รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8  (อ่าน 46116 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เอเกรียนไปหน่อยนะไม่ค่อยดูเวลาแต่ก็เข้าใจว่าอยากไห้เพื่อนอารมณ์ดี แล้วก็ไอ้มุกแกล้งคุยกับกิ๊กถ้าอีกคนเป็นคนคิดมากเรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหาภายหน้าได้นะเพราะมันจะตกตะกอนอยู่ในใจ

ปล.ความจริงไม่ต้องย้ำตลอดว่าเป็นนิยายก็ได้ค่ะ เพราะยิ่งย้ำบ่อยบางทีก็รู้สึกว่ามันยิ่งไม่ใช่นิยาย

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
โดนป๋าเอาคืน 5555555555555


KhunMay

  • บุคคลทั่วไป
บอกตามตรงนะคะ
เริ่มแรกก็คิดว่านิยาย  :really2:
อ่านไปอ่านมาเหมือนเรื่องเล่า  o22
โดนคนเขียนดักไว้ว่าเป็นนิยาย  :really2:
อ่านต่อมาเหมือนเรื่องเล่าอีก  :a5:
แล้วคนเขียนก็ดักว่านิยายอีกแล้ว  :z3:
เง้อ ถ้าเรื่องนี้เป็นนิยายก็ต้องชมจริงๆเลยค่ะว่าแต่งได้เหมือนเรื่องเล่ามาก
ฝีมือคนแต่งสุดยอดทำให้เราสับสนไปตามๆกัน อิอิ :z2:

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
สงสารหงำ แต่ทำไงได้ตบมือข้างเดียวไม่ดังจริงๆ น่ะแหล่ะ เบียร์เค้าก็ตามจีบแฟนมาเป็นปี ซะแสดงว่าต้องมีความรักอยู่มากแหละ นะ เฮ่อออออออ :hao4:

แต่นิยายแต่งได้ดีเป็นธรรมชาติ จนเหมือนเรื่องจริงมากๆค่ะ ชอบบบบบบบบบบบบ o13

ออฟไลน์ runrunna29

  • ก็แค่คนบ้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-4
โอเค ตั้งแต่ตอนนี้ไปจะเลิกย้ำว่าเป็นนิยาย กันคนอ่านสับสนละกันเนอะ อิอิ



........................................................................................





รักบอดๆ ตอนที่ 7




ช่วงเย็น(หรือค่ำนี่แหละ)หลังกลับจากไปทำงานและผมไปเรียนตามปกติ
ป๋าชินก็ถอดสูทคว้ากางเกงเจๆ ของผมที่พาดทิ้งไว้บนโซฟาไปใส่คู่กับเชิ้ตขาว
พับแขนสองสามทบแล้วหายเข้าครัว ส่วนผมถอดรองเท้าได้ก็วางก้นแหมะ ครอบครองพื้นที่หน้าโทรทัศน์แต่เพียงผู้เดียว

"น้องเอครับ" เสียงป๋าเรียกดังมาจากในครัว ผมได้ยินก็ไม่ตอบนะ เพราะตอนนั้นตั้งใจดูการ์ตูนมาก
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเรื่องหน้ากากเสืออ่ะครับ (เก่าป่ะ ตามอายุผมเลย คริคริ)

"น้องเอ พี่เรียกไม่ได้ยินเหรอครับ" คราวนี้โผล่ออกมาทำหน้ายุ่งพร้อมกับใช้ชายผ้ากันเปื้อนเช็ดตูดหมอหุงข้าวเปียกๆ ไปด้วย
"ได้ยิน แต่ไม่ว่างตอบอ่ะ มีไรป่ะ" ก็ไม่ว่างจริงๆ อ่ะ กินแตงโมอยู่เต็มปาก
"พี่จะถามว่า เย็นนี้น้องเออยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย จะได้ทำให้ แล้วผลไม้น่ะ รอกินข้าวก่อนครับค่อยกิน"
"ไม่ทันละป๋า ผมกินจะหมดละ อ้อ ผมอยากกินไอ้เนี่ยอ่ะ..." ทำหน้านึกเมนูอาหารในหัว
"ไอ้เนี่ยของเราน่ะ อะไรครับ เร็วๆ พี่จะไปตั้งหม้อข้าว"
"ไข่ลูกเขย" ผมตอบในที่สุด ไอ้ที่อยากมันไม่ใช่เมนูนี้นะ แต่ก็ช่างมันเหอะ (เคยเป็นกันเปล่าครับ นึกอีกอย่างแต่ดันสั่งอีกอย่าง)
"สองใบนี้เหรอ?" ป๋าชินทำตาเหล่ๆ ลงต่ำไปที่เป้าตัวเอง ก่อนจะส่งยิ้มหื่นมาให้ผมซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา
"เออ เอาไปเขยทั้งพวงนั่นล่ะ จะได้ไม่ต้องมีใช้ ชิส์" ผมเบ้หน้าบูดๆ ใส่ ป๋าชินหัวเราะชอบใจแล้วเดินเข้าครัวไปทำภารกิจของแกต่อ
แหม อยากจะเอาถุงแตงโมปาหัวนัก

นั่งหน้ามุ่ยดูการ์ตูนไปได้อีกสักพัก ไอ้ป๋าก็โผล่หน้าออกมาอีกหน

"น้องเอไปอาบน้ำครับ"
"อืมๆ" ปากตอบ ตาผมก็จ้องจอโทรทัศน์
"ได้ยินหรือเปล่าครับ"
"เออน่ะ ดูตอนนี้ก่อน"
"จะยี่สิบแล้วนะน้องเอ พี่บอกอะไรให้เชื่อกันบ้างสิ" พ่อหรือผัว?
"วุ่นวายว่ะ" ผมบ่นหงุดหงิด ป๋าชินได้ยินก็ชักสีหน้าขึ้นมาทันที
"ถ้าน้องเอรู้จักหน้าที่ รู้จักแบ่งเวลาพี่จะไม่เข้าไปวุ่นวายเลยนะ" น้ำเสียงตัดพ้อสุดๆ ฟังแล้วสะเทือนอารมณ์
"......" ไม่รู้จะเถียงอะไร เลยปิดโทรทัศน์ขึ้นมาบนบ้าน
เวลานั้นคำว่าสำนึกไม่มีอยู่ในหัวผมหรอกครับ มีแต่คำว่าขัดใจไปเสียทุกอย่างอ่ะ

งุ่นง่าน หงุดหงิด รำคาญ เบื่อ เซ็ง อารมณ์เหล่านี้กระหน่ำซัดเข้ามาจนขี้เกียจพูดขี้เกียจฟังอะไรทั้งนั้น
อาบน้ำเสร็จ ผมก็ประชดป๋าชินด้วยการหนีหลับแม่ง ใครจะว่าผมเอาแต่ใจ ทำตัวเป็นเด็กผมก็รับได้นะ
เพราะตอนนั้นผมเป็นอย่างนั้นจริงๆ

เฝ้าพระอินทร์ยังไม่ถึงหน้าพระพักตร์ก็โดนกระชากให้กลับสู่ความจริง
ร้าวไปทั้งแขน แต่ใจคนปลุกน่าจะร้าวกว่า หน้านี่เหมือนใครเอากระทะทุบมาก็ไม่ปาน

"ปลุกดีๆ ไม่เป็น?" ผมถามเสียงแข็งพร้อมๆ กับนวดแขนข้างที่ถูกกระชากไปด้วย
"พี่บอกให้มาอาบน้ำ แล้วทำไมหนีมานอน"
"ก็อาบแล้วนี่ไง"
"แล้วทำไมหนีมานอน"
"ง่วง" สั้นกว่านี้ก็มีนะ เอามั้ย จะได้ไม่ตอบเลย
"น้องเอ พี่ให้มาอาบน้ำแค่นี้ มันยากมากเลยเหรอ"
"ยากไม่ยากก็อาบแล้วนี่ไง ป๋าจะมาซักไซ้ทำไม" ผมจ้องหน้าป๋าเขม็ง ป๋าเองก็ไม่น้อยหน้าจ้องผมตอบกลับมาเช่นกัน
"ลงไปกินข้าวครับ"
"ไม่หิว จะนอน" บอกจบผมทิ้งตัวนอนเลย หันหลังให้แกอีกต่างหาก
"น้องเอ ลุกไปกินข้าว!" เสียงมาแล้วครับ ดังด้วย
"เอ๊ะ ผมบอกไม่หิวๆ ป๋าจะบังคับทำไมเนี่ย!" ปาหมอนใส่หน้าแกเต็มๆ
ป๋าชินยืนนิ่ง ปากเม้มเป็นเส้นตรงเหมือนกำลังอดทนจะไม่ลงไม้ลงมือกับผมอยู่อย่างไรอย่างนั้น

"อย่าให้พี่ต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำนะครับ" น้ำเสียงเย็นเหยียบชวนหนาวสันหลัง แต่อารมณ์นั้น ผมไม่ได้แคร์
"กล้าก็เอาซี่" ท้าทาย หน้าผมนี่ถ้าเห็นในกระจกก็คงวอนท์ตีนกันสุดๆ ล่ะ

ป๋าชินกัดฟันกรอด กำหมัดแน่น ทว่าไม่ได้ลงกับผมครับ ไปลงกับกำแพงแทน ต่อยไปสองทีเลือดนี่แดงติดเป็นรอย
ก่อนจะปิดประตูกระแทกลงไปข้างล่าง ได้ยินเสียงโครมครามๆ พักหนึ่งก็เงียบ แล้วก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถแล่นออกจากบ้านไป
วินาทีนั้นหัวใจผมตกวูบ จะวิ่งตามลงไปก็ไม่ทันเพราะดันเพิ่งรู้สึกตัวว่าได้ทำเรื่องงามไส้ลงไป ต้องวิ่งห้อกลับขึ้นมาใหม่ หามือถือแล้วกดโทรออก

ตืดดดดดด ตืดดดดดดด ตืดดดดดดดๆๆๆ
กดซ้ำเป็นสิบสายก็ไม่รับ พอจะกดอีกครั้ง ป๋าชินแกก็ปิดเครื่องไปแล้ว ฮือๆ
บ่อน้ำตาแตก ไอ้เอ ไอ้บ้า มึงไปหาเรื่องป๋าเขาทำไม ไอ้คนไม่มีหัวคิดเอ๊ย!
ก่นด่าตัวเองในใจไป มือก็ปาดน้ำตาปาดน้ำมูกไป เดินกำโทรศัพท์มือถือลงมาในครัว
เปิดดูกับข้าวในฝาชีบนโต๊ะ แม่งมีแต่ของชอบของผมทั้งนั้น ทั้งๆ ที่มีคนรักแสนดีอย่างนี้ ทำไมผมต้องไปทำตัวงี่เง่าใส่เขาด้วยวะ!

