดไปหงำ" ไอ้เบียร์ว่า ท่าทางน้ำเสียงชักไม่ปกติ
"มึงก็อย่าไปซีเรียสดิวะ ต่ายมันพูดเล่นเหอะ มึงก็ว่างั้นใช่ป่ะเอ" หันมาหาคนร่วมทัพ
"เออ นั่นดิ ตกลงพวกมึงจะไปกับกูใช่ป่ะ" เปลี่ยนเรื่องหนีดีกว่าครับ ด้วยเหตุที่ว่า เพื่อนทะเลาะกันมันไม่น่าดู
"กูไม่ไปละ อารมณ์เสีย"
"งั้นไปเตะบอลกับกูแทนมั้ย" หงำเสนอทางเลือกใหม่ให้
"เออ ดีเหมือนกัน ไม่ได้ออกกำลังกายนานและ"
"เกลียดนักอิพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เชื่อใจกันนักอย่ามาร้องไห้ซบอกกูละกัน" ต่ายบ่นให้ผมได้ยินคนเดียว
"ไปรู้ไรมาไง" ผมถามต่าย แต่ตามองเบียร์กับหงำคุยกันเรื่องสถานที่นัดเตะบอล
"ฉันไม่เท่าไรหรอกแก แต่ไอ้หงำนี่สิเห็นมากับตา" ต่ายกระซิบแล้วทำหน้าเหม็นเขียวใส่สองคนนั้น
จะตลกมาก ถ้าผมไม่ได้สนใจประโยคที่ได้ยินนี้มากกว่า
"ยังไง" ผมหันมอง ต่ายถอนใจแล้วลุกขึ้นลากแขนผมออกมายืนคุย ห่างจากพวกนั้นไกลพอสมควร
"แกจำวันที่ฉันกับหงำแยกออกไปเรื่องงานประกวดตอนเลิกเรียนได้ป่ะ" มันเริ่มเกริ่นเรื่อง
"อืม วันที่ฉันเฮิร์ทเรื่องห่างกันสักพักพอดี" คิดแล้วยังแปลบอยู่ในใจ
"นั่นล่ะ พอคุยกันเสร็จเรื่องงานประกวด ลงจากตึกกิจกรรมมา หงำมันดันปวดท้อง ฉันสองคนเลยพากันไปห้องน้ำ
พอฉันทำธุระของตัวเองเสร็จก็ออกมารอมันอยู่ด้านนอก แล้วหูดันได้ยินเสียงคนทำอะไรกัน...พูดง่ายๆ คือเอากันในห้องน้ำชายอ่ะ
อยากเข้าไปดูนะ แต่แบบว่ามียางอายไงคะ ก็ยืนฟังจนหงำหน้าซีดออกมานั่นแหละ ตอนแรกฉันคิดว่ามันคงท้องเสีย
หรือถ่ายไม่ออกไรงี้ ยืนดูอาการมันสักพักก็มีผู้ชายกับผู้หญิงท่าทางคุ้นๆ เดินก้มหน้าโอบไหล่กันออกมาจากในห้องน้ำ
หงำนี่สะดุ้งเฮือกบอกให้ฉันรีบๆ ไป แต่ตอนนั้นฉันยังห่วงที่มันหน้าซีดก็ยื้อถามมันอยู่นั่น กระทั่งทันได้เห็นหน้าผู้หญิงว่าเป็นใคร"
"แฟนไอ้เบียร์?" ผมเลิกคิ้ว
"ก็ใช่น่ะสิ ฉันนี่คันปากอยากจะบอกไอ้เบียร์แทบตาย แต่หงำมันขอไว้ ฉันล่ะเบื่อ" ต่ายทำหน้าเซ็ง
"หงำมันคงไม่อยากให้เบียร์เสียใจมั้ง"
"โอ๊ยแก ความรักมันบังตาต่างหาก รู้ตั้งแต่แรกดีกว่าเจ็บที่หลังนะเว้ย"
"แล้วแกคิดว่าเบียร์มันจะเชื่อทันทีที่แกบอกไง ออกจะรักของมันซะขนาดนั้น"
"ฉันเพื่อนมันนะแก มันต้องเชื่อฉันบ้างแหละ"
"ไม่รู้ว่ะ ถ้าถามฉัน ฉันก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งจนกว่าจะได้เห็นเองกับตา"
