My Dangerous Fire
รัก ร้อน เรา
ตอน 6 แต้มต่อ
geng’s
7.00 น. โรงยิม สนามกีฬาบาสเกตบอลในร่มของโรงเรียน
“เอาล่ะ เช้านี้พอแค่นี้ พวกไม่ไหวรู้ตัวก็ให้ฟิตหน่อย โดยเฉพาะ ม.5 พี่ใหญ่ตัวจริงกันแล้ว ครูฝากความหวังไว้กับพวกเราทุกคนอย่าลืม ยืดเส้นยืดสายแล้วแยกย้ายได้” โค้ชออกคำสั่งพร้อมบอกเตือน
กระทบเล็กๆ ก่อนออกจากโรงยิมไป
“เก้ง ไหวมั้ยวะ” เอกอยู่ใกล้
“เออ!” ผมเข่าอ่อนแต่ปากแข็ง ตื่นเช้าเกินซ้ำเจอซ้อมหฤโหด
“เอก ช่วยกูด้วย กูจะตายแหล่ะเพื่อนรัก” โจโจ้ขาลาก ลงคลานพื้นขอความเห็นใจ
เอกจิ๊จ๊ะเท้าสะเอวไม่รู้จะเลือกใครดีระหว่างผมกับเพื่อนอวบโจโจ้
“มานี่” ไม่ทันรู้ตัว ถูกช้อนปีกขึ้นให้หันหลังพิงร่างสูงแล้วยกเท้าลอย
ท่าสะพานโค้งดัดหลังกลางอากาศ
“อ๊าาาาาาาาาา!” ผมเสียงหลงสภาพปางตาย ยักษ์บังอาจแทงข้างหลังกู
ไอ้ชั่วช้าเลวทรามเชรี่ยเฟรม มึงจะบ้าพลังไปไหน!!!
“ไอ้เก้งโดนล่ะ กูถอยดีกว่า ไม่อยากเป็นรายต่อไป” เอกซอยเท้าไปอยู่ข้างโจโจ้
“ตายๆๆ โดนแบบนี้ได้ตายแน่ อย่าเข้ามาหากูเฟรม ไม่เอาเด็ดขาด” โจโจ้ส่ายหน้ารัว โบกสองมือไม่เอาด้วย
“...อ๋อย” ผมแทบทรุดแต่โล่งสบาย กล้ามเนื้อคลายตัวในทันที
“รอก่อน อย่าเพิ่งอาบน้ำ เอ้านี่” มือใหญ่ยึดแขน ยื่นขวดน้ำดื่มเกลือแร่สีม่วงให้
“เหอะ!” ผมสะบัดไม่รับ
“กิน!” เปิดเกลียวฝายื่นขวดใส่อุ้งมือ กุมทับไว้ไม่ปล่อย
ถ้าเป็นเมื่อก่อนดังที่ผ่านมาผมไม่รีรอ แต่เวลานี้...
“มีอีกเปล่าวะเฟรม ขอซักอึกซิวะ” โจโจ้แทรกแซงขณะกำลังเล่นแง่
“ตลกรับประทานตลอดล่ะมึง” เอกยังเท้าสะเอวท่าเดิมไม่ช่วยโจโจ้ที่ยังนั่งพับเพียบอยู่กับพื้น
“จิบซะก่อน”
“...” แม่ม! จ้องตาหวาน จับมือกุมเป็นรักเราไม่เก่าเลยแบบนี้
กูควรจะดันทุรังเล่นตัวอยู่ไหม
อึกๆ ยกกรอกปากตัวเองดับอาการแดงร้อนที่หน้า
“หึหึ” ดูมันหัวเราะ เหี้ยมจริงพี่ได้ดั่งใจแล้วก็ไป
ไอ้ชาติชั่ว! อยากตะโกนใส่แผ่นหลังสูงโย่งนั่น
“เอาไป” ผมยื่นต่อให้เอก เพื่อนหน้าตาดีหัวเราะก่อนยกกรอกปาก อักๆ ไม่เหลือถึงโจโจ้
“โอ้เย่!“ เอก
“เชรี่ยเอกแม่มเลวว่ะ เพื่อนจะตายยังไม่เห็นใจ จำไว้” ได้ยินเสียงโจโจ้ด่าขรมไล่หลัง
ขณะผมเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพักนักกีฬา
--------------
(((ซ่า!))) เพลิดเพลินเจริญใจ เปิดฝักบัวน้ำใสไหลเย็นชื่นใจ
“มีแชมพูมั้ย?”