นั่งสำนึกผิดหน้ากับข้าวไม่ได้นานก็ไปนั่งตากยุงรอป๋าชินที่ม้าหินหน้าบ้าน จำได้ว่าผมหลับอยู่ตรงนั้นยันพระบิณฑบาตอ่ะครับ
ตื่นมาคันทั้งตัวเพราะบริจาคเลือดให้ยุงกินทั้งคืน สะลึมสะลือมองโรงจอดรถก็ไม่เห็นว่าจะมีเค้าร่างรถเบนซ์สุดหวงของป๋า
ไปไหนวะ บ้านช่องไม่กลับ ไม่รู้ไงว่าเมียคิดถึง (เรื่องจริงมันเศร้านะครับ ไม่มีอารมณ์เล่นเหมือนที่เล่าหรอก)

ยกโทรศัพท์ขึ้นมากด ปลายสายก็ยังคงปิดเครื่อง
ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเรียน ดูท่าวันนี้คงได้โหนเมย์

ลากเท้าจากบ้านมาขึ้นรถที่ปากซอยหมู่บ้าน โหนอีแดงไปลงอนุสาวรีย์ แล้วต่อกระป๋องไปมอ
คือจริงๆ นั่งรถหลายต่อมาก แต่เอาเท่าที่จำเป็นเนอะ เปลืองหน้าเวิร์ด คริคริ

"พี่เอ สวัสดีค่ะ" น้องโบว์ หลานรหัสลงจากรถเก๋งป้ายแดงตรงหน้าคณะได้ก็เข้ามาทักทาย
"สวัสดีครับ" ผมยิ้มแห้งตอบ อิดโรยมากเหมือนจะป่วย
"เป็นอะไรไปคะ ไม่สบายเหรอ หน้าซีดๆ ไม่ร่าเริงเลย" ไม่ถามเปล่า น้องโบว์ยังเอาหลังมือมาแตะๆ ตามตัวด้วย
"คิดว่าน่าจะมีไข้ครับ ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปขอยาที่ห้องธุรการได้ครับ"
"ไม่ดูแลตัวเองบ้างเลยนะคะ" น้องโบว์พูดพร้อมกับทำตาดุ แต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้ตายก็ไม่น่ากลัวหรอกครับ
เพราะตัวเธอเล็กๆ น่ารักเหมือนชิวาว่า ผมยาวดำขลับแถมทักเปียสองข้าง นี่ถ้าถือกระเป๋าใบโตๆ ผมนึกว่าพจมานมาเองเลยนะ

"งั้นน้องโบว์ช่วยมาดูแลให้ได้มั้ยล่ะครับ" หยอดพอให้บรรยากาศได้ผ่อนคลาย
"บ้า" น้องโบว์หน้าแดงแล้วตีแขนผมแก้เขินมาหนึ่งที
"ถึงบ้า ก็บ้ารักน้องโบว์นะครับ" หิ้ววววว
"ไอ้หูดำ!!" เสียงมารดังแทรกมาแต่ไกล หันไปผมก็เห็นไอ้เบียร์เดินมากับนังต่าย
"ขัดบ้างนะหูน่ะ ดำจนเขาจะรู้สันดานทันมึงหมดแล้ว" เบียร์ป้องปากกระซิบ หน้าระรื่นอ้อนตีนกันใช่ย่อย
"สวัสดีค่ะ พี่ต่าย พี่เบียร์" น้องโบว์ยกมือไหว้ "งั้นโบว์ขอตัวก่อนนะคะพี่เอ ไปนะคะ พี่ต่าย พี่เบียร์"
"จ้ะ คนสวย" เบียร์
"ไว้เจอกันใหม่นะ" ต่าย
"แล้วเจอกันครับ" ผมยิ้มส่งแล้วหันมาคุยกับเพื่อน "มาเช้านะ"
"ไม่เช้าจะทันเห็นมึงหม้อหลานรหัสตัวเองเหรอวะ" ไอ้เบียร์มันว่า ผมก็เลยจัดการเตะข้อพับมันไปอย่างอดไม่ได้
"เก็บปากไปคุยกับขี้เถอะไป"
"ก็คุยอยู่"
"เชี้ยเบียร์" ตบหัวมันไปอีกที ข้อหาว่าผมเป็นขี้
"หน้าไม่สดใสนะ ทะเลาะกับป๋าชินมาเหรอ?" ต่ายที่พิจารณาผมอย่างถี่ถ้วนแล้วถามจี้จุดผมทันที บอกตรงๆ จุก
"นิดหน่อย" ผมยักไหล่
"ไปแกล้งไรป๋าเขาอีกล่ะ" เบียร์ถามบ้าง
"ไม่ได้แกล้ง กูแค่รำคาญที่แกมาจู้จี้กูมากเกินไป กูก็เลยหนีขึ้นไปนอนแล้วไม่ยอมกินข้าวที่แกทำแค่นั้น"
"ทำตัวเป็นเด็กนะอิเอ เขาไม่รัก เขาไม่ห่วง เขาไม่จู้จี้มึงหรอก" ต่ายใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากผมขณะเราพากันเดินขึ้นตึก
"กูก็รู้ แต่ตอนนั้นกูกำลังดูการ์ตูนอยู่อ่ะ มึงก็น่าจะรู้นี่เวลากูจดจ่ออยู่กับอะไรมากๆ แล้วมีใครมาเซ้าซี้กูจะรำคาญ"
"แล้วไง"
"อะไรแล้วไง" ผมหันมองหน้าต่ายงงๆ
"ก็แล้วป๋าเขาว่าไง"
"ก็ต่อยกำแพงจนเลือดตก แล้วหนีออกจากบ้านไปเลย ป่านนี้ยังไม่กลับเลยเนี่ย" ผมพูดหน้าเครียดพลางถอนใจท้อ
"สมน้ำหน้า ทำตัวเองตลอด" ไอ้เบียร์ซ้ำเติม
"ระวังเถอะอิเอ สักวันป๋าเขาจะได้เบื่อ แล้วหนีไปมีเมียใหม่" อิต่าย มึงพูดซะกรูกลัว
"เฮ้อ~!" ถอนใจถอนวิญญาณกันเลยทีเดียว

เข้าห้องเรียน จารย์เข้าสอนก็ไม่เข้าหัว
ขีดนั่นเขียนนี่ลงบนสมุดเลอะไปหมด ที่เยอะสุดคือคำขอโทษ
จะว่าไปผมเนี่ย ติดนิสัยคิดหน้าไม่คิดหลังเนอะ ทำไปแล้วเสือกมาเศร้าเอง ทรมาณโคตรๆ อ่ะครับ

จบภาคเช้า ไอ้หงำก็ยังไม่มาเรียน แล้วก็ไม่ติดต่อ โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ ตอนกลางวันพวกผมจึงตกลงกันว่าจะไปหามันที่หอหลังเลิกเรียน
จากนั้นวันทั้งวันผมก็ยุ่งอยู่กับการพยายามที่จะติดต่อป๋าให้ได้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมานะหรือ...คือความว่างเปล่านั่นไง น้ำตาจะไหล

ตกเย็นสามคน สามหัว ยืนเกาะกลุ่มกันที่หน้าประตูห้องไอ้หงำ
เคาะประตูไปสามที ได้ยินเสียงไม่คุ้นเคยตอบกลับมา จากนั้นประตูห้องก็เปิดกว้าง ทว่าคนเปิดกลับไม่ใช่เจ้าของห้องซะอย่างนั้น

"มาหาใครครับ" ชายแปลกหน้าถามงงๆ
"มาหาหงำครับ" เบียร์ให้คำตอบ
"อ้อ หงำไม่อยู่ครับ ไปต่างจังหวัด"
"หะ ไปทำไรที่ต่างจังหวัด"
"ไม่รู้ครับ แต่เขาไปกับพี่ชายนะ ผมแค่รับฝากห้องเฉยๆ" ได้ยิน พวกผมสามคนก็ร้องอ้อไปตามกัน
"แล้วเขาบอกมั้ยครับว่าจะกลับมาเมื่อไหร่" ผมถามอีก
"เอ...ไม่ได้บอกนะครับ พวกคุณไม่ลองโทรไปถามล่ะครับ"
"เพราะโทรไม่รับน่ะสิ พวกกรูถึงได้ถ่อกันมาถึงนี่ แม่งถามโง่ๆ" ไอ้เบียร์บ่นอุบอิบอยู่ข้างหูผมกับต่าย
"ครับ ขอบคุณครับ" ผมผงกศรีษะให้ก่อนจะลากไอ้เบียร์ออกมาโดยเร็ว เพราะกลัวว่าถ้าไอ้คนนั้นได้ยินมันสองคนอาจจะมีวางมวยกันได้
"ทำไมมันทำไรไม่บอกพวกเราวะ" ไอ้เบียร์บ่นหัวเสียเตะก้อนหินตามทางไปเรื่อย
"มันคงอยากอยู่คนเดียวสักพักมั้ง" ต่ายเปรยๆ แล้วมองหน้าผมเศร้าๆ
"กูว่ามันแปลกๆ ว่ะ เออต่าย ตกลงไอ้หงำมันอกหักจากใครวะ กูว่าจะถามก็ไม่ได้ถามสักที"
"มัวแต่เห่อของแปลกล่ะสิ ชิส์"
"ต่าย" ผมปราม
"ไม่รู้ อยากรู้ มันกลับมาแกก็ถามเอาสิ" หน้าหง้ำหน้างอเชิดใส่ผมอีกต่างหาก เกี่ยวไรกับกรูเนี่ย
"มึงก็ไม่รู้เหรอ เอ"
"กูว่ามึงถามหงำมันเองเหอะ" ผมตอบปัดๆ ไม่อยากโกหกมันครับ
"นั่นก็ไม่รู้ นี่ก็ไม่ตอบ โคตรแม่งเอ๊ย!" ออกแรงเตะก้อนหินสุดแรง ไม่นานก็ได้ยินเสียงเอ๋งดังกลับมา บาปนะมึงเตะหินใส่หมา
"งั้น กูขอแยกตรงนี้เลยนะ จะรีบกลับไปดูว่าป๋าชินกลับบ้านยัง" ผมบอกกับทั้งสองคนเมื่อพากันเดินมาถึงรถไอ้เบียร์
"ให้กูไปส่งมั้ย"
"ไม่ต้อง มึงกลับกันไปเหอะ กูอยากคิดอะไรด้วย" ผมปฎิเสธ
"ถึงบ้านแล้วยังไงอะไรก็โทรบอกพวกกูด้วยนะเว้ย" ไอ้เบียร์ขึ้นรถแล้วเปิดกระจกออกมาบอก
"เออ ขับรถดีๆ ไว้เจอกัน"
"เออ โชคดี แล้วเจอกัน"
"อย่าไปดื้อกับป๋าเขานะอิเอ" ต่ายที่นั่งด้านข้างคนขับหันมากำชับเสียงหนัก
"เออ กูผิดกูรู้ตัว อย่ามาย้ำ" ผมแยกเขี้ยวใส่มันไป มันก็ยักไหล่หาแคร์ไม่
โบกมือลาพวกมันสองตัวจนท้ายรถหายลับไปบนถนนเบื้องหน้า ผมก็ออกเดินช้าๆ มาโบกแท๊กซี่
ขี้เกียจรอรถกระป๋องครับ อยากกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด ก็เลยยอมควักแบงค์ร้อยในกระเป๋าสี่ใบเป็นค่าโดยสาร
(ไม่ทะเลาะกับป๋า แท๊กซี่ไม่ได้แอ้มผมหร๊อก)

ถึงบ้านสิ่งแรกที่ผมชะเง้อคอมองคือ โรงรถ
และถึงวันนี้จะเย็นมาก มันยังคงกลับว่างเปล่า...เหมือนกับใจโหวงๆ ของผมตอนนี้ไม่มีผิด

"ไม่รู้เลยหรือไงนะ ว่ามีคนเป็นห่วงอยู่ที่บ้าน" ผมรำพึงกับตัวเองเบาๆ
พลางเดินมาเปิดประตูบ้านที่เมื่อเช้าคล้องล็อคด้านไหน ตอนนี้ก็คล้องล็อคด้านนั้น

โยนกระเป๋าไปบนโซฟา ขึ้นบ้านมาอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จก็ทรุดตัวนั่งลงบนเตียง
มองเห็นรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กันตอนป๋าเริ่มตามจีบผมใหม่ๆ ตรงหัวเตียงน้ำตาก็พาลจะไหล
หากถามว่าทำไมผมไม่โทรไปถามที่ทำงานหรือเพื่อนของป๋า ผมตอบเลยครับผมโทรถามทุกคนเท่าที่ผมมีเบอร์
แต่ไม่มีใครรู้ว่าป๋าชินไปไหน และไปด้วยเหตุผลอะไรสักคน

ผมทิ้งตัวนอนเอามือกุมหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้นเกือบชั่วโมงเต็ม ถึงได้ลุกขึ้นล้างหน้าแล้วลงมานั่งทำงานส่งอาจารย์ให้ทันเดทไลน์


******************************************

เออ ไม่ได้อยากดราม่าอะไร พยายามเล่าขำๆ แล้ว แต่ได้เท่านี้ อย่าว่าผมนะครับ
บอกแล้วถ้าเรื่องมันจะดราม่า ก็เพราะผมทำตัวเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน อย่างว่าแหละเนอะ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
อารมณ์ช่วงนั้นมันก็เลยขึ้นๆ ลงๆ เหมือนเด็กเอาแต่ใจบ้าง เป็นสาเหตุทำให้ป๋าต้องเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจไปตามๆ กัน
ยังไม่จบครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าต่อ รักทุกคนนะจ๊ะ~

****************************************


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2014 15:45:47 โดย runrunna29 »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :katai1: มันค้าง อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มันค้างนะ ฮือออออออออ ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยยยยยยยยยยยย TT

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
คิดเหมือนรีบนู้นนนนนนนน เลย นึกว่าเรื่องจริง อิอิ คนแต่ง แต่งได้น่ารักมากกก

KhunMay

  • บุคคลทั่วไป
มีแต่คนค้างๆ เฮ้ย! เราก็ค้างเหมือนกานนนน 555
ป๋าชินเป็นคนดีจังเลย ดีแบบมากๆ
ถ้าในโลกนี้มีแบบป๋าชินเยอะๆนะ สุโค่ยเลย อิอิ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
ค้าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เข้ามารออ่านเน้อ   :katai4: :katai4:

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ runrunna29

  • ก็แค่คนบ้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-4
คำผิดเดี๋ยวจะกลับมาแก้นะคะ



.....................................................