"อะไรวะ หงุดหงิด เออ ช่างมันเหอะ ถือว่าฉันไม่ได้เล่าให้แกฟังแล้วกัน"
"เออ อย่าคิดมาก ไอ้เบียร์มันก็ใช่จะโง่ให้หลอกไปได้ตลอดหรอก สักวันมันต้องได้ยินอะไรบ้างล่ะ"
"ให้มันเป็นงั้นจริงเถอะ ฉันล่ะโคตรเกลียดอิพวกจับปลาสองมือ หึ๊ย เดี๋ยวแม่จับมือที่สามทำผัวเย้ยแม่ง" แรงส์อ่ะ
"พอเหอะ ไปๆ กลับที่เดี๋ยวแม่งสงสัย" ผมดันหลังต่ายให้กลับโต๊ะ
*********************************************************************************
ตกเย็นป๋าชินมารับ เบียร์กับหงำทักทายป๋าเสร็จก็แยกไปเตะบอลที่สนามหลังมหาลัย
ส่วนนางสาวต่ายก็มากับผม เพราะอยากจะเห็นหน้าพระเอกก้านที่เคยช่วยผมไว้
สรุปผมนัดให้ก้านมาเจอที่ห้างฯ ไม่ไกลจากที่พักของเขาด้วยเกรงว่าจะมาลำบากเพราะไม่มีรถ
ระว่างนั่งรถผมก็เล่าให้ป๋าฟังคร่าวๆ และบอกเหตุผลที่จะไปเจอกัน
"ทำไมเขาต้องอุตส่าห์เอามาคืนด้วยครับ" คำถามแรกอย่างที่หวังไม่มีผิด รู้ว่าเป็นผู้ชายนี่หาเรื่องจับผิดตลอด
"ผมบอกให้เขาเอามาคืนเองแหละ ถ้าได้ขึ้นมากรุงเทพ ไม่อยากให้ทิ้งเสียดาย" โกหกคนแก่ครึ่งเดียวไม่บาปหรอกเนอะ คริคริ
"จริงเหรอต่าย" ทำไมต้องหันไปถามเพื่อนผมด้วยล่ะครับอิคุณป๋า
"ต่ายมันรู้เรื่องที่ไหน ถามมั่ว อยากรู้จริง ไม่จริง มาถามผมนี่"
"หืม...จริงเหรอครับ" หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ ตกลงนี่แกล้งหึงใช่มั้ยครับ แหม ขอโบกสักที "โอ๊ย!"
"ต่ายเย็นนี้อยากกินไร รีเควสมาเลยฉันเลี้ยง" แต่ตังค์ป๋า หมั่นไส้
"พิซซ่า"
"เอาที่มันอิ่มหน่อยดิ"
"แล้วพิซซ่ามันไม่อิ่มตรงไหนยะ"
"เออ พิซซ่าก็พิซซ่า" ผมตอบเสียงเอื่อย ป๋ากระตุกยิ้มหัวเราะในลำคอ ไม่เห็นว่าขับรถจะจัดให้อีกสักที แง่ง!
ถึงที่นัด กลับมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมตกใจสุดๆ พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าคืออะไร?
เดาไม่ถูกไม่เป็นไร ผมเฉลยให้ก็ได้ สิ่งที่ทำให้ผมตกใจคือ... เฮียอาร์ของผมยืนคู่อยู่กับ...
กับไอ้คุณก้านหน้าแมคฯ ครับ ผมนี่เอ๋อไปชั่วขณะ ไม่รู้มันไปทำอีท่าไหนถึงได้ลากเฮียผมออกมาเจอได้ ใช่ว่าจะสนิทกันสักหน่อย
"เฮียมาไงอ่ะ" ผมถาม
"เอาชุดก้านที่มึงใส่กลับมาวันนั้น มาคืนน่ะสิ" เออ จะว่าเข้าใจก็เข้าใจอยู่นะ แต่ไอ้ครั้นจะไม่เข้าใจมันก็ไม่เข้าใจอ่ะ
แบบว่าๆ เฮียอาร์ต้องออกมาอยู่แล้ว จะให้เบอร์ผมเพื่อนัดกับเขาออกมาอีกทำไม น้องเองงครับ งงจริงๆ งงจังๆ โคตรงง!