“ห๊ะ! ไอ้ๆๆๆ อ้าย-เชรี่ย-เฟรม!” ตาเหลือกซิ
แขนแมนพาดข้ามผนังกั้นระหว่างห้องอาบน้ำมาหา
ห้องมันไม่น่ามีเก้าอี้เลยให้ตาย รีบปิดโป้เก้งน้อยของสงวน
“อะไร เล็กขนาดนั้นมีอะไรให้ดู เร็ว! แชมพู” ยื่นแขนลงมาใกล้เกือบจะแตะถึงแก้มผม
ผนังบ้าสูงแค่ 170-180 เซนติเมตร ทำไมไม่ทำสูงชนเพดานวะ
กูอุตส่าห์เลือกห้องชิดริมกำแพงแล้วแท้ๆ
“ไปตายซะไป!” อะไรอยู่ใกล้ผมขว้างใส่สุดแรงเกิด โดนกอลิร่ากล้ามล่ำซะ
“โอ๊ยยยยยยยยยยยย!” โหยหวนสะใจ นั่นเหตุการณ์เมื่อเช้าหมาดๆ
-------------
---------------
14.35 น. ครึ่งทางคาบบ่าย
ระเบียงทางเดินชั้นล่างอาคารชีววิทยา ม.5/1 ห้องประจำ
“ไนเตรสสูง 3 แดดอย่างเดียวแค่ 2 ส่วนอันนี้รวมกัน โตเร็วแฮะ เกือบ 6 เซ็นเลยว่ามั้ย” ลม
ไล่ลำดับการเจริญเติบโตของสาหร่ายจากทิวป์ทดลอง
“เออ” ผมงั้นๆ เท้าคางนั่งยอง หนังตาจะปิดรอมร่อ
“เหลือดูพรุ่งนี้อีกวัน โอเคเสร็จล่ะ” ลมมือซ้ายจดบันทึกลงสมุดยิก นิ้วยาวผิวขาวละเอียดที่ผมเกลียด
ทำไมต้องมาอยู่ที่นี่
ทำไมต้องกลุ่มเดียวกับมัน
ทำไมต้องกับที่กูเกลียด
ทำไมวะ
อดนิ่วหน้าไม่ได้ มองเข้าไปในห้อง
โจโจ้กับไอ้ตัวชั่วร้ายกอดอกหลับหน้าหงายไหลไปกับเก้าอี้
ใช่ครับ พวกมันนอนกลางวันในคาบท้ายๆ ก่อนเลิกเรียน ณ เวลาบ่ายเกือบ 3
หนังท้องตึงหนังตาหย่อน พัดลมเย็นเป่าเรื่อยเฉื่อย
พวกเวรเข้าเฝ้าพระอินทร์ปล่อยกูลำบากลำบนทนทุกข์ทรมาน
ชักสงสัย มันเป็นพระเอกเรื่องนี้แน่หรือไร
นิยายไหนๆ โดยเฉพาะของพี่กวางก็บอก
พระเอกต้องหล่อเทพเนี้ยบสะอาดมาดแมน ขยันเข้าหาทุกวินาทีตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่กินไม่นอน ไม่โทรม ไม่ซกมกให้เห็น
ซีนวิกฤตอันตรายต้องพุ่งเข้ารับร่างนายเอกเซฟไว้ทันท่วงที
ไม่มีหลับเป็นตายทิ้งกูเผชิญโลกตามลำพังแบบนี้หรอก
(T^T) รันทดว๊อย!