รักบอดๆ ตอนที่ 8





นั่งมึนกับตัวบ้านที่เงียบสนิท
เผลอหลับไปตอนไหนไม่เข้าใจครับ ปาดน้ำลายแล้วเงยหน้ามองนาฬิกาแขวนผนัง
ก้มหน้ามองสมุดงาน โห สาบานนะว่างานเดทไลน์ ทำไมแม่งไม่กระเตื้องเลยวะ!
ลุกเดินไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม เสียงโทรศัพท์บบ้านก็ดัง (ตอนนั้นน่าจะเกือบสามทุ่มนะถ้าจำไม่ผิด)

"โหลครับ" ผมยกหูโทรศัพท์พร้อมกับกรอกเสียงอย่างไม่เต็มใจไปตามสาย
"มึงมาเอาผัวมึงไปเดี๋ยวนี้" เสียงแหบๆ ของผู้ชายตอบกลับมาในภาษาที่สุภาพมากมาย
"ใครครับ?" ผมนิ่วหน้า มือข้างหนึ่งก็เกี่ยวเล่นกับสายโทรศัพท์ไปด้วย
"ผัวมึงสิ ไอ้ห่า"
"เออ นั่นล่ะ ผัวกู แต่มึงน่ะใคร" สุดทนจริงๆ ผมกระแทกเสียงใส่เลย
"เฮียเอฟ" ตอบมาสั้นๆ แต่ผมสิครับ หน้าเสียไปครึ่งแถบ จำเสียงพี่ชายตัวเองไม่ได้ โอ๊ย กรูอยากตาย
"เอ่อ...ป๋าชินไปบ้านเหรอเฮีย" รีบปรับเปลี่ยนเป็นนอบน้อมในบัดดล
"เออสิ มาชวนพ่อกินเหล้าตั้งแต่เมื่อคืน หน้าตานี่เมามาก่อนด้วยซ้ำ มือก็เหมือนไปฟาดกับอะไรมาด้วย เลือดงี้โชก
พอกูกับแม่ถามถึงมึง แม่งก็บอกว่ามึงโกรธท่าเดียว ตกลงทะเลาะกันเหรอวะ" เฮียเอฟร่ายยาวเป็นชุด

กรรมจริงกรู
นึกว่าหายไปไหน ที่แท้หนีไปอยู่บ้านผมนี่เอง
ไอ้ทางนี้ก็มัวแต่โทรถามคนรู้จักของฝ่ายนั้น ไม่ได้คิดเล๊ยจริงๆ ว่าแกจะอยู่แค่ใต้จมูก
ทางบ้านผมก็น่าโมโห ไม่ยอมติดต่อมาบอกตั้งแต่แรก ปล่อยให้คนเขาห่วงแทบเป็นแทบตาย ชิส์!

"เรื่องไม่เป็นเรื่องอ่ะเฮีย" ผมก็ตอบปัดๆ ไป
"เรื่องไม่เป็นเรื่อง ถุย! ถ้าเป็นอย่างที่มึงพูดจริงนะเอ กูยอมให้เอาตีนทาบหน้าเลย
รีบมาให้ไว มาดูสภาพผัวมึงที่ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องนี่มา" น้ำเสียงเฮียค่อนข้างหงุดหงิด

"ครับๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ฝากดูป๋าแกไว้ด้วยนะ"
"เออ!" กระแทกเสียงตอบแล้วตัดสายไปเสียชิบ

จำได้ว่าตอนนั้นพอวางหูโทรศัพท์จากเฮียเอฟ ผมก็หน้าตั้งตรงดิ่งออกจากบ้านไปโบกแท๊กซี่ทันที ไม่ได้เตรียมตัวอะไรสักอย่าง
ขนาดรองเท้ายังใส่คนละข้าง ในใจมันทั้งดีใจ ทั้งโล่งอกปนๆ กันไป ที่ได้รู้ว่าคนของเราไม่ได้หายไปอย่างที่คิด ทว่าพอไปถึงบ้านพ่อแม่
แถวประชาชื่น ณ.เวลานั้น บอกตามตรงว่าอยากร้องไห้ครับ เพราะสภาพคนที่เรารักและรักเราซึ่งอยู่กลางวงเหล้า แม่งเหมือนหมาป่วยดีๆ นี่เอง
นึกภาพตามนะครับ ป๋าชินนอนกอดขวดน้ำอยู่ตรงกลางบ้าน ซึ่งบริเวณนั้นล้อมรอบไปด้วยสิ่งมึนเมากับเศษซากกับแกล้มที่หมดแล้ว มีแมวแก่ๆ
นอนเลียไข่ตัวเองอยู่ใกล้ๆ ทั้งกองอ้วกทั้งอะไรต่อมิอะไรเลอะเต็มตัวเต็มพื้นไปหมด เห็นแล้วน้องเออยากหนีกลับบ้านอ่ะครับ รับไม่ได้อย่างแรง

เฮียเอฟยืนอุ้มลูก(หนูแดง อายุ 3ขวบ)ทำหน้าทมึงทึงต้อนรับผมที่มาถึง
โคตรเป็นพี่ชายที่แสนดีอะไรเยี่ยงนี้

"เป็นไง เห็นสภาพมั้ย"
"เอิ่ม..." ผมพยักหน้ารับ
"แล้วมึงยังจะปากแข็งบอกกูอีกหรือเปล่าว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง"
"เอิ่ม........" เถียงไม่ออก
"เอ มึงโตแล้วนะ ปีสามแล้ว อีกไม่ถึงสองปีมึงก็จะจบ มึงทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อย
ไอ้ชินมันมีความอดทนสูง ถ้าเป็นคนอื่นมึงเจ็บตัวไปนานแล้วนะ หัดมีความคิดบ้างสิวะ"
(เฮียเอฟอายุมากกว่าป๋าชินสามปีถึงได้เรียกชื่อกันเฉยๆ และเป็นลูกคนโต ผมเป็นคนที่สี่ในพี่น้องหกคน เยอะชิมิ คริคริ)

"แม่กับพ่ออ่ะเฮีย" ผมทำเป็นมองๆ ไปทั่วบ้าน แถไปเรื่องอื่น ไม่งั้นโดนยิงยาวแน่
"แม่พาพ่อไปนอนแล้ว ก่อนกลับบ้านมึงก็ช่วยทำความสะอาดให้กูด้วย แม่กับเมียกูจะได้ไม่ต้องลุกมาเหนื่อยทำ"
"ได้ครับเฮีย ไงจ๊ะหนูแดงหลานอา ยังไม่นอนเหรอลูก" หันมาเล่นกับหลานที่อมนิ้วตาแป๋วแหวว
"คงนอนได้หรอกมึง เสียงผัวมึงคร่ำครวญดังอย่างกับอะไรดี" เฮียเอฟทำตายักษ์ใส่ผมแล้วพาลูกหายขึ้นบ้าน
"พี่หรือพ่อกูวะ บ่นจริงบ่นจัง" เดินมาเท้าเอวดูสภาพศพสามี "ไอ้นี่ก็ ผัวหรือพ่อ เฮ้อ~ ชีวิตกู"

ไล่ตามเก็บข้าวเก็บของที่เกลื่อนระเกะระกะใส่ถุงขยะ แล้วเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ป๋า จากนั้นก็เอาชุดเก่าๆ ของตัวเองในห้องนอน
มาเปลี่ยนให้ใหม่ ก่อนจะจัดการลากแกไปนอนบนแคร่ไม้ที่เอาไว้นอนเล่นอย่างทุลักทุเล แล้วกลับมาจับไม้กวาดทำความสะอาดบ้านจนเสร็จ
เรียบร้อยทุกอย่างตามสั่งพี่ชาย นั่งเหนื่อยสักพักก็ไปล้างจานต่อ(คนไม่เคยทำงานบ้านแล้วต้องมาทำอะไรพวกนี้ ความเหนื่อยมันจะคูณสองครับ)

"เอ มาเมื่อไหร่" ไอ้น้องคนสุดท้องที่เป็นทอมเดินเกาพุงเข้ามาในครัว
"เมื่อเห็น แล้วไมยังไม่นอน พรุ่งนี้ไม่เรียนไง จะตีสองแล้วเนี่ย" ผมบ่น มันก็ทำหน้าหงิก
"ซี นอนแล้วเหอะ แต่หิวน้ำก็เลยตื่น" ครับยัยน้องผมคนนี้ชื่อซี ตามอักษรภาษาอังกฤษทุกประการ อายุเหรอครับ สิบสามปีไม่มาก
"เออ จะกินก็กิน" ผมก็ล้างจานของผมต่อ
"ป๋าชินแก เฮิร์ทมากนะเอ" มันพูดไปเทน้ำในขวดพลาสติกไป
"ฉันเห็น ไม่ต้องให้แกบอกหรอก สภาพหมาชัดๆ อ่ะ" ผมส่ายหัว
"เอเคยเห็นหมาเมาเหรอ ซีว่าเหมือนคนตรอมใจมากกว่าอ่ะ น่าสงสาร"
"แล้วแต่จะคิด"
"นี่ถ้าซีเป็นผู้ชายจริงๆ จะแย่งป๋าชินมาจากเอให้ได้เลย คนดีๆ แบบนี้ถูกทิ้งขว้างแล้วมันน่าเสียดาย"
"ฉันไปทิ้งป๋าเขาเมื่อไหร่วะ" หันไปทำตาดุใส่น้อง ดีดฟองน้ำยาล้างจานแถมให้ด้วย นี่แน่ะ
"อี๋ สกปรก" ซีเบ้หน้าบูดอย่างรังเกียจ "ไปนอนดีกว่า เบื่อคนหวงผัว แบร่~" ทิ้งท้ายให้เจ็บใจ น่าจับมาตีก้นนักนังน้องคนนี้
"ไปนอนไม่ต้องตื่นเลยนะ ไอ้ตัวดี!" แหวมันตามหลังพร้อมกับกระแทกจากแตกไปหนึ่งใบ
"เอ" มันโผล่หน้ากลับมาหลอกหลอนผมอีกหน
"อะไร"
"ไม่เอาป๋าชินเมื่อไหร่บอกซีนะ ซีพร้อมจะกลับเป็นหญิง อิอิ" ลอยหน้าลอยตาแหย่ผมเสร็จ มันก็ร้องเพลงของพุ่มพวงขึ้นบ้านไป
รู้สึกจะชื่อเพลง ผู้ชายในฝันอ่ะครับ