"รู้จักกันเหรอ?" ป๋าชินเก็กถามเสียงขรึม มาดปกติเขาล่ะ
"รู้จักกันตอนไปรับเอที่พัทยาน่ะครับ" เฮียอาร์ตอบหน้านิ่งไม่ยิ่งย่อนไปกว่ากัน
"อ้อ"
"ก้าน นี่ป๋าชินแฟนฉัน ส่วนนี่ต่ายเพื่อนที่มหาลัย" แนะนำอย่างไม่กระดากอาย ยังไงก็รู้รสนิยมกันอยู่แล้วไม่รู้จะปิดไปทำไม
"สวัสดีครับ ผมก้านครับ" ก้านยกมือไหว้ป๋าแล้วหันไปมองต่ายที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังผม
"สวัสดีค่ะพี่ก้าน แหม น่ารักกว่าที่เอเล่าให้ฟังอีกนะคะเนี่ย" เท่าที่จำได้ ฉันไม่เคยสาธยายรูปร่างหน้าตาเขาให้แกฟังเลยนะ
"ขอบคุณครับ น้องต่ายก็น่ารักนะครับ" ปากหวานจริงพ่อคุณ
"เอมึงจะไปไหนต่อ" เฮียอาร์ถาม
"ว่าจะไปกินพิซซ่า เออ...ก้านไปกินด้วยกันมั้ย ถือเป็นการเลี้ยงขอบคุณด้วย"
"เอาสิ ถ้าคุณอยากให้ผมไป"
"โอเคมั้ยป๋า" ถามเจ้ามือก่อน หน้านี่ไม่บ่งบอกอารมณ์สักติ๊ด
"ตามใจน้องเอครับ"
"งั้นก็ป่ะ"
ผมออกตัวเดินนำขึ้นบันไดเลื่อนไปยังร้านพิซซ่าที่อยู่ชั้นบน ต่ายเดินคุยมากับก้านด้านหลังสุด
ส่วนเฮียอาร์เดินคู่กับป๋าชินเงียบๆ มาถึงร้านก็เข้าประจำที่
ผมเลือกโต๊ะริมสุดของร้าน บรรยากาศสงบไม่ค่อยมีคนพุกพ่านดีครับ ป๋าชินนั่งเก้าอี้ข้างผม
ต่ายเองก็รีบจองที่นั่งข้างก้านอย่างไว ท่าทางจะยังไม่รู้ว่าอิพี่ก้านมันเป็นเกย์เหมือนผม ปล่อยให้ฝันหวานไปแล้วกันขี้เกียจท้วง
ตามด้วยเฮียอาร์เป็นพ่องาน นั่งหัวโต๊ะทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนจ่าย แต่พี่แกก็เล่นสั่งตะบี้ตะบันไม่เกรงใจสามีของผมเช่นเคย ชิส์!
"คุณชอบทานผักมั้ย?" ก้านถาม ทีแรกนึกว่าคุยกับผม แต่ไม่ใช่ครับ ก้านคุยกับเฮียอาร์
"ไม่ชอบ" เจ้าตัวตอบพลางเขี่ยมะเขือจิ๋วไปไว้ขอบจาน
"ไม่ชอบแล้วโตมาได้ไง?" ก้านพูดยิ้มๆ
"ก็โตตามปกติ"
"ผมว่าไม่ปกตินะ ผอมซะขนาดนี้"
"เรื่องของกู" เฮียอาร์ขึ้น 'กู' กับคนอื่น ถ้าไม่ชอบหน้าก็ต้องสนิทกันในระดับหนึ่ง
แต่ผมมองก้านแล้วไม่น่าใช่ทั้งสองอย่าง กลิ่นชักเริ่มไม่ธรรมดาละ
ต่ายที่ความรู้สึกไวกว่าคนอื่นมองหน้าผมอย่างตั้งคำถาม ผมพยักหน้าน้อยๆ ตอบ
มันก็ทำนิ้วชี้ทั้งสองข้างแนบติดกันก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปที่เฮียผม
"กู-ไม่-รู้" ผมให้ต่ายอ่านปาก มันทำท่าฟึดฟัดไม่พอใจ
"ก้านจะจีบอาร์เหรอ" ทั้งโต๊ะหันมองอิป๋า บทจะทำอะไร พ่อไม่แคร์สื่ออ่ะ
และที่หน้าตกใจไปกว่านั้นคืออิเฮียผมหน้าแดง เอ๊ะ! มันยังไงกันนี่
"ป๋าพูดบ้าๆ อาร์ผู้ชายนะ" เฮียอาร์รีบออกตัว
"พี่กับน้องเอก็ผู้ชายนะ ลืมหรือไง" ป๋าบอกเรียบๆ หน้านี่เป๊ะเวอร์
"ก้านนายจีบพี่ชายฉันเหรอ" ผมถามบ้าง ไอ้เฮียจ้องหน้าผมเขม็ง
"คุณอยากได้พี่ชายเพิ่มอีกคนมั้ยล่ะครับ" ก้านถามกลับด้วยรอยยิ้มพราวเสน่ห์ แลมั่นใจแปลกๆ
ผมตักสลัดผักใส่จานป๋าชิน "ถ้าไม่ตายก่อนค่อยว่ากัน"
********************************************************************************************
ปล. ฆ่าตัดตอน และเรื่องก้านกับเฮียอาร์มันมีที่มา แต่ยังไม่บอกหรอกปล่อยให้ลุ้นกันเล่นๆ (หัวเราะ)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน บวกคอมเม้นต์แสดงความคิดเห็นกันนะคะ ไม่สนุกบอกได้เน้อ รักฝุดๆ