เพื่อนในห้องกว่าครึ่งหายไปเกือบหมดด้วยอาจารย์ปล่อยสังเกตดูการทดลองเอง
หลายคนเข้าชมรมหรือที่ไหนๆ ฟรีสไตล์ เก็ททราย เต๋าที่เดิมงานสารวัตร
ประธานนักเรียนหิ้วเด็กบีไปด้วยไม่ขาด เหลือไม่ถึง 20 คน
เห็นเอกคุยเล่นกับเจนี่และกลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่ซิงค์กำลังหันหลังเก็บล้างอุปกรณ์
เกือบทุกกลุ่มเสร็จสิ้นภาระกิจ มีบ้าง 2-3 กรุ๊ปเช่นพวกผมที่ทำพลาด
เผลอทำหลอดแตกต้องรีเซ็ตแลปใหม่
ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้ยีราฟชั่วนั่นเองล่ะครับ (T-T) เศร้า
“จะไปเข้าห้องน้ำ” ผมอยากมีเวลาส่วนตัว
“อืม” ลมง่วนจดบันทึกมากกว่าจะใส่ใจผม
เลี่ยงจะไปห้องน้ำอีกฝั่งด้านท้ายอาคารใกล้อาคารศิลป์
เดินห่างออกมาค่อยหายใจโล่งได้หน่อย
เหลือพรุ่งนี้อีกวันเอาน่า ปลอบใจตัวเอง
หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันหันเหความสนใจ...
“ไม่เอา! ไม่อยากคุยกับพี่ตอนนี้”
“อย่าดื้อซิ!”
“ไม่! ไม่อยากฟัง จะไปไหนก็ไป”
ไดอะล็อกละครหลังข่าวคุ้นๆ เสียงก็คุ้นมากด้วย ผมหยุดเท้าหันตามต้นสาย
พี่มอสกับต้นจั๋งยืนประจันหน้าอยู่มุมตึกศึลป์ อาคารกระจกใสบดบังสายตาด้วยต้นไม้ใหญ่
ตรงข้ามสระน้ำเล็กๆ กั้นกลาง มองลอดออกไปตรงนั้น
ตำแหน่งเดียวกับลมและไอ้เลวเฟรมคุยกันเมื่อวันก่อน
“ก็พี่บอกแล้วไงว่าเล่นตามน้ำไปงั้นเอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ”
“...” เนิร์ดเล็กเม้มปากเบี่ยงหนีไม่ให้จับตัว ผมหลบวูบบังเสา
“ต้นจั๋ง...” พี่มอสเข้าใกล้
“โอเค ต้นจั๋งเชื่อพี่ แต่พอซะทีเถอะ”
“นั่นน่ะ...” พี่มอสอึกอัก
ผมยืนอยู่ไม่ไกลก็จริงแต่หันเรดาร์เสือกสุดฤทธิ์
“ต้นจั๋งไม่ได้ขอให้พี่เปลี่ยนแปลงอะไร ชอบที่พี่เป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่ไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“ต้นจั๋ง...พี่สัญญาว่าจะเลิก ขอเวลาพี่เคลียร์แป้บเดียว”
“ไม่ต้องหรอกครับ ถ้าพี่เลิก ต้นจั๋งคงรู้สึกแย่จนวันตาย ต้นจั๋งเองที่ไม่ดี ไม่มีความอดทนพอ ปล่อยต้นจั๋งไปเถอะนะ”
“ไม่นะ! ต้นจั๋ง”
ไม่คิดว่าจะได้ยินน้ำเสียงพระเอกอกหักเช่นนั้นจากปากพี่มอส
นั่นพี่คนเก่งของพวกเราชาวตีนผียามราตรีเชียวนะ
“...เราเลิกกันเถอะ”
เสียงต้นจั๋งเบามากแต่ดังก้องในหัวผม
---------------
-------------------
ที่เดิม...ย้อนกลับมาแบบมึนๆ ไม่รู้ตัว
“เก้งเป็นอะไรหน้าซีดๆ ยังไม่หายเหรอ” ลมกับชั้นวางเก็บแลป
“เปล่า ไม่มีอะไร” ทำไมต้องมายุ่ง ผมก้มหน้างุดจะหนีเข้าห้อง
“แน่ใจนะ ไม่ใช่จะเป็นลมอีกหรือเปล่า”
“...” บังอาจขวางทาง แล้วฝั่งนี้ดันไม่มีใครโผล่หัวมาช่วยกูเลยว้อย!