ล้างจานแบบประชดประชันน้องสาวตัวดีต่อไปอีกสองสามนาที ผมก็เข้ามานั่งมองไอ้คนนอนตายตรงแคร่
อยากทุบให้หายแค้น แต่พอเห็นมือที่ถูกผ้าพันแผลพันไว้หนาเตอะก็นึกสงสารขึ้นมาจับใจ เลยทุบหัวตัวเองเบาๆ เป็นการลงโทษสองที

"ป๋าชินครับ ป๋าชิน" เขย่าตัวแกให้ตื่น อย่างน้อยก็อยากพาแกไปนอนในห้องดีๆ ครับ
"อืออออออ" เจ้าตัวครางออกมา กลิ่นเหล้านี่ฮึ่ม
"ป๋าชินลุกไปนอนในห้องกันครับ"
"ม่ายปายยยยยยยยยย อย่ามายุ่ง!" ปัดมือผมทิ้ง ยอมรับว่าตอนนั้นถึงป๋าจะไม่มีสติแต่ผมโคตรน้อยใจ แถมปัดแรงด้วย
"นี่น้องเอนะครับ ไปนอนในห้องกันนะ" น้ำตาคลอเบ้า ไอ้ป๋าบ้าก็ปัดมือผมทิ้งอีก
"อื้อออ บอกว่าอย่ามายุ่ง ม่ายข้าววจายไง"
"ป๋าชินไม่รักน้องเอแล้วเหรอครับ" น้ำตาหยดหนึ่งร่วงเผาะ
"รักทำมาย รักแล้วเศร้า จารากไปทำมะ" ปากพูดไป ตานี่ไม่ได้ลืมขึ้นมาดูคนข้างกายที่ยืนกลั้นลูกสะอื้นกับคำพูดไม่ได้คิดของแกเลย
"........" ผมยืนเงียบ
"เราทามอะไรก้อม่ายดีสากอย่าง ทำปายเขาก็ม่ายเห็นค่า แม่งช้ำตรงเนี๊ยยยยย" ป๋าชินทุบอกข้างซ้ายตัวเองแรงๆ
"ทามกามข้าว(?) ทามทุกอย่าง อยากห้ายเขามีฟามสุข แต่แม่งเอ๊ย กูผิดตลอดดดดด"
"........." ผมยกมือขึ้นปิดปากสะอึก น้ำตาไหลเต็มสองแก้ม
"ทามมายวะ ทามมายเขาไม่เห็นค่ากูบ้างงงง พูดก็หาว่าบ่น ทามอารายก็ว่า เคยเห็นค่ากันบ้างม้าย!" ตะโกนออกมาแล้วก็พลิกตัวตกจากแคร่
ทว่าไม่ลุกนะครับนอนมันอยู่อย่างนั่นแหละ แถมยังทุบพื้นสุดแรงจนผมต้องเข้าไปจับแขนแกขึงไว้ข้างตัว(ผู้ชายคนนี้ถ้าเมาหลุด จะหลอนมากกกก)

"ปล่อยกู!"
"อย่าตะโกนป๋า เกรงใจเขา" ผมทำเสียงเข้มข่ม
"ปล่อยกู ปล่อยกู ปล่อยกู ไอ้เชี้ยยยยยยย!!" ดิ้นพล่านเหมือนหมาโดนน้ำร้อน
มือข้างหนึ่งของผมหลุดไปเพราะแรงน้อยกว่า ป๋าชินพลิกตัวหงายได้ก็ต่อยผมมาหมัดหนึ่ง เอาซะเต็มกราม เจ็บโคตรๆ

"โอ๊ย!" ผมร้อง ตัวนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ ล้มไปกระแทกกับขอบแคร่ มึนไปเป็นนาที
"น...น้องเอ!!" ป๋าตาลีตาเหลือกคลานเข้ามาหา เมื่อเริ่มเข้าใจอะไรได้ดีขึ้น
"อย่าจับ" ผมร้องห้าม เจ็บก็เจ็บ น้ำตาก็ไหลไม่หยุด
"พะ...พี่ขอโทษ น้องเอ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่..." ป๋าละล่ำละลักหน้าซีด สร่างเมาเป็นการถาวร
เข้าใจมั้ยครับว่าชีวิตทั้งชีวิตของคนที่ไม่เคยทำผมเจ็บนอกจากการแทงข้างหลัง(ตูด)
และมารู้ตัวว่าพลั้งมือกับผมหน้าตาจะขนาดไหน ผมเห็นแล้วอยากพูดอะไรสักอย่างนะ แต่ตอนนั้นมันเจ็บจริงอะไรจริงเลยพูดไม่ออก

เอานิ้วหัวแม่มือปาดมุมปาก น่านกรูว่าละ ปากแตก
เหลือบมองป๋าที่นั่งตัวสั่นปากสั่น มองผมด้วยแววตาขลาดกลัวก็พยายามยิ้มปลอบ
แต่สงสัยยิ้มหวานมากไปหน่อยมั้ง ป๋าชินแกถึงได้สะดุ้งน้ำตาแตกตามผมมาอีกคน

"พี่ไม่คิดว่าจะเป็นน้องเอ...แล้วก็...จะต่อยด้วย" เอิ่ม เข้าใจอารมณ์ครับ
เวลาเมาใครมาขัดใจก็อยากออกกำลังด้วยกันทั้งนั้น

"พี่เมา..." เออ กรูเห็น
"พี่นึกว่าตัวเองฝัน..." ฟันถึงบรูซ ลี ล่ะดิ
"จะ...เจ็บมั้ยครับ" เลือดออกขนาดนี้ไม่เจ็บก็บ้าแล้ว~
"ไม่เป็นไรครับ" ผมคนรักผัว ยอมปากแข็งให้ผัวสบายใจนิดนึง คริคริ
"......" ป๋าชินเงียบ ทำหน้ากล้าๆ กลัวๆ เหมือนอยากจะเข้ามาหาผมแต่ก็ไม่กล้าอะไรทำนองนั้น
"ทำไมป๋าหนีผมมาอยู่นี่อ่ะ ปิดโทรศัพท์ด้วย" ผมเริ่มเปิดประเด็น
"พี่......" ค้างไว้แล้วก้มหน้าจ๋อยๆ เห็นแล้วสงสารจริ๊ง
"ป๋ารู้มั้ยว่าผมเป็นห่วง"
"พี่......."
"ถ้าเฮียเอฟไม่โทรศัพท์ไปบอก ผมก็คงไม่รู้ว่าป๋าอยู่นี่"
"ขอโทษครับ พี่ขอร้องพ่อกับแม่ไว้ว่าอย่าบอกน้องเอ"
"โกรธกันเกลียดกันก็บอกกันตรงๆ สิครับ ทำไมต้องหายมาเงียบๆ" น้ำตาระลอกสองหยดแหมะ ป๋ารีบเข้ามากอดผมทันที
"โกรธครับ แต่ไม่ได้เกลียด พี่ไม่มีทางเกลียดน้องเอหรอกครับ อย่าร้องไห้นะ นิ่งนะครับ โอ๋~"
ปลอบไปก็โยกตัวผมกับตัวเองไปด้วย ทำอย่างกะปลอบเด็ก

"ผมไม่ชอบที่ป๋าเป็นอย่างนี้ อย่างคราวก่อนก็เอาแต่เมินไม่พูดกับผม
มาคราวนี้หนีออกจากบ้านติดต่อไม่ได้ ถ้าป๋าเป็นอะไรมา ผมจะรู้สึกยังไง ฮืออออ"

"ไม่เอานะครับคนดี ไม่ร้องนะ พี่ขอโทษครับ จะไม่มีครั้งต่อไปแล้วครับพี่สัญญา"
"อึก...ผมก็จะไม่ดื้อกับป๋าอีก แต่ไม่สัญญา ฮือออออ"
"ถึงดื้อพี่ก็รักครับ ไหนๆ ดูหน้าคนดื้อหน่อยซิ...เฮ้ย!" ป๋าชินมองหน้าผมแล้วตาโต ผมก็งง
"เป็นไรอ่ะป๋า หน้าผมมีไร"
"บวมอ่ะครับ พี่ต่อยแรงแค่ไหนกันเนี่ย" ป๋าชินเอานิ้วแตะๆ
สาบานเลยว่าป๋าแกแค่แตะจริงๆ แต่หน้าผมนี่ร้าวไปข้าง เพิ่งรู้สึกว่ามันปวดมากครับ

ครั้งนั้นปูดเป็นลูกกอฟไปสามวันกว่าจะยุบ แม่เห็นตอนเช้ากรี๊ดแทบสลบ ป๋ากับผมโดนสวนยับไปสามบ้านแปดบ้าน
ไอ้เพื่อนสองตัวของผมก็ล้อกันไม่หยุด หงำกลับมาจากต่างจังหวัดก็ยุบ ไม่ทันได้เห็นครับ อิอิ


************************************

ยังไม่จบนะครับ เดี๋ยวมาต่อ
รักคนอ่านจะ จุ๊บๆ

***********************************




ปล. สั้นๆ ไปนะตัวเธอ อิคนเขียนรีบไปทำงาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2014 04:02:21 โดย runrunna29 »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
อย่าดื้อมากนะ สงสารป๋าอ่ะะะ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ป๋าเมาหมดสภาพเลย น้องเออย่าดื้อกับป๋ามากสิ คนอ่านเห็นสภาพป๋าตอนเมาแล้วขำ 555555555555555

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
น้องเอดื้อน้อยๆๆๆน่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กว่าจะหากันเจอ

ออฟไลน์ kik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ป๋าชินน้อยใจน้องเอน่าดูเลยเน้อ   :sad11: :sad11:

มาต่อไวไวน้า :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ลิงภูเขา

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-4
ฉันรักนิยาย (?) เรื่องนี้  :mew1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เอ น่าจะปรับปรุงตัวบ้างนะ เหนื่อยใจแทนป๋าจริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ป๋าน่ารักที่สุด :hao7:

ออฟไลน์ runrunna29

  • ก็แค่คนบ้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-4





รักบอดๆ ตอนที่ 9




ปิดเทอมปลายปีเป็นอะไรที่สุดแสนจะน่าเซ็งของคนมีคู่วัยทำงาน
เหล่าผองเพื่อนผู้น่ารักกลับบ้าน บางคนก็ไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ป๋าชินทำงานจะได้หยุดเฉพาะเสาร์ครึ่งวันกับวันอาทิตย์
ไอ้ครั้นผมจะอ้อนไปเที่ยวไกลๆ เหมือนคนอื่นบ้างก็เกรงใจ ได้แต่นอนกลิ้งไปกลิ่งมาอยู่กับบ้านไปวันๆ
โอ๊ย อยากไปสวีทวี่วีทางเหนือบ้างไรบ้างอ่ะคร๊าบ

"ป๋าชิน" เดินออกไปวอแวกับคนแก่ที่นั่งทำงานอยู่ตรงม้าหินอ่อนหน้าบ้านในสายวันอาทิตย์
"ครับ" เจ้าตัวตอบกลับแต่ไม่หันมามอง ผมก็เลยจัดการโถมตัวเข้าไปโอบรอบคอแกซะ งื๊อ เค้าอยากเที่ยวอ่ะ อยากเที่ยว
"มีอะไรครับคนดี หืม" ป๋าลูบแขนของคนที่เรียกแล้วไม่ยอมพูดอะไร
"ไปเที่ยวกัน" จำให้ขึ้นใจกันไปเลยครับ การอ้อมค้อมไม่ใช่นิสัยโผมมมม
"อยากไปไหนครับ ไหนลองบอกพี่มาซิ"
ถามทั้งที คุณพี่จะไม่เลิกสนใจกับไอ้เทคโนโลยีขนาดพกพาตรงหน้าบ้างหรือไง หมั่นไส้มากๆ เข้า
ก็เบียดตัวแทรกเข้าไปนั่งตักคล้องคอแล้วจับหน้าป๋าชินให้หันมาสนใจตัวเอง เรียกร้องถึงขนาดนี้ ไหงสามีถึงทำหน้าไม่พอใจ

"รำคาญใช่ป่ะ" ผมเบ้หน้าถามเสียงเคือง ป๋าชินคลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า
"ดีมาก เพราะถ้าตอบว่ารำคาญ ผมจะสั่งป๋าให้งดเรื่องอย่างว่าสามเดือน"
"ไม่กล้าครับ จุ๊บ~" ตอบพร้อมกับก้มจุ๊บปากผมหนึ่งที
"ไปเที่ยวกัน ไม่ต้องไปไกลก็ได้ นะนะ" เอาหัวถูๆ ไถๆ ซอกคอแกอย่างอ้อนๆ
"แล้วน้องเออยากไปไหนล่ะครับ พี่ถามก็ไม่ตอบสักที"
"ไปตลาดน้ำอัมพวาก็ได้ ผมอยากได้ปลาทูคอหักกับไปกินกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ"
โทนเสียงแอบแบ๊วมากมายก่ายกอง ขนาดเด็กผู้หญิงน่าตาน่าหยิกมาได้ยินได้ฟังจากปากผมยังต้องอายตัวม้วนทีเดียวเชียว คริคริ

"กินกุ้งยังพอเข้าใจ แต่ปลาทูคอหักนี่จะอยากได้ไปทำไมครับ" ป๋าชินทำหน้างง เหมือนไม่รู้ใจภรรยาเอาเสียเลย
ก็นะ พูดถึงปลาทูคอหักมันก็ต้องอยากกินดิ โดยเฉพาะเอามาทำต้มยำนี่สุดยอดคักๆ สิบอกให้

"เอามาบูชามั้ง ป๋านี่ก็ถามอะไรแปลกๆ เนอะ" หยิกแก้มแก้โง่คนแก่ไปหนึ่งทีเน้นๆ
"อ้อ ดีเหมือนกัน"
"ประชด!" ผมตอกใส่หน้า ป๋าชินหัวเราะขำ
"ไปวันอื่นได้มั้ยครับ"
"ทำไม" ผมนิ่วหน้าบูด
"พี่มีงานเยอะ ยังไม่เสร็จเลย ต้องส่งให้ลูกน้องพิมพ์วันจันทร์นี้แล้วด้วย"
"ไหน งานอะไร" ผมบิดตัวหันหน้าเข้าหาโน๊คบุ๊คแล้วเอามือคลิกเม้าท์สำรวจ
เป็นงานตรวจเกี่ยวกับภาพนิตยาสารรายปักษ์ และเนื้อหาขุดคุ้ยรากเหง้าเหล่าดาราที่จริงไม่จริงไม่รู้เยอะแยะไปหมด

"โหย งานชิลๆ แบบนี้ ชั่วโมงเดียวก็เสร็จ กลับมาทำยังทันเลย" หันกลับมาจ้องหน้าป๋าต่อ
"ไม่ได้มีแค่งานเดียวครับ" ป๋ายิ้มตอบพร้อมกับคลิกเม้าท์โชว์งานที่ต้องทำให้เสร็จทันพรุ่งนี้
มองผ่านๆ ผมว่าไม่ต่ำกว่าสิบราย เยอะมาก

"เฮ้อ~" ถอนหายใจทิ้งอย่างผิดหวังแล้วลุกเดินกลับเข้ามาในบ้าน รู้สึกโลกเบี้ยวไปเลยยังไงชอบกล
นั่งๆ นอนๆ หาไรกินเล่นก็ไม่หายเบื่อ การ์ตูนที่ซื้อมาเก็บไว้ก็ดูหมดแล้ว เกมส์ใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยโดน ใจมันเรียกหาแต่อัมพวาๆ ทุกๆ ลมหายใจ
เค้าอยากไปเที่ยว อยากไปกินปูกินกุ้ง อยากไปนั่งเรือชมหิ่งห้อย อยากไปๆๆๆๆๆ แง~
(อารมณ์นั้นจำได้ขึ้นใจเลยครับ เพราะปัจจุบันมักเป็นตลอด ป๋าก็นะ ตัวเองพาไปไม่ได้ก็ไม่ยอมปล่อยให้ผมไปเอง น่าเบื่อ)

"ไปเดินเล่นดีกว่า" พูดกับตัวเองเสร็จก็เดินขึ้นบ้านไปหยิบตังค์ในกระเป๋ามาสองร้อย
ลงบ้านมาใส่อีแตะ ยังไม่ทันผลักประตูรั้วป๋าก็ตะโกนถามเสียงเข้ม

"ไปไหนครับ" น่ากลัวฝุดๆ
"ไปตลาดหน้าหมู่บ้าน จะไปสร้างจิตนาการว่าได้ไปอัมพวา" ประชดได้อีกกรู
"ไม่ต้องไปครับ แดดร้อน" ผิวกรูทนได้
"ให้แดดมันโดนผิวบ้างเหอะ อยู่ในบ้านมาสองอาทิตย์จนจะจำความรู้สึกว่าแดดมันร้อนยังไงไม่ได้อยู่และเนี่ย" เอาเข้าไป เกรียนมันเข้าน้องเอ
"อย่าดื้อครับ กลับเข้ามานี่" ป๋าเดินมาลากผมเข้าบ้าน แล้วตัวเองก็ออกไปเก็บข้าวเก็บของเก็บงานกลับเข้ามาหาผมที่ยืนหน้าหงิกไม่ยอมขยับ
"นั่นก็ไม่ไป นี่ก็มาห้าม อยากให้ผมเฉาตายนักไงหะ" น้ำเสียงค่อนแคะ ป๋าส่ายหัวก่อนจะเดินหิ้วของขึ้นบ้านไป
มันน่าจับหักคอนักเชียว ตาแก่เอ๊ย!

"ไปครับ" ป๋าลงมาพร้อมกับการแต่งตัวใหม่ เชื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนยาว กางเกงสีเทาขายาว ถุงเท้าดำ หน้าหล่อเวอร์(อวยผัวอีก)
"ไปไหน" หน้าผมยังบูดอยู่ น้ำเสียงจึงออกแนวแข็งกระด้างไม่น่าฟัง
ป๋าชินแย้มยิ้มแล้วเข้ามาจับหัวผมโยกสองสามทีอย่างเอ็นดู

"ไปตลาดครับ"
"ตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน จำเป็นต้องแต่งตัวเหมือนไปเดินห้าง?"
"ฮะๆ ไม่ได้ไปตลาดนัดครับ แต่พี่จะพาน้องเอไปตลาดอัมพวา" ได้ยินคำว่าอัมพวาจากปากป๋าชิน ผมก็ยิ้มออกในทันใด
หูยยย ฝันที่เป็นจริง

"พาไปจริงอ่ะ" กระโดดกอดคอป๋าอย่างรวดเร็ว
"จริงครับ"
"ไม่ทำงานเหรอ งานเยอะนะ เสร็จไม่ทันไม่รู้นะ" ปากพูดเหมือนห่วงแต่ใจผมนี่ไปคอยอยู่ที่อัมพวาแล้วครับ
"กลับมาค่อยเร่งทำได้ครับ อยากพาเด็กดื้อไปเปิดหูเปิดตาบ้าง กลัวจะเฉาตายคาบ้าน" ป๋าพูดยิ้มๆ
"โอ๊ย รักป๋าที่สุดเลยอ่ะ ฟอดดดดดดด" หอมแก้มด้วยรักที่เติมเต็มไปหนึ่งที
"ไปครับ อย่ามัวแต่คุย เดี๋ยวไม่ถึง" ป๋าแกะแขนผมออกจากคอแล้วจับมือจูงไปขึ้นรถเบนซ์ขาวคันงามทันที

ระหว่างการเดินทาง อยู่ในรถผมก็ร้องเพลงหนึ่งที่ชอบมากให้ป๋าชินฟัง
อยากรู้ล่ะสิว่าผมร้องเพลงอะไร
.
.
.
.
.
วิ่งหารักมาอ่อนใจ
เอื่อยไหลซบทรายกระเซ็น
ชื่นฉ่ำเย็น อยากเป็นน้ำ เซาะทราย
โลกของฉันมีแต่เธอ
เฝ้าฝันละเมอไม่วาย
อยากบอกทราย กับสายน้ำ จำนรรจา
ว่ารัก ฉันสร้างจากทราย
อาจสลาย เพียงในพริบตา
คลื่นรัก ทยอยสาดมา
เซาะอุรา น้ำตา กระเซ็น
แอ่งน้ำนั้นปลาใฝ่ปอง
แต่รักของทรายจะเย็น
ไม่วายเว้น ต้องการน้ำ เซาะทราย
โลกของฉันมีแต่เธอ
เฝ้าฝันละเมอไม่วาย
อยากบอกทราย
กับสายน้ำ ในความจริง
ว่ารัก ฉันสร้างจากทราย
อาจสลาย เพียงในพริบตา
คลื่นรัก ทยอยสาดมา
เซาะอุรา น้ำตากระเซ็น
แอ่งน้ำนั้นปลาใฝ่ปอง
แต่รักของทรายจะเย็น
ไม่วายเว้น ต้องการน้ำ เซาะทราย
โลกของฉันมีแต่เธอ
เฝ้าฝันละเมอไม่วาย
อยากบอกทราย
กับสายน้ำ ในความจริง



น้ำเซาะทราย (จำรัส เศวตาภรณ์)
เพลงนี้เนื้อหาดีมาก ผมชอบแล้วก็เคยร้องได้รางวัลในงานมหาลัยด้วยตอนปีหนึ่ง
ตอนนั้นป๋าก็ออกปากชมตลอดว่า ถ้าความรักของผมกับแกเป็นดังในเพลงนี้คงดีไม่น้อย ซึ่งปัจจุบันก็เหมือนจะยังไม่ใช่นะ คริคริ

"ชอบป่ะ" ฉีกยิ้มกว้างให้แกเมื่อร้องจบ
"มากครับ ร้องไม่มีผิดคีย์ด้วย" ป๋าชินยิ้มหวานชมก่อนจะโน้มมาจูบผมขณะจอดรอไฟเขียว
"บ้า เดี๋ยวชาวบ้านเขาก็เห็นหรอก" จริงๆ ฟิล์มทึบครับ เขินเลยอ้างไปเฉยๆ
"เห็นก็เห็นไปสิ"
"ป๋าไม่อายไงถ้าใครเขารู้ว่าเราเป็นคู่เกย์"
"ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน" ป๋ายักไหล่ไม่ใส่ใจแล้วเหยียบคันเร่ง
"ทั้งๆ ที่เราผิดปกติน่ะเหรอ"
"ถ้าความรักของเราจะทำให้พี่ผิดปกติ พี่ก็ยอมที่จะเป็นแบบนั้น ดีกว่าเป็นคนปกติที่ไม่มีรักครับ" โอ้ว คมกริบ บาดใจ ฮ่าๆ
"พูดดีนะเราอ่ะ" ผมก็ยิ้มๆ
"งั้นคืนนี้พี่ขอรางวัลนะ" นั่นไง โดนกรูทุกที
"ครั้งเดียวไม่มากไม่เกิน ขี้เกียจส่งศูนย์" ใช้งานทุกวันยังจะมีขอรางวัล เดี๋ยวเถอะ
"ไม่แถมเหรอครับ" ทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยเชีย
"ไม่แถม ไม่พอใจก็อดไปเถอะ ดีผมจะได้พักมั่ง"
"ไม่เอาครับ ไม่อด เดี๋ยวแก่ตัวไปไม่ได้เอา"
"ทุกวันนี้ไม่แก่ไง"
"ยังเอาได้ทุกวันครับ"
"ทลึ่ง"
ป๋าชินยิ้มขำแล้วก็ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผมถึงเรื่องนี้อีกจนไปถึงตลาดน้ำอัมพวา