“ไปเอายาห้องพยาบาลเพิ่มมั้ย ปลุกพวกโจโจ้กับเอกเถอะ เขียนเสร็จล่ะ พรุ่งนี้เก็บอีกวัน ไว้เราให้เอกเอาไปพิมพ์ต่อเอง เก้งไม่ต้องมาดูก็ได้”
“ไม่ต้องมายุ่ง!/---เพี๊ยะ!” ผมปัดมือขาวที่ยื่นสมุดให้อย่างแรง
ความริษยาชิงชังบวกความหวิวหวั่นจากเหตุการณ์เมื่อครูปั่นอารมณ์ไม่เสถียร
จะยุ่งทำไม
จะเอาอะไรกับกูนักหนา
จะทำดีเอาหน้าไปไหนกัน
รู้ความลับผมแล้วคงอยากให้เห็นกันหมดทั้งโรงเรียนอย่างนั้นซิ
(((‘ปัง!/โป๊ะ!/เปรี้ยง!’)))
ไม่คาดฝัน สมุดลอยไปโดนกล่องสแตนเลสล้ม
ทิวป์ไหลจากฐานร่วงลงกระทบพื้นข้างล่างแตกเปรี้ยง
สาหร่ายหล่นเผละ น้ำนองแผ่กระจาย
ฉิบหาย!!! บรรลัยแล้วลูกกู (>0<)
“...เวรล่ะ” ลมเบามากอ้าปากค้าง
“...ซวยแล้ว” ผมพึมพำตะลึง สภาพบื้อใบ้อึ้งแดกพอกัน
“เก้ง! เป็นงี้ได้ไงวะ” ลมฉุนของขึ้น เป็นครั้งแรกที่ยินเสียงดังมากขนาดนี้
“ก็...” ผมตกใจ
“...” ลมเงียบคิ้วยุ่ง
“โอ๊ะ! โอ๊ย” สำนึกได้ว่าความผิดตัวเองเต็มเปา
ทรุดลงเก็บเศษซาก ลนลานกู้วิกฤต
ไม่ทันระวังเศษแก้วบาดนิ้วเลือดแดงซึมให้เห็น
“เสียงไร เกิดอะไรขึ้น!?” ไอ้คนนอนน้ำลายไหลผลุนผลันออกมา
“แว้ก! สาหร่ายใคร อย่าบอกนะว่าของกลุ่มเรา” โจโจ้ตามมาอีกคนโหวกเหวกขี้ตาแหกทันที
“อ้าวเฮ้ย!” ตัวสูงที่ผมต้องการอย่างมากเพิ่งโผล่ มึงมัวแต่หลับน้ำลายไหลยืด ไอ้สัดเฟรม!
“เก้ง เป็นอะไรเลือดไหล?” เพิ่งโผมาหา
“เจ็บ!”