บ่ายแก่ๆ คนไม่เยอะ(สมัยเกือบสิบปีก่อนยังไม่ค่อยบูม) มีแต่แม่ค้าเสียส่วนมาก
ผมซื้อน้ำมาขวดตัวเองดื่มเสร็จก็ส่งไปให้ป๋าชิน จากนั้นเราสองคนก็เดินดูนั่นดูนี่ไปตามประสา
เห็นเสื้อคู่น่ารักผมก็ซื้อ เห็นของฝากน่ารักผมก็ซื้อ เห็นนั่นเห็นนี่ซื้อแหลกเลยทีนี้ ป๋าเองก็ไม่ได้ว่าอะไร
ทำแค่จ่ายตังค์กับถือของเงียบๆ สงสัยเก็บปากไว้บนรถ

"ป๋าเอาของไปเก็บก่อนเปล่า" เห็นป๋าถือของเต็มสองไม้สองมือเหงื่อโชกเต็มตัวแล้วนึกสงสาร
แต่ได้ข่าวว่าของผมทั้งนั้นนะนั่น ตัวเองไม่ถือไรสักอย่างเดินตัวปลิวเป็นคุณนายเลยครับ

"อื้ม" สั้นๆ ผมก็เอามือปาดๆ เหงื่อที่หน้าให้แก ทว่าของก็ยังไม่ช่วยถือเหมือนเดิม
"งั้นก็ป่ะๆ จะได้ไปหาไรกินก่อนไปนั่งเรือดูห้อย"
"อะไรห้อยนะ" ป๋าถามหน้างงกับคำเรียกแปลกๆ ของผม
"หิ่งห้อยไง ขี้เกียจเติมหิ่งอ่ะ เลยห้อยเฉยๆ"
"อ้อ ครับ" ป๋าพยักหน้าเป็นอันว่าจบ
เอาของมาเก็บท้ายรถเสร็จผมกับป๋าก็ไปหาร้านนั่งชิลกัน หิวมากเวลานั้น ร้อนด้วยอยากได้พัดลมสักตัว

"น้องเอจะกินกุ้งเผาหรือนึ่งครับ" ป๋าถามขณะดูเมนูอาหารที่พนักงานเอามาให้
"เผา" ผมตอบไปจิบแปบซี่ไป ฮ้า~ ชื่นใจแท้
"ปูเผาด้วยมั้ย?"
"นึ่ง"
"หมึกล่ะ"
"ย่าง" เอ๊ะ เผากับย่างเหมือนกันป่ะครับ ผมไม่รู้ไม่เคยทำ
"พวกน้ำๆ ล่ะ"
"ต้มยำปลาทูใส"
"แล้ว..." ป๋าเลิกคิ้ว
"ที่เหลือป๋าสั่งละกัน"
"โอเค งั้นเอา..." ร่ายยาวไปอีกสามสี่อย่าง
พนักงานรับไปทำหน้างงไปเนื่องจากผมมากันสองคน แต่สั่งอาหารเหมือนมาเป็นสิบ

"สนุกมั้ยครับ" ป๋าชินยิ้มถามหลังพนักงานเดินจากไป
"ก็ดีนะ"
"อืม" ป๋าชินรับคำไปก็ทำหน้าเศร้าๆ
"เป็นไรอ่ะ"
"เปล่าครับ ไม่มีอะไร" มามุขนี้เป็นตลอด อย่าหาว่าน้องเอคนนี้จะไม่รู้
"วันนี้ผมมีความสุขมาก ได้เที่ยวกับป๋าสองคนเหมือนก่อนหน้าจะคบกันใหม่ๆ ได้ทำอะไรด้วยกันมากกว่าเดิม ทำให้เรื่องแย่ๆ
ที่ผ่านมาปลิวหายไปเลย ขอบคุณนะครับที่ยอมหยุดทำงานแล้วพาเด็กดื้อๆ อย่างผมมาเที่ยวแบบนี้ ผมรักป๋าครับ" เป็นไง พอใจคุณแล้วหรือยัง?

ป๋าชินยิ้มออกทันทีที่ผมอธิบายความรู้สึกทั้งหมดให้ฟัง "พี่ก็ขอบคุณที่น้องเอยังอยู่กับพี่ครับ"

"รักมากขนาดนี้ จะไปไหนได้" ผมเอาเท้าเปล่าเขี่ยๆ ขาป๋าชินแก้เขิน
"อ้อ น้องเอพี่มีอะไรจะบอก"
"ไรอ่ะ"
"พรุ่งนี้พี่คงไม่กลับบ้านนะครับ ต้องเคลียร์งานที่สุมอยู่ให้เสร็จทันลูกค้า อาจจะไม่กลับสองสามวันเลย น้องเออยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย"
"หูย สบาย" ตอบแบบอยากให้คนฟังสบายใจ แต่ทำม้ายทำไมมันทำหน้าเหมือนคนปวดท้องคลอดเลยวะ
"ไม่อยากไปกับพี่เหรอครับ" เอาใจยากชิบ ผู้ชายคนนี้
"ผมไม่อยากไปเกะกะป๋าง่ะ"
"ไม่กลัวพี่คิดถึง?" ตกลงจะลากผมไปให้ได้ใช่ป่ะเนี่ย
"เออ จะได้ไม่เบื่อไง เห็นหน้ากันทุกวัน"
"ต่อให้เห็นทุกลมหายใจก็ไม่เบื่อครับ"
"เอางี้ ป๋าอยากให้ผมไปใช่มะ"
"อยากมากกกกกก" ก็แค่นั้น
"เออ ไปก็ได้ แต่ไม่สัญญานะว่าจะไม่ป่วน"
"อื้อ"

อาหารวางเต็มโต๊ะต่างคนก็ต่างกิน ไอ้ที่กินยากๆ อย่างเช่นปูป๋าชินจะเป็นคนแกให้
บริการดีมากจนอยากหอมแก้มโชว์คนทั้งร้าน ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าประเทศไทยยังไม่ค่อยเปิดกับเรื่องชายรักชายน่ะนะ

"อร่อยมั้ยครับ"
"อื้อ" ตอบไปก็โซ้ยหัวกุ้งแม่น้ำไป มันเยิ้มๆ เป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ
"เอาอีกมั้ย พี่จะได้สั่ง"
"ผมอยากเอากลับบ้านไปฝากแม่กับพ่ออ่ะ"
"งั้นสั่งสักสามโลเนอะ เผื่อพี่ๆ น้องๆ ของน้องเอด้วย"
"อื้อ เอาปูด้วยนะ แม่ชอบ"
"โอเค" ป๋าพยักหน้าตอบก่อนเรียกพนักงานมาสั่งของ
"เอากุ้งแม่น้ำเผาสามกิโลกับปูนึ่งสามกิโลครับ ใส่กล่องนะ แล้วคิดเงินเลย"
พนักงานจดรายการเสร็จก็กลับไป ป๋าหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง

"แวะบ้านพ่อกับแม่ก่อนกลับใช่มั้ยครับ"
"ตามนั้นแหละ" ดูดหัวกุ้งต่อ จ๊วบๆ
"อยากได้อะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า"
"ไม่อ่ะ ไอ้ที่ซื้อไปก็เยอะละ ของฝากพวกไอ้เบียร์ ไอ้หงำกับนังต่ายก็ได้แล้วด้วย"
"เสื้อสกีน กูรักมึงว่ะ นี่ของใคร ใช่ของหงำป่ะ" ป๋าชินถามอย่างรู้ทัน
"อื้อ เอาให้มันใส่ให้ไอ้เบียร์บูดดู"
"ทำใจได้แล้วเหรอรายนั้น"
"ไม่รู้สิ" ยักไหล่ตอบ
ตั้งแต่กลับจากต่างจังหวัดมา หงำมันก็กลับมาพูดมากเหมือนเดิม ทว่าบรรยากาศกลับไม่เหมือนเดิมเลย
พวกเราอยากรู้ว่ามันไปไหน ไปทำอะไรมาบ้างก็ไม่มีใครกล้าถาม นอกจากไอ้เบียร์ซึ่งก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาเช่นกัน
แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอหงำในงานสละโสดของนังต่าย มันก็ยังไม่ยอมบอกอยู่ดีครับ กระตุ้นต่อมอยากรู้กันสุดๆ อ่ะ

"เป็นอะไร ตอบพี่เสร็จก็เงียบเชียว" ป๋าจ่ายตังค์ค่าอาหารแล้วหันมาถามหน้าตาเป็นห่วง
"อิ่ม เอิ๊ก~" เรอใส่แถมให้ด้วยเลยเป็นไงล่ะ ฮ่าๆ
"อื้อ งั้นเอาของไปเก็บที่รถอีกรอบแล้วไปห้อย เอ้ย ไปดูหิ่งห้อยกันครับ"
"จัดไป"


*********************************************


ดูหิ่งห้อยกันกว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาไปเที่ยงคืนกว่า อดให้รางวัลป๋าชินเลย
เพราะต้องแวะเอาของฝากไปให้พ่อกับแม่และเจ้าหนูแดงหลานสุดที่รักด้วย
ฟัดแก้มนิ่มๆ ของหลานไปหลายทีจนเฮียเอฟต้องเอาลูกหนีขึ้นบ้าน แหม ใครใช้ให้มันน่ารักล่ะครับ
เผลอเล่นเพลินจนคนข้างๆ อิจฉาเลย คริคริ~

**************************************************

ตอนพิเศษแถมเล็กๆ เมื่อวานออกไปกินข้าวนอกบ้านกับครอบครัวใหญ่มา
ป๋าไม่อยู่ ไปเยี่ยมแม่ที่เยอรมันหนึ่งอาทิตย์ ส่วนผมต้องเฝ้าโรงพิมพ์คอยตามงานจากแกที่นู้นแล้วส่งให้ลูกน้องอีกที


เสียงริงโทนรอสายจากซัมซุงดังอยู่บนหหัวเตียงในตอนเช้า
ผมควานหาสะเปะสะปะ แล้วกดรับแต่ไม่กรอกเสียง ขี้เกียจอ้าปาก

"น้องเอ ตื่นยังครับ"
"อืม" ครางในลำคอตอบทั้งๆ ตายังหลับ
"ตื่นได้แล้วครับคนเก่ง" จะใช้ให้ทำไร ผมจะกลายเป็นคนเก่งของป๋ามาทันที
"อืม"
"อืมก็ไปอาบน้ำล้างหน้าครับ"
"ต้องเอาโทรศัพท์ไปด้วยมั้ย" ประชดแต่อย่าคิดว่าป๋าชินแกจะรู้สึกรู้สา
"ดีครับ พี่จะได้รู้ว่าเราอาบจริงๆ ไม่ได้แอบหลับต่อ" น่านไง
"เออ" สะบัดเสียงตอบแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจเดินถือโทรศัพท์เข้ามาในห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูหนึ่งผืน
เปิดโฟนเร่งเสียงจากนั้นก็วางบนขอบอ่างล้างหน้า เป็นแบบนี้ทุกเช้าตั้งแต่แกไปต่างประเทศ

"แปรงฟันแล้วนะ" ผมว่า
"ครับ"
"ล้างหน้าแล้วนะ"
"ครับ"
"อาบน้ำแล้วนะ"
"ครับ"
"ถูสบู่แล้วนะ"
"ครับ"
"เสร็จแล้วนะ"
"....."
"อ้าวไม่ตอบอ่ะ"
"ไม่เล่นครับ โตแล้วน้องเอ อาบน้ำเร็วๆ เข้า" รู้ได้ไงว่ากรูเล่น แต่จริงๆ ก็ถูกแหละ
"รู้ได้ไงอ่ะ"
"คบกันมากี่ปีแล้วครับ"
"จะสิบปีละ"
"ก็นั่นล่ะครับ ถ้าไม่รู้คงเป็นคนรักน้องเอต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ"
"โห ให้จริงเหอะ เออ ไม่เล่นก็ได้ จะอาบน้ำละ กิ๊กรออยู่"
"จับได้ว่ามีจริงจะโดนดี" ขู่ตลอดดดด
"ย่ะ ไม่คุยละ จะแปรงฟัน วางได้ก็วางไปเลยนะ" ผมว่าแล้วบีบยาสีฟันทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ ออกมาเช็ดตัวมองมือถือ...
แม่งยังไม่วางอีก ได้ข่าวว่าท่านเป็นเจ้าของโรงพิมพ์นะครับ ไม่ใช่ผู้ผลิตค่าโทรทางไกล กลับมาคราวนี้ยอดคงมิใช่น้อย เห่อๆ