“ดีๆ ไหนมาดู”
“หมดกัน พังเละเทะ เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย” โจโจ้ตีโพยตีพายไม่เลิก
“มึงทำอะไรเก้ง!?” เฟรมผละไปผลักอกลม
“กูไม่ได้ทำอะไร”
“แล้วนี่อะไร!” เฟรมเดือดจะเอาเรื่อง
“กูบอกไม่ก็ไม่ซิวะ ถามคนของมึงเองซิ!” ลมเสียงดังกลับ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินขึ้นมึงกู
“เก้ง?” เฟรมหันมาหาผม
“มือ...ปัดไปโดน...” ผมจ๋อยเหวี่ยงสาธิต
เลือดเปื้อนน้ำไหลซึมฝ่ามือย้อยลงเกือบถึงศอก เห็นลมถอยหลบวูบไปไกลมาก มือกุมปากหน้าซีดจะอ้วก
“บ้าเอ๊ย!” ร่างสูงจับแขนผม พยายามซับเลือดกับเสื้อนักเรียนตัวเอง
“เอาไงดีล่ะทีนี้” โจโจ้มืดมนพอกัน
“...” ลมหน้าซีดขาวหนัก ก้มหน้ากำหมัดซุกกระเป๋ากางเกงแน่นทั้งสองมือ
ผมรู้ว่าทุกคนเครียด บรรยากาศมาคุเกินทน
“...อึ่ก!” เบ้าตาร้อน ใจจุกอกจนเจ็บจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“ไม่เป็นไรดื้อ แค่ทำใหม่...ชู่ว์” เสียงทุ้มนุ่มปลอบโยน
ไม่ทันห้ามเรียกสรรพนามยามอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ‘ดื้อ’ ‘ตัวดื้อ’
เพียงเท่านี้ กำแพงเพียรสร้างพลันทลาย
มันรู้...ศีรษะถูกกดเข้าอก บดบังทุกอย่างออกจากนัยน์ตา
ซ่อนร่างผมไว้ในยามต้องการอย่างที่สุด
------------
และแล้วเทวดามาโปรด...
“โฮ่ง! หงิงๆๆๆ”
“จ้อน! หมาดีมานี่เร็ว มาหาพ่อ มานี่ๆ เร็วๆๆ” ลมเปลี่ยนเสียงอ้อล้อตบมือเรียก
สุนัขไทยพันทางที่กวดวิ่งเร็วจี๋หางแกว่งเร็วรี่เข้ามาหา ท่าทางดีใจสุดๆ
“เอามาทำไม เก้งมันกลัว เอาหมาออกไป” โจโจ้เห็นก่อน
“อือ! หมา” ผมเผลอกำเสื้ออีกคนแน่นหนึบ กระโดดขึ้นเก้าอี้เดี่ยวแถวนั้น กอดคอยีราฟหมับหลบสุนัข
“...ไม่เป็นไร กูอยู่นี่” นุ่มเบาข้างหู ไม่รวมริมฝีปากแตะขมับ
ผมกลัวสุนัข เล็กใหญ่ขยาดหมด จำฝังใจเคยโดนไล่งับตั้งแต่เด็กเล็ก
“จ้อนขึ้นนี่ก่อน ใช่แล้วลูกพ่อ เฟรม! มือถือมึงถ่ายรูปเร็ว”
“ถ่ายทำไมวะ“ เฟรม
“อ้าว! เชรี่ยล่ะ” โจโจ้อุทานแต่เริ่มเข้าใจ
สตูดิโอจำเป็นโดยสี่คนและหนึ่งตัวผู้ร่วมกระทำการ
ลมคว้าสองขาหน้าไอ้จ้อนขึ้นเกาะชั้นวาง หมาเอี้ยวมาเลียปากทำหน้างงๆ
ส่งสายตาบ้องแบ๊วหางแกว่งร่าเริงไม่หยุด
ไอ้จ้อน สิ่งมีชีวิตอินโนเซนต์ไม่รู้เรื่องเลยว่าถูกป้ายความผิด
โปรดิวเซอร์หลักไอ้ลมคนให้ข้าวให้น้ำแก่สหายจ้อนเป็นคนจัดแจงท่าทางให้ไอ้เฟรมถ่ายรูป
(ถ่ายคลิปไม่ได้ประเดี๋ยวเห็นเบื้องหลังการถ่ายทำ) T^T
อำนวยการสร้างเสร็จสรรพ ลมสีขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ใครๆ ว่ากันค่อยลูบหัวชมเชยพระเอกหน้าขน
“ดีมากลูกพ่อ มีรางวัลให้นะครับ” ลมคว้าปลอกคอไอ้จ้อนไว้ไม่ให้เดินเพ่นพ่าน
หมาตัวดีนั่งเขี่ยขอมืออ้อนหงิงๆ อยู่นั่นไม่ไปไหน
“เอิ่ม...” เก้งยังยืนที่สูงเกาะบ่าเฟรมแน่นสภาพอึ้งกิมกี่
"โอ่วววว..." โจโจ้ทึ้งหน้าตัวเองเป็นบ้าไปแล้ว
มีตัวสูงข้างผมเช็ครูปในมือถือตัวเองเอาเป็นเอาตาย
ประกาศิตภาคต่อก็ตามมาอีกห่าใหญ่...