จบความยาวสาวความสั้น


**************************************************

ปล. อยากไปเที่ยวเพชรบูรณ์

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เห็นเขาเที่ยวก็อยากไปบ้าง

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ป๋านี่ก็ขี้น้อยใจเหมือนกันนะเนี่ย

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
เอาใจคนสูงวัยหน่อย วัยนี้ขี้เหงาา  :laugh:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
รักคนแก่

ออฟไลน์ ลิงภูเขา

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-4
ไม่เคยไปอัมพวา .. แต่ชีวิตนี้อยากจะลองไปดูสักครั้ง ((โทษสองคนนี้กระตุ้นต่อมกิเลสเรา))

รักคนเขียน อยากจับคนเขียนมาฟัด .. เขียนได้น่ารักอะไรขนาดนี้

จุ๊บๆ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ป๋าชิน ช่างแสนดีจริงๆ ดีเว่อร์สุดๆ อิจฉาเอจริง ควรทำตัวให้ดีๆด้วยนะ เอ น่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ runrunna29

  • ก็แค่คนบ้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-4
รักบอดๆ ตอนที่ 10 (โอ๊ะ เลขสองหลัก)




หากพูดถึงหน้าที่ของคนเป็นเมียป๋าชินอย่างผมนั้น
นอกจากหน้าที่หลักบนเตียงแล้ว คงไม่พ้นฉุดแกให้ตื่นจากฝันทุกๆ เช้า
เพราะถ้าผมขืนปล่อยให้นาฬิกาปลุกแกอย่างเดียวนะเหรอ เชื่อเถอะ เป็นได้สายทุกที

เช้าวันจันทร์ ล้างหน้าอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยและไม่ลืมตรวจเช็คความหล่อตัวเองในกระจก
ผมก็เดินมาปลุกคุณป๋าให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำบ้าง

"ป๋าชินตื่นครับ จะแปดโมงแล้ว" ไม่มีกระดิก
เสียงถอนหายใจอย่างทุกทีก็ไม่มี สงสัยเพลียจากไปเที่ยวอัมพวาเมื่อวาน ไม่เป็นไรเอาใหม่

"ป๋าชินครับ ตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานสายไม่รู้นะ ตื่นนะครับที่ร๊ากกกกก" ยื่นหน้าลงไปกรอกเสียงหวานๆ ข้างหู
"อือออออ ห้านาที" มามุขนี้ทุกเช้า น้องเอก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ
"ไม่ห้าแล้ว ตื่นได้แล้วน่ะ ไม่งั้นผมไม่ไปทำงานเป็นเพื่อนแล้วนะ"
"อื้ออออ เตรียมเสื้อผ้ายังครับ" ป๋าชินถามเสียงอู้อี้ ทั้งๆ ที่ยังหลับตา
"ป๋าไม่ได้เตรียมไว้ไงเมื่อคืน"
"อืม..." ตอบเท่านี้ก็ดึงผ้านวมไปกอด โคตรจะมึน
"ผมต้องทำใช่มั้ยเนี่ย" บ่นแต่ก็เดินไปหน้าตู้เสื้อผ้า ในเวลานั้นขอให้ได้บ่นเถอะ ไม่งั้นอึดอัดตายชัก
"เมื่อก่อนไม่มีผมเป็นงี้มั้ยเนี่ย ต้องให้ปลุกทุกเช้า ให้บ่นทุกเช้า เดี๋ยวเถอะน่ะ เดี๋ยวจะหนีไปหาผัวใหม่"
ดึงกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาจากหลังตู้ได้ ผมก็เลือกเสื้อผ้าของคนสองคนที่จะเอาไปเปลี่ยนออกมาให้พอดีกับวันที่จะไปค้าง
จากนั้นก็เดินไปยืนเอ๋อหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะของใช้ของป๋าเยอะถึงเยอะที่สุดอ่ะ ก็หยิบๆ ครีมทาผิว โลชั่น น้ำหงน้ำหอม เครื่องประทินโฉม
ทั้งหลายแหล่ที่คิดว่าป๋าต้องใช้แน่ๆ ใส่กระเป๋า ซึ่งแม่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับคนที่ไม่ค่อยใส่ใจหนังหน้าตัวเองเท่าไรอย่างผมมากครับ
เอาไปผิดก็งอนหาว่าไม่ใส่ใจตลอด ลองคิดๆ ตอนนี้แล้วอยากข้ามประเทศไปตบกบาลดีแท้ อุ๊ย! นอกเรื่อง แฮ่ๆ

"ป๋าชินตื่น ผมเก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว" เก็บเสร็จผมก็เดินมาปลุกแกอีกรอบ
อารมณ์ไม่โปร่งเหมือนครั้งแรกที่ปลุกด้วย

"อืออออ" อือแต่ไม่ตื่น ดีจริงๆ แต่ถ้าจะเอาแบบนี้ก็สวยสิครับ

ผมเดินเข้าห้องน้ำแล้วกลับออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่เปียกชุ่ม พอถึงตัวป๋าชินได้ก็จัดการสะบัดใส่แกเต็มแรงเลยครับ น้ำกระจาย
ที่นงที่นอนเปียกเชด ป๋านอนเพลินๆ สะดุ้งพรวดขึ้นมาทันที หน้าเน้อเหรอครับ เหมือนคนบาปที่โดนน้ำมนต์สาดอย่างไรอย่างนั้น

"อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำนะ ผมจะถือกระเป๋าลงไปรอข้างล่าง" ผมแอบกลั้นยิ้มสะใจ
"นิสัยไม่ดีนะคนเรา" ป๋าบ่นตามหลังผมที่เดินยิ้มกว้างลงมาข้างล่าง

ป๋าใช้เวลาจัดการตัวเองประมาณครึ่งชั่วโมงก็ลงตามมา หน้านี้บอกบุญไม่รับเชีย

"อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ" ป๋าว่าพลางเดินไปสวมรองเท้าหน้าประตู
"ทำอะไรเหรอ?" ผมก็แกล้งตีหน้าซื่อถาม รู้แหละว่าเป็นเรื่องวิธีปลุกแก แต่อยากกวนประสาท
"ที่ปลุกพี่เมื่อเช้ารู้มั้ยครับ ว่าพี่ต้องมาเสียเวลาเปลี่ยนผ้าปูแล้วก็เก็บข้าวของทั้งหมดที่เปียกเลยนะ"
นั่นมันความผิดของคุณเองมิใช่หรือ?

"ปลุกดีๆ ไม่ตื่นเองนี่" ผมลอยหน้าลอยตาไม่ระคายเคืองหน้าตาโกรธๆ ของแกสักนิด
"ถ้ามันลำบากนักก็ไม่ต้องปลุกครับ" หน้าหงิก เสียงงี้เข๊มเข้ม
"เออ ก็ได้ ไม่ปลุกก็ได้ เชอะ" เดินสะบัดก้นออกมาที่รถ
เบื่อจริ๊ง~! ไอ้คำพูดตัดพ้ออย่างไม่มีเหตุผลของแกเนี่ย

หลังจากต่อล้อต่อเถียงกันพอหอมปากหอมคอ
การเดินทางอันแสนเงียบก็ได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมๆ กับบรรยากาศมึนตึงใส่กันของพวกผมสองคน
เกือบถึงจุดหมายปลายทาง ในที่สุดป๋าชินก็ต้องเป็นคนทำลายความเงียบง้อผมขึ้นมาซะเอง

"น้องเอจะกินข้าวเช้ามั้ยครับ"
ผมหันจากกระจกข้างมามองแกแวบหนึ่งแล้วหันกลับทางเดิมก่อนตอบ "ไม่"

"อย่าประชดครับ เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ" เคยกลัวที่ไหน
"เปล่าประชด แต่มันไม่หิว" ที่จริงหิวมาก ทว่าทิฐิมันค้ำคอ
"งั้นกินโจ๊กมั้ยครับ เบาๆ" ป๋าชินเสนอ
"กินไม่ลง"
"น้องเอดีๆ ครับ ไม่ทำเป็นเล่น" เออ กรูเล่นตรงไหนครับ?
"......" งั้นไม่ตอบดีกว่า
"น้องเอ!" ป๋าชินขึ้นเสียง
พอหันไปมองก็เห็นว่าแกกำลังทำตาเขียวใส่ผมอยู่

"ขับรถก็มองถนนสิป๋า มองผมทำไม เดี๋ยวก็ได้ไปชนใครเขาเข้าหรอก"
"ถ้าไม่เห็นว่าขับรถอยู่จะตีด้วยครับ ไม่ใช่มองอย่างเดียวแน่" หูยยย น่ากลัวอ่ะ
"โห ผมแค่ปลุกป๋าด้วยวิธีแปลกๆ แบบเปียกๆ แค่นี้ถึงกับจะตีกันเลยเหรอ"
"ไม่ใช่ตีเรื่องปลุก แต่จะตีเรื่องดื้อครับ ตกลงจะกินโจ๊กมั้ย ตอบมาให้ดีนะคราวนี้" ขู่อีก ชิส์
"เออ กินก็ได้ ใส่ใข่ ไม่กระเทียม ขิงเยอะๆ สองเลย" ผมสั่งก่อนเลยครับ เพราะรู้ว่าป๋าจะไปซื้อร้านไหน
เป็นร้านรถเข็นของสองผัวเมียแก่ๆ ที่เปิดขายอยู่แถวโรงพิมพ์ป๋าน่ะครับ เปิดขายตอนตีห้าถึงสิบโมง
ไม่มีโต๊ะนั่งคอยบริการ คนซื้อจึงต้องสั่งใส่ถุงเอากลับไปกินเอง รสชาติอร่อยสมราคาเขาแหละ (น่าจะสิบบาทใส่ไข่สิบห้ามั้ง)

"เอาปาท่องโก๋มั้ย?" ป๋าถามอีก
"เอา"
"อืม" พยักหน้าแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกจนถึงตึกสี่ชั้นสามคูหาที่สร้างติดถนนหลักอันเป็นโรงพิมพ์ของป๋าชินนั่นเอง

ถ้าให้อธิบายระเอียดผมว่าคงยาก เอาเป็นว่า
ชั้นล่างเลย พื้นที่ส่วนหนึ่งหรือก็คือหนึ่งตึกใช้เป็นออฟฟิคต้อนรับลูกค้าและห้องทำงานของพวกฝ่ายศิลป์
อีกสองตึกที่เหลือเป็นพื้นที่สำหรับเครื่องจักรในการพิมพ์หนังสือต่างๆ

ชั้นสองใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัวกับห้องพักของป๋าชิน
ชั้นสามใช้เก็บหนังสือและสิ่งพิมพ์อื่นๆ แน่นอนว่าเหลือแค่ทางเดินให้ขึ้นบันไดได้เท่านั้น
ส่วนชั้นสุดท้ายเป็นห้องพักสำหรับพนักงาน(ที่มีกันทั้งหมดเก้าชีวิต)จำนวนหกห้องครับ