“มึง-เฟรม เงินมา พระเอกของกูต้องการไก่ย่างห้าดาว ส่วนมึง-โจโจ้ ไปตามไอ้เอก ให้มันมาดูทิวป์กับรูปนี่
เอาปากดีของมันคาบข่าวไปบอกอาจารย์ปู่ ถ้ากูต้องเซ็ตแลปใหม่ พวกมึง---” ลมเชิดหน้าแล้วเงียบ บรื๋อ (T-T)
อึ้งแดกกันหมด โจโจ้อ้าปากค้างมองเฟรมควักกระเป๋าสตางค์ยื่นให้ลมเลือกดึงแบงค์ออกเอง
ผมรู้ว่าใช้ถูกคน เรื่องปลิ้นปล้อนสาลิกาลิ้นทองต้องเอกคนเดียวเอาอยู่
“ไปซิวะโจโจ้” ผู้กำกับภาพชื่อเฟรมสั่งโจโจ้จัดการตามบท
เพื่อนได้ตะโกนวิ่งข้ามห้องเรียกเอกฝั่งโน้นทิ้งเรา 3 คนประจันหน้า
--------------
ยังไม่หมดเพราะมีก๊อกสองยิงตรงมาที่ผม
“เก้ง...กูไม่รู้หรอกว่ามึงเจอเรื่องอะไรมา แต่ถ้ามีแต้มต่อมากขนาดนั้น เป็นกูจะไม่ทำหน้าอย่างนี้หรอกว่ะ”
“หน้าอย่างไหน?” อดไม่ได้ กูไม่เข้าใจว๊อย!!!
“หึ!”
ผมจำได้ติดตา ลมแค่ยักไหล่ยกยิ้มมุมปาก ผายมือกว้างพลางถอยหลังช้าๆ ไม่ยี่หระ
ดาตาญังรูปงามจากเดอะทรีมัสเก็ทเทียร์ มีเฟรมชอบใจขณะกอดเอวผมไว้ไม่ปล่อย
เท่านั้น ลมเหนือเมฆและพระเอกสี่ขาหางยาวนามกรว่าจ้อนจรลีจากไป
ไก่ย่างได้กินไหม สาหร่ายพันคออีกรอบหรือไม่โปรดอย่าถาม
ความอัปยศเรื่องสาหร่ายสไปรูไรน่าถูกยกเป็นทรอปิกยาวนานเกือบทุกครั้งที่เราเจอกันหลังเรียนจบ
พบปะศิษย์เก่าทีไรอาจารย์สอนชีวะท่านนั้นหัวเราะฟันปลอมเกือบร่วงเสียทุกรอบ
‘ครูปล่อยผ่านจนให้เกรด 4 พวกเธอได้ยังไงนะ’ โธ่! อาจารย์ปู่ครับ
ผมกล้าเล่นกับสุนัข ไม่กลัวหมากัดจนอาจหาญเลี้ยงเองได้จากประกายเล็กๆ จุดนี้ (หมากระเป๋า)
และอีกข้อคือ ลมกับพวกเรากล้าพูดคุยกัน ขึ้นพ่อขุนมึงกูนับจากวันนั้น
นั่นแค่ผลพลอยได้ในอนาคตต่อๆ มา
แต่ ณ ขณะนั้น ที่ตรองไม่ตกคิดไม่ออกคือวลีเด็ด ‘แต้มต่อ’
แต้มต่ออะไร ทำไมลมถึงคิดว่าคนอย่างผมถึงมีได้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
********************TBC by d'Artagnan
'จ้อน' ขโมยซีน เคยเอ่ยถึงใน
my sassy รักนี้บีบวก (เก็ทxบี) ตอน 27 ผมและลม p.18
บรรทัดที่ 7 ลักกี้นัมเบอร์ หุหุ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33920.510