"น้องเอเข้าไปรอพี่ในห้องทำงานก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่ซื้อโจ๊กเสร็จจะเดินตามเข้าไป" ป๋าชินบอกขณะจอดรถ
"โอเค" ผมตอบแล้วเปิดประตูรถเดินเข้ามาในตึกตามนั้น
"อ้าว น้องเอมาได้ไงครับเนี่ย" พี่โต้ที่อยู่ฝ่ายคุมเครื่องจักรและตรวจเช็คสภาพเงยหน้าจากงานที่ทำ
"นั่งรถมาครับ" เกรียนเป็นนิสัยครับ คนไม่สนิทผมก็สามารถเกรียนได้ถ้าอยาก คริคริ
"ไม่เคยตอบดีๆ สักครั้งเลยนะครับ" พี่โต้พูดยิ้มๆ
"รู้ทั้งรู้ก็ยังจะถาม" ผมก็พูดลอยๆ เดินผ่านพี่แกมาขึ้นบันได
"แล้วคุณชินอ่ะ น้องเอ"
"ซื้อโจ๊กอยู่ฝั่งตรงข้าม" ผมตอบ
"อ้อ"
"งั้นผมไปนะ" ผมไม่ยอมอยู่ให้พี่โต้พูดถามอะไรได้อีกหรอกครับ
เดินขึ้นชั้นสองเข้ามาเปิดแอร์แล้วนั่งเอื่อยอยู่บนชุดโซฟาหนังสีดำในห้องทำงานป๋าชินที่แสนจะธรรมดาสุดๆ
ไม่นานเจ้าของห้องก็ตามเข้ามาพร้อมโจ๊กสองชามในมือกับถุงปาท่องโก๋ กลิ่นงี้หอมยั่วน้ำลายดีชะมัด

"รอนานมั้ยครับ"
"นิดนึง แล้วน้ำอ่ะ?"
"เดี๋ยวลูกเกตยกตามมาให้ครับ"
"หัวหน้าฝ่ายศิลป์" ผมเลิกคิ้ว รายนี้ก็ช่างเลือกใช้ลูกน้องจริงๆ
"เห็นลูกเกตกำลังชงกาแฟ พี่เลยวานให้ช่วยอ่ะ" ป๋าชินวางโจ๊กบนโต๊ะกระจกตรงหน้าผมจากนั้นก็นั่งลงข้างๆ
จัดการฉีกปาท่องโก๋ใส่ชามโจ๊กผมให้เสร็จสรรพ
 
"ก็ไม่ได้ว่าอะไร" ผมหยิบช้อนตักโจ๊กมาเป่าๆ ป๋ามันมองยิ้มๆ แล้วอ้าปากเฉย
"ป้อนหน่อย" เรียกร้องความสนใจชิมิ
"เป็นง่อย" ผมถามแล้วเอาเข้าปากตัวเองเลยครับ ไม่ป้อน ฮ่าๆ
"นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ได้ เช๊อะ~" ทำเสียงค้อนกันเล็กๆ ป๋าก็หน้าบูดตักโจ๊กกินเอง
"ปัญญาอ่อน"
"แค่อยากอ้อนเมีย เขาเรียกปัญญาอ่อนเหรอครับ" ป๋าหันมาทำสายตาตัดพ้อ
"ไอ้ที่สะบัดบ็อบใส่ผมทั้งที่โตกว่านั่นแหละ ปัญญาอ่อน ดูบ้างนี่ที่ไหน สมควรทำหรือเปล่า วู้!"
"ไม่แก่บ้างให้รู้ไปเถอะ"
"ยังไงก็ตามป๋าไม่ทันอยู่ดี" ผมหยักไหล่ไม่ใส่ใจและไม่สนความรู้สึกของอีกฝ่าย
"ใช่สิ พี่มันแก่~~~" เสียงยาวเหยียด โจ๊กไม่ต้องพูดถึง
ป๋าชินกินไม่กี่คำก็ลุกขึ้นไปนั่งทำงานที่โต๊ะ หน้าไม่ยิ้ม ตาไม่มอง เลิกสนใจผมไปเลยเวลานั้น

ก็อกๆๆๆ

"เข้ามาครับ" ป๋าเอ่ยอนุญาต แล้วพี่ลูกเกตซึ่งเป็นสาวสวยในร่างคนงานก่อสร้าง(แต่งตัวอย่างเถื่อน)
ก็ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับโถน้ำเปล่าและแก้วสองใบ มีคุ๊กกี้แถมมาในจานเล็กๆ ด้วย

"สวัสดีค่ะพี่ชิน สวัสดีจ้ะน้องเอ ไม่เจอพักเดียวหล่อขึ้นอีกแล้วนะ" พี่ลูกเกตยิ้มทัก
"ขอบคุณครับ พี่ลูกเกตก็ยัง...เอ่อ สวยแบบอาร์ทๆ เหมือนเดิม" หน้าไม่สวยกรูจะไม่คิดว่าเป็นผู้หญิงเลยเหอะ
"เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด แต่งสวยไปก็ไม่ได้ทำให้งานออกมาดี" พี่ลูกเกตเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไร เธอจึงพูดยิ้มๆ
"เอ่อครับ" รินน้ำดื่ม
"อ้อ พี่ชินคะ" พี่ลูกเกตหันไปหาป๋า
"ครับ" ป๋าเงยหน้าจากแฟ้มงาน
"หนังสือของ...ทางฝ่ายนั้นเขาบอกให้เร่งให้หน่อยได้มั้ยคะ"
"สัญญาเก่าล่ะ?"
"สัญญาเก่าทางเราตกลงว่าจะได้วันที่หนึ่งพฤศจิกายนนี้ แต่ทางเขาบอกขอเป็นสามสิบเดือนนี้ค่ะ"
"อืม บอกเขาไปว่าเราจะทำตามสัญญาเดิมไม่เปลี่ยน งานของเจ้าอื่นก็เร่งเหมือนกัน
ถ้าเลื่อนให้เขางานอื่นที่วางไว้ก็จะรวนไปด้วย พี่ไม่อยากเสียเวลากับงานเล็กๆ แค่งานเดียว"

"ค่ะ งั้นเกตขอตัวไปทำงานเลยนะคะ"
"เชิญครับ" แล้วพี่ลูกเกตก็ออกไป
"ป๋าผมไปข้างนอกนะ" บอกโดยไม่รอให้อนุญาตผมก็รีบชิ่งออกมาอย่างไว
เดินด่อมๆ มองๆ ผ่านกระจกเข้าไปในออฟฟิศพวกฝ่ายศิลป์อยู่ดีๆ ไอ้พี่โต้มันก็เข้ามาทักเล่นเอาซะผมตกใจพ่นคำหยาบออกไป

"พะ...พ่อมึงตาย!"
"เฮ้ย ถึงตายเลยเหรอ" พี่โต้ตกใจไม่แพ้กัน
"โทษทีพี่ ผมเผลออ่ะ ตกใจด้วย อย่าโกรธนะครับ"
ยกมือไหว้คนโตเป็นการใหญ่ ไม่รู้อายุเท่าไร แต่ไม่น่าจะแก่เท่าป๋าชิน

ในสายตาผม พี่โต้จัดว่าหน้าตาดีพอสมควร หุ่นเหมือนช่างเครื่องช่างยนต์ทั่วไปไม่โดดเด่นมาก
ทว่าการพูดการจาดีกว่าพี่อีกคนที่ทำงานช่างเหมือนกันเยอะ แถมยังไม่เคยแอบทำหน้าดูถูกผมที่โดนป๋า
ลากให้มาเที่ยวเล่นที่โรงพิมพ์นี่บ่อยๆ อย่างคนนั้นด้วยอ่ะ

"อืม ไม่เป็นไร ว่าแต่น้องเอมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ?"
"ส่องสาว" ว่าแล้วก็เกรียนต่ออีกสักที อิอิ
"สาวเถื่อน? หรือสาวประเภทสอง?" พี่โต้มองผ่านกระจกใสเข้าไปในออฟฟิค
มีหนึ่งหญิง(พี่ลูกเกต) หนึ่งชาย(พี่ปาน) หนึ่งกระเทยถึก(พี่เขียว) กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเอง

"เย้ย~! ลืมตัว"
นี่ล่ะครับ บทลงโทษของคนเกรียนไม่ดูสถานที่ หน้าผมงี้ถอดสีไปถนัดจิต พี่โต้เห็นผมเหวอๆ ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
เหล่าผู้ชายอีกห้าชีวิตที่อยู่กับเครื่องจักรเงยจากหน้าที่ของแต่ละคนขึ้นมามองกันเป็นตาเดียว โคตรอยากต่อยปากไอ้พี่โต้อ่ะ

"หัวเราะดังไปนะ" ผมค่อนแคะ หน้ามุ้ย
"สะใจดี" พี่โต้หยุดหัวเราะแล้วปรับเป็นยิ้มกริ่ม กวนตีน
"คุยกับพี่แล้วผมปวดขมับว่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว"
"เดี๋ยวครับ" ไอ้พี่โต้คว้าแขนรั้งตัวผมไว้
"มีไร"
"น้องเอมีแฟนยังครับ" ใช่เรื่องที่คนไม่สนิทกันควรถามมั้ย
"ทำไม"
"ก็...ถ้ายังไม่มี พี่จะได้จีบไง" หน้าเป็นมาก
สาบานได้ว่าตอนนั้นผมคิดว่าไอ้พี่โต้มันล้อเล่น ที่ไหนได้แม่งคิดจริงครับ
ป๋าชินรู้เข้าเกือบถึงขั้นไล่ออกกันทีเดียว(สปอยอีกและ เบื่อเนอะ)

"ประสาทเหรอ ผมผู้ชาย"
"พี่ก็ผู้ชาย" ก็เออเสะ
"อย่ามาตลกเหอะ ปล่อยผมจะขึ้นข้างบน"
"ถ้าน้องเอไม่มีแฟน พี่จะจีบจริงๆ นะ ถึงเป็นผู้ชายก็จะจีบ" ชิชะ คิดจะเล่นของสูง
"ฝันไปเถอะพี่ชาย ผมมีแฟนแล้ว รักกันมากด้วย"
"มีแล้วก็เลิกได้ พี่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย แค่จะจีบเท่านั้นเอง" โห แถซะสีข้างถลอก
"ผมน้องป๋าชินนะ" สะบัดมือที่ถูกจับมาชี้หน้าตัวเอง
"น้องไม่ใช่แฟน"
"ถ้าบอกแฟนล่ะจะเชื่อมั้ย" เอาวะ ไม่อยากมีปัญหา
"ตลกละ พี่ไม่เชื่อหรอก" ไอ้ปลวกเอ๊ย ขอยืมคำของนังต่ายมาด่าหน่อยเถอะ ตื๊อชิบหาย
"ไม่เชื่อก็ช่างพี่แล้วกัน ถ้าอยากมีปัญหากับหน้าที่การงานมากจะจีบผมก็ชิญ"
บอกปัดๆ แล้วเดินอารมณ์เสียกลับขึ้นมาในห้องทำงานป๋าชิน

"ไปไหนมาครับ" ถามทันทีที่ก้าวเท้าแรกเข้ามาในห้อง
ประตูยังไม่ทันปิด หน้าตาคนถามก็ดูไม่ค่อยพอใจอีกต่างหาก หนีเสือประจรเข้ชัดๆ ไอ้น้องเอ

"ไปเดินเล่นไง ตอนออกไปก็บอกไว้นี่"
"ใครอนุญาตครับ"
"ไม่มีใครอนุญาต แต่อยากไปมีอะไรมะ ยุ่งจริง" ยกขาเหยียดยาวไปบนโซฟาในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน
"ใช่สิ พี่มันยุ่งตลอดนั่นล่ะ"
"รู้ตัวด้วย เก่งแล้วนะเดี๋ยวนี้" แหย่ไปตามประสา
"หึ" ทำเสียงแค่นี้แล้วตามด้วยเสียงคลิกเมาท์รัวๆ
ผมก็ปล่อยไปนะ อยากทำไรทำไปโล้ด เพราะปวดหัวจริงๆ


************************************


ยังมีต่อนะจ๊ะ
ตอนหน้าไอ้พี่โต้มันยังกวนได้อีกครับ
ไว้มาติดตามกันครับว่าเหตุการณ์ไอ้พี่โต้มันจะไปเข้าหูป๋าอย่างไร
วันนี้ขอโกทูสลิปก่อน พรุ่งนี้เย็นค่อยว่ากันอีกทีครับ ฝันดี จุ๊บุๆ


********************************


ปล. ไข้ขึ้น แง่ง~ :sad4:
ปล2. คุณลิงภูเขา ถึงขนาดอยากฟัดกันเลยเหรอคะ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-02-2014 06:54:37 โดย runrunna29 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด